Fanboi Channel

[Off-season anime] โทษทีว่ะ กูเพิ่งดูจบ

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:WUJLmDkul

อนิเมทีวี หนังโรง หรือOVAใดๆ ที่ฉายแล้ว ออกแล้ว ขายแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในซีซั่นปัจจุบัน
หากขุดมาดูแล้วรู้สึกว่าไม่มีที่ยืนในบอร์ดนี้ กระทู้นี้คือคำตอบ

2 Nameless Fanboi Posted ID:JJjsViuAI

อธิบายตอนจบmawaru penguindrumให้กูที ดูยังไงก็ไม่เข้าใจ

3 Nameless Fanboi Posted ID:f/e2tgw.z

กูเพิ่งดู Symphogear สองซีซั่นรวด ตอนแรกกูไม่ได้ดูเพราะเห็นมันกากๆ ดีไซน์ชุดก็เหมือนพวกสาวน้อยเวทมนตร์ในอนิเม H

พอกูดูรวดเดียวแล้ว เหี้ย พลาดสัดๆ คืออนิเมชั่นแม่งโคตรเงิบ แต่สนุกว่ะ เหมือนอยากบ้าเหี้ยอะไรก็บ้าไป จนจบภาคแรกแม่ง หักมุมรอดดื้อๆ งี้จริงดิ

ภาคสองเหมือยตัวละครเยอะๆ เรื่องมันนัวๆ ไปหลายทิศทางหน่อย แต่ตัวร้ายสึงิตะน่าจดจำมาก ทั้งเงิบทั้งเหี้ยสลับกันไป

สุดท้ายนี้ กูว่า ผบ. ลุยเองก็ได้นี่หว่า คนธรรมดาบ้าอะไรต่อยอุกกาบาตได้

4 Nameless Fanboi Posted ID:IfhEJiPdA

เพิ่งโหลดบลูเรย์ Heidi มาดู
ภาพนี้ เห็นรอยข่วนบนแผ่นเซล เห็นเงาตรงขอบบริเวณที่ลงสีตัวละครในฉากที่ซ้อนแผ่นเซลกันหลายชั้น

ได้อารมณ์ทำมือ ฟินมาก

5 Nameless Fanboi Posted ID:eZPOje+T+

ขอถามคำถามคล้ายๆเดิม คือกูยังงงๆอยู่
พวก Movie นี่กูควรคุยที่มู้นี้มั้ย หรือให้อิงตามเวลาฉาย/ออกแผ่นว่ามันลง SS ไหน
คือกูว่าถ้าลงตาม SS มันจะงงๆอ่ะ เพราะปกติเวลาพูดถึง SS มันใช้กับที่ฉาย TV เป็นหลัก

6 Nameless Fanboi Posted ID:ufeIF0ZI+

Movie ทู้นี้ไปเลยก็ได้มั้ง ถ้ามึงสามารถบินไปดูได้คนนึงแล้ว ก็คงมีคนอื่นบินไปดูได้เหมือนมึง
พวกมึงมึงจะได้คุยกันไง ยังไงเว็บนี้มันก็ spoiler free อยู่แล้ว

7 Nameless Fanboi Posted ID:SM904IVzf

>>3 ซิมโฟเกียร์มันมีมู้แยกนะ
https://fanboi.ch/animanga/143/

8 Nameless Fanboi Posted ID:f/e2tgw.z

>>7 กูไม่อยากขุดน่ะ ไหนๆ มีกระทู้นี้แล้วก็เลยโพส

9 Nameless Fanboi Posted ID:XM5VnrhHQ

อยากได้โว้ย แต่ไม่มีตังค์
http://www.pa-works.jp/shopping/kaihatu.html
http://i.imgur.com/XZ9xrOF.jpg
http://i.imgur.com/BDhsKIb.jpg
http://i.imgur.com/lXYNY30.jpg
http://i.imgur.com/cB9R68U.jpg

10 Nameless Fanboi Posted ID:EI6HWGyAi

เพิ่งมาไล่ตามดู Tempest ไปได้ครึ่งเรื่อง
กูว่าสนุกดีนะ รู้สึกว่าการเล่าเรื่องมันดูมีชั้นเชิงน่าสนใจ
แอบแปลกใจที่ไม่ดังในไทยเท่าไหร่ทั้งที่น่าจะขายฟุได้

11 Nameless Fanboi Posted ID:VE+yxpSS5

งานเก่าคนเขียนมันคือแวมไพร์อีเดี้ยนกับสไปรัลเชียวนะ
ว่าไป เนชั่นเอาไปดองถึงเล่มไหนแล้ววะ มังกะเทมเพส

12 Nameless Fanboi Posted ID:fBOwT9ATc

เล่ม 3

13 Nameless Fanboi Posted ID:EtJUdtD.Q

>>10 คนดูเยอะนะ ไม่มีใครด่าด้วยว่าห่วย จน. หน้าในกระทู้โหลดของตุรเกย์ก็เกินร้อย เเค่ไม่มีใครพูดถึงเพราะมันไม่มีอะไรให้คุย

14 Nameless Fanboi Posted ID:1/Fy/W1Us

>>11 แวมไพร์นั่นชอบมาก อ่านอันนี้เป็นเรื่องแรกคนเขียนคนนี้ กูไม่ทันตั้งตัวโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง

15 Nameless Fanboi Posted ID:NPxuK/ase

>>14 เหมือนกันเลย ทึ่งจนไปตามซื้อเรื่องที่คนนี้แต่งมาอ่านให้หมด ฮ่าๆ

16 Nameless Fanboi Posted ID:cnV403i0J

>>10-15 Zetsuen no Tempest ตอนฉายมีกระทู้คุยแยกอยู่นะ เฮฮามากอีตอนสืบหาตัวจริงของแฟนของพระเอก

17 Nameless Fanboi Posted ID:EI6HWGyAi

>>16 โทษที พอดีกูหาคำว่า tempest แล้วไม่เจอเลยนึกว่าไม่มี
ไม่ทันคิดว่าตอนช่วงแรกๆชื่อกระทู้แยกเรื่องมันมีบางเรื่องไม่ได้ใส่ชื่อเรื่องตรงๆ

18 Nameless Fanboi Posted ID:OrwFjh7t+

>>17 Samon World
https://fanboi.ch/animanga/17/

19 Nameless Fanboi Posted ID:faN/u8KCc

เพิ่งรู้ว่านักเขียนคนเดียวกับสไปรัล เรื่องโปรดเลยนะนั่น

20 Nameless Fanboi Posted ID:zSQxIemva

ดู Baccano! อยู่
สนุกดีหวะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:WSb/2rAGe

ดู Blood-C จบ
งงดีหวะ

22 Nameless Fanboi Posted ID:hhsiIUYnY

20<< จงต่อด้วย DRRR! เลยถ้ายังไม่ได้ดู

23 Nameless Fanboi Posted ID:xAAhJI1Op

>>22 แล้วต่อด้วย K-on!

24 Nameless Fanboi Posted ID:LJhKE+Chd

DRRR นี่จืดมากเมื่อเทียบ Baccano

แต่ซีซั่นสองคงไม่ได้ดูทั้งคู่

25 Nameless Fanboi Posted ID:BWXyrO/AH

ดูร่าร่าร่ากูว่าผกก.พลาดแล้วหว่ะ ไม่น่าทำแบบตามไทม์ไลน์แบบนั้นเลย ตัดไปตัดมาแบบในนิยายเหมาะกว่าเยอะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:rDN3eCyCo

กูเพิ่งดู Aura จบว่ะ (ไม่ได้อ่าน LN มาก่อน)
ความรู้สึกต่อตัวเมะโดยรวมกูว่าเหมือนมันยังไม่สุดยังไงไม่รู้ อารมณ์เรื่องมันดูกระโดดๆบอกไม่ถูก โดยเฉพาะตอนจบมันดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยอินเท่าไหร่
แล้วก็ยังงงๆกับเรื่องว่าทำไมอยู่ดีๆถึงกลายเป็นจูนิกันซะครึ่งห้อง? ไอ้นักเลงที่โดนพักการเรียนไปถึงจะไม่สำคัญมากแต่จะไม่พูดถึงซักหน่อยหรอว่ามันยังไงต่อ?
ส่วนที่สร้างวิหารกันบนดาดฟ้าตอนท้ายจะนึกซะว่ามันดูอลังการเว่อร์ขนาดนั้นเพื่อเสริมอารมณ์เรื่องเฉยๆ
โดยรวมไม่เจ๋งเท่าที่คาดหวัง แต่ก็ไม่ได้แย่มาก

ส่วนเรื่องแรกที่แวบเข้ามาในหัวหลังดูจบคือประเด็นเกี่ยวกับเรื่องจูนิเบียว
ตอนแรกกูนึกว่าพล๊อตจะเหมือนกันแค่ช่วงเริ่ม ไปๆมาๆแม่งคล้ายยาวไปถึงตอนจบ (โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับคู่หลักของเรื่อง)
คือเรื่องจงใจลอกมั้ยนี่กูไม่รู้ แต่พอเอามาเปรียบเทียบกันในฐานะเมะที่พล๊อตคล้ายกันแล้วเรื่องจูนิเบียวที่จากเดิมกูว่าโคตรแย่แล้วแม่งยิ่งดูแย่กว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
ทั้งเนื้อเรื่องที่ดูกลวงๆ ดราม่าฟูมฟายๆ หรือมุกฝืดๆ แล้วก็ตอนจบที่ออกแนวพวกกูจะเพ้อเจ้อเล่นกันสองคนที่ทำให้แทบทุกอย่างที่ทำมาในเรื่องกลายเป็นไร้ค่าไปแบบงงๆ
จะมีดีกว่าก็คงมีตัวละครหญิงแนวขายคุให้บุฮี้เยอะกว่าล่ะมั้ง (เรียกว่าข้อดีได้ป่าวหว่า...)

27 Nameless Fanboi Posted ID:405iaDwFJ

ข้อเสียสำคัญของ Aura คือ กำกับโดย Seiji Kishi

28 Nameless Fanboi Posted ID:32bWX6QN8

>>26 LN Aura 2008
LN Chuunibyou 2011

29 Nameless Fanboi Posted ID:nHgEQ8khY

>>26 ดูแล้วเหมือนกัน ก็อย่างที่มึงบอก พล็อตแม่งเหมือนๆกัน จะจงใจหรือบังเอิญก็ช่างเหอะ
แต่ถ้ามึงว่าจูนิเบียวไม่มีอะไรให้ดูมีแต่ตัวละครบุฮี้ แล้ว AURA มันต่างอะไรกันวะเพราะดูออร่ากูก็เห็นแต่ง่ามตูดอีนางเอก
http://imgur.com/81SMi9n
คือถ้ามึงจะเกลียดจูนิเบียวเพราะเป็นของ KyoAni แอนตี้แล้วรู้สึกดีเพราะว่า KyoAni ทำแต่อนิเมขายตัวละครเล็งแต่พวกโอตาคุ
ได้ด่า KyoAni แล้วสนองความสุขให้ e-penis ของมึงได้ มึงก็บอกมาตรงๆว่า "กูให้จูนิเบียวห่วยกว่าเพราะเป็นของ KyoAni"
เพราะถ้าพูดกันถึงตอนจบแล้ว AURA แม่งห้วนจนรู้สึกค้างคา มึงก็พูดออกมาเอง จูนิเบียวยังดูจบลงตัวกว่า
เพราะแม่งไม่มีปมอะไรอีกแล้วนอกจาก อีริกกะจะบอกลาพ่อในจินตนาการ มุขฮามุขล้อก็เยอะกว่า เพราะแม่งอนิเม 1 ซีซั่น

30 Nameless Fanboi Posted ID:JAlmAUy6f

ทำไมบุฮี๊วะ กุไม่เข้าใจ

31 Nameless Fanboi Posted ID:405iaDwFJ

เดี๋ยวนี้กำลังมีเทรนด์ใหม่ใน 4chan
จะมีพวกออกมาด่าเกียวอนิว่าทำแต่อนิเมะเซอร์วิสเอาใจโอตาคุ
แล้วก็จะมีพวกออกมาด่าเกียวอนิว่าเป็น feminist ที่เกลียดโอตาคุเพราะไม่ยอมทำฉากเซอร์วิส
ที่กล่าวมานี้อยู่ในกระทู้เดียวกัน

32 Nameless Fanboi Posted ID:nHgEQ8khY

ขอต่ออีกหน่อย ไม่ได้อ่าน LN ของ AURA เหมือนกัน แต่อ่านของจูนิเบียวไปเล่มนึงแล้วจากสองเล่ม
ต้องบอกว่าเนื้อหาอนิเมจูนิเบียวถูกดัดแปลงให้เหมือน AURA เพราะ LN จูนิเบียวไม่มีปมดราม่าอะไรเลย
พล็อตมีอยู่แค่ ไอ้ยูตะรู้จักอีริกกะ รู้ว่าเป็นจูนิเบียว เพื่อนในห้องชอบบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่มีปัญหาหนักหัวใคร
ออกแนวชีวิตประจำวันเรื่อยเปื่อยแบบนิจิโจเลย ซึ่ง KyoAni มันก็ได้บทเรียนจากนิจิโจมาแล้ว ว่าขืนทำตาม LN ไปตรงๆ เจ๊งแน่
เลยต้องดัดแปลงเรื่องให้มีปมดราม่านิดหน่อย ใช้ลายเส้นให้มันน่าบุฮี้อีกหน่อย แค่นี้ก็ขายได้แล้ว แล้วยังเสือกขายได้จริง
ส่วน AURA อารมณ์เรื่องก็ไม่ได้กระโดดอะไรมาก แค่ช่วงอีนางเอกเพ้อมันออกแนวเพ้อเงียบๆ เน้นเอฟเฟคท์แสงเสียง (ทำเอง)
เลยดูน่าเบื่อ พอสลับเข้าช่วงดราม่าอารมณ์มันเลยขัดๆ ส่วนที่อยู่ๆมาโพล่งว่าในห้องแม่งมีจูนิเบียวแอบแฝงอยู่หลายตัว
ถ้าจะให้ช่วยแถ มันก็อยู่กันมาแต่แรกแหละ แต่หงอก๊วนไอ้นักเลงเลยไม่กล้าทำอะไร พอมีคนกล้าสู้ไอ้นักเลงมันเลยเผยตัวกัน
ถ้าจะสรุปว่า AURA กับ จูนิเบียวมันต่างกันตรงไหน
AURA เกิดในเมืองใหญ่ วัยรุ่นมีแต่เกรียนซะเยอะ พวกจูนิเบียวเลยโดนเขม่นเป็นเป้าหมายของการรังแก
จูนิเบียว เกิดในเมืองเล็กไม่ใหญ่โตแต่ก็ไม่ถึงกับบ้านนอก วัยรุ่นมีพวกเกรียนน้อย คงมีคนเขม่นอีพวกริกกะเหมือนกัน
แต่ไม่มีแนวร่วมเลยได้แต่อยู่เฉย นอกจากนั้นแล้ว สองเรื่องแม่งแทบจะลอกกันมาทั้งพล็อตและตัวละคร

33 Nameless Fanboi Posted ID:JAlmAUy6f

แล้วทำไมต้องบุฮี๊วะ กุไม่เข้าใจ

34 Nameless Fanboi Posted ID:eAjLPq1Ll

ออร่ามันนำเสนอเรื่องจูนิเบียวแบบเทาๆหน่อย ไม่ได้บุฮี้แบบเกียวอนิ
แต่เรืองปมอะไร ก็ยังอ่อนๆอยุ่ ส่วนตัวคิดว่าเพราะอนิเมสื่อไม่ค่อยดี
นิยายอาจจะดีกว่า ละเอียดอีดกว่า

35 Nameless Fanboi Posted ID:nHgEQ8khY

>>33 บุฮี้ เป็นเสียงร้องหมู (อู๊ด) ในภาษาญี่ปุ่น
แล้วช่วงนึงใน 2chan เวลาตั้งกระทู้พากย์สดอนิเมเซอร์วิสจะพูดว่า
"ถึงเวลาให้อาหารหมูแล้ว ไอ้พวกหมู (โอตาคุ) มารวมตัวกันได้"
คอมเม้นท์ตอบก็จะ "บุฮี้~~~" หรือพอมีฉากเซอร์วิส ฉากโมเอะ มันก็จะคอมเม้นท์ "บุฮี้~~~" กัน
ลามมาจนกลายเป็นคำกริยา ブヒる "เฮ้ย อีหางม้าเรื่องใหม่ดูน่าบุฮี้ดีว่ะ", "แต่อีแว่นเรื่องนั้นกูบุฮี้ไม่ลงว่ะ"
สรุปว่า เป็นมุขและการประชดแบบคิโม่ยโอตะนั่นเอง กูต้องอธิบาย "คิโม่ยโอตะ" ด้วยมั้ย?

36 Nameless Fanboi Posted ID:JAlmAUy6f

>>35 555 ขอบใจว่ะสหายโม่ง คิโม่ยโอตะไม่ต้องกุรู้แล้ว

37 Nameless Fanboi Posted ID:IPBvSVARU

>>35 พึ่งรู้ที่มาว่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้

38 Nameless Fanboi Posted ID:URIi1gVoU

ก็คิดซะว่าเวลาดูฉากเซอร์วิส พวกมึงสมมุติตัวเองเป็นหมูในเล้า
เดินมารวมกันที่รางอาหารทำเสียงอู๊ดอี๊ดหายใจจมูกบี้ๆฟืดฟาดๆ
แล้วกินแฟนเซอร์วิสเหล่านั้นด้วยอาการหื่นกระหาย ตะกละตะกลาม อดอยากตายอยากละกัน

39 Nameless Fanboi Posted ID:ktdhkugs5

>>38 นั่นมันชาวตุรกีนี่หว่า

40 Nameless Fanboi Posted ID:eAjLPq1Ll

เดโคโมริบุฮรี้ย์

41 Nameless Fanboi Posted ID:tyNpzoNl/

>>39 มึงไปห้องสนทนามังกะเลย เยอะฉิบหาย

42 Nameless Fanboi Posted ID:UFz8jvcK2

>>29 กูว่าเหมือนมึงจะเข้าใจประเด็นที่กูจะสื่อผิดนะ
กูไม่ได้จะบอกว่าเมะ Aura มันดีเลิศเลอหรืออะไร และกูไม่ได้บอกว่า Aura ไม่ได้จงใจขายตัวละคร
ที่กูพูดเรื่องจูนิเบียวมีตัวละครให้บุฮี้เยอะนั่นกูก็ไม่ได้ประชดนะ กูแค่มองว่ามันอาจจะดีกับคนที่ดูเพราะตัวละครเป็นหลักอย่างน้อยถ้ามันไม่ชอบตัวหลักก็ยังมีตัวละครอื่นมาเบรคบ้าง
ที่สำคัญกูไม่ได้จะบอกว่า Aura จบห้วนว่ะ อย่างน้อยเรื่องของคู่หลักมันก็เคลียแล้ว กูแค่ถามลอยๆไว้ว่าจุดนั้นของเรื่องจะไม่พูดถึงหน่อยหรอ
มันเป็นเรื่องเล็กมากที่แทบจะเรียกว่าประเด็นของเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ
แล้วกูก็ไม่ได้จะด่าเมะจูนิเบียวเพราะจะด่าเกียวด้วย การด่าเกียวมันไม่ใช่เรื่องยากซะจนกูต้องเลี่ยงมาด่าตัวเมะ หรือทำกูฟินห่าอะไรมากมายขนาดนั้น
คือกูก็ไม่เข้าใจนะว่าอะไรทำให้มึงคิดว่ากูอยากจะด่าเกียวในเมื่อกูก็เขียนไว้แล้วว่ากูไม่ชอบเมะจูนิเบียวตรงไหน
กูแค่อยากจะบ่นว่าจูนิเบียวที่จากเดิมก็เป็นเมะที่ดูแย่อยู่แล้วในสายตากู พอเอามาเทียบแล้วมันยิ่งแย่หนักกว่าเดิม แค่นี้แหละ

43 Nameless Fanboi Posted ID:essi2Hx.T

>>42 ก็มึงเล่นเปรียบเทียบเมะสองเรื่องที่พล็อตโคตรจะคล้ายกัน เหมือนไปยันตัวละคร
บอกอันนึงบอกไม่ได้อย่างที่หวังแต่ก็ไม่แย่ แต่อีกอันบอกจากที่ไม่ชอบกลายเป็นโคตรเกลียด
ถ้าไม่ใช่เกลียดโปรดักชั่น แล้วจะเป็นอะไรได้วะ ไม่ชอบลายเส้นโมเอะ AURA มันก็ลายเส้นกึ่งโมเอะ
ไม่ชอบบทสรุปที่ทิ้งการกระทำที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นเรื่องจนหมด แล้ว AURA ต้นเรื่องกับท้ายเรื่องมันมีอะไรเปลี่ยนไป
นอกจากพระเอกนางเอกกลายเป็นตัวแทนของจูนิเบียวทั้งโรงเรียน คนในโรงเรียนเริ่มเผยว่า ไม่ได้รังเกียจจูนิเบียว
พวกก๊วนนักเลงก็เงิบกันไปว่านี่มันห่าอะไร อ้อ ใช่ มีไอ้นักเลงถูกพักการเรียนไปคนนึง แล้วบทก็หายไปเลย
พูดถึงปมหลักของเรื่อง AURA อีนางเอกมันจะจัดพิธีกรรมฆ่าตัวตาย พระเอกโชว์จูนิเบียวกว่ามาห้ามไม่ให้ตาย
จูนิเบียว อีริกกะมันคาใจเรื่องพ่อ พระเอกมาโชว์จูนิเบียวกว่าให้มันเห็นภาพหลอนของพ่อเพื่อบอกลา
มันต่างอะไรกันมากขนาดนั้นเลยเหรอวะ?
เอ้อ มึงบอกไม่ได้พูดว่า AURA จบห้วน แต่มันจบห้วนว่ะ อดีตของพระเอกเคยเกิดปัญหาอะไร ก็บอกแบบกระท่อนกระแท่น
เหมือนไม่อยากพูดถึง ดูจนจบยังรู้แค่ เคยเกิดเรื่องถึงตำรวจ เคยบาดเจ็บหรือทำใครเจ็บเพราะอะไรยังไงสุดท้ายก็ไม่บอก
เคยส่งจดหมายไปหาสถานที่ไม่มีอยู่จริง......แล้วไงวะ ปะติดปะต่อเหี้ยอะไรไม่ได้เลย รูปถ่ายที่อีพวกบิทช์เพื่อนนักเลง
เอามาข่มขู่พระเอก กูก็นึกว่าจะเฉลยปมในอดีตของพระเอกได้ แม่งก็ไม่ได้บอกอะไรเลย แค่รูปพระเอกตอนแต่งตัวจูนิเบียว
อีบิทช์หัวเหลืองในกลุ่มนักเลงอีก ทำหน้าเหมือนจะมีอดีตกับจูนิเบียว แต่จนจบก็ไม่ได้แพล่มอะไรแม้แต่ช็อตย้อนความซักภาพเดียว
สรุปคือกูมองแล้ว AURA แทบไม่ต่างอะไรกับ จูนิเบียว ในแง่ของพล็อตกับการดำเนินเรื่อง ส่วนที่ต่างกูก็พูดไปแล้วใน >>32
แต่มึงบอกเปรียบเทียบแล้ว AURA เฉยๆ จูนิเบียวโคตรแย่ จุดที่มึงบอกว่าแย่ กูมองแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันขนาดนั้น
ถ้าไม่ให้เข้าใจว่ามึงมีอคติกับทีมงานที่เป็นคนทำ ให้กูคิดยังไงวะ?

44 Nameless Fanboi Posted ID:CUYH/HkK5

เกียวอนิก่าก

45 Nameless Fanboi Posted ID:svWNlXaAU

>>22 DRRR กูดูแล้ว แล้วตามมาดู Baccano! ทีหลัง กูให้ Baccano!

46 Nameless Fanboi Posted ID:essi2Hx.T

อ้อ ตรงปมหลักของเรื่องต้องเพิ่มจุดเหมือน "พระเอกที่เคยมีอดีตจูนิเบียว ต้องกลับมาทำตัวจูนิเบียวอีกครั้ง"
กับจุดต่าง นางเอกจูนิเบียวต้นยันจบแต่เหมือนจะดีขึ้น (เลิกฆ่าตัวตาย) กับนางเอกเกือบจะหายแล้วกลับมาจูนิเบียวอีก

47 Nameless Fanboi Posted ID:nIl1sCXxE

ต่อ ต่อ
กำลังสนุก
http://i.imgur.com/MrW5mUX.gif

48 Nameless Fanboi Posted ID:90flCQOOO

ออร่าก่าก

49 Nameless Fanboi Posted ID:THTG4k8e1

ทำไมชอบมีคนเข้าใจว่าออร่าไปลอกพล็อตจูนิเบียว ?

50 Nameless Fanboi Posted ID:aAVFCJi81

>>49 เพราะจูนิเบียวมันดังกว่า(สำหรับพวกนั้น)?
แต่กูก็ไม่ได้ดูทั้งสองเรื่อง

51 Nameless Fanboi Posted ID:essi2Hx.T

>>49 กูยังไม่ได้พูดซักคำว่าใครลอกใคร กูแค่บอกว่าหลายอย่างมันเหมือนกัน
หลักฐานมันก็ชัดอยู่แล้ว LN AURA มาก่อน
แล้วบทอนิเมจูนิเบียวก็เปลี่ยนไปจากบทนิยายจนไปเหมือน AURA

52 Nameless Fanboi Posted ID:FM1+ULrsT

กากall
ไมพวกนายคุจังเถียงกันแทบเป็นแทบตายเรื่องเมะเนี่ยนะ

53 Nameless Fanboi Posted ID:ibWaiwXad

>>52 มึงจะให้เถียงกันเรื่องอะไรในเมื่อมันเป็นกระทู้เกี่ยวกับเมะ
หรือจะให้เถียงกันเรื่องที่แม่มึงโดนเหล่าโม่งทั้งแสนกว่านายgangbangหรือไง

54 Nameless Fanboi Posted ID:iJWfQy0Rt

>>52 ก็ถ้าไม่บ้าจริงเขาคงไม่เรียกโอตาคุหรอก

55 Nameless Fanboi Posted ID:O6Oc/fBKu

ไอ้สัด พอเลย

เดี๋ยวแม่งได้เปลี่ยนประเด็นกลายเป็นเถียงว่าโอตะไม่โอตะกันอีก กูโคตรเกลียด

56 Nameless Fanboi Posted ID:iJWfQy0Rt

กลับเข้าประเด็น
ใครดูJinrui แล้วบ้างวะ ช่วยอธิบายตอนงานเลี้ยงน้ำชาให้กูเข้าใจหน่อยแม่งกูโคตรงง

57 Nameless Fanboi Posted ID:Cc7UwYPSD

'เค ว่ามา มึงงงตรงใหน

58 Nameless Fanboi Posted ID:UFz8jvcK2

>>56 ลองไล่ประเด็หน่อยได้ป่าวว่างงตรงไหนบ้าง จะได้ลองตอบเป็นข้อๆ
>>43 ขอเวลากูพิมพ์ตอบแปปนะ ยังไม่ได้ไปไหน

59 Nameless Fanboi Posted ID:UFz8jvcK2

>>43 >>46 ประเด็นหลักที่กูไม่ชอบเมะจูนิเบียวคือเรื่องเนื้อเรื่องเป็นหลัก
ทีนี้คือถ้ามองแบบมุมคนนอกแล้วอาจจะดูเหมือนว่ามันมีคล้ายกัน แต่กูกลับรู้สึกว่าสิ่งที่ทำให้ตัวละครแสดงพฤติกรรมต่างๆมันเป็นคนละอย่างกันว่ะ
ทีนี้ลองมาแยกเป็นข้อๆตามความเข้าใจกู ซึ่งอาจจะมีตกๆหล่นๆไปบ้าง
-ความเป็นจูนิของพระเอกใน Aura มันโดนบีบให้หายไปเพราะแรงกดดันจากครอบครัวและสังคม สุดท้ายเลยทำให้ต้องพยายามทำตัวปกติ แต่ลึกๆแล้วตัวมันก็ตัดขาดเรื่องพวกนี้ไม่ได้ ดูง่ายๆก็ตอนแรกที่มันเจอนางเอกนี่มันคล้อยตามอีนางเอกหน้าตาเฉยโดยไม่ได้สงสัยซักนิด ส่วนอีกเรื่องความเป็นจูนิของพระเอกเป็นแค่ความทรงจำน่าอายที่ทำไปเพราะยังเด็ก
-ตอนริกกะบอกลาพ่อนี่กูจำอะไรแทบไม่ได้เลยจริงๆ ขอข้ามไปก่อน
-Aura ตอนสุดท้ายที่พระเอกต้องกลับมาทำตัวเป็นจูนิอีกเพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะดึงให้นางเอกยอมฟังที่มันพูดได้ แต่ในจูนิเบียวมันเหมือนแค่เล่นสนุกกันสนองนี้ดกูว่ามันดูทะแม่งๆว่ะ ทั้งที่อุตส่าห์เกือบลากริกกะกลับมาปกติได้แล้วแท้ๆ
-สุดท้ายแล้วเรื่อง Aura มันคือคนเป็นจูนิก็ยังคงจูนิอยู่นั่นแหละ สุดท้ายต้องฝืนทำตัวเป็นปกติเพื่อจะให้อยู่ในสังคมต่อไปได้ กูว่าอารมณ์ตัวละครที่มาแบบนี้เทียบกับในจูนิเบียวแล้วมันคือคนละอย่างกันเลยนะ

ประเด็นอื่นที่มึงว่ามา
-เรื่องอดีตพระเอกมันเฉลยแบบกั๊กๆนี่กูก็ไม่ค่อยชอบ แต่ถือว่าพอรับได้ เพราะประเด็นหลักของเรื่องมันอยู่ที่ตัวนางเอก ปมพระเอกพูดถึงให้พอเป็นไอเดียว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้างก็พอแล้ว
-เรื่องส่งจดหมายไปหาสถานที่ไม่มีอยู่จริงมันทำให้จดหมายตีกลับมาที่บ้าน ครอบครัวมันเลยรู้เรื่องที่มันเป็นจูนิ
-นักเลงที่ถูกพักการเรียนไปกูเองก็สงสัย แต่กูว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรกับเรื่องขนาดนั้น จะไม่พูดถึงก็โอเค
-เรื่องบิทช์หัวเหลืองนี่กูไม่ทันสังเกตุจริงๆ ขอข้าม

60 Nameless Fanboi Posted ID:pxaOr3rW5

ไม่ใช่56 แต่ดูจินรุยแล้วงงตอนที่ตามหาคุณผู้ช่วยแล้วสะดุดกล้วยอ่ะ
คือมันเกิดอะไรขึ้นหลายๆรอบ ที่เดินไปแล้วเจอตัวเองหลายๆคนคืออะไร
แล้วเด็กผู้ชายเสื้อแดงนั่นคือใคร ปู่ในอดีต? แสดงว่านางเอกย้อนเวลาอยู่หรอ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณผู้ช่วยหล่ะ หมานั่นก็เกิดมาได้ไงตั้งเยอะ ว่าแต่ไทม์พาราดอกซ์คืออะไร
ดูนานแล้วก็ยังงงๆอยู่ งงตอนนี้ที่สุด

61 Nameless Fanboi Posted ID:UFz8jvcK2

>>60 ขอมาตอบอันนี้แปป
ของ >>56 กำลังพิมพ์
-เรื่องมีหลายคนน่าจะประมาณว่าเป็นวิทยาการอะไรซักอย่างของพวกภูติที่ใช้เรื่องการย้อนเวลา ทำให้คนๆนึงสามารถอยู่ได้หลายที่พร้อมกันได้ เพื่อจะได้ปั๊มตัวนางเอกมาทำขนมได้เยอะๆ (อันนี้ไม่ชัวร์)
-เด็กผู้ชายใส่เสื้อแดงคือปู่ในอดีตถูกแล้ว
-หมามันเป็นมุกล้อเลียนไทม์พาราดอกซ์ (Time Paradox) เล่นคำ dox ==> dog
-ไทม์พาราดอกซ์ประมาณว่าเป็นความขัดแย้งของเหตุและผลที่จะเกิดขึ้นถ้าสามารถย้อนเวลาได้แล้วไปทำอะไรบางอย่างให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป (เช่นย้อนเวลาไปฆ่าตัวเองตอนเด็ก)
-เหมือนว่าคุณผู้ช่วยไม่ได้มีบุคลิกลักษณะตายตัวแต่แรก (หรือไม่ก็ไม่ได้มีตัวตนแต่แรก) แต่สุดท้ายจะมีขึ้นมาได้ตามที่นางเอกจินตนาการ ซึ่งมีปู่ตัวเองตอนเด็กเป็นต้นแบบส่วนนึง (อันนี้ก็ไม่ค่อยชัวร์)

62 Nameless Fanboi Posted ID:UFz8jvcK2

>>56 กูจำรายละเอียดไม่ได้มาก ผิดถูกยังไงฝากโม่งแถวนี้ช่วยแก้ด้วยละกัน พอดีไม่มีไฟล์อยู่กับตัวด้วย
Jintai ตอนงานเลี้ยงน้ำชา เริ่มที่เปิดเรื่องมาคือนางเอกต้องไปเข้าโรงเรียน
ทีนี้ก็มีปัญหาหลายๆอย่างเลยเข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้ พอไปเจอคุณภูติก็เลยพูดว่าอยากจะมีเพื่อน
ก็เลยโดนล้างความทรงจำเรื่องที่ได้เจอกับภูติไป ไม่งั้นนางเอกก็จะเอาอยู่กับภูติโดยไม่ใส่ใจคนรอบข้าง
สุดท้ายได้ร่วมกลุ่มที่ชงชากินขนม แล้วก็ได้มาคุยกับ Y เลยได้รู้ด้านมืดของแต่ละคนเลยเริ่มตีตัวออกห่าง
แต่สุดท้ายคงเหมือนยอมรับข้อเสียของกันและกันได้(?) ก็เลยกลับมารวมกันได้
แล้วก็ช่วยกันตามหาแกะรอยพวกภูติ สุดท้ายนางเอกจำเรื่องที่ว่าได้เจอกับภูติได้ช่วงนี้รึเปล่าไม่แน่ใจ
สุดท้ายก็เรียนจบแยกย้ายจากกันโดยไม่ได้เจอภูติอีก

สุดท้ายตัดกลับมาที่ปัจจุบัน Y กลับมาเยี่ยมพร้อมกับเอาหุ่นในหอพักมาด้วย
ก็เลยได้เจอภูติตัวนั้นที่ซ่อนอยู่ในหุ่นไม่ให้นางเอกเจอตัว ทำให้รู้ว่าภูติตัวนั้นคอยดูนางเอกอยู่ห่างๆมาตลอด
แล้วคุณภูติก็เหมือนถามว่าแล้วในที่สุดได้เพื่อนแล้วรึยัง? (ฉากที่แม่งทำกูร้องไห้ ;_;)
ส่วนฉากที่เป็นเหมือนฝันนั่นก็น่าจะความในใจของนางเอกที่อยากบอกกับคุณภูติแต่ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ

63 Nameless Fanboi Posted ID:essi2Hx.T

>>59 จำตอนริกกะบอกลาพ่อไม่ได้ ก็ไม่ว่าอะไร แต่ประเด็นหลักของ จูนิเบียว ตั้งแต่ตอน 7-12 มันอยู่แค่ตรงนั้นเลยว่ะ
อีริกกะมันเกิดเพ้อ เพราะพ่อตายโดยที่มันไม่รู้อะไรเลย ตื่นมาพี่บอกพ่อตายแล้ว ก่อนหน้านั้นมันไม่รู้ด้วยว่าพ่อป่วย
จนงานศพพ่อมันจบไปแล้วก็ยังมึนๆเบลอๆ ไม่ร้องไห้ซักคำเพราะยังตั้งตัวไม่ได้ แม่ยังมาทิ้ง พี่สาวย้ายหนีไปทำงานอีก
พอมาเจอไอ้ยูตะกำลังเพ้อตอนมาหาพี่สาว มันเลยประทับใจขึ้นมาทำตัวเลียนแบบ เพื่อจะได้ไม่ต้องไปรับรู้เรื่องครอบครัว
หลังผ่านมาเป็นปีมันก็ปรับตัวได้แหละ แต่ที่ริกกะมันยังยอมรับไม่ได้คือ พ่อมันตายโดยที่มันไม่ได้พูดอะไรเลย
ถึงได้เฝ้าตามหาไอ้แสงเรือหาปลา 不可視境界線 อะไรนั่น และเพราะมองไอ้ยูตะเป็นแบบอย่าง สำหรับมันยูตะเลยเป็น 最強
แล้วมาโดนยูตะสั่งให้เลิกเพ้อ มันเลยกลับไปเคว้งเหมือนตอนพ่อตายใหม่ๆ ไอ้ยูตะมันก็เข้าใจว่าปมปัญหาในบ้านอีริกกะ
มันทำอะไรไม่ได้ ปล่อยให้ทำใจไปคนเดียวดีที่สุด แต่พอรู้ว่าริกกะมีตัวมันเป็นแบบอย่าง เลยเข้าใจว่า
มีแต่ตัวมันที่แก้ปมนี้ให้ริกกะได้ เลยไปพาริกกะมาดูแสงเรือหาปลา โชว์จูนิเบียวให้ริกกะเห็นภาพหลอนของพ่อ เพื่อบอกลา
คือถ้าไอ้ยูตะไม่ทำ ปล่อยเอาไว้อีริกกะก็จะกลายเป็นคนปกติ แต่มีปมเรื่องไม่ได้บอกลาพ่ออยู่ในใจตลอดไป
แล้วก็อาจจะเหม่อลอยอยู่แบบนั้น แต่ถ้าทำอีริกกะจะตัดใจเรื่องพ่อได้ซักที แต่ก็เท่ากับลากอีริกกะกลับมาเป็นจูนิเบียวด้วย
แล้วไอ้ยูตะก็เลือกทำเพื่อช่วยริกกะ ประเด็นมันมีแค่นั้น ซึ่งมันก็ไปเหมือน AURA อีก คือถึงจะเพ้อเจ้อ แต่ถ้าเพ้อให้ถูกที่
มันก็ทำเพื่อคนอื่นได้ เหมือนไอ้พระเอก AURA ไปห้ามอีนางเอกไม่ให้ฆ่าตัวตาย
พูดถึงสาเหตุความเพ้อของอีริกกะแล้วก็นึกได้ อีนางเอก AURA มันยังไม่เฉลยด้วยซ้ำว่ามันจะฆ่าตัวตายเพราะอะไร
แพลมๆออกมาแค่ อยู่ตัวคนเดียว ที่บ้านรังเกียจส่งแต่เงินมาให้ใช้ แต่ไม่บอกว่าก่อนโดนเฉดหัวออกจากบ้านทำอะไรไว้
ซึ่งก็ช่วยไม่ได้ อนิเมหนังโรงมีเวลาแค่ 90 นาที ใส่ประเด็นได้แค่นั้นแหละ ใครขัดใจอยากรู้จริงคงต้องไปตามอ่าน LN กันเอาเอง
แต่กลับกัน จูนิเบียวหนังโรงจะใส่ประเด็นได้ครบ เพราะแม่งมีอยู่เท่าที่กูพล่ามในรีพลายนี้แค่นั้นจริงๆ 555555

64 Nameless Fanboi Posted ID:+MLmTAEQY

จูนิเบียวปมมันกลวงๆ ตามสไตล์เกียวอนิ
เหมือนเวลาดู Clannad แล้วพร่ำเพ้อซาบซึ้งกินใจน้ำตาไหลพรากๆ

65 Nameless Fanboi Posted ID:iJWfQy0Rt

>>64 เดี๋ยวๆถึงจูนิเบียวเกียวอนิมันจะด้นสดเอง แต่Clannadนี่มันทำตามเกมส์เป๊ะๆเลยไม่ใช่เหรอวะ?จากที่กูเล่นเกมส์มามันก็ใช้ได้นะเว้ย

66 Nameless Fanboi Posted ID:UFz8jvcK2

>>63 อ่า อ่านที่มึงพิมพ์แล้วเหมือนกูจะพอนึกออกบ้าง
คือเท่าที่กูทำความเข้าใจกับที่มึงพิมพ์มาให้กูก็ยังรู้สึกว่าเหตุผลที่มันดูยังไม่ค่อยหนักเท่าไหร่น่ะ ส่วนใน Aura มันคือไม่ทำตอนนั้นทุกอย่างก็จะสายเกินแก้เอา
แล้วก็เรื่องเพ้อเพื่อจะช่วยนางเอกกูยังคิดว่ามีส่วนต่างอยู่ หลักๆมันอยู่ที่เพ้อจริงกับแกล้งเพ้อ มันประมาณๆเดียวกับที่พิมพ์ไปใน >>59 แหละ
ทำให้กูชอบอารมณ์ตัวละครใน Aura มากกว่า มันดูแบบความเพ้อเจ้อมันสุดๆดีแล้วเจือด้วยอารมณ์เหงานิดๆซึ่งมันถูกจริตกูมาก ในจูนิเบียวมันดูครึ่งๆกลางๆไป

ส่วนเรื่องที่อีนางเอก Aura จะฆ่าตัวตายกูว่าก็ไม่น่ามีอะไรมากกว่าโดนรุมแกล้งหนักๆ
แล้วพระเอกที่คอยช่วยแบบว่าเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวอยู่ดีๆก็ทิ้งมันไป ก็เลยเศร้าจัดจนทำใจไม่ได้ก็เลยจะฆ่าตัวตายเฉยๆ

เอ้อ อีกเรื่องนึงคือกูรู้สึกว่าฉากบิ้วอารมณ์ดราม่าจูนิเบียวมันดูฟูมฟายไปหน่อย คือกูไม่ได้จะบอกว่าพ่อตายไปโดยไม่ได้บอกลานี่เป็นเรื่องเล็กนะ
แต่วิธีการนำเสนอมันทำให้รู้สึกเหมือนยัดเยียดอารมณ์ฟูมฟายเข้ามาเกินพอดีน่ะ จริงๆ Aura เองก็มีอารมณ์นี้ด้วย แต่ระดับความเกินพอดีกูว่ามันยังไม่มากเท่าจูนิเบียว

67 Nameless Fanboi Posted ID:Be9hFMpMx

หมา Time paradog จะเกิดขึ้น1ตัว เมื่อนางเอกสะดุดกล้วยแล้วกลับไปอยู่ในป่า 1 ครั้ง เทียบง่ายๆก็คือจำนวนครั้งที่เกิด time paradox
ส่วนลักษณะของคุณผู้ช่วยที่เกิดขึ้นตามความคิดของตัวเอก ให้มองย้อนกลับไป แรกๆเลยจะมีตอนที่อธิบายว่าคุณผู้ช่วย ไม่มีชื่อ พูดไม่ได้ ไม่มีบุคลิกภาพเป็นของตัวเอง แถมยังไม่เคยปรากฏตัวให้ตัวเอกเห็น ขนาดหมอที่ดูแลอยู่ก็ยังจำไม่ได้
ที่เห็นเป็นชุดอโลฮ่ากางเกงขาสั้น เกิดขึ้นเพราะมีตัวเอกที่ได้พบปู่ตอนเด็กมาก่อน(เลยติดภาพของคุณผู้ช่วยที่เหมาะกับเสื้อเชิ้ตอโลฮ่ามาโดยไม่รู้ตัว) อยู่ในกลุ่มตัวเอกทั้งหมด (สังเกตจากพวกที่ใส่นาฬิกากับไม่ใส่นาฬิกา-พวกที่ไม่ใส่คือกลุ่มที่เหยียบเปลือกกล้วยหลังจากผ่านการโดนจิ๊กนาฬิกามาแล้ว)

จากนั้นในกลุ่มก็มีตัวเอกที่ถามขึ้นมาว่าอยากให้เป็นคนแบบไหน แล้วเจ้าตัวก็ตอบว่า ถ้ามีตัวตนอยู่ล่ะก็ บุคลิกนิสัยจะเป็นยังไงก็ช่าง ขอให้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ถูกใครลืม จะหยาบคายป่าเถื่อนมากน้อยก็ไม่เป็นไร ก็เลยออกมาอย่างที่เห็น

สรุปง่ายๆก็คือคุณผู้ช่วยเป็นคนกำหนดตัวตนของตนเองขึ้นมาตามที่ตัวเอกพูดในมิติปิด ถ้าในมังกะจะเห็นว่าแอบดูอยู่ในป่านั่นแหละ

68 Nameless Fanboi Posted ID:8VTaz16sU

ขอบใจมากร่างแยกทั้งหลายกระจ่างขึ้นเยอะเลยหว่ะ แต่ก็ยังติดใจอยู่เดียวทำไมต้องกล้วยวะ?มีความหมายแฝงอะไรรึปล่าว

69 Nameless Fanboi Posted ID:eAn5gI9co

Time "Slip"

70 Nameless Fanboi Posted ID:ldlOIAgGX

>>69 so deep...

71 Nameless Fanboi Posted ID:8VTaz16sU

>>69 Shit..Never thought about that

72 Nameless Fanboi Posted ID:IWPRuzSpp

อยากให้จินรุย นิยายเข้าไทย ;w;

73 Nameless Fanboi Posted ID:eAn5gI9co

เหมือนแผ่นไทยจะออกเมษาปีหน้า

74 Nameless Fanboi Posted ID:DuxqC511V

>>72 โอกาสเดียวที่จะเข้าได้คือเซนชูซื้อ มึงคิดดีแล้วแน่นะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:wbImijd5r

จากพฤติกรรมเซนชูที่ชอบซื้อตามกระแส ป่านนี้แล้ว กูว่าคงไม่ซื้อแล้วมั้ง
นิยายเองก็ยังไม่ออกต่อเลย ค้างอยู่ที่เล่ม 8 (ที่ออกหลังอนิเมจบ) มาจะครบปีละ

76 Nameless Fanboi Posted ID:wbImijd5r

หัดอ่านญี่ปุ่นแล้วไปตามอ่านต้นฉบับ คงทันได้อ่านเล่มจบ

77 Nameless Fanboi Posted ID:WhM/1o9zH

>>76 กุพยายามแล้ว แต่คันจินี่กูไม่ไหวจริงๆ

78 Nameless Fanboi Posted ID:wbImijd5r

งั้นมึงก็ยังพยายามไม่พอ ไม่ก็ ยังไม่เจอเรื่องแรกที่ทำให้มึงพยายามพอ

79 Nameless Fanboi Posted ID:2CnLvlG2d

คันจิแม่งมหาศาลมาก กุเล็ก กุยอม

80 Nameless Fanboi Posted ID:fn.MTgmN8

พยายามเข้าเพื่อน ถ้าพยายามเข้าซักวันมันก็ได้เองแหละ!

81 Nameless Fanboi Posted ID:.Flr2uJd.

>>80 กลัวจะถึงเวลาหมดอายุก่อนนี่ดิ

82 Nameless Fanboi Posted ID:tYKoJ1P4G

ความรักมึงมีค่าเท่านี้เองเหรอเพื่อนโม่ง

83 Nameless Fanboi Posted ID:c14HqzCR+

>>82 หมายถึงกูจะตายก่อนจะทันอ่านรู้เรื่องน่ะ

84 Nameless Fanboi Posted ID:fC7sGGBk/

พวกมึงเวลาเจอเรื่องเเรกที่ทำให้ฝึกอ่านดิบคือเรื่องไรวะ เเล้วฝึกยังไงวะ เริ่มตั้งแต่ 0 เลยป่าววะ แล้วนานแค่ไหนกว่ามึงทำสำเร็จอะ แนะนำกุหน่อย

85 Nameless Fanboi Posted ID:VhjiEBN5C

>>84 ไม่รู้ว่ะ กูเริ่มตั้งแต่อินเตอร์เนตมันยังไม่แพร่หลาย อย่าว่าแต่การ์ตูนแฟนซับไทย ENG เลย LN ยังไม่มีเลยสมัยนั้น
จุดเริ่มต้นจริงของกู มันมาจากอยากอ่านเกมภาษาให้รู้เรื่องว่ะ RPG สมัยก่อนมันมีแต่ ฮิรางานะ คาตาคานะ เลยใช้หัดง่าย
สมัยนี้เอะอะอะไรก็รอแปล รอแฟนซับ ขนาดเกมยังจะมารอแพทช์ ENG รอเวอร์ชั่นแปลขายโซนฝรั่ง แค่กระดิกตีนรอเสพ
ถ้ามึงต้องการอ่านด้วยตัวเองให้รู้เรื่อง ก็ต้องหาเรื่องที่ทำให้มึงอยากรู้ถึงขนาดนั้นก่อน ไม่ใช่แค่อยากรู้ระดับรอเสพก็รอ

86 Nameless Fanboi Posted ID:tYKoJ1P4G

อ่านบนๆแล้วอยากขุดมาดูอีกรอบเลย จินไท

87 Nameless Fanboi Posted ID:kmd07tfea

>>84 เริ่มจากการ์ตูน เอาแบบที่มีคานะกำกับก่อน จากนั้นค่อยเกม แล้วไปนิยาย
ถ้าอ่านญี่ปุ่นจนเริ่มรู้สึกว่า ฮิรางานะเยอะๆนี่แม่งอ่านยาก แถวนั้นแหละที่จะอ่านนิยายได้สะดวกแล้ว
ความจริงถ้ายังไม่ชินแสลง ไม่ค่อยอยากให้เริ่มจาก LN เท่าไหร่ เพราะหลายเรื่องทั้งแสลงทั้งใช้คันจิแบบเกรียนมาก
LN ที่เคยอ่านมาแล้วใช้ภาษาไม่ยากไม่มั่วไม่เกรียน ก็มีของอ.ชิงุซาว่า (คนเขียนคิโนะ) อ.นาริตะ (คนเขียนฮาริมะ) อ.โคดะ กะคุโตะ (甲田学人 คนนี้ยังไม่เคยมี LN แปลไทย ส่วนใหญ่จะเขียนแนวสยอง)

88 Nameless Fanboi Posted ID:DuxqC511V

>>87 เห็นด้วยอย่างแรง ไลท์โนเวลสมัยนี้ใช้ภาษาโคตรเกรียน
ไหนจะไอ้พวกนักเขียนจูนิเบียวที่ชอบบ้าพลังใช้ศัพท์ยากๆ ทั้งที่ศัพท์ง่ายๆ ก็มีให้ใช้แทนได้

89 Nameless Fanboi Posted ID:4TPf+LlZg

คือตอนนี้กูอ่านการ์ตูนน่ะพอได้แล้วว่ะ ถ้าเปิดดิกด้วยก็โอเคไหวแต่เปิดนิยายนี่เเม่ม คันจิยุ่บยั่บ ตอนนี้เวลาอ่านการ์ตูนตากูก้พยายามเพ่งแต่ไอ้ฮิรางานะที่กำกับคันจิว่ะ อยากเลิกนิสัยนี้เหมือนกัน ถ้าเก่งแล้วมันจะหายไปเองป่าววะ เวลาเห้นคนบอกว่า "เวลาอ่านผมมักจะมองข้ามฟุริงานะ จะอ่านคันจิกวาดไปทีเดียวเลย" บอกตงๆ อิจฉาว่ะ แมร่งฝึกยังไงถึงได้ขนาดนั้นวะ

90 Nameless Fanboi Posted ID:+t1iiGAQ/

>>88 นักเขียนจูนิเบียวนี่ กูนึกถึงพวกที่แต่งนิยายแนวแฟนตาซี
แล้วชอบใช้คันจิประกบฟุริงานะที่มีความหมายไปคนละทางกับคำนั้นเพื่อบอกว่านั่นคือศัพท์เฉพาะ ให้แม่งดูเท่

ถึงจะบ่นแบบนั้น แต่ฟิคที่กูเขียนก็มีอะไรที่คล้ายๆกับที่ว่าไปตะกี้เหมือนกันอะนะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:8VTaz16sU

ความจริงLNกับเกมส์RPGนี่แหล่ะที่ทำให้กูเก่งENGขึ้นมาได้แบบก้าวกระโดดทั้งๆที่เมื่อก่อนแม่งได้แค่ระดับThis is a Pen แค่นั้นแหล่ะ
ตอนนี้กูหวังว่าจะเป็นแบบเดียวกันภาษายุ่นหว่ะแต่ขอกูไปอ่านมินนะให้จบก่อน 555

92 Nameless Fanboi Posted ID:kmd07tfea

>>90 นิชิโอะน่ะตัวดีเลย มีทั้งเล่นคำ ทั้งใช้คันจิประหลาด ทั้งกำกับคานะประหลาด
อ่านโดยที่รู้อยู่แล้วก็สนุกหรอก แปลงคำสนุกดี
แต่มือใหม่หัดอ่านมาเจอเรื่องนี้ น่ากลัวว่าจะจำคำผิดไปเยอะ

93 Nameless Fanboi Posted ID:8VTaz16sU

>>92 เพราะงั้นกูเลยยอมรับไอ้มะนาวในด้านการแปลว่ามันเก่งจริงที่แปลนิยายนิชิโอะให้อ่านลื่นไหลได้ขนาดนี้

94 Nameless Fanboi Posted ID:+3RVxczeg

ดราม่าออร่า VS. จูนิเบียวจบแล้วเรอะ กูกำลังมันส์เลย

95 Nameless Fanboi Posted ID:BC79/n7iV

>>89 ไม่ต่างกันหรอกว่ะ มังกะ สนพ. อื่นนอกจากจัมพ์ ส่วนใหญ่แม่งก็คันจิพรึ่บ แถมไม่กำกับฟุริงานะ
จนบางเรื่องที่มันฮาร์ดคอร์หน่อยแม่งอ่านยากกว่า LN อีก วัยรุ่นญี่ปุ่นมันถึงอ่าน LN กัน
มึงแค่ไม่ชินกับการเสพสื่อภาษาต่างชาติที่มีแต่ตัวหนังสือ แนะนำให้เริ่มจากเรื่องแนวเบาสมอง
อย่างเพื่อนน้อยหรืออีน้องเหี้ย ตรงไหนไม่เข้าใจก็ข้ามไปก่อน แถมมึงจะมีฉบับภาษาไทยให้ครอสเชค
ส่วนไอ้พวกบอกอ่านข้ามฟุริงานะ มันก็แค่โชว์พาวอย่าไปคิดมาก เวลามีกำกับขึ้นไม่มีใครเขาอ่านข้ามกันหรอก
เพราะนั่นบ่งบอกว่าเป็นคำอ่านเฉพาะ หรือศัพท์นอกเหนือคันจิปกติที่ใช้กันทั่วไป ไอ้พวกที่พูดแบบนี้แม่งอ่านแต่จัมพ์

96 Nameless Fanboi Posted ID:S3TsoqtTk

เพื่อนโม่งกูเพิ่งดู Frozen มาวะ

รู้แล้วว่าทำไม เกย์,ตุ๊ด แม่งชอบเรื่องนี้กัน

97 Nameless Fanboi Posted ID:h84FihlIt

อย่าเพิ่งเลิกดราม่ากันสิวะ กูตามอ่านอยู่นะเว้ย

98 Nameless Fanboi Posted ID:vn+QJwYSp

>>96 มันมีดีอะไร?

99 Nameless Fanboi Posted ID:.Cqt9+fb4

>>96 รอฟังด้วยคน มันมีเหี้ยอะไรถึงได้เห่อกันจัง

100 Nameless Fanboi Posted ID:.8cqiEqDS

ควีนเอลซ่า(ตัวเอกหญิงอีกคน)แม่งมีความเป็น Gay Diva สูงมากเว้ย ลองไปหาคลิปเพลง Let it go - Frozen ดู แล้วจะรู้ว่าทำไม

เจ๊แกเป็นประเภทเดียวกับพวกบียอนเซ่,มาราย แครี่,วิทนีย์ ฮูสตัน,มาดอนน่า ฯลฯ ว่ะ

ส่วนที่มันเห่อๆกันเพราะดิสนีย์ไม่ได้เน้นความรักชายหญิงหรือรักแรกพบแบบที่ผ่านๆมามั้ง สูตรดิสนีย์มันจะมาแนวจูบแม่งแก้คำสาปได้ทุกอย่าง แต่เรื่องนี้มันต่างออกไปว่ะ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้แหวกจากอนิเมอื่นๆอะไรมากหรอก แต่ถือว่าแหวกแล้วสำหรับดิสนีย์

101 Nameless Fanboi Posted ID:M50MpfF84

ตัวคานะเยอะๆกูก็รู้สึกว่าอ่านยากนะ
คือไม่รู้ว่าแม่งแปลว่าอะไรกันแน่ เรียนแต่ละทีโคตรว้อนคันจิเลย

ปัจุบันโดราเอม่อนเล่มญี่ปุ่นที่ซื้อมาเล่มนึงยังอ่านไม่จบเลย รออัพเวลต่อไป

102 Nameless Fanboi Posted ID:S3TsoqtTk

เพลงอารมณ์เหมือนพวก I'll survive
เพลง Let it go Let it goooooo แม่งใช่เลย

อารมณ์พวกเก็บตัว แคร์สายตาคน สังคม
ในที่สุดก็ได้ปสดปล่อยความเป็นตัวกูออกมา
ไม่ต้องทำเป็นเด็กดีแต่งตัวเรียบร้อย ใส่หน้ากาก
ประกาศความแร่ดดดด ออกมาให้เต็มสตรีมมิ่ง

ตอนจบแม่งแบบหักมุมความรัก กลายเป็น incest เอ้ย พี่รักน้อง จนละลายน้ำแข็งได้
(กูเผลอจิ้นตีฉิ่งพะยะค่ะ)

ตอนจบลุกออกจากโรงมองคนดู
เด็กนักเรียนชายเกาะเป็นกลุ่ม
แม่งเยอะเลยวะ

103 Nameless Fanboi Posted ID:/zCf/tRiU

เหยด มึงเล่นเทียบ let it go เป็น I 'll surrviveแบบนี้ ถ้าติ่งFrozenมาเห็นคงต้องพิโรธเป็นแน่

104 Nameless Fanboi Posted ID:aj7rS3jLd

>>102 กุขอหยิบไปตั้งมู้ได้ป่ะวะ กุอยากรู้มันจะมีติ่งFrozenเข้ามาดิ้นมั๊ย?

105 Nameless Fanboi Posted ID:RBrTS2DKw

>>104 พันดริฟท์รึ? ตั้งให้ถูกห้องพอมึงไม่ต้องกลัว มันแห่กันมาแน่ ตั้งแล้วบอกด้วยกูจะไปปูเสื่อรอดู

106 Nameless Fanboi Posted ID:ZyvqJvAS6

ที่จริงเอลซ่ามันคือเกย์ในร่างผู้หญิงว่ะ ดิสนีย์แม่งชอบมีพวกสัญลักษณ์ทางเพศแฝงมาตลอดแบบเนียนบ้างไม่เนียนบ้าง กูดูแล้วยังคิดเลยว่าถ้าอีเจ๊เป็นชายมันต้องเป็นเกย์แน่ๆ

107 Nameless Fanboi Posted ID:Jp2qB9icc

>>105 ตั้งแล้วน่ะ รอดูจะมีติ่งแบบไหนมาดิ้น

108 Nameless Fanboi Posted ID:Jp2qB9icc

ลืมแปะลิงค์ http://pantip.com/topic/31384332

109 Nameless Fanboi Posted ID:Y1ZzRxaS/

มึงนี่ยังทื่อไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้กุโรน

110 Nameless Fanboi Posted ID:Jp2qB9icc

>>109 มีไอเดียลับคมเหรอวะ บอกมาเลย กุรับพิจารณา แต่แรงมากไม่ได้นะโว๊ย กุไม่อยากโดนแบน

111 Nameless Fanboi Posted ID:Y1ZzRxaS/

กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่เล่นเอาข้อความเพื่อนโม่งไปแปะทื่อๆแบบนี้กูว่ามันไม่เข้าท่ายังไงไม่รู้ ดัดแปลงให้เป็นสไตล์ที่มึงทำประจำอาจจะยังจะดูดีซะกว่ามั้ง?? เช่น "เพิ่งดูหนังที่เกย์เป็นตัวเอกสนุกก็วันนี้แหละครับ" แล้วก็สรรเสริญเยินยอฟรอเซ่นในฐานะหนังเอาใจเกย์ให้เต็มที่ ใช้เสียงเอฟเฟคอู้หูอ้าหา ตามที่มึงถนัด อะไรก็ว่าไป จะเอาไปเปรียบเทียบกับหนังที่ตัวเอกเป็นเกย์แล้วได้ปลดปล่อยตัวเอง แล้วชี้จุดที่เอลซ่าเหนือกว่าหนังพวกนั้นก็อาจจะได้ (มั้ง) อะไรเงี้ย

112 Nameless Fanboi Posted ID:l5cLiBI7M

ถ้ามึงจะกอปแปะขนาดนี้นะ

113 Nameless Fanboi Posted ID:Jp2qB9icc

กูไม่อยากเอาสิ่งที่สหายโม่งพูดมาแอบอ้างเป็นผลงานตัวเองน่ะ เลยไปในรูปแบบเพื่อนไปดูมา กุขี้เกียจเรียบเรียงใหม่ด้วยแหละเลยก็อปไปแปะเลย

114 Nameless Fanboi Posted ID:I6o0HsuSv

เพราะงี้มึงถึงโดนนินทาในนี้ว่าเป็นแค่ troll wanna be กากๆ ไงละ เอาเหอะ อยากเป็นให้ได้ก็พยายามต่อไปละกัน

115 Nameless Fanboi Posted ID:Jp2qB9icc

>>111 "เพิ่งดูหนังที่เกย์เป็นตัวเอกสนุกก็วันนี้แหละครับ" เข้าท่าว่ะ แม่งเกรียนดี แต่กุติดตรงยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย

116 Nameless Fanboi Posted ID:Jp2qB9icc

ผมไม่โทรลนะครับ ผมแค่อยากกวนตีนชาวบ้าน

117 Nameless Fanboi Posted ID:Y1ZzRxaS/

ไว้เรื่องหน้ามึงเอาใหม่ละกัน คราวหน้าไม่ต้องรีบ ไปดูมาก่อน มึงจะได้แขวะสาวกกลับได้ ลงทุนไปไหมวะ

118 Nameless Fanboi Posted ID:VZRXk6/Gm

ไม่ไหว สันดานมึงไม่ถึงจริงๆ ถ้าให้กูแนะนะ ก่อนอื่นมึงต้องคิดว่ามึงต้องการอะไร กลุ่มเป้าหมายเป็นไง
อย่าง Frozen เนี่ย แฟนมันกำลังไฮ เหมาะมาก แล้วมึงก็คิดนะ ว่าอะไรที่จะทำให้พวกนี้ไม่พอใจที่สุด
กลุ่มที่ชอบ Frozen คือกลุ่มไหน? กูก็ไม่รู้ ดังนั้นอันนี้กูจะข้ามไป ทีนี้มึงก็เล็งประเด็น เอาง่ายๆถ้า
จะกวนตีนแฟนคลับ มึงต้องเหมารวม แล้วทำตัวโง่ๆหน่อย

ex.1 เห็นคนชมเลยไปดูมาแล้วก็บอกว่ากากไม่เห็นสนุก จากนั้นก็ยกเรื่องเหี้ยอะไรโง่ๆมาแทน
ทีนี้ก็จะมีคนมาด่ามึง รวมทั้งด่ารสนิยมมึง แล้วก็จะมีคนมาปกป้องมึงจากรสนิยมโง่ๆของมึง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.