ถ้าไม่นัดล่วงหน้าจะประเทศไหนก็สมควรโดนแล้วแหละ
แต่ยังงงๆเรื่องต้องติดต่อผ่านตัวแทนอยู่ ใครก็ได้อธิบายจุดนี้หน่อย
Last posted
Total of 1000 posts
ถ้าไม่นัดล่วงหน้าจะประเทศไหนก็สมควรโดนแล้วแหละ
แต่ยังงงๆเรื่องต้องติดต่อผ่านตัวแทนอยู่ ใครก็ได้อธิบายจุดนี้หน่อย
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=iamzeon&date=25-10-2011&group=119&gblog=2 อันนี้รู้สึก SIC ใช้บริการอยู่
ทำตัวเสร่อๆ แบบนั้น มีอยู่แค่ค่ายเดียวคนเดียว
ลองนึกวีรกรรมเสร่อๆ ในวงการดู เดี๋ยวมึงก็ำ้ได้คำตอบ
คือถ้าจะไปแบบไม่ได้นัดนะ ก็ทำได้นะ เเต่ต้องมั่นใจว่ามึงดังระดับดาราฮอลิวู้ด หรือเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ หรือมีชื่อเสียง มีอำนาจ นี่เป็นใครวะ อยู่ๆเดินดุ่มๆ เข้าไป บ้าป่าว ใหญ่มาจากไหนวะ
แต่ Zenshu มันซื้อ LC Fate Zero ทั้งๆที่นิยายเป็นของ DEX มาแล้วนะ
โม่งช่วยกูที คำนี้มันแปลว่าอะไรวะ?ไอ้みんつぶอ่ะ กูแปลทั้งประโยคมันจะมาแบบนี้อ่ะ
"ไม่รู้สิ ถ้าตามคู่มือคงแบบนั้นแหละ มีบ่อยๆนะ ที่พูดว่าบทที่สาม : (แล้วก็เป็นคำที่กูว่าเลย) みんつぶ " พอกูจะไปหาตัวช่วยที่บรรทัดต่อไปแม่งเสือกจบบทพอดีอีก ขึ้นบทใหม่แม่งก็ไม่พูดถึงด้วย สัสมาก
>>169 เนปจูนรึ?
http://neptunemk2.blog.fc2.com/blog-entry-25.html
”みんつぶ”はゲイムギョウ界で大ブームのバーチャルコミュニケーション空間です。
เขาว่างั้น อารมณ์ทวิตเตอร์มั้ง > つぶやき
ก็คงมาจากคำเต็มว่า みんなでつぶやき (รวมหัวกันบ่น) นั่นละมั้ง
>>โรสเเม่มก็ตามเก็บเเต่พวกเมะดังๆที่เป็นกระเเสบุฮี้ในไทยเหมือนกันนั่นเเหละมั้ง วัดความนิยมจากในตุรกีกับจำนวนค่ายเเฟนซับที่เเย่งกันทำ + ตัดต่อมุกเเป้กๆออกมาเเชร์กันในเพจค่ายตัวเองบ่อยๆ
ไม่มีใครพูดถึงนิยายเรื่องใหม่ของคนแต่งอีน้องเหี้ยเลยเรอะ
คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย คิโม่ย
กูก็ชอบน้องสาวนะแต่เฉพาะน้องสาวสายโลลิเท่านั้น ส่วนน้องแบบอีคิริโนะนี่ไปไกลๆตีนกู
อีสาวแดกหนังสือเล่มสามออกแล้วเหรอวะ
มีใครให้ความกระจ่างกูได้บ้าง
เห็นในเพจ บอกว่าออกวันศุกร์
Z มันออกหนังสือนอกงานหนังสือด้วย?
มันมีออกมาเรื่อยๆของมันนะมึง
ออกทุกเดือนเลยมั๊งหลังๆ
ร้านแถวบ้านกูออกแระ
T T ในที่สุดก็มาสาวแดกหนังสือของกู
แล้ว Sayonara Piano Sonata กูหล่ะ?
โทโกะ!!!......ไม่ใช่เมียกู
กูหา cutting ของมิโอะ เล่มหนึ่ง
มีโม่งใหนชี้เป้าให้กูได้มั่ง
ที่อินเดกซ์เปลี่ยนคนแปล เพราะเหตุผลนี้สินะ ที่ลักพิมมันเผยข่าว LC น่ะ
ทำไมกูคิดว่า log horizon เป็นสยามได้ไปวะ เห็นมีโม่งเคยบอกว่าสยามได้บิ๊กเนมมา ซึ่งกูไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันดังและบิ๊กเนมแค่ไหน เพราะกูไม่ชอบ แต่เด็กไทยบ้าเกมออนไลน์ กูว่าคงมีหลายคนตามเรื่องนี้อยู่
Log Horizon ผมได้ยินมาแว่วๆว่าเด็กซ์ได้ไปนะ ซึ่งถ้าจริงก็พอหายห่วงได้หน่อยนึง
และโดยส่วนตัวผมไม่ได้ตามเรื่องนี้เพราะมันเป็นแนวเกมออนไลน์หรอกนะ แต่ตามเพราะมันให้แง่คิดหลายๆเรื่องในทางด้านสังคม การเมือง บลาๆๆไรพวกนี้มากกว่าน่ะ ยิ่งคนแต่งเดียวกับผู้กล้าเศรษฐศาสตร์ผมก็ยิ่งศรัทธาใหญ่เลย
เอิ่ม ถ้า dexpress ได้นี่กูจะเซ็งมากๆเลย ดูที่มันทำกับบาเกะสิ (ชาติละเล่ม)
dex กูกลัวจะซ้ำรอยกับสว่าน
พูดถึงสว่านแล้วกูเศร้า ออกัสดัสท์แม่งยังไม่ได้โชว์เหนือเลนแท้ๆ
คนแปลหลักชีจืดไม่ต้อสัญญาแปลครึ่งหลัง แล้วไปแปลให้ J นี่
ได้ยินว่าเป็นคนฝีมือดีและทำงานเร็วมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกที่จะย้ายที่อัพค่าตัว
ยิ่งตอนนี้แจ่มใสจ่ายหนักน่าดูยิ่งแล้วใหญ่
มีทวีตไม่ก็แฟนเพจให้ตามมั้ย? เป็นถึงระดับอาจารย์หรือเปล่า เห็นชื่อมานานแล้วเหมือนกันนะ
ฟังที่เล่ากันมาคิดว่าเป็นพนักงานบริษัทธรรมดานะ
กูเป็นคนโลภ ขอทั้งอ่านรู้เรื่องทั้งอ่านเร็วได้มั้ย
งั้นก็ต้องมีทั้งคนแปล คนตรวจอักษร คนบรู๊ฟงาน ทั้งหมดต้องทำงานมีคุณภาพและเร็ว
คนอ่านพร้อมจะจ่ายแพงไหมล่ะ?
กูพร้อม คนอื่นกูไม่รู้
สรุปคือตอนนี้แจ่มใสแปลดีสุดเหรอ? มีเรื่องอะไรน่าอ่านมั่งวะเพื่อนโม่งแนะนำหน่อย
ไหนๆพูดถึงแจ่มใสแล้ว เชียร์เจ้าหญิงจอมฟลุ้ค (เหมือนจะเป็นแนวฮาเร็ม แต่ไม่ยักกะฮาเร็มซะที) กับเฮียวกะด้วยแล้วกัน
อ่านสึคุโมโดะ เจ้าหญิงจอมฟลุค เฮียวกะ อยู่
ของคนเขียน RDG แจ่มใสเคยพิมพ์อีกซีรีส์นึงออกมาก่อนด้วยนะ ที่ชื่อ ตำนานบุตรแห่งวายุ, ตำนานระบำวิหค, ตำนานนางฟ้าสีแดง
อยากอ่านเคียวรันต่อ เรื่องมันสนุกๆ จริงๆ นะ ;____;
ชอบที่นำเสนอเรื่องราวครอบครัวป่วยๆ ได้ดีมากๆ
อย่างเล่มแรกตอนที่ยูกะ(ลูก)จะไม่ไปโรงเรียนแล้วโอกะ(พ่อ)บอกว่า "ไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้" เนี่ย เห็นถึงการเป็นพ่อแม่รังแกฉันโดยการ spoil ลูกแบบผิดๆ เพราะคิดว่าถ้าโดนรังแกจนไม่อยากไปแล้วล่ะก็ ก็ไม่ต้องไปซะก็สิ้นเรื่อง เป็น"ความพยายาม"แสดงออกถึงความรักแบบคนที่ไม่เคยรักใคร
ซึ่งแนวคิดของเคียวกะ(แม่)ที่ว่า"ถ้าโดนคนรังแกก็ทำให้คนเลิกรังแกก็สิ้นเรื่อง" แล้วก็ไปแสดงป่าหี่ สัตว์ประหลาดบุก จัดฉากให้ยูกะเป็นตำรวจอวกาศ ให้เป็นจุดเด่นของเพื่อนๆ ให้ไม่กล้ารังแก จนยูกะกลับเข้าสู่สังคมได้
ถึงวิธีมันจะเพี้ยนๆ และป่วยๆ (และเอาไปทำจริงๆไม่ได้...) แต่แนวคิดว่า"อย่าหนีสิ"เนี่ย กลับถูกกว่าความรักลูกไม่ถูกทางของโอกะที่เป็นคนธรรมดาซะอีก
กูเห็นแพคเคียวรัน สิบกว่าเล่มครบเซ็ท 6000กว่าเยน ขายอยู่ใน kindle
พูดถึง kindle แล้วอยากซื้ออยู่เหมือนกัน
มีแนะนำเครื่องบ้างไหม
ใช้ paperwhite ฝากพี่หิ้วมาจากญี่ปุ่น 8000 เยน เข้าไทยก็ 2600 กว่าๆ อยู่
เก็กกะภรรยาผมครับ
Jellyfish is fine too
kindleมันโหลดหนังสือจากสโตร์ญี่ปุ่นได้ด้วยหรือวะ?
เพราะกรูลองแล้ว มันบอกไม่ขาย สัส
ไอดีกูเป็น amazon jp มันก็ต้องโหลดได้สิวะ
ขึันอยู่กับว่าโหลดจากที่ไหนด้วยหรือเปล่า?
ถ้าโหลดไม่ได้ก็ไม่ค่อยอยากซื้ออ่ะ
มันต้องใส่ที่อยู่ในหน้า My Kindle ใน Store ญี่ปุ่นถึงจะยอมให้ซื้อ
โอว กุเพิ่งอ่าน สึคุโมโดะ เล่ม4จบ ตอนสุดท้ายก็ยังฟินเหมือนเดิม ซากิกับโทคิยะเป็นคู่ที่น่ารักน่าอวยจริงๆ
เออ ถามหน่อย
เรื่องเจ้าชายแห่งหายนะ (แจ่มใส - enter) เนี่ยเป็นไงมั่ง?
ชอบเจ้าหญิงจอมฟลุกเหมือนกัน ถึงหน้าปกจะดูหวานแหวว แต่เรื่องไม่แหววเลย นางเอกเมพสุดๆ
เฮียวกะก็ดี อยากให้ออกเล่มใหม่เร็วๆ
ได้ข่าวจากเฟซฯว่า SIC ที่แตกไปทำ LN ตอนนี้ก็งานล้นรับสมัครนักแปลเหมือนกัน ลุย LN กันใหญ่เลยนะมันจะเฝือเข้าซักวันป่ะหนะ
ตกข่าวว่ะ เพิ่งรู้ซายากะไปอยู่กับ SIC
อยู่หัว I'm ที่ทำ Brother conflict ด้วย
ซายากะนี่นับเป็น LN ?
ในบ้านเรามีนิยายเรื่องไหนของ Hikaru Sugii ที่ LC มาแล้วบ้างอ่ะ
แอเรียลฟอร์ซของเซนชู
เซโตไคทันเทย์คิริกะของบงกช (ยังไม่ออก)
ตอนนี้มีข่าวลือมาว่าเซนชูจ้องจะเก็บคามิเมโมด้วย ถ้างั้นกะคุเซย์โชโจก็คงไม่รอด
ไอ้ผีดูดเลือดหื่นของเอพลัสนั่นก็ของสึกิอิด้วยนี่นะ ลืมสนิท งานแม่งนอกรีตเกิน
เหมือนงานเขียนแบบปลดปล่อยความอัดอั้นอะไรซักอย่างว่ะ
ไอ้แนวแบบนี้กูไม่กล้าวิจารณ์ ขออ่านให้จบก่อน สามเล่มเอง
มันมีเกมส์หื่นมาก่อนนี่หว่าไอ้เรื่องนี้รึกูจำผิด?
พวกให้คนแปลเดิมแปลต่อไม่ได้นี่มีสาเหตุอะไรบ้างในเมื่อนักแปลก็รับงานแบบฟรีแลนซ์กันหมด หาทางติดต่อให้ทำไม่ได้เหรอ ไม่ได้ซื้อตัวเข้าบ.ถาวรซะหน่อยงี้
เรื่องทีเก็บมาทำ่ต่อเปลี่ยนคนแปลไปกี่เรื่องแล้วเนี่ย ไม่รู้คนแปลเดิมหายสาบสูญหรือว่าอะไร
บางทีคนแปลเก่าอาจจะติดงานอื่นอยู่รึเปล่า
หรือบางรายก็อาจจะทำเรื่องนั้นจนอ้วก ไม่อยากแปลต่อแล้ว
(อย่าง 12 อาณาจักรนี่เปลี่ยนคนแปลบ่อยมาก)
>>261 รับทราบ
มีคนล่า lc log horizon แล้วว่าตกไปเป็นไข่ในรังใคร
http://pantip.com/topic/31396357
โม่งแถวนี้ไปถามไว้ป่ะเนี่ย
12 อาณาจักรญี่ปุ่นย้ายสำนักพิมพ์แล้ว ออกเล่มใหม่ด้วย สยามจะยังพิมพ์ต่ออยู่เปล่าวะ
ปกติถ้าย้ายบริษัท
ถ้าขอพิมพ์ต่อก็=พิมพ์เล่มแรกใหม่หมดเลย
รวมถึงแปลใหม่ด้วย
ถ้าไม่ใช่เรื่องขายดีจริงมักไม่เสี่ยงทำต่อกัน
ขนาด สยาม ก็ยังลอยแพเคสแบบนี้มาแล้ว
บก.k ออกจากรูแล้ว หลังจากช่วงกระทู้แปลห่วยขึ้นแนะนำ (และลบหาย) แม่งหลบในรู
แถมยังจับผิดสนพ. น้องใหม่ที่ยังไม่ออกหนังสือว่สอะไรวะ อป๊บเดียวมีคนไลค์สองหมื่น
เซ็นชวยมันก็เหมือนกันแหละวะ ยอดไลค์มันแซงสยาม แซง vbk ไปได้ยังไงวะ
ผีเห็นผี แม่งก็ซื้อไลค์เหมือนกันนั่นแหละวะ
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่ชอบไลท์โนเวลหญิงตรงที่นางเอกไม่ค่อยง้องแง้งโง่เง่าเหมือนการ์ตูนโชโจหรือนิยายไลท์โนเวลชาย ส่วนพวกพระเอกก็ไม่ค่อยอีโมเท่าไหร่เหมือนกัน
จะว่าไปกุก็นึกถึงเรกิออสน่ะ ตัวละครหญิงแต่ล่ะตัวมันดูเป็นเรื่องเป็นราวน่าสนใจดีไม่ได้เปิดตัวมาเป็นฮาเร็มสถานเดียวอะไรงั้น
ที่จริงสำนักพิมพ์ก็มีส่วนสำคัญมากอยู่เหมือนกันนะเกี่ยวกับแนวเรื่องที่เขียน
ตามอิมเมจส่วนตัว ถ้าพูดถึงไลท์โนเวลฮาเรมเลือกรูทแล้วจะนึกไปสาย MF Bunko ก่อนเลย (ตั้งแต่ Haganai เป็นต้นมา)
ถ้าเป็น Fantasia Bunko บางเรื่องถึงโดยผิวนอกมันจะดูเป็นฮาเรม แต่อ่านเข้าจริงมันแค่ "ตัวละครหญิงเยอะ" ซะมากกว่า
ส่วน Dengeki Bunko นี่อิมเมจส่วนตัวไม่ค่อยดี เห็นแล้วนึกถึงไลท์โนเวลเมนสตรีมเน้นขายโอตาคุได้ไปก่อนแล้ว (อคติ)
GA… ไม่รู้เหมือนกัน Oreshura น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี แต่พักหลังๆ ก็มีหยิบอะไรแปลกๆ อย่างดันมาจิมาเหมือนกัน
ที่เหลือก็ไลท์โนเวลพิลึกๆ นึกถึง Gagaga ไลท์โนเวลขายไม่ออกนึกถึง SD พวก HJ, Kodansha, etc. ไม่ได้อ่านไม่ขอพูดถึง…
ไม่ใช่สำนักพิมพ์ ต้องบอกว่าลาเบลที่พิมพ์สิ
Fujimi Fantasia นี่ผมว่าตามชื่อนะ เน้นที่แฟนตาซีจริงๆ สมัยเข้าวงการใหม่ๆใครพูดถึง Fantasy LN นี่ผมนึกถึงค่ายนี้ก่อนเลย ตอนนี้ก็มีประเภทอื่นมาปนอยู่แต่เห็นเน้นๆก็แฟนตาซีเหมือนเดิม
MF ผมก็เห็นตามนั้นแหละ + แฟนตาซีฮาเร็มไปด้วยหน่อย
เดงเกคินึกได้แค่ว่าหวยล็อค ฮ่าๆๆๆๆ
GA นี่ยังให้คำบรรยายไม่ได้เหมือนกัน
สนีคเกอร์สำหรับผมก็ไม่ต่างอะไรกับฟูจิมิมาก แต่ทางนี้จะเน้นไปทางแอคชั่นมากกว่า(ฮารุฮิช่างมัน)
GAGAGA นี่แนวแปลกๆ แต่ดันให้ข้อคิด ทำซึ้งได้ซะงั้น (แฟนตาซีหลายเรื่องของลาเบลนี้ก็แจ่มอยู่นะ)
ฟามิซึนี่ผมเพิ่งมาสน เห็นว่าช่วงนี้ดันสายเซ็นกิมากเลย
HJ นี่ผมนึกถึงแต่ฮาเร็มละ(ส่วนมากแค่ดูปกก็รู้เลย)
Super Dash นี่ผมนึกถึงสายแอคชั่น ลึกลับ ดาร์คนิดๆ
Dengeki Bunko เนี่ย คิดถึงยุค บุกี้ป๊อบ, ชานะ, โมโมะ ชิบเป้ง
ยุคของไฮแฟนตาซีกำลังจะบูมในตลาด LN รึเปล่า ช่วงนี้ดูกระแสที่ญี่ปุ่นมันเริ่มเทไปทางนั้นอยู่นะ
ฟุจิมิออกโลดอสรีพรินท์ยกชุด + เอาคนเขียนโลดอสมาเปิดซีรี่ table top rpg ไลน์ใหม่ ซีรี่ส์หลักยังไม่ถึงไหน แป๊บๆ สปินออฟออกไปสามตัวละ
นิยายจากนาโร่วที่ได้ออกรวมเล่มกับสนพ.เป็นแนวประมาณนั้นหมดเลยด้วย (ดันมาจิ ไนท์วิซ รีเซโร่ ซึบาราชี่เซไค)
คิดว่าไงกัน
>>274 กูว่ามานะ ใช่แน่ๆ เพราะเลิฟคอมปกติมันหมดมุกแล้ว ต้องเอาแฟนตาซีมาช่วย
แต่จริงๆ แนวไฮแฟนตาซีมันคือระดับโลดอสอะไรน่ะนะ พวกเอปิกแฟนตาซี
แบบดันมาจิ น่าจะโลว์แฟนตาซี
เอาเถอะ กูว่าแฟนตาซีกำลังมาแน่ๆ ไม่สิ มาแล้ว แทบจะกลบเลิฟคอมปกติแล้ว เอาแค่ดูไลน์อัพอนิเจากไลท์ปีหน้าก็พอ
ถ้าไฮแฟนตาซีจะกลับมาดังก็ดีสิ เผื่อเรื่องที่ชอบจะได้ต่อภาคสอง
ขอโทษทีที่ยกตัวอย่างขาดๆเกินๆ
ถ้ามันมาจริงก็ดี กูเบื่อเลิฟคอเมดี้จะตายอยู่แล้ว เฮ่อ
ไฮแฟนตาซีนี่คือแบบ แนวตำนานผู้กล้าไรเนอร์ ป่าววะ เรื่องนี้กูชอบนะ แต่จำนวนเล่มมันเยอะสัส ๆ จะว่ายืดเรื่องออกทะเลก็ไม่เชิง เพราะกูว่าจริง ๆ เนื้อเรื่องมัน deep ตั้งแต่แรก คนเขียนมันแค่ค่อย ๆ เผยออกมาเอง รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นตำนานมหากาพย์สมชื่อเรื่องไปซะแล้ว
烙印の紋章 สองเล่มสุดท้ายไม่รู้จะรีบจบไปถึงไหน
กูขอเดนยูเดนสอง
เลิฟึอมไม่มีวันตายหรอก ก็เปลี่ยนมาแนว เลิฟคอม + แฟนตาซี ไง
อย่าง ยูชิบุ หรือ มาโอซามะ งี้
งั้นถ้ากูหวังนิยายแปลไทยเดนยูเดน นี่คงเข้าขั้นเพ้อเจ้อเลยสินะ
>>274 นิยายจากนาโร่มันเป็นแนวตายแล้วเกิดใหม่ที่ต่างโลกซะเยอะ ผลที่ตามมาเลยกลายเป็นแฟนตาซีไปหมด
ทั้งดันมาจิ ทั้งไนท์มาจิ ไม่ค่อยรู้สึกว่ามันไฮแฟนตาซีเท่าไหร่เลย รีเซโร่นี่ยังไม่ได้อ่าน เห็นมันเป็น MF ตกลงสนุกเหรอ
เออแล้วก็ดันมาจินี่รู้สึกมันจะมาจากอาร์คาเดียนะ แล้วเอาไปโพสลงนาโร่ทีหลัง
เอิ่ม ขอขัดจังหวะแป๊บ "ไฮแฟนตาซี" คืออะไร? แล้วมี โล-แฟนตาซี กับประเภทอื่นที่ควรรู้จักอีกมั้ย
แล้วทำไมเม่าในนี้ถึงได้รู้จักชื่อนิยายทียังไม่ lc เป็นภาษาไทยเยอะกันจังอ่ะ ประดุจแผงหนังสือบ้านเราเชื่อมมิติกับแผงหนังสือญี่ปุ่น
ตอบด้วยพลีสสส
กูถามหน่อย tokyo ravens ต่างจากในเมะแยอะมั้ย พวกรายละเอียด เนื้อหาน่ะ
ถ้าไม่มากกุได้ไม่ต้องลงทุน
จากนิยายเหรอ
ก็อนิเมตัดที่เล่าเรื่องสำคัญอย่างเรื่องไดเรนจิ ชิโด(พ่อของสึซึกะ)ตัวการก่อภัยพิบัติวิญญาณสองปีก่อนหายเรียบ
ตัดflagคุณหนูแบบครึ่งๆกลางๆ ให้คนดูอนิเมงงเล่น
เปลี่ยนบทช่วงเล่มสองตอนนัทสึเมะโดนอุ้มจนหายซึ้ง
ล่าสุดก็รวบเล่ม4 เหลือตอนเดียว (อันนี้ยังไม่เช็ครายละเอียดเพราะยังอ่านอยู่)
ส่วนเรื่องตัดเซทติ้งสำคัญแบบ乙種呪術 หายหมดนี่ยังรอดูอยู่ว่าจะกระทบขนาดไหน น่าจะมีวิธีสื่อแบบอื่นอยู่ละมั้ง
>>287 ไฮแฟนตาซีนึกถึงพวก LotR เส้นแบ่งระหว่างไฮกับโลค่อนข้างกำกวม แต่ส่วนตัวแยกไฮกับโลไม่ค่อยออกเหมือนกัน
>>288 เนื้อหาโดยรวมเหมือน แต่รายละเอียดต่างกันค่อนข้างมาก เช่นในอนิเมจะไม่ค่อยพูดถึง 甲種呪術 กับ 乙種呪術
แต่สำหรับในนิยายมันจะเป็นประเด็นหลักของเรื่องเลย แล้วก็อนิเมตัดกระบวนความคิด แอคชั่นพระเอกๆ ของฮารุโทระทิ้งหมด
ฉากน่ารักๆ ของนัทสึเมะก็หายเกลี้ยง ปมหลายๆ อันก็ตัดทิ้ง พูดง่ายๆ คืออ่านนิยายเหอะ นิยายเริ่มสนุกตั้งแต่แถวๆ เล่ม 3
(ประมาณช่วงตอน 7 ในอนิเม) ตั้งแต่เล่ม 6 เป็นต้นไปนี่จัดในขั้นโคตรสนุก
>>287
กูอ่านนิยายฝรั่งไม่เยอะคงอธิบายไม่ได้
High Fantasy - ออกไปทาง Epic มีตำนาน มีโลกของเรื่องนั้น มีกฏเกณฑ์ของโลกนั้น เป็นตัวเองชัดเจน สเกลมักจะใหญ่ระดับประเทศ
มีความเป็นแฟนตาซีสูง แบบ TLoR
ญี่ปุ่นที่เข้าข่ายก็แบบ โลดอส,สเลเยอร์
Low Fantasy - ออก Modern ร่วมสมัย ประมาณ อาศัยในโลกมนุษย์(ใกล้เคียง)
มาวันหนึ่งมีพลังใช้เวทย์หรือกลายเป็นแฟนตาซีได้บ้าง หรือหลงไปผจญภัยโลกอื่น หรือมาโลกซะเอง
อาจมีความเป็นแฟนตาซีน้อยหน่อย อิงชีวิตโลกปัจจุบันมากกว่า
หลายเรื่องเล่นไฮโลเฉียดๆ เลยตีความยากเหมือนกัน
ลองไปอ่านdefinitionดูแล้ว พวกข้ามโลกหลายๆเคสก็นับเป็น High Fantasy ว่ะ อย่าง Alice in wonderland งี้
Low Fantasy จริงๆ น่าจะเป็นพวกนิยายแวมไพร์ร่วมสมัยทั้งหลาย
อย่าง Zero no Tsukaima นี่ไฮหรือโลว์?
ไฮ
แต่ถ้าเป็น outbreak company จะตอบ โลว
Ero no Tsukaima ถ้าเทียบกับเอปิกฝรั่งก็....นาร์เนีย?
ถ้า เปรียบเทียบสองเรื่องแนวเดียวกัน อย่าง Outbreak Company กับ Gate ล่ะ?
อ่านเรื่องใหม่คนแต่งอีน้องเหี้ยได้ครึ่งเรื่องกูไม่ใหวละว่ะ เสียดายภาพประกอบชิบหาย มันบุฮี้กันเข้าไปได้บังไงวะ
เศษเดนตัวหนังสือมาเรียงกันเป็นประโยคชัดๆ เหี้ยสัสๆ ย้ำอีกที "เหี้ยสัสๆ"
ลบทิ้งแม่ม.............เหลือรูปใว้ว้องก็พอ
Gate มันเน้นประเด็นฝั่งไหนมากกว่าล่ะ ถ้าประเด็นมันเป็นเรื่องทางโลกฝั่งเราเยอะก็ควรจะเป็น Low นะ
敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。敵兵。
http://i.imgur.com/5k0lmH7.png
รูปสงเคราะห์ ดิวะ
คนแต่งอีน้องเหี้ยนี่ชีวิตจริงๆมันมีพี่สาวหรือน้องสาวมั้ยวะ หรือมีแต่เหี้ยกว่าคิริโนะเลยต้องมาแต่งเรื่องหนีความจริงไปวันๆ
>>305
วัตถุขนาดมหึมาซึ่งลอยอยู่ลางฟ้า นั่นคือ...
"----องค์หญิง!"
เสียเวลาอีกครู่หนึ่ง เธอจึงสามารถเข้าใจว่านั่นคือป้อมศัตรูที่มารุกราน
"............"
น่ากลัว น่ากลัว ช่างน่ากลัวเหลือจะกล่าว
เธอเบนสายตาลงเบื้องล่างปานจะหาทางหนี
หากที่นั่น.... ก็กลายไปเป็นภาพจำลองของนรกเสียแล้ว
ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู
ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู
ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู
ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรู ทหารศัตรูเต็มไปหมด
เบื้องล่างสายตานั้นท่วมท้นไปด้วยอริ
ทหารจำนวนมหาศาลบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว
มือกวัดแกว่งอาวุธเพื่อจะรุกล้มฆ่าฟันคู่ต่อสู้ให้สิ้น...
แล้วตกลงมันคืออะไรรึ?
บก ลักพิม มันโพสรายชื่อเรื่องที่มันไม่สามารถขอ LC ได้เพิ่มแล้วว่ะ นิยายเบนโตะ อดเลย
แต่ๆ กูขอแคมปิโอเน่ไป แต่แม่งไม่เห็นมีในรายชื่อเลย
เพื่อนโม่งถามไรหน่อย เคยเจอLNเล่มไหนแปลด้วยสรรพนามแบบว่า เจ้ากับข้า อะไรทำนองนี้มั่งปะ?
และถ้ามันจะเป็นเรื่องแนวไหนบ้างอ่ะ ญี่ปุ่นโบราณอย่างเดียวเลยปะ? แนวอื่นล่ะมีมั้ย
เจ้ากับข้า แนวแฟนตาซีก็ใช้เยอะแยะ
เพ้อเจ้อนะ ฝันว่าลักจะได้ซูเปอร์แดชเนี่ย
ไปหวังกับสยามที่แย้มๆ ว่าได้บิ๊กเนมมา (จากค่ายไหนก็ไม่รู้) หลายตัวยังมีลุ้นกว่าอีก
ไปดูลิสท์มาละ ...ขอกันได้โคตรปัญญาอ่อนไร้สติปัญญาสุดๆ เลยว่ะ เห็นแล้วสงสารคนดูแลเพจแม่งเลย ต้องมาคอยฟังเรื่องโง่เง่าพรรค์นี้
แถมไอ้พวกคอมเมนท์ที่ตีความควายๆว่า "ลักไม่ได้ = ค่ายอื่นเอาไปแล้ว" นี่แม่งน่าถุยน้ำลายรดหัวสุดๆ
ได้ข่าวมาว่าปีหน้าจะมี สนพ ที่ไม่ได้ทำการ์ตูน มาเปิดตลาด LN เพิ่มอีกว่ะ ไหนจะ สนพ boomtown ที่ยืนยันแล้วว่าจะทำ LN ด้วย ฟองสบู่ชัด ๆ
ชิ้นเค้กโควต้าต่าง ๆ จะถูกแบ่งสรรไปให้ที่ไหนบ้างอีกละเนี่ย
ลิสต์นี่อยู่ที่ไหนเรอะ?
กูอยากรู้ตอนนี้อากู๋แม่งรู้สึกยังไงที่ไปปิดบลิส
เสียดายเพราะตลาดกลับมาบูม?
โล่งอกเพราะเผ่นมาก่อนจะแขีงขันกันแรง
ฟองสบู่แตกนี่เกิดจากพวกอ่านตามกระแสเลิกอ่าน เลยเจ๊ง อะไรแบบนี้ป่ะ?
หรือเกิดจากตัวสนพเองแปลห่วย ดอง หาคนแปลไม่ได้
เงินที่ได้จากบลิสต่างจากเงินที่ได้จากบอลว่ะ ไอ้อย่างหลังกำไรเน้นๆอยู่แล้ว แต่ไอ้อย่างแรกแม่งต้องเอานั่นโปะนี่ บางเล่มก็ขายไม่ออกยอดขายไม่ดี แม้แฟนๆค่ายนี้จะเยอะก็เหอะ แต่ใช่ว่าจะอ่านทุกเรื่องที่ออกมากัน
บลิสมันทำมานานพอจะรู้ว่าขายแบบให้เข้าถึงหลายๆกลุ่มได้ยังไง ตอนนั้นกุก็เริ่มรู้จักค่ายนี้เพราะเรื่อง เดอะริง สไปรัล ลูป แล้วก็ทิ้งช่วงไป
มาติดอีกทีตอนไลท์โนเวล โทระโดระ และก็เรื่องแปลกๆ อย่าง kai no kanojo นักสืบนีท เลยซื้อมาหลายเล่มอยู่
ปล. กุจำได้ว่าเคยเห็นข่าวแกรมมี่หุ้น,ผลตอบแทนตกติดต่อกันสามไตรมาสเลยไม่ใช่เรอะ
อดสงสัยในเซนชูกับลักพิมพ์ไม่ได้เลยจริงๆว่ะ บลิสนี่ขายได้กว้างขวาง คนต่อแถวซื้อในงานก็น่าจะเยอะพอกับพวกเซนชู+LP เจ้าของยังบอกไม่คุ้ม
แล้วเซนชูกับลักพิมพ์มันได้กำไรจากหนังสือจริงหรือว่ามันเป็นธุรกิจฟอกเงินอย่างที่ลือกันกันแน่วะ
เรื่องของบลิสเท่าที่ฟังจากพวกรุ่นพี่มา ไม่ได้มีแค่เรื่องแกรมมี่จะเอาเงินไปลงกับถ่ายบอลนะ ยังมีเรื่องเปลี่ยนผู้บริหาร ซึ่งคนนั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องหนังสือเท่าไหร่ พวกขั้วเก่าก็เลยเล็งจะย้ายไปเปิดบริษัทใหม่กันอยู่แล้วด้วย (ปัจจุบันคือ Talent1) พอหัวไป มือขวามือซ้ายตามไป แกรมมี่ก็เลยปิดบริษัทลอยแพหางๆ แม่งเลย
talent1 ทำปก ok อยู่ แต่ประชาสัมพันธ์ แม่งแย่หว่ะ ไม่รู้ทำไม เหมือนกับ บลิส ทำให้ชื่อดังกว่า
>>339 เขาไม่ค่อยอยากค้าขายกับโอตะตั้งแต่ตอนเป็นบลิสแล้ว เพราะติดภาพความเรื่องมาก เป็นนักอวยมากกว่านักอ่าน
ช่วงรอยต่อระหว่างบลิสกับเซนชู เคยมีบก.จากกลุ่มทุนหนาพอได้ ชวนทำ LN เน้นของ Media Works คือกะมาแทนบลิสเลย
คุยกันไม่เท่าไร บก.คนนั้นมีเรื่องกับนายทุน แล้วก็ออกไปทำหนังสือของตัวเอง แผนล่ม จากนั้นก็มีข่าวว่าเซนชูได้ Media Works ไปอย่างที่เห็นทุกวันนี้
เอาจริงๆ ปิดบลิสกับบอลมันไม่เกี่ยวกันเลย เพราะมันมีชะตากรรมต้องปิดมาตั้งแต่ผู้บริหารคนเดิมออกไปแล้ว คนที่ออกไปตั้งทาเลนท์วันนั่นแหละ
คนใหม่เข้ามาบริหารแบบโดนจับนั่งเก้าอี้่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ก็เลยไม่ยอมเซนอนุมัติอะไรเลยซักอย่าง (ไม่รู้ว่าไม่อยากรับผิดชอบหรืออะไรกันแน่)
ยักแย่ยักยันกันอยู่เป็นปี จนในที่สุดก็ต้องปิด
เรื่องบอลน่ะมันแค่บังเอิญเกิดขึ้นในจังหวะตรงกันเท่านั้น หาความเกี่ยวข้องแทบไม่ได้เลย
เออ แล้วขั้วเก่าก็ไม่ได้ย้ายไปขั้วใหม่เยอะอย่างที่คนพูดกันหรอกนะ แถมตอนนี้ขั้วเก่าบางคนอยู่ได้ไม่นานก็ออกไปแล้ว มันมีปัญหาภายในกรุ่นๆ อยู่
กูยอมรับว่า LN ส่วนใหญ่มันมีสไตล์การเขียนเหมือนอ่านการ์ตูนนะ นักอ่านนิยายแปลทั่วไปหรือผู้ใหญ่ไม่มีทางชอบ แต่กูเสียดายบางเรื่องเช่น สาววรรณกรรม ว่ะ คือมันเหมือนนิยายแปลญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไปเลย แค่มีภาพการ์ตูนบนปกและแทรกข้างในเท่านั้นเอง ซึ่งจริง ๆ กูว่าผู้ใหญ่น่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยากแท้ ๆ
>>344 เห็นด้วยมากๆ โอตาคุบางพวกแม่งหัวสูงไม่เข้าท่า ชอบเรียกร้องโน่นนี่ พอสนพ.ทำจริงเสือกไม่ซื้อของเค้า
ไอ้พวกโอตาคุอินเดกซ์นี่เป็นตัวอย่างที่ดี กูเจอเยอะมาก ตอนมันยังไม่ LC แม่งโอดครวญกันยกใหญ่ ทำไมไม่มีคนกล้าเอาเข้ามาทำ อย่างงั้นอย่างงี้
พอมีคนทำจริง ก็ไอ้พวกหน้าเดิมๆ นั่นแหละที่บ่น ไม่ซื้อ ไม่ซื้อ มันยาวเกินไป มันออกเร็วเกินไป มันออกช้าเกินไป เล่มแรกๆ รูปไม่สวย ดูอนิเมแล้ว
ควย กลับ "ทะเล" ของพวกมึงไปแล้วอย่าออกมาให้กูเห็นข้างนอกอีกนะ ไอ้ปลิงทะเลถ่วงความเจริญ
กุขำตอนที่แม่งบ่นกันว่ามีคำว่าครั้งที่สองบนสันปก เลยไม่อยากซื้อ
ไอ้เหี้ย เรื่องแค่นี้มึงยังบ่ยชีวิตมึงคงสงบสุขกันมากสินะ
ว่าแต่เฮียวกะนิยายนี่ออกครบยังวะ กูไม่อยากได้ปกอนิเมเลยว่ะ ถอดทิ้งไง้ที่ชั้นแล้วเอาไปจ่ายตังค์ได้ป่ะ
พวกโอตะไทยแม่งก็คิโม่ยแบบไม่ลงทุนกันนั่นล่ะ เอาแต่บ่น บ่น นั่นเหี้ย นี่แย่ แล้วก็เสือกไม่ซื้อ แล้วมันจะมีเงินมาพัฒนาวงการที่พวกแม่งบ่นๆว่าเน่าหนอน กำไรน้อยได้เหรอวะ โอตะยุ่นมันเยอะแต่มันก็ยังทุ่มกับสิ่งที่มันรักแบบสุดๆนะโว้ย
>>342 >>346 พวกที่เรีียก กับพวกที่ไม่ซื้อ มันคนละคนกันว่ะ
พวกที่เรียกร้องส่วนมากมันก็เรียกร้องเพราะอยากซื้่ออยู่แล้ว ไอ้พวกเกรียนที่เรียกร้อง LC เล่น ๆ แต่ไม่ได้อยากซื้อมันเป็นส่วนน้อย
ค้าขายกับโอตาคุ ตัวเลขกำไรมันเยอะ ถึงโดนด่าก็คุ้ม
สนพ ทั้งหลายมันถึงได้ทำ LN กันเป็นว่าเล่น ตอนแรกสนพ ที่ทำ LN มีอยู่แค่ สนพ เดียว
เดี๋ยวนี้แทบทุก สนพ พยายามจะจับ LN มาทำกันหมด
มันไม่ได้ทำเพราะอยากเปลืองตัวยอมโดนด่าฟรีๆเพื่อช่วยเหลือให้เหล่าโอตาคุได้อ่าน LN กันหรอกนะโว้ย
มันทำเพราะกำไรดี
มึงดูอย่างร้านขายของโอตาคุในเซ็นทรัลเวิลด์ก็ได้
ค่าเช่าที่เซ็นทรัลเวิลด์ก็ไม่ได้ราคาถูกๆ ของที่สั่งมาแล้วขายไม่ออกก็เต็มร้าน ยังไปเปิดสาขาสองสาขาสามได้ คิดว่ากำไรมันน้อยเหรอวะ
โอตาคุที่ไม่ใช่ปลิงมันกระเป๋าหนัก พวกมึงไม่รู้เหรอ เพจขายของโอตาคุบางร้านคิดเรท 0.5 หรือ 1.0 ยังมีคนซื้อเลย
ไอ้พวกที่ไม่ซื้อ มันก็ตั้งใจจะไม่ซื้อแต่แรกอยู่แล้ว แล้วก็หาข้ออ้างนู่นนี่
ไอ้พวกที่ตั้งใจจะซื้อ ถ้าสำนักพิมพ์มันไม่ได้ทำออกมาไม่ดี มันก็ซื้อ
กูจะไม่แปลกใจด้วยซ้ำถ้าวันนึงสยามกับเนชั่นเปิดแผนก LN ตามสำนักพิมพ์อื่นๆบ้าง
>>343
จะว่าไม่เกี่ยวก็เหมือนเกี่ยว เพราะตอนนั้นกำลังระดมทุนมาประมูลลิขสิทธิ์บอลด้วย ปิดบลิสก็เหมือนลดต้นทุนที่ว่ามาใส่อีกที่
ไอ้บก.ที่มานั่งต่อก็เคยเป็นหัวหน้าของอีบก.คนที่ออกนั่นแหละ แต่เป็นพวกนิตยสารดาราไฮโซแฟชั่น พออีลูกน้อง ได้แยกตัวไปเป็นบก.บลิส เลยเหมือนข้ามหัวไป แถมดันทำกำไรดีอีกช่วงนั้น
มาโดนบีบออกเพราะดันไฟแรงเกินขอทุนไปทำนิตยสารดาราอีกหัวแล้วดันเจ๊งเละเทะ
บก.ที่มาแทนเลยเหมือนมารับไม้ต่อจากอดีตลูกน้องมันเลยพาลไม่อยากทำห่าไรแทน อีโก้ล้วนๆ
ถ้าจะบิ๊กเนมอะไรกันในเวลานี้ ก็คิดได้แค่สองอย่างว่ะ
1. มันเจาะซูเปอร์แดชได้จริงๆ
2. มันเข้าไปซื้อมีเดียเวิร์คได้แล้ว
(ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า หลังๆเซนชูไม่ประกาศ LC ใหม่ๆ จากมีเดียเวิร์คมากเท่าไหร่ กลับเอาแต่ประกาศตัวเห่ยๆ ของคาโดคาวะกับมีเดียแฟคเพียบ ลักพิมพ์หลังคุณหนูโอตาคุก็เงียบไปเลย เอพลัส นอกจากอินเดกซ์ก็ปล่อยมาแค่สองสามเรื่องที่ไม่ค่อยดัง มันคงมีเบื้องหลังอะไรแหง)
เบื้องหลังคือป่าเต่าสินะ
สยามมันเปิดแผนก LN ตั้งนานแล้ว แต่ออกตัวช้า BIG NAME ไม่เหลือให้มันสอยแล้ว
มันเลยเอา JUMP NOVEL นำร่องก่อน สยามถึงมันสายป่านยาวแต่ก็เสียท่าได้
ไอที่บ่นๆกันเรื่องอินเด็กนี้ส้นตีนจริง แม่งคงปวดกบาลน่าดูอ่ะ เอาใจเด็กโปกไม่ถูก
ปกติกูอ่านของกูไปคนเดียวไม่ค่อยสนใจอะไรนะ
แต่บอร์ดโม่งทำให้กูรู้สึกว่า วงการLNแม่งน่าสะพรึงชิบหาย มันจะอะไรขนาดนั้นวะเนี่ย
เหยดเข้ LN หรือ วงการพระเครื่องวะ กุจะหาข้อมูลเรื่องนี้เชิงลึกได้จากไหนมั่งเนี่ย?
นีถ้าฟอกเงินจริงบริษัทมันจะอยู่หรือจะไปเมื่อไหร่ก็ได้น่ะสิ ตามแต่เจ้าของเงินจะโยกไปทำอย่างอื่นรึป่าว
เสียวโดนลอยแพมันทั้งนิยายทั้งพนักงาน
พอดีทายาทมันเอาดีทางนี้ มันเลยเอาเงินมาลงฝั่งนี้
ไปๆมาๆแม่งจุดประเด็นสนพ.ที มีเงี่ยนงำโผล่มาเพียบ
มันมีรายไหนตั้งใจทำหนังสือจริงๆ บ้างวะ ไม่มีเบื้องหลังซ่อนอยู่ กูจะได้ไปช่วยอุดหนุนมันบ้าง
เออ กูเคยได้ยินเด็กบลิสเคยบอกว่าไลท์โนเวลมันกำไรน้อย พอย้ายไปเปิดทาเลนต์วัน เลยไม่ทำต่อ
ยากว่ะเรื่องตั้งใจจริง ทำมาแล้วยังไงก็ไม่ถูกใจคนทุกคนอยู่ดี ยิ่งพวกประเภททำการค้าไปด้วย อยู่กับ Community ไปด้วยจะเซนซิทีฟเป้นพิเศษ ประมาณว่าพอมีกระทบกระทั่งอะไรหน่อยในcommunity ก็ออกมาดราม่า บางรายอะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้อ เด็กน้อยหนักๆก็เลิกทำไรงี้
พวกที่ทำด้วยใจนั่นแหละ คือพวกแรกที่จะเลิก เพราะมันเซนซิทีฟกว่าใครๆ
กระทบนิดกระทบหน่อยก็ดิ้นพราดๆ เหมือนโดนเอาเกลือทาแผลแล้ว
เฮ้ย ไม่มีใครสงสัยเหมือนกูเลยเรอะ ว่าอนิแม็กมันขอตัวทีมงานบลิสที่ชอบทำ LN ไปอยู่ด้วย เพราะ จากสภาพหนังสือ ทั้งชนิดกระดาษ รูปเล่ม การพิมพ์ คุณภาพงาน มันเหมือนของบลิสมาก แถมเคยฝากของขายกับบูท talent1 อีก
ผู้บริหารเค้ารู้จักกัน แต่กูว่าอนิแมกมันก็แค่เกาะกระแสบลิสนั่นแหละ
>>368 ถ้า LN มันไม่คุ้มจริงๆสนพ.ส่วนใหญ่มันไม่มาเริ่มทำ LN หรอกว่ะ
แล้วถ้ามันไม่คุ้มจริงๆอนิแมกมันไปก่อนเซนชูกับลักพิมพ์นานแล้ว
มันทำ LN อย่างเดียวไม่ได้ทำมังงะด้วยเหมือนเซนชูกับลักพิมพ์
ถ้าพวกมึงคิดว่าสนพ.ในไทยเป็นบริษัทฟอกเงินกันไปหมดกูว่าพวกมึงเพ้อกันเกินไปละ
พวกที่คิดว่าธุรกิจที่ดูเหมือนจะกำไรไม่ดีคือฟอกเงิน กูจะเล่าเรื่องในวงการพวกนี้ให้ฟังนิดหน่อยละกัน
ในสมัยก่อน จะฟอกเงินต้องทำธุรกิจที่กำไรไม่ดี เพราะอะไร?
เพราะสมัยก่อนการสื่อสารมันแคบ ข้อมูลต่างๆหาได้ยาก ยอมขาดทุนทำธุรกิจที่ไม่เด่นจะปลอดภัยกว่า ไม่โดนเพ่งเล็ง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ฟอกเงินมันก็ทำกันในธุรกิจที่กำไรดีนี่แหละ ไม่ขาดทุนด้วย
เพราะเดี๋ยวนี้การสื่อสา่รมันกว้าง ข้อมูลต่างๆก็หาได้ง่าย ถ้าขืนทำธุรกิจที่ไม่มีกำไรไปเรื่อยๆแต่บริษัทไม่เจ๊ง แถมเจ้าของก็ยังร่ำรวยมีเงินเหลือกินเหลือใช้ จะยิ่งโดนเพ่งเล็งหนักยิ่งกว่าอีก
สมัยนี้ไม่มีใครเค้าฟอกเงินด้วยการทำธุรกิจกำไรน้อยๆกันแล้วว่ะ
กูเห็นเซนชูมันงกบีบต้นทุนด้วยวิธีทุเรศๆ สารพัดวิธี กูก็ไม่คิดว่ามันจะฟอกเงินหรอก
>>378 กำไรมันก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอกนะ
ราคาต่อหน่วยสูงแต่โดนสายส่งแดกหมด สุดท้ายกำไรต่อหน่วยเข้าสำนักพิมพ์มากกว่าการ์ตูนกระจึ๋งเดียว
ธุรกิจสิ่งพิมพ์สมัยนี้แม่งไม่ต่างอะไรกับการทำงานงกๆ ให้นายทุนตัวอ้วนๆ ในสายส่งใหญ่คับประเทศมันสูบเลือด
แบบนี้แล้วอยากรู้ ประเทศอื่นไม่มีวิกฤติสายส่งเหมือนไทยรึ
>>380 เคยอ่านการ์ตูนที่พูดเรื่องสายส่งของญี่ปุ่น ไม่รู้หรอกนะว่ามีฟันกำไรแค่ไหน
แต่บอกว่าร้านหนังสือไม่มีสิทธิ์กำหนดจำนวนเล่มที่จะมาวางขายหน้าร้าน สายส่งจะเป็นคนแบ่งมาให้เอง
บางทีสั่ง 10 เล่ม ได้ครบ 10 เล่ม บางทีสั่ง 10 เล่มได้มาแค่ 3 เล่มหรือไม่ได้เลย (ยิ่งเป็นหนังสือที่กำลังขายดี แทบจะต้องจุดธุปเทียนขอ)
ต่อจากฟอกเงินก็มาเป็นเรื่องสายส่ง
พวกมึงนี่ขยันเชื่อข่าวลือผิด ๆ กันจังเลยว่ะ ใครบอกอะไรมาก็เชื่อหมด
ความเชื่อที่ว่า สายส่งสบาย ฟันกำไรเยอะ มันเป็นเพราะเมื่อสนพ.ส่งหนังสือให้สายส่ง เขาจะให้ในราคา 60% จากราคาปก
คนก็เอาไปคิดกันว่า สายส่งได้กำไร 40% ทั้ง ๆ ที่แทบไม่ต้องทำอะไร แล้วก็คิดว่าสายส่งนี่มันสบาย ทั้งยังเอาเรื่องไปแต่งเติมว่ามีการผูกขาด
ถ้าพวกมึงคิดกันหน่อยก็จะรู้ สายส่งรับหนังสือมาในราคา 60% มันจะส่งให้ร้านหนังสือในราคา 100% ได้ยังไงวะ
ราคาที่ส่งให้ร้านหนังสือจะอยู่ที่ 80-85% นั่นคือสายส่งจะได้เงินแค่ 15-20% เท่านั้น
และเงินส่วนนี้ก็เป็นรายได้ ไม่ใช่กำไร ต้องมีค่าขนส่ง และค่าการบริหารจัดการร้านในสังกัดซึ่งมีเป็นร้อยเป็นพัน ค่าน้ำมันก็ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ค่าสายส่งแทบจะไม่เคยขึ้น คิดว่ามันกำไรดีจริงเหรอวะ
ถ้ามันง่าย สบาย กำไรดี สนพ.มันก็แห่กันไปทำเหมือนที่แข่งกันทำ LN แล้ว แต่ในความจริงมีสนพ.ไม่กี่สนพ.หรอกว่ะที่ยอมทำสายส่งเอง
เรื่องผูกขาด แม่งก็มั่วเรื่องกันขึ้นมาเองเพราะนึกว่าได้กำไรเยอะ ทำไมไม่มีคนมาทำแข่ง
สายส่งไม่ได้มีบริษัทเดียวอย่างที่พวกมึงเข้าใจกันนะ มันมีหลายบริษัท มันมีบริษัทใหญ่สุดได้ส่งหนังสือเยอะกว่าบริษัทอื่นจริง แต่มันก็ไม่ได้ผูกขาด
มันเหมือนธุรกิจไส้กรอก ธุรกิจมันฝรั่งทอด ธุรกิจที่โกนหนวดน่ะแหละว่ะ มีบริษัทนึงเป็นบริษัทใหญ่ครองส่วนแบ่งตลาดเยอะกว่าบริษัทอื่นมาก แต่มันก็ไม่ได้ผูกขาด
>>384 เหมือนจะรู้ลึกนะ แต่กูว่ามึงก็ใช่จะรู้จริง น้ากูทำร้านหนังสืออยู่ที่ต่างจังหวัด ก็บอกกับกูเลยว่าธุรกิจนี้มันไม่ค่อยรุ่ง และเป็นสายส่งน่ะรวยจริงว่ะ
มันกึ่ง ๆ ผูกขาดโว้ย ไอ้พวกเครือซีเอ็ดนายอินทร์มันมีสายส่งของมันเองไม่ต้องไปพูดถึง แต่พวกร้านแผงลอยที่รับนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์มาขาย พวกนี้รับมาจากสายส่งทั้งนั้น และใน 1 จังหวัด มันมีไม่กี่เจ้า (ไม่เกิน 5 หรอก) เปิดเพิ่มไม่ได้เพราะสายส่งทางกรุงเทพมันจะไม่ส่งมาให้ งานสายส่งมันไม่ได้สบาย ต้องตื่นโคตรเช้ามารับของ แต่ก็กำไรดีและมั่นคงกว่าร้านขายหนังสือเป็นไหน ๆ
ไม่ผูกก็เหมือนผูก มีกี่เจ้าที่มีกำลังส่งของไปทั่วประเทศและมีหน้าร้านทั่วประเทศ
สายส่งใหญ่ที่มีหน้าร้านของตัวเอง ขายหนังสือที่ส่วนลดเท่าไหร่ อย่าบอกนะว่าไม่รู้
แล้วจะมาบอกว่าค่าสายส่งแทบไม่เคยขึ้น เอ็งนั่นแหละต้องไปคิดใหม่ หนังสือราคาขึ้นตามกลไกตลาดตลอดเวลา
สายส่งกินเปอร์เซนต์ มันย่อมได้เงินเพิ่มโดยปริยายอยู่แล้ว
ไม่งั้นตอนสายส่งใหญ่บอกขอเปอร์เซนต์เพิ่ม พวกสำนักพิมพ์ไม่ออกไปดิ้นเป็นหมาขี้เรื้อนโดนน้ำร้อนลวกกันทั้งประเทศหรอก
สุดท้ายตอนนี้แม่งก็ขึ้นอยู่ดี แถมเรียกค่าดำเนินการเพิ่มตามจำนวนเล่มด้วย ทั้งที่แม่งไม่เคยรักษา
หนังสือโดนส่งไปพัง waste คาหน้าร้านพวกมันไม่รู้เท่าไหร่ มันคืนเต็มจำนวนมาทั้งเสียๆ แบบนั้น เพราะมันถือว่า "ฝากขาย" ไม่ใช่ "รับไปขาย"
และที่สำนักพิมพ์อื่นไม่ทำของตัวเองแข่ง เพราะโลจิสติคมันต้องเอาทุนลงไปจมเยอะและต้องใช้เวลาเยอะมากกว่าจะอยู่ตัว ไม่ใช่ไม่อยากทำ
ใครกันแน่ที่เชื่ออะไรผิดๆ กูอ่านที่มึงพิมพ์ก็รู้แล้วว่ามึงฟังคนอื่นมาตีความไปเองคนเดียว
>>384 ไอ้ควาย ใครมันจะโง่คิดว่าสายส่งมันกำไร 40% วะ โง่แล้วอย่าคิดว่าคนอื่นโง่สิวะ มันก็กำไร 10-20%
แล้วร้านก็กำไรอีก 10-20% ไอ้นี่น่ะเรื่องปกติ ควายที่ไหนก็รู้เว้ย แต่ปัญหาคือแม่งผูกขาด ทำหน้าที่จัดส่งหนังสือ
เอาหนังสือไปดอง เงินกอง แล้วยิ่งไอ้พวกที่มีสำนักพิมพ์ของตัวเองมึงก็ลองคิดดู เวลาวางหนังสือ มันก็เน้น
ของตัวเอง เพราะกำไรมากกว่า หนังสือมึงก็ไปวางในหลืบ ขายไม่ออกก็ส่งคืน ไม่ได้เสียเหี้ยอะไรเลย
ทีหลังไม่ต้องพูดก็ได้ กลัวคนไม่รู้ว่าโง่หรือไง นี่ถ้าไม่ใช่เว็บโม่งมึงคลุมปี๊บได้เลย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=646196758757067&set=a.135729916470423.12140.134815576561857&type=1&theater
มีมาดองอีกเรื่องกับLP ตอนนี้ออกมากี่เล่มแล้ววะ ดูแต่อนิเม
เจ้าอื่นๆตายเรียบ อย่าง mbook ไปบ้านนอกแล้ว หนี้ท่วม
ใครแปลหว่า? LP เน้นพิมพ์เรื่องเดิม ๆ ให้ออกอย่างต่อเนื่องมั่่งก้อได้นะ ฮึ่ม
ใครวงในLPมาไขข้อข้องใจทีสิสงสัยมานานละ
ทำไมบางเรื่องแม่งดองข้ามปีข้ามชาติเหลือเกินวะ
คนไปถามในเฟซแม่งก็ทำมึนข้ามไม่ตอบเฉยเลย
มีปัญหาเรื่องคนแปลอย่างเดียวหรือว่ามีเรื่องอื่นด้วยวะ
หรือว่าเรื่องนั้นมันขายไม่ดีเลยกะตีเนียนลอยแพไปเลย???
อยากพูดนะ แต่ถ้าพูดมากไปโม่งกูจะหลุดได้ง่ายๆ
สรุปสั้นๆ ก็คือบริหารภายในไม่ดีว่ะ
ผู้กล้าซึนซ่าส์
ใครแม่งเป็นคนคิดชื่อวะ กุจะเป็นลม
ช่างมัน แปลดีเป็นใช้ได้
brother conflict เล่ม3จะมาแล้ว เร็วมาก
Tokyo Ravens EX2
February 20, 2014
http://www.kadokawa.co.jp/lnovel/bk_detail.php?pcd=301310010404
แล้วเล่ม 11 ล่ะครับ… แต่เรื่องสั้นเรื่องใหม่เป็นเรื่องของโอโทโมะสมัยเรียนเรอะ
>>385 มึงไปศึกษาคำว่า ผูกขาด มาก่อนดีมั้ย
สายส่งบริษัทอื่นไม่ส่งเพราะมันไกล แปลว่าสายส่งที่เค้ายอมส่งผูกขาดเหรอวะ?
แปลว่าในบางจังหวัดนี่ Pizza Hut ผูกขาดการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ใช่มั้ยวะ เพราะในบางจังหวัด KFC กับ Mc มันไม่มีบริการส่งถึงบ้าน
ส่วน Amazon ก็ผูกขาดการสั่งหนังสือออนไลน์ใช่มั้ย เพราะบริษัทอื่นมันส่งได้ไม่ทั่วทุกพื้นที่
>>386 มึงนี่อีกคน มึงเข้าใจความหมายของคำว่าผูกขาดมั้ย
ตามกฎหมาย นิยามของการผูกขาดคือการทำให้คู่แข่งมาแข่งขันด้วยไม่ได้
นี่สายส่งบริษัทใหญ่มันไม่ได้ทำอะไร บริษัทอื่นมันไม่ยอมไปส่งเองเพราะมันไกล ลำบาก ไม่คุ้มทุน
ทำไมกลายเป็นว่าบริษัทใหญ่ผิดวะ
"และที่สำนักพิมพ์อื่นไม่ทำของตัวเองแข่ง เพราะโลจิสติคมันต้องเอาทุนลงไปจมเยอะและต้องใช้เวลาเยอะมากกว่าจะอยู่ตัว ไม่ใช่ไม่อยากทำ"
ก็ไอ้นั่นแหละที่เค้าเรียกว่าไม่คุ้ม มันถึงได้ไม่ทำกัน
>>387 http://pantip.com/topic/30585459
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2012/07/K12426818/K12426818.html
http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums2/http/www.pantip.com/cafe/library/topic/K6404911/K6404911.html
http://terasphere.exteen.com/20100618/entry
https://www.facebook.com/sasdha/posts/210843919016291
มึงเอาไปดูนะ ว่ามีคนหลงเชื่อไอ้เรื่องสายส่งได้ 40% ไปเต็ม ๆ กันเยอะ
มึงอย่าดูถูกมันสมองของเพื่อนร่วมชาติของ ข่าวลือตอแหลห่าเหวต่างๆมันยังมีคนแชร์เป็นพันเป็นหมื่นอยู่ทุกวัน เดือนนึงๆมึงเห็นคนแชร์เรื่องไม่จริงมากี่หน มึงก็น่าจะพอรู้ระดับสติปัญญาเพื่อนร่วมชาติของเรานะ
กูงงมึงที่สุดแล้วเนี่ย มึงก็รู้ว่าสายส่งมีหลายบริษัท แล้วทำไมมึงถึงคิดว่าสายส่งบริษัทใหญ่มันผูกขาดวะ
แล้วสายส่งไม่ได้เอาเงินไปกองนะ เวลารับหนังสือมา สายส่งจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าให้บริษัทหนังสือไปก่อน มากน้อยแล้วแต่บริษัท
มันจะเอาเงินไปกองยังไงวะ
กูเคยเข้าไปช่วยงานบริษัทสายส่งเล็กๆแล้วกูเคยถามเจ้าของว่าทำไมบางทีมีร้านมาติดต่อแล้วถึงไม่ตกลงรับไปส่งให้ คำตอบมันก็ออกมาง่าย ๆ ว่า
ไกล ไม่มีลูกค้าอื่นแถวนั้น ไปเพื่อส่งร้านเดียวมันไม่คุ้ม ที่บริษัทใหญ่ๆเขาไปส่งได้เพราะเขามีร้านในสังกัดอยู่ในท้องที่นั้นหลายร้าน เวลาไปส่งแล้วมันคุ้ม
ไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรกับการผูกขาดเลย
ถ้าสายส่งมันกำไรดีจริง ป่านนี้มึงคงเห็นชื่อบริษัทติดอยู่เป็นอันดับต้นๆของประเทศไทยแล้ว ส่วนชื่อเจ้าของบริษัทก็คงติดอันดับมหาเศรษฐีเมืองไทยไปแล้ว เพราะร้านทั่วประเทศอยู่ในสังกัดของเขาหมด เพราะบริษัทอื่นมันไม่ค่อยยอมไปส่งไกลๆ
บริษัทสายส่งใหญ่รวยจริง แต่ก็รวยในระดับธรรมดา ถือว่ารวยน้อยมากด้วยซ้ำสำหรับธุรกิจระดับที่มีสาขาอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ธุรกิจอื่นๆในระดับเดียวกันรวยกว่าสายส่งไม่รู้กี่เท่า เลิกมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับบริษัทสายส่งได้แล้วพวกมึง
สรุป สายส่งใหญ่ไม่ได้ผูกขาด แค่พวกเล็กๆไม่มีปัญญาแข่งด้วยเท่านั้นเอง เคนะ
>>407
สายส่งไม่ได้ผูกขาดหรอก ร้านหนังสือต่างหากที่ผูกขาดโดยสองเจ้าใหญ่
ถ้าไม่ส่งเข้าสองร้านนี้ก็ไม่ต้องขายกันล่ะปนะเทศนี้ แล้วสองเจ้านี้ก็รวมหัวกันขอคิดค่าส่วนแบ่งได้ด้วย (สองเจ้านี้ก็เป็นสายส่งด้วย โอย ซับซ้อน) ใครไม่พอใจก็ไม่ต้องเข้ามาขาย ไม่ต้องเอามาส่ง แล้วมันจะไปวางขายกันที่ไหน
ก่อนหน้านี้มีคดี ไทยรัฐ -ซีเอ็ด (http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2006/11/I4844871/I4844871.html)
สั้นๆ คือ ไทยรัฐมันมียี่ปั้วหัีวเมือง แต่ซีเอ็ดดันแข็งเมืองไม่ยอมรับจากยี่ปั้ว จะให้ยี่ปั้วกลางของมันส่งเอง
ยี่ปั้วหัวเมืองเลยรวมหัวฟ้องไทยรัฐ ไทยรัฐเลยยื่นคำขาดว่า ใคร (หมายถึงสนพ.) คนไหนส่งของให้ซีเอ็ด ไทยรัฐและยี่ปั้วทั่่วประเทศจะเลิกคบ ยี่ปั้วทั่วประเทศจะไม่ขายของให้ พวกสนพ.ก็หงอดิ ไม่ส่งเข้าซีเอ็ด
สุดท้าย ซีเอ็ดต้องมาง้อไทยรัฐ (จริงๆ คือผู้ถือหุ้นซีเอ็ดมากดดันให้ซีเอ็ดมาง้อไทยรัฐ)
ทีนี้ถ้าสนพ.มันไม่ใหญ่เท่าไทยรัฐ ใครจะไปสู้ร้านใหญ่ (และสายส่ง) สองร้านนั้นได้ ?
>>405 "แล้วสายส่งไม่ได้เอาเงินไปกองนะ เวลารับหนังสือมา สายส่งจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าให้บริษัทหนังสือไปก่อน มากน้อยแล้วแต่บริษัท"
ประโยคนี้มึงจบละ สายส่งใหญ่แม่งเครดิทหกเดือน สายส่งเล็กเดี๋ยวนี้ก็เครดิต มีบางเจ้าเท่านั้นที่ซื้อขาดเป็นจำนวนนึง ที่เหลือเครดิตอยู่ดี
ไม่มีใครจ่ายเงินล่วงหน้ากันแล้ว ไม่ได้รู้เรื่องจริงอะไรเลยนี่หว่า ทำเป็นมาพูดดี
>>408 ซึ่งมันก็คือการผูกขาดโดยพฤตินัย
เครดิตไลน์หกเดือนเลยเหรอวะวงการนี้ ของกูเดือนครึ่งก็ทำท่าจะเบี้ยวเนียนประจำอยู่ละ ห่าราก
6 เดือนนี่อย่างเร็วแล้วนะเว้ย เคสปกติคือ 6 - 10 เดือนดึงเช็งจนสำนักพิมพ์ชักหน้าไม่ถึงหลังแล้ว
ปกดันมาจิภาค Sword Oratoria มาแล้ว (by ไฮมุระ)
http://i.imgur.com/MUJ5p8c.jpg ลิมิท
http://i.imgur.com/MJt3zZZ.jpg ธรรมดา
อะมาซอนสองคนในปกลิมิทนี่ทีโอน่ากับทีโอเน่ แล้ว Elf ตาฟ้านี่ใครฟะ…
เอลฟ์ในโลกิก็นึกออกแค่เรเวเรีย แต่อิมเมจคนละเรื่องกับที่คิดไว้เลย
http://pantip.com/topic/31413024 หวังว่าไอ้โง่นี่คงไม่ใช่โม่งที่เคยพูดแบบเดียวกันในนี้หรอกนะ
ไม่ต้องถึงกับโม่งในนี้ ขนาดพวกพันทิพแม่งยังไม่มีใครเห็นด้วยกับแม่งซักคนเลย
ไอ้กุโรนแม่ง...
กระทู้โดนหิ้วไปอีกแล้ว ไรว้า
ตั้งกระทู้แสดงเจตนาเสี้ยมแบบโจ่งแจ้งในพันทิปแบบนั้น กระทู้ก็ปลิวง่ายปลิวเร็วแบบนี้แหละ
บก.เซ็นชวยมันขาใหญ่ในพันดริฟนี่
ครั้งก่อนกระทู้จับผิดแปลก็ปลิวหาย
กระทู้เสี้ยมด่า vbk หรือเจ้าอื่นอยู่ได้
แต่พอแต่เซ็นชวยปั้บ ปลิวหายตลอด
"ซ่าส์ " มันมีในพจนานุกรมหรือวะ แค่ชื่อก็ผิดแล้ว
สมแล้วที่บก. K เคยพ่นว่า ผมไม่ใช้พจนานุกรมในการตรวจงาน
K ย่อจาก KUY อ๊ะเปล่าวะ
มุกกูไม่โบราณ กูยังไม่แก่โว้ย เรื่องนี้ไม่กี่ปีเองสัด!!
ไม่กี่ปีบ้านพ่อง... ยุคกูเริ่มดูอนิเมเลยนะนั่น
http://upic.me/i/o1/1525293_529350363826829_1338355859_n.jpg
555...555...555...
ขาใหญ่จริงๆนะครับเเหม่
แปล "คำหัวเราะ" ว่า 5555
พวกมึงเอาภาษาอินเตอร์เนตมาใช้แปลกันเนี่ยนะ
น่าจับไปคัดลายมือ555จบ ทั้งคนแปสยันบก.
ถ้าญี่ปุ่นมันใช้ wwww มากูจะไม่ว่าซักคำ
>>411 กูบอกแล้วว่ากู เคยทำ ไม่ใช่ ทำอยู่ ถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างแล้วแปลกตรงไหนวะ
ที่บริษัทกูเคยทำ ก็กึ่งเป็นเครดิต แต่ก็กึ่งเป็นการจ่ายล่วงหน้าว่ะ บริษัทจะโดนสำนักพิมพ์ให้จ่ายเป็นเช็คไปก่อน ลงวันที่ไว้สามเดือนข้างหน้า
ซึ่งเวลาไปรับหนังสือต้องเอาเช็คไปให้เขาทุกงวด ไม่งั้นทางนั้นจะยอมไม่ให้หนังสืองวดใหม่ ตัวเงินที่ค้างเขาจริง ๆ มันจะเท่ากับหนังสือแค่งวดเดียว
เช็คที่จ่ายออกไปแล้วมันเบี้ยวไม่ได้ ถ้าเช็คเด้งก็โดนขู่จะฟ้องอีก
กูก็ยังยืนยันคำเดิม สู้เขาไม่ได้ เลยไม่สู้เขา ไม่ใช่ผูกขาด
กูขอถามโม่งที่คิดว่ามันคือการผูกขาด ถ้าพรุ่งนี้กูไปเปิดร้านขายไก่ทอด แล้วสู้ KFC ไม่ได้ แสดงว่า KFC มันผูกขาดธุรกิจไก่ทอดใช่ไหม?
>>428 มึงก็บอกอายุมาเลยจะได้รู้ว่าแก่ไหม ที่นี่บอร์ดโม่งอยู่แล้ว อายอะไร
18 แล้วรู้จักด้วยโคตรอเมซิ่ง กรูยังต้องนึกชื่อตั้งนาน
>>437 เพิ่งรู้ว่าเจ้าใหญ่แม่งล่อเครดิต 6เดือน ตูโดนแค่ 3 เดือน เลยนึกว่ามาตราฐานนะเนี่ย
สมัยก่อน สายส่งเจ้าเล็กเจ้าน้อยตรึม ตอนนี้เรอะ ปิดตัวไปหลายเพราะคนบริโภคน้อยลงที่อยู่ได้คงมีแต่สายส่งใหญ่ๆ ทุนเยอะๆ ซึ่งก็มองอีกมุมก็เหมือนผูกขาดได้ ล่ะ มันกลายเป็นตลาดผู่แข่งขันน้อยรายไปแล้ว
ที่ต่างประเทศมันมีกฏเลยนะว่าร้านหนังสือห้ามสังกัดสำนักพิมพ์ เพื่อที่จะ คุม การกระจายหนังสือให้เท่าเทียมกัน ไม่งั้นแม่ง สำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ก็ ยึดหัวหาดร้านหนังสือไปหมด ทีนี้คนทำหนังสือตัวเล็กๆ ก็มีแต่รอวันแห้งตายไป ( -- )/ ก็ ปล่อยให้ตายๆ ไปเถอะ ประเทศไทย เอกลักษณ์ไทย หนึ่งเดียวในโลก แต่ก็นั่นแหละ การบริโภคหนังสือมากขึ้น เดี๋ยวมันก็โตขึ้นมาเองแหละ ร้านประจำตู ปิดร้านไป 2 ตอนนี้เหลือที่เดียวเองที่ยังพออยู่ได้เพราะค่าเช่าที่เขาถูกและทำเองไม่ได้จ้างคนทำให้ทุนไม่ค่อยโดน แต่ก็แทบเดือนชนเดือนเหมือนกัน เซ็งมากๆ เลย ตูคิดถึงช่วงเวลาที่ไปชอปปิ้งหนังสือเล่มละ 30-35 บาท 3 เล่ม 100 บาท อยู่เลยฟะ T T ช่วงนั้น แฮปปี้สุดๆ
โชโกเก็ตเต็นแม่งซื้อของ VBK ไปแล้วคนเขียนแม่งย้ายค่าย ไม่ซื้อตามอีกเลย
มีใครซื้อจอมมารแม็กไปแล้วบ้างปะ แปลเป็นไงบ้าง
กูอยากอ่าน Maburaho แม่งเก่าไปป่าววะ
แต่ปัจจุบันยังไม่จบเลยนะ กูชอบกว่าแคมเฟะที่จบไปแล้วอีก
>>447
มึงลองไปดู http://pantip.com/topic/31411056
กำหนดมันออก 24เดือนนี้ แต่กูว่าร้านใน กทม. คงมีขายแล้วว่ะ
เมื่อวานกูยังไม่เห็นที่เซ็นลาดนะ
ซื้อแล้วเอาชื่อคนแปลมาบอกกันหน่อยนะโม่ง
ของแถวบ้านกูคงดีเลย์เหมือนเดิมน่าจะมาวันพุธ
ตจว นี่มัน ตจว จริงๆสัส
ตกลงนิยายเซ็นชวยมันขายไม่ดีหรือวะ ทุกวันนี้ยังเป็นฉบับพิมพ์ 1
หรือว่าพิมพ์หนึ่งมันพิมพ์หมื่นเล่มวะ
ไม่รู้ว่ะ ปกติพิมพ์นิยาย/การ์ตูนเค้าพิมพ์กันทีละกี่เล่มวะ? เรื่องดัง/เรื่องไม่ดัง
มินิมั่มสามพัน นี่ข้อมูลเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้กูไม่ได้แปลละ
http://pantip.com/topic/31422199 คิดว่าจะโดนลบมั้ย เพื่อนโม่ง
คห.3 แม่งออกตัวล้อฟรีเลยทีเดียว จะหน้าแหกป่ะวะ
คห.3 แม่งก็อยู่ในนี้นะ
มึงว่าพิมพ์แก้จะมีอะไรดีขึ้นวะ
ถ้าคนแปลคนเดิม บก.คนเดิม
อย่างมากก็แค่แก้คำผิด ?
แดกเงินโอตะโง่ๆให้อิ้มแปล้ไปวันๆ แก้ทำไม มันซื้อกันไปหมดแล้วไม่ซื้อซ้ำหรอก รอลอกแดกเล่ม/เรื่องใหม่ๆต่อดีกว่า ง่ายกว่าเยอะ
มีโม่งไหนจะกล้าแนะนำมะ? ว่าค่ายไหนนักแปลคนไหน (หรือแปลเรื่องไหน) แปลแบบให้ผ่านได้ซื้อแล้วไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกรอบ
อย่างสาวน้อยวรรณกรรมของเซนซวยนี่คิดว่าโอเคนะ ที่มะนาวแปลก็อ่านลื่น
ร้ากกกพิมพ์กะเอพลัสนี่ไม่รู้
รักพิมพ์กับเอพลัสรวมๆดีหมดแหละไม่ต้องคิดมาก คิวซีมันดี
LPถ้ามันไม่ดองนิยายเก่าๆจะดีมาก
>>464
เท่าที่เห็นของ DEX ไม่ค่อยมีปัญหา ไม่มีเรื่องไหนที่ตกเป็นจำเลยสังคมเป็นพิเศษ
ไม่ต้องมาคอยลุ้นว่าเรื่องไหนแปลดี เรื่องไหนแปลแย่ เพราะมันถัวๆ โอเคซะส่วนใหญ่
จะมีจริงๆ ก็แค่ไอ้นิยายจอมมารหลังห้อง เวอร์ชั่น "เจ้ากรรมนายแก" ที่ผิดทุเรศอยู่สองเล่ม
แต่ตอนหลังก็พิมพ์แก้ออกมาหมดแล้ว และตัวคำแปลจริงๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เอพลัสผมว่ามันหน้าเบี้ยวเป็นปกติอยู่ละ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนไรน่ะนะ
เพราะมันไม่ใช่ขนาดต้องมาอ่านแล้วหัวหมุนอย่างของเซนชูบางเรื่อง
ญี่ปุ่นมันไว้ใจได้นะ ไอ้ ruicosta แต่ภาษาไทยมันไว้ใจไม่ได้ต่างหาก
เพื่อนน้อยเล่มหนึ่งเจอเคาะ space ทุกสามพยางค์แล้วกูด่าพ่อเลย
มึงจะพิมพ์ แล้วเว้นวรรค เหี้ยอัลไล นักหนาวะ
โปรเลยนี่ยอมให้เซเบอร์กับมะนาวเหมือนกัน ตอนแปลมานี่คุ้ยข้อมูลมาให้เสร็จสรรพ
กูยังจำตอนที่เซเบอร์มันบากหน้ามาถามเรื่องเกมจีบสาวในหมวดเกมเพื่อจะเอาไปย่อยมุกในเนียลโกะได้อยู่เลย เพื่อนกูเป็นบก.ยังไม่แก้ข้อมูลเรื่องโทโฮสักแอะนอกจากหาคำผิด
neozero ที่แปลฮารุฮิก็ใช้ได้นะ(แปลอยู่เรื่องเดียวป่ะวะ) อีกคนก็คนแปลผู้กล้ามากับดวง,ผ่าลิขิตฯ(จำชื่อไม่ได้) แล้วก็คนแปลชานะอีกคน
ปล.อ่านไปอ่านมา กุเริ่มเห็นใจคนแปลวงการนี้ชิบหายเลยว่ะ ผิดทีนึงโดนล้อยันลูกบวช
ผิดไม่ว่า แต่ผิดแล้วแถนี่สิมึงได้เป็นตำนานแน่นอน
คนแปลสาวแดกหนังสือของ Zenshu ชื่อ Tetsu คุ้นๆเหมือนว่าแปลการ์ตูนของ VBK หรือเปล่า
แต่กูเห็นด้วยนะว่า มาดันโนะโอ นี่แปลได้ป่วยจริงๆ
กูอ่านยุ่นไม่ได้แต่อ่านสำนวนแปลมันแล้วต้องมาตีความไทยเป็นไทยอีกหลายท่อนเลย
ก็คงไม่หวังให้ สนพ. มันมาพิมพ์แก้แล้วเปลี่ยนให้กูหรอกนะแต่อยากให้คนแปลมันอัพเกรดตัวเองขึ้นหน่อยก็พอ
มาดันโนะโอ ยังไม่เลวร้ายที่สุดของเซนชูนะเว้ย ที่เหนือกว่านั้น กูยกให้ หมากรรไกรกับเดนปะอนนะ
เดนปะอนนะเล่มสองอย่างน้อยแม่งก็พัฒนาแต่หมากรรไกรเหี้ยเหมื่อนเดิม
ชื่อคนแปลคนเดิมนะท้ายเล่ม? ไปเปิดมาเมื่อกี้
เพนเนมหรือชื่อจริง ? ถ้าเป็นเพนเนมก็ยัง 50/50 ว่าคนเดิม หรือคนใหม่แต่ชื่อเดิม ?
กูชอบนโนบายแบบ A+ นะ ไม่ต้องเพนนงเพนเนมชื่อจูนิเบียวห่าอะไรทั้งนั้น ชื่อแซ่จริงแม่งเลย
แปลดีมึงก็ได้เครดิตไป ทำห่วยไปสมัครงานที่อื่นเขาจะได้ดูงานเก่ามึง ไม่ใช่ไปที่ใหม่ทีเปลี่ยนชื่อใหม่ที
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำเหี้ยยังไงก็ได้นะ
กูหมายถึงว่าถ้ามันไม่สะดุดตาจริงๆกูก็ไม่ว่าอะไร เพราะกูไม่เคยซื้อมาแหกหนังสือดูรอบทิศ
คือซื้อมาปุ๊บก็กางอ่าน ถ้ามันมีอะไรห่วยๆสะดุดตาขึ้นมาทั้งที่กูไม่ได้ไปเสาะแสวงหากูก็ด่าเหมือนกัน
https://www.se-ed.com/product-search/Hakuro.aspx?keyword=Hakuro&search=translator
https://www.se-ed.com/product-search/Ice.aspx?keyword=Ice&search=translator
https://www.se-ed.com/product-search/เด็กขี่จรวด.aspx?keyword=เด็กขี่จรวด&search=translator
blacklist นักแปลหัวกล้วยของเซนชู ถ้าคิดจะซื้อนิยายมา"อ่าน" ก็อย่าเสือกทรมานตัวเองกันนะจ๊ะ
ของ Hakuro อยากฟังคำเห็นตอนแปลบุปผาซามูไร
มีใครอ่านไหม ขอความเห็นหน่อย
ของ Hakuro แปล กุอ่าน B.A.D. ก็แปลดีนะกุว่า
บุปผาไม่ได้อ่านว่ะ ไม่รู้
BAD นี่แปลดีแล้วหรือวะ กูอ่านได้สองบทก็โยนทิ้งแล้ว บรรยายเรียงเรียงห่วยแตกสัสๆเลยนะ
BAD ทำไมกุอ่านแล้วปกติ ไม่ตะขิดตะขวงใจอะไรวะ กุไม่ใช่หน้าม้านะโว๊ย
ลองยกตัวอย่างตรงที่ว่าเรียบเรียงห่วยมาหน่อยดิ
มายืนยันอีกเสียง กุว่า BAD แปลได้แย่
มันไม่ใช่แปลผิดแบบมีศัพท์ประหลาด
แต่ถ้าอ่านนิยายมาเยอะๆเนี่ย จะรับรู้ได้เลยว่ามันเรียบเรียงห่วย มันไม่ลื่น เหมือนเดนปะน่ะแหล่ะ
หาซากมายืนยันไม่ได้ว่ะ ขายต่อไปแล้ว
สำหรับกูที่อ่านนิยายรวดเดียวจบตลอด B.A.D.กูอ่านมา4รอบแล้วยังไม่จบเล่มเลยว่ะอ่านแล้วแม่งแปลกๆ
กูนึกได้ล่ะ ตอนบลิสออกคินดะอิจิเล่มสอง แล้วพิมพ์ผิด มันพิมพ์ใหม่ แล้วประกาศเรียกคืน แลกคืนด้วยล่ะ นึกๆ ดู มีเคสนี้ครั้งเดียวล่ะมั้งในวงการ
ไม่นับเดกซ์เรอะ จอมมารหลังห้องเล่มเจ้าแกนั่นก็รับเปลี่ยนนี่นา
เออ กูลืมเดกซ์ โทษทีว่ะ
https://www.se-ed.com/product-search/SHIORI-B.aspx?keyword=SHIORI+B&search=translator
เอาชื่อคนแปลจอมมารพารท์ไทม์มาฝาก
ไม่เคยอ่านเรื่องที่แปลว่ะ
เปียโนไม่มีอะไรให้ด่านะเท่าทีกูอ่านมา
กูว่านิยาย A+ ก็แปลโอเคนะ
ไม่รู้ว่าเพราะกูอ่านเรื่องที่แม่งแปลใช้ได้พอดีรึเปล่า
เพราะกูอ่านแค่มังกรซึนกะกองพลเวทย์ฮาเรม
เรื่องแปลกูชอบ ELN สุดละ
Z นี่หลายๆเรื่องก็โอเคนะ แต่เรื่องไหนรีบเข็นมาขายตามกระแสเนี่ยให้เดาไว้ก่อนเลยว่าเหี้ย
จริงๆกูงงอย่างทำไมพวก ไลท์โนเวล มันต้องรองานหนังสือวะ
เอามาขายตามแผงไปเลยตามเวลาที่ควรออกมิดีกว่ารึ
กูขี้เกียจรอแต่งานหนังสือว่ะ บางเรื่องยุ่นไปเป็นสิบเล่มละไทยแม่งเพิ่งออกไม่ถึง 4 เล่ม
กี่ชาติกูจะได้อ่านจบ เพราะงานหนังสือจัดทีก็ออกแค่เล่มเดียว
ถ้าคนแปลมันมีปัญญาแปลเสร็จก็รีบๆปล่อยมาเหอะว่ะ
AW4 กับ B.A.D เห็นจะออก 26
กูรอในนี้รีวิว ไม่ก็ถามก่อนซื้อละ เผื่อมีคนลอง
B.A.D นี่กูว่าเล่ม1 เหี้ยสุดละ เล่มถัดมาเริ่มดีขึ้น
หลังๆนี่ออกถี่นะ z เนี่ย
แปลใช้ได้เลยนะจอมมารพาร์ทไทม์
เช่นมีอยู่หน้าหนึ่งที่มีสำนวนจีน แทนที่จะแปลตรงตัวด้วยตัวเอง ก็ใช้อ้างอิงด้วยคำที่มีคนเค้าเคยแปลให้สวยๆแล้ว แล้วก็ note อ้างอิงชื่อคนแปลเอา
เห็นเลยว่าอย่างน้อยก็รู้จักหาข้อมูลว่ะ (หรือทั่วไปบางคนอาจจะใช้วิธีเทียบกับสำนวนที่มีอยู่แล้วในไทยแล้วใช้ของไทยแทนก็ได้ อันนี้ก็โอ)
สรุปได้ว่าไม่โง่แบบเจอสำนวนก็แปลมันทื่อๆเป็นภาษาไทยแบบที่เจอกับบางคน คนแปลคนนี้กูให้ผ่าน
กูว่าจะซื้อสาวกินหนังสืออยู่มันแปลโอเคป่าววะ
ส่วนมาโอแม๊กนี่แปลห่วยกูก็คงซื้อ อนิเมกูชอบมาก แต่เห็นพวกมึงว่าโอเคกูก็เบาใจ
มีใครรู้ความคืบหน้าเรื่องแฟนปลอมที่ LP เคยประกาศหาคนแปลบ้างรึเปล่า ช่วงนี้ไม่ได้ตามข่าวเลย
นั่นประกวดตั้งชื่อเรื่องนี่ คนชนะจะได้แปลเรื่องนี้ (พร้อมสัญญาทาสเหี้ยๆ พ่วงมาด้วย)
ตกลงมีคนชนะได้เงินแถมสัญญาทาสเหี้ยๆ แต่ผ่านมาเป็นปีหนังสือยังไม่ออกเลยหรือวะ lol
ทาสคนนั้นกำลังโดนโบยแส้อยู่มั้ง
ไอ้เชียกูขรม สัญญาทาสเหี้ยๆ นี่มันคืออัลไลวะ
บอกกูหน่อย พวกมึงแม่งพูดเหมือนเคยโดนเลยเพื่อนโม่ง
>>532 กูเปิดวาร์ปให้ http://www.luckpim.com/news_show/397/
สรุป
ประกวดคำแปล Ore no kanojo to osananajimi ga shuraba sugiru
ประกาศผลภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2556
ตามกติกา (ข้อสัญญาทาส) ว่า
4 ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศต้องสามารถแปลนิยายเรื่องดังกล่าวเล่ม1-3ได้ในเวลา1ปี หากผิดสัญญาทางเราจะขอยึดเงินรางวัลคืนโดยไม่มีข้อแม้
ใครได้สัญญาแปลไป ตอนนี้ก็เหลือประมาณ 6 เดือน ที่จะแปลนิยายทั้ง 3 เล่มให้จบ ไม่งั้นผิดสัญญา ยึดเงินรางวัลคืนว่ะ
ปกติแปลไลท์โนเวลเล่มนึงก็ให้เวลา 2-3 เดือนอยู่แล้ว ยังไงๆ ก็บังคับกลายๆ แหละว่าปีนึงน่าจะได้ถึงสามเล่ม (ยกเว้นจะเว้นช่วงส่งต้นฉบับมาให้, ต้องไปแปลเรื่องอื่นระหว่างนั้น)
ว่าแต่ดูจากวันประกาศผล นี่ก็น่าจะแปลเล่มแรกเสร็จไปแล้วนะ กำลังปรู๊ฟอยู่? หรือทิ้งช่วงจากอนิเมนานไปก็เลยโดนดองอยู่?
เหมือนกูเคยเห็นคนได้รางวัลโผล่ในนี้ กระทู้แรกๆเลย
https://fanboi.ch/animanga/146/ กูเจอละ กระทู้นี้
เรื่องสมรภูมิฯ ผมเพิ่งเจอคนแปลเมื่อไม่นานมานี้เอง
เห็นบอกว่ากำลังเกลาภาษาไทยกันอยู่
คนแปลคนนี้เรื่องภาษาญี่ปุ่นน่าจะไวใจได้อยู่ แต่ที่น่าห่วงคือภาษาไทยนี่แหละมั้ง
แปลตามเน็ต ถ้ามีแต่คนเลียไข่ ไม่มีใครแนะนำ ชาตินี้ก็ไม่พัฒนาครับ
>>538 กูเข้าใจนะว่าถ้าเลือกได้ก็อยากได้คนแปลที่เก่งทั้งไทยทั้งญี่ปุ่น
แต่ถ้าต้องเลือกจริงๆ กูว่าถ้าภาษาไทยเหี้ยแต่ญี่ปุ่นเป๊ะก็ยังดีกว่าอีพวกแปลสละสลวยแต่ความหมายผิดกระจายว่ะ
สำคัญว่ากองบก.ต้องมีคนเกลาเก่งๆให้อีกที เอาจนกว่ามันจะอ่านได้รู้เรื่องและสละสลวย ไม่ใช่ตีพิมพ์ออกมาทั้งดุ้นอ่านไม่รู้เรื่อง
แต่ถ้าคนแปลแม่งเสือกแปลความหมายผิดมาตั้งแต่ต้น เนื้อเรื่อง+บทสนทนาความหมายผิดเพี้ยนหมด
ต่อให้ภาษาไทยสวยยังไงแม่งก็เหมือนได้อ่านนิยายญี่ปุ่นเวอร์ชั่นจีนแดงว่ะ ต้องมาเสพเนื้อเรื่องผิดๆนี่กูรับไม่ได้มาก
เรื่องระหว่างญี่ปุ่นเป๊ะกับไทยเป๊ะนี่ถ้ามันดีทั้งคู่ไม่ได้ขออย่างละครึ่งๆได้ป่าววะ
เอาแบบคนไทยทั่วไปอ่านแล้วสะดุดอย่างมากย้อนไปอ่านอีกรอบต้องรู้เรื่อง
ส่วนจะดำน้ำขออย่าดำตรงจุดสำคัญของเรื่องหรือดำน้ำแล้วความหมายผิดโดยสิ้นเชิงก็พอ
นักแปลมันควรต้องเก่งทั้ง 2 ภาษาว่ะ ไม่งั้นอย่ามาเป็นนักแปลอาชีพรับตังค์เลย ไปเป็นนักแปลสมัครเล่นแปลผลงานลงเนตหรือนักสปอยจะดีกว่านะ
ไม่ต้องให้หรูเริดภาษาไทยงดงามปานดอกไม้หรือญี่ปุ่น N1 ก้ได้ เอาแค่ถอดใจความได้ไม่ผิด ภาษาอย่าเหี้ยเหมือนพวกแบล๊คลิสต์เซนชูก็พอ (บก. ก็กากไม่แก้ให้อีก)
>>541 ไม่ๆอันนี้กูหมายถึงตัวคนแปลไง ไม่ได้หมายถึงงานที่ออกมาแล้วนะ
ภาษาไทยไม่เป๊ะก็ให้กองบก.มันเกลาออกมาซะ ไม่ใช่ปล่อยออกมาแบบคนไทยทั่วไปอ่านแล้วสะดุด
แต่ถ้ามันแปลผิดมาตั้งแต่ต้น กูว่าให้คนพิสูจน์อักษรแก้มันแก้ยากว่ะ
เพราะมันอาจจะไม่แน่ใจว่าเอ๊ะอีคนแปลมันแปลผิดหรือมันแปลถูกแล้วแต่กูอ่านเข้าใจผิดเองไรงี้
แต่ถ้าพูดถึงงานที่ออกมาแล้ว กูว่ามันควรจะดีเท่านั้น ไม่งั้นมันจะมีกองบก.มีพิสูจน์อักษรไว้ทำห่าอะไรจริงมะ?
เห็นด้วยกับโม่ง T1p3.Xz3P
ตอนนี้ทีออกมาส่วนใหญ่ก็อยู่ระดับนั้นแหล่ะ ซึ่งก็คือรับได้แล้ว ยกเว้นพวก blacklist ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
จะให้หวังเก่งทั้งสองอย่างนี่ฝันไปเถอะ กว่าจะหาได้ซักคน นิยายออกสองปีเล่มพอดี
อ่านจบล่ะมาโอแม๊ค ของ Z แปลใช้ได้มีอธิบายมุขในเรื่อง แต่ยังมีหลุดใช้ภาษาพูดออกมานิดๆ อย่าง "เชี่ยเอ้ย"
ภาษาพูดมันไม่ดีตรงไหน ถ้าต้นฉบับเป็นภาษาพูดแปลมาแบบนั้นกูว่าควรจะชมคนแปลด้วยซ้ำ
กูไม่เข้าใจพวกที่วิจารณ์เสียๆ หายๆ เวลามีภาษาพูดในงานแปลเลย ภาษาถิ่นอีกอย่าง
มึงอยากอ่านภาษาในกรอบเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้นักก็ไปอ่านหนังสือเรียนภาษาไทยไป๊
กูไม่ใช่ >>546 นะ แต่กูไม่ค่อยชอบที่ใส่คำว่า "เชี่ยเอ้ย" ลงมาเหมือนกัน
โดยส่วนตัวกูไม่ค่อยชอบการเอาคำหยาบๆ(ถึงที่กูใช้ในชีวิตประจำวันเวลาคุยกับเพื่อนจะหยาบกว่าหลายเท่า)มาใส่ในงานแปลเท่าไหร่
ถ้าต้นฉบับมันหยาบอยู่แล้วกูจะชอบให้ลดความหยาบลงหน่อยๆหรืออย่าใช้คำหยาบที่ดูเป็นภาษาพูดมากเกินไป
อย่างที่ใน >>546 ยกมากูเดาว่าต้นฉบับน่าจะเป็นคำว่า shimatta กูอยากให้เป็นคำว่า "แย่ละ" มากกว่า
หรือหยาบหน่อยก็ซัก "เวรละ" "เวรเอ๊ย" ก็พอ
เรียกว่าเป็นความดัดจริจแบบนึงก็คงได้มั้ง
ตอนอ่านกูก็คิดว่า"เวรเอ้ย" เหมาะกว่านะ
มันตลกๆ เพราะทั้งเล่มใช้ภาษาเขียน พอหลุดภาษาพูดอยู่คำเดียวนี่โคตรเด่นเลย
บริบทของคำหยาบในไทยกับยุ่นต่างกัน ตำยุ่นที่หยาบๆมันไม่ได้หยาบขนาดควรโดนเซนเซอร์เหมือนคำหยาบไทย คำหยาบไทยมันโดนแบ่งชนชั้นมากกว่าว่ะ กูว่า เชี่ย นี่ไม่น่าใส่มานะ เอาจริงๆ
แต่กูว่าต้นฉบับหยาบมา ก็ควรแปลให้แรงเท่าๆกันนะ
คือคนแต่งแกสื่อมายังไง กูก็อยากเสพให้มันครบถ้วนว่ะ
งั้นกูลองเสนอตัวอย่างอีกอัน(กูไม่ใช่ไอ้>>558นะ)
คำว่า โอเระ ของภาษาญี่ปุ่นอะ ที่แปลว่าฉัน แบบหยาบๆ แปลเป็นไทย จะให้ใช้คำว่า"กู" เลยรึเปล่าวะ มันก็ไม่ต้องขนาดนั้นปะ เพราะบริบทการใช้สรรพนามมันต่างกัน ถึงจะไม่ใช่คำสุภาพแต่ก็ไม่ใช่คำที่หยาบแบบโดนเซ็นเซอร์ในสื่อญี่ปุ่นว่ะ
หรืออย่างคำว่า คิซามะ ที่เป็นคำเรียก "แก" แบบโคตรหยาบเหยียดหยาม จะให้แปลว่า"มึง"เลยเหรอวะ กูว่าก็ไม่ไหวนะ
บริบทของคำหยาบมันต่างกันว่ะ คำหยาบพวกนี้ในญี่ปุ่นมันไม่ถึงกับหยาบจนโดนเซ็นเซอร์ แต่ไทยมีวัฒนธรรมรังเกียจคำหยาบสมัยพ่อขุน ไม่ใส่มาอะดีแล้ว อย่างคำว่า"เชี่ย"นี่กูว่าไม่น่าใส่มาเท่าไหร่นะ (เท่าที่อ่านพวกมึงคุยกัน กูคาดว่าน่าจะแปลมาจากคำว่า"ยาไบ่"(แย่แล้ว) ไม่ก็ "ชิมัตตะ"(เสร็จกัน) มั้ง)
ถ้าจะเอาภาษาพูดแบบมีหยาบๆ ปนแล้วไม่ขัด กูแนะนำลองไปดู DxD ของ LP (ไม่ใช่แบบมังงะที่ไอ้เหี้ย first แปลนะ)
อันนั้นใช้ภาษาพูดเยอะแทบทั้งเรื่อง มันเลยกลืนกันไปไม่ขัดหูขัดตา
ส่วนจอมมารกูบอกเลยว่าแปลดี แต่ 'เชี่ยเอ้ย' ยังไงก็ขัด
จะเขียนจะแปลอะไรลงไปในงาน ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยว่ะ
>>570
กูไม่ชอบ มันเป็นภาษาปากแบบมาไวไปไว
กูเคยมีประสบการณ์ย้อนกลับไปอ่านการ์ตูนเก่าๆ เมื่อราว 20 ปีที่แล้ว
ปรากฏว่าแสลงยุคนั้นทำเอากูมึน คำบางคำอ่านแล้วต้องนั่งนึก มันมาจากคำว่าอะไร
อยากจะยกตัวอย่างให้ฟัง แต่นึกทันทีตอนนี้นึกไม่ออกแฮะ
กับอีกเหตุผล กูไม่ชอบเป็นการส่วนตัว คำบางคำในกลุ่มนั้นดูปัญญาอ่อนพิลึก (เช่น จุงเบย บ่องตง)
>>571 เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ก็คงต้องดูอนาคตด้วยละนะ ภาษาไทยยังไม่ใช่ภาษาตายนี่นะ
ไม่แน่ว่าอีกสิบปียี่สิบปีข้างหน้า ไอ้คำบางคำที่เราว่าปัญญาอ่อนนี่ชาวบ้านเขาอาจจะใช้ไปทั่วก็ได้
อีกเคสนึง ถ้าเป็นคำแสลงแต่มีความหมายเอกลักษณ์ของตัวมันเองอยู่อันนี้ผมก็ให้ผ่านได้เหมือนกันนะ
ยกตัวอย่างก็... ดันนึกไม่ออกแฮะ wwwww
>>573
คำที่เอ็งยกตัวอย่างมายังไม่ได้เก่ามากมาย คนยุคนี้ยังอ่านเข้าใจ
แต่นั่นละ อารมณ์ประมาณนั้น เพียงแต่เป็นคำที่เก่ากว่านั้นอีก
ประเด็นก็คือ คำพวกนี้มันเป็นศัพท์ที่ไม่ยั่งยืนไปกับยุคสมัย
ลองนึกดูว่าถ้าผ่านไป 20 ปี แล้วเด็กยุคนั้นมาอ่านเจอคำว่า จุงเบย บ่องตง มันจะรู้สึกยังไง
จริงๆ อย่าว่าแต่ภาษาไทยเลย กูหยิบการ์ตูนจัมป์เก่าๆ (ยุคดราก้อนบอลตอนเด็ก, สต็อปฮิบาริคุง, เอทีเลดี้, ยูแอนด์มี ฯลฯ) มาอ่าน
ยังเจอพวกศัพท์ที่ปัจจุบันตายไปแล้วให้เพียบ อย่าง 出鱈目 (ซี้ซั้ว) ที่โกคูตอนเด็กมันชอบพูด ศัพท์ตั้งแต่ยุคเอโดะเลยนะนั่น
กูสงสัยอย่างโดนด่าเป็นลูกเต่านี่แม่งเจ็บตรงไหน
เห็นพวกในนิยายกำลังภายในดิ้นพราดๆ
เต่าหัวหดไง ขี้ขลาด ยิ่งเป็นลูกเต่าด้วย ยิ่งไปกันใหญ่
กูนึกว่า เต่าหัวหด=ไอ้หำหด
พูดถึงนิยายจีน นึกแล้วก็ทึ่งคนแปลยุคแรกเริ่มว่ะ
พวกเขาเป็นผู้วางรากฐานของศัพท์ในวงการอย่าง พลังยุทธ กำลังภายใน ธาตุไฟ ดัชนี สะกัดจุด อะไรพวกนี้เลยนะ
ถ้าไม่มีพวกเขา ก็ไม่รู้ปัจจุบันจะใช้คำกระจัดกระจายเป็นอะไรบ้างแล้ว
คุยเรื่องแก่ๆอะไรกัน มิได้นำพาเลย
ถูกต้อง การแปลชื่อวิทยายุทธกับพวกท่าไม้ตายที่ทำเอาคนอ่าน (และคนแปล) แทบจะแดดิ้นตาย
แปลสั่วๆออกมาอ่านเจอแล้วเซ็งเลยนะ เหมือนพลังหด
สรุปคือร่วมทึ่งด้วยคน
ปีหน้า วงการ LN ในไทยจะมีอะไรใหม่ๆ ให้อึ้งทึ่งเสียว (นี่ก็ศัพท์เก่า แต่ช่างแม่ง) อีกมั้ยวะ
โดยส่วนตัวรู้สึกว่าปีนี้พีคสุด ถึงจุดอิ่มตัวของมันละ
หวังว่าจะไม่มีเจ้าไหนเจ๊งหรือเลิกทำไปดื้อๆอีกนะ
เห็นว่าจะมีค่ายใหม่โดดลงมาเล่นอีกนิ
ทำไมกูได้ข่าวว่าค่ายใหม่มันไม่ใช่นิยายญี่ปุ่นวะ รึข่าวกูผิดค่าย
ถ้ามีค่ายเจ๊งก็ดีนะ ผมอยากให้เซนชูเจ๊งๆไปซะ
เอาจริงๆถ้าปีหน้ามีหลายค่ายจะลงมาทำ LN อย่างที่ใครบางคนในนี้บอก และเซนชูไม่ปรับปรุงคุณภาพให้ดีกว่านี้ก็อาจจะล้มภายในปีสองปีนี้ได้เหมือนกัน แต่นั้นเป็นในกรณีที่ค่ายที่มาทำใหม่มีคุณภาพเหนือเซนชูหมดน่ะนะ ถ้าเละเหมือนกันก็อาจจะกดหัวร่วมจมท้ายไปด้วยกันภายใน 3-5 ปีก็เป็นได้
>>591 เพิ่มเติม ถ้ามันเจ๊งจริงก็แค่รอให้ค่ายอื่น LC ใหม่ก็เท่านั้นเอง(จากเคสบลิสก็แค่สองปีเอง นี่ผมรู้สึกว่ามันแค่แปบเดียวเองจริงๆนะ)
ถ้าเรื่องดีจริงๆยังไงมันก็ไม่พ้นต้องได้ LC อยู่วันยันค่ำนั่นแหละ
ขนาดโชเน็นองเมียวจิเอพลัสก็เอากลับมาทำแล้ว แถมได้ข่าวแว่วๆว่าเดี๋ยวมีคนเอาชานะมาทำใหม่อีกรึไม่ใช่?
อย่างน้อยความหวังมันก็ไม่ลมๆแล้งๆหรอก เชื่อผมสิ
แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างลอยลำแล้วละ เพราะตอนนี้เรียนญี่ปุ่นจนเริ่มจะอ่านได้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ถ้าผมไม่ซิ่วและเรียนไปจนจบละก็คงอ่านได้สบายๆแบบไม่เดือดร้อนต้องมาคอย LC แล้วละนะ
มันมีประเด็น อยากซื้อ อยากอ่านแบบภาษาไทย มากกว่า อยากรู้เรื่อง ด้วยนะ
ของไร้คุณภาพมันอยู่ตลอดไม่ได้หรอก จุดดับมันเห็นชัดง่ายกว่า ถึงจะบอกว่าพวกนี้มันหนังเหนียวก็เถอะ
ถามโม่งในนี้หน่อย ถ้ากุอยากจะอ่าน LN ของสนีกเกอร์ กุต้องรอบงกชมาโปรดอย่างเดียวเลยใช่ป่าววะ
ประเด็นคือกุอยากอ่าน Rental Magica ชิบหายเลยว่ะ เพิ่งเห็นมันออกเล่มจบปีนี้ด้วย กระสงกระแสแม่งก็หายหมดและ จะไปหาอ่านอิ้งแม่งก็มีแค่เล่มเดียว ยุ่นก็เสือกอ่านไม่ออก สัส สิ้นหวังชิบหาย จบการระบายแต่เพียงเท่านี้
เอพลัสก็ได้ Sneaker ไปเหมือนกันนั่นไง (มอนใดจิ)
ที่อยากให้มีแปลไทยทั้งที่อ่านญี่ปุ่นเองได้แล้ว เพราะอยากมีคนมาร่วมวงคุยด้วยมากกว่า
แบบอะไรฟระ มีกูเพ้ออวยอยู่คนเดียวมันเซ็งนะ
เคยถามบก.เจ้านึงในงานหนังสือเรื่องสนีคเกอร์มา สงสัยเหมือนที่ >>599 ถามนี่แหละ
ได้คำตอบว่า ถ้าขอฟุชิมิได้ก็ขอสนีคเกอร์ได้ ที่ไม่ LC สนีคเกอร์มาซักที เป็นเพราะเรื่องที่ถูกใจอยู่ฝั่งฟุจิมิมากกว่า เลยไม่มีโอกาสได้ซื้อ
ไม่กี่เดือนให้หลังไอ้ค่ายนั้นก็ออกนิยายสนีคเกอร์
ฟวย ตอนคุยแม่งตีหน้าเซ่อบอกยังไม่ได้ซื้อ t(-'''- )
Sneaker มีหลายเรื่องที่ผมอยากอ่านอยู่นะ งานของซันดะเซนเซย์ทั้งสองเรื่อง
大奥のサクラ ミスマルカ興国物語(เป็นเรื่องนึงในตอนนี้ที่ผมยอมแพ้ที่จะอ่านต้นฉบับ)
โรดอสก็รีปรินท์แล้ว จะมีใครเอาเข้ามาทำไหมเนี่ย
อยากอ่านโลดอสเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้ก็เชียร์สนีคเกอร์ที่สุดหรอก
แต่บังเอิญว่าคนเขียนที่ชอบเขาเตียงหักย้ายไปอยู่กะกะกะแล้ว เลยหันไปเชียร์กะกะกะแทน
อยากอ่านโลดอสอีกเสียง
大奥のサクラ ของ อ.อากิระ นี่มังกะออกแล้วนะ
ห้องเมะคุยกันถึงเรื่องนักแปล LN แจกลายเซ็นต์ ห้องนี้มีโม่งไหนได้เล่มที่ติดลายเซ็นต์ใครมามั่งมั้ย
คิดว่าคนที่นั่งแจกลายเซ็นต์คงเซ้ลฟ์น่าดูสิถึงกล้าออกมาไม่กลัวจะโดนจับได้ว่า อ๋อ คนแปล...หน้าตาหยั่งงี้เอง
ไหงกูพิมพ์ครอสออกมาเป็นคลอธได้วะ 555
โม่งทั้งหลาย กูถามความเห็นหน่อยว่าถ้าต้นฉบับLNแม่งเขียนมาภาษาเหี้ยมาก แปลออกมาได้ดีสุดแค่นี้แต่ก็ยังออกมาเป็นภาษาไทยประหลาด พวกโม่งคิดว่าเป็นความรับผิดชอบของคนแปลและกองบก.มั้ยวะ หรือว่าควรจะเปลี่ยนใจความบางส่วน(แปลว่าเนื้อหาจริงโดนเปลี่ยน)แต่ทำให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น เพื่อนโม่งยอมรับแบบไหนมากกว่ากัน
>> 618 ต้นฉบับมายังไงก็ต้องแปลอย่างนั้นดิ กรณีแบบนี้มักนึกถึงกฎการแปล "If the original text is not well-written, you are doomed; feel free to despair." สรุปว่าคนแปลกับบก.ซวยไปเด้อ
>>618 มีด้วยเหรอวะภาษาเหี้ยแล้วถ้าจะเกลาต้องเปลี่ยนเนื้อหา???????? กูนึกภาพไม่ออกเลยว่ะ
อย่างมากภาษาเหี้ยมันก็แค่เปลี่ยนสำนวน สลับพวกตำแหน่งการจัดวางรูปประโยคอะไรพวกนี้ไม่ใช่เหรอ?
ลองยกตัวอย่างให้หน่อยได้ป่ะ? ถ้ามึงไม่อยากให้รู้ว่าเป็นเรื่องไหน มึงดัดแปลงคำศัพท์หรือประโยคหน่อยก็ได้
Denpa Onna to Seishun Otoko อ่ะดิ ซวยไปมึง ก๊ากๆๆ
เดงปะนั่นไม่ใช่ภาษาเหี้ย แต่เป็นอุปมาอุปมัยเกินสามัญสำนึกว่ะ ต้องทำใจให้ติสท์เหมือนวิญญาณอิรุมะเข้าสิงแล้วมึงจะอ่านรู้เรื่อง
แต่ของไทยก็แปลห่วยอยู่ดี... ถ้าอยากอ่านรู้เรื่องต้องสวมวิญญาณเกรียนเห่อหมอยแฟนบอยเซนชู ไม่ใช่วิญญาณอิรุมะ
เออ ไหนๆก็ไหนๆ ถามหน่อย Denpa Onna to Seishun Otoko นี่มันเรื่องเกี่ยวกะอะไรวะ Slice of life ของอีเด็กเพ้อเห่อหมอยเหรอ กุดูเมะตอนเดียวไม่รู้เรื่องเลยไม่ดูต่อแม่ง นิยายก็ไม่ได้ซื้อว่ะ
>>620 กูไม่กล้ายกประโยคในเรื่องมา แต่ยังไงดี ที่กูทำอยู่ภาษามันแย่มากว่ะ มันจะมีบางจุดที่แบบ ถ้าแปลตามตรงตัวเป๊ะๆมันจะออกมาแหม่งสุดๆ เลยอาจจะต้องเปลี่ยนความหมายของคำบางคำในประโยคให้มันดูไปกับบริบทรอบข้างแทนความหมายจริงๆของศัพท์คำนั้น คือปรกติเจออะไรแนวนี้กูก็ไม่เดือดร้อนอะไรนะแต่เรื่องนี้แม่งเยอะจริงจัง เปรียบเปรยเวิ่นเว้อแม่งอะไรของคนเขียนอยู่ได้ไม่รู้
เออ แต่ยกแบบนี้ได้มั้ย อย่างคำว่าそれとなくถ้าแปลตรงตัวเลยมันคืออ้อมๆ แต่กูเปลี่ยนไปใช้คำว่าดูอยู่ห่างๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวอะไรประมาณนั้น เพราะตรงส่วนนั้นมันพูดประมาณว่า それとなく導ている/それとなく調査する กูว่าถ้าจะบอกว่าแม่งตรวจสอบอย่างอ้อมๆ นำทางอย่างอ้อมๆมันก็แปลกไง
หรือถ้าเปลี่ยนแบบนี้คือเปลี่ยนสำนวนตามที่มึงบอก
ตอนแรกบอกภาษาเหี้ยแล้วต้องเปลี่ยนเนื้อหากูไม่เข้าใจ
แต่พอ >>622 พอบอกว่าอุปมาอุปมัยเกินสามัญสำนึกคนปกตินี่กูพอจะเข้าใจเลย
บางเรื่องถึงคนเขียนไม่ได้ภาษาเหี้ย มันก็เป็นแก๊ประหว่างภาษาอยู่แล้วเรื่องการเปรียบเปรยประหลาดเกินกว่าที่คนไทยจะมองภาพออก
ซึ่งในความคิดกูกูคิดว่าน่าจะแอบอธิบายเพิ่มนิดหน่อย เช่น ไอ้สำนวนที่บอกว่าปล่อยให้ทำอะไรอย่างอิสระแล้วคอยจับตาดูอยู่ห่างๆน่ะ
ญี่ปุ่นมันจะใช้คำว่าปล่อยให้ว่ายอยู่บนมือพระพุทธรูปอะไรทำนองนี้(จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน)
ถ้าเป็นกูกูก็จะแปลตามเดิม แต่จะแอบอธิบายแซมๆเข้าไปด้วยว่ามันหมายความว่าอะไร
ส่วน >>624 それとなく/それとはなしにความจริงมันไม่ได้แปลว่าอ้อมๆนะ
ถ้ามึงดูตัวรากศัพท์มันเลย それ・と・なく=それ・とは・なし・に
คือการทำอะไรซักอย่างโดยเหมือนกับว่าไม่ได้่ทำมัน >>> มันก็เลยกลายเป็นการแปลอย่างง่ายๆ ว่าทำอย่างอ้อมๆน่ะ
เช่นมึงด่าใคร มึงก็เจตนาจะด่านั่นแหละ แต่มึงด่าโดยทำเป็นเหมือนไม่ได้ด่า มันก็เลยกลายเป็นการด่าอ้อมๆ
เพราะงั้นมึงจะแปลโดยย้อนกลับไปที่ความหมายจริงๆของมันเลยก็ได้
ประมาณว่า "ตรวจสอบโดยทำเป็นเหมือนไม่ได้ตรวจสอบ" อะไรอย่างนี้
พูดถึงแปลแบบตรงๆแล้วเจอภาษาประหลาดนี้กุนึกถึง sabre แปล โทโฮเลย
มี สนพ. ไหนมีโครงการจะเอา คัมปิโอเน่ มาแปลขายมั่งไหมวะ อ่านอิงแล้วชอบว่ะ
กูว๊อนมาก (แต่กระแสบางแบบนี้สงสัยจะหวังยาก)
พูดจริงๆ คือญี่ปุ่นมันมองว่าบ้านเรามันตลาดเล็ก มันไม่สนใจ ขายไต้หวันดีกว่าพิมพ์เป็นภาษาจีนเข้าไปขายประเทศจีนได้ หรือขายสิงค์โปร์ดีกว่า พิมพ์เป็นอังกฤษขายละแวกนี้ได้หมด
ตลาดเล็กกำลังซื้อต่ำขี้เกียจคบหา ตลาดเล็กแต่กำลังซื้อสูงแบบเกาหลีก็ว่าไปอย่าง
นั่งอ่าน 棺姫のチャイカ จบเล่มแรกรู้สึกยังธรรมดาไปหน่อย…
หวังว่าเล่มหลังๆ จะสนุกขึ้นนะ
https://www.facebook.com/animagbooks/posts/674841769202669
แม่เจ้า ป่านนี้ยังแปลไม่เสร็จ
รอแค่นี้อย่าบ่นสิวะ LPกูดองนับสิบเรื่องกูยังทนได้เลย
เหมือนเคยได้ยินว่าคนแปลเคียวรันยังป่วยอยู่ จะเปลี่ยนคนแปลกลางคันคงไม่ได้เพราะเขาคงแปลไปเยอะมากแล้ว ยิ่งเล่มสี่นี่โคตรหนาฝุดฝุด
แต่เรื่องเปลี่ยนคนแปล ค่ายนี้เคยทำมาแล้วนี่หว่า
คนเดิมก็ดีแล้วเคียวรัน จะเปลี่ยนทำไม ส่วนโตเกียวเรเวนถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นก็เปลี่ยนไปเถอะ
ทำไมราคา LN ทัยแม่งแพงสัดเลยว่ะ
หนังสือตูนยุ่นขาย 500 กว่าเยน ราคาไทย 50-60 บาท
LN ยุ่น 500 เยนปลายๆ ราคาไทย 140-170 บาท
ราคาแพงโดดสัสๆ ทำเป็นหนังสือหน่อยแม่งยกระดับราคากันชิบหาย
รึคนทัยต้อง บุฮี๊ๆ ให้สนพ. ฟันหัวแบะอย่างหน้าชื่นตาบานกันต่อไป กับราคา LN ทุกวันนี้
ค่าแปลมันแพงกว่าการ์ตูนไงไอ่สัส หรือมึงจะให้คนแปลได้ค่าแปลนิยายหน้าละสิบห้าบาทเท่าการ์ตูนดี ห่า
มันแพงกว่าจนทำให้เกิดส่วนต่างเกือบ 100 บาทเลยหรือ
การตลาตห่าไรคิดจะขายแพงอยู่ในวงแคบๆ
แทนที่จะพยายามขายถูกๆ แล้วขยายวงให้กวางๆ
ไอ้ส่วนต่างร้อยบาทที่ทำให้มึงทุรนทุรายน่ะ เป็นของส่วนลด/ร้าน/สายส่ง ไปแล้ว 3-40% กลายเป็นส่วนต่างจริง 6-70 บาท
ไอ้ 6-70 บาทนั่น ต้องเอาไปจ่ายให้ค่าแปลที่เพิ่มขึ้นราวๆ สิบเท่า ค่าบก.ที่ตรวจงานหนักกว่าเดิมสิบเท่า ค่าพรูฟที่ทำงานหนักกว่าเดิมสิบเท่า
นี่คือไม่เกี่ยวกับราคาขายเรอะ? มึงคิดว่าคนทำงานเค้าอิ่มทิพย์กันรึไง
ตลาดไม่แคบหรอก สมองมึงอ่ะแคบ กูไม่ฟี้ดแล้วนะ ใครอยากต่อเชิญเลย
ลืมด่า มึงไม่รู้เรื่องโครงสร้างราคาเลย เป็นไอ้เด็กเปรตที่แค่นึกอยากจะด่า
เอาจริงมึงคงไม่รู้สึกเดือดร้อนเรื่องราคาหนังสือด้วยมั้ง
ก็เสือกดัดจริตไปส่งร้านหนังสือก็โดนมันหักหัวคิวเยอะสิว่ะ
แล้วถ้ากำไรน้อยจริง สนพ LN ไม่แย่งกันเปิดตัวแบบนี้หรอก
โง่จริงๆด้วย... ไม่รู้โครงสร้างราคาแล้ว ไม่รู้เรื่องการกระจายสินค้าด้วยนะเนี่ย
มึงรู้อะไรมั่งวะ
มันรู้แต่ว่าแพงไง รู้แค่นั้นแหละ
สรุปว่าเหล่าเกรียนต้อง บุฮี๊ๆ กันอย่างหน้าชื่นตาบาน คอยให้ สนพ. ฟันหัวแบะกันต่อไปอย่างงี้ดีแล้วสินะ
ไม่ต้องรีบสรุป ไอ้เหี้ย กลับมาเคลียร์กะกูก่อนว่ามึงรู้อะไรมั่ง
กุรู้ว่าแพง แล้วก็รู้ว่า สนพ LN แย่งกันเปิดตัวไงสัด
ถ้ามึงไม่รู้เหี้ยไรซักอย่างก็หุบปากไป แล้วจะไปรณรงค์ประท้วงลดราคาไลท์โนเวลที่ตุรกีบ้านมึงหรือพันทิพก็ตามใจ
มึงก็ยังบอกกุไม่หมดอยู่ดี มันต้องได้กำไรมากอยู่แล้วจริงไหม
บุฮี๊ๆ ดีใจโดนฟันหัวแบะ
กูจะเล่าเอาบุญละกัน
LP มันเป็นรุ่นบุกเบิก
A+ เข้ามาตอนตลาดว่าง
Z เข้าไปทำตัวใหญ่อุดตลาดจนเต็ม
ทีเคโอ วิบูลกิจ บงกช ทำส่งเสริมการขายการ์ตูน
สยาม เปิดแผนกเพราะผู้บริหารเสี้ยน เห็นเจ้าอื่นทำเลยอยากทำมั่ง เงินเหลือ
อยากรู้ของค่ายไหนอีก?
LP บุกเบิกพ่อง บิชที่เ้จ๊งไปแล้วต่างหากสัด
กำไรมากน้อยอันนี้กูไม่สนใจจะเอามาแหกแฉให้มึงฟัง ถึงกูจะรู้โครงสร้างสองค่ายก็เถอะ
ถ้าเป็นโม่งทั่วๆ ไปกูยังพออยากอธิบายนะ แต่ไอ้โม่งโง่ๆ อย่างมึงที่เปิดมาก็บอกฟันกำไรส่วนต่างร้อยบาทเนี่ย กูไม่อยากเล่าให้เสียราคา
5555 งั้นกูบอกมึงตรงนี้อีกนิดเลยก็ได้ว่า LP กำไรต่อเล่มเยอะสุด
กูไปนอนละ แฟนกูพึ่งวางหู
แล้วพรุ่งนี้หลังเสร็จเคาท์ดาวน์กูจะมาคุยต่อนะ
เพ้อและสัด ไปแหกตาดูดีๆ กุแค่บอกว่ามันราคาต่างจากหนังสือตูน เกือบ 100 เฉยๆ
ไม่ได้บอกว่าเป็นกำไรมากกว่า 100 เอาฆวยไรมาพูดเนี่ย อายแทนสัดๆ
เออ กุไปดู บุฮี๊อนิเม ต่อแล้วก็ได้
แค่เห็นมันบอกสนพ.ดัดจริตส่งร้าน กูก็ว่ามันโง่สัดๆแล้วนะ
มึงไปอ่านบนๆบ้างเหอะเค้าถกกันเป็นชาติแล้ว
"ควย" สะกดแบบนี้
โม่งข้างบนมันมาจุดกูเลยสงสัยนะ
เอาจริงๆนะ กูสงสัยในมุมของคนซื้ออย่างเดียว ไม่รู้ห่าอะไรข้างในหรอก
คือกูว่านะกระดาษ ค่าลอจิสติก ค่าพิมพ์ นี่เป็นต้นทุนแปรผัน
ส่วนค่าแปล ไลเซน ค่าจ้างคน นี่เป็นต้นทุนคงที่
ค่ากระดาษ-ค่าพิมพ์นี่กระดาษการ์ตูนแบบพรีเมียมเล่มละ 60-70 น่าจะต้นทุนพอกัน เช่นซึกิฮิเมะ
ค่าลอจิสติกคิดเป็นเปอเซนต์ ถือว่าเท่ากัน
ที่เหลือเป็นต้นทุนคงที่ ซึ่งอาจกลายเป็นแปรผันหากทำสัญญ่แบบให้ส่วนแบ่งจำนวนเล่ม
คิดตามหลักการผลิต ปัจจัยหลักที่โม่งข้างบนอ้างเป็นต้นทุนคงที่กับค่าลอจิสติกที่เป็นค่าเปอเซนต์เท่าการตูนแล้ว กูก็คิดว่าที่แม่งแพงกว่าเป็นร้อยปัจจัยหลักน่าจะมาจากจำนวนยอดขายมากกว่า เพราะต้นทุนคงที่สูงแต่ยอดขายต่ำไพรซิ่งมันจะต่องสูงตาม
ถ้าคิดในเชิงอุตสาหกรรม พวกผลิตมากๆยอดขายเยอะๆ ต้นทุนคงที่นี่แทบไม่ต้องนึกถึง
พวกโม่งวงในมีไรจะวิจารณ์ไหม
พวกมึงก็feedควายกันไปได้นะ
"ส่วนค่าแปล ไลเซน ค่าจ้างคน นี่เป็นต้นทุนคงที่"
มึงจะบอกว่าค่าแปล ค่าไลเซน ค่าจ้างคนของการ์ตูนกับนิยายเท่ากันเนี่ยนะ?
ค่าไลเซนคงที่บ้านมึงสิ ถ้าเรื่องดังๆคนแย่งกันเยอะๆมันคงไม่ขายให้ราคาเท่าเรื่องโง่ๆหรอก เรื่องดังๆคนแย่งกันเยอะๆแม่งก็ฟันทางนี้กันหัวแบะเหมือนกันแหละ
ทำไมโม่งควายๆมันเยอะจังวะเดียวนี้
พูดตรงๆ คือรู้สึกอยากให้แยกกระทู้นินทาสำนักพิมพ์กับกระทู้ไลท์โนเวล
จะชวนคุยเรื่องไลท์โนเวลก็โดนวกกลับไปเรื่องสำนักพิมพ์ตลอดเลย…
ก็มันเป็นกระทู้รวมมิตรนี่หว่า กระทู้หน้าแยกเป็น "สมาคมแม่บ้านสำนักพิมพ์" กับ "กระทู้ไลท์โนเวล IV" รึไง ?
ไว้ใกล้หมดกระทู้ค่อยดูกันอีกทีละกัน เพราะบางทีต่อให้แยกกระทู้ พวกแม่งก็ลากเข้าเรื่อง
>>679 >>677
พวกมึงนี่โง่หรือแกล้งโง่
ค่าต้นทุนคงที่หมายถึงต้นทุนที่จะไม่เพิ่มขึ้นตามจำนวนการผลิต
ไม่ใช่จำนวนราคาเท่ากัน
หมายถึงต้นทุนที่ต่อให้มึงผลิตมาเป็นล้านเล่มก็คงที่
การผลิตสินค้าเชิงอุตสาหกรรมจึงเน้นการผลิตจำนวนมากและหาตลาดใหญ่ๆเพื่อระบายสินค้าเพื่อลดภาระจากค่าต้นทุนคงที่ไปเพิ่มกำไร
กูอุตสานึกว่าพวกมึงจะเถียงแนววิชาการได้เลยถามเหตุผลแย้ง สรุปก็แค่เกรียนโอตาคุแบบมึงสองตัวนี่หยุดแสดงความควายเถอะ
เหี้ยยยยยยยยยยยยยยย ไม่อยากจะเชื่อว่าในยุคอินเตอร์เน็ตแบบนี้ยังมีโม่งควายๆเหี้ยๆแบบนี้อยู่อีก
ทุกวันนี้ค่าแรงคนทำงานทั้งค่าแปลค่าทั้งเงินเดือนฝ่ายพิสูจน์อักษรแม่งก็ต้ำเตี้ยติดดินอยู่แล้ว
ถ้ามึงจะอ่านนิยายในราคาการ์ตูนนะ กูจะให้สำนักพิมพ์แม่งเอาgoogle translateแปลเลยไอ้สัส ควย
แล้วเรื่องกำไรหัวแบะน่ะ ธุรกิจไหนแม่งก็กำไรหัวแบะทั้งนั้นแหละ ไม่ได้เฉพาะธุรกิจกับคุโง่ๆอย่างมึงหรอก
ถ้าทำแล้วไม่รวยทำแล้วกระจอกเหมือนเดิมจะทำทำห่าอะไร
กาแฟสตาร์บั๊ค ชาเขียวอิชิตัน เหล้า เบียร์ ที่พวกมึุง(และกรู)แดกกัน มึงคิดว่าต้นทุนเท่าไหร่เรอะ ควย
ถ้ามึงมาเห็นกำไรต่อปีที่บริษัทกูได้ โบนัสที่พวกกูได้ มึงคงไปแขวนคอตายแล้วว่ะ
ลืมประโยคสำคัญ
ทุนนิยมที่มันเหี้ยจริงๆนะครัช 555
>>686 กูไม่ได้บอกว่าทำธุรกิจไม่หวังการฟันหัวแบะนะครับ กูแค่จะพูดว่าที่ LN มันแพงสาเหตุหลักสำคัญก็แค่เพราะตลาดมันแคบจำนวนกลุ่มลูกค้ามันน้อยเท่านั้น
แล้วก็ถามต่อว่าถ้าพวกมึงว่าไม่ใช่ว่านี่เห็นสาเหตุก็บอกเหตุผลมา ไม่ใช่เกรียนตอบอย่างเดียว
อีกอย่างเม้นกูมีแค่ 3 เม้นนะ คือ >>674 >>684 >>688 อย่าไปเหมากะเม้นอื่น
เดี๋ยวนะๆ มึงยังเถียงกันเรื่องกำไรอีกร้อยนึงของนิยายอยู่หรือเปล่า? ทำไมกูรู้สึกว่าตอนนี้มึงเถียงอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้
>>690 ป่าวที่กูเถียงคือ สาเหตุของการไพรซิ่งที่สูงของ LN กูคิดว่าเหตุหลักของมันคือตลาดแคบน่ะ
กูว่าจะไม่พิมพ์แล้วนะ เดี๋ยวจะหาว่ากูสอนหนังสือสังฆราช แต่เพื่อเผื่อแผ่กลุ่มโอตาคุอายุน้อยที่อาจไม่เข้าจุยแล้วจะมาซุยอย่างเดียวกูจะร่ายให้เผื่อนึกออก
สมมุตินะว่า สนพ.XX ต้องการขาย LN เรื่อง A เล่มที่1 (มี200หน้า) ให้ได้กำไร 1,000,000 บาท
โดยมีค่าใช้ต้นทุนดังนี้แยกเป็นต้นทุนคงที่และแปรผัน
ต้นทุนคงที่
ค่าไลเซน 200,000 บาท
ค่าจ้างแปล หน้าละ 200 บาท มี 200 หน้า คือ 40,000 บาท
(สมมติว่าค่า2ค่านี้ไม่ได้ทำสัญญาแบบรายได้ส่วนแบ่งจากจำนวนพิมพ์ถ้ามีสัญญาแบบนั้นจะไปโผล่ในรายการต้นทุนแปรผันอีก 2 ข้อ)
ค่าเงินเดือนพนักงาน บก./ตรวจอักษร ไม่ต้องคิดถือเป็นเงินเดือน/ค่าใช้จ่ายดำเนินการของ สนพ. อาจจะคิดก็ได้ถ้าให้เป็นเบี้ยเลี้ยงหรือค่าคอม/เล่มที่ทำงาน
ทีนี้เป็นค่าต้นทุนแปรผัน
ค่าลอจิสติก คิดเป็น % ตีว่า 40% ของราคาขายตามที่โม่งข้างบนอ้างถึง
ค่ากระดาษพิมพ์+ค่าพิมพ์ ให้ 50บาท/เล่ม
คราวนี้ลองหา sum ดู
ต้นทุนคงที่ = 240,000 บาท
ต้นทุนแปรผัน = 50 บาท/เล่ม + 40%
ถ้ามึงจะขายให้ได้กำไรตามเป้า
กรณี ราคาตั้งไว้ 200 บาท ต้องขายประมาณ 17,715 เล่ม
แต่ถ้ามึงขาย 100 บาท ก็ต้องขายให้ได้ 100,000 เล่ม
จะเห็นได้ว่า ราคาเพิ่มขึ้น 2 เท่าแต่จำนวนยอดที่ต้องขายได้ต่างกันมากถึง 5.64 เท่า
และแน่นอนว่าต้นทุนแปรผันนั้นอาจมีการเจรจาลดลงได้หากจำนวนผลิตนั้นมากพอแต่ขอไม่พูดถึงเพราะยุ่งป่าวๆนี่แค่เรื่องสมมติ
ซึ่งการจะไพรซิ่งแน่นอนว่าต้องมีการวิจัยกลุ่มลูกค้าก่อนว่ากำลังซื้อมีขนาดไหน และจำนวนพฤติกรรมที่ตอบสนองต่อราคาที่สูงขึ้นยังไง กรณีว่าต่อให้เพิ่มราคาไปมากๆลูกค้ากลุ่มนี้ก็ยังซื้อก็จะเป็นช่องทางให้ฟันหัวแบะได้อีก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ
ตัวเลขของกูนี่กูมั่วเองนะมึงอย่ามาซุยว่าไม่ใช่เลขจริงอีกกูสมมติอีเว้นท์เฉยๆ
เดี๋ยวๆตกลงพวกมึงคุยหัวข้อเดัยวกันอยู่รึปล่าววะ? กุว่ามันชักจะออกประเด็นไปใหญ่ละ
เอาง่ายๆ ถ้าจะดูว่าLNไทยแพงจริงรึปล่าวมึงลองเทียบดัชนีBigMacดู
ราคาLNของไทย เฉลี่ยอยู่ที่130บาท ราคาBigMac คือ89 บาท อัตราส่วนคือ 1.46
ราคาLNยุ่น เฉลี่ยที่600 yen(180 บาท) ราคาBigMac อยู่ที่ 320 yen(96 บาท) อัตราส่วนคือ 1.8
ราคาLNสหรัฐ เฉลี่ยที่10.5 $(323 บาท) ราคาBigMac อยู่ที่ 4.56 $ (140 บาท) อัตราส่วนคือ 2.3
จะเห็นว่าราคาLNไทยไม่ได้แพงห่าอะไรเลย ออกจะถูกด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
อนึ่ง ราคาBig Mac กูอ้างอิงจาก http://www.economist.com/content/big-mac-index
ส่วนราคาLNกูอ้างอิงจากAmazonทั้งหมด
ถ้ามึงจะคุยเรื่องสำนักพิมพ์กันอีกยาว กูว่าเปิดกระทู้แม่บ้านสำนักพิมพ์กันไปเลยก็ได้นะ
มึงจะจับนักแปลไปเรียนบริหารได้ไง มันคงจะเข้าใจหรอก ฆวยๆๆๆ
แพงเหรอกูว่าราคาธรรมดานะ...
แต่ช่วยแปลให้มันออกมาเร็วๆ มีคุณภาพหน่อยเหอะ ตอนนี้มีให้อ่านไม่พอ แถมด้วยบางเรื่องแปลแล้วมึน
สรุปว่าไอ้ห่าคนเปิดประเด็นมันก็ยังควายไม่ฟังไรอยู่ดี
>>699 ฟังห่าไร ไม่เห็นมีเหี้ยไรนอกจากออกมาพร่ำบ่นเรื่องค่าแปล แล้วมันจะรู้เรื่องไหมว่าทำไมถึงแพง
เป็นไปไม่ได้หรอกที่ค่าแปลจะมีผลต่อต้นทุกมากจนทำให้เกิด"ส่วนต่าง" ถึงเกือบ 100 บาทได้
(กุเน้นว่า"ส่วนต่าง"ไม่ใช่"กำไร"เผื่อมีควายอ่านแล้วไม่เข้าใจอีก)
บุฮี๊ๆๆๆ ดีใจจังโดนฟันหัวแบะอีกแล้ว
นิยายแม่งมีtextกี่ตัว มังงะแม่งมีtextกี่ตัววะ ถ้ามันเท่าๆกันหรือพอๆกันกูก็สงสัยว่าทำไมมันต่างกันเป็นร้อย
ควายอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัดจริงๆ
มึงไปอ่าน 691 นั่นค่อนข้างขัดเจน
พวกมึงก็feedควายกันสนุกจริงๆ
นักแปลมันอยู่ในนี้ละเยอะด้วยรอพวกมันมาตอบละกัน
ว่าแต่ควายบางตัวมันรู้ยังว่าทำไมต้องส่งหนังสือให้สายส่ง
เรื่องตลาดแคบกูว่าเฉยๆนะ เพราะถ้าเทียบราคากับนิยายแปลธรรมดามันก็ไม่ได้จัดว่าแพงอะไร เล่มละร้อยกว่าบาท นิยายแปลหรือพวกแนววรรณกรรมที่ไม่ใช่ไลท์ปรกติก็ขายกันอยู่ที่สองห้าถึงสามร้อยอัพ ถ้าหนาๆหน่อยทะลุไปสี่ห้าร้อย
เรื่องค่าแปลกูพอรู้แต่ไม่อยากแตกประเด็นแล้ว เดี๋ยวไม่จบซะที
และกูว่าเลิกคุยเรื่องนี้เหอะ เถียงกันไปก็ไม่จบซะที คุยไปคุยมากูเริ่มงงแล้วเนี่ยว่าตกลงเม้นท์ไหนเป็นคนเปิดประเด็น
>>692
หากกรณีเทียบกับค่าครองชีพตามทฤษฎีบิ๊กแม๊คก็คงไม่แพง
แต่กูมีข้อสังเกตุราคาที่มึงใช้เปรียบเทียบอัตราส่วน
ราคา LN ยุ่นเรื่องที่มีความหนาธรรมดามักราคาไม่ถึง 600เยนนะเท่าที่กูไปดูคิโนะ แต่ตีว่า 600 ก็ได้ แล้วราคาไทยที่มึงมาเทียบก็ไม่ค่อยตรงเพราะตอนนี้แม่งขายประมาณ 160 เป็นค่าเฉลี่ยแล้วซึ่งถ้าเทียบอัตราส่วนบิ๊กแมค จะได้ที่ 1.79 ซึ่งพอๆกับญี่ปุ่น
อีกอย่างแม๊กที่ยุ่นปี่มันเป็นของถูกเมื่อเทียบกับค่าอาหารทั่วไป แต่ประเทศไทยนี่แพงมากหากเทียบกับอาหารปกติ ตัวอย่างเช่นอาหารตามสั่งร้านทั่วไปจานละ 89 บาทนี่มึงได้แดกแบบราชาแล้ว ดังนั้นทฤษฎีอัตราส่วนบิ๊กแม๊กจึงไม่ค่อยเหมาะกับไทยเท่าไหร่
ทั้งนี้ถ้าหากเทียบกับอัตราการไพรซิ่งราคาขายมังกะในไทยก็ยังต่างกันมากเกินไป หากยึดส่วนต่างจากไพรซิ่งราคาขายมังกะกับ LNของยุ่นปี่
แต่ถ้าเทียบกับแง่ขนาดของตลาดที่ต่างกันมากมหาศาลด้วย ก็สมเหตุผลอยู่
กูกำลังรอพวกวงในมาโปรดสัตว์แบบมีเหตุผลหน่อยอยู่นะ เผื่อควายแบบกูจะได้รู้อะไรมากขึ้น
>>706 มึงกำลังพูดถึงกูป่าว ถ้าใช่ก็ตอบมาด้วยว่าควายยังไง กูจะได้ปรับปรุงให้ควายน้อยลง
ใครอ่าน Another เล่ม 1 ของ DEX แล้วมั่ง ช่วยรีวิวให้กูฟังที (ความหลอน การแปล เรียบเรียง ฯลฯ)
>>712 ตอนแรกกูก็งงกับมึงนะ พอเลื่อนขึ้นไปอ่านก็พอนึกออกว่ามึงคงหมายถึง 710
เอาจริงๆกูว่าถ้าไม่มีกระแสด่าก็คือโอเคแล้วล่ะ คนอ่านปกติไม่ค่อยชมการแปลอะไรมากมายหรอก
ส่วนมากถ้าอ่านได้ไม่ติดขัด เข้าใจ เขาก็จะมองไปที่เรื่องของเนื้อเรื่องมากกว่า ถ้าติดขัดถึงค่อยเก็บมาด่า
กูไม่เข้าข้างไหนนะ แต่กูเข้ามาบอกว่าไอ้พวกอยากตั้งกระทู้เรื่องค่าแปลหรือสำนักพิมพ์ใหม่ มึงไปคุยกันในนี้ไป https://fanboi.ch/animanga/147/recent/ จะตั้งกระทู้ใหม่อะไรกันเยอะแยะวะแม่งกระทู้ใหม่รกบอร์ดเห้ยๆเลยโว้ย ถมไอ้พวกกระทู้ใหม่ๆนี่ก็ไม่มีประเด็นเดี๋ยวก็ตกลงไปตลอด หัดดูกระทู้เก่าๆก่อนขอตั้งใหม่หน่อยก็ดีนะ
>>718 หลังๆกูไม่ค่อยสนใจรีวิว ใช้วิธีเสี่ยงเอาเลยว่ะ
อ่านแล้วไม่ชอบก็เอาไปขายทิ้งเป็นมือสองซะ ขาดทุนช่างมัน ถ้าขี้เกียจขายก็เก็บมันไว้อย่างนั้นแต่ไม่ซื้อเล่มต่อ
เอาจริงๆคนอื่นรีวิวก็ใช่ว่าจะตรงใจเรา มันก็แล้วแต่ความชอบเราด้วย บางเรื่องคนอวยเยอะแยะบอกว่าสนุกและแปลดี
กูอ่านแล้วก็ไม่เห็นชอบเลย รู้สึกแปลทื่อชิบหาย เนื้อเรื่องก็งั้นๆซ้ำซาก
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนอวยเยอะเลยเผลอคาดหวัง เพราะฉะนั้นเสี่ยงอ่านเอาเองก็ลุ้นดีนะมึง 555
เซ็นชวยออกหนังสือเยอะที่สุดปี 2556 ว่ะ บุฮี้ๆๆ
กูจะเริ่มลองอ่านlnว่ะ เพื่อนโม่งแนะนำทีสำนักไหนจุดเด่นเป็นไงมั่ง คือรวมๆอ่ะการแปล รูปเล่ม ความสวยงามไรพวกนี้อยาดสะสมด้วยเลยอยากได้สำนักที่ทำสวยๆหน่อย กูมือใหม่lnสุดๆปกติอ่านแต่นิยายจีนกำลังภายใน lol
แปลห่วย กับสนุกไม่เกี่ยวกันมั้ง ถาม 723 มันสิ
B.A.D. ฉบับไทยยังพอมีความสนุก
ถึงคนแปลมันจะกากบัดซบชนิดที่ต้องถอดความจากไทยเป็นไทยประโยคต่อประโยคและลดความสนุกจากต้นฉบับบลงเกิน 50% แต่ก็ยังสนุก
ถึงอีมายุจะเหี้ยจะสถุลจะเอาแต่ใจไม่ต่างจากอีน้องเหี้ยเรื่องนี้ก็ยังสนุก
ถึงรอบตัวพระเอกจะหาคนดีๆมีสติสตางค์ไม่ค่อยได้แต่เรื่องนี้แม่งก็สนุก
ถึงนางเอกตัวจริงจะโดนพวกระยำหน้าเหี้ยตัดลิ้นพูดไม่ได้เรื่องนี้ก็สนุก
ถึงคนแปลจะแปลนิสัยหมาใจชั่วของตัวบัดซบมาได้กากสัสๆแม่งก็สนุก
ขอย้ำอีกคำรบ ต่อให้ไอ้เหี้ยHAKUROแปลเรื่องนี้ออกมากากสัสบัดซบจนลดความสนุกจากต้นฉบับไปเกิน 80% ก็ตาม(รวมการเรียงประโยคที่กากเหี้ยๆ)
20% ที่เหลือของเรื่องนี้ก็ยังสนุก สำหรับคนอ่านญี่ปุ่นไม่ออกจะซื้อก็ได้ แต่ถ้าอ่านญี่ปุ่นได้แนะนำว่าอย่าซื้อ
เพราะมึงควรกำเงินไปซื้อฉบับญี่ปุ่นมาอ่านอย่างกูทำเลย รับรองว่าไม่ผิดหวัง
>>728 กูก็ซื้อวานาดิส
ซื้อเพราะเพื่อนโอฯกูมันชมนักหนาตอนอ่านยุ่น แปลไทยกูเลยซื้อแต่ภาษาแปลแม่งทำเอากูต้องแปลไทยเป็นไทยอีกรอบ
แต่ก็โอเคนะกูว่าเรื่องมันสนุกดี มีมุกให้บุฮี้เรื่อยๆ+พล๊อตสงครามนิดๆ ให้เห็นว่าตัวเอกมันได้ใช้ปัญญาบ้าง ไม่ใช่สักแต่ยิงท่าไม้ตายทีเดียวจบ ถึงมุกมันจะไม่ได้ล้ำลึกอะไรมากมายก็เหอะ
ส่วนใหญ่ LN บุฮี้ นี่ชอบให้ตัวเอกไม่ค่อยใช้ปัญญา ถ้าไม่เก่งสัดอยู่แล้วแต่อมภูมิไว้ ก็จะแนวพลังใจ+พลังมิตรภาพชนะทุกสิ่ง
ส่วนเรื่องฮาเรมนี่กูไม่ด่ากูชอบพล๊อตฮาเรม อิอิอิ บุฮี้
ขอบใจมากเพื่อนโม่ง เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปลองหาอ่านซัก2-3เล่ม
B.A.D. กูก็ซือมาเพราะปกนะ หน้าปกกับชื่อเล่ม หรือเรื่องย่อหลังปกแม่งหลอกกรู "วันนี้มายุสุมิก็จะกินช็อกโกแลตอีก" เปิดไปหน้าแรกแม่งก็จังๆเลย
เนื้อเรื่องไม่ตรงปกสัส
วันนี้ฤกษ์งามยามดี ไปลากๆดู アラタなるセカイ ในอเมซอน เพิ่งจะลดไป 28 เปอเอง... (เหลือ 6000 กว่าเยน)
...รอต่ออีกหน่อยละกัน
เลือกไม่ถูกว่ะเลยหยิบsaoเล่ม1มา
กูอ่านเวอร์ชั่นมังงะ ก็พออ่านได้ ไม่ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ได้สนุกมาก
คิดว่านิยายน่าจะสนุกกว่าหน่อย เห็นว่าเนื้อหาเหมือนในนิยาย
กูไม่ต้องอ่านนิยายแล้วละมั้ง สปอยหมดสิ้น
อ่าน Hitsugi no Chaika จบไป 3 เล่ม ธีมเป็นเรื่องของเหล่าผู้คนที่ปรับตัวเข้าสู่โลกอันสงบสุขหลังสงครามไม่ได้
ถึงธีมจะฟังดูหนักและเห็นจุดหมายค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่เล่มแรก แต่เท่าที่อ่านมารู้สึกเดินเรื่องเรื่อยเปื่อยไปหน่อย
ถ้าให้เทียบกับ Strike The Blood (ที่รู้สึกเหมือน Filler 7 เล่มเนื้อหา 2 เล่ม) ยังดีหน่อยตรงที่วิธีเดินเรื่องของเรื่องนี้
มันไม่ค่อยเป็น Pattern แบบเห็นได้ชัดเจนเท่าไหร่ ได้ยินว่าเนื้อเรื่องจะเดินตั้งแต่เล่ม 4 เพราะงั้นลองอ่านต่ออีกเล่ม
ว่าไป เล่ม 3 นี่มันอาการเอาตัวละคร Lv.99 มาใส่ตี้ Lv.10 แบบไม่โดน penalty อะไรเลยชัดๆ ยังดีที่เป็นผู้ดูเป็นหลัก
http://imgur.com/DteJY9z
http://imgur.com/asb85nY
http://imgur.com/93jROoa
Fredrika >> *
เหยด อ่านนิยาย BAD แปลไทยกันจบด้วย กูกราบเลย กูทนกับภาษาการแปลไม่ได้จริง ๆ ว่ะ
เจริญละกูเพิ่งซื้อbadมาอ่านเล่มนึง กูน่าจะมาอ่านในนี้ก่อน สัดๆๆ ดีนะกูเอามาแต่เล่ม1
BADเห็นเล่ม4ออกแล้ว ไวจัง...
เอาจริงๆตอนนี้ค่าย Zenshu มันออก LN ไวอยู่นะ ออกเรื่อย สม่ำเสมอ ไม่ได้ดองเค็มแบบ LP
แต่ Title ในมือมันเยอะ กระจายกันไปก็เลยไม่ทันใจเท่าไหร่
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่คนอ่านต้องมาคอยระแวดระวังว่าไลท์โนเวลที่ตัวเองซื้อแม่งจะมีปัญหา(แปลกาก)รึเปล่า?
http://pantip.com/topic/31460080 ถ้านี่คือบิ๊กเนมที่ว่า กูรู้สึกผิดหวังเล็กๆ
ก็พอเข้าใจว่าเป็นบิ๊กเนมละนะ ถึงได้บอกว่าผิดหวังนิดๆไง
บิ๊กเนมที่ทางนี้หวังเป็นของซูเปอร์แดชกับพวกกันดั้มนี่ล่ะ
>>ก็ตั้งเเต่วานาดิสเล่ม 1 ออกไง......ชื่อเสีย Z เลยขจรขจาย
นิยายยูนิคอรนยังไม่มีใครประกาศใช่ป่าว??
http://pantip.com/topic/31460699
ไอ้นี่อยู่บอร์ดโม่งชัวร์ 555 กูจำได้ว่าวันก่อนมีประเด็นประมาณนี้ในมู้นี้ รายชื่อหนังสือ ชื่อคนแปล ตามนี้เลย
กูขอเอาชื่อ(ชื่อใครดีวะ)เป็นเดิมพันว่ามู้นี้น่าจะปลิวว่ะ
http://pantip.com/topic/31460699
รอดูว่าเซ็นชูมันจะมาบลัสทิ้งอีกไหม
เชี่ย.........กูคนตั้งแท้ๆยังมาแปะไม่ทันพวกมึงเลย
จะไวไปไหนวะ ให้กูมาเปิดประเด็นก่อนสิ
เม้นท์ 4 Lethe โผล่เว๊ย
งานเลี้ยงรุ่นเรอะ อย่ามาคัน, Lethe มาติดๆกันเลย
สรุปพวกมันรู้จักกันจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย
ทำไมกูโรนมันไปโทรลควายๆอีกวะ
แถมเป็นโทรลแบบไร้คลาสอีกด้วย
อยากเป็นบอสห้องการ์ตูนแต่มโพสได้ไร้มันสมองมากกลับไปห้องสยามเหอะกูโรน
กุโรนแม่งเลเวลดาวน์กลับไปเป็นสไลม์เหมือนเดิมแล้ว
กูเบื่อไอ้กุโรนว่ะ มึงจะโทรลซ้อนในกระทู้โทรลทำไมวะ KYสัดๆ
มึงตั้งช่วงเลิกงานมันคงไม่ตามมาไวนักหรอก
ส่วนกุโรนมันคงหมดมุก ถ้าหมดมุกมึงเฉยไปก็ได้ เล่นมุกซ้ำมันแป้กมาก
https://www.se-ed.com/product-search/Ice.aspx?keyword=Ice&search=translator
มึงลืม ICE ไปได้ไงวะ
นึกว่ากุโรนแม่งเก็บ EXP หวังว่าสักวันแม่งจะได้เป็นคิงเมตัลสไลม์ เสือกเลเวลดาว์นกลับไปเป็นสไลม์อีก
ไม่ได้ตั้งใจจะโทรล แต่มันติดพิมพ์สำนวนแบบนั้นว่ะ กุสงสัยจริงๆนะ
ทำไมคนเก่งๆภาษายุ่นแน่นๆกันจริงถึงไม่ลงไปทำอาชีพนักแปลนิยายแปลมังงะกันเองเลย มันเงินไม่ดีรึ? เลยทำอย่างออื่นดีกว่า รึแค่อยากโชว์ภูมิกัน?
สงสัยในเรื่อที่มึงรู้อยู่แล้วนี้นะ
เฮ้อออ
คนมันไม่มีพรสวรรค์ยังไงแม่งก็เทรนไม่ขึ้นวะ
ไอ้กุโรน มึนอยู่ในนี้มามึงไม่เคยอ่านนักแปลมันคุยกันเลยรึไงวะว่าทำไมคนเป็นนักแปลมันไม่เยอะอะ มึงไม่ต้องมาทำเป็นแอ๊บใสว่าสงสัยจริงไม่ได้โทรลเลย ไร้ฝีมือก็ยมรับมาดีๆเหอะ
>>777 แถมอีกนิด นอกจากจะเงินน้อยสัสแล้วชีวิตยังบัดซบด้วย วันๆนั่งอยู่แต่หน้าคอมจะเป็นง่อยเอา
เป็นอย่างอื่นยังได้รู้จักผู้คนเปิดหูเปิดตา ประชุมกับผู้บริหาร ไปตีกอล์ฟฟรี ไปญี่ปุ่นฟรี(แต่ไปทำงานนะ)
และถ้าทำงานบ.ญี่ปุ่นใหญ่ๆดีๆสวัสดิการท่วมหัวอีก
อ้อ แล้วไม่ต้องถามว่าทำไมไม่ทำเป็นงานเสริม เหตุผลกลับไปที่เดิม เงินมันน้อยสัส
พวกสายญี่ปุ่นเงินเดือนแม่งเยอะอยู่แล้ว เลิกงานแทนที่จะมานั่งหลังขดหลังแข็งหน้าคอม
เอาเวลาไปพักผ่อน ตีพุง ดูเมะ อ่านการ์ตูน เข้าฟิตเนส เรียนโท หรืออะไรดีกว่าเยอะ
มึงเลื่อนไปอ่านบนๆให้ไวไอ้กูโรนกระทู้นี้ละแล้วจำใส่เซลสมองมึงเอาไว้
อยากให้รู้อย่างว่า คนที่ทำงานแปลน่ะมีอยู่แล้ว แต่เอ็งมาท้าให้เขาไปแปลเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่มันออกมาห่วยไปแล้วเนี่ยบ้ารึเปล่า
เขาก็มีเรื่องที่แปลอยู่ จู่ๆจะให้ทิ้งงานไปทำเรื่องคนอื่น(ดีไม่ดีสนพ.อื่น)ได้ไง
ขืนรับคำท้าเอ็งก็โคตรจะไม่มีความรับผิดชอบเลย
กระทู้ไม่ปลิวเว้ย
กลับไปเก็บเลเวลห้องสยามใหม่เลยมึง
>>766-767 มึงอย่าด่วนสรุปว่าที่มันออกมาด่านี่คืออ่านญี่ปุ่นออกสิวะ
บางคนแม่งอ่านแปล ENG พอเจอแปลไทยไม่เข้าท่า ไม่ตรงกับที่ตัวเองอ่านนิดหน่อย แม่งก็พองลมออกมากร่างกันแล้ว
ถ้ามึงพิมพ์ติดสำนวนแบบนั้นออกไปเอง แปลว่านั่นล่ะตัวตนของมึง ไม่ต้องไปเก๊กหล่อหรือแอ๊บโทรลหรอก
เอาดีทางสไตล์นี้แหละ มึงคิดอะไรพูดตรงๆโดยไม่มองภาพรวม คำพูดออกแนวประชด ก็ทำแบบนั้นต่อไป
เพราะเรื่องห่าเหวในโลก ถ้าไม่มองภาพรวมแม่งมีแต่จุดผิดพลาดอยู่ทั้งนั้น อย่างเก่งนักไม่แปลเองนั่นล่ะ
มึงแค่สรรหาคำประชดให้ฟังดูดีก็พอ
กูพูดถึงกุโรน เกี่ยวไรกับ Lethe วะ
แล้วมึงquoteอะไรมาให้กูดูละครับ
ตกลงมันคือ 1 ในหมู่โทรลสินะ
ภาษาญี่ปุ่นก็อีกเรื่อง(อันนี้กูก็ไม่เป๊ะเลยไม่กล้าออกตัวแรง)
แต่พวกใช้ภาษาไทยยังผิดแล้วมาด่าคนแปลคนอื่นงั้นงี้ส่วนตัวเองทำงานดีไม่มีลวกนี่กูควรจะทำยังไงดีวะ
ความคิดเห็นที่ 8-13
คนๆนึงทำอาชีพอย่างหนึ่งเต็มที่ เขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้สมบูรณ์แล้ว
ในขณะที่งานที่คนๆนั้นทำไม่ได้ ก็จะมีผู้อื่นมาเติมเต็ม
<<แค่หลักการใช้ไม้ยมกแม่งก็ผิดแล้ว อีกูโรนจัดให้กูทีดิ๊
ฝากเอาให้มันอ่านด้วย http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1158
๒.๓ เมื่อเป็นคำคนละชนิดกัน
ตัวอย่าง
คนคนนี้เป็นคนดี (คน คำหน้าเป็นคำนาม คน คำที่ ๒ เป็นลักษณนาม)
มึงไปเทรน Troll กันต่อที่กระทู้แม่บ้านได้มั้ยวะ ชักออกนอกเรื่อง LN ไปไกล
>>808 ไม่ใช่ว่ะมึง มันไม่ใช่ภาษาพูดที่จะแยกใช้ในเว็บบอร์ดกับงานเขียน
เพราะคนที่รู้จะไม่มีวันใช้ผิดแม้จะพูดในเว็บบอร์ดหรือที่ไหน ยิ่งคนทำงานภาษายิ่งระวังตัวเกร็งเลย เพราะถ้าใช้ผิดมันจะติดเป็นนิสัย
กูฟันธงว่ามันไม่รู้หลักภาษา ใช้ผิดมาตลอดชีวิต เพียงแต่งานมันอาจจะได้พิสูจน์อักษรคอยช่วยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ตลอดเลยรอดมาได้
อืม ถ้าว่างั้นมันก็จริงแฮะ
ไม้ยมกมันเป็นหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์อักษร และสามารถตรวจแก้อัตโนมัติด้วยโปรแกรมพิสูจน์อักษรดีๆ โดยไม่ต้องใช้สมองด้วยซ้ำไป
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการแปลนะแจ๊ะ
กุวกกลับมาเรื่องLNให้ เรื่อง BAD นี่กุควรจะเก็บต่อดีมั๊ย ตอนนี้กุซื้อมา 3 เ่ล่ม แต่ดองไว้ อ่านเล่ม 1 ไปได้แค่ค่อนเล่ม ประมาณ 3/4 ยังอ่านไม่จบ เห็น เล่ม 4 มันออกมา แล้วกุควรซื้อต่อมั๊ย หรือว่าดรอปดี เกณฑ์เรื่องนี้สำหรับกุเฉยๆ อ่านรู้เรื่อง แต่ก็ไม่ถึงกับกระสันอยากติดตาม เล่ม 1 กุยังดองอ่านไม่จบมาหลายเดือน
กุไม่โทรลนะเว๊ย กุเป็นคนดี ทำไมพวกมึงชอบบอกว่ากุโทรลกันวะ มึงลองเข้าไปดูกระทู้สอบถามปัญหาชีวิตในห้องสยามสิ กุให้คำชี้แนะดีมีประโยชน์ตลอดเลยนะเว๊ย ทำไมพวกมึงชอบมองคนอื่นในแง่ร้ายแบบนี้วะ สาวๆไม่ปลื้มนะเมิง
เห็นบอกว่าจะเปิดตัวปีใหม่? หรือบริษัทมันยังไม่เปิดทำงาน เพราะบ.กูก็ยังไม่เปิดเหมือนกัน ลั้ลล้า
แต่ไนท์โลเวลช่วงนี้แม่งผุดเป็นดอกเห็ดจริง กูอ่านไม่ทันละ
>>824 เก็บไว้เผื่ออีคนแปลมันตอบกลับมึงแบบ >>813 นะ
เป็นคนแปลภาษาไทยไม่ต้องรู้หลักภาษาไทย ให้เป็นหน้าที่พิสูจน์อักษร ถุย พูดมาได้
พิสูจน์อักษรเขามีไว้เก็บข้อผิดพลาดสุดวิสัย คิวซีงาน ไม่ได้มีหน้าที่มารองมือรองตีนเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้มึงใช้ภาษาเหี้ยยังไงก็ได้นะเว้ย
ไม่เคยอ่านคุณสมบัติเวลาเขารับสมัครคนแปลหรือไงวะ ทุกเจ้ามันก็บอกหมดแหละว่าต้องเชี่ยวชาญทั้งภาษาไทยและญี่ปุ่น
กูไม่เคยเห็นเจ้าไหนบอกเลยว่า ขอญี่ปุ่นมึงเทพก็พอ ภาษาไทยช่างพ่อง เดี๋ยวกูให้พิสูจน์อักษรจัดการเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้มึงเอง
เค้าหรรมมักก่าที่เตงบอกว่าแค่ไม้ยมกผิดคือไม่รู้หลักภาษา (ย้ำว่า"แค่" เพราะมีโปรแกรมพิสูดดดดอักสอนกด auto check ปุ่มเดียวก็จบแระ)
ถ้าเตงแยกม่ายออกว่าใช้ผิดบ้างกะใช้ภาษาเหี้ยๆเปงงัย เราก็สมน้ำหน้าเตงล่ะ ว่าไม่รุ้เหี้ยไรเรย กะเอิ้ก กะเอิ้ก
แต่ถ้านักแปลมันพิมพ์ผิดบ่อย ก็เหนื่อยพิสูจน์อักษรนะเว้ย อย่างกูเป็นต้น เพราะพิมพ์สัมผัสไม่ได้และขี้เกียจหัดซะแล้ว ถถถ
>>826 ขี้เกียจเถียงกับมึงว่ะ แต่กูว่าง บริษัทยังไม่เปิด เที่ยวปีใหม่ก็เที่ยวไปแล้ว
ความจริงกูไม่ได้อะไรกับ "แค่" การใช้ไม้ยมกหรอก ที่กูอยากสื่อคือมึงแม่งก็ห่วยแตก
เรื่องการตรวจไม้ยมกมันอาจจะเป็นเรื่องเล็กที่ใช้เครื่องห่าอะไรของมึงตรวจได้
แต่การที่มึงเป็นนักแปล แต่มึงเสือกไม่ใส่ใจจะศึกษาหลักการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง โบ้ยว่าเรื่องแค่นี้เป็นหน้าที่ของพิสูจน์อักษร
มึงก็คือคนชุ่ยคนหนึ่งที่ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าใครที่มึงด่าว่าทำงานลวกเลย ก็แค่นี้แหละที่กูอยากพูด
ซึ่งเห็นแค่นี้กูก็ไม่รู้หรอกว่ายังมีอย่างอื่นที่มั้ยที่มึงยังใช้ผิดนอกจากเรื่องไม้ยมก
ไอ้โปรแกรมพิสูจน์อักษรเนี่ย เวลาเจอพวกภาษาระยำมากๆ โปรแกรมมันก็ไปไม่เป็นเหมือนกันนะเว้ย
โปรแกรมตรวจอักษรมันไม่ได้เป๊ะนะ ถ้ามึงพึ่งแต่โปรแกรม คนทำงานตรวจอักษรก็ตกงานหมดสิ
ที่ที่กูทำงานอยู่ก็ใช้โปรแกรมพิสูจน์อักษรนะ แต่ต้องนั่งแอพพรูฟเชนจ์ทุกจุด แล้วก็ให้คนพิสูจน์อักษรตรวจซ้ำอีก
เพราะว่าโปรแกรมมันไม่เข้าใจศัพท์เฉพาะ ชื่อเฉพาะ แต่มันก็จะพยายามแก้ให้ บางอันเอามาดูกันแล้วฮากลิ้งกันทั้งแผนก
จะทำไลบรารี่ให้ยกเว้นก็ไม่ไหว หนังสือวิชาการนี่มันมีศัพท์เฉพาะเยอะเกิน
แล้วก็พวกคำพิมพ์ผิดแบบที่ผิดไปเป็นคำอื่นที่คล้ายๆ กัน โปรแกรมก็จับไม่ได้
ถ้าโปรแกรมมันพัฒนาโลจิคให้รับมือทุกอย่างที่ว่ามานั่นได้ คนพรูฟค่อยตกงานว่ะ เร็วๆ นี้ยังไม่ตกหรอก
อีพวกเชื่อโปรแกรมแล้วไม่มาเช็คดูอีกนี้ ทำงานเอกสารหรืองานแปลในบริษัท"คนปกติ" แม่งโดนเรียกเข้าห้องเย็นมานักต่อนักแล้วนะ
คือมึงไม่อายเลยเหรอ?? ลองเวลามึงทำงานแปลเอกสารเหี้ยอะไรไป แล้วโดนเค้าอิดิตแก้ตัวแดงเถือกทั้งหน้า คือถ้าอย่างบริษัทกู แก้แล้วจะส่งกลับมาให้คนแปลดูอีกที ปากบอกให้ครอสเช็ค แต่จริงๆเป็นการบอกในตัวแหล่ะ ว่ามึงแปลได้กากสัด
กูอนาถอมยิ้ม nanasuyoru ของมึงชิบหาย
ถามจริงเหอะไอ้โกรน(กุโรน+โทรล) มึงอยากเป็นเซเลปรึไงวะ
ถ้าอยากดังขนาดนั้นว่างๆ มึงไปหาเมพบีมแล้วขอเล็บตีนมาต้มน้ำแดกมั่งนะ
ไม่ไป อิอิออิ
nanasuroyuนี่โทรลหีหมาจริงๆนะ lol
ไอ้ nanasuyoru เนี่ยกูเห็นล็อกอินมันตั้งแต่เป็นเกรียนไทป์ประมูลเห่อหมอยมาสมัครพันทิปใหม่ๆแล้วว่ะ
เมื่อก่อนเห็นปะหลกๆตามพวกศาสดาไทป์ประมูลไปทุกกระทู้ ผ่านไป 4-5 ปี แม่งทำตัวเป็นโทรลซะละ
บอกได้เลยว่าไม่เนียน มึงไปตายแล้วเกิดใหม่ซักรอบเหอะ หรือสมัครอมยิ้มใหม่มาโทรลก็ได้
ไปต่อกันในกระทู้แม่บ้านได้ไหมวะ รกกระทู้
ตามนั้นครับ
กูสงสัยมากว่าเเม่งกุโรนตัวจริงรึเปล่าวะ
เชิญมึงไปสงสัยในกระทู้แม่บ้าน
กุวกกลับมาเรื่องLNให้ เรื่องอีหนูสุดซ่ากับก๊วนบ้าหลุดโลกของอนิแม็กนี่ นี่กุควรจะเก็บต่อดีมั๊ย ตอนนี้กุซื้อเล่ม 1 มา แต่ดองไว้ ข้ามปีละ ยังอ่านไปไม่ถึงครึ่งเล่ม ถ้าเล่ม 2 มันออกมาแล้วกุควรซื้อต่อมั๊ย หรือว่าดรอปดี เกณฑ์เรื่องนี้สำหรับกุเฉยๆ อ่านรู้เรื่อง แต่ก็ไม่ถึงกับกระสันอยากติดตาม เล่ม 1 กุยังดองอ่านไม่จบจนข้ามปี
ไหนๆขึ้นปีใหม่แล้ว ลองแนะนำ LN ที่อ่านเมื่อปีก่อนแล้วโดนใจสุดๆกันหน่อยซิ (อย่าเกินสามเรื่อง)
พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวทย์
Index (อ่านเพราะ accelerator)
อีกเรื่องอะไรดีวะ SAO ละกัน
ส่วนใหญ่อ่านใน Bakatsuki ว่ะ ขี้เกียจรอฉบับไทย
cop carft
สาวแดกหนังสือ
ngnl
>>845
1. ตัวป่วนชั้นเซียน มาตบเกรียนถึงต่างโลก? - คืออนิเมสนุกนะ แต่นิยายนี่รู้สึกได้ว่า คนแต่งแม่งมีของ (ฝีมือ) ว่ะ แถมในบรรดา LN มันหาน้อยเรื่องมากเลยนะที่พระเอกหลักไม่ฮาเร็ม แล้วสาวๆ ทุกคนก็เฉลี่ยบทกันแบบไม่หด้ตกหลุมรักพระเอก
2. แม่มด มังกร มนตรา ลีเวียทาน - เรื่องนี้อ่านงานเก่า (คัมปิโอเน่) ในจันทร์บ้า แล้วติดใจในฉากจูบ ซึ่งลีเวียทานก็ไม่ทำให้กูผิดหวังเลย (กับฉากทำคลอด) แล้วก็ อาช่าสุดยอด
3. Highschool DxD - อันนี้กูดู ED ในยูทูปแล้วสนใจ เลยเอาอนิเมมาไล่ดู รู้ตัวอีกที ดูอนิเมหมด แล้วไปอ่านนิยายต่อในจันบ้าจนถึงล่าสุด คือ สนุกมาก สนุกเหี้ยๆ แม่งโดนเซอร์วิสหลอกอยู่ตั้งนาน จริงๆ โคตรสนุก แล้วมุกก็อุบาทว์คาดไม่ถึงเหี้ยๆ คือในขณะที่กูนึกว่าเรื่องนี้มันจะไม่มีอะไรเกินแปลงร่างด้วยการจับนมนางเอก คืนชีพด้วยเสียงเรียกหาหน่มน๊ม ได้รับพลังจากเทพหน่มน๊มต่างมิติให้ได้ยินเสียงในจิตใจของหน่มน๊มได้....มันก็ปรากฎมังกรที่อัญเชิญด้วยกางเกงในของซิสเตอร์ ที่ออกมาแล้วสูดกลิ่นกางเกงในก่อนแล้วถึงจะสู้ได้....สัส กูยอมแล้ว
ลืมโพสของตัวเอง
BACCANO
されど罪人は竜と踊る Dance with dragon
今日からマ王
LN ที่โดนปีที่แล้ว
1. cop craft : ไม่มีคำบรรยาย ทั้งแปลไทยทั้งเนื้อเรื่อง สั้นๆเลย "กูกราบ"
2. No game no life : สนุกใช้ได้ เล่ม 2 ยิ่งสนุก ทั้งที่เดบิวแบบนี้เล่มสองมันน่าจะซาลงแท้ๆ
3. ห้องเช่าป่วนก๊วนคนแปลก : กูบุฮี้อีสาวใต้ดินอ่ะสัส
>>844 แนะนำให้เก็บต่อ เพราะเล่ม 3 อีแสบแม่งแปลงร่าง
เรื่องนี้กูซื้อดิบเก็บเพราะอีแสบนี่เลย ว่าแต่มีเรื่องใหนอีกป่ะวะที่มันแสบแบบไม่เหี้ยอ่ะ
แถมนิด เพื่อนพระเอกแม่งแมนสัสๆ
No game no life เล่ม 2 ออกแล้วเหรอวะ?
1.คอปคราฟต์ อันนี้ต้องขอบคุณเพื่อนโม่งในนี้จริงๆที่แนะนำกันมา เพราะดูหน้าปกผ่านๆแล้วไม่มีมีแรงดึงดูดอะไรให้กูอยากอ่านเลย แต่พออ่านจบแล้วรู้สึกได้เลยว่า เออ มันต้องแบบนี้แหละ ถึงจะเป็นLNก็เถอะ คนเขียนมันก็ควรมีฝีมือการประพันธ์ให้ได้ประมาณนี้แหละ ไม่ใช่เอาตีนเขี่ยสำนวนกากๆออกมาอย่างIS
2.เฮฟวี่ ออปเจค์ท อันนี้สารภาพว่าซื้อมาเพราะมันติดยี่ห้อของคามาจิ และก็ไม่ผิดหวัง เปิดเรื่องมามีแต่บรรยายศัพย์สายวิทย์เฉพาะทางเหี้ยไรไม่รู้ให้ว่อนไปหมด สร้างความเสียหายทางจิตใจแก่เด็กสายศิลป์อย่างกูยิ่งนัก จนอ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้วเกิดอาการอยากขว้างทิ้งขึ้นมาตะหงิด แต่พอเริ่มตอนโอเชียเนียนี่แม่งกับพลิกลำมาดีขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ คือแม่งสนุกจริงๆ สนุกฉิบหาย ช่วงท้ายของเล่มอัดแน่นไปด้วยฉากบู๊เต็มสูบจริงๆ แถมแม่งแทบจะไม่ขายโมเอะเลยด้วย เนื้อเรื่องหลักๆจะโฟกัสไปที่สองคู่หูพระเอกพระรองทหารช่างมากกว่า อารมณ์ประมาณStrike Back (Cinemax) ที่ไม่โป๊และลดทอนความรุนแรงลงผสมกับเมทัลเกียร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบพระเอกไหวพริบดี มีหัวคิด แต่ไม่เน้นฉากโชว์เทพ
3.โตเกียวเรเวน อันนี้ซื้อมาเพราะเห็นว่าน่าสนุกดี กอปรกับตอนนั้นเห็นว่าอนิเมกำลังจะฉาย ส่วนตัวก็จัดว่าอยู่ในระดับดี อ่านแล้วรู้สึกสนุกใช้ได้เลย จบเล่มแรกแล้วอยากอ่านต่อ แต่ก็ไม่ถึงกับถ้าไม่ได้อ่านแล้วจะลงแดงแต่อย่างไร
เซนชูทั้งคู่แจ้ แต่เฮฟวี่ออปเจ็ค์ทครึ่งแรกแม่งบรรยายได้ชวนฉีกหนังสือทิ้งๆจริงๆนะ ทำใจก่อนอ่านด้วย
สำหรับกูคงเป็นno game no lifeเรื่องเดียวที้สนองนีทเรื่องความเปรตของพระเอกได้มากสุดสำหรับกูละ(กูเบื่อพระเอกแนวสุภาพบุรุษเป็นเกย์)
ไม่ค่อยได้เห็นพระเอกฮาเร็มที่ไหนแม่งมีประวัติชักว่าว
ไม่รู้จะแนะนำอะไรแฮะผม พอดีปีก่อนผมเปิดไลน์ใหม่ค่อนข้างน้อย แถมที่เปิดไปก็ตามที่ข้างบนว่านั้นแหละ
ที่อ่านดิบไปก็อ่านแค่ผ่านๆ(สกิลยังไม่ค่อยถึงด้วยแหละ) ไม่ได้จับเนื้อความมาพอที่จะเอามาแนะนำได้ด้วย
อันที่จริงไม่มีอะไรหรอก ผมน่ะเป็นพวกระลึกชาติเองไม่ค่อยเก่งเท่าไร เจอคำถามแนวๆนี้ทีไรก็เป็นอย่างนี้ทุกรอบแหละ
นี่ขนาดอายุยังแค่ 20 แล้วเป็นถึงขนาดนี้ อายุ 60 ผมจะเป็นขนาดไหนเนี่ย... (เอาชีวิตให้รอดถึงอายุ 40 ก่อนเถอะ)
โตเกียวราเว็น พวกมึงจงซื้อมาบูชาลุงๆซะ เป็น LN ที่อุดมไปด้วยลุงๆจริงๆ
ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากฮาเร็มบุฮี้ มาเป็นเหล่าลุงๆโมเอะก็จงซื้อมาอ่านซะ(แต่หลังเล่ม 5 นะที่เหล่าลุงๆทังหลายจะโผล่กันเพียบ)
>>857 เป็นนางเอกที่อนาถสุดเท่าที่กูเคยเจอเลยนะ มีชื่อออกมาครั้งเดียวตอนเล่ม 1 นอกนั้นแม่มไม่มีใครเรียกชื่อเลย
แถมอีกเรื่อง กูแนะนำหลายรอบแล้ว สึคุโมะโด ของ ELN
เอามาอ่านแตชค่ตอนสุดท้ายของแต่ละเล่มก็ฟินแล้ว
ตอบแค่สามนี่ยากแฮะ กลายเป็นอ่านแต่เมนสตรีมไป (หัวเราะ)
1. Date A Live - ×Harem ○Boy Meets Girl แบบ Orthodox
2. Tokyo Ravens - ×Harem ○โมเอะลุงๆ ตัวละครหญิงนับได้ในสองมือ
3. Mondaiji-tachi ga Isekai Kara Kuru Sou Desu yo? - ×Harem ○ฮาเรม? พูดถึงอะไรน่ะ?
นักเขียนที่อ่านแล้วถูกใจที่สุดของปีที่แล้วคือ Tachibana Koushi คนเขียน Soukyuu no Karuma และ Date A Live
โดยเฉพาะใน Karuma ยืมคำพูดจากรีวิวใน Amazon มาก็คือเป็น "จังค์ฟู้ดที่สร้างด้วยวัตถุดิบชั้นหนึ่ง"
เก็บปมได้ดีขนาดอ่านจบแล้วอยากลุกขึ้นปรบมือให้ เป็นเรื่องที่เขียนได้เพราะเป็นไลท์โนเวลจริงๆ…
ห้องเช่าป่วนก๊วนคนแปลก ก็ไม่เลวนะ พระเอกปักธงได้ epic สัส ๆ ระดับตำนานของจริงเลยทีเดียว เล่นเอากูอึ้ง
อยากให้มีรีวิว LN ฝั่งผู้หญิงอ่านบ้าง
พวกของ G-Plus, บราเธอร์คอน, ฮาคุโอคิ หารีวิวยากมากมาย
มีโม่งหญิงในกระทู้นี้บ้างมั้ยเนี่ย หรือชี้ทางหน่อยก็ได้ว่ามีรีวิวที่ไหนบ้าง
>>863 +1 สึคุโมะโดเเม่มอ่านเเล้วฟินจริง
ส่วนตัวอ่านเยอะ เเต่ของปีนี้ที่ชอบก็คงประมาณนี้ล่ะมั้ง...ไม่นับสึคุโมะโดนะ
1. โนเกม : โดนอิมเเพคกระเเทกใจดำตั้งเเต่ชื่อเรื่อง + เเอบเป็นเเฟนบอยงานของคามิยะยูอยู่นิดนึง พอรู้ว่าพระเอกมันเป็นเกรียนสาย int ยิ่งอยากอ่าน พออ่านเเล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ โคตรอยากเห็นสเตฟเอาหัวโขกกำเเพงในเมะ...
2. โตเกียวเรเวนส์ : อันนี้สอยมังงะ SIC มา 2 เล่มตั้งเเต่เมะยังไม่ประกาศเพราะชอบสายองเมียว + เห็นคอนที่ปกหลัง พออ่านๆไปรู้สึกว่าเเม่งเเปลได้เหียกมาก + ตัวผู้นี่หว่า = เฟลเเดร๊ก ไม่เก็บต่อซะเลย...มารู้ทีหลังว่าคนเเปลกากส์ จริงๆเเล้วเป็นผู้หญิงต่างหากก็ค่อยโล่งใจหน่อย...เมะก็ทำออกมาโอเคด้วย
3. เเอสเทอริกส์ : สายโคตรตลาด เเอคชั่นฮาเร็มในรั้ว ร.ร.ธรรมดาๆที่ MF เหมือนจะปั้นใหม่มาชนกับ IS ล้างเเค้นเกรียนอิซึรุเเล้วก็สู้ไม่ไหว...เเต่อ่านเเล้วรู้สึกว่าเเม่งสนุกกว่า IS ร้อยเท่าตัวได้ พระเอกไม่กาก + ซื่อบื้อเเค่ปานกลาง + สำนวนบรรยายดีกว่ากากเป็ด IS โคตรๆ + ร.ร. ไม่หญิงล้วน ดูเเล้วไม่เอียนมาก ไม่ใช่คุย + สู้อยู่เเต่กับผู้หญิง มีเพื่อนผู้ชาย มีตัวผู้เกรียนๆให้ตบ แถมสาวๆในเรื่องนิสัยก็โอเค น่าอวย ไม่ได้ติ่งเเตกมีอยู่มิติเดียวเเทบทุกคนแบบอีกเรื่องนึงด้วย
อีกเรื่องที่อ่านเเล้วชอบก็เหมียวยิ้มยาก รู้สึกว่ามันพอดีทุกด้าน ทั้งช่วงโมเอะ เอาฮา มาม่า เซอร์วิส สำนวนบรรยายก็ดี ตอนอ่านเล่มเเรกนี่โคตรชอบ เสียดาย LP เเม่มดองเค็มปล่อยเล่ม 2 มาหลังกูโดนเมะสปอยจนเหี้ยน...เลยอ่านเเล้วไม่ค่อยอิมเเพ็คเท่าไหร่
เพิ่งซื้อไอดอลไลซิ่งมา.....เหี้ย ทำไมไม่ใช่ปกในแบบเดิมวะ อย่างนี้ถอดแจ็กเก็ตแล้วยังไม่กล้าเอาไปอ่านนอกบ้านอยู่ดี
ของปีที่แล้ว ได้อ่านจริงจังแค่สองเรื่อง
1.Sasamisan@Ganbaranai : ทีแรกก็ขี้เกียจอ่าน แต่โดนสปอยล์เรื่องลาสบอสจากไนโตรพลัสตอนเมษาหน้าโง่เข้าไป (ซวย) เลยเกิดสปาร์คต้องเอาให้รู้เรื่องให้ได้ แล้วก็ไปโดนอิมแพคแรงๆแถวเล่ม6-7 (ที่แอบมาลงสปอยล์ไว้ในนี้แต่เขียนไม่ถึงเพราะนิยายโดนLCซะก่อน) กับเสียน้ำตาให้เล่ม11 จนเอาไปฝันเห็นเป็นฉากในอนิเม(ที่คงไม่มีบุญได้ทำต่อ) เป็นเรื่องที่ทำให้ความรักระหว่างพี่ชาย-น้องสาว เรื่องอื่นจืดไปเลยจริงๆ
อยากเห็นตอนจบแบบครอบครัวใหญ่ แต่เล่มจบโดนเลื่อนยาวอยู่ ถ้ากลับมาพร้อมข่าวดี(?)ก็คงจะดี
2.Tokyo Ravens : ซื้อมาอ่านหลังจากอ่านเล่มไทยเล่ม1จบ แล้วคำนวณเวลาออกว่ากว่ามันจะออกทันคงอนิเมจบไป 5 ปี ก็เลยตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะ สารภาพว่าอ่านๆไปหลังๆนึกถึงแฮรี่พอตเตอร์ช่วงเล่ม3-4ที่ยังสนุกไม่น่าเบื่อ ใครรักใครชอบนัทสึเมะ สมควรอ่านอย่างยิ่ง ส่วนที่ข้างบนพูดกันว่า หลังๆมีแต่ลุง ก็จริงนะ เปิดตัวละครสาวๆมาบทไม่ค่อยมี มีแต่ลุงๆคุยกันครึ่งเล่ม ตอนนี้อยู่ที่เล่ม7 จาก 10เล่ม
งานหนังสือรอบหน้ามันเดือนไหนวะปีนี้
แล้วปีนึงนี่มีงานหนังสือ 3 รอบใช่ปะ ถ้ากูจำไม่ผิดมีงานหนังสือแห่งชาติ งานหนังสือเด็ก(เด็กโข่งมากกว่ากูเห็นแต่แก่ๆเดิน) กับ Book Expo
งานหนังสือเด็กเหมือนจะยกเลิกแล้ว ไม่มีคน เหลืองานใหญ่ปีละ 2 รอบ
Book Mega Sale ที่ไบเทคเมื่อปลายปีก็ค่อนข้างเงียบ ไม่รู้จะจัดปีแรกปีเดียวหรือเปล่า แต่ยอมรับว่าลดแหลกจริง ๆ ก็มีหลายบู๊ธ และได้เลือกของตอนคนน้อย ๆ สบายกว่าไปเบียดในงานใหญ่
สงสัยนิด ทำไมไม่มีคนเอาMakai yomeเข้ามาวะ
เนื่อเรื่องมันไม่ได้ขี้เหร่เลยนะ สนุกกว่าอิจิกากด้วยซ้ำ รูปประกอบก็โอเค หรือเพราะไม่ฮิตในญี่ปุ่น?(ดองเล่ม5มาชาติเศษละ) จะหาเพื่อนคุยในเน็ตแม่งไม่มีเลย
2จังแม่งก็ปิดประเด็นไปละ กูโครตเสียดายที่รู้จักเรื่องนี้ช้าไป
มีข่าวราเวนส์มาจากปากคนใน
- เล่ม 2 แปลไม่ทัน ไม่ออกในงานหนังสือนี้แน่นอน
- แก้ไขปัญหาที่คุณก็รู้ว่าอะไรได้แล้ว หลังจากนี้คิวออกน่าจะดีขึ้น
- จะประกาศให้นักอ่านฟังเป็นเรื่องเป็นราวรึเปล่า ยังไม่ได้คิด ที่แน่ๆ คืองดออกความเห็นเกี่ยวกับนักแปล
1 เปลี่ยนคนแปล
2 แปลเสร็จแล้ว บก.กำลังตรวจต้นฉบับ
3 อะไรสักอย่างที่เราไม่รู้
คิดว่าอันไหน?
สมองไหล
ฟันธงได้ว่าคนแปลเบี้ยวยังไม่ส่งงาน
>>881 ไม่ได้ถามมากว่ะ เจอกันโดยบังเอิญที่ห้างแถวบ้าน
พอเค้าบอกไม่ออกความเห็นเรื่องคนแปลกูก็ไม่ได้ถามต่อ
กูตีความแบบนี้
ปัญหา = คนแปลคนเก่าเบี้ยวไม่ส่งงาน (ก็ดูทำตัวมีปัญหาซะอย่างงั้น)
แก้ไขได้แล้ว = น่าจะได้คนแปลใหม่แล้ว
แปลไม่ทัน = ไม่ใช่คนเก่าแปลไม่ทัน แต่พึ่งได้คนใหม่มาทำเลยไม่ทัน
ว่าไปเอพลัสนี่สมองไหลไปแจ่มใสหลายคนแล้ว มือเทพย้ายค่ายไม่แปลกใจ แต่กระทั่งตัวปัญหาแบบคนนี้ยังย้าย
มันมีปัญหาภายในอะไรรึเปล่านะ รึแค่แจ่มใสจ่ายงาม
สรุปตามความเข้าใจของเราคือมันเป็นปัญหาภายในที่แทบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนอ่านเลย
งานเล่มก่อนก็โอเคแปลดีตามมาตรฐาน เล่มต่อไปก็หาคนแปลได้แล้ว
ผลกระทบก็แค่หนังสือออกช้าไปนิดหน่อย แต่โดยรวมก็ยังออกเร็วกว่าLPอยู่ดี เหอๆ
เรื่องกูไม่ได้อ่านช่างแม่ง
http://pantip.com/topic/31460699
มีใครไปตอบไอ้ First ยังวะ เนตกูกาก เข้าไม่ไหว
กรุณาไปถามในกระทู้แม่บ้าน
โดนไปตอนต้นกระทู้แล้ว
มีคนโผล่มาจากรูแล้วเว้ย
มันโทรล แถมโทรลแบบโง่ๆด้วย อย่าไปเอาอะไรมากกับมัน
you mad ?
ใครช่วยบอกกูที ตกลงกูจะได้อ่าน Biblia Koshodo Jiken แน่ใช่มั้ยวะ
ถ้ามันออกภายในงานหนังสือสงกรานต์นี้กูจะเซิ้งเลย
งานมีเดียเวิร์ค จะมีใครอีกล่ะว้า
มีนักแปลมาตอบด้วยวุ้ย ถามด้วยว่าตกลงที่พวกมึงบอกว่าภาษาไทยมันห่วย พวกมึงมีภาษาไทยดีกว่าคนแปลหรือเปล่าวะ
แก้ตัวมาดีๆแต่มีแว้งกัดตอนท้ายด้วยง่ะ
เอ้าโม่งคนไหนเก่งยุ่นกับอ่านงานของมันไปไฟท์หน่อยเร็ว
เสียดายไม่มีไอดีพันดริฟ
"ถ้าคุณมั่นใจว่าภาษาไทยของคุณดีแล้ว ผมยินดีขึ้นแบล็คลิสต์ของคุณครับ"
อย่างน้อยกูก็ไม่ใช้ภาษาวกวนวิงเวียนแบบตัวอย่างที่ 51 มันยกวะ
ปล. เหี้ยกุโรน กูรำคาญมึงมาก จะไปตายที่ไหนก็ไปโว้ย
ขออัญเชิญไปต่อกันกระทู้แม่บ้าน
นี่เหรอวะ คำแก้ตัวของคนแปลเดนปะอนนะ
"มาเป็นพิสูจน์อักษรส่วนตัวให้ผมเถอะครับ ขอร้อง ผมแบ่งค่าต้นฉบับให้ก็ได้ครับ"
เหยด ถึงกับต้องซื้อตัวเลยทีเดียว
ปล.คอมเม้นท์ย่อยของกุโรนแม่งเกือบ 60 ละ มึงจะทำสถิติพันทิพเรอะ
เหยดด Lethe ออกมาแล้ว
ไอ้เหี้ย เล่นเอากูกลืนน้ำลายเอื้อกเลย
สวัสดีครับ Hakuro ครับ นักแปลติดแบล็คลิสต์ของเจ้าของกระทู้ครับ
ผมแปลให้กับเซนชูทั้งสิ้น 3 เรื่อง โดนเข้าแบล็คลิสต์ 2 เรื่องนะครับ
-------------------------------------
ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เปลี่ยนนามปากการึเปล่าวะเนี่ย หรือว่ายังไม่ออก กลัวแล้ว สัส
ระเบิดเวลารอแตกคามือตอนหยิบหนังสือจ่ายเงินชัดๆ เสือกไม่มีชื่อคนแปลบนปกด้วยแน่ะ
อ้าวเรอะ.... ฮาคุโอคิ หันไปถามสาววายโต๊ะข้างๆ ชีโวยว่าสำนวนไม่ดี ญี่ปุ่นไม่รู้ว่ะ
lethe แม่งโหดสาด
กุโรน 51-2 มาละ มึงจะไปไฝ๊ว์ละ lethe โชว์เก๋าหน่อยมั้ย
เดนปะ อนนะ เล่ม 3 เปลี่ยนคนแปล ไม่ใช่ Hakuro ก็น่าจะดีขึ้นล่ะนะ เพราะเห็นคนแปลบ่นบ่อยๆว่า นิยายต้นฉบับสำนวนแม่ง WTF
ไฝ็ว์แล้วสัสจะโดนตบกลิ้งหรือจะโดนเมินวะคอยดูต่อไป
กุโรนแม่งโทรลได้น่ารำคาญมาก มึงว่างมากหรอวะสัด
กูจะรอดูมึงโดนเตะกลิ้งออกมา
กูว่ากระทู้นี้มันดีมากนะ ทำให้ผู้บริโภคได้หูตากว้างขวางขึ้น ส่งผลดีต่อการปรับปรุงพัฒนาวงการได้บ้าง แต่ไอ้กุโรนแม่งทำเสียบรรยากาศ มึงมันกากจริง ไม่เคยดูกาลเทศะเล้ย
Lethe แม่งเล่นอยู่ที่นี่ด้วยนี่หว่าไอ้เหี้ย
เฮ้ย กำลังมัน ตกกระู้ทู้แนะนำซะละ ใครมีไอดีไปช่วยดันหน่อยดิ อย่าพึ่งจบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ขำกลิ้ง มาเป็นคนบรู๊ฟส่วนตัวของผมเถอะ
เชี่ย ไหนว่ามึงเก่งภาษาไทยนักไง ไปท้าคนอื่นไม่รู้ 4 รู้ 8
โทรลที่ดีคือโทรลที่กวนตีนแล้วทำให้เกิดข้อขบคิด
แต่ไอ้กุโรนนี่มันโทรลปัญญาอ่อน วนอยู่ในอ่างเหมือนคนพูดไม่รู้เรื่อง
ถ้าจะเถียงกับมันแม่งเสียเวลาสัดๆละ ใครยังคิดจะไปด่ามันให้เป็นผู้เป็นคนหรืออับอาย
บอกเลยว่าแม่งเสียเวลาสัด เอาเวลาไปเปิด AV สาวหนอนยังบันเทิงใจกว่า
นอกจากมันจะไม่ฟังมึง ยังกวนตีนโง่ๆอีกเหมือนคนไม่มีสมอง โคตรไม่มีประโยชน์
ฮาคุโร่ก็ปากดีมาตั้งแต่เสวนาสาววายแล้วว่ะ รอบนี้สนุกเป็นบ้า โดนเต็มๆ ซะที
กุโรน มึงไม่รู้จริงๆ รึแกล้งไม่รู้วะนั่น...
สัส เสือกมาตอนจะไป ตจว. ได้ครับสัส
อยากให้สับกูจะจัดให้ จะเอาให้ยับ มึงคิดว่าคนอยู่เซล/มาร์เก็ตติ้งได้นี่กากภาษาเหรอ
ปล. สหายโม่งอยากจัดอะไรเรื่อง B.A.D. เชิญ กลับมาจะเอาไปรวมด้วยถ้าไม่ซ้ำกับที่หาเจอ
BAD กุอ่านแค่เล่มแรกนะ กูว่ามันใช้ประโยค/วลี/คำ ซ้ำเยอะมากๆ ในย่อหน้านึง อ่านแล้วรำคาญชิบหาย
B.A.D. มายุสุมิน่ารัก กุให้อภัย
http://hakuro.exteen.com/20130720/entry
http://hakuro.exteen.com/20130720/entry-1
>คู่กรณี http://konigpu.exteen.com/20130719/entry
พอรู้ว่าเป็นคนเดียวกันยิ่งมีเหตุให้แอนตี้มากเข้าไปใหญ่ แถมยังมีอวดอาวุโสเหี้ยไรอีก
จากคำแถ-ลงในพันดริฟ
"เป็นนิยายที่ผมอ่านเล่มแรกแล้วเงิบนะครับ เอาละ ผมแก่ พ้นวัยรุ่นมามากแล้ว อาจจะไม่เข้าใจอารมณ์วัยรุ่นของคนเขียน และตอนนั้นผมไม่ได้ดูอะนิเมะของเรื่องนี้เลยครับ"
จากexteen บอกว่าเกิดตุลา 79 ก็แปลว่าอายุ 34
อายุ 34 อวดอาวุโสได้แล้ว ไอ้เหี้ยกูขำ
อ่านใน exteen แล้วพบว่า
อีเหี้ย 'เยอะ'สัสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
คิดซะว่าเป็นสไตล์แล้วกัน ไอ้กุโรน อย่างน้อยมันก็ทำให้พวกมึงหงุดหงิดได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
อันนี้กู cap มาไว้เป็นหลักฐานเผื่อในอนาคต
http://imgur.com/b66QcTa
กองบ.ก. เซนชวย กากขิง ไม่ edit งานเลยวุ้ย
ถ้า edit ให้ คงไม่หลุดมาให้บ่นหรอก
>>939 ไอ้ที่ความเห็นล่างๆที่มันช่วยแก้สำนวนมันระดับคนอ่านธรรมดาๆ ไม่ได้ลงระดับบรรณาธิการเลยนะเว้ย
แค่นั้นไอ้คนแปลมันก็ทำเป็นยกยอแล้ว กูสงสัยว่าไอ้บก.ของเซนชูที่ไอ้คนแปลอวยนักอวยหนาว่าช่วยเยอะแยะ
มากมายมันทำห่าอะไรมั่ง http://imgur.com/aFbqsyU หรือเลียไว้ก่อนเดี๋ยวไม่ได้งาน
เดนปะเล่ม3 มันเปลี่ยนคนแปลสินะ ออกเมื่อไหร่จะเอามาลองอีกที
Alan Smithee เป็นอนาแกรมของคำว่า The Alias Men
มันตั้งเอาเท่รึจงใจปิดตัวตนสุดชีวิตกันแน่วะ
ไรวะ ชื่อคนแปลก็ไม่บอก ชื่อบก. ยังต้องซ่อน นี่มันจะทำตัวลึกลับไปถึงไหนวะ หรือมันรู้ว่างานห่วย ต้องเก็บชื่อจริงไว้หากินก่อน
Hakuro นี่พูดตลกมาก ตรงบอกว่าไม่รู้ว่าตัวละครนี้ๆจะเป็นยังไงในเล่มถัดไป
คนแปลไม่มีสิทธิ์อะไรไปทำนายอนาคตตัวละครเฟ้ย
ณ ปัจจุบันที่เอ็งแปลอยู่เป็นยังไงก็ต้องแปลไปตามนั้น อย่าให้เกินอย่าให้ขาด
และกูคิดว่าพี่แกเข้าใจคำวิจารณ์ไม่ถูกต้องว่ะ
>> 944 ถึงต้นฉบับมันจะอ่านไม่รู้เรื่องยังไง นักแปลก็ควรต้องย่อยเนื้อหาต้นฉบับและแปลออกมาให้คนอ่านเข้าใจ
เออ อันนี้ไม่เห็นด้วยว่ะ กุว่านักแปลคือนักแปล ต้องถอดความให้ตรงที่สุดโดยไม่ไปบิดเบือนมัน ถ้าคนเขียนเสือกเขียนมาบัดซบ แม่งก็ต้องบัดซบต่อไปเว้ย ไม่งั้นกุต้องได้เครดิต "แปลและเรียบเรียง (ให้เป็นภาษาคน)" ด้วย
ก็ริอาจมาติงเรื่องสำนวน กับคนที่ภูมิใจว่านิยายวายติดเรทของตัวเองเขียนดีขนาดถูกคนอื่นเอาไปก๊อปหลายรอบ นี้มันตบหน้ากันชัดๆ 555
>>949 เห็นด้วยในทางทฤษฎี นักแปลก็คือนักแปล เหมือนมึงเป็นช่างถ่ายรูป มึงถ่ายรูปออกมาก็ต้องให้เป็นรูปคนเดิม มึงแต่งรูปลูกค้าลบรอยสิวรอยตีนกาได้นิดหน่อย เหมือนที่มึงเกลาสำนวนต้นฉบับได้นิดหน่อย แต่ไม่ใช่ไปมองว่าไอ้เหี้ยลูกค้ากูไม่สวยเลยอ้วนก็อ้วนคอก็ตัน กูจับมันเข้าโฟโต้เฉาะยืดคอให้ยาว ลดหุ่นให้ผอม ตัดกราม เฉาะจนแม่งออกมาสวยเช้งแต่เสือกเป็นคนละคน เพราะนั่นมันเป็นการไม่เคารพและให้เกียรติต้นฉบับไปแล้ว ดังนั้นกูเห็นด้วยว่าถ้าต้นฉบับมันเหี้ยมันก็ต้องเหี้ยต่อไป
แต่ถ้าในทางปฏิบัติมึงจะโดนยำตีนแบบที่ในกระทู้นั้นกำลังโดนกันอยู่ ดังนั้นจงทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเองในโลกอันโหดร้ายนี่เถอะ อุดมการณ์มันแดกไม่ได้ว่ะ กอดอุดมการณ์ไว้แล้วโดนยำตีน กูเลือกทิ้งอุดมการณ์ 555
อ้อแต่ที่พิมมาทั้งหมดกูไม่ได้หมายถึงไอ้Harukoอะไรนั่นนะ กูแสดงความคิดเห็นรวมๆ เท่าที่กูไปอ่าน51ภาษาไทยมันกากจริง อีกอย่างกูไม่เคนอ่านต้นฉบับเด็นปะด้วยกูตอบไม่ได้ว่ามันเขียนบัดซบจริงหรือคนแปลไทยอ่านแล้วตีความไม่แตกเอง ย้ำอีกครั้งว่ากูพูดรวมๆ กูเคยเจองานนึงคนเขียนแม่งใช้คำซ้ำบ่อยมากจนเอือม กูก็แอบเลี่ยงเปลี่ยนคำไปใช้คำอื่นบ้างเหมือนกันเพราะกลัวคนอ่านด่าว่าเชี่ยมึงจะใช้คำซ้ำอะไรนักหนา
http://pantip.com/topic/31460699
กูแทงHAKURO โดนตบเกรียน 100นึง
ลิงค์มันไม่ชี้ไปว่ะ เอาเป็นเจ้าของทู้มาตอบละ
ถ้าบริษัทมีล่ามแล้วสั่งล่ามได้นี่มึงใช่ฝ่ายขายแน่เหรอวะ
กูได้ข่าวแว่วๆ มาเข้าหูว่ามีสาววายที่หมั่นไส้อีฮาคุโระนี่เตรียมจะมาจัดหนักฮาคุโอคิ
มึงอคติกับไอ้มะนาวใช่ไหม จขกท.
ไปต่อในกระทู้แม่บ้านไม่ก็แม่บ้านนักแปลเห้อ…
ขออีกตรงนึง
แปลกใจที่ Hakuro ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็มปะถึงแปลยากกว่า BAD
เพราะเด็มปะมันใช้สำนวนเพี้ยนแสลงเยอะ ในขณะที่ BAD เป็นสำนวนถูกต้องตามไวยากรณ์คำศัพท์ก็ไม่ได้แสลงอะไร
ที่บอกว่าภาษาชั้นสูงระดับมือรางวัลนี่ไม่ใช่อะไรเลย มันคือภาษาญี่ปุ่นธรรมดาทั่วไปที่อ่านง่าย (แต่คำศัพท์ยกระดับขึ้นมาหน่อย) เท่านั้นเอง
โดยส่วนตัวคิดว่านิยายที่แปลยากคือ 1 นิยายที่แสลงเยอะ 2 นิยายที่ต้องค้นคว้าข้อมูลเยอะ 3 นิยายเล่นคำ
พูดถึงเรื่องสำนวนแล้วนึกถึง Tokyo Ravens เวลามันอธิบายเซตติ้งสำคัญๆ เต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะ …ด้วยสำเนียงคันไซ
ได้หลังไมค์มา "นักแปลทำเย็ดห่าอะไรก็ไม่ดีใช่มั๊ย คิดว่าตัวเองดีที่สุดเหรอ ในสายตาคุณมีใครดีบ้างล่ะ"
ป.ล. เย็ดห่ากูเติมเอง
>>หลังไมค์มางี้ น่า screencap โชว์มากเลยว่ะ
ถ้าไอ้นักแปลที่หลังไมค์มามันเป็นคนที่โดนด่าแสดงว่ามันกากเอง มือไม่ถึงแล้วสะเออะ
คนแปลคนอื่นเค้ายังไม่โดนด่าเลย ทำไมไม่สำเนียกตัวเองบ้างวะ
ไม่ว่ะ ย้อนดูโพสแล้วน่าจะติ่งเซนชู
แคปโชว์ไปก็จะกลายเป็นสร้างภาพเปล่าๆ
ขออัญเชิญพวกมึงมึงไปต่อกันที่ สมคมแม่บ้านนักแปล https://fanboi.ch/animanga/147/recent/
ซื้อhighschool dxdมาอ่านสนุกดีว่ะ แปลอ่านง่ายลื่นไหลดี
กูสงสัย ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่ทำไมเซนชูถึงไม่ทำสีปกในให้มันเหมือนๆ กันทั้งซีรียส์วะ?
รบกวนถามเพิ่ม DxDนี่ต้องดูเมะด้วยไหมหรืออ่านมังงะก็ได้ แบบจะเก็บภาพฉากเซอร์วิสน่ะอันไหนดีกว่า
ขอบใจมากเพื่อนโม่ง
เซ็นชวยมันมีพิมพ์สองด้วยหรือวะ
เล่มแรกในร้านประจำกูก็สันแดง
กุโรนในบอร์ดโม่งมึงยังโทรลควายๆอีกนะไอ้สัส
ดูแม่งพิมพ์จบจำสำนวนแม่งได้ละไอ้เหี้ยอนาถตัวเอง
ทำให้กูนึกถึงโอตาคุในตุรเกย์คนนึงเลยว่ะ
มันด่านิยายซักเล่มที่เซนเซอร์รูปว่า "จุดขายไลท์โนเวลมันอยู่ที่รูป"
นี่มึงซื้อนิยายเล่มละร้อยกว่ามาดูนมดูจิ๋มแล้วเก็บเข้าหิ้งสินะ
กุไม่ได้โทรลสัส ภาประกอบนิยายเรื่องนึงแม่งมีไม่กี่ภาพ ยังโดนอีกเซ็นอีก กุบ่นจริงๆ
กูตั้งกระทู็ใหม่ให้แล้ว วิ่งควายกันได้
สัสใจตรงกันอีก
OH SHIT
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.