Last posted
Total of 1000 posts
ถ้าเป็นงั้น น่าสนนะว่าพอคนรู้แล้วจะสติแตกหรือรับได้
นึกถึงตอนโนวาเปิดเผยเรื่องชิพใน Last Order
คือสิ่งที่แม่งมีตอนนี้ แม่งไม่มีอะไรยืนยันเลยว่านักผจญภัยมันคือมนุษย์ที่เข้ามาติดในเกมจริงๆ
อย่าลืมว่าเกมนี้เป็นเกมธรรมดา ใช้เมาส์ใช้คีย์บอร์ดเล่น ไม่ใช่ VR อย่าง SAO
มีแต่ต้องอะไรแฟนตาซีเหนือธรรมชาติแล้ว
กลับกัน มันอาจจะเป็นแบบเคสในเดอะริงเล่ม 3 ที่สุดท้ายแล้ว คนทั้งโลกเป็นแค่ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในการทดลองของสิ่งมีชีวิตมิติสูงกว่า ที่รัน Simulation เล่นๆ
วันนี้กลับไปเอาแผ่น1ของภาครกของDEXมาเปิดดู งานดีกว่าภาค2จมเลยว่ะ ทำไมเปลี่ยนสตูดิโอแล้วถึงดรอปลงไปเยอะขนาดนั้นวะภาค2 เสียดายเนื้อเรื่องดีๆจัง
ไอ้พวกที่ตายรัวๆ ตอน 19 มันไม่เหลือความทรงจำแล้วละมั้ง
กุดูมาหลายตอนกุก็ยังสงสัย ว่าทำไมพวกนี้นี่ไม่ค่อยพูดอะไรเกี่ยวกับโลกความจริงกันเลย ไม่ค่อยมีคนเครียดด้วยซํ้า มีแต่ยกมาพูดตอนทำอาหารแดกกับตอนซุซุ ผ่านมาจะยี่สิบกว่าตอนแล้วเนื้อเรื่องยังไม่ไปไหนเลย ว่าแต่ไอเกราะหนากับเจ๊ผมเหลืองนี่ไปกุ้กกิ้กแอบชอบกันตอนไหน ตอนดูซีแรกไม่เห็นจะมี หรือดูข้ามไปหว่า
วิลเลี่ยมมีพูดตอนอยู่ในraidไง ฉากพูดปลุกใจลูกกิลที่ท้อแท้จากการพ่ายแพ้ แต่กูฟังแล้วชีวิตมันดูน่าสิ้นหวังจังวะ
ตอน 19 (มั้ง) ก็มีนี่ที่โชตะมันเถียงกับอีกคน
กูถึงได้สงสัยไง! สรุปพวกแม่งอาจจะไม่ใช่คน!
ตะ..แต่ถ้าไปเห็นในมังงะมันชัดเลยนะว่าโดนวาร์ปมา
มันอาจจะเป็นแค่มโนภาพของพวกมันเองก็ได้!!
อะไรคือปัญหาที่ทำให้กูดูภาคนี้แล้วไม่สนุกแบบภาคแรกเลยวะ งานภาพ?คาแรคเตอร์ดีไซน์?หรือการดำเนินเรื่อง? ไม่ว่าอันไหนก็รู้สึกว่าของภาคแรกดีกว่าหมดเลยอะ งานภาพกับคาแรคเตอร์นี่ทำใจไว้แล้วเพราะเปลี่ยนทั้งสตูดิโอกับคาแรคเตอร์ดีไซน์ แต่คนเขียนบทก็คนเดิมนี่หว่า ทำไมรู้สึกภาคนี้ดำเนินเรื่องได้ทื่อๆและไม่น่าจดจำเลยฟะ หรือว่าช่วงนี้มันน่าเบื่อตั้งแต่ในนิยายแล้ววะ? ว่าแต่ถ้ามีภาค3พอมีโอกาสเอากลับไปให้Satelightไหมเนี่ย...
>>977 มันยืด เวิ่นเว่อ เดินเรื่องไม่กระชับ มันควรจะเดินเนื้อเรื่องฝั่งไอ้แว่น แต่เสือกตัดไปโน้นที่ทางนี้ที นุเรฮะที คานาเมะ(ใช่ปะวะจำไม่ได้หละ) แล้วต่อตี้เด็กอีก แล้วไอ้ตี้เด็กก็แม่มต้องไลฟ์ มิวสิคอิสมายไลฟ์ ใส่มาทำไมฟะ... พยายามซ่อนเงื่อนงำแบบ Roe2 แต่ ลองเขียนชาร์ทสั้นๆ สิไอ้ที่ดูมาทั้งหมดมีกี่เหตุการณ์เอง ตอนมันเรดโอเคอยู่นะแต่หลังจากนั้นมาลงเหว เรื่อยๆ
แล้วสังเกตนะไอ้พวกความสงบสุขในเรื่องน่าเบื่อมาก เพราะรีแอคชั่นมันไม่ค่อยเรียลเท่าไหร ภาคแรกมันดักตีหัวกันเลยสนุกกว่าเห็นๆ
งานภาพกูโอเคอยู่นะไม่ดีไม่ร้ายเกินแต่ไปกำกับห่วยแตกฉิบหาย
คิดว่าจบภาคนี้แหละถ้า NHK ไม่ออกทุนอีกภาคให้ LOL
กูก็ข้องในนะ LN เป็นไงวะ เสือกเจอ License พอดีเลยลองอ่านไม่ได้ ฉบับไทยอยู่ในลังขี้เกียจแกะมาอ่าน
ยี่สิบกว่าตอนยังไม่ไปไหนเลย พีคแค่ตอนลงเรดเนี่ยนะ
ภาคนี้กุมองว่าเส้นแย่ขึ้นไม่ใช่ปัญหา แต่มุมกล้องกากสัสๆไม่รู้ทำไม กุว่ามันดูแข็งๆขัดๆถ้าเทียบกับภาคแรก
ดูจนรู้สึกสนุกน้อยกว่า sao ละห่วยลงๆ ทุกตอน
ยุคพีคของดีนคงมีแค่ฮิกุราชิแล้วล่ะมั้ง นอกนั้นก็ธรรมดามาก...
Simoun ก็ของ DEEN นะเว้ย!
กูอยากดูร่างคนของ นูเรฮะ ว่าจะเท่าชิโรเอะรึเปล่า
ดีนทำการ์ตูนเกย์ๆก็ขายดีอยู่นะ
ภาคนี้ตอนแรกๆ มันพีคสุดๆ ไง ทั้งลงเรดหาเงิน เรดตบยามอากิบะ แต่พอจบแล้วเนื้อเรื่องก็เริ่มเอื่อยๆ เนือยๆ โดยเฉพาะไอ้ตี้เด็กโคตรน่ามคาน ไม่เห็นจะทำเหี้ยไรเป็นชิ้นเป็นอันซักที โดยเฉพาะอีหน้าตกกระ ร้องเพลงก็กาก ไอ้ตอนที่รู้ว่า npc มีเพลงแค่ 20 กว่าเพลงก็นอยด์เหี้ยอะไรไม่รู้ กูดูแล้วไม่เข้าใจ รำคาญชิบหาย รีบจบเนื้อเรื่องตี้เด็กแล้วไปเล่นเนื้อเรื่องตอนไอ้แว่นโฉดหนีตามอาคัทซึกะได้แล้ว
ช่วงชิโรเอะลงเรดกับวิลเลี่ยม และช่วงอากาสึกิฟัดกับไอ้ผมยาวกลางเมืองอะกิบะ ช่วงนั้นเงสนุกนะ แต่งานภาพค่อนข้างห่วยว่ะ อารมณ์เลยดรอปลงไปพอสมควร
มีคนเดียวที่หล่อกว่าภาคแรกคือวิลเลี่ยม ไม่รู้ทำไมหน้าหล่อสัดแค่มันคนเดียว
กุดรอปตั้งแต่อีรถกระบะร้องเพลง ed ละ
deen แม่ง!
จบบทตี้เด็กซะที (มั้ง)
กูเคืองสุดคือบทคานาเอะน่าจะทำสักสองสามตอน เสือกตอนเดียวจบนี่แหละ
คาแรคเตอร์ในทีมนั้นแม่ง epic มาก ทั้งมองค์นมโต บอทจีน กบนินจา ผู้กล้าNPC
อยากหลับสัส บทเด็กๆนี้ยทำน่าเบื่อตั้งแต่ภาคแรกละแถมยังมีตอนหน้าอีก แล้วทำหลายตอนชิบหายตอนคานามิเสือกทำเท่าขี้มดขี้แมว
ขอดูหน่อยเห๊อะอีก 4-5 ตอนมึงจะ ori ยังไงให้ไม่โดนคนดูด่าไปมากกว่านี้
อีก4-5ตอนเป็นoriเหรอ
มันกี่ตอนจบเนี่ย ตั้งแต่บทเด็กนี่กดข้ามรัวๆ ตอนที่แล้วดูไปครึ่งตอนข้ามหมด มาตอนล่าสุดนี่ข้ามตั้งแต่แรก ดูตอนเข้าอากิบะก็ยังเฉยๆ ใกล้จะจบแล้วแต่แม่งดูเนือยน่าเบื่อโคตร
กระทู้ใหม่ >>>/animanga/1612/
นูเรฮะเมียกู
1000 ปิดกระทู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.
