Last posted
Total of 1000 posts
(Manga) พูดคุยและวิจารณ์ เล่มหนังสือมังงะ สนพ. และร้านค้า
https://fanboi.ch/animanga/893/
รายละเอียดที่คุย
1)เรื่องรูปเล่มมังงะ : ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แปล กระดาษ เข้าเล่ม ยันดีไซน์ปก
2)สำนักพิมพ์ : ก็คล้ายๆข้อแรกแหละ แต่มีพวกLC พวกเรื่องข่าว สนพ.
3)ร้านค้า ร้านขายส่ง ร้านมือสอง : ร้านไหนขายเท่าไร ลดเท่านี้ เท่านั้น ยันเรื่องคนขาย
มีขีดหลัง >>> ด้วย แบบที่กูทำเนี้ยแหละ
กุว่ายังไม่ล้มนะ VBK แต่คงเป็นแบบที่มันว่า ลดการออกหนังสือลง ออกเฉพาะเรื่องที่ขายได้ชัวร์ๆก่อน
เลิกรายสัปดาห์ไป น่าจะช่วยได้เยอะนะ ดูยังไงแม่งก็เข้าเนื้อสุดๆ ไม่รู้ทู้ซี้ทำอยู่ได้ไงตั้งหลายหัว
sic นี่มีวันล้มป่าววะ
ถ้าไม่ใช่กรณีเลวร้ายสุด ๆ ขาดทุนป่นปี้ NED กับ SIC คงล้มยากว่ะ มันอยู่ในเครือใหญ่ทั้งคู่ แถมการ์ตูนดัง(ส่วนใหญ่ก็ JUMP) ก็ไปอยู่กับเครือพวกนี้หมด
ned แม่งไม่ล้มแต่มันจะเลิก
ล้มไปเดี๋ยวก็มีสำนักพิมพ์ใหม่มาเปิดแทนอยู่ดีละวะ
ล้มๆไปเหอะ แล้วไอ้อันไหนที่ไม่ทำต่อแล้วก็ขายไปให้สนพอื่นเค้าทำเถอะ
อย่าง Dog เงี้ย
แล้วก็ต้องทำตั้งแต่เล่ม 1 ใหม่ แล้วก็จะไม่มีคนซื้อ แล้วก็จะไม่ทำต่ออีก
ned ไม่ล้มหรอก เผอิญยังเก็บลิขสิทธิ์โดราเอมอนกับพิมพ์นารุโตะขายกินได้อยู่
ไม่งั้นไอ้แผนกการ์ตูนนี่โดนยุบไปนานแล้ว ไม่อยู่ต่อแพลอยทะเลเล่นหรอก
NED ไม่ล้มหรอก อย่างมากสุดก็แค่เลิกทำการ์ตูน ตอนนี้ก็ลอยแพเรื่องที่ขายไม่ดี เค้าไม่แคร์หรอก การ์ตูนไม่ใช่รายได้หลักของNED
ned แผนกการ์ตูนยังมีการ์ตูนที่พอทำเงินได้อยู่ ก็ยังไม่ล้มหรอก แต่จะลดขนาดลงอย่างมากซะมากกว่า สยามนี่ถ้ามีปัญหาหนักเข้าก็เลิกรายสัปดาหก์ ลดการออกลงบ้าง รายได้หลักของสองเจ้ายังมีจากทางอื่นอีก vbk นี่เสี่ยงว่าจะล้มเยอะสุดแล้วละมั้ง
lpนี่ก็หนังสือการ์ตูนอย่างเดียวด้วยรึป่าววะ
LP มันทำอย่างอื่นมาก่อนนิ
ชื่อมู้น่าจะใส่วงเล็บเพิ่มหน่อย แบบใส่ชื่อภาคเหมือนมู้เมด
Manken เล่มสุดท้ายแล้ว แม่งจะได้ออกมั้ยเนี่ย
การ์ตูนเนชี่นแม่งก็ขยันลดจัง ยังกะจะเคลียร์สต็อคล้างโกดัง
ชื่อเรียบๆแม่งก็ดีอยู่ละจะเสร่อห้อยเหี้ยไรมากมายวะ
ชื่อเรียบๆ มันก็จืดไปดิวะคุณ
VBK แม่งเหี้ยจริงๆ
http://pantip.com/topic/33977226/
SIC แม่งมาขอกำลังใจ ให้แทคเพื่อนที่คิดว่ายังจะซื้อการ์ตูนต่อไป พวกมึงได้ทำกันปะวะ
พึ่งได้ฤกษ์แกะ Lunatic Akoma ของนิด้า มาอ่าน
ไอสัสสสสสสสสสส อย่างเหี้ยเลยมึง ภาพแม่งแตกๆ ไม่ชัดเลย
นิด้ามึงเอาต้นฉบับไปแสกน แล้วถ่ายเอกสารให้กุอ่านไปวะเนี่ย
แถมพิมพ์ผิดๆถูกๆอีกต่างห่าง <<----อันนี้คงมาจากคนเขียน
สรุปเหี้ยดีจริงๆ ไม่รู้เรื่องอื่นของนิด้าเป็นงี้ป่าววะ
แล้วทำไมไม่ค่อยมีคนบ่นนิด้าเลยวะ หรือคนซื้อหนังสือนิด้ามันน้อยมากวะ
คนซื้อน้อย แต่คนได้ฟรีเยอะ เพราะมันเอาหนังสือไปแถมกับฟิกเกอร์ ของฟรีไม่มีใครบ่น
ขอวาร์ปที่ประนามหน่อยซิ
>>49 บุรพัฒน์แม่งทำทุเรศเองนะ ตอนแรกที่เห็นกุนึกว่าเป็นเพจล้อเกรียนๆ ทำ ที่ไหนได้เพจ สนพ. ของจริงซะด้วย
ถ้าบุรพัฒน์ทำรูปแนวๆ เดียวกันขึ้นมาเองนี่ยังโอเค แต่นี่คือก็อปรูปเขามาแปะโลโก้ตัวเองเลย เห็นแล้วงงว่ามึงจะตามกระแส หรือประชด SIC กันแน่
แล้วเอาจริงๆ นี่มันก็คือแคมเปญการตลาดของ SIC นั่นแหละ (ต่อให้มันบอกว่าทำเพื่อวงการ บลาๆๆ ก็เถอะ) มึงจะคาดหวังให้มันเป็นพ่อพระ เรียกร้องให้ทุก สนพ. โดยไม่เอาผลตอบแทนให้ตัวเองก่อนรึไง กุขรรม
เข้าไปดูตอนนี้มันแปะรูปใหม่แล้ว
จากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/33984123
เละเทะบอกว่า "ตอนนี้ LC อากิตะโชเทนมันมีปัญหาต่อลิขสิทธิ์ไม่ได้ (เท่าที่ทราบ ปัญหาไม่ได้เกิดจากปัจจัยที่ VBK ควบคุมได้ และไม่ใช่ปัญหาที่เอาเงินฟาดได้)"
เป็นปัญหาเรื่องเอเจนซี่ตามที่โม่งบนๆว่าไว้สินะ
หลายปีก่อน Sic เคยมีปัญหากับโชกักคุกังการ์ตูนในเครือไม่วางแผง หายไปเป็นปี (สมัย sic ได้ งานของอาดาจิ นั่นแหละ)
พวกแม่งไม่เห็นจะบ่นกันแบบนี้เว้ย
VBK มันมีปัญหาลิขสิทธิ์กับอาคิตะ
คนถามแม่งเอาของโคดันฉะมาเหมาทันทีว่าหยุดด้วย
เหี้ยยุคนี้พวก แม่งงยังไม่เข้าใจระบบค่ายญี่ปุ่นอีกแถมมีโง่เยอะชิบหาย
รำคาญ เสียโสดฯ กับ Toontamrom
ความเห็นแบบโคตรอัคติฉิบหาย
*อคติ
ขำตรงที่พวกไม่รู้ระบบการทำงานข้างในเลย จะเป็นพวกที่ชอบใช้ภาษาอวดรู้ ทำตัวเป็นกูรูมากสุด (พวกที่เอาแต่ถามว่า "ทำไมไม่ทำอีบุ๊คๆๆๆๆๆๆ" นี่ก็ด้วย)
พวกที่แก้ตัวแทน vbk แบบพวกมึงก็แค่พยายามทำตัวแตกต่างให้เป็นที่สนใจเท่านั้นแหละ
เพราะว่าถ้ามึงแสดงความเห็นเหมือนคนส่วนใหญ่ก็จะไม่มีใครมองเห็นหัวพวกมึงเลย
อนาถจริงๆ พวกชีวิตจริงไม่ค่อยมีปากมีเสียง
>>63 กูเคยลองโหลดlnจากจันบ้ามาอ่านในipad ทนอ่านได้แค่ครึ่งชมแม่งปวดตาสัสๆ อ่านนานกว่านี้ได้เป็นต้อกระจกแหงๆ ยังไงหนังสือแม่งก็ดีกว่าจริงๆแหละ อีบุ๊คยังไงมันก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมหรอก ทำไปคนซื้อก็แค่หยิบมือ 90%โหลดเน็ตกันทั้งนั้นกูมั่นใจ
ส่วนเรื่องปัญหาค่ายต้นสังกัดกูก็เฉยๆนะ เรื่องลับลมคมในคนภายนอกก็ไม่รู้กันหรอก ปัญหาพวกนี้ก็ต้องแก้กันไป
กุมั่นใจนะ ถ้าทำเป็นอีบุ๊คเมื่อไร มึงขายได้ลงแน่นอน กุว่าตอนนี้ส่วนใหญ่ที่ซื้อๆกัน มันมองว่าที่ซื้อๆอยู่เป็นของสะสมว่ะ บวกกับอ่านจากหนังสือมันง่ายและสบายตา ซึ่งก็ไม่ได้สนใจเรื่องผิดชอบชั่วดีว่ามันถูกต้องหรือไม่ถูกต้องสักเท่าไร
ดังนั้นถ้าทำออกมาแต่อีบุ๊คเมื่อไร กุว่าหนีไปอ่านสแกนหมดแน่
ฮิปเตอร์คือไรไม่รู้จัก พวกกระจอกๆสินะ
Tansansuibu นี่มันลายเส้นของอาจารย์คนที่วาด KYO กับ Code Breaker ปะวะ
นี่มันเรื่องใหม่หรือเรื่องเก่าของอาจารย์แกวะ...ทำไมลายเส้นมันไม่คมเลย
ถามหน่อย สยามแม่งดองเมไจเหรอวะ วันนี้เช็ดชั้นหนังสือถึงเพิ่งนึกได้ ไม่ออกมานานจนกูลืมเนื้อเรื่องหมดแล้ว
ไม่ดองนะเมิงออกระรัวใช้ได้เลย
สะดุดช่วงรอต่อสัญญา LC
พูดถึง nisekoi ตอนนี้เริ่มไล่ยิงทิ้งตัวประกอบไปทีละคนแล้วนิ จะจบแล้วหรอ
ถึงขนาดกองอวยหัวดำหนาวๆร้อนๆ ต้องมาตั้งกระทู้ขอเสียงในตะพาบ
แต่สไตล์จัมป์ ถ้าความนิยมยังดี มันไม่ยอมให้จบตามที่คนเขียนอยากหรอก
จัมป์ตั้งแต่ตอนสแลมดั๊งก็ไม่กล้าบังคับคนเขียนตามใจแล้ว จะเป็นขอให้ช่วยยืดต่อมากกว่าถ้าคนเขียนไม่โอเคก็จบ
บางเรื่องไม่ได้อยากดองหรอก แต่ทางญี่ปุ่นทำสัญญา & ส่งต้นฉบับมาให้ช้าเอง (บางที สนพ ไทยก็ไปซื้อต้นฉบับมาสแกนเอง เพราะอยากรีบออกตอนมีกระแส แต่ฝั่งญี่ปุ่นไม่ส่งมาซะที)
ช่วงมีกระแสถ้ามันออกได้ยังไงก็ต้องรีบออกมาโกยอยู่แล้ว ใครมันจะไม่อยากขายของ
ทำไมช่สงนี้กู เห็น คำประมาณว่า "นายจะยังซื้อการ์ตูนอยูมั้ย" เยอะจังว่ะ มันมีกระแสอะไรหรอ พอดีติวสอบเลยไม่ได้ตามข่าวเลย
แคมเปญดิ้นหนีตายของ SIC คนก็แชร์กันหล่อๆ
หิวข้าวแล้ว วันนี้กินอะไรดี
เย็ดเป็ด เบลอๆ พิมพ์ลงโม่งทำไมวะกู โทษที = =
สงสัยว่าสมัยก่อน (ยุคการ์ตูนเล่มละ 25-30 บาท) การ์ตูนมันพิมพ์เยอะกว่านี้หรือเปล่า หรือมีแค่เรื่องดังๆ แล้วถ้าแบบนั้นในยุคที่สื่อยังไม่แพร่หลายมันจะโปรโมทการ์ตูนที่ไม่ดังยังไง? จากแมกกาซีนป่ะ แบบถ้าการ์ตูนเรื่องนั้นลงแมกกาซีนคนก็จะซื้อเยอะขึ้นไรงี้?
จริงๆ กูว่าเดี๋ยวนี้มังงะในไทยมันมีหลายเรื่องมากเลยนะที่ไม่มีแสกน (+แสกนไม่จบ) แต่ปัญหาคือลอยแพไปเกินครี่ง เข็ด ไม่อยากซื้อต่อ พวกดังๆคนก็หนีไปอ่านแสกนไรงี้ป่ะ
>>104 พิมพ์ไม่เยอะเท่า เอาจริงๆที่ญี่ปุ่นก็ยังไม่แยกหัวออกมายุบยับเท่ายุคนี้ light novel ยังอยู่ในหมวด novel เฉยๆ
สมัยก่อนวิธีดูดังไม่ดังในไทยก็ เช่น ตามการ์ตูนทีวีช่อง 3 5 7 9 และพวกเช่าวิดีโอดู
ความดังจากญี่ปุ่น 2-3 ค่าย
นอกจาก vbk มี 2-3 เจ้าทำลิขสิทธิ์ก่อน ned sic (นึกถึงslayers แบบมีภาพสี พอ sic ทำเสือกเป็นขาวดำ)
แต่ก็เจ๊งไปเพราะไม่ค่อยดังในไทย หรือเฉพาะกลุ่มไปหน่อย หรือบริหารการเงินไม่ดีเอง ไพเรทยุคนั้นมีทั้งอุดมการแต่ปากกับหิวเงินจนถึงปัจจุบัน555
นิตยสาร แมกกาซีนไม่ค่อยมีส่วนวะ เคยมีพวกเปิดหัวแข่งทีวีแมกฯแล้วเลิกไป หรือ sic ที่ออกทั้ง Vision Champ Comic Zone ยังเลิกทำอันนี้ไม่เห็นใครจะแซะว่าใกล้เจ๊งบ้าง
กูมองยุคนี้มันมีพวก เกมพีซี เกมออนไลน์ เกมมือถือ แดกอาหารนอก สื่อบันเทิงหลายตัวเลือกมาล่อเงินให้เสีย
คนมันเลยอ่านหนังสือน้อยลง หรือไม่อยากเจียดเงินไปซื้อการ์ตูน(แต่เอาไปลงพวกของแพงๆหรูๆแทน)
ไม่อยากตั้งทู้ใหม่ กูขอถามในนี้นะ
โม่งทั้งหลาย กูตามหามังงะเรื่องนึงอยู่อะ ของเกาหลีนะ ชื่อเรื่องน่าจะประมาน เพนนิซิลลิน
อะไรประมานนี้อะ มีใครมีชื่อคนเขียน หรือปกตัวอย่างบ้างมั้ยอะ ช่วยกูหน่อยนะ
ขอบคุณล่วงหน้าา
>>111 แอสไพริน เก่ามาก เรื่องนี้กูชอบมากถึงมากที่สุด เป็นเรื่องที่ขำเหี้ยๆ และแปลได้กากเหี้ยๆไม่แพ้กัน แปลengมีครบนะ
https://www.mangaupdates.com/series.html?id=6666
มีกระทู้ไว้ถามหาของเก่าๆอยู่นะ
คนอ่านอ่ะมันมากขึ้น แต่คนซื้อหน่ะมันน้อยลง เพราะมันมีช่องทางอ่านฟรี ต่างๆนาๆ แบบประเคนใส่ปาก
ที่สำคัญทำธุรกรรม online บ้านเราแม่งยังห่วยแตก ... จะขาย online ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะเป้าตลาดส่วนใหญ่แม่งเป็น เด็กมัธยม มหาลัย มากกว่า
ถ้ามันถึงยุค คล้ายๆแบบอนิเม ก็คงดี ออกมาปุ๊ป(ตอนนึง) ก็มีแปลให้อ่านแบบเสียเงิน (ถูกลิขสิทธิ์)
ยุคปัจจุบัน ถ้าเป็นพวกคนมีปัญญาจ่าย มันก็อยากอ่านไวตามต้นฉบับ รอลิขสิทธิ์ ที่แม่งล้าหลังไปสิบเล่ม ก็ไม่ไหว พวกนี้เลยอ่านฟรีเอา แล้วก็ไปซื้อเล่มยุ่นเก็บสะสม ตลาด local เลยวายป่วง ซื้อแปลลิขสิทธิ์ไหม ก็ซื้อ แต่น้อยคนจะเป็นแบบนี้ไงมึง คนส่วนใหญ่ อ่านแล้ว ไม่ชอบมาก ก็ไม่ซื้อ
กูเห็นมาในเฟสอ่ะ แม่งเอาโนเบลสมาพิมพ์ขาย เหี้ย
>>116 เห็นด้วยว่าออนไลน์ไม่เวิร์คเลย เคยเห็นเด็กมาอวดว่ากุอ่านฟรีหมดเพราะแถวบ้านหาซื้อไม่ได้ พอมีคนเถียงว่าสมัยนี้มันหาซื้อออนไลน์ได้หมดแล้ว เด็กก็บอกว่ากุเป็นเด็กมอต้นนะ กุซื้อไม่เป็น โอนเงินไม่ได้ พ่อแม่ไม่ให้ บลาๆๆๆ
คิดดูแล้วมันก็จริงแฮะ คนที่อ่านทุกอย่างตามเน็ตได้ฟรีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่มันก็ไม่สนใจจะจ่ายเงินหรอก ต่อให้จ่ายแล้วได้ของดีกว่าก็ตาม
พวกเกมมือถือ กดจ่ายง่ายเหี้ยๆ ผูกรวมค่าโทรก็ได้
ยังพยายามเล่นเถื่อน เล่นฟรี ได้เพชรฟรี
แม่งขวนขวายมากกว่าตั้งใจเรียนอีกมึง
อ้าวเหี้ย จริงอ่ะ เห็นผ่านๆมา
กูอายจัง กูขอโทษ แงๆ
เบื้องหลังของความตกต่ำมังงะไทย คือเด็กกลุ่มหนึ่งที่เป็นลูกของเจ้าของสนพ. และบก.ต่างๆ ที่พ่อหรือแม่ทำแต่งานไม่มีเวลาให้ ทำให้เด็กรู้สึกว่าไม่ได้รับความเอาใจใส่ หรือกาให้ความสำคัญ
ทำให้รวมตัวกันเปิดเว็บแสกน เว็บแปลไทยต่างๆ หรือแม้กระทั่งเปิดเว็บคนรักการ์ตูนที่ครบวงจรทั้งเมะ มังงะ แปลไทย
เพื่อที่เมื่อสนพ. บ. จะไม่สามารถอยู่ได้ ขาดรายได้เนื่องจากยอดซื้อตกต่ำ ทำให้สนพ. บ.ต้องปิดตัวลง เมื่อพ่อแม่ของเด็กพวกนี้ไม่มีงาน ก็จะทำให้มีเวลาให้กับลูกของตัวเองมากขึ้น
จากอัพเดทล่าสุด สนพ อื่นอีก 3 สนพ เค้าอนุญาติให้ลงได้ว่ะ แค่ลดจำนวนหน้าลงนิดนึง มีแต่ vbk ที่ไม่ยอมเลย
คือแม่งเกินไปป่าววะ กุว่าภาพตัวอย่าง มันก็ช่วยลูกค้าตัดสินใจได้เหมือนกันนะ เหมือนไม่เห็นหัวพวกกุเล้ย
มันไม่ให้ลงเต็มหน้า แต่ก็ให้บางส่วนของหน้านี่หว่า ก็ crop เอาสิวะ
ฝั่งญี่ปุ่นมันมีให้ลองอ่านตอนแรกในเว็บ ฝั่งไทยถ้ามีแบบนี้บ้างก็ดี
แล้วสิทธิที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อน
มันทำยากเหรอวะ
ตรรกะแม่มเริ่มจะเหมือนพวกแฟนซับไม่มีกูอนิเมไม่ดังในไทยเลยว่ะ
ญี่ปุ่นที่ร้านมันไม่มีห่อเปิดดูได้เหมือนหนังสือนิยายตามซีเอ็ด ของไทยกูเคยดิดว่าตามร้านแม่มน่าเอาเล่มเน่าๆที่อยู่บนกับล่างโดนเชื่อกมัดนั่นแหละมาเป็นเล่มโชว์ให้ลองอ่าน
>>134 กุว่า vbk ตอบแบบนี้ไม่ฉลาดเท่าไหร่ ถึงเพจนั้นจะไม่มีสิทธิ์เอามาเผยแพร่ แต่ถ้าคุยกันดีๆ ว่าให้เหลือไม่เกินห้าหน้าหรือยังไง น่าจะยังพอรับได้
พอ สนพ. ตอบแบบนี้ (ในขณะที่ สนพ. อื่นอนุญาต แต่ขอให้ลดจำนวนหน้า) มันยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ vbk ดูแย่ไปใหญ่
เข้าใจว่า vbk มันก็ไม่ได้ห้ามซะทีเดียว (ลงแบบไม่เต็มหน้าได้) แต่พวกคนที่แชร์ๆ กันในเฟส ก็จะเห็นแต่ตรงที่บอกว่าห้ามลง แล้วเอามาด่ากันรัวๆ อยู่ดี
VBK ตกตงตอนนี้พินาศยังวะ ถ้าพินาศแล้วนักสืบคอยนานจะมีคนกล้าสอยไปต่อไหมต้องพิมพ์เล่มแรกมาใหม่หมดเนี่ย
http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000090663
สัมภาษณ์บก.ก๊อดจิของ C-Kids น่าสนใจดี ลองอ่านกันดู
ก็ถูกแล้ว การ์ตูนไม่มีตายหรอก แต่ตลาดหดตัวจริงๆ
มึงสังเกตุแผงหนังสือช่วงเดือนสองเดือนนี้สิ
ทุกเจ้าออกหนังสือน้อยลงหมด (ยกเว้นบงกช)
ไอ้ที่จะตายก่อนนะ ร้านหนังสือการ์ตูน มากกว่า
เจซีสะพานควายนี้ก็เคสสดๆ
บก. SIC ก็ต้องแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ที่เข้มแข็งไว้ก่อน เป็นการรักษาภาพพจน์วงการด้วย
ข้างในจริงๆยังไงว่ากันอีกที ทุกสำนักพิมพ์รู้ว่าตลาดหดตัว ยอดขายลดลง ดูจำนวนปกที่ออกก็ชัดเจนอยู่
ปล. กูเพิ่งอ่าน Stretch นึกว่าจะน่ารักขำๆ ทำไมบรรยากาศมันอึนๆจังวะ
กุคนนึงที่เลิกซื้อหนังสือกาตุนมรนานแล้วมรซื้ออีกทีก้LNน่แหละ
มังงะอ่านสแกนLN กุก้อ่านสแกนกุอ่านอิงน่ะ แต่LN กุซื้อออกแนวสะสมส่วนใหญ่อ่านอิงหมดแล้ว
กูก็เลิกซื้อ เลิกอ่านแล้วนะ แสกนก็ไม่อ่าน แบบว่าหมดวัยแล้วง่ะ ซื้อหนังการ์ตูนดูกับลูกเพลินๆดีกว่า
ตลาดมันหดตัวรุนแรงตรงนี้ ก็ต้องทำใจว่า เด็กสมัยนี้ไม่อ่านการ์ตูนแล้ว
ตอนนี้นิตรสารการ์ตูนนี่มีเจ้าไหนเหลือรอดมั่งน่ะ
กุเชื่อว่าการ์ตูนคือก้าวแรกของการดึงเด็กเข้าสู่โลกของการอ่านนะ ถ้าหนังสือการ์ตูนยังไม่อ่าน นับประสาอะไรกับนิยายหรือวรรณกรรม หนังสือเรียนยิ่งแล้วใหญ่
ซึ่งมันจะทำให้ความอดทนต่อการ "อ่าน" มันย่ำแย่ และส่งผลต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ยาวไปถึงคุณภาพประชากรด้วย
ดิจิตอลถูกลิขสิทธิ์ยังไม่อยากจ่ายเลยมึง
ใช่ step ที่ควรเดินไปคือทำยังไงให้คนรุ่นใหม่(และรุ่นเก่า)พอใจที่จะจ่ายเงินซื้อการ์ตูนแบบดิจิตอล
ซึ่งมันยากมาก
ร้านหนังสือเดี่ยวนี้เท่าที่กูเห็นลูกค้ามีแต่เด็กมหาลัย คนทำงาน เด็กมัธยมลงไปน้อยมากเลย
เอาตรงๆ กูชอบหยิบจับแบบเป็นรูปเล่มมากกว่าว่ะ ถึงมันจะเปลืองที่เก็บก็เถอะ
ตอนนี้หน้าจอกูแซะ VBK กันสนุกสนานเลยทีเดียวพร้อมความคิด เห็นมะ อย่ามาโทษแสกนจงโทษความกากของมึงอย่าโทษคนอ่าน
ซึ่งกูว่ายังไงๆ แสกนก็มีผลอยู่ดีเปล่าวะ
>>174 มีผลแน่นอน แต่มันกวาดล้างให้หมดไปไม่ได้ไง เพราะงั้นก็ต้องหาทางแก้อย่างอื่นเพื่อความอยู่รอด
เหมือนโจรเข้าบ้าน ใครผิด แน่นอน โจรผิด แต่ถ้ามึงมัวมางอแงง้องแง้งว่าโจรมันเหี้ย มันชั่ว มันเลว แต่ไม่ทำเหี้ยอะไรเลย ไม่ล็อกบ้าน ไม่ทำรั้ว ไม่ปิดประตูบ้าน ไม่ใส่เหล็กดัด โดนโจรยกเค้าเป็น 10 รอบ ก็มาง้องแง้งด่าโจรให้คนอื่นทุกรอบ ใครแนะนำอะไรก็ไม่ทำ ก็กูไม่ผิดอ่า คนที่ผิดคือโจร ดังนั้นกูจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น คนที่ได้ยินบ่อยๆ เค้าก็ระอา ถามว่าเกลียดโจรไหมก็เกลียด ไม่ได้เข้าข้างโจร แต่ได้ยินมึงเอาแต่โทษโจรไม่พยายามทำอะไรเลย แนะนำอะไรไปก็เอาแต่เถียง คนฟังมันก็เบื่อน่ะ แล้วก็ไม่เกิดความรู้สึกอยากจะให้กำลังใจหรือช่วยเหลือ
ถ้าพูดตรงๆก็โดนรุมด่าดิวะ อันนี้กูชม SIC ที่เลือกแสดงออกได้ดี
สยามเล่นอะไรวะ = = ถึงมีมังงะไปอยู่หัวอื่นนอกจากSICด้วย
บก. Sic ตอบได้ฉลาดนั่นแหละ พูดอย่างที่คนส่วนมากอยากฟัง ความจริงจะเป็นไงอีกเรื่อง
จริงๆมันต้องเอา vbk + sic แล้วหาร 2 ตลาดหดตัวลงจริงแต่ก็ยังไม่ได้เลวร้ายขนาดว่าสนพ. จะเจ๊ง
แต่ร้านขายการ์ตูนคงไปก่อนแน่นอน
>>161 กุว่าเผลอๆ เด็กสมัยนี้อาจจะอ่านการ์ตูนเยอะกว่าสมัยเราๆ ด้วยซ้ำ (มึงดูยอดไลค์ยอดแชร์ของไปคิงสิ)
แต่เด็กสมัยนี้มันโตมากับสแกน โตมากับยูทูป แฟนซับทั้งหลายไง
แล้วพวกนี้มันไม่ได้เลิกซื้อเพราะออกช้า พิมพ์ห่วยอะไรหรอก แต่มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลิขสิทธิ์คืออะไร และไม่ได้มีความคิดที่จะเสียเงินซื้อการ์ตูนเล่มๆ (หรือเสียเงินอ่านอีบุ๊ค ดูเมะออนไลน์) ตั้งแต่แรกแล้ว
ไอคนซื้อแม่งก็ซื้อไปเหอะ ไม่บ่นอะไรหรอก
ned แม่งไม่ค่อยออกหนังสือเลยว่ะ แม่งเอ๊ย ทั้งๆที่คุณภาพตัวเองก็พอดูได้แท้ๆ ดองอยู่นั่นแหล่ะ แหม่มมมม
กูว่าจะเก็บครบชุดบางเรื่องที่ชอบไว้ ที่เหลือเศษๆเผาทิ้ง แล้วเลิกซื้อละเนี่ย
หลังจากนี้เจอเรื่องที่ชอบก็หิ้วโลด
ใครบอกว่าอย่าโทษแสกนนี่ กุตบดิ้นเลย
ปัญหาหลักๆก็มาจากแสกนนี่แหละ ไม่มีแสกนพวกมึงจะอ่านจากที่ไหนกันละครับ
(ไม่ต้องมาบอกว่ามึงซื้อฉบับJP ENG มาอ่านกันนะครับ อันนั้นส่วนน้อย ไม่ใช่ปัญหาหลัก)
พิมพ์งี้ในเพจ กุนี่โดนยำตีนแน่ๆ
ตลาดมันจะอยู่รอด มันต้องยื้อลูกค้าเก่าไว้ให้ได้ ถ้ายื้อไม่ได้ก็ต้องหาลูกค้าใหม่มาทดแทนให้พอ
แสกนเถื่อนอาจไม่มีผลกับกลุ่มลูกค้าเก่าสักเท่าไร แต่มันทำให้พวกเด็กเห่อหมอยยุคใหม่ๆ ที่จะเป็นลูกค้าใหม่ลดลงฮวบๆ เนี่ยแหละ
กูว่าsicมันเจาะการตลาดเป็นว่ะ อย่างแคมเปญซื้อหนังสือการ์ตูนก็ดูไม่โง่เง่าแบบบางค่าย จัดป้ายประชาสัมพันธ์เป็น มีการพัฒนากว่าแต่ก่อนจากที่แปลหมาไม่แดกตอนนี้ก็เพิ่มมาตรฐานการแปลที่ดีขึ้นถึงพรู้ฟหลุดบ้างก็ยังโออยู่ อีกค่ายที่พอดูดีดิ้นรนแบบมีสมองหน่อยก็luckpimถึงจะดูหน้าใหม่แต่ก็พอจับทางอะไรหลายอย่างเป็น ฐานแฟนบอยลูกค้าก็ค่อนข้างชัด คุณภาพงานก็โอเคพอควร ประชาสัมพันธ์อาจดูเป็นกันเองแบบไม่ได้ดูแพร่หลายเหมือนsicแต่ก็มีความพยายามพอสมควร ส่วนอีกค่ายท่ีคงเส้นคงวาสุดๆก็บงกช ฐานลูกค้าก็ชัด ตราบใดที่นิยายแจ่มใสยังขายดีเทน้ำเทท่าแม่งก็ไม่เจ๊งหรอก คนมันก็ซื้อเรื่อยๆ จริงๆก็มีมือดีลงานเก่งๆ เจาะบริษัทใหญ่ได้หลายที่อย่างชูเอฉะก็ด้วย ประกาศlcทีนี่อย่างกะเอาไปถมที่บริษัท ขายเรื่อยๆบางครั้งลิขสิทธ์หลุดเนียนๆก็ไม่มีใครบ่น อาจเพราะมันออกหนังสือเยอะสุดในบรรดาสนพไทยละมั้ง
กูไม่อยากให้การ์ตูนเป็นเล่มหายไปเลยว่ะ คืออ่านในเนตมันสะสมลำบาก
แถมทำยังไงก็ไม่เหมือนจับเป็นเล่ม มันคนละฟีลกัน
>>202 อีกอย่างนึง คือทุกเรื่องที่มันซื้อมา ล้วนแต่เป็นแนวบุฮี้สนองนี้ดมันเองคนเดียว ไม่ได้สนใจเลยว่ามีตลาดในไทยแค่ไหน หรือเนื้อเรื่องสุ่มเสี่ยงเกินจะวางแผงในไทยหรือเปล่า (ทั้งที่ LP เองก็กำลังพยายามขยายไปแนวอื่นที่ไม่ได้ขายโมเอะอย่างเดียวด้วย)
ได้ข่าวว่าหลายเรื่องที่ซื้อมา ก็อาจจะไม่มีวันได้ตีพิมพ์ในไทย ไม่รู้เหมือนกันว่า LP หมดเงินไปขนาดไหน (ก็ถือเป็นการลงทุนเพื่อตัดมะเร็งออกจากองค์กรละกัน lol)
รักไร้เสียง นี่มาหลังจากที่ไอ้หนึ่งออกใช่ป่าววะ ถ้าใช่นี่ก็เป็นตัวชี้วัดที่ดีได้ละ เพราะแต่ก่อน LP มีแต่แนวไหนก็รู้ๆกัน
จริงๆ LP ก็พยายามขยายไปแนวอื่นที่ไม่ใช่โมเอะมานานพอสมควรแล้วแหละ (ที่กุอ่านอยู่ตอนนี้ก็มีคลังสยอง แฟรงเกนฟราน รักไร้เสียง มิวเซียม) ที่เพิ่งมาได้ LC ใหม่ๆ ช่วงนี้ ส่วนนึงอาจเป็นเพราะ VBK กับ Ned ซื้อลิขสิทธิ์ใหม่ๆ น้อยลงด้วยมั้ง ค่ายอื่นเลยมีโอกาสมากขึ้น (กุคิดเอาเอง)
เพราะเริ่มมีตังซื้อลิขสิทธิ์ค่ายใหญ่ได้ตะหากล่ะ
ก่อนหน้านี้มันก็ซื้อแบบเหมาเข่งจากค่ายเล็กๆมาตีพิมพ์บ้าง
เจอคนไม่กล้าเข้าบูทLPเกมือนกูด้วย
กูเห็นบูทแล้วกูกลัวเหมือนกัน ต้องรอใกล้ๆงานเลิกเหลือคนน้อยๆถึงกล้าเข้า
กูไปกับเมียเดินเข้าบูธบงกชสบายๆ แต่LPนี่กูทำใจไม่ได้ว่ะ ไม่รู้เป็นไร -_-"
LP กูก็ไม่กล้าเดินเข้าไปว่ะ มันมีพลังงานอะไรบางอย่างแผ่รัสมีออกมา
กุไปลองอ่านวันฝนพรายมาเพราะจากที่นี่วะ
อ่านเสร็จนี่ไม่น่าเชื่อว่าการ์ตูนจาก LP เลยทีเดียวเขียนดีมากๆ
ตอนแรกๆช่วง2ปีก่อนกูก็ไม่กล้าว่ะ แต่หลังๆเริ่มจัดโซนดูน่าเข้าขึ้นไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนมากเท่าไร อีกอย่างแม่งเป็นค่ายที่จัดบูทดีสุดในบรรดาสนพทั้งหลายแล้วว่ะ เดินง่าย หยิบค่อนข้างสะดวก การจัดแถวก็ดี ไม่เหมือนค่ายอื่นที่แม่งมีปัญหาตลอดอย่างvbk sic a+ zenshu dexที่โคตรเบียดเสียดสุดๆ หยิบลำบากสัสๆยิ่งช่วงคนเยอะนี่ไม่ต้องพูด
กุไม่เคยไปสักปีเลยวะ
บู๊ท LP มันดูน่าแหยงยังไงก็บอกไม่ถูกว่ะ..คนซื้ออ่ะ..คือทั้งๆที่กูจะไปซื้อนี่แหล่ะ แต่มันก็..
เปิดประเด็นหน่อยเดียว มีพวกเดียวกันโผล่มาเพียบเลยวุ้ย เหอๆ
เออ ถามไรหน่อย กูได้ข่าวลือมาว่าร้านJC ของลูกป้า แมร่งก็ปิดไปแล้ว
อันนี้จริงหรือเปล่าวะ กูไปได้ยินจากเพื่อน ซึ่งเพื่อนบอกว่ามันไปอ่านเจอในพันดริฟ แต่กูหาเท่าไรก็หาไม่เจอ
ที่พันทิปแบนรักพิมพ์ (พิมพ์คำว่ารักพิมพ์ไม่ได้) เป็นเพราะไอหนึ่งแน่ๆเบย
#โยนขี้ให้แจ้
หนึ่งเดียวมันเคยฮาร์ดเซลล์อยู่ในพันทิปพักนึง แถมโดน Lethe สับเรื่องแปลมังงะมั่วด้วย
ตลาดแม่งหดตัวชิบหายวายป่วงมันจะมองไม่เห็นกันจริงๆเหรอวะ
หน่าเมิง ร้านขายตายเด๋ว สนพ ก็ตายเอง ไปตามวงจร
เทคโนโลยีมันไม่หยุดพัฒนา กับคนที่ผ่านยุคล่มสลายของเทปคลาสเซ็ต วีดิโอ ฟิมล์ถ่ายรูปมาแล้วอย่างกูเห็นแล้วเฉยๆว่ะ ก็แค่ถึงเวลาของมันแล้วที่หนังสือการ์ตูนจะตายตามสื่อยุคที่แล้ว แต่หนังสืออื่นๆมันก็ยังอยู่ของมันได้ แสดงว่าเด็กยุคใหม่มันไม่นิยมซื้อหนังสือการ์ตูนกันแล้วจริงๆ บันไซ ไปคิง
ลืมไป อย่าว่าแต่เด็กยุคใหม่ กูก็เลิกซื้อไปนานละ แพงสัส 555 ซื้อแต่ LN รูปเล่มมันสวยดี น่าสะสม
กูนึกว่าจะสักเฉียดๆ 40 ยังไม่ขึ้นเลขสามเลยเร๊อะ
เออ พอพิมพ์แล้วกูก็นึกขึ้นได้ กูพอจะเข้าใจละว่าทำไมเด็กยุคใหม่มันไม่ค่อยซื้อการ์ตูน มึงก็ดูราคาหนังสือการ์ตูนตอนนี้ เล่มละ 55 บ. เด็กที่ไหนมันจะมีตังค์ซื้อถ้าบ้านไม่รวย สมัยกูเด็กๆเล่มละ 30 ยังต้องยอมอดข้าวเที่ยงเพื่อเก็บตังค์มาซื้อการ์ตูนอ่านตอนเย็น แต่ตอนนี้แค่อดข้าวเที่ยงเผลอๆยังจะไม่พอซื้อเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ขนาดกูมีงานมีการมีเงินใช้ไม่ขัดสนยังรู้สึกว่าการ์ตูนเล่มละ 55 บ. แพง แล้วเด็กๆที่ยังต้องแบมือขอค่าขนมพ่อแม่อยู่ในยุคที่การ์ตูนเล่มละ 55 บ.นี่มันจะอยากซื้อไหมล่ะ ในขณะที่หาอ่านแสกนได้ฟรีตามเว็บด้วยแบบนี้น่ะ
ราคาการ์ตูนเล่มครึ่ง=เนต3gอาทิย์นึง
ถ้าเป็นมึงจะเลือกอะไรละ
>>238 กูเกิดในช่วงคาบเกี่ยวเจเนเรชั่นพอดี ยุคปลายเจ็นเทปคลาสเซ็ต (ตายตอนกู8-9ขวบ) ตามมาด้วยวิดีโอ และฟิมล์ อีกปีเดียวถ้ากูยังซิงกูก็จะได้คลาสเชนท์เป็นวิสาจละ ถึงตอนนั้นก็ร่วมยินดีกับกูด้วยละกัน เดี๊ยวกูแจ้งในกระทู้นี้ https://fanboi.ch/netwatch/1424/recent/
นอกเรื่องมังงะญี่ปุ่นหน่อยได้มั้ยวะ
หนังสือการ์ตูนไทยอย่างขายหัวเราะ มหาสนุกตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง
กุไม่ได้ซื้ออ่าน ไม่มีเพื่อนให้ยืมอ่าน ไม่ได้ตามข่าวสารมันมานานมาก
เจ๊งบ๊งไปรึยัง
ยังขายอยู่ แต่เล่มบางลงเยอะเลย เมื่อก่อนโฆษณาเพิ่ม ไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นไง
มึงลองแอบโพสเชียร์ขายหัวเราะ-มหาสนุกในกระทู้ห้องการ์ตูนพันทิปดู ถ้าบก.วิธิตเห็นแกจะเข้าไปขอบคุณด้วย กูเคยเจอแกมาขอบคุณครับหนนึง
>>248 ค่าของชีพแพงน่ะใช่ แต่อย่าลืมว่าค่าครองชีพในโรงเรียนเทียบกับข้างนอกแล้วถูกกว่ามาก สำหรับเด็กนักเรียน หนังสือการ์ตูนเล่มละ 55 บ.ข้างนอก นี่ พอๆกับค่าขนมค่ากับข้าวที่ได้ไปโรงเรียน 1 วัน +- นิดหน่อยแล้วแต่ฐานะ ถ้ามึงเป็นเด็กตอนนี้มึงก็คิดหนักว่าจะซื้อการ์ตูนรึเอาไปทำอย่างอื่น อย่างที่ความเห็นอื่นว่า 55บ.ได้เน็ตเน็ต 3G อาทิตย์นึง เป็นกูกูก็ซื้อเน็ตแล้วเข้าไปอ่านแสกนดีกว่า
มีโม่งคนไหนที่ตอนนี้ทำงานหาเงินเองแล้วตอนนี้ ลด/เลิก ซื้อการ์ตูน แล้วมานั่งอ่านแสกนในเน็ตมั่ง ช่วยบอกเหตุผลกุหน่อยดิ
กุอ่านน้อยลงแต่ดันซื้อเยอะขึ้น บางเรื่องเปิดผ่านๆก็ยังซื้อมานะ
ทำเป็นหนังสือการ์ตูนแม่งต้องซื้อทุกวันห้ามขาดเป็นแดกข้าวไปได้
กูซื้อน้อยลงและไม่อ่านแสกนด้วย คือกูอ่านการ์ตูนน้อยลงจริงๆเมื่อแก่ขึ้น
คนรุ่นเก่าหยุดซื้อ รุ่นใหม่ไม่ซื้อ ตลาดก็เล็กลง
ทำ eBook ไปก็แค่ต่อลมหายใจสำนักพิมพ์ คนซื้อก็คนรุ่นก่อนอยู่ดี
>>239 >>249 สมัยกุข้าวรร.จานละ10 การ์ตูน 35-40
ตอนนี้ข้าวรร.15-20 การ์ตูน 50-55
ไม่ต่างกันเท้าไรว่ะ
ส่วนเรื่องที่ยอดขายไม่ดี กุคิดว่าสมัยนั้นหาอ่านแสกนมันลำบาก
คนเลยต้องมาซื้ออ่านกัน
แต่เดี๋ยวนี้แสกนหาอ่านง่ายจะตาย เซิร์ชกูเกิ้ลโง่ๆก็เจอละ
แล้วคนรุ่นก่อนก็อ่านน้อยกันน้อยลง แต่คนรุ่นใหม่ที่ซื้ออ่านที่จะมาแทนที่กลับมีไม่เท่าคนที่เลิกไป สนพ.ก็เลยอยู่กันไม่ได้ บวกกับคุณภาพที่ด้อยลง ไม่สิอาจจะเท่าเดิม แต่คนรู้ภาษามากขึ้น เข้าถึงต้นฉบับ ทำให้เปรียบเทียบกับสิ่งที่สนพทำออกมาง่ายขึ้น เลยมองว่าคุณภาพด้อยลง
สมัย ม.ต้น - ม.ปลาย กูอดข้าวเก็บตังซื้อการ์ตูนเป็นปกติเลยนะ ที่คิดตอนนั้นคือข้างมื้อนึงกินไปเดี๋ยวก็หิว แต่การ์ตูนเล่มนึงเอามาเวียนอ่านได้หลายรอบ สรุปการ์ตูนคุ้มกว่าข้าว
มองย้อนกลับไปกูแม่งทำไปได้ 555
ส่วนตอนนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ติดจริงๆจะพยายามไม่ซื้อเพราะตอนมหาลัยซื้อมาดองจนท่วมห้องหลักหลายร้อยเล่มอ่านไม่ทันเลยตั้งใจว่าจะอ่านไอ้ที่ซื้อมาให้หมดก่อน ทุกวันนี้ก็ยังกองอยู่ในลังเหมือนเดิม
พวกมึงสบายกว่ากู นอกจากจะต้องซื้อการ์ตูนแล้ว กูยังจะต้องซื้อเกมอีกด้วย -*-
เอาง่ายๆ ร้านการ์ตูนที่กูไปซื้อตอนนี้เขาก็บอก แค่ขายกันตายแค่นั้นแหละเพราะ ขายการ์ตูนเขาก็มีสายส่งเอาของมาให้ ขายๆ สายส่งเขาก็เอาคืนไป
สรุปแค่อยู่เฉยๆ เฝ้าร้านอย่างเดียว สำหรัยคนแก่ๆ ไม่มีครอบครัวก็ถือว่าได้ค่าข้าวค่าน้ำสบายๆ ล่ะฟร้า
ดังนั้นตอนนี้ต้องยอมรับจริงๆว่าหนังสือการ์ตูนกำลังตาย แต่ไม่ตายก่อนกูตายหรอกเชื่อกู
แต่ก่อนนี่กุทุ่มมากเลยนะกับการเก็บหนังสือการ์ตูนให้ครบจนจบและแอนตี้การอ่านสปอย์ในเน็ตเพราะรวมเล่มแม่งต้องเจ๋งกว่า แต่พอมันขึ้นราคาแล้วแถมแปลแล้วไม่รู้เรื่องอีก กูเลยดรอปไปเยอะเหมือนกัน เรื่องใหม่ๆที่กุอ่านก็อ่านในเน็ต กลืนน้ำลายตัวเอง และถ้าไม่พีคจริงก็ไม่ซื้อ ซึ่งน้อยมากๆที่พีคขนาดนั้น
เพราะแสกน ไปควย แปลดีกว่าลิขสิทธิ์ครับ ผมเลยไม่ซื้อแจ๊
ผมพูดจริ๊งๆ 7บาป แปลมาได้ไงนายกอง คำอะไรไม่รู้จัก ต้องแปลว่าหัวหน้าสิ
ร้านจะขายดีหรือไม่ดีอยู่ที่ทำเลด้วยวะ ยิ่งใกล้รรดังๆยิ่งขายดีอย่างร้านรถเข็นที่เคยซื้อประจำเงี้ย ก็เห็นคนไปมุงกัน แต่ตอนนั้เข้ามหาลัยแล้วเลยไม่มีเวลาไป
ซื้อทำไมวะการ์ตูน ไปคิงก็
ใครก็ไม่รู้ แม่งได้กล่าวไว้
เพราะไป่คิงไม่มี ถึงได้ซื้อมังงะไงล่ะว้อยยย
กุนี่แหละกล่าวเอง
ถ้าเด็กมัธยมสมัยนี้เลิกซื้อการ์ตูน เงินหมดไปกับสิ่งบันเทิงประเภทไหนแทนวะ เติมเงินเกมมือถือ?
กูขึ้นม.ปลาย กูก็เริ่มค่อยๆเลิกอ่านหนังสือการ์ตูนไปอ่ะ
ไม่เชิงเลิกดิแบบอ่านน้อยลงมากๆๆๆๆ
ร้านเช่าแถวบ้านนี่ไม่ช้าตายเรียบแน่ ดูแล้วน่าจะสิ้นปีนี่แหละ ร้านที่เคยเช่ามีอยู่สองร้านที่เน้นไปกิจการอื่นที่เปิดควบด้วย โซนหนังสือแทบไม่มีใครเช่าแล้ว ผ่านไปเห็นตรงส่วนหนังสือทีไร ร้างคนทุกที ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่น้อยมากที่จะร้างคน
ไปคิงมันมีเรื่องไหนที่แปลจากยุ่นมั่งป่าววะ เอาแบบของมันตรงๆ นะ ไม่ใช่เรื่องที่ไปสูบในแมวดุ้นมาลง
ไปคิงมันเเปลอิ๊งยังผิดๆถูกๆเลยหอยหลอด
ในพันทิปดูเหมือนการด่าการแขวะ VBK จะเป็นแฟชั่นแบบนึงนะ
ไป่คิงนี่ ขนาดตัวภาษาอังกฤษแปลผิดเห็นๆ มันก็ยังแปลให้มันผิดมากยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนพวกที่อ่านแล้วยังขอบคุณมันอีก ศีลเสมอกันไหมเนี่ย
เป็นเรื่องน่าใจหายหนังสือกระดาษกำลังจะตาย ร้านเช่าก็อยู่ไม่ได้ เมื่อก่อนใกล้ ร.ร. หรือ มหาลัยร้านหนังสือทั้งขายทั้งเช่าคนมาเยือนไม่ขาด เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเป็นอิเลกทรอนิก ทุกอย่างอยู่บนเน็ตไม่ต้องหยิบหา ไม่ต้องถ่อไปเช่าไปคืน เงินเสียไม่มาก แต่ถ้าสื่อกระดาษตายไปจริงๆ ไอ้ที่เป็นอิเลกทรอนิกก็เตรียมล่มสลายไปด้วยแน่นอน โดยเฉพาะสื่อบันเทิงพวกนิยายหรือการ์ตํนบอกตรงๆว่าไม่มีกระดาษก็เกิดยาก
>>291 มันไม่ตาย แต่มันเปลี่ยนไป กระแสโลกไปนานแล้ว
อิเลกโทรนิคเป็นความสะดวกสบาย หนังสือกลายเป็นของสะสม
ยุคนี้นิยายใหม่ๆ เกิดได้ง่ายขึ้นด้วยซ้ำ นักเขียนที่ดังจากการขายใน Amazon ก็มี
ไอ้พวกที่บ่นๆ ว่าตายก็ปล่อยให้ตายไปเถอะ
ตอนประเทืองมา แวมไพร์มา กระทั่งยูทูปมา ร้านขายเทปขายหนังอิสระ ร้านเช่าหนังตายระนาว ไม่เห็นมีใครอาลัยอาวรณ์
ศิลปินเพลงใหม่ๆ ก็ยังออกต่อไป แต่เน้นรายได้จากอีเวนท์กับขายออนไลน์แทน
จะปรับตัวหรือจะตายก็เลือกเอา
คนอาลัยร้านเทป ร้านซีดี ร้านเช่าหนังก็เยอะมากนะมึง ไปอยู่ไหนมา
>>293 เรื่องกระแสก็ใช่ แต่กูว่าสื่อประเภทหนังสือมันยังเป็นสิ่งที่ที่ให้กำไรได้จากการขายได้มากกว่าว่ะ สื่อเพลงยังไม่ตายก็จริงแต่ก็เรียกได้ว่ากำไรจากเพลงหายไปเยอะมากๆ รายได้จากนักดนตรีมาจากการโฆษณาเป็นหลักและการออกแสดงแทน พวก บ.เพลงถึงได้หันไปทำช่องทีวีกันหมดไงคือไม่ได้ใช้เพลงหารายได้เป็นหลักแต่เอาเพลงมาช่วยเสริมคอนเทนท์เพื่อขายรายได้จากโฆษณาแทน แต่หนังสือกูว่ามันไม่ใช่วะ หนังสือรอดได้จากการเอารายได้จากโฆษณาไม่ได้หรอก จากโมเดลธุรกิจของ อเมซอน นั่นแหละตอบได้เพราะเขาก็ยังขายคอนเทนท์ที่เป็นตัวตนของหนังสือเองอยู่ดี ไม่ใช่โฆษณาและนั่นทำได้เพราะมีคินเดิ้ล อเมซอนกดราคาคินเดิ้ลเพื่อให้คนเห็นว่าการมีอีบุ๊คไม่ใช่ภาระค่าใช้จ่าย ทำให้มันขายได้ และคนขายก็ยังสามารถได้รายได้จากการขายหนังสือเต็มๆเพราะคินเดิ้ลเป็นระบบปิด ไม่ใช่จะทำสำเนาได้โดยง่ายแบบเพลง รายได้จากตัวหนังสือเลยยังอยู่
เอาง่ายๆคือ กูไม่คิดว่าสื่อประเภทหนังสือจะสร้างรายได้เพียงพอต่อการลงทุน ถ้าไม่ได้ขายตัวของมันเอง เพราะกระบวนการผลิตสิ้นเปลืองมากกว่าเพลง และตัวหนังสือเสื่อมความสามารถในการทำกำไรตามระยะเวลาได้มากกว่าเพลง การเอาหนังสือไปใช้โมเดลธุรกิจแบบเพลงจึงไม่น่าจะคุ้มทุน เว้นแต่จะมีระบบที่ป้องกันการทำสำเนาได้โดยง่ายแบบการขายบนคินเดิลของ อเมซอน แต่ในโลกอิเลกทรอนิก ระบบปิดนั้นโตยาก และทีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นตลอด การที่มีร้านขายแบบอเมซอนหลายๆเจ้า นั้นจะทำให้คนไม่อยากใช้ เปล่าๆ แต่ถ้ามีคนขายเจ้าเดียวคนผลิตสื่อก็จะแย่เพราะขาดอำนาจต่อรอง. สรุปคือ ถึงมึงจะบอกว่าไม่ตายแถมยังมีพวกการ์ตํนอินดี้นิยายอินดี้เต็มเน็ตให้เสพ แต่ของพวกนั้นสร้างรายได้ต่ำมาก เมื่อรายได้ต่ำคุณภาพย่อนต่ำตาม สุดท้ายวงการก็จะเละไม่ก็ไปไม่รอด ยังไงสื่อกระดาษและอิเลกทรอนิกก็ต้องประคองกันไปก่อน ตลาดทั้งหนังสือกระดาษทั้งอิเลกทรอนิก ยังตายจากกันไม่ได้ในเร็ววันนี้หรอก
ว่าแต่ VBK มันประกาศเหรอวะ ว่าจะยุติการของตีพิมพ์อาคิตะ กูเห็นที่มันประกาศคือยุติ Viva งดพิมพ์อาคิตะชั่วคราวจนกว่าจะแก้ปัญหาได้
แล้วก็มีบทสัมภาษณ์ที่จะยกเลิกพิมพ์นิตยสารที่เหลือเร็วๆนี้ และออกรวมเล่มน้อยลง ซึ่งตอนนี้ก็น้อยลงแล้วคงไม่น้อยไปกว่านี้แล้วมั้ง เหลือสัปดาห์ละ 2 วัน วันละ 2-3 เล่ม
แต่กูเห็นแม่งมโนกันเต็มไปหมด อ่านไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ว่าจะเลิกมั่ง ลอยแพอาคิตะหมดมั่ง
>>295 เดี๋ยวๆ กูหมายความว่า
หนังสือมันต้องเปลี่ยนไปตลาดที่คนเน้นความสะดวกกับสะสม
มากกว่าจะมาหวังยอดขายเล่มเป็นจำนวนมากแบบแต่ก่อน
ส่วนคนที่จะสะสมเรื่องที่ชอบก็จะเลือกซื้อสั่งตรง มันกลายเป็นไดเร็คเซลแทน
ซึ่งก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว ในไทยนิยายแปลหรือนิยายที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่มเริ่มพิมพ์ตามออเดอร์สำหรับคนที่อยากจริงๆ กันได้แล้ว ก็ปรับตัวกันไป
ร้านหนังสือ สายส่ง ที่ถูกตัดออกจากวงจรแล้วปรับตัวไม่ได้ก็ตายไปซะ
อย่างที่บทสัมพาษณ์ร้านที่อุดรบอกว่าถ้าสนพ.ล้มจะเลิกทำสายส่งไปทำธุรกิจอย่างอื่นน่ะแหละ
ส่วนเลือกตลาดดนตรีเป็นการยกตัวอย่างว่ามันอยู่ต่อไปได้โดยที่มีส่วนหนึ่งหายไป
>>300 เอาตังค์ไปซื้อของสิ้นเปลืองอย่างหนังสือการ์ตูนเล่นล่ะครึ่งร้อย สู้เอาไปจ่ายค่าฟัวกรากับจิบไวน์ชิวๆไม่ได้หรอก หนังสือมันอิ่มท้องมั้ย
แถมซื้อก็ลำบากบ้านไกลเดินทางยุ่งยาก แค่จองโต๊ะร้านอาหารสองเดือนถึงได้แดก แถมต้องบินมากินก็ลำบากชีวิตพอแล้ว หาเรื่องลำบากอย่างสั่งหนังสือไปเพื่อ?
กูเห็นคนพูดเพดัลโดนลอยแพ แซะกันจนกูรำคาญมาก + ติ่งเพดัลน่ากลัวสัส
กูว่าถ้าvbkจัดการลิขสิทธิ์akitaจบแล้วออกโอตาคุน่องเหล็กเมื่อไร แม่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแหงๆ กระแสแรงซะขนาดนี้
การ์ตูนมันตายเพราะ ปัญหา ละเมิดลิขสิทธิ์
คิดง่ายๆ แค่ ร้านเช่า ที่ปกติ จ่ายแค่ 10% ของค่าหนังสือ ร้านยังอยู่ไม่ได้เลย (คนแม่งยังไม่จ่ายเงินไปเช่าเลย)
แล้วหนังสือ ที่ราคา 100% จะรอดเรอะ
กูขอบอกนะว่า ถ้ากลายเป็นพิมพ์หนังสือการ์ตูนมาเพื่อขายนักสะสม ก็จะเจ๊งไม่เป็นท่าอีก เพราะเพื่อสะสม ถ้าทำแบบอย่างดีไปเลย ราคาก็แพง คนแม่งก็ไม่ซื้ออีก ทำแบบปกติ ก็จะมีพวกมาแซะแทะ อีกว่าไม่ทำแบบนู้นแบบนี้ พอทำจริงก็มีพวกมึงซื้อไม่กี่คน ถามจริงใครแม่งจะทำวะ (คนซื้อมันก็ซื้อ แต่คนที่ไม่ซื้อทำยังไงแม่งก็ไม่ซื้อ)
ปัจจุบันตลาดหนังสือการ์ตูน มันไม่ได้ซื้อเพื่ออ่านอีกต่อไปแล้ว (เพราะหนังสือส่วนใหญ่มันหาอ่านได้ "ฟรี" ) มันเลยกลายเป็นซื้อเพื่อสะสม ซะมากกว่า มันถึงได้พังไม่เป็นท่าแบบนี้ไงมึง
ที่พูดไปทั้งหมด นั่นก็กูล่ะคนนึง ก็บอกตรงๆว่าซื้อเพื่อสะสมมากกว่าแล้วเดี๋ยวนี้ ชอบถึงได้ซื้อ เรื่องไหนไม่ชอบ (แต่เสือกอ่าน?) ก็ไม่ซื้อ (อย่าง bleach เป็นต้น)
สำหรับกูนะเมื่อก่อน ถ้านับเป็นความชอบ 1-10 ชอบ 4 กูก็ซื้อแล้ว เดี๋ยวนี้ ต้องชอบราวๆ 7-8+ ถึงซื้อ
เห็นพวกอ่านไปคิงแล้วก็ได้แต่คิด ว่าแปลห่วยแตกชิบหายแม่งก็ยังทนอ่านกันได้อีกนะคนเรา
กลับมาขายปุ๊บ แม่งจะโดนด่าว่าพึ่งคิดได้หรอถึงพึ่งเอามาขาย ทำนองนี้แน่ๆ
สรุปทั้งหมดทั้งมวล ก็เพราะแสกนนะครับ
แหม่บก.สยาม ตอบมาได้ว่า ไม่ส่งผลต่อยอดขาย มึงตอแหลหรือว่ามึงโง่จริงๆวะเนี่ย
>>304 การที่มันก๊อบได้นั่นแหละมันถึงได้หดมึงพูดไม่ผิดหรอก
แต่กูก็พูดถึงการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบกระดาษสู่ดิจิตอล ถ้าเราไม่มีกระดาษขายเลย มึงจะเป็นไงรู้ไหม ผลคือรายได้ของอุตสาหกรรมนี้จะยิ่งหดจนแทบไม่มีเหมือนเพลง แล้วคนผลิตคอนเทนท์จะเอาอะไรแดกในเมื่อก๊อปจะยิ่งง่ายกว่าเดิมเพราะเป็นดิจิตอล รายได้จากโฆษณามึงคิดเหรอว่าจะได้ นักเขียนมันไปออกสื่อเล่นละครจัดคอนเสิร์ทแบบนักร้องก็ไม่ได้ แล้วถ้าผู้ผลิตตายหมดมึงจะเอาการ์ตูนที่ไหนมาอ่านเพราะจะไม่มีคนเข้ามาทำ ไอ้แบบดิจิตอลที่พวกมึงอ่านๆเนี่ยก็จะตายไปพร้อมกัน กูถึงได้บอกว่าอุตสาหกรรมนี้ยังต้องประคองกันไปก่อน กระดาษยังเป็นรายได้ที่จับต้องได้มากกว่า
นักเขียนก็มีค่าโชว์ตัวเหมือนกันนา ปัญหาคือต้องยอมรับแต่แรกแล้วว่าความต้องการการ์ตูนในไทยมันต่ำลงเรื่อยๆ
มี 2 ทาง ทางแรก อยู่ไปเรื่อยๆ จนแห้งตายไปเอง หรือว่า จะเปลี่ยนไปทางไหนล่ะ
1 Cruncyroll มันก็ทำ มังงะออนไลน์คุณภาพสูงอยู่นะเมิง ชัดเหี้ยๆ ภาพก็ดี มันสนใจคนขโมยไหมมันก็ไม่สนหรอก
เพราะแค่ค่าสมาชิกมันก็อิ่มบานแล้วเมิง กูยังอยากสมัครเลยถ้าอยู่ USA อ่ะนะ เพราะแม่ง content โดนกั๊ก
2. ทำ pdf กากๆ ขาย ซึ่งกูว่ามันไม่ได้ตังค์กูหรอกตอนแรกซื้อ ไอ แพดมากะอ่านพวกนี้ ไฟล์โครตหนัก หนักเครื่องชิบ
3. ทำหนังสือแบบพรีเมียมแม่งเลบย ขายเล่มละ 200 แต่คุณภาพเทียบเท่าญี่ปุ่นกระดาษดีโครตๆ พิมพ์สวยเหี้ยๆ สนป่ะ
แล้วแต่ทางเลือกฟะ กูไม่ใช่ผู้ถือหุ่น ก็แค่เฟ้อฝันไปนั่นแหละ กลับสู่ความเป้นจริงกูว่าพวกมันคงปล่อยให้แห้งๆตายไปนั่นแหละแล้วไปทำหนังสือแบบอื่นแทน
เออ ต่ออีกนิด สำหรับคนที่ทำธุรกิจหนังสือการ์ตูนนอกประเทศน่ะเหรอ 555 บัยแจ้
นักเขียนถ้าจะเขียนกันต่อก็หาทางไป ลงในเน็ตขายพรีเมียมล้ำๆ ไปเลย
หรือถ้าขายคาแรคเตอร์ของ'หนังสือ'ตัวเองจนคนติดแล้วมันการันตีการขายแบบเล่ม
ยกตัวอย่างที่ดีก็ ปองวุฒิ ในกลุ่มนักเขียนรุ่นใหม่กูว่าคนนี้ไปไกลและถูกทางสุดแล้ว
นักวาดลำบากที่คนเยอะแต่คสามต้องการแคบลง ก็ต้องปีนขึ้นยอดปีระมิดไป
ขายคอมมิชชั่น ขายงานเมืองนอก หาผู้สนับสนุน กูเห็นหลายคนอยู่ได้โดยไม่มีงานเป็นเล่มเลย
ไม่ก็หางานอย่างอื่นทำซะแล้ววาดเป็นงานอดิเรก
ร้านปลีกเฟรนไชส์เปลี่ยนตัวเองมานานแล้ว ตอนนี้แทบทุกแบรนด์ขายอย่างอื่นนอกจากหนังสือเกือบครึ่งร้านทั้งนั้น
ส่วนพวกร้านปลีกอิสระ ถ้าตำส้มตำอร่อย ก็ไปเปิดร้านส้มตำแทน
>>310 มึงพูดก็ถูก แต่บ้านเรา มันซื้อมาแปล ถามกู กูก็ขายมันสองอย่างพร้อมๆกัน แต่คงไม่พิมพ์ตัวกระดาษออกมาเยอะแล้ว คือค่อยๆ ย้ายๆ ไปดิจิตอล ทำตลาดให้คนหันไปใช้แบบดิจิตอลมากขึ้น เอาจริงๆ ตอนนี้หนังสือ ebook แบบซื้อแล้วโหลดอ่าน ก็ลดราคาจากหน้าปกอยู่นะ 10-20% สำหรับกูก็คุ้ม กูก็ซื้อหลายเรื่องเหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้ ebook เมืองไทย ไม่รุ่ง สำหรับกูคือ ระบบธุรกรรม online เอาจริงๆเดี๋ยวนี้ก็ดีกว่าเดิมมาเยอะแล้วนะ แต่คนส่วนใหญ่มันก็ยังจ่ายไม่ได้อยู่ดี ก็บอกตรงๆ ตลาดหนังสือการ์ตูนนี่ ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดวัยรุ่นมากกว่า (รุ่นมัธยม-มหาลัย) พวกนี้จะซื้อไม่ได้กันซะเยอะ พวกทำงานแล้วส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว มีปัญหาแค่มีเงินซื้อ แต่ไม่มีเวลาอ่าน มากกว่า
คงอีกสักพักใหญ่ๆ (ซึ่งหวังว่า ผู้ผลิต-แปล จะไม่ล้มไปหมดก่อน) กว่าตลาดการ์ตูนไทย จะมีอนาคตที่ดีกว่าปัจจุบัน
ตอนนี้ก็ต้องหาการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่มาเยอะๆ เมิงจะได้ขายดีหน่อย
กุยังนึกภาพไม่ออกเลยว่ะ ว่าเปลี่ยนทุกอย่างเป็นดิจิตอลแล้วมันจะทำให้ สนพ. อยู่รอดยังไง
ถ้าสยามเปลี่ยนมาออกวันพีซทุกเล่มเป็น e-book อย่างเดียวงี้ มึงคิดว่าพวกที่อ่านสแกนไปคิง จะหันมาจ่ายเงินซื้อของสยามแทนเหรอวะ
>>324 สยามฉลาดกว่านั้นไงมึง
ซีคิดส์ออก express แข่งกับสแกนแปลไทยเลย
มีใช้ booksmile bookfriend เป็นสายส่งตัวเอง
รวมเล่มดังก็ออกไป เรื่องไหนคนชอบเยอะก็ออก Big Book ฟันตังไป
หลังๆ รีบเกาะกระแสอนิเมด้วย
เอาเข้าจริง express มันก็หยุดคนอ่านสแกนไม่ได้ แต่มันทำให้คนมีความสนใจจะซื้อบ้าง
ส่วนขาย digital ก็เป็นเศษตังได้กิ๊กก๊อกตามสัญญากับญี่ปุ่นไป
อย่างน้อยลมหายใจก็ดูมีอนาคตกว่าไอ้ที่ประกาศว่สจะเน้นดิจิตอลแล้วลอยแพอย่าง VBK
>>326 กุเห็นด้วยกะมึงนะ
ที่กุไม่เข้าใจ คือพวกที่อะไรก็จะดิจิตอลๆๆๆๆๆ ไปหมดทุกอย่าง
เอะอะอะไรก็ชอบพูดแบบมั่นใจเหลือเกิน ว่าอีบุ๊คเท่านั้นคือความอยู่รอดของวงการ บลาๆๆๆ (เช่นไอ้จ่าเป็นต้น)
ถ้าทุกอย่างกลายเป็นดิจิตอลหมดจริง ไอ้พวกนี้มันก็อ่านสแกนต่ออยู่ดีนั่นแหละ กุมั่นใจ
กูไม่เห็นด้วยเรื่อง Ebook นะเมิง ตอนแรกกูก็เป้นคนหนึ่งที่คิดว่า ebook น่าจะรอดแต่พอเห็นมาตอนนี้กูว่าไร้สาระฟะเพราะ.... สมาร์ทดีไวท์ มันไม่เหมาะกะการอ่านหนังสือเลย ถ้า เหมาะเจงๆ ต้องพวก kindle e ink ถึงจะดี
กูโครตอยากให้มี อเมซอลไทยชิบหาย
สงสัยจะไม่รู้จักเรท seinen
งานบงกชนักวาดญี่ปุ่นวาดรูปอวยพรเต็มเลย
การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ไม่ได้มีแต่การ์ตูนโป๊นะโว้ย
ไปงานบงกชมาเมื่อวาน กุว่านี่แหละ สนพ. การ์ตูนที่จะอยู่ยั้งยืนยงนานที่สุด มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ หลายเรื่องไม่โดนสแกนแย่งยอดขาย คุณภาพงานไม่มีปัญหา แถมไม่เคยโดนดึงเข้าไปยุ่งกับดราม่าของ สนพ. อื่นๆ ด้วย
Love Livers แม่งไปมีเริ่องอะไรอีกกะ One piece
พูดตรงเลย คุณภาพลูกค้านี้ฟุสูงกว่าคุเยอะ ทั้งไทยทั้งยุ่น
คุนี้โคตรเรื่องมากแต่ไม่ซื้อ
>>337 ถ้ากุเข้าใจไม่ผิดนะ
โอดะเขียนคอมเม้นในจั้มป์ ว่าไปที่ศาลเจ้าคันดะมา เพื่อจะทำ コラボ ร่วมกับ LL และเสริมตอนท้ายว่า "ทำไมเป็นงี้ได้ล่ะเนี่ย" (แบบขำๆ)
เหมือนคอมเม้นนี้จะลงข่าวในเว็บจีน แล้วมีการแปลผิดหรือไรสักอย่าง ทำให้คอมเม้นของโอดะกลายเป็นอะไรทำนองว่า "ไม่อยากเชื่อว่า LL จะมีศาลเจ้าของตัวเองได้" (ทำนองดูถูกมั้ง)
พวก Love Livers เลยโวยว่าโอดะ มึงพูดงี้ได้ไง
นี่พิมพ์จากความเข้าใจของกุเองนะ เพราะกุเห็นคอมเม้นต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของโอดะแล้ว (เพจวันพีซอินโดนิเซียเอามาลง) ไม่ได้มีอะไรดราม่าเลย (คือจะร่วมงานกันอยู่แล้ว มันจะดูถูกกันทำไม)
ส่วนข่าวที่ว่าสาวก LL ดราม่า กุเห็นว่ามาจากเว็บจีน (ซึ่งกุอ่านไม่ออก) ที่คุณยูริ (คนที่ทำเพจแก๊กมังงะไรนั่นน่ะ) เอามาแชร์
บงกชกูซื้อแค่แมลงสาบเอง คิดว่ากระดาษถนอมสายตามันดูเห่ยแปลกๆ(บางเล่ม) เหลืองค่อนข้างง่ายไปหน่อย สากมือเล็กน้อยด้วย ชอบกระดาษlpมากกว่าว่ะ(ชนิดเกรดดีนะ) แต่คุณภาพการพิมพ์ค่อนข้างเนี้ยบ อีกอย่างแม่งชอบอยู่ซอกหลืบไม่ค่อยสร้างกระแสอะไรมากมายให้คนพูดถึง จากที่ส่องในเฟสก็เห็นทำพวกboxsetครบชุด มีของแถมพวกโปสการ์ด การ์ดต่างๆในราคาเท่าเดิม ซึ่งกูว่าค่ายนี้แถมเยอะสุดถ้าเทียบกับค่ายอื่นนี่ก็ระดับพรีเมี่ยมเลยอะนะ ปกค่อนข้างโอ โค้ดดีไม่ลอกง่าย มังงะบางเรื่องนี่แทบจะไม่มีใครรู้จักเลยด้วยซ้ำถ้าไม่ซื้อlcมา เข้าใจว่าจ่ายค่าlcแบบเหมาเข่ง ก็ผลิตไปเรื่อยๆลิขสิทธิ์หลุดก็ช่างหัวมัน ได้ยินว่าเคยเซนเซอร์ระดับตำนานมาแล้วแต่กูไม่คิดมากกับการเซนเซอร์เท่าไร ส่วนการดองจริงๆมันเป็นค่ายที่ออกหัวหนังสือเยอะที่สุดเลยนะ(นับจริงนี่มากกว่าสยามอีก)แต่แม่งlcทีเป็นหลายสิบ เรื่องไหนคนรู้จักน้อยหน่อยก็ดองไปเรื่อยๆจนข้ามชาติได้เลย ไม่มีใครบ่นซักแอะเหมือนvbkที่โดนด่าทุกเมื่อ
บงกชนี่หมึกเหม็นสุดนะกูว่า เรื่องติอีกอย่างคือตั้งชื่อไทยได้ชุ่ยขอไปที แบบ NED นี่คิดมาแล้วแต่ห่วยเสร่อ
แต่บงกชนี่ตั้งแบบชุ่ยมาก รักนายตัวร้ายห่าไรนี่โคตรหลายเรื่อง
ฟุตัวร้าย กับนายสวมโม่ง
เออ บงกชเซนเซอร์เจ๋งสัดๆ ตัดทิ้งทั้งหน้าไปเลยง่ายดี
กูไม่เคยรู้เลยจนกระทั่งมีเรื่องหนึ่งกูเช่าร้านแล้วอยากอ่านอีกรอบแต่หาซื้อไม่ได้แล้วเพราะเก่าเกิน อ่านฉบับแสกนอิงแล้วแปลกใจว่าทำไมมีหน้าที่กูไม่เคยเห็นมาก่อน
เลิฟไลฟ์เวอร์็เป็นแบบนี้แหละ ความรักที่มากเกินไปจนทำให้ความเป็นมนุษย์ลดลง
กุ >>340 นะ
แก้ข่าวนิดนึง กุแปลผิดเองตอนแรก
ตกลงโอดะไม่ได้มีโปรเจคอะไรร่วมกับ Love Live แค่ไปศาลเจ้าแล้วเห็นว่าจัดงานอยู่ ก็เลยงงเฉยๆ
เนื้อหาที่ถูกต้องตามนี้เลย http://anitime.in.th/news/one-piece-love-live-collabo/
ถึงยังงั้นก็เถอะ กุก็ไม่เห็นว่าคอมเม้นท์ของโอดะมันจะดราม่าอะไรอยู่ดี (มันก็แค่แปลกใจปะวะ ไม่เห็นจะมีโทนดูถูกอะไรตรงไหน หรือกุอ่านญี่ปุ่นไม่แตกเอง)
กระทู้ไม่ได้เน้นว่ามันต้องเป็นของไทยเท่านั้น งั้นเอามาแปะนี่นะ
คำประกาศของหัวหน้ากองบรรณาธิการฝ่ายการ์ตูนคนใหม่ของนิตยสารโชเน็นซันเดย์ จะทำให้คุณต้องลุกโชน
https://www.facebook.com/inviting.along/photos/a.392851847472637.92341.392375287520293/843484572409360/?type=1&theater
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.