>>149 >>151 กูมาล่ะ เขียนตั้งแต่เกือบ 9 โมง ข้าวปลายังไม่แดก5555555+
ทนอ่านได้แค่ 4 ตอนกูพอเลย
(ควรได้ 💀💀💀💀💀💀💀x10)
⚠⚠ รีวิวยาวมาก แม้จะไม่ค่อยพูดถึงความเป็นโรแมนซ์แฟนตาซีในเรื่อง แต่จะเกี่ยวกับงานศิลปะในเรื่องล้วนๆ
(1/3)
แค่เปิดเรื่องมาก็พังล่ะ อย่าเรียกอินางเอกสาวเกาว่าอาร์ทติสเลย เป็นแค่คนที่ไม่เคยฝึกมือ ไม่เคยศึกษา ไม่เคยหาความรู้ ไม่เคยทำความเข้าใจงานศิลปะ หรือเรียกง่ายๆคือ “พวกเบียวอยากเป็นอาร์ทติส” เฝ้าเพ้อเจ้อว่า “เฮ้ย ที่พวกมึงๆบอกงานกูห่วยเพราะมึงตัดสินที่ฝีมือกูไง ถ้ากูวาดคนที่ไม่ใช่คนแล้วตั้งคำถามแปลกๆล่ะ” อีห่านี่ดูได้แค่เปลือกงานศิลป์จริงๆ อีนี่น่าจะเป็นคนที่เห็นผลงานของ Maurizio Cattelan (กล้วยแปะเทป🍌) แล้วคิดว่าขนาดเอาของมาวางทิ้งในแกลลอรี่ยังเป็นอาร์ทติสได้เลย ไม่เห็นต้องใช้ฝีมือเก่งๆ---- ไอ้สัส งานเขายุคโมเดิร์นเขาขายแนวคิด(Concept) ขายการตั้งคำถามต่อวงการศิลปะว้อย ที่กูหงุดหงิดสุดคือ อีนี่เหมือนจะโหนงาน Surrealism (ไทย : ลัทธิเหนือจริง) เป็นพิเศษ คิดว่างาน Surrealism คือวาดอะไรๆที่ต่างจากขนบธรรมเนียมในก็พอ ยกตัวอย่างที่นางโหนในเรื่องว่า “หรือวาดกล้องยาสูบ แล้วตั้งคำถามแปลกๆ ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่กล้องยาสูบ” มึงเข้าใจในสิ่งที่มึงโหนมั้ย ไอ้ที่นางโหนมาจาก This Is Not A Pipe (Ceci n’est pas une pipe) ของ René Magritte ซึ่งเป็นรูปไปป์(กล้องยาสูบ)จริงๆนี่แหละ แต่ที่บอกว่าไม่ใช้ไปป์ เพราะมึงสามารถเอาใบยาสูบใส่ลงไป แล้วสูบจากรูปได้มั้ยล่ะ René Magritte เขาวาดเพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมตั้งคำถามกับกลไกการรับรู้ความเป็นไปในโลกจริง ไม่ใช่ว่าวาดติสแตกแล้วจะเป็นงานศิลป์ได้ทุกอย่างนะ
แล้วไอ้ที่ตลกคืออิสาวเกาเห็นงานศิลป์อันนึงแล้วบอก “ดูไม่ออกว่าเป็นภาพอะไร” มันก็รูปผู้หญิงกับมีวงกลมๆตกแต่งไงสัส!! มีเหี้ยอะไรให้ตีความไม่ทราบ ถ้าจะมาแนวนี่ไม่ใช่ผู้หญิงกูจะเอาแปรงตบปากมึงเลยนะ ถึงว่าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมึงสอบตกศิลปะแถมยังจะจับงานศิลปะในแกลลอรี่อีก🤷♀️