ส่วนตัวคิดว่าตอนจบโอเคดี ทำให้เห็นภาพว่าเรื่องนี้มันจะไปทางไหน
บทเลือกตั้งเริ่มมาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่รู้เรื่องมันจะอยากเป็นอะไรกันแน่ จนมาถึงตอน 12 นี่ทำให้เห็นชัดว่ามันเป็นการประชันกันระหว่างแนวคิด...
ครอบครัวพระเอกที่สุดแสนจะ cunning vs ความซื่อตรงไร้เล่ห์เหลี่ยมของอาเรีย
พระเอกเกลียดชังครอบครัวของตัวเองที่ความสำเร็จคือสิ่งสำคัญสุด ไม่เกี่ยงความรู้สึกและวิธีการ ซึ่งก็เป็นวิธีที่ทั้งยูกิและมาซาจากะใช้ใส่กันในช่วงหาเสียงนี่แหละ
เลยรู้สึกยึดติดกับความซื่อตรง ใส่ใจในวิธีการและความรู้สึกของอาเรีย โดยเนื้อแท้อาเรียไม่ใช่คนที่ไม่แคร์คนอื่นขนาดนั้น อยากเป็นคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกับคนอื่นบรรลุเป้าหมาย
แต่เพราะความฝังใจตอนเด็กที่ใช้วิธีการผิด ๆ กดดันเพื่อนให้มาช่วยทำงานแล้วออกมาเหลว เลยไม่กล้าเข้าหาใครเพื่อขอความร่วมมือดี ๆ อีกเลย จึงมุ่งมานะทำทุกอย่างด้วยตัวเองแทน ซึ่งมันทำให้ยิ่งเละ
พระเอกรู้สึกดึงดูดต่อความซื่อตรงอันบริสุทธิ์ของอาเรีย และอาเรียที่รู้สึกว่าตัวเองดื้อด้าน แปลกแยกเข้ากับใครไม่ได้ ก็ได้พระเอกที่ไม่สนหน้าอินหน้าพรหมอะไรเข้ามาเจาะกำแพงดึงอาเรียออกมาร่วมมือกับผู้อื่นได้
การซื้อใจคู่แข่งแว่นนั่นมาร่วมมือด้วยได้ ถือเป็นความสำเร็จของอาเรียตรง ๆ เลย เกิดขึ้นได้เพราะนางเริ่มเรียนรู้ที่จะซื้อใจผู้อื่นมาสนับสนุนตัวเองเป็น อันนี้พระเอกไม่ได้ช่วยเลยมั้ง
อีกอย่างคือ การยืนปาฐกถาในตอนนี้ก็เป็นเทคนิกที่ใช้กันในชีวิตจริงมั้ง วิธีการของยูกิคือการสั่งสมความน่าเชื่อถือ แบบที่พวกนักการเมืองใช้กัน เอาลิสต์ผลงานและโปรไฟล์สวย ๆ มาแสดงแล้วโยนนโยบายฟังดูเจ๋ง ๆ ให้คนอื้ม ๆ แล้วคิดว่ามันต้องได้ชัวร์
กับฝั่งมาซาจิกะที่เน้นดึงอารมณ์ของผู้ฟังตามประสาครูสอนหนังสือเด็กแบบครีเอทีฟ ๆ หน่อย เน้นมุกเน้นความสนุกในการพูดให้คนรู้สึกอยากให้ความสนใจในการฟัง เอาจุดด้อยของอาเรียมาทำให้คนฟังรู้สึกรีเลทด้วย แล้วอาจจะตัดสินใจเลือกให้ตามความเสน่ห์หา
การเมืองก็แบบนี้แหละ คนจำนวนมากก็ไม่ได้เลือกใครเพราะนโยบายหรือความน่าเชื่อถือ แต่เลือกก็แค่เพราะชอบอะ จบปะ
ทีนี้คือ
ถ้ามันมาแบบนี้ตั้งแต่ตอนแรก
เราคงไม่นั่งบ่นมาทุกตอนยันจบงี้หรอก เห้อ