เรื่องนางร้ายเวล99 นี่ คนไทยชอบดูเหรอ เห็นเรตติ้งคนดูทั้งช่องถูกลิขสิท ยันช่องสปอยเถื่อน ยอดคนดูใช้ได้เลย
หรือว่านางเอกแบบนี้ ใช้เซฟอินเสิตได้ดี
Last posted
Total of 260 posts
เรื่องนางร้ายเวล99 นี่ คนไทยชอบดูเหรอ เห็นเรตติ้งคนดูทั้งช่องถูกลิขสิท ยันช่องสปอยเถื่อน ยอดคนดูใช้ได้เลย
หรือว่านางเอกแบบนี้ ใช้เซฟอินเสิตได้ดี
>>98 Grand Blue มหาลัยเด็กปี1เข้าใหม่เปิดโลกชมรมดำน้ำใต้ทะเล
Monster Musume no Iru Nichijou ฮาเร็มสาวมอนเตอร์ ไม่ชอบสายสัตว์ก็ดูได้
full metal panic(ภาคfumoffuเท่านั้น) ไม่ต้องดูภาคแรกมาก่อนก็รู้เรื่อง พระเอกเป็นทหารอาชีพอายุน้อยรับภารกิจให้มาคุ้มกันเด็กม.ปลายคนนึง
Karakai Jouzu no Takagi-san แกล้งจนได้ผัว
seto no hanayome เก่าหน่อย พระเอกจมน้ำโดนเงือกช่วยเอาไว้และโดนบังคับให้แต่งงานเพราะโดนทำcprแล้วมารู้ที่หลังว่าเป็นแก๊งยากูซ่า
ไม่ใช่ทอป5แต่ดูแล้วก็ชอบทุกเรื่อง
เห็น Rokka No Yuusha แล้วก็เพิ่งนึกได้
ตกลงคนเขียนเสียไปยัง กูเห็นมีเคลื่อนไหวล่าสุดแถวๆอินสตาแกรม แต่อ่านเม้นท์เหมือนแกกำลังป่วยหนักยังไงพิกล ?
แมงกะพรุนว่ายน้ำตอนกลางคืนไม่ได้... ชงมาฟีลแฟนแต่จบแบบจืดๆ ไอ้เวร
>>106 สกาย สกาย ก็ไม่ขนาดนั้นครับต่างชาติเขาไม่ได้อคติกับเรื่องที่เป็นLGBTQ ถึงประเทศตัวเองจะไม่ค่อยยอมรับหรือไม่อิน แค่ประเทศอื่นเขาไม่ได้สนเรื่องเพศกันแล้ว จะเป็นชญ. หรือญญ. มันไม่เกี่ยวครับ ชญ. ไม่ได้ทำให้อินเสมอไป ผมพูดในมุมที่หลากหลายเดี๋ยวนี้ต่างประเทศเขาก็มีภาพยนตร์ ชช. ญญ. ออกจะเยอะเขาไม่อคติ ถ้าไม่ใช่ทางก็ไม่ต้องดูแค่นั้นครับ เพราะภาพยนตร์เขาไม่ได้จำกัดแค่เพศ ชญ. ในการเป็นตัวหลักของเรื่องเสมอไป
ดูโจรัน เจ้าหญิงเลือดและหิมะ ว่าละนางเอกต้องไม่รอด พวกตัวละครสายฆาตกรนี่รับเวรรับกรรมแทบจะทั้งนั้นเลย ท้ายเรื่องดันให้เด็กน้อยไปสายนักสู้ซะงั้นแทนที่จะใช้ชีวิตแบบคนปกติ แถมมีสายเลือดสีน้ำเงินมาเฉย
พึ่งดูTiger&Bunnyจบ แปลกใจที่กุพลาดเรื่องที่ดีขนาดนี้ไปได้ไงวะ.. (ซีซั่น2ไว้ในฐานที่เข้าใจ..)
ประเด็นความสมจริงของโลกฮีโร่ กุว่ามันดูใส่ใจกว่าเดอะบอยอีกกุว่า… มันดูเป็นเรื่องธุรกิจจ๋าจริงๆ ถึงจะคล้ายกันหลายอย่าง แต่Tiger&Bunnyจะเน้นเรื่องนี้หนักกว่า (กับไม่ได้ใส่ประเด็นอัpปรีย์เกินไปแถมสามารดูจบได้ในซีซั่นเดียว ไม่ต้องไปดูอีก5ซีซั่น)
T&B ส่วนซีซั่น2กับเสียงพากย์ กุค่อนข้างชอบเสียงใหม่หมดยกเว้นตัวหลักที่มองว่าพรี่จูนทำได้ดีกว่า (กุดูฉบับใหม่ไปเลยเพราะเมื่อก่อนเห็นผ่านๆในทีวีดูไม่ปะติดปะต่อกัน)
คงเพราะของDexนักพากย์มันวนใช้ไม่กี่คนมั่ง ของใหม่ที่เสียงพากย์เลือกมาจากหลากค่าย ให้กับตัวละครแต่ล่ะตัวเลยดีกว่ามากโข
เนื้อเรื่องมีจุดติค่อนข้างเยอะในss2 ไอลูนาติกที่บทแถบไม่มี เหมือนให้พรี่แกมาเป็นหัวหน้าแทนมาเวริค(ไปทางนิคฟิวรี่) เข้าใจว่าเลยอาจจะไม่ว่างมาใส่ชุดเป็นศาลเตี้ย แต่ก็เหมือนขาดสีสันไปค่อนข้างเยอะ
แต่ชอบประเด็นการเคลียร์กันของพ่อลูกพอสมควร
ฮีโร่ภาคนี้ที่ขาวสะอาดจ๋ากับเน้นมิตรภาพ ไม่มีชิงดีชิงเด่นกันแล้ว เหมือนได้รับอิทธิพลจากอเวนเจอร์ ฮีโร่ทีวีที่จากการแข่งขันกลับกลายเหมือนก้วนอเวนเจอร์ร่วมพลังมากกว่า
ยิ่งประเด็นฮีโร่คู่ที่ภาคนี้พยายามยัดมิตรภาพแห่งคู่หูของแต่ล่ะคู่บางคนก็พอได้ แต่บางตัวก็ฝืนไปหน่อย และการจับคู่ที่กุมองว่าแปลกๆมาก
เช่น เอาหนุ่มคาสโนว่าไปปใส่กับสาวไอดอล แค่ชีวิตจริงก็ชิบหายอยู่แล้วเอาไอดอลไปคู่กับผู้ นี้มรึงเอาคาสโนว่า หายนะทางการPRชัดๆ แต่กลับไม่มีปัญหาอะไร
น่าจะให้บลูโรสคู่กับแคทมากกว่า Themeไอดอลทั้งคู่ พลังเป็นน้ำกับน้ำแข็ง มันดูจะเกื้อหนุนกันมากกว่าทั้งธีมฮีโร่และก็พลัง
ส่วนไรอันน่าจะให้ไปคู่กับโอริงามิหรือคิ๊ดมากกว่า คนหยิ่งมั่นใจในตัวเองกับคนขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่ก็หนุ่มคาสโนว่ากับสาวหมวยตามโลกไม่ทัน
แถมการเปลี่ยนให้คิ๊ดมาดูเป็นรุ่นพี่แบบฝืนๆก็แปลกๆ ทั้งๆที่นางคือสาวหมวยทอมที่ไม่เข้าใจอะไรมากนัก แถมว่าตามตรงนางก็ดูไล่เลี่ยกับแคทไม่ได้ดูอายุห่างอะไรกันถึงขนาดตะมาแนวรุ่นพี่ ส่วนไรอันจากหยิ่งๆแต่เนื้อในใจดีรู้ว่าคนมองตัวเองอคติแต่ก็ยอมรับได้กลายเป็นหนุ่มไมโคเวฟซะงั้น
หนักสุดก็สกายไฮกับไฟเอ็มเบลม ที่ภาคที่แล่วกระสอบทรายยังไงก็กระสอบทรายยั้งงั้น แถมตัวประกอบหนักกว่าเดิม ไม่สมตำแหน่งคิงออฟฮีโร่เลย
โอริงามิภาคก่อนที่ตอนท้ายเรื่องแม่งทะลุกำแพงได้ กับแปลงร่างยิ่งคลื่นเสียงสวนกลับใส่วายร้ายในมูฟวี่ ภาคนี้ความสามารถหายเกลี้ยงเหมือนเดิม อุจส่านึกว่าจะวิวัฒนาการแล้ว
แบล็คที่ช่วงแรกงี่เง่าไม่พอใจในเรื่องแปลกๆ ทั้งๆที่ชุดมรึงกับชื่อมรึงเท่สุดในคณะ มรึงไม่พอใจอะไรในชื่อกับชุดมรึง? เรื่องมากสัส เดี๋ยวจับยัดใส่ชุดรัดไข่แบบเจ้ไฟเอ็มเบลมหรอก
แบล็คกับโทมัสแม่งคาร์ทำมาให้สาววายชัดเจนเลย
ส่วนเจ้เอเยสกุโดนแกงหนักมาก อ้วนหน้าผลิเลยไอห่r😭😭
พอพูดถึง T&B แล้วก็นึกได้
ไอ้โรงเรียนฮีโรนิกะจบแบบ T&B เปล่าวะแต่เล่าได้แย่กว่า
Astro Note ลองดูไปตอนนึง แบบไม่รู้อะไรมาก่อน นี่มันบ้านพักอิกโกกุเวอร์ชั่นไซไฟสินะ
https://www.youtube.com/watch?v=F1sP0CvXdyQ
คาโดนี้ลงทุนกับเทพเงาเอาเรื่องน่ะนี้ ขนาดอนิเมะ PV เกมยังเล่นใหญ่เลย
โทษที ใครจำเรื่องนี้ได้บ้างเมะเกี่ยวกับเด็กม.ต้นหรือม.ปลายตั้งทีมการแสดงอะไรสักอย่างที่มีอุปกรณ์เป็นไม้ตบเป็นคู่ๆเอามาทำเสียงแป็กๆปรกอบ มีการใช้ร่มญี่ปุ่นมาหมุนๆประกอบการแสดงด้วย ตัวเอกผมดำๆน้ำตาลๆในทีมมีสาวนักเรียนแลกเปลี่ยนจากกอเมริกามาร่วมทีม เหมือนตอนสุดท้ายทั้งทีมจช่วยกันพาสาวต่างชาติไปแสดงแข่งขันในงานวัด มันชื่อเรื่องไรคิดไม่ออกเลย
ขอบใจมากเพื่อนโม่งทั้งสอง
ทำไมเวลาฝรั่งมันทำมีม knuckle rates แค่ตัวละครตัวเล็ก(แบบไม่เชิงโลลิแต่หุ่นประมาณม.4หรือม.ต้น)มันเลือกknuckleไล่หรือไม่รู้กันหมดเลยวะไม่เห็นใครเลือกตั้มเลย ทั้งที่อายุมันก็เท่าตัวละครอื่นๆที่เอามาจัด
หากระทู้ไม่เจอ ใส่ไว้นี่แล้วกัน
https://x.com/Izuru_Yumizuru/status/1832990382319358171?t=MXQRawxm4YIX8hrXcbl3Fw&s=19
มหาเมพ Izuru ตรัส IS เล่ม 13 ที่พวกมึงอยากได้ ฝันเปียกไปก่อนนะ แม่งขายไม่ได้ กูจะเขียนทำไม ซีรี่ยส์ไม่จบ ช่างแม่งเดะ กูไปหาเเงินทางอื่นดีกว่า
ไอ้ที่ไม่เขียนต่อตอนนั้นเพราะอิซึรุมันงอน บก ใช่ั้ย
มีใครได้อ่าน gate ช่วงหลังจากเมะจบไหม อยากรู้มันคุ้มที่จะไปหาอ่านรึเปล่า เล่มแปลไทยมันก็ดูไม่มีต่อ
ทำไมเดี๋ยวนี้อนิเมะดราม่าที่สมจริงๆหน่อยมันไม่ฮิตเหมือนสมัยก่อนแล้ววะ อยากหาดูหาไม่ได้เลย
>>132 ทำงานก็เหนื่อยเครียดจะตายห่าแล้ว ไม่ได้อยากดูเรื่องเครียดๆซ้ำเติมเว้ย อะไรงี้
จริงนะคือกูทำงานเหนื่อยๆงี้ไปเปิดเรื่องที่มีโทนผ่อนคลายมีความฮา มีเลิฟๆ หรือบู๊ๆสู้ๆ แบบไม่ต้องคิดมากนี้หาเวลาอ่าน/ดูง่ายมาก ไม่รวมพวกสนองความสะใจแบบฮาเร็มหรือความซูอีก ส่วนไอ้เนื้อเรื่องหนักๆเนื้อหาดีคือแม่งต้องรอเวลาที่ไม่เหนื่อยมากไม่มีเรื่อฃเครียดอื่นๆแล้วค่อยมาดู
เป็นไปได้ไหมที่Fmaมันดังเป็นอนิเมะอันดับ1อยู่ตอนนี้เป็นเพราะเมะเวอร์ชั่น2003มันทำไว้ดีมากๆสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไว้เยอะ แต่พอบราเทอร์ฮูดมาความอวยในต้นฉบับพลอยทำให้อุปทานหมู่รังเกียจภาค2003กันหมด
กูชอบ 2003 มากกว่าอิอิ
ยิ่งมูฟวี่นี่มึงเอ้ย ตับระเบิดเถิดเทิง แถมทิ้งเมียอีก โคตรน่าส่งสาร
ตำนานไทก้าซอยขายแผ่นจาก13เป็น17แผ่น
ไอเดียดีแต่หลุมพรุนไง เน้นขายเบียวเอดจี้เกิน
FMAB นี่สารภาพว่าดูไม่จบ ชอบภาค 2003 นะ แต่พอมาอ่านมังงะก็ชอบต้นฉบับมังงะมากกว่า
พอรีเมคช่วงแรกทั้งๆที่เป็นช่วงตั้งต้นที่สนุกโคตร แต่แม่งเร่งซะจนเหมือนรีแคป
เข้าใจว่าเพราะมันซ้ำของเดิม(ซึ่งดันอแดปไว้โคตรดี ถ้าไม่นับส่วนออริที่เพิ่มมา) เลยพาลหมดอารมณ์ดูต่อไปเลย
กลายเป็นชอบ Soul Eater ซะมากกว่า เรื่องนั้นฉากแอคชั่นแม่งโคตรมัน เป็นอนิเมจากมังงะที่ชอบสุดของ Bones แล้ว
แต่ตอนจบแม่งสุดจัด เพราะแทบดำเนินเรื่องตามมังงะมาเป๊ะ ตอนจบแม่งเลยเหมือนแทบจะตัดจบ
ไอ้ที่ยิ่งพีคคือพอมาอ่านมังงะถึงได้เห็นว่าแม่งเอาไอเดียมาจากการ์ตูนแถมเขียนเอาฮาท้ายเล่ม
>>142 FMAB มีแต่คนบอกว่าช่วงแรกไปดูของ2003 พอจบช่วงทำตามมังงะก็ค่อยมาดูต่อที่เวอร์รีเมคแทนจะได้อารมณ์กว่า แต่กุสงสัยคาร์ดีไซน์ตัวต้นๆเรื่องมากกว่าว่าทำไมบางตัวถึงออกมาคนละแบบกับมังงะเลยวะ(อย่างโรเซ่งี้) ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่เรื่องที่ทำเมะยุคเก่าๆเป็นกันเกือบหมด สีผมสีตาเพี้ยน ทั้งๆที่นิตยสารก็มีภาพสีลงให้ดูนะ
ดูรุ่นพี่ชุดบันนี่จบ ที่บันนี่แค่ตอนแรก อารมณ์มันเหมือนดูบาเคะที่พระเอกไปเจอเรื่องแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติของสาวๆแล้วเข้าไปช่วยแก้ไข พระเอกมีความกวนตีน+ลามกแบบหงอนถึงจะไม่ได้คล้ายกัน ตัวนางเอกก็ให้อารมณ์คล้ายปูคือเป็นคนสวยและคบกันเป็นแฟน ความนิ่งของนางเอกทำให้พระเอกเป็นแมวเชื่องๆได้เหมือนปูกับหงอน ดีหน่อยที่สาวแว่นนมใหญ่ที่ไปปรึกษาปัญหาบ่อยๆไม่ได้มาแนวน้องแมว เพราะรายนั้นแอบชอบคนอื่นอยู่ไม่ได้แอบชอบพระเอก เสียดายไม่มีอีเวนท์สาวแว่นไปทะเลบ้างเลย พาร์ทเคลียร์ปมน้องสาวเศร้าเหมือนกันนะ อยู่กันมานานวันนึงความทรงจำน้องตัวจริงกลับมา ตัวตนของน้องสาวที่เคยอยู่ดูแลด้วยมานานกลับต้องหายไป
ภาคไหนดีกว่ากันไม่รู้ แต่เพลงเปิดภาค2003แม่งเทพสุดแล้ว
FMA 2003 นี่มันดีหมดนะ แต่มาพังเอาตอนท้ายๆ เพราะด้นสดคิดเรื่องเองนี่ล่ะ
>>150 กูก็ว่ามันด้นสดดีนะ พวกเมะด้นสดยุคนั้นนี่มักจะชอบจบแบบ
1. จบมึนๆ อึนๆ ไม่เคลียร์ เพราะทีมเมะไม่รู้หรือไม่เข้าใจแมสเสจของต้นฉบับก็จะใส่อะไรที่มัน Abstract ไม่ค่อยรู้เรื่องเนียนๆ โปะแผลไปเลย
2. เปลี่ยนให้กลายเป็นเมะโชเน็น สู้ๆ ใช้พลังเน้นๆ กำจัดบอสไปเลย ปมอื่นช่างแม่ง
แขนกล 2003 นี่ถือว่าต่อยอดของเจ๊วัวได้ดีละ (แต่ถ้าแม่งจบแบบไม่มีมูฟวี่นี่น่าจะกลายเป็นจบแบบข้อหนึ่ง 55555) แล้วเหมือนกระแสคนด่านี่เหมือนจะด่ากันเยอะๆ หลังช่วงมันมีรีเมค 2009 ออกมานี่แหละ
ของ2003นี้กูว่าดีเลยละสำหรับเมะที่ครึ่งหลังเป็นออริ ชอบกับการตีความเรื่องโฮมุนครุสที่ต่างจากต้นฉบับ ของต้นฉบับคือสิ่งที่ท่านพ่อสร้าง แต่2003คือผลพ่วงจากคนที่สร้างมนุษย์ ที่สำคัญคือLust บทเยอะกว่าต้นฉบับ
เมะมูฟวึ่จบของ 2003 โคตรดีเลยเถอะ 55555
แขนกล2003 เพลงก็แจ่ม
มีอะไรสู้ ready steady go ได้บ้างอ่ะ ภาค bh น่ะ
ไหนจะกังฟูอีก แถม op โดดน้ำตกโหดเหี้ยๆ
มูฟวี่ก็จบสุดมาก ดูจบกูโคตรอิน + สงสารวินรี่ชิบเป้ง
>>154 2003 มันดีจริงในแง่ออกออริแล้วเข็นจนจบทาง แต่คนเขียนบทแม่มสายโศกนิยมสินะ พล็อตกี่คนๆก็เดินไปสู่bad end ขนาดมูฟวี่ส่งท้าย มันก็ยังจะเชือดคนเพิ่มได้อีก เรือเอ็ดวินรี่ก็แตกยับ สัสเด้ย555555
ส่วน bh ถ้าในแง่บิ้วอารมณ์ยังมีหลายเรื่องสูสี แต่ในแง่ความสมบูรณ์ของพล็อต ในใจกุยังไม่มีเรื่องไหนทำได้เท่านี้เลยอะนะ ไม่ต้องมีภาคแยก ไม่ต้องมีภาคต่อ มันจบได้แบบจบสมบูรณ์จริงๆ
>>157 เอาอะไรมาก็คงสู้ L'arc กับ AKFG ยุคนั้นไม่ได้หรอก Rewrite แม่งเดือดเหี้ยๆ ของ Brotherhood กูว่า OP 1-3 ก็ดีนะ ยิ่งตอนจบมันเปิด OP 2 ซ้ำอีกรอบนี่แม่ง Perfect Timing ดีมาก
>>158 อีกอย่างที่กูชอบภาค 2003 คือมันวาด Expression สีหน้าตัวละครอมทุกข์ดีนี่แหละ 55555 นอกจากวินรี่ทุกคนแม่งขมวดคิ้วเหมือนเป็นซึมเศร้ากันหมด กูเห็นละเครียดแทน
ทำไมมังงะลิขสิทธิ์ไทยชอบพิมพ์ขายแข่งกับอนิเมฉายแบบจ่อรดต้นคอจังวะ เหมือนกะจังหวะฉายตอน12 พอดิบพอดี เสือกพิมพ์จำนวนตอนเท่าอนิเมแล้วแพยาวๆ หรือว่าการตลาดแบบนี้มันเวิร์ค
อยากได้อนิเมะแนวซิมโฟเกีย มีเรื่องไหนแนะนำมั้ยวะ
Yuuki Yuuna
ดองไว้หลายเรื่อง
แฟนเช่า ss2 จบแบบคาซึยะกำลังเริ่มหล่อ เสียดายss3ติดลิขสิทธิ์ที่ครันชี่โรล ไหนบอกจะเพิ่มซับไทยอัพลงหน่อย ได้ยินบทนี้คาซึยะหล่อซะด้วย (ก่อนจะพังยับกับฉากหรรมโด่ในสระน้ำ) ว่าไปถ้าคาซึยะไม่ได้อยู่กับจิซุรุนี่ก็ดีอยู่หรอก อยุ่ด้วยกันแล้วแม่งเพ้อเจ้อคิดมาก อยู่กับซูมินี่คาซึยะมันดูไม่เกร็งที่สุดละมั้งจนซูมินี่แอบหลงเลย
ว่าแต่บิลิบิลิรวบss1+2 เข้าด้วยกันจนหลายคนร้องถาม ss2 5555
UQ Holder ตอนมันฉายใหม่ๆก็ไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไร สมัยก่อนพอจะมีแฟนซับทำก็ไม่ได้ตามโหลดเก็บจนตอนนี้หาโหลดไม่ได้แฟนซับล่มสลายสุดท้ายอยากดูตอนนี้ต้องมาดูซับห่วยจากบิลิบิลิซะงั้น
เรื่องของ เคน อาคามัตสึแม่งรายละเอียดเยอะตัวละครพูดเยอะ ได้งบมาทำแค่12ตอนก็หั่นและดันแปลงซะเพียบ คนไม่ตามเนกิมะมาก่อนดูแล้วงงร้องหาภาคแรกกันใหญ่ ซึ่งถ้าไปตามเฉพาะอนิเมภาคแรกก็ดูไม่รู้เรื่องอยู่ดีเพราะอนิเมแม่งทำไม่เคยจบแถมชอบทำจบเองอีก ไอ้UQ นี่คงไม่มีบุญได้ทำอนิเมอะไรต่ออีกละอีกละคนเขียนก็ไปเล่นการเมืองอีก อะไรที่ดูค้างๆในเนกิมะกับUQคงปล่อยเบลอ ทั้งที่เมื่อก่อนอาจจะออกหนังสือพวกเล่ม 0 ไบเบิ้ล ไกด์บุ๊คอะไรพวกนี้มาเสริมรายละเอียดได้บ้าง
ช่วงนี้เมะเก่าหลายเรื่องได้รีเมค ถ้าเนกิมันรีเมคไม่ไหวก็หยิบเอาUQเล่ม15ที่พวกเนกิไปบุกบอสใหญ่ชนะจนจบแฮปปี้เนกิแต่งกับอีแว่น เอวาสมหวังกับพ่อเนกินั้นมาทำมูวี่ยังได้เลย
นึกขึ้นได้เรื่องนึงแต่ลืมชื่อ
เกี่ยวกับประมาณแปลงร่างๆหน่อยๆ ออกหุ่นยนต์นิดๆ แล้วก็มีฝั่งพระเอกตัวนึงเป็นแต๋วๆแต่เก่งสุดในเรื่อง ราวๆปี2014-16
ขอชื่อเรื่องหน่อยคับ คาใจสุดๆ
ผิดๆ gatcha สิวะ
ดูสลัดคนเพี้ยนที่ไม่รู้สึกว่ามันเพี้ยนไม่ได้กาวอะไร ชื่อเรื่องน่าจะเป็น เป้นนักสืบอยุ่ดีๆได้ลูกสาวจากต่างโลก 55
น้องซาร่าน่ารักดี สงสารสองสาวที่ชอบพระเอกดูแล้วคงแดกแห้วคู่ ฉากพยายามทำอาหารทำช็อคโกแลตน่าสงสารจังวะ พยายามตั้งนานเจอบทตลกแทรกพระเอกรับของจากคนอื่นมาจนเฟ้อ พอสองนางจะให้กลายเป็นพระเอกไม่อยากรับ พระเอกนี่ดูจะไม่สนใจใครเผลอๆน้องซาร่าเปลี่ยนจากลูกสาวเป็นเมียในอนาคต 555
นักรบหญิงนมใหญ่ซื่อๆเป็นโฮมเลส เปิดจินตนากามได้ดีแท้ อยู่แบบโฮมเลสใส่ชุดวอร์มโชว์ร่องอก แก้ผ้าอาบน้ำริมแม่น้ำ ที่ไม่รู้สักวันคงมีคนแอบเห็นนางแก้ผ้า สนิทกับพวกโฮมเลส โดนหัวทองหลอกไปทำงานไม่ดีหลายครั้ง โดนเจ้าลัทธิแสกนร่างกายจนเอาไปปั้นโมเดลสมจริงจัดดันใช้ผมจริงกับขนหมอ ยไปทำโมเดล ไม่รู้สุดท้ายจะเสร็จลุงโฮมเลสที่เป็นนักแต่งนิยาย หรือเสร็จไอ้หัวทอง หรือโดนยูริฉิ่งฉับ
ใช่ๆ เห็นด้วยเลย คู่รักกันชัดๆ ยังไงสลัดคนเพี้ยนนี่ก็เป็นเมะที่ทำมาขายคู่รักยูริทั้งเลยจริงๆด้วย แต่ก็ยังเห็นจะมีคนออกมาเพ้อเจ้อว่าภัยสังคมอะไรกันก็ไม่รู้อยู่ได้แม่งอย่างฮาเลย 5555
คือกูตอบไปตามจริงแต่ไอ้ห่าเรียกโทรลเฉย
>>181 มึงต้องเข้าใจอย่างนึงนะว่าไอ้โทรลตัวนี้เนี่ยชีวิตจริงนอกโม่งแม่งอับเฉาหลวมลูสเซ่อสัสๆ ถึงได้ต้องพยายามเรียกร้องความสนใจในโม่งที่แสนจะไร้ตัวตนเนี่ย เห็นความพยายามโทรลของมันที่เสินเล่าให้ฟังตอนส่งแบนแล้วกูอยากจะบอกโม่งที่อ้างว่ารู้เฟสพ่อแม่มันเลย ว่าช่วยไปกระซิบบอกแม่มันให้พามันไปพบจิตแพทย์หน่อยเหอะ อาการหนักแบบใช้ชีวิตนอกโม่งยังยากแล้วนะนั่น
พึ่งเห็น yorimoi ลง anione แล้วแฮะ ในที่สุดกูก็มีช่องทางไว้เอาไปเผยแพร่ให้ชาวบ้านซักที ก่อนหน้านี้หาดูยากชิบหาย ซับในบิลิก็ machine translate
ขอรีวิวเรื่อง Kakushigoto หน่อย
กูชอบเรื่องอาจารย์สิ้นหวังของนักเขียนคนนี้มาก
แล้วกูเพิ่งเห็นว่าเรื่องนี้คนเขียนคนเดียวกัน
อยากรู้ว่ามันสนุกรึเปล่าวะ
แทบจะคนละแนวกับเรื่องสิ้นหวังอ่ะนะ แต่ก็มีกลิ่นๆอยู่นิดหน่อยอ่ะนะ รวมๆก็โอเคอยู่ สำหรับกุคือดูได้ไม่เสียดายเวลา
ดู Golden Kamuy จบไป2ss ss2นี่แม่มตัวโรคจิตเยอะดี ไหนจะมุกตลกอีก ท่านพลโทซึรุมินี่เนื้อหอมสำหรับพวกโรคจิตดีชิหาย555 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าแดกเนื้อนากท่ามกลางหนุ่มๆไม่งั้นคุณอาจจะต้องเล่นซูโม 555
กูเพิ่งดู migi to dali จบมา กูสงสัยว่าฟักทองหล่นใส่หัวถึงตายเลยเรอะ กับบาแก็ตนี่แข็งพอเอามาตีหัวแทนไม้เลยเรอะ หรือว่ามันเป็นแนวตลกถึงวางเนื้อหาแบบนี้
ได้ลองดู GGO ภาคหลักอีกครั้งแล้วยังไงก็คิดว่าเขียนบทมาดีกว่าภาค Alternative เยอะเลย ครบเครื่องเรื่องดราม่า ปริศนา ซีนบู๊ โรแมนซ์ ไปจนถึงปรัชญาไซไฟ
Alternative มันอุงก้าบุงก้าเอาหัวชนแทบทุกการต่อสู้เลยช่วงหลัง นางเอกก็อิมบ้ากว่าคิริโตะเยอะ ขี้โกงแบบไม่มีอะไรเป็นพื้นฐานเลย
คิริโตะนี่บทรองรับความยูนีคมาดีมาก ใช้ชีวิตอยู่ในเดธเกมมาสองปีจนประสาทสัมผัสในโลกเวอร์ชวลเฉียบแหลมกว่าคนทั่วไปใน VRMMO มาก (ในขณะที่คนอื่น ๆ แค่เล่น "เกม" พวกในไอน์คราดเปิดโหมดเซอไววัลที่พลาดก็เท่ากับตายกันมาตลอด แล้วคิริโตะคือผู้เล่นที่ประสาทสัมผัสเฉียบคมที่สุดในโลกนั้นอีก)
ซึ่งมันก็ไม่ได้เก่งขนาดปัดกระสุนได้เลยด้วยซ้ำ ที่ทำได้ก็เพราะ prediction line นี่ ที่ทำให้กะจังหวะฟันได้เหมือนเล่นบีทเซเบอร์อะ (ย้ำว่าภาคนี้เขียนก่อนมีบีทเซเบอร์มาหลายปี จารย์แกถือว่าก่อนกาลมากเลยนะ)
แม้มันจะทำยากจนคนทั่วไปเลียนแบบไม่ได้อยู่ดีก็ตาม แต่คิริโตะมันก็มีพื้นฐานพวกนี้มาเป็นเหตุผลรองรับจริง ๆ ถึงทำได้ มีแต้มต่อตรงที่เซนส์เกมมันดีอีก วิชาฟันดาบนี่เอาจริง ๆ มันสู้น้องสาวตัวเองกับอาสึนะไม่ได้ด้วยซ้ำ ขึ้นภาคโรซาริโอยังแพ้ผู้ป่วย HIV ระยะสุดท้าย 55
นี่อยากให้คนที่เคยดูถูก SAO สมัยก่อนได้กลับไปลองเปิดใจดู/อ่านใหม่ตอนโตมากเลยนะ แล้วจะเห็นได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ก่อนกาลจริงจัง อะไรหลายอย่างมันล้ำและเขียนคาดเดาโลกในอนาคตได้ดีในระดับนึงเลย
เห็นฉากหีตะโกนเรียกไอ้โตะตอนที่มันพึ่งฟื้นแล้วแอคหีโชว์พาวแล้วยังต้องหาเหตุผลไรอีกวะ
ไอ้ภาคไอน์แครดมันยังพอโอเค
พอภาคหลังๆ โอนสแตทเทพซ่าไปลงเกมไหนก็ได้ ใช้พลังเทพทรูโชว์พาวแบบไม่ต้องฝึกอะไรแล้ว ก็กลายเป็น ORETUEE ดาดๆ ไป
ไอ้บอสสองตัวในภาคอลิเซชั่นไง คอนเวิร์สตัวละครลงมาแป๊บเดียวเก่งเวอร์ชิหายกว่าจะปราบได้แม่งได้ ไอ้พวกบอสจากเกมยังดูปราบไม่ลำบากเท่าพวกนี้เลย
https://www.youtube.com/watch?v=AkyAIx7Jd28
20 ปีแล้วหรือเนี่ย โม่งคงทันหลายคน
>>197 GGO ตอนกูอ่านกูยังงงเลยว่าตกลงมันเป็นเกมประเภทไหนกันแน่ มีการอัพสเตท+ล่ามอนหาดรอป (Destiny?) แต่ดันมี competitive scene ที่สเตทกับเกียร์มีผล??? แล้วตัวร้ายก็ดันเบียวแตกเพราะเหตุผลโง่ๆอย่าง Dev เนิร์ฟbuild (คือมึงเป็นtop playerแล้วไม่ได้ปั้นตัวละครสายอื่นไว้เผื่อเลย? แล้วเกมมึงก็ไม่มีไอเท็มรีเต็ท??) พอซิกุซาว่าเอามาเขียนใหม่เลยปรับเป็น pubg ซะ จบปัญหา
gun gal นี่เชี้ยไรยิงอกไม่เข้า เอาปืนมารับกระสุน กุดูถึงตรงนั้นกุดรอปเลย
ggoนี่ทำกูหยุดซื้อเรื่องนี้เลยนะ เกมปืน เทพซ่าควงดาบปัดกระสุนไต่แรงค์ โอเคมึงพยายามจะให้มันเป็นซอร์ดอาร์ตมากเกินไปละ 555555 เป็นภาคที่รู้สึกฝืนไปหมด อยากเขียนปืนมึงเขียนแยกภาคแบบไม่มีไอ้โตะเถอะ 555555
>>204 ที่ยิงอกไม่เข้ามันมีเหตุผลของมันอยู่
เพราะในกระเป๋าเสื้อมีอุปกรณ์ดูแสกนดาวเทียมใส่ไว้
ซึ่งไอ้อุปกรณ์นี่มันเป็น immortal object แบบเดียวกับศพผู้เล่นนั่นแหละ ก็เลยกันกระสุนได้ด้วย
Dev คงคิดไม่ถึงละมั้ง ตอนหลังก็เลยปรับให้เป็น immortal object แบบยิงทะลุได้แทน
ส่วนที่เอา P90 มากันกระสุน คงพูดได้แค่เพราะมันเป็นเกมนั่นแหละ
ปืนมันมีค่าความทนทานอยู่แถมอวตาร์เลนน์ก็ตัวเล็ก ทำให้ตัวปืนมันบังร่างส่วนใหญ่ของนางได้
ภาคไอ้โตะไว้ดูง่ามหีกับนมสุกุฮะพละ
มาโยนากะพั้นช์ของซีที่แล้วดูๆไปก็เป็นเรื่องฮาๆปั่นๆธรรมดาแต่ตอนท้ายแม่งทำดีสนุกจัดเลย เสียดายแค่ยูกิได้เข้าช่องแค่แปปเดียวจบละ
ดูโกลเด้นคามุยจบ ss3 พระเอกนางเอกที่ไม่ได้เจอกันมานาน พอเจอกันยังไม่ได้ซึ้งอะไรเจอฉากตลกเยี่ยวรดหน้าไอ้สัส5555
ต้องไปตามดูss4ที่ไพร์มต่อ ไอ้ตอนสมัครไว้ก็กวนตีนดูss1ไม่ได้ไม่รู้ว่าบิลิมี ไม่มีเรื่องอะไรจะดูที่ไพร์มแล้วด้วย
ดองไว้ก่อนละกันไว้มีอะไรจะดูเยอะแยะค่อยไปสมัครใหม่
ไอ้วลีที่ชิโร่พูดว่า คนตายเมื่อถูกฆ่า กูนึกว่าซับแปลผิด แต่ในเวปฝรั่งดูเหมือนไอ้ชิโร่จะพูดแบบนี้จริงๆ พอดีไม่ได้ดูเรื่องนี้นะ แต่ต้องบริบทไหนวะ ถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมา หรือว่าตรรกะในเรื่องคือมันมีคามเชื่อของกลุ่มลัทธิว่าถูกฆ่าแล้วไม่ตาย
https://theafictionado.wordpress.com/wp-content/uploads/2013/12/peopledie.jpg
เพิ่งดูนางเอกนกเพราะลง Netflix
จบซีแรกนี่มันดูเทหนักไปทางโคฮารุแฮะ นกฟ้าแม่งดูเป็นเพื่อนมากกว่า แถมมีออกแนวเชียร์โคฮารุอีก
นกฟ้า เลมอนนี่ยังมีหนุ่มมาจีบอยู่ แต่โคฮารุนี่ดูตัวคนเดียว(แถมขี้เหงาซะอีก)
>>215 ตาม >>216 ว่า ตอนต้นเกม รินมันจะบอกชิโร่ว่าคนโดนฆ่าตายไปใช้เวทฟื้นไม่ได้นะ แต่ชิโร่ฟื้นจากโดนเบอเซอเกอร์หวดจนพุงโบ๋ได้ แปลว่าเซเบอร์ที่ทำสัญญาด้วยต้องมีของ
ตอนหลังถึงได้รู้ว่ามีของวิเศษชื่ออวาลอนยัดในตัวทำให้ฟื้นฟูบาดแผลได้ ตอนหลังชิโร่เอาอวาลอนออกจากตัวให้เซเบอร์ไปใช้เพราะจำเป็นกว่า มันก็บอกขึ้นมาต่อจากนี้คนตายเมื่อถูกฆ่า อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งหมายถึงมันเอง เหมือนเตือนสติให้คิดว่าจะไปลุยครั้งนี้รักษาบาดแผลไม่ได้แล้วนะ
My Wife Has No Emotion ลง Netflix ว่ะ
เห็นโม่งเคยบอกว่าเป็นโชบิทดวอร์ชั่นรอมคอม เลยอยากดู
ในที่สุดก็มีซับไทยให้ดูซักที
กันดั้มเรเควี่ยมในเนตฟลิก กูสงสัยกลไกของดาบ-ขวานแซค ที่สามารถบล๊อคดาบแสงที่ฟันแซคขาดเป็นเต้าหู้ได้ไงวะ
แล้วดาบแสงมันเล่นมุกปิด-เปิดดาบฟันเพื่อไม่ให้บล๊อคได้แบบสตาร์วอร์ไม่ได้เรอะ
พึ่งดูจบก่อนออกจาก netfilx อนิเม made in abyss นี่อย่างดี ทำไมตอนฉายแรกๆตูไม่ดูฟะ 55555
ดองไว้นานเหมือนกันขนาดรู้ว่าจะถอดก็เจือกไม่รีบดู มาปั่นตั้งแต่ตอนแรกสุดซะวันสุดท้ายช่วงบ่ายสามกว่าๆไปถึงตอน7ของss2 ยังดีไปสานต่อได้จากบิลิ กลางวันค่อยต่อที่เหลืออีกทีวันนี้มาราธอนซะยาว นานแค่ไหนแล้วนะไม่ดูดูเมะต่อเนื่อง20+แบบนี้
ดูต่อจนจบละ แม่งเอามิตตี้มาขยี้อีกรอบถึงรอบ2จะไม่เท่ารอบแรกก็เถอะ แล้วเจอเนื้อเรื่องของอิรุมิวอิเข้าไปแม่งหนักกว่ามิตตี้อีก มันตัดเอาเนื้อเรื่องส่วนนึงไปทำหนังโรงซินะเห็นมีอยู่3ตัว หาดูได้ที่ไหนเนี้ยลองเช็คฮาเรชิก็ไม่บอกว่าลงไว้ที่ไหน
มิงกี้โมโม่แบบถูกลิขสิทธิ์
https://youtube.com/@ashipro1224?si=2DjFvi7KCmZufTRC
ช่วงนี้เพจและช่องเติมโตขึ้นไปมากเลยครับ เลยถือโอกาสแนะนำซีรีย์ที่ผมรักที่สุด ที่เป็นที่มาของชื่อเพจนี้สักหน่อยว่า ทำไมมอนไดจิ ถึงเป็นอนิเมะ ไลท์โนเวลที่แตกต่างและมีจุดเด่นแตกต่างจาก "ต่างโลก" โดยทั่วไป สำหรับผมที่สัมผัสแนวต่างโลกมาอยู่พักใหญ่ๆช่วงมัน Fever ครับ
จุดเด่นหลักๆ 5 อย่างที่ผมคิดว่ามันคือจุดขายของมอนไดจิ ตัวป่วนชั้นเซียนมาตบเกรียนถึงต่างโลก นอกจากจุดขายของพระเอกที่เทพซ่าส์ เดินทางไปต่างโลกแล้ว จุดเด่นต่างๆที่ทำให้ผมหลงรักเรื่องนี้ และมันเป็นเสน่ห์ที่เป็นจุดขายของเรื่องนี้คือ
//แตกต่างอย่างมีชั้นเชิง//
1.พระเอกที่โครตเก่ง แต่โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง
ซาคามากิ อิซาโยอิ คือพระเอกที่เก่งเทพมากๆ เรียกว่าใครได้อ่านนิยาย หรือ ดูอนิเมะก็ตาม คงจะตกใจกับความเทพซ่าส์พี่แกที่มีของ อัดศัตรูปลิวเป็นใบไม้ร่วงกันเลยทีเดียว ซึ่งมันเป็นปกติของแนวพระเอกเทพในต่างโลกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ทำให้เหนือไปอีกด้วยการที่
"เจอระดับบอส แต่ก็ยังต่อยทีเดียวปิดฉากได้"
นั่นคือช่วงที่ได้เจอกับบอสช่วงแรกของเรื่องครับ ซึ่งใครๆก็คิดว่ามันตึงมือแล้วแน่ๆ เอ็งเจอของจริงแน่อิซาโยอิ แต่สิ่งที่เรื่องนี้นำเสนอคือพี่แกก็ยังเก่งเวอร์ชนะจอมมารได้อย่างสบายๆอยู่ดีๆ (ซึ่งมาเฉลยทีหลังว่าจอมมารโดนเนิฟไปมากแล้ว)
โดยที่พอมันเป็นแบบนี้ ใครเบื่อแนวพระเอกเทพอาจจะเบือนหน้าหนีไปเลย เพราะเดาพลอตได้ใช่ไหมครับว่า ไอ้พระเอกเทพแบบนี้ เวลาสาวๆมีปัญหา เดี๋ยวพี่ก็ก็เคลียร์ให้ แต่เปล่าเลยครับ พระเอกเรื่องนี้
"โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง"
เพราะพี่แกจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง ในสถานการณ์ต่างๆเกินควร และต่อให้เก่งขนาดไหน มันก็ยังมีจุดเด่นที่ทำให้เรื่องนี้แตกต่าง ที่ทำให้มันคือจุดขายที่ไม่เหมือนใครและเป็นความ "แตกต่างที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้" ดังข้อที่สองครับ
2. กฎของกิฟท์เกม ที่ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ต้องทำตามกติกา
โลกของเรื่องนี้ มีโลกทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับเกมครับ เราเรียกมันว่า "กิฟท์เกม" ซึ่งมันทำให้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนี้นั้นจะมีการต่อสู้ด้วยเกมเป็นเดิมพัน หากทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วย ก็ไม่สามารถเริ่มเกมได้ และ ต่อให้เป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งระดับไหนก็ต้องทำตามกฎของเกม
ตัวอย่างที่เราเห็นได้ง่ายๆคือมีตัวตนระดับที่ หากอ้างอิงจากนิยายเล่มล่าสุดที่ Last Embryo 8 นั่น นี่คือตัวตนที่เก่งที่สุดของเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ด้วยกฎของกิฟท์เกมที่มาชนะทางเธอ ทำให้ตัวเธอนั้นต่อให้จะแข็งแกร่งขนาดไหน ในอนิเมะช่วงท้ายของซีซั่น 1 นั้น เราก็จะเห็นว่าเธอไม่สามารถทลายกรงขังนั้นออกมาได้
นั่นแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าใครก็ต้องอยู่ในกฎของเกม เล่นนอกเกมไม่ได้ เพราะกิฟท์เกมคือกฎสูงสุดในเรื่องนี้ และมันคือเอกลักษณ์ของเรื่องนี้เลยหละครับเพราะว่าเรานั้นต้อง
"ใช้ทั้ง พลัง ความกล้าหาญ และปัญญา ในการพิชิตเกมและบททดสอบต่างๆ"
กล่าวคือคุณจะเก่งขนาดไหน ไม่สำคัญ หากคุณมาอยู่ในเกมนั้น คุณก็ต้องเล่นกติกาเดียวกับเกม ทำให้มันคือการบังคับให้พระเอกอย่างอิซาโยอิ ไม่สามารถแสดงความเทพของตัวเองออกมาได้ซึ่งต้องใช้ทั้งพลัง ความกล้าหาญ และความรู้ ความเข้าใจต่างๆ ในการต่อสู้ในแต่ละครั้ง มีแต่บู๊อย่างเดียวไม่ได้ต้องบุ๋นด้วย ทำให้มันมีเสน่ห์ในการต่อสู้ของกิฟท์เกมแต่ละครั้งมาก และมันเลยกลายเป็นตัวละครอื่นมีบทบาทกันไม่มีใครด้อยไปกว่าใครอันเป็นเอกลักษณ์ที่สามของเรื่องนี้
3. การกระจายบทที่ชัดเจน ไม่มีใครเด่นไปกว่าใคร
นี่คือหนึ่งในจุดขายที่ทำได้ยากๆของหลายๆเรื่อง ที่มีตัวละครเยอะครับ ยิ่งมีตัวละครเยอะเท่าไหร่ การกระจายบทยิ่งยากเท่านั้น ปกติมันจะเน้นไปที่พระเอก กับสาวๆแต่ละคน มีโมเม้นหวานชื่น หลังช่วยเสร็จ แต่เรื่องนี้ไม่ เรื่องนี้นั้น แบ่งบทตัวละคร ทั้งโมเม้นต์ ความรัก ความสัมพันธ์ต่างๆ อย่างลงตัว และไม่มีใครเกินหน้าใคร
ฉากสู้ของสองนางเอกที่มากับอิซาโยอินั้น ต่างมีบทบาทที่สำคัญ จากเด็กสาวอ่อนแอ ที่เข้ามาในโลกของทวยเทพ ก็ค่อยๆพัฒนาขึ้น ไล่ตามอิซาโยอิ มายืนเคียงข้างเพื่อร่วมสู้กับเขาได้
การกระจายบทต่างๆ ในฉากสู้นั้น แต่ละคนจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทำให้การรับมือศัตรูนั้นจะต้องใช้ความถนัดของแต่ละคนในการเข้าสู่ ซึ่งแม้หลังๆจะเจอพวกตึงมือมากๆ แต่อีกเอกลักษณ์ที่เรื่องนี้ทำได้ดีก็คือ จุดเด่นที่สี่ของเรื่องนี้
4. การคุมสเกลที่มีชั้นเชิง บทบรรยายการต่อสู้ที่ทำให้เห็นภาพ
ศัตรูของเรื่องนี้จะเริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ตามโลกทัศน์ของสวนกล่อง ที่ถูกเซ็ตไว้ด้วย ประตูที่เรียกว่า "หลัก" หลักของตัวประตูนั้นจะเริ่มที่ 7 หลักไปจนถึง 1 หลัก ซึ่งอิซาโยอินั้นจะเป็นคนที่ฝีมืออยู่ระดับกลางๆของโลกสวนกล่องแล้วตั้งแต่เข้ามาแล้ว ทำให้ไม่แปลกเลยที่เขานั้นจะชนะศัตรูในช่วงแรกๆได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งสเกลของศัตรูจะค่อยๆพัฒนาขึ้นไปเมื่อพวกอิซาโยอิต้องไปเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น ตามสไตล์เรื่องราวแนวต่างโลกนั่นหละครับ แต่สิ่งที่ทำได้ดีมากๆคือการคุมสเกลของตัวละครและการอัพระดับพลังที่ไม่รู้สึกว่ามันไม่ได้คิดมาก่อน
ปกติเวลาคนเขียนตันเนื้อเรื่อง เพราะสร้างตัวละครเก่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งโค่นก็ยิ่งเก่งเรื่อยๆนั้น การคุมสเกลจะเริ่มพัง เพราะแบบไม่ได้คิดไว้ก่อน ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่เรื่องนี้ใช้กิฟท์เกม และ ชั้นเชิงการนำเสนอเกี่ยวกับ ลำดับประตูมาเป็นตัวทำให้สิ่งนั้นถูกคุมสเกลได้อย่างดีครับ
ทุกการปรากฎตัวของศัตรูที่ออกมานั้น จะมีการเพิ่มระดับสเกลที่เรารับได้ คือมันเก่ง แต่มันก็คือเก่งแบบมีเหตุผล และบทบรรยายในการต่อสู้ของเรื่องนี้บอกได้เลยว่า ถ้าอ่านไปจินตนาการตามไปนี่คุณเห็นภาพแน่นอน เพราะคนเขียนอย่างอาจารย์ทัตสึโนโกะ ทาโร่นั้นจบจาก มัธยมปลายที่เกี่ยวกับสาขาการต่อสู้ครับ
ฉะนั้นเขาคืออาจารย์ที่รู้จักการต่อสู้อยู่แล้ว (แล้วมาเป็นนักเขียนำทำไม 5555) เลยสามารถเขียนฉากสู้ของเรื่องนี้ได้สนุกมาก เมื่อเหล่าตัวละครระดับสูงเข้าปะทะกัน และมันมีถึงขั้น ฉากที่แบบ อ่านไปขนลุกไปเมื่ออิซาโยอิต้องเผชิญกับกำแพงจริงๆ ที่โหดหินยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่หลายๆคนยกให้ช่วงนั้นคือช่วงที่มอนไดจิพีคที่สุดและกลายเป็นที่กล่าวขานในวงกว้างสำหรับศึกนั้นเลยหละครับ
และมันนำไปสู่จุดเด่นสุดท้ายที่เรียกว่าเป็น คอร์หลักที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผมติดตามเรื่องนี้และทำเพจมอนไดจิขึ้นมาเลยครับนั่นคือ
5. ปริศนาที่วางไว้อย่างแยบยล และเชื่อมโยงกับตำนานต่างๆได้ลงตัว
มอนไดจิคือนิยายที่ผมกล้าพูดเลยว่า หากคุณลิสต์ข้อสงสัย หรือคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบนั้น หรือยังรอการเฉลยนั้น มันเกิน 20 คำถามแน่ๆครับ เพราะคนเขียนนั้นฉลาดในการเล่าเรื่องมาก
บางสิ่งที่คุณคิดว่ามันไม่มีประเด็น อ่านผ่านๆไป เมื่อคุณอ่านไปถึงบางช่วงที่เรื่องมันเฉลยข้อมูลบางอย่างออกมาแล้ว และคุณกลับไปหยิบสิ่งที่คุณอ่านข้ามหรือไม่เข้าใจในตอนแรกอีกครั้ง มันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า
"การเชื่อมโยงและคำถามใหม่"
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมสนุกมาก ที่ต้องไล่คิดตามคนเขียนว่า ตาทัตแกวางอะไรไว้ และแกวางไว้ไกลแค่ไหน เสน่ห์อย่างถึงที่สุดของมันเลยคือ เมื่อคุณอ่านไปถึงภาคสอง มันจะมีบางสิ่งที่แกวางไว้ถึงในตอนแรกตั้งแต่เขียนมา และนับถัดไปอีก 7 ปี ถึงจะเฉลย และเป็นการเฉลยที่
"โครตลงตัวแบบลงตัวมากๆ"
ชนิดว่าหาก คิดไปเขียนไปไม่มีทางทำได้เลยครับ เพราะมันจะขัดกันไปหมด แต่อันนี้ไม่มีรอยต่อตรงนั้นเลย ทำให้การเชื่อมโยงเรื่องนี้นั้น โยงกันยุ่งเหยิงไปหมดจนผมต้องมาทำเพจ เพราะมันละเอียดและมีอะไรให้คุยกันเยอะมาก ออกมาเล่มเดียว แต่คุยกันได้เป็น 100 โพสยังได้เลย เพราะเรื่องนี้มันมีปริศนาที่น่าติดตามและคนเขียนวางพลอตไว้ไกล และคุมได้ดีมาก
ซึ่งไอ้ความลับ ปริศนาพวกนี้หละที่มันจะไปโยงกับ ตำนานของทวยเทพ กิฟท์เกมต่างๆที่เป็นจุดเด่นนั้น จะถูกเล่าผ่านตำนานเรื่องเล่าที่เรารู้จักกันดี แต่ถูกปรับแต่ง เสริมใหม่ให้เข้ากับบริบทของเรื่อง การจะไขปริศนาบางอย่างต้องใช้ความรู้จากตำนาน ซึ่งสิ่งที่ผมเขียนไว้ว่าแกวางไว้ 7 ปีนั้น มันมีบางตำนานที่โยงกับสิ่งนั้นด้วยครับ และแบบผมขนลุกมากว่า แกคิดไว้ถึง 7 ปีเลยเนี่ยนะ จะ Just The Plan เกินไปแล้วตาทัต!!!
//ต่างโลกที่แตกต่างและมีชั้นเชิงอย่างถึงที่สุด//
และนั่นคือมอนไดจิ เรื่องที่ผมรักที่สุดอันเป็นที่มาของเพจนี้ครับ มันคือนิยายที่มีความเป็นต่างโลก ที่อิงกับตำนานต่างๆสูงมาก มีการคุมสเกลตัวละคร แบ่งบทตัวละครที่ชัดเจน พอถึงจุดบิ๊วก็บิ๊วได้ดีมาก จุดที่วางไว้ให้เราสงสัยเมื่อเฉลยมันก็พีคมาก พีคจนบางทีขนาดรู้สปอยไปแล้ว กลับมานั่งอ่านอีกครั้งก็ยังพีค เพราะคนเขียนเขาบรรยายความรู้สึก ฉากสู้ และความลับต่างๆได้ดีมากจริงๆ
มันไม่แปลกเลยครับที่มอนไดจิจะเป็นเสาหลักของ นิยายต่างโลกของ Kadokawa Sneaker Bunko ด้วยยอดขาย 3 ล้านเล่ม ซึ่งตอนนี้น่าจะ 4 ล้านเล่มไปแล้ว และเป็นอีกเรื่องที่หากมีอนิเมะต่อและได้ทำไปถึงช่วงเล่มหลังๆนั้น เรื่องนี้จะต้องดังและมีผู้คนมากมายให้ความสนใจไม่แพ้ต่างโลกเสาหลักในยุคนี้แน่นอนครับ
แล้วคุณหละ? ถ้าอ่านมอนไดจิ คุณคิดว่าอะไรคือเอกลักษณ์ที่ทำให้มอนไดจิ แตกต่างจากต่างโลกอื่นๆ คิดเห็นยังไงก็มาเล่าให้ผมฟังได้นะครับ
ไอเหีัย เพิ่งไดดูโลกนี้ โลกหน้า ข้าก็พระเจ้า
ความประทับใจแรกคือ นี่มันงานเผามืออาชีพชัดๆ โคตรเหี้ยเลย (ชม)
แม่งขนเทคนิคงานเผามาแทบจะทุกประเภท
ทั้งแช่ภาพนิ่ง เลื่อนภาพแบบสไลด์โชว์ ซูมเข้าซูมออกให้ดูเหมือนภาพขยับ รียูสซีนซ้ำเปลี่ยนแค่บทพูด
cg มอนส์เตอร์ก็โคตรกะหลั่ว (แต่กูฮา)
แต่ที่หนักสุดคือ มันถ่ายฟุตเทจรถแทรคเตอร์ของจริงมาแล้วแปะหน้าตัวละครทับลงไปว้อย
ไอ้สัส เจออันนี้เข้าไปกูหัวเราะลั่นห้องเลย
ฉากที่รายละเอียดเยอะๆ ก็ใช้ภาพพิกเซลแบบเกมสมัยก่อนแทนการวาดมือซะเลย เช่น ฉากซ่อมแชมเมือง
หรือฉากฝูงมอนส์เตอร์ก็ใช้สไปรต์แบบเกม rpg ถมให้เต็มหน้าจอเอา
เนื้อเรื่องก็น่าสนใจดีแต่กูบันเทิงกับการดูงานเผาของแม่งมากกว่าว่ะ
>>236 เอกลักษณ์เรื่องนี้คือคนเขียนเทซีรีย์ตัวเอง เทแฟนคลับตัวเอง เทตัวตนเก่าทุกอย่างในเน็ต เพื่อที่จะไปเป็นนักเขียนในจั้ม
เพจมอนไดก็ต้องกัดฟัน เปลี่ยนแนวทางเพจไปแปลเรื่องอื่นแทนเพราะรับไม่ได้กับการตัดสินใจแก แต่บอกยอมรับในการตัดสินใจแก้เขินไปงั้นและ จริงๆโกรธจารย์คนแต่งตายห่า
ทิ้งซีรีย์ตัวเองครวยคา hee ไม่เยิบให้เสร็จๆไป
ไม่ใช่แบบ กลัวจะเขียนจบออกมากากเหมือนซีรีย์ปัจุบัญช่วงนี้อะ แม่งไม่ทำครวยอะไรเลย
ทิ้งซีรีย์ที่ตัวเองสร้างกะมือ ละไปทำกิจการ ไปทำตามความฝันหีแตตอะไรไม่รู้แม่ง
ถ้าพวกแม่งทำแบบคนแต่ง AoT
ที่เขียนเรื่องจบกุไปทำธุรกิจออนเซ็น บ่อแช่น้ำพุ
เออกุไม่บ่นหรอก เพราะถือว่าแกทำภารกิจลุล่วงแล้ว ถึงซีรีย์มันจะจบ Mid จนถึงเข้าขั้นกากก้เหอะ
เห็น black clover หนังโรงโผล่มาให้เห็นพวกแนะนำหนังจาก netflix กดเข้าไปดูเล่นๆกลายเป็นดูยันจบเรื่องทั้งที่ดูเมะแค่ตอนอัสต้าเพิ่งเข้าหน่วยกระทิงดำกับโนแอลยังเป็นคุณหนูเชิดๆคุมพลังไม่ได้ มังงะก็เพิ่งมาตามอ่านตอนมีแปลไทยที่แม่งก็ปลายเรื่องอยู่ละ
หนังโรงมันทำภาพสวยดีนะ บอสเป็นพวกอดีตจักรพรรดิเวทมนตร์แล้วเก่งกันทั้งนั้นเลย ดูจบเลยมีไฟไปดูแบบทีวีต่อละ เมะมี170ตอนต้องฟังอัสตาแหกปากไปเป็นร้อยตอนเลย เอาวะเพื่อมิโมซ่ากับโนแอลและซิสเตอร์ลิลลี่ ว่าแต่ผกกเมะกับคนเขียนมันนึกไงให้อัสตาเวลาพูดปกติแม่งยังต้องตะเบ็งเสียงตลอดคนพากย์แม่งก็เข้าถึงตัวละครอัสต้าดีจริงๆ ชม
ทำไม พอคนดูเรื่องที่เห็นตัวเอกชอบทำตัวเหลี่ยมๆ โชว์ฉลาดแบบขั้นเทพ เป้นจอมบงการในเมะ แบบอายาโนะโคจิ พวกคุถึงอยากเล่นเป้นคนฉลาดตามบ้าง
>>243 ถ้ามึงจะดู Black Clover อนิเมะ กุขอเตือนว่าพอดูถึงช่วงราวๆ 115-120 มึง skip ไปดูตอน 140 เริ่มภาคทวิปปีศาจได้เลย
ที่เหลือแม่งตอน Filter ขยะๆครึ่งเรื่อง เสียเวลาดูมาก
เกไม่พอ บทแม่งเนิร์ฟสมองจักรพรรติเวทมนตร์ทุกตัว ทำห่าอะไรกับพวกก่อกบฏที่แทบไม่มีเวทมนต์ หรือมีแต่เวทกากๆทั้งนั้นเลย
black cover ed กุชอบเพลง new page ว่ะ
>>243 เรื่องตะเบ็งเสียงนี่เหมือนจะเป็นแค่ตอนแรกๆ นะ กูก็รำคาญฉิบหาย พอสัก 10 กว่าตอนก็ไม่ค่อยทำเสียงตะเบ็งละ(แต่แหกปากเหมือนเดิม)
แล้วมึงอย่าโดนมูฟวี่หลอกเรื่องคุณภาพล่ะ ซีรีส์นี่ยังไงมันก็งานรายสัปดาห์อะ อย่าไปคาดหวังเยอะ (แต่ไอ้ซีนเทพๆ นี่แม่งก็ดีสัตว์ๆ ไปเลย) กับเพลง Haruka Mirai (เพลง OP แรก)นี่เพลงชาติเรื่องนี้เลย ฟังครั้งแรกแม่งก็ J-rock ดาดๆ ทั่วไป แต่พอเอามาใช้ในเรื่องแม่งกลายเป็นขาดไม่ได้เลย 555555
ไอ้ตอนที่ไปช่วยมารีน้องไอ้ซิสค่อมถูกจับไป นึกว่าจะแค่อีเวนท์สั้นๆแค่ทำมาเชื่อมความสัมพันธ์ให้อัสต้าแต่แม่งซัดกับพวกระดับโครตบอสกันหลายตัวเลย ถ้าไม่ยัดตลกแทรกบ่อยระหว่างสู้กันเครียดๆน่าจะดีกว่านี้
ดู black clover จบss1ละ (51ตอน) เท่ากับว่าดูไปได้ 1/3 ของเมะที่มีตอนนี้ ทึ่งตัวเองเหมือนกันดูอะไรเยอะหลายตอนได้ภายใน2-3วันอาจเพราะตอนน้ำไม่ค่อยมีด้วยละมั้งเลยดูได้ไหลลื่น ลงไปวิหารน้ำแม่งซัดบอสสนุกดีหน่วยกระทิงมีบทกันทุกคน สงสารก็แต่กอร์ดอนโดนทิ้งเฝ้าบ้าน555 พักสักหน่อยเดี๋ยวค่อยต่อ ss2ต่อลุยกันยาวอีก50ตอน
>>253 ถ้ามึงซัด 51 ตอนแรกจบใน 3 วันได้นี่ที่เหลือคงไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วมั้ง เพราะกูว่าช่วงก่อนลงวิหารใต้สมุทรนี่แทบจะใช้คำว่าน่าเบื่อได้เลย
ถ้าจำไม่ผิดหลังจากนี้จะมีบทออริฟิลเลอร์คั่นเล็กๆ หน่อยนึง จะย้อนไปว่าทำไมอัสต้าใช้ดาบเก่ง เพราะเจออาจารย์หัวแดงมาช่วยสอน ในมังงะไม่มีตรงนี้จะข้ามก็ได้ แต่พอไปอีกภาคนึงที่ไปป่าแม่มด(ในมังงะมีบทนี้) ไอ้อาจารย์นี่จะมีบทเข้ามาอยู่ในตี้ด้วยซะงั้น แต่ไม่ได้มีผลกระทบกับเรื่องขนาดนั้นหรอก
ฟรานเซลกับเมียอยู่ในนิยาย ブラッククローバー 暴牛の書
ดูจบบทแม่มด พอรักษาแขนหายช่วงแรกที่ศัตรูมาบุกอัสต้าแม่งอวดดียังไงไม่รู้ ไอ้แทรกบทตลกระหว่างกำลังสู้เครียดอยากให้ลดๆลงบ้างโดยมากก็ตอนอัสต้าอยู่ในฉากด้วยนี่แหละ ตอนใช้พลังปิศาจฉากสู้โครตน่าเบื่อแบบครับๆฉากอลังการ(แต่ไม่สวย)แล้วเมื่อไรจะเผด็จศึกไอ้ตัวดูดพลังได้ซะที
ไอ้ช่วงนั้นน่าเหมือนจะเป็นซีนทดลองแอนิเมชันมากกว่า(แล้วผลก็ออกมาแล้วว่าไม่เวิร์ค 5555555) หลังจากนั้นก็ไม่มีอาร์ตสไตล์แบบนี้ละ
ส่วนเรื่องสู้ไปฮาไปนี่หลังๆ ก็แทบไม่มีแล้วมั้ง
สมเป็นอนิเมเวอร์ชั่น ตอนเทศกาลมอบดาว เพิ่มฉากยามะกับแจ็คแข่งกันขายของกับจะไปตีกัน กับฉากชาล็อต แวนเนสซ่าเปลี่ยนชุดแข่งทั้งที่ในเรื่องแค่ดวลไวน์
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.