Fanboi Channel

[Off-season anime] โทษทีว่ะ กูเพิ่งดูจบ กระทู้ที่ 10

Last posted

Total of 260 posts

183 Nameless Fanboi Posted ID:bcZipI8xH/

>>182 เอาคห.ที่ป้าเสินบ่นมาให้อ่านหน่อย อยากเห็นว่าอาการหนักขนาดไหน

184 Nameless Fanboi Posted ID:lO+P+DDbsp

>>183 เท่าที่บอกก็ แบนไปกี่คำก็พยายามหาทางเลี่ยงคำทุกที แบนเป็น 20-30 คำแม่งก็พยายามเลี่ยงจะโทรลให้ได้ ขนาดนี้แม่งน่าจะเข้าขั้นสต๊อกเกอร์แล้ว

185 Nameless Fanboi Posted ID6:kJt98JRtrs

>>177 ไม่เอา กุเชียร์ลิเวีย x โฮมเลสตัวประกอบที่ไม่ใช่ตาคนแต่งนิยายในเรื่องที่ชื่อซูซูกิ

186 Nameless Fanboi Posted ID:BcNrsN.wQs

พึ่งเห็น yorimoi ลง anione แล้วแฮะ ในที่สุดกูก็มีช่องทางไว้เอาไปเผยแพร่ให้ชาวบ้านซักที ก่อนหน้านี้หาดูยากชิบหาย ซับในบิลิก็ machine translate

187 Nameless Fanboi Posted ID:ce/HxctqMF

ขอรีวิวเรื่อง Kakushigoto หน่อย
กูชอบเรื่องอาจารย์สิ้นหวังของนักเขียนคนนี้มาก
แล้วกูเพิ่งเห็นว่าเรื่องนี้คนเขียนคนเดียวกัน
อยากรู้ว่ามันสนุกรึเปล่าวะ

188 Nameless Fanboi Posted ID:zj3iZlhzbu

แทบจะคนละแนวกับเรื่องสิ้นหวังอ่ะนะ แต่ก็มีกลิ่นๆอยู่นิดหน่อยอ่ะนะ รวมๆก็โอเคอยู่ สำหรับกุคือดูได้ไม่เสียดายเวลา

189 Nameless Fanboi Posted ID6:.HfcIFk0et

ดู Golden Kamuy จบไป2ss ss2นี่แม่มตัวโรคจิตเยอะดี ไหนจะมุกตลกอีก ท่านพลโทซึรุมินี่เนื้อหอมสำหรับพวกโรคจิตดีชิหาย555 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าแดกเนื้อนากท่ามกลางหนุ่มๆไม่งั้นคุณอาจจะต้องเล่นซูโม 555

190 Nameless Fanboi Posted ID6:z0buvhdT/7

กูเพิ่งดู migi to dali จบมา กูสงสัยว่าฟักทองหล่นใส่หัวถึงตายเลยเรอะ กับบาแก็ตนี่แข็งพอเอามาตีหัวแทนไม้เลยเรอะ หรือว่ามันเป็นแนวตลกถึงวางเนื้อหาแบบนี้

191 Nameless Fanboi Posted ID6:rVbF8OGfCD

>>189 เจอซีนยิง cum ใส่กันกูนี่ได้แต่อุทานเหี้ยลั่นบ้าน

192 Nameless Fanboi Posted ID6:AdHwPi+96G

>>190 ฟักทองแก่แข็งมาก+น้ำหนักของฟัก+ความสูง กระถางต้นไม้อันเล็กๆร่วงจากชั้น4ทำคนตายได้นะมึง แล้วอีฟักนี่หนักแน่ๆล่ะ 55555
ส่วนบาแก็ตมันเคยมีข่าวผัวโมโหเมีย(หรือเมียโมโหผัวนี่แหละ)เลยเอาบาแก็ตค้างคืน5วันฟาดหัวแตกอยู่ จำไม่ได้ว่าตายมั้ย

193 Nameless Fanboi Posted ID6:uamZe7KmbX

>>187 คนละแนวกัน แต่มุกยังเฉพาะทางเหมือนเดิม แค่ไม่เน้นฮาเท่าคุณครูสิ้นหวัง แต่โดยรวมก็ดีนะ ดูเอาเพลงเปิดเพลงปิดก็คุ้มแล้ว โคตรเพราะ

194 Nameless Fanboi Posted ID6:bG/gEFkel/

>>191 วันนี้ไปงานหนังสือ ดู ss3บนรถไฟฟ้าไอ้ฉากที่แม่งหลบหมีเข้าห้องซาวน่ากันแล้วไอ้โล้นแว่นเอาใบไม้ตีบอกช่วยเดินเลือดลม แทบจะต้องกลั่นหัวเราะพวกมึงจะเกย์กันไปไหนโว้ย ดีจุดที่ยืนในรถคือหันเข้ากำแพงพอดี

195 Nameless Fanboi Posted ID6:bG/gEFkel/

>>194 พิงกำแพง

196 Nameless Fanboi Posted ID:jYmAzPfZvX

>>194 เพชรกำแพงยิง

197 Nameless Fanboi Posted ID:QcCKaMg0rv

ได้ลองดู GGO ภาคหลักอีกครั้งแล้วยังไงก็คิดว่าเขียนบทมาดีกว่าภาค Alternative เยอะเลย ครบเครื่องเรื่องดราม่า ปริศนา ซีนบู๊ โรแมนซ์ ไปจนถึงปรัชญาไซไฟ

Alternative มันอุงก้าบุงก้าเอาหัวชนแทบทุกการต่อสู้เลยช่วงหลัง นางเอกก็อิมบ้ากว่าคิริโตะเยอะ ขี้โกงแบบไม่มีอะไรเป็นพื้นฐานเลย

คิริโตะนี่บทรองรับความยูนีคมาดีมาก ใช้ชีวิตอยู่ในเดธเกมมาสองปีจนประสาทสัมผัสในโลกเวอร์ชวลเฉียบแหลมกว่าคนทั่วไปใน VRMMO มาก (ในขณะที่คนอื่น ๆ แค่เล่น "เกม" พวกในไอน์คราดเปิดโหมดเซอไววัลที่พลาดก็เท่ากับตายกันมาตลอด แล้วคิริโตะคือผู้เล่นที่ประสาทสัมผัสเฉียบคมที่สุดในโลกนั้นอีก)

ซึ่งมันก็ไม่ได้เก่งขนาดปัดกระสุนได้เลยด้วยซ้ำ ที่ทำได้ก็เพราะ prediction line นี่ ที่ทำให้กะจังหวะฟันได้เหมือนเล่นบีทเซเบอร์อะ (ย้ำว่าภาคนี้เขียนก่อนมีบีทเซเบอร์มาหลายปี จารย์แกถือว่าก่อนกาลมากเลยนะ)

แม้มันจะทำยากจนคนทั่วไปเลียนแบบไม่ได้อยู่ดีก็ตาม แต่คิริโตะมันก็มีพื้นฐานพวกนี้มาเป็นเหตุผลรองรับจริง ๆ ถึงทำได้ มีแต้มต่อตรงที่เซนส์เกมมันดีอีก วิชาฟันดาบนี่เอาจริง ๆ มันสู้น้องสาวตัวเองกับอาสึนะไม่ได้ด้วยซ้ำ ขึ้นภาคโรซาริโอยังแพ้ผู้ป่วย HIV ระยะสุดท้าย 55

นี่อยากให้คนที่เคยดูถูก SAO สมัยก่อนได้กลับไปลองเปิดใจดู/อ่านใหม่ตอนโตมากเลยนะ แล้วจะเห็นได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ก่อนกาลจริงจัง อะไรหลายอย่างมันล้ำและเขียนคาดเดาโลกในอนาคตได้ดีในระดับนึงเลย

198 Nameless Fanboi Posted ID6:y78ckMtTn7

เห็นฉากหีตะโกนเรียกไอ้โตะตอนที่มันพึ่งฟื้นแล้วแอคหีโชว์พาวแล้วยังต้องหาเหตุผลไรอีกวะ

199 Nameless Fanboi Posted ID:G4sv.8ylRJ

>>197 Shangri La มันกว่าเยอะอ้าย

200 Nameless Fanboi Posted ID:+MJ5oRLxra

ไอ้ภาคไอน์แครดมันยังพอโอเค
พอภาคหลังๆ โอนสแตทเทพซ่าไปลงเกมไหนก็ได้ ใช้พลังเทพทรูโชว์พาวแบบไม่ต้องฝึกอะไรแล้ว ก็กลายเป็น ORETUEE ดาดๆ ไป

201 Nameless Fanboi Posted ID6:C3eH05Y76f

ไอ้บอสสองตัวในภาคอลิเซชั่นไง คอนเวิร์สตัวละครลงมาแป๊บเดียวเก่งเวอร์ชิหายกว่าจะปราบได้แม่งได้ ไอ้พวกบอสจากเกมยังดูปราบไม่ลำบากเท่าพวกนี้เลย

202 Nameless Fanboi Posted ID6:DortBbhKzP

https://www.youtube.com/watch?v=AkyAIx7Jd28
20 ปีแล้วหรือเนี่ย โม่งคงทันหลายคน

203 Nameless Fanboi Posted ID6:MXwZUd2Eyi

>>197 GGO ตอนกูอ่านกูยังงงเลยว่าตกลงมันเป็นเกมประเภทไหนกันแน่ มีการอัพสเตท+ล่ามอนหาดรอป (Destiny?) แต่ดันมี competitive scene ที่สเตทกับเกียร์มีผล??? แล้วตัวร้ายก็ดันเบียวแตกเพราะเหตุผลโง่ๆอย่าง Dev เนิร์ฟbuild (คือมึงเป็นtop playerแล้วไม่ได้ปั้นตัวละครสายอื่นไว้เผื่อเลย? แล้วเกมมึงก็ไม่มีไอเท็มรีเต็ท??) พอซิกุซาว่าเอามาเขียนใหม่เลยปรับเป็น pubg ซะ จบปัญหา

204 Nameless Fanboi Posted ID:c4w+cQLQP6

gun gal นี่เชี้ยไรยิงอกไม่เข้า เอาปืนมารับกระสุน กุดูถึงตรงนั้นกุดรอปเลย

205 Nameless Fanboi Posted ID6:A01SZc3s4a

ggoนี่ทำกูหยุดซื้อเรื่องนี้เลยนะ เกมปืน เทพซ่าควงดาบปัดกระสุนไต่แรงค์ โอเคมึงพยายามจะให้มันเป็นซอร์ดอาร์ตมากเกินไปละ 555555 เป็นภาคที่รู้สึกฝืนไปหมด อยากเขียนปืนมึงเขียนแยกภาคแบบไม่มีไอ้โตะเถอะ 555555

206 Nameless Fanboi Posted ID6:6t.46ADa6z

>>205 ถึงมีggoของคนเขียนคิโนะไง 5555

207 Nameless Fanboi Posted ID:11sP3diKim

>>204 ที่ยิงอกไม่เข้ามันมีเหตุผลของมันอยู่
เพราะในกระเป๋าเสื้อมีอุปกรณ์ดูแสกนดาวเทียมใส่ไว้
ซึ่งไอ้อุปกรณ์นี่มันเป็น immortal object แบบเดียวกับศพผู้เล่นนั่นแหละ ก็เลยกันกระสุนได้ด้วย
Dev คงคิดไม่ถึงละมั้ง ตอนหลังก็เลยปรับให้เป็น immortal object แบบยิงทะลุได้แทน
ส่วนที่เอา P90 มากันกระสุน คงพูดได้แค่เพราะมันเป็นเกมนั่นแหละ
ปืนมันมีค่าความทนทานอยู่แถมอวตาร์เลนน์ก็ตัวเล็ก ทำให้ตัวปืนมันบังร่างส่วนใหญ่ของนางได้

208 Nameless Fanboi Posted ID6:riNQEve9ZE

>>207 พูดก็พูดเถอะ Pubg แม่งเมื่อก่อน Object ติดตัวกันกระสุนก็คิดว่าเป็นแค่บัค แต่เห็นว่าฮาดีสุดท้ายกลายเป็น Feature เอากะทะมากันกระสุนกันซะงั้น

แต่ GGO เนี่ยภาคแยกยังไงก็สนุกกว่าเยอะ ภาคบักโตะนี่เละเทะมาก

209 Nameless Fanboi Posted ID6:agwqnG509a

ภาคไอ้โตะไว้ดูง่ามหีกับนมสุกุฮะพละ

210 Nameless Fanboi Posted ID6:KHIF+QnY55

>>209 เพิ่มตูดชิน่อนอีกคน

211 Nameless Fanboi Posted ID:vwcLUXJSee

มาโยนากะพั้นช์ของซีที่แล้วดูๆไปก็เป็นเรื่องฮาๆปั่นๆธรรมดาแต่ตอนท้ายแม่งทำดีสนุกจัดเลย เสียดายแค่ยูกิได้เข้าช่องแค่แปปเดียวจบละ

212 Nameless Fanboi Posted ID:v3u+aSZ77L

>>211 กูเห็นด้วยกับมึงทุกข้อเลยให้ตายสิ

213 Nameless Fanboi Posted ID6:6NWwfwBbPG

>>208 อ่านแล้วนึกถึงสตรีทไฟเตอร์2แฮะ
ไอ้กดคอมโบที่เราใช้ๆกันในปัจจุบัน มันคือบัคที่คนสร้างไม่ได้คิดไว้ให้เป็นแบบนี้นี่
แต่ไปๆมาๆ เวิร์คดีนี่ งั้นเลยตามเลยแล้วกัน จนกลายเป็นเรื่องพื้นฐานให้เกิดการคอมโบเกมไฟติ้ง

214 Nameless Fanboi Posted ID6:AsY.+bQbBN

ดูโกลเด้นคามุยจบ ss3 พระเอกนางเอกที่ไม่ได้เจอกันมานาน พอเจอกันยังไม่ได้ซึ้งอะไรเจอฉากตลกเยี่ยวรดหน้าไอ้สัส5555
ต้องไปตามดูss4ที่ไพร์มต่อ ไอ้ตอนสมัครไว้ก็กวนตีนดูss1ไม่ได้ไม่รู้ว่าบิลิมี ไม่มีเรื่องอะไรจะดูที่ไพร์มแล้วด้วย
ดองไว้ก่อนละกันไว้มีอะไรจะดูเยอะแยะค่อยไปสมัครใหม่

215 Nameless Fanboi Posted ID6:3GHc84f+ez

ไอ้วลีที่ชิโร่พูดว่า คนตายเมื่อถูกฆ่า กูนึกว่าซับแปลผิด แต่ในเวปฝรั่งดูเหมือนไอ้ชิโร่จะพูดแบบนี้จริงๆ พอดีไม่ได้ดูเรื่องนี้นะ แต่ต้องบริบทไหนวะ ถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมา หรือว่าตรรกะในเรื่องคือมันมีคามเชื่อของกลุ่มลัทธิว่าถูกฆ่าแล้วไม่ตาย
https://theafictionado.wordpress.com/wp-content/uploads/2013/12/peopledie.jpg

216 Nameless Fanboi Posted ID:SyRJgjcA/4

>>215 มันตัดมาไม่ครบข้อความ ชิโร่มันบ่นกับเซเบอร์ว่าร่างกายมันอ่ะแปลก "คนตายเมื่อถูกฆ่า" แต่ตัวมันโดนฆ่าพุงแตกหายไป 1/4 ดันไม่ตาย(เพราะมีอวาลอนในตัวเลยแผลเลยไม่เหลือซักนิด)

217 Nameless Fanboi Posted ID6:4Yp9m.esNO

เพิ่งดูนางเอกนกเพราะลง Netflix
จบซีแรกนี่มันดูเทหนักไปทางโคฮารุแฮะ นกฟ้าแม่งดูเป็นเพื่อนมากกว่า แถมมีออกแนวเชียร์โคฮารุอีก
นกฟ้า เลมอนนี่ยังมีหนุ่มมาจีบอยู่ แต่โคฮารุนี่ดูตัวคนเดียว(แถมขี้เหงาซะอีก)

218 Nameless Fanboi Posted ID6:0Ehp7f58vJ

>>215 "คนปกติโดนแบบที่กุโดนก็ตายไปแล้ว"
มันจะหมายความแบบนี้ แต่นี่แม่งnasuverse

219 Nameless Fanboi Posted ID6:VbO/PxB6Sl

>>217 โคมาริ โคฮารุมันอีเด็กหื่น

220 Nameless Fanboi Posted ID:CLg/bXJ1yN

>>215 ตาม >>216 ว่า ตอนต้นเกม รินมันจะบอกชิโร่ว่าคนโดนฆ่าตายไปใช้เวทฟื้นไม่ได้นะ แต่ชิโร่ฟื้นจากโดนเบอเซอเกอร์หวดจนพุงโบ๋ได้ แปลว่าเซเบอร์ที่ทำสัญญาด้วยต้องมีของ
ตอนหลังถึงได้รู้ว่ามีของวิเศษชื่ออวาลอนยัดในตัวทำให้ฟื้นฟูบาดแผลได้ ตอนหลังชิโร่เอาอวาลอนออกจากตัวให้เซเบอร์ไปใช้เพราะจำเป็นกว่า มันก็บอกขึ้นมาต่อจากนี้คนตายเมื่อถูกฆ่า อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งหมายถึงมันเอง เหมือนเตือนสติให้คิดว่าจะไปลุยครั้งนี้รักษาบาดแผลไม่ได้แล้วนะ

221 Nameless Fanboi Posted ID6:0kl8F/dxM9

My Wife Has No Emotion ลง Netflix ว่ะ
เห็นโม่งเคยบอกว่าเป็นโชบิทดวอร์ชั่นรอมคอม เลยอยากดู
ในที่สุดก็มีซับไทยให้ดูซักที

222 Nameless Fanboi Posted ID6:hkL0s4ixdX

กันดั้มเรเควี่ยมในเนตฟลิก กูสงสัยกลไกของดาบ-ขวานแซค ที่สามารถบล๊อคดาบแสงที่ฟันแซคขาดเป็นเต้าหู้ได้ไงวะ
แล้วดาบแสงมันเล่นมุกปิด-เปิดดาบฟันเพื่อไม่ให้บล๊อคได้แบบสตาร์วอร์ไม่ได้เรอะ

223 Nameless Fanboi Posted ID:NAdYP8vPgz

>>222 Plot Gundarium-Allloy ไงล่ะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:GjQFdszJgP

>>222 จริงๆโดมควรเอาฮีตเซเบอร์ปัดกระสุนบีมไรเฟิลได้ด้วย

225 Nameless Fanboi Posted ID:lqeZbQHrZf

>>222 คงแถแนวๆว่า อนุภาคบีมมันผ่านจุดที่มีความร้อนสูงของฮีทฮอค,ฮีทเซเบอร์ไม่ได้ ละมั้ง

226 Nameless Fanboi Posted ID:ApTbyBmgTp

>>222 ได้แต่ไม่ค่อยทำเพราะวาดอนิเมลำบาก อยากเห็นต้องไปดู CCA หรือ v gundam

227 Nameless Fanboi Posted ID6:tTHTpRiDbd

>>222 เหม่งชอบทำนะลูกเล่นบีมเซเบอร์ นอกจาก CCA กับ V Turn A กับ G-Reco ก็ด้วย
จะฟันบีมถึงออกเสร็จแล้วเก็บบีม บีมออกมาเป็นเส้นเล็กๆเหมือนลวด หมุนบีมเป็นใบพัดเครื่องปั่น
เหี้ยสุดก็ V ที่เอาบีมเปิดต่ำๆไปลนหน้าคอคพิท โหดชิบหาย

228 Nameless Fanboi Posted ID:JIuynJsMqD

พึ่งดูจบก่อนออกจาก netfilx อนิเม made in abyss นี่อย่างดี ทำไมตอนฉายแรกๆตูไม่ดูฟะ 55555

229 Nameless Fanboi Posted ID6:Y+jk8yvgxh

ดองไว้นานเหมือนกันขนาดรู้ว่าจะถอดก็เจือกไม่รีบดู มาปั่นตั้งแต่ตอนแรกสุดซะวันสุดท้ายช่วงบ่ายสามกว่าๆไปถึงตอน7ของss2 ยังดีไปสานต่อได้จากบิลิ กลางวันค่อยต่อที่เหลืออีกทีวันนี้มาราธอนซะยาว นานแค่ไหนแล้วนะไม่ดูดูเมะต่อเนื่อง20+แบบนี้

230 Nameless Fanboi Posted ID6:wjlSIxW1iE

ดูต่อจนจบละ แม่งเอามิตตี้มาขยี้อีกรอบถึงรอบ2จะไม่เท่ารอบแรกก็เถอะ แล้วเจอเนื้อเรื่องของอิรุมิวอิเข้าไปแม่งหนักกว่ามิตตี้อีก มันตัดเอาเนื้อเรื่องส่วนนึงไปทำหนังโรงซินะเห็นมีอยู่3ตัว หาดูได้ที่ไหนเนี้ยลองเช็คฮาเรชิก็ไม่บอกว่าลงไว้ที่ไหน

231 Nameless Fanboi Posted ID:S01U94PpWy

>>227 f91 หมุนข้อมือเป็นใบพัด อย่างเฟี้ยว

232 Nameless Fanboi Posted ID6:MFXq17DVkC

มิงกี้โมโม่แบบถูกลิขสิทธิ์
https://youtube.com/@ashipro1224?si=2DjFvi7KCmZufTRC

233 Nameless Fanboi Posted ID6:H3DIqSQw/X

>>228 อย่าลืมไปหามูวี่3มาดูด้วยนะ เนื้อเรื่องหลัง ss1 ก่อน ss2 ที่มาของเมเนียกับนกหวีดขาวพรุซก้า

234 Nameless Fanboi Posted ID:U9I6YtVpSs

https://www.youtube.com/watch?v=jvVz6BGxDYc&ab_channel=葦プロダクションチャンネル

Sweet mint ถูกลิขสิทธ์

235 Nameless Fanboi Posted ID:fnCdhOD79B

ช่วงนี้เพจและช่องเติมโตขึ้นไปมากเลยครับ เลยถือโอกาสแนะนำซีรีย์ที่ผมรักที่สุด ที่เป็นที่มาของชื่อเพจนี้สักหน่อยว่า ทำไมมอนไดจิ ถึงเป็นอนิเมะ ไลท์โนเวลที่แตกต่างและมีจุดเด่นแตกต่างจาก "ต่างโลก" โดยทั่วไป สำหรับผมที่สัมผัสแนวต่างโลกมาอยู่พักใหญ่ๆช่วงมัน Fever ครับ
จุดเด่นหลักๆ 5 อย่างที่ผมคิดว่ามันคือจุดขายของมอนไดจิ ตัวป่วนชั้นเซียนมาตบเกรียนถึงต่างโลก นอกจากจุดขายของพระเอกที่เทพซ่าส์ เดินทางไปต่างโลกแล้ว จุดเด่นต่างๆที่ทำให้ผมหลงรักเรื่องนี้ และมันเป็นเสน่ห์ที่เป็นจุดขายของเรื่องนี้คือ
//แตกต่างอย่างมีชั้นเชิง//
1.พระเอกที่โครตเก่ง แต่โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง
ซาคามากิ อิซาโยอิ คือพระเอกที่เก่งเทพมากๆ เรียกว่าใครได้อ่านนิยาย หรือ ดูอนิเมะก็ตาม คงจะตกใจกับความเทพซ่าส์พี่แกที่มีของ อัดศัตรูปลิวเป็นใบไม้ร่วงกันเลยทีเดียว ซึ่งมันเป็นปกติของแนวพระเอกเทพในต่างโลกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ทำให้เหนือไปอีกด้วยการที่
"เจอระดับบอส แต่ก็ยังต่อยทีเดียวปิดฉากได้"
นั่นคือช่วงที่ได้เจอกับบอสช่วงแรกของเรื่องครับ ซึ่งใครๆก็คิดว่ามันตึงมือแล้วแน่ๆ เอ็งเจอของจริงแน่อิซาโยอิ แต่สิ่งที่เรื่องนี้นำเสนอคือพี่แกก็ยังเก่งเวอร์ชนะจอมมารได้อย่างสบายๆอยู่ดีๆ (ซึ่งมาเฉลยทีหลังว่าจอมมารโดนเนิฟไปมากแล้ว)
โดยที่พอมันเป็นแบบนี้ ใครเบื่อแนวพระเอกเทพอาจจะเบือนหน้าหนีไปเลย เพราะเดาพลอตได้ใช่ไหมครับว่า ไอ้พระเอกเทพแบบนี้ เวลาสาวๆมีปัญหา เดี๋ยวพี่ก็ก็เคลียร์ให้ แต่เปล่าเลยครับ พระเอกเรื่องนี้
"โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง"
เพราะพี่แกจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง ในสถานการณ์ต่างๆเกินควร และต่อให้เก่งขนาดไหน มันก็ยังมีจุดเด่นที่ทำให้เรื่องนี้แตกต่าง ที่ทำให้มันคือจุดขายที่ไม่เหมือนใครและเป็นความ "แตกต่างที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้" ดังข้อที่สองครับ
2. กฎของกิฟท์เกม ที่ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ต้องทำตามกติกา
โลกของเรื่องนี้ มีโลกทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับเกมครับ เราเรียกมันว่า "กิฟท์เกม" ซึ่งมันทำให้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนี้นั้นจะมีการต่อสู้ด้วยเกมเป็นเดิมพัน หากทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วย ก็ไม่สามารถเริ่มเกมได้ และ ต่อให้เป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งระดับไหนก็ต้องทำตามกฎของเกม
ตัวอย่างที่เราเห็นได้ง่ายๆคือมีตัวตนระดับที่ หากอ้างอิงจากนิยายเล่มล่าสุดที่ Last Embryo 8 นั่น นี่คือตัวตนที่เก่งที่สุดของเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ด้วยกฎของกิฟท์เกมที่มาชนะทางเธอ ทำให้ตัวเธอนั้นต่อให้จะแข็งแกร่งขนาดไหน ในอนิเมะช่วงท้ายของซีซั่น 1 นั้น เราก็จะเห็นว่าเธอไม่สามารถทลายกรงขังนั้นออกมาได้
นั่นแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าใครก็ต้องอยู่ในกฎของเกม เล่นนอกเกมไม่ได้ เพราะกิฟท์เกมคือกฎสูงสุดในเรื่องนี้ และมันคือเอกลักษณ์ของเรื่องนี้เลยหละครับเพราะว่าเรานั้นต้อง
"ใช้ทั้ง พลัง ความกล้าหาญ และปัญญา ในการพิชิตเกมและบททดสอบต่างๆ"
กล่าวคือคุณจะเก่งขนาดไหน ไม่สำคัญ หากคุณมาอยู่ในเกมนั้น คุณก็ต้องเล่นกติกาเดียวกับเกม ทำให้มันคือการบังคับให้พระเอกอย่างอิซาโยอิ ไม่สามารถแสดงความเทพของตัวเองออกมาได้ซึ่งต้องใช้ทั้งพลัง ความกล้าหาญ และความรู้ ความเข้าใจต่างๆ ในการต่อสู้ในแต่ละครั้ง มีแต่บู๊อย่างเดียวไม่ได้ต้องบุ๋นด้วย ทำให้มันมีเสน่ห์ในการต่อสู้ของกิฟท์เกมแต่ละครั้งมาก และมันเลยกลายเป็นตัวละครอื่นมีบทบาทกันไม่มีใครด้อยไปกว่าใครอันเป็นเอกลักษณ์ที่สามของเรื่องนี้
3. การกระจายบทที่ชัดเจน ไม่มีใครเด่นไปกว่าใคร
นี่คือหนึ่งในจุดขายที่ทำได้ยากๆของหลายๆเรื่อง ที่มีตัวละครเยอะครับ ยิ่งมีตัวละครเยอะเท่าไหร่ การกระจายบทยิ่งยากเท่านั้น ปกติมันจะเน้นไปที่พระเอก กับสาวๆแต่ละคน มีโมเม้นหวานชื่น หลังช่วยเสร็จ แต่เรื่องนี้ไม่ เรื่องนี้นั้น แบ่งบทตัวละคร ทั้งโมเม้นต์ ความรัก ความสัมพันธ์ต่างๆ อย่างลงตัว และไม่มีใครเกินหน้าใคร
ฉากสู้ของสองนางเอกที่มากับอิซาโยอินั้น ต่างมีบทบาทที่สำคัญ จากเด็กสาวอ่อนแอ ที่เข้ามาในโลกของทวยเทพ ก็ค่อยๆพัฒนาขึ้น ไล่ตามอิซาโยอิ มายืนเคียงข้างเพื่อร่วมสู้กับเขาได้
การกระจายบทต่างๆ ในฉากสู้นั้น แต่ละคนจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทำให้การรับมือศัตรูนั้นจะต้องใช้ความถนัดของแต่ละคนในการเข้าสู่ ซึ่งแม้หลังๆจะเจอพวกตึงมือมากๆ แต่อีกเอกลักษณ์ที่เรื่องนี้ทำได้ดีก็คือ จุดเด่นที่สี่ของเรื่องนี้

236 Nameless Fanboi Posted ID:fnCdhOD79B

4. การคุมสเกลที่มีชั้นเชิง บทบรรยายการต่อสู้ที่ทำให้เห็นภาพ
ศัตรูของเรื่องนี้จะเริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ตามโลกทัศน์ของสวนกล่อง ที่ถูกเซ็ตไว้ด้วย ประตูที่เรียกว่า "หลัก" หลักของตัวประตูนั้นจะเริ่มที่ 7 หลักไปจนถึง 1 หลัก ซึ่งอิซาโยอินั้นจะเป็นคนที่ฝีมืออยู่ระดับกลางๆของโลกสวนกล่องแล้วตั้งแต่เข้ามาแล้ว ทำให้ไม่แปลกเลยที่เขานั้นจะชนะศัตรูในช่วงแรกๆได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งสเกลของศัตรูจะค่อยๆพัฒนาขึ้นไปเมื่อพวกอิซาโยอิต้องไปเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น ตามสไตล์เรื่องราวแนวต่างโลกนั่นหละครับ แต่สิ่งที่ทำได้ดีมากๆคือการคุมสเกลของตัวละครและการอัพระดับพลังที่ไม่รู้สึกว่ามันไม่ได้คิดมาก่อน
ปกติเวลาคนเขียนตันเนื้อเรื่อง เพราะสร้างตัวละครเก่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งโค่นก็ยิ่งเก่งเรื่อยๆนั้น การคุมสเกลจะเริ่มพัง เพราะแบบไม่ได้คิดไว้ก่อน ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่เรื่องนี้ใช้กิฟท์เกม และ ชั้นเชิงการนำเสนอเกี่ยวกับ ลำดับประตูมาเป็นตัวทำให้สิ่งนั้นถูกคุมสเกลได้อย่างดีครับ
ทุกการปรากฎตัวของศัตรูที่ออกมานั้น จะมีการเพิ่มระดับสเกลที่เรารับได้ คือมันเก่ง แต่มันก็คือเก่งแบบมีเหตุผล และบทบรรยายในการต่อสู้ของเรื่องนี้บอกได้เลยว่า ถ้าอ่านไปจินตนาการตามไปนี่คุณเห็นภาพแน่นอน เพราะคนเขียนอย่างอาจารย์ทัตสึโนโกะ ทาโร่นั้นจบจาก มัธยมปลายที่เกี่ยวกับสาขาการต่อสู้ครับ
ฉะนั้นเขาคืออาจารย์ที่รู้จักการต่อสู้อยู่แล้ว (แล้วมาเป็นนักเขียนำทำไม 5555) เลยสามารถเขียนฉากสู้ของเรื่องนี้ได้สนุกมาก เมื่อเหล่าตัวละครระดับสูงเข้าปะทะกัน และมันมีถึงขั้น ฉากที่แบบ อ่านไปขนลุกไปเมื่ออิซาโยอิต้องเผชิญกับกำแพงจริงๆ ที่โหดหินยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่หลายๆคนยกให้ช่วงนั้นคือช่วงที่มอนไดจิพีคที่สุดและกลายเป็นที่กล่าวขานในวงกว้างสำหรับศึกนั้นเลยหละครับ
และมันนำไปสู่จุดเด่นสุดท้ายที่เรียกว่าเป็น คอร์หลักที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผมติดตามเรื่องนี้และทำเพจมอนไดจิขึ้นมาเลยครับนั่นคือ
5. ปริศนาที่วางไว้อย่างแยบยล และเชื่อมโยงกับตำนานต่างๆได้ลงตัว
มอนไดจิคือนิยายที่ผมกล้าพูดเลยว่า หากคุณลิสต์ข้อสงสัย หรือคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบนั้น หรือยังรอการเฉลยนั้น มันเกิน 20 คำถามแน่ๆครับ เพราะคนเขียนนั้นฉลาดในการเล่าเรื่องมาก
บางสิ่งที่คุณคิดว่ามันไม่มีประเด็น อ่านผ่านๆไป เมื่อคุณอ่านไปถึงบางช่วงที่เรื่องมันเฉลยข้อมูลบางอย่างออกมาแล้ว และคุณกลับไปหยิบสิ่งที่คุณอ่านข้ามหรือไม่เข้าใจในตอนแรกอีกครั้ง มันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า
"การเชื่อมโยงและคำถามใหม่"
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมสนุกมาก ที่ต้องไล่คิดตามคนเขียนว่า ตาทัตแกวางอะไรไว้ และแกวางไว้ไกลแค่ไหน เสน่ห์อย่างถึงที่สุดของมันเลยคือ เมื่อคุณอ่านไปถึงภาคสอง มันจะมีบางสิ่งที่แกวางไว้ถึงในตอนแรกตั้งแต่เขียนมา และนับถัดไปอีก 7 ปี ถึงจะเฉลย และเป็นการเฉลยที่
"โครตลงตัวแบบลงตัวมากๆ"
ชนิดว่าหาก คิดไปเขียนไปไม่มีทางทำได้เลยครับ เพราะมันจะขัดกันไปหมด แต่อันนี้ไม่มีรอยต่อตรงนั้นเลย ทำให้การเชื่อมโยงเรื่องนี้นั้น โยงกันยุ่งเหยิงไปหมดจนผมต้องมาทำเพจ เพราะมันละเอียดและมีอะไรให้คุยกันเยอะมาก ออกมาเล่มเดียว แต่คุยกันได้เป็น 100 โพสยังได้เลย เพราะเรื่องนี้มันมีปริศนาที่น่าติดตามและคนเขียนวางพลอตไว้ไกล และคุมได้ดีมาก
ซึ่งไอ้ความลับ ปริศนาพวกนี้หละที่มันจะไปโยงกับ ตำนานของทวยเทพ กิฟท์เกมต่างๆที่เป็นจุดเด่นนั้น จะถูกเล่าผ่านตำนานเรื่องเล่าที่เรารู้จักกันดี แต่ถูกปรับแต่ง เสริมใหม่ให้เข้ากับบริบทของเรื่อง การจะไขปริศนาบางอย่างต้องใช้ความรู้จากตำนาน ซึ่งสิ่งที่ผมเขียนไว้ว่าแกวางไว้ 7 ปีนั้น มันมีบางตำนานที่โยงกับสิ่งนั้นด้วยครับ และแบบผมขนลุกมากว่า แกคิดไว้ถึง 7 ปีเลยเนี่ยนะ จะ Just The Plan เกินไปแล้วตาทัต!!!
//ต่างโลกที่แตกต่างและมีชั้นเชิงอย่างถึงที่สุด//
และนั่นคือมอนไดจิ เรื่องที่ผมรักที่สุดอันเป็นที่มาของเพจนี้ครับ มันคือนิยายที่มีความเป็นต่างโลก ที่อิงกับตำนานต่างๆสูงมาก มีการคุมสเกลตัวละคร แบ่งบทตัวละครที่ชัดเจน พอถึงจุดบิ๊วก็บิ๊วได้ดีมาก จุดที่วางไว้ให้เราสงสัยเมื่อเฉลยมันก็พีคมาก พีคจนบางทีขนาดรู้สปอยไปแล้ว กลับมานั่งอ่านอีกครั้งก็ยังพีค เพราะคนเขียนเขาบรรยายความรู้สึก ฉากสู้ และความลับต่างๆได้ดีมากจริงๆ
มันไม่แปลกเลยครับที่มอนไดจิจะเป็นเสาหลักของ นิยายต่างโลกของ Kadokawa Sneaker Bunko ด้วยยอดขาย 3 ล้านเล่ม ซึ่งตอนนี้น่าจะ 4 ล้านเล่มไปแล้ว และเป็นอีกเรื่องที่หากมีอนิเมะต่อและได้ทำไปถึงช่วงเล่มหลังๆนั้น เรื่องนี้จะต้องดังและมีผู้คนมากมายให้ความสนใจไม่แพ้ต่างโลกเสาหลักในยุคนี้แน่นอนครับ
แล้วคุณหละ? ถ้าอ่านมอนไดจิ คุณคิดว่าอะไรคือเอกลักษณ์ที่ทำให้มอนไดจิ แตกต่างจากต่างโลกอื่นๆ คิดเห็นยังไงก็มาเล่าให้ผมฟังได้นะครับ

237 Nameless Fanboi Posted ID6:sgF.Psl1nR

ไอเหีัย เพิ่งไดดูโลกนี้ โลกหน้า ข้าก็พระเจ้า
ความประทับใจแรกคือ นี่มันงานเผามืออาชีพชัดๆ โคตรเหี้ยเลย (ชม)
แม่งขนเทคนิคงานเผามาแทบจะทุกประเภท
ทั้งแช่ภาพนิ่ง เลื่อนภาพแบบสไลด์โชว์ ซูมเข้าซูมออกให้ดูเหมือนภาพขยับ รียูสซีนซ้ำเปลี่ยนแค่บทพูด
cg มอนส์เตอร์ก็โคตรกะหลั่ว (แต่กูฮา)
แต่ที่หนักสุดคือ มันถ่ายฟุตเทจรถแทรคเตอร์ของจริงมาแล้วแปะหน้าตัวละครทับลงไปว้อย
ไอ้สัส เจออันนี้เข้าไปกูหัวเราะลั่นห้องเลย
ฉากที่รายละเอียดเยอะๆ ก็ใช้ภาพพิกเซลแบบเกมสมัยก่อนแทนการวาดมือซะเลย เช่น ฉากซ่อมแชมเมือง
หรือฉากฝูงมอนส์เตอร์ก็ใช้สไปรต์แบบเกม rpg ถมให้เต็มหน้าจอเอา
เนื้อเรื่องก็น่าสนใจดีแต่กูบันเทิงกับการดูงานเผาของแม่งมากกว่าว่ะ

238 Nameless Fanboi Posted ID6:TX.a2tokId

>>237 เทคนิคการเผาเรื่องนั้นกูชอบชิบหาย เหมือนดูหนังคัลท์ อย่างจี้

239 Nameless Fanboi Posted ID6:lXuAo5wJlS

>>236 เอกลักษณ์เรื่องนี้คือคนเขียนเทซีรีย์ตัวเอง เทแฟนคลับตัวเอง เทตัวตนเก่าทุกอย่างในเน็ต เพื่อที่จะไปเป็นนักเขียนในจั้ม

เพจมอนไดก็ต้องกัดฟัน เปลี่ยนแนวทางเพจไปแปลเรื่องอื่นแทนเพราะรับไม่ได้กับการตัดสินใจแก แต่บอกยอมรับในการตัดสินใจแก้เขินไปงั้นและ จริงๆโกรธจารย์คนแต่งตายห่า

ทิ้งซีรีย์ตัวเองครวยคา hee ไม่เยิบให้เสร็จๆไป
ไม่ใช่แบบ กลัวจะเขียนจบออกมากากเหมือนซีรีย์ปัจุบัญช่วงนี้อะ แม่งไม่ทำครวยอะไรเลย
ทิ้งซีรีย์ที่ตัวเองสร้างกะมือ ละไปทำกิจการ ไปทำตามความฝันหีแตตอะไรไม่รู้แม่ง

ถ้าพวกแม่งทำแบบคนแต่ง AoT
ที่เขียนเรื่องจบกุไปทำธุรกิจออนเซ็น บ่อแช่น้ำพุ
เออกุไม่บ่นหรอก เพราะถือว่าแกทำภารกิจลุล่วงแล้ว ถึงซีรีย์มันจะจบ Mid จนถึงเข้าขั้นกากก้เหอะ

240 Nameless Fanboi Posted ID:52rgso6TV/

>>239 คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว โอกาสมาต้องรีบคว้าไว้ว่ะ

241 Nameless Fanboi Posted ID:B1.wswmtOr

>>239 นักเขียนในจัมป์นี้เรื่องไหนวะ

242 Nameless Fanboi Posted ID6:lXuAo5wJlS

>>241 ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปใช่นามปากกาชื่ออะไร รู้แน่ๆว่า ทิ้งซีรีย์ตัวเอง ทิ้งชื่อเก่า ลบแอคในเน็ต ตัวตนเก่า ทุกอย่าง
เพื่อที่บอกแฟนๆว่า
"ฉันน่ะ!?!..จะไปสานฝัน เป็นนักเขียนในจั้มน้ะะะ ขอบคุณที่สนับสนุนชั้นมาตลอดนะ มินน๊ะะะ"

243 Nameless Fanboi Posted ID6:sfaQO02HzX

เห็น black clover หนังโรงโผล่มาให้เห็นพวกแนะนำหนังจาก netflix กดเข้าไปดูเล่นๆกลายเป็นดูยันจบเรื่องทั้งที่ดูเมะแค่ตอนอัสต้าเพิ่งเข้าหน่วยกระทิงดำกับโนแอลยังเป็นคุณหนูเชิดๆคุมพลังไม่ได้ มังงะก็เพิ่งมาตามอ่านตอนมีแปลไทยที่แม่งก็ปลายเรื่องอยู่ละ

หนังโรงมันทำภาพสวยดีนะ บอสเป็นพวกอดีตจักรพรรดิเวทมนตร์แล้วเก่งกันทั้งนั้นเลย ดูจบเลยมีไฟไปดูแบบทีวีต่อละ เมะมี170ตอนต้องฟังอัสตาแหกปากไปเป็นร้อยตอนเลย เอาวะเพื่อมิโมซ่ากับโนแอลและซิสเตอร์ลิลลี่ ว่าแต่ผกกเมะกับคนเขียนมันนึกไงให้อัสตาเวลาพูดปกติแม่งยังต้องตะเบ็งเสียงตลอดคนพากย์แม่งก็เข้าถึงตัวละครอัสต้าดีจริงๆ ชม

244 Nameless Fanboi Posted ID:WofxtcsMvd

>>243 ในเมะช่วงกลางเรื่องก็แหกปากน้อยลงล่ะ แอสต้ามันเป็นพระเอกโชเน็นที่น่าเอาใจช่วย ไม่แปลกที่สาวๆจะหลง (กุอวยมิโมซ่า แต่จบคู่โนเอลก็ไม่ว่าอะไร)

แนะนำให้อ่านมังงะต่อเลย ใกล้จบล่ะ

ปล.เจ๊สิงโตเก่งมากๆ สมัยนี้หาตัวละครหญิงที่เก่งขนาดนี้ยาก

245 Nameless Fanboi Posted ID:gI37Sfj0Qk

ทำไม พอคนดูเรื่องที่เห็นตัวเอกชอบทำตัวเหลี่ยมๆ โชว์ฉลาดแบบขั้นเทพ เป้นจอมบงการในเมะ แบบอายาโนะโคจิ พวกคุถึงอยากเล่นเป้นคนฉลาดตามบ้าง

246 Nameless Fanboi Posted ID6:sfaQO02HzX

>>244 มังงะตามอ่านในมังงะพลัสอยู่ละ อ่านตั้งแต่มันมีแปลไทยเข้ามานั้นแหละ เคยคิดจะซื้อเก็บอยู่นะแต่ก็ปล่อยไปก่อนไว้เขียนจบอาจย้อนไปซื้อ ชอบมิโมซ่านะแต่ไม่เชียร์ ดูแล้วโนแอลยังไงก็เข้าวินตัวละครมันเข้ากันได้ดีกับอัสต้ามากบทก็ส่งให้เป็นนางเอกซะอีก

247 Nameless Fanboi Posted ID6:Pe/4pj/P8P

>>243 ถ้ามึงจะดู Black Clover อนิเมะ กุขอเตือนว่าพอดูถึงช่วงราวๆ 115-120 มึง skip ไปดูตอน 140 เริ่มภาคทวิปปีศาจได้เลย
ที่เหลือแม่งตอน Filter ขยะๆครึ่งเรื่อง เสียเวลาดูมาก
เกไม่พอ บทแม่งเนิร์ฟสมองจักรพรรติเวทมนตร์ทุกตัว ทำห่าอะไรกับพวกก่อกบฏที่แทบไม่มีเวทมนต์ หรือมีแต่เวทกากๆทั้งนั้นเลย

248 Nameless Fanboi Posted ID6:Pe/4pj/P8P

>>247 "บทแม่งเนิร์ฟสมองจักรพรรติเวทมนตร์ทุกตัว ทำห่าอะไรกับพวกก่อกบฏที่แทบไม่มีเวทมนต์ หรือมีแต่เวทกากๆทั้งนั้นไม่ได้เลย*

กุรีบกดโพสไปหน่อย โทดที
แต่ก้นั่นละ ข้ามได้ข้าม

249 Nameless Fanboi Posted ID:zwUsLP.lRd

black cover ed กุชอบเพลง new page ว่ะ

250 Nameless Fanboi Posted ID:PfVtk/+zAP

>>243 เรื่องตะเบ็งเสียงนี่เหมือนจะเป็นแค่ตอนแรกๆ นะ กูก็รำคาญฉิบหาย พอสัก 10 กว่าตอนก็ไม่ค่อยทำเสียงตะเบ็งละ(แต่แหกปากเหมือนเดิม)
แล้วมึงอย่าโดนมูฟวี่หลอกเรื่องคุณภาพล่ะ ซีรีส์นี่ยังไงมันก็งานรายสัปดาห์อะ อย่าไปคาดหวังเยอะ (แต่ไอ้ซีนเทพๆ นี่แม่งก็ดีสัตว์ๆ ไปเลย) กับเพลง Haruka Mirai (เพลง OP แรก)นี่เพลงชาติเรื่องนี้เลย ฟังครั้งแรกแม่งก็ J-rock ดาดๆ ทั่วไป แต่พอเอามาใช้ในเรื่องแม่งกลายเป็นขาดไม่ได้เลย 555555

251 Nameless Fanboi Posted ID6:sfaQO02HzX

>>247-250 ถ้าด้วยนิสัยตัวเองที่ดูแหลกเพื่อเก็บข้อมูลอาจจะไม่ข้ามละมั้ง แต่ก็ขอบใจที่แนะนำมา เอาไว้ถ้ามันแย่เดี๋ยวมาบ่นให้ฟัง 555

เรื่องคุณภาพงานฉายแบบทีวี กับมูวี่ อันนี้เข้าใจไม่ยากอยู่ละ

252 Nameless Fanboi Posted ID6:CuwqZmKZT.

ไอ้ตอนที่ไปช่วยมารีน้องไอ้ซิสค่อมถูกจับไป นึกว่าจะแค่อีเวนท์สั้นๆแค่ทำมาเชื่อมความสัมพันธ์ให้อัสต้าแต่แม่งซัดกับพวกระดับโครตบอสกันหลายตัวเลย ถ้าไม่ยัดตลกแทรกบ่อยระหว่างสู้กันเครียดๆน่าจะดีกว่านี้

253 Nameless Fanboi Posted ID6:PGh7JX0Zdv

ดู black clover จบss1ละ (51ตอน) เท่ากับว่าดูไปได้ 1/3 ของเมะที่มีตอนนี้ ทึ่งตัวเองเหมือนกันดูอะไรเยอะหลายตอนได้ภายใน2-3วันอาจเพราะตอนน้ำไม่ค่อยมีด้วยละมั้งเลยดูได้ไหลลื่น ลงไปวิหารน้ำแม่งซัดบอสสนุกดีหน่วยกระทิงมีบทกันทุกคน สงสารก็แต่กอร์ดอนโดนทิ้งเฝ้าบ้าน555 พักสักหน่อยเดี๋ยวค่อยต่อ ss2ต่อลุยกันยาวอีก50ตอน

254 Nameless Fanboi Posted ID:tF8rRQzn6w

>>249 กูมาชอบด้วยคน แล้วเพลงแม่งพอดีกับOPด้วย เอาซะกูนึกว่านางเอกคือ... เลย(พิมพ์ชื่อไม่ได้ เดี๋ยวโม่งที่พึ่งเริ่มดูจะโดนสปอย) แล้ว OP10 คือเพลงที่กูย้อนไปดูซ้ำบ่อยที่สุดด้วยนะ แม่งเล่นกับสีขาวดำโคตรดี

255 Nameless Fanboi Posted ID6:9cm4IMRQpc

>>253 ถ้ามึงซัด 51 ตอนแรกจบใน 3 วันได้นี่ที่เหลือคงไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วมั้ง เพราะกูว่าช่วงก่อนลงวิหารใต้สมุทรนี่แทบจะใช้คำว่าน่าเบื่อได้เลย
ถ้าจำไม่ผิดหลังจากนี้จะมีบทออริฟิลเลอร์คั่นเล็กๆ หน่อยนึง จะย้อนไปว่าทำไมอัสต้าใช้ดาบเก่ง เพราะเจออาจารย์หัวแดงมาช่วยสอน ในมังงะไม่มีตรงนี้จะข้ามก็ได้ แต่พอไปอีกภาคนึงที่ไปป่าแม่มด(ในมังงะมีบทนี้) ไอ้อาจารย์นี่จะมีบทเข้ามาอยู่ในตี้ด้วยซะงั้น แต่ไม่ได้มีผลกระทบกับเรื่องขนาดนั้นหรอก

256 Nameless Fanboi Posted ID6:ZKpHmBami0

ฟรานเซลกับเมียอยู่ในนิยาย ブラッククローバー 暴牛の書

257 Nameless Fanboi Posted ID6:ZKpHmBami0

ดูจบบทแม่มด พอรักษาแขนหายช่วงแรกที่ศัตรูมาบุกอัสต้าแม่งอวดดียังไงไม่รู้ ไอ้แทรกบทตลกระหว่างกำลังสู้เครียดอยากให้ลดๆลงบ้างโดยมากก็ตอนอัสต้าอยู่ในฉากด้วยนี่แหละ ตอนใช้พลังปิศาจฉากสู้โครตน่าเบื่อแบบครับๆฉากอลังการ(แต่ไม่สวย)แล้วเมื่อไรจะเผด็จศึกไอ้ตัวดูดพลังได้ซะที

258 Nameless Fanboi Posted ID6:QZ6fGXLBlr

>>257 ก็ช่วงนี้มันเผา...

259 Nameless Fanboi Posted ID6:lpcql+VDh+

ไอ้ช่วงนั้นน่าเหมือนจะเป็นซีนทดลองแอนิเมชันมากกว่า(แล้วผลก็ออกมาแล้วว่าไม่เวิร์ค 5555555) หลังจากนั้นก็ไม่มีอาร์ตสไตล์แบบนี้ละ
ส่วนเรื่องสู้ไปฮาไปนี่หลังๆ ก็แทบไม่มีแล้วมั้ง

260 Nameless Fanboi Posted ID6:vfkTGsjfBC

สมเป็นอนิเมเวอร์ชั่น ตอนเทศกาลมอบดาว เพิ่มฉากยามะกับแจ็คแข่งกันขายของกับจะไปตีกัน กับฉากชาล็อต แวนเนสซ่าเปลี่ยนชุดแข่งทั้งที่ในเรื่องแค่ดวลไวน์

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.