#รีวิว
ยามเมื่อสุริยันสิ้นแสง☀️
คะแนน : 4.5 ดาว
แอพเขียว จบ ss1
โรแมนซ์แฟนตาซี ไม่ทะลุ ไม่ย้อนเวลา
"สิ่งที่หลงเหลือจากสงครามอันทรงเกียรติคือ ความรวดร้าวของผู้เหลือรอด และภาพมายาจอมปลอมของสงครามที่ไม่ให้สิ่งใดนอกจากธุลี"
เออร์คิน หมอสมุนไพรจากแดนเหนือถูกจ้างให้ไปรักษาเจ้าของปราสาทผู้หนึ่งที่เมื่อยามอาทิตย์อัสดงก็จะทุรนทุรายดั่งไฟเผา ด้วยความสามารถ เขาคือคนเดียวที่รักษาเจ้าของปราสาทได้ จึงถูกจ้างให้มาทำงานภายในปราสาท แม้ว่าเขาจะเป็นคนแดนเหนือที่เป็นที่รังเกียจของจักรวรรดิ แต่เพื่อค้นหาสาเหตุเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพ่อแม่ที่เกิดจากน้ำมือของแม่มดสุริยัน จึงมาทำงานในที่แห่งนี้ และเขาได้บังเอิญพบกับ คาย่า สาวใช้ในปราสาท โดยไม่รู้เลยว่าสาวใช้คนนี้คือ ฮิลดิการ์ เจ้าของปราสาทและแม่มดสุริยันที่เขาต้องการสังหาร
นี่เป็นหนึ่งในมังฮวาที่ underrated โคตรๆ มีการวางโครงเรื่องได้แน่นมาก ไม่มีอะไรที่อยู่ดีๆก็ใส่เข้ามา แต่ทุกปมคือปูไว้หมดแล้วแค่รอจะเล่า และถ้าใครอยากอ่านเรื่องที่เน้นการพัฒนาของแต่ละตัวละครคือกูแนะนำเรื่องนี้เลย ทุกตัวละคร พระเอก นางเอก พระรอง ตัวละครสมทบทุกคนคือมีปมในใจที่เกิดจากสงครามว่ามันหล่อหลอมให้เขามีนิสัยแบบนี้ได้ไง แรงจูงใจในการทำสิ่งต่างๆคืออะไร ทุกๆอย่างสมเหตุสมผลและเข้าใจได้หมด เอาจริงๆนะเรื่องนี้ไม่น่าติดแท็กหลักว่า โรแมนซ์แฟนตาซี ควรติดแท็กว่าดราม่าดีกว่า มันก็เลิฟไลน์ในเรื่องแหละ แต่เนื้อหาส่วนๆอื่นของเรื่องมันหนักเหมือนยาขมมากๆๆ จนพาร์ทโรแมนซ์มันดูไม่เด่นชัด ใครที่บอกเรื่องครอบครัวผัวคลั่งรักว่ารักกันช้าาาาาา จะรักกันกี่โมง มึงมาดูเรื่องนี้เลย จบ ss1 ขอให้พระนางหวานกันยังยากเลย555 อาจจะด้วยเพราะธีมหลักของเรื่องคือ ความโหดร้ายของสงคราม ที่ไม่ใช่แค่บรรยาย 2-3 บรรทัดว่าตัวเอกไปทำสงครามแล้วได้รับชัยชนะเฉยๆ เดี๋ยวกูจะไล่รีวิวตัวละครหลักแต่ละตัวนะ(สปอยจะแยกไว้)
นางเอก - ฮิลดิการ์ / คาย่า
นางเอกคลูเดเระ เงียบๆ แต่ไม่ได้แข็งทื่อเหมือนท่อนไม้หรือเฟียสจนมารยาททรามแบบตัวละครหญิงเรื่องอื่นๆ นางมีอารมณ์ความรู้สึกที่อยากสื่อ แต่ด้วยความที่โดนจับมาเป็นอาวุธสงครามเดินได้ตั้งแต่เด็กๆ เลยกร้านโลกซ่อนความรู้สึกไว้ ช่วงแรกๆเลยอาจไม่ค่อยมีสีหน้าอื่นๆนอกจากหน้าตายกับยิ้มมุมปากแบบเมะหึ แต่พอเจอพระเอก ได้ออกมาใช้ชีวิตในฐานะสาวใช้ปลอมๆแล้วก็อ่อนโยนขึ้น เป็นห่วงคนรอบๆข้างเช่นลูกน้อง เผยความน่ารักกับพระเอก แต่ก็ไม่ได้คลั่งรักจนโยนสมองทิ้งมะงื้อมะแง้ นางก็ยังคงเป็นฮิลดิการ์คนเดิม แถมโคตรแมนเลย สั่งการทัพได้ ดูแลลูกน้องดี สมกับเป็นแม่ทัพ ถึงจะไม่บึกบันแต่ก็เข้าใจเพราะนางยิงบีมได้ขนาดนั้นคงไม่ต้องไปกินโปรตีนอัพกล้ามหรอก555
พระเอก - เออร์คิน
พระเอกไทป์ลูกหมาตัวโตโคตรๆ ยิ้มเก่ง อบอุ่นใจดี มีน้ำใจต่อคนรอบตัวตามขนบพระเอก แต่เวลาโกรธคือน่ากลัวเหี้ยๆ ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแม่มดสุริยันที่(เชื่อว่า)ฆ่าพ่อแม่ตัวเองแล้วยิ่งน่ากลัว x10 เพราะเมื่อก่อนก็เป็นคนแดนเหนืออยู่อย่างมีความสุขกับพ่อแม่ จนบุพการีจากไป ร่อนเร่ไปมาลำบากนั่นนี่ การที่นางเอกทนความเจ็บปวดในอดีตได้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าพระเอกจะทนได้เหมือนกันนะ พื้นฐานการเลี้ยงดูกับอุปนิสัยมันต่างกัน ผู้ชายตัวโตๆอย่างพระเอกก็ร้องไห้หรืองอแงเจ้าอารมณ์ได้นะเว้ย ในเมื่อปมมันหนักหนาสาหัสขนาดนั้น
พระรอง - เทอเรียน
เอ้าๆ~ ใครเป็นสายอยากกอด อยากมุๆหัว อยากโอ๋เอ๋พระรองเชิญมาหาที่พ่อหนุ่มนี่เลยจ้า~ กูยกให้ตัวละครนี้มีการพัฒนาที่ดีที่สุดใน ss1 เปิดตัวมาดูเป็นไอ้หัวเหลืองขี้เสือก ปากหมาหาเรื่องพระเอกตลอด แต่เพราะครอบครัวดันเสียเสาหลักไปเพราะรบกับคนฝั่งเหนือ แถมแม่ก็มาเป็นบ้า เลยฟาดงวงฟาดงาใส่พระเอก แต่พอต้องทำงานร่วมกันในปราสาทแล้วก็ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ เข้าใจพระเอกมากขึ้นเหมือนที่คนว่าไว้ "ถ้าผู้ชายแมนๆต่อยกันแล้วจะสนิทกันทีหลัง" แบบนี้เลย555 ยิ่งหลังๆตัวเองมีจังหวะจีบนางเอกนะ แต่รู้ว่านางเอกรักใครก็ยอมหลีกทางให้พระเอกแบบ เชี่ยเอ้ยยยยยยย จากคนที่น่าหมั่นไส้สู่คนที่นักอ่านร้องเห็นใจอ่ะคิดดู ยิ่งหลังๆคือชีวิตมืดหม่นขึ้นเพราะทางบ้านยิ่งน่าเห็นใจ
กรีเชลด้า & แอนิต้า
สองพี่น้องที่คนพี่(กรีเชลด้า)ดูจืดจางโคตรๆ5555 คือไม่ได้จืดจางจนแย่อะไรหรอก แต่นางเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่ต้นจบจบเลยน่ะ ภักดีเข้มแข็งอย่างไรก็อย่างนั้น ถ้าให้พูดในฐานะบุคคลจริงๆกูคงตบบ่าแล้วบอกเป็นเพื่อนที่ดีนะเธอ555
แอนิต้า เรียกว่านางรองได้มั้ยวะ(?) เป็นต้าวก้อนแห่งความสดใสน่าเอ็นดู เห็นนางตัวเล็กๆแต่จริงๆนางอายุเกิน 17 แล้ว มาเวย์เดียวกันกับพระรอง แอบรักพระเอกแต่ก็ยินดีหลีกทางให้นางเอก แถมเป็นเพื่อนที่ดีกับนางเอกอีกด้วย