ก็ถ้าทำงานไม่เป็นปรับตัวไม่ได้เดี๊ยวเค้าก็เปลี่ยนออกยังไงถึงจะเส้นใหญ่แต่ในแง่ของบริษัทถ้ามันตอบสนองนโนบายไม่ได้ไม่ว่าเก่งหรือกากมันก็ไม่เกี่ยวละเรื่องโยกแผนกบางทีมันมองต่างมุม คือมันเห็นว่าบางทีคนๆนึงเก่งอยู่แล้วน่าจะไปทำอย่างอื่นได้ดีพอๆกันแล้วผลักดันคนที่น่าจะมีโพเทนเชียลมารับไม้ต่อได้เพิ่มดีกว่า พึ่งคนแค่คนเดียว เพราะถ้าเกิดวันที่คนๆนั้นไม่อยู่จะทำยังไง มันถึงต้องมีหัวหน้าฝ่ายบุคลไง
ที่มันแย่ยิ่งกว่าพวกนี้คือ นโยบายของบริษัทแม่งโดนสั่งลงมาจากคนที่ไม่รู้เหี้ยไรเลยมากกว่า อันตรายกว่าประสิทธิภาพของคนในองกรอีก เหมือนเคสค่ายเกมบางค่ายนะแหละ
คือมึงต้องเข้าใจว่าในโลกของการทำงานแบบองค์กรต่อให้แม่งเหี้ยยังไงมึงก็ต้องผ่านการคัดกรองมาระดับนึงอยู่ดีถึงเป็นเด็กฝากก็ตามไม่ได้แปลว่าเด็กฝากจะทำงานไม่เป็นเสมอไป ตรงข้ามไอ้พวกที่ชอบคิดว่าตัวเองเก่งเจ๋ง ทรงตบะกว่าใครในสำนักงานนี่แหละมักจะเป็นตัวปัญหามากกว่า บางทีเหี้ยขนาดก่อนออกวางยาทิ้งขี้ใส้ให้เช็ดด้วย