>>723 ไม่ใช่ไม่เขียน แต่ถ้าจะเขียนละให้คนอินแบบสืบสวน สอบสวน ลึกลับมันยาก ฟีลลิ่งการดึงอารมณ์มันคนละอารมณ์กัน(เช่นแนวสืบสวนแล้วคดีพลิกไปมาคือความตื่นเต้น) แต่ถ้าแบบโรแมนซ์พลิกคาร์คือคนเขียนมันต้องเก่งพอที่จะให้คนรู้สึกว้าวอะ ต้องคิดบทแบบที่หลอกว่ายัยนี่คือนางเอกละมาตลบหลังอีกทีว่าจริงๆแล้วคนที่อกอวยกันมาคือผู้บงการทุกอย่าง ซึ่งเทียบหับแนวสืบสวน ลึกลับอะไรแบบนั้นแท่งโครตตตยาก แต่อันนี้แม่งเปลี่ยนดื้อๆแบบคิดไม่ออกละงั้นเปลี่ยนมันโต้งๆเลยละกันสภาพมันเลยออกมาแบบนั้นlol
ถ้าเขียนมากากๆมันจะมาแบบเดียวกับมังงะชาวเกาะพวกแนวผู้กล้าอะ ตั้งให้เป็นผู้กล้าอยู่ดีๆเสือกโลภละเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังตีนเลย เหตุผลเหรอ? ก็แค่โลภ จบ เหตุผลของการเแลี่ยนคิอแค่นั้นแหละออจากเปลี่ยนเฉยๆ ส่วนแนวสืบสวนคือมันเล่นการบิ้วอารมณ์มาก่อนละพลิกอีกที มัน มันสร้างคงามไม่ไว้ใจ เล่นกับบรรยากาศมาให้ระแวง แล้วมาเฉลยไม่ใช่แบบ เออ เปลี่ยนละเพราะอยากเปลี่ยน
กุจะยกตัวอย่างเรื่องที่พระเอกเป็นคนดีแต่เปลี่ยนมาเป็นไอ้เหี้ยให้คือเรื่ิองผู้กล้าล้างแค้น(ไม่ใช่ไอ้เรื่องฮีลนะ) อันนั้นมันพลิกคาร์หน้ามือเป็นหลังตีนแต่เหตุผลการเปลี่ยนมันสมเหตุผลมากพอที่จะให้เปลี่ยนจาก”ผู้กล้า”กลายเป็นไอ้ห่าได้ กลายเป็นซาดิสม์ชอบหาย นางเอกก็กลายเป็นสายMให้พระเอกปู้นยี้ปู้ยำ
ที่ยกตัวอย่างมานี่ไม่ใช่โรแมนซ์แต่เป็นแนวล้างแค้น ยกมาเทียบว่าถ้าเขียนเหตุผลดีๆที่ฟังขึ้นพอต่อให้เป็นโรแมนต์ที่คาร์พลิกหน้ามือเป็นหลังตีนก็ทำได้ ไม่ว่าจะแนวไหนมันก็พลิกคาร์หน้ามือเป็นหลังตีนได้ทั้งนั้นอะถ้าคนเขียนเก่งพอที่จะลงเหตุผลว่าทำไมตลค.นึงเปลี่ยนเป็นไอ้เหี้ยได้ที่ไม่ใช่การแถโง่ๆแบบจริงๆแล้วเธอคือนางเอกแต่ชั้นคือนางร้าย เธออ่านไม่จบเองต่างหากเลยเข้าใจผิด แม่งบอกมาแต่นี้ความอินติด-ล้านแต้ม