สึบุรายะ น่าจะหนักที่สุดละ
ขาดทุนจากการถ่ายทำหนังโทคุโดยเฉพาะพวกอุลตร้าแมน ช่วงสุดท้ายของยุคโชวะ คืออุลตร้าแมนเลโอ งบหมดจนสุดท้ายต้องตัดบทตัวละครหลักให้ตาย เหลือแค่ตัวละครหลักแค่คนเดียว
หลังจากนั้นสึบุรายะ ก็ลดทุนทำโทคุเรื่องอื่นไปด้วย อย่างโทคุตระกูลไดโนเสาร์ หนึ่งในนั้นคือไอเซนบอร์ก ที่ผสมการนำอนิเมะและฉากไลฟ์แอคชั่น
ส่วนอุลตร้าแมน เลี้ยงกระแสด้วยการฉายหนังตัดจากฟุตเทจตอนเก่า ใส่ฉากใหม่ แถมยังไปขายลิขสิทธิ์ให้กับลุงที่เคยเป็นเด็กฝึกงานของสึบุแล้วไปทำค่ายหนังตัวเอง โดยได้ทำ หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ และ ยักษ์วัดแจ้งพบจัมโบ้เอ จนประสบผลสำเร็จ แล้วกลับมาทำอีกก็ช่วงโจเนียสแต่ลดสเกลเป็นอนิเมะเต็มตัว โดยใช้สตูดิโอซันไรส์มาผลิตอนิเมะให้ พอโจเนียสนิยม ก็เริ่มทำอุลตร้าแมนแบบคนแสดงอีกครั้งคือ 80 โดยใช้ธีมของครูเป็นพระเอกมาใช้ แต่ว่าผลกระทบต่องบถ่ายทำนอกสถานที่ ทำให้ต้องปรับบทใหม่ให้ลาออกจากครู แล้วการเดินเรื่องก็กลับไปวนสูตรเดิม
หลังจบ 80 ก็เว้นวรรคไป สึบุทำ อันโดรเมรอส ตอนแรกเป็นนิยายภาพ แล้วมาทำหนังแสดงอีกแต่ว่าทำสั้นแค่ 10 นาทีต่อตอน
สึบุรายะก็พยายามจะตีตลาดนอกด้วย เริ่มจากอุลตร้าแมน USA ที่ร่วมกับสตูดิโออนิเมชั่นของเมกาอย่าง Hannah Barbara ทำแบบหนังตอนเดียวจบ ตามด้วยเกรท ที่ลงทุนตีตลาดในออสเตรเลีย แต่ว่าไม่ได้ฉายในประเทศตัวเอง และพาวเวิร์ดก็ตีตลาดในเมกาอีกครั้ง แต่ว่าหลังบ้านกลับแย่ตรงที่ ผู้ร่วมทุนผลิตที่เมกากลับผลาญงบประมาณการถ่ายทำ จนทำให้ฉากสู้ดูน่าเบื่อ แต่ฟีดแบคในเกาะก็ตอบรับดี แต่เจ็บตัวคืนทุนน้อย
จนสุดท้ายมาเดิมพันที่ทีก้า ผลปรากฏว่าได้รับความนิยมมาก จนทำเรื่องต่อไปได้ ทว่า เกิดมีเรื่องกับลุงเด็กฝึกงานที่เคยขายสิทธิ์ จนช่วง ยุค N Project ความนิยมลดลง จนต้องกลับไปทำรูปแบบเดิมตั้งแต่แม็กซ์ และ เมบิอุส