แปะไว้คุยเรื่องโดราเอม่อนต้อนรับ stand by me 2 เห็นยังไม่มี
Last posted
Total of 275 posts
แปะไว้คุยเรื่องโดราเอม่อนต้อนรับ stand by me 2 เห็นยังไม่มี
เหมือนเคยมีกระทู้อยู่นะ แต่ไม่มีใครรันเลยจนกระทู้นั้นตกหมดอายุไปแล้ว
แต่ขอเจิมล่ะกัน ช่วงนี้ Netflix ลงโดราเอมอนภาคหนังโรงกันรัวๆ เลย ส่วนตัวชอบนะสำหรับเวอร์ชั่นใหม่
เคยดูโดราเอมอนยุคอ้วนๆอืดๆ ชิสุกะนิสัยไม่น่ารักแบบตอนนี้เลย สมัยนั้นนักเขียนชอบแต่งให้ตัวละครหญิงนิสัยไม่ดีเท่าไหร่
Movie ภาคหลังไม่หนุกเลยอะ หรือเพราะกุโตแล้ว
โนบิตะก็ไม่ต่างอะไรกับนักหลวม ยิ่งมีม่อนยิ่งหลวมเข้าไปใหญ่
กูชอบภาคที่ให้สตูดิโอจีนทำอ่ะ ที่ชื่อภาคว่าแค้นนี้ต้องชำระ กูให้เป็นภาคที่สนุกที่สุดแล้ว
ชอบภาคไซอิ๋ว น่าจะเป็นภาคแรกที่เป็นออริอนิเมแท้ๆไม่มีต้นฉบับมังงะด้วย
สมัยเด็กๆเช่าวิดิโอมาดูซ้ำบ่อยมาก
พระถังโดนขึ้นโต๊ะจีนออฟสกรีน
แม่โนบิตะปรุงจิ้งจกให้โนบิตะแดก....
เริ่มเกิดมุขล้อโนบิตะขึ้นภาคพิเศษแล้วบุคลิกเปลี่ยนเป็นพระเอก(ได้เป็นเห้งเจีย)
>>12 บรรยากาศแม่งหลอนทั้งเรื่อง ขนาดตอนรู้สาเหตุแล้วยกพลกันไปช่วยแล้วก็ยังดูมึนๆอึนๆห่อเหี่ยวพิกล โนบิตะแม่งก็ไม่ได้เก่งเว่ออะไรด้วย สู้แต่ละทีทุลักทุเลสัส ตอนสุดท้ายที่โดนจับนี่ลุ้นมาก
จะว่าไปไอ้ของวิเศษแนวๆสร้างปิศาจของโลกอนาคตนี่ระบบเซฟตี้ท่าจะมีปัญหาแน่ๆ ทั้งตอนอัศวินโลกความฝัน ตอนไซอิ๋ว ตอนโลกความฝันนั่นก็ปล่อยไอ้ลูกจ๊อกออกมาโลกจริงได้ไงไม่รู้ ดีนะไม่ปล่อยจอมมารหลุดมาด้วย ของไซอิ๋วนี่หนักเลย ปล่อยมุดออกมาได้ไม่รู้ตั้งกี่ตัว แล้วเสือกมีพลังจริงๆจนโลกมีปีศาจจริงไปฉิบ
>>4 กูก็รู้สึกเหมือนกัน อารมณ์มูฟวี่ภาคเก่าๆไม่เหลือเลยกลายเป็นการ์ตูนเด็กโดยสมบูรณ์
ภาคสุดท้ายที่กูว่ายังสนุกอยู่น่าจะเป็นยักษากับดินแดนสายลมมั้ง
ภาคต่อๆมาตัวละครแม่งขาดความเป็นมนุษย์ไปยังไงไม่รู้ตัวไหนดีก็ดีไปหมด ตัวไหนชั่วก็ชั่วยันเงา รวมกับเนื้อหามูฟวี่ที่จริงจังน้อยลงเยอะกับโลกสวยขึ้น เด็กหนวดดูแม่งเลยไม่สนุก
ภาคหลังๆ ที่ทีมงานใหม่ทำ คงเน้นขายเด็กจริงๆ นั่นแหละ เนื้อเรื่องดูย่อยง่าย แต่มีภาคหนึ่งที่ทำแล้วแป้กก็ตอน ตำนานยักษ์พฤกษา เหมือนหนังชีวิตปราชญายังไงชอบกล
สมัยก่อนมันดูมีความไซไฟกว่าเยอะด้วยมั้ง อย่างตอนแดนปีศาจ ที่มีรูปปั้นโนบิตะ โดเรมอน เล่นเรื่องของเวลา หรือแบบ ตอนที่ไปป่าดงดิบ ที่วิธีคือตัวเองในอนาคตวนลูปกลับมาช่วย งานสมัยก่อนมันมีมุกซับซ้อน ไอเดียเฉลยให้ทึ่งกว่า
>>13 ตอนอัศวินโลกความฝันกุคิดต่างว่ามันน่าจะเป็นอีกโลกไปเลยจริงๆว่ะ ไม่งั้นอิปีศาจนกมันจะออกมาให้ลูกเชอร์รี่หัวไวกับโนบิตะก่อนได้ไง ตอนนั้นโนบิตะยังไม่ได้ซื้อแผ่นเกมด้วยซ้ำ(เอาจริงๆก็มันนั่นแหละที่เสี้ยมให้โนบิตะซื้อแผ่นเกมอัศวินความฝัน) อารมณ์แบบลูกกะจ็อกจอมมารล่อลวงผู้กล้าจากโลกอื่นมาฆ่าทิ้ง จะได้ไม่มีผู้กล้าคนต่อไปมาขวางอีกเพราะดาบกับเกราะเงินที่ใช้ฆ่าจอมมารมันก็เลือกโนบิตะไปแล้ว
ยักษ์พฤกษาเป็นภาคเดียวที่กูดูไม่รู้เรื่อง(เพื่อนกูที่ไปดูก็เช่นกัน) แต่รู้สึกว่ามันเป็นภาคที่โคตรเจ๋งและชอบฉิบหาย เหมือนได้ก้าวข้ามความเป็นหนังโรงม่อนที่เคยมีมาไปอีกสเต็ปนึงเลย(แต่พอมันแป้กก็ไม่เคยก้าวกลับมาทางนี้อีกเลย 55555555555555 แต่ชอบจริงๆ นะ)
ปล. รีเมคภาคตำนานสุริยกษัตริย์ทีเถอะ ภาคโปรดกูเลย
>>18 กอดมึงรัวๆ ไม่คิดว่าจะมีคนชอบภาคสุริยกษัตริย์เหมือนกัน เอาจริงภาคนี้เอามาขยายปมได้เยอะเลยนะทั้งเรื่องท่านแม่ทีโอหรือเรื่องนางแม่มดว่าทำไมจองผลาญราชวงศ์ แต่สมัยเด็กที่กุดูยอมรับเลยว่าจระเข้กับแม่มดภาคนี้แม่งน่ากลัวชิบหาย แต่ให้น่ากลัวที่สุดในวัยเด็กกุยกให้มังกรมาฟูก้าภาคสายลม อิเหี้ยเป็นแผลใจวัยเด็กไปช่วงนึงเลย555
มึงคิดว่าเพราะโตแล้วเลยไม่สนุก กุแนะนำให้มึงลองเอาภาคพิเศษ สมัย อาจารย์ แกยังอยู่เอามาอ่านดูถ้ามึงอ่านแล้วสนุก ก็แสดงว่าไม่ใช่เพราะมึงโตแล้ว แต่เพราะเนื้อเรื่องสมัยนี้มันไม่ได้เขียนให้อ่านได้ทุกเพศทุกวัยแบบสมัยก่อนแค่นั้นเอง
ใช่เหรอ
เอาคนสมัยนี้ไปอ่านเจอฉากชิซูกะแก้ผ้าอาบน้ำคงโดน sjw รุมประนาม pedo ไปล่ะ
ตอนสมัยเด็กถึงไซอิ๋วจะเป็นภาคที่ชอบที่สุดก็เถอะ แต่ถ้าเลือกได้ตอนนั้นไม่ค่อยกล้าจะเปิดมันดูซ้ำเลย แม่งแอบน่ากลัวบวกหลอนจริง ถถถถถ
กลายเป็นภาคที่เปิดดูบ่อยๆเป็นภาคที่เนื้อเรื่องน่ากลัวน้อยกว่าแทน และดันจำไม่ได้ด้วยนะว่าภาคอะไร -*-
กูกลัวภาคที่มันไปดินแดนเวทย์มนต์แล้วถูกสาปเป็นหินอะ
เห็นด้วยว่าภาคใหม่ๆมันไม่ค่อยหนุกมาก เนื้อเรื่องมันไม่ลุ้นเหมือนภาคเก่า ภาคหุ่นเหล็กกูให้เดอะเบสท์เลย
สมัยก่อนเหมือนเขาทำแบบสร้างๆไปด้วยมั้ง สมัยนี้ทำมาเผื่อเด็ก ตัวร้ายไม่น่ากลัว ตอนพระจันทร์ 2019 ก็ไม่รู้สึกอะไรมาก ไดโนเสาร์ตัวใหม่ยังไม่ได้ดู ตอนน้ำแข็งก็ไม่รู้สึกมาก ตอนเกาะสมบัติดูดีอยู่ กูรู้สึกว่าตอนใหม่มันลายเส้นสวย มุมกล้องเยอะ สีก็สวยดนตรีก็ดี แต่มันดูแล้วไม่รู้สึก 'เหนื่อย' เหมือนสมัยเด็กอะ รู้สึกว่าแปปเดียวจบแล้ว ยังสู้ไม่พอ ส่วนภาคเก่าเหมือนอาจารย์แกก็ทำไปเรื่อยๆไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกเด็ก มันเลยน่ากลัวเหมือนไปอยู่กับแก๊งม่อนจริงๆ
ถ้าแบบผู้ใหญ่ดูแล้วซึ้งกูให้ stand by me 2 ที่เพิ่งออกนี่แหละ ดูเป็นหนังสังคมผสม sci-fi ดี ไหนจะเรื่องทฤษฎีเวลาอีก แล้วก็ความผูกพันด้วยถ้าใครดูโดราเอม่อนมาเกือบทุกตอนอะสำหรับเด็กกูว่าภาค stand by me มันไม่ค่อยซึ้ง เด็กๆกูดูตอนแต่งงานไม่ค่อยรู้สึกอินเลย มาอินตอนโตนี่แหละ
ภาคที่ขึ้นหึ้งในชีวิตกูให้ สายลม สุริยกษัตริย์ แดนปีศาจ หุ่นเหล็ก อาณาจักรหุ่นยนต์ แอนิมอลแอดเวนเจอร์(ที่มีพ่อโนบิตะ) ส่วนภาคเล็กที่ไม่ใช่การผจญภัยกูชอบน้ำยาโกหก โนบิตะได้ 100 คะแนน แล้วก็ตอนที่พาใครสักคนไปเจอยายหรือย่าในอดีต
>>28 ภาคใหม่ๆถ้าทำแบบสายลมก็ดีนะ ลดความรุนแรงกับความน่ากลัวลง แต่ยังมีความจริงจังในลายเส้นกับเนื้อเรื่องอยู่ ที่สำคัญไม่เน้นโชว์พลังมิตรภาพจ๋าๆจนตะหงิดๆกับชอบทำหน้าตัวละครบิดๆเบี้ยวจะให้ตลกแต่ไม่ขำด้วยแบบภาคใหม่
กูว่าสายลมเป็นจุดกึ่งกลางของทั้งแบบใหม่และเก่าได้ดีเลย ถ้าทีมสร้างจะเปลี่ยนแนวทางก็อยากให้มาทางนี้จัง
>>28 อีกตอนคือยิงปืนด้วยนิ้ว เท่ชิบหาย ดูแล้วเบียวเลย https://www.dailymotion.com/video/x6kzu79
>>17 ก็อาจจะใช่ ถ้าให้เดาหลักการของเครื่องก็คงสร้างมิติเสมือนที่ตรงเงื่อนไขขึ้นมา แต่ไอ้เทปความฝันที่เป็นเรื่อง มันอาจทะลึ่งไปตรงกับมิติอื่นที่เป็นโลกจริงมีปีศาจจริงๆ ก็ได้มั้ง หลักการอาจจะคล้ายๆตอนอาหรับราตรี ที่ชิสุกะติดในโลกนิทานอาหรับราตรี แต่เพราะนิทานมันอิงความจริงเยอะเลยกลายเป็นว่านางไปติดในยุคอาหรับราตรีจริงๆได้ แต่ติดที่ตอนอัศวินความฝันนี่แม่งไม่มีใครเอะใจหรืออธิบายตรงนี้เลยนี่สิ ตอนจบก็แค่เก็บเทปกลับคืนไปเฉยๆ
อ้อ มีใครชอบตอน7โดราโดรามั้ย ที่เพื่อนโดราเอมอนมาอีก6ตัว กูว่ามันขยายสเกลได้ดี พวกเพื่อนม่อนแม่งเก่งกว่าม่อนหมดเลย ทั้งสายปืนแม่น สายกังฟู สายเตะบอล สายกระทิงขวิด บอสบางตัวโหดกว่าภาคมูฟวี่ด้วย เช่นตอนไปลุยแดนปืศาจ มีตัวโหดๆเยอะน่าดู ทั้งมังกร ปิศาจอ่านใจ จบด้วยปืศาจร้อยตา ส่วนตัวถ้านับแค่ฉากบู๊กูชอบกว่าตอนตะลุยแดนปิศาจต้นฉบับอีก อีกตอนที่ชอบของเซ็ตนี้ก็ตอนที่ไปประลองทำขนมกับหุ่นโดราที่ทำขนมเก่ง อันนั้นทำออกมาดูอร่อยหลายอันเลย ชอบอันของม่อนที่ชนะคือโดรายากิครีมแบบอ่านแล้วรู้สึกว่าโคตรอร่อย
อ้อ อีกตอนที่ชอบเป็นของไพเรท เป็นตอนที่โดราเดอะคิดกับวังโดราหลงไปในโลกปัจจุบันของตะกับม่อน แต่ดันไปในสภาพตัวเล็ก แล้วไปทำอีท่าไหนจำไม่ได้ ได้ไปเห็นความทรงจำของตะกับม่อนตั้งแต่แรก ทั้งอีเว้นสำคัญๆ ทั้งตอนไปผจญภัยภาคมูฟวี่ มันได้อารมณ์ไกด์บุคดี เสียดายคงไม่ได้เห็นแก๊งป่วนพวกนี้อีกแล้ว ขนาดมูฟวี่ที่ไปโลกอนาคตยังไม่มีพูดถึงหรืออะไรเลย
>>32 พูดถึงภาคอาหรับราตรีกุดูตอนเด็กยังแอบรู้สึกเลยว่ามันแถนิดๆ555 แต่ถ้าไม่แถให้ชิซุกะไปโผล่โลกจริงได้แม่งจะกลายเป็นbad endไป(ติดอยู่ต่างมิติไม่ก็ตายห่าไปจริงๆ) แต่ด้านเนื้อเรื่องดูแล้วก็สนุกดีนะให้ฟีลผจญภัย+เหงาๆ แถมเพลงประกอบก็เพราะด้วย
ส่วนภาคอัศวินความฝันเป็นภาคที่กุดูตอนเด็กแล้วรู้สึกเบียวมาก ชอบคิดว่าถ้านอนเยอะๆจะได้ฝันบ้าง5555 แต่พอมาดูตอนโตแล้วกลับรู้สึกว่าเป็นภาคที่เฉลยอะไรๆน้อยมาก ทั้งอินกเหี้ยออกมาโลกจริงได้ไง? เชอร์รี่ที่ให้โนบิตะกินคือการแปะป้ายว่าเด็กนี่คือผู้กล้า? เทพธิดาที่หน้าเหมือนชิซุกะสรุปไม่ใช่npc เริ่มต้นหรอกเหรอ แล้วกลางเรื่องหายไปไหน ฯลฯ แต่เป็นภาคที่ดูแล้วสนุกมาก แถมชิซุกะเด่นสุดๆจนน่าแปลกใจ(ปกติหนังชอบดันไจแอนท์กับซุนิโอะ แต่ภาคนี้ตอนปลายๆเรื่องบทหายไปเลย555)
>>33 7โดราไม่ถูกดันเพราะไม่ใช่ผลงานต้นฉบับจารย์นั่นแหละ กุก็แอบเสียดายนะเพราะคาร์ทุกคนคือเด่นมากถ้าจะปั้นคือเอามาเล่นได้เยอะเลย และตอนกุดูภาคตะลุยโรงเรียนหุ่นยนต์นี่แบบอวยโดราเดอะคิดกับโดรามี่สุดๆ หวีดแรงตั้งแต่สมัยที่ยังไม่รู้จักคำว่าคู่ชิป/คู่จิ้นด้วยซ้ำ 555555ง
>>34 กูคิดแนวทางช่วยได้อีกแนวคือมิติของนิทานเรื่องเดียวกัน ต่อให้คนละเล่มก็ควรเป็นมิติเดียวกันป่ะ เหมือนในเกคโคโจเรย์ที่นิทานเรื่องเดียวกันไม่ว่าเล่มไหนก็จะเป็นโลกนิทานอันเดียวกันหมด ก็ให้หาอาหรับราตรีอีกเล่มมาโดดเข้าไปก็จบ แต่แบบนั้นก็ช่วยง่ายเกินอีก แบบที่เป็นอยู่ อ.ก็คงคิดแล้วว่าออกมาสนุกสุดแล้วละ ถึงจะอธิบายงงๆไปบ้างก็ตาม
แต่เรื่องอัศวินความฝันนี่ก็อย่างว่าอธิบายยากจริง มันเหมือนครึ่งๆกลางๆ โลกความฝันก็ไม่เชิง โลกจริงแต่มิติอื่นก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เหมือน อ.แกยังเขียนตรงนี้ได้ไม่ลงตัว เลยหาทฤษฎีมารองรับไม่ได้ละมั้ง
>>35 อ้าว เจอกองอวยเดอะคิด-มี่คนอื่นนอกจากกูแล้ว555 อยู่กับคิดแล้วมี่น่ารักขึ้นเยอะนะ ได้เห็นมุมผญเยอะขึ้น จากเดิมที่เพอเฟคทุกอย่าง เสียดายที่โดนตัดทิ้งทั้งยวงไปแล้ว ก็หวังว่าอีกซักหลายๆปี มูฟวี่แม่งเริ่มตัน อาจจะมีคนคิดอยากเอากลับมาก็ได้...มั้งง
มูฟวี่คงไม่มีตันแล้วมั้ง เริ่มเอาผู้กำกับภาพยนตร์จริงมาคุมเป็นภาคๆเลย
แฟนบ่นแต่รายได้ดีทุกปีคงได้แต่ทำใจ
มูฟวี่นี่กูจำได้ว่าอาณาจักรเมฆกับสามอัศวินในจินตนาการโดนใจกูสุดละ ตอนธรรมดาเก่าๆของ อ. ขนาดโตแล้วกลับไปดูยังสนุกเลย ตอนใหม่ๆนี่นานๆทีจะเจอตอนดีๆ
ทำมายังไงก็ขายได้ม่อนเนี่ย
>>41 ของเก่าที่อาจารย์เขียนโดยมากสนุกแล้วก็มีมิติกว่า ขนาดตอนธรรมดายังรู้สึกว่าสนุกกว่าพวกทีมงานทำทุกวันนี้เลย อันที่รู้สึกว่าแกเก่งคือเอาพวกตอนย่อยมาต่อยอดเป็นตอนยาวได้เนียนดี ผิดกับพวกทีมงานที่เอามาต่อยอดได้ค่อนข้างแย่ อย่างอันที่สาปส่งเลยก็ตอนที่ทำหลังแกเสียได้ไม่นาน อย่างตอนโจรสลัดกับอาณาจักรโฮ่งเหมียว
Sbm2 เพิ่งดูเมื่อวาน คนที่โตมากับม่อนแบบกูเจอแบบนี้นี่ร้องลูกเดียว เจอแฟลชแบค โดราเอมอนเป็นของเธอ เป็นของโนบิตะตอนที่ยังเป็นเด็กเข้าไปนี่แงเลย
แต่คิดว่าถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ผูกพันธ์น่าจะเฉยๆ
ส่วนตอนเก่าๆตามคห.บนๆเลยคือมันสนุกกว่า ดาร์คกว่า ไซอิ๋วนี่หลอนจริง ตอนอื่นๆอย่าง ไดโนเสาร์ โลกใต้ทะเล โลกหุ่นยนตร์ แดนเวทมนต์ กำเนิดญี่ปุ่น อาหรับราตรี ก็ลุ้น มีสถานการ์แบบพลาดมาก็ตายจริงๆตลอด และอุปกรณ์ที่ม่อนมีก็ไม่ได้เป็นแต้มต่อเลย วัดกันหน้างานอย่างเดียว บทดราม่าก็ถึง มีความขมแบบผู้ใหญ่ทุกเรื่อง
คิดถึงจัง ไปขุดหนังสือมาอ่านอีกรอบดีกว่า
>>47 ไอ้ที่ต้องพึ่งตำรวจกาลเวลานี่ตั้งแต่ไดโนเสาร์ของตะแล้วมั้ง ไอ้พวกนักล่าไดโนเสาร์นี่ก็มาจากอนาคตเหมือนกันนิ ถ้าบวกกันจริงๆม่อนก็ไม่น่าสู้ได้หรอก บางตอนอย่างสงครามหุ่นเหล็กนี่เจอหุ่นเป็นกองทัพก็แพ้เหมือนกัน เพียงแต่ตอนกิก้าซอมบี้นี่โชว์ให้เห็นกันชัดๆเลยว่าเทคเหนือกว่า เพราะของวิเศษขั้นเทพสุดอันนึงอย่างนาฬิกาหยุดเวลา โดนแก้ได้แบบง่ายๆ หมดทางสู้เลย
สำหรับกูโฮ่งเหมียวก็ยังสนุกอยู่นะ แต่หลังจากเริ่มนิวเจนมานี่ไม่ค่อยไหวจริงๆ รึเป็นเพราะกูเข้าวัยหนวดเต็มที่แล้วก็ไม่รู้ 555+
>>49 ถึงบอกไงว่าเป็นตอนแรกๆที่พึ่ง ไม่ใช่ตอนแรกสุด เพราะกูจำไม่ได้ว่าพีสุเกะกับญี่ปุ่นโบราณตอนไหนมาก่อนกัน
เรื่องเทคโนโลยีนี่กูว่าพวกอื่นที่เคยสู้ด้วยก่อนหน้านั้นมันยังเทคโนฯ ไม่หนีไปกว่าฝั่งม่อนเท่าไหร่ มีตอนเจอกับกีก้าซอมบี้นี่แหละที่โชว์จะๆว่าแพ้เทคโนโลยีแบบหมดรูปจริงๆ
>>46 ตอนพิเศษหลัง ๆ ก่อนที่อาจารย์แกจะเสียดูเหมือนแกจะเขียนให้โดราเอมอนไม่ใช่ตัวสารพัดประโยชน์เท่าไร ทุกคนต้องร่วมมือกันมากกว่า โดราเอมอนเจอสถานการณ์ทำให้ใช้กระเป๋าได้ไม่เต็มที่มากขึ้น ตรงนี้มองว่าบทแกวางได้พัฒนามากขึ้น ถึงแกเขียนแนวเด็กแต่ก็มีดราม่าแฝงพอควร แต่บทซึ่งนี่ทำได้ดี อย่างตอนที่อ่านตอนนี้ก็ยังซึ้งก็ฉากโนบิตะอำลาพีซุเกะ
นิวเจนกูเจอภาคโนบิตะบุกดินแดนมหัศจรรย์กับเปโกะนี่กู Facepalm เลยว่ะ ต่ำกว่ามาตรฐานที่กูหวังไว้ซะอีก
ภาคสุดท้ายที่ไปดูในโรงคือพิพิธภัณฑ์ของวิเศษ บทแม่งไม่มีอะไรเลย เหมือนเอาอีสเตอร์เอ้กของวิเศษมาล่อพวกเด็กหนวด 5555555555555
ส่วนฉากซึ้งกูชอบฉากไปเจอคุณย่าสุดละ ดีจนกูไม่กล้าไปดู SBM2 เลย เพราะภาคแรกกูก็เฉยๆ ด้วยซ้ำ กลัวภาคนี้ทำไม่ถึงแล้วจะทำร้ายความทรงจำกูเปล่าๆ
>>54 ตอนบุกบุกดินแดนมหัศจรรย์นี่หลายจุดไม่เข้าท่า ยิ่งจุดที่อยากด่าคือที่ใส่เรื่องดาบสายฟ้าแบตหมดมาก ไม่ได้ทำให้ชวนลุ้นหรืออะไรเลย เหมือนสักแต่ยัดใส่เข้ามา แบบมังงะกลับลุ้นมากกว่าอีก แต่คนบ่นเยอะจริง ๆ ว่าภาคหลัง ๆ บทมันอ่อนด้อยมาก เหมือนแค่ทำขายล่อเด็กไปเรื่อย ชั้นเชิงการเขียนเนื้อเรื่องกับตัวละครยังไงทีมงานที่มาสานต่อก็สู้อาจารย์แกไม่ได้จริง ๆ
อันนี้กูสงสัยมากว่าพวกภาคหลังๆกลุ่มคนดูคือใครวะ เพราะกูว่าเด็กสมัยนี้มันก็น่าจะไม่ค่อยดูโดเรมอนกันแล้ว ส่วนถ้าจะทำขายพวกโตๆก็น่าจะทำเนื้อเรื่องให้มันโตขึ้นหน่อย
>>46 แบบที่เคยบอก โดราเอม่อนสำหรับคนโตแล้วหรือเคยดูมาซัก 10 ปีคือ SBM โดยเฉพาะภาค 2 มันเล่นเรื่องเวลาด้วยเด็กไม่น่าจะเข้าใจ สมัยเด็กดูตอนสั้นที่ม่อนเรียกตัวเองจากนาทีก่อนๆมารวมกันเป็น 10 เพื่อแก้ปัญหากูงงมากว่ามันคือยังไง รวมถึงดราม่าอะ มันเป็นการ์ตูนชีวิตไปเลยสำหรับภาคนี้ แรกเกิด วัยเด็ก ตอนโต ปัญหาชีวิต ที่คนชอบสงสัยกันว่าทำไมชิซุกะเลือกโนบิตะภาคนี้ไอ้ตัวโนบิตะเองมันก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เหมือนกัน จนเป็นประเด็นที่หนีงานแต่ง จากที่ดูรู้สึกว่าโนบิตะตอนโตมันยังมีความเป็นเด็กที่ทำตามอารมณ์ แต่ดูมีวุฒิภาวะขึ้นบ้างเวลาต้องพูดอะไรคมๆ สิ่งนึงที่อยากเห็นแต่กูไม่ได้เห็นสักทีและไม่รู้อนาคตจะมีให้ดูรึเปล่าคือโนบิตะตอนมัธยมกับตอนมหาลัย ในหนังสือมันพอมีบ้างนะแต่อยากเห็นเอามาทำเวอร์ชั่นอนิเมะแบบลึกๆ
จะว่าไปสิ่งที่สังเกตได้คือคืนก่อนแต่งงานของปี 1999 กับ 2005 สภาพเมืองจะดูเหมือนยุคปัจจุบัน แต่ภาค SBM ที่เป็น 3D ยุคอนาคตแม่งจะอนาคตไฮเทคจริงๆ เลยอะ ดูต่างกับปัจจุบันมากทั้งที่ผ่านไปแค่ 15 ปีหลังโนบิตะโต ถ้านับอายุโนบิตะต้นฉบับเกิด 1964 แต่งงานก็ปี 1988(2531) เองด้วยซ้ำ555
ภาครีเมคหุ่นเหล็กกุว่าดีมากนะ ทั้งบท ภาพ เพลงประกอบ กุยกให้เป็นมาสเตอร์พีซของนิวเจนเลย เผลอๆ ประทับใจกว่าตอนดูออริจินอลด้วยซ้ำ ที่งงคือทำไมภาคอื่นทำไม่ได้เสี้ยวของภาคนั้นเลยวะ 5555 เหมือนมาแจ็คพอตดีทุกอย่างแค่ภาคเดียว หลังจากนั้นคือถ้าไม่ห่วยก็แค่กลางๆ ทุกภาค
แต่ที่ฝรั่งโดราเอมอนไม่ค่อยเป็นที่รู้จักว่ะ แปลกดี
ถ้าเป็นคนไทยกูว่าโดราเอม่อนจะอยู่กลุ่มคนอายุ 15 ขึ้นไปนะ เด็กสมัยนี้ไม่เห็นจะดูโดราเอม่อนเท่า 7-8 ปีก่อน กระแสมันเปลี่ยนเป็นอนิเมะ new gen อย่างไยบะแล้ว สักพักก็คง jujutsu kaisen น้องที่กูรู้จักอายุ 17 ยังแทบไม่รู้จักม่อนเลย ฝรั่งก็ไม่ค่อยดัง ถ้าจะหาข้อมูลเป็นภาษาอิ้งแทบไม่เจออะบอกเลย คนไทยหลายคนแฟนพันธุ์แท้ม่อนเยอะ ตาม pantip
กูว่าส่วนนึงที่หุ่นเหล็กดีเพราะมันให้ฟีลซึ้งแบบอนิเมะทั่วไปด้วยแหละ กูว่า producer น่าจะลองลดความเป็นโดราเอม่อนแบบเด็กๆแล้วไปเพิ่มความเป็นอนิเมะเรื่องอื่นดูว่าเขาทำยังไงกันให้คนซึ้ง ดูงานจากไยบะ MHA ก็ได้เพราะพวกนั้นขายเด็กออกแต่ยังขายให้ผู้ใหญ่ได้
กุหนิบเอามังงะตอนยาวมาไล่อ่านใหม่ พวกตอนเก่าๆที่อาจารย์เขียนเองแม่งมีฉากประหารชีวิตเยอะมากๆอะ แขวนให้ได้โนเสาร์กิน ตัดคอด้วยขวาน ขึ้นเขียงให้ปิศาจแล่เป็นอาการ ยิงเป้า
สัส ตอนเด็กไม่ได้คิดมาก พออ่านตอนโตแล้ว นี่มันเหี้ยไรเนี่ย
>>68 อ.แกโตมากับงาน อ.เท็ตสึกะ รายนั้นก็ฉากโหดเยอะชห มังงะหลายเรื่องนี่ก็ผู้ใหญ่แบบดาร์กเลยด้วย ฮิโนโทรินี่ จบโหดๆ เพียบ แกคงไม่ซีกับอะไรแบบนี้ไง ถ้าไปดูพวก path of fujiko นี่หนักกว่าอีกนะ ทั้งฉากโหดทั้งจบดาร์ก จบแบบปริศนา หรือเอางานเด็กๆมาเขียนจนกลายเป็นอารมณ์หม่นๆ แบบคิวทาโร่ก็มี กลิ่นเท็ตสึกะโคตรเข้ม งานที่โตหน่อยแบบตำรวจกาลเวลานี่ก็ฉากโหดเยอะกว่าม่อนอีก มิมิพลังจิต นี่ก็ฉากเปลือยเพียบ พ่อเอาลูกเป็นแบบวาดเปลือยงี้ ถึงสุดท้ายจะไม่เกินเลยอะไรกัน เป็นศิลปะล้วนๆก็เหอะ พวกงานเด็กอื่นๆ แบบโมจาโกะ หรือ21เอมอน ก็ไม่เบานะ สมัยก่อนมันไม่ซีเรียสกันแหละ ต่างกับสมัยนี้
เรื่องที่มูฟวี่หลังๆมันไม่สนุก ส่วนนึงเลยนะกุว่าเพราะตอนยาวยุคที่อาจารย์แต่งเองอะ มันมักเอาโครงเรื่องจากวรรณกรรมเอกของโลกมาใช้ว่ะ ทั้งงานของจูลส์ เวิรน์ เอย สมบัติพระศุลีเอย หรือถ้าไม่ใช้เป็นโครงก็เอามาใช้เป็นธีม
ทีมงานยุคใหม่ต้องกล้าๆกว่านี้ว่ะ 555 อย่าไปกลัวโดนด่าว่าลอก
อ.แก น่าจะวาดบางเรื่องลงนิตยสารเซย์เนนหรือผู้ใหญ่อ่าน เลยไม่ต้องแคร์เรื่องเด็กจะมาอ่านมั้งฉากก็เลยโหดได้(แต่ติดที่ลายเส้นมันขายเด็กอ่)
>>72 กูว่าลายเส้นมันไม่เชิงตั้งใจขายเด็ก แต่เป็นเพราะมันเป็นยุคต้นๆของมังงะญี่ปุ่น การวาดยังทำได้ไม่ซับซ้อนมากกว่า ดูจากงานของอ.เท็ตสึกะ หรืองานคอมมิกเมกายุคใกล้ๆกัน ก็ไม่ใช่จะดีกว่าเท่าไหร่ แต่พอยุคนี้มันพัฒนาเยอะจนลายเส้นแบบไม่ซับซ้อนนี่มักใช้กับพวกการ์ตูนแก๊ก การ์ตูนเด็ก ลายเส้นแบบอ.แก เลยดูเหมือนทำไว้สำหรับเด็กไปโดยปริยาย
จะว่าไปงานเขียนอย่างคิเตเร็ตสึ คิวทาโร่ ปาร์แมน หรืออีกหลายเรื่องแกจะชอบเขียนตอนจบให้พวกที่มาอยู่กับพระเอกกลับไป หรือไม่ก็สูญเสียของวิเศษที่ตัวเองมีไป มันสะท้อนถึงการโตจากวัยเด็กไปสู่วัยที่โตขึ้น พระเอกจะไม่มีสิ่งเหล่านั้นอยู่กับตัวแล้ว ต้องยืนหยัดด้วยตัวเองทำนองนั้นหรือเปล่า
>>74 ตามนั้น งานสายเด็กของอ.แกกูมองว่าเน้นจินตนาการกับสอนเด็กไม่ได้เน้นเนื้อเรื่องแหวกแนวอะไรมาก จึงมักจะจบให้ข้อคิดแบบนั้นกับเด็กๆ อย่าง21เอมอนเองตอนจบ ถึงจะยังมีมอนก้าที่มีพลังเคลื่อนย้ายอยู่ แต่ยานอวกาศที่ได้มาแบบเฮงๆก็ไม่มีแล้ว แล้ว21เอมอนตัดสินใจว่าในอนาคตจะต้องไปทำตามความฝัน(ท่องอวกาศ)ด้วยตัวเองให้ได้ โดราเอมอนเองตอนจบเดิมที่เล่ม6 ก็จบแนวนั้น
>>75 ลืมไป ถ้าจำไม่ผิดตอนจบเวอร์ชั่นอื่นๆของม่อนที่ลงในเวลาใกล้ๆกัน ถ้าจำไม่ผิดมี2-3เวอร์ชั่นมั้ง ก็จบแนวๆนี้ทุกอันเลย แค่สาเหตุที่ทำให้ม่อนต้องกลับอนาคตกับพวกรายละเอียด เช่นความซึ้งตอนจากกัน จะแตกต่างกันไป ซึ่งส่วนตัวเวอร์ชั่นที่เลือกมาลงรวมเล่ม6ก็เป็นอันที่เขียนได้ดีที่สุดแล้ว
เคยเห็นว่าโดราเอม่อนกลายเป็นเรื่องอมตะเพราะคนอ่านไม่อยากให้จบ คนเขียนแกเลยเขียนไปเรื่อยๆเกิดเป็นเวอร์ชั่นอนิเมะมีเดอะมูฟวี่ยันทุกวันนี้ แต่ตามที่กล่าวไปใน >>65 กูว่าในอนาคตไม่เกิน 10 ปีมีสิทธิ์เงียบและดับถ้าเด็กไม่อิน(คงเป็นเหตุผลที่ทำมาขายเด็กมากขึ้น) กูไปดูภาคไดโนเสาร์ตัวใหม่ตอนที่บัตร 15 บาทอะเด็กเยอะชิบหาย ที่บ้านอาจจะพามาดูเฉยๆ เพราะเห็นเป็นการ์ตูน แล้วเด็กพูดไปตะโกนไปกูเลยออกจากโรงตั้งแต่ 10 นาทีแรก
เห็นว่าปี 2014 เอาของเก่ามารีเมคใหม่บางทีเลยคิดว่าถ้าจะไม่ให้กระแสตกน่าจะลองทำตอนใหม่ original(น่าจะทำอยู่แล้วมั้ง เห็นตอนหลังมาเป็นของวิเศษชิ้นใหม่ ใช้เพลง Gen Hoshino) ส่วนตัวยังไม่อยากเห็นเรื่องนี้ดับไปเพราะยังมีหลายอย่างที่ทำได้
เอาแค่ในบ้านเรา รายได้มันยังดีอยู่นะ ถ้าขายไม่ได้แล้วคงไม่มีใครเอาเข้ามา ที่น่ากังวลคงเป็นเรื่องเด็กเกิดใหม่น้อยลง การ์ตูนราคาแพงขึ้นมาก ไม่รู้พ่อแม่รุ่นใหม่จะยังซื้อให้มั้ย แต่อีกทางนึงอนิเมะหาดูได้ง่ายมาก ถ้าพ่อแม่รุ่นใหม่จะเปิดให้เด็กดูตั้งแต่เล็กๆมันก็ไม่ยากอะ
>>79 ทุกวันนี้หนังสือการ์ตูนไม่เป็นที่นิยมเพราะกระแสส่วนใหญ่อนิเมะ > หนังสือ ยิ่งโดราเอม่อนคงรุ่นหลังน่าจะเริ่มมองมันเป็นอนิเมะ original มากกว่าที่จะมองว่ามันดัดแปลงมาจากหนังสือ รุ่นกูมันก็เป็นแบบแผ่นมาแล้วอะ ที่ติดงอมแงมก็เพราะบ้านซื้อแผ่นให้บ่อย สมัยนี้ถ้าจะติดก็คงติดเพราะพ่อแม่เปิด youtube ให้ดู
เพิ่งได้ดู Stand by me 2 พากย์ไทย เสียงโนบิตะกับชิซุกะตอนโตห่วยมากกก ไม่เข้าเลย ดูแล้วขัดใจชิบ
เข้ามาขุดหน่อย เห็นได้ยินว่าช่วงนี้เห็นบอกว่าโดราเอม่อนเป็นการ์ตูนตกยุคสำหรับเด็กยุคนี้ ไม่รู้ว่าคิดยังไงกับความคิดนี้บ้าง?
>>84 ตอนกูเด็กๆ ประมาณ ป.2 ตอนนั้นเพื่อนกูเอาโดเรม่อน เดอะมูวี่มาโรงเรียน
กูก็ยืมอ่าน แล้วรู้สึกว่ามันเป็นตัวเปิดโลกของกูเลย คือเท่าที่จำความได้สมัยกูเด็กๆ
กูชอบดูหนังจีนพอๆกับการ์ตูนอ่ะ ดูเปาบุ้นจิ้น ดูการ์ตูนเย็นของช่อง3 อย่างชินจัง
การ์ตูนหลังข่าวช่อง7 พวกยาดาม่อน Mr.men
แต่โดเรม่อนเดอะมูวี่นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้กูมาสาย J subculture เลยว่ะ
คือการ์ตูนหลังข่าวมันเน้นจบในตอนใช่ม่ะ ดูแล้วก็จบไป
แต่โดเรม่อนที่เป็นการ์ตูนยาว เวลาอ่านแล้วมันได้อารมณ์ร่วมมากกว่า
อย่างไดโนเสาร์ของโนบิตะ จนถึงวันนี้กูยังจำฉากจบที่โนบิตะกลับมานอนที่ห้องตัวเองแล้วคิดถึงพีสึเกะ
แล้วก็ฉากดวลปืน ฉากบอกลา ในมูวี่เล่ม2 เป็นความประทับใจแรกที่มีต่อมังงะญี่ปุ่นแบบที่เป็นมังงะจริงๆไม่ใ่แค่การ์ตูนเด็ก
ถามว่าวันนี้มันตกยุคมั้ย ก็อาจจะใช่ กูมองว่าคนแต่ละยุคจะมีความประทับใจกับสื่อกระแสหลักในยุคตัวเอง
ยุค 90 โตมากับการ์ตูนกระแสหลักยุค90 ยุค Gen z ก็โตมากับการ์ตูนกระแสหลักยุค Gen z
เด็กบางคนอาจจะโชคดีที่คนที่บ้านสะสมการ์ตูนยุคเก่าไว้ ก็คงมีความประทับใจแรกที่ไม่เหมือนเพื่อนก็ได้
กูเคยเจอน้องคนหนึ่ง อายุแค่ 20ต้นๆ แต่เค้าชอบอินุยาฉะเพราะพ่อซื้อการ์ตูนอินุยาฉะเก็บสะสมไว้ที่บ้าน
ก็เป็นเรื่องแปลกดีในยุคที่ดาบพิฆาตอสูรกำลังดัง
ขอแค่มันไม่ edgy ให้เด็ก insert ก็ถือว่าโอเค
ก็จริง สมัยนี้เด็กมันหนีไปดูอย่างอื่นหมดแล้ว พวกของสะสมไรงี้ก็ขายพวกลุงๆเอา
เพิ่มเติมอีกที เหมือนเด็กเจนปัจจุบันในเกาะไม่อินโดราเอม่อนด้วยขนาดยังขายเด็กเกาะได้แท้ๆ แม้ว่าหนังโรงยุคหลังจะขายเด็กก็ตาม
อ้าว มือไปโดนปุ่มส่งซะงั้น
เรื่องนี้ไม่ตกยุคหรอกแต่เกลาเนื้อหาเซฟโซนมากเกินไปจนแม่งน่าเบื่อ
ที่เห็นได้ชัดคือเดอะมูฟวี่สมัยนี้แม่งเด็กมาก
สมัยก่อนเด็กหนวดแบบอากูตามโดเรมอนทุกเดอะมูฟวี่แต่เดี๋ยวนี้ไม่ตามเลย
ชอบอย่างเดียวคือนิสัยชิสุกะไม่สก๊อยแล้ว เย้
>>91 อารมณ์แบบอนิเมะธีมอวกาศหรือโลกอนาคตอ่ะที่ยุคสมัยนั้นฮิตนิยมกัน พอมาปีนี้แทบไม่ต่างกันเว้นแค่สิ่งของบางอย่างที่มันตามทัน แต่กับโดราเอม่อนก็อย่างที่บอกคืออนิเมะยุคนี้องค์ประกอบฉากยังเซ็ตติ้งให้ยังอยู่ยุคเก่าๆ ถ้าทำแบบโคนันที่ช่วงเวลาเดียวกันแต่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้โทรศัพท์มือถือจากมือถือบานพับเป็นสมาร์ทโฟนไรพวกนี้อ่ะ แต่กับโดราเอม่อนคือทั้งของวิเศษและฉากเมืองที่โนบิตะอยู่มันสวนทางกันและของวิเศษบางส่วนก็เริ่มใกล้เคียงกับโลกจริงมาแล้ว
อีก ไม่กี่วันอีบุ๊คแมวฟ้าตอนยาวของพี่ ned เชาจะหมดโปรละ ไปช่วยซื้อหน่อย กำไรดีๆ เผื่อมันจะนึกอยากลากแพกลับฝั่งแบบบารากะม่อนอีกสักเรื่องสองเรื่อง
ขุดอีกรอบเห็นว่ามีประเด็นในตอนล่าสุด มีฉากที่ชิซูกะมีเครื่อง PS5 แต่ซูเนโอะมี PS4
ขุดอีกที
หนังโรง สงครามอวกาศ เวอร์ชั่น 2020 เข้าฉายในไทย ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้
ตอนใหม่ของหนังโรงมาแล้ว ฉายในปี 2023 "Doraemon: Nobita and the Sky Utopia"
เห็นพูดถึงเรื่องม่อนจะตกยุคกันบนๆ จริงๆกูว่ามีวิธีแก้นะถ้ากล้าเสี่ยง คือให้เพิ่มเวอร์ชั่นตอนยาวแบบลุยในโลกอนาคตแม่งเลย กูกำลังนึกถึงพวกเพื่อนม่อน6คน(7แก๊งป่วน)ที่ฝังกลบไปแล้วอ่ะ น่าจะเอากลับมา แล้วตอนหนังโรงก็ทำแยกไปเลย ชุดนึงเป็นแก๊งม่อนเดิม จะทำตอนยาวรีเมคหรือตอนยาวออริก็ทำไป อีกแก๊งก็เป็นม่อน+ตะ+เพื่อนม่อนอีก6คน เน้นลุยโลกอนาคตหรือพวกโลกแปลกๆ สเกลเวอร์ๆบอสโหดๆกว่าชุดเด็ก ทีนี้ไอ้พวกปัญหาเรื่องเซตติ่งที่ยังอยู่ยุคเก่าจะได้จบๆไป เพราะไปลุยในโลกอนาคตแล้ว อยากล้ำเท่าไหร่ก็ใส่มาเลยเต็มที่ เปิดกว้างให้ไอเดียเทคโนโลยีใหม่ๆได้ด้วย อฟช.มันไม่คิดจะเอากลับมาทำจริงๆเหรอวะ วัตถุดิบดีขนาดนี้ ถึงจะว่าไม่ใช่อ.แต่ง แต่ของที่ไม่ใช่อ.แต่งแม่งก็มีเยอะเต็มไปหมดแล้วนะยุคนี้ ยังจะยึดติดอะไรอีกเหรอ งง
เมื่อไหร่จะมีมูฟวี่ภาคที่เดคิสุงิร่วมทริปด้วยวะ กุชอบ เห็นบางตอนปกติมีนางมาแจมแล้วชอบว่ะ
รอดูสมาชิกฮาเร็มคนใหม่ของโนบิตะอยู่
ภาคนี้มีใครดูยัง https://www.themoviedb.org/movie/849606
ควรมีมูฟวี่ที่เดคิสุงิมาร่วมด้วยจริงๆว่ะ กูเชื่อว่าถ้าวางพล็อตดีๆจะเด็ดมาก ให้เดคิมันโดนเอเลี่ยนลักพาตัวแล้วม่อนไปช่วยก็น่าสนุกดีออก
พูดถึงแบ่งทีม บางภาคจะมีช่วงที่บางคนโดนแยกออกไป แบบเดี่ยวๆนี่น่าจะครบทุกคนละ แอ้นโอะก็มีบ่อยๆ มีภาคไหนแอ้น+ชิสุกะ หรือ แอ้น+โอะ+ชิสุกะ มั่งมั้ยวะ
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.