วันนี้ผมจะมาพูดเรื่องงี่เง่าอะไรหน่อย
ที่คนทำบัญชีน่าจะเข้าใจกันนะครับ
สมมุติว่าบริษัทของคุณค้าขาย
มีเงินเข้าออกวันละร้อยรายการ
1 ปีก็ประมาณ 36500 รายการ
10 ปีก็ 365000 รายการ
แล้วอยู่ๆมีคนแจ้งคุณมาว่า
ไม่ได้รับเงินโอนค่าจ้างสักที
...... สัก "ประมาณ" 10 ปีก่อน
โดยไม่มีข้อมูลมาเลยว่า
เป็นออร์เดอร์หมายเลขอะไร
จำนวนเงินที่แน่นอนเท่าไหร่
กำหนดเวลาที่ต้องเกิดการจ่าย
คุณจะต้องทำยังไง?
คือต้องไปค้นงมหาของรายการเดียวจากใน 36500 รายการ
แบบไม่ต้องมาทำอะไรกับชีวิตกันแล้ว
ถ้าไม่ใช่ระบบบัญชีที่ดีระดับ God Tier
มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นเจอได้เลย
------------
แล้วเมื่อวานผมต้องมาทนความงี่เง่าของพวกคนที่จะมาบอกว่า
"แค่นี้ทำไมจะไม่รู้"
"บัญชีต้องรู้"
ซึ่งผมก็อยากรู้นะครับว่า
ถ้าคนพูดต้องมาค้นเอาเอง
เขาจะใช้เวลาหาเจอได้ในกี่วันกัน
แบบไม่ได้เข้าใจเลยว่า
ทำไมนักบัญชีถึงเป็นอาชีพที่ต้องมีใบอนุญาตวิชาชีพ
------------------------
------------------------
กรณีนี้มีความเป็นไปได้อยู่ 4 กรณีหลักๆ
1 - มีการทำสัญญาอะไรสักอย่าง ที่ทำให้การต้องโอนนั้นเป็นโมฆะ
2 - มีการโอนจ่ายแล้ว แต่ไม่สามารถหาหลักฐานการโอนได้ (เพราะเหตุด้านบน)
3 - มีการทำสัญญาว่าต้องจ่าย แต่เบี้ยวจริง
4 - เป็นการอ้างแบบที่ปิดบังความจริงบางส่วน
ซึ่งการจะพิสูจน์ความถูกต้องมันต้องมีการดูสองหัวข้อหลัก
1 - มีสัญญาอะไรบ้าง
2 - หลักฐานการโอนเงิน
แล้วก็แตกไปได้อีกสองกรณีคือ หาเจอกับไม่เจอ
--------
ยกตัวอย่างว่าเราหาสัญญาไม่เจอ แต่พบเมล์ว่ามีการว่าจ้างและส่งงานแล้ว
และพิสูจน์สรุปกันว่า น่าจะไม่มีการจ่ายเกิดขึ้น
มันจะมีการใช้กฎร่วมบังคับให้มีการจ่าย
เข้าข่ายกรณี 3
ผู้ถูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยต้องได้ชดเชย
แต่ถ้าเราเจอสัญญาว่า มันมีข้อตกลงเฉพาะที่ทำให้เราเว้นการจ่ายนี้ได้
เข้ากรณี 1
กิจการถูกใส่ความไม่ได้รับความเป็นธรรม
------
ทีนี้ปัญหาจริงของเรื่องนี้คือกรณี 2 กับ 4
เพราะมันเข้าข่ายการพิสูจน์สิ่งที่หาตัวตนไม่ได้
กรณี 2 คือสถานการณ์เดียวกันกับ 3
แต่จริงๆมีการจ่ายไปแล้วที่หาไม่เจอ
แล้วถูกบังคับให้จ่าย กลายเป็นต้องจ่ายสองรอบ
กิจการไม่ได้รับความเป็นธรรม
กรณี 4 คือ
หาหลักฐานสัญญาที่ทำให้การจ่ายเป็นโมฆะได้ไม่เจอ
เลยเข้าข่ายถูกบังคับให้จ่าย
กิจการไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน
----------------------
----------------------
สมมุติว่าเรื่องไปถึงชั้นศาล
อันนี้ต้องมากาชาผู้พิพากษา
ว่าเขาจะประเมินการต้องค้นบัญชี 10 ปีนี่ยังไง
คือสมมุติว่ามาดำเนินคดีสัก 2-3 ปีหลังประเด็น
อย่างมากสุดก็สัก 5 ปี
ศาลอาจพิจารณาได้ว่า
อยู่ในขอบเขตที่กิจการจะสามารถหาหลักฐานมาได้
ถ้าไม่มีก็คือกิจการทำผิดจริง
*แต่ในขณะเดียวกัน*
กิจการเองก็มีโอกาสค้นหลักฐานเจอเช่นกัน
-----
แต่พอมาเป็น 10 ปีนี่ก็จะเป็นแบบที่กล่าวไปตามด้านบน
คือจะพลิกไปทางไหนก็ได้
เพราะศาลอาจคำนึงว่า
กิจการอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหาหลักฐานมาป้องกันตัวเองได้
ให้คำร้องตกเป็นโมฆะ
หรือจะตัดสินเท่าหลักฐานที่มีอยู่
โดยกิจการเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
แล้วโอกาสที่จะเกิดการตัดสินแบบไม่เป็นธรรมก็จะยิ่งสูงขึ้น
------------------
-----------------
ด้วยเหตุดังกล่าว
ถ้าเราจะคำนึงถึงความเที่ยงธรรมไว้ก่อน
ทำไมเราถึงต้องรีบทำเรื่องให้เร็วที่สุด
อย่างมากก็ 2-3 ปีครับ
//////////
.......... เสริมหน่อย ประกาศแถลงการณ์ต้นเรื่องนะ
ย่อหน้ากลางประโยคแรก
เขามาบอกรับผิดชอบไว้ก่อน
โดยที่ตัวเองยังไม่รู้ข้อเท็จจริงด้วยซ้ำ
สมมุตินะครับว่า มีคนกล่าวหาคุณมาว่าลูกคุณไปทำร้ายเขา
แต่คุณไม่รู้ว่าจริงๆมันเรื่องอะไร
คุณกลัวจะมีปัญหา เลยบอกขอโทษไปก่อนจะรับผิดชอบนะ
ที่เขาเขียนมานี่คือเข้าข่ายเดียวกันครับ