https://fanboi.ch/animanga/159/ พูดคุยการ์ตูนไทย
https://fanboi.ch/animanga/259/ พูดคุยการ์ตูนไทย บทที่ ๒
https://fanboi.ch/animanga/290/ พูดคุยการ์ตูนไทย บทที่ ๓
Last posted
Total of 1000 posts
https://fanboi.ch/animanga/159/ พูดคุยการ์ตูนไทย
https://fanboi.ch/animanga/259/ พูดคุยการ์ตูนไทย บทที่ ๒
https://fanboi.ch/animanga/290/ พูดคุยการ์ตูนไทย บทที่ ๓
อยากให้นิยายของ Dr Pop ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นมังงะจังเลยว่ะ
ระดับเดียวกับเพชรพระอุมาถูกสร้างเป็นหนังเลยนะ
เอาตัวเองเป็นพระเอก คิดได้ยังไงฟะ ถ้าเป็นเรื่องตลกปัญญาอ่อนก็พอทำเนา
ทำไมโม่งดูมีซัมติงกับเสี่ยแนนจัง กูว่าเขาก็ธรรมดาไม่ได้ทำตัวแย่หรืองานขี้ริ้วขี่เหร่อะไรจนต้องจิกนัก
ด็อกปอบ เกิรล์แอนด์กะดอเล่มแรกกูก็อ่านได้นะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าสนุกเป็นพิเศษ (แต่เสือกฝอยว่าเป็นรองแค่แฮรี่พอตเตอร์) แต่บอยแอ่นกะดอนี่ ไอ้สัส นิยายจิซึรุยังทำคนบุฮี้ได้ นี่อะไร "ดร.ปอบหยิบ โคตรพ่อโคตรแม่นักเขียนอันดับหนึ่งของเทยแลนด์ อัจฉริยะ ผลงานสร้างชื่อคือไวท์แยม(เอ้ย โรด) มีแฟนสวย หล่อเหลา กล้ามเป็นมัดๆ" และภาพประกอบ ถามว่ามันวาดสวยมั้ย? กูว่ามันก็ดี แต่บอกตามตรง ภาพแนวนี้แม่งส่งซะชัดว่าพวกนี้แต๋วแตกเปล่าวะ และพูดตามตรงเลยตามคนที่อ่านมา เหี้ยไรวะ พี่น้องเกย์แดก เพื่อนสนิทแทบกอดตูดดูดดากกันแต่เขียนว่ามิตรภาพ ความแกรี่ของป็อบ บทสวีทเลี่ยนๆ และฉากต่อสู้ตอนท้ายที่กูยังพอรับได้ ถึงจะจูนิเบียวไปก็ตามที(มังกรบุกอนุเสาวรีย์ชัย OMG กูอึ้งสัส) เล่มหน้ากูไม่ซึ้อแล้วนะ
EXE นี่กูอ่านสนุกๆก็ได้นะ ถึงจะดูคุณภาพ 35-45 บาทในเล่มราคา 50 บาทก็ตาม ถ้าไม่มองว่าเป็นการ์ตูนไทยแล้วเทียบกับทั้งโลกถึอว่ายังอ่อนหัด (ทั้งลายเส้น ทั้งพล็อต) นับวันแม่งเผาเป็นเนกิมะ พล็อตหลุดๆแต่กูก็รอตอนจบอยู่ได้ (กูอวยภัสสรคู่กานดาไป ที่เหลือเชิญพวกมึงเฟติช) หวังว่าจะไม่ทำยึดเป็นวันพีซนะ แค่นี้กูก็รอเงกแล้ว ขี้เกียจอ่านยาว
แต่ที่สำคัญ การ์ตูนเผาๆของนายมิดไนท์ก็ยังทำให้พวกเราชาวโม่งอ่านสนุกกว่าบอยแอ่นเกิรล์ของมหาเมพ 123 กีบแกะจอมดราฟ นมใหญ่กว่าหัว เซอร์วิสบุฮี้ไดเ
แต่กูว่าอีครัวดาชานี่แม่งไม่สนุกจริงๆนะ ไม่มีอะไรเลยมุกก็จืด
ตอนนี้ได้แต่ขายตัวละครให้แฟนอวยตามอ่านไปก่อน
สตีเฟน คิงส์เคยเอาตัวเองเป็นพระเอกนิยายนะ ในเรื่องที่เขาถูกสตอล์คเกอร์ลักพาตัวให้ไปเขียนนิยาย กับเอาเรื่องสมัยเด็กมาเป็นโครงเรื่องหลัก
แต่ดอกป๊อปมันคนละเวลกันเฮียคิงส์ และแกก็ไม่ได้เขียนอวยตัวเองแบบนี้ด้วย
นักเขียนเอาประสบการณ์ตัวเองมีเขียนเป็นนิยายนี่เรื่องปกติเลยนะ คือมันเป็นพื้นฐานการเล่าเรื่อง
แต่ไอ้เหี้ยป๊อบนี่มันไม่ใช่ประสบการณ์ตัวเอง มันแต่งนิยายแล้วให้ตัวเองเป็นพระเอกในนั้นนนนนนนนนนนนนน เหี้ยยยยยยยยยยยยย
ป๋าคิงแกเคยวาร์ปเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนิยายเลยนะ ตอนแกเขียน Dark Tower แต่เรื่องนั้นก็จบแบบ WTF เหมือนกัน แต่ดอกปอบนี่แม่งอย่าว่าแต่ละเลเว่ลเลย คนละสปีชี่ส์กันเลยด้วยซ้ำ ประหนึ่งอมีบากับเทพก็ไม่ปาน
>>18 มึงหมิ่นเมพคิงกูนะสัส เอาไปเทียบกับไอ้ดอกปอปเนี่ย ถ้าไอ้ดอกปอปแม่งไม่ดังนะ ป่านนี้นิยายไทยแม่งขายได้ทั่วโลกแล้ว ไอ้นี่มันเป็นต้นตระกูลนิยายเน็ดซากอ้อยเลย พอมันดังด้วยนิยายขยะของมัน คนอื่นแม่งก็เฮ้ย กากสัสอย่างนี้ยังดังได้ กูก็เขียนได้ นิยายบนเน็ตหลังๆแม่งเลยมีแต่ฉากยั่วเย็ดหลอกฟุโง่กับคุโม่ยให้มาซื้อ ถ้ามันสำลักนมแม่มันตายไปตั้งแต่เด็กนะ กูว่าเด็กไทยสมัยนี้แม่งฉลาดขึ้นเยอะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Misery_(novel)
นี่เลย หาอ่าน ไม่ก็หาหนังมาดู
ทุนสร้างกว่าร้อยล้านบาท
https://www.youtube.com/watch?v=OCe6txN6p_Q
แต่ฉากหลังสวยอยู่นะ
แม่งไอ้อนิเมชั่นคนไทยทำมักจะตายเพราะ สตอรี่บอร์ดนั่นแหละ เทคนิคการนำเสนอสตอรี่บอร์ด อนิเมเพื่อการเล่าเรื่องญี่ปุ่นโครตกั๊ก
แต่ทีมงานนี้เขาเคยทำจากตะวันตกมานะ ไม่ใช่ญี่ปุ่น
เลิกพูดถึงด๊อกเตอร์ป๊อปในกระทู้การ์ตูนไทยได้มั้ยวะ
เงิน 100 ล้านจ้างสตูดิโอญี่ปุ่นทำอนิเมะฉายโรงได้เลยนะ
เพราะสตูไทยทำอนิเม แพงโพตๆ เพราะมะนทำคีย์ ระดับดิสนีย์น่ะ
กูไม่ชอบงาน คึกฤกธิ์ ฟะ 555
กูอยากรู้เรื่องสูญยากาศอนิเมชั่นไทย
ความหมายของมึง สูญญากาศคืออะไรฟะ กู งง ช่วงเว้นว่าง ช่วงเงียบ หรือยุคมืด กูจะได้อธิายให้ถูก
ช่วงหลังอ.ปยุตป่ะ ตอนนั้นก็พอไปได้ไม่ทิ้งห่างเมืองนอกมากนัก แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นวะ กูก็อยากรู้เหมือนกัน
ตอนสุดสาครของ อ.ปยุต ก็จะออกฉายก็ปี 1979 แล้วนะมึง ปีเดียวกับที่ The Castle of Cagliostro ของมิยาซากิฉายอ่ะ
อ.ปยุตแกเก่งจริง แต่จะบอกว่าของไทยตอนนั้นสูสีกับเมืองนอกนี่ เกินจริงไปหน่อยว่ะ
>>42 กูไปดูงานลุงมิยาซากิมาล่ะ แม่งห่างชั้นกันจริง
ต่อให้กูรักชาติไปหน่อยนะ แต่ไอ้ที่ทุนสร้างร้อยล้านแต่ยังขยับเหมือนของปี 1979 นี่ก็ไม่ไหวป่ะ กูยังว่านางเงือกสไตล์อ.ปยุตยังดูดีกว่าอีก จะไทยแม่งก็ไทยไม่สุด แล้วไอ้ช่องว่างระหว่างสุดสาครจนถึงอนันตานี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ กูว่าน่าศึกษาเหมือนกันนะ
อนิเมชั่น 2 มิติอย่าไปแข่งอย่าไปพัฒนาเลยเหอะ ตลาดเล็กลงทุกวัน กลุ่มเป้าหมายไม่มี ลูกค้าไม่สนใจ
ตอนนี้ก็เหลือแต่ญี่ปุ่นชาติเดียวในโลกแล้วที่ยังคงเป็นอุตสาหกรรมอยู่ ประเทศอื่นเหลือแค่
ตาม MV หรือหนังสั้นแค่นั้น กูเห็นด้วยมากกว่าควรจะไปพัฒนาเป็น 3D ไปเลย ขนาด Disney
ก็ยังเป็น 3D หมดแล้ว เทคโนโลยี Software 3D ก็ช่วยลดช่องว่างของประสบการณ์ลงได้เยอะ
ประเทศไทย Animator 2D ที่เก่งจริงจะมีถึง 20 คนหรือเปล่าเหอะ
ในช่องดีสนี่ย์รายวันยังมีการ์ตูน 2D ให้ดูอยู่นะ
>>42 สูสีนะมึง ขนาดยุ่น ยังมาศึกษางานกะอาจารย์ปยุต อย่าไปเทียบกะ เทพมิยาซากิ ดิฟะ ขานั้นเขาสุดยอดอยู่แล้ว ถ้า ให้อาจารย์ปยุตไประดับนั้นก็ได้แค่ลูกมือ เทพแกแหละ คือต้องคิดหน่อยว่า สมัยนั้นคนทำได้มีแค่ดิสนีย์ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็มา งมโข่งกัน แต่ของไทยแม่ง เจือกโดน คุถมกำเนิดซะงั้น ไม่ยอมให้มันโต เพราะ บ้านเมืองเรามันเป็นประเทศเกษตรกรรม เลยทุ่มไปทาง แดกค่าทำถนนกะซื้อเสียงชาวนามากกว่า ผิดกะยุ่นแม่ง ปล่อยให้มันโตๆ ไปตามธรรมชาติ มันเลย ค่อยๆ โตกันไป และสุดท้ายกลายเป้ฯสินค้้าส่งออกแล้วแม่ง ยิ่งอัดให้โตไปอีก มันเลย เกิดแบบนี้แหละ โทษใคร กูว่า สมัยนั้นไม่มีใครทำนายได้หรอกว่าการทำภาพเคลื่อนไหวทำสื่อ จะทำเงินได้มหาศาลได้
>>46
ญี่ปุ่นมาศึกษางานไทยตอนไหนวะอยากรู้ มีอ้างอิงไหม
ยุค 70s ประเทศทางยุโรปเขาไปไกลด้านอนิเมชันกันแล้ว ไม่ใช่มีแค่ดิสนีย์
จนตอนนั้น รัสเซียข้ามไปเน้นที่อนิเมชันแนวทดลองแล้ว
อยากรู้ว่าไทยตามหลังเขาแค่ไหน มึงดูอนิเมชันเกาหลีเหนือที่ฉายทีวีในยุคนั้น
https://www.youtube.com/watch?v=I_wxdhiB5w4
ปยุตก็แค่ก้าวตามรอยเท้าวอลทดิสนี่ย์ทุกเสต็บแค่นั้น แต่สำหรับคนไทยจะถือว่าประสบความสำเร็จก็ไม่แปลก
ทางตะวันตกเหลือแต่ฝรั่งเศสมั้ง ที่ยังทำหนังโรง 2D อยู่
ต่อให้งาน 2D น้อยลงตามที่พวกมึงว่านะ แต่ในเชิงเทคนิคแม่งไปไกลมากแล้ว มึงเคยดู paperman ของดิสนี่ย์ป่ะ มันเอา 3D มาโปรเจคกลับเป็น 2D อย่างเนียน ยังไง 3D มันก็แทน 2D ไม่ได้ว่ะ หรืออย่างลุงมิยาซากิก็มีเสน่ห์ของงาน 2D ที่มันทำมากี่ปีพวกมึงก็สนใจจะไปดูอยู่ดี เสียดายแค่ลูกหลานลุงแม่งไม่ได้ขี้เล็บลุงเลย
มึงดูงานพวกนี้บน youtube แล้วย้อนมาดูไอ้หนังชาตินิยมนี่ดิ แม่งเอ้ย โหนมันซะครบชาติ ศาสน์ กษัตริย์แล้วมั๊ง โหนอย่างเดียวแต่ไม่ใส่ฝีมือลงไป พอมันเจ๊งขึ้นมาก็กลายเป็นว่าทำหนังการ์ตูนแล้วมันไม่เจริญอีก วนลูปไหลลงรูปไปเรื่อยๆ
กูแนะนำให้มึงลองหาการ์ตูนขาวดำสมัยก่อนของ Kenzo Masaoka ดูว่ะ เป็นงานช่วงยุคปี 1930-40
ตอนนี้มีโปร2dเหลือในประเทศปะวธรรมหรือสูญพันธุ์ไปหมดละ
แต่น่าสงสาร ปยุต จริงๆ ฟะั ปากบอกสนับสนุนๆ อนิเมชั่นไทย แล้วสุดท้าย ตายไปก็ไม่มีใครแล เบย รู้สึกเฟลชอบกล
คนไทย ถ้าทำด้านนี้จริงๆเขาก็ไปเมืองนอกหมดแล้วปะวะ ที่อยู่ที่ไทยก็คงเป็นคนที่อยากอยู่ไทยหรือไม่ก็ทำงานเมืองนอกมาแล้ว และอยากกลับมาอยู่บ้าน
ไอ้เรื่องนี้ก็ขยันดราม่าบ่อยเหลือเกิน ส่วนตัวกูไม่ได้สนประเด็นไทยไม่ไทยเลย แต่อ่านแล้วไม่สนุกว่ะ คงไม่ได้ตามเก็บต่อ
https://www.facebook.com/MangaFail/photos/a.201102670023365.50356.201096546690644/564414890358806/?type=1
ไอ้นี่เป้นงี้ทุกที เวลาเปิดตัวเขียนโครตดีแต่พอดำเนินเรื่องนะ แม่งเละ
การ์ตูนขุนแผนนี่ทำให้กุได้รู้เลยว่า การเอาวรรณกรรมเก่าๆ มาเล่าเรื่องตีความใหม่ (ซึ่งต่างประเทศทำกันเป็นเรื่องโคตรปกติ) เป็นอะไรที่สมองคนไทยจำนวนมากไม่สามารถรับได้เลยว่ะ คือถ้าเป็นพวกอาจารย์แก่ๆ หรือไดโนเสาร์ที่ไหนออกมาบ่น กุยังพอเข้าใจนะ แต่นี่คือเด็กหรือวัยรุ่นหลายคนที่ควรจะเฉยๆ กับเรื่องพรรค์นี้ กลับออกมารับไม่ได้ราวกับเป็นแฟนบอยวรรณกรรมต้นฉบับมาแต่ชาติปางไหน (ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันไม่เคยอ่านต้นฉบับเต็มๆ นอกเหนือจากคาบภาษาไทยที่โรงเรียนหรอก) กุเห็นแล้วสิ้นหวังนิดๆ เลยว่ะ ว่าการศึกษาบ้านเราขัดเกลาเด็กให้ยกทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของศักดิ์สิทธิ์ได้หมด และพร้อมจะปกป้องวัฒนธรรม (ที่ตัวเองแม่งก็ไม่สนใจ) ได้เยี่ยมจริงๆ
กุอ่านแล้วเฉยๆ กับเล่มแรกเหมือนกัน แต่กุก็เชียร์ให้มันประสบความสำเร็จนะ เผื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนอื่นๆ กล้าเล่นอะไรแบบนี้มากขึ้น
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.