Fanboi Channel

พูดคุยการ์ตูนไทย บทที่ ๔

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:+kti4XBE.

https://fanboi.ch/animanga/159/ พูดคุยการ์ตูนไทย
https://fanboi.ch/animanga/259/ พูดคุยการ์ตูนไทย บทที่ ๒
https://fanboi.ch/animanga/290/ พูดคุยการ์ตูนไทย บทที่ ๓

2 Nameless Fanboi Posted ID:ySazQlBH6

อยากให้นิยายของ Dr Pop ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นมังงะจังเลยว่ะ
ระดับเดียวกับเพชรพระอุมาถูกสร้างเป็นหนังเลยนะ

3 Nameless Fanboi Posted ID:A06lD/xFm

>>2 สตอรี่บอร์ดโดย ห้อง14
วาดภาพโดย เสี่ยแนนนักเขียนผู้ไปไกลระดับโลก
ถ้าสร้างเป็นหนังก็กำกับโดย พจน์ อานนท์

4 Nameless Fanboi Posted ID:.fB2/Pbla

>>3 เชี่ย รวมจตุรเทพพพพพ

5 Nameless Fanboi Posted ID:hFu2sxeMm

เอาตัวเองเป็นพระเอก คิดได้ยังไงฟะ ถ้าเป็นเรื่องตลกปัญญาอ่อนก็พอทำเนา

6 Nameless Fanboi Posted ID:+kti4XBE.

ทำไมโม่งดูมีซัมติงกับเสี่ยแนนจัง กูว่าเขาก็ธรรมดาไม่ได้ทำตัวแย่หรืองานขี้ริ้วขี่เหร่อะไรจนต้องจิกนัก

7 Nameless Fanboi Posted ID:Pqhcilbt5

>>6 มีคนเอามาอวยในนี้ไง

8 Nameless Fanboi Posted ID:A06lD/xFm

>>6 https://fanboi.ch/animanga/1156/ อ่ะ

9 Nameless Fanboi Posted ID:hBg5UzRB.

ด็อกปอบ เกิรล์แอนด์กะดอเล่มแรกกูก็อ่านได้นะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าสนุกเป็นพิเศษ (แต่เสือกฝอยว่าเป็นรองแค่แฮรี่พอตเตอร์) แต่บอยแอ่นกะดอนี่ ไอ้สัส นิยายจิซึรุยังทำคนบุฮี้ได้ นี่อะไร "ดร.ปอบหยิบ โคตรพ่อโคตรแม่นักเขียนอันดับหนึ่งของเทยแลนด์ อัจฉริยะ ผลงานสร้างชื่อคือไวท์แยม(เอ้ย โรด) มีแฟนสวย หล่อเหลา กล้ามเป็นมัดๆ" และภาพประกอบ ถามว่ามันวาดสวยมั้ย? กูว่ามันก็ดี แต่บอกตามตรง ภาพแนวนี้แม่งส่งซะชัดว่าพวกนี้แต๋วแตกเปล่าวะ และพูดตามตรงเลยตามคนที่อ่านมา เหี้ยไรวะ พี่น้องเกย์แดก เพื่อนสนิทแทบกอดตูดดูดดากกันแต่เขียนว่ามิตรภาพ ความแกรี่ของป็อบ บทสวีทเลี่ยนๆ และฉากต่อสู้ตอนท้ายที่กูยังพอรับได้ ถึงจะจูนิเบียวไปก็ตามที(มังกรบุกอนุเสาวรีย์ชัย OMG กูอึ้งสัส) เล่มหน้ากูไม่ซึ้อแล้วนะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:hBg5UzRB.

EXE นี่กูอ่านสนุกๆก็ได้นะ ถึงจะดูคุณภาพ 35-45 บาทในเล่มราคา 50 บาทก็ตาม ถ้าไม่มองว่าเป็นการ์ตูนไทยแล้วเทียบกับทั้งโลกถึอว่ายังอ่อนหัด (ทั้งลายเส้น ทั้งพล็อต) นับวันแม่งเผาเป็นเนกิมะ พล็อตหลุดๆแต่กูก็รอตอนจบอยู่ได้ (กูอวยภัสสรคู่กานดาไป ที่เหลือเชิญพวกมึงเฟติช) หวังว่าจะไม่ทำยึดเป็นวันพีซนะ แค่นี้กูก็รอเงกแล้ว ขี้เกียจอ่านยาว
แต่ที่สำคัญ การ์ตูนเผาๆของนายมิดไนท์ก็ยังทำให้พวกเราชาวโม่งอ่านสนุกกว่าบอยแอ่นเกิรล์ของมหาเมพ 123 กีบแกะจอมดราฟ นมใหญ่กว่าหัว เซอร์วิสบุฮี้ไดเ

11 Nameless Fanboi Posted ID:b+c9vBNMc

>>10 อย่าเอาเนกิมะไปเทียบดิวะ เนกิเสียหมด

12 Nameless Fanboi Posted ID:qEFf8e2cn

>>9 มันไม่ใช่การ์ตูนไทยโว้ย มันเป็นนิยายมโนไทย

13 Nameless Fanboi Posted ID:uyrLxtalX

แต่กูว่าอีครัวดาชานี่แม่งไม่สนุกจริงๆนะ ไม่มีอะไรเลยมุกก็จืด
ตอนนี้ได้แต่ขายตัวละครให้แฟนอวยตามอ่านไปก่อน

14 Nameless Fanboi Posted ID:5gAqRtunr

>>9 มึงก็อ่านไปได้นะ จนจบ2เล่มเนี่ย...

15 Nameless Fanboi Posted ID:5jvV7Cvkm

>>9 กุอ่านบอยแอนด์อะดอลล์จนจบนะ อ่านเหมือนเป็นนิยายตลกอ่ะ อ่านไปขำไปว่ามีงี้ด้วยเหรอ นักเขียนบ้าอะไรเอาตัวเองมาเป็นพระเอกนิยาย แม่งไม่รู้สึกกระดากบ้างเลยหรือไง แถมเขียนคู่จิ้นให้ตัวเองเสร็จสรรพ ตลกชิบหาย

16 Nameless Fanboi Posted ID:2lVHIyYMt

สตีเฟน คิงส์เคยเอาตัวเองเป็นพระเอกนิยายนะ ในเรื่องที่เขาถูกสตอล์คเกอร์ลักพาตัวให้ไปเขียนนิยาย กับเอาเรื่องสมัยเด็กมาเป็นโครงเรื่องหลัก
แต่ดอกป๊อปมันคนละเวลกันเฮียคิงส์ และแกก็ไม่ได้เขียนอวยตัวเองแบบนี้ด้วย

17 Nameless Fanboi Posted ID:fWkKaU3xE

นักเขียนเอาประสบการณ์ตัวเองมีเขียนเป็นนิยายนี่เรื่องปกติเลยนะ คือมันเป็นพื้นฐานการเล่าเรื่อง
แต่ไอ้เหี้ยป๊อบนี่มันไม่ใช่ประสบการณ์ตัวเอง มันแต่งนิยายแล้วให้ตัวเองเป็นพระเอกในนั้นนนนนนนนนนนนนน เหี้ยยยยยยยยยยยยย

18 Nameless Fanboi Posted ID:5zZEiw7pl

ป๋าคิงแกเคยวาร์ปเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนิยายเลยนะ ตอนแกเขียน Dark Tower แต่เรื่องนั้นก็จบแบบ WTF เหมือนกัน แต่ดอกปอบนี่แม่งอย่าว่าแต่ละเลเว่ลเลย คนละสปีชี่ส์กันเลยด้วยซ้ำ ประหนึ่งอมีบากับเทพก็ไม่ปาน

19 Nameless Fanboi Posted ID:vPbKPUR87

>>18 มึงหมิ่นเมพคิงกูนะสัส เอาไปเทียบกับไอ้ดอกปอปเนี่ย ถ้าไอ้ดอกปอปแม่งไม่ดังนะ ป่านนี้นิยายไทยแม่งขายได้ทั่วโลกแล้ว ไอ้นี่มันเป็นต้นตระกูลนิยายเน็ดซากอ้อยเลย พอมันดังด้วยนิยายขยะของมัน คนอื่นแม่งก็เฮ้ย กากสัสอย่างนี้ยังดังได้ กูก็เขียนได้ นิยายบนเน็ตหลังๆแม่งเลยมีแต่ฉากยั่วเย็ดหลอกฟุโง่กับคุโม่ยให้มาซื้อ ถ้ามันสำลักนมแม่มันตายไปตั้งแต่เด็กนะ กูว่าเด็กไทยสมัยนี้แม่งฉลาดขึ้นเยอะ

20 Nameless Fanboi Posted ID:5oxGYLPa2

>>18 มึงอ่านเดอะเจอราดเกมส์เลย คนอ่านลักพาตัวนักเขียนไปเขียนให้แม่งอ่านคนเดียว มันเขียนจากประสบการณ์ของคิงช่วงเจอสโตกเกอร์

21 Nameless Fanboi Posted ID:YWj+YwjtZ

http://en.wikipedia.org/wiki/Misery_(novel)
นี่เลย หาอ่าน ไม่ก็หาหนังมาดู

22 Nameless Fanboi Posted ID:GTf/MsLxr

>>21 เหยด หนังสืออ่านนอกเวลา Level 6 ตอนสมัยกูอยู่ ม.6

23 Nameless Fanboi Posted ID:MFRDWiUXu

ทุนสร้างกว่าร้อยล้านบาท
https://www.youtube.com/watch?v=OCe6txN6p_Q

24 Nameless Fanboi Posted ID:DQKF1VIga

>>23 กูเฉยๆว่ะ... ตอนดูพระพุทธเจ้ากูค่อนข้างผิดหวัง ตอนนั้นกูก็รู้แหละว่าทุนเขาไม่เยอะ แต่รู้สึกว่าทีมงานฝีมือยังไม่ดีมากกับนำเสนอไม่เก่งอะ

อย่างไอ้เทรลเลอร์อันนี้ฟอนท์กับเอฟเฟคโคตรจะเชยเลย

25 Nameless Fanboi Posted ID:DQKF1VIga

แต่ฉากหลังสวยอยู่นะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:9WzLYhfnX

แม่งไอ้อนิเมชั่นคนไทยทำมักจะตายเพราะ สตอรี่บอร์ดนั่นแหละ เทคนิคการนำเสนอสตอรี่บอร์ด อนิเมเพื่อการเล่าเรื่องญี่ปุ่นโครตกั๊ก

27 Nameless Fanboi Posted ID:APThzG6CD

>>26 มึงจะบอกว่าที่ญี่ปุ่นสอนอนิเมเมืองนอกกันทุกวันนี้คือจะสร้างกรรมกรเพิ่มว่างั้น

28 Nameless Fanboi Posted ID:S+7Sx8R75

>>27 เออสิว่ะ ค่าแรงอนิเมเตอร์ในญี่ปุ่นแม่งว่าถูกแล้ว มาจ้างต่างประเทศแม่งถูกยิ่งกว่าอีก

29 Nameless Fanboi Posted ID:l3LoKfAMz

แต่ทีมงานนี้เขาเคยทำจากตะวันตกมานะ ไม่ใช่ญี่ปุ่น

30 Nameless Fanboi Posted ID:qWUmR6cjv

>>9 ควยย นักเขียนอันดับหนึ่งของประเทศ กูให้ทมยันตีเท่านั้น อันนี้ไม่ได้อวยนะ แต่จากผลงาน จากความดัง ยกตัวอย่างเรื่องคู่กรรม ใครๆก็รู้จัก อีปอบเป็นได้แค่ซอกฝุ่นง่ามตีนที่มโนตัวเองเป็นพระเอกนิยาย จริงๆแล้วมันควรเป็นนายเอกมากกว่า

31 Nameless Fanboi Posted ID:j.qQQY9S1

เลิกพูดถึงด๊อกเตอร์ป๊อปในกระทู้การ์ตูนไทยได้มั้ยวะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:BAo4dfdOl

เงิน 100 ล้านจ้างสตูดิโอญี่ปุ่นทำอนิเมะฉายโรงได้เลยนะ

33 Nameless Fanboi Posted ID:ZB+TjYVGd

>>31 แล้วมึงพูดถึงทำไมอ่ะ

34 Nameless Fanboi Posted ID:9WzLYhfnX

เพราะสตูไทยทำอนิเม แพงโพตๆ เพราะมะนทำคีย์ ระดับดิสนีย์น่ะ

35 Nameless Fanboi Posted ID:xyEKkf+W0

>>34 แต่ทำวิดีโอโปรโมทโคตรเฟลอะ

ตัวงานอนิเมืเองก็ดูเหมือนยังมือไม่ถึงชอบกลว่ะ...

แถมจะฉายอยู่แล้วแทบไม่มีใครรู้จัก สงสัยจะแย่

36 Nameless Fanboi Posted ID:Peenq9vbn

>>30 มึงดูถูกหม่อมคึกฤทธิ์ แม่พลอยจะไม่ทน

37 Nameless Fanboi Posted ID:9WzLYhfnX

กูไม่ชอบงาน คึกฤกธิ์ ฟะ 555

38 Nameless Fanboi Posted ID:v6a5Fu0uK

>>36 ถ้ามึงชอบงานคึกฤทธิ์ ก็ควรไปยกย่องฝรั่งเจ้าของต้นฉบับด้วยนะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:4tPme.97j

กูอยากรู้เรื่องสูญยากาศอนิเมชั่นไทย

40 Nameless Fanboi Posted ID:JT9.Y+XzZ

ความหมายของมึง สูญญากาศคืออะไรฟะ กู งง ช่วงเว้นว่าง ช่วงเงียบ หรือยุคมืด กูจะได้อธิายให้ถูก

41 Nameless Fanboi Posted ID:rzM3WWJM6

ช่วงหลังอ.ปยุตป่ะ ตอนนั้นก็พอไปได้ไม่ทิ้งห่างเมืองนอกมากนัก แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นวะ กูก็อยากรู้เหมือนกัน

42 Nameless Fanboi Posted ID:nqG6zWC+v

ตอนสุดสาครของ อ.ปยุต ก็จะออกฉายก็ปี 1979 แล้วนะมึง ปีเดียวกับที่ The Castle of Cagliostro ของมิยาซากิฉายอ่ะ
อ.ปยุตแกเก่งจริง แต่จะบอกว่าของไทยตอนนั้นสูสีกับเมืองนอกนี่ เกินจริงไปหน่อยว่ะ

43 Nameless Fanboi Posted ID:viE6JgpSO

>>42 กูไปดูงานลุงมิยาซากิมาล่ะ แม่งห่างชั้นกันจริง

ต่อให้กูรักชาติไปหน่อยนะ แต่ไอ้ที่ทุนสร้างร้อยล้านแต่ยังขยับเหมือนของปี 1979 นี่ก็ไม่ไหวป่ะ กูยังว่านางเงือกสไตล์อ.ปยุตยังดูดีกว่าอีก จะไทยแม่งก็ไทยไม่สุด แล้วไอ้ช่องว่างระหว่างสุดสาครจนถึงอนันตานี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ กูว่าน่าศึกษาเหมือนกันนะ

44 Nameless Fanboi Posted ID:ca2bPBT8s

อนิเมชั่น 2 มิติอย่าไปแข่งอย่าไปพัฒนาเลยเหอะ ตลาดเล็กลงทุกวัน กลุ่มเป้าหมายไม่มี ลูกค้าไม่สนใจ
ตอนนี้ก็เหลือแต่ญี่ปุ่นชาติเดียวในโลกแล้วที่ยังคงเป็นอุตสาหกรรมอยู่ ประเทศอื่นเหลือแค่
ตาม MV หรือหนังสั้นแค่นั้น กูเห็นด้วยมากกว่าควรจะไปพัฒนาเป็น 3D ไปเลย ขนาด Disney
ก็ยังเป็น 3D หมดแล้ว เทคโนโลยี Software 3D ก็ช่วยลดช่องว่างของประสบการณ์ลงได้เยอะ
ประเทศไทย Animator 2D ที่เก่งจริงจะมีถึง 20 คนหรือเปล่าเหอะ

45 Nameless Fanboi Posted ID:hF5BeuX0m

ในช่องดีสนี่ย์รายวันยังมีการ์ตูน 2D ให้ดูอยู่นะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:JT9.Y+XzZ

>>42 สูสีนะมึง ขนาดยุ่น ยังมาศึกษางานกะอาจารย์ปยุต อย่าไปเทียบกะ เทพมิยาซากิ ดิฟะ ขานั้นเขาสุดยอดอยู่แล้ว ถ้า ให้อาจารย์ปยุตไประดับนั้นก็ได้แค่ลูกมือ เทพแกแหละ คือต้องคิดหน่อยว่า สมัยนั้นคนทำได้มีแค่ดิสนีย์ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็มา งมโข่งกัน แต่ของไทยแม่ง เจือกโดน คุถมกำเนิดซะงั้น ไม่ยอมให้มันโต เพราะ บ้านเมืองเรามันเป็นประเทศเกษตรกรรม เลยทุ่มไปทาง แดกค่าทำถนนกะซื้อเสียงชาวนามากกว่า ผิดกะยุ่นแม่ง ปล่อยให้มันโตๆ ไปตามธรรมชาติ มันเลย ค่อยๆ โตกันไป และสุดท้ายกลายเป้ฯสินค้้าส่งออกแล้วแม่ง ยิ่งอัดให้โตไปอีก มันเลย เกิดแบบนี้แหละ โทษใคร กูว่า สมัยนั้นไม่มีใครทำนายได้หรอกว่าการทำภาพเคลื่อนไหวทำสื่อ จะทำเงินได้มหาศาลได้

47 Nameless Fanboi Posted ID:0.CTOBGsU

>>46
ญี่ปุ่นมาศึกษางานไทยตอนไหนวะอยากรู้ มีอ้างอิงไหม
ยุค 70s ประเทศทางยุโรปเขาไปไกลด้านอนิเมชันกันแล้ว ไม่ใช่มีแค่ดิสนีย์
จนตอนนั้น รัสเซียข้ามไปเน้นที่อนิเมชันแนวทดลองแล้ว

อยากรู้ว่าไทยตามหลังเขาแค่ไหน มึงดูอนิเมชันเกาหลีเหนือที่ฉายทีวีในยุคนั้น
https://www.youtube.com/watch?v=I_wxdhiB5w4

48 Nameless Fanboi Posted ID:oRpzRHzH1

ปยุตก็แค่ก้าวตามรอยเท้าวอลทดิสนี่ย์ทุกเสต็บแค่นั้น แต่สำหรับคนไทยจะถือว่าประสบความสำเร็จก็ไม่แปลก

49 Nameless Fanboi Posted ID:/oIMzq4tp

>>44 2Dตะวันตกก็ยังทำอยู่เยอะ แค่ไม่ใช่ระดับหนังโรง

50 Nameless Fanboi Posted ID:nqG6zWC+v

ทางตะวันตกเหลือแต่ฝรั่งเศสมั้ง ที่ยังทำหนังโรง 2D อยู่

51 Nameless Fanboi Posted ID:3MtTCjFN.

ต่อให้งาน 2D น้อยลงตามที่พวกมึงว่านะ แต่ในเชิงเทคนิคแม่งไปไกลมากแล้ว มึงเคยดู paperman ของดิสนี่ย์ป่ะ มันเอา 3D มาโปรเจคกลับเป็น 2D อย่างเนียน ยังไง 3D มันก็แทน 2D ไม่ได้ว่ะ หรืออย่างลุงมิยาซากิก็มีเสน่ห์ของงาน 2D ที่มันทำมากี่ปีพวกมึงก็สนใจจะไปดูอยู่ดี เสียดายแค่ลูกหลานลุงแม่งไม่ได้ขี้เล็บลุงเลย

มึงดูงานพวกนี้บน youtube แล้วย้อนมาดูไอ้หนังชาตินิยมนี่ดิ แม่งเอ้ย โหนมันซะครบชาติ ศาสน์ กษัตริย์แล้วมั๊ง โหนอย่างเดียวแต่ไม่ใส่ฝีมือลงไป พอมันเจ๊งขึ้นมาก็กลายเป็นว่าทำหนังการ์ตูนแล้วมันไม่เจริญอีก วนลูปไหลลงรูปไปเรื่อยๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID:fYgMaw4yT

กูแนะนำให้มึงลองหาการ์ตูนขาวดำสมัยก่อนของ Kenzo Masaoka ดูว่ะ เป็นงานช่วงยุคปี 1930-40

53 Nameless Fanboi Posted ID:YLSBUYXk+

ตอนนี้มีโปร2dเหลือในประเทศปะวธรรมหรือสูญพันธุ์ไปหมดละ

54 Nameless Fanboi Posted ID:wzzZlq3Mg

>>53
แนวญี่ปุ่นไม่ค่อยเจอว่ะ
แต่คนที่ทำ 2D แนวฝรั่งเก่งๆนี่รู้จักหลายคนอยู่

55 Nameless Fanboi Posted ID:JT9.Y+XzZ

แต่น่าสงสาร ปยุต จริงๆ ฟะั ปากบอกสนับสนุนๆ อนิเมชั่นไทย แล้วสุดท้าย ตายไปก็ไม่มีใครแล เบย รู้สึกเฟลชอบกล

56 Nameless Fanboi Posted ID:cBaJSsGE/

คนไทย ถ้าทำด้านนี้จริงๆเขาก็ไปเมืองนอกหมดแล้วปะวะ ที่อยู่ที่ไทยก็คงเป็นคนที่อยากอยู่ไทยหรือไม่ก็ทำงานเมืองนอกมาแล้ว และอยากกลับมาอยู่บ้าน

57 Nameless Fanboi Posted ID:p+HG/M+x4

ไอ้เรื่องนี้ก็ขยันดราม่าบ่อยเหลือเกิน ส่วนตัวกูไม่ได้สนประเด็นไทยไม่ไทยเลย แต่อ่านแล้วไม่สนุกว่ะ คงไม่ได้ตามเก็บต่อ
https://www.facebook.com/MangaFail/photos/a.201102670023365.50356.201096546690644/564414890358806/?type=1

58 Nameless Fanboi Posted ID:85xuj+yq8

ไอ้นี่เป้นงี้ทุกที เวลาเปิดตัวเขียนโครตดีแต่พอดำเนินเรื่องนะ แม่งเละ

59 Nameless Fanboi Posted ID:2v1f9tWwG

การ์ตูนขุนแผนนี่ทำให้กุได้รู้เลยว่า การเอาวรรณกรรมเก่าๆ มาเล่าเรื่องตีความใหม่ (ซึ่งต่างประเทศทำกันเป็นเรื่องโคตรปกติ) เป็นอะไรที่สมองคนไทยจำนวนมากไม่สามารถรับได้เลยว่ะ คือถ้าเป็นพวกอาจารย์แก่ๆ หรือไดโนเสาร์ที่ไหนออกมาบ่น กุยังพอเข้าใจนะ แต่นี่คือเด็กหรือวัยรุ่นหลายคนที่ควรจะเฉยๆ กับเรื่องพรรค์นี้ กลับออกมารับไม่ได้ราวกับเป็นแฟนบอยวรรณกรรมต้นฉบับมาแต่ชาติปางไหน (ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันไม่เคยอ่านต้นฉบับเต็มๆ นอกเหนือจากคาบภาษาไทยที่โรงเรียนหรอก) กุเห็นแล้วสิ้นหวังนิดๆ เลยว่ะ ว่าการศึกษาบ้านเราขัดเกลาเด็กให้ยกทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของศักดิ์สิทธิ์ได้หมด และพร้อมจะปกป้องวัฒนธรรม (ที่ตัวเองแม่งก็ไม่สนใจ) ได้เยี่ยมจริงๆ

กุอ่านแล้วเฉยๆ กับเล่มแรกเหมือนกัน แต่กุก็เชียร์ให้มันประสบความสำเร็จนะ เผื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนอื่นๆ กล้าเล่นอะไรแบบนี้มากขึ้น

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.