พวกแปลนี่ก็ปัญหานึง ฝีมือยังไม่กล้าแกร่งพอจะแปล แต่ก็ยังเอามาแปลด้วยเหตุผลว่า"ใจรัก อยากให้ได้อ่านกัน" ทั้งที่ภาษายังละอ่อนซะไม่มี แปลผิดแปลถูก พอแปลมาก็ไม่พ้นสื่อความหมายออกมาผิด ๆ ตามไปด้วย ปัญหาลามไปถึงคนอ่าน คนอ่านประเภทขาดความแแยกแยะ ไม่รู้จักติติง ขอให้มีอ่าน ขอแค่ให้มันเป็นภาษาไทยที่ตัวเองอ่านออกก็พอแล้ว จะแปลห่วย แปลผิด สำนวนเหมือนกูเกิ้ลแปลก็ช่าง รับสารผิด ๆ แล้วก็ไปบอกต่อคนอื่นแบบผิด ๆ อีก ทีนี้ใครติเตียนต้องปกป้องและถล่มกลับด้วยวลีสุดอมตะจำพวก "เขาแปลให้อ่านก็ดีแค่ไหนแล้ว" "ทำได้อย่างเขาหรือเปล่า แปลมาให้ดูหน่อยสิ" "ผิดนิดหน่อยช่างมันเถอะ จะจับผิดอะไรนักหนา ของฟรีนะ ลิขสิทธิ์ก็ว่าไปอย่าง" "ไปว่าเขา เดี๋ยวเขาก็หยุดแปล อดอ่านหรอก เห็นใจคนอ่านภาษานี้ไม่ออกบ้างสิ" ทำให้พวกแปลแบบนี้เหลิง และอีโก้สูงขึ้น ไม่ยอมรับคำติติง คิดว่าทุกสิ่งอยู่ในมือตัวเองละ มีปัญหาก็ใช้คำว่าหยุดแปลมาลองเชิง เพื่อวัดกระแสความนิยม เยอะก็ทำต่อ ไม่ค่อยดีก็เลิก อาจรอเวลาจับเรื่องอื่นมาทำ เห็นแล้วก็เศร้าใจ คนแปลประเภทอีโก้จัด ติไม่ได้ คนแปลอ่านอย่างเดียว อ่านเสร็จสะบัดก้นหนี ไม่ให้คำวิจารณ์อะไร กับมีให้อ่านเป็นพอ จะผิดจะถูกไม่สน เป็นวังวนไปเรื่อย
ส่วนตัวชอบให้คนมาติติงและวิจารณ์สำนวนกับความถูกต้องในการแปลนะ ยิ่งพวกเก่งภาษาเนี่ย ต้องการเลยละ เพราะจะได้รู้ว่าเราผิดยังไง ควรแก้ตรงไหน จะได้พัฒนาให้ดีขึ้น ได้ความรู้อีกต่างหาก