Last posted
Total of 1000 posts
บางทีกุบ่นในที่ของกุนะ แต่มีคนหาว่ากุไปด่าสนพ อีพวกนี้ปสดกว่า กุแค่บอกว่า กุโง่ ศัพท์มันยาก กุไม่รู้จริงๆ แล้วของแถมเพราะประเทศอื่นเค้าตั้งใจทำให้สายสะสม สายสะสมไทยไม่มีสิทธิ์บ่นหรอวะ ก็สนพทำออกมาราคาเกือบสี่ร้อย แต่ได้แค่ที่คั่นห่วยๆ
ออกมาพันสามให้ป้ายแขวนกุก็ซื้อ จบการบ่นในที่ของกุ สนพ. จะคิดไงฟีดแบคต่อคนอ่านขนาดไหน ไปใช้สมองคิดเอาเอง
ต่อให้เรื่องดังแค่ไหน ถ้าสนพทำงานออกมาห่วยๆไม่มีคุณภาพ คนก็ไม่สนับสนุนนะ เอาที่เห็นชัดๆเลย ตู้เจ๋อ กูเห็นคนรอเยอะมาก พอออกเล่มเป็นไงล่ะ แปลใช้คำศัพท์แบบงงๆ พิมพ์ผิดเยอะมาก เชิงอรรถหายอีก กระแสเงียบ
.
วีรชนอีกเรื่องนึง แต่อันนี้ดูแค่ตัวอย่างที่ลงให้อ่านนะ แปลยังงงๆอยู่ แถมใช้นักแปลสองคนอีก กูไม่กล้าเสี่ยงพรีเลย กลัวออกมาไม่ดี แถมราคาแพงมาก ครบชุดร่วมสามพัน
.
สนพที่ทำงานเป็นมืออาชีพ ไม่ควรจะเอาแค่เสียงนักอ่านในเนตมาทำให้จุดยืนและวิธีการทำงานไขว้เขวได้นะ ซึ่งกูคิดว่าบกรมั่นคงในจุดยืนมากพอ ดูจากที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะมีใครไปต่อว่าแค่ไหน บกรก็ไม่ออกมาเปลี่ยนอะไรทั้งการแปล ระยะเวลาการออกเล่ม ส่วนสนพอื่นๆ ดูจากผลงานละกัน เงินในมือคุณ คุณเลือกเองว่าจะสนับสนุนหรือไม่
สมัยนี้กลายเป็นเสียเงินซื้อของแถมแล้วหรอวะ ปกติต้องเสียเงินซื้อหนังสือดิ ตรรกะป่วยๆแบบนี้ควรไปพักว่ะ
.
ฝากถึงสนพไหนก็ตามที่มาอ่านโม่งนะ มีอ่านแน่นอน หยุดการขายแพงๆได้แล้ว พวกของแถมรอบจองบ้าบอคอแตกเลิกๆให้หมด เอาเวลาไปทำหนังสือให้มีคุณภาพดีๆเถอะ แปลให้ถูกต้องครบถ้วน ใช้ภาษาไทยให้ถูก พิสูจน์อักษรเยอะๆ รูปเล่มมีคุณภาพ สันกาวแข็งแรง ราคาสมเหตุสมผล ไม่ใช่ตั้งราคาประหนึ่งจะเอาไปสร้างบ้านสิบหลัง
ถ้าที่คั่นกลิตเตอร์กระดาษแบบเดียวกับหน้าปกนิยายเป็นแค่ที่คั่นห่วยๆ ที่คั่นอาร์ตมันธรรมดาๆของนิยายเรื่องอื่นมึงไม่มองเป็นที่คั่นขยะเลยเหรอวะ
พูดถึงของแถมสำหรับสายสะสม กุเห็นคนพรีปรมจ.ver เวียดนามที่ของมาแล้วบ่นโคตรเยอะ หนังสือไสกาวแย่มาก กระดาษเหมือนทิชชู่ ของแถมอื่นๆไม่เนียบ ก๊องแก๊ง ไม่ได้สวยเหมือนตัวอย่างเจ็บกันระนาว
ดีนะกูไม่ใช่สายสะสมของแถม กูขอที่ตัวนิยายแปลดี พิมพ์ผิดน้อย หน้าไม่หาย กระดาษไม่แย่ เปิดอ่านง่ายและหนังสือไม่เสียหายง่าย ของแถมไม่สำคัญ กูต้องการอ่านนิยายยยย
>>955 มึงอยากสะสมก็ซื้อของอฟชจีน มีตั้งแต่พวงกุญแจยันลิปสติก กระเป๋า ร่ม ตุ๊กตา ด๋อย เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว จะมาเรียกร้องให้แถมกับหนังสือไมวะ สายสะสมจริงมึงก็เลือกซื้อไปสิไม่ใช่เอะอะให้รกบ้านคนอื่น เป็นข้ออ้างให้สนพขึ้นราคานิยายมากขึ้นด้วย ไม่ต้องการ เลือกเองได้ด้วยว่าอยากได้ผลิตภัณฑ์ไหน พูดถึงภาพแขวนแล้วกูกลอกตา พรีตัวร้ายกูไมเกรนขึ้นทุกครั้งตั้งแต่ก่อนเปิดพรี หลังเปิดพรีแม่งก็ยังมีดราม่า ขอซื้อแบบปกติชนเถอะ
>>960 บวกหนึ่ง หลายเรื่องดังแต่ถ้าสนพทำไม่ดีก็ดับจริง การ์เดี้ยนที่ทำเป็นซีรีส์ยังดับ คนบ่นมากน้อยยังไงสุดท้ายสิ่งตัดสินจริงๆคือคุณภาพอยู่ดี ตอนนี้หลายสนพเล่นตลาดวาย ต่อให้ได้เรื่องดียังไงถ้าคุณภาพไม่ดีคนก็ทำใจปล่อยวางไปหาเรื่องที่จัดการดีๆอื่นได้
กูงงคนที่โวยวายจะเอาของแถมนู่นนั่นนี่ ตกลงซื้อนิยายเพราะจะเอาเล่มนิยายไปอ่านหรือจะเอาของแถม กูอยากได้แค่เล่มอย่างเดียว อย่างอื่นเฉยมาก ไม่มีที่จะเก็บแล้ว ของเวียดนามกับเกาหลีที่ยกๆมาโวยวายจะเอาของแถมตามนี่ก็ราคาบวกค่าของแถมไปเท่าไร มันไม่ได้แถม แต่คิดราคารวมกับหนังสือไปแล้วว้อย ถึงจะมีให้เลือกซื้อเป็นออปชั่นก็แพงอยู่ดีมั้ย น่าจะคิดกันเยอะๆก่อนมาบ้งเบ้งใส่สนพ.
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>924 เทียนกวาน Part.53
.
.
.
.
.
มู่ฉิงอธิบายว่าเขาได้แจ้งเรื่องกับราชครูแล้ว แต่ช่วงนั้นเป็นเวลาพัก การบำเพ็ญเป็นเรื่องน่าเบื่อ มีเกมเพียงน้อยนิดที่ช่วยให้ความบันเทิง และสิ่งที่เหล่าราชครูโปรดปรานที่สุดก็คือการเล่นไพ่ ในช่วงพักพวกเขาจึงปิดศาลาตั้งวงคิดเลขกันอย่างเมามันส์จนไม่รับรู้สิ่งรอบตัว และเนื่องจากมู่ฉิงถูกศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นตั้งแง่รังเกียจเพราะเห็นว่าพวกราชครูไม่ชอบศิษย์คนนี้ พวกเขาเลยไม่ยอมฟังและไล่มู่ฉิงออกไป มู่ฉิงจึงเดินวนหาหน้าต่างห้องที่ราชครูอยู่แล้วแจ้งเรื่อง ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบว่าเข้าใจแล้ว ทำเอาราชครูพูดไม่ออกเพราะระหว่างการดูเอลหากได้ยินใครพูดอะไรด้วยเขาก็คงตอบรับไปส่งๆ จริงๆ แต่เฟิงซิ่นกลับยิ่งโมโห เซี่ยเหลียนเข้ามาประณีประนอมว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ราชครูเองก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกจึงบอกว่าพวกเขาจะปรึกษาหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ และให้ทั้งสามกลับ แต่ราชครูก็ไม่ลืมเอ่ยว่าราชากับราชินีฝากมาบอกให้เซี่ยเหลียนกลับไปเยี่ยมบ้าง
ที่ตำหนัก เซี่ยเหลียนยืนให้มู่ฉิงช่วยถอดเสื้อผ้าที่ใช้แสดงไปเก็บ ขณะรอให้อีกฝ่ายเอาเสื้อใหม่มาให้เปลี่ยน มู่ฉิงก็สังเกตเห็นรอยเปื้อนรูปมือเล็กๆ บนเสื้อของเซี่ยเหลียน ท่าทางจะเป็นเพราะเด็กชายคนนั้น เซี่ยเหลียนจึงหันไปสอบถามองครักษ์ เฟิงซิ่นบอกว่าเขาไปส่งอีกฝ่ายออกจากราชวัง แต่พอจะดูแผลที่หัวให้ เด็กชายกลับเตะเขาแล้ววิ่งหนีไป แล้วมู่ฉิงก็เอ่ยว่าการที่เสื้อของเทพสกปรกเป็นลางร้าย แต่เซี่ยเหลียนคิดว่าแค่เอาไปซักก็จบ มู่ฉิงจึงตอบเสียงเบาว่าเขาจะซักด้วยความระวัง
เซี่ยเหลียนเอ่ยชมว่าวันนี้มู่ฉิงสู้ได้ดีมาก และแนะนำว่าอีกฝ่ายเหมาะกับดาบโค้ง แม้ตอนแรกคนถูกชมจะดูเครียดแต่สุดท้ายก็ยิ้มอย่างผ่อนคลาย จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงโม้การต่อสู้อย่างโอตาคุ แต่แล้วเขาก็พบว่าตุ้มหูไข่มุกปะการังสีแดงของตัวเองหายไปข้างหนึ่ง เฟิงซิ่นเดินหาตรงทางเดิน ส่วนมู่ฉิงหยิบไม้กวาดมากวาดหาตามซอกหลืบ แม้จะไม่ใส่ใจนัก แต่พอเห็นความพยายามของทั้งสอง เซี่ยเหลียนเลยเสนอให้ไปตามคนมาช่วย ทว่าเฟิงซิ่นกลับบอกว่าคนอื่นอาจจะขโมยเก็บไว้เอง พอได้ยินดังนั้นไม้กวาดในมือของมู่ฉิงก็หักเป็น 2 ท่อน คิดว่าเฟิงซิ่นกล่าวหาว่าเขาเป็นคนขโมยไป ทั้งสองทะเลาะกัน แล้วมู่ฉิงก็หันมาว่าเซี่ยเหลียนว่าไม่รักษาสัญญา ก่อนวิ่งจากไปอย่างดรามาควีน
เซี่ยเหลียนรีบตามมู่ฉิง โดยมีเฟิงซิ่นตามมาด้วย เขาอธิบายว่าอีกฝ่ายไปพูดจี้ใจมู่ฉิงเข้า เฟิงซิ่นเลยถามว่ามู่ฉิงเคยขโมยของของเซี่ยเหลียนมาก่อนหรือเปล่า เซี่ยเหลียนปฏิเสธ แต่เฟิงซิ่นไม่เชื่อ และบอกให้เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เซี่ยเหลียนจึงจำเป็นต้องเล่าว่าตอนที่พวกเขามาที่นี่ครั้งแรก ราชินีซึ่งกลัวว่าลูกชายจะเบื่อจึงส่งของเล่นมาให้ หนึ่งในนั้นคือแผ่นทองคำ แต่ในตอนเตรียมส่งของกลับเขาพบว่ามีแผ่นทองหายไปใบหนึ่ง พอหาไม่เจอจึงไปบอกราชครู อาจารย์ของเขาเลยไล่ค้นห้องทุกคน ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็มาสารภาพกับเขาว่าเจอแผ่นทองตกอยู่ในพุ่มไม้ระหว่างไปตักน้ำ แต่เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเก็บมันไว้กับตัว ด้วยความสงสารเกรงว่ามู่ฉิงจะถูกไล่ออก เซี่ยเหลียนจึงออกรับหน้าบอกทุกคนว่าเขาลืมไปเองว่าแผ่นทองหายไปตั้งแต่เขาอยู่ที่ราชวังแล้ว เฟิงซิ่นโกรธที่เซี่ยเหลียนปกป้องอีกฝ่าย อีกทั้งยังไม่พอใจที่ปกปิดเรื่องนี้กับเขาด้วย แต่เซี่ยเหลียนก็อธิบายไปว่าเป็นเพราะเขาสัญญากับมู่ฉิงว่าจะไม่บอกใคร ก่อนสั่งไม่ให้เฟิงซิ่นบอกคนอื่นหรือพูดเรื่องนี้อีก
เฟิงซิ่นสันนิษฐานว่ามู่ฉิงคงเข้าใจผิดว่าที่เขาชอบชวนทะเลาะเป็นเพราะเขารู้เรื่องแผ่นทองคำ ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นเพราะเขาไม่ชอบนิสัยชอบคิดเล็กคิดน้อยของอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนช่วยแก้ต่างให้มู่ฉิงว่าเป็นความผิดครั้งแรก แถมฝ่ายนั้นก็สัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอีกจึงควรให้โอกาส แต่เฟิงซิ่นก็ยังตั้งประเด็นขึ้นอีกว่ามู่ฉิงจงใจไปส่งข่าวตอนราชครูตั้งวงไพ่เพื่อทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน ถึงจะคิดเหมือนกัน แต่เซี่ยเหลียนก็พอเข้าใจความรู้สึกของมู่ฉิงที่อยากเอาคืนทุกคนเบาๆ แม้เขาจะใช้มู่ฉิงทำงานบ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าคนๆ นี้เป็นคนของเขา ทว่าแทนที่คนอื่นจะเกรงใจ กลับกลายเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนอื่นรังแกมู่ฉิงแทน เซี่ยเหลียนจึงแอบรู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยากปล่อยให้เพชรน้ำงามมีฝีมือแบบมู่ฉิงให้กลายเป็นเพียงก้อนกรวดไร้คนสนใจ
ถึงเฟิงซิ่นจะไม่เห็นดีเห็นงาม แต่เขาก็ไม่ขัดอะไรเจ้านายอีก เซี่ยเหลียนสอบถามถึงมู่ฉิงจากศิษย์ร่วมสำนักที่บังเอิญเจอระหว่างทาง แล้วทั้งสองก็เดินมาถึงป่าต้นเชอร์รี่บนยอดเขาไท่ชาง ซึ่งที่นั่นเองพวกเขาก็ได้เห็นคนที่ตามหากำลังถูกศิษย์ในสำนัก 4 คนรุมบูลลี่อยู่
.
.
.
.
.
กูว่าเผลอๆ บกร.แพงที่อิปกวิ้งๆ ที่คั่นวิ้งๆ นี่แหละ 55555 ไม่ต้องแถมเหี้ยไรแล้วเดี๋ยวราคาแม่งขึ้นอีก แค่นี้กูก็อ่วมแล้วจ้า
ราคาปกติของบกรคือ จำนวนหน้า + 20-30 บาท แต่ปรมจกับชายาคุณธรรม สองเรื่องนี้ราคาปกต่ำกว่าจำนวนหน้า เป็นนิมิตหมายอันดีว่า สนพเริ่มรับฟังเสียงผู้บริโภคบ้าง
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>968 เทียนกวาน Part.54
.
.
.
.
.
ศิษย์กลุ่มนั้นรุมใส่ร้ายว่ามู่ฉิงว่าเก็บผลไม้ไปคนเดียวเกือบหมดป่า เพราะทุกคนต่างรู้ว่าบ้านของมู่ฉิงยากจน อีกทั้งมารดายังมองไม่ค่อยเห็นจึงต้องอาศัยลูกชายทำงานหาเงิน ก่อนที่พวกเขาจะทำร้ายมู่ฉิง เซี่ยเหลียนก็เข้าไปห้าม ประกาศว่ามู่ฉิงเป็นผู้ติดตามของเขา และเขาเป็นคนสั่งให้อีกฝ่ายมาเก็บผลไม้เอง ลูกศิษย์กลุ่มนั้นจึงรีบขอโทษแล้ววิ่งหนีไป มู่ฉิงไม่ขอบคุณเจ้านาย ทั้งยังถามว่าทำไมชอบโผล่มาในเวลาแบบนี้ แม้เฟิงซิ่นจะไม่พอใจที่อีกฝ่ายพูดจาอย่างนั้น เขาก็ยอมขอโทษว่าที่พูดก่อนหน้านี้ตนไม่ได้หมายถึงอีกฝ่าย เลิกอารมณ์เสียได้แล้ว ได้ยินแบบนั้นเซี่ยเหลียนก็หัวเราะบอกให้ทุกคนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นให้หมด และถ้าคราวหน้ามู่ฉิงจะมาเก็บผลไม้ก็อ้างชื่อเขาได้เลย ในที่สุดมู่ฉิงจึงเอ่ยขอบคุณเซี่ยเหลียน
วันต่อมาเซี่ยเหลียนพาเฟิงซิ่น กับมู่ฉิงติดตามกลับไปเยี่ยมราชากับราชินีที่ราชวัง ซึ่งฉีหรงก็ขับรถม้าทองคำมารอรับญาติผู้พี่ที่ตีนเขา แต่ฝีมือขับรถของฉีหรงเลวร้ายมาก เขาบังคับม้าไปชนแผงขายของ และเกือบชนคนในเมืองจนแทบวอดวายกัน แต่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย เมื่อได้พบลูกชาย ราชินีก็ตัดพ้อว่าเซี่ยเหลียนไม่ค่อยจะกลับมาเยี่ยมหญิงชราคนนี้เลย เซี่ยเหลียนเลยพูดเอาใจไปว่าอีกฝ่ายยังไม่แก่ และมีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวอายุรุ่นเดียวกับเขา ราชินียิ้มพอใจ สังเกตว่าลูกชายผายผอมลงจึงตั้งใจจะเลี้ยงอาหารขุน ก่อนที่เธอจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นในเทศกาลซ่างหยวน และเซี่ยเหลียนถูกลงโทษหรือไม่ ฉีหรงจึงเอ่ยแทรกว่าคนที่สมควรถูกลงโทษคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นต่างหาก
เซี่ยเหลียนจึงแนะนำมู่ฉิงให้มารดา และบอกว่าอีกฝ่ายคือคนที่แสดงเป็นผีร้าย พอรู้เช่นนั้นฉีหรงก็เอาถ้วยชาปาใส่ แต่เซี่ยเหลียนซัดแขนขอญาติผู้น้องไว้ทันแล้วส่งอีกฝ่ายไปให้เฟิงซิ่นจับตัวไว้ เขาหันไปบอกแม่ให้ยึดรถม้าของฉีหรง พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทางให้ฟัง ฉีหรงไม่พอใจมาก เขาสะบัดมือออกจากการจับกุมแล้ววิ่งจากไป ราชินีบอกว่าไว้ตนจะคุยกับหลานให้ แต่ก็อธิบายว่าที่ฉีหรงอยากได้รถม้าก็เป็นเพราะอยากใช้มันไปรับเซี่ยเหลียนกลับบ้าน
เย็นวันนั้นเซี่ยเหลียนบอกลาราชากับราชินี เป็นที่รู้กันว่าตั้งแต่เข้าสู่หนทางการบำเพ็ญเพียรองค์ชายรัชาทายาทก็กลับมาเยี่ยมทั้งคู่น้อยลงเรื่อยๆ เขาตามมู่ฉิงกลับไปหาแม่ที่บ้าน พอเห็นเด็กๆ แถวนั้นเข้ามาเกาะ เรียกมู่ฉิงว่าเกอเกอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มู่ฉิงไม่ได้ใช้น้ำเสียงเย็นชาเช่นปรกติ แถมยังแบ่งผลไม้ให้พวกเด็กๆ ก็ทำให้ให้เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตอนที่เขากำลังหาว่าตัวเองมีอะไรพอให้เด็กๆ ก็มีเสียงฝูงชนกรีดร้องจึงได้รู้ว่าฉีหรงขับรถม้าออกมาสร้างความวุ่นวายอีก ในครั้งนี้เขายังผูกกระสอบเปื้อนเลือดไว้ที่หลังรถม้าด้วย พอเห็นกระสอบขยับเขาจึงรู้ว่าข้างในนั้นมีคนอยู่
เฟิงซิ่นไปหยุดม้าตามคำสั่ง ส่วนเซี่ยเหลียนวิ่งไปตัดเชือกที่ผูกกระสอบไว้ เมื่อเปิดออกก็พบว่าข้างในคือเด็กชายคนหนึ่ง นอกจากการบาดเจ็บจากการถูกลากแล้ว ร่างนั้นยังเต็มไปด้วยรอยเท้าราวถูกคนกระทืบมาก่อน เขาสั่งให้เฟิงซิ่นจับตัวฉีหรงไว้ เมื่อเซี่ยเหลียนถามอาการของเด็กชาย อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เอามือปิดหน้าข้างหนึ่งราวกับไม่อยากให้เซี่ยเหลียนเห็น ตอนนั้นเองฉีหรงก็บอกว่านั่นคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงในตอนนั้น เขาจึงล้างแค้นให้ญาติผู้พี่ เซี่ยเหลียนด่าและสั่งไม่ให้อีกฝ่ายยุ่งกับเด็กคนนี้อีก แต่ดูเหมือนฉีหรงก็ไม่ยอมเข้าใจอยู่ดีว่าตนทำผิด
เซี่ยเหลียนลูบหลังปลอบเด็กชายที่ซุกหน้ากับอกของเขา บอกว่าจะพาไปหาหมอ ภาพที่เห็นทำให้ฉีหรงโกรธมาก เขาพุ่งเข้าไปหมายจิกหัวของเด็กชาย เมื่อเฟิงซิ่นเห็นอย่างนั้นจึงรีบเตะแขนของฉีหรงเพื่อหยุดไว้ ส่งผลให้แขนของอีกฝ่ายหักโดยไม่ได้ตั้งใจ และการที่ข้าราชบริพารทำร้ายเชื้อพระวงศ์ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก
.
.
.
.
.
>>975 โอ้โห น้องฉีหรง น้องมีความโรคจิตอ่ะ คือเหมือนบูชาเซี่ยเหลียนจนแบบใครก็ห้ามเข้าใกล้ มีความหวง เกิดเรื่องอะไรก็คือคนอื่นผิด ท่านพี่เตี้ยนเซี่ยไม่ผิด เข้าใจเลยว่าทำไมพอเซียนเล่อล่มสลายแล้วถึงได้เกลียดเซี่ยเหลียนขนาดนั้น เหมือรผิดหวังในตัวไอดอลอ่ะ รักแรงเกลียดแรงจริงๆ ส่วนฟาฟาตอนเด็กคือแบบ แงงงงง น้อนครับบบบ อยากอุ้มมากอดปลอบ อุ้มมาหอมหัว น้องไม่ควรโดนอะไรแบบนี้ ฮืออออ ขอบคุณสำหรับสปอยเหมือนเดิมนะเพื่อนโม่ง
กูพึ่งเลิกงานเปิดมาเจอสปอยมึง 5555 มาดึกเหมียนเดิม ขอบใจจ้าา
กุสายอ่าน ของสะสมไม่สนใจ กุเน้นแปลครบ แปลดีก็พอใจแล้ว ส่วนของแถมจะห่าเหวไรก็แค่ของแถม ไม่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อหนังสือของกุ
กูว่า ความจริงสนพ.ควรแจ้งกำหนดการคร่าวๆเนอะ ว่าจะออกทุกกี่เดือนไรงี้ บางคนบอกว่าแฮร์รี่รอปีละเล่มก็รอมาแล้ว กูไม่เห็นด้วยว่ะ เพราะเจเคเขาเขียนยังไม่จบ แต่นี่เขียนจบแล้วรอแค่แปล ตอนนี้เหมือนรอเรื่อยๆ เลยว่ะ
>>984 เออ อันนี้แอบเห็นด้วย คือกูก็รอได้นะ แต่ก็อย่างที่ว่าอ่ะ อย่างน้อยถ้ากำหนดเวลาคร่าวๆให้ได้ก็คงดี เผื่อว่าคนอยากรอเก็บยกเซ็ททีเดียว หรืออยากจะซื้อแยกทีละเล่มจะได้ตัดสินใจได้ อันนี้เหมือนซื้อทีละเล่มแล้วก็รอต่อไปแบบไม่มีปลายทางอ่ะ จนกูก็แอบคิดนะว่าเขาแปลงานกันแบบมีเดดไลน์มั้ยวะ หรือว่าเรื่อยๆไปเรื่อยๆ เสร็จก็ปล่อย ไม่เสร็จก็รอกันต่อไป
กูว่าที่ไม่กำหนดเพราะมันมีเหตุขัดข้องได้ตลอดว่ะ สนพเกือบทุกที่ก็ไม่มีกำหนด มีแต่พวกเปิดพรีซึ่งบางที่ก็เลื่อนจนกูอยากแจ้งความ เวนเอ้ย กูไม่เทียบกับแฮร์รีแต่เทียบกับนิยายทั่วไป เช่นนานมี เซ็นชู เด็กส์ แต่ละเรื่องต้นฉบับนำไปไกลก็ออกกันปีละเล่มสองเล่ม ไม่ใช่แฮร์รีเป็นกรณีพิเศษที่รอกันข้ามปี นิยายปกติรอกันนานอยู่แล้วถ้าจะเอาเรื่องนี้มาเทียบก็เทียบกับวายด้วยกัน ที่ออกก็มีพวกโรสกับอวว ซึ่งใช้เวลาประมาณสามเดือน บกรก็ออกช้ากว่าวายทั่วไปจริง แต่แต่ละเรื่องที่ออกก็ไม่มีใครตามจิกตั้งแต่ได้ลิขสิทธิ์ อาจแปลตุนก่อนแล้วค่อยๆดำเนินการก็ได้
>>986 กูว่ามีเดดไลน์นะ เทียบกับเรื่องอื่นของสนพนี้ก็ออกเรทประมาณนี้อยู่แล้ว
กูมองว่าบกรรอนานกว่าปกติจริง แต่ก็ไม่นานขนาดนั้นเพราะกูเสพนิยายแปลที่ไม่ใช่วายเยอะ อัตรานี้เร็วกว่าปกติที่กูรอ และไม่ค่อยอยากเร่งเท่าไหร่หลังการ์เดี้ยนกูโดนโรคเร่งจนกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ นั่นขนาดสนพใหญ่ของตลาดหนังสือไทยอ่ะ หนังสือซื้อทีอ่านได้อีกนานไม่อยากได้ของแปลพลาดเพราะต้องการเอาใจตลาดแป๊บๆ เหอะๆ กูยังโกรธการ์เดี้ยนไม่หาย ตอนแรกอุตส่าดีใจที่อววได้
กุสายสะสม ขอบ่นบ้างคือกุนอกจากแปลครบแปลดีหนังสือกริบ กุดูที่ความใส่ใจด้วย เหมือนทางเวียตเกา เค้าทำหาเงินล่ะ แต่เค้าดูทุ่มเพราะรู้ว่ามีแฟนๆรอเรื่องนี้เยอะ อันนี้คหกุนะ เพราะกุรักเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่คงไม่ไปโวยวายสนพนะ ใครสายหนังสือก็คงไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่สำหรับสายสะสมมองไม่เห็นสิ่งที่ให้ความพิเศษกับเรื่องนี้จริงๆ
ถ้าทำของสะสมออกมามันจะทำให้หนังสือแพงจนคนที่จะจองรอบที่มีของแถมในไทยน้อยจนได้ไม่คุ้มทุนหรือเปล่า จะทำของแถมกับหนังสือต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม แล้วราคาหนังสือในไทยเทียบกับค่าครองชีพมันก็แพง ชห ไม่เข้าใจว่าทำไมหนังสือในไทยมันถึงแพงกันขนาดนี้ ถ้ามาบวกค่าของสะสมไปราคามันจะยิ่งเพิ่ม
>>996 เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กูหัวเราะเป็นภาษาเวียดนามให้แล้วกัน จากใจคนสั่งพรีจากเวียดนาม หนังสือบอบบางมากกกกกก รูปเล่มตำหนิเต็มคราบกาวเลอะเทอะ ใช้ของคุณภาพแย่มากเทียบกับหนังสือปกติของไทยเลยไม่ต้องสายวายที่คุณภาพดีจัดให้เคลมกระทั่งตำหนิรอยแมวข่วน ที่โดดเด่นคือตอนขายของแถมเยอะเลยดูอลังแต่ในฐานะสายอ่านที่ชอบหนังสือ ขอหนังสือที่แข็งแรงหยิบจับไปไหนมาไหนได้เถอะ ส่วนของแถมนั่นกูสะสมจริง กูมีเงินเปย์อฟชจีนได้ ทำสินค้าหลักอย่างหนังสือให้ดีก่อน พวกชมเวียดนามอ้างว่าชอบสะสมกูอคติก่อนเลยว่าได้แต่ปากดี ไม่ได้ซื้อจริงถึงไม่รู้ว่าปรมาจารย์ของเวียดนามคุณภาพแย่
กูเคยเห็นคนพูดบ่อยๆว่าเวียดนามเหมือนซื้อของแถมแถมหนังสือ ของแถมเยอะมาก ซึ่งกูว่าจริง คุณภาพหนังสือกากชิบหาย
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.