Last posted
Total of 1000 posts
>>900 ไม่ค่อยโอเคกับแนวคิดแบบนี้นะ
แต่พอมีเสียงวิจารณ์เยอะแบบนี้กูว่าไม่ใช่ว่าพวกเราควรอวยว่า สนพ. ทำดีแล้ว แต่อาจจะต้องให้ สนพ. ลองดูทิศทางในอนาคตไหมว่าถ้ามีนิยายที่มีทั้งอนิเมะ ซีรี่ แล้วแมสแบบนี้ใช้ภาษาแบบไหนถึงจะเหมาะที่สุด
ก็สนพ.ทำดีแล้วนี่หว่า "การแปล"อะ แบบนี้สนพ.ต้องทำตามทาร์เก็ตของคนกลุ่มหนึ่ง(ใหญ่หรือเล็กไม่รู้) แต่ใจความหลักของการแปลนิยาย ก็คือการถอดภาษาป่ะ (พุดแบบคนไม้รูู้หลักการแปลอะไรทัั้งสิ้น)
ทับศัพท์นี่มันเหมือนเป็นอุปทานหมู่อะ ใช้เยอะๆ จะได้คงความเป็นจีนไว้ พอคนเสพลักษณะนี้มากๆเข้าก็นิยมชมชอบการใช้ทับศัพท์ เรียกว่าเคยชิน
แต่การแปลไทย ถอดคำจีนมาเป็นไทย มันคือใจความของภาษาไม่ใช่เหรอวะ ง่ายไปอย่างสุ่ยเปี้ยน ถ้าแปลมางี้ แล้วใส่เชิงอรรถ/หรือวงเล็บ มันก็อาจลืมหรือมองผ่านๆในครั้งต่อไป
แต่แปลมาเป็น แล้วแต่ มันก็ชัดแล้วอะ
สำหรับกูนะ การแปลมันควรแปลออกมาให้เราเข้าใจอะ แต่การทับศัพท์มันคือการที่คนแปลเลือกจะใช้ และคนอ่านชินและคุ้ยเคยไปกับมัน ทำไมเราต้องให้สนพ.ปรับด้วยละ ในเมื่อสนพ.ก็แปลในแบบที่ควรจะแปลจริงๆ นึกออกมะ
เกาหลีชื่อคนยังแปล
ญี่ปุ่นก็ด้วย
>>900 กูมองว่าวัตถุประสงค์ของหนังสือคือการอ่านว่ะ และจากที่คุยกันหลายมู้ก็เห็นได้ว่าถ้าไม่แปลก็ถอดความหมายไม่ครบ(แม่โม่เล่นมุกภาษาบ่อย) และหลักการแปลคือการถอดใจความจากภาษานึงมาเป็นอีกภาษานึง การทับศัพท์คือความขี้เกียจของนักแปลที่จะหาสอดคล้องใส่ฟุตโน้ตไปก็แล้วกัน ทัศนคติมักง่ายแบบนี้แผ่ลามไปถึงไหนอะ ถึงเรื่องนักอ่านกับตัวเอก ที่แปลสรรพนาม'เขา'แล้วใส่ฟุตโน้ตว่าในต้นฉบับคำนี้หมายถึงได้ทั้งคนและสิ่งของ ซึ่งคำนี้ใช้มันได้
อีกอย่างพวกที่โวยส่วนใหญ่กูเห็นในทวิตเตอร์ซึ่งตามปรมาจารย์จากอนิเมะบ้าง ซีรีส์บ้าง หลายคนที่ออกมาด่าทับศัพท์ก็พูดว่าพึ่งมาอ่านนิยายจีนครั้งแรกทำไมต้องมาเจอแปลแบบนี้ งที่ตัวเองไม่เคยอ่านเรื่องอื่นเลย และถ้าย้ายมาทั้งในเพจสนพ และกลุ่มสปที่เป็นกลุ่มใหญ่อ่านวายกันเยอะ คนก็เห็นด้วยกับการแปลหทดแล้วไปรุมจวกพวกจะเอาๆทับศัพท์ ซึ่งพวกนี้อะที่เป็นกลุ่มลูกค้าเขา ไม่ใช่พวกที่โหวกเหวก จบเรื่องนี้ก็ไปอ่านอะไรที่เขาจากมา
การทับศัพท์มันงี่เง่าตรงไหนเหรอ ลองไม่เอาความเคยชินมาเทียบโดยเอานิยายภาษาอังกฤษ พระเอกทีฉายาว่าNight knight แปลเป็นอัศวินราตรี คนบอกไม่เอา การอ่านเป็นแค่น้ำจิ้ม กูไปติ่งกับเพื่อนต่างชาติแล้วเดี๋ยวเขางงอัศวินราตรีคืออะไร แปลเป็นไนท์ไนท์ซะ โอย อิดอก คนอ่านอื่นๆก็แบบ ต้องมาจำว่าไนท์ไนท์มันหมายความว่ายังไงแทนที่จะอ่านแล้วรับแซบว่าเป็นอัศวินเพื่อให้พวกหอยหลอดนี่เอาไปเมาท์กับต่างชาติได้ ยิ่งเป็นคำจีนคนไม่ค่อยอยากจำด้วย สรุปจำแค่พระเอกมีฉายาไนท์ไนท์
>>906 เผลอกดส่ง สรุปคือมึงอยากเมาท์กับเพื่อนต่างชาติก็จำอีกชื่อ ไม่ใช่มาสร้างภาระระหว่างอ่านให้คนอื่นจำอีกชื่อ แล้วถ้าด้อมอังกฤษแปลชื่อเฉพาะจีนเป็นอังกฤษแบบฉวนจื๋อจะทำไงวะ ใหแปลเป็นร่มแสนกล หรือเชียนจีส่าน หรือMyriad Manifestations Umbrella เหตุผลว่าควรแปลทับศัพท์เดี๋ยวคุยกับต่างชาติไม่รู้เรื่องกูว่าเอาแต่ใจว่ะ ถ้าต่างชาติถอดเสียงผิดก็ห้ามแก้เพราะเดี๋ยวไม่ชินงั้นเหรอ
พูดอีกที พวกหน้าใหม่ที่บ่นเรื่องทับศัพท์ที่มึงว่าไม่ใช่กลุ่มนักอ่านหน้าใหม่แต่เป็นพวกพึ่งมาอ่านแนวนี้ครั้งแรกเพราะดังและใช่ว่าจะตามไปซื้อเรื่องอื่น ในกลุ่มคนที่อ่านวายเยอะๆคนก็โอเคกับการแปลกัน ชัดๆก็เรื่องราชันย์คู่บัลลังค์ของอววที่แปลอาวุธเหมือนกันแต่ไม่มีใครว่า หลายครั้งยกมาชมด้วยว่าแปลชื่ออาวุธดี(ซึ่งกูว่าเรื่องนี้แปลชื่ออาวุธเท่จริง)
>>908 นอกเรื่องแปป ราชันคู่บัลลังก์ของอววคือเรื่องไหน มึงหมายถึงปราชญ์กู้บัลลังก์ของอวว หรือราชันคืนบัลลังก์ของมด สองเรื่องนี้นักเขียนคนเดียวกัน กูคิดว่ามึงจับมาสมาสรวมชื่อกันใช่มั้ย ถ้าแปลชื่อกระบี่น่าจะราชันคืนบัลลังก์ป่าว หรือมีเรื่องที่มึงบอกจริงๆ ถ้าใช่ กูขออภัย
แปล ปรมจ กูว่าโอเคแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร
เรื่องแปลทับศัพท์แม่งเริ่มไหนวะ เจ๊หลินเหรอ ตอนแรกกูก็ตื่นตาตื่นใจดีอยู่หรอก อาเหนียง ฟูจวินตั่งต่าง หลังๆพอเหอะ กูขกมาใส่ใจกับอะไรแบบนี้ ต้องจำอีกว่าหมายถึงอะไร
ว่าแต่เล่มสามออกเมื่อไหร่ TT
เรื่องชื่อเฉพาะเช่น สถานที่หรืออาวุธนี่ สำหรับกูแปลได้ก็ดี ไม่แปลก็ช่าง แต่ที่ไม่ชอบคือสรรพนาม เช่น
อาเตีย อาเหนียง เกอ ทำไมวะ พ่อ แม่ พี่ มันใช้ไม่ได้รึไง
>>913 มีมานานแล้ว สมัยดึกดำบรรพ์ กำลังภายในที่ ว.ณ เมืองลุงแปลก็มี แต่ไม่ใช่จีนกลาง เนี่ย เตีย เตียเตีย กอกอ ม่วยม่วย แต่ขของกูกูถอดเสียจีนกลาง มีเพิ่มที่สมัยก่อนฮ่องเต้ ฮองเฮา หรืออื่นๆจะแทนตัวเองว่าเรา ข้าน้อย ก็ทับศัพท์ เป็นเจิ่น เปิ่นกง เปิ่นหวาง หนูปี้ อื่นๆอีกมากมาย ทำให้รู้ว่าภาษาจีนก็มีลำดับขั้นของภาษา
มีช่วงนึงพวกคอลัมนิสต์ชอบบอกว่า ไทยเป็นเจ้าของภาษาที่ยอดเยี่ยม มีลำดับขั้นของภาษา จีน ฝรั่งไม่มีราชาศัพท์ ไม่มีหัวมีหาง
กูก็โอเคกับที่เขาแปลนะปรมจอะ คือแค่ติงเรื่องเดียวคือมุกตอนกระบี่แล้วแต่55 ตรงนั้นความขำสำหรับกูลดลงไปมากแต่ตรงอื่นไม่เท่าไหร่ กูโอเคกับการแปลชื่อนะเพราะกูก็สายนิยายเก่าๆมาก่อน แต่ตรงมุกอย่างน้อยก็อันหนึ่งอาจจะแปลจีนหน่อยก็ได้ แบบ สุยเปี้ยนแล้วอีกอันมาแล้วแต่ให้รู้ว่า เออ แบบนี้นะ..แล้วต่อจากนั้นจะเรียกกระบี่แล้วแต่ยาวๆไปเลยก็ได้ กูโอเค น่ารักดีด้วยชื่อกระบี่ แต่นี่มาแล้วแต่กับแล้วแต่ มันเลยดรอปความขำกูนิดนึง แต่ที่เหลือกูไม่ติ อันนี้ในความเห็นกูนะ
อารมณ์แบบ พวกถามชื่อก็เหมือนกัน สมมติ ฮวา แล้วจะมีต่อว่ามาจากดอกไม้ไม่ใช่คำนี้ ไรเงี้ย กูว่ามันไม่ทำให้งงอะไรและอ่านลื่นไหลดี..ติเรื่องเดียว..พวกมึงเก็ทฟีลกูมะ555
โพสล่าสุด สนพ ก็โดนบ่นเรื่องนี้เหมือนกัน กูว่าส่วนนึงคนติดมาจากซีรี่ย์แล้วก็เมะมั้ย พอมีนิยายก็อยากให้แปลเหมือนกัน แต่ส่วนตัวกูชอบให้แปล บ้างคำมันสวยดีอะ แบบคนแปลเก่งจัง คิดคำออกมาได้ ในโพสกูเห็นบ้างคนบอกแปลไม่ดี ไม่คุ้มกับการรอ กูเสียใจแทนสนพ เลยวะ แม่ง
เรื่องโดนติ่งโวยจนทำการแปลเสียก็มาแล้วตอนดิสไทม์ อววแปลชื่อนายเอกเป็นหยูแทนที่จะเป็นอวี้ เพราะคนอ่านชินกับแปลเถื่อนที่ใช้หยู คราวปรมาจารย์กูเลยโกรธพวกโวยวายเรื่องไม่ทับศัพท์เพราะเอาแต่ใจจากความเคยชินมาก เสพสื่ออื่นที่ไม่ใช่หนังสือถูกลิขสิทธิ์แล้วชินเลยบังคับให้คนอ่านหนังสือครั้งแรกต้องแบกรับภาระเนี่ย การแสดงความเห็นปัญญาอ่อนใช่ว่าจะไม่มีผลกับสนพ อววก็ตามใจคนอ่านจนไม่รักษามาตรฐานตัวเอง เหอะๆ
wetv ของแท้สิวะ
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>815 เทียนกวาน Part.52
.
.
.
.
.
อาณาจักรเซียนเล่อกำลังคึกคัก ผู้คนเต็มท้องถนนมุ่งหน้ามายังพระราชวังเพื่อเข้าร่วมเทศกาลซ่างหยวน ซึ่งจะมีการแสดงการต่อสู้ระหว่างเทพสงครามกับปีศาจร้าย ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว มีเพียงองค์ชายรัชทายาทที่รับบทแสดงเป็นเทพสงครามที่หายตัวไป มู่ฉิงผู้รับบทเป็นปีศาจเอ่ยว่าเซี่ยเหลียนฝากมาบอกว่าให้ทำตามกำหนดการณ์เดิมได้เลย ทำเอาราชครูซึ่งเป็นผู้ดูแลการแสดงแทบของขึ้น ทางราชวงศ์เองก็ส่งเฟิงซิ่นมาสอบถามว่าทำไมยังไม่เริ่มเดินขบวนอีก เมื่อราชครูถามว่าเห็นเซี่ยเหลียนหรือไม่ เฟิงซิ่นก็หันไปมองมู่ฉิงอย่างไม่พอใจ แต่ก็บอกให้ผู้อาวุโสว่าเริ่มงานได้เลย เซี่ยเหลียนมาร่วมงานทันแน่ ราชครูจึงจำใจประกาศเริ่มการแสดงและจัดขบวนออกไป มู่ฉิงถือดาบโค้งยาวแสดงบทผีร้ายอาละวาด แต่คนส่วนมากอยากเห็นการแสดงเทพปราบปีศาจมากกว่าจึงเริ่มโวยวายกัน รวมไปถึงเจ้าชายฉีหรงผู้โอชิเจ้าชายรัชทายาทที่ไม่พอใจจนหยิบข้าวของมาขว้างปา ทำให้ราชินีต้องสั่งให้คนมาหยุดหลานไว้ ขณะที่สีหน้าของเชื้อพรวงศ์เครียดขึ้นเรื่อยๆ เสียงเชียร์โห่ร้องก็ดังขึ้นจากฝูงชน
ร่างของชายใส่ชุดขาวสวมหน้ากากสีทอง มือถือกระบี่คนหนึ่งกระโดดจากหอคอยป้อมปราการลงมายังเวที ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับได้เห็นเทพเซียนตัวจริงกระโดดลงมาจากฟากฟ้า เสียงปรบมือและเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นดังกระหึ่ม ในที่สุดเซมบัตสึองค์ชายรัชทายาทก็ปรากฏตัว ราชาถึงกับหันไปชมราชครูที่ออกแบบการแสดงได้ตื่นเต้นยิ่งนัก แต่อีกฝ่ายก็บอกว่านี่เป็นความคิดของเซี่ยเหลียน และเอ่ยชมความสามารถของลูกศิษย์ให้ราชากับราชินีฟัง
เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ว่ามู่ฉิงใช้แรงโจมตีมากกว่าตอนที่ซ้อม ทำให้เขาต้องเอาจริงมากขึ้นจนการแสดงยิ่งดุเดือดเรียกเสียงเชียร์ได้มากขึ้น แต่ในตอนที่เขากำลังจะโจมตีปิดฉากปีศาจร้าย จู่ๆ ก็มีเสียงหวีดร้องดังขึ้น เมื่อเขาหันไปก็เห็นเงาคนกำลังร่วงหล่นลงมาจากกำแพง โดยไม่ต้องคิดเขาก็รีบกระโดดไปรับร่างนั้นไว้ก่อนจะกระแทกพื้น ในอ้อมกอดของเขาคือเด็กชายอายุราว 7-8 ขวบคนหนึ่งซึ่งที่ศีรษะมีผ้าพันแผลสกปรกพันอยู่ อีกฝ่ายจ้องมองชายที่ช่วยชีวิตตนไว้ตาไม่กระพริบ และในตอนที่เซี่ยเหลียนเงยหน้าขึ้นมา เขาก็เห็นว่าหน้ากากทองของเขาหล่นอยู่บนพื้น เหตุการณ์นอกสคริปที่เกิดขึ้นทำเอาทุกคนชอค แต่เซี่ยเหลียนก็พลิกสถานการณ์หันไปชี้กระบี่ไปทางมู่ฉิง ซึ่งอีกฝ่ายก็เข้าใจจึงกระโดดลงมารับบทผีชั่วพยายามฆ่าเด็กในอ้อมแขนของเทพ ก่อนค่อยๆ เนียนพากันเคลื่อนกลับขึ้นไปบนเวที และมู่ฉิงก็อาศัยจังหวะหนึ่งช่วยหยิบหน้ากากของเซี่ยเหลียนขึ้นมาด้วย
เซี่ยเหลียนแกล้งเนียนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เด็กชายร้องด้วยความกลัว เขาก็กระชับอีกฝ่ายพร้อมปลอบว่าไม่ต้องกลัว เขาส่งซิกให้มู่ฉิง แล้วพวกเขาก็โจมตีจบการแสดงเทพปราบปีศาจได้ตามบทที่วางไว้แต่ต้น ทำเอาคนดูปลาบปลื้มประทับใจพากันดันทหารป้องกันเพื่อเข้าใกล้องค์ชายรัชทายาท คณะแสดงรีบกลับเข้าเขตราชวังแล้วปิดประตูกันผู้คนไว้ เซี่ยเหลียนถอดเสื้อหนาหลายชั้นออกอย่างโล่งอก ลืมไปสนิทว่ายังอุ้มเด็กชายไว้จนเฟิงซิ่นร้องถาม เซี่ยเหลียนหันไปสอบถามเด็กชายหลายประโยค แต่อีกฝ่ายก็ยังหวาดกลัวจนพูดอะไรไม่ออก เขาลูบหัวเด็กชาย ก่อนเรียกให้เฟิงซิ่นพาอีกฝ่ายไปให้คนดูแลต่อ แต่ตอนที่เขาส่งเด็กชายให้เฟิงซิ่นอุ้ม เด็กชายกลับเกาะเสื้อเขาแน่นไม่ยอมปล่อย ทำเอาทุกคนหัวเราะด้วยความเอ็นดู แต่สุดท้ายเด็กชายก็ยอมปล่อยมือ ทว่าดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องมาทางเซี่ยเหลียนราวกับต้องมนต์ ก่อนจากไปเฟิงซิ่นก็ไม่ลืมบอกให้เซี่ยเหลียนรีบไปพบราชครู เพราะอีกฝ่ายดูโกรธมาก
เซี่ยเหลียน มู่ฉิง กับเฟิงซิ่น เดินทางมายังศาลาหลวง ไม่นานนักราชครู กับรองราชครูทั้ง 3 คน ก็เดินเข้ามา ราชครูต่อว่าลูกศิษย์ที่ทำเรื่องนอกบท ที่สำคัญยังทำหน้ากากหลุดระหว่างการแสดงอันเป็นลางร้าย ทำให้ประวัติศาสตร์ของเซียนเล่อต้องมัวหมอง แต่เซี่ยเหลียนแย้งอาจารย์ว่าถ้าปล่อยให้เด็กชายตกกำแพงลงมาตายจะเป็นเรื่องอัปมงคลมากกว่า ท่าทางเชื่อมั่นในตัวเองของลูกศิษย์ ทำให้ราชครูทั้งรู้สึกโกรธและภูมิใจในคราวเดียว ก่อนเปลี่ยนไปต่อว่าเรื่องที่เซี่ยเหลียนทำนอกบทไปกระโดดจากหอคอยโดยไม่แจ้งก่อน เซี่ยเหลียนบอกว่าอีกฝ่ายอนุญาติเขาแล้วไม่ใช่หรือ แต่เมื่อเห็นราชครูทั้ง 4 คนไม่รู้เรื่อง เขาก็หันไปหามู่ฉิง เพราะอีกฝ่ายคือคนที่เขาฝากเรื่องไปขออนุญาติจากราชครูตั้งแต่เมื่อวาน
.
.
.
.
.
Ky กูซื้อเล่มปรมจ.มา อ่านแล้วรู้สึกการแปลมันแปลกๆ กูว่าแปลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้นะ กูอาจจะคิดไปเอง เพราะนี่ก็ครั้งแรกที่ซื้อนิยายแปลจีนมาอ่าน
สปอยมาแล้ววว เย~~
ปรมจสองเล่มกูยังไม่แกะซีลเลย กะดองจนครบค่อยอ่าน แต่เห็นมีประเด็นถกเถียงนี่อยากแกะอ่านดูเลยว่าเป็นยังไง กูเคยตามอ่านม่านฮวาที่มีคนแปลไทยไว้ กูก้อจะชินกะสุยเปี้ยนอ่ะนะ แต่กูก้อเคยอ่านนิยายแปลบางเรื่อง แปลให้พอ.แทนตัวว่าเจิ้น คือมึงแปลว่าแทนตัวว่า เรา ไปเลยก้อได้มั้ยวะ
ส่วนชื่ออาวุธ ส่วนตัวกูอยากให้เรียกแบ่บ กระบี่สุยเปี้ยน (สุยเปี้ยน แปลว่า แล้วแต่) คือวงเล็บความหมายชื่อในครั้งแรกสุดไว้ ละมึงก้อรับรู้ว่าเออความหมายของชื่อคืองี้นะ จากนั้นถ้าจะเล่นมุกไรต่อจะได้เข้าใจความหมาย แต่เรียกด้วยชื่อจีนไปไรงี้ แต่ถ้าจะเรียกชื่อไทยไปตลอดก้อได้นะ กระบี่แล้วแต่ มันก้อฮาทุกครั้งที่เรียก ทำให้เราระลึกได้ถึงตัวตนของเว่ยอิงทุกครั้งที่เรียกชื่อกระบี่ ว่านางเกรียน ความปรมจ.อี๋หลิง 5555
ม่านฮวาวายจีนนี่วาดเรทได้แค่ไหน คือปรจมันมีฉากเรทอยู่ท้ายๆ ตอนจบ กูอยากรู้ว่าจะได้อ่านมั้ย (แม้ว่าจากสปอย ณ ปัจจุบันจะเพิ่งขึ้นภาคเมืองอี้หมาดๆ ก็ตาม สิ้นปีนี้ภาคเมืองอี้จะจบมั้ยนะ)
เออกูก้อชอบอ่านแบบรูปเล่ม ชอบอ่านมังงะแต่ไม่ค่อยอ่านการ์ตูนออนไลน์ ตามแค่ม่านฮวาปรมจนี่แหละ lcแปลไทยปล่อยฟรีแค่วันละตอน อยากอ่านก่อนต้องเปย์ แง แล้วมันกี่ร้อยตอนจบวะ กูอยากจะปริ้นออกมาละรวมเล่มเก็บไว้เอง 55555 ถ้าเค้าทำรวมเล่มขายสวยๆกูก้อซื้อ อยากฟีลแบบเปิดอ่านได้อ่า
เห็นเขาว่าม่านฮวาก็ไม่ได้เหมือนนิยาย 100% ป่ะ ไอ้ฉากเรทนี่อยู่ตอนพิเศษป่ะหรือกูจำผิด กูว่าถ้าเป็นตอนพิเศษก็อาจจะไม่ได้วาดถึงตอนนั้นมั้ย หรือถ้ามีก็อาจจะวาดแบบตัดเข้าโคมไฟไรงี้ป่ะ
ky วีทีวีลงโปรโมทอนิเมะตัวร้าย จะมาแล้วจ้าพี่จ๋าา
เพิ่งอ่านจบแล้วขอบ่นพวกที่ติงการแปลเรื่องไม่ทับศัพท์หน่อยเหอะ อ่านผิดลิขสิทธิ์จนเคยตัวรึไงถึงมาบอกว่าควรเปลี่ยนการแปลเพราะไม่ชิน ความจริงนิยายมันเป็นออริจินอลปะ อยากไปหาแบบอื่นอ่านเองก็รับผิดชอบตัวเองดิ กูยอมไม่ดูทั้งอนิเมทั้งอ่านสปอย ซีรี่ส์อะไรก็ไม่ดูเพราะกูอยากอ่านแบบนิยายยังมีคนมาบอกให้นิยายแปลตามการ์ตูน/ซีรี่ส์เนี่ยนะ กูว่าเล่มนี้ไม่ได้แปลแย่จนต้องติเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้จะอวยแต่คือกูก็เรื่องมากกับการแปลระดับนึงอะ กูว่ามันโอเค มีคำผิดอยู่บ้างแต่ไม่ได้ถึงกับอ่านแล้วไม่เข้าใจอ่านแต่สื่อที่มีแต่ประโยคสั้นๆ กันจนตีความประโยคซับซ้อนไม่ออกกันรึไงวะ งง
เพิ่มอีกอย่าง กุไม่ได้อยากให้ท้ายสนพ.นะ แต่คือตั้งแต่มันออกช้า คนก็ด่าจ้ำจี้จ้ำไชว่าต้องทำแบบนี้ๆๆๆ เห็นแล้วมันตลกอะ กูเห็นด้วยว่าช้าจริง แต่ให้ไปนั่งวางแผนการตลาดให้สนพ.ว่าควรทำตามนี้ๆๆ แม่งเกิ๊น เค้าจะขายช้าจนคนไม่ซื้อผลเสียมันก็ตกที่เค้าอยู่ดีนั่นแหละ เจอนิยายเล่มหนาๆ ที่คนแปลบอกจะออกให้ได้เดือนละเล่มแต่คุณภาพการแปลห่วยๆ แล้วกูว่ารอนานหน่อยก็เฉยๆ ว่ะ (ถึงออกเร็วกว่านี้หน่อยก็ดี)
>>941 คนที่บอกแปลแปลกๆ คืออ่านแล้วสะดุด กูสังเกตว่าเขามีการใช้คำศัพท์โบราณด้วยอาจจะต้องการให้เป็นจีนโบราณ แล้วคนอ่านที่สะดุดคือเขาอาจจะมีคลังศัพท์น้อยอ่านแล้วแล้วก็ไม่เข้าใจ จะว่าเขาก็ไม่ได้แต่ถ้าเปิดใจหน่อยก็เป็นการพัฒนาทางภาษาด้วยอะไรไม่เข้าใจก็เปิดพจนานุกรม จะได้ความรู้เพิ่มด้วย
>>941 บวกหนึ่ง กูชอบการแปลเป็นไทยมาก รำคาญพวกงอแงให้ทับศัพท์แบบชาตินี้ไม่เคยแตะนิยายหรือหนังจีนเพราะเหตุนี้อะ กูวนเวียนกับนิยายมาหลายปีรู้ว่าจะอนิเมะหรือซีรีส์ก็ตีความเพี้ยนจากนิยายอยู่แล้ว เลยทนไม่เสพสื่ออื่นรออ่านนิยาย สุดท้ายกูต้องมาเจอไรไม่รู้เพราะพวกเสพสื่ออื่นแล้วไม่ชินๆ นิยายต้องงี้ๆเหรอ
ส่วนเรื่องแปล กูว่าเพราะสำนวนที่ใช้แปลด้วย จีนโบราณกูแบ่งระดับความสวยของภาษาเป็น
1.แนวข้ามมิติ/เกิดใหม่ ค่อนข้างคอมมาดี้ตบมุกโบ๊ะ ภาษาจะอ่านง่ายเพราะส่วนมากตัวเอกเป็นยุคปัจจุบันและโทนเรื่องค่อนข้างเบา ตัวเอกไม่เครียด ภาษาเลยไม่ซับซ้อนมาก เช่น ตัวร้าย
2.แนวจีนโบราณธรรมดา เช่น รัชศก ปราชญ์กู้ ภาษากลางๆคนทั่วไปใช้ไม่ลำลองแบบแบบแรก
3.แนวเทพเซียน ภาษาที่ใช้แปลจะเลือกคำสวยกว่าปกติ ซึ่งแนวนี้วายไม่ค่อยมีจะเป็นฝั่งนอมอลมากกว่า
แล้วปรมาจารย์เลือกใช้สำนวนแบบ3 กูเลยพอเข้าใจที่บางคนบอกว่าภาษามันสวยเกินอ่านไม่ลื่น ซึ่งจะให้อ่านลื่นปรื๊ดแบบแบบแรกก็ไม่ใช่เพราะแนวต้นทางไม่ใช่แต่ต้น คนที่ไม่เคยเจอเลยไม่ชินแล้วโวย ซึ่งกูว่าถ้าเป็นแบบ2อาจเอื้อต่อความเคยชินคนที่ไม่เสพนิยายแนวนี้มากกว่า แต่อีกใจ มันแนวผู้ฝึกเซียนอะ ทำไมต้องลดระดับภาษาด้วย บางคำที่คนบอกว่ายากคือพบได้ตามแบบเรียนอะ เห็นแล้วกูก็ท้อแท้นะ ต้องมั่นขนาดไหนถึงกล้าประกาศต่อสาธรณชนว่าไม่รู้ แถมไปด่าสนพอีก
พวกมึงไม่ต้องกังวลเรื่องแปลกับออกช้าแทนสนพเลยจ้า กูเห็นคนไปถล่มผ่านทุกช่องทางทั้งเพจ ทวิต ib dm สนพเฉยมาก ไม่ตอบโต้ หรือแสดงความเห็นใดๆทั้งสิ้น สนพมีแนวทางในการทำงานอยู่แล้ว เสียงนกเสียงกาไม่สามารถสั่นคลอนได้ พวกมึงรออ่านเล่มสวยๆพอ ปล่อยให้พวกสมองไม่ปกติดิ้นไป เห็นพวกปสดดิ้นแล้วสนุกดี
เล่ม3 ยังไม่มีวึ่แววจะเปิดจองสินะ 😔
>>946 บ้างคนก็บ่นแรงเกินอะมึง บอกไม่คุ้มราคาบ้าง แปลราคาตลาดนัด?บ้าง ซีรี่ย์กับเมะออกมาก่อน นิยายมาทีหลังทำไมไม่แปลทับศัพท์เหมือนเค้า กูอ่านแล้วกูท้อแทนสนพ กับคนแปลจริงๆวะ เอาแต่ใจกันเกินเบอร์มาก ไม่หันมามองดูตัวเองบ้างว่าปัญหาอยู่ที่การแปลหรือปัญหาอยู่ที่ตัวเอง
>>946 มันไม่ใช่กระทบแค่เรื่องนี้อ่ะมึง บ่นกันในที่เปิดทั้งนั้นกูเลยกลัวสนพอื่นๆที่มุงจะเข้าใจว่าคนอ่านต้องการแบบนี้ แปลต้องทับศัพท์เยอะๆลูกค้าชอบ ของออกเร็วให้ทันกระแสพอคุณภาพไม่ต้องใส่ใจ ให้นักแปลสลับก็ได้ ของแถมต้องบึ้มๆ ดังนั้นเวลามีคนด่ากูเลยออกมาขัดว่าที่ด่าปาวๆนั่นไม่ใช่ลูกค้าสายนิยาย คนอ่านไม่ได้ต้องการแบบนั้นหมด
สิ่งที่โดนผลกระทบจริงๆจากเรื่องนี้เห็นเป็นตัวเป็นตนอยู่อย่างแล้ว จากที่สนพไหนได้ลิขสิทธิ์จะประกาศทันที ตอนนี้แค่กระซิบบอกนักแปลว่ามีคนได้แล้วแต่ห้ามบอกชื่อสนพ เพราะคนด่าบกรซะเสียหมาว่าออกช้า ดองงาน ทั้งที่ออกหลังประกาศลิขสิทธิ์ปีเดียว คนด่าว่าออกช้าตั้งแต่ไม่ถึงครึ่งปี ทั้งที่นิยายแปลดังๆในเน็ตเมื่อก่อนกว่าจะออกเล่มก็หลังจากประกาศราวๆปีนึงทั้งนั้น ขนาดเซเลบที่แต่งโม่ซั่งยังบอกว่าบกรดองสามสี่ปี แค่ปีเดียว โก่งจำนวนปีเก่ง
>>942 กูเห็นด้วยกับมึงเรื่องคนที่บ่นมีปัญหาคลังคำน้อย กุเห็นหลายคนบ่นเรื่องทับศัพท์อาวุธว่าอ่านแล้วต้องแปลในแปลอีกที ไม่รู้ว่าตรี=สาม วัชระ=สายฟ้า คำไวพจน์แบบโคตรพื้นฐานเรียนภาษาไทยมาตั้งแต่เล็กจนโตไม่ใช่คำซับซ้อนอะไรเลย แล้วมาโทษว่าคนแปล แปลงานห่วย แปลไม่รู้เรียน
บางทีกุบ่นในที่ของกุนะ แต่มีคนหาว่ากุไปด่าสนพ อีพวกนี้ปสดกว่า กุแค่บอกว่า กุโง่ ศัพท์มันยาก กุไม่รู้จริงๆ แล้วของแถมเพราะประเทศอื่นเค้าตั้งใจทำให้สายสะสม สายสะสมไทยไม่มีสิทธิ์บ่นหรอวะ ก็สนพทำออกมาราคาเกือบสี่ร้อย แต่ได้แค่ที่คั่นห่วยๆ
ออกมาพันสามให้ป้ายแขวนกุก็ซื้อ จบการบ่นในที่ของกุ สนพ. จะคิดไงฟีดแบคต่อคนอ่านขนาดไหน ไปใช้สมองคิดเอาเอง
ต่อให้เรื่องดังแค่ไหน ถ้าสนพทำงานออกมาห่วยๆไม่มีคุณภาพ คนก็ไม่สนับสนุนนะ เอาที่เห็นชัดๆเลย ตู้เจ๋อ กูเห็นคนรอเยอะมาก พอออกเล่มเป็นไงล่ะ แปลใช้คำศัพท์แบบงงๆ พิมพ์ผิดเยอะมาก เชิงอรรถหายอีก กระแสเงียบ
.
วีรชนอีกเรื่องนึง แต่อันนี้ดูแค่ตัวอย่างที่ลงให้อ่านนะ แปลยังงงๆอยู่ แถมใช้นักแปลสองคนอีก กูไม่กล้าเสี่ยงพรีเลย กลัวออกมาไม่ดี แถมราคาแพงมาก ครบชุดร่วมสามพัน
.
สนพที่ทำงานเป็นมืออาชีพ ไม่ควรจะเอาแค่เสียงนักอ่านในเนตมาทำให้จุดยืนและวิธีการทำงานไขว้เขวได้นะ ซึ่งกูคิดว่าบกรมั่นคงในจุดยืนมากพอ ดูจากที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะมีใครไปต่อว่าแค่ไหน บกรก็ไม่ออกมาเปลี่ยนอะไรทั้งการแปล ระยะเวลาการออกเล่ม ส่วนสนพอื่นๆ ดูจากผลงานละกัน เงินในมือคุณ คุณเลือกเองว่าจะสนับสนุนหรือไม่
สมัยนี้กลายเป็นเสียเงินซื้อของแถมแล้วหรอวะ ปกติต้องเสียเงินซื้อหนังสือดิ ตรรกะป่วยๆแบบนี้ควรไปพักว่ะ
.
ฝากถึงสนพไหนก็ตามที่มาอ่านโม่งนะ มีอ่านแน่นอน หยุดการขายแพงๆได้แล้ว พวกของแถมรอบจองบ้าบอคอแตกเลิกๆให้หมด เอาเวลาไปทำหนังสือให้มีคุณภาพดีๆเถอะ แปลให้ถูกต้องครบถ้วน ใช้ภาษาไทยให้ถูก พิสูจน์อักษรเยอะๆ รูปเล่มมีคุณภาพ สันกาวแข็งแรง ราคาสมเหตุสมผล ไม่ใช่ตั้งราคาประหนึ่งจะเอาไปสร้างบ้านสิบหลัง
ถ้าที่คั่นกลิตเตอร์กระดาษแบบเดียวกับหน้าปกนิยายเป็นแค่ที่คั่นห่วยๆ ที่คั่นอาร์ตมันธรรมดาๆของนิยายเรื่องอื่นมึงไม่มองเป็นที่คั่นขยะเลยเหรอวะ
พูดถึงของแถมสำหรับสายสะสม กุเห็นคนพรีปรมจ.ver เวียดนามที่ของมาแล้วบ่นโคตรเยอะ หนังสือไสกาวแย่มาก กระดาษเหมือนทิชชู่ ของแถมอื่นๆไม่เนียบ ก๊องแก๊ง ไม่ได้สวยเหมือนตัวอย่างเจ็บกันระนาว
ดีนะกูไม่ใช่สายสะสมของแถม กูขอที่ตัวนิยายแปลดี พิมพ์ผิดน้อย หน้าไม่หาย กระดาษไม่แย่ เปิดอ่านง่ายและหนังสือไม่เสียหายง่าย ของแถมไม่สำคัญ กูต้องการอ่านนิยายยยย
>>955 มึงอยากสะสมก็ซื้อของอฟชจีน มีตั้งแต่พวงกุญแจยันลิปสติก กระเป๋า ร่ม ตุ๊กตา ด๋อย เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว จะมาเรียกร้องให้แถมกับหนังสือไมวะ สายสะสมจริงมึงก็เลือกซื้อไปสิไม่ใช่เอะอะให้รกบ้านคนอื่น เป็นข้ออ้างให้สนพขึ้นราคานิยายมากขึ้นด้วย ไม่ต้องการ เลือกเองได้ด้วยว่าอยากได้ผลิตภัณฑ์ไหน พูดถึงภาพแขวนแล้วกูกลอกตา พรีตัวร้ายกูไมเกรนขึ้นทุกครั้งตั้งแต่ก่อนเปิดพรี หลังเปิดพรีแม่งก็ยังมีดราม่า ขอซื้อแบบปกติชนเถอะ
>>960 บวกหนึ่ง หลายเรื่องดังแต่ถ้าสนพทำไม่ดีก็ดับจริง การ์เดี้ยนที่ทำเป็นซีรีส์ยังดับ คนบ่นมากน้อยยังไงสุดท้ายสิ่งตัดสินจริงๆคือคุณภาพอยู่ดี ตอนนี้หลายสนพเล่นตลาดวาย ต่อให้ได้เรื่องดียังไงถ้าคุณภาพไม่ดีคนก็ทำใจปล่อยวางไปหาเรื่องที่จัดการดีๆอื่นได้
กูงงคนที่โวยวายจะเอาของแถมนู่นนั่นนี่ ตกลงซื้อนิยายเพราะจะเอาเล่มนิยายไปอ่านหรือจะเอาของแถม กูอยากได้แค่เล่มอย่างเดียว อย่างอื่นเฉยมาก ไม่มีที่จะเก็บแล้ว ของเวียดนามกับเกาหลีที่ยกๆมาโวยวายจะเอาของแถมตามนี่ก็ราคาบวกค่าของแถมไปเท่าไร มันไม่ได้แถม แต่คิดราคารวมกับหนังสือไปแล้วว้อย ถึงจะมีให้เลือกซื้อเป็นออปชั่นก็แพงอยู่ดีมั้ย น่าจะคิดกันเยอะๆก่อนมาบ้งเบ้งใส่สนพ.
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>924 เทียนกวาน Part.53
.
.
.
.
.
มู่ฉิงอธิบายว่าเขาได้แจ้งเรื่องกับราชครูแล้ว แต่ช่วงนั้นเป็นเวลาพัก การบำเพ็ญเป็นเรื่องน่าเบื่อ มีเกมเพียงน้อยนิดที่ช่วยให้ความบันเทิง และสิ่งที่เหล่าราชครูโปรดปรานที่สุดก็คือการเล่นไพ่ ในช่วงพักพวกเขาจึงปิดศาลาตั้งวงคิดเลขกันอย่างเมามันส์จนไม่รับรู้สิ่งรอบตัว และเนื่องจากมู่ฉิงถูกศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นตั้งแง่รังเกียจเพราะเห็นว่าพวกราชครูไม่ชอบศิษย์คนนี้ พวกเขาเลยไม่ยอมฟังและไล่มู่ฉิงออกไป มู่ฉิงจึงเดินวนหาหน้าต่างห้องที่ราชครูอยู่แล้วแจ้งเรื่อง ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบว่าเข้าใจแล้ว ทำเอาราชครูพูดไม่ออกเพราะระหว่างการดูเอลหากได้ยินใครพูดอะไรด้วยเขาก็คงตอบรับไปส่งๆ จริงๆ แต่เฟิงซิ่นกลับยิ่งโมโห เซี่ยเหลียนเข้ามาประณีประนอมว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ราชครูเองก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกจึงบอกว่าพวกเขาจะปรึกษาหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ และให้ทั้งสามกลับ แต่ราชครูก็ไม่ลืมเอ่ยว่าราชากับราชินีฝากมาบอกให้เซี่ยเหลียนกลับไปเยี่ยมบ้าง
ที่ตำหนัก เซี่ยเหลียนยืนให้มู่ฉิงช่วยถอดเสื้อผ้าที่ใช้แสดงไปเก็บ ขณะรอให้อีกฝ่ายเอาเสื้อใหม่มาให้เปลี่ยน มู่ฉิงก็สังเกตเห็นรอยเปื้อนรูปมือเล็กๆ บนเสื้อของเซี่ยเหลียน ท่าทางจะเป็นเพราะเด็กชายคนนั้น เซี่ยเหลียนจึงหันไปสอบถามองครักษ์ เฟิงซิ่นบอกว่าเขาไปส่งอีกฝ่ายออกจากราชวัง แต่พอจะดูแผลที่หัวให้ เด็กชายกลับเตะเขาแล้ววิ่งหนีไป แล้วมู่ฉิงก็เอ่ยว่าการที่เสื้อของเทพสกปรกเป็นลางร้าย แต่เซี่ยเหลียนคิดว่าแค่เอาไปซักก็จบ มู่ฉิงจึงตอบเสียงเบาว่าเขาจะซักด้วยความระวัง
เซี่ยเหลียนเอ่ยชมว่าวันนี้มู่ฉิงสู้ได้ดีมาก และแนะนำว่าอีกฝ่ายเหมาะกับดาบโค้ง แม้ตอนแรกคนถูกชมจะดูเครียดแต่สุดท้ายก็ยิ้มอย่างผ่อนคลาย จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงโม้การต่อสู้อย่างโอตาคุ แต่แล้วเขาก็พบว่าตุ้มหูไข่มุกปะการังสีแดงของตัวเองหายไปข้างหนึ่ง เฟิงซิ่นเดินหาตรงทางเดิน ส่วนมู่ฉิงหยิบไม้กวาดมากวาดหาตามซอกหลืบ แม้จะไม่ใส่ใจนัก แต่พอเห็นความพยายามของทั้งสอง เซี่ยเหลียนเลยเสนอให้ไปตามคนมาช่วย ทว่าเฟิงซิ่นกลับบอกว่าคนอื่นอาจจะขโมยเก็บไว้เอง พอได้ยินดังนั้นไม้กวาดในมือของมู่ฉิงก็หักเป็น 2 ท่อน คิดว่าเฟิงซิ่นกล่าวหาว่าเขาเป็นคนขโมยไป ทั้งสองทะเลาะกัน แล้วมู่ฉิงก็หันมาว่าเซี่ยเหลียนว่าไม่รักษาสัญญา ก่อนวิ่งจากไปอย่างดรามาควีน
เซี่ยเหลียนรีบตามมู่ฉิง โดยมีเฟิงซิ่นตามมาด้วย เขาอธิบายว่าอีกฝ่ายไปพูดจี้ใจมู่ฉิงเข้า เฟิงซิ่นเลยถามว่ามู่ฉิงเคยขโมยของของเซี่ยเหลียนมาก่อนหรือเปล่า เซี่ยเหลียนปฏิเสธ แต่เฟิงซิ่นไม่เชื่อ และบอกให้เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เซี่ยเหลียนจึงจำเป็นต้องเล่าว่าตอนที่พวกเขามาที่นี่ครั้งแรก ราชินีซึ่งกลัวว่าลูกชายจะเบื่อจึงส่งของเล่นมาให้ หนึ่งในนั้นคือแผ่นทองคำ แต่ในตอนเตรียมส่งของกลับเขาพบว่ามีแผ่นทองหายไปใบหนึ่ง พอหาไม่เจอจึงไปบอกราชครู อาจารย์ของเขาเลยไล่ค้นห้องทุกคน ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็มาสารภาพกับเขาว่าเจอแผ่นทองตกอยู่ในพุ่มไม้ระหว่างไปตักน้ำ แต่เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเก็บมันไว้กับตัว ด้วยความสงสารเกรงว่ามู่ฉิงจะถูกไล่ออก เซี่ยเหลียนจึงออกรับหน้าบอกทุกคนว่าเขาลืมไปเองว่าแผ่นทองหายไปตั้งแต่เขาอยู่ที่ราชวังแล้ว เฟิงซิ่นโกรธที่เซี่ยเหลียนปกป้องอีกฝ่าย อีกทั้งยังไม่พอใจที่ปกปิดเรื่องนี้กับเขาด้วย แต่เซี่ยเหลียนก็อธิบายไปว่าเป็นเพราะเขาสัญญากับมู่ฉิงว่าจะไม่บอกใคร ก่อนสั่งไม่ให้เฟิงซิ่นบอกคนอื่นหรือพูดเรื่องนี้อีก
เฟิงซิ่นสันนิษฐานว่ามู่ฉิงคงเข้าใจผิดว่าที่เขาชอบชวนทะเลาะเป็นเพราะเขารู้เรื่องแผ่นทองคำ ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นเพราะเขาไม่ชอบนิสัยชอบคิดเล็กคิดน้อยของอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนช่วยแก้ต่างให้มู่ฉิงว่าเป็นความผิดครั้งแรก แถมฝ่ายนั้นก็สัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอีกจึงควรให้โอกาส แต่เฟิงซิ่นก็ยังตั้งประเด็นขึ้นอีกว่ามู่ฉิงจงใจไปส่งข่าวตอนราชครูตั้งวงไพ่เพื่อทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน ถึงจะคิดเหมือนกัน แต่เซี่ยเหลียนก็พอเข้าใจความรู้สึกของมู่ฉิงที่อยากเอาคืนทุกคนเบาๆ แม้เขาจะใช้มู่ฉิงทำงานบ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าคนๆ นี้เป็นคนของเขา ทว่าแทนที่คนอื่นจะเกรงใจ กลับกลายเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนอื่นรังแกมู่ฉิงแทน เซี่ยเหลียนจึงแอบรู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยากปล่อยให้เพชรน้ำงามมีฝีมือแบบมู่ฉิงให้กลายเป็นเพียงก้อนกรวดไร้คนสนใจ
ถึงเฟิงซิ่นจะไม่เห็นดีเห็นงาม แต่เขาก็ไม่ขัดอะไรเจ้านายอีก เซี่ยเหลียนสอบถามถึงมู่ฉิงจากศิษย์ร่วมสำนักที่บังเอิญเจอระหว่างทาง แล้วทั้งสองก็เดินมาถึงป่าต้นเชอร์รี่บนยอดเขาไท่ชาง ซึ่งที่นั่นเองพวกเขาก็ได้เห็นคนที่ตามหากำลังถูกศิษย์ในสำนัก 4 คนรุมบูลลี่อยู่
.
.
.
.
.
กูว่าเผลอๆ บกร.แพงที่อิปกวิ้งๆ ที่คั่นวิ้งๆ นี่แหละ 55555 ไม่ต้องแถมเหี้ยไรแล้วเดี๋ยวราคาแม่งขึ้นอีก แค่นี้กูก็อ่วมแล้วจ้า
ราคาปกติของบกรคือ จำนวนหน้า + 20-30 บาท แต่ปรมจกับชายาคุณธรรม สองเรื่องนี้ราคาปกต่ำกว่าจำนวนหน้า เป็นนิมิตหมายอันดีว่า สนพเริ่มรับฟังเสียงผู้บริโภคบ้าง
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>968 เทียนกวาน Part.54
.
.
.
.
.
ศิษย์กลุ่มนั้นรุมใส่ร้ายว่ามู่ฉิงว่าเก็บผลไม้ไปคนเดียวเกือบหมดป่า เพราะทุกคนต่างรู้ว่าบ้านของมู่ฉิงยากจน อีกทั้งมารดายังมองไม่ค่อยเห็นจึงต้องอาศัยลูกชายทำงานหาเงิน ก่อนที่พวกเขาจะทำร้ายมู่ฉิง เซี่ยเหลียนก็เข้าไปห้าม ประกาศว่ามู่ฉิงเป็นผู้ติดตามของเขา และเขาเป็นคนสั่งให้อีกฝ่ายมาเก็บผลไม้เอง ลูกศิษย์กลุ่มนั้นจึงรีบขอโทษแล้ววิ่งหนีไป มู่ฉิงไม่ขอบคุณเจ้านาย ทั้งยังถามว่าทำไมชอบโผล่มาในเวลาแบบนี้ แม้เฟิงซิ่นจะไม่พอใจที่อีกฝ่ายพูดจาอย่างนั้น เขาก็ยอมขอโทษว่าที่พูดก่อนหน้านี้ตนไม่ได้หมายถึงอีกฝ่าย เลิกอารมณ์เสียได้แล้ว ได้ยินแบบนั้นเซี่ยเหลียนก็หัวเราะบอกให้ทุกคนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นให้หมด และถ้าคราวหน้ามู่ฉิงจะมาเก็บผลไม้ก็อ้างชื่อเขาได้เลย ในที่สุดมู่ฉิงจึงเอ่ยขอบคุณเซี่ยเหลียน
วันต่อมาเซี่ยเหลียนพาเฟิงซิ่น กับมู่ฉิงติดตามกลับไปเยี่ยมราชากับราชินีที่ราชวัง ซึ่งฉีหรงก็ขับรถม้าทองคำมารอรับญาติผู้พี่ที่ตีนเขา แต่ฝีมือขับรถของฉีหรงเลวร้ายมาก เขาบังคับม้าไปชนแผงขายของ และเกือบชนคนในเมืองจนแทบวอดวายกัน แต่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย เมื่อได้พบลูกชาย ราชินีก็ตัดพ้อว่าเซี่ยเหลียนไม่ค่อยจะกลับมาเยี่ยมหญิงชราคนนี้เลย เซี่ยเหลียนเลยพูดเอาใจไปว่าอีกฝ่ายยังไม่แก่ และมีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวอายุรุ่นเดียวกับเขา ราชินียิ้มพอใจ สังเกตว่าลูกชายผายผอมลงจึงตั้งใจจะเลี้ยงอาหารขุน ก่อนที่เธอจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นในเทศกาลซ่างหยวน และเซี่ยเหลียนถูกลงโทษหรือไม่ ฉีหรงจึงเอ่ยแทรกว่าคนที่สมควรถูกลงโทษคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นต่างหาก
เซี่ยเหลียนจึงแนะนำมู่ฉิงให้มารดา และบอกว่าอีกฝ่ายคือคนที่แสดงเป็นผีร้าย พอรู้เช่นนั้นฉีหรงก็เอาถ้วยชาปาใส่ แต่เซี่ยเหลียนซัดแขนขอญาติผู้น้องไว้ทันแล้วส่งอีกฝ่ายไปให้เฟิงซิ่นจับตัวไว้ เขาหันไปบอกแม่ให้ยึดรถม้าของฉีหรง พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทางให้ฟัง ฉีหรงไม่พอใจมาก เขาสะบัดมือออกจากการจับกุมแล้ววิ่งจากไป ราชินีบอกว่าไว้ตนจะคุยกับหลานให้ แต่ก็อธิบายว่าที่ฉีหรงอยากได้รถม้าก็เป็นเพราะอยากใช้มันไปรับเซี่ยเหลียนกลับบ้าน
เย็นวันนั้นเซี่ยเหลียนบอกลาราชากับราชินี เป็นที่รู้กันว่าตั้งแต่เข้าสู่หนทางการบำเพ็ญเพียรองค์ชายรัชาทายาทก็กลับมาเยี่ยมทั้งคู่น้อยลงเรื่อยๆ เขาตามมู่ฉิงกลับไปหาแม่ที่บ้าน พอเห็นเด็กๆ แถวนั้นเข้ามาเกาะ เรียกมู่ฉิงว่าเกอเกอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มู่ฉิงไม่ได้ใช้น้ำเสียงเย็นชาเช่นปรกติ แถมยังแบ่งผลไม้ให้พวกเด็กๆ ก็ทำให้ให้เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตอนที่เขากำลังหาว่าตัวเองมีอะไรพอให้เด็กๆ ก็มีเสียงฝูงชนกรีดร้องจึงได้รู้ว่าฉีหรงขับรถม้าออกมาสร้างความวุ่นวายอีก ในครั้งนี้เขายังผูกกระสอบเปื้อนเลือดไว้ที่หลังรถม้าด้วย พอเห็นกระสอบขยับเขาจึงรู้ว่าข้างในนั้นมีคนอยู่
เฟิงซิ่นไปหยุดม้าตามคำสั่ง ส่วนเซี่ยเหลียนวิ่งไปตัดเชือกที่ผูกกระสอบไว้ เมื่อเปิดออกก็พบว่าข้างในคือเด็กชายคนหนึ่ง นอกจากการบาดเจ็บจากการถูกลากแล้ว ร่างนั้นยังเต็มไปด้วยรอยเท้าราวถูกคนกระทืบมาก่อน เขาสั่งให้เฟิงซิ่นจับตัวฉีหรงไว้ เมื่อเซี่ยเหลียนถามอาการของเด็กชาย อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เอามือปิดหน้าข้างหนึ่งราวกับไม่อยากให้เซี่ยเหลียนเห็น ตอนนั้นเองฉีหรงก็บอกว่านั่นคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงในตอนนั้น เขาจึงล้างแค้นให้ญาติผู้พี่ เซี่ยเหลียนด่าและสั่งไม่ให้อีกฝ่ายยุ่งกับเด็กคนนี้อีก แต่ดูเหมือนฉีหรงก็ไม่ยอมเข้าใจอยู่ดีว่าตนทำผิด
เซี่ยเหลียนลูบหลังปลอบเด็กชายที่ซุกหน้ากับอกของเขา บอกว่าจะพาไปหาหมอ ภาพที่เห็นทำให้ฉีหรงโกรธมาก เขาพุ่งเข้าไปหมายจิกหัวของเด็กชาย เมื่อเฟิงซิ่นเห็นอย่างนั้นจึงรีบเตะแขนของฉีหรงเพื่อหยุดไว้ ส่งผลให้แขนของอีกฝ่ายหักโดยไม่ได้ตั้งใจ และการที่ข้าราชบริพารทำร้ายเชื้อพระวงศ์ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก
.
.
.
.
.
>>975 โอ้โห น้องฉีหรง น้องมีความโรคจิตอ่ะ คือเหมือนบูชาเซี่ยเหลียนจนแบบใครก็ห้ามเข้าใกล้ มีความหวง เกิดเรื่องอะไรก็คือคนอื่นผิด ท่านพี่เตี้ยนเซี่ยไม่ผิด เข้าใจเลยว่าทำไมพอเซียนเล่อล่มสลายแล้วถึงได้เกลียดเซี่ยเหลียนขนาดนั้น เหมือรผิดหวังในตัวไอดอลอ่ะ รักแรงเกลียดแรงจริงๆ ส่วนฟาฟาตอนเด็กคือแบบ แงงงงง น้อนครับบบบ อยากอุ้มมากอดปลอบ อุ้มมาหอมหัว น้องไม่ควรโดนอะไรแบบนี้ ฮืออออ ขอบคุณสำหรับสปอยเหมือนเดิมนะเพื่อนโม่ง
กูพึ่งเลิกงานเปิดมาเจอสปอยมึง 5555 มาดึกเหมียนเดิม ขอบใจจ้าา
กุสายอ่าน ของสะสมไม่สนใจ กุเน้นแปลครบ แปลดีก็พอใจแล้ว ส่วนของแถมจะห่าเหวไรก็แค่ของแถม ไม่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อหนังสือของกุ
กูว่า ความจริงสนพ.ควรแจ้งกำหนดการคร่าวๆเนอะ ว่าจะออกทุกกี่เดือนไรงี้ บางคนบอกว่าแฮร์รี่รอปีละเล่มก็รอมาแล้ว กูไม่เห็นด้วยว่ะ เพราะเจเคเขาเขียนยังไม่จบ แต่นี่เขียนจบแล้วรอแค่แปล ตอนนี้เหมือนรอเรื่อยๆ เลยว่ะ
>>984 เออ อันนี้แอบเห็นด้วย คือกูก็รอได้นะ แต่ก็อย่างที่ว่าอ่ะ อย่างน้อยถ้ากำหนดเวลาคร่าวๆให้ได้ก็คงดี เผื่อว่าคนอยากรอเก็บยกเซ็ททีเดียว หรืออยากจะซื้อแยกทีละเล่มจะได้ตัดสินใจได้ อันนี้เหมือนซื้อทีละเล่มแล้วก็รอต่อไปแบบไม่มีปลายทางอ่ะ จนกูก็แอบคิดนะว่าเขาแปลงานกันแบบมีเดดไลน์มั้ยวะ หรือว่าเรื่อยๆไปเรื่อยๆ เสร็จก็ปล่อย ไม่เสร็จก็รอกันต่อไป
กูว่าที่ไม่กำหนดเพราะมันมีเหตุขัดข้องได้ตลอดว่ะ สนพเกือบทุกที่ก็ไม่มีกำหนด มีแต่พวกเปิดพรีซึ่งบางที่ก็เลื่อนจนกูอยากแจ้งความ เวนเอ้ย กูไม่เทียบกับแฮร์รีแต่เทียบกับนิยายทั่วไป เช่นนานมี เซ็นชู เด็กส์ แต่ละเรื่องต้นฉบับนำไปไกลก็ออกกันปีละเล่มสองเล่ม ไม่ใช่แฮร์รีเป็นกรณีพิเศษที่รอกันข้ามปี นิยายปกติรอกันนานอยู่แล้วถ้าจะเอาเรื่องนี้มาเทียบก็เทียบกับวายด้วยกัน ที่ออกก็มีพวกโรสกับอวว ซึ่งใช้เวลาประมาณสามเดือน บกรก็ออกช้ากว่าวายทั่วไปจริง แต่แต่ละเรื่องที่ออกก็ไม่มีใครตามจิกตั้งแต่ได้ลิขสิทธิ์ อาจแปลตุนก่อนแล้วค่อยๆดำเนินการก็ได้
>>986 กูว่ามีเดดไลน์นะ เทียบกับเรื่องอื่นของสนพนี้ก็ออกเรทประมาณนี้อยู่แล้ว
กูมองว่าบกรรอนานกว่าปกติจริง แต่ก็ไม่นานขนาดนั้นเพราะกูเสพนิยายแปลที่ไม่ใช่วายเยอะ อัตรานี้เร็วกว่าปกติที่กูรอ และไม่ค่อยอยากเร่งเท่าไหร่หลังการ์เดี้ยนกูโดนโรคเร่งจนกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ นั่นขนาดสนพใหญ่ของตลาดหนังสือไทยอ่ะ หนังสือซื้อทีอ่านได้อีกนานไม่อยากได้ของแปลพลาดเพราะต้องการเอาใจตลาดแป๊บๆ เหอะๆ กูยังโกรธการ์เดี้ยนไม่หาย ตอนแรกอุตส่าดีใจที่อววได้
กุสายสะสม ขอบ่นบ้างคือกุนอกจากแปลครบแปลดีหนังสือกริบ กุดูที่ความใส่ใจด้วย เหมือนทางเวียตเกา เค้าทำหาเงินล่ะ แต่เค้าดูทุ่มเพราะรู้ว่ามีแฟนๆรอเรื่องนี้เยอะ อันนี้คหกุนะ เพราะกุรักเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่คงไม่ไปโวยวายสนพนะ ใครสายหนังสือก็คงไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่สำหรับสายสะสมมองไม่เห็นสิ่งที่ให้ความพิเศษกับเรื่องนี้จริงๆ
ถ้าทำของสะสมออกมามันจะทำให้หนังสือแพงจนคนที่จะจองรอบที่มีของแถมในไทยน้อยจนได้ไม่คุ้มทุนหรือเปล่า จะทำของแถมกับหนังสือต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม แล้วราคาหนังสือในไทยเทียบกับค่าครองชีพมันก็แพง ชห ไม่เข้าใจว่าทำไมหนังสือในไทยมันถึงแพงกันขนาดนี้ ถ้ามาบวกค่าของสะสมไปราคามันจะยิ่งเพิ่ม
>>996 เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กูหัวเราะเป็นภาษาเวียดนามให้แล้วกัน จากใจคนสั่งพรีจากเวียดนาม หนังสือบอบบางมากกกกกก รูปเล่มตำหนิเต็มคราบกาวเลอะเทอะ ใช้ของคุณภาพแย่มากเทียบกับหนังสือปกติของไทยเลยไม่ต้องสายวายที่คุณภาพดีจัดให้เคลมกระทั่งตำหนิรอยแมวข่วน ที่โดดเด่นคือตอนขายของแถมเยอะเลยดูอลังแต่ในฐานะสายอ่านที่ชอบหนังสือ ขอหนังสือที่แข็งแรงหยิบจับไปไหนมาไหนได้เถอะ ส่วนของแถมนั่นกูสะสมจริง กูมีเงินเปย์อฟชจีนได้ ทำสินค้าหลักอย่างหนังสือให้ดีก่อน พวกชมเวียดนามอ้างว่าชอบสะสมกูอคติก่อนเลยว่าได้แต่ปากดี ไม่ได้ซื้อจริงถึงไม่รู้ว่าปรมาจารย์ของเวียดนามคุณภาพแย่
กูเคยเห็นคนพูดบ่อยๆว่าเวียดนามเหมือนซื้อของแถมแถมหนังสือ ของแถมเยอะมาก ซึ่งกูว่าจริง คุณภาพหนังสือกากชิบหาย
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.