Last posted
Total of 1000 posts
กูว่าที่โม่งสปอยมาสปอยให้ฟังนี่ก็ฟิลแบบเพื่อนที่อ่านหนังสือจบแล้วมาเล่าให้ฟังอ่ะ ถ้าการเล่าให้คนอื่นฟังมันละเมิดลิขสิทธิ์ก็ไม่ต้องมีสปอยบนโลกใบนี้ล่ะมั้ง ถ้าเขาสปอยแบบแกะประโยคต่อประโยคมานั่งแปล นั่งพิมพ์ให้อ่านก็ว่าไปอย่าง มาพูดแบบนี้ก็นึกถึงใจโม่งสปอยบ้างเหอะ เลิกงานมานั่งสปอยให้ฟัง นั่งพิมพ์ให้อ่านดึกๆดื่นๆเงินก็ไม่ได้ ชื่อเสียงเหรอ ก็รู้จักกันแค่ในนามโม่งสปอยแต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจริงๆเป็นใคร และสุดท้ายถึงจะสปอยละเอียดยังไงสุดท้ายกูก็ซื้อเล่มอยู่ดี
ว่าโม่งสปอยว่าสปอยละเอียดไปละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้างั้นพวกกระทู้ฉายหนังในพันติบไม่หนักกว่าเหรอวะ แคปจอฉากต่อฉากเลย 55555555555
สปอยเทียนกวานต่อจาก >>793 เทียนกวาน Part.51
.
.
.
.
.
หลิงเหวินบอกว่าหลางเชียนชิวแจ้งว่าเรื่องงานเลี้ยงอาบน้ำมีเบื้องหลัง และเขาจะเคลียร์เรื่องกับเซี่ยเหลียนเอง ทำเอาพวกเทพถึงกับเซ็งเป็ดเพราะอดดูดรามา เมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว เซี่ยเหลียนจึงเข้าไปขอโทษจวินอู๋ที่สร้างความวุ่นวาย และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง จวินอู่กล่าวว่าสุดท้ายสิ่งที่เซี่ยเหลียนพยายามทำก็ไม่ได้ช่วยเหลือใครเลย และถามว่าจะเตรียมเผชิญหน้ากับหลางเชียนชิวอย่างไร แต่เซี่ยเหลียนก็เปลี่ยนหัวข้อถามเรื่องที่หมิงอี้เป็นสายลับในเมืองผี จวินอู๋ยอมรับว่าเขาส่งเทพแห่งดินไปทำอย่างนั้นจริงๆ ทว่านั่นเป็นเพราะฮวาเฉิงเป็นฝ่ายส่งสายลับเข้ามาในสวรรค์ก่อน เซี่ยเหลียนก็คิดอย่างนั้นเพราะอ๋องผีก็ดูรู้เรื่องของเทพมากเกินไป
จวินอู๋กล่าวว่าเขาไม่ว่าอะไรเรื่องที่เซี่ยเหลียนไปเป็นเพื่อนกับอ๋องผี แต่ก็อย่าลืมระวังตัว เพราะอย่างไรเจวี๋ยก็เกิดจากผู้ที่เคยได้รับความทรมานอย่างมาก จะต้องเป็นคนที่น่ากลัวกว่าที่คาดไว้แน่นอน จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงขอตัวจากมา ตอนนี้ตำหนักเซียนเล่อของเขาถูกกันไม่ให้ผู้ใดเข้าไปเพื่อตรวจสอบคาถาที่ฮวาเฉิงใช้เข้ามายังสวรรค์ แม้ก่อนหน้านี้ซือชิงเสวียนจะเอ่ยชวนให้เซี่ยเหลียนไปพักที่ตำหนักของเขา แต่ เซี่ยเหลียนก็ตัดสินใจกลับลงไปยังภพมนุษย์ จุดหมายในครั้งนี้คือภูเขาไท่ชางซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางแห่งการบำเพ็ญของอาณาจักเซียนเล่อ
ทุกทิวทัศน์ล้วนเปลี่ยนไปจากเมื่อ 800 ปีก่อน ความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างเหลือเพียงซากปรักหักพัง ถนนที่เคยมีผู้ศรัทธาเดินไม่ขาดสายมีเพียงต้นไม้ปกคลุม เซี่ยเหลียนไต่ขึ้นเขาด้วยกำลังขาของตัวเองพลางใช้กระบี่ฟางซิ่นกรุยทางไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็มาถึงยอดเขา เซี่ยเหลียนกระโดดลงไปบ่อน้ำแห้งขอดแห่งหนึ่ง ใช้มือคลำก้อนอิฐแล้วกดลงเพื่อเปิดทางลับเข้าสู่สุสานลับของราชวงศ์เซียนเล่อ เขาเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่ซึ่งยังตกแต่งไม่เสร็จ ในนั้นมีโลงศพอยู่ 2 โลง และหุ่นฟางองค์รักษ์ตัวหนึ่งซึ่งสวมหน้ากาก มือถือกระบี่ยืนอยู่ใกล้ๆ เหนือฝาโลงมีถาดทองคำที่มีซากผลไม้เหี่ยวแห้งวางอยู่ เซี่ยเหลียนหยิบมันออก และขอโทษบิดามารดาที่คราวนี้เขาลืมนำของไหว้มาด้วย
เซี่ยเหลียนนั่งลงพิงโลงศพของแม่ของเขา เล่าให้อีกฝ่ายฟังว่าวันนี้เขาได้พบกับฉีหรง แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังออกมาจากโลงศพ เซี่ยเหลียนรีบเปิดฝาโลงออกแล้วก็พบว่าข้างในนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งสวมเสื้อของแม่ของเขานอนขดตัวอยู่ เสื้อตัวนั้นถูกถักทอขึ้นมาเป็นพิเศษให้สามารถรักษาสภาพศพได้หลายพันปี แต่ตอนนี้ไม่ปรากฏร่างของสตรีอยู่ในโลงเลย เขารีบอุ้มเด็กชายขึ้นมาถามด้วยความตื่นตระหนกว่าแม่ของเขาหายไปไหน แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว และเมื่อเขายกเด็กชายออกมาผงสีขาวก็หลุดร่วงออกมาจากเสื้อของอีกฝ่าย
เซี่ยเหลียนรู้ทันทีว่านั่นคือขี้เถ้าของมารดา ขณะกำลังตื่นตระหนก จู่ๆ หุ่นฟางตัวนั้นก็พุ่งกระบี่เข้าใส่เขา เขาหักกระบี่ของอีกฝ่ายด้วยมือเปล่า ก่อนเตะท้องและเหยียบร่างนั้นไว้ เมื่อปัดหน้ากากออกก็เห็นว่าข้างในหุ่นเป็นชายนุ่มคนหนึ่ง เขาตะคอกถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร เมื่อเห็นดังนั้นเด็กชายก็ร้องว่าพ่อออกมา ทำให้เซี่ยเหลียนนึกออกว่าทั้งสองอยู่ในกลุ่มมนุษย์ที่ฉีหรงกำลังจะต้มกินในตอนนั้น เขาเดาเรื่องออกทันทีแล้วหันไปรัวหมัดใส่ชายคนนั้น ร้องสั่งให้ฉีหรงออกจากร่าง พร้อมต่อว่าว่าแม่ของเขาดูแลอีกฝ่ายดีไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาทำกับแม่ของเขาเช่นนี้
ฉีหรงที่สิงร่างของชายที่เป็นพ่อเด็กหัวเราะบ้าคลั่ง บอกว่าศพหรือขี้เถ้าจะต่างกันอย่างไร แล้วตอนที่ฆ่าอันเล่อเซี่ยเหลียนไม่นึกถึงแม่บ้างหรือ ที่แม่ของเซี่ยเหลียนเป็นอย่างนี้เป็นความผิดของเซี่ยเหลียนคนเดียว เซี่ยเหลียนกระทืบอีกฝ่ายไปอีกหลายที แต่มันกลับทำให้ฉีหรงยิ่งสะใจที่ญาติผู้พี่เผยธาตุแท้ออกมา เด็กชายเข้ามาพยายามยกเท้าของเซี่ยเหลียนออกเพื่อช่วยพ่อของตน ทำให้เซี่ยเหลียนคิดได้ว่าอย่างไรร่างที่ฉีหรงสิงอยู่ก็เป็นผู้บริสุทธิ์จึงลดแรงกดที่เท้า บอกให้อีกฝ่ายออกจากร่างนั้นอีกครั้ง ทว่าผีเขียวไม่ยอมออก อีกทั้งพูดจาหาเรื่องกวนประสาทเซี่ยเหลียน ท้าทายให้ฆ่าเขาเสีย ส่วนเด็กชายก็กอดขาของเซี่ยเหลียน ขอร้องไม่ให้ฆ่าพ่อของเขา หลังจากฟังคำพูดดูถูกยั่วยุอีกหลายประโยค ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็ทนไม่ไหว แล้วมือของเขาก็ยกฟางซิ่นขึ้นมา
จบอาร์คที่ 1
.
.
.
.
.
โอเคจบอาร์คแรกพอดี เคลียร์ให้จบไป หันมาถกกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอาร์คแรกกันก่อนดีกว่า มีใครมีจุดไหนในอาร์คแรกที่อยากมาถกกันไหมอะ
เจวี๋ยเกิดจากผู้ที่เคยได้รับความทรมานอย่างมาก แสดงว่าชีวิตฟาฟาต้องบัดซบพอกันสินะ ในอนาคตจะมีเล่าพาร์ทความรันทดของฟาฟาบ้างป่ะ
>>817 พาร์ทอดีตมีเล่าบ้าง แต่เพราะเรื่องดำเนินในมุมมองของเซี่ยเหลียนเป็นหลัก ความบัดซบในชีวิตฮวาเฉิงเลยค่อนข้างถูกกลบ แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ฮวาเฉิงอีโวลูชัน (เพราะความโกรธ และเสียใจ) จนเอาไปฝึกต่อจนเป็นเจวี๋ยได้อยู่ในอาร์คที่ 4
>>818 เซี่ยเหลียนรู้แต่แกล้งเนียนไม่รู้ สองคนนั้นเลยคิดว่าเซี่ยเหลียนไม่รู้ ส่วนดรามาหนักอยู่ในพาร์ท 2 กับ 4
มึง กูขอถามหน่อย เว่ยอิงในภาษาจีนนี่ออกเสียงเว่ยอิง หรือเว้ยยิงวะ คนที่แปลงี้เขาบอกว่าภาษาจีนไม่มีเสียงอิง เขาชอบเขียนตามการออกจริงในภาษาจีนและอยากแปลที่มันตรงตามต้นฉบับมากสุด คือกูงงอ่ะ มันจริงใช่มั้ย ภาษาจีนกูไก่กาใตรเป็นผู้รู้ขอไขความกระจ่างที
เสริมจาก 824
ที่จริงเสียง -ิง ในภาษาจีนก็คือตัว ing แต่มันเป็นสระในพินอินไง เวลาจะเขียนต้องมีพยัญชนะด้วย เลยเติมตัว Y เข้ามา ดังนั้นจีนเลยเรียกตัวนี้ว่า ต้าอี หรือ อีตัวใหญ่ เพราะอย่างนั้นถ้าเห็นพินอินY+i จะออกเสียงกึ่งๆ อ เหมือนเลขหนึ่ง 一 อะ พินอินเขียนว่า Yī แต่ออกเสียงอี ไม่ใช่ อู
ขอกาวหน่อย... กูไปแอ่วด้อมนอกเทียนกวานมา เจอเค้าคุยกันเรื่องคู่
.
.
.
.
.
WMกับสุดที่รักของเค้า(มีอยู่คนเดียวแหละ) รูทดำดิ่งสู่ Dark Side โคตรกร๊าวเลยว่ะ มีใครแนะนำแฟนฟิกคู่นี้ให้กูอ่านได้มั่ง Eng ก็ได้ ไทยก็ดี กรุณาอย่าบอกให้กูแต่งเองนะ กูไม่มีปัญญาแต่ง ในหัวกูมีแต่กาวไม่มีความสามารถ
ป.ล.คนที่ไม่อยากโดนสปอยไม่ต้องค้นนะว่าคู่ที่เราเราพูดถึงคือใครกับใคร มันสปอยแรงมาก สปอยเลเวล9999
.
.
.
.
.
มาบอกก่อนว่าไม่มีสปอยนะฮว๊าฟ เผื่อมีคนรอ
แล้วใครขอให้สปอย อยากหาเพื่อนคุย ไปลงแอคทวิตตัวเองก็ได้น้า เซเลปทวิตแล้วอ่า
กุต่อ
พอลงแล้วจะมีเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์มั้ยน้า มาดูกัน ว่าแต่โม่งเกลียดงานเถื่อนมากไม่ใช่หรออ่า ทำไมทำซะเองน้าสงกะสัย
>>833 ถ้ามึงตาไม่บอดก็ต้องมองเห็นแล้วนะว่าในมู้มีหลายคนชอบสปอยของโม่งสปอยและอยากให้ลงต่อ
>>834 มีกฎหมายข้อไหนห้ามสปอยวะ นิยายแปดเมตร(กูขอยืมคำหน่อยชอบจริงๆ แปดเมตรเนี่ย) ย่อมาเหลือกะจิ๊ด กูไม่แน่ใจว่ะว่ามึงเป็นแค่โทรลหรือมีเอี่ยวกับสนพ. ถ้าเป็นทางสนพ.ประกาศขอความร่วมมืองดสปอยแบบละเอียดกูว่าเหล่าโม่งพร้อมให้ความร่วมมือนะ (แต่ดูจากสันดานกูคิดว่ามึงโทรลว่ะ)
ขอพูดหน่อย ในฐานะคนที่ไม่ได้ตามด้อมนี้ แต่เลื่อนผ่านๆกี่ทีก็เห็นมึงด่าเรื่องสปอย
สปอยไม่ได้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดลิขสิทธิ์คือตัดหน้าสนพแปลลงเหมือนพวกนักแปลในเด็กดี มึงจะโกรธทำไม นอกจากเป็นคนที่เสียประโยชน์การจากการที่โม่งคนนี้เที่ยวสปอย หรือว่ามึงเป็นสนพที่กลัวยอดขายไม่ดีเพราะคนรู้เรื่องไปหมดแล้ว หรือไม่มึงก็มาเรียกตีนให้สนพ มีอยู่สองอย่าง ถ้าหวงนิยายไม่อยากให้ใครได้รู้นักก็ไปทำแคมเปญบนดินซะ ถ้ามีคนเข้ามาเย้วๆกับมึงก็ยินดีด้วย ไร้สาระชิบหาย
กูคิดว่า 833 โทรลนะ วันก่อนกูสปอยล์พันสารทก็มีโทรลมาแซะ จริตประมาณนี้ บอกกูโม่งแตก รู้ทวิตกู ทั้งที่กูไม่ได้เล่นทวิต นางคงมาปั่นอะ ถ้ามีโม่งไม่เห็นด้วยเรื่องสปอยล์น่าจะเม้นแบบมีหลักการ+สมองกว่านี้
พวกมึง ๆ อย่าไปสนใจโทรลเลย ก็แค่พวกทำเป็นคุณธรรมจ๋าแค่เปลือกแต่ตามโม่งแบบเกาะติด แล้วดูเป็นพวกขี้อิจฉาไม่มีใครคุยด้วยแค่นั้น
แต่คนสปอยล์โดนกระทบบ่อยกูไม่รู้ตอนนี้มึงรู้สึกยังไงนะ แต่อย่าใส่ใจโทรลมันเลยมึงยังมีพวกกูให้คุยถกสาระผสมกาวด้วยอยู่ 555 มึงทำต่อไปตามที่มึงสบายใจแหล่ะ ถ้าถึงจุดที่สนพ.ขอความร่วมมือทั้งโม่งสปอยล์และโม่งตามสปอยล์ที่พูดกันด้วยเหตุผลรู้เรื่องก็พร้อมจะเคารพให้ความร่วมมือเอง
.
คุยต่อ ๆ เทียนกวานกูอยากรู้คร่าว ๆ อ่ะ นอกจากคู่หลักเขาชิปคู่ไหนกันบ้างวะ
ส่วนตัวกูก็ค่อนข้างแน่ใจว่าโทรลอะ เพราะว่าถ้าเป็นสำนักพิมพ์ก็คงไม่ทำให้ตัวเองเสียเครดิทด้วยคำพูดเหมือนเด็กกะโปกแบบนี้ (ถ้า สนพ ตัวจริงมาบอกทุกคนก็ให้ความร่วมมืออยู่แล้ว) หรือถ้าเป็นคนที่ห่วงเรื่องลิขสิทธิ์จริงๆ ก็คงงัดหลักการ เหตุผล ข้อกฎหมายมา ไม่ใช่แค่พูดลอยๆ กัดจิกไปทั่ว แถมจงใจกวนตีนมากด้วย
แต่กูก็รู้ว่าเรื่องสปอยกับลิขสิทธิ์มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ช่วงนี้เลยหยุดสปอยก่อนเพราะจบอาร์คแรกพอดี แล้วรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการสปอยเท่าที่เป็นไปได้ เท่าที่ค้นเจอมาคือไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะว่าการสปอยกับสื่ออินเตอร์เน็ตที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายมันยังเป็นเรื่องใหม่อยู่ มันเลยไม่ได้มีกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องนี้โดยตรง มีแต่แนวทางปฏิบัติที่ดีขึ้นมาเป็นไกด์ไลน์ให้ทำตาม คือไม่สปอยละเอียดเกินไป และไม่สปอยเกินครึ่งเรื่อง หรือสปอยตอนจบ (ซึ่งก็อย่างที่บอกว่ามันแค่ไกด์ไลน์ ไม่อย่างนั้นตอนแฮร์รี่ พอตเตอร์ เกมออฟโทรน วอร์คกิ้งเดธ อะไรพวกนี้ฟ้องร้องกันกระจายแล้ว ถึงขนาดสปอยข้ามน้ำข้ามทะเลจากอังกฤษผ่านในไม่กีนาทีหลังหนังสือเล่มจบออก ถึงกับมีบริษัทรับจ้างไปสปอยหนังให้คนที่ไม่ชอบหน้าฟัง สกรีนเสื้อบอกสปอยตอนตบมาขาย หรือแม้แต่กรณีทอม ฮอลแลนด์มาสปอยหนังที่ตัวเองเล่นให้ชาวโลกรับรู้ก็ไม่มีเคสโดนโทษ ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ผิดกฎหมาย แม้แต่ในประเทศที่เรื่องลิขสิทธิ์เขาแรงกว่าบ้านเรา และในไทยเองในพันทิพย์ก็สปอยหนัง ละคร ซีรีย์ นิยายกันปรกติ)
เพราะฉะนั้นสรุปว่าถ้ากูจะสปอยต่อก็อาจจะสปอยถึงแค่ถึงจบอาร์คที่ 2 (ที่จริงกูอยากถกช่วงอาร์ค 3 กับ 4 มาก รู้สึกมีประเด็นให้คุยเยอะ เป็นเหตุผลหลักที่มาสปอยแต่ต้นเพื่อให้รู้ที่มาที่ไปเลย เพราะกูเห็นที่เพื่อนโม่งแต่ละคนวิเคราะห์ ปรมจ แล้วชอบมาก อยากให้คุยกันแบบนั้น) และน่าจะสปอยให้ละเอียดน้อยลงแต่จะพยายามให้อารมณ์เดิมอยู่ (ซึ่งกูก็ว่า 80 เปอร์เซนท์ที่กูสรุปมาก็เนื้อแล้วนะ อีก 20 เปอร์เซนท์เป็นโมเมนท์ที่กูก๊าว+อยากดึงอารมณ์บางจุดให้เห็น เรื่องเทียนกวานกูนับถือแม่โม่จริงๆ ที่จุดเล็กๆ การกระทำบางอย่าง คำพูดบางคำพูด มันโดนเอาไปอ้างอิง มีผลต่อตอนหลัง หรือเป็นเหตุผลอธิบายการกระทำ อย่างเฉวียนอี้เจินที่แพลมๆ ชื่อมาหนสองหนนี่ ตอนหลังบทเยอะพอควรนะครัช ปั้นเยวี่ย เผยซู่ เซวียนจี เค่อหมอ ตอนหลังก็มีบท แม้แต่คุณโสที่ทักเซี่ยเหลียนในเมืองผีก็มีบทสำคัญเถอะ กูเลยตัดไม่ได้)
ส่วนอาร์คที่เหลือค่อยมาคุยกันเชิงวิจารณ์ วิเคราะห์ อันนี้จะไม่ผิดเรื่องลิขสิทธิ์แน่ๆ เหมือนที่เพื่อนโม่งวิเคราะห์เนื้อเรื่องเล่มสุดท้ายของ ปรมจ กันถึงพริกถึงขิง ทั้งๆ ที่ลิขสิทธิ์ก็ยังแปลไม่จบเหมือนกัน) หรือที่จริงถ้าสามารถสปอยในระบบปิดกว่านี้เหมือนอ่านหนังสือจบไปสปอยให้เพื่อนที่โรงเรียนฟังก็ดี เพราะส่วนหนึ่งโม่งมันก็เปิดสาธารณะให้คนเข้ามาอ่านได้หมดด้วย
สรุปก็คือตอนนี้กูก็กำลังหาข้อมูลเพื่อทำจุดพอเหมาะพอดีอยู่ ไม่ได้เกี่ยวกับโทรลกวนประสาท เพราะเราจะคุยกันด้วยหลักเหตุผล หรือเพื่อนโม่งมีความเห็น+คำแนะนำยังไงกันบ้าง
>>838 มันมีหลายคู่ที่ถ้าเขียนออกไปแล้วมันจะสปอยอะ เอาเป็นว่าจะจะจุดสปอยไว้ก่อนนะ
.
.
.
.
.
คู่ที่คนส่วนมากชิปคู่อื่นก็จะมี เฟิงซิ่นxมู่ฉิง หมิงอี้xซือชิงเสวียน เฉวียนอี้เจินxอิ๋นอวี้ ส่วนคู่สุดท้ายที่กูไถทวิตเห็นบ่อยๆ กูขอข้ามนะเพราะมันสปอยเรื่องแบบฮาร์ดคอร์เกิน
.
.
.
.
.
>>839 สำหรับกูความเซนซิทีฟพวกนี้มันแปะติดกับมาตรฐานคนอ่ะ ถ้าไม่มีเคสทางกฎหมายออกมากูว่าก็หามาตรฐานยาก
แต่สำหรับกูต่อให้สปอยหมดเรื่องกูก็คิดว่าเหมือนเพื่อนเล่าเรื่องอ่ะ อรรถรสของการอ่านนิยายที่มีรายละเอียดคำต่อคำ ยังไงก็ไม่เหมือนสปอย สำหรับกูถ้าสปอยแล้วพบว่าเนื้อหาหนังสือมันตรงเทสกู กูจะยิ่งอยากอ่านเล่ม และยิ่งมั่นใจจะซื้อเล่มเพราะรู้ว่ากูไม่เสียดายเงินที่ซื้อแน่ๆ อีกอย่างสนพ.ก็รู้แหละ ว่าอ่านแปล eng นี่ละเอียดยิบกว่าโม่งสปอยก็ไม่ใช่ว่าจะหาแหล่งกันไม่ได้ กูกลับมองว่าเป็นการโฆษณาอย่างนึง ซึ่งโม่งสปอยก็ไม่ได้กำไรอะไรเลย
ปล.กูขอบคุณในความเสียสละเวลามาสปอยของมึงนะโม่งสปอย
คนซื้อยังไงก็ซื้อ คนไม่ซื้อก็หาเหตุผลอ้างโน่นนี่ ถึงจะไม่มีสปอยก็มีเหตุผลอื่นมาสนับสนุนการไม่ซื้ออยู่ดี กูไม่ได้ว่าคนที่ไม่ได้สนใจจะซื้อนะ หมายถึงพวกมากรี้ดๆชอบเรื่องนี้ชอบโน่นนี่แต่ไม่สนับสนุนลิขสิทธิ์
กูเป็นคนนึงที่ติดสปอยมาก นิยายเรื่องไหนไม่มีสปอยมาก่อนหรือไม่รู้เนื้อเรื่องมาก่อนกูไม่ซื้อ กูเข็ดมากกับการจ่ายแพงแต่ได้อิหยังวะมาอ่าน ตอนแรกกูว่าจะไม่ซื้อเทียนกวานเพราะดูชื่อแล้วเหมือนแนวเรื่องมันหรูๆอาจไม่ใช่แนวกู แต่ขอบคุณโม่งสปอยที่ทำให้รู้ว่าเนื้อเรื่องจริงๆมันน่าสนใจกว่าที่คิด กูเกียมเสียตังค์แล้ว
สำหรับกูถ้าจะซื้อสปอยก็ทำอะไรกูไม่ได้ ยิ่งสปอยยิ่งอยากซื้อ อย่างปรจ บอกตรงๆ ว่ากูอยากได้มากกกกเพราะสปอยล์นี่แหละ และก็ได้มาแล้วดอง....55555 รีบซื้อเพราะกลัวขาดตลาด
สปอยต่อไปเถอะเพื่อน อันไหนที่มึงเล่าถึงเพราะมึงมองว่ามีผลต่อเนื้อเรื่อง กูว่ามันก้อไม่ได้ละเอียดไป อย่างที่บอกว่าใครอยากหลบสปอย อย่าอ่าน หรืออ่านข้ามๆบางจุดเอา ควบคุมที่ลูกกะตามึงอ่ะไม่ใช่ควบคุมมือคนอื่นที่พิม
กูเข้าใจฟีลที่แบบอยากมาแชร์กะเหล่าโม่ง จะได้มีเพื่อนร่วมหวีดเรื่องที่ชอบเหมือนๆกัน กลุ่มนี้มันเหมือนเพื่อนมาเล่าเรื่องให้ฟังกัน (เพื่อนในชีวิตจริงกู ดูเกาหลี ดูซีรี่ย์ช่องวัน แต่ไม่ดูจีนอ่ะ ยิ่งอ่านหนังสือพวกแม่งยิ่งไม่อ่าน กูชอบอ่านหนังสือคนเดียวในกลุ่มเลย อุแง)
ส่วนคนที่มาตามด่า เท่าที่อ่าน กูเดาว่ามันอิจฉาโม่งสปอย
จริงอยู่ที่เราไม่รู้ว่าโม่งสปอยจริงๆเป็นใคร แต่ตอนนี้คือในด้อมเล็กๆของเราสปอยของเพื่อนโม่งมีคนตามเยอะอยู่
โม่งโทรลอาจจะหมั่นไส้แกมอิจฉาเลยตามเบรคตามด่า และเพื่อให้ดูมีความชอบธรรมในการด่าเลยยกคุณธรรมเรื่องพิทักษ์ลิขสิทธิ์ขึ้นมา ถถถถถ
ดีที่มึงไม่เก็บเรื่องโทรลมาใส่ใจ อ่านจากที่มึงพิมสปอย การวิเคราะห์ต่างต่าง และการรับฟังคนอื่น กูว่ามึงเป็นคนมีอีคิว อารมณ์ความคิดหนักแน่นพอสมควร
ไม่หัวร้อนง่าย พลังฝึกจิตช่างกล้าแข็ง 5555 /คารวะด้วยสุราเทียนจื่อเซี่ยว
ky ไหนๆก็มีการพูดเรื่องลิขสิทธิ กูถามหน่อย กูซื้อหนังสือมา(เรื่องที่พูดถึงไม่มีอีบุคขาย) แต่กูจะไปเที่ยว กูอยากเอาไปอ่าน แต่มันหนัก+กูอ่านหนังสือไว กูจับสแกน ใส่แทปเล็ทไปอ่าน โดยที่การสแกนคือการทำซ้ำใช่มะ แต่กูไม่ได้เอาไปแจกใคร แค่เอาสะดวกกูพกพาไปอ่าน แบบนี้ผิดปะวะ กูคิดเอาเองว่าไม่ผิด เพราะกูไม่ได้เผยแพร่ ใครรู้บ้าง ไขข้อข้องใจกูที
>>839 กูชอบตอนคนวิเคราะห์ปรมจในนี้เหมือนกัน เพราะเป็นบอร์ดเปิดที่ใครก็เข้าได้เลยมีหลายความเห็น และไม่ระบุตัวตนทำให้ออกความเห็นได้ตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลัวโดนถล่มหรือแซะย้อนหลัง ดังนั้นการหาที่สปอยให้ปิดกว่านี้ความหลากหลายในความเห็นมีโอกาน้อยลง หลายคนคงไม่อยากเปิดโม่งเพื่อเข้าถึงสปอยและการออกความเห็นจะไม่ง่ายแบบสปอยในโม่งเม้าในโม่ง
แล้วกูก็รู้สึกว่าพอหนังสือออกเป็นเล่ม คนอ่านเล่มจบก็จบเลยไม่ค่อยมีคนมาเม้าต่อเนื่องเป็นเหตุการณ์เท่าไหร่เพราะหนึ่งเล่มเนื้อหาเยอะ ไม่ใช่แค่กับเรื่องของแม่โม่ วายเรื่องอื่นก็เหมือนกัน ก็เสียดายถ้าจะไม่มีสปอยแล้ว
กู 847 ขอบใจเพื่อนโม่งที่ให้ความรู้ กูจัดละ สแกนเป็นชุด ต้นเดือนหน้าจะไปนั่งชิวริมทะเลอาทิตย์นึง ขืนแบกหนังสือไปอ่าน กูคงกล้ามขึ้น
เพื่อนกูก็ทำนะ แต่ไม่ถึงขั้นแสกน มันแค่ถ่ายรูป ไว้เปิดอ่านเวลาอยู่นอกบ้าน คืออยากอ่านแต่ขี้เกียจแบกหนังสือ+กลัวหนังสือพังด้วย
>>858 ใช้ออนไลน์ small pdf แต่ถ้ามี illustrator ก็น่าจะสะดวกกว่ามั้ง
>>859 ไม่สามารถแนะนำ เพราะใช้ของที่ทำงาน อาศัยมาทำงานเช้ากว่าคนอื่น เลยนั่งสแกนไปเรื่อยๆ แต่ที่ทำงานใช้เป็นแบบ all in one ปริ๊น สแกน ก๊อปปี้ เครื่องเดียวจบ แล้วห้องทำงาน นั่งอยู่คนเดียวเปลี่ยวเปล่าเหงาหงอย เลยทำไรก็ได้ แค่งานออกตามเวลา ที่เหลือก็นั่งอ่านสปอย กะเม้าท์มอยอยู่นี่ไง
มึงๆอย่าแนะนำเรื่องสแกนหนังสือกันเลย ถ้าใครทำเป็นอยู่แล้ว จะทำเล็กๆน้อยๆอ่านส่วนตัวก้อแล้วแต่ แต่ถ้าจะแนะนำเครื่อง โปรแกรมกัน อย่าเลยเพื่อน ถ้าอยากทำใช้ส่วนตัวจริงๆลองหาข้อมูลที่อื่นดู มู้โม่เซียงแต่มาสอนวิธีสแกนหนังสือกูตงิดๆไงไม่รู้อ่ะ ซอรี่เด้อ
ถ้าบอกว่าสแกนไว้อ่านเองรอบเดียวแล้วลบ กูนับถือเลย ทั้งซื้อเครื่องสแกน เวลาที่ใช้ในการแสกนที่น่าจะพอๆกับการเปิดอ่านให้จบ แล้วยังเสี่ยงหนังสือเสียสันแตกหลุดเป็นแผ่นๆ กูชอบพกหนังสือไปอ่านเวลาไปเที่ยวทั้งทะเลภูเขา ไม่ได้หนักมาก หลังๆพกทั้งหนังสือ คินเดิล แล้วก็อ่านในมือถือ เรื่องไหนที่เล่มหนามากลำบากมากไม่เหมาะกับทริปก็เลือกเล่มอื่นที่เล็กๆเบาไม่ห่วงว่าจะยับจะเลอะไปแทน มีทางเลือกอื่นที้ไม่ต้องสแกน
ไหนๆ ก็นอกเรื่องแล้ว ขอต่อหน่อย กูเป็นประเภทค่อนข้างหวงหนังสือ ถึงจะไม่ถึงขั้นห้ามเป็นรอยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าจะให้กูแหกหนังสือมาแสกนนี่ทำไม่ลงว่ะ ยิ่งใช้เครื่องแสกนมันก็แทบจะต้องแหกหนังสือออกมาเป็นแผ่นๆ เลยปะวะ ถ้าจะบอกว่าแสกนไว้อ่านคนเดียวเพราะขี้เกียจหิ้วหนังสือไปอานแค่ไม่กี่วันนี่กูขอไม่เชื่อไว้ก่อน ถ้าเรื่องสุ่มเสี่ยงผิดลข พวกนี้อย่าเอามาคุยเลยดีกว่า
ขอบั๊มหน่อย
บั๊มจ้า
>>863 มึงนี่คิดเยอะ มึงไม่แต่ไม่ได้หมายความว่าคนทั้งโลกจะไม่ ใช่ หนังสือแหก แต่หนังสือกรูซื้อ กรูจะฉีกจะแหกก็หนังสือกูอะ
ทู้โม่เซียง เอาปรมาจารย์ลัทธิมารไปดูเล่น เพิ่งเสร็จหมาดๆ แล้วมึงหาเลยว่ามีไฟล์สแกนแบบนี้แจกที่ไหน ถ้ามีไฟล์แบบนี้แจกค่อยด่ากรู ขอบอกว่าถ้ากรูจะหาโหลด กรูหาได้ แค่กรูไม่หา กรูก็ไม่หนับหนุนพวกไฟล์แจก
อ่อกรูไม่รู้นะว่าฝากรูปได้นานแค่ไหนกะเว็บนี้ มึงก็เข้าไปดูเอาเน้อ ว่ากรูสแกนชัวร์ หนังสือแหกก็ใช่อีก กรูไม่ปฏิเสธ
https://www.bpicc.com/image/9YSB6J
https://www.bpicc.com/image/9YSHQj
ไม่ได้ว่านะ แต่พอไม่มีสปอยล์เทียนกวานเหมือนชีวิตขาดอะไรไป เพราะว่าปกติได้อ่านทุกวัน กูติดสปอยล์แล้วววว T_T
กูก็รอคอยสปอยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าโม่งสปอยแค่หยุดให้เราย่อยเนื้อหาอาร์กแรกก่อน หรือว่าท้อใจจนเลิกสปอยแล้วก็ไม่รู้ ฮืออออ
มันบอกไปหาข้อมูลหาจุดพอดีในการสปอยนะ เดวมาๆ /นั่งเขี่ยพื้นรอ
โม่งมอดเเล้ว กูพึ่งมา แต่กูมารอโม่งสปอยนะ
เข้ามานั่งรอโม่งสปอยด้วย
พึ่งได้อ่านอาจารย์ตัวร้าย เริ่มเมื่อวานจบวันนี้ 3 เล่ม เกือบไม่ได้นอน วางไม่ลงจริงๆ
ว่าแต่กูอ่านจบไปแล้วก็ยังตะหงิดๆ ใจอยู่ดีว่านี้ไม่มีอะไรต่ออีกหน่อยเหรอออออออ กูอยากอ่านของท่านโม่เป่ยกับชั่งชิงต่อออออออออออออ
ขอบคุณมึงงง กูลองตามไป แต๊งส์ๆ
>>875 ตอนสุดท้ายของฉบับไทย จะมีบทสัมภาษณ์คู่รัก แล้วปิงเหอตอบเอาไว้ว่า อยากให้อีกฝ่ายเรียกเขาว่าเซียงกง (คำเรียกหลัวแบบเคารพยกย่อง) ใช่ป่ะ
ส่วนตอนพิเศษแต่งงาน กูเคยดำ ๆ งม ๆ จำได้แค่ว่าในที่สุดเสิ่นชิงชิวก็ยอมเรียกแบบนั้น (ระหว่างโดนจับกิน บอกปิงเหอว่าทำช้า ๆ หน่อย ปิงเหอเลยต่อรอง+อ้อนว่่าถ้าอยากให้ทำช้าลง ก็เรียกเขาแบบที่คนแต่งงานแล้วเรียกกันสักคำสิ)
กูแวะกลับมาหวีดแพ่บ ไปขุดหาแปลตอนพิเศษในทวิตมา ยังไม่เจอ เจอแต่อนิเมะ 3D อ.เสิ่น
อมกกก เลือดกำเดากูจะไหล ต้องวิ่งกลับมาหวีดในโม่งก่อน พึ่งเห็นงานอนิเมะเค้าทำซือจุนออกมาหน้าหล่อแบบสวยๆดี กูชอบ
พึ่งเคยดูซีรี่ย์ ปรมจ ทำไมเว่ยอิงถึงใส่หน้ากากอะ ตามนิยายต้องแต่งหน้าใช่ป่าว
ตามนิยายแต่งหน้าแบบบ้าๆบอๆเพราะเจ้าของร่างเดิมน้องโม่มันเพี้ยนๆอ่ะ พอเว่ยอิงเข้าร่างแรกๆก้อต้องทำตัวบ้าๆแต่งหน้าประหลาดแบบเดิม คนจะได้ไม่ผิดสังเกตุ แต่ซีรี่ย์เปลี่ยนจากแต่งหน้าเป็นใส่หน้ากากแทน กูเดาว่าที่ปรับบทตรงนี้คงเพราะใส่หน้ากากมันอาจจะดูเท่กว่า ดีขึ้นกว่าแต่งหน้าประหลาดๆ และก้อซีรี่ย์มันสื่อว่าพอเว่ยอิงเข้าร่างแล้ว หน้าตาคือเป็นหน้าเว่ยอิงเลย ถ้าใส่หน้ากาก มันปิดบังใบหน้าได้มากกว่าการแต่งหน้ามั้ง คนจะได้จำหน้าไม่ได้ด้วยว่าคือเว่ยอู๋เซี่ยน
ส่วนในอนิเมะก้อใช้แต่งหน้าแบบนิยายนะ ถ้ามึงอยากเห็นลองไปเปิดเมะดู
พึ่งอ่านจบเล่ม 2 ตัวละครเยอะจริงเลย จำได้แต่ หลานจ้าน เว่ยอิง จินหลิง —*
ไม่รู้จะโพสห้องไหนดี แต่เลือกห้องนี่เพราะคิดว่าทุกคนน่าจะช่วยถกกันได้
เห็นในทวิตมีคนรีวิวว่าปรมจแปลไม่ดี มีคำติดขัด อ่านแล้วไม่ลื่น มีบางคำที่สงสัยว่าอาจจะไม่ได้แปลจากต้นฉบับ(?) กูเลยสงสัยว่าไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอ กูอ่านแล้วก็โอเคนะ ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่เห็นคนเมนชั่นบ่นกันตรึม โดยเฉพาะเรื่องคำทับศัพท์ กูเลยอยากรู้ว่าพวกมึงอ่านจบ 2 เล่มแล้วคิดยังไงบ้างกับการแปล
>>888 กูชอบมาก อาจจะเป็นเพราะกูอ่านตวตมาตลอด มาเจอคำสวยๆฝั่งจีนบ้างก็รู้สึกแปลกใหม่ดี ตวตมีแต่ศัพท์ตรงๆแมนๆ หล่อคือหล่อน่าเย ไม่ได้หล่อเป็นน้ำแข็งแห้งแกะสลักแบบที่จีนบรรยาย มันเลยคนละบรรยากาศกัน กูถือว่าทำได้ดี ส่วนเรื่องคำทับศัพท์กูเดาว่ามันเริ่มมาจากสุยเปี้ยนที่ถ้าไม่แปลว่าแล้วแต่ จะไม่รู้เลยว่านายเอกตั้งชื่อแบบแล้วววแต่ เพราะสำหรับคนไทย สุยเปี้ยนคือสุยเปี้ยน คือภาษาจีนคำหนึ่ง ไม่รู้คำแปล ไม่บ่งบอกนิสัยนายเอก ทีนี้พอแปลสุยเปี้ยนแล้วมึงเลยต้องแปลทุกอัน ไม่งั้นก็หลายมาตรฐานแปลกๆ
นานาจิตตัง ด้วยความที่เรื่องมันดัง แต่หวังต้องแปลดีเลิศประเสริฐฟ้า ซึ่งกูอ่านแล้วก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เล่ม 2 แปลดีขึ้นนะ กูอ่านสบายๆเลย ถ้าคนจะไม่ซื้อแค่เพราะรีวิวจากคนที่อ่านทั้งเกาจีนไทยออก ก็ต้องคิดแล้วล่ะ ส่วนตัวกูอ่านออกแค่อิ้ง แปลดีกว่าอิ้งกว่าอิ้ง อ่านแล้วไม่ปวดหัว ก็สบายใจกูแล้ว
พวกบ่นเรื่องทับศัพท์เด็กน้อยเอาแต่ใจว่ะ เขาแปลชื่อกระบี่ก่อนพวกมันเกิดกันอีก กูงงมากว่ามีพวกอยู่ในกะลาขนาดนี้เลยเหรอ หนังจีนเคยดูบ้างมั้ย มังกรหยกก็ได้ คิดว่าไม้เท้าตีสุนัขเป็นคำจีนเหรอ พูดมาได้ว่าคนเขาไม่แปลชื่อกระบี่กัน พึ่งมาสายจีนก็อย่าโชว์โง่ อย่าให้ค่ากับคำพูดพวกนี้เลย ฟาดงวงฟาดงาเท่านั้นแหละ เวนเอ้ย กูโกด เพราะอิพวกพึ่งตามเอาแต่บ่นๆๆๆๆๆ ถ้าสนพอื่นมาเห็นก็อาจไหลตามพวกนี้ แต่พวกนี้ก็ตามเอากระแสอะไม่งั้นคงไม่ด้อยปัญญาขนาดนี้ คนที่ยังต้องอ่านนิยายแปลจีนต่อไป รับกรรมจากที่พวกมันเย้วๆก็คือกู
กูว่าแปลดีนะ รู้สึกแปลแบบมีมาตรฐาน เหมือนหนังสือแปลที่มีกลั่นกรองเรียงเรียง เป็นรูปประโยคที่อ่านเข้าใจได้ทุกวัยและไม่ต้องติ่งก็อ่านได้ย่อยได้ ไม่ได้ใช้สำนวนแปลเฉพาะกลุ่มเกินไป ไม่เหมือนอ่านฟิคอ่านนิยายตามเนต ที่เวลากูอ่านประโยคไหนแล้วบางทีต้องคิดประมวลซ้ำอีกรอบว่ามันสื่ออะไรเพราะประโยคหรือคำบางทีมันสำนวนวัยรุ่นไป บอกไม่ถูกว่ะ
ส่วนเรื่องแปลถูกผิดจากต้นฉบับ กูไม่รู้เพราะไม่รู้จีน
เรื่องทับศัพท์/ไม่ทับศัพท์ กูไม่มีปัญหาเลย อาจจะไม่ชินบ้าง แต่พอเริ่มชินก็รู้สึกว่ามันเป็นสไตล์การแปลของเรื่องนี้ มันเป็นคำศัพท์ประจำเรื่องนี้ ชื่อเฉพาะสำหรับสิ่งนี้ ก็เท่านั้น ถ้าอยากได้ฟีลเหมือนเวลาดูซีรีส์ก็อ่านในหัวไปว่า สุยเปี้ยน
กูว่าก็แปลดีนะ มีสะดุดมั้ยจำไม่ได้ แต่ชอบที่แปลชื่อสถานที่ชื่อกระบี่ ถึงกูจะขำชังชาติแบบชิบหายก้เถอะ ละเทียบกับตัวร้าย กูว่าโทนเรื่องคนละแนวว่ะ จะให้แปลขำโบ๊ะบ๊ะคงไม่ใช่มั้ง ตัวร้ายคือแปลดีเรียบเรียงดีจริง แต่กุหักคะแนนตรงไม่เรียกอาจารย์นี่แหละ ความบาปกุลดไปกว่าครึ่ง เสียดาย
#อุกหังอิสเรียล #อหปฟก
555 อย่างอื่นไม่รู้ แต่พวกบ่นเรื่องทับศัพท์นี่ไปพุกก่อนเลย จะบอกรสนิยมหรือความเคยชินมันก็ส่วนหนึ่งอะ แต่การแปล คือการแปลปะ การมาทับศัพท์ปล้วบอกว่ามีความเป็นจีนมากกว่านี่คือตลกมากๆ กูเบื่อ ขี้เกียจไปคุยด้วย
กูชอบปรมจ แปลดีอะ ได้รู้สึกติดขัดอะไร
กู 888 เองนะ
>>890 แหม มึงก้อออ กูอุตส่าห์ไม่บอกว่ารีวิวไหน 55555555 กูไม่ชอบใจตรงที่เกริ่นแนวๆว่าสนพ.อาจจะแปลมาจากอิ๊งนี่แหละ สนพ.ซื้อจากไต้หวันมาทำไมไม่เอาฉบับไต้หวันมาเทียบละ ไปเอาฉบับจีนกับเกาหลีมาเทียบทำไม หนหวย
ส่วนตัวกูอ่านจีนมานานแล้ว ส่วนมากเป็นมกร. แต่พอมาอ่านปรมจก็ไม่ได้ติดอะไร แปลชื่อไทยโอเคดี ถึงจะแอบตลกชังชาติไปหน่อยก็เถอะ ส่วนที่แปลได้ก็ควรแปล ไม่งั้นจะเรียกว่านิยายแปลทำไม อ่านมากๆเดี๋ยวก็ชิน จะมางอแงขอให้สนพ.เปลี่ยนให้ถูกใจตัวเองมันก็ไม่ใช่ ฝั่งนิยายกำลังภายในไม่เห็นจะมีคนงอแงเพราะเรื่องแบบนี้เลย แล้วยังมาถล่มนักแปลอีก คนก็อุปทานหมู่กันตาม ถ้ามันแย่จริงก็กางหนังสือมาเลยว่ามันไม่ดีตรงไหน แย่ตรงไหน ไม่ใช่บ่นๆๆๆๆ เอาฉบับนู้นนี้ที่ไม่ใช่ฉบับที่สนพ.ซื้อมา เอาของแปลอิ๊งมาเทียบ ไปกางฉบับไต้หวันมาเทียบสิ ถ้าแปลผิดจริงก็ค่อยมาลง มาแหกสนพ.กับนักแปล ไม่ใช่มาตีโพยตีพายฟูมฟายไปเองแบบนี้
หนหวยละ ว่าจะมาถกเถียงกับเพื่อนโม่งแบบเป็นกลาง สุดท้ายก็หัวร้อนนน
กูไม่ได้อะไรกับแปลชื่อกระบี่นะ แต่ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเรื่อง ปรมจ แปลสำนวนภาษาในเรื่องแข็งๆ ภาษาพูดตอนตัวละครคุยกันมันเหมือนภาษาเขียน การใช้คำดูโบราณ ซึ่งเรื่องแนวย้อนยุคเรื่องอื่นที่กูอ่านมาก็ไม่ใช้คำดูเก่าขนาดเรื่องนี้ อะไรที่คำน่าจะดูลื่นไหลมันเลยดูทื่อๆ ซึ่งกูก็ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ต้นฉบับเลยหรือเปล่า เพราะเห็นคนแปลเขาแปลอีกเรื่องหนึ่งกูก็ไม่รู้สึกว่าคำมันแข็งมันเรื่อง ปรมจ อะ
ในทวิตมีคนแปลเทียนกวานคำต่อคำด้วย แปลซะไม่กลัวโดนฟ้องเลย
อืมมม ส่วนตัวกูเฉยๆ กะแปลชื่อ แต่รู้สึกสำนวน การเรียบเรียงของปรมจมันไม่ค่อยลื่นๆ สละสลวยเท่าไหร่ บางพาร์ทก็เรียบเรียงงงๆ กูอ่านแล้วสับสน สำหรับตัวกูนะ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นอะ 5555
กูขอเห็นต่างหน่อยนึงนะสำหรับเรื่องทับศัพท์ พวกมึงอย่าเพิ่งรุมด่าขอเสนอแนวคิดตัวเองนิด
กูว่าไม่ทับศัพท์แล้วบอกว่ามันใช้กันมาตั้งแต่นุคกำลังภายในอ่ะ กูว่าอันนี้มองได้อีกแง่ คือกูคิดว่ากลุ่มนักอ่านของกำลังภายในกับกลุ่มหน้าใหม่อ่านวายมันคนละกลุ่มกัน (อาจจะมีซ้อนกันบ้างแหละ) ซึ่งกูก็เชื่ออย่างหนึ่งว่านักแปลหรือบริษัทอาจจะต้องคิดถึงกลุ่มเป้าหมายให้ดีด้วยอ่ะ ถ้าแปลโบราณจ๋าไปแบบยุคเก่ามันอาจจะเข้าไปถึงคนส่วนหนึ่งหรือเปล่าอะไรแบบนี้ แล้วยิ่งเรื่องนี้มีแปลทั้งอนิเมะทั้งซีรี่ย์การอยู่เป็นจักรวาลเดียวกันกูว่าก็สำคัญนะ คือไม่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นไงแหละ แต่พอมีเสียงวิจารณ์เยอะแบบนี้กูว่าไม่ใช่ว่าพวกเราควรอวยว่า สนพ. ทำดีแล้ว แต่อาจจะต้องให้ สนพ. ลองดูทิศทางในอนาคตไหมว่าถ้ามีนิยายที่มีทั้งอนิเมะ ซีรี่ แล้วแมสแบบนี้ใช้ภาษาแบบไหนถึงจะเหมาะที่สุด
ส่วนตัวกูว่าภาษาดีเลย แต่บางทีเสพหลายอย่างเกิน ก็คิดว่าซับในอนิเมะในนิยายก็ทำไม่แย่ไง พอมาอ่านนิยายบางทีเลยโดดๆ
** ซับในเมะ ในซีรี่
>>900 ไม่ค่อยโอเคกับแนวคิดแบบนี้นะ
แต่พอมีเสียงวิจารณ์เยอะแบบนี้กูว่าไม่ใช่ว่าพวกเราควรอวยว่า สนพ. ทำดีแล้ว แต่อาจจะต้องให้ สนพ. ลองดูทิศทางในอนาคตไหมว่าถ้ามีนิยายที่มีทั้งอนิเมะ ซีรี่ แล้วแมสแบบนี้ใช้ภาษาแบบไหนถึงจะเหมาะที่สุด
ก็สนพ.ทำดีแล้วนี่หว่า "การแปล"อะ แบบนี้สนพ.ต้องทำตามทาร์เก็ตของคนกลุ่มหนึ่ง(ใหญ่หรือเล็กไม่รู้) แต่ใจความหลักของการแปลนิยาย ก็คือการถอดภาษาป่ะ (พุดแบบคนไม้รูู้หลักการแปลอะไรทัั้งสิ้น)
ทับศัพท์นี่มันเหมือนเป็นอุปทานหมู่อะ ใช้เยอะๆ จะได้คงความเป็นจีนไว้ พอคนเสพลักษณะนี้มากๆเข้าก็นิยมชมชอบการใช้ทับศัพท์ เรียกว่าเคยชิน
แต่การแปลไทย ถอดคำจีนมาเป็นไทย มันคือใจความของภาษาไม่ใช่เหรอวะ ง่ายไปอย่างสุ่ยเปี้ยน ถ้าแปลมางี้ แล้วใส่เชิงอรรถ/หรือวงเล็บ มันก็อาจลืมหรือมองผ่านๆในครั้งต่อไป
แต่แปลมาเป็น แล้วแต่ มันก็ชัดแล้วอะ
สำหรับกูนะ การแปลมันควรแปลออกมาให้เราเข้าใจอะ แต่การทับศัพท์มันคือการที่คนแปลเลือกจะใช้ และคนอ่านชินและคุ้ยเคยไปกับมัน ทำไมเราต้องให้สนพ.ปรับด้วยละ ในเมื่อสนพ.ก็แปลในแบบที่ควรจะแปลจริงๆ นึกออกมะ
เกาหลีชื่อคนยังแปล
ญี่ปุ่นก็ด้วย
>>900 กูมองว่าวัตถุประสงค์ของหนังสือคือการอ่านว่ะ และจากที่คุยกันหลายมู้ก็เห็นได้ว่าถ้าไม่แปลก็ถอดความหมายไม่ครบ(แม่โม่เล่นมุกภาษาบ่อย) และหลักการแปลคือการถอดใจความจากภาษานึงมาเป็นอีกภาษานึง การทับศัพท์คือความขี้เกียจของนักแปลที่จะหาสอดคล้องใส่ฟุตโน้ตไปก็แล้วกัน ทัศนคติมักง่ายแบบนี้แผ่ลามไปถึงไหนอะ ถึงเรื่องนักอ่านกับตัวเอก ที่แปลสรรพนาม'เขา'แล้วใส่ฟุตโน้ตว่าในต้นฉบับคำนี้หมายถึงได้ทั้งคนและสิ่งของ ซึ่งคำนี้ใช้มันได้
อีกอย่างพวกที่โวยส่วนใหญ่กูเห็นในทวิตเตอร์ซึ่งตามปรมาจารย์จากอนิเมะบ้าง ซีรีส์บ้าง หลายคนที่ออกมาด่าทับศัพท์ก็พูดว่าพึ่งมาอ่านนิยายจีนครั้งแรกทำไมต้องมาเจอแปลแบบนี้ งที่ตัวเองไม่เคยอ่านเรื่องอื่นเลย และถ้าย้ายมาทั้งในเพจสนพ และกลุ่มสปที่เป็นกลุ่มใหญ่อ่านวายกันเยอะ คนก็เห็นด้วยกับการแปลหทดแล้วไปรุมจวกพวกจะเอาๆทับศัพท์ ซึ่งพวกนี้อะที่เป็นกลุ่มลูกค้าเขา ไม่ใช่พวกที่โหวกเหวก จบเรื่องนี้ก็ไปอ่านอะไรที่เขาจากมา
การทับศัพท์มันงี่เง่าตรงไหนเหรอ ลองไม่เอาความเคยชินมาเทียบโดยเอานิยายภาษาอังกฤษ พระเอกทีฉายาว่าNight knight แปลเป็นอัศวินราตรี คนบอกไม่เอา การอ่านเป็นแค่น้ำจิ้ม กูไปติ่งกับเพื่อนต่างชาติแล้วเดี๋ยวเขางงอัศวินราตรีคืออะไร แปลเป็นไนท์ไนท์ซะ โอย อิดอก คนอ่านอื่นๆก็แบบ ต้องมาจำว่าไนท์ไนท์มันหมายความว่ายังไงแทนที่จะอ่านแล้วรับแซบว่าเป็นอัศวินเพื่อให้พวกหอยหลอดนี่เอาไปเมาท์กับต่างชาติได้ ยิ่งเป็นคำจีนคนไม่ค่อยอยากจำด้วย สรุปจำแค่พระเอกมีฉายาไนท์ไนท์
>>906 เผลอกดส่ง สรุปคือมึงอยากเมาท์กับเพื่อนต่างชาติก็จำอีกชื่อ ไม่ใช่มาสร้างภาระระหว่างอ่านให้คนอื่นจำอีกชื่อ แล้วถ้าด้อมอังกฤษแปลชื่อเฉพาะจีนเป็นอังกฤษแบบฉวนจื๋อจะทำไงวะ ใหแปลเป็นร่มแสนกล หรือเชียนจีส่าน หรือMyriad Manifestations Umbrella เหตุผลว่าควรแปลทับศัพท์เดี๋ยวคุยกับต่างชาติไม่รู้เรื่องกูว่าเอาแต่ใจว่ะ ถ้าต่างชาติถอดเสียงผิดก็ห้ามแก้เพราะเดี๋ยวไม่ชินงั้นเหรอ
พูดอีกที พวกหน้าใหม่ที่บ่นเรื่องทับศัพท์ที่มึงว่าไม่ใช่กลุ่มนักอ่านหน้าใหม่แต่เป็นพวกพึ่งมาอ่านแนวนี้ครั้งแรกเพราะดังและใช่ว่าจะตามไปซื้อเรื่องอื่น ในกลุ่มคนที่อ่านวายเยอะๆคนก็โอเคกับการแปลกัน ชัดๆก็เรื่องราชันย์คู่บัลลังค์ของอววที่แปลอาวุธเหมือนกันแต่ไม่มีใครว่า หลายครั้งยกมาชมด้วยว่าแปลชื่ออาวุธดี(ซึ่งกูว่าเรื่องนี้แปลชื่ออาวุธเท่จริง)
>>908 นอกเรื่องแปป ราชันคู่บัลลังก์ของอววคือเรื่องไหน มึงหมายถึงปราชญ์กู้บัลลังก์ของอวว หรือราชันคืนบัลลังก์ของมด สองเรื่องนี้นักเขียนคนเดียวกัน กูคิดว่ามึงจับมาสมาสรวมชื่อกันใช่มั้ย ถ้าแปลชื่อกระบี่น่าจะราชันคืนบัลลังก์ป่าว หรือมีเรื่องที่มึงบอกจริงๆ ถ้าใช่ กูขออภัย
แปล ปรมจ กูว่าโอเคแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร
เรื่องแปลทับศัพท์แม่งเริ่มไหนวะ เจ๊หลินเหรอ ตอนแรกกูก็ตื่นตาตื่นใจดีอยู่หรอก อาเหนียง ฟูจวินตั่งต่าง หลังๆพอเหอะ กูขกมาใส่ใจกับอะไรแบบนี้ ต้องจำอีกว่าหมายถึงอะไร
ว่าแต่เล่มสามออกเมื่อไหร่ TT
เรื่องชื่อเฉพาะเช่น สถานที่หรืออาวุธนี่ สำหรับกูแปลได้ก็ดี ไม่แปลก็ช่าง แต่ที่ไม่ชอบคือสรรพนาม เช่น
อาเตีย อาเหนียง เกอ ทำไมวะ พ่อ แม่ พี่ มันใช้ไม่ได้รึไง
>>913 มีมานานแล้ว สมัยดึกดำบรรพ์ กำลังภายในที่ ว.ณ เมืองลุงแปลก็มี แต่ไม่ใช่จีนกลาง เนี่ย เตีย เตียเตีย กอกอ ม่วยม่วย แต่ขของกูกูถอดเสียจีนกลาง มีเพิ่มที่สมัยก่อนฮ่องเต้ ฮองเฮา หรืออื่นๆจะแทนตัวเองว่าเรา ข้าน้อย ก็ทับศัพท์ เป็นเจิ่น เปิ่นกง เปิ่นหวาง หนูปี้ อื่นๆอีกมากมาย ทำให้รู้ว่าภาษาจีนก็มีลำดับขั้นของภาษา
มีช่วงนึงพวกคอลัมนิสต์ชอบบอกว่า ไทยเป็นเจ้าของภาษาที่ยอดเยี่ยม มีลำดับขั้นของภาษา จีน ฝรั่งไม่มีราชาศัพท์ ไม่มีหัวมีหาง
กูก็โอเคกับที่เขาแปลนะปรมจอะ คือแค่ติงเรื่องเดียวคือมุกตอนกระบี่แล้วแต่55 ตรงนั้นความขำสำหรับกูลดลงไปมากแต่ตรงอื่นไม่เท่าไหร่ กูโอเคกับการแปลชื่อนะเพราะกูก็สายนิยายเก่าๆมาก่อน แต่ตรงมุกอย่างน้อยก็อันหนึ่งอาจจะแปลจีนหน่อยก็ได้ แบบ สุยเปี้ยนแล้วอีกอันมาแล้วแต่ให้รู้ว่า เออ แบบนี้นะ..แล้วต่อจากนั้นจะเรียกกระบี่แล้วแต่ยาวๆไปเลยก็ได้ กูโอเค น่ารักดีด้วยชื่อกระบี่ แต่นี่มาแล้วแต่กับแล้วแต่ มันเลยดรอปความขำกูนิดนึง แต่ที่เหลือกูไม่ติ อันนี้ในความเห็นกูนะ
อารมณ์แบบ พวกถามชื่อก็เหมือนกัน สมมติ ฮวา แล้วจะมีต่อว่ามาจากดอกไม้ไม่ใช่คำนี้ ไรเงี้ย กูว่ามันไม่ทำให้งงอะไรและอ่านลื่นไหลดี..ติเรื่องเดียว..พวกมึงเก็ทฟีลกูมะ555
โพสล่าสุด สนพ ก็โดนบ่นเรื่องนี้เหมือนกัน กูว่าส่วนนึงคนติดมาจากซีรี่ย์แล้วก็เมะมั้ย พอมีนิยายก็อยากให้แปลเหมือนกัน แต่ส่วนตัวกูชอบให้แปล บ้างคำมันสวยดีอะ แบบคนแปลเก่งจัง คิดคำออกมาได้ ในโพสกูเห็นบ้างคนบอกแปลไม่ดี ไม่คุ้มกับการรอ กูเสียใจแทนสนพ เลยวะ แม่ง
เรื่องโดนติ่งโวยจนทำการแปลเสียก็มาแล้วตอนดิสไทม์ อววแปลชื่อนายเอกเป็นหยูแทนที่จะเป็นอวี้ เพราะคนอ่านชินกับแปลเถื่อนที่ใช้หยู คราวปรมาจารย์กูเลยโกรธพวกโวยวายเรื่องไม่ทับศัพท์เพราะเอาแต่ใจจากความเคยชินมาก เสพสื่ออื่นที่ไม่ใช่หนังสือถูกลิขสิทธิ์แล้วชินเลยบังคับให้คนอ่านหนังสือครั้งแรกต้องแบกรับภาระเนี่ย การแสดงความเห็นปัญญาอ่อนใช่ว่าจะไม่มีผลกับสนพ อววก็ตามใจคนอ่านจนไม่รักษามาตรฐานตัวเอง เหอะๆ
wetv ของแท้สิวะ
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>815 เทียนกวาน Part.52
.
.
.
.
.
อาณาจักรเซียนเล่อกำลังคึกคัก ผู้คนเต็มท้องถนนมุ่งหน้ามายังพระราชวังเพื่อเข้าร่วมเทศกาลซ่างหยวน ซึ่งจะมีการแสดงการต่อสู้ระหว่างเทพสงครามกับปีศาจร้าย ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว มีเพียงองค์ชายรัชทายาทที่รับบทแสดงเป็นเทพสงครามที่หายตัวไป มู่ฉิงผู้รับบทเป็นปีศาจเอ่ยว่าเซี่ยเหลียนฝากมาบอกว่าให้ทำตามกำหนดการณ์เดิมได้เลย ทำเอาราชครูซึ่งเป็นผู้ดูแลการแสดงแทบของขึ้น ทางราชวงศ์เองก็ส่งเฟิงซิ่นมาสอบถามว่าทำไมยังไม่เริ่มเดินขบวนอีก เมื่อราชครูถามว่าเห็นเซี่ยเหลียนหรือไม่ เฟิงซิ่นก็หันไปมองมู่ฉิงอย่างไม่พอใจ แต่ก็บอกให้ผู้อาวุโสว่าเริ่มงานได้เลย เซี่ยเหลียนมาร่วมงานทันแน่ ราชครูจึงจำใจประกาศเริ่มการแสดงและจัดขบวนออกไป มู่ฉิงถือดาบโค้งยาวแสดงบทผีร้ายอาละวาด แต่คนส่วนมากอยากเห็นการแสดงเทพปราบปีศาจมากกว่าจึงเริ่มโวยวายกัน รวมไปถึงเจ้าชายฉีหรงผู้โอชิเจ้าชายรัชทายาทที่ไม่พอใจจนหยิบข้าวของมาขว้างปา ทำให้ราชินีต้องสั่งให้คนมาหยุดหลานไว้ ขณะที่สีหน้าของเชื้อพรวงศ์เครียดขึ้นเรื่อยๆ เสียงเชียร์โห่ร้องก็ดังขึ้นจากฝูงชน
ร่างของชายใส่ชุดขาวสวมหน้ากากสีทอง มือถือกระบี่คนหนึ่งกระโดดจากหอคอยป้อมปราการลงมายังเวที ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับได้เห็นเทพเซียนตัวจริงกระโดดลงมาจากฟากฟ้า เสียงปรบมือและเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นดังกระหึ่ม ในที่สุดเซมบัตสึองค์ชายรัชทายาทก็ปรากฏตัว ราชาถึงกับหันไปชมราชครูที่ออกแบบการแสดงได้ตื่นเต้นยิ่งนัก แต่อีกฝ่ายก็บอกว่านี่เป็นความคิดของเซี่ยเหลียน และเอ่ยชมความสามารถของลูกศิษย์ให้ราชากับราชินีฟัง
เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ว่ามู่ฉิงใช้แรงโจมตีมากกว่าตอนที่ซ้อม ทำให้เขาต้องเอาจริงมากขึ้นจนการแสดงยิ่งดุเดือดเรียกเสียงเชียร์ได้มากขึ้น แต่ในตอนที่เขากำลังจะโจมตีปิดฉากปีศาจร้าย จู่ๆ ก็มีเสียงหวีดร้องดังขึ้น เมื่อเขาหันไปก็เห็นเงาคนกำลังร่วงหล่นลงมาจากกำแพง โดยไม่ต้องคิดเขาก็รีบกระโดดไปรับร่างนั้นไว้ก่อนจะกระแทกพื้น ในอ้อมกอดของเขาคือเด็กชายอายุราว 7-8 ขวบคนหนึ่งซึ่งที่ศีรษะมีผ้าพันแผลสกปรกพันอยู่ อีกฝ่ายจ้องมองชายที่ช่วยชีวิตตนไว้ตาไม่กระพริบ และในตอนที่เซี่ยเหลียนเงยหน้าขึ้นมา เขาก็เห็นว่าหน้ากากทองของเขาหล่นอยู่บนพื้น เหตุการณ์นอกสคริปที่เกิดขึ้นทำเอาทุกคนชอค แต่เซี่ยเหลียนก็พลิกสถานการณ์หันไปชี้กระบี่ไปทางมู่ฉิง ซึ่งอีกฝ่ายก็เข้าใจจึงกระโดดลงมารับบทผีชั่วพยายามฆ่าเด็กในอ้อมแขนของเทพ ก่อนค่อยๆ เนียนพากันเคลื่อนกลับขึ้นไปบนเวที และมู่ฉิงก็อาศัยจังหวะหนึ่งช่วยหยิบหน้ากากของเซี่ยเหลียนขึ้นมาด้วย
เซี่ยเหลียนแกล้งเนียนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เด็กชายร้องด้วยความกลัว เขาก็กระชับอีกฝ่ายพร้อมปลอบว่าไม่ต้องกลัว เขาส่งซิกให้มู่ฉิง แล้วพวกเขาก็โจมตีจบการแสดงเทพปราบปีศาจได้ตามบทที่วางไว้แต่ต้น ทำเอาคนดูปลาบปลื้มประทับใจพากันดันทหารป้องกันเพื่อเข้าใกล้องค์ชายรัชทายาท คณะแสดงรีบกลับเข้าเขตราชวังแล้วปิดประตูกันผู้คนไว้ เซี่ยเหลียนถอดเสื้อหนาหลายชั้นออกอย่างโล่งอก ลืมไปสนิทว่ายังอุ้มเด็กชายไว้จนเฟิงซิ่นร้องถาม เซี่ยเหลียนหันไปสอบถามเด็กชายหลายประโยค แต่อีกฝ่ายก็ยังหวาดกลัวจนพูดอะไรไม่ออก เขาลูบหัวเด็กชาย ก่อนเรียกให้เฟิงซิ่นพาอีกฝ่ายไปให้คนดูแลต่อ แต่ตอนที่เขาส่งเด็กชายให้เฟิงซิ่นอุ้ม เด็กชายกลับเกาะเสื้อเขาแน่นไม่ยอมปล่อย ทำเอาทุกคนหัวเราะด้วยความเอ็นดู แต่สุดท้ายเด็กชายก็ยอมปล่อยมือ ทว่าดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องมาทางเซี่ยเหลียนราวกับต้องมนต์ ก่อนจากไปเฟิงซิ่นก็ไม่ลืมบอกให้เซี่ยเหลียนรีบไปพบราชครู เพราะอีกฝ่ายดูโกรธมาก
เซี่ยเหลียน มู่ฉิง กับเฟิงซิ่น เดินทางมายังศาลาหลวง ไม่นานนักราชครู กับรองราชครูทั้ง 3 คน ก็เดินเข้ามา ราชครูต่อว่าลูกศิษย์ที่ทำเรื่องนอกบท ที่สำคัญยังทำหน้ากากหลุดระหว่างการแสดงอันเป็นลางร้าย ทำให้ประวัติศาสตร์ของเซียนเล่อต้องมัวหมอง แต่เซี่ยเหลียนแย้งอาจารย์ว่าถ้าปล่อยให้เด็กชายตกกำแพงลงมาตายจะเป็นเรื่องอัปมงคลมากกว่า ท่าทางเชื่อมั่นในตัวเองของลูกศิษย์ ทำให้ราชครูทั้งรู้สึกโกรธและภูมิใจในคราวเดียว ก่อนเปลี่ยนไปต่อว่าเรื่องที่เซี่ยเหลียนทำนอกบทไปกระโดดจากหอคอยโดยไม่แจ้งก่อน เซี่ยเหลียนบอกว่าอีกฝ่ายอนุญาติเขาแล้วไม่ใช่หรือ แต่เมื่อเห็นราชครูทั้ง 4 คนไม่รู้เรื่อง เขาก็หันไปหามู่ฉิง เพราะอีกฝ่ายคือคนที่เขาฝากเรื่องไปขออนุญาติจากราชครูตั้งแต่เมื่อวาน
.
.
.
.
.
Ky กูซื้อเล่มปรมจ.มา อ่านแล้วรู้สึกการแปลมันแปลกๆ กูว่าแปลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้นะ กูอาจจะคิดไปเอง เพราะนี่ก็ครั้งแรกที่ซื้อนิยายแปลจีนมาอ่าน
สปอยมาแล้ววว เย~~
ปรมจสองเล่มกูยังไม่แกะซีลเลย กะดองจนครบค่อยอ่าน แต่เห็นมีประเด็นถกเถียงนี่อยากแกะอ่านดูเลยว่าเป็นยังไง กูเคยตามอ่านม่านฮวาที่มีคนแปลไทยไว้ กูก้อจะชินกะสุยเปี้ยนอ่ะนะ แต่กูก้อเคยอ่านนิยายแปลบางเรื่อง แปลให้พอ.แทนตัวว่าเจิ้น คือมึงแปลว่าแทนตัวว่า เรา ไปเลยก้อได้มั้ยวะ
ส่วนชื่ออาวุธ ส่วนตัวกูอยากให้เรียกแบ่บ กระบี่สุยเปี้ยน (สุยเปี้ยน แปลว่า แล้วแต่) คือวงเล็บความหมายชื่อในครั้งแรกสุดไว้ ละมึงก้อรับรู้ว่าเออความหมายของชื่อคืองี้นะ จากนั้นถ้าจะเล่นมุกไรต่อจะได้เข้าใจความหมาย แต่เรียกด้วยชื่อจีนไปไรงี้ แต่ถ้าจะเรียกชื่อไทยไปตลอดก้อได้นะ กระบี่แล้วแต่ มันก้อฮาทุกครั้งที่เรียก ทำให้เราระลึกได้ถึงตัวตนของเว่ยอิงทุกครั้งที่เรียกชื่อกระบี่ ว่านางเกรียน ความปรมจ.อี๋หลิง 5555
ม่านฮวาวายจีนนี่วาดเรทได้แค่ไหน คือปรจมันมีฉากเรทอยู่ท้ายๆ ตอนจบ กูอยากรู้ว่าจะได้อ่านมั้ย (แม้ว่าจากสปอย ณ ปัจจุบันจะเพิ่งขึ้นภาคเมืองอี้หมาดๆ ก็ตาม สิ้นปีนี้ภาคเมืองอี้จะจบมั้ยนะ)
เออกูก้อชอบอ่านแบบรูปเล่ม ชอบอ่านมังงะแต่ไม่ค่อยอ่านการ์ตูนออนไลน์ ตามแค่ม่านฮวาปรมจนี่แหละ lcแปลไทยปล่อยฟรีแค่วันละตอน อยากอ่านก่อนต้องเปย์ แง แล้วมันกี่ร้อยตอนจบวะ กูอยากจะปริ้นออกมาละรวมเล่มเก็บไว้เอง 55555 ถ้าเค้าทำรวมเล่มขายสวยๆกูก้อซื้อ อยากฟีลแบบเปิดอ่านได้อ่า
เห็นเขาว่าม่านฮวาก็ไม่ได้เหมือนนิยาย 100% ป่ะ ไอ้ฉากเรทนี่อยู่ตอนพิเศษป่ะหรือกูจำผิด กูว่าถ้าเป็นตอนพิเศษก็อาจจะไม่ได้วาดถึงตอนนั้นมั้ย หรือถ้ามีก็อาจจะวาดแบบตัดเข้าโคมไฟไรงี้ป่ะ
ky วีทีวีลงโปรโมทอนิเมะตัวร้าย จะมาแล้วจ้าพี่จ๋าา
เพิ่งอ่านจบแล้วขอบ่นพวกที่ติงการแปลเรื่องไม่ทับศัพท์หน่อยเหอะ อ่านผิดลิขสิทธิ์จนเคยตัวรึไงถึงมาบอกว่าควรเปลี่ยนการแปลเพราะไม่ชิน ความจริงนิยายมันเป็นออริจินอลปะ อยากไปหาแบบอื่นอ่านเองก็รับผิดชอบตัวเองดิ กูยอมไม่ดูทั้งอนิเมทั้งอ่านสปอย ซีรี่ส์อะไรก็ไม่ดูเพราะกูอยากอ่านแบบนิยายยังมีคนมาบอกให้นิยายแปลตามการ์ตูน/ซีรี่ส์เนี่ยนะ กูว่าเล่มนี้ไม่ได้แปลแย่จนต้องติเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้จะอวยแต่คือกูก็เรื่องมากกับการแปลระดับนึงอะ กูว่ามันโอเค มีคำผิดอยู่บ้างแต่ไม่ได้ถึงกับอ่านแล้วไม่เข้าใจอ่านแต่สื่อที่มีแต่ประโยคสั้นๆ กันจนตีความประโยคซับซ้อนไม่ออกกันรึไงวะ งง
เพิ่มอีกอย่าง กุไม่ได้อยากให้ท้ายสนพ.นะ แต่คือตั้งแต่มันออกช้า คนก็ด่าจ้ำจี้จ้ำไชว่าต้องทำแบบนี้ๆๆๆ เห็นแล้วมันตลกอะ กูเห็นด้วยว่าช้าจริง แต่ให้ไปนั่งวางแผนการตลาดให้สนพ.ว่าควรทำตามนี้ๆๆ แม่งเกิ๊น เค้าจะขายช้าจนคนไม่ซื้อผลเสียมันก็ตกที่เค้าอยู่ดีนั่นแหละ เจอนิยายเล่มหนาๆ ที่คนแปลบอกจะออกให้ได้เดือนละเล่มแต่คุณภาพการแปลห่วยๆ แล้วกูว่ารอนานหน่อยก็เฉยๆ ว่ะ (ถึงออกเร็วกว่านี้หน่อยก็ดี)
>>941 คนที่บอกแปลแปลกๆ คืออ่านแล้วสะดุด กูสังเกตว่าเขามีการใช้คำศัพท์โบราณด้วยอาจจะต้องการให้เป็นจีนโบราณ แล้วคนอ่านที่สะดุดคือเขาอาจจะมีคลังศัพท์น้อยอ่านแล้วแล้วก็ไม่เข้าใจ จะว่าเขาก็ไม่ได้แต่ถ้าเปิดใจหน่อยก็เป็นการพัฒนาทางภาษาด้วยอะไรไม่เข้าใจก็เปิดพจนานุกรม จะได้ความรู้เพิ่มด้วย
>>941 บวกหนึ่ง กูชอบการแปลเป็นไทยมาก รำคาญพวกงอแงให้ทับศัพท์แบบชาตินี้ไม่เคยแตะนิยายหรือหนังจีนเพราะเหตุนี้อะ กูวนเวียนกับนิยายมาหลายปีรู้ว่าจะอนิเมะหรือซีรีส์ก็ตีความเพี้ยนจากนิยายอยู่แล้ว เลยทนไม่เสพสื่ออื่นรออ่านนิยาย สุดท้ายกูต้องมาเจอไรไม่รู้เพราะพวกเสพสื่ออื่นแล้วไม่ชินๆ นิยายต้องงี้ๆเหรอ
ส่วนเรื่องแปล กูว่าเพราะสำนวนที่ใช้แปลด้วย จีนโบราณกูแบ่งระดับความสวยของภาษาเป็น
1.แนวข้ามมิติ/เกิดใหม่ ค่อนข้างคอมมาดี้ตบมุกโบ๊ะ ภาษาจะอ่านง่ายเพราะส่วนมากตัวเอกเป็นยุคปัจจุบันและโทนเรื่องค่อนข้างเบา ตัวเอกไม่เครียด ภาษาเลยไม่ซับซ้อนมาก เช่น ตัวร้าย
2.แนวจีนโบราณธรรมดา เช่น รัชศก ปราชญ์กู้ ภาษากลางๆคนทั่วไปใช้ไม่ลำลองแบบแบบแรก
3.แนวเทพเซียน ภาษาที่ใช้แปลจะเลือกคำสวยกว่าปกติ ซึ่งแนวนี้วายไม่ค่อยมีจะเป็นฝั่งนอมอลมากกว่า
แล้วปรมาจารย์เลือกใช้สำนวนแบบ3 กูเลยพอเข้าใจที่บางคนบอกว่าภาษามันสวยเกินอ่านไม่ลื่น ซึ่งจะให้อ่านลื่นปรื๊ดแบบแบบแรกก็ไม่ใช่เพราะแนวต้นทางไม่ใช่แต่ต้น คนที่ไม่เคยเจอเลยไม่ชินแล้วโวย ซึ่งกูว่าถ้าเป็นแบบ2อาจเอื้อต่อความเคยชินคนที่ไม่เสพนิยายแนวนี้มากกว่า แต่อีกใจ มันแนวผู้ฝึกเซียนอะ ทำไมต้องลดระดับภาษาด้วย บางคำที่คนบอกว่ายากคือพบได้ตามแบบเรียนอะ เห็นแล้วกูก็ท้อแท้นะ ต้องมั่นขนาดไหนถึงกล้าประกาศต่อสาธรณชนว่าไม่รู้ แถมไปด่าสนพอีก
พวกมึงไม่ต้องกังวลเรื่องแปลกับออกช้าแทนสนพเลยจ้า กูเห็นคนไปถล่มผ่านทุกช่องทางทั้งเพจ ทวิต ib dm สนพเฉยมาก ไม่ตอบโต้ หรือแสดงความเห็นใดๆทั้งสิ้น สนพมีแนวทางในการทำงานอยู่แล้ว เสียงนกเสียงกาไม่สามารถสั่นคลอนได้ พวกมึงรออ่านเล่มสวยๆพอ ปล่อยให้พวกสมองไม่ปกติดิ้นไป เห็นพวกปสดดิ้นแล้วสนุกดี
เล่ม3 ยังไม่มีวึ่แววจะเปิดจองสินะ 😔
>>946 บ้างคนก็บ่นแรงเกินอะมึง บอกไม่คุ้มราคาบ้าง แปลราคาตลาดนัด?บ้าง ซีรี่ย์กับเมะออกมาก่อน นิยายมาทีหลังทำไมไม่แปลทับศัพท์เหมือนเค้า กูอ่านแล้วกูท้อแทนสนพ กับคนแปลจริงๆวะ เอาแต่ใจกันเกินเบอร์มาก ไม่หันมามองดูตัวเองบ้างว่าปัญหาอยู่ที่การแปลหรือปัญหาอยู่ที่ตัวเอง
>>946 มันไม่ใช่กระทบแค่เรื่องนี้อ่ะมึง บ่นกันในที่เปิดทั้งนั้นกูเลยกลัวสนพอื่นๆที่มุงจะเข้าใจว่าคนอ่านต้องการแบบนี้ แปลต้องทับศัพท์เยอะๆลูกค้าชอบ ของออกเร็วให้ทันกระแสพอคุณภาพไม่ต้องใส่ใจ ให้นักแปลสลับก็ได้ ของแถมต้องบึ้มๆ ดังนั้นเวลามีคนด่ากูเลยออกมาขัดว่าที่ด่าปาวๆนั่นไม่ใช่ลูกค้าสายนิยาย คนอ่านไม่ได้ต้องการแบบนั้นหมด
สิ่งที่โดนผลกระทบจริงๆจากเรื่องนี้เห็นเป็นตัวเป็นตนอยู่อย่างแล้ว จากที่สนพไหนได้ลิขสิทธิ์จะประกาศทันที ตอนนี้แค่กระซิบบอกนักแปลว่ามีคนได้แล้วแต่ห้ามบอกชื่อสนพ เพราะคนด่าบกรซะเสียหมาว่าออกช้า ดองงาน ทั้งที่ออกหลังประกาศลิขสิทธิ์ปีเดียว คนด่าว่าออกช้าตั้งแต่ไม่ถึงครึ่งปี ทั้งที่นิยายแปลดังๆในเน็ตเมื่อก่อนกว่าจะออกเล่มก็หลังจากประกาศราวๆปีนึงทั้งนั้น ขนาดเซเลบที่แต่งโม่ซั่งยังบอกว่าบกรดองสามสี่ปี แค่ปีเดียว โก่งจำนวนปีเก่ง
>>942 กูเห็นด้วยกับมึงเรื่องคนที่บ่นมีปัญหาคลังคำน้อย กุเห็นหลายคนบ่นเรื่องทับศัพท์อาวุธว่าอ่านแล้วต้องแปลในแปลอีกที ไม่รู้ว่าตรี=สาม วัชระ=สายฟ้า คำไวพจน์แบบโคตรพื้นฐานเรียนภาษาไทยมาตั้งแต่เล็กจนโตไม่ใช่คำซับซ้อนอะไรเลย แล้วมาโทษว่าคนแปล แปลงานห่วย แปลไม่รู้เรียน
บางทีกุบ่นในที่ของกุนะ แต่มีคนหาว่ากุไปด่าสนพ อีพวกนี้ปสดกว่า กุแค่บอกว่า กุโง่ ศัพท์มันยาก กุไม่รู้จริงๆ แล้วของแถมเพราะประเทศอื่นเค้าตั้งใจทำให้สายสะสม สายสะสมไทยไม่มีสิทธิ์บ่นหรอวะ ก็สนพทำออกมาราคาเกือบสี่ร้อย แต่ได้แค่ที่คั่นห่วยๆ
ออกมาพันสามให้ป้ายแขวนกุก็ซื้อ จบการบ่นในที่ของกุ สนพ. จะคิดไงฟีดแบคต่อคนอ่านขนาดไหน ไปใช้สมองคิดเอาเอง
ต่อให้เรื่องดังแค่ไหน ถ้าสนพทำงานออกมาห่วยๆไม่มีคุณภาพ คนก็ไม่สนับสนุนนะ เอาที่เห็นชัดๆเลย ตู้เจ๋อ กูเห็นคนรอเยอะมาก พอออกเล่มเป็นไงล่ะ แปลใช้คำศัพท์แบบงงๆ พิมพ์ผิดเยอะมาก เชิงอรรถหายอีก กระแสเงียบ
.
วีรชนอีกเรื่องนึง แต่อันนี้ดูแค่ตัวอย่างที่ลงให้อ่านนะ แปลยังงงๆอยู่ แถมใช้นักแปลสองคนอีก กูไม่กล้าเสี่ยงพรีเลย กลัวออกมาไม่ดี แถมราคาแพงมาก ครบชุดร่วมสามพัน
.
สนพที่ทำงานเป็นมืออาชีพ ไม่ควรจะเอาแค่เสียงนักอ่านในเนตมาทำให้จุดยืนและวิธีการทำงานไขว้เขวได้นะ ซึ่งกูคิดว่าบกรมั่นคงในจุดยืนมากพอ ดูจากที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะมีใครไปต่อว่าแค่ไหน บกรก็ไม่ออกมาเปลี่ยนอะไรทั้งการแปล ระยะเวลาการออกเล่ม ส่วนสนพอื่นๆ ดูจากผลงานละกัน เงินในมือคุณ คุณเลือกเองว่าจะสนับสนุนหรือไม่
สมัยนี้กลายเป็นเสียเงินซื้อของแถมแล้วหรอวะ ปกติต้องเสียเงินซื้อหนังสือดิ ตรรกะป่วยๆแบบนี้ควรไปพักว่ะ
.
ฝากถึงสนพไหนก็ตามที่มาอ่านโม่งนะ มีอ่านแน่นอน หยุดการขายแพงๆได้แล้ว พวกของแถมรอบจองบ้าบอคอแตกเลิกๆให้หมด เอาเวลาไปทำหนังสือให้มีคุณภาพดีๆเถอะ แปลให้ถูกต้องครบถ้วน ใช้ภาษาไทยให้ถูก พิสูจน์อักษรเยอะๆ รูปเล่มมีคุณภาพ สันกาวแข็งแรง ราคาสมเหตุสมผล ไม่ใช่ตั้งราคาประหนึ่งจะเอาไปสร้างบ้านสิบหลัง
ถ้าที่คั่นกลิตเตอร์กระดาษแบบเดียวกับหน้าปกนิยายเป็นแค่ที่คั่นห่วยๆ ที่คั่นอาร์ตมันธรรมดาๆของนิยายเรื่องอื่นมึงไม่มองเป็นที่คั่นขยะเลยเหรอวะ
พูดถึงของแถมสำหรับสายสะสม กุเห็นคนพรีปรมจ.ver เวียดนามที่ของมาแล้วบ่นโคตรเยอะ หนังสือไสกาวแย่มาก กระดาษเหมือนทิชชู่ ของแถมอื่นๆไม่เนียบ ก๊องแก๊ง ไม่ได้สวยเหมือนตัวอย่างเจ็บกันระนาว
ดีนะกูไม่ใช่สายสะสมของแถม กูขอที่ตัวนิยายแปลดี พิมพ์ผิดน้อย หน้าไม่หาย กระดาษไม่แย่ เปิดอ่านง่ายและหนังสือไม่เสียหายง่าย ของแถมไม่สำคัญ กูต้องการอ่านนิยายยยย
>>955 มึงอยากสะสมก็ซื้อของอฟชจีน มีตั้งแต่พวงกุญแจยันลิปสติก กระเป๋า ร่ม ตุ๊กตา ด๋อย เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว จะมาเรียกร้องให้แถมกับหนังสือไมวะ สายสะสมจริงมึงก็เลือกซื้อไปสิไม่ใช่เอะอะให้รกบ้านคนอื่น เป็นข้ออ้างให้สนพขึ้นราคานิยายมากขึ้นด้วย ไม่ต้องการ เลือกเองได้ด้วยว่าอยากได้ผลิตภัณฑ์ไหน พูดถึงภาพแขวนแล้วกูกลอกตา พรีตัวร้ายกูไมเกรนขึ้นทุกครั้งตั้งแต่ก่อนเปิดพรี หลังเปิดพรีแม่งก็ยังมีดราม่า ขอซื้อแบบปกติชนเถอะ
>>960 บวกหนึ่ง หลายเรื่องดังแต่ถ้าสนพทำไม่ดีก็ดับจริง การ์เดี้ยนที่ทำเป็นซีรีส์ยังดับ คนบ่นมากน้อยยังไงสุดท้ายสิ่งตัดสินจริงๆคือคุณภาพอยู่ดี ตอนนี้หลายสนพเล่นตลาดวาย ต่อให้ได้เรื่องดียังไงถ้าคุณภาพไม่ดีคนก็ทำใจปล่อยวางไปหาเรื่องที่จัดการดีๆอื่นได้
กูงงคนที่โวยวายจะเอาของแถมนู่นนั่นนี่ ตกลงซื้อนิยายเพราะจะเอาเล่มนิยายไปอ่านหรือจะเอาของแถม กูอยากได้แค่เล่มอย่างเดียว อย่างอื่นเฉยมาก ไม่มีที่จะเก็บแล้ว ของเวียดนามกับเกาหลีที่ยกๆมาโวยวายจะเอาของแถมตามนี่ก็ราคาบวกค่าของแถมไปเท่าไร มันไม่ได้แถม แต่คิดราคารวมกับหนังสือไปแล้วว้อย ถึงจะมีให้เลือกซื้อเป็นออปชั่นก็แพงอยู่ดีมั้ย น่าจะคิดกันเยอะๆก่อนมาบ้งเบ้งใส่สนพ.
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>924 เทียนกวาน Part.53
.
.
.
.
.
มู่ฉิงอธิบายว่าเขาได้แจ้งเรื่องกับราชครูแล้ว แต่ช่วงนั้นเป็นเวลาพัก การบำเพ็ญเป็นเรื่องน่าเบื่อ มีเกมเพียงน้อยนิดที่ช่วยให้ความบันเทิง และสิ่งที่เหล่าราชครูโปรดปรานที่สุดก็คือการเล่นไพ่ ในช่วงพักพวกเขาจึงปิดศาลาตั้งวงคิดเลขกันอย่างเมามันส์จนไม่รับรู้สิ่งรอบตัว และเนื่องจากมู่ฉิงถูกศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นตั้งแง่รังเกียจเพราะเห็นว่าพวกราชครูไม่ชอบศิษย์คนนี้ พวกเขาเลยไม่ยอมฟังและไล่มู่ฉิงออกไป มู่ฉิงจึงเดินวนหาหน้าต่างห้องที่ราชครูอยู่แล้วแจ้งเรื่อง ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบว่าเข้าใจแล้ว ทำเอาราชครูพูดไม่ออกเพราะระหว่างการดูเอลหากได้ยินใครพูดอะไรด้วยเขาก็คงตอบรับไปส่งๆ จริงๆ แต่เฟิงซิ่นกลับยิ่งโมโห เซี่ยเหลียนเข้ามาประณีประนอมว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ราชครูเองก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกจึงบอกว่าพวกเขาจะปรึกษาหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ และให้ทั้งสามกลับ แต่ราชครูก็ไม่ลืมเอ่ยว่าราชากับราชินีฝากมาบอกให้เซี่ยเหลียนกลับไปเยี่ยมบ้าง
ที่ตำหนัก เซี่ยเหลียนยืนให้มู่ฉิงช่วยถอดเสื้อผ้าที่ใช้แสดงไปเก็บ ขณะรอให้อีกฝ่ายเอาเสื้อใหม่มาให้เปลี่ยน มู่ฉิงก็สังเกตเห็นรอยเปื้อนรูปมือเล็กๆ บนเสื้อของเซี่ยเหลียน ท่าทางจะเป็นเพราะเด็กชายคนนั้น เซี่ยเหลียนจึงหันไปสอบถามองครักษ์ เฟิงซิ่นบอกว่าเขาไปส่งอีกฝ่ายออกจากราชวัง แต่พอจะดูแผลที่หัวให้ เด็กชายกลับเตะเขาแล้ววิ่งหนีไป แล้วมู่ฉิงก็เอ่ยว่าการที่เสื้อของเทพสกปรกเป็นลางร้าย แต่เซี่ยเหลียนคิดว่าแค่เอาไปซักก็จบ มู่ฉิงจึงตอบเสียงเบาว่าเขาจะซักด้วยความระวัง
เซี่ยเหลียนเอ่ยชมว่าวันนี้มู่ฉิงสู้ได้ดีมาก และแนะนำว่าอีกฝ่ายเหมาะกับดาบโค้ง แม้ตอนแรกคนถูกชมจะดูเครียดแต่สุดท้ายก็ยิ้มอย่างผ่อนคลาย จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงโม้การต่อสู้อย่างโอตาคุ แต่แล้วเขาก็พบว่าตุ้มหูไข่มุกปะการังสีแดงของตัวเองหายไปข้างหนึ่ง เฟิงซิ่นเดินหาตรงทางเดิน ส่วนมู่ฉิงหยิบไม้กวาดมากวาดหาตามซอกหลืบ แม้จะไม่ใส่ใจนัก แต่พอเห็นความพยายามของทั้งสอง เซี่ยเหลียนเลยเสนอให้ไปตามคนมาช่วย ทว่าเฟิงซิ่นกลับบอกว่าคนอื่นอาจจะขโมยเก็บไว้เอง พอได้ยินดังนั้นไม้กวาดในมือของมู่ฉิงก็หักเป็น 2 ท่อน คิดว่าเฟิงซิ่นกล่าวหาว่าเขาเป็นคนขโมยไป ทั้งสองทะเลาะกัน แล้วมู่ฉิงก็หันมาว่าเซี่ยเหลียนว่าไม่รักษาสัญญา ก่อนวิ่งจากไปอย่างดรามาควีน
เซี่ยเหลียนรีบตามมู่ฉิง โดยมีเฟิงซิ่นตามมาด้วย เขาอธิบายว่าอีกฝ่ายไปพูดจี้ใจมู่ฉิงเข้า เฟิงซิ่นเลยถามว่ามู่ฉิงเคยขโมยของของเซี่ยเหลียนมาก่อนหรือเปล่า เซี่ยเหลียนปฏิเสธ แต่เฟิงซิ่นไม่เชื่อ และบอกให้เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เซี่ยเหลียนจึงจำเป็นต้องเล่าว่าตอนที่พวกเขามาที่นี่ครั้งแรก ราชินีซึ่งกลัวว่าลูกชายจะเบื่อจึงส่งของเล่นมาให้ หนึ่งในนั้นคือแผ่นทองคำ แต่ในตอนเตรียมส่งของกลับเขาพบว่ามีแผ่นทองหายไปใบหนึ่ง พอหาไม่เจอจึงไปบอกราชครู อาจารย์ของเขาเลยไล่ค้นห้องทุกคน ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็มาสารภาพกับเขาว่าเจอแผ่นทองตกอยู่ในพุ่มไม้ระหว่างไปตักน้ำ แต่เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเก็บมันไว้กับตัว ด้วยความสงสารเกรงว่ามู่ฉิงจะถูกไล่ออก เซี่ยเหลียนจึงออกรับหน้าบอกทุกคนว่าเขาลืมไปเองว่าแผ่นทองหายไปตั้งแต่เขาอยู่ที่ราชวังแล้ว เฟิงซิ่นโกรธที่เซี่ยเหลียนปกป้องอีกฝ่าย อีกทั้งยังไม่พอใจที่ปกปิดเรื่องนี้กับเขาด้วย แต่เซี่ยเหลียนก็อธิบายไปว่าเป็นเพราะเขาสัญญากับมู่ฉิงว่าจะไม่บอกใคร ก่อนสั่งไม่ให้เฟิงซิ่นบอกคนอื่นหรือพูดเรื่องนี้อีก
เฟิงซิ่นสันนิษฐานว่ามู่ฉิงคงเข้าใจผิดว่าที่เขาชอบชวนทะเลาะเป็นเพราะเขารู้เรื่องแผ่นทองคำ ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นเพราะเขาไม่ชอบนิสัยชอบคิดเล็กคิดน้อยของอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนช่วยแก้ต่างให้มู่ฉิงว่าเป็นความผิดครั้งแรก แถมฝ่ายนั้นก็สัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอีกจึงควรให้โอกาส แต่เฟิงซิ่นก็ยังตั้งประเด็นขึ้นอีกว่ามู่ฉิงจงใจไปส่งข่าวตอนราชครูตั้งวงไพ่เพื่อทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน ถึงจะคิดเหมือนกัน แต่เซี่ยเหลียนก็พอเข้าใจความรู้สึกของมู่ฉิงที่อยากเอาคืนทุกคนเบาๆ แม้เขาจะใช้มู่ฉิงทำงานบ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าคนๆ นี้เป็นคนของเขา ทว่าแทนที่คนอื่นจะเกรงใจ กลับกลายเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนอื่นรังแกมู่ฉิงแทน เซี่ยเหลียนจึงแอบรู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยากปล่อยให้เพชรน้ำงามมีฝีมือแบบมู่ฉิงให้กลายเป็นเพียงก้อนกรวดไร้คนสนใจ
ถึงเฟิงซิ่นจะไม่เห็นดีเห็นงาม แต่เขาก็ไม่ขัดอะไรเจ้านายอีก เซี่ยเหลียนสอบถามถึงมู่ฉิงจากศิษย์ร่วมสำนักที่บังเอิญเจอระหว่างทาง แล้วทั้งสองก็เดินมาถึงป่าต้นเชอร์รี่บนยอดเขาไท่ชาง ซึ่งที่นั่นเองพวกเขาก็ได้เห็นคนที่ตามหากำลังถูกศิษย์ในสำนัก 4 คนรุมบูลลี่อยู่
.
.
.
.
.
กูว่าเผลอๆ บกร.แพงที่อิปกวิ้งๆ ที่คั่นวิ้งๆ นี่แหละ 55555 ไม่ต้องแถมเหี้ยไรแล้วเดี๋ยวราคาแม่งขึ้นอีก แค่นี้กูก็อ่วมแล้วจ้า
ราคาปกติของบกรคือ จำนวนหน้า + 20-30 บาท แต่ปรมจกับชายาคุณธรรม สองเรื่องนี้ราคาปกต่ำกว่าจำนวนหน้า เป็นนิมิตหมายอันดีว่า สนพเริ่มรับฟังเสียงผู้บริโภคบ้าง
สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>968 เทียนกวาน Part.54
.
.
.
.
.
ศิษย์กลุ่มนั้นรุมใส่ร้ายว่ามู่ฉิงว่าเก็บผลไม้ไปคนเดียวเกือบหมดป่า เพราะทุกคนต่างรู้ว่าบ้านของมู่ฉิงยากจน อีกทั้งมารดายังมองไม่ค่อยเห็นจึงต้องอาศัยลูกชายทำงานหาเงิน ก่อนที่พวกเขาจะทำร้ายมู่ฉิง เซี่ยเหลียนก็เข้าไปห้าม ประกาศว่ามู่ฉิงเป็นผู้ติดตามของเขา และเขาเป็นคนสั่งให้อีกฝ่ายมาเก็บผลไม้เอง ลูกศิษย์กลุ่มนั้นจึงรีบขอโทษแล้ววิ่งหนีไป มู่ฉิงไม่ขอบคุณเจ้านาย ทั้งยังถามว่าทำไมชอบโผล่มาในเวลาแบบนี้ แม้เฟิงซิ่นจะไม่พอใจที่อีกฝ่ายพูดจาอย่างนั้น เขาก็ยอมขอโทษว่าที่พูดก่อนหน้านี้ตนไม่ได้หมายถึงอีกฝ่าย เลิกอารมณ์เสียได้แล้ว ได้ยินแบบนั้นเซี่ยเหลียนก็หัวเราะบอกให้ทุกคนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นให้หมด และถ้าคราวหน้ามู่ฉิงจะมาเก็บผลไม้ก็อ้างชื่อเขาได้เลย ในที่สุดมู่ฉิงจึงเอ่ยขอบคุณเซี่ยเหลียน
วันต่อมาเซี่ยเหลียนพาเฟิงซิ่น กับมู่ฉิงติดตามกลับไปเยี่ยมราชากับราชินีที่ราชวัง ซึ่งฉีหรงก็ขับรถม้าทองคำมารอรับญาติผู้พี่ที่ตีนเขา แต่ฝีมือขับรถของฉีหรงเลวร้ายมาก เขาบังคับม้าไปชนแผงขายของ และเกือบชนคนในเมืองจนแทบวอดวายกัน แต่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย เมื่อได้พบลูกชาย ราชินีก็ตัดพ้อว่าเซี่ยเหลียนไม่ค่อยจะกลับมาเยี่ยมหญิงชราคนนี้เลย เซี่ยเหลียนเลยพูดเอาใจไปว่าอีกฝ่ายยังไม่แก่ และมีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวอายุรุ่นเดียวกับเขา ราชินียิ้มพอใจ สังเกตว่าลูกชายผายผอมลงจึงตั้งใจจะเลี้ยงอาหารขุน ก่อนที่เธอจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นในเทศกาลซ่างหยวน และเซี่ยเหลียนถูกลงโทษหรือไม่ ฉีหรงจึงเอ่ยแทรกว่าคนที่สมควรถูกลงโทษคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นต่างหาก
เซี่ยเหลียนจึงแนะนำมู่ฉิงให้มารดา และบอกว่าอีกฝ่ายคือคนที่แสดงเป็นผีร้าย พอรู้เช่นนั้นฉีหรงก็เอาถ้วยชาปาใส่ แต่เซี่ยเหลียนซัดแขนขอญาติผู้น้องไว้ทันแล้วส่งอีกฝ่ายไปให้เฟิงซิ่นจับตัวไว้ เขาหันไปบอกแม่ให้ยึดรถม้าของฉีหรง พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทางให้ฟัง ฉีหรงไม่พอใจมาก เขาสะบัดมือออกจากการจับกุมแล้ววิ่งจากไป ราชินีบอกว่าไว้ตนจะคุยกับหลานให้ แต่ก็อธิบายว่าที่ฉีหรงอยากได้รถม้าก็เป็นเพราะอยากใช้มันไปรับเซี่ยเหลียนกลับบ้าน
เย็นวันนั้นเซี่ยเหลียนบอกลาราชากับราชินี เป็นที่รู้กันว่าตั้งแต่เข้าสู่หนทางการบำเพ็ญเพียรองค์ชายรัชาทายาทก็กลับมาเยี่ยมทั้งคู่น้อยลงเรื่อยๆ เขาตามมู่ฉิงกลับไปหาแม่ที่บ้าน พอเห็นเด็กๆ แถวนั้นเข้ามาเกาะ เรียกมู่ฉิงว่าเกอเกอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มู่ฉิงไม่ได้ใช้น้ำเสียงเย็นชาเช่นปรกติ แถมยังแบ่งผลไม้ให้พวกเด็กๆ ก็ทำให้ให้เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตอนที่เขากำลังหาว่าตัวเองมีอะไรพอให้เด็กๆ ก็มีเสียงฝูงชนกรีดร้องจึงได้รู้ว่าฉีหรงขับรถม้าออกมาสร้างความวุ่นวายอีก ในครั้งนี้เขายังผูกกระสอบเปื้อนเลือดไว้ที่หลังรถม้าด้วย พอเห็นกระสอบขยับเขาจึงรู้ว่าข้างในนั้นมีคนอยู่
เฟิงซิ่นไปหยุดม้าตามคำสั่ง ส่วนเซี่ยเหลียนวิ่งไปตัดเชือกที่ผูกกระสอบไว้ เมื่อเปิดออกก็พบว่าข้างในคือเด็กชายคนหนึ่ง นอกจากการบาดเจ็บจากการถูกลากแล้ว ร่างนั้นยังเต็มไปด้วยรอยเท้าราวถูกคนกระทืบมาก่อน เขาสั่งให้เฟิงซิ่นจับตัวฉีหรงไว้ เมื่อเซี่ยเหลียนถามอาการของเด็กชาย อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เอามือปิดหน้าข้างหนึ่งราวกับไม่อยากให้เซี่ยเหลียนเห็น ตอนนั้นเองฉีหรงก็บอกว่านั่นคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงในตอนนั้น เขาจึงล้างแค้นให้ญาติผู้พี่ เซี่ยเหลียนด่าและสั่งไม่ให้อีกฝ่ายยุ่งกับเด็กคนนี้อีก แต่ดูเหมือนฉีหรงก็ไม่ยอมเข้าใจอยู่ดีว่าตนทำผิด
เซี่ยเหลียนลูบหลังปลอบเด็กชายที่ซุกหน้ากับอกของเขา บอกว่าจะพาไปหาหมอ ภาพที่เห็นทำให้ฉีหรงโกรธมาก เขาพุ่งเข้าไปหมายจิกหัวของเด็กชาย เมื่อเฟิงซิ่นเห็นอย่างนั้นจึงรีบเตะแขนของฉีหรงเพื่อหยุดไว้ ส่งผลให้แขนของอีกฝ่ายหักโดยไม่ได้ตั้งใจ และการที่ข้าราชบริพารทำร้ายเชื้อพระวงศ์ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก
.
.
.
.
.
>>975 โอ้โห น้องฉีหรง น้องมีความโรคจิตอ่ะ คือเหมือนบูชาเซี่ยเหลียนจนแบบใครก็ห้ามเข้าใกล้ มีความหวง เกิดเรื่องอะไรก็คือคนอื่นผิด ท่านพี่เตี้ยนเซี่ยไม่ผิด เข้าใจเลยว่าทำไมพอเซียนเล่อล่มสลายแล้วถึงได้เกลียดเซี่ยเหลียนขนาดนั้น เหมือรผิดหวังในตัวไอดอลอ่ะ รักแรงเกลียดแรงจริงๆ ส่วนฟาฟาตอนเด็กคือแบบ แงงงงง น้อนครับบบบ อยากอุ้มมากอดปลอบ อุ้มมาหอมหัว น้องไม่ควรโดนอะไรแบบนี้ ฮืออออ ขอบคุณสำหรับสปอยเหมือนเดิมนะเพื่อนโม่ง
กูพึ่งเลิกงานเปิดมาเจอสปอยมึง 5555 มาดึกเหมียนเดิม ขอบใจจ้าา
กุสายอ่าน ของสะสมไม่สนใจ กุเน้นแปลครบ แปลดีก็พอใจแล้ว ส่วนของแถมจะห่าเหวไรก็แค่ของแถม ไม่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อหนังสือของกุ
กูว่า ความจริงสนพ.ควรแจ้งกำหนดการคร่าวๆเนอะ ว่าจะออกทุกกี่เดือนไรงี้ บางคนบอกว่าแฮร์รี่รอปีละเล่มก็รอมาแล้ว กูไม่เห็นด้วยว่ะ เพราะเจเคเขาเขียนยังไม่จบ แต่นี่เขียนจบแล้วรอแค่แปล ตอนนี้เหมือนรอเรื่อยๆ เลยว่ะ
>>984 เออ อันนี้แอบเห็นด้วย คือกูก็รอได้นะ แต่ก็อย่างที่ว่าอ่ะ อย่างน้อยถ้ากำหนดเวลาคร่าวๆให้ได้ก็คงดี เผื่อว่าคนอยากรอเก็บยกเซ็ททีเดียว หรืออยากจะซื้อแยกทีละเล่มจะได้ตัดสินใจได้ อันนี้เหมือนซื้อทีละเล่มแล้วก็รอต่อไปแบบไม่มีปลายทางอ่ะ จนกูก็แอบคิดนะว่าเขาแปลงานกันแบบมีเดดไลน์มั้ยวะ หรือว่าเรื่อยๆไปเรื่อยๆ เสร็จก็ปล่อย ไม่เสร็จก็รอกันต่อไป
กูว่าที่ไม่กำหนดเพราะมันมีเหตุขัดข้องได้ตลอดว่ะ สนพเกือบทุกที่ก็ไม่มีกำหนด มีแต่พวกเปิดพรีซึ่งบางที่ก็เลื่อนจนกูอยากแจ้งความ เวนเอ้ย กูไม่เทียบกับแฮร์รีแต่เทียบกับนิยายทั่วไป เช่นนานมี เซ็นชู เด็กส์ แต่ละเรื่องต้นฉบับนำไปไกลก็ออกกันปีละเล่มสองเล่ม ไม่ใช่แฮร์รีเป็นกรณีพิเศษที่รอกันข้ามปี นิยายปกติรอกันนานอยู่แล้วถ้าจะเอาเรื่องนี้มาเทียบก็เทียบกับวายด้วยกัน ที่ออกก็มีพวกโรสกับอวว ซึ่งใช้เวลาประมาณสามเดือน บกรก็ออกช้ากว่าวายทั่วไปจริง แต่แต่ละเรื่องที่ออกก็ไม่มีใครตามจิกตั้งแต่ได้ลิขสิทธิ์ อาจแปลตุนก่อนแล้วค่อยๆดำเนินการก็ได้
>>986 กูว่ามีเดดไลน์นะ เทียบกับเรื่องอื่นของสนพนี้ก็ออกเรทประมาณนี้อยู่แล้ว
กูมองว่าบกรรอนานกว่าปกติจริง แต่ก็ไม่นานขนาดนั้นเพราะกูเสพนิยายแปลที่ไม่ใช่วายเยอะ อัตรานี้เร็วกว่าปกติที่กูรอ และไม่ค่อยอยากเร่งเท่าไหร่หลังการ์เดี้ยนกูโดนโรคเร่งจนกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ นั่นขนาดสนพใหญ่ของตลาดหนังสือไทยอ่ะ หนังสือซื้อทีอ่านได้อีกนานไม่อยากได้ของแปลพลาดเพราะต้องการเอาใจตลาดแป๊บๆ เหอะๆ กูยังโกรธการ์เดี้ยนไม่หาย ตอนแรกอุตส่าดีใจที่อววได้
กุสายสะสม ขอบ่นบ้างคือกุนอกจากแปลครบแปลดีหนังสือกริบ กุดูที่ความใส่ใจด้วย เหมือนทางเวียตเกา เค้าทำหาเงินล่ะ แต่เค้าดูทุ่มเพราะรู้ว่ามีแฟนๆรอเรื่องนี้เยอะ อันนี้คหกุนะ เพราะกุรักเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่คงไม่ไปโวยวายสนพนะ ใครสายหนังสือก็คงไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่สำหรับสายสะสมมองไม่เห็นสิ่งที่ให้ความพิเศษกับเรื่องนี้จริงๆ
ถ้าทำของสะสมออกมามันจะทำให้หนังสือแพงจนคนที่จะจองรอบที่มีของแถมในไทยน้อยจนได้ไม่คุ้มทุนหรือเปล่า จะทำของแถมกับหนังสือต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม แล้วราคาหนังสือในไทยเทียบกับค่าครองชีพมันก็แพง ชห ไม่เข้าใจว่าทำไมหนังสือในไทยมันถึงแพงกันขนาดนี้ ถ้ามาบวกค่าของสะสมไปราคามันจะยิ่งเพิ่ม
>>996 เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กูหัวเราะเป็นภาษาเวียดนามให้แล้วกัน จากใจคนสั่งพรีจากเวียดนาม หนังสือบอบบางมากกกกกก รูปเล่มตำหนิเต็มคราบกาวเลอะเทอะ ใช้ของคุณภาพแย่มากเทียบกับหนังสือปกติของไทยเลยไม่ต้องสายวายที่คุณภาพดีจัดให้เคลมกระทั่งตำหนิรอยแมวข่วน ที่โดดเด่นคือตอนขายของแถมเยอะเลยดูอลังแต่ในฐานะสายอ่านที่ชอบหนังสือ ขอหนังสือที่แข็งแรงหยิบจับไปไหนมาไหนได้เถอะ ส่วนของแถมนั่นกูสะสมจริง กูมีเงินเปย์อฟชจีนได้ ทำสินค้าหลักอย่างหนังสือให้ดีก่อน พวกชมเวียดนามอ้างว่าชอบสะสมกูอคติก่อนเลยว่าได้แต่ปากดี ไม่ได้ซื้อจริงถึงไม่รู้ว่าปรมาจารย์ของเวียดนามคุณภาพแย่
กูเคยเห็นคนพูดบ่อยๆว่าเวียดนามเหมือนซื้อของแถมแถมหนังสือ ของแถมเยอะมาก ซึ่งกูว่าจริง คุณภาพหนังสือกากชิบหาย
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.