สปอยเทียนกวานต่อจาก >>776 เทียนกวาน Part.50
.
.
.
.
.
เห็นเฟิงซิ่นยังไม่ยอมลดอาวุธลง ซือชิงเสวียนเลยเอาตัวกระแทกจนหนองโพไปโดนแขนของอีกฝ่าย ทำเอาเฟิงซิ่นที่กลัวผู้หญิงแทบสิ้นพลัง สบถด่าเสียงดังพร้อมถอยกรูดออกห่าง ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้ซือชิงเสวียนผู้มั่นใจในความงามเสียเซลฟ์เล็กน้อย แต่ก็เปลี่ยนกลับมาใช้ร่างชายแล้วถามถึงหลางเชียนชิว เซี่ยเหลียนตอบว่าอีกฝ่ายไปตามล่าฉี และฮวาเฉิงก็เสริมว่าคนร้ายตัวจริงในคดีงานเลี้ยงอาบเลือดคือผีเขียว ได้ยินดังนั้นซือชิงเสวียนกับเฟิงซิ่นก็มีท่าทางยินดีที่เซี่ยเหลียนพ้นผิด ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะถามอดีตผู้ติดตามว่ารู้หรือเปล่าว่าฉีหรงก็คือฉีหรงที่พวกเขารู้จัก เฟิงซิ่นหน้าเครียด อย่างไรฉีหรงก็เป็นถึงลูกชายของน้องสาวของแม่ของเซี่ยเหลี่ยนซึ่งเป็นราชินีของเซียนเล่อ เฟิงซิ่นที่ติดตามเซี่ยเหลียนตั้งแต่เด็กจึงได้เห็นความเป็นเด็กเปรตของฉีหรงอยู่เนืองๆ และเขาเองก็เคยมีเรื่องกับอีกฝ่ายมาก่อน แต่เพราะเขาเองก็ไม่เคยเจอกับผีเขียวโดยตรงจึงไม่เคยทราบเรื่องนี้
พอได้รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเหลียนกับผีเขียว ซือชิงเสวียนก็อดเอ่ยไม่ได้ว่าเซี่ยเหลียนสุดยอด มีเทพสงครามแห่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ กับเทพสงครามแห่งทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นเพื่อนเก่า เทพสงครามแห่งทิศตะวันออกเป็นลูกศิษย์ ผีเขียวเป็นลูกพี่ลูกน้อง มีฮวาเฉิงเป็นน้องร่วมสาบาน แถมยังมีเทพแห่งลมอย่างเขาเป็นเพื่อนอีกต่างหาก แม้เฟิงซิ่นกับอ๋องผีจะมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับคำว่าน้องร่วมสาบาน แต่คำพูดนั้นก็ทำให้เซี่ยเหลียนอารมณ์ดีขึ้นและยิ้มออกมา
เฟิงซิ่นเร่งให้เซี่ยเหลียนกลับสวรรค์ไปเคลียร์เรื่อง ฮวาเฉิงเลยหัวเราะแดกดันว่าที่จริงอีกฝ่ายไม่อยากให้เซี่ยเหลียนมายุ่งกับผีอย่างเขามากกว่า เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปห้ามทัพบอกว่าเขากับอ๋องผีจะจัดการลูกน้องของฉีหรงกับช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกจับมาก่อน แต่เฟิงซิ่นกลับบอกว่าจะจัดการทางนี้ให้เอง ทำให้ฮวาเฉิงพูดเกรียนไปอีกประโยค ทั้งสองจ้องตาราวกับจะบวกกันให้ได้ แต่ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะเปลี่ยนเรื่อง จู่ๆ อ๋องผีก็หยิบร่มสีแดงมากางออก ยกมันขึ้นเหนือศีรษะของตัวเองกับเซี่ยเหลียน บอกว่าท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยน พอสิ้นคำฝนเลือดก็ตกโครมลงมาทันทีสมฉายาฝนโลหิตตามหาดอกไม้ แล้วเฟิงซิ่นก็ยืนตัวท่วมไปด้วยเลือดอยู่คนเดียว เพราะเซี่ยเหลียนอยู่ใต้ร่มกับฮวาเฉิง ส่วนซือชิงเสวียนยืนอยู่ใต้สิ่งก่อสร้างทำให้ไม่โดนลูกหลงไปด้วย
ฮวาเฉิงหุบร่มพร้อมส่งเสียงหัวเราะ ขณะที่เซี่ยเหลียนพยายามหาเศษผ้า เทพแห่งลมก็ดึงสายส่วนหนึ่งของแส้ปัดของตัวเองไปเช็ดหน้าให้เฟิงซิ่นจนเส้นใยติดเต็มหน้า จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงรู้สึกว่าร่างที่อยู่ข้างหลังกำลังเดินจากไป เขาจึงวิ่งตามแล้วถามอีกฝ่ายว่าจำกลับเมืองผีหรือ ฮวาเฉิงพูดติดตลกถามว่าอยากตามมาด้วยหรือเปล่า เซี่ยเหลียนตอบว่าหากคราวหน้ามีโอกาสเขาจะไปหาและช่วยก่ออิฐสร้างกำแพงอนุสรณ์สุขาวดี แต่อ๋องผีก็บอกว่าแค่มานั่งดูเฉยๆ ก็พอแล้ว เซี่ยเหลียนยิ้มแห้งบอกว่าเขาไม่รู้ว่าเรื่องเกี่ยวกับหลางเชียนชิวเป็นสิ่งที่ถูกหรือไม่ แต่มันก็อาจไม่แย่ที่ลงเอยอย่างนี้ และขอบคุณอีกฝ่าย ฮวาเฉิงบอกว่าเซี่ยเหลียนคิดมากไป ต่อไปนี้อยากทำอะไรก็ทำไปเลย จากนั้นเขาก็หันหลังไปพร้อมโบกมือให้ แล้วร่างของอ๋องผีก็กลืนหายไปกับความมืดในถ้ำ และไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด เซี่ยเหลียนก็รู้สึกมีความกล้าขึ้นมา
เซี่ยเหลียน ซือชิงเสวียน กับเฟิงซิ่นสำรวจถ้ำอีก 2 รอบว่ายังมีมนุษย์ซึ่งถูกจับมาหลงเหลืออยู่หรือไม่ จากนั้นทั้งสามก็กลับขึ้นสวรรค์เข้าร่วมประชุมที่หอมหายุทธ์ พวกเทพกล่าวว่าฮวาเฉิงบังอาจใส่ความว่าสวรรค์ส่งสายลับไปที่เมืองผี เข้าออกสวรรค์ตามใจ สร้างคาถาเชื่อมต่อกับตำหนักเซียนเล่อ อีกทั้งยังมาลักพาตัวเซี่ยเหลียนไปอีก ปล่อยไว้เช่นนี้อนาคตจะมาทำอะไรอีกก็ไม่รู้ ต้องรีบจัดการอีกฝ่ายเสีย มู่ฉิงกลับชักใบให้เรือเสียว่าไม่มีทางที่คนอย่างฮวาเฉิงจะบุกมาสวรรค์เพียงเพราะเซี่ยเหลียนไปทำเรื่องให้ไม่พอใจ และจะต้องมีเหตุผลอื่นอยู่แน่นอน ซือชิงเสวียนจึงบอกว่าอ๋องผีเป็นคนเอ่ยออกมาเอง แล้วเขาก็ถามหาเทพสงครามที่เป็นเวรรักษาความปลอดภัยบนสวรรค์ในเดือนนี้ให้มารับผิดชอบที่ปล่อยให้ฮวาเฉิงทำตามอำเภอใจได้ ตอนแรกเขานึกว่าเป็นมู่ฉิง แต่ปรากฏว่าเขาจำผิด เพราะคนๆ นั้นกลับเป็นเผยหมิง ถึงอย่างนั้นแม่ทัพเผยก็ยืดอกรับผิด และในตอนนั้นเองหลิงเหวินก็เอ่ยขึ้นมาว่าหลางเชียนชิวใช้โทรจิตติดต่อเข้ามาแล้ว
.
.
.
.
.