สปอยเทียนกวานต่อจาก >>737 เทียนกวาน Part.46
.
.
.
.
.
ตุ๊กตาหลางเชียวชิวในมือของเซี่ยเหลียนสั่นรุนแรงจนหล่นลงบนพื้น แล้วฮวาเฉิงก็ปลดคำสาปให้อีกฝ่ายในทันที หลางเชียนชิวที่กลับร่างเดิมเอานิ้วชี้ฉีหรง ต่อว่าอีกฝ่ายด้วยความโกรธเกรี้ยวที่มาใส่ความว่าเขาเป็นผู้ฆ่าเจ้าชายอันเล่อ ทั้งๆ ที่เขากับอันเล่อเป็นเพื่อนกัน และอันเล่อก็เสียชีวิตเพราะโรคร้ายต่างหาก แม้จะตกใจที่คนซึ่งตัวเองกล่าวหาปรากฏตัว แต่ผีเขียวก็ยังถ่มน้ำลาย ตอกกลับว่าใครจะไปเชื่อว่าอันเล่อตายเพราะป่วย เพราะหลังจากงานเลี้ยงอาบน้ำเลือดอันเล่อก็เสียชีวิตทันที ถึงคนที่ส่งคนมาลอบฆ่าจะไม่ใช่หลางเชียวชิว อย่างไรก็ต้องเป็นคนของหย่งอัน หลางเชียวชิวกับพ่อแม่ของเขาล้วนเป็นพวกเสแสร้งจอมปลอม ทำเป็นเมตตาเอาของให้ทั้งๆ ที่หย่งอันขโมยทุกอย่างไปจากเซียนเล่อ แม้พวกเขาจะไม่สามารถฆ่าหลางเชียนชิวได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้หลางเชียวชิวต้องลิ้มรสการได้เห็นราชวงศ์ของตัวเองต้องจบสิ้น
หลางเชียวชิวอึ้ง ถามว่าหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าไม่สามารถฆ่าเขา ได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนก็อยากพุ่งไปอัดฉีหรงแบบที่ฮวาเฉิงทำ แต่เขาติดที่ยังไม่สามารถขยับร่างกาย ผีเขียวจึงยังกล่าวต่อไปได้ว่าหลางเชียวชิวช่างโง่งมที่คิดว่าราชวงศ์เซียนเล่อกับราชวงศ์หย่งอันจะเป็นเพื่อนกันได้ หลางเชียนชิวตัวแข็ง ไม่คิดว่าทั้งเพื่อนและอาจารย์ที่เคารพจะร่วมมือกันหักหลังเขา หลังจากเงียบไปพักหนึ่งเขาก็ถามว่าเจ้าชายอันเล่อกับราชครูฟางซิ่นเป็นพวกเดียวกันหรือ แต่ฉีหรงปฏิเสธ อธิบายว่าชาวเซียนเล่อเป็นผู้ลงมือก่อเหตุงานเลี้ยงอาบเลือด แต่จู่ๆ ราชครูฟางซิ่นนั่นก็โผล่เข้ามา อันเล่อที่คิดว่าแผนล้มเหลวจึงได้หนีมาขอความช่วยเหลือจากเขา แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากผ่านไปคืนหนึ่งราชครูฟางซิ่นกลับถูกประกาศเป็นคนร้ายแทน การมีแพะรับบาปย่อมเป็นเรื่องดี พวกเขาจึงไม่มีใครพูดอะไรออกไป และหลางเชียนชิวก็ฆ่าคนผิด แถมยังจับอาจารย์ของตัวเองใส่ในโลงศพฝั่งดินทั้งเป็นอีกต่างหาก
เซี่ยเหลียนข่มตาลงด่าฉีหรงในใจขณะที่อีกฝ่ายหัวเราะเสียงดัง หลางเชียวชิวตัวสั่นอย่างไม่อาจยอมรับความจริง เขาหันมาถามเซี่ยเหลียนว่าถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่พูดความจริง ทำไมถึงต้องรับความผิดไว้เองด้วย ตอนนั้นจู่ๆ ฮวาเฉิงก็ปลดคำสาป ร่างของเซี่ยเหลียนจึงล้มลงกับพื้น เขาค่อยๆ ลุกขึ้นมา ก่อนบอกว่าฉีหรงปั้นน้ำเป็นตัว ไม่มีหลักฐานใดว่าชาวเซียนเล่อเป็นผู้ลงมือสังหารราชวงศ์หย่งอัน ผีเขียวจึงเถียงกลับว่าผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว จะมีหลักฐานเหลือได้อย่างไร ทุกคนในตอนนั้นก็ล้วนตายไปหมด แล้วเซี่ยเหลียนก็ต่อว่าว่าในเมื่อทั้งเซียนเล่อกับหย่งอันต่างก็ล่มสลายไปนานแล้ว จะไปคุ้ยเขี่ยเปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปทำไม
คำพูดของเขาทำให้ฉีหรงหรี่ตาเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก เซี่ยเหลียนหันไปหาหลางเชียวชิวกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบว่าอีกฝ่ายก็เห็นกับตาตัวเองไม่ใช่หรือว่าเขาเป็นผู้ฆ่าราชาด้วยมือของเขาเอง ตอนนั้นเขาเพิ่งตกสวรรค์ครั้งที่ 2 จิตใจเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดจึงได้ทำเรื่องผิดพลาดไป ทุกอย่างเป็นความผิดของเขา อย่าได้ลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเจ้าชายอันเล่อมายุ่งด้วย เรื่องราวนี้ฟังดูน่าสงสัย เหตุใดถึงได้มีคนพยายามแย่งชิงเคลมว่าตัวเองเป็นฆาตกร หลางเชียนชิวเต็มไปด้วยความสับสน ทว่าเขาก็เห็นเซี่ยเหลียนดึงกระบี่ออกจากร่างของพ่อของเขาจริงๆ เพราะฉะนั้นจะเป็นฝีมือผู้อื่นไปได้อย่างไร แต่ตอนนั้นเองผีเขียวที่นอนอยู่บนพื้นก็เอ่ยบางอย่างขึ้นมา
ฉีหรง : เสด็จพี่องค์ชายรัชทายาท นั่นท่านใช่หรือเปล่า
เซี่ยเหลียน : ... ฉีหรง ดูเหมือนหลายปีมานี้เจ้าจะใช้ชีวิตมีสีสันมากนะ
(คำว่าพี่ที่ฉีหรงใช้ตามศัพท์จีนเป็นคำที่ใช้เรียกลูกพี่ลูกน้อง แต่พอดีคำไทยไม่มีคำนี้เลยแปลว่าพี่ไปนะ)
หลังจากที่เซี่ยเหลียนพูดจบ ฮวาเฉิงก็เอาผิวปลอมออกเผยให้เห็นร่างจริงของเซี่ยเหลียน และหลางเชียนชิวก็ยิ่งงุนงงกับคำว่าเสด็จพี่ หลังจากฟังที่ผีเขียวพูดเขาก็พอจับได้ว่าอีกฝ่ายเป็นชาวเซียนเล่อ แต่ก็ไม่นึกว่าฉีหรงจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเซี่ยเหลียนถึงขนาดนี้ ฉีหรงมองญาติผู้พี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเมื่อเขาสังเกตเห็นกระบี่บนหลังของอีกฝ่าย ผีเขียวก็หัวเราะลั่นที่ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเซี่ยเหลียนคือราชครูฟางซิ่น
.
.
.
.
.