สปอยเทียนกวานต่อจาก >>707 เทียนกวาน Part.41
.
.
.
.
.
เทพหลายองค์แอบคิดในใจว่าเทพเก็บขยะไร้พลังอย่างเซี่ยเหลียนช่างเหิมเกริมไร้ยางอายที่อ้างว่าสามารถสังหารเทพสงครามแห่งทิศตะวันออกอย่างหลางเชียนชิว สงสัยที่ขอถูกเนรเทศเองจะเป็นเพราะกลัวถูกอีกฝ่ายฆ่าตาย หลางเชียนชิวไม่คิดอย่างนั้น บอกว่าจะอยู่หรือตายไม่สำคัญและต้องการต่อสู้ให้ได้ ซือชิงเสวียนพยายามช่วยพูดอีกครั้ง เขาตั้งข้อสังเกตว่าหากเซี่ยเหลียนต้องการฆ่าล้างแค้นราชวงศ์หย่งอันจริงๆ เหตุใดจึงปล่อยให้หลางเชียนชิวรอดชีวิต แถมตอนอยู่ที่เมืองผี เซี่ยเหลียนก็ยังเข้าไปช่วยอีกฝ่ายตอนกำลังจะเสียท่าให้กับฮวาเฉิงอีกต่างหาก แต่เผยหมิงก็รีบกวนน้ำให้ขุ่นโดยบอกว่าในเมื่อเซี่ยเหลียนเป็นคนยอมรับความผิดเองไม่ต่างจากเผยซู่ เหตุใดจึงปฏิบัติแตกต่าง
ในที่สุดจวินอู๋ก็เอ่ยเสียงเรียบให้ทุกคนสงบ กล่าวให้หลางเชียนชิวค่อยๆ ประเมินเรื่องราวจนรู้ความจริงทั้งหมดเสียก่อน ส่วนเซี่ยเหลียนที่ไม่ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดก็ให้คุมตัวกักบริเวณที่ตำหนักเซียนเล่อ แล้วเขาจะไปซักถามรายละเอียดด้วยตัวเอง โดยระหว่างนั้นห้ามหลางเชียนชิวกับเซี่ยเหลียนพบกันโดยเด็ดขาด เห็นจวินอู๋ปกป้องเซี่ยเหลียน เทพองค์อื่นก็ตั้งใจว่าจะไม่เผลอเรียกเซี่ยเหลียนว่าที่ขบขันของทั้ง 3 ภพในที่สาธารณะอีก แม้จะไม่พอใจกับคำตัดสินแต่หลางเชียวชิวก็ยอมผละมือ โดยเอ่ยทิ้งท้ายไว้ว่าไม่ว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไรเขาก็จะสู้กับเซี่ยเหลียนอยู่ดี
เซี่ยเหลียนขอบคุณเทพแห่งลมที่พยายามช่วย แต่อย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้ดีกว่า ก่อนขอให้อีกฝ่ายช่วยดูแลหลางอิ๋งระหว่างที่เขาถูกคุมตัว และหากแม่ทัพเผยพยายามไปวุ่นวายกับปั้นเยวี่ยก็ขอให้ช่วยเหลือเธอให้หน่อย เขาถูกเจ้าหน้าที่พามาที่ตำหนักเซียนเล่อ เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าที่นี่ถูกสร้างเหมือนกับตำหนักเดิมของเขาทุกประการ หลังจากผ่านเรื่องราวมากมายในช่วงไม่กี่วันนี้ เซี่ยเหลียนที่รู้สึกเหนื่อยแทบขาดใจก็นอนสลบไปบนพื้น
เซี่ยเหลียนฝันถึงวันที่เขายังคงใช้ชื่อราชครูฟางซิ่น หลางเชียนชิวในวัย 14 ปีร้องขอให้เขาสอนวิชาดาบสกัดการโจมตีจากคนสองคนพร้อมกัน เซี่ยเหลียนปฏิเสธ แต่เมื่อเด็กชายก็ยังคงเรียกร้อง เขาก็ถามคำถามว่าหากมีคนหิวโหย 2 คนกำลังต่อสู้กันเพื่อขโมยอาหารของอีกฝ่าย ถ้าคนที่ 3 อยากหยุดการต่อสู้จะต้องพูดอย่างไร หลางเชียนชิวตอบว่าไม่มีทางทำได้ เพราะทั้งสองต้องการเพียงอาหาร เซี่ยเหลียนสอนต่อว่าเพราะปัญหาแรกไม่ได้ถูกคลี่คลายจึงจะไม่มีใครฟังสิ่งที่บุคคลที่ 3 พูด การใช้ดาบสกัดการโจมตีของคนสองคนก็เหมือนกัน และที่ตอนนั้นเขาใช้มันช่วยหลางเชียนชิวจากโจรลักพาตัวก็เพราะไม่มีทางเลือกอื่น เด็กชายถามต่อว่าแล้วถ้าบุคคลที่ 3 มีอาหารไม่เพียงพอจนทั้งสองทะเลาะกันหนักขึ้น และเรียกร้องจะเอาอาหารจากบุคคลที่ 3 มากขึ้นจะต้องทำอย่างไร เซี่ยเหลียนจึงถามกลับว่าอีกฝ่ายคิดว่าต้องทำอย่างไร หลางเชียนชิวบอกว่าตนก็ไม่รู้เช่นกัน บางทีคนๆ นั้นอาจไม่ควรเข้าไปยุ่งแต่แรกก็เป็นไปได้
จากนั้นภาพฝันก็ตัดไปที่ท้องพระโรงทองคำที่ถูกของเหลวสีแดงย้อมไปทั่ว ทุกร่างที่อยู่ในห้องล้วนถูกปาดคอเสียชีวิต มือสั่นเทาของเขากำลังถือกระบี่ เท้าค่อยๆ ย่างเข้าไปใกล้ราชาซึ่งดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเกลียด เมื่อราชายกศีรษะขึ้นมาจ้องมองเขา เซี่ยเหลียนก็แทงอาวุธในมือลงในร่างนั้นซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่องค์ชายรัชาทายาทมาถึงพอดี หลางเชียนชิวมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ และในตอนที่อีกฝ่ายเดินเข้ามาอย่างเลื่อนลอย เซี่ยเหลียนก็ดึงกระบี่ออกจากร่างของราชา หลางเชียนชิวร้องเรียกบิดามารดาแต่ก็ไร้การตอบสนองใดๆ จากทั้งคู่ แล้วเด็กชายก็หันมาตะโกนถามอาจารย์ว่าท่านทำอะไรลงไป สักพักหนึ่งเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงเย็นชาของตัวเองตอบกลับไปว่าพวกเจ้าทุกคนสมควรได้รับสิ่งนี้แล้ว
เซี่ยเหลียนตื่นขึ้นมาจากห้วงฝัน รู้สึกมีบางอย่างอยู่ที่หน้าอก เมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่ามันคือลูกเต๋าที่เขาเอามาจากอนุสรณ์สุขวดี พอนึกถึงภาพที่ฮวาเฉิงยืนอยู่ในเปลวไฟจ้องมองมาที่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าจะต้องเก็บขยะอีกเท่าไรถึงจะขดใช้อีกฝ่ายได้ทั้งหมด หรือไม่เขาก็คงต้องยกชีวิตทั้งชีวิตในอีกฝ่ายไปแทน เมื่อลองโยนเต๋าดูก็ได้แต้ม 1 ทั้งสองลูก โชคที่เขายืมมาจากอ๋องผีหมดไปแล้วจริงๆ ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้จึงรีบเก็บลูกเต๋าขึ้นมา เมื่อหันกลับไปเขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏต่อสายตา อีกฝ่ายคือมู่ฉิง
.
.
.
.
.