สปอยเทียนกวานต่อจาก >>672 เทียนกวาน Part.39
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนร้องขอโทษก่อนผลักฮวาเฉิงกลิ้งหลุนๆ ไป 2 ตลบ พอดีกับที่ซือชิงเสวียนซึ่งแบกหมิงอี้อยู่หล่นลงมาตรงจุดที่อ๋องผีเคยนั่งอยู่พอดี ในขณะที่หลางอิ๋งวิ่งมาหลบด้านหลังเซี่ยเหลียน เทพแห่งลมก็โวยวายใส่อ๋องผีที่จับเจ้าหน้าที่สวรรค์มาขังไว้ เซี่ยเหลียนพยายามไกล่เกลี่ย แต่ฮวาเฉิงก็บอกว่าหมิงอี้เป็นสายลับที่แอบปลอมตัวมาเป็นลูกน้องของเขาถึง 10 ปี เขาสงสัยอีกฝ่ายมานานแต่เพิ่งมาจับได้จริงๆ ตอนเห็นเทพแห่งดินอยู่กับซือชิงเสวียนที่เส้นทางปั้นเยวี่ย หลังจากผละจากอารามผูจี้เขาจึงไปจับตัวหมิงอี้ไว้
หากผู้ใดล่วงรู้ว่าสวรรค์แอบส่งคนมาสืบข้อมูลในเมืองผีก็คงไม่ส่งผลดี นี่คงเป็นเหตุให้จวินอู๋เรียกเซี่ยเหลียนมาทำงานลับๆ โดยไม่เล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด เซี่ยเหลียนบอกฮวาเฉิงว่าเขาเข้าใจดีว่าสวรรค์ทำผิด แต่ก็ขอให้อีกฝ่ายช่วยปล่อยพวกเขาไป กระนั้นด้วยความร้อนใจซือชิงเสวียนชิงเลยหยิบพัดขึ้นโบกรุนแรงจนเพดานคลังแสงลอยขึ้นไปบนอากาศ ฮวาเฉิงหยิบพัดสีทองมาจากคลังอาวุธ เมื่อเขาตวัดมือก็มีเข็มเล่มเล็กพุ่งออกมาจากมัน แม้ทั้งสามจะสามารถหลบจากการโจมตี แต่ลมก็พัดเข็มเหล่านั้นหมุนวนไปทั่วห้อง เซี่ยเหลียนเข้าไปปกป้องหลางอิ๋ง พร้อมตะโกนบอกให้เทพแห่งลมหยุดลมไว้ ทว่าหากทำเช่นนั้นหลังคาที่ลอยอยู่ก็จะหล่นลงมาทับพวกเขาทั้งปาร์ตี้ ซือชิงเสวียนเลยไม่ได้ทำตามนั้น
ตอนนั้นจู่ๆ เข็มก็พุ่งขึ้นไปข้างบน แล้วหลางเชียนชิวก็กระโดดลงมาจากเพดานซึ่งเปิดโล่ง ดาบยาวในมือดูดเข็มสีทองพวกนั้นไว้ราวแม่เหล็ก ก่อนหลอมพวกมันเป็นเนื้อเดียวกับดาบ หลางเชียนชิวก็พุ่งเข้าใส่อ๋องผี ฮวาเฉิงหยิบเอ้อมิ่งขึ้นมาแล้วทั้งสองก็ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ทว่าฝีมือของพวกเขาต่างกันเกินไป ในขณะที่ดาบโค้งกำลังจะปะทะกับดาบยาวนั่นเอง ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวสว่างจ้าขึ้น เซี่ยเหลียนอาศัยจังหวะนั้นรวบรวมพลังทิพย์ที่นี้ยืมมาจากเทพแห่งลมยิงลำแสงออกไป ส่งผลให้มุมหนึ่งของคลังแสงไฟไหม้ เขารีบใช้รั่วเย่มัดตัวเอง ซือชิงเสวียน หมิงอี้ หลางเชียวชิว และหลางอิ๋งไว้ด้วยกัน แล้วบอกให้เทพแห่งลมพัดพวกตนขึ้นไป
เมื่อขึ้นมาอยู่บนอากาศแล้ว ซือชิงเสวียนที่กลัวว่าฮวาเฉิงจะตามมาก็รีบพัดกองไฟจนมันลุกท่วมคลังแสง เซี่ยเหลียนรีบคว้ามืออีกฝ่ายให้หยุด เมื่อมองลงไปในกองเพลิงเบื้องล่าง แม้จะอยู่ไกลจนมองไม่เห็น แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าอ๋องผีกำลังยืนนิ่งจ้องมองเขาอยู่ท่ามกลางเปลวไฟนั้นซึ่งกำลังลามไปทั่วอนุสรณ์สุขาวดี เขาตั้งใจจะจุดไฟกองเล็กๆ เพื่อดึงความสนใจของอีกฝ่ายไปเท่านั้น ไม่ได้หวังให้กลายเป็นเช่นนี้เลย เห็นท่าทางของเซี่ยเหลียน เทพแห่งลมก็รีบกล่าวขอโทษ และบอกว่าตนจะยอมจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดให้เอง เซี่ยเหลียนหลับตาลงอย่างกลัดกลุ้ม ตอนนั้นเองซือชิงเสวียนก็สังเกตว่าแขนขวาของเซี่ยเหลียนชุ่มไปด้วยเลือด ไม่นานก็นึกได้ว่าแสงสีขาวในตอนนั้นน่าจะเป็นฝีมือของคนตรงหน้า เขาเกือบลืมไปแล้วว่าเซี่ยเหลียนเคยขึ้นสวรรค์มาด้วยความสามารถในการใช้ดาบ
ในช่วงวลานั้นเซี่ยเหลียนหยิบดาบเล่มหนึ่งในคลังแสงพุ่งเข้าขวางการโจมตีของฮวาเฉิงกับหลานเชียนชิว ส่งผลให้เขาเป็นผู้รับแรงปะทะทั้งหมดเอาไว้ หลางเชียนชิวแม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขากลับมีสีหน้าแข็งค้างราววิญญาณออกจากร่าง แม้เทพแห่งลมจะพยายามเรียกก็ไม่มีการตอบรับใดๆ ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงสวรรค์ เซี่ยเหลียนให้หลางอิ๋งไปอยู่ที่ห้องข้างหอประชุม ในขณะที่เขาใช้โทรจิตเรียกให้เทพทุกองค์มาประชุม และแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บต้องการคนดูแลคนหนึ่ง ซือชิงเสวียนเปลี่ยนกลับไปใส่ชุดนักพรตสีขาว กล่าวเสริมว่ามีคนบาดเจ็บ 2 คน ก่อนโปรยกุศลรัวๆ โดยอ้างว่าทำอย่างนี้จะเรียกคนมาได้เร็วกว่า
เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงเป็น 2 คนแรกที่มาถึง เมื่อเห็นเฟิงซิ่นเข้าไปดูแขนของเซี่ยเหลียน มู่ฉิงจึงหันไปดูอาการของหมิงอี้ พอคนมามากขึ้นก็มีเจ้าหน้าที่ช่วยพาเทพแห่งดินออกไปรักษา เซี่ยเหลียนบอกเฟิงซิ่นว่าเขาไม่เป็นอะไร ก่อนเห็นว่าหลางเชียนชิวกำลังจ้องเขาตาไม่กระพริบ เมื่อเซี่ยเหลียนเข้าไปดูว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า หลางเชียนชิวก็คว้าข้อมือของเขาไว้ ก่อนจะกัดฟันเรียกเขาอย่างไม่แน่ใจว่าราชครู เทพทุกองค์ในหอประชุมหันมามองทั้งสองคน หลางเชียนชิวเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรหย่งอัน ในสมัยนั้นเขามีราชครู 2 คน และคนที่ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงก็มีเพียงราชครูฟางซิ่น การที่หลางเชียนชิวเรียกเซี่ยเหลียนเช่นนั้นไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายคือราชครูฟางซิ่น 1 ใน 2 นักพรตมารในตำนานผู้นำความล่มสลายมาสู่หย่งอันหรอกหรือ
.
.
.
.
.