มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>480 เทียนกวาน Part.26
.
.
.
.
.
ในที่สุดเรื่องราวที่แคว้นปั้นเยวี่ยก็สิ้นสุดลง หนานเฟิงย้ำกับเซี่ยเหลียนว่าที่เทพแห่งลมยื่นมือมาช่วยก็เพราะไม่อยากให้เซี่ยเหลียนไปเหยียบเท้าเผยหมิงเข้า แม่ทัพเผยมีอิทธิพลบนสวรรค์รองจากจวินอู๋ และเขาก็ตั้งความหวังกับเผยซู่ไว้มากถึงขนาดมีข่าวลือว่าเขากำลังพยายามหาทางเขี่ยเฉวียนอี้เจินเพื่อเอาตำแหน่งเทพสงครามแห่งทิศตะวันตกมาให้ทายาทของตนแทน สิ่งที่เซี่ยเหลียนทำในครั้งนี้อาจทำให้เผยซู่ต้องถูกเนรเทศจากสวรรค์ และคงไม่ดีต่อตัวเซี่ยเหลียนแน่ แต่แม้ซานหลางจะบอกว่าเผยหมิงไม่ใช่คนชอบใช้เล่ห์กลจัดการผู้อื่น หนานเฟิงก็ยังบอกว่าอย่างไรก็ต้องระวังตัวอยู่ดี
แต่เช่นนี้ไม่ใช่ว่าการที่เทพแห่งลมมาออกหน้าจะทำให้เธอเดือดร้อนแทนหรือ หนานเฟิงอธิบายว่าเผยหมิงคงไม่กล้าทำอะไรเพราะว่าฝ่ายนั้นก็เป็นเทพที่มีอิทธิพลมากเช่นกัน ซานหลางเอ่ยเสริมอย่างติดตลกว่าหญิงสาวชุดดำเองก็น่าจะเป็น 1 ในเทพแห่งธาตุทั้ง 5 จึงไม่ควรไปหาเรื่องเธอเหมือนกัน พอนึกถึงสายตาที่หญิงสาวมองเด็กหนุ่มเสื้อแดง เซี่ยเหลียนก็รู้สึกเห็นด้วย
เซี่ยเหลียนเพิ่งสังเกตว่าตั้งแต่ขึ้นมาจากหลุมคนบาปฝูเหยาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็คงดูแลตัวเองได้ พวกเซี่ยเหลียนจึงคิดถึงเรื่องที่สำคัญกว่าคือการนำพืชแก้พิษงูหางแมงป่องกลับไปให้พ่อค้าอาวุโสที่ถ้ำหิน เขาแบกปั้นเยวี่ยขึ้นหลัง แล้วนำทุกคนกลับไปเก็บพืชที่ราชวัง ตอนนั้นซานหลางได้นำหม้อใบหนึ่งมาให้ เซี่ยเหลียนจึงย่อตัวของราชครูสาวลงไปไว้ในนั้นเพื่อให้เธอพักฟื้นตัว
พวกเขานำพืชกลับไปช่วยพ่อค้าอาวุโส ก่อนจะสังเกตได้ว่ากลุ่มของเด็กหนุ่มพ่อค้าที่เข้าไปในเมืองปั้นเยวี่ยยังไม่ได้กลับมา แต่ไม่นานนักทั้ง 3 ก็กลับมาโดยสวัสดิภาพ ปรากฏว่าหลังเหตุการณ์ที่หลุมคนบาปปั้นเยวี่ยได้ช่วยพวกเขาไว้ พวกเขาจึงกลับไปเก็บพืชพร้อมฝังร่างของเพื่อนที่เสียชีวิต หลังจากนั้นพวกเซี่ยเหลียนก็ช่วยคุ้มครองกลุ่มพ่อค้าจนพวกเขาสามารถออกจากทะเลทรายอย่างปลอดภัย ในตอนที่กำลังกล่าวลากัน พ่อค้าหนุ่มคนนั้นก็กระซิบถามเซี่ยเหลียนว่าเขาเป็นเทพเจ้าใช่หรือไม่ และเนื่องจากเซี่ยเหลียนช่วยชีวิตของเขาไว้ เด็กหนุ่มจึงสัญญาว่าเมื่อกลับถึงบ้านเกิด เขาจะสร้างอารามบูชาเซี่ยเหลียนอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินอย่างนั้นเซี่ยเหลียนก็หัวเราะเสียงดัง และกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย
หนานเฟิงวาดวงเวทย์ย่นระยะนำทุกคนกลับมายังอารามผูจี้ เซี่ยเหลียนถึงกับทิ้งตัวลงเหยียดตัวบนเสื่อด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนถามเทพหนุ่มว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลับไปรายการเรื่องกับเจ้านายหรือ เมื่ออีกฝ่ายบอกว่าไม่จำเป็นต้องรีบ เซี่ยเหลียนจึงตั้งใจจะทำอาหารเลี้ยงขอบคุณ ทันใดนั้นสีหน้าของหนานเฟิงก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว รีบทำท่าเหมือนมีคนติดต่อมาทางโทรจิต ก่อนบอกว่าเขามีเรื่องเร่งด่วนต้องกลับไปในทันที แม้เซี่ยเหลียนจะพยายามรั้งไว้ เทพหนุ่มก็ยังรีบเปิดประตูอารามออกไป แต่ก็ไม่ลืมหันมาขี้นิ้วมาที่เซี่ยเหลียนกับซานหลาง และบอกว่าเขาจะกลับมาอย่างแน่นอน เมื่อเหลือกันสองคนเซี่ยเหลียนจึงหันไปถามเด็กหนุ่มเสื้อแดงว่าหิวหรือไม่ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบอย่างกระตือรือร้นว่าหิวมาก เซี่ยเหลียนเลยลุกไปดูของบนโต๊ะวางของไหว้ก่อนเอ่ยถาม
เซี่ยเหลียน : ถ้าอย่างนั้น เจ้าอยากกินอะไรล่ะ ฮวาเฉิง
เบื้องหลังของเขาตกอยู่ในความเงียบก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมา
ฮวาเฉิง : เรียกข้าว่าซานหลางเหมือนเดิมดีกว่า
.
.
.
.
.