มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>337 เทียนกวาน Part.22
.
.
.
.
.
เค่อหมอไม่เชื่อว่าเซี่ยเหลียนมาที่นี่เพื่อจัดการกับนักพรตมาร สุดท้ายซานหลางก็เอาศพของทหารคนอื่นมาขู่ แม่ทัพผีจึงจำยอมเล่าเรื่องของราชครูให้ฟัง นักพรตมารมีมารดาเป็นชาวปั้นเยวี่ย ส่วนบิดาเป็นชาวที่ราบภาคกลาง ทั้ง 3 อาศัยอยู่ที่เขตชายแดน แต่ด้วยความที่ทั้งสองประเทศมีปัญหากัน พวกเขาจึงถูกดูแคลนกลั่นแกล้งจนสุดท้ายฝ่ายสามีก็ทนไม่ไหว เขาทอดทิ้งภรรยากับลูกสาวกลับบ้านเกิด ทำให้ฝ่ายภรรยาตรอมใจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ราชครูปั้นเยวี่ยกลายเป็นเด็กเร่ร่อนหิวโหยไร้ผู้ดูแล เด็กหญิงมักถูกผู้คนรังแกอยู่เสมอ ไม่มีเด็กชาวปั้นเยวี่ยคนใดเล่นกับเธอ แต่โชคดีที่ยังมีเด็กจากที่ราบภาคกลางบางคนที่ใส่ใจเธอ
เมื่อสงครามเกิดขึ้น ราชครูปั้นเยวี่ยในวัย 12 ปีได้หายตัวไป เด็กหญิงเดินทางบำเพ็ญเพียรจนสามารถใช้มนต์ดำควบคุมงูหางแมงป่องได้ เมื่อกลับมายังแคว้นปั้นเยวี่ย คนที่เคยรังแกเธอต่างหวาดกลัวว่าหากปล่อยให้เธอได้ทำงานในราชสำนัก เด็กหญิงจะกลับมาล้างแค้นพวกตนจึงพยายามใส่ร้ายป้ายสี ในเวลานั้นเค่อหมอเป็นนักรบมีชื่อเสียงแล้ว เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนน่าเชื่อถือ ประจวบกับที่เมื่อสมัยเด็กเขามีร่างกายอ่อนแอ มักถูกผู้คนรังแกไม่ต่างกัน เขาจึงรู้สึกเห็นใจเธออยู่ไม่น้อย เค่อหมอช่วยแก้ต่างข่าวลือให้เด็กหญิง และให้การสนับสนุนจนเธอได้เป็นราชครูแห่งปั้นเยวี่ย
แต่แท้จริงแล้วราชครูเก็บฝังความแค้นต่อชาวปั้นเยวี่ยไว้ในใจจึงได้หักหลังประเทศ เมื่อเค่อหมอทราบข่าวเขาก็รีบไปจับตัวเธอมาเขวนไว้บนเสาจนถึงแก่ความตาย หลังจากที่พวกเขากลายเป็นผีติดอยู่ในเมือง เค่อหมอจะคอยจับหญิงสาวมาแขวนครั้งแล้วครั้งเล่า ราชครูปั้นเยวี่ยเองก็ผลักพวกทหารลงไปในหลุมคนบาป สร้างค่ายกลไม่ให้ผู้ใดขึ้นมาได้ โชคดีที่เวลางูหางแมงป่องออกไปหาเหยื่อนอกเมือง พิษของมันทำให้นักเดินทางต้องเข้าเมืองมาหายาแก้พิษ แม่ทัพผีจึงจับสามารถจับคนเหล่านั้นมาโยนลงหลุม บรรเทาความเคียดแค้นให้พี่น้องที่ถูกจองจำของเขา
เซี่ยเหลียนรู้สึกว่าเค่อเมอปิดบังความจริงบางอย่างไว้ การที่ทหารผียังปลูกพืชแก้พิษไว้ย่อมหมายความว่าพวกเขายังคงหวาดกลัวงูหางแมงป่อง แล้วทำไมราชครูปั้นเยวี่ยผู้บังคับงูได้จึงได้ถูกพวกเขาจับตัวมาแขวนเหนือหลุดคนบาปบ่อยครั้ง การที่งูออกไปล่าเหยื่อนอกเมืองเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือนักพรตสาวพยายามช่วยพวกทหารจับมนุษย์ แต่หากเธอช่วยเหลือพวกทหารจริง เหตุใดถึงไม่ปล่อยพวกเขาออกมาจากค่ายกล ทว่าก่อนที่เซี่ยเหลียนจะสอบถามเค่อหมอเพิ่มเติม ร่างของราชครูปั้นเยวี่ยก็ปรากฏขึ้นที่ปากหลุมคนบาป
ราชครูกระโดดลงมาข้างล่าง เธอถามเค่อหมอว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ทัพผีตะคอกว่าเป็นเพราะเธอทุกคนจึงตายหมด ได้ยินดังนั้นนักพรตสาวจึงจุดไฟบนมือ แสงไฟดวงน้อยส่องให้เห็นศพทหารเกลื่อนกลาดบนพื้นรอบตัวเธอ เค่อหมอที่ได้เห็นร่างของเพื่อนร่วมรบก็ร้องโหยหวน ในขณะที่ราชครูสาวเอ่ยเสียงเรียบว่าดีแล้วที่พวกเขาได้รับการปลดปล่อย
นักพรตหญิงถามเซี่ยเหลียนว่าเขาเป็นใคร เซี่ยเหลียนตอบไปตามจริงว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ คำตอบนั้นทำให้ราชครูแปลกใจด้วยนึกว่าเทพเจ้าละทิ้งที่แห่งนี้ไปแล้ว เธอหันไปปลดค่ายกลให้โดยง่าย ตอนนั้นเองฝูเหยาก็ตะโกนลงจากปากหลุมคนบาป พอทราบว่าเซี่ยเหลียนอยู่ที่ก้นหลุม เขาก็โยนเพลิงลูกใหญ่ลงมา เมื่อมีแสงสว่างเซี่ยเหลียนจึงได้เห็นสภาพรอบตัวที่เต็มไปด้วยกองศพท่วมเลือดของทหารปั้นเยวี่ย มีเพียงจุดที่เขายืนอยู่ที่ไม่มีเลือดเปรอะเปื้อน จากนั้นฝูเหยาก็กระโดดลงมาอีกคน
เซี่ยเหลียนถามถึงกลุ่มพ่อค้าที่ถ้ำหิน แต่เทพหนุ่มมีท่าทีไม่ใส่ใจและบอกว่าเขาวาดวงคุ้มภัยให้คนเหล่านั้นแล้ว ตอนนั้นจู่ๆ เค่อหมอก็พุ่งไปต่อยราชครูปั้นเยวี่ยซึ่งไม่มีท่าทีจะปัดป้องการโจมตีจากอีกฝ่ายเลย แม่ทัพผีตะคอกถามว่าเหตุใดเธอจึงไม่นำงูหางแมงป่องออกมาฆ่าเขา แต่นักพรตสาวอธิบายว่าเธอไม่สามารถควบคุมพวกมันได้อีกแล้ว เขาถามต่อว่าเธอเกลียดพวกเขามากใช่ไหม พอเห็นหญิงสาวส่ายหน้า เขาก็กระชากผมของเธอ ถามว่าแล้วเหตุใดเธอถึงทรยศพวกเขา
เซี่ยเหลียนไม่อาจทนดูภาพข้างหน้าได้อีกต่อไป เขารีบเข้าไปห้ามเค่อหมอไม่ให้ทำร้ายหญิงสาวอีก ตอนนั้นเองจู่ๆ ราชครูปั้นเยวี่ยก็คว้าข้อมือของเซี่ยเหลียนไว้ เธอมองเขาไม่วางตา ทำท่าเหมือนอยากเอ่ยอะไร แต่ก็ไร้เสียงใดจากริมฝีปากสั่นเทา และภาพนั้นก็เรียกความทรงจำของเซี่ยเหลียนที่ผ่านมาเนิ่นนานให้คืนกลับมา
เซี่ยเหลียน : เป็นเจ้าเองอย่างนั้นเหรอ
ราชครูปั้นเยวี่ย : … ท่านแม่ทัพฮวา
.
.
.
.
.