ขอแหวกเรื่อง ปรมจ มาสปอยเทียนกวานต่อนะ ต่อจาก >>129 ยอดนักสืบเซี่ยเหลียน กับคดีเจ้าบ่าวผี Part.4
หนานเฟิงกับฝูเหยาอธิบายให้เซี่ยเหลียนฟังว่าวิธีเช่นนี้คือสิ่งที่ผีเขียวชื่นชอบ ฝ่ายนั้นเป็นผีที่เกือบถึงขั้นเจวี๋ย ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดที่สวรรค์จำแนกระดับความร้ายกาจของผีไว้ และมันก็ทำให้เซี่ยเหลียนนึกขึ้นได้ว่าที่ชายชุดแดงกางร่มกันฝนก็เพราะตอนนั้นเดินผ่านศพพวกนี้ เขาเล่าเรื่องให้ทั้งสองคนฟัง และเมื่อเซี่ยเหลียนบอกเอกลักษณ์ของชายคนนั้นว่าผีเสื้อสีเงิน ทั้งคู่ก็มีสีหน้าไม่ดีขึ้นมา
ฝูเหยาเสนอให้ถอนกำลังไปตามหน่วยสนับสนุนมาแทน เนื่องจากคดีนี้น่าจะเกินกำลังของพวกเขา 3 คนเสียแล้ว เซี่ยเหลียนมองออกว่าฝูเหยาไม่อยากอยู่เจอเรื่องยุ่งยากจึงไม่อยากรั้งไว้ บอกให้อีกฝ่ายไปตามหน่วยช่วยเหลือ เพราะถึงเขาจะสัมผัสจิตสังหารจากชายชุดแดงไม่ได้ แต่หากคนๆ นั้นร้ายกาจ และหวังทำร้ายพวกเขาจริง พวกเขาก็คงไม่สามารถออกจากเขานี้ไปง่ายๆ คงจะดีกว่าที่จะทิ้งคนไว้ที่นี่ก่อน เมื่อได้ยินดังนั้นฝูเหยาก็รีบจากไปโดยไม่พูดอะไร
พวกชาวบ้านจับเด็กหนุ่มที่มีผ้าพันแผลพันรอบหัวได้ เสี่ยวอิ๋งรีบเข้าไปปกป้องชายคนนั้น และยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เจ้าบ่าวผี แต่เป็นคนที่แอบซ่อนตัวบนเขาเนื่องจากหน้าตาอัปลักษณ์เป็นที่รังเกียจ เขาเคยลงไปที่หมู่บ้านเพื่อขโมยของกินทำให้ได้พบกับเธอ และด้วยความเมตตา เสี่ยวอิ๋งจึงคอยช่วยเหลือเด็กหนุ่มนับแต่นั้น ที่เธอแอบตามขึ้นเขามาแท้จริงก็เพราะเป็นห่วงเด็กหนุ่มคนนี้ และที่เมื่อครู่เขาปาหินใส่นักล่าค่าหัวก็เป็นเพราะต้องการปกป้องเธอที่ถูกทำร้ายเท่านั้น
เซี่ยเหลียนช่วยยืนยันว่าเด็กหนุ่มไม่ใช่เจ้าบ่าวผี แต่พวกชาวบ้านก็ไม่เชื่อ เซี่ยเหลียนจึงถามเด็กหนุ่มว่าพอรู้เรื่องของศพที่ถูกแขวนหรือไม่ เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า หนานเฟิงก็รีบถามต่อว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับผีเขียว ฉีหรง หรือเปล่า ชื่อที่ได้ยินทำให้เซี่ยเหลียนชะงัก ส่วนเด็กหนุ่มไร้การตอบสนอง ตัวละครที่เริ่มเยอะชิหั่ย ทำเอาเซี่ยเหลียนหัวหมุน เรื่องราวทั้งหมดมันเป็นยังไง ใครเกี่ยวข้องกับใครกันแน่ เขาลองถามเสี่ยวอิ๋งว่าทำไมแถบนี้ไม่มีอารามของแม่ทัพเผยอยู่เลย เธอจึงเล่าว่าเป็นเพราะเมื่อใดก็ตามที่มีการสร้างอารามก็เกิดเหตุไฟไหม้ ชาวบ้านจึงคิดว่าเผยหมิงอาจไม่ต้องการให้สร้างอารามของตนแถวนี้ เลยหันไปสร้างอารามไหว้เทพองค์อื่นแทน
เมื่อได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนก็ปะติดเรื่องราวทั้งหมดออก เขาหันไปขอยืมพลังทิพย์จากหนานเฟิงเพื่อเตรียมลุย แล้วลากอีกฝ่ายออกวิ่ง แต่เขาก็ไม่มีเวลาอธิบายอะไรมากมายนอกจากบอกว่าในตอนนี้ศพเจ้าสาวในอารามที่ควรจะมี 17 จะต้องมี 18 ศพเป็นแน่ เจ้าบ่าวผีแอบแฝงตัวอยู่ข้างในอารามมาตลอด และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!