Last posted
Total of 1000 posts
พวกมึงแต่งนิยายกันแบบไหนวะ ออกมาได้เรื่อยๆ หรือต้องรอเกิดไอเดียผุดแล้วถึงจะแต่งได้
ทั้งนี้ทั้นั้น หมายถึงที่วางพล๊อตไว้อยู่แล้ว
Ky กูอยากรู้ว่าการติด Top 100ในดด มีผลต่อยอดเฟบยอดเม้นยอดวิวนิยายมากขนาดไหน
KY ถ้าอยากลองส่งต้นฉบับนิยายวายในโลกแฟนตาซี บรรยายสไตล์ไลท์โนเวลนี่จะลองส่ง สนพ. ไหนดีคะ
พวกมึงมีใครรู้เรื่องการเสียภาษีนักเขียนบ้างไหม ไม่ว่าจะทำมือหรือออกเล่มกับ สนพ
กูเบื่อตัวเองมาก เรื่องเก่าก็ยังแต่ไม่จบแต่ในหัวเสือกผุดพล็อตใหม่มาอีกเป็นล้านนนนนนนนนนนน
โทษที กูแท็กผิดคน
>>854 โอเค ถ้าจากเสียภาษี ณ ที่จ่าย กูคงต้องไปถาม สนพ ก่อนใช่มั้ย ไม่เห็นเค้าระบุแจ้งมา อีบุคล่ะ กูงงๆ มาก ต้องทำไง
>>852 คือปีนี้เป็นปีแรกที่กูออกจากงานและไม่ได้จ่ายภาษีอะ คราวนี้กูมีหนังสือที่ออกกับสนพ ครั้งแรกมีอีบุคด้วย
เลยสงสัยว่ากูต้องไปจ่ายภาษีใช่มั้ย ตามข้อไหน อย่างเมื่อก่อนกูจ่าย ภงด 90/91 แบบนี้อะ
ขอบคุณมากๆ
ต่อให้หัก ณ ที่จ่ายแล้วก็ต้องไปยื่นนะ เพราะอาจจะเสียเพิ่มหรือได้คืนก็ได้ ไม่ใช่หักแล้วแล้วกัน
ไปขอใปหักภาษีมาแล้วกัน เป็นเอกสารสำหรับยื่น
กูอธิบายเริ่องหักณที่จ่ายนะ เสียณที่จ่ายไม่ได้หมายความว่าจบแล้ว มึงต้องดูรายได้รวมทั้งปีแล้วยื่น เพราะถ้ารายได้มึงไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษีหรือมีลดหย่อน มึงจะได้เงินหัก ณ ที่จ่ายคืน
แต่ถ้ามึงมีรายได้อื่นๆ เช่นขายของ เงินเดือน ฐานภาษีเกิน % หักณทีจ่าย มึงต้องยื่นรวมและอาจเสียเพิ่มตามเกณฑ์มึง เช่น 10-15% ถ้ามึงไม่ยื่น สรรพากรเขาตรวจได้เลยเพราะทางสนพ.ส่งเรื่องอยู่แล้ว
สรุปมึงควรยื่นภาษีด้วยทุกกรณี
กู852เองนะ
ปกติสนพจะมีการหักณ.ที่จ่าย5 ซึ่งมึงต้องเก็บใบกำกับไว้ดีๆ พอถึงเวลาสิ้นปี มึงเอาใบกำกับภาษีไปยื่นกับทางสรรพกร
โดยปกติงานเขียนจะอยู่ในรายได้ประเภทที่3 หรือซื้อขายลิขสิทธิ์ มีอัตราลดหย่อนให้สูงสุดหนึ่งแสน ถ้ารายได้มึงไม่ถึงสามแสน มึงได้เงินคืนแน่นอน อย่าลืมไปสมัครพร้อมเพย์แบบใช้บัตรประชาชนกับทางธนาคารด้วย สรรพกรจะได้คืนเงินที่หักไป5กับมึงได้
กูจำไม่ได้ว่ายื่นภงดไหน ตอนกูกรอกยื่นเลขกำกับภาษีผ่านทางเน็ต มันติ๊กมาให้เลยว่ากูเสียภงดไหนบ้าง
ขอบคุณมากๆ คือกูมีสองที่ ยอดไม่ถึงแสน ที่แรก หลักร้อย จากอีบุ๊ค ทางสนพ ส่งใบเสร็จมา แต่ไม่มีการหัก ณ ที่จ่าย ตรงนี้กูต้องขอ สนพ ใหม่ไหม หรือยื่นไปตามปกติ
ส่วน สนพ ที่สอง ส่งเมลมาบอกกูเฉยๆ ว่าโอนเงินให้เท่านั้น ตอนนี้กูเมลไปขอรายละเอียดเค้าแล้ว รอคำตอบต่อไป
มึงกูถามหน่อย สมมุติเปิดจองแล้วมีพวกร้านค้ามาขอไปนี่เขาคิด 15% จากราคาปก ถือว่าเป็นราคาปกติป่ะ
นิยายแปลออกรัวๆ lc รัวๆ นข วายแต่ง ถ้าไม่มีชื่ออยู่แล้ว คงอยู่อยากที่จะผงาด กูเห็นท็อปใน ดด ก็ นข มีชื่อที่ติดตลาดอยู่แล้ว วนๆกัน โดนวายแปลเบียดอีก เห็นแล้วท้อแท้ คนหวีดนิยายแปลมากกว่านิยายแต่งกัน
กูว่าสำนวนแปลกับแต่งมันต่างกันเยอะนะ การที่สนพออกแปลเยอะจนคนอ่านแต่งน้อยลงก็แสดงว่าคนอ่านคนนั้นชอบแปลมากกว่าแต่งพอมีทางเลือกเลยอ่านแต่งมากกว่า ไม่ได้ไร้ทางเลือกแบบสมัยก่อนที่มีอะไรก็กิน
ถามหน่อยนะ ปกติที่พวกมึงเขียนนิยายเล่มหนึ่ง สมมติเล่มเดียวจบจะประมาณกี่หน้าอะ แล้วแต่ละบทมีกี่หน้า กี่คำ คืออยากรู้ว่าจำนวนหน้าน้อย เยอะ มีผลกับการอ่านนิยายในเว็บไหมอะ แบบไหนที่ชอบมากกว่ากัน
กูไม่คิดว่าหนังสือแปลฮิตกว่าเป็นเพราะสำนวนนะ สำนวนนักแปลไม่ได้ดีทุกคน บางเล่มโดนบ่นจะตายชักว่าแปลเห่ย และสำนวนนักเขียนไทยก็ไม่ได้เหมือนกันหมดทุกคนด้วย ที่นิยายแปลฮิตก็เป็นช่วง ๆ นึง เดี๋ยวมันก็ผ่านไปฮิตอย่างอื่น นิยายแต่งก็ออกเรื่อย ๆ ไม่ใช่ไม่มีออกรวมเล่มแล้ว
กูไม่เรียกว่าโดนเบียดเบียนนะ กูเรียกว่าการแข่งขันมันสูง ใครจะมาเริ่มต้นช่วงนี้ก็ยากหน่อย นข.ที่ดังอยู่แล้วเขาก็มีช่วงเวลาที่สร้างชื่อเสียงมาเหมือนกัน
>>882 หมายถึงสำนวนกว้างๆบรรยากาศโดยส่วนใหญ่น่ะ
เช่น สรรพนามส่วนใหญ่ไทยจะใช้บุรุษที่1กัน แต่แปลส่วนใหญ่เป็นบุรุษที่สาม หรือแนวความคิด สิ่งที่ต้องการสื่อถ้าอ่านงานของทางเอเชียกับทางตะวันตกจะเห็นความต่างค่อนข้างมาก แต่ละประเทศมันมีเอกลักษณ์ของมันเองว่ะ เหมือนเวลาดูหนังต่อให้ไม่นับหน้าตานักแสดง แต่เนื้อเรื่อง จังหวะของบทก็ทำให้พอเดาได้แล้วว่าเป็นของชาติไหน ไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เมกา ไม่เกี่ยวกับว่าหนังเรื่องนั้นดีหรือไม่ดีสนุกหรือไม่สนุก
กูว่านักเขียนที่ดังตอนนี้ก็มาจากการสั่งสมชื่อเสียงเมื่อก่อนเหมือนกัน มีความยากที่ต่างกันตามยุคสมัย สมัยนี้คนเขียนเยอะเกินทำให้เด่นออกมายาก สมัยก่อนคนเขียนน้อยแต่คนอ่านก็น้อยด้วยเทียบกับปัจจุบัน
>>883 แตงค์มาก งั้นคงประมาณ 150 หน้าแบบไม่เคาะสินะ กูจะพยายามให้มันไปถึง ปกติเวลากูเขียนกูติดแบบ บรรยายเท่าที่จำเป็นอะ กูยังงงเลยว่าคนอื่นเขาเขียนได้ยังไงยาวเหยียด แค่ตัวเอกกูคุยกันเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับพล็อตกูยังไม่ค่อยอยากเอามาใส่เลย 55555
>>884 เออ พูดเรื่องสำนวน กูแต่งบุรุษที่ 3 แล้วแนวเรื่องเป็นแบบ เรื่อยๆ อะมึง คิดว่าจะมีคนอ่านมะ คือมันเรื่อยๆ มากจนไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยอะ 55555 บรรยายความรู้สึกกูยังไม่ค่อยบรรยายเลย อยากให้คนอ่านคิดกันเอาเองเงี้ย
>>885 อินเตอร์เน็ตมันกว้างใหญ่ การที่คนอ่านกับคนเขียนเจอกันได้คือพรหมลิขิตว่ะมึง ตราบใดที่รสนิยมเดียวกันเจอกันได้ก็มีคนอ่าน แต่ถ้าไม่เจอกันก็หงอยต่อไป
แต่ความเห็นกูนะ ปกติถ้ากูอ่านแนวเรื่อยๆกูก็อ่านเพื่อเสพบรรยากาศ ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแต่พอมึงไม่บรรยายความรู้สึกอีก ก็ต้องดูว่ามึงตั้งใจให้คนอ่านสนุกกับอะไร มีอะไรเป็นจุดขาย
>>889 ช่วงแรกมึงไม่ค่อยมีฉากต่อสู้แต่ช่วงหลังพอมีฉากต่อสู้เยอะๆคนเลยหายใช่มั้ย เพราะคนที่ชอบฉากต่อสู้เยอะๆหนีไปอ่านเรื่องอื่นเพราะช่วงแรกไม่มีฉากต่อสู้ที่พวกเขาอยากได้มั้ง ส่วนพวกที่อยู่มาจนถึงตอนท้ายโอเคกับเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยมีฉากต่อสู้ พอหลังๆมาเยอะก็เลยหนีบ้าง ส่วนคนพวกแรกก็อ่านไม่ถึงช่วงที่ต่อสู้เยอะ หรืออีกประเด็นคือฉากต่อสู้ไม่มีอะไรให้เม้น สู้กันคนนั้นชนะ จบ
กูขอถามได้ไหมว่าวายแฟนซีกับรักเซตติ้งแฟนซีมันต่างกันยังไง....
>>897 เปล่า โฆษณากับกูคนเดียว กูแค่อยากอ่านเฉยๆ ขอโทษที่พิมพ์ชวนเข้าใจผิด
>>898 สำหรับกู วายแฟนตาซี คือวายที่ดำเนินเรื่องเหมือนนิยายแฟนตาซีปกติเน้นต่อสู้ผจญภัยดราม่าการเมืองอะไรก็ว่าไปแต่ตัวเอกดันชอบผู้ชายด้วยกัน อารมณ์นิยายเอนเธอร์ที่รักกันจริงไม่ใช่แค่จิ้น ส่วนรักเซ็ตติ้งแฟนตาซี แกนเรื่องคือความรัก เน้นความรักเป็นหลัก แม้โลกที่ดำเนินเรื่องจะไม่ใช่โลกปกติหรือโลกปกติแต่มีสัตว์ประหลาด เวทมนตร์
>>898 เน้นรักเดินเรื่อง กับเน้นเนื้อเรื่งรักเป็นแต่ส่วนประกอบ
ยกตัวอย่าง นารูโตะ วันพีซงี้ แฮรี่พอตเตอร์ แนวนอมอล เน้นเนื้อเรื่อง รักมีคู่ตอนจบได้ แต่มันไม่ใช่การ์ตูนรักแบบโชโจมังงะ รักแฟนตาซีวายคือแนวโชโจเซ็ตติ้งแฟนตาซี แนวแฟนตาซีวายคือ แฟนตาซีที่คู่หลักเป็นชายชายอะ แต่เนื้อเรื่องมันจะเยอะกว่าไม่เน้นรักมาก ปูถึงคนรอบๆตัว
มีวายแฟนตาซีเรื่องไหนแนะนำบ้าง ตอนนี้ที่ชอบๆอยู่มีแค่ 3 เรื่องเอง อันนึงยังไม่จบ นข เขียนยืด อีกอันจบแล้ว และอีกอันเน้นพร
ซึ่งวายแฟนตาศีอะเขียนยาก เพราะนักอ่านมักจะเรียกร้องหาแต่พระนาย ติว่ารักน้อยไป โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าเขากำลังยัดเยียดรักแฟนตาซีมาใส่นิยายแฟนตาซี
คนเขียนวายแฟนตาซีไม่ค่อยมีคนอ่าน คนอ่านวายแฟนตาซีไม่ค่อยมีเรื่องอ่าน ประเด็นคือไม่มีกรมจัดหานิยายเหมือนกรมจัดหางาน ผู้ขาดแคลนทั้งสองฝั่งเลยไม่ได้เจอกัน หมวดนิยายวายก็รวมหลายแนวจนคุ้ยยาก
พอเห็นภาพละ ของกูถ้ามีปัญญาเขียนจบก็น่าจะจัดเป็นวายแฟนซี และปัญหาเหมือนกับที่พวกมึงพูดมาเลย
ตรงกูไม่รู้จะเอาเรื่องความรักไปโผล่ส่วนไหน ไอ้สัสมีแต่เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ตัวพระนางเลย
จนกูจะโยนมันไปเป็นนิยายแฟนซีไม่มีความรักละเนี่ย
นิยายขาประจำที่แนะนำวนกัน ทำไมกูนึกออกเลยวะว่ามีเรื่องไหนบ้าง ถถถถถถถถ ขาดแคลนจังโว้ย
กูรู้สึกว่ามู้นี้คึกคักกว่าที่คิดไว้อ่ะ แปปเดียว900กว่าแล้ว แม้ส่วนใหญ่จะเป็นคำถามวน กับศาลาคนเศร้าอ่านะ 😂
กูพยายามจะแชร์ความแหวกที่เคยพบเจอ จะได้ไม่เป็นศาลาคนเศร้า พวกมึงเคยเจอนอ.มาถามอะไรแปลก ๆ มั้ยวะ เช่น เวลาเขียนฉากเข้าพระเข้านาย (แค่เข้าพระเข้านายนะมึง ไม่ใช่ nc) ไม่รู้สึกแปลก ๆ หรือจั๊กจี้บ้างเหรอ หรือแบบถามว่ามึงเป็นหญิงหรือชาย ทั้งที่กูก็โชว์ความสาววายชิบหาย เหลือแค่โชว์บัตรปชช. หรือมาถามเกี่ยวกับมาร์เก็ตติ้งของสนพ. แถมอะไร ทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมแพง ทำไมๆๆๆๆ กูจะรู้มั้ยยยยยย มึงเอาเบอร์มั้ย กูจดให้
แนะนำนิยายกูหน่อย
กูชอบเขียนแนวเมะตัวเล็กเคะตัวใหญ่ๆอะ ละมันจะมีพวกนักอ่านบางคนเม้นซะเหมือนกูกำลังฝืนกฎธรรมชาติ กูแบบ...
เออ แต่นิยายวายกุแทบไม่เคยเห็นแนวต้องเดาพระเอกเลยวะ ชายหญิงมีเยอะนะ จนสงครามเรือตีกัยมันส์หยด ลุ้นกันชิหาย แต่วายแทบหาไม่เจออะ มีแต่แบบล๊อกคู่แต่ต้น
ปรึกษาหน่อยดิ พวกมึงทำยังไงให้คนเข้าอ่านนิยายวะ คือกูไม่แน่ใจว่าคนอื่นเขามีโปรโมทอะไรเยอะไหมหรือเขียนๆลงไปคนก็มาอ่านเอง แนวที่กูเขียนมันไม่ใช่แนวคนนิยมด้วย
>>922 กูเคยเจอนิยายที่คนจิ้นผิดโพเยอะมาก ถ้าคนเขียนไม่ซีเรียสก็จะพูดเป็นนัยๆในทอล์กหรือทวิตไป ก็ลดความพลิกตลบในใจคนอ่านได้ระดับนึงนะ ให้มีเวลาทำใจก่อนเจอฉาก แต่ถ้ามันมีผลกับเรื่องก็ปล่อยเลยตามเลยไปเถอะ
>>924 กูเจอนะ แต่ไผๆมาๆจากที่จะเชียร์ใครให้ได้กับนายเอกดี ใจกูกลับผิดผีจับตัวเต็งพระเอกมาได้กันเองในใจซะงั้น
KY คิดเห็นยังไงถ้าเขียนนิยายแฟนตาซีที่คู่หลักเป็น NL และให้คู่รองเป็น BL
คนอ่าน NL จะยี้ตอนถึงบทของ BL มั้ย
คนอ่าน BL จะอ่านโดยรวมรึเปล่าเพราะไม่ใช่บทหลัก
กูไม่ยี้นะ กูอ่านได้หมดอยู่แล้ว นักอ่านของกูหลายคนก็ไม่อ่านวายแต่อ่านนิยาย BL ของกูได้เลย กูแนะนำว่าอย่าเขียนติดเรตก็พอ ถ้าไม่ติดเรตแถมยังเป็นคู่รอง นักอ่านผู้ชายยังอ่านได้เลยมึง แต่มึงอย่ามุ่งทำยอดกับนักอ่านสายวายเพราะมันเน้นแฟนตาซีใช่มะ มันคนละสายกัน
Ky เขียนฉากต่อสู้ยังไงให้สนุกไม่ให้นักอ่านอ่านข้าวะ
ไม่ค่อยมีอารมณ์จะเขียนนิยายเลย
Ky เวลายอดเฟบลดพวกมึงรู้สึกยังไงวะ กูเห็นแล้วห่อเหี่ยวชหิไม่มีกำลังใจแต่งต่อเลย TT
มึง กูอยากได้เทมเพลตเวลาจัดหน้าในเวิร์ดอ่ะ เทมเพลตปกอะไรประมาณนี้ แบบต้องเว้นยังไง เผื่อยังไง เรียงหน้ายังไง กูอยากทำหนังสือเอง มีใครพอจะแขวนลอยๆ ให้กูได้บ้างมั้ยยยย พลีสสสส
กู 945 คิดซะว่ากูไม่ได้ขอก็แล้ว ขอบคุณมาก
กูเคยจัดเอง ลำบากเหลือเกิน ตรวจแล้วตรวจอีก จ้างเอาดีกว่า
กูเคยจัดเอง ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น แต่ใช้เวลานาน ทางที่ดีมึงลองปรึกษาโรงพิมพ์ดูนะ
ขอบคุณทุกคนมาก
มึงว่าจองกับ readawrite นี่ยากป่ะ กูไม่เห็นค่อยเห็นใช้กัน
ถามหน่อยสิ อยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้ ถ้าแต่งนิยายส่งสนพ.เลยโดยตรง แบบไม่เคยลงเน็ตมาก่อน จะมีสิทธิ์ได้ตีพิมพ์ไหมอ่ะ หรือโอกาสจะน้อยกว่าลงเน็ตมาก่อนปะ
Ky ขอนิยามคำว่านิยายฟีลกู้ดหน่อย มันเป็นนิยายแนวไหนอ่ะ แบบอ่านได้เรื่อยๆ สบายๆ เนื้อความสัมพันธ์พระนาย โครงเรื่องคือยุคปัจจุบันแนวมหาลัย แนววัยทำงานงี้ป่ะ
มึง ๆ ถ้าเป็นพวกมึง มึงจะทำไงวะ สมมติมึงลงนิยาย 8 เว็บ ในนั้นมีเว็บนึงแม่งมีกฎห้ามลบ มีอีก 7 เว็บสามารถปิดตอนได้ แล้วมีสนพ.มาติดต่อซื้องานมึงไปพิมพ์ เงื่อนไขคือต้องลบนิยายหรือปิดตอน เพราะมีผลกับการเลือกซื้อนิยาย แต่ๆๆๆๆ คนที่ตามอ่านงานมึงทำให้มึงรู้สึกว่าพวกเค้าเกลียดนข.ที่ปิดตอนหรือลบนิยายมาก
แต่งจบแล้วลงในเล้าเป็ดแจ้งลบจะโดนไรมั้ย
Ky ลงนิยายจบแล้ว ยอดเฟบลดฮวบๆ นี่ปกติปะวะ
กู 963 ขอบใจพวกมึงมากที่ตอบ สนพ.เค้าบอกกูว่าคนอ่านฟรีแล้วไม่ซื้อ แต่กูกลัวโมฯ เว็บนึงด่า กลัวคนอ่านด่าซ้ำ จริงอย่างพวกมึงว่า กูจะเอาตังค์มาแ-กข้าวหนือแคร์ความรู้สึกคนอื่น
Ky เพื่อนโม่ง นักอ่านถามว่านิยายกูฮาเร็มมั๊ย พอกูบอกว่ามีพระเอกคนเดียว นักอ่านคนนั้นก็หายสาบสูญไปจากนิยายกูเลยว่ะ กูทำผิดอะไร Orz
กูมาถามต่อจากมู้นักเม้า ปกตินิยายทำมือพิมพ์กับโรงพิมพ์ไหนกันอ่ะ กูอยากพิมพ์นิยายขายเองไม่ส่งสนพ แล้ว มีโรงพิมพ์ดีๆ แนะนำกูบ้างมั๊ย
Ky เม้นบนๆ ที่บอกว่าวันจันทร์-ศุกร์คนอ่านนิยายเยอะกว่า แต่ทำไมกูรู้สึกว่าเสาร์อาทิตย์คนอ่านเยอะกว่าวะ
กูที่เคยมาถามเรื่องโรงพิมพ์เมื่อต้นๆ มู้
กูลิสต์รายชื่อโรงพิมพ์ที่กูไปตามส่องมาให้เลยแล้วกัน
Impress
Fastbook
The white page
Neo digital (ยังไม่เคยคุยด้วย)
Purinto
วัชรินทร์ (มีขั้นต่ำ 300 เล่ม)
ทุกโรงพิมพ์(ถ้ากูจำไม่ผิด)สามารถพิมพ์ออกเซ็ตได้ ราคาแตกต่างกันไป เช่น ของแถมพวกโปสการ์ด ที่คั่น กระดาษปก และเทคนิคพิเศษอื่นๆ
กูขอบ่นประสบการณ์กูให้ฟังด้วยเลยแล้วกัน
หาโรงพิมพ์ ก่อนคำนึงถึงราคา มึงหาโรงพิมพ์ที่คุยกับมึงรู้เรื่องก่อนนะ ไม่งั้นมึงจะปวดหัว
กูไปงม ถามๆ มาหลายที่ บางที่ตอบปัดๆ บางที่อธิบายดี บางที่บอกแต่ว่าแพงมาก แต่ไม่บอกราคา ดังนั้น กูแนะนำว่า จะพิมพ์อะไร มึงจดสเปคมาเลย
ขนาดหนังสือ
จำนวนหน้าสี
จำนวนหน้าขาวดำ
มีพินอัพมั้ย
กระดาษปกใช้กระดาษอะไร
เคลือบหรือเปล่า
และพิมพ์จำนวนกี่เล่ม
ใช้เทคนิคพิเศษที่หน้าปกหรือเปล่า (เทคนิคพิเศษคือ พวกสปอต uv / ปั้มฟลอยด์ / ปั้มนูน หาดูรูปตัวอย่างว่าอย่างไหนเรียกอะไรที่วัชรินทร์ ชัดดี)
สุดท้ายมึงไปดูตามนข.ที่เล่มเค้าดีๆ ไปส่องกล่องว่าใช้โรงพิมพ์ไหน แล้วมึงค่อยตัดสินใจ บางที่มีรับทำเล่มตัวอย่างด้วย พวกมึงลองดูแล้วกัน
สำหรับกู ถ้าเป็นมิตรหน่อยก็อิมเพรส ราคาโอเค เดี๋ยวนี้สีไม่ค่อยเพี้ยนแล้ว แต่บางทีก็งงๆมึนๆ
ถ้าจะทำเทคนิคพิเศษต่างๆต้องถามดีๆว่าตอนรีปรินท์ราคาเท่าไหร่
Ky ปกติพวกมึงจ้างนักวาดปกใบ้งบปกละเท่าไหร่ 3,000 - 10,000 ใช่ราคามาตรฐานมั๊ย
อยากจ้าง แต่กลัวไม่คุ้มคนจองนี่ดิ
พวกมึง อยากถามหน่อยว่าถ้ากูจะตีพิมพ์นิยายแต่พิมพ์ไซส์ B6 นี่มันจะโอเคป่าววะ เนื้อหาแนวฟีลกู้ด ไม่ยาวมาก เล่มเล็กๆ แบบนี้จะมีคนซื้อป่าว หรือว่าต้อง A5 เท่านั้น
B6 ก็ไม่ได้แย่ เล่มกะทัดรัดดี
ปิดยอดให้ มู้นี้คนเยอะกว่าที่คิดนะ 555555
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.