>>439 เรื่องอาชีพนี่แม่งก็พูดยาก common sense และจรรยาบรรณอาชีพก็ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องรายละเอียดการเรียน/ทำงานเนี่ยบางสถาบันแม่งยังไม่หมือนกันเลยเหอะ อย่างหมอเนี่ย (ไม่ได้เกี่ยวกับตัวอย่างที่มึงยกมา แต่ขออธิบายจากความเข้าใจของตัวเองที่รับรู้มา)
ตอน preclinic มีเรียนเป็น block บ้าง เรียนเป็น system บ้าง ขึ้นกับสถาบัน
สถาบันหนึ่ง พอขึ้นปี 4 อ. จะเรียกนศพ. ว่าหมอแล้ว และเวลานศพ.ปี4 คุยกับคนไข้ อ.มักจะบอกว่าควรแทนตัวเองว่าหมอ (ถ้าผู้ชายก็ง่ายหน่อย สามารถใช้ ผมได้ แต่ผู้หญิงไม่ควรใช้หนู) เช่น "สวัสดีค่ะ หมอเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสี่ วันนี้ บลาๆ"
รึการอยู่เวร บางสถาบัน ปี 5แม่งต้องอยู่เวรข้ามคืนแล้ว บางที่ยังอยู่เวรถึงแค่เที่ยงคืน ส่วนปี 6 บางที่ได้เป็นผู้ช่วยมือ 1 ไม่ก็มือ 2 ในการผ่าไส้ติ่งแล้ว บางที่แม่งยังเป็นจิ้งจกเกาะผนังอยู่เลย
เรื่องกาวน์ยาวกาวน์สั้นอีก
ส่วนพวกที่แต่งให้นศพ.ไปกินเหล้าเข้าบาร์ ต่อให้เป็นเรียนแพทย์ชั้น clinic บางวันมันก็ยังพอไปได้เว้ย (แต่จะไปได้ติดๆกันมั้ยนี่กูก็ไม่กล้าฟังธง)
ตอนปีหกไปวนรพ.นอก ก็มีสิทธิ์ทั้งต้องรับเคสเองแล้ว consult สตาฟโดยตรงเลย หรือบางรพ.ที่ไปวนก็มี intern เป็น buffer ก่อน โชคดีกว่านั้นก็มี resident ที่มาวนช่วงนั้นพอดีดูทับให้อีก อาจไม่ต้อง contact กับสตาฟแม้จะเป็นเวลานอกราชการก็ได้
ส่วนตัวอย่างที่มึงยกมา plasmodium ที่มึงพูดนี่คือ พวก vivax หรือ falciparum ถ้า Dx ตาเปล่าได้แม่งก็เวอร์จริง (หมายถึงใช้ตาเปล่ามอง slide เฉยๆ) แต่ถ้าอาศัยประวัติโดยเฉพาะประวัติการเดินทาง อาการทางคลินิก ตรวจร่างกาย แล้วขอ slide blood smear มาดูใต้ light microscopy มองหาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเจอ มันก็อาจเป็นไปได้ แต่โอกาสก็น้อยอะนะ ถ้าสงสัยมาลาเรียจริงแม่งส่ง thick film แล้วรอห้องแลปรายงานผลมาจะง่ายกว่ามาก