เจอสนพ.โป๊ะแตกว่ะ
Last posted
Total of 1000 posts
เจอสนพ.โป๊ะแตกว่ะ
ในโม่งจะรวมคนประเภท
1.สนพ
2.คนเขียน
3.คนอ่าน
4.คนเสี้ยม
5.คนถูกด่า
6.ม้า
7.โทรล
ก็แค่นั้น
มีนางฟ้ามาเล่นโมงป่าววะ 55555 ตอนแรกพิมพ์ว่า คนเข้าโม่งมาเพื่อด่าๆๆ มาดิส มาขัดขา มีแต่ค่าย สนพ อ่านๆแล้วคิดว่าเข้ามาเพื่อด่า แต่ความเห็นล่างดันบอกว่า เห็นใจทุกค่าย เอ้าเข้ามาเพื่อเห็นใจ สรุปเข้าโม่งมาทำไรกันแน่ ย้อนแย้งจัง
กูมองว่าโม่งก็คือโม่ง จุดประสงค์หลักคือการดูความเห็นโดยไม่สนว่าใครพิมพ์ ในเมื่อระบบออกมาแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดว่าใครพิมพ์ แค่ดูความสมเหตุสมผลของความเห็น ถ้าดีก็อ่าน ไม่ดีก็ท้วง เนื้อแท้เป็นไงก็เป็นงั้น ใช้วิจารณญาณในการอ่านไม่ใช่หลงไปตามกระแส อะไรที่ไม่มีหลักฐานก็ฟังหูไว้หู ไม่ใช่เห็นคนด่าก็พาลเกลียดพาลด่าเขาทั้งที่ไม่รู้ว่าจริงๆเขาทำอะไรผิด
ky มีความสงสัยทำไมบางคนด่าออกตัวแรงๆ กันขนาดนั้น นั่นคือตัวตนหรือ ถกกันให้เรื่องเหตุผล แบบว่าไม่ดี ไม่ดีอย่างไร รับฟังคนที่เห็นต่างบ้าง บางคนพอไม่เห็นด้วยกับเขาก็หาคำว่าเหมือนจะเอาให้ตายไม่ฟื้น เราเป็นคนหนึ่งที่เข้ามาเผื่อหาข้อมูลในการตัดสินใจอะไรบ้างอย่างให้รอบด้าน แต่มาเจอทะเลาะกันเองแบบที่หาทางลงกันไม่ได้ทุกที
>>792 ใครด่าแรงเกินเบอร์ก็โดนโม่งด่าอีกทีเหมือนกัน หัวร้อนไปไหนบ้าง แรงมาจากไหนบ้าง
หลายเรื่องมันมองคนละมุมก็เอาเหตุผลของตัวเองมาพูด แต่ความคิดมันก็ไม่ได้เปลี่ยนกันได้ จบที่หาทางลงไม่ได้ก็ปกติ เหมือนโต้วาทีข้าวผัดกะเพรากับข้าวไข่เจียวอะไรอร่อยกว่า ต่อให้อะไรชนะ คนก็ไม่เปลี่ยนความคิดไปชอบอีกอย่างอยู่ดี
สำหรับกูโม่งก็คือโม่งอะมึง ร้อยพ่อพันแม่ ฟันธงไม่ได้หรอกว่าใครเป็นใคร บางคนก็แค่อยากกะมาบ่นมาระบายมาหวีดเฉยๆ
อย่าทะเลาะกันเรื่องนี้อีกเลย แต่เล่นโม่งต้องแกร่งพอตัว แกร่งที่จะอ่านในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคิดของเรา แกร่งพอที่จะปล่อยวางกับอะไรที่เถียงไปก็ป่วยการ แกร่งที่จะมีวิจารญาณ
ตั้งแต่กูเล่นโม่งมาก็เถียงกันเรื่องนี้ตลอด
กูคนเริ่มอึดอัดเอง แต่กูไปต่อไม่รอแล้วนะ 555555555 กูก็แค่เอออยากบอกในสิ่งที่คิด
Ky พวกมึง สนพ เลือกนิยายในดด จากยอดเฟบ ยอดเม้น ไม่ค่อยดูเนื้อหานิยายจริงอ่อวะ
>>804 พวกสนพก็เลือกแบบนี้ทั้งนั้นแหละไม่งั้นจะเอายอดมาจากไหน กูไม่เชื่อว่าพวก ซบ ดีฟ อวว จะอ่านนิยายตัวเองจริงๆเช่น อวว ก็เลือกจากตรงนี้ ไม่ค่อยมีใครเลือกจากอ่านแล้วชอบ เพราะไม่เคยอ่านกัน เพราะคนรู้จักเคยเล่าให้ฟัง แต่คนที่อ่านจริงๆก็มีแหละเพราะยังไง บก ก็ต้องอ่านตอนตรวจ ก็เท่ากับว่าอ่านไง
กูว่าส่วนนึง ออว เดี๋ยวนี้ส่วนมากจะเน้น นข ที่เคยตีพิมพ์ด้วย ซบ กูเห็นหลายเรื่องยอดเฟบไม่เยอะก็ได้ตีพิมพ์นะ อันนี้ไม่ได้อคตินะเว้ย แต่ ฟฉ นิยายทุกเรื่องเน้นยอดอ่านเยอะที่ติดท็อปใน ดด ทั้งนั้น
Ky พวกมึงชอบให้นิยายออกทีเดียวเป็นเซ็ต ซื้อทีเดียวจบหรือว่าทยอยออกทีละเล่ม
ถ้าเลือกได้ก็แบบเซต กูชอบอ่านจบเป็นเรื่องๆ
อวว.เค้ายังรับต้นฉบับคนอื่นที่ไม่ใช่นข.ในสังกัดมั้ยวะ
ky เวลาพวกมึงอ่านนิยาย มึงรู้สึกได้มั้ยว่านข.ที่เขียนเรื่องนั้นแม่งต้องมีอะไรในใจ หรือมีแนวคิดบางอย่างที่โผล่มาในงานเขียนแบบไม่รู้ตัว
เพื่อนกูเคยกล่าวไว้ว่า งานเขียนบางคนอ่านแล้วรู้เลยว่าคนเขียนฉลาดหรือไม่ฉลาด
>>830 5555555555555555 ขำมึง เอวบางขาบาง
แต่ก็จริงนะ นิยายแม่งสะท้อนอะไรหลายอย่าง กูเคยเขียนนิยายเป็นสิบกว่าปีแล้วแม่ง กูเป็นพวกปลงต่อโลกมากๆ ตัวละครกูออกมาแม่งปลงต่อโลกกันชิบหาย ไม่กล้ากลับไปอ่าน กลัวตัวเองปลงต่อตัวเองขั้นสุด กูเลยหันมาเป็นนั่งอ่านอย่างเดียว ปลงต่อนิยายหลายเรื่องแล้ว
>>718 มาตอบมึงเรื่อง ฝ เรื่องนั้นกูเคยสงสัยถามทางฝ ไปเมื่อนานมาแล้วเค้าตอบแบบนี้
เซ็ตแรกทำชุดสะสมเพราะเสียดายภาพน่ะค่ะ เนื่องจากมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนนักวาดกะทันหัน ภาพที่วาดมาแล้วเลยนำไปจัดทำเป็นชุดสะสมค่า
//แอด ป
ส่วนอีกเรื่องที่กูอยากถามเรื่องฝ คือใครอ่านเรื่องผกก อันใหม่แล้วบ้าง อยากถามเป็นความรู้นะว่าเรื่องโรคซึมเศร้านี่เป็นแบบเนื้อเรื่องมั้ย กูจะได้เอาไปสังเกตคนรอบข้าง เพราะเคยเห็นโม่งคุยเรื่องโรคนี้ตอนของจตว่าไม่ใช่เลย เพี้ยนไปหมด (ออกตัวว่าเคยอ่านบทความเชิงวิชาการของโรคนี้แล้วแต่มันเห็นภาพไม่ชัดแบบนิยายเลย)
วิธีที่ถูกคือไม่ต้องทำ ไม่ต้องมีไรเพิ่ม เล่มอื่นไม่ต้องทำเพิ่ม จบปิ้ง ถถถถถ
นึกถึงเรื่อง flesh and blood ที่ดปลี่ยนคนวาดภาพประกอบเลย
ตลาดล่างจังบางเม้น 5555555 พอเป็นค่ายที่ถูกใจกูขอแซะคนติคนแนะนำไว้ก่อนงี้เหรอ ไม่ต้องทำเหมือนๆกันกูยอมรับได้หมดงี้ หนูรัก ฝ ค่ะ แผล่บๆๆๆๆ
>>836 ยังไม่ได้อ่านตอบไม่ได้ แต่อยากบอกว่า อย่าไปยึดถืออะไรมากในนิยาย โรคทางจิตเวช มันหลากหลายมาก คนรู้จักเค้าแปลกไปแนะให้ไปพบจิตแพทย์ หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ให้ทานยา แต่เค้าแย่ลงมาก บอกให้หาsecond opinion ก็ไม่อยากไป จนเข้าไอซียู ต่อมาบอกไม่อยากหายใจ วุ่นกันไปหมด เลยยอมไปอีกรพ.ที่เฉพาะทางมากกว่าตจว. หมอบอกไม่ใช่ โรคซึมเศร้า เป็นอีกโรค ต้องใช้ยาอีกแบบ. ชนาดหมอยังพลาดได้เลย แค่นักเขียนเค้าก็หยิบเคสบางเคสมาอ้างอิง
หรืออย่างนขเรื่องเด็กออ ก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นกันทุกคน แค่ละม้ายๆ เพราะมันมีหลากหลายมาก
>>824 มี ขอยกตัวอย่าง ฉากพระเอกรับสาย/อ่านข้อความนายเอกระหว่างกำลังประชุมบริษัท เจอหลายเรื่องละ คนเขียนไม่ได้มองว่าไอ้ที่นั่งเรียงอยู่ในห้องนั่นคือพนักงาน เป็นผู้ร่วมประชุมที่ควรรักษามารยาทต่อกัน แต่เป็นหัวหลักหัวตอ ไม่ก็ลูกน้องที่จะประพฤติใส่ยังไงก็ได้งั้นสิ
ในทัศนคติกูนี่เป็นการกระทำของคนไม่มีมารยาท ไม่รู้จักกาลเทศะ และไม่ให้เกียรติผู้ร่วมประชุมเลยอ่ะ แต่ในนิยายมักใส่มาเป็นฉากเล็กๆ ฉากตลกๆ ท่านประธานยิ้มใส่โทรศัพท์ด้วย! ใครกันที่อยู่อีกฟากของสาย o_O!? ทุกคนตกใจ อะไรแบบนี้ และคาแรกเตอร์พระเอกก็ยังเป็นท่านประธานผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มยากทรงอิทธิพลที่ทุกคนนับถือเหมือนเดิม
เอาจริงๆ กูมีปัญหาเรื่องทัศนคติในองค์กรที่ไม่สอดคล้องกับนักเขียนนี่ล่ะ 555 ทัศนคติกู ลูกน้อง = เพื่อนร่วมงานที่ทำงานภายใต้สโคปที่เราออกแบบ =/= ขี้ข้า กูเลยมีปัญหากับนิยายที่พระเอกเป็นประธานพวกนี้สุดๆ
แต่เอาจริงๆ นักเขียนผิดมั้ย? ก็คงไม่ เพราะบางองค์กรก็ ลูกน้อง=ขี้ข้า จริงๆ แต่กูเคืองที่ทุกตัวละครมองว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐาน เป็นสิ่งที่ถูกต้อง พระเอกจะใช้เลขาวิ่งไปซื้อของขวัญให้นายเอกกลางดึกก็ได้ไรงี้มากกว่า ถือว่าทัศนคติเราไม่ตรงกัน
>>847 ไม่โอกับลูกน้อง = ขี้ข้า เหมือนกัน มันต้องลูกน้อง = เพื่อนร่วมงานดิ ทัศนคติแบบโบราณเต่าล้านปีฉห เห็นด้วยเรื่องประชุมอยู่ดูโทรศัพท์อมยิ้ม มันคือการไม่ให้เกียรติกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเข้าของ เป็นนายเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่คุณต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนทำงานร่วมกันเห็นก่อนจะด่าคนอื่นได้
ลูกน้อง = ลูกน้อง คนละชัน ไม่เกี่ยวกับเต่าล้านปีหรือกดขี่อะไร พวกมึงมโน ขี้ข้า เพื่อนร่วมงานอะไรกัน อีห่า มึงเคยเห็นบริษัทใหญ่ๆผู้บริหารไปกินข้าวกับพนักงานมะ แล้วพวกพนีกงานก็กลัวผู้บริหารทั้งนั้น ทำไรในห้องประชุมก็ประมาณนี้แหละ อย่ามาเถียงเลย ถ้าจะเถียงขอเรฟด้วยนะ ไม่ต้องมาอ้างพวกบริษัทเล็กๆหรือพวกออฟฟิศในครัวเรือนนะ แบบ ของกูเคยไปกินข้าวกับหัวหน้าสนิทกัน โฮ้ยมันคนละดลกค่ะลูก ตื่น
เอาจริงๆ มันมีผู้นำในองค์กรหลายแบบนะ แล้วแต่ว่านข จะนำเสนอแบบไหนออกมา มันมีผู้นำแบบเผด็จการที่เน้นสั่งงานอย่างเดียวไม่ได้เข้ามาคลุกคลีกับลูกน้อง เน้นเรื่องการตัดสินใจเด็ดขาดฉับไว ผู้นำแบบนี้มักอยู่ในองค์กรที่เป็นลำดับขั้น มีสายงานการบังคับบัญชาเยอะ กับผู้นำแบบประชาธิปไตยเน้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน รับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วนซึ่งผู้นำแบบนี้มักอยู่ในองค์กรแนวราบ
แต่การแค่ประธานรับสายหรืออ่านข้อความในที่ประชุม ก็ตีไปแล้วว่าเห็นลูกน้อง=ขี้ข้าก็เกินไปหน่อยไปอะ อย่าว่าแต่วัฒนธรรมองค์กรในประเทศเดียวกันไม่เหมือนกัน วัฒนธรรมต่างประเทศก็ไม่เหมือนกันนะ ฉากที่เมิงว่านี่ ส่วนใหญ่ชอบเห็นในนิยายจีนอะ ซึ่งมันเป็น stereotype ของบ้านเค้าไง มันถึงกับมีคำเรียกด้วยนะว่าคาแรคเตอร์แบบประธานจอมเผด็จการอะ( 霸道总裁) แสดงว่ามันมีอย่างนี้จริงในสังคมบ้านเขา ซึ่งปกติสังคมบริษัทจีน หัวหน้ากับลูกน้องมันก็คนละระดับขั้นจริงๆ แต่ไม่ได้ถึงขั้นเป็นชนชั้นเจ้านายกับขี้ข้าขนาดนั้น
กูไม่อะไรกับปกสะสมภูตสวาทนะ กูเข้าใจที่แอดป.ตอบด้วย แต่กูมีปัญหากับการซื้อในเวปส้มของ ฝ คือกูงงว่า ทำไมใช้โค้ดลดค่าส่งแล้วยังโดน 25 บาทอีก ซื้อเล่มเดียวร้านอื่นแม่งเพิ่มเต็มที่ 15 บาทแถมส่งเคอรี่อีก ส่วน ฝ แม่งกี่เล่มก็ 25 แต่ประเด็นคือกูซื้อเล่มเดียวไง ทำไมต้องรับสภาพที่ 25วะ ตลก
เมื่อก่อนฝูยังส่งฟรีลทบอยู่เลย ตอนนี้ไม่ฟรีแล้วเหรอวะ
>>858 กูหมายถึงว่า มันทุเรศที่จะมาบอกว่าทุกคนที่เห็นต่าง = มโน บอกให้ตื่นงั้นงี้ มีการเรียกร้องของเรฟ (ใครมันจะบอกข้อมูลที่ทำงานตนเองในโม่งวะ) เอาความคิดตนเองเป็นใหญ่มาก เจ้านายเหี้ยทำตามอำเภอใจมีอยู่จริง กูไม่เถียง แต่เพราะมันมีให้เห็นทั่วไป ไม่ได้แปลว่ามันถูกต้องหรือมันเหมาะสมนะมึง กูควรจะยอมรับให้เจ้านายทำตัวเหี้ย ๆ ตามใจตนเอง เพราะหลายที่เขาทำกันเหรอวะ ในนิยายถ้าจะเขียนถึงตัวละครแบบนี้มันก็ไม่ผิด กูเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นจริง และนักเขียนเขาอาจจะอยากเขียนตัวละครเจ้านายเหี้ยเผด็จการ แต่ถ้าทำตัวเหี้ยแล้ว ตัวละครทั้งเรื่องแม่งยังเห็นดีเห็นงามไปหมด มานั่งอิ๊อ๊างชื่นชอบเคารพเจ้านายทั้ง ๆ ที่ทำตัวส้นตีน แถมเขียนเยินยอว่าที่่เจ้านายทำมันถูก ไม่ต้องรับผลตามมาใด ๆ กูว่ามันก็ส่อให้เห็นทัศนคติคนเขียนนิดหนึ่งนะมึง ไม่สมจริงด้วยสำหรับกู ต่อให้ทุกคนกลัวเจ้านายจนไม่กล้าขัดห่าเหวอะไร อย่างน้อยแม่งก็ต้องมีสักคนที่ไม่พอใจแต่ไม่แสดงออก
>>860 มึงคิดมาก เรฟก็ไม่จำเป็นต้องบอกข้อมุลที่ทำจริงๆ มีงก็หลอกมันสิ 5555555 แต่เรื่องไม่พอใจแต่ไม่แสดงออก ก็สังคมทำงานสมจริงดีนิ่ ก็ไม่กล้าแสดงออกแล้วนิยายจะเขียนถึงทำไมแล้วมันก็ไม่ใช่พ้อยของนิยายที่ต้องมาโฟกัสความรู้สึกพนักงานมันเป็นแค่ฉากๆนึงมั้ย สรุป กูงงมึง 65555555 อีกอย่างมีคนไม่พอใจเจ้านานบริษัทใหญ่ๆแล้วทำไรได้ด้วยเหรอ ก็ไปนินทากันตอนพักเที่ยงไง
>>847 กูก็เห็นด้วยนะเรื่องหัวหน้าต้องให้เกียรติลูกน้องอ่ะ แต่แค่อ่านข้อความในห้องประชุม มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอวะ ยังไงก็ต้องอ่านถ้ามีข้อความเข้า ถ้าเป็นเรื่องด่วนล่ะ แล้วยิ้มคือกูว่าเวลาเห็นอะไรดีๆมันก็ห้ามยิ้มตัวเองยากอะนะ
สรุปคือเห็นด้วยที่บอกว่าควรมีมารยาทในที่ประชุมนะ แต่การอ่านข้อความแล้วอมยิ้มมันก็ไม่ได้ไร้มารยาทขนาดนั้นป่ะ ไม่ถึงขนาดลูกน้องเป็นหัวหลักหัวตอล่ะเนอะ
มันก็แค่ ไม่ชอบนิสัยตัวละครประเภทเจ้านายที่เอามือถือมาเปิดเล่นดูเมียแล้วยิ้มทั้งที่เป็นเวลาประชุมไม่ใช่เหรอ ไม่ได้บอกว่ามันไม่เกิดขึ้นจริงสักหน่อย
เหมือนกูบ่นว่าไม่ชอบนายเอกที่ไปท้าผู้หญิงตบเหมือนสก๊อยแย่งผัว ไม่ชอบตัวนายเอก ไม่ชอบทัศนคติที่ท้าตบไปทั่วแล้วสื่อว่าเป็นเรื่องดี แรงดี ชอบๆ แต่กูก็รู้ว่าชีวิตจริงคงมีแหละ
>>861 งั้นขอกูสรุปสั้น ๆ ละกัน กูก็ไม่เข้าใจว่ามึงงงอะไรของมึง นักเขียนเผลอหลุดทัศนคติเข้ามาในนิยายจริงไหม > จริง ยกตัวอย่างเช่นฉากเรื่องเจ้านายทำตัวเหี้ย แต่ทั้งเรื่องไม่เคยแสดงให้เห็นว่าที่อีนี่ทำมันเหี้ย > ถ้านักเขียนจะเขียนถึงพฤติกรรมเหี้ย ๆ ก็ควรจะสื่อด้วยว่าแม่งเหี้ย > เพราะไม่งั้นมันดูเหมือนว่านักเขียนมองว่าพฤติกรรมแบบนี้ถูกต้อง ยอมรับได้ > และคนที่เขาทัศนคติไม่ตรงกับคนเขียน (กู) ก็พาลไม่อยากจะอ่าน มันคิลมู้ด กูไม่ชอบ กูก็ไม่ได้บอกว่าพนักงานแม่งต้องลุกขึ้นจิกหัวท่านประธานตบกลางห้องประชุมป่าววะ 555555 จะสื่อว่ามันผิดยังไงก็เรื่องของนักเขียน จะนินทากันตอนพักเที่ยงหรือห่าเหวอะไรก็แล้วแต่ ส่วนเรื่องเรฟ เออ กูคิดมาก ไว้คราวหน้ากูจะตอแหลก็แล้วกัน
>>865 ไม่มีใครประชดว่า บ เล็ก แค่บอกว่า บเล็กอาจจะทำได้แบบนั้น แต่ บใหญ่ ผู้บริหารไม่มีทางเป็นเพื่อนร่วมงาน คนเราถ้ารู้สึกว่าโดนดูถูกแสดงว่ากำลังดูถูกตัวเองอยู่ เหมือนพวกแต่งตัวปอนๆไปซื้อ คสอ แล้วชอบคิดว่า บีเอจะไม่บริการเพราะเสื้อผ้า คือตัวเองดูถูกตัวเองไปก่อนแล้ว อาจจะทำ บ เล็กจริง แต่ไม่มีใครดูถูกหรอกนะจ้ะ แค่ยกตัวอย่างว่ามันคนละระบบกันจร้าาาาา
ky ฟฉ ออกเรื่องใหม่ อยากจะร้อง เรื่องนี้ชอบด้วย ฮือ
กู >>847 นะ ขอบคุณโม่ง >>860 >>864 ที่อธิบายแทน
กูไม่ได้บอกว่ารับสายในห้องประชุมแปลว่ามองลูกน้องเป็นขี้ข้า กูแค่ขยายความว่าพระเอกประธาน(+คนเขียน)บางคนชอบมองพนักงานเป็นขี้ข้า
ซึ่งกูเขียนไว้ในย่อหน้าสุดท้าย
'แต่เอาจริงๆ นักเขียนผิดมั้ย? ก็คงไม่ เพราะบางองค์กรก็ ลูกน้อง=ขี้ข้า จริงๆ แต่กูเคืองที่ทุกตัวละครมองว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐาน เป็นสิ่งที่ถูกต้อง พระเอกจะใช้เลขาวิ่งไปซื้อของขวัญให้นายเอกกลางดึกก็ได้ไรงี้มากกว่า ถือว่าทัศนคติเราไม่ตรงกัน'
มีใครแยแสอิเลขาที่กูพูดถึงในย่อหน้านี้บ้างมั้ย นี่อ่ะบทขี้ข้าของแท้ เรื่องส่วนตัวหลายอันไม่เกี่ยวกับงานเลย บทพระเอกให้ไปรับนายเอกมาหางี้
กูย้ำอีกทีว่ากูไม่ได้พูดว่ามันผิด หรือมันไม่มีอยู่จริง แต่กูไม่โอเคที่ พระเอก,นายเอก,เลขา,ทุกคนในเรื่อง มองว่าเลขามีหน้าที่ไปปรนนิบัติแฟนเจ้านาย(ขยายความ : นายเอก ผู้เป็นเด็กตกถังข้าวสารและไม่เกี่ยวห่าอะไรกับบ.ทั้งทางตรงและทางอ้อม ความสัมพันธ์ส่วนตัวล้วนๆ)
อย่างน้อยกูขอบทน้องสาวเลขาบ่นว่าใช่หน้าที่พี่หรอ? ไรงี้ก็ได้ คือทุกคนในเรื่องไม่ควรมองว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐาน เลขาทุกคนบนจักรวาลนี้ยินดียินยอมและมีพันธกิจเกี่ยวพันถึงหน้าที่ซื้อของขวัญกิ๊กเจ้านาย
กูว่าบริษัทเล็กหรือใหญ่ เจ้านายก็ไม่ควรรับสายแฟนระหว่างประชุมปะ กูไม่เคยทำบริษัทเล็กนะ ทำบริษัทข้ามชาติมาตลอด รับโทรศัพท์จากที่บ้าน/แฟนคือดูไม่โปรเลย หรืออย่างน้อยก็ไม่เคยมีเมเนเจอร์หรือจีเอมคนไหนที่กูเคยประชุมด้วยทำแบบนั้นอะ
มัวแต่คิดว่าชั้นจะโง่หรือจะฉลาดเลยเปน นขไม่ได้กันมั้ง กูก็เปนไม่ได้นะ หรือเขียนแล้วคิดไม่ออก ไม่ดัง ส่วนคนแต่งเรื่องน่ารักๆที่ประธานอ่านข้อความแล้วยิ้ม ตอนนี้ทำเล่มขายได้ตังไปแล้ว
>>824 กูเพิ่งเห็นต้นเรื่องของดิสคัส จริงๆกูเห็นด้วยเลย แบบโดยเฉพาะทัศนคติแบบบางทีอ่านแล้วดูรู้อะว่าคนนี้แม่งโคด patriarchy หรือคนนี้แม่ง Feminist นะ หรือบางคนก็ครึ่งๆกลางๆเลือกไม่ถูก หรือคนนี้แบบขวาจัดว่ะ (ในความหมายไทยนะ) มีนักเขียนหลายคนมากกกกกกในไทยที่เป็นฝ่ายขวาแบบเห็นชัดเลยจากงานที่เขียนออกมา ต่อให้ปากไม่พูด แต่ว่าวิธีการคิดมันใช่อะ /อันนี้พูดรวมๆแบบไม่ได้หมายถึงนิยายวายนะ
แต่คือต่อให้เป็นเรื่องเล็กๆกว่านั้นอะ มันก็เห็นอะ เช่นแบบคนนี้ดูมีปมเรื่องพ่อปะวะ มีเรื่องพ่อทุกเล่มเลยไรเงี้ยะ คนเรามันก็เขียนมาจากตัวเองอะมึง กูเขียนมาเกินสิบเล่ม มีเกินครึ่งอะ ที่กูใส่ปมเดิมลงไปโดยไม่รู้ตัว มันอาจจะไม่เหมือนกันทีเดียว ไม่รู้ว่าคนอ่านรู้สึกมั้ย แต่เวลากูอ่านงานตัวเองอีกที กูรู้สึกได้
>>873 ข้ามเรื่องพฤติกรรมเจ้านายไปนะ กูอยากคุยเรื่องเลขา กูนึกว่าเลขาทำไอ้ทุกอย่างที่มึงว่ามาเป็นเรื่องปกติซะอีก ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะหนัง ซีรีส์ หรือชีวิตจริงที่กูเห็น คือเลขาที่จะต้องซื้อของไปเยี่ยมญาติให้เจ้านาย รับลูกให้ อื่นๆ แต่ได้เงินเดือนเยอะแทน อะไรอย่างงี้ซะอีก
>>878 กูยกตัวอย่างนี้เพราะมันเป็นตัวอย่างที่เห็นเยอะสุดเนี่ยแหละ ในทัศนคติของกู เลขาสามารถทำเรื่องพวกนี้ให้ได้ แต่มันไม่ใช่หน้าที่ซึ่งเขาต้องทำแต่เดิมอ่ะ รับคู่ค้าอ่ะใช่ แต่แฟนกิ๊กเด็กเลี้ยงกูไม่นับ ญาติด้วย ยกเว้นญาติที่+สถานะผู้ถือหุ้น<<อันนี้ส่วนใหญ่นิยายจีนส่วนมาก เป็นเรื่องเข้าใจได้
กูเหนื่อยกับตัวอย่างประธานบริษัทละ เอาอย่างอื่นก็ได้
พวกมึงเคยอ่านงานnlของเยว่เซี่ยมั้ย คนนี้จะชัดมาก ทุกงานเขียนมีแนวคิดเรื่องสถานะเพศหญิง เขาจะใส่แนวคิดว่าผู้หญิงไม่ควรมอบใจให้ผู้ชาย ผู้หญิงควรอยู่ได้ด้วยตัวเอง จะรักใครก็ควรรักคนที่เขารักเราก่อนมากๆ
กูไม่เคยพูดว่ามันผิดหรือถูกนะ ทั้งเรื่องผู้หญิง และเรื่องประธานก่อนหน้านี้ เพราะเรากำลังพูดถึงเรื่องการใส่ทัศนคติลงไปในงานเขียนถูกมั้ย?
หรืออย่างที่มีการดีเบทกันไปแล้ว เช่น ประเด็นเรื่องโซตัสในนิยายเซตติ้งมหาลัย พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่งก็ได้ แต่เรื่องนี้เขาตั้งใจใส่ ต้นเรื่อง >>824 เขาพูดเรื่อง 'ทัศนคติที่ใส่ไปแบบไม่รู้ตัว' กูจะยกตัวอย่างใกล้เคียง นิยายเกมเมอร์เรื่องนึงที่กูเคยอ่าน(อยากออกชื่อนะ แต่กูลืม) เน้นเขียนด้านเล่นเกมไปเลย แต่ด้วยวัยตัวละครยังอยู่มหาลัย มันก็มีทัศนคติเรื่องโซตัสแทรกมาเหมือนกัน ทัศนคติในเรื่องการที่สมุดล่าลายชื่อหายแม่งเป็นเรื่องซีเรียสมาก จริงจังถึงขั้นโดนเอาไปทิ้งต้องไปคุ้ยขยะหาหรือไปทะเลาะวิวาทเจ็บตัวเอาสมุดคืนมางี้ ในความเห็นกู สมุดหายเป็นเรื่องขี้ประติ๋วและไม่คุ้มค่าให้ไปจริงจัง แต่ทัศนคตินักเขียนจริงจังกับเรื่องนี้มาก นี่ก็คือความต่างทางทัศนคติ และกูว่าเขาน่าจะไม่รู้ตัวตอนใส่มา
หรือง่ายกว่านั้น กูเคยอ่านเรื่องที่พระเอกโดดเรียนเพื่อไปง้อนายเอกที่กำลังงอนอะไรสักอย่าง (ได้โปรดอย่าแย้งกูว่ามหาลัยบางคาบไม่เช็คชื่อ กูรู้อยู่แล้ว) กูแค่มองว่าทัศนคติคนเขียนเนี่ย ง้อแฟนสำคัญกว่าเข้าเรียนสินะ?
เออ มันอาจจะสำคัญกว่า หรือไม่สำคัญอะไรเลย กูแค่ตอบในประเด็นที่ว่าทัศนคติถูกใส่เข้ามาในงานเขียน ซึ่งประเด็นที่นักเขียนไม่รู้ตัวแต่กูหาเจอมักเป็นประเด็นที่กูกับคนเขียนเห็นไม่ตรงกันเท่านั้นเอง ถ้าเห็นตรงกันมันเป็นเรื่องธรรมดาที่กูจะมองข้ามไปไม่ทันสังเกตว่าตรงนี้แฝงไว้ด้วยทัศนคติบางอย่างเท่านั้นเอง
>>885 ความเห็นคุณภาพ เนี่ยที่กูอยากพูดแต่นึกคำไม่ออก ถ้าเอาเรื่องใกล้ตัว กูอ่านงานที่มีการโซตัสในมหาลัยไม่ได้เลย ยิ่งรุ่นพี่สั่งให้ทำแล้วทุกคนทำโดยไม่ขัดอะไร มันจะแย้งกับมายด์เซ็ตกูมาก เพราะกูไม่ใช่คนที่ทำตามคำสั่งคนอื่นโดยไม่คิด
แล้วนักเขียนในไทยส่วนมากเวลาเขียนเกี่ยวกับมหาลัยจะชอบใส่โซตัสที่ไม่มีคนไหนขัดหรือประท้วงสักแอะ กูเลยอ่านแนวมหาลัยไม่เคยรอดสักที
>>885 โอเคมึงยกตัวอย่างมาเยอะดี กูเข้าใจว่ามึงตั้งตอบประเด็นทัศนคติถูกใส่เข้ามาในงานเขียน ทุกความเห็นคือเห็นด้วยที่ว่าคนเขียนใส่ทัศนคติตัวเองมาในงานเขียนด้วย แต่เพราะตัวอย่างในห้องประชุมที่มึงยกมาในตอนแรก มันยังเป็นที่ถกเถียงว่ามันทำได้ ไม่ควรทำ ปกติ มีจริงไม่จริงแค่นั้นแหละ
ไม่เกี่ยวกับทัศนคติคนเขียน แต่เห็นพูดเรื่องการทำงานกันแล้ว อยากเห็นนิยายวายที่ตัวเอกรับราชการ มีเรื่องการทำงานในระบบราชการจัง มันต้องบันเทิงแน่ๆ ว่ะ แต่ถ้ากูเป็นนักเขียนที่เป็นขรก. กูก็ไม่เอาเรื่องในวงการมาใส่ในนิยายกูหรอก หมดอารมณ์เขียนพอดี แค่ชีวิตทำงานก็ลำไยพอละ ถถถถถ
กูว่าน่าจะคนวาดคนเดียวกัน พวกมึงพิมพ์ซินเดอเรลล่า 3225 ในอากู๋ดู แต่ถ้าไม่ใช่คนวาดคนเดียวกันก็ เหอะๆ
นี่ป่ะ https://www.mx7.com/view2/B91WcYA1KFnklb5k
นักวาดคนเดียวกันน่ะ ไม่ใช่ก็อปหรอก คงเป็นสไตล์ลายเส้น อารมณ์ภาพ การลงสี วางเลย์เอาท์ที่เป็น signature ของนักวาดมากกว่าเลยดูคุ้นๆ อีกอย่าง ช่วงนี้เหมือนสายแฟนตาซีฮืตปกแนวนี้ หลายๆ เรื่องก็ปกสไตล์นี้ คล้ายกันไปหมดแทบแยกไม่ออก
คนวาดคนเดียวกัน กูตามงานนักวาดคนนี้อยู่ คนไทย แต่สไตล์เอกลักษณ์มึงขึ้นเพราะมันเป็นสไตล์เขา
แต่กึไม่รู้ว่านามปากกาเวลาเขาทำงานในสนพอะไรนะ กุตามแต่เพจ เขาเคยมาเปิดคอมมิชชันในกลุ่มคอมมิชอะถูกสัดแต่งานดีจนกุตาม5555
เดรกเกอร์เห็นไม่ค่อยชัดถึงความคล้าย เอาอันนี้ละกัน คนวาดนี่คุณมุกป่ะวะ? กูไม่ได้ตามนานละ
เข้าใจว่าเหม็นฟฉ.กัน แต่ไม่ใช่ไปปาขี้ใส่สนพ.ทุกอย่าง การบอกว่าปกก็อบมาเป็นข้อหาร้ายแรงมาก ถ้าไม่แนบหลักฐานอะไรมาด้วยอย่าเพิ่งชี้นิ้วมั่วๆ เลย เพราะคนเสียหายที่สุดไม่ใช่สนพ.แต่เป็นนักวาดที่มือชื่ออยู่บนปก อยู่ดี ๆ ก็โดนว่าก็อปงานนี่มันร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเป็นจุดจบอาชีพของนักวาดได้เลยน่ะนะ แต่สมมติว่าก็อปจริง ๆ กรณีอย่างนี้สนพ.ก็ถือว่าเป็นผู้เสียหาย เพราะไม่ใช่คนในวงการวาดก็ดูยากว่าภาพนี้ก็อปมา ดราฟต์มา เทรซมา หรือเปล่า อย่างเคสปกนิยายนอร์มอลของสนพ.สีส้ม ที่นักวาดชื่อดังคู่บุญสนพ.ไปดราฟท์ท่าทางตัวละครมา อันนี้สนพ.ก็ซวย แต่ส่วนใหญ่คนก็ด่านักวาดกันมากกว่า
พอเหอะเริ่มเยอะละ
ky อยากเล่าเฉยๆ กูไปเล่าเรื่องคนดราม่าบ๊อกซ์ตัวร้ายซบ.ให้เพื่อนฟัง (เพื่อนกูไม่ได้อ่านแค่รู้จักผ่านๆ) รวมไปถึงลายบ๊อกซ์ที่มีคนชอบลายเรียบๆของแบบสวมมากกว่า กูทีมแม่เหล็กแต่กูก็ชอบลายเรียบๆ เพื่อนกูเลยบอกว่า ให้แม่เหล็กทำลายแบบสวม กูเลยบอกว่าเดี๋ยวก็มีคนดราม่าว่ารูปบ๊อกซ์ที่วาดใหม่ไม่ได้ใช้ให้คุ้มไรงี้ เพื่อนกูเลยบอกว่าก็เอาลายบ๊อกซ์ไปทำปกสวมแทน ทำทั้งสามเล่ม แล้วเว้นไว้ให้เห็นเลขเล่ม คือ กูชอบแนวคิดนี้ว่ะ กูชอบปกสวมไง 55555555555 แต่ถ้าทำจริงก็เปลืองเงินอยู่ 5555
การใส่ทัศนคติลงงานเขียนก็ธรรมดาแหละมั้ง นข.ก็ต้องอยากเล่าสิ่งที่ตัวเองเชื่ออยู่แล้ว บางคนอาจจะคิดอะไรไม่ตรงกับคนอ่าน นข.ที่ทัศนคติไม่ตรงกับกูก็มี (อย่างเช่นการแต่งว่าการเยแก้ปัญหาทุกอย่างในโลกนี้ ทำผิดต่อกันไม่เป็นไรเยก็หายโกรธ กูจะอ่านไปหน้ายุ่งไปบ้างเล็กน้อย) แต่ถึงจะคิดไม่ตรงกัน กูก็จะไม่ตัดสินว่าเขาโง่อะนะ เห็นแรกๆมีคนบอกว่าแค่อ่านนิยายก็รู้เลยว่าใครโง่ ใครฉลาด กูขอตัดสินว่านิยายเรื่องนั้นโอเคสำหรับกูหรือไม่โอเคก็พอ ถ้านขเขียนตรงสเป็กกูก็อุดหนุนต่อไป ไม่ตรงก็แค่เลิกอ่าน พวกรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆน้อยๆที่ไม่ตรงกับปสก.ที่ตัวกูเองเคยเจอมา เช่น สังคมการทำงาน ฯลฯ กูก็หยวนๆไป ก็นี่มันนิยาย ถ้านข.นำเสนอข้อมูลไม่ตรงกับความจริงแต่อวดอ้างว่าเป็น fact ก็อีกเรื่อง กรณีนี้กูแบน
ถ้านักวาดคนข้างบน กูว่างานเค้าคล้ายกันมากๆหลายเรื่องแล้ว แต่เข้าใจว่าเป็นสไตล์เค้าแหละ มีอยู่ช่วงนึงที่สองเซตจากสองเรื่อง หน้าปกแบบชวนสับสนสัด ออกมาใกล้ๆกันด้วย
Ky พวกมึงรู้จักสนพ แอลซิกมั๊ย กูอยากรู้ว่านส ของสนพนี้มีขายที่ร้านนส ทั่วไปรึป่าว
Ky ถามหน่อยว่า ช่วงหลังๆนิยายวายออกถี่มากๆ พวกมึงบริหารเงินกันยังไงบ้าง กุทำงานแล้วนะ แต่ซื้อตามไม่หมดจริงๆ ต้องทิ้งช่วงแล้วเลือกซื้อที่จะอ่านจริงๆ
เพื่อนโม่ง แต่งพิเศษตอนรวมเล่มกี่ตอนกันวะ
>>918 เดี๋ยวนี้นักเขียนที่ตีพิมพ์แล้ว ไม่ลบตอนกูอ่านจบแล้วส่วนใหญ่กูก็ไม่ซื้อเหมือนกัน เหมือนเรื่องอนธกาลจิ้งจอกที่จริงกูอยากซื้อเก็บมากๆ แต่พอมีเรื่องอื่นออกมาอย่างเรื่องตรยข ราชันฯ กลรักฯ กูก็เอาเงินตรงนั้นไปซื้อเรื่องอื่นแทน เพราะงบกูมีจำกัด เลือกได้ไม่กี่เรื่อง
ย่อจนกูอยากเติม ย ลงไปเลย ถถถถถถถ
โหวตเปลี่ยนชื่อ+1 เห็นใจคนชอบมือลั่นทีเหอะมึงถถถถถ
กูโหวตไม่เปลี่ยน กูโหวตเก็บไว้อ่านขำๆ เผื่อใครมือลั่นจะได้ฮาแก้เซ็งกันไปอีก
ควยบบบ
CLBเพื่อความปลอดภัยในชีวิตเถอะมึง ไม่งั้นกูจะไม่แน่ใจว่ามึงด่าหรือพูดถึงค่ายถถถถ
ค่ายใบสี่แฉก
กูถามห้องนี้ถูกไหมว่ะ นข พหคห เค้าไปเอารูปพอร์นๆมาจากแหล่งไหนเหรอว่ะ กูชอบแบบนี้มากเลย
คว. ทำไมไม่ย่อว่า CV วะ ทำไมย่อ CB อ่ะ
CVB เป็นไง CB มันไปเหมือนอีกค่ายที่แปลเถื่อน
พิม ควย ไปเบย จบเรื่อง ไม่ต้องกลัวพิมผิดอีก ตลอดกาล
Jกูว่า คว ดีละทุกคนเข้าใจ คว คว คว
CV ยังออก โ- เ-อ ได้นะ คว กูออก -วย
นี่ถ้า สนพ.มาเห็นคงมีกุมขมับกันบ้างแหละ โม่งหาชื่อย่อไม่ลงตัว ถถถถถถ
สนพบอกว่า คว เถอะค่ะ 5555555555
ค่ายใบไม้มะ
จะบอกว่า คบ ก็ไปซ้ำชื่อย่อนักแปล ยากสัด
พวกมึงเถียงอีกนานมะ คว ก็ คว ไง งงไรวะ ใครอยากพิมใบไม้อยากพิม cv ก็เรื่องอขงมึง
นั่นดิ คว เหอะ ยังไงตอนนี้ก็รู้จักในชื่อนี้กันแล้วอ่ะ ใครมือลั่นถือเป็นสีสันไป
กูโหวต คว กูจะรอดูว่าใครมือลั่น 5555555
ทำไมเดี๋ยวนี้นข.ตั้งชื่อนิยายได้...เฮ้อ! หรือมันดึงดูดคนอ่านหรือวะ? กูอ่านแนวแฝดได้บ้างอยู่ทั่ภาษา หรือญาติๆ ที่มารู้ทีหลังว่าคนละสายเลือดกันได้นะ แต่กูอ่านอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องการนอกใจหรือแม่งตรงๆ เลยก็คือชู้อะ กูอ่านไม่ได้จริงๆ แถมคนยังอ่านจนขึ้นท็อป คือกูเข้าใจแหละรสนิยมใครรสนิยมมัน กูแค่สงสัยว่าเดี๋ยวนี้เขามองมันเป็นเรื่องถูกต้องเหรอ เป็นเรื่องสนุกงี้ เอาจริงๆ ขนาดกูชอบงานคุณข้าวปั้นเช็ทบาปกูเก็บทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเด็กแยมกับอาณะ กูแค่บ่นด้วยความอัดอั้นเฉยๆ
พวกมึง ค่าต้นฉบับได้กันประมาณเท่าไหร่วะ
อ้อ ถ้ายอดมึงได้เยอะกว่านั้นก็ยิ่งได้ตังเยอะขึ้นอ่ะ 555
ky เพื่อนโม่งจำห้องขายที่ก่อนหน้ามีคนมาโพสว่าห้องที่ไม่มีแอดมินเกิดมีปัญหาขึ้นมาจะลำบาก แล้วก้เปิดกลุ่มขายใหม่ที่รวมแอดมินไว้เป็น10 ตอนนี้มีคดีโกงเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวาน กูไม่เห็นบรรดาแอดมินทีมนี้จะช่วยตามคนโกงอะไรเลย เหนยังลงขายของ แล้วมาโพสดันเป้นกลจให้คนถูกโกง มีแต่คนถูกโกงกับบรรดาสมช.ช่วยกันเอง มีคนที่ชอบจ.อันคัทช่วยอีกแรง กูแม่งแบบ สร้างกลุ่มมีแอดมินแต่ไม่เห็นมีเตือนหรือประกาศหน้าเพจอะไร แล้วจะสร้างกลุ่มมาเพื่ออะไร
Ky พวกมึงชอบอัพนิยายตอนไหนกันวะ ช่วงดึกๆ เที่ยงคืน รึตอนเช้า สาย บ่าย เย็น
กูรู้สึกว่าอัพช่วงเที่ยงๆ คนอ่านนอนกว่าอัพตอนกลางคืน เกี่ยวกันมั้ยวะ
>>975 กุเคยพิมกับวดวเมื่อนานมาละ ส่วนเซบบุ้คเคยถามๆ เขาเฉยๆ แต่ส่วนใหญ่มันก็ประมาณนี้อ่ะมึง ถ้าน้อยไปกว่านี้ก็เริ่มมีอะไรแปลกๆ แระ แต่ถ้ามากกว่าก็แปลว่าเรื่องมึงดัง กูจำได้เลยตอนแล้วแต่ดาวของคุงคูคือสนพแต่ละสนพแย่งกันเสนออ่ะ มียัน 50% อ่ะ ปล ถ้ามันเป็นเรื่องจริงนะ
>> 978 นข.วดว.ที่พิมพ์นานแล้วเหรอ งืมๆมีอยู่ไม่กี่คนจริงๆด้วย มึงไม่กลัวโม่งแตกหรอวะ
เรื่องโม่งแตก พวกมึงก็อย่าพยายามเน้นกันนักดิ โฟกัสเฉพาะเรื่องที่ถามตอนแรกพอ นางอุตส่าห์เสี่ยงตอบให้นะพวกมึง
แต่วายนี่เอาจริงยอดพิมพ์น้อยเหมือนกันนะนี่ ขั้นต่ำหลักร้อยบ้าง พันเดียวบ้าง หรือเป็นเฉพาะวายไทย วายแปลยอดสูงกว่าไรงี้
พวกมึงว่าวายแปลส่วนใหญ่พิมพ์กันอยู่ที่เท่าไร
ช่วงนี้นข.ส่งไม้ต่อกันเยอะจังวะ นอกจากคูเหมี่ยวที่กูค่อนข้างเสียดายแล้ว พพ กับ ช นี่เหอะๆ ต่อให้พูดสวยหรูยังไง ก็คือการเอาคู่ชิปมาหากินแล้วสุดท้ายก็ไปซบวายไทย เศร้าสุดคือพอนิยายดังแล้วเอาชื่อคู่ชิปออก หรือเปลี่ยนชื่อคู่ชิบแล้วส่งให้สนพ. ซึ่งกูเทจ้าาาาาา
>>962 กูพอจะเดาได้ว่าเรื่ออะรายยยย มึงหมายถึงเรื่องชู้รักn้oงโลกา นั่นใช่ไหมวะ? กูงงกับตรรกะ คข. ที่สื่ออกมาแบบนี้มากกว่าว่ะ เหอๆๆ
แบบนี้ นสพ ก็ได้กำไรมากกว่า นข ดิวะ
สนพ พิมพ์ผิด
Ky พวกมึงชอบฮาเร็มรึพระเอกคนเดียวมากกว่ากันวะ
Ky กูถามเรื่องค่าลิขสิทธิ์หน่อย
นอกจากให้ค่าลิขสิทธิ์แบบ 10% x ราคาปก x ยอดพิมพ์ แล้วยังมีให้แบบอื่นอีกมั๊ยวะ
แบบเหมาจ่ายไรงี้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.