สิ่งที่กูจะสื่อก็คืออย่าเอาความคิดตัวเองไปครอบใส่คนอื่นนั่นแหละ มันอยู่ที่ระดับการยอมรับของแต่ละคน บางเรื่องกูรู้แล้ว แต่กูยอมรับได้ บางเรื่องกูไม่รู้จริงๆและปล่อยผ่าน บางเรื่องกูรู้และกูไม่ยอมด้วย แต่ก็ไม่ควรไปดูถูกใคร ทุกคนก็มีขอบเขตการยอมรับต่างกันนั่นแหละ กูรู้แค่ว่าคนที่มีความคิดเป็นเหตุเป็นผลเชื่อมโยงมากๆจะอ่านนิยายแฟนตาซีลำบากหน่อย เพราะทุกเรื่องขึ้นชื่อว่าแฟนตาซีมันมีช่องโหว่ในเหตุผลของมันอยู่แล้ว 555
คนที่มีความคิดว่าหลอดไฟเกิดก่อนถ่านไฟฉาย กับคนที่มีความคิดว่าถ้าไม่มีหลอดไฟก็ไม่มีทางมีถ่านไฟฉายได้ ทั้งสองคนก็ไม่มีใครไม่รู้อ่ะว่าหลอดไฟมาก่อนถ่านไฟฉาย แต่คนหลังก็จะมีพื้นที่เปิดกว้างให้ถ่านไฟฉายในนิยายแฟนตาซีน้อยกว่าไง มึงจะด่าคนแรกว่าโง่ไม่ได้ หรือด่าคนหลังว่าใจแคบก็ไม่ถูก เพราะคนหลังเขาก็มีเหตุผล อิคนแรกมันก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ จริงมะ