Last posted
Total of 1000 posts
>>255 นขชื่อดังห่อหนังสือบางมาก บางไม่ธรรมดา 1 ชั้น บางคนได้ห่อไม่รอบ BOX ด้วยและใส่กล่องส่งทั้งอย่างนั้น นขมั่นใจไม่พังแน่นอน โยนโชว์จากชั้นสอง แต่ผลที่เจอจริงคนที่ได้ก็บุบเยอะหลายคน บุบถึงหนังสือ ถ้าบอกว่า BOX แถมจะบุบยังไง จะเละยังไงก็ได้ กูคงซื้อตอนวางขายในงานไม่ต้องเสียค่าส่ง
เกิดอะไรขึ้นวะ กูตามไม่ทัน แล้วครมจนี่ใคร
ที่พูดเอาหนังสือ ไปหน้า นข อันนี่ก็แรงไป กูเห็นละคนที่พูดอ่ะ หน้าเหรี้ยพอๆกับคำพูดเลยที่เดียว ช่วงนี้เวลามีดราม่า กูจะไม่อ่านเลยนะ มาอ่านในโม่งดีกว่า เพราะในเพจ สป บางคนอยากจะวัลลาบี เหลือเกิน พูดหยาบๆ คิดว่าดูเท่ จะอ้วก
คนที่บอกว่าปากนังสือและสบัดผมอยู่ในกลุ่มสดร.นี่ถ้าใช่คนที่เห็นนะ แต่ละคนด่าเหมือนซื้อแต่ไม่ได้ซื้อ
กูขำ ไม่ซื้อแต่จะสะบัดผมใส่ ไปสะบัดที่อื่นไป๊ สันดานเป็นแบบนี้ทั้งแก๊งรึเปล่า
เห็นแล้วคือกลัวสาวกวายพวกนี้เลยว่ะ กูอ่านและเก็บหนังสือมาเป็น 10 ปี (อย่าได้พูดถึงตัวเลขอายุ) จะวายหรือไม่วาย วิชาการหรือนิยายกูก็รักของกู แต่กูไม่เคยคิดว่าจะเอาหนังสือไปปาใส่หน้าใคร หรือปาใส่นักเขียน และกูไม่คิดว่านักเขียนที่ห่อไม่ดีจะถึงขั้นเลวนะ มันคือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ ถ้าโดนกับตัวอาจมีเคืองๆ บ่นๆ แต่เล่นใหญ่ทำเหมือนเค้าไปฆ่าใครตายมันก็เกินไปว่ะ เหมือนต้องการโชว์พาวด์ ถ่อยแล้วเท่อะไรแบบนั้น กูเห็นแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนกับคนที่อ้างว่าตัวเองรักหนังสือพวกนี้มาก
ปล. กูไม่ได้ซื้อ ไม่รู้จักนักเขียนหรือคนกลุ่มนี้ กูมองในฐานะคนนอก กูรู้สึกว่ามันเกินไปจริงๆ
>>267 เคสนี้ นข. ผิดเเบบเข้าใจได้เลยอะ เห็นเเล้วกูคิดว่ายังไงก็ไม่รอดจะบ่นจะอะไรก็ทำไปเถอะ เเต่ก่อนหน้านี้กูงงว่าเจาคุยกับนข.ยัง คนพวกนี้ยังคุยกับนข. ไม่รู้เรื่องดี เเล้วก็โพสต์หาพวก เล่นใหญ่ เมนต์เเรงๆ เท่ๆ
พวกคนทำหนังสือคุยกันพูดกันเสียงเดียวกันว่า สาววายน่ากลัวจริงๆ เพื่อนกูทำสนพ. ที่ไม่ใช่วาย ยังบอกว่าอะไรจะขนาดนี้ ในหลายๆเรื่อง
คือเอาจริง เรื่องเค้าห่อไม่ดี กูยอมรับ แต่คือ กูก็เห็นหลายคนเค้าก็รู้กัน เค้าก็ไปพรีผ่านร้านตัวกลางกัน เพราะรู้กันอยู่แล้ว อย่างพวกที่มาโวยวายด่ากันหยาบๆคายๆเนี่ย บางคนแม่งก็ไม่ได้ซื้อ อย่างบางคนกูก็รู้ว่าเค้าพรีผ่านคนกลาง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเรื่องห่อป่ะ กูเลยไม่เข้าใจว่าแม่งจะมาด่าทำเหี้ยอะไร
อย่างบางคน แม่งหยาบคายมาก แบบคือกูงง เดี๋ยวนี้เค้าซื้อหนังสือกันเพื่ออะไรวะ ไม่ได้ซื้อเพื่ออ่านเหรอ? กูดูแล้วแบบ เหี้ย เรื่องมากแบบนี้ มึนซื้อไว้บูชารึ อีเวรรร
>>268 เห็น นข ก็ให้เคลมนะ ผิดพลาดก็พูดคุยหาทางออก เอาให้ถึงที่สุดก่อน จำเป็นต้องรีบด่าฟาดงวงฟาดงากันขนาดนี้เลยเหรอ ถ้ากูเป็นคนทำหนังสือเห็นลูกค้าลักษณะนี้กูคงขยาด ทำงานเกร็งชิบ เหมือนถูกกดดันทุกลมหายใจยิ่งกว่าพระเจ้าผู้สร้างโลกอวตารลงมา ทุกอย่างต้องได้อย่างใจคิด ไม่งั้นจะเอาของไปฟาดหน้าและกลายเป็นคนเลวในทันที ยิ่งกว่านั้นคือเหล่าพระเจ้าทั้งหลายดันไม่ได้ซื้องานเค้าแต่เล่นใหญ่เบอร์สุดนี่สิ อห เออ กูไม่ค่อยแปลกใจที่ใครๆ ก็เหมารวมว่าสาววายเรื่องมาก กูเป็นสาววายกูยังรู้สึกได้ ก็มันมีกลุ่มคนแบบนี้ทำให้มัวหมองอยู่ไงไม่ต้องโทษใคร
สะดุดเม้นนึงที่บอกว่าคนไม่สนตำหนิ ไม่แคร์มาก ไม่รักหนังสือ อ่านเจอแล้วได้แต่คิดการที่เราไม่เป็นบ้าเป็นหลัง ด่าสนพ. นข. แม่ค้าสาดเสียเทเสียเพราะตำหนิ บางอันก็มองข้ามได้ (ไม่ได้ถึงกรณีที่เป็นประเด็นนะ อันนี้เยอะจริง) บางอันบ้านเราไม่เรียกตำหนิอะ คือเรากลายเป็นคนไม่รักหนังสือเลย?
แล้วพวกที่ด่าแบบไร้มารยาทหัวร้อนเหมือนเดือดร้อนเองนี่คืออะไรอะ
หนังสือก็คือหนังสืออะ หนังสือมีไว้อ่านเว้ย ตราบใดปกไม่ขาดหน้าไม่หายก็ไม่คิดจะเคลมเลย บางทีพวกอ้างสะสมมึงก็เเค่กลัวว่าเวลาเอาไปขายจะได้ราคาไม่ดีเท่านั้นเเหละ
กูเห็นหลายคนละ ชอบสะสม สุดท้ายเอามาขายราคาไม่เคยต่ำกว่าปกเลยจ้ะ ( ซึ่งสิทธิ์มึงนั่นเเหละ )
อย่าว่าเเต่สนพ.เลย เเม้กระทั่งโรงพิมพ์ยังเริ่มขยาดพวกวายเลย เพราะเขาเจอเคลมจากสนพ. หรือนข. ที่เขาโดนเคลมจากลค. ต่อมาอีกที
กูรักหนังสือนะ รักที่จะอ่านและเก็บตามสมควร ไม่ได้บ้าคลั่งเห็นสิ่งของสำคัญกว่าคนจนถึงกับเอาเป็นเอาตาย ถ้าไม่ใช่ตำหนิเกี่ยวกับการอ่าน หรือเป็นความเสียหายที่หนักหนาจริงๆ ก็ชิลๆ ไม่เคลมให้เปลืองทรัพยากรอะ ...ตกลงที่กูไม่ซีที่สภาพต้องกริบทุกอณูกระดาษคือกูไม่รักหนังสือว่างั้น? อห กูยอมใจ
เรื่องหนังสือห่อบั๊บบาง กูไปตามดูวิธีห่อมาแล้ว ความจริงนักเขียนเขามีความตั้งใจนะ ลงทุนตัดกล่องแบบขอบล้ำมาซ้อนในกล่องอีกที ซึ่งก็เป็นเทคนิคการแพคหนังสือเพื่อส่งไปรษณีย์แบบหนึ่งจริงๆ แต่ว่าที่กูเคยอ่านมา เทคนิคนี้มันใช้กับหนังสือเล่มบาง ทีนี้ของเขาเป็นบ็อกน้ำหนักมากและหนา กูส่ิงมาลูกฟูกที่ใช้เป็นแบบบางชั้นเดียว ปีกที่ออกแบบไว้ก็เลยรับน้ำหนักได้ไม่มากพอ การโยนกล่องจากที่สูงเป็นการทดสอบแรงกระแทก แต่ปัญหาของไปรษณีย์มักจะเจอปัญหาน้ำหนักมากๆกดทับมากกว่าแรงกระแทก สุดท้ายการเลือกใช้วิธีนี้เลยไม่ตอบโจทย์อย่างที่เขาตั้งใจไว้ กูคิดว่าเป็นบทเรียนของนักเขียนให้ปรับปรุงต่อไปในครั้งหน้า
ส่วนตัวกูเวลาซื้อของมือหนึ่งก็อยากได้ของสภาพดีที่สุด พอของสภาพไม่ดีก็เคลมกันไป การไปด่าหยาบคายหรือขู่จะเอาหนังสือปาหน้านี่เป็นอาจจะเป็นกิริยาที่หย่อนการอบรมไปหน่อย
ของซื้อของขายใครก็อยากได้ที่มันดี ๆ ไม่มีตำหนิทั้งนั้น แต่ตอนนี้มันเริ่มเลยเถิดเหมือนเป็นอุปทานหมู่ ลัทธิบูชาหนังสือเนี้ยบ ไม่รู้ใครเริ่มต้นเป็นเจ้าลัทธิ รู้แต่ตอนนี้กูไม่อยากขายหนังสือแล้วเก็บอย่างเดียว
ใครใคร่ขายก็ขาย ใครใคร่เก็บก็เก็บ เวลาจะซื้อขายก็คุยให้มันเคลียร์ไปเลยว่าสภาพหนังสือเป็นไง จะห่อยังไง จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง
พวกกริบมากๆ กูว่าโรคจิต รอยนิดเดียวชอบพูดว่ารอยเยอะ บางคนกูเห็นในเฟสชอบทำตัวกร่าง โพสต์โชว์ของหาพวกให้เพื่อนมาด่านักเขียน กะอีแค่กล่องเป็นรอยนิดเดียว กล่องทำมือมันมีอยู่แล้ว อีนี้จะเคลมลูกเดียวพอไม่ได้เคลมก็ฟาดงวงฟาดงา ดราม่าว่ากล่องเป็นรอยเยอะ ซูมคูณร้อย กูเข้าไปเถียงแทนนักเขียเพราะนักเขียนห่อดีมากโดนด่ากลับอีก เป็นรอยจากงานทำมือด่านักเขียนเหมือนไปทำพ่อตาย พวกที่มารวมๆ กันอีก รวมตัวเหี้ย เพื่อนกันคบกันภาษาคุยคงคุยอย่างนี้
เห็นด้วย กูว่าสาววายสมัยนี้เรื่องมากชิบหาย ตำหนิรอยกดนิดๆหน่อยๆก็โวยวาย คือเอาหนังสือมาอ่านหรือเอามาเก็บบูชาวะถึงต้องกริบขนาดนั้น ตัวกูเองไม่เคยซีเรียสเรื่องสภาพหนังสือนอกจากเปียกน้ำ/ราขึ้นหรืออื่นๆที่มีสภาพต่อการอ่านอันนี้ถึงไม่โอเค
กูไปเอากล่องเจ้าปัญหามาแล้วจากไปรฯ ห่อบางจริง ๆ แหละ นี่ยังงงว่าของกูรอดมาได้ไงปกติพี่ไปรไม่เคยปราณี ครั้งนี้ต้องกราบงามๆ แนบตัก แต่ก็มีรอยกดจากพวงกุญแจสามจุดเหมือนเจิมหัวเหม่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวอ่ะมึง 55 แต่กูคงไม่เคลมอ่ะขี้เกียจ กลัวส่งมาใหม่จะแย่กว่าเดิม เอาจริง ๆ เรื่องอื่นของ นข คนนี้หนังสือมาเยินกว่านี้เยอะ
สาววายทุกวันนี้ เหมือนตัวเองเป็นพระเจ้าอะ รอยขูดขีดสี่แปดใดๆก็จะเคลมให้ได้ ต้องมาแปะมาโพสหาพวกว่ารอยแบบนี้เคลมได้มั้ยบลาๆ
สาววายก็จะมาร่วมยกหางเย้วๆเชียร์ให้ไปเปลี่ยนไปเคลมกับ สนพ. บางทีแทบมองไม่เห็นรอย แต่แม่มก็หาตำหนิเจอจนได้อะ กูเห็นยังเพลียแทนพวก สนพเลย เยอะสิ่งก็เท่านั้น แถมเวลาคนเอามาขายมือสองก็จะเอาสภาพกริบๆ แต่ราคาอย่าแพงนาจาาา เห็นละได้แต่เพลีย
รอยขนแมวยังมาโพสต์ถามว่าเคลมไหม ใครเคลมบ้าง ไม่ถามโรงพิมพ์ว่านขเคลมได้ไหม ร้อยทั้งร้อยโรงพิมพ์ไม่ให้เคลม เผลอๆ เลิกรับงานนขคนนี้ไปเลย แบล็กลิตส์ว่าเรื่องมาก
>>285 นี่เเหละ กูบอกเลย พวกลค. แบบนี้มันรู้ตัวมั้ยว่าทำให้ เขาเดือดร้อนขนาดไหน คือ มึงควรมีมาตรฐานของคำว่าหนังสือ กล่องสะสม ทั่วไปแบบปกติอะ เครื่องจักรยังมีพลาด งานทำมือมันไม่กริบหรอก บางอย่างมันเเค่ไม่เรียบร้อย( พวกมุมกระดาษฉีกจากใบมีดที่ไม่คม หรือไสกาว) ไม่ใช่ตำหนิอะ
เเต่พูดไปมันก็ไม่สนหรอก ตราบใดไม่มาเป็นฝ่ายผลิตเอง
วงการหนังสือวายควรเลิกทำกล่องนะ วุ่นวายชิบหาย ปวดหัวแทนผู้ผลิต
>>285 เอาจริงๆ กูเขียนๆ นิยาย คิดว่าถึงจุดนึงจะทำมือไว้ชื่นชม เปิดพรีฯ บ้างอะไรบ้าง กูต้องกลับมาคิดใหม่เลย ขายอีบุ๊คหรือติดเหรียญตามเว็บดูจะสบายใจกว่า ชีวิตกูถ้าเขียนนิยายมาแทบตาย พอจะขายต้องมาวิ่งวุ่นในเรื่องไม่เป็นเรื่อง(ตำหนิที่มันไม่ควรเป็นตำหนิ) + ความงอแงไร้เหตุผลอย่างนี้กูว่ากูไม่เอาว่ะ แล้วถึงขั้นโรงพิมพ์ปฏิเสธลูกค้า(นักเขียน)ขนาดนี้ แสดงว่ามันคือความเรื่องมากขั้นสุดจริงๆ
คิดสภาพนักเขียนอยู่ตรงกลาง โรงพิมพ์ไม่รับเคลมแถมติดแบล็คลิสไม่รับพิมพ์งานต่อไป นักอ่านก็โวยวายด่าว่าเลวที่ไม่รับเคลม ถามว่านักเขียนผิดอะไรที่ต้องโดนแบบนี้ อันนี้พูดถึงกรณีโดยทั่วไปที่เค้าห่อดีทำดีที่สุดแล้วแต่ก็ยังมีคนโวยอะนะ ช่วงหลังๆ มานี่กูเห็นโพสต์ถามตำหนิยิบย่อยพวกนี้บ่อยจริงๆ
>>291 เข้าใจเพื่อนมึง คงเเคร์นักอ่านไงเเต่ทำขายปุ๊บ นข.กลายเป็นเเม่ค้าทันที นอ. กลายเป็นลูกค้าทันทีเช่นกัน อัพระดับความผีทันทีเช่นเดียวกัน เเต่บางคนเขาไม่ใช่นักอ่านของเขาจริงฟ เป็นเเม่ค้าซื้อหรือพวกซื้อตามกระเเสอะ ตรงจุดนี้ต้องทำใจ ต้องมีธงในใจว่า เคสไหนเคลมไม่ได้ เคสไหนเคลมได้ เเล้วก็ไม่ต้องเข้ากลุ่มดีสุดอะ เพราะบางทีโพสต์หาพวก พอเคลมได้ คนที่ด่าตอนเเรกๆ ก็ไม่เห็นจะมาขอโทษหรือพูดดีอะไร เพื่อนมึงรับคำพูดเเย่ๆไป อย่างเดียว หมดกำลังใจเเต่งอีกมึง
พูดตรงๆนะ พออ่านๆไป กูก็ชักคิดว่าเขียนวายนี่ ถ้าติดตลาดก็จะได้เงินดีก็จริง แต่แม่งเสี่ยงเรื่องลูกค้าเรื่องมากชิบหาย 555 ขนาดจะขายมือสองยังต้องกริ้บเท่ามือหนึ่ง
กูถามหน่อย เวลาหนังสือพัง บ็อกพังนี่ สนพ.ส่งที่ไหนซ่อมวะ ให้โรงพิมพ์ซ่อมให้เหรอ
>>295 บ้านกูสายอ่านอ่ะ ที่เห็นนี่คือมีตามบูธหนังสือ,บางครั้งกูเปิดคอมทิ้งหน้ากรุ๊ปสปอยฯค้างไว้ คงมาเปิดอ่านกันแล้วก็เอามาบ่นๆเล่าสู่กันฟัง
จริงแหละ ธัญฯแม่งชญเยอะกว่าอีก กูยังจำนิยายชญที่มีฉากเรทมีคำว่า อ๊าส์ 1 หน้า a4 ได้อยู่เลย น่ากลัวชิบหาย ไม่ก็นิยายวายวงเล็บ เคะท้องได้ BDSM(แต่ดันเป็นข่มขืน...) นี่มีเกลื่อนเลย
พวกมึงว่า ตอนนี้สนพ.ผุดกันเป็นดอกเห็ด เยอะมากจนล้น พวกมึงคิดว่าสนพ.ไหนจะได้ไปต่อ สนพ.ไหนจะไม่รอดบ้าง กูสังเกตุการณ์มาสักพัก สนพ.ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ หายหน้สไปหลายเจ้ามาก แล้วพวกใหม่ๆที่ขยันมาลงตลาด จะเหลือรอดกันบ้างมั้ย คิดว่าไง?
>>299 จากประสบการณ์อ่านวายมาสิบปี และเฝ้ามองเหล่าสนพ.วายมา 5 ปี+ ขอวิเคราะห์ดังนี้ (ดูจริงจังมาก 555)
สนพ.ที่รอด พร้อมเหตุผลประกอบสั้นๆ (มั้ง)
- แจ่ม ตราบใดที่ได้นักเขียนสายแมสๆอย่างพวกจิตติ ชิฟฟ่อน สนพ.นี้ก็จะอยู่คู่กับวงการไปอีกนาน ส่วนไลน์แปล ด้วยเงินหนา เลยได้เรื่องดีๆมาเยอะ สรุป รอดทั้งไทยทั้งแปล คุณภาพดี ราคาเป็นมิตร มีข้อติตรงแนวเรื่องส่วนมากไม่ถูกจริต (คหสต) นักเขียนคนไหนดังๆก็ดันจัง แต่คนไม่ดังนี่ลืมไปเลยว่าออกที่นี่ด้วย เออ หนังสือหาซื้อง่าย ซึ่งดีมากๆๆๆๆ
- มด. ไลน์แปลยังได้ไปต่อ ออกเรื่องได้เยอะ ดีบ้างดับบ้าง แต่ไลน์ไทย กูว่าไปยากนะ นักเขียนที่ออกแต่ละเรื่องมาแล้วก็ไป เหมือนทำฝั่งไทยไปงั้นๆ ไม่ได้ดันนักเขียนอะไรเท่าไหร่ อารมณ์ออกนิยายไทยเพื่อให้ได้ออกอะนะ คุณภาพหนังสือกูว่าต้องปรับปรุงนะ มันดูไม่เด่น พิสูจน์ก็ไม่ค่อยละเอียด แต่ราคาเป็นมิตร ชอบๆ
- นบ. ไปต่อทั้งแปลและไทย แต่ไทยออกแต่นข.คู่บุญ ส่วนแปลดีบ้างดับบ้างเหมือนด้านบน สนพ.นี้อยู่ในวงการมายาวนานสุด ไม่เก๋าจริงคงอยู่ไม่ได้ (ไม่อยากชมแต่ต้องชม) ต่อให้คนด่าเรื่องการตอบข้อความที่เหมือนไล่ลูกค้ายังไง ก็ต้องยอมรับว่าคุณภาพของสนพ.มีจริง หยิบมาสักเล่มก็ไม่เสียดายเงิน (กรุณาปล่อยเบลอเรื่องการตอบข้อความ) อ้อ นักเขียนสนพ.นี้ก็เขียนดีจริงอะนะ มันก็เลยขายได้เรื่อยๆ ปกสวย ราคาแรง (แต่หลังๆราคาลดลง ซึ่งดีมากกก)
- บกร. ไลน์แปลได้ไปต่อ ล่าสุดได้เรื่องดังมาในมือ (ปรมาจารย์) ถือว่าพื้นที่ในเวทีโลกเอ๊ยวายยังมีอีกเยอะ คุณภาพดี นักแปลดังๆก็มีออกด้วย เชื่อมือได้เลยทีเดียว เสียแต่ไลน์ไทยไม่ค่อยจะปัง น่าจะไม่ได้ไปต่อในส่วนของไลน์ไทย
- ฝ. อยู่มายาวนานพอๆกับนบ.มีแฟนขับเดนตาย (กุเอง) คอยสนับสนุน ยังไงก็รอดว่ะ ไม่ต้องพูดมากเรื่องคุณภาพนะ เป็นที่รู้กัน
- วดว. เรื่อยๆมาเรียงๆ ถือเป็นสนพ.หน้ากึ่งกลางกึ่งใหม่ แต่ยังอยู่ได้ขณะที่พวกที่เปิดตัวมาพร้อมกันล้มหายตายจากไปเกือบหมดแล้ว ที่ได้ไปต่อน่าจะเป็นเพราะจุดเด่นด้านแนวของสนพ.ที่จับสายแฟนตาซี ทั้งไลน์แปลและไลน์ไทย เออ สนพ.นี้ดันนักเขียนใหม่ได้ดีทีเดียวนะ นักเขียนหลายคนจากไม่มีคนรู้จักก็เกิดจากที่นี่เยอะ คุณภาพหนังสือดี แนวเรื่องดี ภาพดี แต่หนังสือขนาดเล็กกว่าปกติ ไปต่อทั้งไทยทั้งแปลแบบเรื่อยๆเรียงๆ
- เซ้นส์ มาแรงงงงงแหกโค้งมากกกกก ปกสวย ราคาโอเค แนวแมสๆเหมือนแจ่ม แฟนขับเยอะ ออกเยอะ ออกเร็ว เห็นว่าจะทำแปลด้วย ตรงนี้ไม่รู้ว่าสายแปลจะไปรอดหรือไม่ แต่สายไทยยังไงก็ได้ไปต่ออีกยาวๆ ข้อติอย่างเดียวก็คือ กูแยกไม่ออกว่านักเขียนคนไหนเป็นคนไหน ด้วยปกและแนวที่เหมือนกันไปหมด
- ฮูก จะไม่พูดถึงไม่ได้ สนพ.นี้อยู่ในวงการมายาวนาน น่าจะรองจากนบ.หน่อย แต่ก่อนคู่แข่งวายไทยก็มีแค่ นบ.ฮูก. ตอนนี้พอมีสนพ.เยอะ คุณภาพอะไรเลยดีขึ้น (เมื่อก่อนไม่อยากจะชมว่าปกแม่งไม่ดีเท่าทุกวันนี้เลยมึง) เนื้อเรื่องหลากหลาย โปรน่าหยิบจับ (เอาจริงๆชอบโปรที่นี่เพราะมันดูเยอะ ดูน่าอยากได้ ดูชวนจ่ายด้วยน้ำตา) ต่อให้มีดราม่าอะไร แต่คุณภาพมันก็พิสูจน์สนพ.ได้ ไม่งั้นคงไม่ชิงพื้นที่เวทีมวยได้ถึงตอนนี้ ไปต่อทั้งไทยทั้งแปลแบบยาวๆๆๆ
- รค. น้องใหม่มาแรงงงง ราคาเป็นมิตร คุณภาพดี แนวเรื่องถูกจริต แนวเรื่องจับกระแสเก่ง ซื้อมาอ่านได้เพลินๆ ข้อติคือนักเขียนสนพ.นี้เหมือนมีคนเดียว คนอื่นๆนี่มีใครบ้างก็ไม่รู้ เหมือนเป็นตัวประกอบเพราะเจ้าของนั่นแหละเด่นสุด (มันเป็นทั้งข้อดีข้อเสียเลยนะ กับการใช้ personal branding) ฟันธงว่าไปได้ทั้งไทยและแปล แต่ฝั่งไทยไปได้ยาวๆๆกว่าด้วยตัวนิยายของเจ้าของเอง
- ไพรด์ คุณได้ไปต่อสายแปลฝรั่งยาวๆๆๆ ไม่รู้จะชมยังไงกับคุณภาพคับแก้ว มาแรงแหกโค้งที่สุด ให้พิมพ์ต่อก็จะมีแต่คำชมอะแค่นี้ย
ที่โดดเด่นในสายตากูมีแค่นี้นะ นอกนั้นสนพ.อื่นๆมันไม่โดดเด่น เหมือนออกมาเล่นๆ ไม่รู้จะไปต่อได้ยาวๆมั้ย เพราะดูทรงมันเฉยๆมาก แทบจะจำไม่ได้ว่าที่ไหนเป็นที่ไหน รู้แค่ว่า อ้อ มีสนพ.ชื่อนี้ด้วยเหรอวะ เอ๊ะ นักเขียนชื่อไรนะ ถ้าสนพ.ไหนโชคดีดึงนักเขียนที่พอมีชื่อมาได้ก็ถือว่าลัคกี้ แต่ส่วนมากจะไม่น่ะสิ เหอๆ
สนพ.ที่ไม่รู้จะยังไงก็ อรอ. อป. สกล. รนน. ฟฉ. อว. ซบ. มนว. พจ. ฮอ. รตบ. ขห. นลก. และอีกเยอะมาก มีฟฉ.ที่พอไปวัดไปวาได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้ปังไม่ได้โดดเด่นจนน่าจับตามอง คิดว่าสนพ.พวกนี้ต้องทำการบ้านอีกเยอะ ทั้งเรื่องคุณภาพ ราคา เอกลักษณ์ ความรับผิดชอบ
ขอเสริมสนพ.ที่ดันไปต่อแบบงงๆ
- รก. เป็นสนพ.ที่สตรองมาก ดราม่าเท่าไหร่ไม่หวั่น
- นด. สตรองมากๆๆๆเช่นกัน ก็ยังอยู่ได้ถึงวันนี้หวะ
ใครมีอะไรอยากแชร์ก็แชร์กันได้ เพราะกูอาจจะพลาดสนพ.ที่ไหนไปก็ได้
>>296 บ็อกซ์พัง ถ้าไม่พังพินาศมากๆ ก็เอามาขายตำหนิ ไม่มีส่งซ่อมหรอก ค่าซ่อมเเพงกว่าต้นทุนกล่องอยู่เเล้ว ถ้าพังมากๆก็ปล่อยเสีย ปกติ รพ. จะมีเผื่อไว้ให้กันของพังของเคลมอยู่ หนังสือถ้าพันรอบนอก เเบบตำหนิที่ไม่มีผลต่อการอ่านก็ลดราคา เเต่ถ้าหน้าหาย หน้าสลับ กระดาษ ส่งให้รพ ทำให้ใหม่เลย
>>307 อันนี้หมายถึง ววฮซปะ ส่วนใหญ่กล่องส่งทำข้างนอกนะ เเต่เขาจะพิมพ์ภาพเอง เเล้วให้ร้านกล่องปะเเละประกอบ อันนี้เขาก็จะได้ลดส่วนต่างค่าคนกลาง ปกติมันจะน่าจะเป็นแบบ -> ร้านกล่อง -> โรงพิมพ์ -> สำนักพิมพ์ หรือนักเขียน พอตัวเองเป็นโรงพิมพ์ด้วยทำขายด้วย ดังนั้นเลยได้ถูก ขายได้ถูกกว่าปกติหน่อยหนึ่งน่ะ เเต่ทั้งนี้ต้องดูงานของนางว่าจะเป็นยังไงนะ ขึ้นกล่องมาทรงไหน
อันนี้ก็คาดเดาจากที่เคยๆเห็นมา เเต่อาจจะมีวิธีการแบบอื่นก็ได้เลยได้ถูก
บ็อกซ์ a round tripของอั่งเปาจะได้ตอนไหนวะ ผ่านมาจะเป็นปีแล้วกูยังได้ของไม่ครบเลย
Ky กูถามหน่อย นข พฟ เค้าแพ๊คของแย่ขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ ช่วงนี้กูไปอ่านเม้นเวลา นข โพสที่ไร จะเห็น นอ คนเดิม copy p คำพูดเดิมๆ ว่าให้นักเขียน กูเห็นแล้วหงุดหงิดเท่าที่กูซื้อของเค้ามา ก็แพคโอเคน่ะ ไม่บุบไม่ย่น แต่ก็นั้นแหละแล้วแต่ไปรแต่ละที่รึเปล่าว่ะ
กูสงสัยว่าสำหรับคนเขียนทำมือ ถ้าห่อมากลางๆประมาณสองสามชั้นไม่ได้ห่อแบบแหนมมีป้องกันมุมแต่ก็ไม่ได้บางชั้นเดียวบับเบิลแย่ๆ
แต่ถ้าบ้านไหนเจอแจ็กพ็อตมุมบุบเยอะๆเขาควรเคลมเหรอ ถ้าไม่เคลมจะโดนด่าไหม คือส่วนตัวกูว่าคนทำมือหลายคนถ้าไม่ดังจริงคือทำค่อนข้างเสมอตัวอ่ะ แค่ค่าปกกับค่าพิมพ์คงหมดแล้ว ไม่นับแรงงานจัดหน้าแต่งเรื่องดีลงานอีก ซึ่งพวกตำหนิจากการขนส่งถ้ารับเคลมคือคนเขียนต้องจ่ายเอง เข้าเนื้อเอง กูรู้สึกว่ามันมากเกินไปว่ะ
ถ้านข.ไม่ได้ห่อหนาอะไรมาก บับเบิ้ลที่ใช้ก็แบบทั่วไป ถ้าไปรโหดๆ มันก็มีบุบบ้าง ถ้านข.ห่อหนาเป็นหมอนแล้วมาเจอนอ.แบบนี้ก็คงพูดได้ แต่ถ้านข.ห่อธรรมดาแล้วเจอแบบนี้คงไม่แปลก จริงๆ>>316 ก็คงตอบได้นะว่าที่เค้าห่อมามันหนาแค่ไหน โอเคของแต่ละคนไม่เท่ากัน พี่ไปรแต่ละที่มือหนักไม่เท่ากันด้วย
มาขอออกเสียงสำหรับคนทำมือละกัน กูทำมือมาสามเล่มละ กูไม่ได้ดัง พรีทีนึงก็ยอดแบบ 40-50 อะไรเงี้ยะะะะ บอกเลยว่ากำไรแทบไม่มีอ่ะ คือสามเล่มนะ รวมกันกำไรยังไม่เท่ากูทำงานประจำเดือนนึงเลยแจ้
กูว่าคนเขียนทำมือควรมีจุดยืนว่าควรรับเคลมถึงไหน เรื่องตำหนิจากไปรถ้าไม่ได้ห่อบางจัดก็ไม่ต้องรับเคลม ห่อสองสามชั้นแบบคนปกติที่ไม่ใช่สายวายห่อก็พอแล้ว ส่วนบ้านไหนไปรโหดแต่อยากได้เนี้ยบก็ควรรู้ตัวเองแล้วใส่หมายเหตุขอเพิ่มเงินห่อหนาเป็นพิเศษเองไม่ใช่มาโวยกดดันคนเขียน พอคนเขียนบอกไม่รับเคลมก็ด่าสาดเสียเทเสียอ่ะ คือทั้งค่าส่งค่าหนังสือที่เสียไปคนเขียนก็จ่ายล้วนๆไม่ใช่ไปเคลมคืนได้นะ
>>327 แล้วค่าส่งที่ระบุไปบางทีคนซื้อก็ว่าแพง.. ส่งจริงแค่32บาทเองทำไมเก็บ45บาท คือค่าซองไปร ค่าซองแก้วใส่หนังสือ(7.-/ซอง) สก็อตเทป ค่าบับเบิ้ล ยังรวมลงไปใน45บาทไม่หมดเลยนะเลยต้องหักรวมกับกำไรหนังสือเราเอง ขายe-bookดีสุดตอนนี้ไม่เหนื่อยแพ็ค ไม่ต้องมีปัญหากับคนอ่านเรื่องแพ็คของกับราคาโน่นนี่ด้วย
>>325 เจ้าเพจนข.ดูทุกโพสต์ช่วงนี้จะมีคนเมนต์ซ้ำๆ อะ เจอเลย เอาเป็นว่ากูเคยได้ยินคนซื้อนี่เเหละพูดว่า "ทำไมต้องเพิ่มเงินให้ มันเป็นหน้าที่ของนักเขียน ของสนพ. ที่ต้องห่อหนาๆ เเละรับเคลมทุกกรณี "
จากปสก. นับคนได้เลยที่มีเพิ่มออฟชั่นต่างๆให้ เเล้งยอมจ่าย นอนนั้นก็ไม่เพิ่มนะจ๊ะ เเต่หมายเหตุรัวๆว่า ขอกันกระเเทกหนาๆ กล่องหนาๆ จ้า
>>329 ค่ากล่องก็บวกบานแล้ว บับก็ใช้รีไซเคิลแบบขายมือสองไม่ได้นะก็บวกไป คือไม่ต้องบวกค่าแรงค่าเวลาในการห่อก็เกินแล้วอ่ะ พอมีคนคิดค่าส่ง50บาทก็บ่นว่าแพงไป ไม่งั้นก็บ่นว่าราคาแพงแบบนี้ต้องห่อเทพๆนะ คือมึงงง บวกเท่านี้ความจริงคือต้องเอากำไรจากหนังสือมารวมด้วยถึงจะไม่เข้าเนื้ออ่ะ
กุพูดเลยว่าเรื่องเคลมของวงการนี้แม่งไปกันใหญ่แล้วอ่ะะะจริงๆ เหมือนอุปาทานหมู่เหรอ บางทีมันเล็กมากกระจิ๋วหลิวอ่ะ
เรื่องเคลมเมื่อก่อนไม่ขนาดนี้นะ กูว่ามีหัวหอกอยู่ไม่กี่คนหรอกที่โวยวายอะ ส่วนพวกที่เหลือก็ตามน้ำไป พอมันมากๆเข้าเลยกลายเป็นแบบทุกวันนี้ ตอนนี้มีนข คนนึงเปิดจองแต่ไม่มีส่งไปรฯมีแต่นัดรับ เห็นเค้าบอกทีปัญหาเรื่องการแพ็คกับการจัดส่ง คราวนี้มึงอยากเลือกเท่าไรก็เชิญเลยจ้า เอาแบบที่กริบๆ แต่คน ตวจ ก็ลำบากหน่อยนะ อาจจะต้องฝากร้านสั่ง แต่กูเห็นร้านต่างๆก็ห่อดีห่อหนาถูกใจสาววายเรื่องเยอะอยู่นิ งั้นก็คงไม่ลำบากอะไรเนอะ
>>333 บอกกงกง กูงงกับการเคลมสันย่น หรือมาบ่น ถ่ายรูปมุมกริบอะไรแบบนี้ที่สุด คือไอ้ตรงส่วนนั้นมันจุดอ่อนไหว แค่จับมาอ่านมันก็มีสิทธิ์เป็นร่องรอยนิดๆ หน่อยๆ ปะ อิสันย่นเนี่นเกี่ยวอะไรกับการอ่าน บางทีย่นนิดเดียว แต่ซูมมาซะยิ่งใหญ่ กูอยากจะกลอกตาให้หายไปในกระโหลก
ส่วนอิมุมต่างๆ เนี่ยบางทีอยู่ในซีล ถ้าซีลแน่นๆ หน่อยมันก็จะเสียรูปไปบ้างเล็กๆน้อยๆ เวลาเปิดหนังสืออ่านก็ต้องแตะมุมปะ คือกูงงว่ามันอ่านกันยังไง ให้มุมกริบกันขนาดนั้นวะ โดยเฉพาะมือ 2 เนี่ย เวลาตามหาหนังสือ ขอมุมกริบ มุมกริบ บางทีกูมีกูก็ไม่กล้าขายให้หรอก กูคิดว่ากูรักษาหนังสือดี แต่แม่งคงไม่กริบขนาดนั้น ได้แต่คิดในใจว่าถ้าอยากกริบขนาดนั้น แม่งก็ไปยืนเลือกมือ 1 ในร้านดิวะ
ถึงจะไปเลือกซื้อเองก็ส่องหนังสือเป็นชาติ เปิดไฟฉายในโทรศัพท์ไล่ดูทุกไมโครมิลลิเมตร ซื้อคนเดียวแต่ยกพวกมายืนออให้กำลังใจเป็นฝูง นี่ยังเบาะๆนะ ยังไม่ได้พูดถึงพวกที่เหวี่ยงฟาดงวงฟาดงา โยนกล่อง จิกด่าพนักงานขายเหมือนกดหัวไพร่
เรื่องพฟ.เห็นเค้าคุยว่าเค้าส่งกลับไปเปลี่ยนแล้วนข.ไม่ส่งหนังสือกลับมาให้ แล้วก็ไม่ตอบแชต ไม่คืนเงินด้วย
>>340 เรื่องไปเลือกที่ร้าน ที่บูธแล้วยืนเลือกนานนี่กูเจอกับตัวเลยค่ะ ในงานหนังสือเอย ในร้านเอย แบบเลือกบ้างกูก็เข้าใจแต่ยืนเป็นครึ่งชั่วโมงสแกนทุกอณูทั้งที่หนังสืออยู่ในซีลใหม่เอี่ยม ไม่เกรงใจคนอื่นอย่างนี้ก็ไม่ไหวนะ กูนี่ต้องไปเดินดูบูธอื่นก่อนสองสามรอบ แม่งกลับมาก็ยังยืนเลือกไม่เสร็จ โอ้ยย กูเหนื่อย
ห่อแบบปกติของวงการอื่นคือห่อชั้นเดียวพอดีหนังสือเป๊ะบ้าง ม้วนมาสองสามทบบ้างแล้วแต่ร้าน
เรื่องค่าส่งเรางงใจคนที่บ่นแพง ลืมคิดพวกค่ากล่อง ค่าซอง เทป เชือก ค่าแรง ค่าน้ำมันหอบไปส่งปณ. จะให้นข. หรือสนพ.แบกรับค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็เกินไปนะ ไม่ได้ทำการกุศลจะไม่ให้เค้ามีกำไรได้เอาเงินไปต่อยอดหมุนในธุรกิจหรืองานเขียนของตัวเองหน่อยเหรอวะ จะขอส่งฟรีถ้าซื้อครบตามโปรที่กำหนดยอดซื้อเท่าไหร่อะไรก็ว่าไป เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตกที่ขึ้นอยู่กับว่ามองจากมุมไหน
เอาจริงๆ กลุ่มที่เริ่มความเนี้ยบในกลุ่มหนังสือคือ ปล่อยของ นะ กุว่าเพราะตอนนั้นคนในกลุ่มเยอะมาก และพรีเซนต์เต็มที่กับสภาพหนังสือ หสม ว่าเนี้ยบ ใส่ใจลูกค้า ของไม่ดีไม่เอามาให้ กุคนนึงที่เคยหลงเชื่อสั่งซื้อไปตอนเผาปกแข็ง ได้มามุมย่น ยับ พอเมลล์สภาพให้ดูโอเคให้เปลี่ยน พอได้มาแย่กว่าเดิมเลยเลิกส่งเปลี่ยนเพราะคิดว่าคงไม่มีดีกว่านี้แล้ว แต่ในกลุ่มคนก็ยังบอกถ้าของเสียหายส่งเปลี่ยน ได้ของเนี้ยบ คืนค่าส่ง มีของแถมปลอบ บลาๆๆ กุคนที่เคยเปลี่ยนแม่งค่าส่งกลับก็ไม่ได้ ของแย่กว่าเดิม พร้อมกับมีข่าวโป๊ะแตกเรื่อยๆมา ถึงตาสว่าง แล้วความเยอะที่โดนยัดใส่หัวตอนอยู่ กลุ่มปล่อยของ มันเลยตามมาด้วยตอนกลุ่มปิด กระจายไปตามกลุ่มต่างๆ ตัวแม่ๆทั้งหลายอยู่ในกลุ่มปล่อยของก็คนอ่านวายด้วยเลยติดมา แล้วตอนนี้กระแสวายมันแรง เด็กรุ่นใหม่เยอะ พออยู่ในกลุ่มเจอความเยอะของรุ่นใหญ่แล้วได้รับความสนใจ ทีนี้เลยเกิดการเลียนแบบ ซื้อของถ้าเจอแย่ๆเหมือนถูกหวย โพสลงกลุ่มทุกคนให้ความสนใจ เกิดความภูมิใจมีคนสนใจโพสฉันด้วย เรื่องราวก็จบด้วยประการฉะนี้
เดี๋ยวนี้เขาซื้อหนังสือไปเก็บไว้เกร็งราคา เพื่อจะได้เอามาขายต่อแพงๆ ไม่ได้เอาไว้อ่าน พวกมึงเข้าใจไรผิดกันเปล่า
>>340 โคตรรำคาญอีพวกนี้ เคยเจอ กูเลยแทรกๆๆเข้าไปแม่ง น่ารำคาญ ของก็อยู่ในซีลไหม บุบนิดบุบหน่อย มึงซื้อไปเนี่ยไม่ได้ซื้อไปอ่านกันเหรอ รอยนิดรอยหน่อยถึงมีไม่ได้
กูเห็นสาววายบางคนบ่นสนพ.นึง ว่ายืนเลือกหนังสือในงานหนังสือแล้วเสียเวลาชีวิตเค้ามากกกก แทบไม่มีเล่มดีเลย
กูอ่านแล้วได้แต่นึกในใจ ว่านางควรเลิกเยอะสิ่งสีแปดแบบเว่อๆลงบ้างก็ดี จะได้เลิกเสียเวลาชีวิตกับเรื่องหาข้อติหนังสือเล่มนึงลงบ้าง
สภาพหนังสือถ้าหน้าไม่หาย หน้าไม่สลับ หนังสือไม่หลุดออกมาเป็นแผ่นๆ ก็ไม่มีอะไรน่าเคลมอะ บางคนนี่เห็นสันย่นยังไม่ได้เลยแจ้ เหมือนโดนผีสิงเลย ต้องเปลี่ยนให้ได้งั้นงี้ อุปทานหมู่สาววายโคตรบ้าบอ กูบอกตรงๆนะโคตรปัญญาอ่อน
ลัทธิการเคลมหนังสือของสาววายแบบจะให้ได้ดั่งใจกริบทุกองศา เมื่อไหร่จะหมดไปโคตรน่ามคาน
ถ้าปัญหาเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่บอกนอ.ไปเลยว่า ทำแต่อีบุ๊คค่ะ ไม่ทำเล่ม แต่เท่าที่เห็นนข.ก็ยังทำเล่มกันอยู่ แสดงว่าต้องมีอะไรที่ดีกว่าถึงทำเล่มกัน
อ้าว พวกมึงไม่รู้เหรอ เขาซื้อมาถ่ายรูปอวด ไม่ได้ซื้อมาอ่าน
>>335 เอาตรงๆนะกูว่าบางคนที่สันย่น มุมแหก ไม่ได้มาจากโรงพิมพ์หรือไปรด้วย...ทำเอง...
กูเคยเจอกรณีเพื่อนที่เคยเล่นเกมด้วยมาถามในแชทกลุ่มว่าหนังสือมุมมันไม่เรียบแบบนี้เคลมได้มั้ย ส่วนใหญ่คนในกลุ่มก็บอกว่าเขาไม่เคลมหรอก ไม่มีผลกับการอ่าน ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น บางคนก็ว่าลองไปถามนักเขียนดู นางก็เงียบไป จนสามวันต่อมานางก็มาบอกในกลุ่มว่าคนเขียนให้เคลมได้ รอยที่นางโดนจริงๆมันเรื่องใหญ่มากนะ คนไม่เก็บไม่ถนอมหนังสือไม่รักหนังสือไม่เข้าใจหรอก เพื่อนในกลุ่มก็อึ้งไปเพราะรอยเท่าจิ๋มมดคนเขียนให้เคลมด้วยเว้ย แต่บังเอิญว่าเพื่อนอีกคนที่กูสนิทด้วยแม่งเป็นเพื่อนกับนักเขียนคนนั้นมันเลยหลังไมค์ไปถาม เขาเลยส่งรูปมาให้ดู ปรากฎว่าจากรอยมุมเล็กๆกลายเป็นปกแม่งย่นเข้าไปครึ่งหน้าอ่ะ นางลงทุนขยำปกเพื่อส่งเคลมอะมึง เพื่อนกูเลยส่งหลังไมค์ไปหานางแล้วถามว่าทำแบบนี้จริงเหรอ นางบล็อคเพื่อนกูทิ้งแล้วเฟดตัวเองหายไปจากกลุ่มเลยจ้า 55555
กับอีกรายนึงกูเคยไปช่วยนักเขียนคนนึงแพคของกับรับเคลมให้ เพราะจำนวนไม่เยอะแค่ห้าสิบกว่าชุด กูเลยเช็คจนมั่นใจว่าไม่มีเล่มไหนสันย่นรุนแรงหรือปกขาดจากโรงพิมพ์ เพราะกูเคยทำงานร้านหนังสือเลยติดนิสัยเรียงเล่มแล้วเช็คจากสันก่อนแพ็ค เท่ากับกูเช็คสองรอบและมั่นใจมากว่าที่ส่งไปไม่มีเล่มไหนย่น ก็ตั้งกฎไปว่ารับเคลมเฉพาะกรณีที่ส่งผลต่อการอ่านและเกิดความเสียหายรุนแรงจากไปร สองอาทิตย์ต่อมาก็มีรายนึงมาขอเคลมแล้วส่งรูปที่สันย่น(ย่นไม่เยอะบุบนิดนึง)มาให้ดูกับรูปกล่องกับหนังสืออีกสองเล่มแล้วโวยวายว่าห่อมายังไงหนังสือโดนไปรกระแทกมาเสียหายขนาดนี้ แต่พอกูดูรูปดีๆกล่องไม่มีส่วนไหนบุบเลยเว้ยเรียบกว่าอิหนังสือเล่มที่สันย่นอีก หนังสืออีกสองเล่มก็ไม่มีรอยอะไรเลย ซึ่งเล่มที่ย่นคือย่นตรงซ้ายล่าง แล้วเล่มนั่นเป็นเล่ม 2 ซึ่งอยู่ตรงกลางไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันไม่ควรที่จะย่นที่เล่มนั้นมุมนั้นเล่มเดียว กูเลยรู้ว่านางทำตกเองแล้วมาขอเคลม กูก็ตอบกลับไปว่าคงรับเคลมไม่ได้นะคะ นางก็โวยวายว่าทำไมไม่ได้ ไม่มีความรับผิดชอบเลยห่อไม่ดีเองแท้ๆ(อิห่ากูใส่ซองแก้ว ห่อบับสามชั้นแถฟองน้ำกันกระแทกอีก) กูก็ตอบว่าไม่รับเคลมกรณีที่ไม่ส่งผลกับการอ่านหรือเกิดจากการที่ลูกค้าทำเสียหายเองค่ะ นางก็เงียบไปเลยเหมือนยอมรับว่าตัวเองทำเสียเองอ่ะ ถถถถถถ กูก็ไม่รู้นะว่ารายนี้มีไปบ่นลับหลังที่ไหนหรือเปล่าแต่คนสันดานแบบนี้มันมีอยู่จริงๆว่ะ
>>349 เพราะทำเล่มมันจับต้องได้ไง กูว่าส่วนหนึ่งที่คนเขียนทำเล่มก็อยากมีเล่มจับต้องได้ไม่ต่างจากคนอ่านอ่ะ กูก็สายซื้อหนังสือมาอ่านไม่เคยซื้อe-book เพราะรู้สึกมันจับต้องไม่ได้ แถมคนอ่านหลายคนก็รู้สึกซื้อe-bookไม่ต่างจากอ่านในเว็บ
คนประเภทนี้เห็นเยอะนะ แบบถ้าตามอ่านการ์ตูนในcomicoงี้ คนซื้อก็จะแอบยังไงๆกับการเปย์อ่านออนไลน์อยู่แต่พร้อมทุ่มถ้ารวมเล่ม
>>341 >>343 เท่าที่กูอ่านดูนะ นอ.คนนั้นเค้าน่าจะส่งหนังสือไปคืนให้ นข.มันส์ดี แต่นข.ไม่รู้แต่ต้น/ไม่มีการคุย ตกลงแต่แรกว่าส่งคืนอ่ะ
นอ.เลยโพสต์ว่า ที่เขียนไปใน IB ไม่อ่านเลยหรือ สรุปตอนนี้ก็คงเป็นตามที่เพื่อนโม่งบนๆพูดกัน นข.ได้รับหนังสือที่ นอ.ส่งคืนมา แต่ นข.ไม่ส่งเล่มใหม่ไปให้และไม่คืนเงิน
จริงๆเรื่องนี้มันจบได้นะ แค่ นข.กับ นอ. คุยกัน ตกลงกันไปว่าจะเอาไง
พอกันทั้งคนซื้อคนเขียน คนซื้อก็ไม่ถามก่อนส่งไปว่ามันเคลมได้หรือเปล่า คนเขียนก็ไม่อ่านibไม่คุยกับคนซื้อ ปล่อยให้เค้าด่าต่อไปจ้ะ
กูว่าเขาน่าจะอ่านนะ เเต่คิดว่าตกลงกันไม่ได้ คือทางนข.อาจจะไม่ให้เคลมพออ่านจบเเล้ว ก็จบ ไม่ให้เคลม ปกติยังไงก็ต้องอ่านข้อความเเหละ เผื่อมีกรณีปัญหาหน้าหายของเเถมไม่ครบ เเต่นอ. ยังไม่พอใจไง เลยส่งกลับไป อยู่ดีๆส่งกลับไม่มีทางหรอก เเต่นางจัดหนักจัดเต็มจริงๆ คนนี้อะบอกเลย
เดี๋ยวนี้เค้าซื้อหนังสือมาโพสต์ถามกันว่าเล่มนี้สนุกมั้ยอ่า เผลอหยิบติดมือมา หน้าปกสวยดี > <) หลังจากนั้นก็ไปขายต่อ 55555
มีใครชี้เป้าที่คนที่ส่งหนังสือคืนโดยที่ไม่ได้ตกลงกับคนเขียนมั้ย อยากเห็นว่าคนรุมว่าคนเขียนเยอะไหมหรือคนด่าเจ้าของโพสท์ไหม
หรือนข.ควรทำเล่มให้พอดีต่อจำนวนคนพรีวะ อาจจะเกินมาซัก10เล่ม เผื่อหน้าหาย จะได้ตัดปัญหาพวกเรื่องมาก
>> 361 ไม่มีใครด่า นข. หรือ ต่อว่า นอ. คนนั้นนะ เหมือนทุกคนไม่อยากยุ่ง 555 มีบ้างที่คนเข้าไปถาม นอ.ว่า เกิดอะไรขึ้น นอ.คนนั้นก็ตอบประมาณ นข.ห่อเรื่อง น้องชายมาไม่ดี บับฟีบ หนังสือเลยมีตำหนิ ประมาณนี้
สอบถามความเห็นหน่อย
คิดยังไงกับการที่นข.ไม่ทำตามคำพูดที่ให้ไว้ตามรอบพรี เช่น บอกว่าจะแถม A แถม B เฉพาะรอบพรีเท่านั้น มีการเน้นย้ำว่าอ่านให้ดีๆ ให้ครบถ้วนก่อนจอง
หนังสือที่จะมีขายนอกรอบพรีจะไม่มี A แต่มี
B (โดยที่หนังสือนอกรอบพรีได้ก่อนคนรอบพรีนะ เพราะลงขายในงานเลย คนพรีรอมา 6 เดือน ยังไม่ได้นะตอนนั้น)
แต่ปรากฎว่าในใบรายการของหนังสือที่จะมีขายในงานกลับมีแถม A ขึ้นมาด้วย!?!?
>>367 กูไม่สนใจเรื่องของแถม แต่กูมายเรื่องคนหน้างานได้ก่อนรอบจองมากๆ ไม่โอเค -*- ก็เลยพาลไปว่าเรื่อง A กะ B ของมึง ก็ไม่โอเคด้วยเหมือนกัน
แต่ในบางกรณี กูคิดว่าของแถมมันเหลือ เลยเอามาแอบแจกให้หมดๆไป แต่ไม่เอิกเกริกน่ะ สั่งทำมา 200 แจกจริง 180 อีก 20 จะกองไว้บ้านก็ไม่ใช่มั้ง
>>367 คห.กูนะ กูไม่โอตรงที่ขายในงานก่อน แล้วคนรอบพรียังไม่ได้ของเลยมากกว่า แล้วรอนานด้วย ส่วนเรื่อง เล่ม A เล่ม B ที่จะได้ตอนพรีเท่านั้น รอบขายไม่มีอีกเล่มไรงี้ เรื่องนี้ถ้าเป็นกู กูก็เสียความรู้สึกนิดนึง แต่ก็นะ เด๋วนี้หา นข.พวกรักษาคำพูดเป๊ะๆยากอ่ะมึง อะไรขายได้เค้าก็ขาย อะไรเหลือ ทำมาแล้วเหลือ เค้าก็เอามาขาย ดังนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ จำไว้ แล้วก็คิดอีกทีว่าในอนาคตควรจะซื้องานเค้าอีกมั้ย
ต่อ การที่เราไม่ยอมในกรณีนข.แถมนอกรอบแบบนี้
ถือว่าเรากีดกันไม่ให้คนอื่นได้ของแถมมั้ย? (นข.กล่าวหามาเช่นนี้)
>>367 กูสนับสนุนถ้าของแถมเหลือแล้วเอามาเล่นเกมส์แจกไรงี้นะ และถ้าบอกว่าของแถมAเหลือก็จะแจกรอบอื่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดงี้กูก็โอเค เพราะเดี๋ยวนี้เห็นนข.หลายคนก็ทำแบบนี้ ใครอยากได้ครบก็พรีซะจะได้ไม่ต้องลุ้นทีหลัง แต่ถ้าระบุไว้เลยว่ารอบหลังจองไม่ได้Aแน่ๆแล้วรอบหลังจองทุกคนได้ของแถมAนี่กูซีเรียสละ เพราะกูเกลียดนขที่.ไม่รักษาคำพูดสุดๆชนิดเลิกอ่านงานเลย ส่วนเรื่องส่งช้ากูก็คงนอยด์แหละแต่กูอยู่ตจว.ไปงานไม่ได้อยู่แล้ว เลยไม่มีผลกับกูเท่าไหร่ แค่อยากให้นข.ส่งเร็วที่สุดแค่นั้น
ky เห็นร้านที่มาเปิดพรีโด อ.จิเสะกันปะ กูขำคำเตือน เตือนแบบนั้น อย่าเตือนซะยังดีกว่า ถถถถถถถ
เดี๋ยวห้อง สป จะกลายเป็นห้องไอทีแล้วเหรอว่ะ ถามในกลุ่มได้ไง ว่า แคปหน้าจอมือถือ ss ต้องทำยังไง !! กรูเซ็ง
>>377 จริงๆ ถามอากู๋ง่ายกว่านะเรื่องพวกนี้ กลุ่ม สป นิยายมันจะกลายเป็นกลุ่มจิปาถะไป เพราะพอมีคนเริ่มคนนึง คนต่อๆ ไปก็จะตามมา ยิ่งไม่มีคนดูแลกลุ่มเดี๋ยวได้เละ หลายๆ อย่างกูถามอากู๋แล้วได้เรื่องได้ราวโดยไม่ต้องถามใคร อย่างเช่นเวลาจะซื้อนิยายในกลุ่ม ถ้าเรื่องที่ไม่รู้จัก กุก็จะเสริชหาเรื่องย่อ รีวิวอะไรประมาณนั้นอ่านก่อน ไม่จำเป็นต้องถามแม่ค้า ประหยัดเวลาไปอีก กูเห็นบางคนอะไรนิดอะไรหน่อยถามจุกจิกตลอด ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงบางทีพยายามด้วยตัวเองบ้างก็ดี ความขี้เกียจเก็บเอาไว้เถอะวะ บางทีเห็นเยอะๆ แล้วหงุดหงิดจริงๆ
กูก็แปลกใจอะไรง่าย ๆ ง่ายกว่าพิมพ์ถามอีกทำไมต้องโพสต์ถาม แปลกดี คิดว่านี้เอะอะอะไรก็ถรมต้องการพื้นที่ในสังคมโซเซียลอะ
ปัญหานี้เป็นทุกที่ว่ะ เห็นกระทู้บ่นในพันทิพบ่อยมาก ประเด็นคือชีวิตเดี๋ยวนี้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นเยอะ บางคนเลยติดการที่มีข้อมูลส่งตรงมาหาตัวเองแบบป้อนถึงปาก บางทีย่อยมาให้หมดแล้ว มีหน้าที่กลืนลงท้องอย่างเดียว ทั้งที่การไปถามอากู๋บางทีจะได้คำตอบเร็วกว่ารอคนมาตอบด้วยซ้ำ แต่ต้องเสียเวลาหาเสียเวลาอ่านไง สู้รอคนส่งข้อมูลถึงมือไม่ได้ สบายกว่า เห็นบ่อยๆก็ละเหี่ยใจเหมือนกันนะ อะไรจะขี้เกียจขนาดนั้น รกบอร์ดรกกรุ๊ปเหอะ
ปรับทุกข์เรื่องส่วนตัวก็มีมาหละ
ทำไมเดี่๋ยวนี้พอนิยายได้พิมพ์กับสนพ แล้วต้องปิดตอนด้วย บางสนพ.ก็ไม่เห็นต้องปิดตอนเลย หลังๆนี่เห็นบ่อย กับพวก สนพ ที่เพิ่งเปิดเนี้ย
>>383 เพราะหลายคนชอบอ่านฟรีและยึดคติที่ว่าเรื่องนี้อ่านสนุกนะ อ่านจนจบนะแต่ไม่สนุกพอซื้อ ต่อให้มีตอนพิเศษก็บอกว่าไม่คุ้มซื้อทั้งเล่มกับตอนพิเศษสองสามตอนยังไงก็อ่านจบแล้ว ดังนั้นเลยให้คนอ่านได้จ่ายเงินคุ้มๆโดนซื้อเนื้อหาทั้งเล่มอ่านไง เป็นการกระตุ้นยอดขายอย่างหนึ่ง เพราะคนที่อ่านไม่จบจะได้ซื้อ ซึ่งกูโอเคนะคนเขียนแต่งก็ต้องกินต้องใช้ กว่าจะเขียนสักเล่มต้องใช้เวลาใช้สมอง ไหนจะค่าไฟอีก สนพ.เองก็ต้องจ้างคนมาขายจัดทำรูปเล่ม ทุกอย่างล้วนมีต้นทุนจะหาทางได้เงินหน่อยคนที่คุ้มว่าจะซื้อก็ซื้อ คนที่อ่านฟรีก็อ่านไป
ส่วนพวกที่บอกว่าถ้าอ่านฟรีจนจบแล้วจะมีคนซื้อเพิ่มตามหาเพิ่มเพราะรู้ว่าดีจริงไม่เหมือนกับพวกที่ปิดตอนจนไม่มีคนอ่านเพิ่มนี่.. แวะไปทัศนศึกษาห้องlitได้ เห็นมีคนบ่นประเด็นนี้บ่อยๆ
นิยายแปลตัวอย่างสองสามตอนซื้อได้ แต่นิยายไทยไม่ลงจนจบไม่แน่ใจว่าสนุกมั้ย บางเรื่องลงไปเกินเรื่องยังมีคนไม่แน่ใจว่าสนุกมั้ยเลย
ปิดมันช่วยกระตุ้นยอดขายส่วนหนึ่งนะ เเต่ถ้าเทียบกับเปิดจนจบตอนแบบปิดจะขายได้มากกว่า เชื่อง่าคนเทน้อย เเต่ส่วนตัวกูเฉยๆ ปกติ ซื้อเล่มหมดถ้าชอบ เปิดปิดไม่มีผล ลงตอนพิเศษสิบหน้า เปิดตอนหมดกูก็ไม่ถือว่าไม่คุ้ม จะปิดตอนให้อ่านในเล่มก็ได้
เเต่จะไม่ชอบมากเคสที่นัดว่าจะลงตอนจบให้หลังจากเล่มเเล้ว สุดท้ายไม่ลงอะ ( กูก็ซื้อเล่มเเล้วแหละ เเต่ไม่ชอบรักษาคำพูด)
>>385 กูเห็นต่างเรื่องนิยายแปลสองสามตอนซื้อได้นิดนึง เพราะกูเป็นคนที่ซื้อแต่นิยายแปล นิยายแต่งมีไม่กี่เรื่องที่ซื้อนอกจากตามนข.กับถูกจริตจริงๆ
ที่กูยอมซื้อนิยายแปลที่ลงตัวอย่างแค่สองสามตอนเพราะตัวอย่างกูเอาไว้ดูพวกสำนวนแปล การเกลาภาษาแค่นั้น เนื้อเรื่องก็ไปดำน้ำ ไปหาดูพวกคำวิจารณ์จากต้นทางไม่ก็ดูพวกจัดอันดับเอา ซึ่งพวกนี้มันเอามาประกอบการตัดสินใจซื้อได้ ไม่เหมือนกับนิยายแต่งถ้าลงไม่จบเรื่องก็ไม่รู้เลยว่าตอนจบจะตรงจริตมั้ย
แต่กูก็เข้าใจนข.ที่เลือกลงไม่จบนะ เพราะนข.คงคิดมาดีแล้วว่ามันคุ้มกับตัวนข.มากกว่า เพียงแต่กูเลือกที่จะยังไม่ซื้อจนกว่าจะเห็นรีวิวเพราะกูไม่อยากต้องมาตั้งขายมือสองว่ะ
แต่นักอ่านหลายคนมากที่ไม่ชอบการปิดเรื่อง นักเขียนบางคน (เช่นกูเองจ้า 55555) เคยถูก ask มาด่าว่า พอจะขายแล้วก็ปิดเรื่อง หน้าเงินชิบหาย อะไรงี้
แหะๆ คือกูก็ต้องแดกเนาะ
เรื่องปิดตอนนี้ถ้าตีพิมพ์กับสนพ. มันอาจเป็นข้อกำหนดของสนพ.เองก็ได้ ซึ่งอันนี้ก็ต้องไปดูว่าเป็นของสนพ.ไหน ก็ต้องเข้าใจสนพ.ด้วยเพราะการปิดตอนส่วนหนึ่งมันก็ช่วยกระตุ้นยอดได้จริงๆ เพียงแต่ก่อนหน้านี้แนววายมันไม่ค่อยมีใครปิดตอนหลังจากตีพิมพ์หรือเปล่าก็เลยมีคนออกมาบ่นมาถามเรื่อยๆ ทั้งๆที่แนวอื่นก็ปกติกับเรื่องแบบนี้
>>392 แนวอื่นเขาเข้าใจนขหมดแล้วว่ากินอากาศไม่ได้ แนวรักปิดจนเหลือแค่สิบตอนแรกเลยด้วย
แต่พอแนววายดันมีนักอ่านออกมาบ่นมาตั้งโพสต์ด่า แบนนักเขียนที่ปิดตอน เรื่องไม่ดีต้องปิดตอนถึงขายได้ ดีจริงยังไงคนก็ซื้อ ประโยคที่เอาไว้แก้ตัวของพวกชอบอ่านฟรี เปิดจนจบ คนซื้อน่ะมีแน่นอน แต่มันน้อยกว่าปิดตอนสามสี่เท่า
>>388 อันรี้กูว่าคนเขียนไม่รักษาคำพูดว่ะ คือไม่มีใครบังคับให้สัญญาว่าจะลงให้จบ ถ้าไม่คิดจะทำหรือไม่แน่ใจก็ไม่ควรพูดแต่แรก พอพูดออกมาคำพูดก็เป็นนายเรา
>>389 อืม ปัจจัยดูคนละอย่างกัน ส่วนกูแค่ดูว่าสำนวนผ่าน ส่วนเนื้อเรื่องเท่าที่ตัวอย่างให้มาก็พอจะเห็นทิศทางคร่าวๆว่าจะถูกจริตตัวเองมั้ยแล้ว เพราะกูชอบอ่านแบบสดใหม่ถ้ารู้ตอนจบแล้วค่อยอ่านมันจะไม่ว้าวเท่าอ่านแต่แรก คือถึงนิยายมันมีให้ลงจนจบในเว็บกูก็ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายอ่ะ ไม่มีข้ามไปอ่านตอนจบเพื่อเช็คดูว่าตอนจบโอเคมั้ยก่อนอ่าน พระเอกตายทีกูก็ไปกรีดร้องใส่เพื่อนที... ร้องไห้
>>394 เอออออ อันนี้จริงมาก กูคือคนที่โดน ask มาด่านะ กูบอกแม่กูว่าแบบเออ คนอ่านไม่ชอบให้กูปิดตอนงี้ แม่ก็ไม่เกตเว่ย แม่กูอ่านนอร์มอลในเนตแนวรักๆไรงี้ นางก็ไม่เข้าใจว่าถ้าไม่ปิดแล้วใครจะซื้อ แล้วก็พยายามโน้มน้าวให้กูปิด กูก็แบบ เห้อ กูก้อยากปิด แต่กูไม่เข้มแข็งพอกับคำด่าจิงๆ
คนอ่านบางคนก็ด่าหยาบคายมากนะ เพื่อนกูเคยโดนแบบ ไม่อัพเลย ตายห่าไปแล้วเหรอ อะไรงี้เลยอ่ะ นั้มตาาาา
กูคือ 397 ขอพูดอีกนิสส : กูคิดว่าบางทีคนอาจจะชินกับระบบเล้าเป็ด เราอยู่กับเล้าเป็ดกันมาตั้งนาน เมื่อก่อนนิยายวายก็ลงเล้าเป็ดกันเป็นหลักป่ะ (หลังๆถึงมีเด็กดีบ้าง) แล้วการลงในเล้าเป็ดมันก็บังคับให้ลงจนจบแบบไม่มีการปิดตอน กูคิดว่าคนอ่านแนวนี้ก็สามารถอ่านเรื่องส่วนใหญ่ในตลาดได้จนจบ บางคนก็ไม่ได้ซีเรียสกับตอนพิเศษ ไม่อ่านก็ได้งี้
กู383 เอง อ่านความเห็นหลายโม่งพอเข้าใจแล้วหละ ขอบใจมากๆ ส่่วนตัวกู กูแค่อ่านไม่ทันเฉยๆ T_T พอมาเห็นออกเล่ม แล้วมาปิดตอนเลยคิดว่าไรวะ ปิดตอนอีกแล้วเหรอ ที บางสนพ.ไม่เห็นเค้าปิดตอนเลย อะไรแบบนี้ เลยมาถาม
>>397 คนอ่านแบบนั้นเพื่อนโม่งอย่าไปสนใจ ถ้าเค้ารองานเพื่อนโม่งจริงๆ จะต้องไม่ปากหมาใส่ แบบนี้ถ่อยเกินอย่าให้ราคา โอ๋ๆ นะ
อย่างเราการปิดหรือไม่ปิดตอนไม่มีผลในการซื้อถ้าชอบก็ซื้อตลอด ซื้อทั้งเล่มจ่ายทั้งเหรียญ ถ้าไปอ่านหลังจากปิดตอนก็อ่านตอนที่เปิดดูสำนวน เนื้อเรื่องน่าสนใจก็วิ่งไปซื้อเล่ม ไม่น่าจูงใจก็ไม่ซื้อ แค่นั้นเอง
>>397 มึงต้องทนคำด่าให้ได้ แล้วจะรู้ว่ายอดต่างกันเยอะมาก ตอนแรกกูก็คิดแบบโลกสวยว่านิยายดีไม่ปิดตอนยังไงคนก็ซื้อ เพื่อนกูเอาตารางเงินที่ได้จาก MEB อีบุ๊กมาให้ดูเลยว่ายอดต่างกันมาก เล่ม 1 เปิดให้อ่านฟรี มีคนโหลดอ่าน 3 เล่ม ต่างจากเล่ม2 เล่มจบที่ปิดตอนมีคนโหลดอ่าน 15 เล่ม ตัวเลขไม่โกหกเหมือนคำพูดวะ ตั้งแต่นั้นใครด่าเพื่อนกูปิดตอน กูไปแจมด่ากลับทุกรอบ คำพูดสวย ๆ ที่นิยายดียังไงก็ซื้อมันใช้ได้จริงไม่กี่คนหรอก
>>395 กูอ่านได้เกือบทุกแนวนะ โดยเฉพาะเศร้าๆซึ้งๆกูยิ่งชอบเป็นพิเศษ กูรับได้ที่ตอนจบจะมีใครตายถ้าปูเรื่องมาแบบสมเหตุสมผล ที่กูหมายถึงใน >>389 คือพวกที่เปิดเรื่องมาแบบน่าติดตามแต่หลังๆกลายเป็นออกทะเล ไม่ก็จบแบบปาหมอนอ่ะ แล้วกูเป็นพวกเรื่องมากด้วยไงบางประเด็นกูก็ไม่อ่านด้วย เวลาจะตัดสินใจซื้อเลยเรื่องมากนิดนึง 55555
ส่วนตัวกูเฉยๆนะ จะเปิดหรือจะปิดก็ขึ้นกับนักเขียนว่ะ ไปวุ่นวานอะไรไม่ได้เพราะเป็นสิทธิ์ของเค้า
แต่ที่กูทำคือ
1 ถ้าลงจนจบกูก็อ่านในเน็ตจนจบ ไม่ปิดตอน ชอบก็ซื้อไม่ชอบก็ไม่ซื้อ
2. ถ้าลงในเน็ตจนจบแต่พอพิมพ์แล้วลบออก (ซึ่งกูมักจะอ่านไม่ทัน) กูก็อ่านถึงตอนล่าสุดที่ลงฟรีแล้วก็เปิดดูคอมเม้นท์+รีวิวว่าตอนจบถูกจริตกูมั้ย ถ้าโอก็เปย์ ไม่โอก็ข้าม
3. ถ้าลงมาครึ่งเรื่องแล้วเปิดขายเล่มเลย กูจะยังไม่ซื้อจนกว่าจะมีคนมารีวิวว่ะ เพราะกูเรื่องมากกับตอนจบ ถ้ารีวิวโอก็ค่อยซื้อ
แต่ส่วนตัวที่กูชอบที่สุดคือนข.ลงจนจบเนื้อเรื่องหลัก แต่เพิ่มตอนพิเศษไปในเล่มอย่างเดียวอ่ะ อันนี้ในส่วนกูที่ซื้อหนังสือก็ไม่ได้รู้สึกว่าเสียเปรียบพวกอ่านฟรีด้วย แถมคนอ่านฟรีก็ได้อ่านจนจบตามสมควรได้
มาให้กำลังใจเพื่อนโม่งที่โดนคนอ่านด่านะ
กูคิดว่าคนแบบนี้มันไม่คิดจะซื้ออยู่แล้วอะ ต่อให้เปิดตอนลงจนหมดแล้วทำขาย มันก็ไม่ซื้อ มันแค่อยากได้ของฟรี พอไม่ได้มันเลยมาด่า ช่างมันเหอะ ถึงแคร์มันไปมันก็ไม่ยอมจ่ายเงินอุดหนุนเราหรอก
ขอบคุณเพื่อนโม่งทุกคน //กราบร่องอกรอบวง
ถ้าอยากเช็กตอนจบก็รอใครรีวิวดิวะ ไม่ใช่บังคับให้เขาลงให้จบ กูว่าเปิดให้อ่านครึ่งค่อนเรื่องก็ใจป้ำมากแล้ว อย่างอีบุ๊คตปท.เขาให้อ่าน 10% เอง บางเล่มก็ 5% มึงอยากอ่านก็ต้องกดซื้อ กูเข้าใจว่าหนังสือมันแพง มึงไม่อยากซื้อมาแล้วผิดหวัง แต่ถ้าอย่างนั้นต้องรอรีวิว ไปบังคับให้นข.ลงให้อ่านก็เหมือนมึงไปบอกร้านตามสั่งว่าขอลองกินกะเพราทั้งจานก่อน กินหมดแล้วจะคิดอีกทีนะว่าซื้อไหม กูว่า 90% ไม่ซื้อ นข.ก็อย่าไปแคร์เลย
เรื่องตอนพิเศษ มึงต้องเข้าใจนะว่าไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะมีตอนพิเศษ ต้องลงจนจบไม่พอ ต้องมานั่งคิดหาตอนพิเศษให้เพิ่มอีก เผลอๆ ตอนพิเศษสั้นก็โดนด่า แค่สิบหน้าไม่อยากซื้อ มีขายแค่ตอนพิเศษไหมหรือใครสแกนให้ที
>>403 กูเป็นเหมือนมึงวะ ชอบอ่านให้จบแล้วค่อยตัดสินใจซื้อ กูเสียไปเยอะกับการอ่านแค่ปกหลังแล้ว พออ่านเล่มไม่ใช่แนวเฉยเลย กูจะอ่านให้จบแล้วค่อยซื้อ กูถือว่ากูให้กำลังใจนข. สนพ. ให้ทำผลงานดีๆต่อไป อีกอย่างกูเป็นพวกชอบจับหนังสือ อ่านในเว็บสู้หยิบเล่มไม่ได้จริงๆ แล้วนิยายที่กูชอบคือกูไม่ได้อ่านคนครั้งเดียวจบ กูหยิบมาอ่านเรื่อยๆ เลยซื้อได้แบบไม่เสียดาย
กูว่าหนังสือเป็นอะไรที่ให้โอกาสผู้บริโภคได้มีสิทธิ์เลือกเยอะมาก อ่านก่อนบางส่วน อ่านจนจบค่อยซื้อก็ได้หรือจะเลือกไม่ซื้อก็ได้ ในขณะหลายๆ อย่างจะลองยังไม่กล้ากลัวแม่ค้าเตะออกมาจากร้าน เหมือนอย่างเวลาเข้าร้านอาหารนั่นแหละ จะกินก่อน ชิมก่อนไม่ชอบไม่จ่ายเงินก็ไม่ได้ กูพูดในแง่สินค้าและผู้บริโภค เดี๋ยวจะมีคนบอกเทียบกันไม่ได้อีก กูไม่เห็นด้วยกับการโวยวาย นข ในเรื่องการปิดตอนไม่ปิดตอนนี่เท่าไหร่ในเมื่อมันเป็นสิทธิ์ของเค้า อยากอ่านก็ซื้อ ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ เงินอยู่ในมือเรา ไม่จำเป็นต้องไปงอแงอะไรกับเค้ามากมาย
บางคนเรื่องมากเรื่องห่อหนังสือส่งจริง ๆ
กูเคยอ่านนิยายบนเน็ตแล้วชิบมากชิบชิบหายเลย
แต่มันมีแค่ครึ่งเรื่อง เลยซื้อมาอ่านเท่านั้นแหละ
ไอสัสเอ๊ยเสียดายเงินโคตรๆ เสียความรู้สคกชิบหาย ขายทิ้งแทบไม่ทัน
เหมือนครึ่งแรกนขตั้งใจเขียนนะ แต่หลังๆเหมือนเขี่ยๆไป
นิยายวายที่ไม่ลงตอนจบและทำให้กูแค้นสุดๆ...คือเรื่อง หัวใxมังกx อ่ะ ด้วยความที่อยากรู้เลยซื้ออ่าน หนังสือแพงสัสๆ เกือบสี่ร้อย แถมแต่ละหน้ามีแทบไม่ถึง 15 บรรทัด ตัวอักษาใหญ่เวอร์ คำผิดอีกเป็นขบวน และเหลืออีกไม่ถึง 30 หน้าจบ และจบได้...ห่ะ หา เชี่ยยยย อะไรวะ คือมันแบบเฟลเว้ย เฟลมาก จากนั้นกูก็เลิกติดตามเขา เลิกซื้อเลิกอ่าน เพราะไม่ใช่แค่กูคนอื่นๆ ก็เจอแบบนี้
เรื่องไม่ลงตอนจบหรือลงแล้วลบกูไม่ซีเรียสนะ มันเป็นสิทธิ์ของนักเขียนกับสำนักพิมพ์อ่ะ อย่างที่โม่งบนๆ บอกว่านข.ก็ต้องทำมาหากิน แต่กูขออีกนิดนึงช่วยแจ้งคนอ่านสักนิดว่าอีกประมาณกี่ตอนถึงถึงจะจบ หรือแจ้งจำนวนตอนพิเศษ คนอ่านจะได้ตัดสินใจ เพราะกูเจอจริงๆนะการตัดจบแบบอะไรไม่รู้และตอนพิเศษสองหน้าอ่ะ
เราไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของนักอ่านบางคนที่คิดว่าเปิดให้อ่านทั้งหมด(โดยไม่ต้องลบ)สิถ้าสนุกจริงก็มีคนตามไปซื้อเอง
นิยายเราๆแจ้งว่าจะลงตอนจบวันไหน ลงจนจบและระบุด้วยว่าถ้าe-bookวางขายแล้วจะลบออกครึ่งเรื่องให้รีบมาอ่านก่อนวันที่กำหนด แต่ก็มีคนมาอ่านไม่ทัน ที่ลบออกเพราะเรารู้สึกว่ามีนักอ่านจำนวนนึงต้องจ่ายเงินซื้อทั้งเรื่อง และอีกจำนวนหนึ่งอ่านฟรี ถ้าเปิดยันจบเรื่องให้อ่านตลอดแบบนั้นคนที่จ่ายเงินดูเสียเปรียบ เหมือนเขาได้ซื้อแค่ตอนพิเศษแต่จ่ายต้องในราคาของภาคหลัก+ตอนพิเศษ
>>412 กูเคยเจอ แบบอ่านนิยายเรื่องดีมากปมเยอะ ซื้อเลยจ้า ต่อให้หนังสือแพงกว่าทำมือทั่วไปก็ซื้อ ปรากฏอ่านแล้วอีกไม่กี่ตอนจบ ปัญหาที่กูว่าเยอะน่าลุ้นน่าตื่นเต้นก็จบแบบบทสั่งคนเขียนอยากให้จบ ปมที่วางทิ้งไว้เหมือนจะเล่นก็ไม่เล่น กูนี่แบบ... เป็นแบบนั้นหลายเรื่องกูเทเลยจ้า หนังสือก็แพงสัสๆ พอกูเทคนเขียนก็ออกหนังสือกับสนพ.พอดี หนังสือถูกขึ้นมาก ป่านนี้ดังไปละ แต่กูเทแล้วว
สำหรับกูลงไปครึ่งเรื่องมันมากพอที่จะตัดสินใจได้ว่าชอบเรื่องนี้อยากอ่านต่อไปหรือเปล่า แต่พวกคนเขียนที่พอออกเล่มแล้วเขี่ยๆตัดจบกูว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคลที่ขึ้นกับนิสัยคนเขียนแล้ว ไม่เกี่ยวกับการที่คนปกติจะต้องลงจนจบเพื่อพิสูจน์ตนเลยว่าไม่ได้เขี่ยตอนจบ
ที่จริงคนเขียนมีสิทธ์จะลงจนจบหรือไม่ คนอ่านก็มีสิทธิ์ว่าจะไม่สนเรื่องที่ลงไม่จบ แต่พวกที่ชอบด่าคนเขียนที่ลงไม่จบว่าหน้าเงินนี่.. เขาคิดว่านิยายแค่เสกมาก็ได้เรอะ
อาจจะฟังดูนิสัยเสียแต่กูเองก็ชอบอ่านจนจบก่อนนะแล้วตัดสินใจว่าจะซื้อไหม เพราะคนเขียนบางคน เขียนดีมาตลอดเรื่องแต่จบได้น่าเขวี้ยงหนังสือมากกกก เพียงแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของคนเขียนแหละว่าจะลบหรือไม่ ไม่ไปเหวี่ยงวีนโวยวาย ถ้ากูยังไม่ได้อ่าน แต่มันถูกลบหรือล๊อคไปแล้วก็จะข้ามไม่อ่านเลย เพราะสำหรับกู ถ้ามันสนุกจริง ลงจบกูก็ซื้อ แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่สนุก ขนาดอ่านตย.กูยังทิ้งไม่อ่านต่อเลย มันเลยวัดอะไรไม่ค่อยได้ว่ะ ที่เก็บหนังสือกูมีไม่มาก ต้องพิถีพิถันหน่อย แต่ถ้าแม่มออกมาเป็นe-bookด้วย กูจะโดนที่eบ่อยมาก ทั้งที่หลายเรื่องอ่านไปครึ่งนึงก็ค้างไม่อ่านต่อละ บางเรื่องจิ้มมาครบเซตนะ แต่อ่านไม่จบ ขายไม่ได้ด้วย...
นักเขียนจะลงแค่ไหนก็เป็นสิทธิ์ของนักเขียนนะ คนอ่านที่อยากซื้อจริงๆ ถ้าอยากเช็คตอนจบแค่เฮลโลว์กูเกิลหารีวิวก็รู้แล้ว
ตอนพิเศษก็เป็นแค่เซอร์วิส ไม่ใช่สาระสำคัญของเรื่อง
กูชอบอ่านแต่เป็นเล่มนะ ไม่ชอบอ่านนิยายบนเว็บ แต่อย่างกูเนี่ย ถ้าอ่านนิยายเรื่องไหนจนจบแล้วกูก็ไม่ซื้อหรอก ขนาดหนังสือที่ยืมมาอ่านถึงจะชอบมากจนยกขึ้นหิ้ง กูก็ไม่ซื้ออยู่ดี เพราะอ่านไปแล้วทำไมจะต้องอ่านซ้ำอีก เสียเวลาอ่านเรื่องใหม่ๆ กองดองยิ่งท่วมหัวอยู่
จบๆ พอแล้วไปคุยเรื่องอื่นมั้งเลิกแล้วต่อกัน แค่เรืองน้ำผึ้งหยดเดียวเอง ไม่ต้องต่อแล้วกูว่า เรื่องมันจะยาวหาที่ลงไม่ได้ คข มึงเลิกนอยด์ได้แล้ว คอ เค้าไม่ได้ต้องการเงินคืนมึงก้ไม่ต้องไปเซ้าซี่้แล้ว โฟกัส แค่คน2คนพอแล้ว ไม่ต้องต่อคความอะไรอีก
เชรด ผิดห้อง ขอโทษๆ
มึงเมื่อกี้นข.MMที่ให้เคลมบ็อกมีคนเอาบ็อกที่ไม่มีตำหนิส่งไปให้แกเคลมด้วยวะ
กูว่ากูเป็นคนเรื่องมากเรื่องหนังสือเวลากูเคลมคือมันยุบจริงๆจังๆนะ ยุบนิดหน่อยพอรับได้นี้ไม่เคลม แต่รอยขนแมวนี้ไม่เคยเคลมกูวามันเกินไป
เคสกล่องอันนี้ เจอเเบบเอาไม้บรรทัดมาวัดว่ากล่องมันเเนบไม่สนิท เเบบอ้าออก .... เเค่รอยประกบกระดาษเองค่ะมึง ไม่ใช่ตำหนิ
วดฟ กันมากๆ
บางคนรอยเท่าขี้ตามดยังจะเคลม กล่องกระดาษแบบนี้กูเผลอบีบแรงๆ ก็เป็นรอยแล้ว ซื้อหนังสือแต่ละเล่มส่องละเอียดยิ่งกว่าส่องพระ อย่างนี้ซื้อมาแล้วมีความสุขจริงหรอวะ กูไม่เอาด้วยคนละเสียสุขภาพจิต
>>427 >>428 เออ กูอยากจะเมาท์กะพวกมึงตั้งแต่วันก่อนที่กูเห็นโพสต์ ไอ่ที่เอาไม้บรรทัดทาบให้ดูว่ากล่องไม่แนบสนิท กูได้แต่ร้องว่า อห. แบบนี้มันเกินไปอ่ะ ถ้าจะเอาแบบโคตรพ่อโคตรแม่เนี๊ยบขนาดนี้
นับวันยิ่งประสาทอ่ะ อยากได้ของราคาถูก ไม่เกินมือ1นะคะ สภาพกริบ สะสมค่ะ
พอมีคนแนะนำซื้อมือ 1 ที่ร้าน อ๋ออยากได้แบบราคามือ 2 มากกว่าค่ะ
เฮ้อออออ
ky นิดนึง รมน ที่เพิ่งเข้ากลุ่ม สป มาไม่นานเค้าเป็นไรวะ กูเห็นหลายโพสต์แล้ว ใครขัดเค้านิดนึงจะตอบโต้แบบชวนทะเลาะมาก โอเค อีกฝ่ายจะพูดผิดพูดถูกยังไงก็เถอะ แต่ทุกครั้งกูก็เห็นคนที่เห็นต่างกับเค้าเห็นต่างด้วยคำพูดสุภาพนะ ทำไมเค้าต้องใช้คำพูดเหมือนเป็นคนหัวร้อนตลอดเวลา เหมือนพร้อมจะด่ากราดใส่ใครก็ตามที่ขัดใจอะไรแบบนั้น กูสงสัย กูเห็นแล้วกลัว กูไม่กล้าเข้าใกล้โพสต์เค้าไม่ว่าจะโพสต์อะไร ที่สำคัญกูรู้สึกว่าจากเดิมที่เคยสงบ เรียบๆ เรื่อยๆ กลุ่มวายต่อไปน่าจะได้ซดมาม่ากันถี่ยิ่งขึ้น และไม่ใช่เพราะเปย์วายจนเงินหมดด้วย
ใครว่ะ รมน กูนึกไม่ออก ชี้เป้ากูที
>>434 เมินนางไปไม่ก็บล็อคนางไปเลยได้ยิ่งดี กูเคยอยู่วอร์เดียวกับนางมาเป็นสิบๆรอบมึง นางเหมือนพวกมนุษย์เลเวลศูนย์ที่พยายามยัดตรรกะของตัวเองใส่คนอื่น ใครเห็นแย้งแค่ในบางจุด ต่อให้อยู่ฝั่งเดียวกัน นางก็จะด่าเหมือนเขาไปเหยียบเล็บขบนาง ทุกอย่างที่นางพูดต้องถูกเสมอ ห้ามมีการแย้งนางเด็ดขาด ไม่ว่าจะวอร์ไหนทั้งคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหรืออยู่ฝั่งเดียวกับนางก็อยากเบือนหน้าหนีหมดมึง บางทีคุยกันแบบมีเหตุมีผลอยู่ๆดีนางก็โผล่มาใส่เหมือนคนไม่มีมารยาทอ่ะ พูดจาจิกหัวคนอื่น คำพูดนางก็ชวนคนหัวร้อน จะเมินก็ไม่เคยได้ผลเพราะนางไล่ตอบทุกคน ทุกเมนต์ มันต้องมีบางคนที่ไม่รู้จักนางหรือหัวร้อนไปกับคำพูดนาง แค่นั้นก็บรรลุเป้าหมายนางแล้ว นึกถึงครอบครัวหัวร้อนที่เป็นข่าวตอนนี้ก็ได้ตรรกะเดียวกันกับนางเลย
เคยมีอยู่รอบพวกกูวอร์กันแบบคุยถกกันด้วยเหตุผลอยู่ดีๆนางก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้มาหัวร้อนตะแบงใส่ คือหลายคนตอนนั้นไม่ว่าจะฝั่งไหนคิดเหมือนกันอ่ะว่านางคนนี้มาอีกแล้ว อีกฝั่งที่ถกกับกูถึงกับหลังไมค์มาหากูแล้วชวนไปสร้างแชทกลุ่มแล้วลงมาถกกันในนั้นเพื่อหนีนางอ่ะมึง ข้างบนก็ปล่อยนางโชว์พาวไป ข้างล่างสิบกว่าคนถกกันจนจบด้วยดี แยกย้าย บางคนมีแอดเฟรนด์กันด้วยซ้ำ บันเทิงชิบหาย
กู คือ 434 ขอบน้ำใจพวกมึงมาก ที่ทำให้ตาสว่าง ปกติกูไม่ได้เข้าห้องนินทาหรืออยู่กลุ่มงานวาด สิงแต่กลุ่มซื้อขาย สป เห็นแล้วแปลกๆ กับการสนทนา ที่แท้วีรกรรมเยอะปานนี้
รมนกล้าพูดเรื่องบล็อคด้วยเหรอ ตอนตัวเองเถียงกับใครไม่ชนะก็บล็อคเค้าไปทั่วเหมือนกัน
นางคิดว่านางถูกอยู่คนเดียวแหละ รมน เนี่ย กูเคยเห็นในฟาร์มนางก็หัวร้อนไปทั่ว
และเถียงๆคนที่มาเม้นเห้นต่างนาง แบบชวนทะเลาะมาก จนกูเลิกอ่านโพสต์นางไปเลย
kyแปป กลุ่มสป กุว่าต่อไปคงมีถามเคี้ยวข้าวกันคนละกี่ครั้งแน่ว่ะ เจอโพสรมนไปถามห่อพวงกุญแจกันยังไง กุสตั้นเลย
>>453 ทำแผ่นรองด้วย PE foam เจาะไดคัตตามรูปของพวงกุญแจ ใส่กล่องลูกฟูก double-walled พันด้วยบับเบิ้ลหนาพิเศษสามชั้น แล้วใส่ลงในกล่องลูกฟูกใบใหญ่อีกชั้น ใส่โฟมเม็ดถั่วลิสงกันกระแทก ติดเทปให้แน่นหนา แล้วใส่ในกล่อง double-walledที่บุด้วย PE foam หนาสามนิ้วอีกชั้น พันเทปให้แน่นหนา ติดสติกเกอร์ fragile ส่งด้วยขนส่งเอกชนแบบ Door-to-door ส่งถึงมือลูกค้า โดยไม่คิดค่าส่งเพิ่ม อ้อ แถมรับประกันส่งเคลมได้ไม่จำกัดครั้งจนกว่าจะพอใจ และมีของที่ระลึกชดเชยให้ทุกครั้งที่เสียความรู้สึกเวลาเจอขนแมวขนาดมากกว่า 5 ไมครอน
เฮ้ย มึง กูถามหน่อย กูเพิ่งเห็น เดี๋ยวนี้เจ๊ ม แกมาเปิดพรีอันคัทแล้วรึ นี่ล่าสุดเห็นทางมาเปิดพรีของมันจู กูงี้งงเลย นี่นางจะเอามันทุกทางเลยรึ ขยันจริ๊งงงงง
เออ...กูขอเม้าท์เจ๊แกหน่อย คันปากชิบหาย ก็เรื่องที่เจ๊แกเปิดรับหิ้ว boxset wrong way ของฮูกอ่ะ ที่รับแบบไม่จำกัด กูก็แบบ เฮ้ย....เจ๊แม่งเก่งว่ะ ดีลกับฮูกได้ด้วย นับถือโคตร แล้วเป็นไง พอฮูกมาจำกัดจำนวนซื้อในงาน เหลือแค่คนละ 2 ชุด นางก็มาขอโทษขอโพย แล้วบอกลูกค้าว่า ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวนางสั่งรอบไปรษณีย์ให้ พูดแบบว่า เนี่ย เดี๋ยวสั่งให้ฟรี ไม่มีพูดเรื่องคืนเงินสักคำ กูก็แบบ....เฮ้ยยยยย รอบไปรษณีย์ ถ้าของเกิน 1000 บาท ปกติฮูกส่งฟรีป่ะ คือนี่นางก็คิดราคาแบบรวมส่งแล้วนะ อะไรวะ จับเสือมือเปล่าฉิบหาย กูเห็นแล้วแบบ กรอกตา 360 องศา แล้วคนก็แบบจองกันรัวๆ กูงี้ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเลยมึง ไม่กล้าไปถาม เคยเห็นคนไปถาม นางก็แบบมาตอบข้างๆคูๆ นี่บอกเลยนะ กูว่าโพสต์รับจองของนางแม่ง tricky โคตร ไม่เคยบอกราคาจองผ่านนักเขียน บางเรื่อง แม่งคิดแพงฉิบหาย พวกเด็กๆ เห่อหมอย แม่งก็จองกันไป กูเห็นแล้วสงสารว่ะ บอกเลย
เออ กูบ่นเสร็จแล้ว สบายใจแล้ว 5555
>>459 สั่งกับฮูกเองง่ายกว่าหว่ะ จริงๆมันควรคืนเงินแหละ. ที่คนเขาฝากหิ้วตอนแรกเพราะอยากได้ของเร็ว อันนี้สั่งมาบ้านตัวเองแล้วส่งต่อไปอีกทีมันก็ช้าอ่ะดิ หรือถ้านางสั่งแล้วระบุให้ฮูกส่งไปบ้านลูกค้านางเลย คิดดูว่าในยอดซื้อของนางจะเอาไปแลกซื้อเรื่องสั้นได้กี่เล่ม... กุว่าถ้าวิธีที่สองนี่ต้องมีเอาเรื่องสั้นมาปล่อยขายต่อแน่55
เล่ามากูยังไม่รู้ว่าเป็นใครเลย ช่วยใบ้กูที
ถ้าเป็นพวกอันคัทที่ต้องตอบคำถามสมัครสมาชิกเนี่ยกูพอเข้าใจได้ว่าบางคนต้องฝากซื้อ แต่อย่างนกฮูก โรส อะไรแบบเนี้ยจะไปฝากทำไมวะ ราคาแม่ค้าก็บวกเพิ่มกลายเป็นแพงกว่าสั่งซื้อเองอีก
เห็นว่าให้ผ่อนได้ แต่กูถามหน่อย หนังสือบางเล่ม 300 คือต้องผ่อน? สันดานเสียขอผ่อนตั้งแต่ของราคาแค่นี้เหรอวะ งี้ผ่อนรถมึงไม่ผ่อนยันตายรึไง
มันคือการผ่อนจ่ายไงมึง บางคนงบไม่พอแต่อยากได้ ก็ต้องพรีฯกับแม่ค้าพวกนี้แหละ บางเรื่องที่แพงก็ให้จ่ายเป็นงวดๆ มีดอกนิดๆหน่อยๆ แต่บางเรื่องแม่งถ้าดูดีๆแม่งแพงกว่าพรีกับสนพหรือนขโดยตรงจริงๆนั่นแหละ กูเห็นเค้ารับหิ้วเรื่องนึงงานฟิค 320 รวมส่งพัสดุแต่ราคาหนังสือในงาน 270 อะ อย่างเนี้ยกูมองว่าแพงนะ แต่คนก็ยังฝากเยอะแยะ ถถถถ
ห้องสปอยกลายเป็นห้องโพสต์การส่งสนพแล้วหรอวะ กูเห็นมาอาทิติดละ ของเสียหายก็ไปเคลมดิจะมาโพสต์หาพวกทำไม
เคยเห็นหนังสือ500 แม่ค้ารับผ่อน600++ ไม่บอกราคาต้นว่าสนพ.ขายเท่าไหร่ แล้วมีคนทักว่าทำไมแพงจัง แม่ค้าบอกบลาๆ แล้วมีคนที่เคยผ่อนมาตอบว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนเงินไม่พอ กูรู้เลยว่าทำไมคนผ่อนกับแม่ค้าเงินไม่พอ
คือถ้าเรื่องนึงราคาเป็นพัน กูเข้าใจนะเรื่องที่ต้องผ่อนอ่ะ แบบว่าเงินไม่พอ แต่อีห่า นิยายราคา 300 ต้องผ่อนเนี่ย กูไม่เข้าใจจริงจัง แล้วทำสำคัญ ก็หลายเรื่องนะ ที่มีแม่ค้าที่ขายราคาเท่ามือหนึ่ง แบบไม่บวกเพิ่ม กูก็ไม่เห็นเค้ามาซื้อกัน กูงี้งงมาก งงแรง บอกเลยมึง
ตกข กูไม่พรีกะนาง ไม่ค่อยถูกจริตเท่าไหร่ กูพรี กะ วก ดูสบายๆกว่า
กูมองว่าคนที่ผ่อนคือ นักเรียน นักศึกษาที่เรียนอยู่ แล้วเงินไม่พอเลยอยากได้ของ แต่กูก็คิดในใจนะ ว่าตอนเรียนยังรีบเป็นหนี้ขนาดนี้โตมาพอทำบัตรเครดิตได้ไม่รูดหมดเลยหรอ กูเคยเห็นมาแนะนำนิยายที่เปิดจองมีคนมาเม้นประมาณว่าเรื่องเก่ายังผ่อนไม่หมดได้ใหม่มาผ่อนอีก
>>478 เรื่องโดนเทนี่เห็นหลายร้านที่ไม่เก็บมัดจำโดนเทกันทุกร้านเลยมั้ง ร้านใหญ่ๆ ก็เสมอตัวยังเอามาขายลูกค้าคนอื่นได้ ร้านเล็กๆ น่าลำบากหน่อย อย่างว่าเนอะถ้าไม่ใช่ลูกค้าที่ซื้อกันประจำเปอร์เซ็นถูกเทสูงมาก ขนาดลูกค้าประจำยังเทแล้วหายก็เคยได้ยินมาแล้ว การมาหากำไรในตลาดวายต้องดูกันยาวๆ
>>480 นางไม่ลดให้ลูกค้าเลยเหรอในเว็บยังลดให้ 10% อันนี้อย่างกำไรเพราะเชื่อว่านางน่าจะได้ราคาร้านค้าจากสนพ.เหมือนเรื่องอื่นๆ เข้าใจว่าต้องมีกำไรกันบ้าง แต่กำไรที่ได้น่าจะ20-30% เลยนะ ยึดจากมาตรฐานทั่วไปที่สนพ.ให้ส่วนลดพวกร้านค้า แล้วอีกอย่างมั่นใจได้ยังไงว่าจะมีของพอขายให้ลูกค้าทุกคน อันนี้สงสัยมาก
ตกข นี่เหมือนเขารีบเปิดตัดหน้าร้านอื่น เพราะร้านอื่นเปิดช้า แต่ถ้าเปิดชนกับ วก คนจะไป วก มากกว่านะ แต่ วก เปิดช้ามาก แต่มันเรื่องของธุรกิจเขาก็อยากได้ยอดเยอะพอเห็นเรื่องไหนจะออก ก็ไปติดต่อ นข ทันที
ตกข ที่พวกมึงพูดถึงนี่คนละคนกับเจ๊ ม รสก ใช่มั้ยวะ กูงง
เข้าใจว่าคนเดียวกันนะ เขาเคยใช้ชื่อเฟสว่า ต กับ ข้_ว
เรื่องเจ๊ ตกข ล่าสุดกูคุยกับนักเขียน คือแบบเค้าเป็น นข เล็กๆ ยอดก็ไม่ได้จะเยอะอะไรเวลาเปิดพรี แล้วเจ๊เนี่ย ก็พยายามไปถามเค้า ขอเรื่องย่อขอปก จะเอามาเปิดพรี นข ก็ไม่กล้าปฏิเสธ คือเค้าก็กลัวยอดเค้าหายไง เค้าไม่โอที่มีคนมาเปิดพรีก่อนเค้า แบบเหมือนแย่งยอดเค้า แต่จะปฏิเสธก็ไม่ได้ กลัวดราม่า นางเลยมาถามกูว่าเอาไงดี กูก็แบบ เอิ่ม....มันถึงขั้นนี้กันแล้วรึ
เพื่อนโม่งช่วยกูหน่อย กูควรแนะนำ นข ยังไงดีวะ กูก็ไม่ค่อยชินกันวงการพรีนี่ด้วย กูจะได้ไปบอกนักเขียนถูก เอาแบบไม่ดราม่าทีหลังนะมึง
>>491 เค้าให้ยังอ่ะ ไม่งั้นก็บอกว่าขอเรียบเรียงข้อมูลให้ไฟนอลก่อนจะได้ไม่มีอะไรผิดพลาดทีหลัง หลังจากนั้นก็เข้ากลุ่ม ลงเพจตัวเองเสร็จแล้วก็แชร์ลงกลุ่ม แล้วค่อยส่งข้อมูลให้เขาได้มั้ย แต่ส่งติดๆกันอ่ะ แบบไฟนอลแล้วเลยแถลงการณ์เองเลย ส่วนเขาอยากได้ข้อมูลก็ให้ไม่ได้กั๊กไว้
หรือถ้าเพื่อนมึงไม่อยากได้ส่วนที่เขาเปิดพรี ก็ไม่ต้องหัก%เป็นพิเศษให้เขาอ่ะ ขายเหมือนคนอ่านปกติ เพื่อนมึงก็ได้ส่วนของตัวเองไปแล้ว ถ้าคนอื่นจะหาอะไรเพิ่มก็ปล่อยไปตามเขากับลูกค้าไป
เข้าใจ นข นะ เคยมีครั้งนึง ตกข เอา นข ที่ไม่โอเคด้วยมาโพสลงเฟส เหมือนตกลงกันไม่ได้ นข จะเปิดเอง หรืออะไรนี่แหละ ซึ่งเฟส ตกข เฟสนี้สาววายล้วนๆ แอดเพื่อนไว้เยอะมาก ก็เข้าไปถามกันว่าเรื่องอะไร คือบางคนไม่รู้ลึกตื้นหนาบางก็เฮตามกัน ตกข เขาค่อนข้างเครดิตดีด้วย นข ที่มึงบอกอาจอยู่ในกลุ่มแล้วเคยเห็นว่าเวลาเขาเปิดคนไปรุมเยอะ เลยไม่อยากมีปัญหา แต่ที่ไปตื้อขอปกขอราคาก่อนนี่ไม่โอเคเลยว่ะ ถ้าทำจริงนะ
กรณี ตกข นิยายของมมเรื่องใหม่ นางก็รับพรีก่อนนขจะประกาศราคาหน้าเว็บด้วยนะ ได้ยอดไป 90++ บวกเข้าไป 20%
ก็ถ้านข.จะต้องง้อหรือกลัวแม่ค้าขนาดนั้นก็เรื่องของนข.ละ จะยอมอ่อนให้เค้าก็ต้องทนไปอ่ะ
>>503 เฮ้ย...เซลล์ชอบให้คนที่ถามเข้าไปทายตัวเลขปะ 555 เพราะเราทักไปถามอยากรู้จำนวนกล่องก็ให้เราลองบอกตัวเลขที่เราคิด แต่เราทายไปมากกว่าเพื่อนโม่งนะ เราบอกประมาณ 1-1500 กล่อง (เราเดาจากปราชญ์ฯ ของแจ่มด้วยที่จำนวนทำก็หลักพัน) แต่ดันบอกว่าไม่ถึงจะถามต่อว่าไม่ถึง1500หรือไม่ถึงพันเราก็เกรงใจแล้ว แบบนี้คิดหนักเพราะจะทำให้เราวางแผนตัดสินใจซื้อยังไงดีไม่ค่อยถูก จะให้ไปตามรอขายหน้าเว็บก็ไม่รู้ว่าเปิดเมื่อไหร่จะกดทันมั้ย กลัวเป็นแบบตอนสนมฯ บอกมาทำ 500 วิ่งกันตาเหลือกแล้วเป็นไง พอมากุหลาบเราคิดว่าน่าจะเยอะกว่าดูจากราคากล่องที่มันถูกมาก ดันไม่รู้ว่าไอ้จำกัดมันเท่าไหร่ ตอนแรกที่กะจะประหยัดรอซื้องานสือตุลาเอาส่วนลดที่บ้านมงคลเลยน่าจะต้องคิดใหม่
เปิดรับหิ้ว เปิดพรีฯ ก่อนนข. อันนี้ก็เสียมารยาทนะ หางานให้ นข.วุ่นวายต้องมาตอบคำถาม นอ. มันอยู่ที่ นข. จะตั้งกฏเกณฑ์กับแม่ค้ายังไงด้วย ถ้ายังปล่อยแบบนี้ ก็คงจะมี ตกข2 3 4 ตามมา...มองในแง่ดีก็มีนะ แม่ค้าตัดราคากันเอง คนซื้อมีทางเลือกมากขึ้น แต่ๆๆๆ ความวุ่นวายซวยตกไปกับ นข. สนพ. เช่นเรื่องการห่อที่แม่งมาโพสต์กันทุกวี่วัน กูว่า ส่วนมาก นข.สนพ.เค้าก็มาตารฐานของเค้า แต่แม่ค้านี่แหละ แข่งกันห่อแข็งกันแพ็คเวอร์ พอคนได้จากแม่ค้าดีกว่า เลยตั้งเป้าด่า นข.สนพ. ดราม่าการห่อแม่งรกขึ้นทุกวัน
นักขายที่ไม่อยากลงทุน ซื้อหนังสือทีได้กันกระแทกไว้ห่อโดยไม่เสียตังค์ ใครห่อชั้นเดียวให้เหมือนเสียเปรียบเพราะเวลาลงขายแล้วห่อส่งต้องซื้อกันกระแทกเพิ่ม
บางคนส่วนใหญ่เอากันกระเเทกก็เอามาจากสนพ.ห่อให้เเหละ บางเจ้าใช้หนาเเบบสามชั้นใช้ต่อรียูสได้สบาย พวกเเม่ค้าเจ้าเล็กๆ กล้าห่อหนาได้ เเค่พอมาทำหนัสือขายเอง แบบจำนวนเยอะๆ เเล้วมาห่อหนาๆ มึงจะรู้ากถึงความกระอักเลือด ทั้งส่งฟรั ทั้งต้องห่อหนา ต้องใช้กล่องไดคัท
แต่กุจะบอกว่า แม้ไม่ห่ออะไรมาเลย หนังสือกุไม่เคยเสียหาย ทุกวันนี้ยังงงอยู่เลย เพราะบางทีมาแบบกล่องบุบอ่ะ
หรือมาแบบห่อกระดาษ/ถุงใส กุรอด เลยงงกับคนที่ได้หนังสือบุบ
มือสั่นต่อ เลยงงกับคนที่ได้หนังสือบุบ ว่ามันไม่ได้อยู่ที่การห่อ แต่มันอยู่ที่ไปรแถวบ้านมึงแล้วล่ะ ไม่ใช่โทษแต่นข/สนพ ว่าห่อให้น้อย
>>513 อยู่ที่ไปรจริงๆ ตามที่มึงว่า เรื่องห่อหนาห่อบางกูก็ไม่เคยซีเรียส เพราะไปรบ้านกูกับคอนโดกูคือดีมากกกก อ่อนโยนมาก รู้สึกแต้มบุญดีโคตรๆ 5555 กูเคยฝากหิ้วหนังสือจากแม่ค้าคนหนึ่งเขาห่อบับเหี่ยวๆใส่ซองหลวมๆ มาหนังสือกูยังรอด ไม่มียุบสักมุม เรื่องแบบนี้อยู่ที่ไปรล้วนๆ เห็นบางเคสห่อหนาแล้วยังบุบ มันก็ไม่ใช่เรื่องของคนเขียนแล้ว ทำไมต้องไปวอแวเขา
ก็เพราะวอเเวไปรษณีย์ไม่ได้ไง เลยมาหาคนลงเเทน
ไปรฯต้องดูทั้งสองฝั่ง ไปรฯฝั่งคนรับหรือไปรฯฝั่งคนส่ง ถ้าโดนยัดขอบกระสอบมาตั้งแต่ฝั่งคนส่ง มาถึงมือฝั่งคนรับแต่ให้ถนอมแค่ไหนก็ไม่รอด
แต่การห่อดีๆมันก็เซฟความเสี่ยงจากการส่งได้ว่ะ ไปรทุกที่ไม่ได้มือเบาเหมือนกันหมดนี่
อีกอย่าง อีความวุ่นวายเรื่องแพ็ตหนาห่อแหนมนี่แม่ง ทำให้ทุกที่ขึ้นค่าส่งกันหมด กูนี่ต้องมารับภาระค่าส่งแพงขึ้นนี่ด้วย ส่วนนึงคงมาจาก เผื่อเคลมจากพวกบ้าสะสมบ้าเนี้ยบ แข่งห่อแหนมห่อบ้าบอนี่แหละ พูดแล้วเซ็ง
เพราะเจอลูกค้าแบบนี้ไง กูเลยไม่อยากลงขาย อีกอย่างพวกที่บอกแฝด สะสม กูเห็นขุดออกมาขายไล่แกรบกันทั้งนั้น แถมราคาเท่ากับกับไม่ก็เกินปกตลอดๆ
ทำไมตอนลงขายต้องบอกเหตุผลด้วยว่าขายทำไม กลัวคนไม่ซื้อเหรอ มันช่วยให้คนซื้อมากขึ้นมั้ย อยากรู้
เรื่องห่อนะมึง กูเคยคุยกับเพื่อน เพื่อนกูนางก็แบบสายเนี้ยบ สายกริบเว่อร์ๆ กูก็เบื่อนาง แล้วเวลานางฝากกูสั่งนิยาย นางก็แบบ ชอบให้กู Note ไปด้วยว่า ให้ห่อหนาๆ เลือกมุมกริบๆ แล้วคราวนี้ กูเห็นนักเขียนมีให้เลือกจ่ายเพิ่ม ค่าห่อ ค่าแพ็ค กูก็ถามนางว่า จะจ่ายเพิ่มไหม จะได้หนาสมใจ ถ้าบ้านนางไปรษณีย์รุนแรง นางตอบกูกลับมาว่า ไม่เป็นไร ปกติ สนพ ก็ห่อหนาอยู่ แต่ก็ยังให้กู note ไปเหมือนเดิมนะ กูงี้แบบ อีเหี้ยยยย อะไรของมึงวะ นี่ขนาดกูเป็นเพื่อนนะมึง กูยังลำไยเลย จนตอนหลังกูบอกนางว่าให้ไปสั่งเองเหอะ กูกลัวนักเขียน blacklist ชิบหายยยย
กูเคยเห็นมากับตา หนังสือไม่มีตำหนิแต่ไม่กริบได้มาตรฐานตัวเอง เลยจับแหกเองจนได้เคลมสมใจ
กูบอกเลยมีแบบนี้เยอะ ทำตกเอง ทำขาดเอง ทำเองต่างๆนานา แล้วหน้าด้านขอเคลม
โพสใครวะไม้บรรทัดวัดไม่ทันเห็นเลย
เพจจจ
สดร นี่ทำหวังผลค้าขายป่ะว่ะ กูเห็นลงรูปแพ็คของเตรียมส่ง
อย่าเอา สดร เข้ามาในโม่งเลย กูขอโม่งจะแตกเพราะมันเนี่ยแหละ เพราะมันอ่านอยู่
มึง กูถามหน่อย แอพเด็กดีมันมีปัญหาหรอวะ กูกดให้หัวใจนักเขียนไปากพักพอเปิดไปอ่านใหม่กลายเป็นหัวใจหลุด เป็นแบบนี้แทบทุกครั้งเลยอ่ะ
>>535 อันนี้กูแค่สงสัยนะ ทำไมเราพูดถึง สดร ไม่ได้ แต่สามารถพูดถึงคนอื่นๆได้ อย่างเจ๊ ตกข เซเลปนักรีวิว หรือนักเขียนคนอื่นๆ มันมีปัญหาอะไรเหรอ
กูว่าไม่แปลกที่คนสงสัยกันนะ คือกูเองก็สงสัย กูเห็นนางแจกของรัวๆ เอารูปกล่องพัสดุมาโชว์ แต่กูไม่เคยเห็นใครมาโพสต์ขอบคุณนางเลย แบบมาบอกว่าได้ของแล้ว อะไรแบบเนี่ย ของคนอื่นๆ กูเห็น เวลาเค้าแจกของ คนที่ได้รับเค้าก็มาขอบคุณ หรือไม่คนส่งเค้าก็มาโพสต์เลข Track อะไรแบบเนี้ย แต่เคส สดร กูไม่เคยเห็นเลยนะ หรือเพื่อนโม่งคนไหนเคยเห็น ก็มาบอกกูที กูจะได้เลิกสงสัย
และอีกอย่าง กูไม่เชื่อว่าจะมีคนใจดี ขนาดเอานิยายราคาเป็นพันมาแจกฟรี แบบไม่หวังผลอะไร 100 ไม่เชื่อ 1000 ไม่เชื่อ
ดูอย่างเจ๊ ตกข แต่ก่อนก็มาโพสต์ อวดแฝดรัวๆ แล้วก็มาเป็นเซเลป ตอนนี้ก็มาเปิดร้านพรีนิยายราคาโหด ตัดหน้านักเขียน ก็เห็นๆกันอยู่ นี่กูก็รอดูอยู่ ว่าเจ๊ สดร จะไปทางไหน 55555
>>533 >>535 หลายคนที่เล่นโม่งรู้นะว่าเค้าอ่านอยู่ก็เค้าเองมาแก้ตัวเมื่อก่อนโม่งปิดที่โดนด่าเหมือนกัน ระวังคนใกล้ตัวที่รู้จักนั่นแหละอาจจะเป็นคนมาเมาท์เค้าในนี้เองก็ได้เพราะบ่นข้างนอกไม่ได้ไง
เอาจริงช่วงหลังเค้าก็เงียบไปเยอะแล้วคนที่หมั่นไส้ก็น่าจะเพลาๆ ลงบ้างทักหาถึงเค้าทุก 2 อาทิตย์เลยเราเบื่อว่ะ เค้าเองก็ไม่ได้แย่ แต่การรำคาญโพสต์ทั้งวันทำให้ฟลัดโพสต์คนอื่นตกไป กับไปเปิดกลุ่มเองแรกแล้วแชร์กลุ่มตัวเองลงกลุ่มใหญ่ให้คนไปตามเยอะ ตอนนี้ตามกันเยอะไม่แชร์แล้ว นี่ก็น้อยลงไปเยอะแล้ว เค้าจะแจกจะอะไรก็ปล่อยเค้าเถอะอาจจะรวยมากมีเวลาว่างเยอะเลยมาแจกแก้ฟุ้งซ่านเราควรดีใจนะมีคนแจกของฟรี 555
>>536 ที่บอกว่าขอบคุณหมายถึงตั้งโพสท์แยกอีกโพสท์หรือขอบคุณในคอมเมนท์ที่สุ่มได้เหรอ กูเคยได้ของแจกแต่ไม่ใช่จากสดร ปกติกูก็ขอบคุณในโพสท์ที่สุ่มได้กับขอบคุณหลังไมค์เฉยๆ ไม่ได้โพสท์ในที่สาธารณะต่อเพราะรุ้สึกรกกลุ่ม
สำหรับกูเวลาเมาท์คนอื่นคือคนอื่นมีพิษภัยที่ชัดเจนว่ะ อย่างเปิดพรีราคาโหดแล้วไม่บอกราคาจริง ด่าคนอื่นเกินเบอร์ แต่ของสดรที่เมาท์ๆกันมีแต่ทำไมเขาแจกของเยอะ ไม่เชื่อว่าคนดี เขาต้องแจกของหวังของแรร์แอบขายของแพงแน่ๆ ทั้งที่เขาไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากฟลัดโพสท์ มโนเองล้วนๆ คือด่าเพราะเขาฟลัดกูพอเข้าใจ แต่กูไม่เขาใจว่าทำไมชอบมโนในสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อ อารมณ์ทำไมอรรต้องไปกล่าวหาว่าคนอื่นลอกนิยายกะอีแค่พล็อตผู้กล้าจอมมาร มโนแบบไร้หลักฐาน มโนแบบชวนงง
ให้เค้ามาโพสขอบคุณในกลุ่ม ก็จะมีโม่งด่าอีก ว่ารกกลุ่ม
ในโม่งก็เห็นเมาท์ทุกคนที่โม่งหมั่นไส้ ไม่ว่าคนนั้นจะดีไม่ดี แย่ไม่แย่เห็นเอามาเม้าท์หมด อย่างลล.อดีตลูกรักโม่งช่วงดิพูดถึงแทบทุกวัน เซเลปนักเขียนแม่ลูกอ่อน เซเลปนักรีวิว เก้าลอเก้า ก็ถูกพูดถึงในนี้กันมาแล้วทั้งนั้น ถ้าไม่ชอบใครแล้วกลัวเสียลุคเวลาเมาท์หลายคนก็เลือกมาบ่นในโม่งนะถ้าเล่นมานานจะเห็นตลอด
เรื่องแจกของแพงๆ เชื่อมีคนทำแบบทั้งคิดแอบแฝงและไม่ได้คิดอะไรเลยคนที่มีเยอะมากๆ บางทีก็ให้ได้แบบไม่คิดมาก สดร.อาจจะอยู่ในกลุ่มนี้ก็ได้ เราดันมองคนที่เนียนไปเกาะคนที่ใจดีมากกว่าแอ๊บทำหวังดีแต่หลอกขอของเนียนๆ คนพวกนี้เราว่าหน้าด้าน
แล้วทำไมนิยายจะแจกฟรีไม่ได้วะ กูยังเคยยกองค์ชายอัปลักษณ์ ค้างคาวเก้าฟ้า ลำนำวิหคสววรค์ ให้คนอื่นไปฟรีเลย กูซื้อตามกระแส แต่กูไม่ชอบฉากเย่ bdsm ไม่ชอบพระเอกด้วย แต่กูไม่อยากขาย รำคนซื้อ แจกแม่มเลย จะส่งไงก็เรื่องของกู บับเบิ้ลกูจะห่อไม่ห่อก็เรื่องของกู
Ky จะปล่อย retarded 50 บาทนี่ถือว่าถูกไปไหม หรือแพงไปอ่ะ พอดีเพิ่งรื้อนส.เก่าๆมาขายละเจอ ตอนนี้มันแรร์ไหม หรือปกติ กูไม่อยากถามในกลุ่มสปอยน่ะ
>>543 เพิ่งมาดูรูป เดี๋ยวๆๆๆ คุณจะโพสต์แล้วไม่เซ็นเซอร์ทุกอย่างไม่ได้โว้ย มันมีที่อยู่ติดมา มันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลนะ ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อคุณก็ไม่ควรเอาข้อมูลที่อยู่ของคนอื่นมาแพร่แบบนี้อ่ะ โม่งก็ไม่ได้ปลอดภัยนะโว้ย ใส่ใจเรื่องความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลหน่อย
ใครใจดีแจ้งห้อง meta ให้ลบเม้น >>543 ที กูโยงลิ้งค์ไปบอกแอดมินไม่เป็นว่ะ
เป็นธรรมดาโลก การทำตัวเด่นไม่ว่าดีหรือร้ายก็ต้องถูกจับตา ถูกเมาท์มอย ถูกนินทา เนื่องจากมันเด่นสะดุดตาจนคนจำได้ไงล่ะ ขนาดกูแค่เฉียดผ่านไปมากูยังจำชื่อได้เลยค่ะ สรด. น่ะ
ไม่อยากถูกนินทาคืออย่าทำตัวเด่น และถ้าคิดจะเด่น คิดจะทำ คิดว่าทำดีแล้วก็ไม่ต้องสนใจว่าใครจะว่ายังไง
อย่าว่าแต่โม่ง ข้างนอกก็เหมือนกันพอเด่นก็ไม่พ้นเป็นขี้ปากชาวบ้าน จะไปห้ามปากทุกคนก็ไม่ได้ จะห้ามโม่งไม่ให้พูดก็ยิ่งยาก ตอนนี้เคลียร์กันเสร็จ เดี๋ยวต่อไปมีคนใหม่ๆ ไปเห็น ถามใครไม่ได้ก็ต้องมาถามโม่งอีกว่า สรด เป็นใคร ทำไม บลาๆๆๆ ห้ามยากว่ะกูว่า
ปล. ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ควรเอามาเปิดเผย อย่าแคร์โม่งจนลืมตัวทำคนอื่นเดือดร้อนด้วยเลย โม่งก็คือโม่ง
ที่งานวันนี้เป็นยังไงบ้างวะ กูอยากรู้สถานการณ์ BS the wrong way กับ BS วิวาห์ ของพอมั้ยวะ
หือ แค่นี้เรียก victim blaming แล้วเหรอ การตกเป็นขี้ปากคนในบอร์ดโม่งเนี่ยนะ
หรือมันมีอะไรมากกว่านั้นวะ โดนคุกคามเหรอวะ น่ากลัว
จะโดนคุกคามเลยเหรอไม่มั้งเค้าไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ เซเลปคนก่อนหน้าแย่กว่าเยอะก็ใช้ชีวิตดีไม่เห็นจะโดนคุกคามอะไรเลย
งานฟิคใกล้จะเริ่มน่าจะคิวยาวแล้วมั้งป่านนี้เพื่อนเราตื่นออกไปถึงเก้าครึ่งมันบอกคิวเริ่มยาวแล้ว
>>558 จริงๆ ตอนกูพิมพ์กูกำลังนึกถึงสำนวนจีนๆ ที่กูได้ยินบ่อยๆ จากพวกหนังจีนอย่าง "อย่าทำตัวเด่นจะเป็นภัย" อะไรงี้ กูว่ามันโคตรจริง ก็ไม่ได้บอกว่า สดร ทำอะไรผิด แค่อยากให้มองความจริงว่าถ้าเราเด่นคนก็เห็นมากก็พูดถึงมาก หากคิดว่าทำดีแล้วก็ปล่อยๆ มันไปเหอะเรื่องเมาท์มอย มีใครในโลกนี้ไม่ถูกเมาท์บ้าง สุดท้ายกลายเป็น victim blaming ...อืม ถ้ารับสารกันได้แค่นั้นกูก็จนใจว่ะ
>>557 เอออันนี้กูก็อยากรู้สถานการณ์ แต่พอดีกูเทสองเรื่องนี้ไปแล้วเลยขอรอดูอยู่ห่างๆ ดีกว่า
>>554 กูว่าจะไม่พูดแล้วแต่อัดอั้นใจ victim blaming กับ cyber bullying ไม่เหมือนกันนะมึง มันคนละเรื่องกันเลย
สดรกูเบื่อๆ เวลาที่มีโม่งมโนว่า เขาแจกเพื่อหาของแรร์ราคาถูกๆหรือเปล่าวะ นางโกงรึเปล่า แต่ละอย่างที่พูดมาไม่เคยมีใครมีหลักฐานสักที มีแต่พูดขึ้นมาลอยๆ แล้วกูก็เห็นด้วยว่าพอทำตัวเด่นเกินไปก็เป็นภัย สังคมไทยเป็นแนวนี้แหละ
>>563 เปล่า กูไม่ได้พูดถึงการบูลลี่ แต่หมายถึงการตำหนิเหยื่อ คนโดนกล่าวหาอยู่ในสถานะเหยื่อ แล้วคนบอกว่าเป็นความผิดของเหยื่อเองที่ทำตัวเด่น
คือถ้าบ่นว่านางเก็บของนดทั้งที่รู้ว่าไปลอกเขาเพื่อหวังเก็งกำไร กูจะไม่อะไรเลยเพราะนางทำจริง แต่มามโนแจ่มว่าแจกของหาของแรร์ก็รู้สึกสังคมมันแย่จริงๆ ไม่แปลกที่หลายคนต้องปกปิดกันสุดตีนว่าไม่รู้จักโม่ง
พอเห็นงี้แล้วน่ากลัวนะมโนแจ่มมาพูดอะไรก็ได้ในโม่งเนี่ย
ทำไมไม่มีคนพูดถึงงานฟิคเลยวะ ในกลุ่มก็เงียบ คือคนไม่ค่อยไปกันหรอ
>>571 นอกโม่งมึงก็ทำได้ เปิดแอคหลุม ด่าเสร็จก็ปิด จบ การจะบอกว่า โห โม่งนี่มันน่ากลัวจัง ใครจะใส่ความใครก็ได้ เนี่ย ก็ต้องคิดก่อนว่าพูดไปมีหลักฐานพอให้คนอื่นเชื่อไหม ถ้าไม่ มันก็เป็นได้แค่คำด่าของพวกลูสเซอร์ มีสมองมีอินเตอร์เน็ตใช้กันแล้ว ก็ต้องแยกแยะได้ว่าอะไรดีไม่ดี อะไรน่าเชื่อไม่น่าเชื่อ
>>573 กูมองว่าแอคหลุมกับโม่งหรือ ask ก็คือๆ กันว่ะ เอาว่ากูไม่ได้จะค้านไรมึงนะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าใครเชื่อไรในโม่งหมดก็งั่งแยกแยะไม่ได้อยู่ละ แต่เห็นเคสนี้ก็แค่บอกมโนแจ่มมาพูดจากมักง่ายในนี้น่ากลัวก็แค่นั้น ต่อให้กูเห็นเป็นแอคหลุม หรือ ask อะไรกูก็พูดแบบเดียวกันนั่นแหละ
ตอนที่มีคนมาเปิดประเด็นในโม่งว่าสดร.แจกของมีนอกในเพราะมีโม่งคนนึงมาบ่นแนวๆ ว่าหนังสือที่เค้าได้ไปตัวโม่งคนนั้นประกาศรับซื้อตามหาอยู่ตั้งนานไม่มีใครขายให้เลย แต่สดร.ประกาศหาไม่นานก็ได้แถมได้ราคาดีมาก อีกเคสก็กรณีนิยายเรื่องเป็นไทกับเพื่อนประกาศหาๆอยากอ่านอยากเก็บได้มาไม่นานก็เทขายแล้วก็ประกาศหาบอกว่าหาให้เพื่อน ที่หมั่นไส้ก็คงจากกรณีหาของแรร์ได้อยากง่ายๆ ไม่ยากลำบากมากละมั้งคนขายให้ก็คิดแหละคนนี้เชื่อได้
>>580 ไม่รู้มึงว่ากูเปล่า แต่กูคือ 547 นะ กูแค่มาถามในโม่ง กูไม่ได้เก็บวายจีนนานเลยไม่แน่ใจ แถมสภาพแต่ละเล่มก็ค่อนข้างเก่า เก็บไม่ดีกระดาษก็เริ่มเหลือง ไม่ได้ปั่นราคา กูไม่อยากถามกลุ่มสปอยเพราะกลัวว่าถ้ามันแรร์จริง แล้วจะมีคนบางประเภทมาไอบีขอจองก่อนกูจะโพสต์ขาย ซึ่งกูไม่ชอบคนประเภทนี้ เลยตัดปัญหามาถามในโม่งดีกว่า อีกส่วนนึงคือกูเล่นรักเพื่อนโม่งมากกว่าคนในกลุ่มสปอยด้วย เลยมาถามในนี้แทนดีกว่า
สรุปคือรู้ว่าแรร์แล้ว+ปล่อยกันแพง กูเก็บไว้ให้หลานๆตัวเองอ่านดีกว่า
>>580 กู576 อย่าเอาบรรทัดฐานมึงมาใช้ เห็นใครขอซื้อแรร์ก้ว่าเค้าเป็นแม่ค้า ถ้ากูเป็นแม่ค้ากูคงตื้มห้เค้าขายให้กูหละ เค้าถามว่าแรร์มั้ยกูก้ตอบตามจริงว่าแรร์ หรือจะบอกว่าไม่แรร์ลงไปเลยขายเลย50บาท ก้หวานหมูมึงซิ ถ้าเค้าขายกูกะไปแย่งชิงกะเค้าแค่นั้น มึงอย่ามาเหมาว่าคนอื่นเค้าเป็นม้า หรือตัวใมึงเป็นแม่ค้าเองไม่พอใจที่เค้าบอกว่าแรร์
สรุป box วิวาห์นี่ต้องแย่งชิงกันมั้ยวะวันนี้ หรือเหลือ กูจะได้คาดเดารอบไปรได้ว่ากูต้องรีบแค่ไหนหรือควรไปจองแม่ค้าไว้ก่อน
หวัดดีเพื่อนโม่ง ช่วงนี้กูเห็นโพส เรื่อง หรือว่าความรักเยอะมาก กูอยากรู้ว่าตอนที่ทำเค้าบอกทำรอบเดียวแล้วไม่ทำเพิ่มอีกตลอดกาล หรือนักเขียนเค้าหายไปเฉยๆหว่ะ กูอยากอ่านดูเล้าก็ไม่มี มันสนุกขนาดนั้นแล้วเป็นคู่จริงๆเลยใช่อย่างที่เค้าบอกกันมั๊ย
>>586 กูอ่านตอนลงเล้า ที่ดังเพราะเจ้าตัวว่าเป็นเรื่องจริง ถามว่าสนุกมั้ยก็โอเค ตอนนั้นกูใสๆอ่านแล้วก็อินมีร้องไห้บางตอน ตอนหลังลบเรื่องทิ้งเพราะคนเขียนนางว่าแฟนจับได้แล้วไม่ชอบให้มาเขียนอะไรแบบนี้เลยหายไป ก็ไปเลยอ่ะมึงไม่มีพิมพ์อีกแน่นอน แต่ถ้าถามว่าคุ้มหมื่นห้ามั้ยกูว่าไม่
ถามหน่อย การมางานวายสมัยนี้ เค้าให้จองคิวแทนกันได้หรอวะ มีคนมาก่อน 8 โมง อยู่แถว 1 แต่จองให้เพื่อนที่มา 11 โมง ได้ด้วย
ไม่พอ มีเพื่อนอีกคนมาอยู่แถว 2 ข้างๆ ตัวเองพอดี พอเค้าให้ลุกขึ้นยืนเพื่อจะเข้างาน มีดึงเพื่อนแถว 2 มาแทรกในแถว 1 แบบด้านๆ
"กลุ่ม" คนที่ทำคือคนแถว 1 ช่วงต้นๆ คิวไม่เกิน 5-7
อย่าไปทำแบบนี้ที่ไหนอีกเลยนะ
กูปล่อยไก่ กูไปบ่นผิดทู้มา
กูรำคาญคนเลือกกล่องในงานขายหน้าบูท แต่พอคิดอีกทีถ้ากูไม่อยากรอคิวนาน กูควรอยู่บ้านแล้วสั่งไปร
แต่กูไม่อยากได้ของทางไปร ไม่ได้กลัวกล่องเป็นรอย
กูไม่ชอบเวลาที่ต้องใช้รอนิยายมาถึงบ้าน 2-3 วัน รวมเวลารอคอนเฟิร์มโน่นนี่ ems ก็ 2 วันอยู่ดี
ถ้ากูเดินทางไปงานกูได้ซื้อเลยวันนั้นอ่านวันนั้น แต่กูต้องยืนนานหน่อยถึงโคตรนาน
กูอยากเสนอให้บูทเปิดแถวสำหรับคนไม่เลือกบ็อกซ์เพิ่มอีกแถว ไม่เลือกคือไม่เลือกจริงๆ สต๊าฟยื่นให้แล้วไปจ่ายตังเลย
>>590 ประจำมึง เป็นทุกงาน เป็นทุกรอบ ถ้ารอบไหนไม่มีบูทในงาน หรือไม่สามารถเป็นสตาฟซื้อของก่อนได้ ก็แบบนี้แหล่ะ แถมบางคนแม่งรับหิ้วด้วย ถ้างานไหนแม่งมีของจำนวนจำกัด ของไม่เคยเหลือมาถึงคนอื่นหรอก แม่งเหมากันหมด
มึงคิดดู สมมติของมีแค่ 10 ชุด จำกัดคนละ 2 ชุด พวกแม่งมีกัน 5 คน ก็หมดแล้ว จะมาถึงคนอื่นเค้ามั๊ย เหอะๆ
กลุ่มอ่านวาย หัวใจหลักไม่ได้อยู่ที่การอ่านแล้วเหรอวะ แม่มเยอะสิ่งขึ้นทุกที มีเซเลป กลุ่มแม่ค้าหัวใส(จนบางทีก็อบากจะไสหัวไปไกลๆ) กลุ่มลัทธิคลั่งกริบ(จนกูอยากบอกว่ามึงตั้งโต๊ะหมู่บูชาเถ๊อะอย่าอ่านเลยหนังสืออะ) กลุ่มลัทธิคลั่งเคลม (เคลมได้ทุกสิ่งแม้แต่รอยเท่าจิ๋มมด) กลุ่มลัทธิคลั่งบับเบิ้ล (มึงห่อมาไม่หนาเป็นแหนมเป็นหมอน มึงจะเจอด่าประหนึ่งไปฆ่าโคตรเหง้าใครตาย) กลุ่มกูต้องได้ (ไม่สนมารยาท สมบัติผู้ดี หรืออะไรทั้งสิ้น ต่อให้ต้องแซงคิว ยืนบังชาวบ้าน ยืนเลือกนานเป็นชาติทั้งที่มีคนอื่นรอเพียบ ขอแค่ได้ในสิ่งที่ต้องการจะแคร์อะไร)
เมื่อวานนี้เหมือนมีคนบอกโม่งน่ากลัว สำหรับกูว่าไม่เท่ากลุ่มลัทธิข้างบนมารวมตัวกันหรอก กูนี่ตามเล่ห์ชั้นเชิงคนเหล่านี้ไม่ทันจริงๆ โม่งเมาท์กู อ่านเสร็จก็จบ แต่อิพวกนั้น บางทีกูก็จำเป็นต้องไปซื้อขายติดต่อสัมพันธ์ เจอกัน(แบบไม่อยาก)ในงานต่างๆ พวกนี้ บอกตามตรงกูโคตรเอือม
กูเห็นคนนึงละคนนี้แม่ค้ารับหิ้ว หิ้วมาขายจะไม่อะไรเลยถ้าหนังสือมีพอในงาน แต่ในงานหมดแม่ค้าเอามาขายอัพราคา กูจำได้ กูไม่ซื้อคนนี้แน่ ให้โดนดอกบัตรให้เข็ด
แทรกคิวนี่อยู่ที่จิตสำนึกของคนล้วนๆว่ะ สำหรับกูเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทและโชว์ความหนาของหน้ามาก ตอนทำไม่อายบ้างหรือไง
.
.
.
กูเข้างานแรกๆรีบไปต่อคิวซื้อบ้อกววฮซ. โคตรลุ้นว่าจะไม่ทัน คนหน้าบู้ทอย่างเยอะ สรุปกูกลับเกือบบ่ายสามยังมีของขายอยู่เลย เอามาเยอะก็น่าจะบอกว่าเอามาเยอะ กูจะได้ไปซื้อท้ายๆงานตอนคนซา เซ็งพวกเลือกกล่องอย่างที่บนๆบอก
เห็นเพื่อนกูไปบอกว่าจู่ๆที่งานก็ประกาศว่ามีบ๊อกไปขาย 500 กล่องแทนที่จะ 300 กล่องอย่างที่ประกาศไว้ตอนแรก มันก็ไม่อะไรหรอก แค้รู้สึกเสียเวลาต่อแถวช่วงแรกไเานั้นล่ะ เพราะจนจบงานของก็ยังเหลือ
มีคนไปบ่นเรื่องแซงคิวในห้องสป.ละ อยากรู้ว่าจะสะเทือนกันมั้ย แต่ทั้งจขพ.ทั้งโม่งที่มาบ่นในนี้ ถ้าคราวหน้าเจอแนะนำให้พูดไปเลย แต่พูดดีๆก่อนนะ เชื่อว่าถ้ามึงเริ่มพูด ก็ต้องมีคนรอบด้านสนับสนุนมั่งแหละ
สรุปขาใหญ่ที่แทรกคิวคือใคร ใบ้หน่อย อ่านที่บ่นกันยังเดาไม่ออกเลย
>>604 ขาใหญ่ไม่ใหญ่ไม่เกี่ยว ต่อให้เป็นเจ้าของสนพ.ก็ไม่มีใครสนปะ ไม่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตจริง ต่อให้โดนแบนห้ามซื้อนิยายนั่นนี่ก็ฝากพ่อแม่พี่น้องซื้อได้
ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความกล้าของคนถูกแซงและความด้านของคนแซงมากกว่า ไม่ต่างจากเวลาต่อแถวซื้อของตามตลาดแถวบ้านแล้วโดนแซงหรอก
กูจะเสริมให้อีกอย่างพวกเเทรกคิวอะยังธรรมดา กับพวกที่เอาบูธตัวเองบังหน้าเเล้วเอาพวกเอาฝูงมาเป็นสตาฟ บูธหนังสือมีไม่กี่เล่ม คนไม่ได้มารุมต้องมีสตาฟเป็นหลายๆคน อันนี้กูบอกเลย น่าเกลียดพอกัน ซึ่งพวกห้อยป้ายสตาฟก็พวกตัวเเม่ๆ รับหิ้ว ซื้อเยอะๆ ห้อยป้ายสตาฟเเต่เดินลอยไปลอยมา เตรียมอยู่หน้าบูธที่ต้องรีบ ต้องรับคิว
กูอยากจะให้พวกเเม่งานจำกัดคนมาจัดบูธจะตาย พวกมึงๆที่มาเข้าคิวเเล้วของหมด ก็เจอพวกนี้ตัดหน้าทั้งนั้น
>>610 กูไม่เคยไปงานวายเฉพาะแบบนี้ แต่เรื่องงานอีเวนท์ต่างๆ ทางฝั่งการ์ตูนกูไปบ่อย ปกติบูธหนึ่งมันมีจำกัดคนไม่ใช่เหรอว่าจะมีสตาฟได้กี่คนต่อหนึ่งบูธ คือส่วนมากก็ไม่เกินสามคนต่อบูธอะ แล้วรอบก่อนขายปกติส่วนมากก็แบ่งขายได้จำนวนหนึ่งจากทั้งหมด แต่ไม่ใช่แบ่งเป็นครึ่งต่อครึ่งแน่ๆ พวกงานตลาดฟิคกับเจนวายไม่มีจำกัดเหรอวะ เพิ่งรู้
เพิ่งเคยเห็นคนแต่งอย่ามาอยู่กับกุ้ง เห้ย ไม่ได้ตามเค้านึกว่าเป็นผญ เป็นผชละสไตล์คือแนวๆหน่อย ผิดคาดมาก
มึงขอถามปัจจัยในการซื้อนิยายเล่มหนึ่งของพวกมึงหน่อย กูเปิดพรีนิยายก็ไม่คิดว่ายอดจะน้อยนะ เพราะยอดเฟบเป็นหมื่น ยอดคอมเมนต์หลายพัน แต่ยอดพรีกูตอนนี้แค่เกือบร้อย อีกไม่กี่วันก็ปิดพรีแล้ว กูไม่เข้าใจว่าพลาดตรงไหน ปกก็สวย คือกูรู้สึกตกใจ น้อยใจด้วยเพราะยอดเฟบกูเป็นหมื่นๆ มองไปที่นขอีกคนยอดเฟบไม่ถึงหกร้อย แต่ยอดโอนนิยายของเขานำกูไปแล้วทั้งที่เพิ่งเปิดพรีไม่ถึงสิบวัน
ราคา / มึงให้อ่านจบไปแล้วหรือเปล่า / มึงโฆษณาที่ไหน กระจ่ายข่าวทั่วถึงหรือเปล่า
>>615 สำหรับกูนะ กูเป็น typeสาววายงบน้อยและคิดแล้วคิดอีกก่อนเปย์นิยายสักกเรื่อง
1. เนื้อเรื่องเป็นหลักเลย ถ้ามึงยังลงไม่จบอันนี้อาจเป็นส่วนนึงในการตัดสินใจยังไม่ซื้อของกูเพราะกูเรื่องมากกับตอนจบพอสมควร คือถ้าต้นเรื่องมาดีแต่จบไม่ถูกจริตกูก็ไม่เอา
1.1 ยิบย่อยอันนี้ส่วนตัวกูเอง การที่กด fav กดให้กำลังใจนข.ไม่ได้จำเป็นว่ากูจะชอบมากขนาดจะเปย์ทุกเรื่อง เนื่องด้วยงบมีจำกัดต่อเดือนทำให้กูต้องมองเรื่องเป็น 2 แบบอีก คือเรื่องนี้สนุกมีโอกาสกลับมาหยิบอ่านซ้ำ อันนี้คือกูซื้อ แต่ถ้าเรื่องสนุกพอประมาณ(คืออ่านได้แต่ไม่ถึงขั้นแนะนำเพื่อนต่อหรือว่าไม่คิดอ่านซ้ำชัวร์) อันนี้กูก็ไม่ซื้อ
2. ความไว้ใจเขื่อใจนข. ถ้ามึงไม่เคยออกงานที่ไหนเลย เป็นนิยายเรื่องแรก ลงก็ยังไม่จบอันนี้ความเชื่อใจกูจะต่ำมาก เพราะกูจะกลัวและกังวลลึกๆว่าถ้ากูพรีนิยายไปแล้วกูจะโดนเชิดเงินหนีแบบจวิ๋นอ๋องมั้ย แต่ถ้ามึงเป็นนข.ที่ออกงานมาในระดับนึงหรือมีอะไรที่ทำให้กูมั่นใจว่าเงินกูจะไม่หายไปกับสายลมกูก็อาจจะเปย์
3. ราคาหนังสือเมื่อเทียบกับจำนวนหน้า ถ้าแพงเกินกูก็ไม่เอา กูรอสอยมือสองดีกว่า
4. ส่วนตัวกูนะ ภาพปกไม่ใช่ประเด็นหลักขอแค่ไม่เบี้ยว ไม่วาดคนผิดสเกลกูก็โอเคแล้ว ไม่ใช่ว่าปกสวยจะดึงดูดคนอย่างกูให้เปย์ได้ (แต่กูเชื่อว่ามีคนที่ตัดสินใจจากปกเยอะแหล่ะ)
5. ของแถม บลาๆ ส่วนตัวกูยิ่งไม่สนใจใหญ่หากไม่ใช่เล่มเล็ก กูเน้นถูกเป็นหลัก ถ้าเลือกได้กูขอไม่เอาของแถมและขอส่วนลด 20-30 บาทแทนดีกว่า (แต่ก็นั้นล่ะ จะมีสาววายที่ไม่สนเนื้อหานิยายใดๆต้องจะซื้อเพราะของแถมก็มี)
สำหรับกูก็ประมาณนี้แหล่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือเนื้อเรื่อง ถ้าดีคือซื้อแน่ๆ รองลงมาคือความเชื่อใจถ้ากูชอบเรื่องมากแต่กูไม่เชื่อใจกูก็จะรอซื้อทางร้านในช้อปปี้เอาแทน
>>615 หลักๆก็พล็อต คาร์ตัวเอก แล้วก็สำนวนอะดูรวมๆกัน เช่นต่อให้ชอบพล็อตมาก แต่สำนวนไม่ถูกจริตกะกู หรือใช้คำผิดเยอะ หรือคาร์แบบที่ไม่ชอบกูก็ไม่อ่านต่อ เรื่องราคาถ้ามันไม่ได้แพงเว่อร์และดูสมเหตุสมผลกะจำนวนหน้าก็ไม่ค่อยสนมาก หรือต่อให้แพงแต่ถ้าเป็นของคนที่ชอบกูก็ซื้อ ส่วนปกเอาจริงๆคือไม่สนเลย ถ้าปกสวยก็ดีแหละ แต่ถ้าตั้งใจจะซื้ออยู่แล้วต่อให้ไม่สวยก็ไม่แคร์ ปกจะมีผลก็ต่อเมื่อไม่รู้จักเรื่องนั้น เดินผ่านหน้าร้านแล้วสะดุดตาถึงไปหยิบมาพลิกดูพล็อต เพราะฉะนั้นปกกะการพรีนี่ไม่มีส่วนกะการซื้อเลย
เวลาจะพรีนิยายก็จะลองหาตัวอย่างมาอ่านดู 3 อย่างหลักที่บอกเมื่อกี๊ก่อน และยิ่งถ้าตัวอย่างที่ให้อ่านตัดจบแบบค้างคาทำให้อยากรู้ต่อได้ก็มีแนวโน้มสูงว่าจะซื้อ
>>615 ปัจจัยว่าจะซื้อหรือไม่ซื้ออยู่ที่ความชอบและสถานะทางการเงินช่วงนั้นล้วนๆ แต่ในฐานะที่เป็นทั้งคนอ่านคนเขียนบอกเลยว่ายอดเฟบไม่ได้การันตียอดขายเสมอไป ยิ่งถ้าลงจนจบแล้วและระยะช่วงพรีนาน มันก็เหมือนกระแสแผ่วอะมึง ถ้างานมึงไม่พีคระดับแบบคนอ่านคลั่งมากๆ ไม่เปย์ไม่ได้ก็ยากที่จะได้ยอดสัก80%ของคนเฟบทั้งหมด เพราะคนอ่านมีโอกาสเทไปหาเรื่องอื่นที่เปิดพรีช่วงเดียวกันและน่าสนใจมากกว่าหรือชอบมากกว่าระดับของมันต้องมีงี้ เพราะมึงอย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้นิยายวายมีให้คนอ่านเลือกซื้อเยอะมาก แต่กำลังทรัพย์แต่ละคนมันไม่ได้มากขึ้นตามทุกคน ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ใครจะออกอะไรมาคนอ่านก็ตามซื้อเก็บ ไม่ต้องชั่งใจอะไรมากมาย จริงๆถ้าอยากรู้จำนวนคร่าวๆ แนะนำให้หย่อนแบบสิบถามให้คนอ่านทำมากกว่าดูยอดเฟบ และยอดที่ได้จากแบบสอบถามรอบแรกก็อย่าเพิ่งเชื่อเลย เพราะสุดท้ายก็อาจจะมีคนเปลี่ยนใจไม่เอาอยู่ดี หรืออาจมีคนสนใจมากกว่าเดิมก็ได้
ยอดจะไหลอีกรอบช่วงวันปิดจองมึง มึงก็เเคปตอนพิเศษในเล่มสปอยลงไป เพิ่มบ้าง
เเต่ยอดไลก์ เฟบ อะไรพวกนี้นับไม่ได้หีอก อย่าเอาตัวเลขพวกนั้นมาหวังยอดพิมพ์
>>615 เป็นกำลังใจให้มึงนะ กูกะเปิดพรีอยู่เหมือนกัน และยอดน้อยมาก สิ้นหวังจนเลิกหวังแล้ว กูว่าไม่ปิดตอนแถมลงให้จบนี่ค่อนข้างมีผลอ่ะ โปรโมทไม่ดีก็มีผลด้วย//อีกนิด พวกรับพรีรับผ่อนในกลุ่มนี่มีผลต่อการตัดสินใจสั่งพรีไหมวะ กูเห็นบางคนรอพรีกับพวกที่รับพรีเลย แบบไม่มาพรีกับนข. ทำไมวะ...
>>615 ยอดเฟบเยอะไม่ได้หมายความว่าจะมีคนซื้อเยอะนะมึง อย่างกูที่กดเฟบเพราะมันทำให้รู้เวลานข.อัพนิยายเฉยๆ บางเรื่องช่วงแรกๆกูชอบก็เฟบไว้แต่ตอนหลังเบื่อไม่อ่านอีกแต่ไม่ลบเฟบก็มี ขนาดบางคนทำแบบสอบถามเช็คยอดกูเห็นคนอยากได้เยอะแต่เวลาโอนจริงๆเหลือนิดเดียวก็มี ยิ่งถ้ามึงเปิดจองชนกับช่วงงานวายทั้งหลายกูว่ายอดน่าจะน้อยลงอีกเพราะคนเตรียมเอาไปเปย์ในงานกันหมด
เห็นพูดถึงพรีแล้วถามหน่อยว่าหลังลงจบแล้วเปิดพรี ให้เวลาพรีสองเดือนมันนานไปกระแสแผ่วมั้ย หรือหนึ่งเดือนดีเปิดเร็วจ่ายเร็วได้ของเร็วอารมณ์พีคหลังอ่านจบยังอยู่ แต่กลัวว่าเดือนเดียวคนจะเก็บเงินไม่ทัน
บางเรื่องคนไม่ได้ตั้งใจซื้อแต่มีคนมาหวีดยอดก็พุ่งนะ ราคาด้วย สังเกตดูถ้าเรื่องไหนราคาโอเคและมีแสตนดี้ด้วย คนจะแห่ไปจองกัน เหมือนคนอยากเก็บพรีเมี่ยมด้วยมันเหมือนจูงใจให้ซื้อง่ายขึ้น ส่วนเรื่องปิดตอน ลงไม่จบ ไม่รู้มีผลไหม แต่ช่วงนี้เห็นหลายเรื่องเปิดไม่กี่ตอนก็เปิดจองล่ะอะ ซึ่งต้องยอมรับว่านักเขียนทุกคนทำงี้ใช่ว่าคนจะแห่ไปจอง ก็คงบวกเครดิตของตัวนักเขียนด้วย ที่เห็นล่าสุดคือ มม ลงแค่นิดเดียว คนก็แห่จองแห่ซื้อกัน เพราะมีเครดิตมั้งว่าสนุกดีของคนนี้ เป็นกำลังใจให้นะ รักทางนี้ก็ลองดูสักตั้ง
กด fav ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อ เอาไว้หาง่ายๆเฉยๆ เรื่องที่จะซื้อต่อให้ลงครึ่งเรื่องก็ซื้อ ขึ้นกับนักเขียน นักเขียนบางคนเห็นชื่อก็ซื้อ เป็น auto-buy บางคนลงให้อ่านจนจบยังขี้เกียจจะอ่าน แต่กดเฟบไว้งั้นๆแหละ วันไหนไม่มีอะไรทำจะได้ขุดมาอ่านได้ง่ายๆ
เนื้อเรื่อง สำนวน มีผลอย่างมาก ต่อด้วยความยุ่งยากในการสั่ง วุ่นวายมากก็ไม่เอาละ รออีบุ๊คเอา บางนักเขียนเคยซื้อหนนึง คำผิดเพียบ เนื้อเรื่องห่วย ต่อให้ออกเรื่องใหม่มาก็ไม่ซื้อ
ที่กูคิดในใจมาตลอด
- นักอ่านส่วนใหญ่ไม่ใช่นักซื้อนิยาย
- นิยมเป็นกระแส แต่ลืมง่าย เรื่องจบแล้วก็จบ
- อ่านจบแล้วจบกัน ถ้าไม่ได้มีจุดไหนในเรื่องกระตุกใจมาก
- ราคาเล่ม ยิ่งเปิดให้อ่านจบแล้วตั้งราคาสูงยิ่งขายยาก ถ้าไม่มีอะไรแถม เช่น ตอนพิเศษ
- บางคนซื้อเล่มเพราะจะเก็บภาพปกของนักวาดที่ชอบ
- อย่าเชื่อยอดจองมากนัก มึงพิมพ์ใหม่ได้ ถ้าของขาด แต่ถ้ามึงพิมพ์มาแล้วขายไม่ได้ คือ ขาดทุน
- E-book คือทางเลือก
>>628 กูอาจจะเป็นส่วนน้อยนะที่ถึงลงจนจบแล้วจะมีตอนพิเศษหรือไม่มีกูก็ซื้อ แต่มีข้อแม้อย่างเดียวว่างานนั้นจะต้องมีฉากพีคๆที่น่าจดจำจนกูอยากจะอ่านซ้ำอีกหลายๆรอบ
กูว่าที่สำคัญที่สุดคือฐานแฟนคลับของมึงนะ มึงเปิดพรีเรื่องแรกป่ะ หรือเคยออกงานมาแล้ว ถ้าไม่ใช่งานที่คนหวีดกันหนักๆจนติดท๊อปกูว่าน้อยนะที่จะมีคนพรีเยอะตั้งแต่เรื่องแรก ไว้มึงมีฐานแฟนคลับเมื่อไหร่เรื่องต่อไปของมึงก็จะมีคนพรีเยอะเองแหละ สู้ๆนะมึง
>>632 ข้อสามเห็นด้วยอย่างมาก อ่านจบแล้วก็จบกัน สำหรับกูนะ นิยายในเด็กดีหรือเวปอื่น แบ่งตามนี้
1.ของนักเขียนที่ชอบ เอาไว้อ่านตัวอย่างเรื่องใหม่สักสามบทว่าจะซื้อเลยหรือว่างๆค่อยไปซื้อ (พัณณิดา ri-ne)
2.ของนักเขียนที่ไม่รู้จัก
-อ่านจนจบแล้วซื้อ เพราะประทับใจมาก และจัดเข้าลิสต์ข้อ1 (พันธนาการแห่งสายน้ำ, set labeling theory)
-อ่านจนจบแล้วไม่ซื้อ เพราะจบแล้วก็แล้วกัน ไม่มีอะไรประทับใจ เรื่องใหม่อาจมาเปิดๆดู โอเคก็อ่าน ไม่โอก็ดรอป
-อ่านไม่จบแล้วซื้อ เพราะอยากอ่านต่อมาก ถ้าอ่านต่อแล้วประทับใจ ก็จะกลายเป็นนักเขียนในข้อ 1 แต่ถ้าซื้อแล้วห่วย เทตลอดกาล เรื่องต่อๆไปอ่านฟรีก็ไม่อ่าน (สำหรับกู เช่น สามีมาให้ข้ากุมถุงเงิน)
-เรื่องที่อ่านยังไม่จบแต่ add fav ไว้ติดตาม
-เรื่องที่กดเปิดไปอ่านได้เล็กน้อย แต่ไม่ไหวจริงๆ ปิดทันที
-เรื่องที่อ่านคำโปรยแล้วไม่คิดจะเปิดอ่าน
แต่ละคนก็มีแนวคิดไม่เหมือนกัน บางคนอ่านจบก็จะช่วยซื้อให้กำลังใจก็มี บางคนซื้อเฉพาะเรื่องที่อ่านไม่ตบแล้วอยากอ่านต่อ บางคนซื้อเพราะปกเฉยๆ
สำหรับกูเรื่องที่ไม่ซื้อก็เพราะไม่สนุก แค่นั้นเอง
กุเป็นสายยังไงก็ต้องอ่านให้จบก่อนซื้อว่ะ ต่อให้กุจะชอบคนแต่งคนนั้นยังไก็เถอะ โดนหลอกหลายรอบเกินไปกูเข็ดละ สิ่งมี่ทำใฟ้กูตัดสินใจได้เร็วคือตอนพิเศษล้วนๆเลยว่ะ ถ้ามีแล้วอยากอ่านนี่แทบจะปาเงินคนแต่งถถถถ
ส่วนเฟบนี่กูบอกเลย กูเฟบไว้ราวๆ1500เรื่อง...มึงคิดว่ากูจะซื้อทุกเรื่องมั้ยล่ะ5555
ยอดจองก็เถอะ กูอยู่กับสายผลิตมาเยอะ เห็นคนโดนเทมาก็เยอะ อย่างคิดว่าจองแล้วจะโอนกันทุกคนก็พอ
ปล.ถ้ามึงเปิดพรีรอบแรกนี่ยิ่งควรระวังเลย คนมันไม่ค่อยกล้าพรีกับทำมือใครง่ายๆแล้วโกงกันบ่อยชิบหาย
เธอต้องมีตอนพิเศษหลายตอนหน่อย เปิดพรีเดือนครึ่งกำลังพอดี ถ้าระยะพรีนานเกินไป คนอ่านก็ลืม
แล้วใกล้วันปิดพรีสัก 2-3 วัน อย่าลืมเตือน วันสุดท้ายด้วย
>>615 สำหรับกู fav. ไว้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อจริงๆ นั่นล่ะ ถ้าไม่ใช่ชอบจริงๆ อย่างกูไม่นิยมการสั่งพรีใช่ไหม กูเป็นพวกชอบเดินดู เล็งๆ เรื่องที่สนใจในเว็บไว้จากนั้นก็เดินตามงานต่างๆ ตามร้านหนังสือ บางเรื่องที่วางขายและโดนกูก็ซื้อมา เรื่องไหนกูชอบมากๆแล้วต้องสั่งพรีออเดอร์เท่านั้นถ้าชอบจริงๆ กูถึงสั่งพรี ตอนพิเศษมีผลนะสำหรับกู มึงลองเอาตัวอย่างตอนพิเศษที่มันพีคๆ มาโปรยสั่งสองสามประโยคก็ทำให้คนสนใจได้
สำหรับกู บอกเลย นิยายบางเรื่อง good to read but not to buy
ยิ่งนิยายบางเรื่องในเด็กดี กูเฟบไว้ แต่กูไม่ได้อ่านเลยว่ะ 5555
ไม่รู้ว่าใช่เรื่องที่คิดมั้ยถ้าใช่เราชอบอีกเรื่องโอเมก้าของเพื่อนโม่งมาก เรื่องที่ใกล้ปิดพรีเราลุ้นให้ยอดขึ้นทุกเดือนเอาใจช่วยมาก ถ้าให้เราวิเคราะห์บทนำของเพื่อนโม่งที่เป็นปัญหา พอผ่านบทนำไปได้อ่านสนุกมากทีนี้พอบทนำมันไม่ชวนอ่าน คนก็ไม่กดอ่านต่อเลยพลาดเรื่องข้างในไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ถ้าไม่ใช่เราก็เอาใจช่วยอยู่ดีนะ คิดเหมือนเพื่อนโม่งบนๆ ยอดจะไหลวันที่ปิดจอง ไม่น้อยใจนะเพื่อนโม่ง สู้ๆ
เบื่อการตลาดเล่มเล็ก /หลายเรื่องพรีไม่ทัน ไตพังบ้าง/ เปิดจองนานจนลืม /ปกสวยของนขแต่คนซื้ออาจไม่ชอบลายเส้น /อ่านได้แต่ไม่อยากเก็บ
บางทีก็อยากให้นขไม่ทำเล่มเล็ก พอกหมุนเงินได้ หรือตามอ่านทีหลังอยากได้ จะได้ตัดสินใจซื้อตอนรีปริ้นท์ง่าย ไม่งั้นคิดหนักเหมือนหนังสือพิการขาดเนื้อหาไป
ถามเพื่อนโม่งหน่อย กูว่าจะลงขายของอยู่ เพื่อนโม่งมีที่ลงขาย นอกเหนือจาก ในเฟส และ ชอป มีที่ไหนอีกบ้างไหม
KY เห็นคนมาบ่นในกลุ่มว่าส่งเคลม box ไปได้กลับมาบุบกว่าเดิม แต่มองลองดู box ที่เค้าส่งเคลมตอนแรกคือรอยบุบแม่งเล็กมาก ถ้ากูเป็นนข.นะกูไม่ให้เคลมตั้งแต่ต้นละ
นี่กูจะรอดูว่าจะมีคนมายุให้ไปเคลมกับนข.อีกทีมั้ย
>>615 หลักๆคือมึงเคยเปิดพรีไหม กูว่าเรื่องนี้สำคัญสุด เพราะเดี๋ยวนี้ โกงกันเยอะ แถมส่งหนังสือช้าด้วย บ้างคนเปิดพรี 1-2 เดือน แต่รอหนังสืออีกครึ่งเดือน คือรวมๆก็ จะปีอะ มึงต้องบอกช่วงที่จะได้หนังสือด้วยก็จะดีมาก กูเคยรอนิยายมาครึ่งปี-1ปีอะ แบล็กลิสต์เลยจ้าาาาาา หลังจากนั้นนข.ใหม่ หรือสนพ.ใหม่ กูจะไม่พรีเลย รอดูไปสักระยะ ถ้าส่งไว ส่งดี รอไม่นาน ซื้อ ส่วนของแถมกูไม่สน นิยายเล่มเล็กจริงๆกูก็ไม่อยากได้นะ เล่มใหญ่ๆบางทีกูยังทำหายเลย กูอยู่สลับ 3 บ้านอะ หาของทีลำบากมาก ขอส่วนลดกับส่งฟรีดีกว่า
เคยรอหนังสือพรีนานสุดเกือบ 3 ปี TvT ย้อนกลับไปคิดดูเออเราก็รอมันได้นานขนาดนี้เนอะ
กูเคยซื้อหนังสือพร้อมบ๊อกแบบซีลเรียบร้อยแล้ว คนขายถามกูว่ากูจะเลือกไหม กูก็งงมันอยู่ในซีลให้เลือกอะไร กูก็หยิบมาหมุนๆสักพักแล้วจ่ายตังค์ ประเด็นคือกล่องมันขาดตรงมุมที่เราไม่ดูให้ดี ที่สำคัญคือเปลี่ยนไม่ได้เพราะเค้าให้เลือกแล้ว หลังจากนั้นกูก็พยายามจะดูทุกมุมเท่าที่ดูได้ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเราเอง
>>657 อย่างมึงกูเข้าใจนะ ไอ้ดูให้ดีทุกมุมอ้ะ แต่ไอ้พวก หยิบ หมุน พลิก ดูซีล วาง ดูแม่งทั้งชั้นทั้งกอง เมื่อวันเสาร์กูเข้าบู้ทมีดีส์มา เจอคนข้างหน้าคุ้ยหนึ่งคำมั่นฯ หมดกองสองรอบอ้ะมึง สุกท้ายหยิบอันแรก แล้วแถวข้างหลังยาวไปถึงเวที คนก็แน่น คิดตังค์ก็ช้า รอรับของแถมอีก กูเลิก ไปรอซื้อนกฮูกรอบไปร กับซื้อววฮซผ่านนายอินทร์ก็ได้
กูเคยเจอเปิดไฟฉายส่องสัน ส่องมุม แล้วส่องทั้งกอง 2 รอบ ทำให้คนซื้อทีหลังคิดว่าหนังสือแม่ตำหนิทุกเล่ม กลายเป็นอุปทานหมู่ ส่องกันหมด
เดี๋ยวนี้มีเปิดไฟฉายส่องแล้วหรอว่ะ กูว่าต่อไปคงพกแว่นที่เค้าใช้ส่องพระกันแล้วมั้ง ถ้าจะลำบากกับการซื้อขนาดนี้นะ ถถถถ
>>615 สำหรับกูนะ ถ้าเป็นนิยายแต่งกูจะค่อนข้างเรื่องมากกับเนื้อเรื่องว่ะ
1. ถ้าลงไม่จบกูไม่ซื้อ กูต้องอ่านให้แน่ใจก่อนว่าจะไม่มีฉากที่กูไม่ชอบ
2. กูเกลียดการนอกใจหรือมือที่ 3 หรือแม้แต่พระเอกไปสนิทสนมเล่นหูเล่นตากับใครก็คือโน ถ้ามีเรื่องที่ว่าแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้จะดีงามมาตลอดตั้งแต่เริ่มเรื่องยันจบ ก็บาย (แค่เฉพาะข้อนี้ทำให้กูเทนิยายไปเยอะมาก ช่วยได้เยอะเลย)
3. นิสัยตัวละครคงเส้นคงวา ไม่ไบโพล่าร์ ไม่สาวแตก ถ้าเป็นแบบที่ว่าก็บาย
4. พระเอกนายเอกไม่ดีแตกตอนหลัง บางเรื่องตอนหลังพระเอกกลับไปกินแฟนเก่างี้ ลาขาด
5. ดราม่าไร้สาระน่ารำคาญก็ไม่โอ
6. ตอนพิเศษยิ่งเยอะยิ่งดึงดูด ถ้าตอนพิเศษน้อย มึงต้องแน่ใจว่าเรื่องของมึงดีงามควรค่าแก่การจดตำและอ่านซ้ำบ่อยๆ
7. มีฉาก hint บางอย่างที่กูกร๊าวมาก เช่นพระเอกยังซิง (ทำไมกูเป็นคนแบบนี้55) กูจะควักตังซื้อแบบไม่ค่อยลังเล แม้จะมีบางจุดที่กูไม่ค่อยชอบก็ตาม
ที่กูเรื่องมากได้ เพราะนิยายแต่งวัยมหาลัยมันเยอะมากกกก และนิยายแต่งที่ทำเป็นเล่มก็เยอะมากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นกูตัวเลือกเยอะ แม้มีแค่จุดเดียวที่กูไม่โอ กูก็เทได้ แล้วไปซื้อเอาเรื่องอื่นที่กูชอบมากกว่าได้ แต่กูว่าเป็นรสนิยมของคนอ่านแต่ละคนด้วย บางคนอาจจะชอบอะไรแบบที่กูไม่ชอบงี้ มันคาดเดาลำบาก
แล้วก็เรื่องราคา เกินหน้าละ 1 บาทกูจะเริ่มคิด แพงเกินกูจะค่อนไปทางเท แต่ถ้าราคาถูกแบบ อหหหห โคตรถูก (กูเคยซื้อนิยาย 300 กว่าหน้า ราคา 200 ต้นๆ) กูจะซื้อแบบไม่ค่อยคิดเท่าไหร่
>>665 ข้อ2 มึงทำกูนึกถึงฟิคเรื่องนึงเลยอ่ะ เปิดเรื่องมารักกันหวานแหววมาก ตอนดราม่าพึ่งรู้โดนหลอก พระเอกนอกกายนายเอกมาตั้งแต่ต้น แอบไปมีอะไรกับผญ.มาตลอด มีข้อแม้ว่าห้ามระรานและไม่ให้นายเอกรู้ นึกว่านิยายรักใสๆที่ไหนดราม่า กูอยากให้จบเศร้ามาก อยากให้นายเอกเลือกไปมีรักใหม่สุดๆ แต่ก็จบแฮปปี้ (ノಥ益ಥ)ノ ┻━┻
>>649 กูขอย้อนกลับไปคุยเรื่องนี้แปป พอดีเพิ่งมีเวลาย้อนอ่าน
ถ้าเรื่องของมึงคือเรื่องที่พระเอกชื่อหมอก นายเอกชื่อบลู กูอยากบอกว่ากูเทเรื่องนี้ไปช่วงท้ายๆ ตอนที่นายเอกยังไม่พร้อมจะมีอะไรกับพระเอก แต่พระเอกงี่เง่าแล้วไล่ให้นายเอกไปทบทวนตัวเองอ่ะ จริงๆเรื่องนี้น่ารักมาก กูตามอ่านตั้งแต่แรกๆแล้วชอบมาก ถ้าไม่มีดราม่านี้กูคงซื้อแหละ แต่ก็นะ 5555
ปล.อันนี้กูเดานะ ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ก็ขอโทษด้วย
มีคำถาม ตกลง อสมท ปลด บังเอิญรักจริงดิ ? แบบว่าเพิ่งเห็นข่าว แต่ไม่เห็นมีกระแสไรเลยยัง งงงวย
กูมาระบายนะพวกมึง kyยังไงอย่าโกรธกูนะ กูเล่นเกมนี้ เชียร์คู่นี้ กูดีใจมากที่อ.ฮานะชิปเดียวกับกู
แต่พออ.วาดแฟนอาร์ตละกูไม่สบายใจอะ กูรู้สึกฟินไม่สุด เพราะเหมือนมังงะของ อ.มากๆ
https://twitter.com/fw_kisskiss/status/1001127104048611328?s=19
บอกตามตรงใครจะฟินก็ฟิน แต่กูฟินไม่สุดจริงๆว่ะ เหมือนกูเห็นของซ้อนทับ 5555
มังงะอ.แกก็ดังอยู่แล้ว แต่กูกลัวว่าคนจะมาชิปเพราะแฟนอาร์ตที่อ.แกวาดเหมือนในมังงะ ไม่ได้ชิปแบบที่กูชิปจริงๆ
ขอบคุณพื้นที่ สุขสันต์วิสาขบูชานะพวกมึง
>>678 กูว่ามึงไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้คนกรี๊ดกร๊าดภาพนี้เพราะเหมือนงานมังงะของแกแต่พอไปเจอสายเส้นจริงไปดูคาร์จริง คนส่วนใหญ่ก็จะชิปตามจริตตัวเองอยู่ดี อีกอย่างไอนานะเกมมันก็ไม่ได้ใหม่มากคนที่ชิปที่หวีดกันอยู่ตอนนี้ก็ลงเรือปักหลักมั่นคงซะส่วนใหญ่แล้วด้วย ถ้ามีคนมาเห็นภาพนี้แล้วชิปคู่นี้ ก็เหมือนหาคนมาสนใจเรือเพิ่มมากกว่าถ้าเขาอยู่ๆไปแล้วไม่รู้สึกว่างานอื่นๆของคู่นี้อร่อยเขาก็สละเรือกันไป แต่ถ้าใครมาแล้วถูกจริตจริงๆงานของคนอื่นนอกจากจารย์แกกินแล้วอร่อย มีโมเมนต์อฟช.แล้วกรี๊ดกร๊าดก็แสดงว่าถูกจริตเขา เขาก็อยู่ต่อนะ
เอาจริงกูก็มาต้อมด้อมไอนานะเพราะแฟนอาร์ตกาคุเท็น
แต่พอลงด้อมจริงๆกูเท็นริคุว่ะ สายค้ำคอร์อย่างกูนี่อาหารชั้นเลิศชัดๆคู่นี้มันโคตรดีย อิโอริคุก็ดี สรุปอร่อยหมด llorz
นึกว่าเข้าห้องผิด ทำไมกูอ่านไม่รู้เรื่องเลย
ถ้าเอาจริงๆมันควรไปอยู่มู้อื่นอ่ะ แต่ช่างมันละกัน กูไปสิงมู้อื่นแทนละกันถถถถ
กูถึงขั้นเลื่อนไปดูหัวกระทู้ว่ากูเข้าผิดก้องหรือยังไง
กูว่าห้องทวีปดอกไม้ก็คุยเรื่องเกมไปด้วยเลยก็ได้มั้งเพราะนานๆมีมาที จะให้ไปขุดห้องเกมขึ้นมาก็ไม่ค่อยมีคนใช้ ไหนๆห้องนั้นคนก็ไม่ค่อยเยอะคุยเรื่อยเปื่อยอยู่แล้ว นอกจากดาบ แกง เฟทที่เป็นทู้ใหญ่ๆเกมอื่นๆก็คุยที่โคโลนี่ทวีปดอกไม้ก็ได้มั้ง(มึงเปลี่ยนชื่อกันบ่อยละเกิน) บางมีกูอยากลั่นองเมียวก็ไม่รู้จะไปหวีดห้องไหนเหมือนกัน
>>681 ขอบคุณมึง กูสบายใจละ แต่กูคงไม่ตามเรื่องนี้ต่อวะ ไปสนับสนุนจารย์แกเรื่องอื่นละกัน
ส่วนคนที่มาบอกไม่รู้เรื่อง กูขอโทษละกันที่มาบ่นผิดที่ผิดทาง เห็นเป็นห้องฟุบ่นวายกันได้ในห้องนี้ อ.แกก็เขียนวายคนรู้จักก็เยอะ คราวหลังกูจะได้เก็ทว่าห้องนี้มันมีไว้บ่นดราม่ากล่องบุบกับหนังสือรอยขนแมวว่ะ
ขอบ่นในนี้ละกัน นข.เปิดจอง boxset นิยายแนว mpreg เรื่องนึง 3 เล่มจบ ปิดจองเมื่อปลายปี 2559 ผ่านไปจนปลายปี 2560 เพิ่งทะยอยส่งเล่ม 2 (ระหว่างช่วง 2 ปีนีสามารถรีปริ้นผลงานตัวเองออกมาขายได้ ไม่ได้หายไปไหน) พอไม่นานมานี้ บอกว่ามีปัญหาไม่ได้แต่งต่อเล่ม 3 ขอคืนเงินให้ คือ กูเฟลมากอะ แล้วเล่ม 1-2 ยังอยู่ในซีลกูนี่ คืออะไรวะ ถึงจะบอกว่า อ่านแยกเล่มกันได้ แต่มันไม่ใช่ปะวะ ตอนประกาศขายๆเป็นเซท ถึงเวลาทำไม่ได้ ไม่เปิดช่องรับคืนเล่ม 1+2 แต่จ่ายคืนแค่เล่ม3+บ็อก มา 500 (ราคาพรีฯ 1100) ทำเอากูขยาดไปเลย ต่อไปไม่แลเลยงานคนนี้
มึงงงง กูอยากบ่น มีคนแนะนำนิยายมาเรื่องนึง สนุกมากกกก แต่ประเด็นคือเพิ่งปิดพรีไป กูร้องเหี้ยหนักมาก ของแถมรอบพรีเป็นเล่มเล็กด้วยอ่ะมึง เสียใจ
นี่มองไปถึงความรับผิดชอบของคนนะ คือหักเงินคืนคือจบเหรอ ตอนประกาศขายๆเป็นเซท ถ้าบอกขายเป็นเล่มๆละ 300.- ไม่ถึง 300 หน้าตัวอักษรเท่าหม้อแกง เหอะ....คงจะมีคนเอาหรอก ไม่รู้เพราะตันแต่งไม่ออกหรือยอดไม่มากพอก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ สนับสนุนต่อไปไม่ลงจริงๆ
>>706 เส้นทรายสายรัก เพิ่งลงไม่กี่ตอนแหละ แต่เป็นสไตล์ที่กูโคตรชอบ ชอบทั้งเซ็ตติ้ง ทั้งเนื้อเรื่องหลักแล้วก็คาร์แรกเตอร์พระนายอ่ะ สำนวนก็ถือว่าดีนะ
เรื่องนี้นายเอกเพลย์บอยมีลูกแล้วเพิ่งหย่าเมีย แต่กลับตัวแล้วนะ ส่วนพระเอกเพิ่งโผล่มา คนเขียนสปอยพระเอกว่าเป็นแนวเย็นชากับทุกคน แต่รักนายเอกมากกก
นอกเรื่องหน่อย พี่เยี่ยคือใครวะ
มาบ่นในนี้ละกัน ผ่านไปเห็นโพสต์ให้เพื่อนยืมหนังสืออ่านแล้วเราอึ้งว่ะเพื่อนโม่ง เดี๋ยวนี้เพื่อนไม่ให้เพื่อนยืมอ่านหนังสือกันแล้วเหรอวะ แต่ละเม้นนี่ทำพูดไม่ออก เราอ่านไม่จบปิดไปแบบเงียบๆ เราให้เพื่อนยืมหนังสือตลอดไม่เคยคิดอะไรเลย ยืมไม่คืนก็มีแต่ไม่ได้โกรธอะไรเรื่องใหม่มากมาย เราไปซื้อใหม่จบ แต่ในโพสต์แต่ละคน orz
โอเค เดี๋ยวไปศึกษาเรื่องพี่เยี่ยต่อไป 555
กูยัดหนังสือให้เพื่อนเลย เรื่องนี้สนุก เผยแพร่ลัทธิ
แต่เพื่อนกูดีด้วย ถนอมหนังสือ ไม่เคยไม่คืน
กูให้ยืมเฉพาะคนวะ บางคนไม่ถนอม ไม่คืนกูไม่ให้ยืม กูเบื่อทวงหนังสือคืนมาก
กูเคยให้เพื่อนยืมแล้วแม่งทำหนังสือกูขาดแบบหายไปเลยสามหน้าถ้วน...... หลังๆเลยจะดูพฤติกรรมของคนยืมก่อน//เยินเพราะอ่านกูไม่ว่า แต่อห แยกหน้าไปนี่คือมึงเอาไปเบ็ดเรอะฟฟฟฟฟฟ
>>718 เออ พูดถึงเรื่องกริบ ขอระบาย กูกำลังเจอปัญหาพวกคลั่งกริบนี่เลย หนังสือมือ 2 กูถ่ายสภาพทุกอณูรูขุมขน เออ โอเค ก็ยังพอเข้าใจ แต่ถามยันปกเหลื่อมว่าถึงเซ็นต์มั้ยกลัวกูทำยับ (อันนี้กูก็ถ่ายสภาพให้แล้ว ซูมแล้วซูมอีก ดูด้วยตาก็รู้ว่ามันไม่เยอะ ซื้อมือ1 มามันก็มาแบบนี้โว้ย กูต้องตะกายขึ้นมาตอนเกือบเที่ยงคืนเพื่อวัดให้เลยมั้ย) โอ้ กูแทบอยากยกหนังสือกูขึ้นหิ้งเก็บไว้บูชาเองและบอกว่า มือหนึ่งเถอะค่ะขอร้อง กูเหนื่อยใจจนไม่อยากขายให้(และเก็บมันเข้ากรุไปจริงๆ) เพราะเห็นแววว่าจะเรื่องเยอะใส่กูตอนห่ออีก บอกตามตรงเวลาพวกมึงไปซื้อมือ 1 มึงไปเรื่องมากใส่ร้านเค้าขนาดนี้ได้มั้ย โอ้โห้ คุยข้ามวันข้ามคืนกับเรื่องสภาพ ถ่ายภาพเป็นครึ่งร้อยยังตกลงใจไม่ได้ จนคนอื่นที่แพงกว่า 2-3 เท่าจะจัดส่งพรุ่งนี้อยู่ละ กูไม่อยากหงุดหงิดใส่ลูกค้า แต่กูต้องตื่นมาเวลานี้เพื่อเจอกับคำถามไม่จบไม่สิ้น และกูทำได้แค่เงียบก่อนจะหลุดและนอนเพื่อดับอารมณ์
ของกุมีแต่อยากให้เพื่อนยืมจะตาย แต่มันไม่ยืม เพราะพวกมันไม่มีใครอ่านแนวนี้เลย ฮื่ออออ เศร้า
เจอยืมไปดอง ทวงแล้วทวงอีก ยืมแต่เรื่องดังๆ ให้ยืมอยู่2-3 เรื่อง หลังจากนั้น บอกไปซื้อเองเถอะ
ของกูหนังสือนอมอลแฟนตาซีที่ซื้อใหม่กูเพิ่งอ่านจบเพื่อนในห้องมาขอยืมกูก็ให้ไปพร้อมที่คั่นแถมย้ำด้วยว่าห้ามพับหน้า ปรากฏว่าเอาของกูไปพับแทบทุกหน้าไม่พอยังเอาไปให้ยืมกันต่อโดยไม่บอกกูซักคำ พอไปทวงก็ไม่รู้อีกว่าใครยืมไปต่อแถมโบ้ยให้กูไปถามคนอื่นแทนอีก กว่ากูจะได้หนังสือคืนคือต้องทวงแล้วทวงอีกถามแล้วถามอีกทั้งห้อง กูจำฝังใจมากกกกหลังจากนั้นเลยให้ยืมเฉพาะคนที่กูแน่ใจว่าจะรักษาของได้เท่านั้น
>>728 กูคลับคล้ายคลับคลาเคยเห็นโพสต์ตั้งรับรัชศก 1-2 ราคารวมส่งต่ำกว่าหรือเท่ากับปก สภาพกริบ มือ2 หรือในซีล ย้ำว่ามุมต้องกริบ เหตุผลคือไปหาตามร้านยืนเลือก(มือ1) เจอแต่สภาพไม่กริบ อห กูหมดคำจะพูด เรื่องนี้กูสั่งทางไปรมามือ 1 ในซีลก็เจอมุมสันย่นอะจะ นี่มือ 1 นะ แล้วมึงยังจะโหยหามือ 2 สภาพกริบ เอาอะไรคิดวะ
>>733 คงคิดว่าอาจจะมีสภาพกริบอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกนี้ที่เราจะหากันเจอมั้ง กูอยากรู้เหมือนกันว่ามีใครมาขายให้มั้ย แต่กูไม่ได้ตามดูว่ะ ได้แต่คิด ขอให้ได้ขอให้โดนละกันมึง แต่อีกใจก็แอบสงสัยถ้าไม่ได้สภาพกริบ มันจะซื้อเรื่องนี้มาอ่านปะวะ ตกลงมันอ่านตัวหนังสือข้างใน หรืออ่านตรงมุมสันปก
เอ่อ ลัทธิคลั่งความกริบได้ก่อกำเนิดจากใครวะ เอามาเปิดอ่านมันก็ไม่กริบแล้ว ตอนซื้อมือหนึ่งกูก็เลือกนะ แต่มือสอง พี่จะเอากริบไปถึงไหน เปิดโรงพิมพ์เองเลยไหม จะได้กริบๆดั่งใจ
ถึงกูอยากขายคงไม่ขายให้ว่ะ ราคาต่ำกว่าปกแล้วต้องมารองรับความเรื่องมากอีก ขนาดมือหนึ่งทั้งร้านยังหาถูกใจไม่เจอ
กูอยากรู้ชห จะมีนักอ่านวงการไหนประเทศอะไรอีก ที่คลั่งกริบๆไปกราบไหว้บูชาไม่เปิดอ่านอย่างสาววายไทย
สภาพกริบได้เปรียบราคาดีตอนขายมือสองด้วยแหละ
เดี๋ยวซื้อหนังสือ เหมือนซื้อหุ้งเก็งถูกก็ได้เงินไป เก็งพลาดก็เสมอตัว เพราะซื้อหมด มันต้องมีสักเรื่องที่ขาดตลาดแล้วคนตามหาอัพราคาได้
มันไม่ใช่ซื้อเพราะชอบแล้วเหรอวะเรามาถึงจุดนี้กันได้ไง เราแม่งกลัวคนในกลุ่มจนไม่อยากขายหนังสือแล้วเก็บไว้นี่แหละไม่หาเรื่องให้ตัวเองปวดหัวละ
ยืมหนังสือเราก็ไม่หวง เพื่อนเอาหนังสือไปดองแล้วลืมคืนจนลูก 2 เราก็ไม่ว่าคงอ่านแล้วชอบไม่ก็ลืมจริง
ส่วนแซงคิวตามงานเซอร์เคิลอยู่ที่สามัญสำนึกว่ะ เรากับเพื่อนจะรู้กันเพื่อนมาก่อนก็อยู่หน้าเรามาหลังก็อยู่หลังเพราะคุยกันก่อนแล้วว่าใครมาก่อนก็ไปบูธนึงแยกกันไปข่วยกันซื้อจะได้ไม่คาอยู่ที่ที่เดียว เราไม่ใช่แม่ค้าด้วยซื้อแค่ที่เพื่อนกับตัวเองต้องการจบ ไม่เป็นภาระคนอื่นที่อยากซื้อเหมือนกัน
มีใครสังเกตโปสการ์ดววฮซ.เล่ม 1 มั้ยว่ามันเล็กกว่าเพื่อนเลย เสียดายโคตรๆที่สนพ.บ้าจี้ไม่เอามาทำในชุด เก็บรวมกันแล้วโดดออกจากชุดเลย มีก็เหมือนไม่มีอะเอาจริงๆ และคนไม่มีมันก็แหว่งๆ เสียดายนะขนาดเราไม่ได้อะไรกับพรีเมี่ยม
เพื่อนโม่ง กูมาระบายในนี้ได้ไหมวะ แต่กูไม่ใช่คนที่มาบ่นเรื่องยอดพรีน้อยก่อนหน้านี้นะ แต่ก็นั่นแหละ กูมาบ่นเรื่องนี้ ยอดพรีกูน้อยจนขาดทุน เข้าเนื้อล่ะ แต่คงทำอะไรไม่ได้ ลองมาหมดทุกทางล่ะ กูไม่ดีเองที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ควรจำเป็นบทเรียน orz
>>742 เคยคุยกับเพื่อนเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ก็สรุปได้ว่ามันไม่คุ้มอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่ทุกเรื่องที่มันจะแร์ร
เก็บหมดทุกเรื่องหวังแร์รต้องใช้เงินขนาดไหนว่ะอยากรู้เหมือนกัน สรุปกูกับเพื่อนซื้อเก็บเฉพาะเรื่องที่ชอบเท่านั้น ต่อให้มันกลายเป็นแร์รก็ไม่คิดขายเพราะมันเป็นเรื่องที่ชอบ
>>743 โปสววฮซ.มันแหว่งแน่นอน ตอนนั้นบอกหมดแล้วหมดเลยจะไม่ทำเพิ่ม บางคนก็ยอมซื้อหนังสือเพื่อโปสการ์ด แต่กูไม่ซื้อ กุไม่ชอบการตลาดแบบนี้ ไม่ตามหาซื้อให้มันครบชุด ปล่อยให้มันแหว่งอยู่แบบนี้แหละ
>>745 แหว่งไม่เท่าขนาดไม่เท่ากันนะเพื่อนโม่ง เพราะโปสการักไม่เหมือนกันเลย อันแถมขนาดเล็กมาก มีตราโรสเล็กๆมุมซ้าย แต่ของในกล่องที่ตอนแรกจะแถมมาให้ครบชุดที่ไม่ได้ให้มาตั้งแต่แรก ขนาดใหญ่เท่ากันหมดทุกใบไม่มีตรา กระดาษต่างกันมั้ยไม่แน่ใจต้องกลับไปดูอีกที
เราซื้อหนังสือเครือนี้เดือนกุมภาที่จัดโปรผ่านเว็บอมร.ได้มาออเดอร์ละใบเลย เก่อนนั้นซื้อปกติของเราได้มา 8 ใบ ดีว่าอ่านวายเลยสบายเรา
กูเกลียดการตลาดที่รอบจองได้เล่มเล็กตอนพิเศษแล้วหาซื้ออีกไม่ได้มาก เกลียดดดดด ปกติไม่ซีเรียสกับของแถมนะ แต่ถ้าไม่ได้เล่มเล็กก็เหมือนอ่านไม่จบป่ะวะ คนที่เค้าเพิ่งได้มาอ่านทีหลังก็เหมือนไม่ได้อ่านจนจบเรื่องอ่ะ เซ็งโว้ย กูจะจำชื่อนักเขียนคนนี้ไว้ จะได้ไม่หลงไปอ่านอีก
>>748 ถ้ากูเป็นนักเขียนกูจะยัดเรื่องลงเล่มหลักไปเลย กูเสียดายที่จะแถมแค่รอบจอง ไหนๆก็อุตส่าห์นั่งแต่ง กูอยากให้ทุกคนอ่าน เวลากูเป็นคนอ่านก็ไม่ซีเรียสถ้าจะไม่ได้เล่มเล็ก ถ้าเล่มหลักมันจบบริบูรณ์แล้ว กูขี้เกียจอ่านตอนพิเศษด้วยเหอะ เพราะมันคงเป็นแค่เรื่องกุ๊กกิ๊กแถมมา (ยกเว้นเล่มหลักแม่งจบไม่บริบูรณ์ ไปคลายปมในเล่มแถม อันนี้เหี้ย)
คือบางทีกูก็ไม่ชอบใจเรื่องของแถมนะ แต่ก็อย่างที่มีนข.มาบ่นว่ายอดพรีน้อย อย่างตอนนี้กูก็เห็นสองคนในห้องละ กูว่าที่น้อยส่วนหนึ่งก็คือของแถม ขนาดบางคนมีของแถมแม่มยังน้อยเลย งัดกลยุทธ์จนไม่รุ้จะงัดไงละ หลังๆ กูเลยทำใจและพยายามเข้าใจ ว่าถ้ายอดพรีแรกน้อยนข.ก็เข้าเนื้อ โอกาสหาซื้อต่อจากนั้นก็ยิ่งน้อยเพราะพิมมาต่ำ แทนที่จะไม่ได้เล่มเล็กกลายเป็นขนาดหนังสือยังไม่มีให้ซื้อเลยแม่ง จากนั้นก็เข้าสู่วัฐจักรอัพราคา
สรุป ถ้าชอบก็อุดหนุนกันต่อไป อย่าถึงขั้นแค้นเคืองโกรธาเลิกติดตามเลยว่ะ
>>752 คหสตกูนะ กูว่าที่ยอดน้อยส่วนนึงเพราะไม่โปรโมทป่ะวะ กูเห็นหลายเรื่องเลยที่ไม่ได้สนุกขนาดนั้น แต่มีคนรีวิวในกลุ่มวาย คนก็แห่กันไปจองอ่ะ
บางเรื่องที่ดีมากๆแล้วกูไปตามอ่านทีหลังพรี กูยังเสียใจอยู่เลยว่าทำไมไม่มีคนเอามาโปรโมทบ้าง ถ้ายังมีรอบสต๊อคกูก็ซื้อนะ
จริงๆที่กูแค้นเรื่องเล่มเล็กรอบจอง ส่วนหนึ่งเพราะกูตามไปอ่านช้า หลังจากเค้าปิดจองไปแล้ว ก็เรื่องนี้แม่งไม่มีคนพูดถึงเลยในกลุ่มอ่ะ กูก็ไม่รู้จักสิวะ ถ้ากูรู้จักก่อนหน้านั้นกูก็ซื้อไปแล้วมั้ย
เพราะฉะนั้น ใครจะเปิดพรีนิยายอะไร กูแนะนำให้ลองเอาไปโพสต์ในกลุ่มวายดูนะ ให้เพื่อนๆช่วยไปโพสต์ให้ หรือมาแนะนำในนี้ก็ได้ ถ้ากูชอบเดี๋ยวกูรีวิวลงกลุ่มให้ 55555
กูมีความคิดว่าถ้าเล่มเล็กที่แถมมามันเกี่ยวข้องกับเล่มหลักหรือเคลียร์ปมบางอย่างก็ควรแถมให้อ่ะ อย่างกูกะจะแถมเล่มเล็กทุกรอบ (ถ้าได้รีปริ้นท์อะนะ) หรืออย่างนี้ไม่ได้?
>>752 แต่กูว่าเล่มเล็กนี่โคตรดาบสองคมเลยนะ ยิ่งพวกขายหรือแจกแค่พรีรอบแรกเท่านั้นแล้วด้วย มึงเตรียมเสียลูกค้าบางส่วนไปได้เลยอ่ะ เพราะบางคนที่ไม่ทันแล้วไม่ได้เล่มเล็กเขาก็เลือกไม่ซื้อไปเลยก็มีไม่ใช่น้อยนะ กูค่อนข้างโชคดีที่ส่วนมากตามแต่นักเขียนรุ่นเก่าที่มีชื่อในวงการแล้วหรือพวกนิยายแปลที่ออกกับสนพ. เขาเลยไม่ค่อยมีมาทำการตลาดแบบนี้ ต่อให้มีเล่มเล็กก็จะเป็นแจกรอบพรี แต่มีขายหลังรอบพรีสั่งซื้อได้ หรือทำเป็นอีบุ๊คให้ซื้อแทนซึ่งกูโอเคเพราะกูแค่อยากอ่านให้ครบแค่นั้น พวกที่แจกหรือขายเล่มเล็กแค่รอบพรีแล้วหมดเลยเป็นลิมิเต็ดอะไรกูก็ไม่ซื้อเหมือนกัน ได้ของอ่านไม่ครบกูจะซื้อมาทำไม แล้วพอเป็นแบบนี้เรื่องต่อๆไปกูก็เลือกไม่อ่านเลยเพราะกูไม่รู้ว่าเกิดกูพลาดสักช่วงไปแล้วไม่ทันรอบพรีเท่ากับกูได้อ่านเนื้อหาไม่ครบ งั้นกูไม่อ่านแต่แรกดีกว่า แล้วพอกูไม่อ่านงานคนนั้นกูก็เลิกตามไปโดยปริยายว่ะ มันก็จะเป็นวัฐจักรวนเวียนไปแบบนี้อ่ะ
>>756 >>757 ก็ถ้าไม่มีของแถม ก็ไม่มีไรกระตุ้นยอดขายไง ถ้าแถมมันทุกรอบที่รีปริ้น คนคงไม่ซื้อตั้งแต่พรีแรกอ่ะ เพราะไปรอรอบหลังก็ได้ ซึ่งกูเป็นหนึ่งในนั้น เวลาที่ของแถมเหมือนกันทุกรอบ กูก็เอาเงินไปลงกับที่มันมีแค่รอบพรีมั้ยวะ ไปซื้อเรื่องอื่นแทนดิ
กูเลยมองว่าเป็นการส่งเสริมการขายไง ส่วนใหญ่เล่มเล็กมันก็ออกแนวกุ๊กกิ๊กๆ ไม่มีผลกับเรื่องหลักอยู่แล้วด้วย สั้นๆ บางๆ
>>748 อิสัส นักเขียนหน้าใหม่ไม่มีทุนโว้ยยยยยยยยยย มึงไม่ให้เขาแถมเล่มเล็กรอบพรี มันก็ไม่มีใครพรีทั้งนั้น คราวนี้มึงอย่าว่าแต่เล่มเล็กเล่มใหญ่เลย จะเล่มห่าอะไรก็ไม่ได้พิมพ์ทั้งนั้น
มึงฟัง! มันไม่ใช่ความผิดนักเขียน หรือใครทั้งนั้น แต่มึงต้องเข้าใจว่าสนพที่ไม่ได้ใหญ่โต นักเขียนหน้าใหม่ที่ไม่ได้ทุนหนามันจำเป็นต้องทำงี้ ไม่ใช่มาวอแว ไม่งั้นจะปีหน้าปีห้า ปีสิบ แม่งก็ไม่ได้พิมพ์
เอาจริงๆคือพวกของแถมอคลิลิกนี่ก็แพงนะ ไหนจะต้นทุนวาดเป็นตัวอคลิลิก จะบวกต้นทุนเข้าไปในหนังสือก็ไม่ได้เพราะจะแพงอีก
เท่าที่กูเคยคำนวณ ถ้านิยายไม่ดังจริงอย่าว่าแต่กำไรถึงตัวคนเขียนเลย เหมือนค่าใช้จ่ายแบ่งเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งให้โรงพิมพ์ ครึ่งหนึ่งให้คนวาดปก
คือบอกของแถมไม่ทุ่มทุน แค่ปกก็เสี่ยงเข้าเนื้อแล้ว
เรื่องเล่มเล็กก็หงุดหงิด ของกูเรื่องไหนตามทีหลังแล้วเจอเล่มเล็กกูไม่อ่านเลยเพราะกูชอบอ่านแบบครบถ้วนสมบูรณ์ต่อให้ไม่มีผลกับเนื้อเรื่องก็เถอะ
แต่ต้องยอมรับว่าของแถมอื่นๆทั้งอคลิลิก กระเป๋า สารพัดอย่างต้นทุนมันสูงว่ะ แล้วเล่มเล็กต้นทุนมันต่ำสุด ไม่ต้องจ้างวาดด้วย แถมดึงดูดคนซื้อได้มากสุดเพราะหลายคนซื้อหนังสือไงไม่ต้องการของแถมก็ไม่พรีกัน แต่เล่มเล็ก เนื้อหานิยายคือสิ่งที่คนต้องการ กระตุ้นยอดขายได้มาก ต้นทุนน้อย ผลตอบแทนสูง
แต่ถ้ากูขายเองคงไม่มีของแถมรอบจอง คงเปิดอกตรงๆว่ายิ่งพิมพ์น้อยต้นทุนยิ่งสูง จากความนิยมโอกาสรีปรินท์คงยาก ใครอยากซื้อก็มีโอกาสแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ555
>>759 กูเห็นเล่มเล็กแล้วกูเทอ่ะ ถ้าไม่ได้ชอบมากจริงๆกูก็ไม่ซื้อว่ะ รำคาญแม่ง
>>761 ถ้าเรื่องที่กูชอบ มีหรือไม่มีของแถมเลยกูก็ซื้อนะ กูเคยซื้อเรื่องที่เนื้อหาเหมือนในเว็ปเป๊ะ ไม่มีตอนพิเศษด้วย 5555
แต่ถ้ามีเล่มเล็ก กูจะเริ่ม bias แล้วอ่ะ ถ้าชอบอาจจะซื้อเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ตามต่อ เพราะถ้าช่วงไหนกูยุ่งๆพลาดไป กูก็ได้อ่านไม่ครบ อย่างนั้นไม่อ่านดีกว่า
>>762 กูเข้าใจว่านักเขียนไม่ผิด อยากแถมเล่มเล็กก็แถมไปเถอะ กูแค่อยากบ่นว่ากูไม่ชอบการตลาดเล่มเล็ก ถ้าเรื่องไหนก็กูตามมีแบบนี้ กูจะไม่ซื้อ หรือไม่ก็ซื้อเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย มึงจะทำเล่มเล็กก็ทำไป ขายคนที่เค้าชอบเล่มเล็กไป
>>764 จริง ถ้ากูมาเจอทีหลังแล้วรู้ก่อนอ่านว่ามีเล่มเล็ก กูจะไม่อ่านเรื่องนั้นอ่ะ มันก็คงกระตุ้นยิดได้จริงๆแหละ ไม่งั้นคงไม่ทำกันเยอะขนาดนี้ ถ้าทุนน้อยกูอยากเสนอ ebook ไปเป็นอีกแนวทางนะ อย่างน้อยมันก็ขายได้ตลอดอ่ะมึง คนมาตามทีหลัง ถึงจะไม่มีหนังสือขายแล้ว แต่ก็ยังตามไปซื้อ ebook ได้อ่ะ มันอาจจะไม่ได้เงินเป็นก้อนๆ แต่ก็ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องลงทุนเยอะด้วย
กูอยากให้เล่มเล็กแถมฟรีให้รอบจอง ส่วนรอบปกติก็ให้เสียเงินซื้อหรือมี ebook
ปกติเรื่องที่ชอบกูซื้อทันรอบจองตลอดนะแต่เห็นใจคนที่มาตามทีหลัง ทุกคนก็อยากอ่านให้ครบทั้งเล่มเล็กเล่มใหญ่ต่อให้บอกว่าเล่มเล็กไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องก็เถอะ แล้วสุดท้ายก็ต้องไปตามซื้อแพงๆ เป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้น
กูอยากรู้ว่าเล่มเล็กมันต่างกับตอนพิเศษตรงไหน ป.ล. กูโม่งวายหน้าใหม่
ทำแบบนข.ที่เขียนจิระดิมีเล่มเล็กรอบจอง แต่เล่มเล็กก็มีอีบุ๊กและต้องเสียเงิน แฟร์ดีนะยอดหนังสือก็ยังเยอะส่วนนึงนิยายสนุกมาก ปกโอเคด้วย
มึงต้องเข้าใจความสาววายของไทย
1.จะเอากริบ
2.มึงเปิดพรีปุ๊บ มันจะมีคนกลุ่มนึงมาถามแล้วว่ามีเล่มเล็กไหมคะ ออกเล่มเล็กด้วยสิคะ สิทธิรอบพรี ก็อาจอยากจะเอาไปขายแพงบ้าง หรือเก็บไว้บ้าง
3.จากนั้นก็จะเสียงแตกจะเอานู่นนี่
4.จะมีคนมาโวยวายรอบหลังว่าพรีไม่ทัน ไอ้ครั้นจะพิมพ์เล่มเล็กซ้ำสาววายกลุ่มแรกก็ไม่ยอม
5. ส่งไปรก็ให้คุ้กกี้ทำนายกันอีก ปกไม่สวยก็โดนด่า ปกสวยก็โดนด่าเพราะชอบไม่เหมือนกัน
ทุกวันคนอ่านหนังสือด้วยความรู้สึกแปลกไป บางคนเอามาดอง เอามาโชว์ ลืมไปหมดแล้วว่าหนังสือดีๆเล่มนึงเล่าอะไรได้บ้าง อยากจะเล่าอะไร ส่วนตัวกูก็เบื่อบ้างเพราะติดเล่มเล็กราคาแพง แต่ถ้ามันดีกูก็ซื้อ จะไม่ตั้งอคติก่อนว่ะ
>>771 ปกติกูไม่เรื่องมากกับความกริบหรือของแถมเลยนะ แต่กูแค่อยากอ่านให้ครบอ่ะ มึงเข้าใจกูมั้ย ไม่มีเล่มเล็กมันก็ไม่ครบ
คนมาทีหลังเค้าผิดที่มาเจอเรื่องนี้ช้าไป ผิดที่ไม่ได้จ่ายเงินให้คนเขียนเอาไปหมดทำเล่มก่อน ก็เลยไม่มีสิทธิ์อ่านตอนพิเศษ แต่จะให้จ่ายแพงกว่า หรือได้อ่านแค่เป็น ebook กูก็โอเคนะมึง กูอยากจ่ายเงินให้คนเขียนมากกว่าจ่ายให้แม่ค้าที่เอาไปอัพราคาแพงๆอ่ะ
ถล่มอย่างตอนวิวาห์ไฮโซ 555
แต่เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับคำพูดว่ะ กูว่าไม่ว่ามันจะมีคนว่ามากี่ฝ่ายคือต้องรักษาคำพูด ถ้าบอกว่ามีเฉพาะรอบจองอย่างเดียวก็ต้องรักษาคำพูด ดังนั้นคิดดีๆก่อนพูด ถ้ายังไม่รู้ก็บอกว่าแถมเฉยๆส่วนอย่างอื่นอาจมีการกำหนดเงื่อนไขทีหลังหรืออาจไม่มี ไม่คอนเฟิร์มก็ว่ากันไป
เอาจริงๆกูสงสัยว่าเงินเดือนสาววายมันฝืดเคืองขนาดนั้นเลยเหรอวะ เดือนสองเดือนก็บอกว่าเอาไปหมุนเงิน เอาไปฝากธนาคารหรือกองทุนได้ไม่ถึง5%ด้วยซ้ำ ไม่ทันหมุนอะไรหรอกแค่ต้องการแน่ใจว่ามีคนซื้อแน่ๆเท่านั้นเอง
>>744 กูเห็นใจมึงวะ นิยายวายจะขายได้ต้องมีคนช่วยโปรโมท บางเรื่องเนื้อหาไม่ได้ดียอดขายกลับพุ่งเพราะมีเซเลปคอยเชียร์ บางเรื่องเนื้อหาดีมากนักอ่านมาช่วยโปรโมทก็จะมีพวกขวางโลกมาด่าว่านิยายอ่านไม่รู้เรื่องอีก กูเห็นหลายรอบในกลุ่มสปอยเวลามีนักอ่านเชียร์เรื่องที่ไม่ดังจะมีคนด่าเสมอ แล้วมีคนมาขอบคุณที่ทำให้เราไม่ต้องซื้อ กูสงสารนักเขียนหลายคนที่โดนคนพวกนี้เหยียบไม่ให้เกิด
>>779 เพียบมึงในกลุ่มสปอย ถ้ามีนักอ่านแชร์เรื่องของนักเขียนที่ไม่ดังจะไม่มีคนตอบกระทู้ ถ้ามีก็จะเป็นพวกตอบในแง่ลบ ขาประจำที่อ่านแต่เรื่องหื่น ๆ พออ่านเรื่องที่มีเนื้อหาประเทืองปัญญาเลยอ่านไม่ได้ กูไม่ขอบอกตรง ๆ ละกัน แต่ใบ้ว่าเป็นเรื่องแนวหม่น ๆ แนวเศร้า ๆ มันเป็นแนวของมันที่จะออกมา คนที่ชอบก็มี แต่ยัยพวกนี้ก็จะไปคอมเมนต์ว่าอ่านแล้วง่วง ๆ ค่ะ แนะนำเรื่องนี้ดีกว่าเปิดพรีใกล้ปิดแล้ว สนุก ๆ (เป็นของนักเขียนดัง) กูโกรธแทนน้องกูเลยเพราะโพสต์นั้นเป็นนิยายน้องที่กูรู้จัก ยอดมันน้อยมากเพราะคนอ่านไม่นิยมแนวนี้ แต่มันตั้งใจเขียนออกมา นักอ่านก็แชร์ให้แต่ในโพสต์กลับมีแต่คนเอานิยายนักเขียนอื่นมาโปรโมท
กูคิดว่านักเขียนหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะขายได้เยอะน่าจะลองทำแบบพิมพ์ตามจำนวนออเดอร์ก่อน อย่าแถมอะไรเวอร์วังเพราะมึงจะเพิ่มต้นทุน ทั้งการพิมพ์เล่มเล็ก (แยกเล่มแพงกว่ารวมเข้าไปเป็นเล่มเดียว) ค่าวาดปกอีก อย่าคิดว่าจ้างวาดแพงๆ จะดึงคนได้ มึงเอาระดับที่มึงว่าสวยดีและไม่แพงกระฉูดก่อน ปกกราฟฟิคทำเก๋ๆ เผลอๆ ราคาย่อมเยา อันนี้ก็แล้วแต่กลุ่มลูกค้าของมึง มึงขาดทุนหรือไม่ขาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงขายได้เท่าไหร่แต่อยู่ที่มึงใช้ทุนไปเท่าไหร่ด้วย บอกคนอ่านไปเลยมึงไม่มีงบมากมาย แต่มึงเขียนจบแล้ว มึงอยากพิมพ์ ใครอยากเก็บก็ช่วยมาร่วมพิมพ์กับมึงหน่อย มีตอนพิเศษหรือภาพแถมในเล่มอะไรก็ว่าไป พิมพ์ตามจำนวนดีตรงของมึงไม่เหลือ ใครก็มาดราม่ากับมึงไม่ได้ ทำได้แค่ถามว่าเหลือมั้ย
รวมเล่มหนแรกๆ มึงอาจจะต้องยอมเท่าทุนหรือกำไรน้อยไปก่อน ตอนคิดราคามึงคำนวณค่าพิมพ์กับค่าปกให้ดีๆ เอาจริงรวมค่าหลังขดหลังแข็งเขียนนิยายก็ขาดทุนอ่ะ แต่เล่มแรกมึงต้องยอม ถ้ามึงเขียนงานออกมาเรื่อยๆ และงานดี ไม่มีดราม่า ไม่โกงหรือผิดคำพูด ส่งงานตรงเวลา ขยันโฆษณาแปะหลายเว็บ เดี๋ยวมึงก็ได้ยอดเยอะขึ้นเอง ใครอ่านของมึงแล้วก็ดูว่าเขารีวิวให้มึงไหม ย่อไหว้ขอบคุณเขาซะ เอามาแชร์ เอามาโปรโมท ให้คนอื่นเห็นว่ามึงส่งของจริงแถมมีคนรีวิวให้มึงด้วย ตอนขายเรื่องใหม่ๆ มึงก็ถือโอกาสโฆษณาและรีปรินท์เล่มเก่าๆ ของมึงก็ได้ มึงไม่ได้มีโอกาสขายแค่ตู้มเดียว
>>782 เห็นด้วย จะหวังให้เรื่องแรกยอดเยอะเลยน่าจะยากหน่อย เพราะบางคนอาจจะไม่แน่ใจว่าจะโกงมั้ยอ่ะ แต่ถ้าเคยพิมพ์มาบ้างแล้ว คนจะวางใจขึ้น
สำหรับนิยายทำมือ กูไม่ค่อยสนเรื่องปกเท่าไหร่นะ จะเป็นปกกราฟฟิคธรรมดาเลยก็ยังได้อ่ะ ปกสีดำล้วนเลยก็ยังเคยซื้อ ถ้ามึงเอาเงินไปทุ่มกับการวาดปกมากไป มันจะกดดันตัวมึงเอง แล้วโอกาสขาดทุนก็จะเยอะขึ้นด้วย
ยอดนิยายจะปิดพรีพรุ่งนี้เรื่องนึงต่ำจนน่าใจหาย เราตามนข.อยู่ เป็น1ในยี่สิบกว่าคนที่จองเล่ม เปิดมาสองเดือนยอดไม่กระดิกเลยเราคนอ่านยังท้อแทนนข.เลย อีกเรื่องที่เขียนจบแล้วเราชอบมากกะว่าจะรอเปย์แต่เห็นแววจะหมดหวังเดาว่านข.ทำเล่มแรกแล้วคงจบกัน เราเคารพการตัดสินใจของนข.นะ และคงตามซื้อ ebook ถ้าขายทางนั้น
ขาใหญ่ที่ชอบหื่นๆนึกออกแต่มินเนียนว่ะ เคยมีคนถามนิยายที่มีเนื้อหาหน่อย นางก็บอก ไม่ชอบเบื่อ ชอบหื่นๆ
อันนี้ขอบ่น เซ็งทุกครั้งที่นิยายที่กูชอบไปออกกับฟฉ เพราะมินเนียนนี่แหละ
กูไม่ชอบการพูดการจาเค้าในที่สาธารณะเลย บางครั้งก็แซะคนไปทั่ว เหมือนคนขาดวุฒิภาวะ จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเล่นใหญ่จนถึงกับตัดต่อข้อความใส่ร้าย จน(อดีต)แอดมินกลุ่มสปอยล์ออกมาเตือนอะ
**ชอบมาก กูพิมพ์ผิด
>>803 >>804 >>798 แต่ละเรื่องรอกันลืม
เรื่องที่เพื่อนโม่งข้างบนบอกน่าจะใช่เรื่องฮาเร็มอะไรนั่น ไปอ่านที่นั่นเขียนประกาศกับดูเวลากับยอดจองน่าจะใช่ เรื่องนี้สนุกมันไม่ฮาเร็มแต่ชื่อนิยาชวนเข้าใจผิด แฟนตาซีมันขายยากด้วยกลุ่มคนอ่านน้อยพวกเซเลปก็ไม่ค่อยอ่านกัน เห็นคนรีวิวเมื่อช่วงเปิดพรีแรกๆแต่คนรีวิวก็คนอ่านธรรมดาทั่วไป สู้การแชร์ของคนดังไม่ได้หรอก
*ค่าย
เวลาซื้อกูไม่เคยเชื่อเซลงเซเล็บอะไรพวกนี้เลยว่ะ เพราะมาแต่ละเรื่องโคตรจะไม่ถูกจริตกู ขวนขวายหาเองล้วนๆ ต่อไปถ้าพวกนี้มีอิทธิพลต่อคนอ่านมากๆ แม่งจะไม่เล่นการตลาดจ้างรีวิวกันเลยเหรอวะ หรือว่ามีแล้ว
อีกคนคือเซเลปป้าร.เชียร์เรื่องที่ออกกับสนพ.เพื่อนซี้ที่ไปช่วยนั่งที่บูธขายของเก็บเงิน เชียร์จนนิยายปกแดงเรื่องนึงขาดตลาดแรร์ไปพักนึง กูมีในมือลองอ่านคือตรรกะพังพินาศ หลังจากนั้น ป้าแกมาเชียร์เรื่องไหนกูตัดจากลิสทิ้งทันที สบายกระเป๋าไปเยอะ
บางที่ ติดต่อให้ นข.มีชื่อรีวิวนิยายตัวเองก็มี
โห มึง ถ้าไม่พูดขึ้นมานะ ลืมแล้วว่าสั่งของวทดไว้อะ นานเกิ๊น เเต่อป.นี่นานลื้มมมมจริงๆมึง กูรอรากงอก 5555
ปกแดง กุญแจมือ
กูเห็นป้า ร แม่งก็อวยเฉพาะเรื่องของเพื่อนฝูงทั้งนั้นแหล่ะ สนุกหรือไม่ กูไม่รู้ แต่เรื่องไหนป้าอวย กูไม่พรี 5555
ล่าสุดกูเห็นพวกเซเลปไปรับหิ้วให้เจ๊ ตกข ด้วย กูงี้แบบ อีเหี้ย ผลประโยชน์ทับซ้อนสุดๆ กูก็ว่า อีเจ๊ ตกข เปิดพรี ราคาแพง ไม่เห็นเซเลปหน้าไหนมาบ่นเลย ทั้งๆที่ปกติชอบเป็นพวกรักความยุติธรรม ใครขายแพง ก็มารุมด่า เหอะๆๆๆ เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยนจริงๆ
พิมพ์ตัวย่อ ร ไม่เท่าไหร่ มึงพิมพ์ตัวย่อ ตกข นี่กูคิดถึงตกขาวทุกที 555
เกิน 30 แน่ๆ
เจอเซเลปหลายคนดูอายุเยอะขัดกับวิธีพิมพ์ในกลุ่ม บางคนดูเด็กมากแต่ดันพิมพ์ความเห็นเหมือนพวกป้าๆ ไปตามงานเจอบ่อยเลยนะคุ้นหน้าคุ้นตาทั้งนั้น แม่ค้าหลายร้านก็เคยเห็นอยู่บ้าง
>>819 เห็นด้วยที่ ป้า ร ชอบอวยนิยาย สนพ.ของเพื่อนป้า 555 แต่ก็เอาเหอะ เราต้องใช้สติและตัดสินใจกันเอง ป้าก็ไม่ผิด ป้าแค่มาอวย
แต่สำหรับกู คนที่มาอวย แล้วกูจะไม่พรี คือ อม.
กูยังจำและเข็ด จากผลงานอันลือลั่นของนาง ที่มาแนะนำ ภกด. สนุกมาก ฟินมาก เรียลมาก 555555 จ้าาาาาา
ky ใครซื้อ Box ววฮซ บ้างกล่องโอเคไหม มีบางคนบอกว่ากล่องคับ เอาหนังสือออกยาก กำลังสองจิตสองใจอยู่
มึง เจ๊ ตกข เปิดพรี เรื่องใหม่ก่อน นขเปิดวันนึงอีกแล้วเหรอวะ เห็นมีรายละเอียดว่าเปิดลงชื่อ 1/6 แต่พอมีคนไปจอง แกก็รับจองเนียนๆไป
เขารีอัปแฟนอาทป้ะมึง กุไม่รู้มาถูกที่เปล่าเป็นสาววายเกี่ยวไรกับรีอัปว่ะงง https://twitter.com/thursdaycomic/status/1002184324534304768?s=19
ลงราคาก่อน นข ไปอีก กูไปดูเพจนข ยังไม่มีรายละเอียดอะไรสักอย่าง
โอ๊ะ...เปิดกันใหญ่ จองถึง มิ.ย. โอนได้ถึง ก.ค. ดีวะ 5555 ส่งสัย นข.คงให้สิทธิ์แม่ค้าขาใหญ่ได้โควต้าก่อน นอ.ที่จองแค่คนละชุดปะวะ อืม มิติใหม่แห่งการซื้อนิยายละกู
ทำไมถึงเรียกว่า ตกข อ่ะ
พอพูดถึงร้านค้า กูเซ็งนักเขียนบางคนมาก ล่าสุดกูพรีนิยายเรื่องหนึ่งตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว นักเขียนก็เลทๆๆ จนหนังสือเพิ่งเสร็จ ก็ประกาศว่าจะส่ง
วันถัดมาร้านรับพรีได้ของแล้ว ในขณะที่กูต้องรอให้ถึงคิวเพราะนักเขียนแพคช้า
แต่ถ้าใครสั่ง EMS ก็ได้ก่อนเลย ไม่ว่ามึงจะโอนก่อนหรือหลังก็ตาม
ส่งตามความยากง่ายในการส่ง ไม่ใช่ตามคิวอ่ะ แต่ที่เซ็งคือแม่งร้านได้ก่อนคนที่พรีตรงนี่แหละ ได้ก่อนเป็นวีคเลยด้วย
กูว่าเจ๊ตกข.นี่แย่มากๆ แล้วนักเขียนก็เกรงใจเพราะยอดเยอะด้วยไง ถ้าขาดของคนนี้ไป ยอดอาจจะตกเยอะเลย
หลายครั้งแล้วที่เจ๊แกเปิดพรีก่อนนักเขียน รู้ราคาในขณะที่ทุกคนที่ตามเพจนข.โดยตรงไม่รู้อะไรเลย
เดี๋ยวนี้เริ่มเบื่อๆกับการอ่าน การเปิดพรีแล้วรู้สึกรอนาน บางทีการส่งก้ไม่ตรงกับที่แจ้ง นิยายตอนนี้พลอตไม่น่าดึงดูดให้ยอมเสียตังเลย บางเรื่องกูอ่านไม่จบด้วยอ่านไปครึ่งทางกูก้เทซะแบนั้นเวลาเปิดรี ก็ไม่ค่อยอยากจะพรี รอมือ2ที่เห็นของดีกว่า อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวกูเองนะ
กูสงสัยว่าการที่ตกข(คือใครวะ กูเสือกตั้งนานยังไม่รู้) ไม่เปิดพรีทำให้ยอดขายตกยังไง ถ้าคนอยากได้นิยายเล่มนั้นจริงเขาก็ต้องซื้อรึเปล่า แถมตอนผ่อนก็จ่ายแพงกว่าซื้อกับนขโดยตรงด้วย อันนี้กูสงสัยมานานละ
คนเริ่มมันก็คือนข/สนพเองป่าววะ ถ้าไม่ยอมนางแต่แรกมันจะมีปัญหาอะไร การที่นางมาถามก่อนมันก็คือการหาข้อมูลไปทำกินของนางอะ ขึ้นอยู่กับคนตอบว่าจะให้ข้อมูลนางมั้ย ถ้าคิดว่าการที่นางไม่ช่วยเปิดพรีให้มันส่งผลต่อยอดขาย ก็ให้ๆนางไปก็จบ แต่ถ้าไม่ชอบนางก็ไม่ต้องให้ ไม่ต้องเกลียดตัวกินไข่
>>853 ถ้าไม่ให้นาง นางก็จะ เอาไปบ่นกับนข. อยู่นะมึง เเล้วพูดจาคล้ายๆเเบบดิส ทั้งที่หายอดไม่ให้เเต่ไม่เอา ตอนไปขอเนี่ย พูดแบบ ฉันทำยอดให้ได้นะ ไม่เอาจริงเหรอ เเล้วก็มีทำนองว่า เเบบ สงสารลค. ไม่อยากให้ผ่อน? ไม่อยากให้ซื้อหนังสือเเพง? สำหรับพวกร้านรับผ่อนรับหิ้ว เเล้วมาขอส่วนลดเอาของเเถมครบ กูว่านิสัยเห็นแก่ได้ ทำนาบนหลังคนชัดๆ ยิ่งกว่าพวกซื้อแฝดเเบบราคาปกติเเล้วมาขายเเพงๆอีก
กูกะว่าเดี๋ยวชี้ช่องให้สรรพากรเสียหน่อย
กูว่านักเขียนคงไม่ว่านะที่จะมีเรทร้านค้าหรือเรทคนซื้อเยอะ แต่การเปิดจองตัดหน้าในขณะที่นักเขียนกำลังเปิดอยู่ มันไม่เหมือนไปดึงยอดนักเขียนเหรอวะ แทนที่เค้าจะได้เต็มไม่หัก% ต้องให้หัก%ให้กับพวกแม่ค้า เพราะเปิดตัดหน้า
สมมติเปิดจองเรื่องนึง500บาท ลดให้ร้านค้า20% ถ้ายอดเยอะ แต่ร้านค้าเปิดจองก่อนนักเขียนไป5วัน ยอด100แล้ว (นี่กูพูดเรื่องจริงล้วนๆ5555555)
แทนที่มึงจะได้50000 จากคนจอง มึงกลับได้แค่40000
โดนใน100คนนั้น ถ้าเปิดพรีพร้อมกัน บางคนเค้าอาจจะไปซื้อกับนข.ก่อนก็ได้นะ แต่เมื่อคนจองไม่รู้ข่าวสารอะไรเลย เพราะนักเขียนยังไม่ประกาศ แต่แม่ค้าดันไปลับหลังแล้วชิงตัดหน้าเปิดก่อน กูว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่
แต่ช่างเถอะ นักเขียนเค้าคงโอเคมั้ง5555555
กูว่าขายให้แม่ค้ารับพรีมันก็มีข้อดีข้อเสียสำหรับนข.อ่ะนะ
ข้อดี
1. ข่าวการขายหนังสือจะผ่านตาลูกค้ามากขึ้น เพราะพวกรับพรีจะโพสลงกรุ๊ป ยิ่งรับพรีหลายคนก็ยิ่งมีโพสบ่อย บางคนที่ตอนแรกอาจไม่รู้ข่าวว่าเรื่องนี้เปิดพรี พอเห็นก็อาจจะสนใจลองอ่านแล้วสั่งก็ได้
2. ยอดขายหนังสือเรามากขึ้น เพราะต่อให้ขายราคาส่งให้แม่ค้าพวกนี้แต่หนังสือที่เราตีพิมพ์มาก็ขายได้มากขึ้น ของไม่ค้างสต๊อกทิ้งไว้ให้ฝุ่นจับเล่นๆ
ข้อเสีย
1. ถ้ายอดขายมึงดีถล่มถลายมากแทนที่จะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากลูกค้า แต่ดันไปเสียเปอร์เซ็นตืเล็กๆน้อยๆให้พวกรับพรีแทน เช่น ขายเล่มละ 300 แต่ให้สิทธิ์แม่ค้ารับพรีหากซื้อ 10 เล่มขึ้นไปคิดแค่เล่มละ 240 เงินที่มึงได้ก็จะลดลงไป
2. ถ้าเพจมึงยังไม่ประกาศข้อมูล official แต่พวกแม่ค้าพรีไปประกาศพรีก่อนอาจทำให้ลูกค้าหลายคนที่รอซื้อของจากมึงอยู่สงสัยว่ามีนอกในกับพวกแม่ค้าพรีมั้ย ทำไมบอกรายละเอียดเค้าก่อนเรา
อยากรณรงค์ให้นข.และสนพ.ออกกติกานะ ว่าร้านค้าห้ามลงก่อนที่เจ้าของจะประกาศ
แล้วเจ๊ตกข./รสก.สทล. ก็ควรจะมีมารยาทในการขายด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ตะบี้ตะบันหากำไร ไม่สนใครหน้าไหน คงถือคติด้านได้อายอดป่ะวะ
กูเฉยๆกับพวกแม่ค้านะ คือก็เป็นอีกตัวเลือกนึงของคนที่อยากผ่อนถึงต้องจ่ายแพงก็โนสนโนแคร์ แต่กูคิดว่าไม่ควรประกาศเปิดพรีก่อน นข ว่ะ กูเห็นด้วยกับ 855 ที่ว่ามันดึงยอดนข แล้วมันก็เสียมรรยาทอะ ในความคิดกูนะ
น่าจะรณรงค์ให้ไม่อุดหนุนพวกแม่ค้าที่เปิดพรีอย่างไม่มีมารยาทมากกว่านะ ไปรณรงค์ที่นักเขียนทำไมวะ ถ้ามึงรู้สึกว่าแม่ค้าไม่มีมารยาท ไม่อยากสนับสนุนก็ไปรอพรีกับนักเขียนโดยตรงเลย ระหว่างรอ มึงถามนักเขียนก็ได้ว่าเดี๋ยวจะเปิดพรีเองมั้ย จะรอซื้อกับนักเขียน ไม่ว่ามึงจะซื้อกับใครนักเขียนก็ดีใจที่ขายได้ยอดเยอะขึ้น เขาคงคิดมาแล้วว่าไม่ขาดทุน ไอ้ค่าที่เสียให้แม่ค้าก็ถือเป็นค่าโฆษณา ค่าจัดการส่งของ บลาๆๆ ส่วนนักเขียนที่คิดว่าไม่คุ้มก็ไม่ต้องไปดีลด้วย
กูว่ายาก เพราะพวกแม่ค้าเปิดพรีมันมีระบบให้ผ่อนด้วยนี่แหละ ซึ่งถ้าซื้อกับนักเขียนโดยตรงมันไม่มี
คนที่จะผ่อนก็ไม่พรีกะนักเขียนอยู่ดีป่ะวะ เพราะไม่มีเงินจ่ายเต็มราคา ใครเปิดก่อนเปิดหลังก็ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ดิ หมายถึงคนที่ซื้อปกติ กลัวนักเขียนกำไรน้อย คิดว่ามันเสียมารยาท ทำนาบนหลังคน และอื่นๆ ก็ไม่ต้องไปจองผ่านร้านค้าพวกนั้น
เข้าใจนะ แต่นข.ก็ควรจะมีกติกานะ ว่าร้านรับพรีห้ามลงข้อมูลก่อนนข.
ไปแอบถามแอดมินเพจ มม. มา เค้าว่าไม่ทราบเหมือนกันว่าตกข./รสก. เอามาเปิดจองก่อน ทั้งที่ มม.ยังไม่ลงราคาขายเลย เหมือนนข.ก็ไม่ทราบว่าที่บอกราคาไปคร่าวๆ คือแม่นางจะเอาไปลงรังพรีเลย ไม่ได้มีการบอกกล่าวกับนข.ก่อน
กุว่าลูกค้าคนละกลุ่มกันนะ คนที่รอผ่อนก็ไม่พรีกับนขอยู่แล้ว แม่ค้ารอบพรีมันน่ากลัวตรงที่นขไม่ให้โปรกับร้าน นางก็พร้อมดิสเครดิตนขมากกว่า เวลามีลูกค้ามาถามทำให้นขไม่ค่อยกล้าปฏิเสธร้านพวกนี้ ร้านดีๆ ที่ไม่เอาเปรียบ กูเคยซื้อแต่ร้านวก
เห็นคนมาโพสต์ว่าให้เพื่อนยืมหนังสือไปแล้วเพื่อนเอาสก๊อตเทปแปะปก แล้วจะให้เพื่อนซื้อคืนให้ ผมนี่ยืนขึ้นเลย
>>868 เออ ดึงไม่ขาดแต่มีรอยกาวปะวะ แล้วอิรอยนั่นนานๆ เข้าแม่งเหลืองอีก หนังสือสีไม่สม่ำเสมออีก จากหนังสือที่ควรดีๆ กลายเป็นตำหนิ มันใช่เรื่องหรอ????? อิคนยืมอะ ยืมสภาพยังไงก็ต้องส่งคืนสภาพนั้น เพราะงี้แหละกูถึงไม่ชอบให้ใครมายืมหนังสือกู หาว่ากูงกก็เรื่องของพวกมัน
จากประสบการณ์ของกูที่เคยแปะสก๊อตเทปที่ปกนะ เป็นรอยไม่เป็นรอยหลังดึงสกอตเทปออกขึ้นกับ 3 อย่าง
1. คุณภาพสก๊อตเทป ถ้าของดีหน่อยเช่นของ scotch มักจะลอกง่าย ไม่ทิ้งคราบกาว เก็บไว้นานก็ไม่เหลืองไม่เหนียว แต่ถ้าใช้สก๊อตเทปถูกๆไม่มียี่ห้อ ยิ่งตามพวกร้าน 10 บาท 20 บาทนี่เทปจะเหมือนละลายไวมากคือจะเสียสภาพเป็นสีเหลืองมีคราบกาวติดปกกับรองปก แกะออกยากด้วย
2. ระยะเวลาในการติดเทป ยิ่งระยะเวลานานขึ้นแค่ไหนโอกาสที่ปกลอกหลังดึงสก๊อตเทป (คือปกฉีกลอกบางส่วนตามตัวสก๊อตเทปขึ้นมาอ่ะ) ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
3. คุณภาพและลักษณะของกระดาษทำปก บางอันถ้าบางจะเป็นรอยง่ายและฉีกขาดง่ายด้วย
Ky เพื่อนโม่งเก็บหนังสือใส่ซองซิปแล้วในซองใส่กันชื้นมั้ยวะ กูเห็นในกลุ่มสปอยบอกว่าให้ใส่ กูอยากรู้ว่ากันชื้นมันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า กูเก็บหนังสือในตู้เหล็กมีบานกระจกแต่ไม่ได้ใส่ซองซิปกับกันชื้น ถ้ากันชื้นมันควรใส่ กูจะได้ไปหามาใส่บ้าง
จริงๆถ้าจะทำอะไรกับตัวหนังสือถึงขั้นห่อปกก่อนก็ควรขออนุญาตเจ้าของก่อนว่ะ เป็นกูเจอกูก็คงอึ้ง คิดว่าให้ซื้อใหม่ดูฮาร์ดคอไปแต่สำหรับคนที่แคร์เรื่องแบบนี้กูก็ไม่รู้จะหาทางแก้ยังไงเลย ได้แต่หวังว่าจะหาทางเอาออกได้โดยสวัสดิภาพ ถ้ากูเป็นเขาคงลงบัญชีดำไม่ให้ยืมอีก
เพื่อนโม่งไปมุง นข.พฟ. กับ นอ.ที่โพสต์ข้อความเดิมๆ เรื่องห่อแย่ ไม่ให้เคลมกันหรือยัง? ในโพสต์เกือบล่าสุดของ นข.เลย
กูว่าคนแบบนี้สมควรแล้วที่จะไม่ได้รับความใส่ใจจากนข ทำตัวเหมือนพระเจ้า กูคือลูกค้า กูคือพระเจ้า กูมีสิทธิ์ด่ามึง มึงห้ามด่ากลับต้องยอมกูเท่านั้น นขทำดีแล้ว ปล่อยมันโวยวายเป็นบ้าคนเดียวไปเถอะ
https://www.picz.in.th/image/zvElVR
อ่ะ กูไปตามแคปมาให้ก่อน เผื่อใครไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กูอ่านแล้วก็ยังงงๆนอ.นะ ก็มึงเล่นเขียนแนบกระดาษไปแบบนั้นแล้ว ยังมามาบ่นโวยวายว่า ib ไปหลังจากนั้นแล้วนข.ไม่อ่าน เออ เป็นกูกูก็ไม่ unblock ไม่อ่านไม่ยุ่งไม่เสวนาด้วยแล้วว่ะ
นข.บอกให้เคลมไปแล้วรอบนึงด้วย กุงงเลย
นักเขียนแจ้งอยู่แล้วว่าไม่รับเคลมยังหน้าด้านส่งไปขอเคลมอีก
กูเป็นนักเขียนคงปักหมุดเพจแจ้งคนอันตราย โพสท์ซ้ำหลายโพสท์ชิบ เป็นการดิสเครดิตไปในตัว แต่คนเขียนควรไปแปะชี้แจงทุกโพสต์เลย ไม่งั้นคนอ่านเจอคงเข้าใจผิดไปเยอะ
พฟ นี่เพจไหนวะ ขอชื่อใบ้ได้ไหม เดาไม่ออก ตามไม่ทันแต่อยากเสือกอ่ะ
อ่านที่นขเเปะเเล้วนางคงหน้าสั่นกันบ้างละมึงเอ๊ยยย ขนาดคนอ่านเสือกห่างๆอย่างกูยังรู้สึกเงิบเลย สมน้ำหน้านาง เขียนเป็นลายมือหลักฐานชัดเจนขนาดนั้น ตอนที่ได้รับหนังสือพร้อมข้อความในกระดาษ นักเขียนเองเค้าก็คงเสียความรู้สึกเหมือนกันมั้ยวะ
>>892 >>894 https://pantip.com/topic/31387152 กูเอามาฝาก
อันดับแรกถ้านางจะหาเพื่อนมาร่วมวีนนข.นางควร
1. โพสรุปตำหนิ (ถ่ายให้ชัดๆ แต่ถ้าแม่งขี้ประติ๋วมากระวังกระแสจะดีดกลับนะจ้ะ)
2. โพสรูปวิธีการแพ๊คที่บ่นว่าห่อบางไม่ได้มาตรฐาน แล้วสภาพซองก่อนแกะเป็นยังไง
3. แคป ib เมลล์ทั้งหมดที่โต้ตอบกับนข.มาเปิดเผยเลย ที่บอกว่าคุยอะไรไปบ้าง นข.ไม่ยอมอ่าน นานมากกว่าจะตอบ ถ้านข.แม่งทำน่าเกลียดจริงๆยังไงก็มีพวกอยู่แล้ว
อยากหาพวกก็ต้องทำอย่างนี้นะจ้ะ ไม่ใช่เย้วเค้าไปทั่วแล้วไม่ลงหลักฐานอะไรเลย
กูงี้อยากเห็นตำหนิเลย กูควรยุใครไปถามนางดีไหม ว่าตำหนิประมาณไหนอ่ะ กูอยากรู้
>>899 มึงขอดูจากนขก็ได้ กูว่านขน่าจะเอาให้ดู กูเคยไปขอดูตำหนิจากนขคนหนึ่งที่นักอ่านเอาไปโพสต์ในเฟสตัวเองว่านขเลวชั่วช้าไร้ความรับผิดชอบ เห็นตำหนิปุ๊บกูบอกให้นขโพสต์แก้ตัวเลย คนเข้าใจผิดเยอะมาก อีนักอ่านต่างหากเลวชั่วโกหก ตำหนิเล็กขนาดที่ต้องเอาแว่นขยายส่อง พูดดีเข้าตัวเอง ประโยคด่านขหยาบๆ ไม่เอามา จัญไรมาก กูบล็อกอีนี้จากการเป็นเพื่อนเลย
>>904 คนพวกนี้ต้องเจอนขโหด ๆ กูเคยเจอคนหนึ่ง เขาไม่ให้เคลมอีกพวกนี้เอาไปด่า เพื่อนเขาแคปมาให้ นขหลังไมค์ไปเลยว่าตกลงไม่ได้ก็ให้ศาลตัดสินเลยดีกว่า ไม่เสียดายค่าจ่างทนายเพราะแฟนเป็นทนาย กูฮาวะ อีพวกเพื่อนมันที่ปากหมาหายเข้ากลีบเมฆไม่มีโพสต์อีกเลย เพื่อนแท้จริงๆ
เรามาถึงจุดที่ตำหนิหนังสือเอามาขู่ฟ้องศาลกันได้ยังไงวะ เรากลัวแล้วคิดถูกที่ไม่ขงไม่ขายมันแล้วหนังสือ ลงทีประสาทเสียทีลูกค้าดีๆ เจอน้อยยิ่งกว่าน้อยถ้าเจอทีนะเรานี่แบบดีใจอย่างกับถูกหวย เคยเจอคนนึงจำไม่ลืมซื้อง่ายโคตร ไม่ดูอะไรเยอะ โอนไวโคตรๆ บอกหมายเหตุไม่ต้องห่อเยอะเค้าไม่สนใจแล้วพอเห็นค่าส่งด่วนที่เราคิด50ก็โอนเงินเพิ่มให้ด้วยบอกว่ามันแพงกว่านี้แน่นอน เรานี่ระแวงหน่อยๆ กลัวเป็นมิจฉาชีพ อยากจะได้ลูกค้าแบบนี้บ่อยๆ มาก
เพื่อนโม่ง กูสงสัย นี่กูเข้าไปอ่านที่นางโวยวายในเพจนักเขียน คือทุกคนก็ดูเงียบ ไม่มีใครไปต่อล้อต่อเถียงกับนาง แถมนางก็ไม่มีเพื่อนมาช่วยเลยสักคน กูงงว่ะ ปกติดราม่าเบอร์นี้ เรื่องแม่งไม่น่าเงียบขนาดนี้ป่ะ มันต้องมีพวกหน้าม้า ลิ่วล้อ มากระพือกันป่ะ นี่กูงง ดูทุกคนพร้อมใจกันเงียบมากเลย แสดงว่ายายเจ๊ที่มาโวยวายเนี่ย นางวีรกรรมเยอะเหรอ??? เพื่อนโม่งบอกกูที
บ็อกรอบพรีฯจะครบปีแล้ว ยังไม่เสร็จไม่ส่งซักที แต่เปิดรอบรีปริ้นหนังสือรับเงินรอบรีฯไปก่อนอีก เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจยังไงชอบกล เซ็งโว๊ย
อี วทด อีกค่าย เงียบหายไปกับสายลม มจซ อีก นิยายที่พรีตั้งแต่ต้นปี บอกจะส่งกลางเดือนเมษาแม่งยังไม่ส่งเลย ปัญหาเยอะจริงๆ
มจ.กูก็เซ็งนะ เลื่อนส่งมาสองล๊อตแล้วแถมต้องจิกถามกว่าจะประกาศหน้าเพจ
วทด.กับอป.กูไม่ได้สั่งละ
กูว่าไม่ยอมทำกล่องช้าเพราะเงินหมุนไม่มีปะวะ ทำไมไม่ยอมทำวะ งงฉิบหาย
มึงงงงงง อป นานจริง นานจนลืม จนเพื่อนโม่งมาพูด ส่วนมจนี่เลื่อนเลทส่งช้าทุกล็อต ไม่เคยประกาศหน้าเพจเลยด้วย ต้องให้คนพรีไปถามเองตลอด มันใช่เหรอวะ ส่วนวทดอันนี้เนี่ยสิเงียบจริงจัง ไหนบอกตอนเเรกดิบดีจะไปขายในงานวายที่ผ่านไปชาตินึงแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังเงียบกริบไม่มีข่าวคราว
>>922 มจ.ไม่ทุกล็อตนะเพื่อนโม่งมี 2 อันหลังที่เราว่าช้าไปมาก ก่อนๆ นี้บอกช่วงไหนก็+/-นิดหน่อย ไม่ได้เลทที่เป็นเดือนสองเดือนแบบนี้ และมจ.เป็นแบบนี้ตอบช้ามากแต่ตอบไม่หนี
>>923 มจ.=ค่ายแปลนิยายปุ่นและอันคัท
เราว่าปีนี้รพ.และสนพ.มีปัญหาเรื่องหนังสือกันเยอะนะ ไม่ใช่แค่วาย วงอื่นก็เป็น ไม่รู้เพราะรอหนังสือพรีจนชินแล้วหรือเปล่านะเราเลยเฉยๆ คิดมากเครียดเองด้วย เรากลับสนใจเคสการคืนเงินของนข.Yมากกว่า เงียบราวกับตายไปแล้ว orz
อปนี่เป็นปีแล้วมึง รอจนลืมเลยกู
มีคนมาโพสขอเลขแทรคกิ้งเพื่อใช้ใส่ส่งของในช้อปปี้กันง่ายๆเลยว่ะ เออเนอะคนเรา จะกินฟรีโกงส่วนต่างค่าส่งแอปยังจะไม่มีปัญญาหาเองอีก
ต่อไปเวลาขายของในshopee คงจะลำบากมากขึ้น เพราะเจอแม่ค้าประเภทนี้อ่ะ ไม่ลงทุนเลย จะเอาฝ่ายเดียว
คนตุกติกกับ Shopee เยอะนะ ค่าส่งที่แม่ค้าหลายคนได้จากแอปไปทำให้แอปต้องจำกัดการส่งฟรีต่อเดือนเลย เราชอบซื้อของในนั้นแต่ซื้อพวกร้าน official ของแบรนด์มาเปิดเองไม่ได้ใช้ซื้อหนังสือวายเลย เจอแต่ร้านแพงๆ จนงงว่ามีคนซื้อด้วยเหรอราคานั้น ที่แน่ๆ แอปนั้นทำเราจับโป๊ะบางคนได้
>>933 กูใช้ซื้อนิยายวายที่ร้านแนะนำในช้อปปี้สั่งจากเว็บถึงกูเลยน่ะ และต้องเป็นราคาเท่าสั่งเว็บเท่านั้น
พอผ่านช้อปปี้มันใช้โปรบัตรเครดิตลดได้ และถ้าหมั่นcheck in ก็ได้ coin มาลดราคาอีก ถูกกว่าสั่งจากเว็บเอง
อีกพวกก็นิยายวายมีดี มีลด20% ในช้อปปี้เป็นบางเรื่อง
ส่วนพวกมือสอง กูดูราคา ถ้าถูก และมีแอปช่วยเรื่องค่าส่งกูก็สั่งผ่านช้อปปี้นะ
ว่าแต่จับโปะอะไรวะ เล่ามาหน่อย กูอยากเผือก
ปลาฉลาม
โทษทีมือลั่น ปลาฉลามฯนี่รีปริ้นท์อีกละอ่อ นักเขียนเขาไม่รู้สึกละอายใจหรือรู้สึกสำนึกผิดที่ก๊อปบทความคนอื่นมาลงเลยเหรอ หรือกินเงินมันหอมหวานวะ
KY กูขอถาม มีความเห็นยังไงกับการที่นักเขียนเอางานเก่าๆ มาแปลงใหม่วะ กูพึ่งรู้ว่าหนังสือที่กูซื้อมาเคยเป็นฟิคมาก่อนแต่ไม่รู้ว่าเค้าแปลงระดับไหน
ปกติมันแปลงกันแค่ชื่อปะวะ
>>942 ส่วนตัวกูไม่ชอบนะ เสียความรู้สึก คือในฐานะที่เขียนและเป็นคนเสพงานทั้งสองประเภท การเขียนฟิคมันก็เป็นการสร้างงานโดยมองตัวละครหรือคู่นั้นๆเป็นพื้นฐาน จะให้เปลี่ยนชื่อแล้วเอามาหากินต่อยังไงก็ลบภาพเก่าตอนเป็นฟิคไม่ได้อะ บรรยากาศของตัวละครมันยังอยู่ไม่ว่าจะมากจะน้อยก็ตาม แต่ก็ห้ามกันไม่ได้ถ้านข.คนนั้นๆคิดจะทำ แต่กูก็ไม่คิดจะสนับสนุนฉบับดัดแปลงเช่นกัน รวมถึงงานอื่นๆในอนาคตด้วย (กูพาล มีอคติแล้ว) แต่ส่วนใหญ่ก็จะแปลงแค่ชื่อนั่นแหละ อาจมีบ้างที่รีไรท์เนื้อหาเล็กๆ น้อยๆ
เราเฉยๆ ว่ะคิดว่าฟิคมันก็เรื่องที่แต่งขึ้น นิยายก็แต่งขึ้น เวลาจะดราฟตลค.นข.บางคนก็มีอิมเมจของดาราหรือรูปร่างในใจอยู่แล้ว เราก็เลยไม่คิดมากถ้าจะแปลงมาเป็นนิยายปกติแต่ตามมารยาทนข.ควรบอกตรงๆ
เพื่อนโม่งเราสงสัยเห็นหลายคนมาประกาศหาหนังสือมือสองเรื่องที่กำลังเปิดรอบปณ.อยู่กันล่วงหน้าในกลุ่มหลายคน พอจะเข้าใจว่ามันก็ประหยัดเงินอยู่ถ้ามีคนอยากจะขายแต่ว่าดูจากที่เสนอขายกันมันก็ไม่ได้ถูกจากมือหนึ่งจากสนพ.เท่าไหร่เลยนะ ไอ้ที่ถูกๆ ก็ถูกมากแต่ไม่เคยวิ่งซื้อทันนานๆ จะเห็นหลุดมาสักคนสองคนที่ขายราคาดีๆ เราแค่สงสัยเท่านั้นเองไม่ได้อะไรหรอก อย่าง ww ราคางานฟิคและปณ.คือ 1380 ส่งฟรี แต่มือสองคนขาย 1200 1300 *o* หรือเห็นรับกดจากสนพ. 1500 ว้อททททท ราคาปกเต็มๆ เลยนี่อันนี้งงจริงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมมีคนไปสั่งด้วย
>>945 ถ้านิสัยตัวละครคนละเรื่องกันเลยจริงๆ อันนี้ขึ้นอยู่กับว่ากูเคยอ่านเวอร์ชั่นฟิคมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่เคยอ่านก็อาจจะได้มาอยู่ในตัวเลือกอ่านของกู ซึ่งแน่นอนว่านข.ก็ควรบอกไว้ก่อนเป็นมารยาทตามที่ >>944 ว่าไว้ บอกตรงว่าดัดแปลงมาจากเรื่องไหนของตัวเอง แล้วกูจะพิจารณาเองว่าพล็อตถูกจริตกูไหม ถ้ามันใช่กูก็พร้อมจะสนับสนุนนะ แต่ถ้ากูเคยอ่านเวอร์ฟิคมาก่อนต่อให้นิสัยคนละเรื่องก็กูไม่อ่าน เพราะยังไงก็เหมือนอ่านพล็อตซ้ำอะ คล้ายๆกับรีไซเคิลงานตัวเอง กูไปหาเรื่องอื่นอ่านดีกว่า แต่กูยังยืนยันนะว่ามันไม่ผิดที่นข.จะทำแบบนั้นถ้างานฟิคที่ว่าคืองานของมึงเองจริงๆ ไม่ใช่ไปดัดแปลงฟิคของคนอื่นมา แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเทแบบกู กูไม่ได้เกลียดนข.ด้วย แต่แค่เสียความรู้สึก เพราะถ้าเรื่องนั้นเป็นฟิคที่กูชอบและยังเป็นคู่ที่ใช่ ยังไงก็ห้ามไม่ให้เสียความรู้สึกไม่ได้อะ
กูว่าอยู่ที่จุดประสงค์นะ อย่างกูแต่งฟิค กูก็แต่งให้เรือกู ถ้ากูเอาฟิคมาแปลงเป็นนิยายแล้วเอามาขาย กูรู้สึกว่าตัวเองทรยศเรือว่ะ กูไม่เคารพคาร์ต้นแบบของกู ส่วนที่ถาม่าถ้าเอาเนื้อเรื่องมาแล้วเปลี่ยนนิสัยคาร์ คือเมิงคิดเนื้อเรื่องใหม่ง่ายกว่ามั้ยวะ5555555555555 กูว่าทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันอะ ทั้งเนื้อเรื่องทั้งคาร์ ถ้าเอามาดัดแปลงเพื่อให้มันขายได้ แบบไม่มีเหตุผลอะไรเลย มันก็จะแปลกๆ หน่อย
บางคนไม่มั่นใจการแพ็คของ สนพ.เท่าแม่ค้าที่เคยๆขายกันประจำด้วยนะ ราคาถูกกว่านิดหน่อย แต่จู้จี้ขอดูบ็อกโน่นนั่นนี่ได้ แต่กับ สนพ. จะไปขอดูสินค้าก่อนส่งไม่ได้ แถมถ้าสินค้ามีปัญหาบุบ บางทีมาเย้วๆหาพวกเผลอๆแม่ค้าคืนเงินได้อีก
ล่าสุดโพสต์ตำหนิbox เยอะไปไหม เอาบรรทัดมาวัด วางก็วางได้ box เอียงนิดนึงต้องเนี้ยบแค่ไหนถามใจนักอ่านกริบดู
กุกำลังดูอยู่ว่าสำนักพิมพ์เขาจะไปได้สุดแค่ไหน(ทุกสำนักพิมพ์) ทำพวกพรีเมี่ยมแม้จะได้กำไรเยอะขึ้นแต่ปัญหาจุกจิกก็โคตรเยอะ กุว่าถึงจุดๆหนึ่งมันน่าจะวนมาที่เดิมคือ ขายหนังสือเพียวๆแถมแค่ที่คั่นอ่ะ คิดว่า แต่คงอีกนานเพราะมันยังหาเงินได้กับพวกของแถมอยู่
อยากแนะนำให้พวกเนี้ยบไปเป็นQCอ่ะ
เรากลัวแล้วด้วย ไม่เคยเอาไม่บรรทัดมาวัดอะไรแบบนี้อะ ปกติเวลาซื้อ Boxset ดูแค่ไม่บุบแค่นั้นเองพวกรอยขนแมว ขูดขีด กดทับนิดๆหน่อยๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ยิ่งไปเลือกต่อมาจากคนที่เลือกๆแล้ววางก่อนหน้าด้วยมันก็ต้องทำใจตรงนี้ มันไม่มีทางกริบเป๊ะหาจุดตำหนิไม่ได้เลย ล่าสุดของมด.กล่องเปล่ามาแอ่นๆเราก็เอาหนังสือยัดใส่ไม่เต็มก็เอากระดาษมายัดๆ ให้แน่นให้กล่องคืนรูปแค่นี้เอง เห็นใจสนพ.ว่ะงานนี้
มึง พรีลูกยักษื มีดรามาไรวะ ใครเอามาขาย ต่ำกว่าสนพ.หนะ
พวกมึงกูถามหน่อยสิ เวลาอ่านนิยายวายที่มีคู่ช-ญ พวกมึงรู้สึกยังไงอ่ะ วันนี้กูเข้าไปอ่านนิยายวายที่กูเฟบไว้ แล้วมีคอมเมนท์นึงบอกว่าไม่อ่านต่อเพราะมีคู่ช-ญ อยากให้เป็นคู่วายหมดเลย กูสงสารนักเขียนเลยว่ะ กูอ่านต่อได้นะในครสต. กูชอบด้วย กูเลยอยากถามเพื่อนโม่งว่าเวลาพวกมึงอ่านนิยายวายคือมันต้องวายแมร่งทั้งเรื่องเลยไหม?
กูอ่านคนโพสต์ขายก็ไม่ผิดนะ เอาของตัวเองมาขายเพราะไม่อยากได้เล่มนี้ แต่เปย์เป็นชุดเพื่อเอาของแถม เล่มที่ไม่อยากได้ก็เอามาลดราคาขายไม่เห็นจะเป็นอะไร ไม่ใช่ร้านค้าสักหน่อย สิทธิ์ของเรารึเปล่า
ใจความสำคัญอยู่ที่ "รับราคาร้านค้ามาขายตัดราคาสนพ." แล้วถ้าเค้า "ซื้อราคาเต็มแล้วมาขายตัดราคา" แบบนี้ผิดปะ
อะ...เจอคนนึงละ เจ๊ ตกข. รวมส่งราคาต่ำกว่าปก
>>962 กูได้หมดนะ คู่รองจะเป็นช-ญ หรือช-ช เกย์นิเวิร์สหมดก็โอเค สำคัญคือคู่รองทำให้กูชอบได้มั้ย ไม่สำคัญว่าเพศอะไร แต่เคมีแบบที่กูชอบได้มั้ยแค่นั้นแหละ บางเรื่องยัดมาเหมือนแค่อยากให้มีคู่เท่านั้นแหละ ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย
แต่เอาจริงๆถ้าเป็นนิยายแนว ชีวิตปัจจุบันธรรมดาเกย์นิเวิร์สหมดก็จะรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นนิยายแฟนตาซีกูชอบอยู่นะ
ขอโทษ แก้ข่าว ขายแพงกว่า สนพ. 4 บาท/11 บาท
แม่ค้าติดต่อขอส่วนลดจากคนเขียนมาขายต่อหรือยังไง ทำไมสนพ.ไม่พูดกับแม่ค้าให้รู้เรื่องตั้งแต่ตกลงกันล่ะ
มีใครเคยอ่านโดจินของหวางอีที่กำลังจะเปิดจองบ้าง ทีแรกกูว่าจะเปย์แน่ ๆ แต่เห็นราคาแล้วเริ่มคิดหนัก
Ky กูสงสัยมานานล่ะ ทำไมเวลาพิมพ์หาของชอบต่อท้ายว่าไม่มีจะไปซื้อมือหนึ่ง
กูคงเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ตื่นเต้นหรือชื่นชอบลายเส้นหวางอี คือเฉยมากๆ แต่เท่าที่เห็นแทบทุกคนชอบกัน มองว่าเทพมาก และกูดีใจมากที่ไม่ได้ชอบ ราคาทลายไตกูจริงๆ แต่ก็อยากรอดูเหมือนกันว่างานนี้ยอดจองจะเป็นไง อยากเห็นความสตรองของชาววาย ช่วงนี้อะไรๆ ก็ออกเยอะเป็นหางว่าวเปย์กันไม่หวาดไม่ไหว ประหนึ่งเหล่า สนพ. กำลังแข่งกันทดสอบค่าไตของชาววายว่าจะสูงแต่ไหน นี่ยังไม่นับทำมือ
>>982 กูเจอมากับตัว มือสองจะเอาสภาพกริบ มุมเป๊ะ เข้าเล่มปกเบี้ยวมานิดๆ (นิดจนกูอ่านจบไปรอบนึงโดยไม่สังเกตเห็นเลย กระทั่งถ่ายสภาพ) กูก็บอกไปว่ามันเป็นงี้มาตั้งแต่แรก ถึงขั้นถามกูว่ากี่เซ็นต์ กูเลยบอกแนะนำมือ 1 เถอะค่ะ ได้กริบเท่าที่คุณต้องการแน่นอน มือ 2 ยังไงมันก็ไม่ 100% แถมมือ 1 ก็ใช่ว่าจะ 100% ได้มาก็ยังมีตำหนิจากโรงพิมพ์เล็กๆ น้อยๆ เออ นางเลยบอกผ่าน กูนี่โล่งอกหลังจากเสียเวลาคุยมาเป็นวัน อยากได้กริบในราคามือสอง คุณพระ! นับวันยิ่งเห็นแบบนี้มากขึ้นทุกทีจนเหมือนจะรวมตัวก่อตั้งลัทธิ กูว่าต่อไปมันต้องกลายเป็นอุปาทานหมู่แน่นอน
พูดถึงโดเรื่องนี้ กูจำได้ที่งานหนังสือปีก่อน บูทไต้หวัน น้องคนขายเชียร์มาก เปิดข้างในให้ดูด้วยบอกว่า พี่ดูสิ เรทมากเลย 555555 เล่มละ 500 นะเป็นภาษาจีน
>>982 เออ กูก็เบื่อ เอามือ2 ราคาต่ำกว่าปก ขอสภาพกริบ นับวันอิพวกประสาทแบบนี้ยิ่งขยายพันธุ์ กุแนะนำอิพวกนี้มึงควรไปซื้อมือ1เอง บ้ากริบขนาดนี้ แต่จะเอาถูกๆต่ำกว่าปก อิผี
โดจินหวางอีมีเนื้อเรื่องมั้ยอ่ะ หรือว่าเน้นขายภาพฉากอย่างเดียว
อิพวกคลั่งกริบกูเห็นมา2-3คนหละ พวกหน้าใหม่ แก๊งเดียวกัน เข้ามาสร้างอุปทานหมู่ลัทธิคลั่งกริบ เด่วก้ได้เจอแม่ค้าคลั่งด่ามั้งเหอะ ถ้าเจอแม่ค้าแบบจัดๆทนไม่ไหว ขึ้นโพสประจานแม่ม
>>984 ส่วนใหญ่กูจะขายใน ig ถ่ายลงทุกด้าน มีตำหนิตรงไหนกูจะวงไว้ด้วย ไม่เคยมีลูกค้าคนไหนเรื่องมากเลย ไม่ขอดูเพิ่มเติมด้วย แต่พอมาลงขายในกลุ่มมั่งเพราะกะจะขายทีเดียวหลายๆ เรื่อง จะได้ไปส่งทีเดียว ก็เอารูปที่เคยถ่ายนั่นแหละส่งให้ดู ก็ยังจะให้ส่องเพิ่มแล้วเพิ่มอีก เอารูปไปขยายบอกตรงมุมปกมันไม่กริบมั่ง มีรอยข่วนตรงขอบงี้ อห. คือกูงงไปเลย นี่มาซื้อมือสองนะมึงจะกริบไปไหน กูก็บอกนะว่ากูอ่านไปแล้ว แล้วไม่ได้เจอเรื่องเยอะแบบนี้แค่คนเดียวด้วย กูเลยกลับมาขายใน ig อย่างเดิมดีกว่าสบายใจกว่า แต่กูกลัวอีลัทธิพวกนี้มันจะลามมาใน ig ด้วยน่ะสิ ระแวงชิบหาย
ตอนกูขายกูลงรุปซูมตำหนิแล้ววงอธิบายให้ทุกจุด ถ้าดูแล้วไม่เอาก็ไม่เป็นไรแต่ห้ามมาต่อราคากับกู
ต่อไปถ้ากูคิดจะปล่อยในกลุ่มคงต้องจั่วหัวว่าขอคนรับสภาพมือ 2 ได้ หนังสือกู กูก็คิดว่าสภาพดีตามสมควรเก็บใส่ชั้นตามปกติทั่วไป แต่มันคงไม่ได้กริบทุกมุมขนาดนั้น เพราะยังไงก็เคยผ่านการอ่าน กูมั่นใจว่ากูถ่ายสภาพให้ดูค่อนข้างละเอียด ที่สำคัญคือขายรวมส่งต่ำกว่าปกตลอด ถ้ากริบขนาดซูมหารอยขนแมว เอาไม้บรรทัดมาวัดขนาดนั้นกูไม่ขายให้อะ ไล่ให้ไปซื้อมือ 1 ลูกเดียว จะหาว่าแม่ค้าใจร้ายไร้มนุษยสัมพันธ์ ไม่มีจิตบริการอะไรก็ตามแต่
เราว่าเราเริ่มจะเข้าใจละว่าทำไมคนใจดีเหลือน้อยก็ดูลูกค้าแต่ละคนสมัยนี้ดิ มากันแบบพิสูจน์ระดับความอดทนคนขายมากเพื่อนโม่ง พวกแปลกๆ เรายังไม่เคยเจอเต็มที่ก็ให้ถ่ายรูปๆๆๆ ทั้งๆ ที่เราว่าเราถ้ายละเอียดมากแล้ว ดูรูปบอกขอผ่านรับตำหนิรอยกาวที่สันหนังสือไม่ได้
ขอkyแป้บ อันนี้จริงเหรอ ไม่มั้ง (ถูกมู้มั้ยวะ)
https://fanboi.ch/webnovel/5535/599/
กุเลย กุอัดอั้นตันใจมากเมิง คือกุเพิ่งประกาศขายไง หนังสือก็ซื้อเพิ่งอ่านจบรอบเดียวแบบข้ามๆละขายต่อ ขอดูทุกสิ่งอันซูมแล้วซูมอีก ซื้อมือ 2 ราคามือ 2 แต่เอาสภาพมือ 1/มองบน หลังๆคือกุลดราคาต่ำๆถ่ายภาพรวมๆบอกตำหนิหลักเป็นข้อๆไป เมิงห้ามถามกุละ ถามมากกุก็ไม่ตอบกุหยิ่ง 55
ปิดกระทู้ ไปคุยต่อได้ที่ https://fanboi.ch/801/5704/
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.