(ต่อ)
.
.
.
.
.
.
.
.
อี้หลิงเหล่าจูน้อยที่นั่งข้างๆตัวเขาพลันตบมือขึ้นมาแล้วพูดว่า “เจ้าจงดูข้า! ขลุ่ยของข้าอยู่มือซ้าย ส่วนมือขวามีลัญจกรพยัคฆ์ และยังมีแม่ทัพปีศาจเวินหนิง ไม่มีใครเอาชนะข้าได้หรอก ฮ่าๆๆๆๆ”
“เอาล่ะ เวินหนิง! เจ้าออกมาได้แล้ว!”
ทันใดนั้นก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งในกลุ่มยกมือขึ้นมาแล้วพูดว่า “เอ่อ..ข้าแค่จะบอกว่า ระหว่างศึกยิงตะวัน ข้ายังไม่ตายนะ..”
ในขณะนั้น เวียอู๋เซียนก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องพูดแทรกขึ้นมา
“ท่านปรมาจารย์ ข้ามีคำถาม”
ในการละเล่นของเด็กมักจะไม่มีผู้ใหญ่เข้ามาแทรก อี้หลิงเหล่าจูน้อยจึงมองเขาด้วยสายตาฉงน
“เจ้าอยากถามว่าอะไร?”
“ทำไม ถึงไม่มีคนจากกูซูหลานเลยล่ะ”
“มีสิ”
“แล้วพวกเขาอยู่ไหน”
เมื่อได้ยินดังนั้น อี้หลิงเหล่าจูน้อยก็ชี้ไปยังเด็กรูปงามคนหนึ่งที่เงียบไม่พูดไม่จามาตั้งแต่ต้น
บนหน้าผากของเขามีผ้าสีขาวบริสุทธิ์คาดไว้อยู่
“เขาเป็นใครงั้นหรือ”
เด็กน้อยตอบกลับ “ก็หลานวั่งจีน่ะสิ!”
“....”
..ก็ได้ เจ้าเด็กพวกนี้ช่างเข้าใจคิดนัก! คนที่จะสวมบทบาทเป็นหลานจ้าน ก็ต้องเงียบแบบนี้ล่ะ..
และแล้ว รอยยิ้มของเว่ยอู๋เซียนก็พลันปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครา
ราวกับเข็มที่อาบไปด้วยยาพิษได้ถูกถอนออกไปจากตัวเขา และโยนไปที่ไหนซักแห่ง
ทั้งบาดแผลและความเจ็บปวด ได้ถูกขจัดออกไปในชั่วพริบตา เมื่อนึกถึงคนๆนั้น
เวียอู๋เซียนพึมพัมกับตัวเอง
“ช่างน่าแปลกใจนัก ทำไมคนที่น่าเบื่ออย่างเจ้า ถึงทำให้ข้ามีความสุขได้ตลอดกันนะ”
เมื่อหลานวั่งจีลงบันไดมา เขาก็เห็นเว่ยอู๋เซียนนั่งบนบันไดที่รายล้อมไปด้วยเด็กน้อยที่กำลังกินซาลาเปาเนื้อด้วยกัน ในขณะที่กำลังเคี้ยวซาลาเปาอยู่นั้น เว่ยอู๋เซียนก็ชี้นิ้วสั่งไปยังเด็กทั้งสองที่กำลังหันหลังชนกันอยู่
“เอาล่ะ! เบื้องหน้าของเจ้า มีกลุ่มคนนับพันจากตระกูลเวิน พวกเขาติดอาวุธครบครันและล้อมพวกเจ้าจนไม่สามารถหนีออกไปได้ เพราะฉะนั้นจงระวังให้ดี! ใช่นั่นแหล่ะ หลานวั่งจีตั้งใจหน่อย นี่ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เจ้าชุ่มโชกไปด้วยเลือด และจิตสังหาร เว่ยอู๋เซียน ขยับเข้าไปใกล้เขา เจ้ารู้วิธีควงขลุ่ยไหม ถ้าควงด้วยมือเดียวมันจะทำให้เจ้ายิ่งดูดีนะ ไหนลองควงให้ข้าดูสิ เอาล่ะ ข้าจะทำให้ดูนะ”
เว่ยอู๋เซียนหยิบกิ่งไม้จากเด็กน้อยด้วยมือข้างเดียวและควงมันอย่างคล่องแคล่วระหว่างนิ้วมือไปมา การกระทำนั้นยิ่งทำให้พวกเด็กๆส่งเสียงดังอย่างตื่นเต้น และรายล้อมตัวเขายิ่งขึ้น
“....” หลานวั่งจีเดินมาอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นอีกฝ่าย เว่ยอู๋เซียนก็ปัดฝุ่นออกจากกางเกง และโบกมือลาพวกเด็กๆ เมื่อเขาลุกขึ้นมาก็พลันหัวเราะ ราวกับกินยาพิษแปลกประหลาดเข้าไป
“ฮ่าๆๆ ขอโทษทีนะหานกวงจิน อาหารเช้าที่ซื้อมาให้เจ้าข้าแบ่งให้เจ้าเด็กน้อยพวกนั้นไปหมดแล้วล่ะ”
“อืม”
หลังจากนั้นพี่เว่ยก็ชวนพี่วั่งคุยว่าดูเด็กน่ารักสองคนนั่นสิ รู้ไหมว่าคนที่คาดผ้าสีขาวบนหน้าผากนั่นแสดงเป็นใคร พี่วั่งที่สงสัยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เพราะมองหน้าเขาแล้วขำจนผิดปกติก็ถามออกไปอีกครั้งว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไป แต่พี่เว่ยก็บ่ายเบี่ยงเหมือนเดิน หลังจากนั้นทั้งสองคนก็คุยเข้าเรื่องซีเรีนสเกี่ยวกับการปราบผี จบตอนที่32 จา
_______________________________
สรุปคือ จะมากรี๊ดว่าพี่เว่ยรักเด็ก น่ารัก และชอบพี่วั่งจีที่กลัวว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองชอบ
และโมเอพี่เว่ยที่ใจร้าว จนอยากจะต่อยคนที่รังแกพี่ให้หมด แง
ปล.พี่เว่ยมีม่านฮวาออกวันที่9เดือนธันวา เส้นสวยมากไปตามกัน
ปล.2 เมื่อไรจะได้อ่านต้นฉบับจริง ฮือๆๆ