#เรื่องเล่าจากผืนฟ้าไร้ดาว
.
🗨️ "หายนะแห่งปฐมกาลย้อนหวนกลับ สรวงสวรรค์แผดเผาผืนปฐพี ชอร์คขาวไล่ล่าทองคำพิสุทธิ์ จันทราสีชาดกลืนกินชำระแค้นสุริยะทมิฬ อนาคตกอบกู้อดีตกาล เฒ่าชราและคนเยาว์ร่วมสายโลหิต เข่นฆ่าสังหารสิ้น — นี่คือวัฏสังสารแห่งดาราพิภพแห่งนี้... "เดน" เอ๋ย สำหรับเจ้าแล้ว ผู้ครอบครองเรือนผมสีทองคือเป้าหมายที่ต้องสังหาร หรือเป็นพระผู้ไถ่บาปให้เจ้ากันแน่?"
.
— ผู้ที่อ้างว่าหยั่งรู้โชคชะตา
.
👁️ นี่คือบทแนะนำตัวละคร Dainsleif ที่ถูกปล่อยมาในวันที่ 28 กันยายน 2563 ซึ่งข้าพเจ้าหยิบนำมาแปลใหม่ในบริบทปัจจุบันมากกว่าเดิม จุดน่าสนใจของบทแนะนำนี้ ที่ผสานเข้ากับความรู้ใน Lore ที่ยังไม่ปรากฎ ณ เวลานั้น จึงแยกย่อยเป็นข้อๆ ดังนี้...
.
♦️ "สรวงสวรรค์แผดเผาผืนปฐพี" คือ เหตุการณ์ที่เซเลสเทียตัดสินใจ "ต อ ก" คานเรียห์จากการแปดเปื้อนความรู้ต้องห้าม (อบิส) จนกู่ไม่กลับ
.
♦️ "ชอร์คขาวไล่ล่าทองคำพิสุทธิ์"
→ [องค์ชายชอร์คขาว] คือ ฉายาของ "อัลเบโด้" ซึ่งเป็นฉายาที่ตั้งขึ้นตามชื่อ "อัลเบโด้" ของเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนการแปรธาตุ จะอธิบายในข้อถัดไป
.
การที่ "ชอร์คขาว" ไล่ล่า "ทองคำ" จึงอาจหมายถึงการที่อัลเบโด้จะหันคมดาบเข้าหาแม่ของตนอย่าง "ไรน์ดอธ์ท" นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งคานเรียห์ เจ้าของฉายา "GOLD" ทองคำพิสุทธิ์ พนักงานนำเข้าเอเลี่ยนแห่งเทย์วัต
.
♦️ "สุริยะทมิฬ" หรือ 黑日 หมายถึง "ราชวงศ์ Black Sun" ราชวงศ์สุดท้ายแห่งคานเรียห์
→ ประโยคที่ว่า "จันทราสีชาดกลืนกินชำระแค้นสุริยะทมิฬ" คือ เหตุการณ์มหาวิบัติแห่งคานเรียห์ อาณาจักรโบราณถูกกลืนกินโดยดวงจันทร์สีแดงเลือด ซึ่งเราสามารถเห็นฉากนี้ได้ในคลิป "เราจะได้พบกันในท้ายที่สุด" รวมถึงฉากหลังของ "ดินแดนแห่งใจอันบริสุทธิ์" ของ "ไรเดน เอย์" ซึ่งสร้างขึ้นมาให้มีรูปลักษณ์เสมือนฉากเมื่อวันที่เธอสูญเสียมาโคโตะไป
.
อีกทั้ง จันทร์ [สีแดง] และ พระอาทิตย์ [สีดำ] สีทั้งสองอยู่ในขั้นตอนการสร้างศิลานักปราชญ์หรือแปรธาตุสร้างทองคำ ที่ถูกเรียกว่า "Magnum Opus • Prima Materia" (ศาสตร์ชั้นเอก • เตรียมการรังสรรค์) ซึ่งถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์มรกต "ทาบูลาสมารักดินา" ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน...
.
1) นิเกรโด้ (สีดำ) - การจำแนก แยกส่วน ตระเตรียม หมายถึงจุดเริ่มต้นของการแปรธาตุ
2) อัลเบโด้ (สีขาว) - การชำระล้าง
3) คิทรีนิตัส (สีเหลือง) - การแปรรูป
4. รูเบโด้ (สีแดง) - บั้นปลายฉากจบ หมายถึงจุดสิ้นสุดแห่งการแปรธาตุ
.
*สีแดง กลืนกิน สีดำ" จึงหมายถึง "ปัจฉิมบทที่ตลบย้อนมากัดกินปฐมบท"
.
♦️ "อนาคตกอบกู้อดีตกาล"
→คำนี้เหมือนไม่มีอะไร... แต่มันมี! "อนาคตกอบกู้อดีตกาล" หรือ 未来拯救过去 เป็นข้อความที่ปรากฎในหนังสือ "ความเศร้าโศกของเวร่า" นิยายที่เล่าถึงการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของ "เวร่า" สาวน้อยธรรมดาที่เพ้อฝันถึงแดนอันห่างไกล และมีเนื้อหาที่น่าตั้งคำถามต่างๆ มากมาย (หนังสืออยู่ในเกมตั้งแต่แพทช์ 1.0) อาทิเช่น ในเล่มที่สิบ เวร่า, ซาจิ, ไอค์ และองค์หญิง ได้ต่อสู้กับ "นาร์วาลกลืนดารา" รวมถึงยังมีเนื้อหาที่หลุดขอบเขตของเทย์วัตไปไกลมาก (แนะนำว่าให้ไปหาอ่านเอง เด้ะแปะลิ้งค์ให้)
.
♦️ "เฒ่าชราและคนเยาว์ร่วมสายโลหิต เข่นฆ่าสังหารสิ้น"
→ [เฒ่าและเยาว์ร่วมโลหิต] หมายถึง สายเลือดครอบครัว ซึ่งคานเรียห์ที่ล่มสลายและต้องสาป มีเพียงตระกูลเดียวที่เหลือรอดมาและสืบเชื้อสายจนถึงปัจจุบัน นั่นคือตระกูล "อัลเบริช" ของ 'เคย่า อัลเบริช' และ 'โคลธาร์ อัลเบริช' ผู้ก่อตั้งแห่งภาคีอบิส และบิดาของ 'คาริเบิร์ธ' เด็กลูกครึ่งคานเรียห์-มอนด์สตัทด์ผู้ต้องสาป
.
💭 และนี่คือช่วงท้ายแล้ว ถ้าหากคุณสังเกตุก็จะเห็นว่าคำพูดเหล่านี้ถูกเขียนขึ้นโดยจับคู่สิ่งตรงข้ามกัน ไม่ว่าจะเป็น... "สวรรค์-ปฐพี", "สุริยัน-จันทรา", "นิเกรโด้-รูเบโด้", "คนเยาว์-เฒ่าชรา" จะมีความหมายอะไรซ่อนอยู่หรือไม่นะ.. 🤔
.
อ๊อ แล้วที่น่าสนใจที่สุดคือ "ใครเป็นคนพูดกับเดนสเลฟ?" คนพูดที่สนิทกับเจ้าตัวจนเรียกชื่อห้วนๆ ได้ ทั้งยังเคลมว่าตนเอง "หยั่งรู้โชคชะตา" ซึ่งไอ้เจ้า [ผู้หยั่งรู้โชคชะตา] หรือ [สัพพัญญูรู้แจ้ง] คือ ฉายาเดียวกันกับ "The Visionary" Vedrfolnir หนึ่งในเพื่อนของอาจารย์สเกิร์ก ซึ่งก็ "บังเอิญ" เหลือเกิน ที่เรามีตัวละครคนนึงที่เป็น "โหรหลวง" แห่งราชาเออร์มิน ชายผู้ล้มเหลวในการเตือนภัยร้ายที่จะมาถึงให้กับราชาของตน จนนำไปสู่มหาวิบัติแห่งคานเรียห์...
..
ใช่แล้ว ผู้บัญชาการฟาทุย "THE JESTER" [ปิเอโร่] นั่นเอง 😏