Last posted
Total of 1000 posts
งานหนังสือจะได้จัดไหมวะปีนี้ อยากไปใจจะขาดละ
กุขรรมพวกเซเลปที่เคยออกมาเกรี้ยวกราดว่าจะแบนกุหลาบๆๆๆ พอประกาศลิขสิทธิ์ใหม่แม่งหวีดกันใหญ่ บอกว่าจะเปย์ทุกเรื่อง ถุ้ย 5555555555555
ทำไมLCดีๆต้องมาอยู่กับกลุ่มนายทุนวะ ทำออกมาก็ใช่ว่าดี ส่งเคลมแม่งเรื่องเว้นเรื่อง ผิดเยอะขนาดนี้ทีมบก.ยังอยู่ดีกุงงมาก สงสัยกำไรดีไม่ต้องโดนไล่ออก อาร์ตเวิร์คก็ไม่ได้เรื่อง งานเด็กประถมยังมีมิติกว่า เสียดายคนวาดปกมาดีๆมาเจอฟอนต์รายงานเข้าไปหมดกันเลย ตย.ก็ Timemover จ้าเชิญทรรศนา และอีกนั่นแหละ...คนจัดอาร์ตปกแม่งก็ยังอยู่ดี แต่ฝีมือก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นนะ มันผิดที่ตรงคนทำหรือคนบรีฟหรือบก.บอกกุที ตัดภาพไปสนพ.อื่น แค่อาร์ตเวิร์คชื่อนิยายก็แดกขาดแล้ว ไม่นับลูกเล่นปั้มฟอยล์ นูน ยิงสปอร์ต กลิตเตอร์
แล้วแต่คนนะ บางคนไม่ชอบที่อาร์ตไม่สวย
แต่กูชอบที่ออกเร็วเดือนละเล่ม ซื้ออ่านแล้วไม่ลืมเนื้อเรื่องแน่นอน + ได้ส่วนลดบ่อย ราคาไม่แพงเมื่อลดแล้ว
ลางเนื้อชอบลางยา
พอดีกูถือคติซื้อมาอ่าน ไม่ได้ซื้อมาดูหน้าปก ถ้าสนุก แปลดี ก็ถือว่าผ่าน
มันยากตรงแปลดีนี่แหละมึง 5555555
เอิร์ธอีสออนไลน์กุล่ะ QAQ นึกว่าจะมีประกาศด้วยซะอีก รอต่อไปปปป
>>477 +1 แล้วแปลดีของกูคือไม่สนรูปแบบประโยค คำบุพบท สันธานอะไรทั้งนั้นด้วย (พูดก็พูดเหอะวะ ใครมันเป็นคนเริ่มใส่ใจเรื่องพวกนี้ในนิยาย นิยายนะเฮ้ย กูอ่านมาตั้งแต่สมัยสามสิบปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เขาก็เขียนกันสวิงสวายเน้นอารมณ์ไม่เน้นหลักการเรียงประโยคทั้งนั้นน่ะ) ขอแค่แปลถูกต้อง อ่านรู้เรื่อง ใช้คำตรงตามความหมาย เก็บความรู้สึกตัวละคร ทำให้คนอ่านหัวเราะตรงที่ควรจะหัวเราะ อาจจะร้องไห้ตรงที่ควรร้องไห้ เท่านี้กูพอใจแล้ว
Ky คนแปล can ci pin เคยมีดราม่าไรกันเหรอ ก่อนประกาศ LC กับประกาศชื่อคนแปล เคยเห็นในโม่งกับนกฟ้าบอกว่าจอให้แปลเก่งเหมือนกับที่ด่าเก่งหน่อย หรือตอนนั้นเดาไว้เป็นอีกคน ใครรู้ช่วยกูด้วยย อยากเผือก
ซานไห่เป็นแฟนตาซีสมัยใหม่อะมึง สนุกดี ค่อนข้างอ่านสบายแบบมีปม ส่วนวัตถุโบราณกูชอบ น้องนอ.ชอบกัดพระเอก หาโอกาศกัดๆๆ ตลอด ขำแม่ง 555
ปกนิยายใหม่จล.นี่ไม่มีใครเอ๊ะบ้างหรอวะ พระนายใส่เสื้อกันหนาว-ฮู้ดดี้จนนึกว่าฤดูใบไม้ร่วงหรือหนานสว แต่พอมองคนรอบข้างแล้ว มีแต่เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต เสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิ-ร้อนชัดๆ
เวลาอ่านนิยายละเจอเรื่องที่มีคู่รองเยอะคู่ บทคู่รองเยอะนี่แบบ... เบะปาก ไม่แยกเรื่องไปอ่ะ งง
ละดันเจอในนิยายของนข. ที่ชอบ... อยากล้มโต๊ะเลิกอ่าน
Ky จ้า พวกมึงชอบการประกาศลิขสิทธิ์ตัดหน้าสนพป่ะ แบบมาลงในทวหรือเฟสว่าที่นี่ได้ไปนะ ฉันรู้ๆ แต่สนพยังไม่ประกาศไร ส่วนตัวกูไม่ชอบรู้สึกมันไม่มีมารยาทเท่าไร มาแง๊บๆว่ามีลิขสิทธิ์ในไทยแล้วกูไม่ไร แต่เล่นมาบอกว่าสนพไหนได้ไปทั้งที่เขายังไม่ได้บอกอะไรนี่กูว่าไม่ใช่ล่ะ
>>503 กูก็รู้สึกว่ามันไม่มีมารยาท แต่ในเมื่อเว็บมันเปิดให้เข้าไปเช็กเลขได้ง่ายๆก็คงแก้ยากว่ะ กูยังชอบเข้าไปเช็กบ่อยๆเลย 55555 แต่เช็กแล้วก็ไม่ได้เที่ยวเอามาป่าวประกาศอ่ะ ของแบบนี้รอสนพ.ประกาศเองดีกว่า ไปเช็กแล้วเอามาประกาศก่อนกูนึกถึงพวกเด็กเบียวมังงะที่ชอบไปรู้ข่าวจากสแกนเถื่อนแล้วเอามาป่าวประกาศทั้งๆที่นิตยสารที่ลงข่าวมันยังไม่ได้วางขายที่ญี่ปุ่นด้วยซ้ำ ไร้มารยาทพอกัน
>>507 ที่กูพูดถึงรวมพวกที่ยังไม่ขอ isbn ด้วย ไม่รู้มึงเคยเห็นมั้ยที่มีออกมาบอกว่ายังไม่ประกาศทางการ เป็นไลน์อัพของปีหน้า ดูในจจหรือ is ไม่ได้ กูไม่รู้ว่าวงในไม่วงในนะ แต่กูว่าทำแบบนี้มันไม่เหมาะเท่าไร การที่รู้ข้อมูลมาก่อนแล้วเอามาพูดในที่สาธารณะแบบเฉพาะเจาะจงสนพกับข้อมูลแบบนี้มองยังไงก็ไม่ค่อยดีอ่ะ กูตระหนักกับเรื่องนี้หน่อย แต่คนเรามันห้ามปากไม่ได้มั้ง ถ้าพูดแนวสปอยว่ามีแล้วแต่ไม่บอกว่าใครถือไว้กูมองว่าเป็นน้ำจิ้มกระตุ้นกระแสไม่ให้หาย
>>508 อ้อ เคยเจออยู่ตามกรุ๊ป เวลามีคนถามหาจะชอบมีบางคนมากระซิบๆว่าค่ายนั้นค่ายนี้ได้ไป จริงๆในโม่งก็มีเถอะ 5555555555 ถ้าแบบนี้กูว่าพูดยากแฮะ คนที่จะรู้ว่าค่ายไหนได้ไปก็ต้องรู้มาจากวงในนั่นแหละ กรณีแบบนี้วงในก็ผิดที่ไม่ปิดให้มิดๆด้วย แต่เป็นกูกูไม่พูดว่ะ บางทีกูทักไปถามสนพ.บางที่เขาก็บอกว่าแพลนจะออกเมื่อไหร่ยังไง กูยังไม่เอามาพูดในที่แจ้งเลยเพราะคิดว่าถ้าสนพ.พร้อมจะบอกเดี๋ยวเขาก็บอกเอง
https://twitter.com/KhorKhaii/status/1498930449191948288 ก็ถ้ามันเป็นความชอบของคนอ่าน มึงจะไปเสือกไรด้วยอ่ะ เออ ถ้ามันมาเม้นในนิยายมึงก็ว่าไปอย่าง
>>510 https://twitter.com/khorkhaii/status/1498946290839068673?s=21 มึงเอาไปอ่านก่อนมาฉอดนะ
>>511 เฉย ๆ เรื่องนอ. ซิงไม่ซิง คบกันมันก็ต้องมีบ้าง แต่ไม่ชอบ ons แบบนี้ก็ยังไม่ได้อีกอ่อ คืออ่านนิยายป่ะ ก้ออยากอ่านที่มันตรงกับความชอบ ไปถามก่อนก็ด่า พอไม่ถามเจอโป๊ะโดยไม่มีคำเตือน ด่าก็ไม่ได้ คือ นี่เงินนะ หามาเอง อยากใช้จ่ายกับสิ่งที่ถูกใจ ส่วน ons คงไม่มาฉอดปิตาไม่ปิตาอีกนะ
เป็นเรื่องชายกับชายยังจะโยงไปปิตาอีกเหรอ คนเราก็มีรสนิยมกันทุกแบบ
ขนาดนิยายชายหญิงก็ยังมีคนไม่ชอบแนวที่พระเอกไม่ซิงเลย
>>514 เห็นด้วยกับมึง แต่ขอขัดนิด กลัวคนเข้าใจผิด ชายชายก็มีเรื่องของปิตามาเกี่ยวได้มึง ปิตาไม่ได้ส่งผลต่อผู้หญิงอย่างเดียว
เอาจริงกูว่าชอบนายเอกซิงเลือกอ่านแต่นายเอกซิงนี่ไม่ผิดนะ แต่ไปพูดใส่นักเขียนว่าเสียดายจัง นายเอกไม่ซิง ไม่อ่านดีกว่า หรืออะไรทำนองนี้ อันนี้มารยาททรามนะ มึงจะคิดในใจหรือออกความเห็นที่ไหนก็ไม่ผิดหรอก แต่อย่าออกความเห็นแบบนั้นใส่นักเขียนก็พอ (มันมีคนอ่านแบบนั้นจริงๆ นะ พวกมาเม้นไร้มารยาทแบบนั้นอะ)
บางคนคงคิดว่าตัวเอง woke แล้วสูงส่งกว่าคนอื่นน่ะ 55555 เหมือนพวกชอบเสพสลับโพแล้วเหยียดคนฟิกซ์โพ เหอๆ
กูเป็นนักเขียน กูโอเคนะถ้านักอ่านมาบอกว่าไม่ชอบแบบไหน เลิกอ่านเพราะไร คือกูหิวเงิน เขียนเพื่อขายล้วนๆ เลยอยากรู้ฟีดแบ็กมากๆๆว่าแบบไหนนักอ่านจะซื้องานกู มีเจอเมนต์ทำนองว่าพอ.ดูตลาดและเหมือนกุ๊ยเลยที่ตบแม่เลี้ยง (คือมันเพิ่งตาสว่างว่าแม่เลี้ยงรังแกนอ.) กูอ่านก็หน้าชาแหละนะ แต่มันก็ทำให้รู้ว่าคนอ่านเลิกอ่านเพราะไร ด่านิยายแต่ไม่ลงมาด่ากูก็พอ
นิยายวายยังจะมาโยงปิตาไม่ปิตาอีกเรอะ
ชีวิตจริงใครจะซิงไม่ซิงก็เรื่องของเขา แค่อยากอ่านนิยายพระเอกเป็นคนแรกของนายเอกนี่มันทาสปิตาเลยอ่อ งง
มันเป็น effect ที่มาจากการโดน cause: ปิตากดทับ
แต่ปิตามั้ย? ไม่นะ
4 พี่น้องตระกูล ต. ประกอบด้วย ตุ๊ ต๊ะ ต๋อม แต๋ม ต๊ะแอบหลงรักเอ๋ สาวมาดทอม ส่วนต๋อมก็แอบชอบ จิรา ส่วนคนเล็ก แต๋ม ก็แอบปิ๊งสาวสวยของโรงเรียน ด้วยความกลัวผู้หญิง แต๋มจึงส่งจดหมายรักไม่ลงนามจนในที่สุดความจริงก็ปรากฏทั้งคู่จึงเข้าใจกัน สำหรับ ตุ๊ พี่ชายคนโตหลงรักจอย สาวรุ่นพี่ที่พบกันโดยบังเอิญ ทั้ง 4 อยากได้รองเท้าราคาแพง ก็พยายามหาวิธี ในที่สุดก็คิดออกว่าจะทำเสื้อสกรีนขาย โดยที่ตุ๊เป็นคนลอกลาย แต่ตุ๊มัวแต่จีบจอย ทำให้งานหยุดชะงักและเริ่มมีปัญหากับจอม เพื่อนร่วมชั้นเดียวกับจอยและชอบจอย จอมท่าตุ๊ชกมวย ตุ๊รับคำท้า โดยมีต๊ะเป็นคู่ฃ้อมให้ แต่เมื่อฃ้อมไปฃักพักตุ๊ก็เริ่มไม่มาฃ้อมเพราะไปเที่ยวกับจอย ต๊ะเริ่มไม่พอใจ ทำให้ตุ๊และต๊ะทะเลาะกันจนแทบตัดพี่ตัดน้อง เมื่อวันท้าชกมาถึง ตุ๊ก็ไม่มาตามนัด ต๊ะจึงอาสาชกแทน ในที่สุดความรักระหว่างพี่น้องก็เหนือสิ่งใด เมื่อต๊ะถูกจอมฃึ่งเป็นนักมวยของโรงเรียนถลุงจนน่วมตุ๊ก็มาถึงเวทีชกพอดี และขึ้นชกจนบอบช้ำทั้งคู่ ในที่สุดจอมก็ยอมแพ้ในความเป็นสุภาพบุรุษของพี่น้องทั้ง 4 คน และในที่สุดพี่น้องก็คืนดีและร่วมทำเสื้อสกรีนอีกครั้ง
โม่งใหม่เหรอวะ ยังไปตอบโทรลอีก
แซ็กถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่า ได้มาอยู่โรงเรียนใหม่ แซ็กตกหลุมรักใบเฟิร์นตอนไปดูแอโรบิค และได้พบกับใบเฟิร์นอีกที่สนามเทนนิส แต่แซ็กได้แต่แอบมอง แซ็กได้รู้จากแพรว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดใบเฟิร์นแซ็กจึงซื้อกล่องดนตรีให้เป็นของขวัญวันเกิด ใบเฟิร์นชวนแซ็กไปงานวันเกิดด้วย
ระหว่างนั้นแซ็กโดยพวกบอมส์ขับรถชนกับรถจักรยานของแซ็กแต่แซ็กก็ขี่ไปจนถึงบ้านใบเฟิร์น พอมาถึงก็เจอแพรระหว่างคุยกันก็เกิดอุบัติเหตุทำให้แพรไปกอดกับแซ็ก ใบเฟิร์นผ่านมาเห็นพอดีเลยเข้าใจผิด พอถึงเวลาเปิดห่อของขวัญใบเฟิร์นชอบของขวัญของแซ็กมาก จึงมาขอโทษแซ็ก แล้วทั้งสองก็เข้าใจกัน ใบเฟิร์นถูกขโมยชิงสร้อยคอและรุมทำร้าย ระหว่างทางแซ็กผ่านมาเห็นจึงเข้าช่วย จนแซ็กถูกทำร้ายบาดเจ็บ บอมส์ผ่านมาโดยบังเอิญจึงเข้าช่วย จนใบเฟิร์นเข้าใจว่าบอมส์เป็นคนช่วย บอมส์และเพื่อนได้ขโมยจักรยานของแซ็กไป แซ็กท้าบอมส์ชก จนเรื่องถึงหู ครูชาลี แซ็กถูกไล่ออกอีกครั้ง แซ็กจึงจะกลับกรุงเทพระหว่างทางแซ็กพบบอมส์และเพื่อนถูกทำร้าย แซ็กจึงเข้าช่วยบอมส์จนทำให้บอร์มเข้าใจแซ็กว่าแซ็กเป็นคนดี สุดท้ายแซ็กและ ใบเฟิร์นก็เข้าใจกัน
คุณเต๋อ นักประดิษฐ์ ได้พบกับความเป็นอัจริยะของตนเอง เมื่อเขาได้สร้างหุ่นยนต์ผู้หญิงเหมือนของจริง แม้ว่าจะไร้ชีวิต ไร้หัวใจ แต่ก็ทำงานได้สารพัด เธอชื่อ สมศรี 422 อาร์ อุดมกับอี๊ด ผัวเมียจอมซ่าส์ข้างบ้าน ชอบวุ่นวายกับเรื่องชาวบ้าน สมศรีช่วยงานบ้านจนภรรยาและลูกรักสมศรี รวมไปถึงหนุ่มมอเตอร์ไซด์ชื่อกริช ได้รู้จักสมศรีและคำพูดแปลกๆ ของเธอ หุ่นยนต์สมศรีชอบเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ก่อให้เกิดความโกลาหล โดยมีเพื่อนบ้านเฝ้าสังเกตและสรุปว่าเธอต้องเป็นหุ่นยนต์ จึงหลอกสมศรีเข้าไปอยู่ในตู้โทรศัพท์ใช้กระบองไฟฟ้าจี้ ทำให้วงจรของสมศรีไหม้ หุ่นยนต์สมศรีผู้เคราะห์ร้ายเดินเตลิดพุ่งชนไปข้างหน้าอย่างเดียว ทุกคนก็พากันออกตามหาสมศรี อุดมกับอิ๊ดไม่หยุดความแสบทั้งคู่ตามไปดูจุดจบของสมศรี..
ดร.วิกันดา พันธ์ภากร แต่งงานกับดร.อนิรุทธิ์ ศัลวิทย์ ทุกคนชื่นชมว่าทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ หรือทรัพย์สมบัติ วิกันดามีเพื่อนสนิทสองคน คือ อนงค์นารถ และ ฉวีเพ็ญ พลเวทย์ สามีอนงค์นารถ เป็นคนสมถะ มีชีวิตเรียบง่าย ซึ่งแทนที่จะดี กลับทำให้อนงค์นารถเบื่อหน่าย ส่วน สีหนาท สามีของฉวีเพ็ญ ก็เสพติดทุกอย่างที่เป็นการพนัน ทั้งครอบครัวทางสามีก็มีแต่ความงก เค็ม หากฉวีเพ็ญยังสามารถยิ้มได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อน
ช่วงแต่งงานใหม่ๆ วิกันดากับอนิรุทธิ์ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขมาก แต่หลังจากทั้งคู่มีลูกด้วยกันสองคน คือ โหน่ง ลูกชายคนโตกับ นุ่น ลูกสาวคนเล็ก อนิรุทธิ์ก็เริ่มออกลวดลายความเจ้าชู้ ฉวีเพ็ญไปเห็นอนิรุทธิ์ไปกินข้าวกับผู้หญิงอื่น เขาโกหกว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อมีคนเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันในที่ต่างๆ หลายครั้ง พอวิกันดาเค้นความจริง อนิรุทธิ์เลยยอมรับว่ามีสัมพันธ์กับสาวเสิร์ฟ ชื่อนงคราญ และยังปลอบใจภรรยาว่าเป็นแค่ของเล่น แต่วิกันดารับไม่ได้
อนิรุทธิ์พยายามจะให้วิกันดาเข้าใจธรรมชาติของผู้ชาย ที่ต้องมีผู้หญิงอื่นเป็นทางผ่าน เขาย้ำว่ารักวิกันดาคนเดียว แรกๆ วิกันดาเสียใจจนคิดจะหย่า แต่ก็ติดตรงหน้าตาและเกียรติ วิกันดาพยายามตามอนิรุทธิ์ให้ทัน แต่ก็ไม่เคยได้ผล อนิรุทธิ์มีลูกเล่นสารพัดเสมอ และยังถือว่าการที่ภรรยาได้รับรู้ คือการอนุญาตให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างตามใจชอบ อนิรุทธิ์จึงมักไม่อยู่ติดบ้าน วิกันดาทำได้เพียงอย่างเดียว คือทำใจ
นงคราญมาหาวิกันดา บอกว่าท้องกับอนิรุทธิ์และขอเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่โดนอนิรุทธิ์ตะเพิดออกจากบ้านอย่างไม่ใยดี และยืนยันกับวิกันดาว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกเขาแน่นอน วิกันดาคิดขอหย่า แต่อนิรุทธิ์มั่นใจว่าวิกันดาไม่กล้าทำ สุดท้าย นงคราญก็หายไป เพราะอนิรุทธิ์ให้เงินไปก้อนหนึ่ง หลังจากนั้นวิกันดาก็ต้องทำใจกับของเล่นรายต่อๆไปของอนิรุทธิ์
มุตตา และ มุนินทร์ เป็นฝาแฝดเหมือนที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว อันเป็นผลจากการเลี้ยงดูและชะตากรรมของสองพี่น้อง ในวัยเยาว์มุตตาเป็นลูกรักของ นายแปลก นางพิณ เจ้าของร้านกาแฟในเมืองเพชรบูรณ์ มุตตาเป็นเด็กเลี้ยงง่าย สะสวย อ่อนหวาน ในขณะที่มุนินทร์เป็นลูกชัง เพราะเป็นเด็กดื้อ เลี้ยงยาก มอมแมม เป็นโรคผิวหนัง มุนินทร์อิจฉามุตตาคอยกลั่นแกล้ง มุตตาเองก็เป็นเด็กช่างฟ้อง ทำให้ทั้งสองเกลียดชังกันมากขึ้น
เมื่อเด็กทั้งสองเติบโตขึ้น มุตตาเป็นเด็กสาวแสนสวย ผมยาว มารยาทงดงาม เก่งการบ้านการเรือน แต่มุตตากลับหัวไม่ดี เรียนช้ากว่ามุนินทร์ถึง 2 ปี ส่วนมุนินทร์มอมแมม เก้งก้าง เป็นนักกีฬาของโรงเรียน เป็นเด็กเรียนดีที่ถูกตีรายวัน มุนินทร์พบว่าเธอมีอาวุธคือความฉลาด และจะใช้การศึกษาเป็นบันได มุนินทร์ยังมีปมอยากรวย กลายเป็นเด็กขี้เหนียว เก็บหอมรอมริบมาตั้งแต่เด็ก และจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ร้านกาแฟ นางพิณโทษว่าเป็นความผิดของมุตตา มุนินทร์เอาเงินเก็บ 70,000 บาทออกมาให้พ่อแม่ซ่อมบ้าน และคือจุดเริ่มต้นที่มุนินทร์เริ่มกลายเป็นลูกรักบ้าง
มยาวี เป็นลูกสาวคนเดียวของ เมศร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจใหญ่กับ วิภาวี ผู้หญิงเก่งที่ร่วมบริหารธุรกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับสามีมาตลอดชีวิต ในวันเกิดครบ 17 ปีบริบูรณ์ของเมยาวี เธอได้รับของขวัญจากพ่อและแม่ที่ล้ำค่ามากกว่ารถยนต์ส่วนตัว หรือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด เพราะคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นคงไม่อาจเทียบได้กับสายสิญจน์ที่พ่อและแม่ช่วยกันผูกข้อมือให้เธอในตอนนี้ ด้ายแม้เก่าคร่ำคร่าด้วยผ่านเวลามาเท่าอายุของเธอ เพียงไม่กี่เส้นที่กระหวัดเกี่ยวพันกันนั้นล้วนถอดแบ่งมาจากด้ายมงคลจากพิธีสมรสของพ่อแม่ ความรักอย่างเปี่ยมล้นจากเมศร์และวิภาวี หล่อหลอมรวมในเมยาวีกลายเป็นเด็กสาวที่มีชีวิตสมบูรณ์พร้อมคนหนึ่ง เมยาวีเป็นดาวเด่นของโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่สุดในกรุงเทพฯ เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา รูปร่างหน้าตา ฐานะและชาติตระกูล ชีวิตคุณหนูยาวีไม่เคยพบกับคำว่าผิดหวัง ยกเว้นเรื่องการเรียนและกิจกรรมบางอย่างที่บางครั้งยาวีต้องหล่นลงมาเป็นอันดับสอง เพราะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง…กานติมา
กานติมา หรือ กาเหว่า เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเมยาวีมาตลอด นับตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน กาเหว่าทำหน้าตายเข้ามานั่งโต๊ะที่เพื่อนสองคนของเมยาวี คือ แยม และเยลลี่ จองไว้ก่อนหน้า ด้วยความอารมณ์ร้อนของเยลลี่และอาการขี้เบ่งของแยมทำให้เกิดเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือกับกาเหว่า เมยาวีไม่อยากมีเรื่อง แต่ต้องทำเพราะช่วยเพื่อน เธอเลยพลาดท่าเล็บยาวสวยหัก เสียงกรีดร้องเพราะความตกใจของเมยาวี ทำให้กาเหว่ามองเธอหัวจรดเท้า และรู้สึกเหม็นหน้ากันมาตั้งแต่นั้น เมยาวีและกาเหว่ามีอันต้องปะทะกันอยู่เนืองๆ เพราะทั้งคู่เรียนห้องเดียวกัน ผลการเรียนผลัดกันเป็นที่หนึ่งที่สองมาตลอด ในด้านกิจกรรม…คนหน้าตาดีอย่างเมยาวีมักจะได้เป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งอยู่เสมอ แต่กาเหว่าก็ไม่น้อยหน้า เมื่อไม่สู้เรื่องความสวย เธอก็ผลักดันให้ตัวเองได้เป็นประธานสี ได้ถือธงเดินคู่กับดรัมเมเยอร์ทุกครั้ง ความแตกต่างทางฐานะ หรือชาติตระกูลไม่ได้ทำให้กาเหว่ารู้สึกต่ำต้อยกว่าเมยาวีเลยแม้แต่น้อย หากเรื่องหนึ่งที่กาเหว่าแปลบใจ และอดเปรียบเทียบในใจไม่ได้ คือ ความรัก ความผูกพัน ในครอบครัวของเมยาวีที่ความอบุอุ่นอาบมาอุ่นถึงในหัวใจกาเหว่าเช่นกัน
ช่างเป็นความน่าน้อยเนื้อต่ำใจเสียจริงที่เจ้านางละอองคำ ต้องเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชังของพ่อบังเกิดเกล้า ซึ่งเป็นถึงเจ้าฟ้าเมืองนาย เพราะคำกล่าวหาที่ว่าแม่ของตนคบชู้จึงถูกส่งให้ไปอยู่นอกเมืองพร้อมกันแม่ลูก และเจ้านางรุ้งแก้วน้องสาว แม้ว่าแม่ตายแล้วก็ยังไม่ได้รับเกียรติให้บรรจุอัฐไว้ในเมืองเลย ยิ่งสร้างความคับแค้นใจและน้อยใจอย่างมาก แต่ก็ยังดีที่มีชายคนรักอย่าง เจ้าราบฟ้าคอยอยู่เคียงข้าง และได้ให้คำมั่นสัญญาว่าเมื่อใดที่ได้เป็นใหญ่เป็นโตแล้วจะไม่ลืมละอองคำอย่างแน่นอน เกิดมาช่างแสนอาภัพเจ้านางถูกกีดกันความรักจากเจ้านางเมืองปิ่นที่เสน่ห์หาในตัวของเจ้าราบฟ้าเช่นเดียวกัน นางใช้อาคมสะกดเจ้าราบฟ้าได้อยู่หมัด และได้เป็นมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองนาย
มีความสุขได้ไม่ทันไร เมืองนายถูกพวกฝรั่งโจมตีจนไม่เหลือซากชิ้นดี แม้ว่าจะมีดาบคู่บ้านคู่เมืองก็ตาม เจ้านางละอองคำเห็นว่าผีปู่ผีย่าไม่ได้ช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย จึงตัดสินใจทิ้งลงน้ำเสีย และรับผีต่างวงศ์มาเลี้ยงดูหวังว่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้น เจ้านางรุ้งแก้วห้ามอย่างไรละอองคำก็ไม่ยอมฟัง ทั้งสองพี่น้องรอดมาจากสงครามได้เพราะผีเจ้า จึงทำให้ครอบสมบัติจากพ่อค้าได้อย่างหมดสิ้นและมีชีวิตใหม่ที่เมืองบางกอก
เจ้าหลวงปิตุลา พ่อของเจ้าอนัญทิพย์ ถูกพี่ชายของเศกขระเทวีสำเร็จโทษ และยึดอำนาจ ตั้งตนเป็นเจ้าหลวงองค์ใหม่ เจ้าหลวงบูรพคามเป็นคนนิสัยกักขฬะ ตรงข้ามกับน้องสาวที่เป็นคนใจบุญสุนทาน ขี้สงสารโดยสิ้นเชิง เมื่อเจ้าอนัญทิพย์หมดอำนาจวาสนาลง ก็ถูกพวกเจ้านางอื่นๆ เยาะเย้ยว่า เป็นเจ้านางที่มีแม่เป็นเพียงแม่ค้านั่งตลาด เจ้าอนัญทิพย์แค้นใจมาก และคิดหาทางจะช่วงชิงบ้านเมืองให้กลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง
เจ้าเมืองคุ้ม คนรักของอนัญทิพย์ เจ้าเมืองคุ้มสงสารเจ้าอนัญทิพย์ จึงสัญญาว่าจะเอาเมืองทิพย์คืนมาให้อนัญทิพย์ให้ได้ สุดท้ายก็สามารถเอาชนะได้ แล้วขึ้นเป็นเจ้าหลวงแทน โดยสัญญาว่าจะยกอนัญทิพย์เป็นพระมหาเทวี แต่ด้วยคำทัดทานของเจ้าสำเภางามผู้เป็นแม่ ว่าเจ้านางเศกขระเทวี ได้ตำแหน่งเป็นพระนางหน่อเจ้าแล้ว จึงจำเป็นต้องยก เจ้านางเศกขระเทวี เป็นพระมหาเทวีแทน ยิ่งสร้างความเจ็บใจให้กับเจ้าอนัญทิพย์มากขึ้นเป็นทวีคูณ
เมื่อเจ้าเมืองคุ้มเป็นใหญ่ เจ้าเมืองมีด ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของเมืองทิพย์ จึงได้ยกเจ้านางตองนวลให้เป็นพระสนมอีกคนหนึ่ง นอกจากนั้น ตอนที่เจ้าเมืองคุ้มออกไปรบกับฝรั่ง ก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่ยังโชคดี ที่ได้สาวชาวป่า ชื่อยอดพุ่มช่วยไว้ หลังจากนั้น เจ้าเมืองคุ้มก็รับมาเป็นเจ้านางอีกคน
ต่อมา เจ้านางทั้งหลายก็มีลูกกันทุกคน เจ้านางเศกขระ มีลูกสาว คือ ทองพญาพระนางหน่อเจ้า เจ้าอนัญทิพย์ มีลูกสาว 2 คน คือ เจ้านางปิ่นมณี พี่สาว กับ เจ้านางเรณุมาศ น้องสาว ซึ่งนิสัยต่างกันสิ้นเชิง คือ พี่ได้นิสัยมาจากแม่ อย่างเต็มเปี่ยม ส่วนน้องเป็นคนขี้สงสาร ขี้กลัว และหัวอ่อน
เจ้านางตองนวล มีลูกชายชื่อ ตองแปง เป็นคนไม่เอาไหน ขี้เหล้าเมาหยำเป ริมบึง มีลูกชายชื่อ เจ้าครองภพ ส่วนเจ้านางยอดพุ่ม มีลูกชายชื่อ เจ้าม่านฟ้า แต่ด้วยความกลัวอันตราย จึงลี้ภัยไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าเมืองคุ้ม ฝากลูกชายไว้ให้ ส่วนตัวเองหนีไปบวชชี
เจ้าอนัญทิพย์วางแผนเตรียมให้ม่านฟ้าครองอำนาจแทน เพราะม่านฟ้า หลงรักเรณุมาศ สุดท้ายก็ทำสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือของบัวไหล ข้าไทคนสนิท วางยาเจ้าเมืองคุ้มจนอ่อนแอลง อนัญทิพย์จึงสวมรอย บงการทุกอย่างจนม่านฟ้าได้เป็นเจ้าหลวง โดยมีอนัญทิพย์คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง
สุดท้าย อนัญทิพย์ก็หาทางจัดการเศกขระเทวีจนได้ โดยการแกล้งทำสำนึกผิด หลอกคนอื่นว่าตัวเองเหนื่อยหน่ายชีวิต เลยอยากหันหน้าหาพระธรรม เลยหลอกเศกขระว่าเจอพระธาตุร้างบนเขา อยากชวนไปบูรณะด้วยกัน แล้วสุดท้าย ด้วยความไว้ใจ เศกขระจึงถูกฆ่าตายอยู่บนเขานั้นเอง
นายเคนสามีของคำปองจับได้งูลักษณะประหลาดเป็นสีขาวตลอดตัวขนาดใหญ่กว่าแขนยาวประมาณวาเศษบนหัวมีหงอนเหมือนหงอนพญานาค ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นงูเจ้าแม่ที่เรียกกันว่า “นาคี” เขานำไปขายให้กับฝรั่งนักค้างู จอห์น วินสัน ด้วยราคาสูงลิ่ว คำปองซึ่งท้องแปดเดือนมีความเชื่อเช่นเดียวกับชายบ้านอีกหลายคนว่างูเจ้าแม่นี้หากไปหลบหลู่ดูหมิ่นจะต้องประสบกับความพินาศฉิบหาย นางพยายามห้ามปรามสามีแต่สายไปเสียแล้ว กลุ่มของจอห์น วินสัน ประกอบด้วยผู้ช่วยชาวไทยอีกสองคนคือ นายกอ และ นายบุญส่ง นายบุญส่งนั้นร้องด่าหลบหลู่งูขาวที่จับมาได้และท้าทายว่าหากเป็นงูเจ้าแม่จริงก็ให้สำแดงฤทธิ์เดช ฉับพลันนั้นเองขณะที่เปิดกรงเพื่อนำงูที่จับได้บรรทุกขึ้นเกวียน ปรากฏอาเพศบนท้องฟ้าเกิดสุริยคราสพายุอื้ออึงฟ้ามืดครึ้มเกิดลมพายุรุนแรงจนหมู่บ้านถล่ม นายเคนถูกกระท่อมทับตายคาที่ บุญส่งถูกไม้ทับขาข้างหนึ่งจนแหลกเหลว นายกอนั้นหนีไปได้ แต่จอห์น วินสัน ถูกงูเผือกฉกตาย ส่วนคำปองนั้นเกิดเจ็บท้องคลอดกะทันหันเด็กทารกหญิงที่คลอดออกมาสิ้นชีวิต แต่ก่อนที่คำปองจะหมดสติไปนางบังเกิดเห็นภาพงูใหญ่เลื้อยแทรกกลืนหายเข้าตัวเด็ก และลูกของนางก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
แก๊งลูกสาวโม่งนี้แตะไม่ได้เวัย
พูดถึงก็ธาตุไฟแตกที
งานดี แซ่บเว่อร์ https://twitter.com/RYO_KANZAKI1031
ky ไม่รู้ถูกมู้มั้ย ใครรู้ลายแทงตัวจริงของ นข y เรื่อง กกอด (omegaverse) ที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้บ้าง กูอยากบล็อกเฟซส่วนตัวเขาอะแต่หาไม่เจอ เอาคนวิจารณ์นิยายทั้งดีไม่ดีไปหลงหลุมด่าเหี้ยมากไม่แยกแยะเลย เป้นหลุมก็เข้าใจแต่มันพิมพ์ google เจอข้อมูลส่วนตัวที่เขาแคปแขวนเลยก็ไม่ไหว
ไม่ซื้อไรเงี้ย
ห่างหายจากวงการนิยายไทยมานาน เลื่อนเจอเรื่องนับ*** ไหน คนนั้นหายหัวไปไหนไม่เห็นมาดราม่าเรื่องชื่ออีกแล้วเหรอ หรือตัวนี้แก้งเดียวกันดีลแล้วเลยไม่เอาเรื่อง นี่ เลขเก้าเลยนะ ทีตอนสิบหวงเป็นหมาบ้าเลยนะมึง
อยากรู้เหตุผลอยู่นะ
ทำไมต้องตั้งชื่อตัวละครเป็นชื่อจีน แต่เซตติ้งไทยชิบหาย หรือซอมบี้ วันสิ้นโลก อวกาศใดๆ ก็ชื่อจีน
เพราะช่วงนี้นิยายจีนเยอะเหรอ
หรือกูไปเปิดเจอนิยายแปลวะ = =
>>543 ช่วงนี้แนวจีนมันฮิตเลยเกาะกระแสกันเยอะแค่นั้นแหละ เซ็ตติ้งแบบจีนแต่ชื่อไทยก็มี จะยังไงขอเกาะกระแสความเป็นจีนไว้ก่อน
บางเรื่องก็ผสมญี่ปุ่นฝรั่งไทยจีนฯลฯมั่วเลยแล้วอ้างว่าเป็นโลกอื่นไป แต่ถึงบอกเป็นโลกอื่นกูอ่านไปก็งงไปละวะ ถ้าคิดตามสามัญสำนึกถ้าเป็นวัฒนธรรมแบบผสมผสานก็ควรจะเป็นเมืองสำคัญที่ผู้คนหลากเชื้อชาติมาตั้งถิ่นฐาน ไม่ก็เป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์ของหลายชนเผ่าร่วมกัน แต่เห็นส่วนมากเซ็ตติ้งหมู่บ้านเริ่มต้นของตัวเอกเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ห่างไกลความเจริญไม่มีอะไรน่าสนใจสักอย่าง ประวัติร่วมของต่างชนเผ่าก็ไม่เคยเผยให้เห็นย้อนกลับไปกี่รุ่นๆ บรรพบุรุษแต่ละคนก็อยู่หมู่บ้านนี้มาแต่แรกแล้ว กูงงฉิบหายว่าความหลากหลายของชื่อมันมาจากวัฒนธรรมส่วนไหนของหมู่บ้านวะ
กูสงสัยขึ้นมาเลยแฮะว่าพอเป็นชื่อจีนแล้วมันเึงให้คนสนใจได้เยอะขึ้นมั้ย
กับสังคมไทยเล่นยาก ปรับเทคโนโลยีก็หาเหตุรองรับยาก การเมืองมันยุ่บยั่บวุ่นวายเชื่อมโยงกับเบื้องสูงทั้งนั้น ระบอบการปกครองเปลี่ยนไม่ว่าย้อนหรือไปข้างหน้าก็ 112 สิ้นโลกยิ่งไม่มีทางรอด หลิ่มพร้อมกอดคอตัวเองพร้อมทุบหัวคนเห็นต่างจับยัดถุงพกไปตายพร้อมกัน 555 เขียนแบบสายฮาทิ้งสมองก็ไม่รอด 112/116 หรอก
Ky ทำไมเดี๋ยวนี้รับรุก ใช้เวนรึนหมด มันมาจากไหนวะ
เมื่อก่อนยังเคะเทะอยู่เลย เดี๋ยวนี้มังงะญี่ปุ่นยังใช้เวนรึน วดฟ
ปจบกูยังไม่รู้เลยว่าแวนรึนอันไหนรุกอันไหนรับ55555 แต่ตลกที่แค่นี้ก็ม่าได้
กูหาทวีตต้นตอไม่เจอบล็อกไปแล้วจำไม่ได้ว่าแอคไหน สายใช้เวนรึน not all นี่บี้เคะเมะเรื่องคำใช้มากๆ ช่วงที่ด้อมเกาเข้ามาในวงเมะกับมังงะเยอะขึ้นตอนโควิดมา ไปๆ มาๆ ทำเป็นเธรดเหยียดจริงจังว่าเคะเมะเป็นคำดัดมาจากเกา เอามาจากการชิปศิลปิน ชาวด้อมมังงะอนิเมะทั้งหลายหัวจะปวดกับติ่งฝึกเข้าด้อมประเภทนี้ พอมีคนบอกบอกว่าใช้มานานแล้ว ก็เถียงอีกว่าไม่ต้องมาเอดูเคตตามด้วยการเหยียดเจน เจนวายนี่โดนแขวนเป็นกระสอบทรายให้โดนด่าเช้าเย็นเลย เป็นทั้งเจนคนไม่ตระหนักรู้แล้วยังใช้คำผิด หนักๆ มีเชื่อมไปยุค exteen ที่มีอินเซสเปโดอีก กูเลยบล็อกไป เสียเวลาถกด้วย 555
>>556 เวน=เมะ รึน=เคะ
กูเป็นเด็กเจนใหม่นะ กูว่าจะใช้รุกรับเคะเมะก็ใช้ไปเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกประสาทแดก (ใช้คำหยาบกับคนอายุมากกว่ารู้สึกแปลกๆแฮะ) แต่กูแค่อยากบอกว่าใช้ไปเถอะ อีคนว่ามันไร้สาระ
งั้นวายจีนต้องใช้ กง กะ โซ่ว ไหม
มันก็แค่มึงติ่งสายไหนก็ไปก๊อปคำทับศัพท์เค้ามาเท่านั้นเอง ไหงเบียวได้ขนาดนั้นน้อ
รวมศัพท์โพนี่ตอนนี้มีสารพัดชาติเพราะมันแมสจนสายผลิตเริ่มลงตลาดนี้จากทุกชาติแล้ว คำพวกนี้ก็คือรุกรับในภาษาชาตินั้นๆ ต่างจากแต่ก่อนมีญป เป็นผู้ผลิตหลัก เลยมีแค่เคะเมะ ตามญป
ปจบ.กูใช้คำว่าซ้าย-ขวาแทนแล้ว เมื่อก่อนกูใช้เคะ-เมะนั่นแหละ แต่ก็เปลี่ยนเป็นซ้าย-ขวาตอนคุยกับเพื่อนมันคุยกันลื่นกว่า แต่เวนรึนสำหรับกูมันใหม่จริงตอนอ่านละแปลกๆอยู่ ถามเพื่อนสายฟังเพลงเกามันยังไม่รู้เลยว่าคำนี้คืออะไรเพราะมันก็ใช้เคะเมะเหมือนกัน55555 น่าจะเฉพาะกลุ่มอีกทีนึง
>>563 ซ้ายขวาคือตำแหน่งหน้าหลังในการวางโพสิชั่นไงมึง ซ้าย-รุก ขวา-รับ
axb a คือ ซ้าย , b คือ ขวา
อันนี้ไม่เกี่ยวกับข้างบนนะ กูว่าอนิเมมังงะมันเป็นของญี่ปุ่น ก็ควรใช้เมะเคะไหม เวนรึนมันศัพท์เกาหลี เอามาใช้กับของญี่ปุ่นทำไมกันล่ะ ถ้าจะใช้ก็ไปใช้กับมังฮวายังพอได้ หรือใช้รวมๆกันไปเลยซ้าย-ขวาไปเลยก็โอเคอยู่
>>564 จริงๆ คนญปก็มีใช้ซ้ายขวานะ 左 ซ้าย, 右 ขวา ตามตำแหน่งโพสิชั่นในการเรียงชื่อเหมือนกัน เพราะเริ่มต้นมันก็มาจากเอาชื่อรุกขึ้นก่อนรับเนี่ยแหละ บางคนสลับได้ก็บอกรีบะ แต่ก็ยังใช้เสะเมะ,อุเคะอยู่
เอาตรงๆ กูก็ไม่เข้าใจการเคลมเวนรึนแล้วมายัดนิยามแปลกๆ ใส่เคะเมะทั้งที่มันก็ความหมายคล้ายๆกัน ชาติอื่นก็ใช้เหมือนกัน แปกจริง
คนใช้ก็ตั้งหลายคำจากต่างเชื้อชาติมากมาย แต่ทำไมพวกมีปัญหาบางส่วนเห็นชัดๆ ในไทนนี่ต้องเป็นสายเกากัยด้วยวะ 🤦🏻♀️ ปลาตายตัวเดียวเน่ากันทั้งคลองนะ คิดบ้าง มีสติกันหน่อยเถอะ
ป้ายยานิยายสนุกๆที่ไม่ใช้ชื่อภาษาจีนหน่อยสิ
กุจะร้องไห้ จำชื่อตัวละครยากชิบหาย
กุรผะสาทแดกกับคนใช้เวนรึนเวลาเจอคนใช้ในกรณีพูดถึงสองดีเพราะส่วนมากคนใช้แม่งมาจากด้อทเกาไม่ก็เป็นคุมือใหม่ประสาทแดกว่ะ
ถ้าพูดถึงด้อมเกาหลีหรือมึงพิมพ์เกาหลีกุจะไม่อะไรเลยนะ แต่แม่ง5555555
กูคิดว่าใครชินกับคำศัพท์ชุดไหนมึงก็ใช้ไปเลย สมมติมึงชินกับภาษาอังกฤษ จะเอา top/bottom มาใช้กับด้อมอนิเมะก็แล้วแต่ แต่ไอ้พวกที่คิดว่าใช้เวนรึนเจ๋งกว่า ใช้เคะเมะล้าสมัยเป็นอีแก่เจนวาย อีพวกนี้คือประสาท
ทำไมคนต่อต้านเวนรึนในด้อมสองดีกันเยอะจังอะ ไม่นับกรณี >>574 นะ อันนั้นแย่จริง แต่ถ้าคนใช้เวนรึนเขาไม่ได้ไปก่อกวนหรือมีเจตนาร้ายต่อใครละด่าเขาซะเสีย อันนี้กูว่าที่อาการหนักคือคนด่า 55555555 ทีด้อมเกาหลีกับด้อมตะวันตกยังเห็นคนใช้เมะเคะได้เลย ไม่เห็นมีใครมีปัญหา ทำไมด้อมญี่ปุ่นจะมีคนใช้เวนรึนบ้างไม่ได้วะ เป็นอาการต่อต้านศัพท์ใหม่เหรอ
กูไม่ใช้ทั้งเวนรึนหรือเคะเมะทั้งนั้นแหละ ใช้ซ้ายขวาไม่ก็บนล่าง เพราะก่อนหน้านี้อยู่ด้อมตะวันตกมานานละคนในด้อมที่กูอยู่ส่วนมากใช้ซ้ายขวาบนล่างกันอะ (อย่างกับบอกทิศ5555555) แต่ก็ไม่เคยอคติกับคนใช้เมะเคะในด้อมตะวันตกเลยนะ พอกลับมาด้อมญี่ปุ่นละช่วงแรกก็งงเวนรึนบ้าง แต่พอจำได้ว่าเวนรึนคืออะไรก็ไม่มีปัญหาละ
กูเจอประเด็นนี้เต็มเฟสเลยวะ มีแต่คนบอกไม่ชอบ ไม่ได้มีปัญหากับภาษาแต่เห็นแล้วขัดตา5555555555555
ส่วนตัวกูคือไม่ได้เกลียดที่ตัวคำแต่เป็นที่ตัวคน มันไม่ใช่คำที่ทุกคนจะรู้ความหมาย เคะเมะเป็นคำภาษาต่างประเทศแต่มันอยู่ตั้งแต่วายยุคแรกๆ ส่วนใหญ่เข้าใจ ซ้ายขวาเข้าใจได้ง่ายไม่มีปัญหา บนล่าง Top Bottom คนส่วนใหญ่แปลได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอีกเหมือนกัน
ถ้าคุยในที่ของตัวเองจะใช้อะไรก็ใช้ไป แต่กูไม่ค่อยโอตรงไปคุยในโพสต์คนอื่นที่เขาใช้คำอื่นอยู่เห็นๆ แล้วมาโพล่งเวนรึนๆ ใส่โดยที่ไม่สนว่าคนที่โดนพูดใส่เข้าใจหรือไม่เข้าใจ จนบางทีเหมือนกับยัดเยียด เหมือนมึงอยู่ดีๆ มีคนมาพล่ามคำเฉพาะกลุ่มใส่ที่มึงฟังไม่เข้าใจใส่อะ แล้วยังไม่นับพวกใช้เวนรึนหลายๆ คนชอบทำตัวให้คนยี้อีก มันเป็นภาพจำ
กูว่าส่วนนึงที่คนเกลียดเวนรึนมาจากนักฉอดเคยอวยว่าเวนรึนให้ความรู้สึกไม่ยึดติดกรอบไบนารีเท่าเมะเคะด้วยว่ะ จริงๆก็ความหมายเดียวกันแท้ๆแค่ต่างภาษา รู้สึกไปเองแต่เอามาอวยกดหัวคนอื่นทำไม
จะใช้อันไหนก็ใช้ไป แต่มีมารยาทหน่อย กูไม่อะไรกับเวนรึน แต่แบบจะมาข่มว่าดีกว่า เจ๋งกว่าก็ไม่ใช่เหอะ
ย้อนกลับมาที่ติ่งเกาปสด.อีกแล้วเหรอวะ5555555
มันแปลกๆเหมือนไปเรียกอปป้าว่าเกอเกอไหมอะ
>>583 กูว่าถ้าเรียกในที่ตัวเองก็เรียกไปเหอะ 555555 กูมีเพื่อนเรียนเอกญี่ปุ่น แต่มันติ่งมาร์เวลมาก คลุกคลีกับด้อมมาร์เวลฝั่งญี่ปุ่นมากกว่า กูเห็นมันเรียกหมอแปลกว่าเซนเซๆๆ แต่มันเรียกในที่ของมันเพราะความเคยชิน แล้วไม่ได้ไปไล่จิกหัวคนอื่นให้เรียกเหมือนมันอะ พวกที่เรียกเพราะความคุ้นเคยของตัวเองแบบนี้กูโอเคนะ ไม่รู้สึกว่าแปลกอะไร ไม่เหมือนอีพวกใช้เวนรึนเพราะคิดไปเองว่าเก๋ไก๋ไฉไลกว่าแล้วเที่ยวไปแซะคนใช้คำอื่น
ky กูเผือกเรื่องก๊อปนิยายพีเรียดที่ต้นฉบับวิวสองพัน ของก๊อปวิวเป็นล้านไม่ทัน เข้าโม่งหวังจะมาอ่านซะหน่อย ไม่มีให้อ่านเลย ฮือออออออ
>>586 ไม่รู้จะคุยอะไรว่ะ คนก็อปเหมือนมีพื้นการเขียนดีมากเท่านั้นแต่ไม่ถึงขั้นเป็นนักเขียน ถ้าไม่ได้เอาพล็อตใครมาใช้ก็คงเป็นโนเนมเหมือนเดิม ตอนนี้ก็เป็นโนเนมแหละ พ่วงด้วยขี้ก็อปต่อท้ายชื่อเพิ่ม ติ่งแตดก็มาช่วยขุดหลุมฝังลึกขึ้นทั้งนั้น เรื่องไม่ดังและดับอย่างรวดเร็ว อาเมน
ย้อนเรื่องก๊อปนิยายหน่อย เห็นทวิตบอกนิยายต้นฉบับแม่งพิมพ์เอสองตัวแทนสระแอ เออ จะหากันไม่เจอก็แปลก 55
เออ แต่ก็นะ เข้ากับดราม่าใช้เอแทนแอพอดี กลายเป็นตัวอย่างไปเลย
ไม่วายแต่ขอเม้าได้ป่ะ
ดกจาหายไป5เดือน ทำไมโผล่มากลายเป็น23เล่มได้วะ อิสัสสสส
กูสูนนนนน
แล้วสรุปมันแปลห่วยอย่างที่ด่ากันจริงป่ะ ดกจาอะ
เรื่องแปลห่วยกุไม่รู้นะ แต่ซอยเล่มนี่ไม่น่าเกลียดไปเหรอวะ ซอยเองด้วย โห ทางเกาหลียอมได้ไง
มึงกุขอทางเข้ากลุ่มไลน์ห้องโม่งหน่อย กุเคลียร์แชทละดันกดออก
ก็เขาบอกยังไม่แน่นอนนิตอนกันยา แล้วแบ่งตามอีบุ๊คมันก็ไม่แย่นะ กูไม่เห็นด้วยกับดราม่านี้ กูว่ามันเกินไปหลายครั้งแล้วด้อม ปั่นกันให้ของถูกลิขสิทธิ์โดนด่าไม่เหลือข้อดี คนในด้อมก็ไหลตามดันไม่มีคนปรามอะไรเลย อ้างความรักๆๆๆๆๆ รักหนังสือหรือรักตัวเอง แต่อะไรที่มีแปลเถื่อนมากก่อนแล้วมีคนมาแอลซีที่ไรพอแม่งมีปัญหาแบบนี้ประจำ เรื่องราคาคนออกมาบ่นแพง เอาเปรียบต่ไม่ดูบริบทรอบตัวมึงเลยว่าแม่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดราคานี้ แล้วพอคนในวงการหนังสือออกมาบอกว่าค่าแรงต่ำ ต้นทุนหนังสือสูงมากก็ค่อยเห็นใจ แต่พอเขาขึ้นราคามึงก็เ่าก่อน จะนายทุนไม่นายทุนแม่งก็ต้องมีต้นทุนกันทั้งนั้น พวกมึงเล่นขู่แบนไม่ซื้อ ด่าเขายับ จำนวนเล่มที่เขาจะผลิตมันก็ต้องน้อยลง พวกfixed cost ตัวหารก็น้องลง ค่าลิขสิทธิ์สูง ราคาก็แพงขึ้นแล้ว อีกอย่างราคากระดาษก็ขึ้นเอาๆ ค่าครองชีพขี้นชืบหายวายวอด มึงคิดว่าจะขายราคาหน้าละบาทอย่างที่หลายคนยึดเป็นมาตราฐานได้จริงๆอ่อวะ
แล้วก็ค่าลิขสิทธิ์หนังสือมันขึ้นอยู่ราคาปกด้วย คูณค่าลิขสิทธิ์เปอร์เซ็นต์ราคาปก +จำนวนเล่มที่ตีพิมพ์ ถ้าด้อมนี้อยากให้นักเขียนได้ค่าลิขสิทธิ์น้อยๆในการตีพิมพ์แต่ล่ะครั้งมึงก็ใช้มาตราฐานน่าละบาทต่อไปล่ะกันเนอะ ใช้ยัน 20 ปีข้างหน้าเลย ไม่ต้องคิดถึงภาวะเงินเฟ้อ น้ำมันขึ้นของแพงใดๆ ค่าแรงขึ้น อย่างอื่นขึ้นได้ หนังสือห้ามขึ้น คุณภาพชีวิตคนทำงานวงการนี้มันจะไปดีขึ้นได้ไงวะถ้าทุกคนทำตัวเหมือนรู้คอสทุกอย่าง
มึงพูดได้นะประเด็นนั้น แต่เอามาใช้กับดกจาไม่ได้วะ5555555555 เรื่องติดลมบนเขาไม่กระทบอะไร แบนๆยังไงแม่งก็ซื้ออยู่ดีก็ดราม่าไปนั้นละ เรื่องเศษๆค่อยมาพูด
>>611 +1 ถ้าสนพ.เล็กๆกูอาจจะเห็นใจอยู่บ้าง แต่เครือใหญ่แบบนี้ถ้าทำออกมาห่วยกูก็ไม่เห็นใจนะ เครือใหญ่แบบนี้มีกำลังที่จะจ่ายเงินหนักๆจ้างคนมีคุณภาพมาทำได้มากกว่าสนพ.อื่นๆด้วยซ้ำ แต่ดันไม่ทำเอง พองานออกมาไม่ดีจะมาเบลมผู้บริโภคก็ไม่ได้นะ เล่มนึงไม่ใช่ถูกๆ จ่ายแพงขนาดนั้นคนก็อยากได้ของที่คุณภาพดีสมราคา ไม่ใช่แปลผีเข้าผีออกแบบนี้ แถมเคสนี้มันไม่ได้เป็นปัญหาเพราะมีแปลเถื่อนมาก่อนแล้วคนเอาไปเทียบกับแปลเถื่อนด้วย เพราะด้อมดกจานี่แอนตี้แปลเถื่อนกันมาแต่แรกแล้ว
ดราม่าค่าหนังสือหน้าละเกินหนึ่งบาทนี่ยังไม่หมดจากวงการอีกเหรอ ต้นทุนเพิ่มขนาดนี้จะทำไงให้หน้าละ 1 บาทได้วะมึง เฮ้อ
อ้อ แล้วก็คนที่ด่าๆสนพเรื่องแปลตอนนี้อะ เขาอ่านจากอิ้งกันทั้งนั้น คนละกลุ่มกับที่อ่านแปลเถื่อนเลย
>>614 เอ้า ที่แปลเถื่อนเก็บเงินไม่รวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งของด้อมนั้นเหรอวะ พอบอกว่ามีก็บอกด้อมใหญ่มากไม่ใช่พันธุแท้เลยทันที ที่เข้าได้อมมาจากแปลเถื่อนมึงรับเป็นเพื่อนร่วมด้อมไหมล่ะ มีคัดคนก่อนเข้าด้อมด้วยเหรอ กูไม่ได้จะกวนตีนนะ ด้อมมึงใหญ่มึงก็ต้องยอมรับว่ามีคนพวกนี้อยู่จริงๆอย่างที่มึงว่า ไม่ใช่มาบอกว่าสิ่งดีๆมีเยอะ มันเอามาใช้กลบไม่ได้
>>617 ใช่ มีถูกลิขในเว็บโนเวล
>>619 กูไม่ได้จะบอกว่าไม่นับเป็นส่วนนึงของด้อม กูแค่บอกว่าด้อมมันใหญ่มากกกก มันมีคนหลายแบบ มึงจะเหมารวมว่ามีแปลเถื่อน=ด้อมนี้สนับสนุนแปลเถื่อน, ด่าของลิขสิทธิ์กันเพราะมีแปลเถื่อน แบบนี้ไม่ได้ และกูจะบอกให้นะว่าคนในด้อมส่วนใหญ่แม่งเหยียดคนอ่านแปลเถื่อนกันจะตายห่า โดยเฉพาะพวกเซเลบ 5555555 ใครเผลอพูดทกจาตามแปลเถื่อน มึงโดนแซะกระจุยค่ะบอกเลย
>>605 กูลองอ่านตัวอย่างแล้ว ไม่ได้แปลห่วยเลย อ่านรู้เรื่องหมด ลื่นดี แต่กูว่ามึงลองอ่านเองเหอะ กูเคยถามคนอื่นแบบนี้เหมือนกันแล้วเค้าบอกว่านิยายเรื่องนี้แปลห่วย สะดุดคำนี้ๆ กูเลยไม่ซื้อ ปรากฏว่าจริงๆไม่ห่วย แถมตอนหลังกลายเป็นของแรร์อีกตะหาก โคดโกด เรื่องแปลห่วยไม่ห่วยนี่อย่าเชื่อใครนอกจากรสนิยมตัวเอง
กูพูดตรงๆ กูไม่อยากให้มันซ้ำรอยปรมาจารย์ ที่มีคนออกมาด่านั้นนี่ สรุปไม่จริงมีคนรักษาใจหรือได้ออกมาขอโทษนักแปลที่โดนด่าเพราะเซเลปด้อมไม่ชอบสำนวน+เอ่ไปเทียบแปลเถื่อนได้มั้ย
>>621 จริงๆอิ้งก็ไม่ได้แปลดีหรอกมึง 55555555 แต่คนอ่านเกาหลีออกมันมีน้อยน่ะ ในแท็กมันมีคนเทียบอยู่ว่าคำมันแปลคลาดเคลื่อนจากเกาหลีมากน้อยแค่ไหนยังไง ลองไปไถๆหาดู
>>624 มึงดูแค่ภาษาไทยไม่ได้ไง เคยมีหลายเคสแล้วนะที่ตอนแรกอ่านภาษาไทยกันก็มีคนปกป้องว่าไม่ห่วย แต่พอเทียบกับต้นฉบับปุ๊บ แปลผิดยิบย่อยเยอะแยะ อ่านลื่นไม่ได้แปลว่าแปลดี เพราะไอ้ที่อ่านลื่นๆนั่นอาจจะมีแปลผิดบานเบอะก็ได้
>>627 กูเข้าแท็กอ่านไม่ได้ว่ะมึง กูว่าหลายคนเกินเบอร์ไปกูใจบาง อ่านแล้วกูจะร้องไห้ เดี๋ยวนี้ทุกครั้งที่กูทำงานพลาดกูแทบรู้สึกกราบตัวเองที่มาสายนี้ที่กำลังทำอยู่เพราะอย่างน้อยกูก็ไม่ต้องทนรับคำด่า มีคนคอยอธิบายเวลากูพลาดพูดดีๆ ถ้าต้องทนโดนด่าแบบกูไม่ใช่คนจะเป็นแผลใจกูเปล่าๆ ดีที่ตอนนั้นไม่ไปวิ่งไล่ตามความฝันตัวเอง 555555555 ถ้ามีใครใจดีก็กรองให้กูอ่านหน่อยแล้วกัน ขอบคุณมึง
กูคนอ่านทั้งเกา อิ้ง ไทย ขอมาพูดในมุมตัวเอง
เอาตรงๆแบบอิ้งก็ไม่ได้ดีเว่อร์ คนแปลอิ้งคนแรกรวบประโยคไปเยอะ ประมาณว่าบทที่พรรณนา ถ้อยคำเล็กๆน้อยๆที่บ่งบอกอารมณ์บางอันก็ไม่ได้แปล แต่ใจความรวมๆก็ครบนะ ส่วนคนที่สอง แปลครบ ปต่สำนวนดูเก่าๆไปหน่อย (อย่างคำอุทานดจเขาแปลว่า bloody hell อะ5555 คือก็ไม่ผิด แต่มันบริทิชมาก555555) สรุปสั้นๆคือไม่แย่นะ
ส่วนภาษาไทย ในฐานะคนอ่านนะ กูพูดเลยว่าช่วงแรกๆแปลแข็งจริง อ่านแล้วรู้สึกเลยว่าทางเกาหลีมายังไง ไทยก็แปลมาตามนั้นเลย และรู้สึกว่าคลังศัพท์คนแปลดูจำกัด ไม่ค่อยใช้คำเชื่อมหรือปรับให้รูปประโยคมันสมูธขึ้น
แต่ถ้าถามว่าแย่มากมั้ย มันก็ไม่ขนาดนั้น เรียกว่าพออ่านได้ คือกูไม่หวังอะไรกับภาษาของเว็บโนเวลอะ ก็รู้สึกว่ามันก็คงประมาณนี้ แต่ถ้าลื่นกว่านี้จะดีมาก นานาจิตตัง
ซึ่ง ภายหลัง(กูอ่านถึงตอนที่100) กูรู้สึกว่ามันลื่นไหลขึ้น อ่านแล้วสะดุดน้อยลง รู้ว่ามันดีขึ้น คือมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นอะมึง (แต่ในส่วนของคำแปลของสมญานามต่างๆ อันนี้กูก็แบบ ถ้าครีเอทได้กว่านี้ก็ดี แต่ก็เออๆ ถ้าช่างๆมันไปก็พอได้อยู่)
ส่วนเรื่องราคา กูก็มองว่าแพงอยู่ดี5555555555 มันแพงโดดออกมาจากกลุ่มหนังสือแบบเดียวกันมากอะมึง กูรู้สึกว่าสนพไม่น่าเปิดตัวมาด้วยราคานี้เลย ยิ่งคนมีทัศนคติต่อสนพที่ไม่ดีอยู่แล้ว เปิดมาด้วยราคาแบบนี้ กับ action ที่ไม่ attentive กับลูกค้าแบบนี้ ยังไงก็โดนด่า ตอนเห็นทวิตประกาศเรื่องก็คือกูจิกตีนเลย เละแน่นอน 😂
>>627 ถูกที่ว่าอ่านลื่นไม่ได้แปลดี แต่แปลลื่นแบบผิดเพียบนี่จริงๆแล้วมันสังเกตได้นะ งานพวกนี้มักใช้น้ำหนักคำผิด อย่างแปลงานแฟนตาซีฝรั่งโดยใช้สำนวนแบบจีนกำลังภายใน หรือแปลงานขุดสุสานแล้วแปลชื่อวัตถุโบราณแบบของวิเศษในเรื่องเทพเซียน หรือแปลเทพเซียนด้วยสำนวนไทยพีเรียดนางเอกย้อนยุคไปสมัยพระนารายณ์อะไรงี้ ลองเปิดงานแปลเถื่อนจริงๆตามรอรดิ เป็นแบบนั้นเกือบทั้งหมดแหละ เพราะคนแปลไม่แตกฉานภาษาต้นทาง ไม่รู้ว่ากำลังแปลอะไรอยู่ พวกนี้อาจจะแปลเหมือนลื่น แต่ใส่อารมณ์ตัวเองเข้าไปเยอะมาก ถ้าแยกส่วนออกมาก็พอรู้ ตัวอย่างที่กูอ่านนี่ยังไม่เจออะไรแบบนั้น กูก็ไม่กล้าบอกหรอกว่ามันถูกต้องแน่ๆ แต่ถ้าเขาแปลถูก มันก็ไม่ใช่การแปลห่วย
สำหรับกูนะ
แปลยังไงก็เอาเถอะ
แต่23เล่ม...... เอาไปสร้างบ้านเหรอ
>>630 ถ้ามีคนแบบมึงอยู่ในด้อมหรือเป็นเซเลปด้อมมึงก็ดีดิ เพราะคอมเม้นมึงมีประโยชน์ให้โอกาสอยู่ มีเหตุผลและอ่านมากับตัวไม่ใช่ไหลตามกัน กูอยากอยู่ในด้อมนะ แต่กลัวว่ะบอกตรง ความจริงตั้งแต่กูรู้ว่าที่ไทยได้ลิขสิทธิ์กูก็รู้ว่าต้องยับแน่ๆ และสรุปก็ยับจริง 555555555
>>633 กูเห็นเรื่องนั้น และก็เป็นสนพใหญ่เหมือนกันไม่เห็นโดนแบนไร สรุปมาตรฐานการโดนด่าเรื่องแปลมันรับได้ที่ขอบเขตไหน หรือเป็นเฉพาะด้อมวะ
>>633 คนอื่นยังไงกูไม่ชัวร์ เรื่องนั้นเล่มนั้นกูอ่านแล้วรู้นะว่าแปร่ง และอันที่จริงเล่มนั้นไม่ได้ผิดแบบผิดมหันต์อะไรขนาดนั้น มันออกแนวแปลเข้าข้างอคติของตัวเองกับเก็บมุกไม่ครบมากกว่า ที่ผิดพลาดจริงๆก็คงมี แต่ไม่ได้เยอะยิบย่อยอะไรขนาดนั้น
ที่กูหมายถึงอะ คือแบบ
-เขาขุดลึกลงไปในสุสานฮองเฮาราชวงศ์ฮั่น เจอมรกตเจียระไนเป็นรูปลูกแพร์
-ปี 1900 มิสเตอร์ xxx กลับเข้าบ้านที่ถนนเบเกอร์สตรีท มันเจอเพื่อนร่วมห้องนอนอยู่บนเปลญวนในห้องรับแขก
-กุ้ยเฟยโถมตัวลงแทบพระบาทองค์ฮ่องเต้ คร่ำครวญว่า "ไยเจ้าพี่จึงไม่เห็นใจน้องเลยหนา"
พวกอัญมณีที่อยู่ผิดยุค เฟอร์นิเจอร์ผิดที่ผิดทาง กับคำพูดผิดวัฒนธรรมนี่มันเป็นตัวบอกว่าคนแปลนึกภาพนิยายที่ตัวเองแปลไม่ออก ตีความไม่แตก ถึงจะอ่านลื่นอ่านรู้เรื่องยังไงก็น่าจะแปลผิดยับแน่ๆ อันนี้คือที่กูพูดถึง
แต่เรื่องที่คุยกันอยู่อะ กูอ่านตัวอย่างแล้วยังไม่เจออะไรแบบนี้นะ
>>637 กูเดาว่าสายฟ้าที่หายไป แต่เห็น >>638 ตอบชักไม่แน่ใจ
สนพอื่นใหญ่ เช่น ซบ เมืองยิ้ม แจ่ม ทำหนังสือไร้คุณภาพเหมือนกันทำไมไม่โดนด่าเหมือนกันวะ เมืองยิ้มงี้ ซอยเล่มอัศวินดาราจาก 5 เป็น 10 ตัวอักษรใหญ่เท่าบ้าน ผ่าน ราชันโลกพิศวงเกือบ 50 เล่ม ซอยไม่เหมือนจีน ผ่าน ยิ่งพอเจอหนังสือมีตำหนิเป็นคนของเมืองยิ้มทุกคนพร้อมใจกันไม่ต้องเคลมหรอกค่ะ สนพนี้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว พอเป็นอิกุหลาบด่ายับทำหนังสือไร้คุณภาพ แบ่งเล่มหากำไรอิพวกนายทุน ดกจาควรมาดูงานอัศวิน ขายเป็นแพคสองเล่มจะได้ไม่โดนด่า แจ่มมีคนมาแหกสายฟ้าแหกแล้วไงจบ มีคนมาแหกการ์เดี้ยน จบ แต่พอเป็นอิกุหลาบ ด่า ต้องเคลม อินายทุนทำหนังสือไร้คุณภาพแรกๆกูก็ด่าอิกุหลาบนะ เพราะกูหงุดหงิดพิมพ์ห้าพิมพ์หกมึงยังไม่แก้คำผิด ก็นึกว่าวงการหนังสือจะมีมาตราฐานมากขึ้น ทุกคนพร้อมใจแหก สรุป แหกแค่ที่เดียว ที่อื่นปล่อยผ่าน ยิ่งซบยิ่งแล้วใหญ่ มีคนออกมาอวยที่เนื้อหาเกินถือเป็นลิมิเตด นิยายสูตรผสมก็อวย กุเอาเท้าก่ายหัว เคียด
ตลกนะชาวนกฟ้า ด่ากุหลาบว่านายทุนเลว
แต่ชม อมร ทีวี ว่าทำข่าวแตงโมได้ดีมาก
หาหลักฐานได้ดีกว่าตำรวจซะอีก
จะแบนเหี้ยไร แบนไม่สำเร็จหรอก
>>639 ราชันฯนี่กูขอพูดนิดนึงเพราะกูอ่าน 5555555 ซอยย่อยนี่กูเห็นด้วยนะ เล่มบางไปกูอยากให้หนากว่านี้ แต่ก็เข้าใจว่าออกทุก 20 วัน แถมมีไพ่อีก ก็ไม่รู้ว่าเขากะให้พอดีจำนวนไพ่รึเปล่า แต่เรื่องนี้ที่ไทยตีพิมพ์เป็นเล่มก่อนที่จีนจะพิมพ์ออกมาครบทุกเล่ม จะว่าซอยเล่มไม่เหมือนจีนไม่ได้หรอก ตอนนี้รูปเล่มไทยไปไกลกว่าเล่มจีนแล้วด้วยซ้ำมั้ง
>>639 มันอยู่ที่ตัวแฟนด้อมนั่นแหละ อย่างดกจานี่ค่ายไหนได้ไปถ้าทำออกมาห่วยคนก็ด่า มันไม่ได้เป็นที่ค่ายหรอก เพราะคนจ้องจับผิดกันมาแต่แรกแล้ว เว็บตูนแม่งด่าคำแปลกันเต็มคอมเมนต์เลย (เอาจริงๆเว็บตูนโดนด่าหนักกว่านิยายอีกมั้ง) ก็เหมือนฮัสกี้อะมึง ก่อนออกคนรอจับผิดเยอะมาก แต่ฮัสกี้รอดเพราะทำออกมาดีจนไม่มีอะไรให้ด่า ส่วนเรื่องอื่นๆที่มึงว่ามามันก็มีคนด่า แค่คนด่ามันเสียงไม่ดัง เพราะมันไม่ใช่ด้อมใหญ่ ไม่ใช่เรื่องดัง เพอซี่ที่ด่ากันตอนนั้นก็ฮือฮาพอสมควรนะ ยอดรีทวีตที่แหกก็หลายพัน แต่สุดท้ายค่ายนิ่ง นักแปลนิ่ง มันก็ทำอะไรไปมากกว่านั้นไม่ได้แล้ว เพราะนิยายมันออกมาตั้งชาตินึงแล้วเพิ่งจะมาแหกกัน มันไม่เหมือนดกจาที่เล่มยังไม่ออก คนอ่านเลยกัดไม่ปล่อยเพราะยังหวังลมๆแล้งๆว่าเล่มมันจะออกมาดี
ใดๆคือถ้ามึงอยากด่าค่ายไหนมึงด่าไปเลย ไม่ใช่โวยวายว่าทำไมด่าค่ายเดียว ทำไมคนไม่ด่าค่ายอื่นกันบ้าง ไอ้ที่มึงไล่ๆมากูเห็นคนเค้าก็ด่ากันทั้งนั้น ซบหลังๆโดนด่าแทบทุกเรื่อง ไอ้สูตรผสมนั่นคนก็ด่ากันเยอะแยะ คนด่าเยอะกว่าคนอวยด้วยเหอะ ทั้งในทวิตในเฟซ (กูเพิ่งรู้เนี่ยว่ามีคนอวยด้วย กูเห็นแต่คนด่ากันรัวๆ) แค่คนด่าเสียงมันไม่ดังพอจะเข้าตามึง หรือไม่มึงก็ไปโฟกัสกับคนอวยจนไม่เห็นคนด่า แค่นั้นเอง
ขอพูดหน่อยกูเข้าใจนะที่คนจะด่าถ้ามันทำงานออกมาเหี้ย แต่อิพวกที่ด่าลามเอาเหตุผลเพราะเป็นนายทุน สนพ.ใหญ่เลยทำงานออกมาเหี้ย+เอาเปรียบผู้บริโภคหนิ กูว่ามันปสด.วะ แม่งดูเป็นเหตุผลที่ไร้สาระมาก
กูขอถามอยากรู้ว่าแปลดีในบรรทัดฐานของวายมันคือไงอะ แบบกูเห็นเวลาแปลพอนักแปลมันแปลว่าแบบไม่ตรงตัวแต่ความหมายเดียวกันอารมณ์ประมาณรวบคำ/ความหมายงี้ให้ประโยคมันไม่ดูเวิ่นเว้อเกินไป คนก็ด่าว่าแปลผิด/แปลไม่ตรงความหมาย ทำไมแปลงี้บลาๆ แต่พอแปลตรงตัวไม่ได้รวบเอามาเน้นๆคนแม่งก็จะด่าอีกว่าแปลตรงเกินไป ทำไมไม่รวบ เหมือนแปลทรานสเลทบลาๆ เอาตรงๆทุกวันนี้กูยังงงอยู่เลยว่าบรรทัดฐานของสายวายมันอยู่ตรงไหนกันแน่หรือเพราะว่ามันรวมคนหลายๆเจนไว้สายนี้เยอะว่ะมาตราฐานมันเลยแกว่งไปแกว่งมา555(แต่เหมือนยุคนี้วายเน้นทับศัพท์หลายภาษานะ เท่าที่สังเกตดู)
>>645 สงสัยเหมือนกู~ กูเคยเจอเรื่องนึงภาษาสวยมาก พีเรียดจีนเหมือนงานแปลยุคสามสิบปีที่แล้ว แต่เจอคนวิจารณ์ว่าใช้ศัพท์ยากไป นิยายวายเค้าไม่ต้องการศัพท์หรูขนาดนี้ อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่เคยเจอ กูงงไปเลย
กูว่าแปลดีแปลไม่ดีนี่เชื่อเซ้นส์ตัวเองเหอะ มันขึ้นอยู่กับจริตคนอ่านด้วย คนชอบก็บอกแปลดี คนไม่ชอบก็ว่าแปลห่วย
>>646 ความคิดสาววายอายุ 30 กว่า แบบกูนะ
กูว่าสาววายเดี๋ยวนี้อ่อนภาษาไทย บางทีประโยคง่ายๆ ธรรมดาๆ ดันไม่เข้าใจ ต้องทับศัพท์
เทียบกับการ์ตูนสมัยก่อน อย่างบลีชเทพมรณะ หรือนารูโตะ หรืออื่นๆ แปลออกมาความหมายสวยๆเยอะแยะ ไม่เคยมีดราม่าว่าแปลทำไม ทำไมไม่ใช้คำทับศัพท์
แล้วสาววายสมัยนี้ชอบโวยวาย พอเจอคำที่ตัวเองเข้าใจผิด คิดว่าแปลผิด ก็โวยวาย ทั้งๆที่แปลถูกแล้วก็มี แล้วพอหน้าแตก ก็เงียบหาย
>>648 กูเห็นด้วย กูเคยไปอ่านจีนไทยแต่งเรื่องหนึ่งที่ทุกตอนจะมีคนชมว่านักแต่งเขียนภาษาสวยมาก แต่กูอ่านแล้วเหมือนพยายามยัดคำไวพจน์จนมันกลายเป็นดูฟุ่มเฟือยมากกว่า อีกเรื่องหนึ่งคือทับศัพท์เยอะไร้สาระจนน่ารำคาญนี้แหละ กูถามจริงนักเขียนนักแปลเดี๋ยวนี้มันคิดว่าพยายามยัดคำไวพจน์เยอะๆกับพยายามทับศัพท์เยอะๆมันจะทำให้ตัวเองดูแปลหรือเขียนได้ดูเทพขึ้นรึไง
แต่ดกจาไม่ใช่นิยายวายนะ 5555555 ในเว็บตูนคนที่มาด่าเรื่องคำแปลก็ไม่ได้มีแค่สาววาย ผู้ชายก็ด่ากันเพียบ แต่ที่ด่าติดแท็กแบนในทวิตตอนนี้ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นสาววายแหละ
>>643 เล่นซะกูอยากรู้เลยว่าเล่มไหนในซีรีย์ นักแปลคนใหม่หรือคนเก่า
>>646 >>647 >>648 เพราะเด็กยุคนี้ไม่ได้โตมากับวรรณกรรมเยาวชนรึเปล่าวะ คลังศัพท์เลยน้อย แต่บางคน ภาษาสวยของเขาคือ ต้องศัพท์ยากๆ ทั้งประโยคต้องเปิดพจนานุกรมแปลแม่งทีละคำ เคยมีเรื่องนึง กูได้คำแนะนำจากในโม่งเนี้ยแหละว่าภาษาสวยมาก บลาๆ แต่พอกูไม่อ่านกลับไม่ชอบ รู้สึกเหมือนพยายามใช้คำสวยมากไปนิดมันเลยให้ดูฟุ่มเฟือยเหมือนที่ >>648 ว่า ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนคนโปรดกูแม่งชอบใช้คำกระชับด้วยมั้ง พออ่านแบบยานไปเลยรู้สึกไม่ชอบ
>>651 อ่ะแปะวาร์ปให้ https://fanboi.ch/literature/11677/524-/
กูตามลวิตร์เพราะโม่งคุยแบบนี้กันนี่แหละ อยากรู้ว่าดีขนาดไหนทำไมอวยกันจังเลยไปส่อง เออ ดีจริง55555
กุเคยป้ายงานคุณลวให้เพื่อนแล้วนางบอกว่าสำนวนเวิ่น กุใจสลายเป็นฝุ่น แง
ช่วงนี้กุหานิยายอ่านยากมากมีแต่สายพระเอกโบ้ กุที่เปนสายโอ๋พระเอกมันเซงในใจมันเจ่บมาก เบื่ออิสัส
ที่ดราม่าแบนนี่คิดว่าจะบ่อนทำลายหรือจะทำให้ดีขึ้น นิยายแปลยุคสมัยเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน ไหลไปตามกระแสชักจูงง่าย แต่ก่อนอ่านแปลเกาของแจ่มไม่ค่อยเห็นดราม่ายิบย่อยแบบนี้
>>660 สมัยแปลเกาแจ่มใจก็ยุคพันทิบเฟื่องฟู ไหลตามกระแสเหมือนกันมึง ใครโดนคนในพันทิบแหกนี่ไม่ได้ผุดได้เกิด แหกถูกบ้างผิดบ้าง แก้ตัวก็ยาก เคสดีเอ็นเออยู่บนหน้าลูกนี่ก็ยุคพันทิบ แต่พันทิบมันไม่ได้เอื้อให้ใครก็เข้าไปแสดงความเห็นได้เหมือนทวิตเฉยๆ ต้องใช้เลขบัตร เนียนด่าแล้วบึ้มแอคทิ้งไม่ได้
สมัยนี้นะกูวอนล่ะไม่รู้เจนไหนบ้างแต่เวลามึงอ่านนิยาย เวลาเจอคำที่ไม่คุ้นอย่าพึ่งตีโพยตีพาย แคปด่าหาแสงลงทวิต/เฟสให้คนประเภทเดียวกับมึงมาขำกับสิ่งที่มันถูกอยู่แล้วได้ม่ะ กูเห็นบ่อยมากประเภทไม่รู้แล้วไม่เปิดหาไม่เรียนรู้อะ พอมีคนมาบอกดันแถอีกว่าศัพท์ยากไปแต่เวรกรรมเถอะศัพท์ที่ว่ายากของคุณมึงคืออยู่ในเนื้อหาวรรณคดีสมัยเรียนนะครับ ไม่ก็เปิดหาในgoogleก็ได้หนิ สมัยนี้มันไม่ต้องลำบากมานั่งเปิดพจนานุกรมไทยหาคำแล้ว แค่พิมพ์หาในgoogleนะ มันง่ายกว่าการแคปด่าไปขำเยอะ ขอวอนอย่าเอาความไม่รู้ของตัวเองมาทำลายมาตรฐานวงการหนังสือแปลไปมากกว่านี้เลยนะครับ
เรื่องคนอวยหรือด่าบางทีแม่งโคตรแล้วแต่ดวงนักแปลเลยนะ นักแปลบางคนใช้ภาษาถิ่น คนชื่นชมเยอะมาก แต่อีกคนพอแปลเป็นภาษาถิ่นเหมือนกันกลับโดนคนด่างี้ก็มี หรือบางคนแปลชื่อท่า ชื่ออาวุธ คนก็อวยกันว่าดีจัง ไพเราะ แต่อีกคนแปลชื่ออาวุธเหมือนกัน ดันโดนคนปสดด่ากราดว่าทำไมไม่ทับศัพท์ แปลไทยแล้วเสร่อ สรุปคือคนอ่านแม่งมีล้านแปดแบบ วันดีคืนดีจะมีคนอ่านแบบไหนลุกมาอวยหรือด่าบ้างก็ไม่รู้
คนอ่านกำหนดบรรทัดฐานงานแปล แต่บางทีคนอ่านแม่งก็ยังดูสับสนในมาตรฐานงานแปลของตัวเองอยู่เลยนะ คนเดียวกันวันนี้ด่าแปลเหี้ยแปลเพื่อทำไมไม่ทับศัพท์ชื่ออาวุธ ชื่อท่ามึงจะแปลทำไม วันต่อมาชมชื่อท่าชื่อแปลอาวุธ ว้าว มันสวยมากกกนักแปลเก่งชิหายมันสุดยอดมากๆเลย กูเป็นนักแปลเดี๋ยวนี้กูเอาตีนก่ายหน้าผากละ แต่เหมือนส่วนใหญ่เคสแบบนี้มันทำไมดูชอบเกิดกับวงการวายจังวะ
แต่อีกอย่างที่ทำให้งานแปลมันแกว่งไปมาคือการเฮโลตามกันไปนี่แหละ ดีหรือป่าวไม่รู้เห็นคนด่าก็ด่าตามกันไป เห็นคนชมก็ชมตามกันไป
มันคือยุคหิวแสง แข่งเกิด หิวยอดรี ถ้านักแปลต้องมาสุ่มดวงแบบนี้เสียสุขภาพจิต จะแปลให้นักอ่านทุกคนพอใจหมดทุกคนไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็ควรทับศัพท์ควรเคารพต้นฉบับ เดี๋ยวก็ไม่ควรทับศัพท์ควรแปลไทยใช้ไวพจน์สวยอลัง
Ky ล่าสุดกุเห็นนักเขียนคนนึงโพสบ่อยๆว่ามีคนก็อปพล็อตนาง ทั้งแซะทั้งด่า ละที่พีคคือมีคนเข้าไปด่านักเขียนอีกฝั่งด้วยไอดีอานนนนว่ะ
กูถามหน่อยสิในรอร.มันบล็อกแท็กได้ปะวะ รึซ่อนตัวกรองอะไรสักอย่างที่ทำให้ไม่เห็นแท็กบางอันงี้
กูสงสัยว่ะ ถ้านิยายมันไวบ์คล้ายๆกัน ปมหลักย้อนอดีตไปแก้แค้นเหมือนกัน มีมุกซ้อนแผนตกน้ำสลับตัวกับนางร้ายเหมือนกัน แต่รายละเอียดอื่นๆไม่เหมือนเลยนะ มุกซ้อนแผนตัวร้ายมีหลายมุก เหมือนกันแค่มุกเดียว แล้วยุคสมัยก็ต่าง ครอบครัวต่าง พระเอกนางเอกนิสัยต่างกันไปหมด อาจจะมีคล้ายๆบ้างบางคนแต่ไม่ได้เหมือนอะไรขนาดนั้น พวกมึงคิดว่าก็อปปะวะ หรือว่าบังเอิญ เรื่องแนวๆนี้มุกมันก็ซ้ำกันได้อะไรงี้
>>676 ส่วนตัวว่าคล้ายไป ทำไมต้องซ้อนแผน ต้องเป็นตกน้ำ และต้องสลับตัวกับตัวนางร้าย แบบนี้อ่ะ แต่ถามว่าถึงกับ plagia มั้ย มันก็ไม่ เพราะมันอาจจะเป็นแค่ 1/20 ส่วนนิยายของเพื่อนโม่ง แต่เพื่อความปลอดภัย ถ้ารู้ว่าซ้ำเราจะลองหามุกอื่น เปลี่ยนเป็นตกหลุมกับดักในป่า งี้ 5555
>>677 พวกย้อนอดีตมามันจะซ้อนแผนกันบ่อยๆว่ะ เพราะตัวละครรู้ไงว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ประเด็นคือมุกตกน้ำผู้ชายมาเจอแล้วเสียชื่อเสียงเนี่ย ส่วนตัวกูว่ามันเป็นสิ่งที่ใครๆก็คิดได้ แต่จะว่าเหมือนกันมั้ย มันก็เหมือนมากจริงๆ แต่ความที่มันไวบ์เดียวกันอะ มันเลยบอกยากว่าบังเอิญหรือลอกมา ทีนี้สมมติมึงเจอเรื่องที่คล้ายกันแนวๆนี้ มึงจะมองว่าลอกมาแน่ๆ หรือมองว่ามันอาจจะบังเอิญก็ได้วะ
มุกย้อนอดีตซ้อนแผนให้นางร้ายตกน้ำเสียชื่อเสียงแทนตัวเองเนี่ย กูเจอบ่อยมาก ทั้งจีนแท้ทั้งคนไทยเขียน เจ็ดแปดเรื่องละ
>>680 เพราะมันเยอะอ่ะ เลยเห็นว่าควรเลี่ยง ไม่ว่าคิดได้เอง คุ้น ๆ ได้แรงบันดาลใจมา ยิ่งถ้ามันเป็นหนึ่งในจุดสำคัญ/จุดไต่พีค/จุดพีค/ไคลแม็กซ์ ไม่ว่าจะในเรื่องไหนที่มีมาก่อนหรือเรื่องของเพื่อนโม่ง ยิ่งควรเลี่ยง แต่อันนี้ก้อแล้วแต่พิณาของคนเขียนนะ พูดในมุมคนอ่าน ถ้าเจอแบบเอ๊ะ... ส่วนตัวคือทิ้งเลยอ่ะ ถือสามาก
>>681 กูก็เห็นด้วยนะว่าถ้านักเขียนรู้ก็คงเลี่ยง แต่ถ้าเขาไม่รู้หรือมุกนี้มีความสำคัญกับพล็อตเรื่องล่ะ คือถ้ามันบอกไม่ได้จริงๆว่าบังเอิญหรือก็อปมา เป็นไปได้ทั้งคู่อะไรงี้ มึงจะทิ้งเลยเหมือนกันปะ
ส่วนตัวกูนี่ถ้าเหมือนแค่ไวบ์กับมุก ที่เหลืออีก90%ไม่เหมือนกันเลย กูจะเอนเอียงไปทางบังเอิญมากกว่า แบบ "อ่านแล้วนึกถึงเรื่องนั้น" อะไรงี้เฉยๆ จะไม่กล้าบอกว่าเค้าลอกเพราะมันฟันธงไม่ได้ แต่เห็นนักเขียนบางคนก็โดนแซะว่าลอกเพราะดันไปคล้ายกับเรื่องอื่นในลักษณะนี้อะ กูเลยสงสัยว่าแบบนี้คนส่วนใหญ่มองว่ายังไง แล้วถ้าเกิดวันไหนกูเขียนนิยายพล็อตเกร่อ แล้วมุกในเรื่องดันไปเหมือนเรื่องอื่นเข้า กูโดนหาว่าลอกนี่กูจะทำยังไงวะ มันมีอะไรที่ช่วยเซฟนักเขียนจากความบังเอิญตรงนี้ได้บ้างปะ
>>682 ถ้ามันแค่นิดหน่อย นิดเดียว อันนี้เฉยนะ แต่ถ้ามันอยู่ตรงพีค ไคลแม็กซ์ หรือคล้ายกันมาเป็นสองสามสี่ห้าตอน ทิ้งอ่ะ แต่เชื่อว่า ถ้าคนอ่านมีเหตุผลมีตรรกะพอ เค้าจะรับรู้ได้ ว่านี่คิดเอง ลอกหรือได้แรงบันดาลใจ ไวบ์มันสำคัญนะเว่ย ถ้าอ่านของนข. สักคนซ้ำ ๆๆๆ เป็นฟค. มันรู้สึกได้ วิธีการบรรยาย วิธีการใช้คำ
เรื่องแรงบันดาลใจ ยกตัวอย่าง แมวตัวสุดท้ายฯ กับไทยแต่งเรื่องนึง ที่เริ่มจากนายพล ยานบินตกดาวดวงนึง เจอแมว แมว 'บังเอิญ' ไลฟ์สตรีม อันนี้เราทิ้งเลย ทิ้งแล้ว ไม่ดูไม่สน นข.ยืนยันนอนยันว่าคิดเอง เราก็ อืม จ้ะ คนอ่านหายคนเดียวน่า แต่เราอ่านมา ไวบ์ช่วงแรกมันแบบ ตะหงิดมาก ก็เลยไม่อยากอุดหนุนแล้ว มีเรื่องอื่นอีกมากมายที่ไม่ตะหงิดแบบนี่ให้เราอ่าน ประมาณนี้อ่ะ
หรือของ นด (บฟก) ที่ไปลอกแจกันของฝู 1 ฉาก แต่เป็นไคลแม็กซ์ งี้อ่ะ เราไม่อ่านของนด.อีกเลยตั้งแต่นั้นมา
แต่อันนี้คือเราไง เราถือสา คนอื่นที่ไม่คิดมากก็มี หรือมันคล้ายกับเรื่องที่เราไม่เคยอ่าน เราไม่รู้ งี้ก็มี ก็ไปเสียใจและประกาศแบนในวงเพื่อนเอา 5555
อ้อ ไม่ไปวีนนักเขียนหรือลงโซเชียลนะถ้าไม่แน่ใจมาก ๆๆๆ ซึ่งมันก็ต้องขุดต้องเทียบ เอาเข้า plagia คือจะไม่วู่วาม เพราะมันคืออนาคตคนคนนึงนี่นะ
ส่วนเรื่องเซฟคนแต่ง อันนี้บอกตรง ๆ เลยนะ ถ้าไม่มีหลักฐานชัดแจ้ง แบบที่ระบุวันเวลาว่าได้คิดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แนะนำให้ขอโทษอย่างจริงใจและเปลี่ยนเนื้อหาตรงที่คล้าย หรือถ้าไม่ได้จริง ๆ จะปิดเรื่องทิ้งอันนี้ก็แล้วแต่พิณาของคนแต่งอ่ะ แต่ถ้าดึงดัน แทนที่จะปิดเรื่องเดียว จะได้ปิดทั้งนปก. สิ
ไม่รู้ว่านี่ช่วยตอบเพื่อนโม่งมั้ย รอเพื่อนคนอื่น ๆ ดูนะ
ตอนมีคนทัก กูยังรู้สึกเออแค่มันอาจบังเอิญ พอเริ่มแถเท่านั้นละสันดานออกเริ่มแคปประจาน ใช้คำพูด ฉันไม่ผิดดูพวกนั้นพยายามยัดเยียดไม่เห็นมีหลักฐาน บลาๆๆๆๆๆ ในทวิตแม่งก็ห่าไรไม่รู้ พอโดนขุด เริ่มร้อนตัวว่าตัวเองโดนขุดอุสาห์เปลี่ยนแอคหนีแล้ว จนมุมออกมาขอโทษแปลเถื่อนนะ แต่กูผิดอะไร จ้าาาาา ปัดทิ้งไปเลยนข.แบบนี้ อย่าให้กูเห็นสนพ.ไหนหน้าด้านซื้อไปแม่งโคตรโง่
>>684 คนที่ยังอ่านอยู่เค้าบอกกันว่าแค่ต้นเรื่องอ่ะเพื่อนโม่ง แต่คือเราไม่โอเคแล้ว
คนแต่งก็บอกประมาณ เลือกนายพลเพราะมีอำนาจ เลือกแมวเพราะนุ้บนิ้บ (แต่คนแต่งไม่รู้จักพันธุ์แมว... เอ๊ะยังไง...) แล้วก็แบบ เล่าพลอตที่วางไว้ 1 2 3 4 ซึ่งไม่เหมือนหรอกแต่ใจเราไม่เชื่อไปละ อคติไปละ เลยไม่อ่านต่อ
ดีที่สำนวนไม่โดนใจด้วย ตัดทิ้งง่ายมาก
เพื่อนโม่งต้องลองอ่านทั้งสองเรื่องดูเองนะ อย่าเชื่อแค่โม่งคนนึงพิมพ์
>>688 สำหรับเรา มันไม่ใช่เหมือนแค่ต้นเรื่อง ท้ายเรื่องต่างแล้วจะโอเคอะไรแบบนั้นน่ะนะ
แนวที่เราสงสัยคือแค่ในส่วนของพวกที่เขียนทรงเดียวกัน แบบทะลุมิติ ย้อนอดีต แก้แค้น ไซไฟ อนาคต ฯลฯ อะไรพวกนี้เหมือนกัน แล้วดันมีมุกคล้ายหนึ่งมุกหรืออาจจะนิดเดียว แต่พล็อตเป็นคนละเรื่องอะไรงี้ พวกนี้น่ะ ถ้าเอามุกมาเทียบกันมันก็เหมือนกันใช่ปะ แต่จริงๆแล้วทั้งเรื่องมันต่างกันจนบอกยากว่านี่ลอกมุกมาหรือว่าบังเอิญจริงๆเพราะเขียนแนวเดียวกัน อะไรทำนองนี้มากกว่า
อย่างเรื่องที่เราเจออ่ะ นางเอกย้อนอดีตไปเหมือนกัน แต่เรื่องนึงเป็นยุคสมมติ อีกเรื่องเป็นยุคที่มีอยู่จริง อ้างอิงประวัติศาสตร์ละเอียดมาก ทั้งความเชื่อ ค่าเงิน การใช้ชีวิต ฯลฯ เรื่องนึงนางเอกเป็นคนหนู อีกเรื่องเป็นองค์หญิง เรื่องนึงพ่อนางเอกเกลียดนางเอก อีกเรื่องพ่อรักแต่เหินห่าง ฯลฯ แล้วมีมุกที่แบบ พี่สาว/น้องสาว พยายามแกล้งให้นางเอกตกน้ำแล้วมีผู้ชายมาช่วย จะได้ใส่ร้ายว่านางเอกยั่วผู้ชาย นางเอกที่ย้อนอดีตมาเลยซ้อนแผนให้พี่สาว/น้องสาวเป็นคนตกน้ำเอง อะไรทำนองนี้ แต่รายละเอียดก็ต่างอีกนะ เรื่องนึงบังเอิญใครไม่รู้ที่อยู่แถวนั้นช่วย อีกเรื่องจ้างคนมาเลย แล้วความเหมือนก็จบแค่นี้แหละ เนื้อเรื่องที่เหลือคือแก้แค้นใครแก้แค้นมัน มีคล้ายกันบ้าง แต่ไม่สะดุดเท่ามุกนี้
แต่ถ้าพล็อตมาแบบ 1 2 3 4 ในแนวที่เฉพาะจริงๆแบบมีนายพลเหมือนกัน ยานตกเหมือนกัน แมวไลฟ์สตรีมเหมือนกันอะไรงี้ เราว่ามันไม่จำเป็นต้องอ่านอีกเรื่องก็ได้อะ โดยเฉพาะถ้านักเขียนไม่มีประเด็นเด็ดๆอะไรจะเล่านอกจากรักกันๆๆ
>>689 สำหรับเรานะ ถ้าแค่ฉากเดียวแถมเป็นฉากเพลน ๆ ไม่ได้เป็นจุดพลิกผันในเรื่องจะไม่สะดุดอ่ะ ถ้าให้ดีคือ อย่าวางลำดับฉากเหมือนกัน สมมตินะ ที่จะแก้แค้นมี แม่เลี้ยง น้องสาวลูกแม่เลี้ยง และผู้ชายที่มาชอบน้องสาว ละสองเรื่องแก้แค้นเรียงตามลำดับเดียวกัน และวิธีแก้แค้นน้องสาวเหมือนกันคือซ้อนแผนให้น้องตกน้ำ แบบนี้อาจจะสะดุด หรือวิธีการแก้แค้นสามวิธีเหมือนกันในนิยายสองเรื่อง ต่างกันแค่เกิดกับใคร แบบนี้สะดุดนะ แต่ถ้าลำดับก็ไม่คล้าย วิธีจัดการคนอื่นก็ต่างกันทั้งหมดมีแค่วิธีจัดการตัวน้องสาวที่คล้าย แบบนี้ไม่อ่ะ
คือจะบอกว่าลอก เอ๊ย แรงบันดาลใจเนี่ย มองว่า 1 ฉากค่อดเด่น สำคัญมาก กับ 2 จุดที่คล้ายมาซ้ำ ๆ มาเป็นระยะ
กูได้นิยายเล่มนึงมา ตอนที่อยู่ในเน็ตก็ดูไม่มีปัญหาอะไร
พอเข้าเล่ม …..
จ้างนักพิสูจน์อักษรทำไม ถ้าจะเว้นวรรคผิดตั้งแต่หน้าแรกอ่ะคุณ 🥲🥲🥲 เป็นเศร้าน้าาาา
รู้งี้ซื้อเป็นEbook แทนรูปเล่มดีกว่า
>>692 เห็นมึงบ่นเรื่องวรรคตอนแล้วนึกขึ้นได้ วงการวายนี่พิเศษดีนะ กูอยู่ในโลกโซเชียลมาตั้งแต่ยุคพันติ๊บ เคยเห็นคนบ่นเรื่องนิยายพิมพ์ผิดพิมพ์ตกเยอะ แต่ไม่มีสายไหนจริงจังเท่าวายเลย เพราะวายผิดเยอะกว่าชญเหรอวะ แง่นึงมันก็ดีนะ คุณภาพหนังสือจะได้ดีขึ้น แต่กูเห็นบางคนบ่นลามไปถึงการแบ่งวรรคตอนแปลกๆ (ไม่เกี่ยวกับเคส >>692 นะ) ไม่ใช้คำบุพบท ทั้งที่นิยายไทยเขียนแบบนั้นได้ไม่มีใครบ่น แต่พอมาเป็นนิยายวายแปลนี่ไม่ได้ ต้องเขียนให้ถูกหลักภาษาไทย ซึ่งกูว่าบางทีมันทำลายอรรถรสบางอย่างไป
>>694 มาตรฐานแปลว่าต้องตรงตามหลักภาษาไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ กูจะไม่สงสัยเลยนะถ้าแปลออกมาอ่านไม่รู้เรื่องแล้วโดนคนบ่น แต่นี่แค่แปลมีกลิ่นนมเนย กลิ่นน้ำชา กลิ่นซูชิ กลิ่นกิมจิ ทั้งๆที่ยังอ่านรู้เรื่องอยู่ก็โดนบ่น บางทีไม่ได้ติดสำนวนต่างประเทศด้วยซ้ำ แค่ประโยคมันยาวไป เขาตัดแบ่งวรรคตอนให้ก็บ่น บอกว่าไม่ตรงตามหลักภาษา มึงลองอ่านนี่นะ
"นางมองออกไปไกลลิบ ทิวทัศน์ป่าเขาลำเนาไพรในขอบฟ้างดงามดุจภาพวาด หวนนึกถึงโลกที่มีสีสันพรรณรายน่าสนุกสนานปานนี้ นางกลับจะต้องตายไปในบัดดล..."
โดนคนวิจารณ์ว่าเว้นวรรคแปลๆ เอากริยาขึ้นในท่อน "หวนนึกถึง..." ได้ยังไง ต้องไม่เว้นวรรคสิ มึงว่าประสาทแดกมั้ย
>>695 กู 692เอง
ที่มึงยกมาไม่แปลกนะ อ่านลื่น เราอาจจะยุคเดียวกัน
ของกูคือ
“ ผู้รอดชีวิตและผู้โชคดีที่ได้อาศัยอยู่ภายใต้การปกป้องของค่ายทหารที่แข็งแกร่งมักเป็นบุคคลสำคัญหรือผู้มีความ สามารถ”
เว้นวรรคอะไรตรงนั้นวะ …… ยาวเป็นพรืดแต่เว้นวรรคแบ่งคำ อยู่หน้าแรกด้วยนะ กูนี่ปิดหนังสือทำใจก่อนอ่านต่อเลย
>>697 คุยเรื่องวรรคตอนของนิยายชญ
สมัยก่อนนิยายมันพิมพ์ออกมาน้อยนะมึง เจอแต่วรรณกรรม นิยายที่เฟื่องฟูยุคแรกๆก็ของแจ่มมั้ย ถ้ามาขายในสมัยนี้ก็บ้งอยู่นะอันเก่าๆ แต่กูชอบกลุ่มความรู้สึกดีอ่ะ เขียนดี ภาษาสวย วรรคตอนไม่ผิด
นิยายเดี๋ยวนี้อะไรก็ไม่รู้ ทั้งชญ ทั้งชช ทั้งญญ ดำเนินเรื่องปรุ้ดปร้าดไปหมด
สรุป กูบ่นอะไรวะ ทุกอย่างเป็นไปตามยุคสมัยแหละ ทำใจ 55555
>>695 คนอ่านแม่งเอาใจยากมาก บางคนไม่ชอบสำนวนต่างประเทศ ต้องเกลาให้ไทย บางคนพอไทยเกินก็บ่นกะปิน้ำปลา จะเอาทับศัพท์เพื่อคงอรรถรสให้เหมือนต้นฉบับเป๊ะๆ บางคนอยากได้เรียงคำแบบต่างประเทศแบบยกมาคำต่อคำ บางคนจะเอาแบบไวยากรณ์ไทยเท่านั้น ถ้าอยากเอาใจคนอ่านให้ได้ครบทุกคนนะปวดหัวตายห่า
>>698 มึง สมัยก่อนของกูคือสมัยโสภาค สุวรรณ พนมเทียน ยาขอบ แบบกระดาษสีน้ำตาล ต้องใช้วิธีเรียงพิมพ์ 55555555
จริงๆแล้วยุคเรียงพิมพ์นี่ผิดเยอะมาก เพราะต้องเรียงแป้นทีละตัวแบบกลับหลัง เอาไปใส่แท่น แล้วค่อยพิมพ์ออกมา กูอ่านมาตั้งแต่ยุคนั้นน่ะ พอเจอพิมพ์ผิดพิมพ์ตกกูเลยชินด้วยมั้ง แต่สนับสนุนให้บ่นนะ เพราะยุคนี้มันมีเทคโนโลยีช่วยแล้วไง จะให้ผิดแบบยุคเรียงพิมพ์แม่งก็เหมือนถอยหลังลงคู ถ้ายุคแจ่มนี่กูก็ชอบกลุ่มความรู้สึกดีเหมือนกัน แต่พอเปลี่ยนหัวแล้วเหมือนหายไปเลย แต่ก่อนมันจะเด่นๆหน่อยเพราะปกขาวกับภาพสีน้ำปะ พอเปลี่ยนมาเป็นปกรูปถ่ายแล้วกูหาไม่เจอ ส่วนนิยายยุคนี้ กูว่าเพราะใครๆก็เป็นนักเขียนได้ด้วยแหละ งานมันเลยออกมาเยอะ พอมีคนเขียนเยอะ ก็มีงานบ้งๆเยอะ ค่อยๆเสพกันไปแหละเนอะ
กูหงุดหงิดอย่างเดียวเลย นักอ่านยุคนี้บางคนเหมือนไม่เคยอ่านงานเก่า แล้วบางคนเสพแต่แนวเดียว พอเจออะไรที่ตัวเองไม่ชินเข้าหน่อยก็ด่าเลย แปลห่วย เขียนเหี้ย ทำไมพระเอกนิสัยไม่ดีเหยียดเพศ เป็นพระเอกได้ยังไง เอ้า ก็ถ้านิยายแม่งชื่อเรื่องเปรตวัดอีกาจิก พระเอกจะเลวก็สมเหตุสมผลอยู่นะ
มีแต่คนแก่วะ
>>702 บางคนแค่อ่านมาตั้งแต่เด็กก่อนเข้าอนุบาล ที่บ้านสะสมหนังสือ มีให้อ่านไม่เดือดร้อน บางคนเจ็ดแปดขวบก็อ่านนิยายของปิยพร ศักดิ์เกษมแล้ว ต่อให้ตอนนี้เขาอายุยี่สิบห้า เขาก็เรียกคนอายุยี่สิบแปดที่เพิ่งหัดอ่านหนังสือเมื่อห้าปีก่อนว่า "นักอ่านหน้าใหม่" ได้จ้ะ มันไม่ได้อยู่ที่อายุ มันอยู่ที่สมอง
เทพเจ้าต่างโลกในดกจาที่ชินชงหมายถึง มันใช่เทพที่เชื่อมโยงกับ outer god(อุตรเทพ) ในงานประพันธ์ตำนานคธูลู ของH. P. Lovecraftป่ะ กูเห็นคนเรียกร้องให้เปลี่ยนอยู่(ถึงแม้จะมีคนบอกว่าอุตรเทพ ศัพท์มันยากเกินไปก็ตาม-*-) เพราะถ้าใช่กูก็อยากให้เปลี่ยนนะ มันเป็นศัพท์ที่มีคำเฉพาะอยู่แล้วไง
เออ ส่วน outer god หรือ อุตรเทพ เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกเทพในตำนานคธูลู คำว่า อุตร มาจาก อุตริ แปลว่า นอกกรอบ นอกทาง ส่วนเทพ มาจาก เทพเจ้า ดังนั้นอุตรเทพ -> เทพเจ้านอกโลก นะ กูว่า
**ชิงชง สิ
Ky ถ้าวันนึงนักเขียนที่พวกมึงชอบเกิดทำผิดขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะก็อปพล็อต/ใช้ปกผิดลิขสิทธิ์/หลอกเงินคนอื่นมาทำเล่ม ฯลฯ พวกมึงคิดว่าตัวเองจะยอมรับได้อย่างสนิทใจไหม แล้วถ้ายอมรับได้จะยังติดตามผลงานของนักเขียนคนนั้นอยู่รึป่าว
>>711 คงเลิกตามมั้ง แต่คนเราอะมึง พอชอบมากๆมันก็เข้าข้างแหละ เพราะงั้นหลักฐานสำคัญมาก เรื่องก็อปนี่ถ้ายังก้ำกึ่งประเภทเรื่องแนวเดียวกัน มุกซ้ำมุกเดียวแบบที่โม่งบนๆยกตัวอย่างมา เราจะมองว่าอาจบังเอิญก็ได้ แต่ถ้าปกผิดลิขสิทธิ์ โกงเงิน มันก็ตัดสินใจง่ายหน่อยเพราะหลักฐานมันเห็นๆกันอยู่
กูไม่ค่อยได้ตามนขแบบยึดติดที่ตัวนขอยู่แล้ว อาจจะชอบเรื่องแรก แต่เรื่อง 2-3 ไม่ถูกใจก็เลิกตาม ถ้าทำผิดแบบน่าเกลียดๆ ก็คงอ่านให้จบแค่เรื่องที่ตามอยู่แล้วเท
เดี๋ยวนี้นขมีเยอะ เทๆไปสักคนสองคนเดี๋ยวก็ได้คนใหม่มาแทน
>>711 กูขอลูกหาบอย่าโง่ดีเฟ้นแทนก็พอละ ผิดพลาดได้ แต่ไม่ใช่ผิดพลาดขอโทษแล้วไงกูขอโทษแล้วแต่ไม่ได้สำนึกผิดสักหน่อย เจอเยอะแยะแม่งนักเขียนปากเก่ง เป็นตัวตัดสินใจให้เลิกตามง่ายกว่าเดิมมากจากตอนแรกจะตามเงียบๆ ยกตัวอย่างปกละเมิดลิขสิทธิ์ บางตัวแม่งไม่ออกมาขอโทษด้วยซ้ำแค่เปลี่ยนจบ อย่างเรื่องตัวร้ายทำงาน เงียบจ้า ใช้มาเป็นปีจนคนด่าถึงเปลี่ยน ไม่หืออือ กล้าตีพิมพ์กับสนพด้วย ลูกหาบปล่อยเบลอ อวยในแท็กจะอ้วก กับอีกประเภทตีพิมพ์สนพเดียวกัน ด่ากลับด้วยแล้วไงฉันจะใช้ปกละเมิดลิขสิทธิ์มันสวยกว่าปกสนพ อีเรื่องจิ้งจอกนั้นอะ ตัดไปที่นักเขียนอีกคนออกมาขอโทษเขียนชี้แจงว่าผิดไปแล้วต่อไปจะไม่ทำบลาๆยอมรับว่าตัวเองผิดจริงใครพูดถึงก็ออมาขอโทษอีก ไม่ใช่ขอโทษครั้งเดียวจบกูขอโทษแล้วไงละ
มาเม้ากะกูหน่อย
...............
ทำไมถึงชุบฟิคเป็นออริไม่ได้
แต่งานฟิคสามารถขายได้
ทั้งๆที่เอาไปขายได้เงินเหมือนกัน
แถมบางทีคนซื้อก็กลุ่มนักอ่านจากฟิคนั่นแหละ ??
.............
กูทีม ไม่ซื้อแฟนฟิค และไม่ชอบฟิคชุบออริ
aka ทีมอ่านฟรี เน้นซับศิลปินมากกว่า
>>717 จริงๆงานฟิคแบบตัวบุคคลจริงไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ มันเลยขายได้ ต้องเข้าใจก่อนว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะมันเป็นนิยาย => ไม่ใช่เรื่องจริง => ไม่ละเมิดใคร
งานฟิคชุบออริความจริงแล้วก็ทำได้ แต่มันทำร้ายจิตใจนักอ่านที่ชิปละมั้ง เหมือนโดนหลอกไปอ่านงานชิ้นนึงเพราะคนเขียนบอกว่า "นี่แหละคู่ที่เธอชอบไงล่ะ มาเสพซะสิ" ก็เลยอ่าน แต่พองานดัง คนเขียนดันบอกว่า "นี่ไม่ใช่คู่ที่เธอชอบหรอกนะ ชั้นโกหก งานชั้นดีจนมีคนมาซื้อ ไม่เกี่ยวกับฟิคเลย" คนอ่านบางคนก็ต้องโกรธและต่อต้านอยู่แล้ว หลอกให้ซัพพอร์ตกันนี่นา
>>717 ประเด็นเดิมๆ วนเวียนเถียงให้ตายก็ไม่จบหรอก ทุกคนยืนกรานความคิดตัวเองแต่ถามกู ฟิคชุบมันเหมือนมาโหนด้อมหายอดคนอ่านน่ะ ถ้ามึงเขียนเป็นออริเฉยๆ ไม่ติดแท็กคู่ชิปดังๆ คนมันจะอ่านเยอะเท่าตอนบอกเป็นแฟนฟิคคู่ชิปมั้ย แล้วเมื่อตัวเองได้ดีได้ชื่อเสียงก็ไปถีบหัวส่งย้อมเป็นออริขายต่อ มันไม่ผิดกฏหมายหรอก แต่คนในคอมมูที่ไปโหนมันมีสิทธิ์โมโหได้นี่หว่า เหมือนไปหลอกเขา
ขณะที่รวมเล่มฟิคไม่โดนด่าเพราะก็มันไม่มาเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไร เขียนอะไรมาก็คือชื่อนั้น และปกติฟิคพวกนี้มันผลิตแค่อยากเก็บเป็นเล่ม และทำเป็นรอบ หมดแล้วก็จบไป (แต่กรณีรีบ่อย ถี่ๆ และจำนวนเยอะมากกูก็ไม่ชอบนะ รู้สึกมันดูเกินไป แต่พอเข้าใจว่าฐานแฟนมันใหญ่คนเลยต้องการเยอะ)
หลักๆ ก็คือความจริงใจต่อคนในคอมมูที่ตัวเองเขียนให้อ่านน่ะในความคิดกูนะ ไปหลอกคนอ่านในคอมมูนึง จะให้เขายิ้มยินดีคงไม่ใช่
ประเด็นหลักๆคือเหมือนถูกหักหลังเนอะ
แล้วกรณีที่ว่ามาเขียนฟิคเพราะอยากได้ฐานแฟนคลับ ทำให้ได้เริ่มมากกว่าเขียนออริ?
ที่ชอบบอกกันออริเริ่มจาก 0 อะไรพวกนี้ล่ะ
อันนี้กูคิดว่า แฟนฟิคก็เริ่มจาก0 เหมือนกันมะ ถ้าแต่งไม่ดียังไงก็ไม่ดังอยู่แล้วป่ะ ? ฐานคนเริ่มอ่านไม่น่าต่างจากออริเท่าไหร่?
>>720 กูว่าออริเริ่มจาก0จริงๆนะมึง ยิ่งไม่เคยมีงานมีอะไรผ่านตามาก่อน โอกาสจิ้มนิยายออริอ่านแบบแรนด้อมมันยากมาก ในขณะที่พอเป็นแฟนฟิค มันมีแฟนด้อม มันมีตัวละคร หรือมีคู่ชิปมาดึงดูดอ่ะ แต่งไม่ดีไม่น่าติดตามยังไงแต่โอกาสดึงคนเข้าในระยะแรกมันมีมากกว่าออริ คนที่เลือกอ่านจากคู่ที่ชอบคนที่ชอบมันมีอยู่แล้ว กูนี่ล่ะคนนึง
ส่วนเรื่องเขียนแฟนฟิคเพราะอยากได้ฐานแฟนคลับ ถ้าเป็นเคสแบบนักเขียนเขียนดีมาก สนุกมาก เขียนฟิคจบละ แล้วเขามีนิยายออริเรื่องอื่น คนที่ชอบงานเขาก็จะตามไปอ่านนิยายออริเขา(ที่เป็นออริจริงๆ ไม่ได้ชุบ ไม่ได้ยืมเมจ)ต่อได้ง่ายกว่าสายออริเพียวๆ แบบนี้กูว่าปกติและไม่น่ามีคนด่านะ
หรือมันเคยมีคนด่าวะ...แต่นักเขียนออริที่กูตามอยู่หลายๆคนกูก็เริ่มตามเพราะชอบสำนวนตอนเขาเขียนฟิคนะ และงานออริเขามันไม่มีกลิ่นไม่มีเมจอะไรจากแฟนด้อมอื่นเลย
>>722 แฟนฟิคเริ่มจาก 0 ตรงไหนวะ แค่ติดแท็กชื่อศิลปินมันก็มีด้อมแฟนคลับ มีคนหาคู่ชิปอ่านอยู่แล้ว ยิ่งศิลปินดังเท่าไหร่ ย่อมมีคนหาอ่านเพิ่มขึ้นเท่านั้น ต่อให้เขียนดีหรือไม่ ยังไงเปอร์เซนต์เข้าอ่านมากกว่าออริอยู่ดี
กูว่าไอ้เรื่องแบบนี้ควรรู้อยู่แก่ใจปะวะ ถ้ามันถูกนักเขียนออริ เขาก็ทำกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ไม่มีใครไปงมไต่เต้ามาจากศูนย์หรอก เขียนแฟนฟิคสร้างฐาน เอาไปชุบตัว เอาชื่อเสียงศิลปินมาหากิน อ้างว่าชอบจิ้นเขียนสนองนี้ดตัวเอง แล้วชื่นชอบแบบไหนถึงหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ใช้ชื่อเสียงศิลปินเขาฟรี ๆ กูไม่ให้ราคาอีพวกชุบตัว เขียนแฟนฟิกขาย แม่งโคตรปลิง ถ้าไม่มีสามัญสำนึกก็ไม่ควรมาเขียนนิยาย ขยะแขยงชิบหาย
>>720 ต่างมาก ในฐานะที่มีสองนามปากกา อันนึงเขียนฟิค อันนึงเขียนออริ ถึงจะโอเคแล้วทั้งคู่ แต่ออริต้องพยายามหนักกว่ามาก ส่วนฟิคเอาจิงแค่เปิดคนก็กดเข้าชั้นแล้ว ปกก็ไม่ต้องคอมมิชก็มีปกที่เผลอๆดึงสายตากว่าปกที่เสียเงินมาอีก
อยากรู้ว่าต่างมั้ยลองลงเรื่องดูดิ เอาให้เนื้อหาเหมือนกัน ลองสองนามปากกา(สมมติเปิดใหม่ทั้งคู่) ยังไม่ต้องลงเรื่อง จำนวนคนกดเข้าชั้นก็ต่างแล้ว
ไม่แน่ใจว่าคำว่า “ชุบตัว” ของ >> 725 หมายความว่ายังไงนะ แล้วก็เห็นด้วยว่าเขียนแฟนฟิคมีแฟนคลับคอยรองรับ ไม่เหมือนออริที่เริ่มจากศูนย์จริงๆ ไม่มีอะไรเลย แต่เราว่าถ้าเขาเริ่มเขียนเพราะชอบศิลปิน แล้วมีคนอยากซื้อเก็บ เขาทำเล่มออกมาขายเป็นที่ระลึก แต่ดันขายดีได้เงินเยอะ จะเรียกเขาว่าปลิงมันก็ใจร้ายไป ต่อให้ได้ชื่อเสียงศิลปินช่วยหนุนยังไง แต่การที่มีคนอ่านเยอะกับคนซื้อเยอะมันต่างกัน บางเรื่องคนอ่านเยอะเพราะชอบศิลปิน แต่ถ้าจะตัดสินใจจ่ายเงินซื้อ เราว่ามันก็เพราะสำนวนกับฝีมือคนเขียนด้วย ใครจะไปอยากจ่ายเงินให้ฟิคที่มีดีแค่ชื่อศิลปินกันล่ะ ไม่งั้นคนเขียนฟิคทุกคนมิขายได้เป็นพันเล่มขึ้นหมดเลยเหรอ ถ้าเขาสำนวนดี คนชอบสำนวนเขา อยากอุดหนุนเขา มันก็แฟร์นะ
ส่วนที่บอกว่าถ้ามันถูก นักเขียนออริก็คงทำทั่วบ้านทั่วเมือง อันนี้เราว่าไม่น่าใช่ เราเขียนออริ ชอบอ่านฟิค ไม่คิดว่าการติดเหรียญหรือพิมพ์ขายฟิคผิดอะไร ถ้ามันไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์นะ แต่ไม่ชอบเขียนฟิค ชอบค่อยๆปั้นตัวละครขึ้นมาเองแบบไม่มีกรอบต้นแบบ มันไม่ใช่ว่าทางไหนดังง่ายได้เงินง่ายแล้วทุกคนจะแห่ไป มันมีความถนัดกับความชอบของนักเขียนกำกับอยู่ด้วยแหละ
เข้าใจว่าที่ถามกันขึ้นมาเพราะดราม่าเรื่อง อวจสนง ปะ
>>729 ชุบตัว คือ แปลงฟิกเป็นออริจ้าา
เรียกว่าปลิงถูกแล้วค่าา ถ้าไม่เรียกว่าปลิงจะให้เรียกว่าอะไรคะ ใช้ชื่อเสียงของศิลปินมาสร้างฐาน เรียกนักอ่าน พอมันแมสนิยายปัง ก็ทำเล่มขาย อ้างขายเป็นที่ระลึก แล้วศิลปินเขาได้อะไรกับจากการจิ้นคู่ชิปของพวกมึง ใช้ชื่อเสียงเขา แต่เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองมันแฟร์ตรงไหนอะ
ถ้าจะให้แฟร์จริง คือรายได้จากการขายฟิคหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอาไปสนับสนุนศิลปิน แบบนี้มันถึงจะเรียกว่าแฟร์ ถึงจะเรียกว่าชื่บชอบจริง ๆ สมัยนี้มีกี่คนที่ทำคะ หาผลประโยชน์จากพวกเขา แล้วมาร้องว่าแฟร์ อย่ามาพูดให้ขำเลยค่ะ
ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ ว่าจะเขียนดี สำนวนดีหรือเปล่า มันผิดตั้งแต่ละเมิด เอาภาพ เอาคาแรคเตอร์ศิลปินมาเขียนหากินโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วค่าาา
>>729 มันไม่เกี่ยวกับเขียนดีไม่ดี ขายได้ไม่ได้ พอยต์มันอยู่ที่จุดแรกสุดคือมึงอยากหาแดกจากการเขียนนิยายโดยไม่ถูกใครครหาว่าเกาะศิลปินแดก มึงก็ไปเขียนออริ ไม่ต้องเปิดมาเป็นแฟนฟิคแล้วมางอแงง้องแง้งตอนโดนคนอื่นด่าที่เอาไปชุบเป็ยออริ ทำเพื่อไร กล้าชุบก็ต้องกล้าโดนด่าสิวะหน้าด้านๆหน่อย งอแงกันอยู่ได้อยากหิวเงินทั้งทีก็ต้องหน้าด้านโว้ย กูรำคาญญญ
สำหรับกูขายเล่มได้นะ แต่เงินต้องเอาไปซัพ อฟช กลับ แต่อย่างว่ากูมันสาย 2D ที่เห็นของญี่ปุ่นชัดเจนว่า เขียนโดจินชิเป็นเล่มพาโรดี้ลงอีเวนต์ต่างๆ อฟช ไม่ห้ามเพราะมันเป็นตลาดพัฒนานักเขียน นักวาดป้อนเข้าสู่ตลาดกลับ อฟช ของด้อม 2D ในญี่ปุ่นมันเลยไม่ได้มาลงดาบอะไรกับพวกฟิคหรือโดจินชิน่ะแหละ แต่กรณีบ้านเรา ฟิคศิลปินมันไม่เห็นประโยชน์รูปธรรมชัดเจน จะมีคนยี้ มองว่าทำแบบไหนที่ก่อให้เกิดรายได้ก็ปลิงมันก็ช่วยไม่ได้ว่ะ (แต่สำหรับกู ทำเล่มกรุบกริบเป็นที่ระลึกกูโอเคนะ ไม่ใช่ทุกคนจะขายได้เป็นร้อยเล่มหรอก พันเล่มก็หายากว่ะ)
>>731 เราเข้าใจเรื่องแปลงฟิคเป็นออริมันเหมือนหลอกใช้ฐานเสียงนักอ่านนะ แล้วก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้
แต่คุณต้องเข้าใจด้วยว่าฟิค ไม่ว่าจะเป็นแฟนฟิคเอามาขาย หรือว่าแปลงฟิคเป็นออริ ในนั้นมีน้ำพักน้ำแรงของนักเขียนอยู่ด้วย ซึ่งต่อให้ศิลปินมีส่วนช่วยให้ฟิคเป็นที่รู้จัก แต่ทั้งคุณและศิลปินต่างก็รู้ว่านิยายเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ศิลปินไม่ได้เขียน ไม่ได้ทำอย่างในเรื่อง ทั้งหมดเป็นจินตนาการของนักเขียน เราต้องยอมรับก่อนว่างานชิ้นนั้นเป็นลิขสิทธิ์ของนักเขียนโดยสมบูรณ์ (อันนี้ในกรณีที่ยืมอิมเมจของศิลปินมานะคะ ไม่ใช่เขียนต่อยอดจากงานวรรณกรรมเรื่องอื่น) นักเขียนมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะเอาไปทำอะไรก็ได้ ถ้าคุณคิดว่ามันไม่แฟร์ สิ่งที่คุณทำได้คือไม่สนับสนุน จะเรียกร้องให้คนอื่นไม่สนับสนุนด้วยก็ได้ เป็นเรา เราก็อาจจะไม่สนับสนุนเหมือนกันค่ะ
แต่สิ่งนี้ไม่ใช่ "ความผิด" นะคะ จริงๆแล้วเขาแค่เอางานที่เป็นลิขสิทธิ์ของเขาโดยสมบูรณ์มาดัดแปลงแล้วขายในอีกเวอร์ชั่นเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องภาพศิลปิน ถ้าเขาเอาภาพมา "ใช้" ในตอนที่เปิดให้อ่านฟรี เขาผิดจริงๆที่เอาภาพมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่พอ "ชุบตัว" แล้วไม่ได้ใช้ภาพศิลปินอีก เขาขายในฐานะนิยายออริจินัลของเขา ไม่ได้อ้างชื่อศิลปินตอนขาย มันก็ไม่ใช่การเอาศิลปินมา "หากิน" นะคะ เอาล่ะ คนเขียนอาจจะเกาะศิลปินดัง แต่มันไม่ได้มีแค่ด้านที่เขาได้ด้านเดียว เขาเสียฐานนักอ่านที่มาจากแฟนฟิคด้วย เพราะบางคนก็โกรธที่เขาชุบฟิค เขาอาจจะต้องไปหาฐานนักอ่านใหม่ไม่ต่างจากออริเรื่องอื่นๆ
เรามองว่าถ้าเขาเห็นว่ารายได้ที่เขาได้มานั้นมาจากศิลปินทั้งหมด เขาจะเอาไปสนับสนุนศิลปินก็เรื่องของเขา เขาอาจจะรักษาฐานนักอ่านแฟนฟิคไว้ได้ก็ได้
แต่ถ้าเขามองว่าฟิคเรื่องนั้นมาจากมันสมองเขา คอมพิวเตอร์เขา ค่าไฟเขา ยารักษาอาการออฟฟิศซินโดรมต่างๆของเขา เขาจะหักทั้งหมดนั้นเอาไว้กับตัว เขาก็ไม่ผิดอะไร แน่นอนว่าคนอ่านไม่ชอบก็มีสิทธิ์ไม่ซื้อ แบบนี้คือแฟร์ค่ะ ไม่ใช่เรียกร้องให้เขาเอาเงินจากค่าลิขสิทธิ์ของเขาไปทำนั่นทำนี่
คุณอาจจะมองว่า แต่ที่เขาได้ทั้งหมดนั่นไปเพราะเขาเขียนฟิคโดยอ้างชื่อศิลปินนะ ถ้าอย่างนั้นคุณรู้ใช่ไหมคะว่านั่นเป็นนิยาย ศิลปินไม่มีทั้ง "ส่วนได้" และ "ส่วนเสีย" ใดๆ กับนิยายเรื่องนั้นเลย ไม่เกี่ยวกับศิลปินเลยโดยสิ้นเชิง มันเป็นแค่นิยายเรื่องนึงที่แปะชื่อกับรูปศิลปินที่คุณชอบเอาไว้เท่านั้นจริงๆ
หึ เขียนนิยายได้เป็นสี่ห้าร้อยหน้าแต่ไม่มีปัญญาคิดสร้างตัวละครสร้างครต. เอง เกาะกินจากชื่อเสียงคนอื่นแล้วยังมั่นหน้า
เอาแค่ไปขโมยภาพเขามาใช้ไม่ต้องเป็นศิลปิน เอารูปคนอื่นมาใช้มันก็ผิดแล้วปะมาคิดเรื่องเขาไม่ได้เสียอะไรฮัลโหล แม่งไม่ต่างกกับบอกเจอรูในพินชอบเลยเอามาแปะอะ
ส่วนตัวกูนะทำแฟนฟิคไปเหอะใจชอบ แต่ต้องมีจิตสำนึก กุสนับสนุนทำรูปเล่มมากกว่าเพราะมันจำกัดจำนวนได้ ทำอีบุ๊คมึงจะจำกัดจำนวนไม่ได้ เหมือนทำแฟนเมดงี้ แล้วก็มีจิตสำนึกว่าไม่ควรแปลงหรือส่งสนพจะมาบอกพล็อตกูคิดเองจะทำไม อย่างในจจงี้แฟนฟิคที่จากต้นฉบับยังมีลิขสิทธิ์อยู่ขายไม่ได้นะ ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ด้วย และยังไม่สามารถขายให้กับสนพได้หรือติดเหรียญ กูว่าแบบนี้อะแฟร์ดีออกจะไม่ต้องไปตีกับแฟนเมดด้วว่าทำไมมึงทำได้ ให้กฎมันเหมือนกันไปเลย
ไม่หรอก นักแต่งบางคนมันแค่เกาะแดกจากศิลปินจริงๆนะ เผลอๆไม่ได้ชอบหรือรู้จักอะไรเกี่ยวกับที่เขาชิบกันหรอ แค่เห็นคู่นี้ดังเลยไปหาข้อมูลมาแต่งฟิคเฉยๆ ก็นะแค่ใช้ชื่อศิลปินจะพล็อตโหลหรือกลวงแค่ไหน อย่างน้อยๆมันก็ขายได้มากกว่านิยายออริน้ำดีที่ไม่แมสอยู่แล้ว ส่วนรายได้นะเข้ากระเป๋าตังตัวเองเต็มๆจ้า~ ไม่มีหรอกไปสนับสนุนอฟช.ก็ตัวเองไม่ได้ชอบอยู่แล้วหนิหน่า แต่ถ้าถึงความเหนื่อยละก็คงเป็นต้อนที่ต้องหาข้อมูลคู่แมสๆนั่นแหละ
>>735 นึกถึงคำที่เคยเจอผ่านตา
ไม่ได้ขอให้แต่ง เรียกร้องอะไร.....
ถ้าใจมันรักการแต่งนิยาย ก็ทำออริไปสิจะได้ไม่ถูกตราหน้า อยากได้อิมเมจเป็นศิลปินคนไหนก็ทำเลย แค่ไม่ต้องออกตัวแปะหน้าว่าใช้คนนี้เป็นเมจ ทำเป็นแฟนฟิคนะ บลาๆ
แฟนฟิคก็แฟนฟิคป่ะ จะเอามาชุบตัวเป็นออริเพื่อออออ งอแง ปวดแขน ปวดมือ ปวดหลังเขียนนิยาย เขียนเพราะรัก หรือเขียนเพราะอยากได้ตัง เอาไปคิดดู
ถ้าอยากได้ตังก็ไปทำออริค่ะ สร้างผลงานปังๆใครมันจะกล้าด่า
>>737 คุณคะ มันเป็นนิยาย คนอ่านต้องทราบเองค่ะว่ามันไม่ใช่เรื่องของศิลปินจริงๆ ตัวศิลปินจึงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียค่ะ ถ้ามีคนเกลียดศิลปินเพราะแฟนฟิค มันเป็นความผิดของนักเขียนหรือคะ หรือความผิดของคนอ่านเองที่ไม่ตระหนักว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
>>738 แจ้งไปแล้วนะคะว่า "ส่วนเรื่องภาพศิลปิน ถ้าเขาเอาภาพมา "ใช้" ในตอนที่เปิดให้อ่านฟรี เขาผิดจริงๆที่เอาภาพมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต" ไม่ทราบอ่านข้ามตรงนี้ไปหรือเปล่าคะ
ถ้า “รัก” ศิลปินจริงๆ ทำไมถึง “ใช้” เขาหากินละ
ทำยังงี้นักเขียนคนนั้นยังกล้าใช้คำว่าเขียนเพราะรักอีกหรอ? ที่รักนิหมายถึงรักในตัวของศิลปิน หรือรักเพราะใช้ศิลปินคนนั้นหาเงินได้กันแน่
>>739 อันนี้พูดถึงฟิคที่มาจากอิมเมจตัวศิลปินค่ะ ถ้าเป็นฟิคจากงานวรรณกรรมอื่นหรืองานลิขสิทธิ์อื่นๆมันผิดแน่ๆอยู่แล้ว แต่ฟิคจากตัวศิลปินมันเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายอยู่ ถ้าไม่อยากให้ขายฟิคเลยไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม คงต้องเริ่มที่แพล็ตฟอร์มนั่นล่ะค่ะ อย่างจอยลดาตอนแรกก็ห้ามไม่ให้ติดเหรียญกับแฟนฟิคทั้งหมด แต่พอมีแฟนฟิคเรื่องนึงติดเหรียญได้ มันก็เลยกลายเป็นดราม่าขึ้นมา
>>743 เราเขียนออริค่ะ แค่พยายามชี้แจงว่าบางทีไม่ชอบใจ แค่ไม่สนับสนุน หรือรณรงค์ไม่สนับสนุนก็ได้ ไม่เห็นจะต้องพูดแรงๆหรือพยายามบีบให้นักเขียนเอาเงินที่ได้ไปซัพพอร์ตศิลปินเลย กับที่บอกว่าฟิคชุบออริมันผิด จริงๆมันไม่ผิดในแง่กฎหมายเท่านั้นเองค่ะ
>>745 ถ้าหมายถึง >>729 เราพูดถึงในกรณีที่เขียนฟิคไปแล้วคนอ่านต้องการรูปเล่ม เขาเลยพิมพ์ขึ้นมาเป็นที่ระลึก ซึ่งแน่นอนว่ามันมีค่าใช้จ่าย มันเลยต้องขาย ที่บอกว่าจะเรียกว่าปลิงก็ใจร้ายไปคือกรณีนี้นะคะ ไม่ใช่ในกรณีชุบเป็นออริ เพราะ >>725 บอกว่า "ไม่ให้ราคาอีพวกชุบตัว เขียนแฟนฟิกขาย" เห็นเว้นวรรคก็เลยไม่แน่ใจว่าหมายถึงพวกแฟนฟิคชุบตัวอย่างเดียว หรือแฟนฟิคที่ขายในฐานะแฟนฟิคด้วย
>>747 ปลิงยังไงก็คือปลิงจ้าาา คนที่ใจร้าย คือนักเขียนแฟนฟิคขาดสามัญสำนึกหรือเปล่า ใช้ชื่อเสียงของศิลปินที่เบื้องหลังเขาต้องฝึกฝนพยายามแค่ไหนกว่าจะโด่งดัง
แต่นักเขียนปลิงหลายคนมักง่ายหยิบคาแรคเตอร์และภาพของเขามาใช้หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยไม่ซัพพอร์ตใด ๆ
มาอธิบายเรียกร้องอะไรคะ ยิ่งอ่านยิ่งตลก อยากขายก็เขียนออริตั้งแต่แรกสิ จะมาเขียนติดแท็กคู่ชิปใช้ชื่อเสียงศิลปินเป็นใบเบิกทางทำไม อ้างว่าเขียนเพราะรัก สรรหาคำพูดจาสวยหรู สุดท้ายก็หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
อันนี้เขาเรียกรักเงินค่ะ ไม่ใช่รักศิลปิน
>>746 ไม่มีใครพูดว่ามันผิดกฎหมายป่ะ เค้าพูดกันเรื่องสำนึกรู้ดีรู้ชอบ คุณธรรมในใจที่เกาะคนอื่นหากิน และไม่มีใครบีบให้เอาเงินไปซับศลป. เค้าแค่บอกว่าถ้าเป็นแฟนคลับ ไม่ได้คิดมาเกาะกิน รายได้หลังหักคชจ. ที่เกิดขึ้นจริงก็ควรเอามาซับศลป. ค่าปวดหลังน้ำไฟมันคือความเต็มใจของแฟนคลับ ถ้าอ้างคชจ.พวกนี้เนี่ย คือตลก ไม่ได้มีใครขอให้เริ่มเขียนแฟนฟิค เขียนเอง เริ่มปวดหลังเอง แต่อ้างว่านี่คือการลงทุนทำแฟนฟิค? งั้นทำไมไม่ไปลงแรงปั้นออริ? เพราะมันดังยากไง หึ!!!
>>748 มีน้อย และน้อยมากกกก เพิ่มความดังได้แค่เศษเล็บเองมั้ง เป็นคำอ้างให้ดูดีของพวกนักเขียนแฟนฟิคเท่านั้นแหละ
ฟิคไม่ได้ทำให้ศิลปินดัง แต่เพราะศิลปินมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ถึงได้มีคนหยิบเอามาเขียน ฟิคมันก็ขายให้กับคนที่อ่านนิยายสายนี้ ไม่ใช่กลุ่มตลาดใหญ่ คนที่ไม่ได้ติดตามก็ไม่รู้จักเหมือนเดิม
ถ้าบอกว่าไม่มีใครขอให้เขียนแฟนฟิคสักหน่อย เขียนเอง ไม่ควรมาเคลม งั้นจริงๆแล้วก็ไม่มีใครขอให้อ่านแฟนฟิคเหมือนกันนะ ไม่ชอบให้ "ปลิง" เกาะศิลปินดัง อย่าอ่านแฟนฟิคสิคะ จะได้ไม่เปิดโอกาสให้พวกปลิงไง หานิยายออริอ่าน เอาที่ถูกจริตแล้วจินตนาการศิลปินที่ตัวเองชอบแทนลงไปก็ได้ ไม่ดีเหรอ พวกปลิงจะได้อยู่ไม่ได้ นักเขียนออริก็มีที่มีทางมากขึ้นด้วย
>>748 สำหรับกูอาจจะมีแต่น้อย อย่างกูมาตามนิยายหรือการ์ตูนบางซีรี่ย์แบบเปย์หนักมากเพราะเริ่มจากแฟนอาร์ตไม่ก็โดจินก่อน กูก็ไม่รู้หรอกนะว่าวงการแฟนฟิคมันจะเหมือนกันมากไหม
>>754 ส่วนตัวกูมองว่าแฟนฟิคอยากเขียนก็เขียน เขียนเพราะแบบ เออ ถ้าคู่จิ้นเรามีโมเม้นแบบนี้ๆ มันน่าจะฟินเนอะ บลาๆ มาแชร์ให้คนในด้อมอ่าน
แต่ถ้า แต่งแล้วแฟนฟิคนั้นเสือกดังกลายเป็นว่าคนเขียนจับเปลี่ยนกลายเป็นนิยายออริขายหาเงินเฉยกูว่ามันก็ไม่ได้ไหมอะ แบบนั้นก็แต่งออริเรื่องใหม่ไปเลยสิ จะไปใช้พื้นที่ในหน้าฟิคโปรโมตว่า ไรต์มีนิยายออริเรื่องใหม่แล้วค่าาา ถ้าชอบสำนวนจากแฟนฟิคของไรต์ก็ลองมาอ่านออริของไรต์ช่วยอุดหนุนไรต์ด้วยนะค่ะอะไรก็ว่าไป ไม่ใช่มาหากินอย่างงี้อะ
>>755 นี่ก็พูดเรื่อง "สามัญสำนึก" อยู่ค่ะ ถ้าบอกว่าการเขียนฟิคเป็นการเกาะศิลปินดัง การอ่านฟิคก็คือกาสนับสนุนคนที่เกาะศิลปินดังไง มันง่ายมากอย่างที่คุณว่าเลย ทำไมไม่เข้าใจล่ะคะ
>>756 ไม่ได้ชอบแบบนั้นเหมือนกันค่ะ ไม่เคยสนับสนุนด้วย แค่อยากให้เข้าใจว่า สิทธิ์ของเขาคือเอางานเขาไปขาย สิทธิ์ของเราคือเก็บเงินเราไว้ไม่ซื้อ ไม่ใช่ไปด่าเขาแรงๆน่ะค่ะ
มีความฉันทำไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้ทำด้วย 55555555
นักเขียนแฟนฟิคก็ไม่ได้มีแต่ประเภทนั้นนิ เขาก็อยู่ในขอบเขตของตัวเองกัน ทำไมต้องมารับผลกระทบจากการกระทำของคนไม่กี่คน
>>758 จริง งงใจกับนางมากเลยค่ะ 555555555 แดดิ้นอะไร ร้อนตัวเหมือนโดนด่าเอง ใครเขาห้ามเขียนแฟนฟิคกันคะ ไม่ได้บอกสักคำว่าห้ามเขียนแฟนฟิค
และวิธีเขียนแฟนฟิคโดยไม่เกาะศิลปินดีง ก็มีตั้งมากมาย แต่ไม่เลือกทำกันไง
เขียนแฟนฟิค แยกนามปากกากับออริไปสิ
ถ้าอยากขาย ก็เอาเงินหลังหักค่าใช้จ่ายไปสนับสนุนศิลปิน
แค่นี้ก็เรียกว่าไม่เกาะศิลปินดังแล้วค่ะคุณขาาาาาาาาาา
เข้าใจยากตรงไหนคะ
เรื่องฟิคชุบมันไม่ผิดกฏหมายจริงๆนะถ้าไม่ได้เอาศิลปินมาโปรโมทตอนชุบแล้ว แต่เรื่องผิดบรรทัดฐานของสังคมหรือของสมาคมกลุ่มนักเขียนหรือแฟนด้อมทั้งหลายนี่ก็แล้วแต่จะยึดเอาหลักเกณฑ์ไหนว่ะ แต่กูยืนยันจริงๆว่าในแง่ตัวบทกฏหมายลิขสิทธิ์ของไทยไม่ผิดเลย กูเคยไปเถียงกับเขาแล้วแพ้มาเว้ยเลยไปเปิดกฏหมาย เปิดฎีกาดูเลย เอาตัวอย่างเลยนะ อย่างบารามอสเนี่ยเอาของเขามาโต้งๆแต่บิดนิดเดียว ในเว็ปนักเขียนตอนนั้นยังบอกเลยว่าเอาต้นแบบมาจากไหนมังงะเรื่องไหน แต่พอตอนขายเล่มคือรูปประกอบวาดใหม่ ไม่ได้เอ่ยถึงต้นแบบ ไม่ได้เอาต้นแบบมาโฆษณา ก็ขายได้ถูกกฏหมายสวยๆไป ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง(คนฉอดนิยายชุบเรื่องล่าสุด กูเห็นหลายคนเป็นแฟนบารามอสเหอะ)
กูแสดงตัวก่อนว่ากูไม่ได้แฟนแฟนของนักเขียนที่กำลังมีเรื่อง เคยอ่านฟิคเรื่องอื่นของเขาแต่ทนอ่านไม่จบ ไม่เคยอ่านนิยายที่กำลังเป็นปัญหา ไม่ได้อยู่ด้อมนี้ด้วย แต่ไทม์ไลน์หน้าทวิตไหลมาเยอะ (ปกติไม่อ่านฟิคคนจริงๆจะชุบไม่ชุบไม่อ่านทั้งนั้น รู้สึกเหมือนล่วงละเมิดเขาอยู่อะ //นี่คือความคิดกูคนเดียว//)
เรื่องผิดกฏหมายไม่ผิดแน่ๆ แต่ผิดบรรทัดฐาน(ของใคร?)ก็แล้วแต่จะยึดเอาเส้นไหนแหละ (แต่นักเขียนแม่งเฟียซจริงว่ะ)
>>763 กูขอโทษ กดส่งก่อน
กูพล่ามยาวๆคือแค่อยากบอกว่าฟิคชุบไม่ผิดกฎหมาย อย่าไปด่ากันหยาบคายเอาเป็นเอาตาย อันนั้นจะโดนฟ้องจริงๆ นักเขียนมีสิทธิ์ชุบ(แต่ต้องตัดขาดจากต้นแบบทั้งหมดทั้งปวง นี่ว่าเปิดนามปากกาใหม่ก็ดีนะ) เออ แต่เคสที่เอาไปชุบแล้วจ้างวาดหน้าปกยังเอาศิลปินไปเป็นต้นแบบทั้งหน้าตา เสื้อผ้า และท่าโพสต์ อันนี้กูว่าเกินไป๊ (ผิดกฎหมายมั้ยวะอันนี้?)
ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจรรยาบรรณมั้ง เหมือนหมอได้กับคนไข้หรืออาจารย์ได้กับนักศึกษาอะ
กูยอมใจคนมาดีเฟนด์ให้คนชุบฟิคนะ มีความพยายามมากที่จะตอบทุกคน
เอาจริงๆ เรื่องฟิคชุบออริหรือขายฟิคเป็นเรื่องขี้ประติ๋วมาก มันก็ดังแค่ในคนกลุ่มนึงๆแหละ พอเราอยู่ในกลุ่มนั้นก็เลยเห็นบ่อย จบเรื่องนี้เดี๋ยวเรื่องใหม่ก็มา
ไม่ผิดกฏหมาย แต่ไม่ถูกกฏหมู่ ออกมาติดแท็กตามด่าก็เท่านั้น มีคนเขายินดีจ่ายก็วนลูปเดิม มีคนซื้อยังไงก็มีคนขาย ธรรมดาาาา
>>765 ใช่ ไม่ผิดกฏหมาย ถ้าอย่างตัวอย่างที่ยกมา คือทั้งสองคนคอนเซ็นต์ บรรลุนิติภาวะทั้งคู่ แต่เส้นจรรยาบรรณแต่ละคนก็ไม่เท่ากันอีก เช่น ครู-ศิษย์ ครูที่สอนมีสิทธิ์ให้คะแนนด้วย, ครูที่สอนเฉยๆไม่ได้ให้คะแนน, ครูในสถาบันเดียวกันเฉยๆไม่เคยสอน, ครูที่เคยสอนสมัยมัธยมแต่ตอนนี้จบทำงานแล้วมาคบกับครูทีหลัง, ครูคนละสถาบันแต่สายงานเดียวกัน หรือแค่คบกับครูไม่เคยสอนกันไม่เกี่ยวข้องกันด้านอื่น
ถ้าลอกฟิค ขโมยงาน = ครูข่มขู่ศิษย์ให้มาคบหา = ผิด กฎหมายอะนะ
กูเห็นพวกมึงเถียงเรื่องนี้กันบ่อยมากถี่มากแต่ไม่เคยได้ข้อสรุปกันสักที เอาจริงๆของอย่างงี้มันพูดยากอยู่แล้วว่าผิดหรือถูก มันอยู่ที่คนมองวะ บางคนมองว่าไม่ผิดกฎหมายก็คือไม่ผิดเลยขายได้ สิทธิ์ของเขาผลงานเขาจะไปตีพิมพ์ ทำebook ติดเหรียญ อะไรก็ได้บลาๆ ส่วนอีกกลุ่มก็มองว่าไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดบรรทัดฐาน ผิดจรรยาบรรณนักเขียน เหมือนอาศัยกระแสความดังของศิลปินทำให้ตัวเองดัง พอดังแล้วก็ถีบหัวส่ง บลาๆ
>>774 ในด้อมถ้าเขียนมาแปะคู่ชิปจะ ooc au คนละนิสัยไปคนละทางยังไงก็เป็นแฟนฟิคหมดอะ
กุคิดๆดูยังไงเรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าไปถึงกฎหมายได้อยู่ดี ระดับมันแค่น้องๆจรรยาบรรณอย่างที่บนๆว่า ผิดระดับสายอาชีพยังทำกันได้แค่แบบจากสภาสายอาชีพเลย ถ้าเรื่องนี้ทำได้อย่างมากก็แบนกันเองในกลุ่มคอมมูหรืออย่างมากสุดก็ไปดันที่แพลตฟอร์มพวกรอร เมบ
อ่านแล้วละเหี่ยใจนะเอาจริง เหมือนหลายคนจะลืมหลักพื้นฐานง่าย ๆ ว่าแฟนฟิคคือละเมิดอะ
ต่อให้เป็นมันสมองของนักเขียนคิดขึ้นมา แต่มันผิดตั้งแต่ละเมิดศิลปินสนองความฟินตัวเอง เอามาเขียนขายแล้วปะ
เอาจิง อยากเขียนแฟนฟิคแล้วขายหรือไรก็ตามหรือชับ ก็ทำไปดิ แบบหน้าด้านๆหน่อย มึงทำแล้วอะ มึงอยากได้เงินแล้วก็อยากขายง่ายกว่าคนอื่นด้วย แต่จะมาทำแล้วหาเหตุผลให้ตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้อง หรือให้คนอื่นเหนด้วยว่าตัวเองถูกมันตลกอะ
>>775 ใดๆก็คือละเมิดอยู่ดีเนอะ
ทั้งละเมิดลิขสิทธิ์รูปอยู่ เพราะใช้รูปจากคนอื่น
ทั้งละเมิดตัวบุคคลทีาเขาไม่ได้รู้เรื่อง หรือรู้เรื่องแต่ทำไรไม่ได้
สรุป คนแต่งฟิค คนขายฟิค คนชุบฟิค คนซื้อ ทำผิดกันทั้งนั้น แค่ไม่มีกฏหมายมารองรับ ทะเลาะกันต่อไปก็ไม่ได้อะไรนอกจากความปวดหัว ถ้ามรกฏหมายรองรับจะลากออกมารับโทษก็โดนกันหมด 5555
ละเมิดคือทำให้ศิลปินเสียหาย แต่แฟนฟิคมันไม่ใช่ข่าวกอสซิป แฟนฟิคคือสิ่งที่รับรู้ร่วมกันว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง มันไปเวย์ละเมิดไม่ได้ ยิ่งถ้าใช้ชื่ออื่นในฟิคคือยิ่งไม่เข้าข่ายเลย
ถ้าจะให้พูดตรงๆคือ คนอ่านฟิคก็เหมือนคนดูมายากลน่ะค่ะ รู้ว่าเค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก รู้ว่ามันไม่จริงแต่ก็ร่วมมีความสุขไปกับจินตนาการของนักเขียนที่วาดกรอบเอาไว้ว่าจินตนาการนี้เกี่ยวกับศิลปินของชั้น ทีนี้การชุปฟิคมันเหมือนเอาตัวตนของศิลปินออกไป ความสุขที่เคยมีมันก็เลยไม่มีแล้ว เพราะไม่ใช่คนที่ตัวเองอยากให้เป็นแล้ว นักอ่านมีสิทธิ์รู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกใช้นะคะ แต่นักเขียนไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ งานเขา สิทธิ์เขา คุณไม่ชอบ เงินคุณ สิทธิ์คุณ
ไม่ละเมิดยังไงคะ ใช้ทั้งชื่อ ใช้ทั้งภาพ ใช้ทั้งรูป และเอาไปเขียนในแนวสัปดน มายากลอะไร คนมีตัวตนจริงในชีวิตจริง แถมเป็นคนมีชื่อเสียง ยังจะเรียกร้องว่านักเขียนไม่ได้ทำอะไรผิดอีก ทั้งที่มันผิดตั้งแต่เอาศิลปินมาเขียนสนองความใคร่ตัวเองแล้วจ้าาาาา
>>781 จะละเมิดก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นเพราะแฟนฟิคชั่นจริงๆ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วแทบเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ อย่างที่บอก ทุกคนรู้กันว่าแฟนฟิคชั่นไม่เกี่ยวกับศิลปิน ไม่ใช่ความจริง คือใครจะอ้างว่ามีคนเชื่อว่าแฟนฟิคชั่นเป็นเรื่องจริงจนส่งผลต่อตัวศิลปิน มันจะไม่ใช่ความผิดของตัวนักเขียน แต่เป็นความผิดของคนอ่านเองน่ะสิคะ
อีกกรณีนึงที่เป็นแฟนฟิคชั่นแล้วละเมิด คือต้องเป็นแฟนฟิคชั่นของสิ่งที่มีลิขสิทธิ์ eg. แฟนฟิคป๋อจ้าน ไม่ผิดฐานละเมิด แต่แฟนฟิควั่งเซี่ยน อันนี้ละเมิด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่รวมกรณีใช้รูปนะคะ อันนั้นพูดไปตั้งแต่ความเห็นบนๆแล้วว่ามันผิด
>>781 ส่วนมากโดนคำว่าศิลปินบังตาไงเลยคิดไม่ถึงว่าการเอาบุคคลที่มีตัวตนจริง พูดถึงปุ๊บก็รู้เลยว่าคนนี้แน่นอนมาแต่งเรื่องแล้วเผยแพร่โดยเจ้าตัวไม่ได้ให้ความยินยอม พื้นฐานจริงๆมันคือการละเมิดบุคคลที่เจ้าของชื่อสามารถฟ้องร้องได้ นี่ยังไม่รวมว่าฟิควายมันคือเรื่องทางเพศด้วยนะ
ยังไงก็ละเมิดนั่นแหละ
แต่แค่เจ้าตัวที่โดนใช้ไปเป็นอิมเมจสร้างแฟนฟิค ไม่ได้ออกมาแจ้งความ
เกาหลีมีเทคแอคชั่นอยู่นะ แต่ไทยยังไม่ได้ทำไรเพราะมันยังเป็นกลุ่มเล็กๆ
>>782 >>784 คืออย่างนี้ค่ะ เวลาสู้กันทางกฎหมายว่าแฟนฟิคตัวบุคคลละเมิดไหม เขาสู้กันด้วยประเด็นที่ว่าตัวละครในฟิค ต่อให้ชื่อเหมือนนามสกุลเหมือนศิลปินหรือบุคคลจริง หรือต่อให้ใช้รูปด้วย แต่ถ้าทุกคนรับรู้ร่วมกันว่าไม่ใช่ความจริง ตัวละครเป็นคนละคนกับศิลปิน มันก็ไม่เข้าข่ายละเมิด (แต่รูปอาจโดนฟ้องผิดลิขสิทธิ์ อันนี้แยกกันนะคะ)
แต่ๆๆๆ สมมตินะคะ ถ้าจะให้ผิดในกรณีละเมิดให้ได้ มันมีความเป็นไปได้อย่างนี้ค่ะ
1. คนส่วนใหญ่จำนวนมากอ่านฟิคแล้วเข้าใจว่าเป็นเรื่องจริง ทำให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียง กรณีนี้นักเขียนอาจเข้าข่ายละเมิด
2. คนส่วนใหญ่รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง มีคุณคนเดียวที่ไม่รู้แล้วไปโกรธเกลียดด่าทอศิลปิน อันนี้คุณอาจเข้าข่ายละเมิดค่ะ
ขอถามแทรกนิดนึง เข้าใจว่าศิลปินเกาหลี มีการจดลิขสิทธิ์ชื่อวง ชื่อการแสดง และชื่อตัวด้วย เช่นบางคนหมดสัญญาออกจากค่ายใช้ชื่อวงชื่อในวงการเดิมไม่ได้ อย่างนี้ถ้าเอาชื่อพวกนี้มาเขียนฟิคคือละเมิดลิขสิทธิ์ใช่มั้ย (พวกตัวละครอันนี้เข้าใจอยู่แล้วว่ามีลิขสิทธิ์ตั้งแต่นักเขียนจรดปากกาสร้าง) เท่าที่รู้กฎหมายไทยจดลิขสิทธิ์ชื่อพวกนี้ไม่ได้จดได้แต่เครื่องหมายการค้า ซึ่งก็สามารถฟ้องกันได้เหมือนกัน(ถ้าคิดจะฟ้อง)
ถามอีกข้อ เอารูปศิลปินมาตัดต่อเป็นแฟนอาร์ตติดเรทอันนี้เคยเห็นแจ้งความฟ้องกันอยู่ในไทย แล้วแฟนฟิคติดเรทล่ะต่างกันมั้ย(ถ้าเอาหน้าเขามาประกอบเรื่องอันนี้ผิดเข้าใจอยู่ แต่ถ้าเขียนตัวหนังสืออย่างเดียวล่ะ แล้วแบบเจ้าตัวไม่พอใจอยากแต้งความเองงี้) ยิ่งพูดยิ่งงงละ
>>787 มึงมองในแง่ศิลปินไง ถ้าสมมุตินะ คนๆนี้เป็นแค่คนธรรมดาๆ มีคนเอาคนๆนี้ ชื่อนี้ พูดปุ๊บรู้เลยว่านายเอ เอาไปแต่งนิยายใต้ดิน kink สัดๆ หรืออาจจะใสๆกับนายซี นางบี ที่คนๆนี้เกลียดกันอยู่ เผยแพร่ฟรีๆ แปะป้ายไว้เลยว่านี่แค่นิยายนะตัว เค้าชอบคนๆนี้แต่แบบเค้าเฟติส zoophilia อ่ะหรือ เค้ามี kink อันนี้อ่ะแต่จิ้นกะคนนี้เมามันมากเลย เลยแต่งแบบนี้ เจ้าของชื่อมีสิทธิ์ขอให้หยุดการกระทำไหม ถ้ามีมันคือการละเมิดไหมล่ะ ทุกคนรู้หมดว่าเป็นเรื่องแต่ง แต่เจ้าตัวไม่ยินดี อึดอัดใจทุกครั้งที่รู้ ที่มีคนมอง ก็ฟ้องละเมิดได้ไหม หรือจะบอกว่าทุกคนรู้ว่าแค่เรื่องแต่ง แต่งและเผยแพร่ต่อได้เลย ไม่ละเมิด
ดังนั้นกุว่าพื้นฐานมันก็คือการละเมิดแล้ว แต่การละเมิดนั้นสร้างความเสียหายแค่ไหน มีมูลค่าเท่าไหร่ อันนั้นว่ากันอึกที
>>791 ถ้าชื่อติดลิขสิทธิ์ก็ผิดนะคะ ส่วนแฟนอาร์ตตัดต่อ ต้องดูว่าเจตนาทำให้เข้าใจผิดหรือเปล่า เนียนมากก็มีสิทธิ์จะโดนเข้าใจว่าเจตนามาก แต่แฟนฟิคมันเป็นอีกเรื่อง มันคือสื่อที่ชัดเจนมากว่าไม่ใช่เรื่องจริง ไม่สามารถทำให้ใครเข้าใจผิดได้เลย นอกจากจะจงใจทำให้คนเข้าใจว่าเป็นเรื่องจริง อย่างเช่นพยายามย้ำว่าแฟนฟิคนี้เขียนขึ้นมาจากเรื่องจริงนะ หรือย้ำในทางตรงกันข้ามแบบมีเลศนัยอย่าง "เรื่องนี้ไม่จริงเลยนะคะ ไม่จริ๊งไม่จริง ไม่ได้ไปรู้มาจากวงในที่ไหนเลยค่าาาาา เช็คดูได้ค่าาาาา" อะไรงี้น่ะค่ะ แต่มันก็ไม่ค่อยมีไง ถ้ามีมันจะไม่ค่อยอยู่ในรูปของฟิคชั่น แต่จะคล้ายๆข่าวซุบซิบมากกว่า
>>794 ประเด็นเดิมเลยค่ะ ฟ้องได้ แต่ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนในแฟนฟิคคือตัวบุคคลจริง มันไม่ละเมิด ทีนี้ถ้าจะบอกว่ามันพูดถึงคนจริงๆ มันจะกลายเป็นว่าคนคนนั้นทำสิ่งที่อยู่ในแฟนฟิคไปด้วย ถ้าไม่ได้ทำ คนในฟิคกับคนจริงๆก็คือคนละคน ไม่เข้าข่ายละเมิดอีก มันขัดกันเองอย่างนี้ล่ะค่ะ เราก็เลยไม่ค่อยเห็นการฟ้องประเด็นละเมิดแบบนี้เท่าไหร่
>>796 ไม่ได้พยายามทำให้มันไม่ผิดเลยค่ะ คือแฟนฟิคตัวบุคคลมันไม่ผิดตามกฎหมายจริงๆ ถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอม มันก็สามารถเลี่ยงบาลีไปว่าไม่ได้เขียนถึงเจ้าตัวได้ เท่าที่จำได้เคยมีเคสคนชื่อซ้ำกับตัวละครในนิยายไปฟ้องร้องว่านักเขียนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง สุดท้ายก็ได้แค่ให้เขาเปลี่ยนชื่อตัวละครไปเท่านั้นเองค่ะ แต่ตัวนักเขียนไม่ผิดฐานทำให้เสียชื่อเสียง
ขอยกตัวอย่าง นายคิมเอบี(ชื่อในวงการ ชื่อจริง คิมซีดี) เป็นนักร้องดังมากกอยู่วง xyz ค่ายเอาชื่อคิมเอบี กับ xyz ไปจดทะเบียนการค้า
1 เอารูปคิมเอบีไปทำสินค้าแฟนเมดขาย
2 แต่งฟิคขายโปรโมตด้วยชื่อ คิมเอบีและxyz
3เอารูปคิมเอบีตัดต่อโป๊เปลือยแจกฟรี
4 แต่งฟิคคิมเอบีติดเรทอนาจารแจกกันอ่านฟรี
5เอารูปคิมเอบีมาใช้ไม่ติดเรทไม่หากำไร
6แต่งฟิคคิมเอบีลงให้อ่านฟรี ไม่ติดเรท PGใสๆ
7ใช้ชื่อคิมซีดีแต่งนิยายขาย ไม่เอารูปมาใช้ ไม่พูดถึงชื่อคิมเอบี ไม่พูดถึงวงxyz แต่ใครมาอ่านก็รู้ว่าพูดถึงใคร
8เปลี่ยนชื่อเป็น อิลคันกี เอามาเป็นพระเอกนิยายขาย ไม่พาดพิงใดๆถึงคิมเอบี คิมซีดี xyz แต่คนรู้จักอ่านปุ๊ปก็เดาได้ว่าอิลคันกีมาจากคิมเอบี แต่ถ้าคนนอกด้อมจะไม่รู้
ที่เจออยู่มันจะประมาณนี้อะ สำหรับด้อมคนจริง กูไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเส้นแบ่งของแต่ละคนมันอยู่ตรงไหน (เราไม่เสพคนจริงทั้งหมด)
(ถ้าเป็นตัวละครก็จะอีกแบบ เป็นเรื่องลิขสิทธิ์ไปล้วนๆเลย อย่างโม่เซียงที่ห้ามชัดเจนก็ง่าย อย่างพนมเทียนก็ห้ามก็รู้อยู่ อย่างอื่นก็เข้าใจว่าเจ้าของเขาหลับตาให้ข้างนึง เคยเจอทวิตนึงพูดถึงพวกมังงะญี่ปุ่น คือทัวร์จะลง ถ้าเอาโดจินขึ้นขายแบบเล่มอีบุ๊ค หรือขายของแฟนเมดแบบพรีออเดอร์ไม่จำกัดจำนวน เหมือนทางชาวเกาะเขาจะถือเรื่องปริมาณการผลิต)
ตัวเราเองเสพแต่ 2d มาตลอดชีวิตก็จะเข้าใจธรรมเนียมนี้อยู่ พอมาหลังๆมันคาบเกี่ยวกับ 3d ทั้งดาราจีน ดาราเกาหลีมากขึ้น ก็ทำให้เข้าใจว่าแต่ละด้อมเขามี tabooไม่เหมือนกัน อย่างตัวกูเองฟิคสำหรับขายคือเป็นเล่มจำกัดปริมาณ ไม่ค่อยโอเคกับฟิคติดเหรียญ(ด้อมญี่ปุ่น)เท่าไหร่ แต่ถ้าฟิคauสักวันถ้านักเขียนจะเอาไปเขียนเป็นออริ(เจอบ่อยเหอะ/เน้น มังงะญี่ปุ่น)กูก็เฉยๆอะ เพราะบางทีอ่านตอนเป็นฟิคละยังคิดเลยว่านอกจากชื่อนี่ไม่มีอะไรเหมือนต้นฉบับเลยให้ตายสิ
(ใครเคยอ่านชายหญิงของจุxxบ้าง อันนั้นกูถือได้มั้ยว่าเป็นฟิคจอมคนแดนฝัน)
>>798 งั้นอาจจะต้องแบ่งกรณี
1. ใช้รูป ใช้ชื่อ เจาะจงว่าเป็นใคร ผิด100%
2. ใช้รูป เปลี่ยนชื่อ รู้กันในกลุ่มว่าคือใคร จับให้ผิดยากเพราะใช้แค่รูป อาจผิดแค่ลิขสิทธิ์รูปนั้นๆ
3. รูปวาดเสมือน เปลี่ยนชื่อ จับให้ผิดไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งสมมติที่รู้กันว่าเป็น
ประมานนี้ป่ะ
>>800 ไม่เสพด้อมคนจริงเหมือนกัน ขอมา+1 เรื่องกรณีด้อม 2d ฝั่งชาวเกาะ เขาถือเรื่องปริมาณมาก และขายแบบจำกัด ไม่มีรีปรินท์ เวลาขายก็ขายแค่ในช่วงเวลาหนึ่งต้องจ่ายเงินซื้อแค่ช่วงเวลานั้นเวลานี้เท่านั้น แล้วก็ส่วนใหญ่ไม่ออกพร่ำเพรื่อออกทีก็คือลงในงานที ผ่านไปสักพักก็อาจจะเอามาลงฟรีให้อ่าน ไม่เน้นกำไรจริงๆ
แต่สิ่งที่ไม่มีปัญหาเลยคือ กรณีเอาโดที่ตัวเองเคยเขียนขายแบบเป็นเซตติ้ง AU (ย้ำเลยนะว่า AU) ไม่ได้เบสจากต้นฉบับ แล้วต่อมาภายหลังเอามาเพิ่มเติมปรับปรุงเนื้อหา เปลี่ยนตัวละครเป็นของตัวเอง แล้วเอามาเขียนเป็นมังงะออริ อันนี้สำหรับฝั่งเกาะไม่มีใครไปทัวร์ลงนะ
>>798 กุจะเข้าใจได้ไหม ว่ามึงหมายถึงการกระทำนี้มันมีมูลเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลจริง ถึงทำให้ฟ้องได้ เพียงแต่ขั้นตอนการพิสูจน์และตีความการกระทำผิดโดยหลักฐานมันทำให้ชัดแจ้งในชั้นศาลได้ยาก บิดได้หลายทาง ทำให้สุดท้ายมักจะยกฟ้องเพราะมูลเหตุไม่เพียงพอ
เพราะคุยกันมาอ่านๆไปก็เหมือนมึงสนับสนุนการแต่งฟิคจากตัวบุคคลทุกประเภทว่าทำได้เป็นอิสระ ไม่ต้องกลัวไปรบกวนใครได้เลย เรทยังไงก็ได้ ไม่ผิดกฎหมายแน่นอนไปน่ะ ซึ่งพื้นฐานนี้มันจะทำให้คนแต่งโลดโผนไปอีกขั้นเลย พื้นฐานผิดแต่หยวนสังคมพออนุโลมได้ กับไม่ผิดเลย limit break มันต่างกันเยอะนะ
ว่าแต่เคสที่บังคับคนเปลี่ยนชื่อนั้นเหมือนกุก็พอจำได้ รู้สึกไม่ใช่นิยายใต้ดินอันเดอร์กราวและแค่เหมือนโดยบังเอิญด้วยหรือเปล่า ว่าแต่ใช้กฎหมายข้อไหนบังคับให้คนเขียนเปลี่ยนชื่ออ่ะ อันนี้กุอยากรู้จริงๆนะ เพราะข่าวนั้นกุถึงเข้าใจมาตลอดว่าในทางกฎหมายมันคือการละเมิดแล้ว ทั้งๆที่เคสนั้นเบากว่าฟิคลามกใต้ดินที่เราๆอ่านกันไปไกล ยังไงกุก็มองว่าเรื่องเพศมันเอาไปใส่ชื่อใครคนนั้นก็เสียทั้งนั้นแหละ ใครจะชอบที่รู้ว่าตัวเองโดนเอาไปว่าววะ (เออจริงๆมี แต่กุหมายถึงคนส่วนใหญ่น่ะ) แต่ถ้ามึงจะบอกแง่การทำคดีกุก็เข้าใจ กฎหมายพอตีความจริงๆมันก็มีอะไรที่ขัดสามัญสำนึกทั่วไปได้
>>810 จริงๆแล้วอย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละค่ะ
และถ้าเราอ่านฟิคตัวบุคคลนี่ถือว่าเราสนับสนุนไหมคะ ส่วนตัวแล้วอ่านทุกอย่าง และไม่ได้มองว่าฟิคตัวบุคคลเกี่ยวข้องกับบุคคล อ่านในฐานะนิยายเรื่องหนึ่ง เราไม่ได้สนับสนุนให้ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ได้สนับสนุนให้มีการชุบฟิคเป็นออริ เพียงแต่พอมีคนบอกว่าแฟนฟิคผิด ผิดตั้งแต่แรกและผิดเสมอไป คนเขียนชุบฟิคหรือขายฟิคคือปลิง อันนี้เราว่ามันเกินความจริงไปนิด ก็เลยอยากจะให้เข้าใจก่อนว่า ตัวนิยายคือลิขสิทธิ์ของนักเขียนนะ ถ้ามันไม่ละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่น เขาจะทำอะไรกับมันก็ได้ ทีนี้พอเขาไม่ผิด สิ่งที่เราทำได้คือไม่ซื้อ เรามองว่าถ้าเราไม่ชอบการกระทำของเขา เช่นไม่ชอบที่เขาชุบฟิค เราก็ไม่สนับสนุนการกระทำนั้น ไม่ใช่เล่นงานคนที่ทำเรื่องนั้น เพราะเราไม่ใช่ศาล การตัดสินโทษคนอื่นมันเกินอำนาจเรา บางทีมันก็ทำร้ายคนอื่นเกินกว่าเหตุ และบางทีมันก็ย้อนกลับมาหาเราในรูปแบบของโนติสค่ะ
เคสเปลี่ยนชื่อตัวละครเพราะซ้ำกับบุคคลจริงเป็นเหตุบังเอิญ เท่าที่จำได้ไม่ได้แก้ด้วยข้อกฎหมาย แต่เป็นการตกลงกันเองของทั้งสองฝ่ายค่ะ
>>811 เราก็ยังว่าปลิง ปลิง ปลิง ปลิง ปลิง และปลิงอยู่ดีอะค่ะ
ตราบใดที่ใช้ชื่อ อิมเมจ ชื่อเสียงของศิลปิน ติดแท็กคู่ชิป มาใช้ประกอบในการสร้างงานเขียนแล้วหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ต่อให้ชักแม่น้ำสามพันสายมาอธิบาย มันก็คือปลิง และปลิงค่ะ เกินจริงยังไงคะ ไม่อยากให้ด่าว่าปลิง ใช้ชื่อศิลปินทำไมก่อน หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองทำไม กระสันเขียนเองเรียกร้องหาสวรรค์อะไร งงใจ
เรามองในมุมของคนที่ไม่ได้อ่านฟิค และไม่ชอบเท่าไหร่กับการใช้ชื่อเสียงศิลปินที่เรารักไปหาผลกำไรเข้ากระเป๋าตัวเองอะค่ะ เอาต้นแบบเขามาเขียน ขออนุญาตหรือยัง เขาอนุญาตไหม ถ้าไม่มันก็คือการละเมิดตัวบุคคล ฟ้องทางกฏหมายได้ แต่จะชนะหรือไม่ คงเป็นเคสบายเคสไป และที่เขาไม่ฟ้องกันเพราะมันเสียเวลาค่ะ
อ่านมาทั้งหมด ความเห็นของคุณเธอย้อนแย้งมากเลยค่ะ ตรรกะเรื่องสามัญสำนึกพื้นฐานคนเรามันไม่เท่ากันเนอะ
ใช่ค่ะ นิยายเป็นลิขสิทธิ์ของนักเขียน เราไม่เถียง แต่มันก็เป็นลิขสิทธิ์ที่มาจากพื้นฐานการละเมิดศิลปินจับคู่จิ้นสนองความใคร่ตัวเอง
ศิลปินชอบไหม สะดวกใจไหม โอเคไหม กูไม่รู้ แต่กูชอบของกู กูจะอ่าน กูจะเขียน เจริญพรจริง ๆ
>>811 เห็นเถียงอยู่คนเดียวไม่ไหวอย่าฝืนเลยมึง บางเรื่องมึงไม่ต้องหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอธิบายหรอก มันจบตั้งแต่แต่งนิยายโป๊ติดชื่อศิลปินแล้วเนาะ เอาคนจริงมาจินตนาการโดนเยสารพัด ถ้ามึงมีสามัญสำนึกหน่อยรักศิลปินจริงๆหน่อยมึงก็ควรรู้ว่าอะไรมันควรไม่ควร ตัวมึงเองโดนคนเอาไปแต่งฟิคเยกับเพื่อนมึงมีคนอ่านร่วมแสน คนฟินกับการจินตนาการว่ามึงโดนเยสิบน้ำมึงพอใจเรอะ ไม่ใช่คาร์แรคเตอร์ที่สร้างมาเหมือนอย่างพวกวีทูบเบอร์ด้วยซ้ำแต่เป็นตัวมึงจริงๆหน้าของมึงจริงๆนะ ถ้าแค่นี้ยังรู้สึกว่ามันไม่ผิดต้องหาสารพัดเหตุผลมาโน้มน้าวให้มันไม่ผิดกูว่ามึงไม่ไหวแล้ว ต่อให้มึงยกประมวลกฎหมายมาทั้งเล่มเอามากางบอกนี้ๆๆเพราะงี้มันเลยอาจไม่ผิด มันก็เปลี่ยนแปลงคงามจริงที่มึงจับเอาศิลปินไปเยกันแล้วเผยแพร่ให้คนอื่นอ่านให้มันไม่ผิดไม่ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องเอานิยายโป๊ที่อิงอิมเมจศิลปินไปขายเป็นล่ำเป็นสันด้วยซ้ำ
ต่ออีกนิด ถ้ามันไม่ผิดจริงก็ลองให้คนไปถามศิลปินดูดิว่าฉันขออนุญาตแต่งนิยายเรท19ที่เอาคุณไปตีความเป็นตัวละครได้มั้ย มีฉากอย่างว่าเยอะหน่อยแต่ไม่ต้องห่วงไม่ได้ใช้ชื่อจริงๆของคุณ แค่เอาหน้าคุณไปจินตนาการว่าเยกับเพื่อนคุณ จะตอบโอเคคร้าบไม่เป็นรายกี่คน ลองดู๊ววว
เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมโฟกัสที่ฟิคโป๊ล่ะ ไม่มีฟิคอย่างอื่นเลยเหรอที่คุณอ่านน่ะ เยสารพัดด้วย ขอโทษนะ เราไม่สันทัดด้านนี้ แต่ถ้ามันเดือดเนื้อร้อนใจขนาดที่คุณพูดมา ทำไมศิลปินไม่ลองฟ้องดูเป็นตัวอย่างล่ะคะ
ไถอ่านละหน่ายใจ กุไปละ
งงว่าทำไมต้องมาแก้ต่างแทนชาวบ้านหนักขนาดนี้ งงมากด้วย แต่ยังใสซื่อไม่สันทัดฟิค เครแหละ
ไปมู้อื่นดีกว่า
ตอบแต่อันที่เถียงได้ด้วยนะ อันที่เถียงไม่ได้ไม่ตอบ
กูว่าคนที่เถียงน่ะ ตอนนี้คือกำลังพยายามเลี่ยงบาลีนะ เอางี้ ในทางปฏิบัติก็เข้าใจมึงนะว่า ศลป มาฟ้องจริงอาจไม่ได้ แต่อยากให้คิดถึงเจตนาด้วยว่ะ ในแง่มุมคนเขียนมันต้องรู้อยู่แก่ใจป่ะมันเอา ศลป มาเขียนฟิค แล้วสุดท้ายไปเปลี่ยนเป็นออริ เจตนามันก็ไม่ดีแล้วมั้ย ถึงจะมองว่าเป็นผลงานของเขาก็เหอะ แต่คนในคอมมูที่โดนหลอกมันไม่โอเคอ่ะ
เอาแค่ไม่ใช่ศิลปินอะมึงไปเอารูปจากพินเทอเรสมา พอคนท้วงก็บอกเจ้าของไม่เห็นฟ้องอะไร เอ้า กูไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาด่า
จริงๆก็อธิบายไปหมดแล้ว แผ่นเสียงตกร่องแล้ว แต่สรุปอีกรอบก็ได้
ทำไมฟิคบุคคลไม่ผิด => เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง รับรู้ทั่วกันว่าเป็นนิยาย ส่วนใหญ่เลยไม่เข้าข่ายละเมิดหรือหมิ่นประมาท จะลองฟ้องก็ได้ แต่ปกติแล้วมันจบแค่ไกล่เกลี่ย เพราะพิสูจน์ยาก
เอาคนอื่นไปจินตนาการเรื่องเซ็กส์แล้วเขียนออกมาให้คนอ่านไม่ผิดเหรอ => จะผิดได้ก็ต้องพิสูจน์ก่อนว่ามันทำให้เจ้าตัวเสียหายจริงๆ ทีนี้ก็ย้อนกลับไปข้างบน มันพิสูจน์ยาก
ไม่ได้พูดเรื่องกฎหมาย พูดเรื่องศีลธรรม => มาตรฐานศีลธรรมของแต่ละคนต่างกัน ก็เลยต้องใช้กฎหมายเป็นบรรทัดฐาน
ทำไมต้องใช้กฎหมายเป็นบรรทัดฐาน ก็บอกว่าพูดเรื่องศีลธรรม => เพราะถ้าบุคคลไม่ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าผิดตามกฎหมาย การไปด่าเขาจะทำให้เราโดนฟ้องได้
จะด่า จะทำไม => ไม่ได้ทำไม แค่อยากเตือนเฉยๆ
ทำไมต้องดีเฟนด์ให้พวกเขียนฟิคด้วย => ไม่ได้ดีเฟนด์ให้พวกเขียนฟิค แค่อยากเตือนว่าอย่าใช้คำแรง ไม่ชอบฟิคก็ไม่ชอบ ก็ไม่ต้องสนับสนุน
ใสซื่อไม่สันทัดเรื่องฟิค => ปกติไม่ได้อ่าน slash ที่พูดมาตั้งแต่ต้นก็ไม่ได้คิดถึงเรื่อง slash คิดถึงฟิคทั่วไป
เห็นเถียงอยู่คนเดียวไม่ไหวอย่าฝืน => คนรู้จักโดนฟ้องอยู่เพราะไปด่านักเขียน ที่พยายามอธิบายนี่ก็มาจากประสบการณ์ล้วนๆ ไม่ได้ฟ้องคนเดียวแล้วจบ คนอื่นรอบข้างเดือดร้อนกันไปหมด เพื่อนฝูงพี่น้องต้องช่วยกันวิ่งเต้นเพราะเจ้าทุกข์เขาจะฟ้องอาญาด้วย ไม่โดนก็โชคดีไป แต่แจ๊กพ็อตโดนขึ้นมาไม่สนุกค่ะ
เหมือนจะเข้าใจกันว่าเราดีเฟนด์ให้ฟิค พยายามจะให้มันถูก คือเราไม่ต้องพยายาม ฟิคบุคคลมันไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่แล้ว ที่พยายามอยู่นี่คืออธิบายว่าอย่าด่าแรงๆ เราก็บอกตลอดว่าเราก็ไม่ได้ชอบ แต่ที่ทำได้คือไม่สนับสนุน ก็พยายามบิดให้เราดีเฟนด์ให้แฟนฟิคให้ได้ คือเราก็คงสรุปได้แค่เท่าที่พูดมา ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีกแล้ว มันวนหลายรอบแล้ว แค่ไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนอย่างคนรู้จักเราเท่านั้นเองค่ะ จะรับหรือไม่รับพิจารณาก็แล้วแต่เลยค่ะ
กูเข้าใจที่ 825 พยายามจะอธิบายนะ คือด้วยสายคาของกฎหมายไทยตอนนี้และการตีความกฎหมายจากที่ผ่านมา ฟิคบุคคลไม่ผิด ชุบฟิคยิ่งผิดน้อยลงกว่าอีก ดังนั้นการที่ไม่ชอบคือทำได้ด้วยสันติวิธีคือการแบนไม่สนับสนุน ไม่ใช่การไปตามด่า เพราะการไปตามด่านักเขียนนั่นแหละผิดกฎหมายแน่ๆและจะซวยเอา
พวกมึงสู้ชีวิตกันมาก แต่หันมาดูความจริงกฎหมายได้ก็ทำได้แค่นั้นแหละ
กฎหมายไทยสิ ผิดตก
ยิ่งอ่านยิ่งโคตรสังเวชใจ เฮ้อออออ ขอภาวนาแล้วกัน ขอให้นักเขียนแฟนฟิคคิดแบบนี้ให้น้อยลง น้อยมากเท่าไหร่ยิ่งดี กฏหมายมีช่องโหว่ง กฏหมายจะเอาผิดได้หรือไม่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าการใช้ 'ชื่อเสียงของศิลปิน' มาหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเป็น 'เรื่องที่ถูก'
อ้างว่าเป็นเรื่องแต่ง เป็นแค่นิยาย แล้วจะใช้ชื่อเสียง เมจ คาแรคเตอร์ของเขายังไงก็ได้เหรอ สุดท้ายก็จบลงที่ศิลปินชอบไหม สะดวกใจไหม โอเคไหม กูไม่รู้ แต่กูชอบของกู จิ้นของกู กูจะอ่าน กูจะเขียน กูจะขาย
จรรยาบรรณ ศีลธรรม และสามัญสำนึกสะกดง่าย พิมพ์ง่าย แต่คงทำยากสำหรับบางคน ขอให้พวกที่ทำนาบนหลังคน ใช้ชื่อเสียงหาประโยชน์ส่วนตน หลุดพ้นจากการโคลนตมเร็ว ๆ แล้วกันนะคะ และกลับมาเป็นคนมีสามัญสำนึกพื้นฐานได้ในสักวัน
>>825 กูก็ยังงงอยู่ดีทำไมมึงต้องมาโวยวายขนาดนั้น การด่าคนแรงเกินจนโดนฟ้องมันเป็นเรื่องpersonalป้ะมึง5555 ไม่ใช่ทุกคนที่จะด่าว่าวิจารณ์นักเขียนชุบฟิคกันรุนแรงจนน่าโดนฟ้องได้ มึงมาโวยวายจนแผ่นเสียงตกร่องขนาดนี้มันดูเกินไปหน่อย มีคนด่าแรงเกินกว่าเหตุคนเดียวไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆที่เหลือไม่ควรมีสิทธิ์วิจารณ์ไปด้วยป่าว
ไปนั่งย้อนอ่านมา ถ้าไม่พูดถึงเรื่องเอาไปหากำไรไม่หากำไรนะ สรุปสุดท้ายแล้วแฟนฟิคชันที่เกี่ยวข้องกับศิลปินมีตัวตนจริงไม่ควรเขียนแต่แรก
ยกเว้นได้รับอนุญาตใช่มั้ยนะ? เพราะสุดท้ายต่อให้เขียนเพื่อแบ่งปันคนในคอมมู แต่ถ้าไม่เคยถามความยินยอมมันก็คือการเอาศิลปินมาจิ้นมาเขียนตามใจชอบโดยที่ไม่สนใจว่าศิลปินจะรู้สึกยังไงหรือเปล่า? เพราะที่ผ่านๆมา การหยวนๆที่ว่ามันก็เกิดมาจากคนในคอมมูกันเองว่า เออ แบบนี้ไม่แสวงหากำไรนะ ไม่ได้ติดเหรียญขายแค่ตัวเล่มไม่เยอะอะไรแบบนี้ แต่ศิลปินหรือต้นสังกัดไม่ใช่ฝ่ายที่ออกมาพูดว่าหยวนแบบไหนยังไงอะ
ถ้าให้ยกตัวอย่างคือ มีเกมเพิ่งออกใหม่ล่าสุดแฟนๆก็อยากวาดรูปแต่งฟิคทำแฟนเมด ก็เลยมีคนส่งเมลล์ไปถามค่ายเกมเลยว่าอนุญาตให้ทำแค่ไหนยังไงบ้าง ก็คืออันนี้พูดได้เต็มปากว่าออฟฟิเชียลหลับตาให้ข้างนึงตราบใดที่อยู่ในข้อกำหนดของเขา หรือถ้ามีเคสด้อมศิลปินไหนที่มีกฎเกณฑ์เรื่องนี้ชัดเจนก็แชร์ได้นะ แล้วสงสัยอีกอย่างว่าคนในด้อมที่ประเทศต้นทางนี่เขามีแนวทางเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ยังไง แบบเขาลงฟิคชันในเว็บอ่านนิยายออนไลน์ทั่วไปกันมั้ย? แบบถ้าเป็นที่จีนเนี่ย จิ้นเจียงมีฟิคชันศิลปินที่ไม่ติดเหรียญลงด้วยมั้ย? หรือเขามีแหล่งลงเฉพาะอะไรยังไงหรือเปล่า?
>>832 กูเคยงงเวลาฝั่งด้อม ศลป คนจริงอ้างว่า อฟช หลับตาข้างหนึ่ง คือเหตุผลนั่นมันฝั่งพวกด้อมเมะ ที่ อฟช หลายเจ้าเขามีเงื่อนไขระบุชัดเจนนะ (โอเค พวกมังงะหลายเรื่อง ยิ่งพวกจัมป์ไม่มีบอกหรอก แต่มันก็จะยึดเอาที่ ญป ซึ่งเป็นด่านหน้าเป็นแนวทาง) พวก ศลป เกาหลี นสด จีน นี่กูก็สงสัยแฟนฟิคที่นั่นเขาทำกันยังไง เหมือนคนไทยเขียนกันเองในคอมมูไทยกันเองตั้งกฎกันเองมากกว่าว่ะ
อย่างของ ญป อันนี้กูรู้ว่าเขาเรียกของสด พวกนี้คือลงหลุมสุดๆ ไม่ให้คนเห็นเป็นแอคล็อก ที่เงื่อนไขการฟอลยุ่งยาก ง่ายๆ ว่าโหดกว่าฝั่งด้อมเมะหลายเท่าเลย แต่พอมาในไทยกูรู้สึก ด้อมเมะคนไทยเคร่งกว่าฝั่งจิ้นคนจริงไปเสียฉิบ
ขนาดแอคโป๊ใช้ชื่อศิลปินแม่งยังไม่โดนไรเลย คนเขียนฟิคก็ทำตัวให้อยู่ในขอบเขตไม่ไปปากดีก็พอละ พวกมึงต้องแยกหน่อยไอ้คนเขียนฟิครักจริงๆไม่มีใครว่าหรอก ปล่อยไอ้พวกจะเอาขาว100%ไป แต่มันยังมีพวกหากินจริงๆก็โดนด่าไปตามระเบียบ
>>833 เอาจริงๆพวกนี้ไม่ค่อยมีใครออกมาระบุตรงๆแรงๆหรอก เพราะมันเกี่ยวพันกับพื้นฐานแฟนคลับ สมัยก่อนที่คนยังแอนตี้วาย ดาราสามารถทำหน้าลำบากใจออกสื่อได้ด้วยซ้ำเวลามีคนถามว่าคิดยังไงทึ่โดนเอาไปแต่งแฟนฟิควายที่ค่อนข้างโลดโผน เมะ มังงะก็อนุโลม ด้วยเหตุผลคล้ายกันคือได้ประโยชน์ร่วม และมันเกิดจากกระแสนิยมที่ทางตัวงานหรือตัวคนต้องการสร้าง บางครั้งชอบไม่ชอบก็ต้องหลับตาไม่งั้นแฟนแอนตี้ขึ้นมาคือพังไม่ใช่น้อย นับประสาอะไรกับสมัยนี้ที่ยิ่งจงใจขายเซอร์วิส
ที่กูจะสื่อก็คือ เรื่องพวกนี้โดยพื้นฐานมันมีการละเมิดสิทธิ์แฝงอยู่เพียงแต่เจ้าตัว, เจ้าของลิขสิทธิ์เขาอนุโลมเพราะมีประโยชน์ร่วม ถ้าเข้าใจแบบนี้เวลาทำอะไรจะได้ยั้งบ้าง จะจิ้นจะอะไรก็อยู่ในที่ของตัว ไม่เอาไปหาประโยชน์ในรูปตัวเงินชัดเจน ไม่ไประรานศิลปินบนดิน
ส่วนประเด็นชุบฟิค อย่างที่ข้างบนบอก ถ้าเค้าตัดความเกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วเอาไปทำเชิงพาณิชย์ ทางกฎหมายมันทำอะไรไม่ได้ เพราะเนื้อเรื่องและสำนวนการเขียนมันคือผลงานของเจ้าตัว เจ้าตัวเอาเฉพาะส่วนที่เป็นของตัวเองไปหาประโยชน์มันทำได้ แฟนคลับที่รู้สึกว่าถูกหลอก รู้สึกไม่ดี สามารถทำได้แค่ไม่อุดหนุน แอนตี้อย่างตรงไปตรงมา ประกาศความเคยเป็นแฟนฟิคที่หากินกับชื่อ รณรงค์ไม่ให้คนไปอุดหนุน แต่ไม่มีสิทธิ์ไปบุลลี่ ระราน รังควานคนเขียนทางออนไลน์ เพราะแบบนั้นกฎหมายสามารถเล่นงานมึงกลับได้
>>837 เห็นด้วยทุกคำ
กูเคยลองสวมบทตัวเองเป็นศิลปิน แล้วสมมติว่าตัวเองมาเปิดเน็ตเจอ 1.ฟิคที่เขียนเกี่ยวกับตัวกูระบุชื่อกู NCแรงๆ 2.ฟิคที่ตัวเอกชื่อใครก็ไม่รู้ แต่แฟนๆบอกว่าอ้างอิงมาจากกู (ซึ่งก็ไม่ตรงกับนิสัยจริงของกูอีกนั่นแหละ) กลายเป็นว่าเปิดเจอฟิคชุบยังสบายใจกว่าอีกมั้ง แต่ก็นั่นแหละมุมมองของแฟนคลับกับมุมมองของศิลปินมันไม่เหมือนกันละมั้ง คนส่วนใหญ่มีคนพอใจด้วยเหรอที่ถูกเอาชื่อเอาหน้าไปเขียนนิยายโป๊ เพียงแต่เขาพูดออกมาไม่ได้ได้แต่จำยอม(แฟนคลับ+ผลประโยชน์ทางอ้อม) พอคิดแบบนี้กูไม่สามารถเสพฟิคศิลปินได้จริงๆว่ะ แต่ก็ไม่สามารถไถลหน้าไปห้ามคนอื่นผลิตหรือเสพได้ละนะ เรื่องฟิคชุบก็เห็นด้วยว่าไม่ผิดกฎหมายสิ่งที่ทำได้คือไม่ชอบไม่สนับสนุนการไปตามด่าหยาบคายไปบูลลี่คือล้ำเส้น
>>837 คือสงสัยว่าส่วนหนึ่งของการอนุโลมอะ มันอยู่บนพื้นฐานว่าเขาทำกันแอบๆด้วยหรือเปล่า? เพราะพอมันแอบก็โอเครู้ว่ามีแต่อยู่ไหนไม่รู้งั้นทำเป็นว่าเหมือนไม่มีก็พอไหว อย่างกรณีฝั่งญี่ปุ่นคือมันแอบชัดเจนถ้าเป็นกรณีศิลปิน ส่วนด้อมฝั่ง 2d คือไม่มีอะไรต้องแอบ เพราะหลายๆด้อมก็เป็นการอนุโลมแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางออฟฟิเชียลมาเลย มีงานอีเวนท์ให้ลงขาย หรือถ้ายังไม่มีกฎชัดเจนแต่ทำเกินเลยออฟฟิเชียลจะมาออกกฎลงดาบเองและบอกเลยว่าอันนั้นห้ามทำนะอันนี้ห้ามทำ นอกนั้นอยากทำก็ทำ (ซึ่งเห็นบ่อยๆอยู่) เพราะอันนี้ย้อนไปบนๆก็มีเคสว่าทางเกาหลีเขาแคแอคชั่นอะ แต่นี่ก็ไม่รู้เคสนั้นคือเขาทำขาย/เผยแพร่ยังไง เพราะของไทยมันเป็นการเผยแพร่แบบเว็บอ่านนิยายทั่วไปเลย แล้วพอเจอความเห็นว่าเออ การเอาศิลปินมาจิ้นมาเขียนเนี่ยมันคือการไม่สนว่าศิลปินจะคิดยังไง ก็เลยแบบสงสัยว่างั้นไม่ควรเขียนมั้ย? หรือถ้าเขียนมันอาจจะมีแนวทางการเผยแพร่ที่ส่งผลกระทบต่อศิลปินน้อยที่สุดท้าที่จะทำได้มั้ย? แล้วทางประเทศต้นทางเขาทำยังไงบ้าง (เขาถึงเอาตัวรอดมาได้ 555)น่ะ
ออริมากกว่ามั้งที่ดีต่อใจเขาสุด เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย อย่างมากแค่อาจจะเจอบางคนเอารูปเขาไปประกอบนิยาย แต่ฟิคชุบตัวก็เริ่มมาจากเป็นแฟนฟิคมาก่อนอยู่ดี เหมือนแค่พูดให้ตัวเองสบายใจไปอย่างงั้น
>>840 >>838 แอบเห็นด้วย กุรสเหมือนเป็นล่วงละเมิดจากคนกลุ่มใหญ่ด้วยน่ากลัวมาก งงคอมมอนเซ้นคนผลิตฟิคจากคนจริงอะ พอถามว่าถ้าเป็นตัวเองหรือคนใกล้ตัวจะรสยังไงก็จะมาแนวๆอย่าไปคิดแทนศลป อ่าก็ศลปเค้าจำยอมไหม นี่ power dynamic ของจริงไหมอะ พอเป็นฟิคชุบเลยรสเหมือนเอาเรื่องแย่ๆออกไปจากตัวตนเค้า
แน่นอนว่าบนดินแสดงความเห็นงี้ไปทัวร์จะลงสามเดือน โดนยัดสารพัดข้อหาใส่ 55
คิดๆดูแล้วเรื่องพวกนี้เหมือนเรื่องผิดๆที่ทำกันจนเคยชิน จนคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วเลยเนอะ ลองไปถามใจศลป.ดูหลังไมค์จริงๆสิว่าเขาชอบกันรึป่าวกับการที่ต้องเอาไปจิ้นคนนั้นชิบคนโน้น ยิ่งบางครั้งต้องค่อยเจอคนอ่านบางจำพวกที่เสียสติขนาดไประรานชีวิตเขาจากฟิคที่อ่าน คิดดูสิต่อให้รู้ว่านักเขียนไม่ได้ผิดแต่เขาคงไม่ชอบใจฟิคพวกนี้เท่าไรหรอก
มันดป็นล่วงละเมิดกลุ่มใหญ่แบบที่บนๆ ว่าแหละ ตามหลักการชิปคนจริงถึงต้องลงหลุมหลบๆ ซ่อนๆ ไง ของ ญป มีขายเป็นเล่มนะ แต่เขาปิดมาก ไปขายกันบนเวบเฉพาะ พาสเวิร์ดที่จะมอบให้สำหรับคนที่ตั้งไบโอให้รู้ว่าเราคือพวกเดียวกัน ถึงจะเข้าไปซื้องานได้ (ขอไม่ลงดีเทล แต่มีรหัสคำที่คนชิปของสดรู้กันในแต่ละด้อม) บางทีต้องเขียนเรียงความ (ภาษาญี่ปุ่น) เอาว่าอีเหี้ย เหมือนซื้อยาบ้า ยุ่งยากกว่าตอนมดดำอีก ตัดมาที่ไทย เขียนกันเป็นล่ำเป็นสันมาเป็นสิบๆ ปี ฐานคนอ่านใหญ่จนไม่อาจเป็นหลุมได้แล้วว่ะ
ขอโทษนะ ถ้ากูจะคุยเกี่ยวกับดาราไทย กูต้องเข้ามู้ไหนอะมึง
กู 850 นะ ขอโทษทีกูกำลังนั่งไถอ่านอยู่แล้วนิ้วมันไปโดน
กูว่าบางคนมองว่าฟิคเป็นสมบัติของด้อมว่ะ พอมีคนชุบฟิคหรือเอาฟิคไปหาประโยชน์ก็เลยไม่พอใจ ด่านักเขียนว่าปลิง พอมีคนบอกว่าทำได้เพราะฟิคเป็นสมบัติของนักเขียน ไม่ใช่ด้อม นักเขียนหลังขดหลังแข็งคิดเองเขียนเอง ก็ด่าอีกว่าไม่มีใครบังคับให้เขียน โม่งข้างบนก็เลยโต้แหละ ว่ามันก็ไม่มีใครบังคับให้อ่านรึเปล่า ไม่ชอบใจก็เทๆไป ไม่ใช่มาอ้างว่าเริ่มแรกเขียนเพราะรักศิลปินไม่ใช่เหรอ ต้องอุทิศฟิคนี้ให้ด้อมสิ มึงลืมไปรึเปล่า ต่อให้เริ่มเขียนเพราะรักศิลปิน แต่ต่อมาเห็นช่องทำเงิน เขาก็ไปทำเงินได้ปะวะ เหมือนมึงเรียนภาษาเกาหลีเพราะชอบศิลปินเกาหลีอะ วันนึงมึงเกิดได้แปลซับ ต้องเอาค่าแรงไปเปย์ศิลปินหมดเหรอ แล้วถ้าจะบอกว่ามันไม่เหมือนกัน พวกเขียนฟิคมันละเมิดศิลปินบลาๆๆ เอ้า เขาก็ชุบฟิคให้มึงเห็นแล้วไง เอาไรอีก ถ้าจะเรียกร้องห้ามเขียนตั้งแต่ต้นก็ต้องห้ามฟิคบุคคลจริงทั้งหมดนะ ไม่ใช่มาห้ามแค่ชุบฟิค
แต่คิดดูก่อนดีๆ ไอ้ฟิค real person slash น่ะแม่งศิลปินนักแสดงโดนกันทั้งโลกเลยมั้ง กูว่าศิลปินทุกคนรู้ว่ามี มันต้องมีคนไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ทำไมไม่เคยมีเคสฟ้องร้องเลย มึงจะบอกว่าศิลปินเป็นหมื่นเป็นแสนบนโลกใบนี้ช่างแม่งทำใจได้กันหมดเลยเหรอ
ที่บอกว่าถ้ามีคนเอาตัวมึงที่ไม่ได้เป็นดาราไปเขียนฟิคนี่ยิ่งตลก มันเทียบไม่ได้เลย ถ้าเอาศิลปินไปเขียนฟิค ทุกคนจะรู้แน่ๆว่าเรื่องไม่จริง แต่ถ้าเอาคนจริงไปเขียนฟิค สิ่งที่คนอื่นที่ไม่รู้จักมึงจะคิดคือ “ไอ้คนที่โดนเอาไปเขียนอาจทำจริงๆก็ได้ ไม่งั้นเขาจะเอามาเขียนทำไม ดาราก็ไม่ใช่” แค่นี้ศาลก็มองเจตนาต่างกันแล้ว
ขอยาดบ่น เมนไทยกูขายเสื้อแพงมาก แล้วลายไม่สวยเลยอะตั้งราคาแพงกว่าเสื้อผ้าแบรนด์ไปอีก รู้สึกเค้าไม่ได้รักแฟนคลับอย่างที่ภาพลักษณ์ แต่รักที่เงินอะ
>>852 เห็นด้วยหลายอย่างนะ แต่ไม่เห็นด้วยไอ้ตรงที่บอก ถ้าเป็นดาราเอาไปเขียนฟิคคนรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่ถ้าเป็นคนปกติโดนเอาไปเขียนมีโอกาสเข้าใจผิด กูว่าจะแบบไหนก็โดนเข้าใจผิดได้เหมือนกันแหละ อย่างฟิค ศลป เขียนให้เป็นเมะเยดุ บ้าผู้หญิง หื่นกาม คนงั่งๆ แยกแยะไม่ได้ติดภาพจำก็มีว่ะ
แต่จริงที่หลายคนไปมองว่าเขียนฟิคเหมือนกลายเป็นสมบัติของด้อม เหมือนเขียนไปแล้วห้ามเอาไปใช้ทำอย่างอื่นเลยเหรอ ในบางจุดฝั่งแฟนในด้อมก็แรงเกินกว่าเหตุ แต่ก็ต้องมองด้วยแหละว่ามันมีเคสชุบฟิคแย่ๆ หากินกับศิลปินเยอะ ตอนนี้ภาพลักษณ์ฟิคชุบเลยแย่
กูเข้าใจความเสียดายพล็อตนะ แต่งั้นทำไมไปเขียนเป็นฟิค ไม่ทำเป็นออริแต่แรกล่ะ กูมองว่าอีกหน่อยจะเขียนอะไร ถ้าเสียดายพลอต ก็อย่าเขียนเป็นแฟนฟิคเลย ไปเขียนเป็นออริจะดีกว่าจะได้ไม่เกิดปัญหาว่ะ
เรื่องเสียดายพล็อตนี่เข้าใจได้นะ มีพล็อตดีๆ ก็อยากเขียนแหละ บางทีพล็อตพื้นฐานก็ไม่ได้หนีกันเท่าไหร่ด้วย อย่างข้ามมิตินี่มีออกเกร่อ ที่ต่างกันก็รายละเอียด เพราะงั้นถ้าจะยกไปแค่พล็อตก็เข้าใจได้
ส่วนตัวกูขอแค่ถ้าจะชุบก็เขียนใหม่ซักหน่อย เกลาคาแรกเตอร์ เกลาเอเลเม้นในเรื่องซักนิด ไม่ใช่เอาของเดิมไปหมดแค่เปลี่ยนชื่องี้ (แต่กูก็เคยอ่านนานมากกกก ไม่รู้ปัจจุบันทำกันแบบไหน) คือถ้ายกไปหมด ถ้ากูอ่านแฟนฟิคมาก่อนก็เสียความรู้สึก แต่ถ้าอ่านออริเลยก็แหม่งๆ ว่าเคยเป็นฟิคศิลปินมาก่อน อะไรทำนองนี้ว่ะ
>>854 กูเข้าใจเรื่องที่ศิลปินเองก็อาจจะถูกเข้าใจผิดได้นะ มันมีจริงแหละคนที่อ่านฟิคแล้วคิดว่าศิลปินเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่กูว่าเคสนี้มันเป็นที่นักอ่านเองไม่มีวิจารณญาณไงมึง มันไม่เหมือนคนธรรมดาโดนเอาไปเขียน ต่อให้เป็นคนมีเหตุผลหน่อยก็ต้องคิดแหละว่าคนที่โดนเขียนถึงไม่ดีๆแม่งต้องมีประเด็นกับนักเขียนอยู่แน่ๆ ไม่งั้นทำไมโดนเขียนซะเลวร้ายขนาดนี้ กูก็เลยมองว่ามันอ้างแทนกันไม่ได้
ส่วนเรื่องทำไมไม่ทำเป็นออริแต่แรก เอาจริงปะ กูว่าตอนแรกนักเขียนแม่งก็ไม่รู้หรอกว่าจะขายได้ ถ้ารู้คงไม่เขียนเป็นฟิค แต่ทีนี้พอมันไปต่อได้ แล้วเขาเลือกไปต่อ ทิ้งด้อม มันก็สิทธิ์ของเขาว่ะมึง คนในด้อมจะเลือกทิ้งเขาบ้างก็ได้ไง อย่างจลลพกับแพล็ตฟอร์มเจ้าปัญหานั่นกูก็ทิ้ง ไม่ต้องไปด่าอะไรให้เสี่ยงตัวเองหรอก ลบแอพ เทนักเขียน จบ
แต่กูเห็นด้วยกับ >>855 มากๆว่าถ้าจะชุบฟิคก็ช่วยมีชั้นเชิงนิดนึง คนอ่านออริอาจจะชอบแบบที่เคยอ่านในเน็ต จะซื้อแบบนี้ แต่ฟิคชุบมันไม่ใช่ คนส่วนใหญ่ตามเพราะเป็นแฟนคลับ แถมอ่านจนจบแล้วด้วย ถ้าไม่ให้อะไรใหม่ๆกับนักอ่านเลยคนอ่านหน้าเดิมก็ไม่ค่อยอยากซื้อหรอก หาลูกค้าใหม่เท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับออริ แถมบางเรื่องนี่พอไม่มีประวัติศิลปินปูพื้นพล็อตก็โคตรแบน จืดสนิท ต่อให้ขายงานนี้ได้ก็อยู่ได้แป๊บเดียวแหละ เดี๋ยวก็ดับ อย่าไปเดือดร้อนเลย
>>855 >>856 ขอมาเล่าหน่อย เอาจริงๆนี่ว่าฟิคศิลปินสมัยนี้ไปไกลมากด้วยนะ ไปไกลในที่นี้คือเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับศิลปินเลย ยกเว้นติดแท็คคู่ชิป 55555555555 กูยังเคยถามเลยว่าแล้วอ่านแล้วมันเหมือนอ่านฟิคยังไง? ก็มีคนบอกว่าคนที่อ่านเขาอ่านด้วยอินเนอร์เหมือนดูซีรียส์เรื่องนึงที่ศิลปินไปเเสดงให้ดู เพราะฉะนั้นฟิคหลายๆเรื่องอะ ถ้ามักเกิ้ลว่างๆไม่มีอะไรอ่านและไม่คิดมากว่าเอ๊ะ ติดชื่อแท็คศิลปิน ก็เอนจอยอ่านได้สบายๆเลย
คือส่วนตัวเองแล้วก็ไม่เคยอ่านฟิคศิลปินนานมากเนี่ยแหละ แต่พอดีมีวันนึงเจอโปรโมทเรื่องนึงผ่านตามา แล้วกูเห็นแต่พล็อตว่าเออน่าจะขายขำถูกใจ ตาถั่วชิบหาย พอทะเล่อทะล่ากดเข้าไปถึงพึ่งเห็นว่า เอ้า แท็คคู่ชิป แต่ไหนๆแล้วเขาเพิ่งลงไม่กี่ตอน ก็เลยลองอ่านดู สรุป ก็เหมือนอ่านออริแหละ 5555 แต่กูไม่ได้อ่านต่อหลังจากนั้นนะ แค่ต้องการเล่าประสบการณ์ส่วนหนึ่งที่ตัวเองเจอ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเป็นฟิคใช้ชื่อศิลปิน หรือมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับศิลปิน ก็เอามาชุบให้มีชั้นเชิงกูก็ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ก็คือถ้าจะทำเป็นออริก็ทำให้สุด ปิดเรื่องเก่าด้วยอะไรก็ว่าไป
กูขอพูดแบบโลกสวยนะ รู้ว่าอุดมการณ์แดกไม่ได้ แต่กูจะมองแฟนฟิค แฟนอาร์ต มันใส่ความรัก ความชื่นชอบที่มีในด้อมว่ะ พอมันเอาไปเปลี่ยนเป็นออริ มันฟีลหมดรักในด้อมแล้วเหรอเลย ชีช้ำไงไม่รู้ 555 พยายามเข้าใจนะก็เดี๋ยวนี้เขียนเป็นออริซะจนหาความเชื่อมโยงในด้อมไม่ได้ แต่ก็ปวดใจบอกไม่ถูก ขอบ่นละกัน
พูดแบบคนนอกโลกสวยนะ เห็นฟิคมีแต่เน้นเอ็นซี มองไม่เห็นความรักเลยอะเห็นแต่ความ…
ถูกมู้มั้ยวะ แค่สงสัย คือต้นทวิตบ่นเรื่องสนพ.ใหญ่กลืนน้ำลายว่าไม่รับสายวาย แต่เงินมันหอมอ่ะนะทำนองนี้ ก็เจอโควตนี้ ไม่อยากสนับสนุนสนพ.ใหญ่ที่ทำอะไรแบบนี้ อยากเลือกสนพ.สนับสนุนlgbt+มากกว่า เลยสงสัยว่ามันมีด้วยเรอะ ไอ้ที่เล็กๆ อินดี้ทำกันเองก็ทำเพื่อเงินอยู่ดีไม่ใช่เหรอวะ https://twitter.com/lunateeruk/status/1504297701696962563?t=Ugnjh2kJj4pCHfuPfTaQ9Q&s=19
>>860 เมื่อซักเจ็ดแปดปีก่อนมันมีสนพ.ใหญ่ยักษ์มากๆสามสนพ. (เท่าที่กูรู้) ประกาศเลยว่าจะไม่พิมพ์วายเพราะขัดกับศีลธรรมอันดี สนพ.นึงมาพร้อมลายเซ็นบก.ใหญ่ด้วยซ้ำมั้ง อีกสองที่มาแบบลำลองหน่อย ประมาณประกาศในเว็บตัวเองมั่ง ตอบคำถามในเพจมั่ง แต่หลังจากนั้นซักสองสามปี สนพ.หนึ่งในนั้นดันกลืนน้ำลายตัวเอง เปิดหัวหนังสือใหม่ออกวายเป็นล่ำเป็นสัน ยอดขายบูมๆ อีกสองสนพ.พยายามกระเสือกกระสนอยู่พักใหญ่แต่ยอดขายยังดิ่งลงๆขุดไม่ขึ้น เลยพยายามเบนเข็มมาขายวายด้วย กูทันประกาศของทั้งสามสนพ.แหละ คิดว่าถ้าทวิตนั้นเค้าทันเหมือนกู จะไม่อยากอุดหนุนคนแบบนั้นก็ไม่แปลก ประกาศในอดีตมันค่อนข้างเหยียดเลยแหละ แต่มีอยู่สองสนพ.ในกลุ่มนั้นชอบได้ LC เรื่องเด็ดๆไป ทุนหนาอะเนอะ ส่วนสนพ.อินดี้จะทำเพื่อเงินรึเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าไม่เคยเหยียดก็คงกันรับได้
จะว่าไปสมัยนั้นมีสนพ.ใหญ่พอๆกันสนพ.เดียวเองมั้งที่ไม่เคยมีประกาศทำนองเหยียด lgbt+ อยู่เงียบๆแล้วพิมพ์ขายเงียบๆ ซึ่งกูเซอร์ไพรส์นะ เพราะสนพ.นี้หลักพิมพ์นิยายผู้ชาย บก.ก็น่าจะผู้ชาย น่าจะเป็นสนพ.ที่ปิตาสุดด้วยซ้ำ แต่ดันไม่มีเลย ตอนนี้หลักๆกูก็ซื้อจากสนพ.นั้นแหละ แต่ทำใจเรื่องคำผิดเอาหน่อย
อมร ส้ม นี่ใช่ ที่สุดท้ายนี่ ด. หรือเปล่าวะ หรือลวด. เพราะจำได้ว่าช่วงนั้น se_d ออกนโยบายแอนตี้หนักม่กเหมือนกันว่าจะไม่มีทางเอา วายมาขายในร้าน
สนพ.ใหญ่พวกนั้นถ้ากุจำไม่ผิด มันออกประกาศทางการมาในช่วงคาบเกี่ยวที่ตกเป็นกระแสยุคหลุมดำป่าววะ ซึ่งยุคนั้นกุก็เข้าใจแหละเพราะสังคมโดยรวมยังแอนตี้อยู่ มองว่าวาย=สื่อลามกวิปริต มีแต่ผู้ชายเย็บกันแบบดุ้นคือดุ้นจนต้องกวาดล้าง แต่จงหยวนนี่ไม่ใช่ จงหยวนคือออกงานวายมาแล้วแต่เจอดราม่าเลยบอกกว่าสาววายเรื่องมากและจะไม่ทำวายอีกแล้วรึเปล่า กุไม่แน่ใจ ช่วงเวลา
และกุเหมือนเคยได้ยินว่าร้านนสใหญ่ร้านนึงมีเอี่ยวทุนกับจงหยวนด้วย อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงไหมอีกเหมือนกัน
ร้านใหญ่เอี่ยวทุนจงหยวนกูไม่ชัวร์ กูชัวร์แต่ว่าระดับบิ๊กของร้านนั้นชอบเรื่อง ผ มาก
เออ จะไม่อุดหนุนน่ะกูไม่ว่า ไม่เถียงด้วยว่าสนพ.พวกนั้นทำเพื่อเงินจริงๆ แต่ประเด็นคือมันมีด้วยเหรอสนพ.ที่สนับสนุนน่ะ กูมั่นใจว่าหายากโคตรๆแน่และถ้ามีก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องฟินๆให้กรี๊ดนักหรอก พวกนั้นจะอ่านกันจริงเร้อ หรือแค่พูดให้ดูตื่นรู้เฉยๆ 555
3สนพ.ใหญ่ ส้ม อมร ถาพัง? กุทันส้มแต่อีก2ที่กุเพิ่งรู้ ส่วนเมืองยิ้มมาเงียบๆแต่โป้ง เปิดมาโรงน้ำชาเร้นลับ ใช่มั้ยว่ะ นานแล้ว ลืมมม
ส่วนจงหยวน สาววายจะดราม่าก็ไม่แปลกมั้ย แปลผิดบานขนาดแปลจากอิงค์, ดอยรูปมาจะทำปฏิทินขายเตรียมวางแผงแล้วแต่ดันไม่ขอลิขสิทธิ์ก่อน พอฝั่งญี่ปุ่นรู้ก็เบรกหัวทิ่ม จงหยวนก็ฟาดงวงฟาดงาไปเลยสิค่ะ เลิกทำเรื่องนี้ ปล่อยทิ้งไว้ที่3เล่ม อย่างว่านะ จกจนเคย ปัจจุบันพี่ฮูกได้เรื่องนี้ไปแล้ว
กูไม่รู้หรอกว่าสนพ.ที่พูดจาหรูๆเขาสนับสนุนคอมมูจริงมั้ย ไม่ได้หวังด้วย พูดให้หรูใครๆก็พูดได้ แต่คนที่เคยพูดแย่ๆไว้กูไม่ลืมเฉยๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ปลื้มนักแปลอยากสนับสนุนนักแปลจริงๆ กูไม่ซื้อจากสนพ.ที่เคยบอกว่าวาย "ขัดกับศีลธรรมอันดี" ว่ะ เพราะในสายตากู lgbt+ ไม่มีอะไรขัดกับศีลธรรมเลย ในเมื่อมาตรฐานศีลธรรมไม่เสมอกัน ไม่ต้องสนับสนุนกันจะสบายใจกว่า กูอ่านต้นฉบับหรือไม่ก็ซื้อมือสองเอา แต่ใครสะดวกซื้อก็ซื้อเหอะ อย่าคิดมาก คิดซะว่าเงินมันทำให้คนบางคนที่เคยเหยียดต้องมาปะเหลาะเลียตีนสาววายกับ lgbt+ แล้วกัน
ยุคนึงมันก็เป็นสื่อลามกอนาจารจริง(ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่) นิยายวาย การ์ตูนวายมันเริ่มที่ nc อีโรติก มีฉากป้าบๆหมด มียุคนึงโรงพิมพ์รับงานตีพิมพ์จากรายย่อยแล้ว แต่พอเป็นวายต้องสกรีนก่อนว่ามีฉากเยกันไหม ถ้ามีฉากเยต้องตัดออก โรงพิมพ์ไหนรับพิมพ์ฉากวายนี่ต้องกระซิบบอกหลังไมค์
มันก็ทำเพื่อเงินกันทั้งนั้นแหละ ถ้ามีสนพไหนทำแบบไม่เอากำไร ทำฟรี เมิงช่วยบอกกูด้วยกูจะไปต่อแถวขอของฟรี
กูจะหมายถึงตอนนั้นจะวายไม่วายมันก็มีทั้งเรทไม่เรทหมดอะ จะสุ่มมาแต่เล่มเรทแล้วตีรวมว่าเป็นสื่อลามกหมดก็ไม่ได้ แถมคนที่ออกมาประกาศว่าวายขัดศีลธรรมมันยังพิมพ์นิยาย ชญ ที่มีฉากเรทอยู่เลย ไม่น่าใช่ประเด็นสื่อลามกปะ
>>875 ชญมันได้ผลบุญจากนิยายรักทั่วไปบนบกมาเยอะ เอาไปวางรวมๆก็เป็นไม่กี่เปอร์เซ็นต์ พวกนิยายหน้าปกหน้าดารานิยายเล่มละ 80-100 มันก็อยู่มาตั้งแต่ยุคนั้น ข้างหน้าดูเป็นนิยายโรมานซ์ธรรมดา ข้างในเป็นยั่วเยดีๆนี่เอง
การ์ตูนผีเล่มละ5-20บาทยังมีฉากเอากันเลย มันแค่ซ่อนอยู่ในดงการ์ตูนผี ไม่เหมือนกับวายที่จิ้มมั่วๆไปสักเล่ม ไปก็เจอเยกันเลย เรื่องดังๆที่เอามายุคนั้นมันเรทน้อยซะที่ไหน
พูดถึงอีโรติกชญ กูยังจำเรื่องตามหัวใจไปสุดหล้าได้นะ เอาไปทำเป็นละครโด่งดังรู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่อีโรติกยิ่งกว่าวายหลายๆเรื่องยุคนี้อีก หรือถ้าให้ชัดกว่านั้นก็ลิลิตพระลออะมึง 3p และสวิงกิ้งกันไปเลยจ้า ในน้ำในสวนไม่หวั่น
>>877 เหมารวมไง ไม่ว่าจะยุคไหนก็เหอะ สิบเปิดเจอสี่หรือห้าก็พอให้เลเบลแล้ว
จุดเริ่มมันมาจากผปค.เปิดเจอมังงะเรทแล้วแจ้งความใช่ไหมนะ เรื่องไม่เรทถึงมีบ้างแต่น้อย ระดับความรับโป๊ของแต่ละรุ่นไม่เท่ากัน เก่าสุดแค่สายเดี่ยวก็เข้าข่ายโป๊ละมึง ช่วงนั้นก็ฉากเยแบบไม่โคมสักฉากนึง โดนผญ.สมัยนั้นเปิดเจอก็เรียกโป๊แล้ว เกียมไม้เรียวหรือนส.โดนเผาได้นะ
สมัยนี้เขียนเยสิบน้ำเด็กยังบอกเฉยๆแล้วเลย
ประเด็นยุคนั้นไม่ได้จบแค่ฉากโป๊ แต่มันคือการมองว่ารักร่วมเพศคือความผิดปกติที่ไม่ควรมีหรือเผยแพร่ด้วยนะ
ส่วนพวกอีโรติกชญ.มันฉาบลูกกวาดเลี่ยงบาลีด้วยการไม่พูดว่าเสียบตรงๆ +บรรยาด้วยถ้อยคำไม่มีภาพ มันก็รอดอยู่บนชั้นผ่านยุคสมัยมาอย่างนั้นแหละ
ยิ่งในเว็บดด.แต่ก่อนชานหญิงเรื่องท๊อปๆแม่งอีโรติกทั้งนั้น รอดหมด วายแค่ฉากสุ่มเสี่ยงโดนแจ้งปุ๊ปโอกาสบินเกินครึ่ง สองมาตราฐานแบบชัดเจน 5555555555
>>884 มึงเข้าใจถูกแล้ว กระแสสังคมตอนนั้นเหยียดวายนั่นแหละ ไม่ใช่แค่วายด้วย เหยียด ltbt+ ทั้งหมดเลย ประชากรสาววายตอนนั้นเป็นแค่กระจุกเล็กๆ คุยกับใครเรื่องนี้บนดินไม่ได้ ต้องแอบๆซ่อนๆ อายที่จะบอกว่าหนูชอบดูผชรักกันค่ะ ประชากรแหล่งหลักคือใน ญป นอกนั้นรวมกันอยู่ในคอมมูเล็กๆใต้ดิน ตอนนี้ประชากรสายนี้ขยายจนใหญ่มากแล้ว การเหยียดมันถึงได้ลดลงตามไปด้วย ตลาดก็ตามมา
การเปลี่ยนมุมมองมันพัฒนาผ่านเจเนอเรชั่นนั่นแหละ สาววายรุ่นนั้นกลายเป็นผญ เด็กใหม่ๆเจอและยอมรับ เข้ามาในสายนี้เรื่อยๆ มันถึงได้เชิดหน้าชูตาได้บนดิน กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปได้ไงล่ะ
จริงๆก็คือเราเพิ่งผ่านยุคเหยียดมาได้ไม่เท่าไหร่เลยนะ แต่พูดไปก็กลายเป็นกูแก่อีก
แล้วมองดูปจบ.ที่หนังสือวายเต็มแผง...อา...กุรู้สึกแก่จริงๆ
ยุคหลุมดำนั่นเกิดเมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้วเลยนะ จะว่ามันทำให้คนเหยียดวายก็ไม่ค่อยเต็มปากเท่าไหร่หรอก แถมเป้าโจมตีหลักๆในตอนนั้นคือการ์ตูนปกตินี่แหละ โดนหาว่าส่วนใหญ่เป็นการ์ตูนลามกอนาจาร มีการตัดภาพสลับไปมาระหว่างการ์ตูนโป๊ใต้ดินกับการ์ตูนปกติ ว่าง่ายๆคือชี้นำเต็มที่ ทำเหมือนการ์ตูนทั้งหมดเป็นการ์ตูนลามก ตอนนั้นบรรดาพ่อแม่ทั้งหลายก็ตื่นกลัว เผาการ์ตูนลูกกัน ไม่สนเลยว่าไอ้ที่เผาๆไปคือโคนัน อะไรงี้ สุดท้ายหลายๆฝ่ายพยายามออกข่าวแก้ แต่การ์ตูนบางเรื่องที่เนื้อหาค่อนข้างสุ่มเสี่ยงหน่อยก็โดนลอยแพหมด การ์ตูนวายที่มีน้อยนิดจิ๊บๆอยู่แล้วแม่งลงไปอยู่ใต้ดินเลย แต่มันไม่มีกระแสเหยียด เพราะไม่มีแม้แต่กระแสอ่านด้วยซ้ำ อ่านก็เป็นกลุ่มเล็กๆ มันเริ่มมาบูมตอนมีคนแปลวายจีนเถื่อนนี่แหละ คนก็ตามอ่านกัน ตอนหลังคนแปลเลยซื้อลิขสิทธิ์มาตีพิมพ์เลย เห็นว่าขายแพงแต่ขายได้ ตอนนั้นพวกสนพ.เองก็รู้ แต่นิยายไทยกับนิยายชญยังบูม ขายดีเป็นเททิ้ง พอคนไปถามสนพ.ใหญ่ๆว่าจะจับงานวายมั้ย ก็เลยได้คำตอบว่าจะไม่ทำเพราะผิดศีลธรรมนี่แหละ แต่กูว่าไม่ทำเพราะตอนนั้นนิยายลูกกวาดหน้าปกการ์ตูนยังขายดีตีพิมพ์ครั้งละหมื่นเล่มอยู่มากกว่า ต่อมานักอ่านโตขึ้น นิยายดันไม่โตตาม ยังลูกกวาดเหมือนเดิม ยอดตีพิมพ์ก็หด หมื่นเล่มไม่มีแล้ว สามพันห้าพันเล่มก็หรูฉิบหาย ทีนี้ศีลธรรมที่ยึดถือเลยไม่สำคัญแล้วมั้ง ถ้าวันนี้ไปถามก็คงอ้างว่ามาตรฐานศีลธรรมเปลี่ยนไปตามยุค ตอนนี่ตัวเองตื่นรู้แล้ว บลาๆๆนั่นแหละ
17 ปีเองเหรอ กุนึกว่าผ่าน 20 ปีขึ้นแล้วซะอีก
ครือ มันไม่ใช่ว่าหลุมดำทำให้คนเหยียดวาย แต่เพราะคนเหยียดรักร่วมเพศอยู่แล้วถึงได้เหยียดวายต่างหาก แบบมึงเผลอให้เพื่อนมักเกิ้ลรู้ว่ามึงอ่านวายเพื่อนจะบอกมึงว่า อี๋การ์ตูนเกย์เหรอ อ่านไปได้ไง ประมาณนี้อ่ะนะ เพราะงั้นมึงนึกมายเซตผู้บริหารสนพ.ใหญ่ยุคนั้นได้เลย ถ้านิยายลูกกวาดยังขายได้ก็คงไม่มีใครมาลุยสนามที่มีความเสี่ยงด้านค่านิยมอ่ะนะ แต่กุว่าก็ฆ่าตัวตายไปนิดที่ดันระบุสาเหตมาทำนองรังเกียจออกสื่อ บอกแค่ไม่ทำอย่างเดียวก็จบเรื่องแล้ว อย่างว่าคงไม่คิดว่าจะมีวันนี้นั่นแหละ 😏
รักร่วมเพศถูกถอดออกจากความผิดปกติทางจิตเวทได้กี่ปีแล้ววะ กุจำไม่ได้ว่าตอนไหนแต่ก็น่าจะราวแค่ 20กว่าปีเหมือนกันมั้ง
กูจำขึ้นใจค่ายใหญ่สีส้ม
กูรักนิยายค่ายนี้มาก สะสมทุกเล่มที่ออก พอมีข่าวนั้นออกมากกูเลิกซื้อนิยายเลยค่าาา
โชคดีที่เน็ตสมัยนั้นเริ่มดีแล้ว อ่านในเล้า ยอมเสี่ยงซื้อนิยายทำมือ (โดนโกงเยอะฉิบหาย สัดดดด)
นึกแล้วก็ยอมกับความพยายามมุดดินในสมัยนั้นจริงๆ 5555
>>893 >>894 +1 ถ้านิยายหวานแหววยอดไม่ตกคงไม่มาเข้าตลาดนี้หรอก ตอนนั้นกูงงมาก บอกว่าไม่ตีพิมพ์นิยายผิดศีลธรรม แต่ไอ้ที่พิมพ์อยู่และขายเด็กวัยรุ่นกันโครมๆคือ? กูจำได้แม่นมากเลยนะที่เรื่องนึงนางเอกคิดจะเผาบ้านตัวเองเพราะไปหลงรักนักดับเพลิงอะ ถึงจะบอกว่านางเอกป่วยก็เหอะ ก็ยังประหลาดอยู่ดี คนแบบนี้น่ากลัวกว่า lgbt+ เห็นๆ แต่เหมือนสนพ.ไม่เห็น
กูพึ่งมาแกะมังงะดูเห็นว่าตรงส่วนที่พิมพ์มันเป็นกระดาษงอกออกมาติดกันเป็นหน้าคู่แล้วเปิดหน้าต่อไปไม่ได้ ตอนแรกกูคิดว่าเป็นลูกเล่นของมังแต่แง่มดูแล้วไม่น่าใช่ ดูแล้วน่าจะเป็นข้อผิดพลาดระหว่างพิมพ์มากกว่า กูควรเอาไปเปลี่ยนปะ ประเด็นคือถ้าจะเอาไปเปลี่ยนกูซื้อมานานแล้วใบเซ็ตหายแถมเป็นของอิค่ายใบเขียวอีกหรือกูควรหาวิธีแซะกระดาษออกมาแทนดี
>>897 ปกติกุเจอก็เอาคัตเตอร์รูด ถ้าติดแบบไม่งอกเลยขอบคัตเตอร์คมๆปาดก็ชิวๆ แต่ถ้ามีส่วนงอกเลยขอบอันนี้ลำบากหน่อย ตัดให้กริบยากจะเหลือเหลื่อมๆออกมาตลอด
เอาจริงๆถ้าถามกุกุก็จะบอกว่าเป็นตำหนิจากโรงพิมพ์ที่เจอได้บ่อย แต่ยุคนี้คงไม่มีใครเชื่อแบบกูแล้ว ถ้าอ่านเองก็เฉยๆแหละแต่ถ้าขายต่อก็อย่างรีบนอ่ะ
ชวนเม้างานหนังสือรอบนี้หน่อยดิ เห็นราคาของมด.แล้วมึนเลย 5555 ราคาสูงมากๆๆๆ เปิดราคามาช็อกเลย แถมของจะไม่มีลงงานอีกถ้าไม่เหลือจากออนไลน์ นี่ยังข้องใจเมื่อวีคก่อนกับโปรของซบ. ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเทียนกวานกับฆ่าหมาป่าถึงต้องกดสั่งแยกรอบกัน ในเมื่อก็ลงขายในงานหนังสือเหมือนกัน ของซบ.เห็นหลายรอบแล้ว โปรแบบ เออ ออกมาคนก็ต้องซื้อแยกอยู่แล้ว แบบ ใช้คำอธิบายไหนดีวะ กั๊กปะ คือกูไม่ได้อยากคิดนะแต่เจอหลายรอบเลยเซ็งๆ นี่ว่าตัดสินใจผิดหน่อยที่เลือกรับหนังสือในงาน อยากไปเดินเล่นด้วยส่วนหนึ่งถึงเลือกแบบนัดรับ แต่คิดไปคิดมาตอนนี้โควิดก็ยังกลัว ในงานก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ซื้อสักเท่าไร ขอแวะบ่นหน่อยนะ 55555 ยังคงเงิบกับราคาของมด.
>>902 มด.กูก็งงว่าทำไมไม่เอาไปปล่อยที่งาน จะได้หมดปัญหาเคลมตำหนิ กุว่าที่ราคาสูงมันต้องบวกค่าเคลมแน่ๆ เพราะงานสนพ.นี้กุเชื่อว่าเรทเคลมน่าจะสูงมาก
ส่วนซบ. มึงยังไม่ชินอีกเหรอกะโปรกั๊กซ้ายกั๊กขวา กั๊กหน้า กั๊กหลังนี่ ทำอะไรประหลาดๆ เหมือนวางแผนให้ดีให้สะดวกทั้งคนซื้อคนขายเองไม่ได้ เลยเลือกเอาสะดวกคนขายอย่างเดียวพอ ลูกหาบเยอะหนังสือกุดีย์ ไม่ต้องง้อใคร จริงๆกุหมั่นโปรมาก คือกุอยากได้ชิกิชิ แต่กุสั่งทุกครั้งที่เล่มใหม่ออก ยอดก็แต่เหลือฆหปเล่มเดียว สวรรค์ก็พรีไปรับงานรวมไม่ได้อีก นี่คือสาปส่งแล้ว 1
ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว รีวิวนางนวลไม่หวนคืนหน่อย
อ่านไปช่วงแรกนี่ฟีล ผีเน่าโลงผุคนเลี้ยงม้าลอยมาเลยว่ะ โรคจิตทั้งพระนาย(จิตในแง่จิตเวชจริงๆเลยนะ) ซาดิสกะมาโซมาเจอกัน แต่อ่านไปนานๆมันจะเบาลง มีครส.ต่อกันแบบมีที่มาที่ไปหน่อย ไม่ขนาดคนเลี้ยงม้าที่อยู่ๆก็พลิกกลับแบบฟีลหักกลางกะทันหัน ใครชอบโทนเรื่องหม่นๆ รับความโรคจิตแบบเลือดสาดได้ มาทางนี้ได้เลย ไปลองตย.กันได้ สำหรับกุโยนขึ้นชั้นได้เพราะอีมด.ไม่มีอีบุค
ชอบที่วางคาร์ตลค.ให้มีมุมที่ไปสุดทั้งสองทาง อย่างตัวแม่นายเอก บทซึ้งคือซึ้งเลยนะ รักลูกมากๆอ่านแล้วน้ำตาจะไหล แต่พอพลิกอีกด้านกลายเป็นแม่งเลวใจดำได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน
เป็นเรื่องที่เล่าผ่านมุมมองบุคคลที่ 1 ได้สนุกดี นายเอกจิกกัดตัวเองเก่ง แสบพอตัว รู้หมดคิดได้แต่ก็ยังทำ ปมค่อยๆคลี่คลายผ่านเหตุการณ์ปัจจุบัน+แฟลชแบคทีละจุดๆ พามึงไปเข้าใจความหิมะขั้วโลกของพระเอกทีละหน่อย
(สปอยแบบไม่สปอย:>ซึ่งจริงๆมันไม่ได้เย็นชาขนาดนั้นนะ มีความโรมานซ์แทรกพอควรเลย เอาจริงๆพระเอกมันลงให้นายเอกมาตลอดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่จากมุมมองนายเอกและความจิตที่ฉาบทับมันทำให้มองไม่เห็นในตอนนั้น บางครั้งการเข้าใจก็เหมือนหมอกพรางตาที่ต้องรอให้ปัจจัยถึงพร้อมถึงจะเห็นได้ชัด ดังนั้นพระเอกก็เริ่ดๆเชิดๆจิตๆไปจนจบฮ่ะ)
จุดน่าสนใจอีกอย่างคือด้วยความอาชีพพระเอกเป็นทนายเลยมีการใส่ความขัดแย้งและความไม่เป็นธรรมของกฎหมายและระบบยุติธรรม เมื่อเทียบกับความรู้สึกของผู้เสียหายเข้าไปด้วย เช่นปมพ่อนายเอกโดนรถทับตายแต่สุดท้ายได้เงินชดเชยแค่สองแสนหยวน จนแม่นายเอกต้องลำบากลำบนเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวเหมือนพ่อตายฟรี หรือมุมมองจนท.ในระบบที่ไปซ้ำเติมผู้เสียหายมากกว่าจะช่วย ก็ถือว่าเป็นนิยายที่มีอะไรมากกว่าแค่เลิฟไลน์เรื่องนึงนะ
ของมด.รอบนี้ บ็อกซ์กูซื้อไม่ลงจริงๆว่ะ ปักษากูเทแล้วหนึ่ง แต่โหย่วซูขอลังเลอีกพักนึง แต่ % เทสูง คงเก็บเล่มอย่างเดียว
บ็อกซ์ราคา 500 กว่า กับแสตนดี้ที่กูไม่ได้อยากได้เลย แถมกดช้อปปี้ใช้โค้ดก็ไม่คุ้มอีกเพราะร้านต้องบวกเพิ่ม
ออกตัวก่อน ของมด.ถ้ากูซื้อถึงยอดส่งฟรี กูชอบสั่งตรงอยู่แล้ว ยกเว้นรอบนั้นซื้อไม่ถึงยอด ค่อยกดซื้อที่อื่น หรือหาอะไรมาเพิ่มยอด
นี่เพิ่งแกะพัสดุเรื่องอื่นค่ายอื่น ของเพิ่งถึง box +เล่มจบ ห้าร้อยกว่าเหมือนกัน ถ้ากูต้องจ่ายราคานี้แล้วได้กล่องกลวงๆ (ที่มีแสตนดี้) มันเหมือนโดนกระซวกหัวใจ ใครยังไหวไปก่อนเลย
มด. สำหรับกู แต่ก่อนกูว่าถึงจะมีเรื่องน่าด่าเยอะ (พิมพ์ผิดสะกดพลาด ฟอนท์ใหญ่เล่มหนา) แต่กูยังรู้สึกราคามิตรภาพ เรื่องไหนอ่านตัวอย่างแล้วน่าติดตามก็ซื้อๆมาดองไปก่อน บ็อกซ์ล่าสุดของค่ายนี้ที่กูสอยคือ บ็อกซ์เปล่ายอดชายา ซึ่งอันนี้กูพอใจกับราคาที่จ่ายนะ
แต่ตั้งแต่รอบนางนวล ด้วยความที่ราคาหนังสือเริ่มจะไม่มิตรภาพ กูเลยตัดใจไม่เปิดไลน์อัปใหม่กับมด.ในรอบนั้น เกือบกดซื้อไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ผ่านมันมาได้ รอบนี้ก็เจอบ็อกซ์บังคับพ่วงแสตนดี้ ในราคาที่ชวนตะลึง
สรุปแล้วก็กัดฟันเก็บเล่มต่อของเรื่องเดิมไปก่อน พยายามไม่เปิดไลน์เรื่องใหม่ จนกว่าใจกูจะชาชินกับราคากว่านี้ ยังไงกูก็ซื้อเยอะกว่าอ่านทันแล้ว ดองซะเยอะ เรื่องที่อ่านเล่มต่อเล่มอย่างขุนนาง เล่มล่าสุดกูอ่านไม่คุ้มเลย บางช่วงบางตอนกูอ่านข้ามทีละหน้าสองหน้าก็ไม่ได้รู้สึกว่าอ่านพลาดอะไรไป ความรู้สึกนี้ใครที่อ่านมาแล้วคงเข้าใจ
แม่นางที่รีวิวในเฟสแบบเล่าหมดเปลือกนี่รู้บ้างปะว่านักเขียนเขาไม่ชอบกันเล่าซะหมดขนาดนั้นไม่ต้องไปอ่านเองละ
>>909 ไม่นะมึง แม้พระเอกมันจะเป็นบ้าในแนวมีอาการทางจิต แต่มันมีเหตุมีผล มีคาร์ที่รองรับการกระทำนะ ซึ่งเรื่องจะค่อยๆเฉลยเอง ส่วนนายเอกแม้จะยึดติดจนเหมือนไร้เหตุผล แต่มันก็เหมือนเป็นความบิดเบี้ยวในบุคลิกไปมากกว่า และนายเอกไม่ใช่อีเย็น ทั้งเรื่องนี่คือทั้งตื้อ ทั้งขุดหลุม เล่นเล่ห์สารพัด ทั้งง่าวและไม่ง่าว ก่อกวนรอดักพระเอกกลับกรง ซึ่งจริงๆในครส.กูพระเอกมันไม่เคยหนีไปไหนเลย ต้นเรื่องเป็นไงจบเรื่องก็ยังเป็นแบบนั้น มีแค่นายเอกที่มองกระจ่างขึ้นถึงจับนกมาวางบนรังได้สักที
เรื่องนี้ไม่มีฟีลผีบ้ากะอีเย็นเลยนะ ผีบ้ากะอีเย็นสำหรับกูนี่ต้องชายาใบ้ กุอ่านไปครึ่งเล่ม ไปต่อไม่ไหวกะความผีบ้าจริงๆ ถ้ามึงผ่านเพราะฟีลนั้นลองพิณาดูใหม่ได้
เพื่อนโม่งกุคุยเรื่องจอนดกชีในนี้ได้ไหม ลองหาในห้อง literature แล้วเหมือนจะไม่มี พอดีเห็นโพสต์ล่าสุดของสนพ.ที่ลงรายละเอียดหนังสือแล้วคนด่าชื่อตลค.ในการ์ดชิบหายวายวอด กุอยากรู้ว่าในเล่มมันจะใช้เป็น ดกจาคิม จุงฮยอกยู ด้วยหรอวะ?__? ไม่ใช่แฟนเรื่องนี้แต่ได้ยินจากหลายคนมากว่าสนุก กำลังตัดสินใจว่าควรตำไหมวะ ถ้ากุโพสต์ไม่ถูกห้องก็ขอโทษด้วย
>> 916 ขอบคุณมากมึง กุไปเสือกในทวิตเพิ่มมาก็คือทางนู้นเค้าให้ทำแบบนี้สินะ งงหลาย แล้วเรื่องการแปลนี่ยังเหี้ยแบบที่เค้าว่ากันอยู่ไหมวะ
จอนดกชีที่ช่วงบ่ายดราม่า เพราะเลวอนปล่อยการ์ดมา คนนึงชื่อคิมดกจา ส่วนอีกคนชื่อจุงฮยอกยู คือคนนึงนามสกุลนำ อีกคนนามสกุลอยู่ข้างหลัง คนก็งงสิตกลงจะเอายังไง พอตอนเย็นถึงมาเปลี่ยนเป็น ดกจาคิมกับจุงฮยอกยู บอกว่าฝั่งเกาให้ใช้แบบนี้ แล้วตอนแรกใช้คิมดกจากับจุงฮยอกยูคือพลาดหรืออะไร ตกลงฝั่งเกาแนะนำให้ใช้อันไหน แล้ว สนพ.เกามันงงหรืออะไร เพราะทั้งฝั่งเกากับไต้หวันใช้ชื่อคิมดกจากับยูจุงฮยอก แบบที่เคยได้ยินชื่อคนเกาปกติเลยมรึง แต่ของไทยดันให้ใช้ดกจาคิมกับจุงฮยอกยู
ส่วนเรื่องแปลในรอรยังมีแปลผิดความหมายอยู่ แต่สนพ.บอกจะแก้อยู่นะ รอลุ้นในเล่มเอา แต่ถ้ามรึงไหวก็สอยเลย ส่วนกุคงรอรีวิวอีกที เพราะเล่มบางมากไม่ถึง250หน้าแต่ราคา295 แล้ว23เล่มจบ
ดกจาคิม? จุงฮยอกยู? อืมมมมม ไม่แปลที่คนจะสับ
23 เล่ม เล่มละ 295 ไม่ถึง 250 เอออันนี้เห็นด้วยว่าแพงอยู่ ค่าลิขสิทธิ์มันแพงมากขนาดต้องมาหาตังกะการซ่อยเล่มเอาหรอวะ ส่วนเรื่องแปลหนิแปลผิดกับตกอะด่าได้ แต่เรื่องศัพท์ไม่สวยไม่ใช้คำไวพจน์อันนี้กูอยากจะเรียนเชิญให้คนในด้อมตกลงกันให้ดีก่อน บางคนด่าแปลทื่อไปประหนึ่งเข้าทรานสเลตนักแปลคลังศัพท์น้อย บางคนบอกยังงี้ดีแล้วเข้าใจง่ายกว่านิยายแปลไม่ใช่บทกลอนไม่ต้องแปลให้สวยมากหรอก กูเห็นแม่งยังย้อนแย้งกันเองให้ด้อมอยู่เลย
>>921 บางเรื่องฟค.ก็เยอะเกิน กุก็เข้าใจอยู่ จิกเรื่องแปลทุกตัวอักษรเลย กุเป็นสนพ.กุก็กุมหัว แต่บางเรื่องสนพ.ก็น่าด่าสุดๆ กุแค่อยากอ่านที่เขาว่าสนุกมันขนาดไหน แต่มาเจอแต่ล่ะอย่างที่สนพ.ทำ ขนาดกุไม่ใช่ฟค.กุยังอยากหยุมหัวเลยมรึง
อย่างเรื่องรูปเล่มกับแบ่งตอน ของเกาหลีมี500ตอนได้ ไทยเอามาซอยตอนใหม่เป็น900ตอน ประมาณ15เล่มจบ เล่มนึงเกือบ400หน้า ราคา300หน่อยๆ ฟค.ก็ว่าจะซอยตอนเองทำไม ทำไมไม่อิงตามต้นฉบับ500ตอน อีกอย่างถ้าไม่ซอยตอน จำนวนเล่มอาจจะน้อยกว่า15เล่มก็ได้ สนพ.ก็หายไปหลายเดือน กลับมาอีกทีคราวนี้โผล่มา23เล่มจบ เล่มนึงไม่เกิน250หน้าในราคาจะแตะ300อ่ะ โดยอิงตามอีบุ๊คของเกาหลีแทน เป็นมรึงจะไม่ด่าหรอ โผล่มาอีกทีจำนวนและราคาเล่มแพงกว่าเดิม แล้ว23เล่มจบ ออกเดือนล่ะเล่ม ใช้เวลา2ปี ราคาจะดีดไปขนาดไหน ฟค.แค่อยากให้อิงตอนตามต้นฉบับแค่นั้นเลย สนพ.ดันแก้ปัญหาอิงอีบุ๊คเกาหลีแทนเหมือนกวนประสาทอ่ะ เอาไปเลย23เล่ม อห
พอมีคนด่า สนพ.ก็โบ๊ยว่าทำตามที่ฝั่งเกาบอก เลยมีคนเมลไปถามฝั่งเกาว่ากำหนดให้ไทยทำ23เล่มหรอ ฝั่งเกาบอกกุไม่ได้สั่งนะ ..เนี้ยมรึง สนพ.ทำงานแบบเนี้ย
แต่เรื่องแบ่งตอนสุดท้ายสนพก็ยอมกลับมาแบ่งเหมือนเดิมนะตามเกาหลีนะ ส่วนเรื่องแบ่งเล่มกูเห็นเรื่องอื่นก็มีแบ่งเองไม่ได้ทำตามต้นฉบับ ทำไมเขาสามารถทำได้ แต่เรื่องนี้ห้าม สองปีจบก็เรื่องปกติของนิยายที่ยาวขนาดนี้ เร็วไปด้วยซ้ำ ออกเดือนล่ะเล่มคือโคตรไว อีกเรื่องคือจนวันนี้กูก็ยังไม่เก็ทว่าเรื่องแบ่งเล่มเยอะขึ้นมันเป็นปัญหายังไง จำนวนเนื้อหามันจะเพิ่มขึ้นเท่าไรจากรวมเล่มวะ เนื้อหาก็เท่าเดิมไหม สมมุติเอาสองเล่มต่อกันได้เท่ากับเล่มหนึ่งความหนามันจะเพิ่มขึ้นเท่าไรเชียว ใครอธิบายทีว่าการที่จำนวนเล่มมันมากขึ้นเป็นปัญหาตรงไหน ถ้าปัญหาเรื่องราคากูไม่ขอวิจารณ์ว่าผิดหรือถูกเพราะส่วนตัวว่าไม่แพงซึ่งมันก็แล้วแต่คน กูมองว่าแฟนคลับแรงไปเหมือนกันอ่ะ มันก็มีส่วนที่สนพบ้ง แต่แฟนคลับเรื่องนี้ก็บ้งเหมือนกัน พอกูรู้ว่าพูดงี้ดูเป็นสาลิ่มสนพ แต่กูว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แตะไม่ได้อ่ะ เปลี่ยนนิดหน่อยไม่ได้เพราะแฟนคลับแรง จนอยากให้ไปหารเงินซื้อลิขสิทธิ์แล้วจัดทำกันเองแทน อยากรู้ว่ากี่ปีถึงจะได้ออก 5555555 บางเรื่องไม่ควรดราม่าก็ลากมาหาแสงให้ได้อ่ะ ตั้งแต่เรื่องนี้ประกาศแอลซีมากูเลิกตามสายผลิตไทยทุกคน กูอคติ เห็นนิสัยหลายๆอย่างของบางคนแล้วกูคลื่นไส้
>>925 กูไม่ใช่สายนิยายแต่คิดว่าจะซื้อดกจาเพราะตามอ่านwebtoonแล้วชอบ แต่สนพไทยแบ่งเล่มเองนี่มันปกติเหรอวะ อันนี้ถามเพราะอยากรู้จริงๆ ก็ถ้าเนื้อหาในเล่มออริจินอลต่อหนึ่งเล่มมีกี่บทก็ทำตามเล่มมันไปดิ แบบนั้นไม่ง่ายกว่าเหรอวะ ส่วยกรณีดกจาคือสนพเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายอย่างตั้งแต่วันแรกที่ประกาศlc ส่วนตัวกูไม่ได้สนใจเรื่องดราม่าเท่าไหร่ แต่ก็มีงงๆเหมือนกันว่าทำไมไม่แบ่งตามเล่มphysicalของเกาหลีไปเลย ทำไมต้องแบ่งตามE-book
กูตามดกจาแต่ตามเรื่องนิยายอยู่วงนอก คอยดูห่างๆยังงงกับสนพเลย ตอนแรกก็ประกาศมาว่าสิบกว่าเล่มไม่ได้ซอย กูงงว่าจะซอยทำไม แถมทิ้งการอัพเดตนานมาก ประกาศ lc แล้วหายไปยาวๆจนงง แฟนคลับเรื่องนี้ก็จ้องมาตั้งแต่เว็บตูนแล้วด้วย พอมีนิยายก็คาดหวังไม่แปลกหรอกวะ สนพทำตัวงงไม่มีที่มาที่ไปงี้เลยโดนสับเละเลย
>>926 มันเรื่องปกติน้า มึงอ่านนิยายมดบ้างป่ะ อย่างโหยวซู่กับอัศวินดารา มดก็งอกออกมาเท่าหนึ่ง จาก 5 เป็น 10 4 เป็น 8 รัชศกก็จาก 5 เป็น 7 (มั้งน้า กูจำไม่ค่อยแม่นว่างอกจากกี่เล่ม แต่งอกแน่ๆ) บางเรื่องต้นฉบับไม่เคยออกเล่มมีแค่ฉบับเว็บ สนพก็จัดเล่มเองได้ถ้าสัญญาไม่ได้ห้าม เวียดนามงอกทะลุมิติเป็นอาร์คๆไม่เหมือนไทยด้วยซ้ำ กูว่าถ้าต้นฉบับให้สิทธิมันก็ควรที่จะทำได้โดยไม่ผิด อย่างดกจาที่เกาก็ไม่เคยมีเล่มที่เป็น physical จำนวนเล่มก็ยังไม่แน่นอนว่าแบ่งกี่เล่ม ตอนนี้เพิ่มขาย 8 เล่มแรก แต่ยังไม่จบ ไต้หวันที่ออกขายก่อนปีที่แล้วก็ยังไม่ได้ระบุว่ากี่เล่มจบ (ถ้าข้อมูลกูไม่ผิด)
เรื่องปกติแหล่ะที่ซอยเล่ม กุเห็นเป็นทุกสนพ. แต่อันนี้ที่คนด่ากัน กุว่าเพราะก่อนหน้านี้ สนพ.แจ้งว่ามี15เล่มจบ มีจำนวนหน้าและราคาออกมาแล้วด้วยซ้ำ แล้วสนพ.ก็หาย4เดือนได้ กลับมาอีกทีคือเพิ่มจำนวนเล่มเป็น23เล่ม จำนวนหน้าที่น้อยลง และราคาที่พอคิดแล้วสูงกว่าเดิมอ่ะ
ส่วนจำนวนเล่มมากขึ้นเป็นปัญหายังไง ก็เล่มมากขึ้น ระยะเวลาการขายนานขึ้น ราคาหนังสือก็สูงขึ้นไง แทนที่จะปิดจ๊อบได้ใน1ปีนิดๆ กลับยืดเวลาไปเป็น2ปี ถึงเวลานั้นราคาจะขึ้นไปเท่าไหร่ แค่นี้เลย แต่ก็นะ บางคนอาจคิดว่าเวลาต่างกันนิดหน่อย ราคาจะขึ้นเท่าไหร่กันเชียวก็ได้ บางคนว่าแพงบางคนว่าไม่แพงก็ไม่ผิดอ่ะ ใครไหวก็ซื้อเท่านั้นเอง
อีกอย่างที่กุรู้สึกว่าแพงเพราะสนพ.ทำงานผีเข้าผีออกอ่ะ ถ้างานคุณภาพ คนคงไม่ตามด่าขนาดนี้ อย่างเช่นเรื่องนี้มีสมุดสะสมการ์ดด้วยนะเหมือนฮัสกี้เลย แค่นี้กุก็กลัวล่ะ จะได้สมุดกระดาษขุยอีกมั้ย นี่ไง งานของสนพ.ที่ทำให้หนังสือดูแพงกว่าเดิม
กูตามอยู่ห่างๆ กะว่ารอซื้ออ่านแล้วถ้ามันแย่ยังไงค่อยด่าทีเดียว แต่กูก็ว่าประหลาดที่มาเพิ่มจำนวนเล่มเกือบ10เล่ม เงินที่ต้องจ่ายก็จะเพิ่มตามไปด้วย ระยะเวลาที่รอ พื้นที่จัดเก็บ มีผลกระทบหมดอ่ะ แล้วการรับมือสนพ.ก็ตลก เหมือนคนไม่รู้จักนิยายไม่รู้จักเกาหลีแต่มาจับเพราะเห็นเป็นเรื่องดัง ดกจาคิมนี่มาได้ไงวะ 5555 ดีที่ในนิยายไม่เป็นงี้
ทำตามต้นฉบับไม่ได้หั่นเองกูว่าก็เป็นเหตุผลพอแล้วล่ะ จะด่าไปรอด่าเรื่องการแปลดีกว่า
เกาหลีกูไม่รู้นะ แต่แปลจีนแล้วเล่มงอกนี่กูเข้าใจ แปลไปจ้างคนแปลจดหมายไทยเป็นจีน เขียนไปสามหน้าออกมาเหลือหน้าเดียว เค้าบอกว่าภาษาจีนถ้าจะให้สวยๆมันต้องกระชับๆ ถ้าแปลจากจีนมาไทยแล้วมันขยายก็สมเหตุสมผลว่ะ
เรื่องงานแปลนอกจากแปลผิดกับแปลตกที่เห็นคนด่ากันเยอะๆในนกฟ้า ก็เรื่องการเลือกใช้คำนี้แหละ แบบแปลตรงเหมือนเข้าทรานสเลตงี้ แต่เรื่องนี้กูว่าพูดยากว่ะเพราะอย่างที่บอกพวกมันยังย้อนแย้งกันเองในด้อมอยู่เลยว่าพวกมรึงบางกลุ่มอยากจะได้ภาษาสวยๆกันแต่อีกพวกอยากได้อะไรเข้าใจง่ายๆ กูเป็นเซ็ง ถึงได้อยากให้คนในด้อมมันเคลียร์ใจกันให้ดีๆก่อน ไม่งั้นต่อให้งานออกมาแบบไหนมึงก็ด่าเขาอยู่ดีแหละ
แหม แบนสนพนี่มันคุ้นจริงๆ มึงว่าด้อมไหนจะปสดกว่ากันวะ แต่สนพนุ้นขึ้นแท็กแบนเล่มจบ ส่วนเลxxxขึ้นตั้งแต่ยังไม่ขายเล่มแรก กุว่ากุพอจะรู้..
>>940 กูว่ามันควรเป็นการแปลที่อิงความลึกซึ้งของต้นฉบับให้ออกมาแล้วคนทั่วไปอ่านเข้าใจ ถ้าแปลตามแฟนๆเรียกร้องมันก็จะเป็นเรื่องที่ขายให้แฟนกลุ่มนั้นเฉพาะอ่ะ ซึ่งเก็ทว่าฐานคนซื้อก็แฟนๆ แต่มึง งานแปลวางขายให้คนทั่วไป ไม่ใช่งานแปลเฉพาะแฟนด้อม และเรื่องนี้ไม่ใช่วาย ยิ่งเรื่องมันดังแบบนักอ่านชายอ่านก็เยอะ
เอาจริงๆคือกูก็อยากได้คำสวยๆนะ แต่กูก็ไม่อยากให้งานแปลมันมีเรื่องปสด.ตามมาเหมือนเคสนิยายแปลหลายๆเรื่อง ยิ่งเห็นคลังศัพท์ชาวไทยช่วงนี้ ใช้คำสวยไปเดี๋ยวมึงเจอแปลลิเกไปอีกหรอก ไม่ก็เจอคนบอกกูไม่รู้จัดคำว่าวสันต์ ไม่รู้จักคนว่าอนธการ ทำไมมึงไปแปลตรงๆเข้าใจง่ายๆบลาๆ
อีกอย่างลำพังคอมเม้นในเว็บตูนก็พอจะบอกอะไรได้หลายๆอย่างแล้วนะ กูยังเจอบางคนไม่ยอมใช้คำเฉพาะสวยๆที่มีอยู่แล้วเพราะบอกมันเข้าใจยากไปอยู่เลย ที่กูบอกว่ามีคนพิมพ์เรื่องไม่ต้องแปลศัพท์สวยมากไม่ใช่บทกลอนเอาตรงๆง่ายๆให้คนเข้าใจก็พอหนิ คือมันมีคนพิมพ์อย่างงี้จริงๆนะเว้ยในเว็บตูนนั้นแหละ ไม่ได้ไปบ่นในด้อม เอาตรงๆเลยนะกูว่าคนเดี๋ยวนี้(ไม่ใช่ทุกคน)คลังศัพท์ไทยน้อยแล้วไม่ค่อยย่อมเพิ่มคลังศัพท์ไทยของตัวเองวะ สักแต่อยากจะให้นักแปลลดมาตรฐานลงมาปรับตัวให้เหมือนตัวเอง เอาความชอบของตัวเองเป็นที่ตั้ง กูเห็นจากหลายๆเคสนะไม่ใช่แค่นิยายแปลนะ สื่ออื่นๆกับภาษาอื่นๆด้วย
ส่วนเรื่องแบ่งเล่มจาก 23 เป็น 15 แถมกว่าจะมาสนพ.หายเงียบ กูว่าไม่แปลกเว่ยที่คนไม่เคยซื้อนิยายแปลแต่ตามจากเว็บตูนจะด่า เพราะขนาดคนซื้อนิยายแปลบางคนยังด่าเลย ส่วนกูหลังจากเจออินกย่างไปแล้วก็รู้สึกเฉยๆกับราคาแบบนี้นะ
นิยายเวปตูนแม่งเงินไหลเป็นสายน้ำอ่ะ ดีนะไม่ติด
เออ กุเห็นทวิตอยู่เรื่องชื่อเกาหลี เลยอยากรู้ว่าทางเกาเขาอยากได้ คิมดกจากับจุงฮยอกยู (แบบในตอนแรก) หรือ ดกจาคิมกับจุงฮยอกยู (แบบในตอนหลัง) ค่อนข้างไม่ชิน กุเลยอยากรู้เหตุผลอยู่นะว่าทำไม เพราะฝั่งเกากับไต้หวันเองก็ใช้คิมดกจากับยูจุงฮยอก แม้แต่ในเล่มไทยก็แปลแบบนี้ ทำไมการ์ดต้องทำให้ต่างออกไป เหมือนกับได้ยินชื่อยูแจซอกกับคิมจงกุกมาตลอด อยู่ๆจะให้เปลี่ยนเป็นแจซอกยู จงกุกคิม ก็รู้สึกไม่ชิน 55555
ส่วนเรื่องแปล นอกจากมีแปลผิดแล้ว พวกชื่อเฉพาะ ฟค.คงอยากได้ชื่อเพราะๆ เท่ๆหน่อยล่ะมั้ง แต่คนแปลแปลทื่อๆมาเลย ขอยกตย.แปลสวยเรื่องอื่นจากทวิต เช่น Killing Stone นักแปลใช้ว่าศิลาสังหาร, Water breathing ใช้ปราณวารี, Stardust Crusaders นักรบประกายดาว เนี้ย กุว่าฟค.คงอยากได้อะไรแนวนี้แต่นักแปลจอนดกชีแปลให้ไม่ได้ คือแปลไม่ผิดแต่ไม่น่าจดจำ ซึ่งอันนี้กุคิดว่าน่าเสียดายอยู่ แปลชื่อเฉพาะพวกนี้คือโชว์กึ๋นเลย แล้วถ้าสนพ.คิดว่าเรื่องนี้คนทั่วไป,นักอ่านผช.เยอะ เลยเน้นแปลอ่านง่าย กุรู้สึกว่าดูถูกคนอ่านไปหน่อย เพราะอย่างพวกชื่อท่า ตัวละครเพราะๆเนี้ย มาจากมังงะเรื่องที่คนอ่านผช.เป็นหลักทั้งนั้นเลย
แต่พูดไปก็เท่านั้น แพลนสนพ.ตอนนี้วางไปถึงเล่ม4แล้ว คงแก้อะไรไม่ได้ ได้แต่หวังว่าแปลเล่มหลังๆจะโอเคขึ้น เสียดายก็แต่บางชื่อที่โผล่มาเล่มแรกๆต้องใช้ชื่อนั้นไปจนจบเรื่องแหล่ะ
>>940 มันควรใช้ศัพท์ตามระดับต้นฉบับปะวะ ถ้าต้นฉบับมาอย่างหรูแปลไทยมันก็ต้องหรูตาม ต้นฉบับมาแบบกันเองก็แปลแบบกันเอง ถ้าปรับระดับตามนั้นไม่ได้แล้วจะให้คนแปลทำไมอะ เครื่องก็แปลได้ปะแบบนี้
ปัญหาอีกอย่างนอกจากระดับภาษาคือสำนวน นักอ่านบางคนเหมือนเคยอ่านแค่สำนวนเดียว พอเจออะไรที่ไม่คุ้นก็ด่าไปหมด บางคนถนัดแต่นิยายหวานๆแบบ "ข้าทำเยี่ยงนั้นเยี่ยงนี้ท่านพี่จะทำเยี่ยงไรหรือเจ้าคะ" "มิใช่เลยเจ้าค่ะ" "เป็นอันใด" มาจนชินไง พอมาเจอนิยายแอ็คชั่น "ข้าทำแบบนั้นแบบนี้เจ้าว่าอย่างไร" "หามิได้" "เป็นไร" ก็ตบโต๊ะแล้กรีดร้องทันทีว่าอีนี่แปลห่วย ไม่สมูทเลอ พวกนี้ช่วงหลังๆชักเยอะด้วยนะ
>>948 “นักอ่านบางคนเหมือนเคยอ่านแค่สำนวนเดียว พอเจออะไรที่ไม่คุ้นก็ด่าไปหมด” <<< มึงยังไม่ชินนิสัยแบบนี้ของนักอ่าน(บางคน)ในปัจจุบันอีกหรอ
บางพวกที่ออกมาด่าคือติดมาจากแปลเถื่อนด้วยซ้ำ ไม่ก็พึ่งเคยอ่านนิยายแปลแบบนี้ไม่เยอะ สักแต่จะให้นักแปลปรับตัวเข้าหาตัวเอง ต่อให้ต้นฉบับมันมาแบบไหนถ้านักอ่านมันทัศนคติเป็นงี้มันก็ด่าอยู่ดี
>>949 กูเชื่อว่าด้อมจะมาสภาพนี้
นักแปล to แปลตรงๆโง่ๆเหมือนเข้าทรานสเลต
นักอ่าน : คลังศัพท์มึงน้อยมาก เข้าทรานสเลตยังดีกว่า แปลเถื่อนยังดีกว่า แปลทื่อมาก ฯลฯ
นักอ่าน : ไม่เอาละๆๆ นักแปลแปลห่วยมาก เทๆๆๆ
นักแปล to เลือกคำสวยๆมาแปลชื่อฉายา ชื่อท่า ชื่ออาวุธ
นักอ่าน : คำเชี่ยนี่แปลว่าไร ศัพท์ยากไปเข้าใจยาก ทำไมไมแปลง่ายๆ นี่นิยายไม่ต้องแปลเพราะมากก็ได้ปะ ฯลฯ
นักอ่าน : ไม่เอาละๆๆ นักแปลแปลห่วยมาก เทๆๆๆ
ขำๆนะแต่ดูเดจาวูอยู่เหมือนกันนะเนี่ย
สนพ.ไทยออกมาบอกแล้วนะ เกาให้ใช้ ดกจาคิมกับจุงฮยอกยูเพราะอิงชื่อทางการภาษาอังกฤษ ทำกุมองบนฝั่งเกานิดนึง นิยายเกาหลีมาอิงชื่อทางการอิงค์ทำไมก่อน แล้วมาอิงอยู่แค่ที่ไทย เพื่ออออ และแสดงว่าที่ไทยปล่อยมาตอนแรก คิมดกจากับจุงฮยอกยูคือพลาดสินะ เอิ่มมมม
เดาว่าเกากะไต้หวัน วัฒนธรรมเค้าเอาชื่อตามหลัง เวอร์ไต้หวันเลยปล่อยไว้เหมือนเดิม ไทยเอาชื่อขึ้นก่อนทางเกาเลยนึกว่าควรเอาชื่อขึ้นก่อนป่าววะ
>>950 สำหรับกูนะ กูเซ็งตั้งแต่วันแรกที่แปลไทยออกเพราะแปลแข็งแต่ถามว่าแย่ไหมก็ไม่แย่ กูอ่านไปก็บาร์ต่ำลงเรื่อยๆ จากคาดหวังให้แปลสวยเหลือแค่ให้มันแปลคำเฉพาะของเรื่องถูกไม่ไปขัดเนื้อหาที่จะเฉลยตอนหลังก็พอยังเจอแปลผิดที่ถ้าไม่ด่าก็ไม่ยอมแก้ หรือบางอันแม่งแปลถูกอยู่แล้วเสือกไปแก้ให้ผิดตามคนที่อ่านเว็บตูนมา คนอ่านนิยายต้นฉบับจบแล้วอยากอ่านแปลไทยมันเซ็ง
คำที่ทำคนฟิวขาดกันจนตัดสินใจเทมันคือคำนี้เว้ย 구원의 마왕 ฉายาของดกจา
สนพ.มันแปลเป็นราชาปีศาจแห่งการหลุดพ้น แต่จริงๆ 구원 ตรงนี้มันคือคำว่าช่วยชีวิต,ช่วยให้รอด,ไถ่บาป
แล้วในอนาคตเนื้อเรื่องจะเล่นคำ 구원 กับฉายาของดกจาบ่อยมาก เช่น มีคนบอกกับดกจาว่า 구원(การช่วยให้รอด)ของดกจามันเป็นคำสาป เป็นการย้ำถึงคาร์ดกจาว่ามันชอบเสียสละให้คนอื่นรอดจนตัวตายพร่ำเพรื่อ คนที่เขาได้รับความช่วยเหลือแม่งไม่ดีใจหรอกไรงี้ แล้วคำที่เล่นในลักษณะนี้มันเยอะมาก ก็มีหลุดอีกหลายคน ประโยคคำพูดย่อยๆเล็กๆน้อยๆก็มีเลือกคำผิด ประมาณแปลถูกนะแต่ทำให้ความเข้าใจสารผิดจากต้นความ จะไม่ให้กูด่าจริงๆเหรอ แต่ถ้ามึงพอใจกับแบบนี้มึงก็ซื้อ จบ
>>953 มึงเมากาวหรืออ่านไม่แตก กูห้ามไม่ให้มึงด่าหรอ? มึงอ่านแล้วตีความคำพูดกูอีท่าไหนถึงออกมาในแง่นั้น? มีไมสักประโยคที่กูห้ามมึงด่า? กูพิมพ์สภาพอิด้อมนี้ตามที่เห็นเถียงสิว่าไม่มีนักอ่านปสด.แบบที่กูพิมพ์อยู่ในด้อมดกจา ถ้ามึงไม่ใช่ก็อย่าร้อนตัว อิจำพวกไม่เอาคำไม่สวยเลยทำไมมึงแปลเหี้ยยังงี้แปลเถื่อนยังดีกว่าทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอิเถื่อนที่มันว่าแปลถูกจริงๆรึป่าว ไม่ก็ศัพท์ยากไปไม่เอานิยายแปลทำให้ศัพท์มันง่ายๆหน่อยสิที่คำเฉพาะให้ใช้ก็ไม่เอาจะเอาแต่ศัพท์ง่ายๆไม่ดูบริบทไม่ดูสิที่นักเขียนจะสื่อไม่ดูเหี้ยไรเลย เนี่ยกูแซะอิพวกเหี้ยนี้ มันเกี่ยวกับมึงตรงไหน? กูบอกหรอว่าห้ามด่าอิสนพ.เวลามันแปลผิด? กูบอกหรอว่าห้ามด่าอิสนพ.เวลามันแปลสื่อความหมายผิด? มึงแหกตาดูดีๆว่ามีสักบรรทัดไหมที่กูเขียนบอกห้ามด่าสนพ.เวลามันทำอะไรบ้งๆ
ระหว่างเคะราชินีเมะหมา กับ เมะราชินีเคะหมา
ชอบไรกันมากกว่า
พูดถึงเรื่องเคะหมา มีใครมีนิยายแนะนำบ้างม่ะ กูรู้สึกหาอ่านยากเหลือเกิน
>>924 นิยายแปลหลังๆ มันราคานี้มานานแล้วด้วย ยังเคยบ่นอยู่เลยตอนซื้อนิยายแปลเรื่องอื่นอ่าน ว่าเดี๋ยวนี้ราคาแบบนี้มาหลายปีแล้ว ถ้าจะบ่นเรื่องแพงมันไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกนะ ทำอย่างกับเพิ่งมาเจอของแพงอย่างงั้นแหละ
>>925 คิดเหมือนกัน เอาสองเล่มมารวมกันไหมล่ะ เล่มหนาๆ แต่ราคา ×2 เดี๋ยวพอเอาสองเล่มมารวมกัน พอราคาแพงก็วนลูปบ่นเรื่องราคาอีกตามเคย ขนาด 250 หน้า เล่มละ 295 คนยังบ่นแพงเลย นี่ปกติซื้อนิยายแปลอ่านกันไหมเนี่ย แล้วเรื่องออกเดือนละเล่มก็ไวมากแล้ว มาดูแต่ก่อนนิยายแปลบางเรื่องออกปีละ 1 เล่ม ตามยอดขาย ยอดขายไม่ดีก็รอเล่มต่อไปนานๆเถอะ มังงะบางเรื่องโดนดอง 2 ปี 1 เล่มยังเคยเจอเห้อ ขอให้ไม่โดนเททิ้งคนอ่านกลางทางก็พอ
ฮัสกี้ นี่เอามาปล่อยขายราคาสร้างบ้านกันจัง ในทวิต 4-5 พันเนี่ย กะเอาตั้งตัวกันได้เลยหรอ ในยุคเศรษฐกิจแย่ๆแบบนี้อ่ะนะ
เมบกำลังลดอยู่ ใครสายอีบุ๊คก็ไปสอยได้
ล่าทรยศเป็นที่ต้องการมากกกกก และหมดอีกแล้วใช่ค่ะ T-T
Ky ทำไมคนด่าและว่าว่านอ.ห่อแย่ ในเมื่อที่ได้ก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่ ถ้าห่อบางและพังจะบ่นก็ไม่ว่านะ นี่เห็นหลายโพสต์มากๆ ห่อบาง ห่อแย่ บลาๆ แต่ต่อด้วยว่า โชคดีที่ไม่เป็นไร งงมาก เห็นถี่มากด้วย เลยไม่เข้าใจเท่าไร กับพวกโพสต์ที่แชร์กันว่าแบบนี้เรียกตำหนิไหมคะ คือ?? ตัดสินใจเองไม่ได้รึไง แบบไหนที่เรียกตำหนิอะ ถ้าตำหนิจะเคลมก็เคลมไปสิ ละลานตามากจริง
ตอนแรกแม่งก็ไม่ฮิตไรหรอกพอเกมฝันร้ายมาเท่านั้นละ อย่าว่าแต่boxเลยหนังสือยังหาไม่ได้
ถ้าอ่านแค่ล่า.ไม่ต่อเกม.นี่จะค้างคาไหมอ่ะเพื่อนโม่ง แบบ มีปมที่ยังไม่คลายหรือไรงี้ไหม ดองล่า.เอาไว้ เกม.ไม่ได้ซื้อ
>>980 ไปนางนวลมั้ยมึง นายเอกก็พอได้ฟีลหมาอยู่ หมาหน้าด้านแบบมึงไม่เลี้ยงก็ยังตามมาอยู่ด้วย รอหน้าบ้านจนกว่ามึงจะยอมเลี้ยง แต่พระเอกหงส์ไม่ลงพื้นนี่ตรงคอนเซป
>>984 ไม่ค้าง จักรวาลเดียวกันแต่เส้นเรื่องคนละเส้น ล่าจบแล้วเกมฝันร้ายเกิดต่อ
>>981 กุเห็นมันเงียบมาตลอดเลย ตอนบ๊อกซ์ออกก็ยังดูเงียบๆ มีช่วงที่ของขาดตลาดตอนเกมฝันร้ายออกนั่นล่ะที่เห็นคนตามหา เล่ม 1 รอบจองยิ่งโคตรแรร์ คือตอนแรกไม่มีใครสน พรีเมี่ยมก็ไม่มีคนสนเพราะเป็นลอตแรกๆที่มีดีทำพรีเมี่ยมรอบจอง แม่ค้ายังไม่รุมทึ้ง และใช่ค่ะ ตอนนั้นกุเองก็เลือกส่วนลด 555
ใครแนะนำกูทีได้ไม กูอยากได้เรื่องที่พระเอกเลยรับมาก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนมารุกกับนายเอก ไม่ก็แนวทะลุมิติเปลี่ยนนายเอกนิยายเป็นพระเอก อารมณ์พี่อวี้อะ กูว่ามันน่าสนใจดีกูได้ทุกเซตติ้ง จะโอเมก้าจับกดเบต้า/อัลฟ่าก็ได้ จริงๆกูชอบแนวๆพระเอกโดนrapeรับมาก่อนค่อยมารุกกับนายเอก หรือโอเมก้าที่ฝืนอาการฮีทเปลี่ยนมารุก กูว่าแนวนี้แม่งน่าตื่นเต้นดี ปกติเจอแต่นายเอกโดนrapeกูอยากอ่านพระเอกโดนมั้งอารมณ์ประมาณฝ่ายรับที่เปลี่ยนมารุก
อ้าวผิดมู้
กูงงกับเซเลปบางคน เหยียดข่มขืนในนิยายชายหญิงเหยียดincest เหยียดเปโด จนถึงขั้นลามไปด่านักเขียน แต่ดันหวีดพระเอกข่มขืนนายเอกในงานวาย แซ่บมาก ฟินมาก ncดุเดือด คืออิหยังวะ
เวลากูอ่านนิยายแปลจีน ขัดใจอยู่เรื่องหนึ่ง ‘รักชาติ’ ตัวเอกกำลังฉลาดไม่ยอมทำตาม พอมีคนอ้างว่าต้องทำเพื่อชาติ กตัญญูต่อชาติเท่านั้นละ แม่งเอ้ยย ภูมิใจอะไรนักหนาวะ ขนาดแนวไซไฟแม่งยังไม่เหลือ ไม่ต้องพูดถึงปกติเหยียดชาติอื่นได้เหยียดดดด
กูละคิดถ้าแม่งเป็นประเทศแถวนี้นะ5555555555แม่งคงไม่มีแบบนี้ นิยายเรื่องนั้นจะโดนด่าเป็นขนมหวานทันที
>>991 รักชาติกูว่าปกติ เมิงดันไปอ่านแนวปลุกใจเอง ถ้าเมิงเจอดุจดวงดาวเกียรติยศไม่น้ำลายฟูมปากเลยเหรอวะ
หนังอเมริกันหนังญปรักชาติยังมีเลย ไปตายเพื่อชาติ ทำเพื่อชาติ พากภูมิจัยได้เป็นตัวแทนของชาติ ฯลฯ
ส่วนเหยียดชาติอื่นนั่นก็อีกเรื่องนึง แต่ในชีวิตจริงมันก็เหยียดกันจริง น้อทเซอร์ไพรส์
>>993 เสียดสีก็มี แต่มีกี่เรื่องล่ะเมิงลองยกตัวอย่างให้กูดูหน่อย นับนิ้วยังไม่ครบสิบนิ้วเลย เรื่องปกติไม่อวยชาติก็มีแหละ แต่ส่วนใหญ่มันก็อวยชาติกันทั้งนั้น ยิ่งประเทศที่ชาตินิยมหนักๆ แล้วเมิงไปหยิบโดนอันที่มันปลุกใจรักชาติอีก ยิ่งนิยายแนวโบราณยิ่งแล้วใหญ่ แนวรักชาติทั้งนั้น ไม่รักชาติแล้วใครจะไปรบละวะ มันก็หนีทหารไปปลูกผักกันหมดดิ
เมิงจะถามหานิยายไม่อวยชาติจากนิยายจีนก็เหมือนไปซื้อหมูที่สะพานปลาอ่ะ
เอวาเกเลี่ยน กันดั้ม มาเวล ฮิคารุ นี่ก็อวยชาติทั้งนั้น มีจอมโหดกระทะเหล็กเนี่ยที่เป็นญี่ปุ่นแต่อวยอาหารจีนรัวๆ แต่คนญี่ปุ่นทำอาหารชนะคนจีนนะ อุอิ
Ky ขอลิ้งมู้ซร.วายหน่อยกุหายังไงก็ไม่เจอวะ
>>996 จำได้ว่าเหมือนมันเต็มไปแล้วอะ แล้วยังไม่มีคนตั้งใหม่ (ซร. ซีรียส์ใช่มะ?) ตั้งใหม่เองเลยได้นะ นี่ลองไปเปิดๆดูก็เจอแต่กระทู้โทรลล์มาตั้งจนตาลายหาชื่อมู้ไม่เจอ ตั้งใหม่ชื่อใหม่เลยก็ได้แบบสมมติ เม้ามอยซีรียส์วายนานาชาติ ไรงี้ก็คือจะซีรียส์วายชาติไหนก็มาคุยในนั้นไปเลย กดตรง new topic ด้านบนได้เลย
Ky กุเห็นรอร มีฟีเจอร์ Your Name ด้วย
กูชอบเมะหมาแต่ไม่ได้ชอบที่มาหมาตอนหลังหรือหมาแค่เคะคนเดียว แต่เป็นเมะหมาตัวใหญ่ใจดีกับทุกคน เป็นลูกน่าเอ็นดู แต่เคะแนวนี้ชอบมาทำลูกกูเจ็บ แล้วลูกกูที่เจ็บมากๆก็ต้องไปง้อเคะอีก กูอยากหาลูกสะใภ้ใหม่ให้ลูก
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.