Last posted
Total of 1000 posts
กะ กูเริ่มอ่านวายตั้งแต่ผูกคอซอง
กูเริ่มอ่านตอนป.6 เป็นฟิคแต่ตอนนั้นกุไม่รู้ว่าวาย กูก็งงว่านางเอกหายไปไหน ละทำไมเพื่อนพระเอกมันนัวเนียกับพระเอกเยอะจัง555555555
อย่าบอกนะว่าคอซองเครือเดียวกัน เราอาจจะจบจากสำนักชีเดียวกันรึเปล่ามึง กูเริ่มเพราะการ์ตูนเล่มเดียวเวียนทั่วห้อง
กูเริ่มจากร้านเช่า เรื่องตำนานภูติน้ำแข็ง คิดถึงจัง อยากอ่านอีก
กุอ่านวายตอนป.4แบบไม่รู้เรื่องเหี้ยอะไรเลย รู้อีกทีตอนป.5ที่พี่สาวมาขายให้กุอ่าน
เห็นคุยกันกูชอบเพท 1-3 ไม่ชอบ 4 นะ 555 แต่ชอบเขาเขียนนักเจรจาสุด อยากให้มี ลข ชะมัดแต่ออกมาคงโดนฉอด555
>>160 คุณเมบุกิไม่โดนหรอก แต่กูว่าเฮียวโดอาจจะโดนด่าแทน 555 แต่อยากให้มีแปลจริงๆ กูจำได้ว่า CB โดนแหกหนักมากว่ามั่ว Nez นี่ก็มั่วใช้ได้ดีที่ BLY เอามาทำใหม่หมด แต่ก็ยอดขายไม่ดีมากเพราะโดนไพเรทชิงแดกไปก่อน และสมัยนั้นพวกหาบ CB ก็สักแต่ด่า BLY ตอนนี้เลยไม่รู้จะหวังได้ทำใหม่บ้างมั้ยเนี่ย
นิยายแปลไม่ค่อยมีคนฉอดปะ วายจีนเนื้อหาบ้งๆน่าฉอดเยอะแยะยังรอดเลยมึง
>>162 เป็นนิยายแปล แต่มาจากญี่ปุ่นก็โดนแล้วมึง ประเทศสังคมปิตา บางคนยังด่าเลยที่สมาทานอินเซส ชอบอะไรบ้งๆ ก็เพราะเสพฝั่งญี่ปุ่นกันมา สนามอารมณ์พวกนักฉอดเหอะ
แต่ถ้ามองจริง ซร วาย ญป ก็ไม่ค่อยโดนเท่าไรพวก เชอรี่เมจิก ไรงี้คนก็หวีดกันเงียบๆ นิยายวาย ญป คนอ่านน้อยคงไม่โดนด่าง่ายๆ มั้ง สรุปนักเขียนวายไทยน่าสงสารสุด
นึกถึงตอนเห็นพวกอ่านมังกะญปที่เรื่องที่ตัวเองชอบหรืออ่านน่ะก็มีที่บ้งๆ เหมือนกัน มีเรปไรงี้ ไม่มีใส่tw มาฉอดด่าอชส.อินเซสต์ด่าว่าไร้ศีลธรรม เป็นอาชญากรรม เขียนทำไม มันควรเขียนเหรอตอนอชส.แล้วก็เวท อินเซสต์ที่สมยอมยังไม่เป็นอาชญากรรมเท่าข่มขืนเลยด้วยซ้ำ แม่คนดีมีศีลธรรมเฉพาะเรื่องตัวเองไม่อ่าน
>>168 กูตรงข้ามกับมึงเลย กูไม่ชอบวรรณกรรมญี่ปุ่น ทั้งยุคเก่าและวรรณกรรมปจบ อ่านได้แค่แนวสืบสวน พวกวรรณกรรมปกมินิมอลขายฮิปสเตอร์นี่กูอ่านแล้วไม่ชอบสักเรื่อง แต่วายนี่กูชอบมาก 555555 กูเองก็ไม่ได้ชอบวายญี่ปุ่นทุกเรื่องหรอก เรื่องที่กูอ่านแล้วไม่หนุกก็มี แต่เรื่องที่หนุกก็เยอะ กูอ่านภาษาญี่ปุ่นเอาเองด้วยอ่ะ เลยหาแนวที่ตรงใจตัวเองได้โดยไม่ต้องรอสนพ.แปล
มึงพูดเหมือนวายญี่ปุ่นมันบ้งอยู่ชาติเดียว วายจีนวายเกาบ้งๆมีเยอะแยะ เรื่องแมสๆที่ไม่โดนฉอดก็เยอะ อะไรทำให้มึงคิดว่าวายนอกกระแสอย่างวายญี่ปุ่นมันจะโดนฉอดได้วะ
เบื่อไม้บรรทัดศีลธรรมที่เบี้ยวๆนี่จังว่ะ ขึ้นชื่อว่านิยายมันก็ไม่ใช่ความจริงแล้วไหม บางคนก็แค่อยากหลีกหนีกรอบของความจริงมาโลดโผนในนิยายเท่านั้นเอง =_=
แปลเถื่อนแอบเปิดโดเนทนี่จัดการไม่ได้สักที
เรื่องฉอดนี่ทำใจเหอะ งานมันออกสู่สาธารณะไงๆก็ต้องมีคนพูดถึง กูว่าสังคมที่ไม่มีใครฉอดประเด็นพวกนี้เลยจะน่ากลัวกว่านะ ส่วนใครอยากหลบไปหลั่นล้าในโลกนิยายก็เมินๆพวกขี้ฉอดไป ต่างคนต่างอยู่
กูว่าฉอดมันมีหลายเลเวล ถ้าเลเวล 1-2 จิกตีกันปกติไม่มีปัญหาหรอก มันมีนิยายเรื่องไหนคนอ่านร้อยคนชอบร้อยเหรอวะอันนี้คือระดับวิจารณ์ แต่บางทีพวกฉอดมันมาเลเวล 10 เอะอะจิกเปียนักเขียนจิกเปียสำนักพิมพ์ แค่เพราะเรื่องไม่ได้เป็นแบบที่พวกฉอดพวกนั้นชอบหรือเป็นไปในแบบที่ตัวต้องการอะนะ อันนี้ส่วนตัวกูเรียกคุกคาม แบบพวกตำรวจด้อมคอยจิกเปียพวกชิปเหี้ยไรงั้น
แต่ถ้าในตัวเนื้อเรื่องมันมีส่วนข้อมูลผิด ก็อปชาวบ้าน ก็อปบทความ อะไรก็ตามที่มันผิดไปเลยอันนี้ต้องจิกคนเขียน สนพจริง
>>174 กุก็อยากเมินนะ แต่ผลคืออีพวกเกินเบอร์พวกนี้หาพวกไปรุมสนพ. สนพ.เห็นมีแต่พวกฉอดก็คิดว่ากระแสเป็นทางนี้ ก็เปลี่ยนเอาใจคนอ่าน กุผู้อ่านที่เปย์ได้รับผลกระทบจากอีพวกฉอดที่ส่องหาจุดฉอดโดยไม่คิดจะอ่าน หรือบางคนยิ่งกว่าซื้อก็ไม่ซื้อหารีวิวมาฉอดเลย สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมได้โดยไม่มีต้นทุน อันนี้แหละ ทำให้บางทีกุต้องออกไปส่งเสียงถึงสนพ.บ้างเป็นครั้งคราว
เท่าที่กูเห็น พวกฉอดเกินเบอร์จริงมักจะโดนโต้กลับแรงไง อย่างเรื่องสำนวนแปลปรมจ ตอนหลังก็โดนสับเหมือนกันนี่นาว่าฉอดมั่ว กูว่าถ้ามึงคิดว่าอันไหนเกินเบอร์ ทนไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องเปิดวอร์บนบกว่ะ แต่ถ้าอยากอยู่อย่างสงบต้องทำใจจริงๆ เลี่ยงไม่ได้หรอก
กุเจอแต่ฉอดเกินเบอไม่ใช่ฉอดบ้างเลยน่ะสิ จนรำคาญ พวกนี้ตามมาระรานคนอ่านด้วยเอาไปโควต อีพวกสันขวานบ้างทีต้องด่ากลับบ้าง
สำหรับกูคือ อย่ามาฉอดเรื่อง รักหมดใจมายฮีโร่ กูนะ ถ้าแม่งมาฉอดจนไม่มีแปลไทยถูกลิขสิทธิ์อีกนี่กูจะสาป
>>173 กุไปส่องแท็กเรื่องนี้ บางคนแม่งก็ระแวงเกิน ถ้ามีคนดูแล้วไม่ชอบที่นายเอกอิ๊กนอร์ ปล่อยให้พระเอกโดนบุลลี่ แล้วออกมาบ่น แบบนี้ก็นับว่าเป็นการฉอดเหรอ บางคนพูดเหมือนไม่อยากให้วิจารณ์ ใครวิจารณ์คือดูแล้วไม่เข้าใจงี้ มันก็ไม่ใช่ปะวะ อะไรที่บ้งมันก็วิจารณ์กันได้ แค่ไม่ถึงขั้นฉอดแว้ดๆให้เลิกฉายก็พอแล้ว
>>185 แสดงว่ามึงไม่เคยเจอความ ปสด ของนักฉอดมั้ง วิจารณ์น่ะได้แต่พวกนี้มันชอบลามด่าคนชอบต่อไง ถัดมาก็จะบอกห้ามชอบ ฟินเข้าไปได้ไง ไม่มีความตระหนักรู้เหรอ เลเวลหนักหน่อยมันคงวิ่งไปแจ้ง สนพ ระงับการตีพิมพ์ อย่างเสือกจะตายห่า นี่เล่าให้ฟังน่ะเพราะกูเห็นอะไรมาบ้างถึงพูดไง อยากให้มึงเข้าใจนะทำไมคนถึงระแวง เขาอาจเจอความ ปสด พวกฉอดคลั่งๆ มาเยอะไง อาจมีทรอม่ากันมาก็ได้
การมีคนฉอดเยอะๆมันทำให้คนอ่านนิยายระแวงกันเกินเบอร์เหมือนกันนะ บางคนก็กลัวนักฉอดจนทรีตนิยายเป็นของสูงห้ามวิจารณ์ห้ามแตะต้อง วายแปลอาจจะเห็นภาพไม่ชัด แต่วายไทยจะเห็นภาพชัดมาก มันเลยกลายเป็นว่าแค่วิจารณ์เนื้อหายังยากเลยตอนนี้ เพราะวิจารณ์ปุ๊บโดนปัดเป็นการฉอดไปหมด ทั้งๆที่การวิจารณ์มันควรทำได้ ไม่ใช่มาปกป้องนิยายว่าห้ามตำหนิ ห้ามวิจารณ์
>>188 ไม่เว้ยมึง ลองไปส่องคนที่ดู/อ่านเรื่องนี้ดู มันระแวงกันถึงขั้นกลัวพระเอกโดนด่าว่าน่าขยะแขยง (ทั้งๆที่มันเป็นจุดขาย เป็นนิสัยพระเอก ถ้ามีคนด่าว่าน่าขยะแขยงก็ไม่แปลก) กลัวมีคนฉอดว่านายเอกอิกนอร์ (ซึ่งแม่งก็อิกนอร์จริง) คือมันกลัวกันถึงขั้นไม่อยากให้มีคนมาตำหนิเนื้อหาบ้งๆในเรื่องเลย ทั้งๆที่มันมีจุดบ้งหลายอย่างจริงๆ มันคือเลเวลไม่เปิดรับการวิจารณ์แล้ว
>>190 ก็แบบนั้นแหละ มันหลอนจะโดนด่าว่าชอบกันเข้าไปได้ไงเป็นสเตปถัดมา ส่วนกูกับเพื่อนที่เคยอ่านนิยายก็คุยกันแม่งถ้าแมสโดนด่าแหง แต่เรื่องมันก็บ้งจริงแหละ ช่วยไม่ได้ ถ้ามาด่าก็บลอคละกัน ฮาา
ที่คนพานิคไปก่อนเพราะมันอธิบายลำบาก ดีเฟนด์ว่าทำไมตัวเองชอบยาก เขาเลยนอยด์กันไง เอาว่าจุดยืนกูคือมันมีนักฉอดเหี้ยๆ เยอะ จนคนแม่งหลอนระแวงล่วงหน้ากันน่ะแหละ เล่าให้มึงฟังละกันทำไมมันเป็นงี้ ไม่ใช่ว่าด่าวิจารณ์เนื้อหาไม่ได้ แต่เขากลัวอวยแล้วจะโดนแขวนก็มี สรุปดูเงียบๆ ไปละกัน
Ky หน่อย โม่งที่กูถามเรื่องมด.ส่งของไม่ครบตอนนั้นเลื่อนหาไม่เจอละ กูลองทักไปถามตามที่มึงบอกแล้วนะ เขาไม่อ่านข้อความกูวะ 😭😭😭 กูควรโทรเบอร์ที่เขาบอกถ้าด่วนให้โทรปะวะ ไม่ไหวแล้ว
>>192 ใช่กูหรือเปล่าวะ คือมึงลองโทรเลย แต่จากประวัติศาสตร์ที่กูเคยโทรปีที่แล้ว โทรจนจะอยากจะไปวางเพลิงสนพ.แล้วก็ยังไม่มีคนรับ 55 แต่ตอนนี้ผ่านการปรับปรุงระบบงานใหม่รอบนึงมึงลองดูใหม่
ล่าสุดกุเคลมนส.ตอนตุลาปีนี้ก็ตอบแชทไวอยู่นะมึง เพจมด.ตอบไม่เกิน 24 ชม. ถ้าไม่ได้จริงๆลองทักทวิตหมีดูมั้ย น่าจะช่วยมึงได้
>>191 กูว่าคนที่ระแวงขนาดนั้นคือพวกที่กลัวโดนด่า กลัวมีคนฉอดคนอ่านว่าชอบกันไปได้ไงของบ้งๆแบบนี้ คือ take it personal เกินไปอ่ะ ของแบบนี้มันต้องปล่อยวาง ปกป้องมากไปมันก็กลายเป็นงานเขียนแตะต้องไม่ได้ เหมือนวายไทยปัจจุบันนี้ ใครออกมาวิจารณ์เนื้อหาหน่อยโดนด่ากลับหมดว่าไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน ทั้งๆที่บางคนก็ไม่ได้ฉอดเลย วิจารณ์เบากว่าใน goodreads ด้วยซ้ำ
>>190 กูว่าเรื่องนี้มันบ้งตั้งแต่เรื่องย่อแล้วนะ นักเขียนก็ต้องการเขียนให้ตัวละครมันไปสุดทั้งพระและนายเอกนั่นแหละ กูอ่านแล้วรู้สึกว่านักเขียนรู้ว่ามันบ้งและพยายามจะทำให้มันบัง กูมองว่านักเขียนตั้งใจจะใส่จุดบ้งนี่เป็นจุดขาย ดังนั้นที่เเฟนคลับกลัวมันโดยฉอด แฟนคลับเขาไม่ได้ไม่รู้ตัวว่ามันบ้งตรงไหน เขาไม่ได้รับข้อเสียของเรื่องไม่ได้ แต่เขากลัวพวกสไลด์มาด่าวิจารณ์แบบไม่ลืมหูลืมตาที่สมัยนี้มีเยอะมากต่างหากต่างหาก
มันมีพวกสุดโต่งทั้งฝ่ายฉอดและฝ่ายกลัวโดนฉอดนั่นแหละ ประสาทแดกทั้งคู่
ตลกชิบหาย โม่งที่ซึ่งชอบด่านิยายกันชิบหายวายวอดกลัวนักฉอดจะด่านิยาย 555555555
กูรำคาญหมดอ่ะทั้งนักฉอดปสด และอีพวก overprotective ปกป้องนิยายไม่ลืมหูลืมตา
>>195 >>198 +1 ทุกวันนี้วายไทยก็ไม่มีใครกล้าวิจารณ์แง่ลบแล้ว อย่าระแวงกันจนถึงขั้นไม่มีใครกล้าแตะต้องนิยายแปลไปด้วยเลยขอร้อง กูหมายถึงเฉพาะพวกขี้ระแวงจัดๆ คำก็กลัวโดนฉอด สองคำก็นักฉอดออกไป อีแบบนี้อาการหนักแล้ว ส่วนใครที่เปิดใจรับการวิจารณ์ได้แต่กลัวเฉพาะนักฉอดปสดก็ไม่ต้องร้อนตัว ไม่ได้หมายถึงมึงค่ะ
เดี๋ยวก็จะมีคนมาบอกวิจารณ์กับฉอดคนละอย่างกัน เชื่อกู ถ้ามึงรับคำวิจารณ์ไม่ได้มึงก็เรียกว่าคนอื่นมาฉอดอยู่ดีนั้นแหละ อย่าลืมแคปไปเรียกคะแนนอวยจากลูกหาบนะคะ เปิดตอน ร้องไห้เลย
คนไทยหลายๆคน (นอทออล) รับคำวิจารณ์ด้านลบไม่ได้ไม่ว่าจะวงการไหน ไม่ใช่แค่นิยาย ดาราคนนึงเคยไปรับงานพากย์อนิเมะแล้วโดนด่าเละ นางออกมาบอกว่า ก็ไปพากย์เองเลยดิ หรือตอนเด็กบีเอนเคพากย์หนังออกมาห่วยแตกแล้วคนด่า โอตะก็ด่าอีพวกคนด่าว่าไม่ให้โอกาสเด็ก สังคมเรามันไม่ค่อยเปิดรับคำวิจารณ์แง่ลบอยู่แล้ว ส่วนฝ่ายที่วิจารณ์ก็หาคนวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ได้ยาก บางคนก็วิจารณ์แรงๆเข้าว่า เน้นอารมณ์ ด่าตัวละครโง่งั้นงี้ ไม่ได้วิจารณ์แบบมีหลักการหรือแจกแจงเหตุผล มันเลยดูเป็นการฉอดมากกว่า (จริงๆคนวิจารณ์ดีๆก็มีแหละ แต่พวกนี้มันไม่ได้แสงเท่าพวกฉอดแรงๆ เป็นเรื่องน่าเศร้า)
คนวิจารณ์สายซอฟต์ก็เจอโต้แรงๆ บางคนแค่บอกว่าเรื่องไม่สมเหตุสมผล ควรแก้ตรงไหน โดนหาว่าศีลธรรมจัด นี่มึงด่านักเขียนใช่มั้ย บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่เชื่อ มึงต้องด่าในใจอยู่แน่ๆ พวกสายซอฟต์เจอแบบนี้ก็หนีน่ะสิ เหลือแต่ฝ่ายฉอดกับพวกด่าฝ่ายฉอดอีกที สม
ทุกวันนี้มันไม่ได้วิจารณ์งานเขียนกันนี่หว่า มันวิจารณ์จริยธรรมในงานเขียนกับจริยธรรมของคนเขียนและอ่าน(ด้วยเกณฑ์ในอุดมคติเฉพาะบุคคล) แล้วมันจะไปปรับเข้าหากันได้ยังไง
นิยายบางเรื่องมันก็เขียนมาเพื่อตอบสนองความต้องการบ้งๆ นั่นแหละ มันเกิดมาเพื่อจะบ้ง เพื่อจะเสื่อมศีลธรรมโดยตรง แล้วมันจะเหลืออะไรให้วิจารณ์วะ นอกจากไล่ลงหลุม
บอกเรื่องอ่านแล้วรู้สึกไม่สมเหตุสมผลเลยเพราะงี้ๆ ตรงนี้มีคำผิด เขียนแล้วเข้าใจกำกวมแบบนี้ๆ ภาษาอ่านแล้วไม่รู้สึกถึงความโบราณเท่าไหร่เลย วิจารณ์อะไรทำนองนี้มึงไม่ค่อยเห็นหรอก เห็นโผล่มาก็ ยี้จะอ้วก เขียนให้รักกันแบบนี้ได้ไง/ เขียนห่วยอ่านไม่เห็นรู้เรื่อง(บางทีสกิลมึงก็ต่ำกว่ามาตรฐานอายุไหม ดูตัวเองก่อนซิส) /คนเขียนแม่งไม่มีจรรยาบรรณเขียนเรื่องพรรคนี้ได้ไง เนี่ยคือมึงไม่ได้วิจารณ์งานเขียน มึงกำลังจัดท์ความเป็นคนของคนเขียนผ่านงานเขียนด้วยมาตรฐานเบี้ยวๆของมึงตั้งแต่ต้น แค่เริ่มก็ผิดจุดแล้ว
>>209 กูว่าวิจารณ์จริยธรรมของคนเขียนคนอ่านนี่ดูเสือกไปหน่อย ไม่ได้รู้จักเขาก็ไม่ควรวิจารณ์ แต่วิจารณ์จริยธรรมในงานเขียนนี่ทำไมทำไม่ได้ล่ะ
ถ้าเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับจริยธรรม ก็วิจารณ์จริยธรรมของตัวละครไปเลยสิ
อย่างเรื่องนี้พระเอกเข้าป่าล่าสัตว์ผิดศีลนะ ทำไมถึงให้พระเอกนิสัยแบบนี้ อ๋อ เพราะเขาตั้งใจให้เป็นเรื่องการผจญภัยในป่ายังไงล่ะ แล้วพระเอกก็ทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
หรือเรื่องนี้นางเอกเป็นนางโลมนะ ทำไมไม่รักนวลสงวนตัว อ๋อ เพราะชีถูกแม่หลอกมาขายยังไงล่ะ ชีก็ไม่ได้อยากเป็นโสเภณีสักหน่อย หรือแบบ มันก็มีคนที่ชอบเซ็กส์และมองว่าอาชีพนี้เหมาะกับตัวเองนี่นา ถ้าเจ้าตัวโอเค มันผิดตรงไหนล่ะ
นิยายตั้งเยอะแยะถูกคนวิจารณ์ด้านศีลธรรมทั้งนั้น บางเรื่องเขียนขึ้นเพื่อวิพากษ์ศีลธรรมกับบรรทัดฐานสังคมด้วยซ้ำไป แล้วถ้าเรื่องมันดีพอ มันก็จะต่อยอดไปสู่การถกเถียงว่าตัวศีลธรรมนั้นถูกต้องแน่ๆรึเปล่า เช่น ถ้าพระเอกล่าสัตว์ผิดศีล แล้วถ้าพระเอกไม่ล่า แต่ครอบครัวอดตาย อันนี้ผิดศีลด้วยไหม ควรเลือกคุณธรรมข้อไหนมากกว่ากัน ฯลฯ
ส่วนนิยายที่เขียนขึ้นเพื่อตั้งใจจะบ้งอยู่แล้ว อยากเสื่อม อยากกาม อยากระบายอารมณ์ดำมืดหรืออะไรก็แล้วแต่ อันนั้นก็ต้องเข้าใจนะว่าตัวเองกำลังถ่ายทอดอะไรออกไป ในเมื่องานมันมีคนอ่านมันก็ต้องมีฟีดแบค ถ้ามึงไม่อยากได้ฟีดแบคจากคนที่ไม่ใช่ทาร์เก็ตกรุ๊ป มึงก็ต้องเลี่ยงๆไม่เอาไปวางขายในดงคนที่ไม่ใช่ลูกค้าของมึง เข้าใจว่าบางทีเลี่ยงแล้วแต่ยังมีพวกตั้งใจมาฉอด อันนี้ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ในเมื่อมึงปลูกกระบองเพชรลงในสวน มึงจะหวังให้คนที่มาชมสวนเขามองว่าเป็นมะลิได้ไง คนที่ไม่ชอบแต่เขามีน้ำใจให้มึงเขาก็มองข้าม คนที่เขาขัดหูขัดตาก็กรี๊ดว่าทำไมมึงปลูกกระบองเพชร หนามมันแหลมนะ เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ถึงคนที่ชอบแบบหนามๆจะไม่ผิด แต่มันต้องยอมรับว่าควรระวังจริงๆไง
>>210 จริง อันนี้เจอมาสองแบบเลย 1.แบบลูกหาบ+นักเขียนใจบาง คนวิจารณ์พูดถึงแต่เนื้อเรื่องไม่ได้ด่าคนเขียนคนอ่านเลยว่าแบบยี้อ่านกับเขียนไปได้ยังไงอะไรเลย พูดแต่เนื้อเรื่องว่าเออตรงนี้ตัวละครดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล ตรงนี้ดูคลิเช่ คนรีวิวโดนด่ายับเลย ในนกฟ้าก็พึ่งมีกรณีแบนี้ให้เห็นไปไม่นาน แต่ใดๆคือเคสแบบนี้ค่อนข้างน้อยเมื่อก่อนก็เห็นบ่อยนะ แต่เข้าใจว่าบางคนก็รำคาญกลัวโดนด่า ไม่เม้นแม่งเลย แล้วนักเขียนก็มาคร่ำครวญว่าไม่มีฟีดแบค ผลพวงจากกรณีลูกหาบกับนักเขียนบ้งๆล้วนๆ 2. แบบนักฉอดประสาทแดก ซึ่งเห็นโคตรจะบ่อยยยยยยยยย แล้วพวกนี้มันชอบเอาคำว่าสิทธิในการวิจารณ์นั่นแหละมาเป็นยันต์กันด่า ซึ่งนักฉอดประสาทแดกมันเป็นพวกไม่รู้ตัวว่าตัวเองประสาทแดกอะ เป็นภัยคุกคามของแท้ 5555
>>213 +1 ตรงไม่เม้นเลยละกัน 55 บางคนเหมือนให้ติชมได้ พอติเรื่องไม่สมเหตุผล ก็งอแงให้หาบโอ๋ ไม่รู้จะพูดอะไรส่งติ้กเกอร์ก็ไม่พอใจอยากได้เม้นยาวๆ บางทีกูก็อยากรู้นะว่านข.ที่งอแงว่าไม่มีฟีดแบคอยากให้เม้นทุกตอนเนี่ยเวลาเห็นโพสสาระบังเทิงคดีที่ดีๆหรืองานวาดหรือรีวิวสิ่งต่างๆในนกฟ้าเคยไปเม้นให้กำลังเค้าทุกโพสบ้างไหม
>>211 แบบที่มึงทำคือวรรณคดี/วรรณกรรมวิจารณ์ มันพูดคุยแล้วก็จบแค่กับตัวเรื่อง ก็แค่คุยวิเคราะห์ แยกแยะกัน ว่าอะไรดีไม่ดี ควรทำตามมั้ย ตามที่คนอ่านเรื่องพวกนี้ควรจะมีเป็นพื้น เชื่อมไปที่ความสมเหตุสมผลของคาร์ รู้ว่าเรื่องพวกนี้มันมีเกิดขึ้นได้ แต่มันไม่ดี ไม่ควรทำตาม มึงอาจจะรู้สึกเห็นภาพว่าความชั่วแบบนี้มันแย่มากด้วยก็ได้ แล้วจบ ไม่ได้ไปตามกวาดล้าง ตามจิกคนเขียนพยายามเปลี่ยนความชั่วช้าในนิยายให้หมดไป หรือพยายามลากตลค.มาขึ้นศาลเตี้ย พอตามไม่ได้ก็เอาคนเขียนกับคนอ่านมาขึ้นศาลเตี้ยแทนแบบสายฉอดสมัยนี้ไง
ไม่ต้องอะไรแค่นักอ่านบางคนพิมพ์ว่าทำไมตัวละครต้องทำแบบนั้นด้วยคะ บางคนแค่อินไม่ได้จะติจะด่าไรก็โดนนักเขียนแคปไปหากองอวยละ ประสาท หลายเคสนักเขียนก็สร้างเรื่องมาว่าโดนฉอดอีก มีใครเชื่อทันทีบ้างเดี๋ยวนี้
คู่นี้น่ารักจุงเลยคร๊
https://www.facebook.com/627196153/posts/10159147544466154/
นิยายที่โดนฉอดไปจนถึงตัวนักเขียนกับนักอ่านส่วนใหญ่จะบ้งแบบไม่มีเหตุผลรองรับว่ะ นักเขียนอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากเขียนให้ฟินๆโดยไม่ได้นึกถึงเหตุผลไง ถ้าให้ยกตัวอย่างสายชญขาประจำสายฉอดก็นิยายแจ่มจ้าหน้าปกการ์ตูนนั่นแหละ คนฉอดไปตั้งเท่าไหร่ ต่อให้ไม่ฉอด แค่พูดชื่อแนวคนก็นึกถึงนางเอกสวยใสไร้สติกับพระเอกโคตรเบียวแล้วอะ นิยายแบบนี้มันวิจารณ์แบบวิจารณ์วรรณคดีไม่ได้เพราะไม่มีอะไรให้วิจารณ์เลย ทำไมพระเอกแม่งหลงตัวเองขนาดนั้น เพราะบ้านรวยเหรอ แต่คนรวยๆในชีวิตจริงแม่งก็ไม่ถึงขั้นนี้ หรือเพราะหล่อ ถ้างั้นเดือนคณะไม่นิสัยแบบนี้หมดหรือไง สรุปคือแทบจะไม่มีเหตุผลอะไรเลย แค่นักเขียนเขียนขึ้นมาให้เป็นแบบนี้แหละ มันก็เลยต้องหันไปวิจารณ์นักเขียนแทนว่าทำไมคุณสร้างคาแรกเตอร์แบบนี้วะ ฯลฯ
>>220 ไม่ทุกเรื่องเสมอไปรึเปล่าเมิง กูว่าแค่มีฉากบ้งๆฉากเดียวสั้นๆสัก3-4บรรทัด หรือแค่มีแท็กต้องห้าม ให้สายฉอดแค้ป พวกไทยมุงก็พร้อมจะช่วยรุมตีนแล้ว
อย่างล่าสุดที่ฉอดเรื่องอินเชสนี่ยังไม่ได้ไปอ่านนิยายเขา แค่เห็นแท็กอินเชสนี่ก็ฝื่นขึ้นเลย องค์แม่ประทับทันที ทั้งๆที่มือถือก็ไถอ่านนิยายข่มขืนอยู่
>>220 ที่เจอส่วนใหญ่นักฉอดจะแคปมาหนึ่งอย่างโวยวาย คนอื่นก็เฮโลตาม เขียนไปได้ไงไม่รับผิดชอบต่อสังคมเน้นให้ฟิน ซึ่งแต่ละคนไม่เคยอ่านด้วยซ้ำ แอคใหญ่เห็นกระแสต้านหนักก็กลัวสะเก็ดไฟว่าอ่านแนวท็อกซิกได้ยังไง มีเอมพาธีถึงคนที่โดนในชีวิตจริงบ้างมั้ย ก็มีแต่พวกคนอ่านนูกูมาอธิบายว่าในเรื่องจริงเป็นไง ไม่ได้ราบรื่นฟรุ้งฟริ้งแบบที่มโนกันเลย แต่แอคนูกูจะมีสักกี่คนที่เห็น จมไปกับคำด่านักฉอดนักมโนหมด
>>221 เรื่องอินเซสนี่กูเห็นมู้ก่อนมีคนอ่านจนจบ วิจารณ์แบบไม่ด่านักเขียน แค่บอกว่าบกพร่องตรงไหน แต่โดนโม่งลูกหาบด่าว่าศีลธรรมจัดจะผลักความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้นักเขียนนะ พวกสายง้างแต่จะด่าอย่างเดียวนี่ไม่ได้มีแค่พวกฉอดหรอก สายกูจะบ้งกูจะฟินอย่าห้ามกูหุบปากไปนี่ก็ใช่ย่อยปะวะ แล้วพวกนี้แม่งไม่ไปเล่นสายฉอดฮาร์ดคอร์ มารุมแต่พวกสายชักแม่น้ำทั้งห้า พอพวกมีเหตุผลเลิกยุ่ง เหลือแต่พวกฉอดดักดานแล้วจะโทษใครอะ
>>225 กูเห็นเพียบเลยจ้ะ โม่งที่โดนนี่ถึงขนาดก็อปข้อความตัวเองมาเรียงให้ดูเป็นสิบเลยมั้งว่าไม่เคยด่านักเขียน ไม่เคยบังคับให้เขียนตามศีลธรรม ถ้ามันไม่โดนด่า มันจะก็อปมาเหรอ มู้นั้นกูอ่านแล้วยังโคตรหงุดหงิด เห็นคนมาดีเฟนด์นิยายเรื่องนั้นแล้วกูคิดว่ากูไม่อ่านดีกว่า กลัวโดนเหมาเป็นพวกเดียวกัน
>>227 ถ้าจำไม่ผิด เหมือนโม่งนั่นไม่เชิงบอกว่าให้เลิกเขียนหรอก แต่บอกประมาณว่าไม่ให้โรแมนติไซส์ แล้วก็ให้ใส่คำเตือนประกอบอธิบายยาวๆเผื่อเด็กมาอ่านเด็กจะเข้าใจผิด ก็เลยมีคนมาบอกว่าก็ถ้าใส่ tw จัดเรท ตรวจบัตร คัดกรองแล้วก็ไม่จำเป็นนี่ ก็ไม่ได้เขียนให้เด็กอ่าน มีคนเหี้ยเอาไปให้เด็กอ่านหรือเด็กไปขโมยบัตรพ่อแม่มาอ่านนี่คนเขียนผิดเหรอ โม่งนั่นก็เลยบอกว่าแล้วคนเขียนจะเขียนยังไงไม่รับผิดชอบก็ได้เหรอ แล้วคนเขาก็เลยมาถามกลับว่าคัดกรองแล้วจะเอาไงอีกคนเขียนต้องรับผิดชอบยังไง แล้วก็เลยเถียงกันแบบวนลูป ตามแบบที่บอกไปข้างต้นอะ อ้ออีกอย่างก็มีคนแย้งด้วยว่าโรแมนติไซส์มั้ยบางทีก็ขึ้นกับ bias คนอีกมั้ยอะ ไอ้เรื่องที่เป็นดราม่าก็เห็นมีคนมีตัวเล่มแคปเนื้อหาออกมาดีเฟนด์ว่าในเรื่องมันก็ไม่เชิงได้โรแมนติไซส์อะไรแค่อาจจะดราม่าไม่หนัก หรือถ้ามองว่าเรื่องนี้มันโรแมนติไซส์เรื่องอื่นมันก็มีเยอะแยะหรือเปล่าจะมามีปัญหาหนักหน่วงกับเรื่องนี้เรื่องเดียวได้ไง ถ้าใครมีรายละเอียดตรงไหนมาเพิ่มเติมกูได้นะ กูแค่เล่ารายละเอียดเท่าที่กูจำได้ ส่วนใครจะเห็นด้วยกับฝั่งไหนก็แล้วแต่
กลับไปเรื่องนั้นอีกละ ปล่อยแม่งไปดังได้อยู่กี่เรื่อง ไม่เห็นออกมาขอโทษเรื่องใช้ภาพละเมิดลิขสิทธิ์เลยเปลี่ยนเนียนสวยๆ
มันมีโทรลมาเนียนป่ะ อ่านแล้วงงๆ
>>220 มึงพูดถึงนิยายแจ่มจ้าแล้วกูก็มานั่งคิด พอเป็นนิยายแจ่มจ้าปุ๊บทุกคนพร้อมใจกันฉอดหมดเลย ไม่ค่อยมีใครโผล่มาปกป้องว่านิยายคือนิยาย อันนี้น่าจะเป็นเพราะทาร์เก็ตมันเป็นเด็ก มันเหมือนเป็นลูกกวาดเคลือบยาพิษ มันอันตราย ตรงนี้กูเก็ท แต่ว่า งั้นถ้านิยายแจ่มจ้าขายแบบจำกัดอายุล่ะ คิดว่าจะรอดพ้นการฉอดรึเปล่า?? (อันนี้สงสัยเฉยๆเลยอยากรู้ว่าคนอื่นคิดไงกันบ้าง)
>>230 55555555555 มึงอ่านจนจบแล้วคิดว่าโม่งคนนั้นเขาด่านักเขียน ดึงดันจะให้นักเขียนเขียนตามศีลธรรมอย่างที่ >>227 บอกเหรอ เขียนตามศีลธรรมของมึงคืออะไร นี่กูไล่อ่านดู ไม่มีซักความเห็นเดียวเลยนะที่เขาขอให้เปลี่ยนพล็อต แต่มึงดูคำที่ >>227 ใช้ซะก่อน ขนาดกูไม่เกี่ยวมันยังพุ่งมาขนาดนี้ ถ้าไม่เป็นหาบแล้วเป็นอะไร
กุ 230 คือกุเบื่อประเด็นนี้ละตอนนั้นตามอยู่สองสามวันแล้ว กุปล่อยตกละนะไม่มาต่อละ
ในโม่งนี่ดีจังเนอะ พูดพล่อยๆใส่ร้ายชาวบ้านนี่คล่องเชียว พอโดนเปิดโปงว่าโกหก บอกแค่ว่า "ก็ดีแล้วจ้า" จบเรื่อง
>>235 แบบ fifty shade (เอามาเทียบเพราะค่อนข้างจะฝันหวาน+บ้งๆและขายได้) คนก็บ่นๆเรื่องbdsmผิดจากความเป็นจริง ความสัมพันธ์พระเอกกับนางเอกไม่เท่าเทียมออกไปทางล่อลวง แต่ไม่ถึงขั้นฉอดอ่ะเพราะกลุ่มตลาดผู้ใหญ่ มีแปะเรทติด แต่ก็จัดแค่นั้นอ่ะนะก็วางบนชั้นหนังสือปกติไม่ได้ลงใต้ดิน กูเลยรู้สึกถึงวายจะเขียนโรแมนติไซส์แต่ถ้าจัดเรตเหมาะสมมันก็โอเค ส่วนเรื่องคนต่ำกว่า18ซื้อได้ ก็เป็นความผิดของร้านที่ขายแล้ว
>>248 ฟิฟตี้เฉดหลักๆจะโดนเรื่อง overrated แต่ส่วนตัวกูคิดว่าฟิฟตี้เฉดไม่ได้โรแมนติไซส์ปะนะ มันออกแนวทำให้คนเข้าใจคอมมู bdsm ผิดว่าเป็นเรื่องของคสพไม่เท่าเทียมอย่างมึงว่า ทั้งที่ความจริง bdsm ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ consent ปะ เออ แต่ถ้าบอกว่าโรแมนติไซส์การใช้ความรุนแรงแล้วมาอ้าง bdsm อันนี้กูเห็นด้วยเต็มที่ค่ะ
ส่วนใหญ่ฟิฟตี้เฉดจะโดนฉอดเรื่องแปลงแฟนฟิคเป็นออริน่ะ 55555555
พล็อตนางเอกบ้านๆมัดใจพระเอกหล่อรวยมันพล็อตอมตะอยู่แล้วอะ แต่กูแปลกใจนะที่มันฮิตขนาดนั้น หรือฝรั่งไม่ค่อยเขียนกันวะ เอเชียแม่งมีเกลื่อนอ่ะ พล็อตนี้นิยายไทยมีเพียบ
>>253 มีดิ พวกแนวอิโรติกพาฝันทั้งหลายอะ ในเมกาอ่านกันเฉพาะกลุ่ม ไม่ดังมาก แต่มาเปรี้ยงในไทยจนได้ทำละครหลายเรื่องอยู่นะ อย่างตามหัวใจไปสุดหล้าเงี้ย หรือถ้าจะเอาแนวกลับกันเป็นเจ้าหญิงกับองครักษ์ก็มีมณีหยาดฟ้า
ขออธิบายก่อนว่าที่บอกไม่ดังเพราะตลาดคนอ่านในเมกาโคตรกว้าง มีหนังสือออกใหม่แทบไม่เว้นวันเลยมั้ง แล้วก็มีหลายแนว สมัยก่อนตัวแปรที่จะทำให้หนังสือขายได้คือรีวิว แล้ววัฒนธรรมรีวิวหนังสือของเมกานี่ค่อนข้างแข็งแกร่ง มีคอลัมน์วิจารณ์หนังสือเยอะแยะเขียนกันเป็นล่ำเป็นสัน บางคนวิจารณ์จริงจังประหนึ่งทำธีสิส เรื่องไหนเขียนออกมาต่ำกว่ามาตรฐานก็จะโดนสับ ไม่ค่อยมีใครกล้ายกย่องนิยายโรแมนซ์เขียนเอาบันเทิงแต่ไม่มีประเด็นอะไรออกหน้าออกตาเพราะกลัวเสียเครดิต คนอ่านก็ไม่ได้คิดว่าการอ่านนิยายอีโรติกเป็นเรื่องน่าภูมิใจควรเอาไปแนะนำใคร ทีนี้พอไม่มีใครวิจารณ์มันก็เลยไม่ดัง พวกที่ดังๆจะเป็นพวกนิยายมีประเด็น หรือไม่ก็เขียนดีมากๆ
ฟิฟตี้เฉดกับทไวไลท์นี่ถือว่าโชคดีเพราะมายุคอินเตอร์เน็ต ได้กระแสนักอ่าน ทำนองว่าแต่ก่อนไม่เคยได้อ่านอะไรน้ำเน่าแบบนี้เลยเพราะไม่มีใครแนะนำ มาเจอเรื่องแรกในชีวิตเลยฮือฮากัน ถ้าต้องรอกระแสจากนักรีวิวเหมือนสมัยก่อนกูว่าก็คงแป๊กเหมือนกัน
แต่ทีนี้พอมันดัง มันก็โดนสับ ทไวไลท์ยังโชคดี ส่วนใหญ่แค่แซะว่าเรื่องมันกลวงไม่สมเหตุสมผล เหมือนเด็กหัดเขียน แต่ฟิฟตี้โดนด่าว่าเป็นแฟนฟิคชั่นห่วยๆจากออริจินัลฟิคชั่นที่แม่งก็ห่วยเหมือนกัน (นักวิจารณ์เขาพูด ไม่ใช่กู) ตามมาด้วยประเด็นการใช้ความรุนแรงของตัวละครโดยอ้าง bdsm บังหน้า แล้วก็เรื่องเซ็กส์ สุดท้ายเลยจบที่ห้องสมุดในฟลอริด้า จอร์เจีย กับวิสคอนซิน แบนเรื่องนี้ไปเลย แต่ตอนหลังฟลอริด้าก็อนุญาตให้มีนะ เพราะประชาชนเรียกร้อง แต่ถ้ามีการพูดถึงตามสื่อต่างๆก็หนีไม่พ้นถูกวิจารณ์แบบแซะๆตลอดอะ
ทไวไลท์นี่โดนด่าเรื่องสำนวนกับแกรมม่าด้วย สมัยนั้นเล่นเกมคุยกับเพื่อนต่างชาติ เขาบอกเขียนแย่มากเหมือนเด็กเขียนแต่เมียชอบ จะซื้อเล่มให้เมีย มาถามว่ามันมีเล่มไหนบ้าง แล้วเล่มพิเศษไม่มีตีพิมพ์เหรออยากได้เล่มให้เมีย
ky เห็นคนแหกเพอซี่แจคสันว่าแปลผิดเยอะแล้วอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นนิยายวาย ป่านนี้สาววายช่วยกันรุมด่าจนสนพต้องยอมแปลใหม่ไปละ 5555555
>>260 เท่าที่อ่านตัวอย่างที่ยกมาในทวิตมันไม่ได้บิดเพศตัวละครปะ แต่เหมือนคนแปลมันมีไบแอสในการแปลคำที่ที่จริงแล้วสามารถใช้ได้กับทั้งสองเพศหรือทุกเพศอะ แบบคำว่า beautiful person ถ้าแปลให้กลางๆหน่อยก็อาจจะคนงาม/คนรูปงาม แต่คนแปลแปลล็อคมาเลยว่า สาวสวย คือคนที่สวยมันอาจจะไม่ใช่สาวก็ได้ไง 55555 beautiful มันก็ใช้กับผู้ชายได้นี่นะ แล้วยิ่งบริบทเทพกรีกอีก
ฮีบอกว่าการแปลควรยึดหลักการ ไม่ยึดอารมณ์ หลักการจะช่วยลดอีโก้นักแปล แต่กูว่างานมันออกมาอีโก้จัดมากเลยนะ
ปูลู กูไม่เห็นด้วยเรื่องงานแปลไม่ควรยึดอารมณ์ ส่วนตัวกูชอบงานของคุณอิศเรศ ทองปัสโณว์
กูอยากให้นักแปลฟ้องอะเคสนี้ เหมือนเอามาแขวนให้คนด่าว่าแปลผิดเล่น
>>264 เอ่อ ที่เค้ายกมามันก็ผิดจริงๆนะมึง เอาชัดๆก็ people แปลเป็น สาว กับ square แปลเป็นคนตรง ตัดทิ้ง อันหลังผิดแบบไม่ตรงความหมายดั้งเดิม เหมือนคนแปลไม่เข้าใจว่ามันแปลว่าอะไรแล้วดำน้ำมาอ่ะ นี่มันไม่ใช่การปรับตามบริบทแล้ว มันผิดไปจากต้นฉบับ เหมือนมึงแปลน้ำว่าไฟอ่ะ
ผิดชัดเจนขนาดนี้จะเข้าข้างนักแปลเพื่อ หรือมึงอ่อนภาษาอังกฤษจนดูไม่ออกว่ามันผิดยังไง???
แค่อยากแทงสวนนกฟ้าเฉยๆป่ะ 555555 เผลอๆไม่ได้ดูจุดที่เขาเทียบด้วยซ้ำ 555555
กุอเมซิ่ง นิยายแปลดัดแปลงสารจากต้นฉบับ เปลี่ยนเพศตลคให้กลายเป็นสเตรทชอบแต่ผญ แต่นักอ่านบอกว่าไม่เห็นเป็นไร เปลี่ยนตามบริบท 555555 เพราะอย่างงี้มั้งคุณภาพงานแปลในไทยมันถึงย่ำแย่ลงทุกวัน ก็นักอ่านแม่งเป็นซะอย่างงี้
>>280 อันนี้กูคนละคนกับคนที่มึงชี้นะ มีจุดเดียวที่กูรู้สึกว่าเจ้าของทว.คนนั้นแค่บ่นเฉยๆ แต่ไม่ได้ผิด คือตรงที่มีภาษาต่างประเทศแต่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษอะ แล้วเขาบอกว่าถ้ามีวงเล็บแปลด้วยก็ดี แต่เขาก็เข้าใจนั่นแหละว่าปกติต้นฉบับเวลาใส่ภาษาอื่นๆมาคนเขียนเขาก็ไม่เคยแปลให้ไม่ว่าจะเรื่องไหน
กูว่าคนที่มาเทียบนั่นเขาไม่ได้มาในโทน "ฉอด" เลยนะ ที่เขาบอกไม่เก่งภาษานั่นก็ดูเหมือนถ่อมตัวว่าที่ยกมามันอาจจะไม่ผิด แต่มันก็ทะแม่งๆ เลยยกมาเทียบให้คนอื่นช่วยกันดู ไรงี้มากกว่า เขาก็บอกอยู่ว่ามันเป็นประเด็นที่เขาคิดว่าแปลกหรืออ่านแล้วสงสัย สะดุด ไม่เข้าใจ ทั้งเธรดที่เขาเขียนมาไม่มีคำว่าแปลผิดเลย กูว่าบางคนในนี้ก็กลัวนักฉอดขึ้นสมองเกินไปมั้ง เห็นเป็นนกฟ้าปุ๊บก็หาว่าเขาฉอดเลย นี่เขายกมาเทียบกับต้นฉบับให้ดูประโยคต่อประโยค แบบนี้กูว่าเป็นการวิจารณ์งานแปลที่โอเคมากๆแล้วนะ กูอยากให้มีคนทำแบบนี้กับวายจีนหลายๆเรื่องที่แปลภาษาไทยออกมาห่วยแตกด้วยซ้ำ
ถือหางนักแปลที่แปลผิดความหมาย/บิดเบือนรสนิยมทางเพศตัวละคร เพื่อแซะนิยายวายจีนทับศัพท์ กุเวทมาก 5555555 ต่างอะไรกับพวกอวยสยัมอวยซบเพื่อเกทับบกรวะ
กุว่าโม่งที่มาเข้าข้างนักแปลนั่นไม่เคยอ่านเพอซี่กับอพอลโล่หรอก พวกมึงอย่าไปให้ความรู้นางเลย ดูทรงแล้วนางคงไม่ฟังไรทั้งนั้น คันปากอยากด่าชาวนกฟ้าเฉยๆแหละ 55555555
ที่เขาเหม็นนักแปลคนนี้กันเป็นเพราะนักแปลชอบโพสต์สเตตัสอวยตัวเองด้วย วันก่อนก็เพิ่งโพสต์สเตตัสว่าตัวเองแปลอย่างมีหลักการ ไม่ใช้ความรู้สึก ไม่ใช้อีโก้ คนอื่นถ้าไม่ได้แปลทั้งเล่มก็อย่ามาวิจารณ์ (สเตตัสยาวมาก ไปส่องในเพจนักแปลได้) คือถ้าอ่านแค่สเตตัสแบบผิวเผินมึงอาจจะรู้สึกว่า ว้าววว นี่สินะ นักแปลมือโปร แต่พอมาดูผลงานแปลจริงๆก็อย่างที่เห็น โมเดลเดียวกับลวด.แหละ โดนคนอ่านบ่นเลยโพสต์สเตตัสอธิบายหลักการยาวเหยียดแก้ตัวพัลวัน แต่ผลงานก็ไม่เห็นจะตรงตามหลักการที่อ้างตรงไหน
สาวๆมันก็แปลว่าผู้ชายได้นะเมิง อาจจะชอบแค่ผญ ผชออกสาว ผชหน้าสวย 55555
บางตรงกูว่าผิดจริง บางตรงกูว่าเป็นการแปลให้ยังไงดี ลื่นไหล? อ่ะกูแก้ตัวให้นปแบบโลกสวย
ตรงสาวเสียงหวานกูไม่ติดใจ
ตรง unique เป็นการเล่นคำ กูก็งงว่าทำไมไม่เล่นคำต่อเลย แต่ความหมายมันก็ประมาณนั้นแหละ
aquaman ก็เหมือนแปลวารีทมิฬว่าน้ำดำ
snowflake คือพวกเปราะบาง แต่จะบอกว่า ลูกรักหม่าม๊า ก็ได้มั้ง ความหมายโดยนัยน์ว่าถูกทะนุถนอมมา
plague and poetry นี่งงๆ ไม่เคยอ่าน แต่เดาว่าเคยใช้มาก่อนหน้านี้แล้วเอามาแซว
คนตรงตัดทิ้งไม่ยากนี่ผิดจริง ชัดเจน
สุดยอดบิดาไม่น่าผิดอะไร
อีเดียตตา ตัวละครพูดภาษาต่างชาติ สเปนบ้าง ละตินบ้าง เจอแบบนี้บ่อยเลย บางทีนักแปลก็ไม่แปลให้ เป็นเรื่องของความใส่ใจ
จำได้ว่าตอนเพอร์ซี่ภาคแรกมีคนออกมาบอกอยู่นะว่าแปลไม่ดี นานมากแล้ว แต่กูอ่านสำนวนในรูปก็โอเคอยู่ ที่แปลแปลกๆถ้าไม่มีคนชี้ก็คงไม่สังเกตุ
>>290 สาวๆแปลว่าผู้ชายไม่ได้ค่ะ จะผชออกสาวหรือผชหน้าสวย มันก็ไม่ใช่สาว
สาวเสียงหวานเนี่ย กูว่ามันเกินต้นฉบับ อพอลโลเป็นเทพแห่งเสียงดนตรีด้วย นักเขียนเขาจะสื่อว่าชอบเสียงเพราะๆ ไม่ใช่‘สาว’เสียงเพราะ
Unique ก็แปลเกินต้นฉบับ เขาสื่อว่าพิเศษเฉยๆ ไม่ได้สื่อว่าคบกับใคร “เดลฟีนี่พิเศษใส่ไข่นะ” “แล้วอีกสามที่ไม่พิเศษนี่อะไร” ประมาณนั้น
อะความแมนใช้ A ตัวใหญ่เป็นชื่อเฉพาะ ควรหามาก่อนว่ามันคืออะไร ถ้ามีคนใช้มาแล้วก็ตามเค้าไป ไม่ควรบัญญัติเอง มันจะเก็บมุกไม่ครบ
ทังนี้ทั้งนั้นคนเราผิดพลาดกันได้ กูไม่ได้คิดว่านักแปลไม่เก่ง อาจจะแค่ตีความพลาดหรือใดๆก็ตาม เคสนี้กูคิดว่าเขาแปลโดยสวมหัวโขนบก.ด้วย เลยปรับโทนเนื้อหาเองโดยพละการ บก.บางคนนึกว่างานตัวเองคือทำยังไงก็ได้แม้แต่แก้สำนวนการเล่าเรื่องของต้นฉบับเพื่อให้นักอ่านเข้าใจ แต่เขาโดนถล่มเพราะคนหมั่นไส้ที่เขียนบทความแนวๆอวยตัวเอง น้ำเสียงดูสั่งสอน แต่ตัวเองก็ไม่ได้เพอร์เฟ็กต์เลิศเลอไปกว่านักแปลคนอื่นๆอ่ะ
ky Aquaman ในนี้เค้าหมายถึงอะไรอะ แซวหนังที่พี่หมีเล่นเหรอ
>>290 ชื่อมันก็แปลได้เมิง อย่าง Hitgirl ยังเป็นจิ๋วจิ้ดได้เลย ใดๆคือถ้าแปลแล้วออกมาดีคนก็จะไม่พูดอะไรหรอก กูถึงได้ยกน้ำดำมาเป็นตัวอย่าง
เรื่องนี้มันนานมากละนะ ตอนเล่มแรกๆหนังอควาแมนน่าจะยังไม่มา ไม่รู้นี่เล่มไหนกูอ่านแค่เล่มแรกเล่มเดียวตอนหนังดังๆ
เอาจริงไม่ว่านขจะแปลกากยังไง แต่ถ้าวิจารณ์เขาสาดเสียเทเสีย เขาฟ้องได้หมดนะ แล้วก็ไปสู้คดีกันทีหลังว่าที่โพสไปนั้นเข้าข่ายวิจารณ์หรือหมิ่นประมาท ถึงจะชนะแต่ก็เสียเวลาชีวิตอยู่ดี ฉะนั้นตั้งสติกันด้วย
>>292 พอเมิงพูดถึงกูถึงค่อยเอะใจขึ้นมา มันคนละคนป่ะ เพอร์ซี่น่าจะมาก่อนหนังอควาแมนนานเลย เพอร์ซี่มันคนละคนกับจักรวาลกีบพวกมาเวลด้วยเปล่าวะ แค่เพอร์ซี่ลูกทรุด(?) อควาแมนลูกโพไซดอน เทพในอควาแมนมันไม่ค่อยตรงตำนานเท่าไรนะ
กูสิ้นหวังแล้ว สาวๆแปลว่าผู้ชายได้?? มึงอ่านนิยายท้องได้หรือนิยายที่พระเอกเรียกนายเอกว่าเมียเยอะไปเรอะะะ
>>293 Aquaman เป็นชื่อฮีโร่ในคอมิกส์ มีมาก่อนเพอร์ซี่หลายสิบปี ตัวอะควาแมนเป็นไฮบริด บางภาคก็เป็นกึ่งเทพ บางภาคเป็นก็ว่าเป็นลูกของพ่อมดชาวแอตแลนเทียน ส่วนตัวเพอร์ซี่มันเป็นลูกโพไซดอน เพราะงั้นตรงนี้ก็เลยเป็นมุก ช็อตนี้เป็นช็อตที่เพอร์ซี่โดนถามว่า "นายจะส่งปลาไปสู้เหมือนที่อะควาแมนทำใช่มั้ย" แล้วเพอร์ซี่ตอบว่า "ขอบใจ หยั่งกะชาตินี้ฉันยังฟังมุกตลกเกี่ยวกับอะควาแมนมาไม่พองั้นแหละ"
คนแปลจะใช้ "มนุษย์น้ำ" ก็ไม่ผิดอะไรนะ แต่มันเหมือนแปล Superman ว่า "ยอดมนุษย์" อ่ะ ความล้อเลียนฮีโร่ในคอมมิกส์มันหายไป เพราะคนไทยรู้จักฮีโร่ตัวนี้ในนามของอะควาแมน ไม่ใช่มนุษย์น้ำ กูถึงบอกว่ามันเก็บมุกไม่ครบไง มันเป็นคนละเคสกับ "น้ำดำ/วารีทมิฬ" อันนั้นแค่แปลมาแบบศัพท์ไม่สวยเฉยๆ
อันนี้ส่วนตัวเลยนะ ไม่เกี่ยวกับนักแปลหรอก พูดถึงมนุษย์น้ำแล้วกูไม่ได้นึกถึงพี่เจสันโมโมอา กูนึกถึงเมอร์ล็อคมากกว่า
>>293 เคสอควาแมนมันเทียบกับจิ๋วจี๊ดหรือน้ำดำไม่ได้ เพราะสองอันที่มึงยกตัวอย่างมาคือการแปลชื่อเฉพาะในเรื่องของมันเอง คนดู/คนอ่านเลยรับรู้ว่าตัวละครนี้มันฉายานี้ แต่เคสอพอลโล่ที่เค้าบ่นกันนี่มันคือการเล่นมุกอ้างอิงตัวละครจากเรื่องอื่น ถ้ามึงแปลให้คนอ่านเข้าใจไม่ได้ว่าหมายถึงตัวละครไหน มันก็ไม่ใช่การแปลที่ดีนักหรอก (แต่กูว่าทั้งเทรดนั่นน่ะ อควาแมนร้ายแรงน้อยสุดแล้ว อาจจะยังพอแถๆได้ว่าทีแบทแมนยังเรียกกันว่ามนุษย์ค้างคาวเลย)
หนังสือเล่มเดียวต้องส่งไปรแบบใส่กล่องด้วยหรอวะ ปสดเหี้ยๆ โลกร้อนตายห่าเลย
นอ. ใช่มั้ย จริงๆถ้าห่อหนาก็ใช้ได้นะ มีปีกปกป้องด้านข้างให้อีก และซองกระดาษมันจะคัดแยกแยกกับพัสดุ โอกาสกระแทกน้อยกว่ามาก (แต่กูไม่รู้ขนส่งเอกชนแยกซองกระดาษจดหมายออกจากซองพัสดุเหมือนไปรฯป่าวนะ)
บางทีกูเห็นดราม่าก็เหนื่อยใจนะ ห่อเหี้ยะค่ะ(จริงๆมันไม่แย่ขนาดนั้นแค่ไม่เว่อร์ถึงใจเฉยๆ).. หนังสือเสียหายไหมคะ... ไม่ค่ะ คงแต้มบุญดีค่า...
ทำไมถ้าผลลัพธ์ออกมาดี มึงไม่เปิดใจกันก่อนวะ
ของได้มาแล้วไม่เสียหายก็ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องดราม่าหรอก ให้ของเสียหายค่อยว่า
กูเองนะที่ตามของขาดมด.สรุป นางส่งมาให้ละ ไม่แจ้งไรเลย ล่าสุดตอบข้อความกูแค่เดี๋ยวตามให้ แล้วส่งของมา "ของไม่ครบ!!!" อีเหี้ยยย กูต้องตามอีกแล้วเหรออออออ คืนเงินมาแต่แรกให้กูซื้อใหม่ก็ดีนะ แอดมินแม่งตอบวกไปวนมา ถามเรื่องที่กูตอบไปแล้วย้ำอยู่นั้น กูพิมพ์ให้สรุปละเอียดยิ่งกว่าแอดมินรหัสที่สั่งขาดอะไรบ้างได้อะไรบ้าง ยังจะถามกูย้ำ กูกะแล้วว่าต้องพลาด ....ควรไปทำบุญ เรื่องอื่นของมดกูว่าต้องสั่งร้านนอกละ
เราห่อบับเบิ้ลก็เพื่อไม่ให้ของบุบไม่ใช่รึ ถ้าของมาสภาพโอเคสมบูรณ์จะห่อมาหนาหรือไม่ห่อเลยกูก็ได้หมดอ่ะ งงกับคนยุคนี้หน่อย ต้องห่อหนาใส่กล่องไม่งั้นไม่ได้เลย กลายเป็นซื้อหนังสือแถมบับและกล่องใครไม่แถมโดนด่าไปแล้ว
ใครเคยสั่งของกับโฮมุมั้ย เค้าแพคเปนยังไงอะ
ห่อยังไงก็ได้ขอแค่ของไม่เสียหาย คนที่โพสกับคอมเม้นเรื่องมากจัง ติทุกอย่าง ขยันสร้างดราม่า
วันนี้ในกรุ๊ปก็บ้าบอตามเคย หนังสือปกมีรอยขูด บางคนก็แค่นิดเดียว เหมือนมาจากเครื่องปริ้นนะ ไม่ใช่เอาไปไถพื้นตามที่โพสต์ อ่านแล้วตกใจ ไถพื้น ^^' รอยพวกนี้เจอปกติป่าว มันมาจากการปริ้นน่ะ ทำไมรับกันไม่ได้วะ งง ก็มันมาจากการผลิตอะ ต้องทำยังไง? อีกโพสต์ก็ลดโลกร้อน กาวเหนียวไปอีก ห่อหนาก็บ่น ห่อบางก็บ่น ติดเทปเยอะก็บ่น เข้าไปทีไรเจอแต่โพสต์แบบนี้ทุกที เริ่มด้วย ทุกคนคะ(ค่ะ) เป็นเหมือนกันไหมคะ(ค่ะ) 555555 คนอ่านหนังสือเขียน คะ/ค่ะ ผิดกระจาย งงในงง
มึงต้องมาดูปกฝ่ากฎรัก ยังกะรอยฝนเล็บแมว
รอยบนปกสีเข้มเห็นชัดอยู่แล้วมะ กูไปดูในกลุ่มมาละ เห็นรูปแล้ว ยกตย.อีกเรื่อง ของนบ.ล่าสุด หวานใจก็ลายเชียว พวกปกหลังเป็นแบบนี้กันเยอะมาก เล่มไหนที่มีปกหน้าก็เหมือนยิ่งเห็นง่าย ปกสีเข้มมันยิ่งเห็นชัดนะพวกรอยจากการปริ้น เลยไม่รู้ว่าต้องเอาเป๊ะขนาดไหน นี่เจอมาตราฐานประเทศวนเข้าไปไม่กรี๊ดกันเลยหรอ
พวกมึงว่าประเด็นนี้ยังไง คนนี้ถามในแท็กนะมึง ไม่ได้ทักหรือแท็กนักเขียน มันต่างจากขอสปอยนิยายในกลุ่มยังไงวะ
https://www.facebook.com/groups/ybooks4share/permalink/4283847291727095/
สาววายในโซเซียลส่วนใหญ่เป็นพวกมากลากไป ใครว่ายังไงเชื่อตามนั้น ถ้าเซเลปพูดจะยิ่งเชื่อเป็นพิเศษ ข้อแรก คลั่งกริบจะเอาสภาพหนังสือ100%แต่ไม่เลือกเองที่ร้านนะ สั่งออนไลน์เพราะถูกใช้โค้ดลด อิหยังวะหนึ่งกรุบ ข้อสอง แปลทับศัพท์คือแปลดีได้กลิ่นอายความเป็นจีน ใช้คำวิจิตรเยอะๆคือภาษาสวย อิหยังวะสองกรุบ ข้อสาม มีอะไรต้องโพสประจาน ผิดถูกจริงไม่จริงไม่รู้ โพสด่าไว้ก่อน หาพวกร่วมด่าร่วมยำ อิหยังวะสามกรุบ ข้อสี่ ปกคู่ปกสวยอวยไว้ก่อนเนื้อเรื่องไม่รู้ ข้อห้า พรีเมี่ยมเยอะคือดียิ่งเยอะยิ่งดีมาก ข้อหก ถามหาฉากncเป็นอย่างแรก มีอีกเยอะ สาววายคือแหล่งรวมความปสดท็อกซิกปวดประสาท กูสายอ่านเจอพวกปสดสายสะสมซื้อไปบูชาซีลไม่แกะอ่านทิพย์ กูคงต้องเฟดตัวออกจากกลุ่มพวกนี้จะได้ไปโฟกัสตัวนิยายดีกว่า กูรับตรรกะแบบนี้ไม่ได้ก็ต้องจัดการตัวเองเอา
ฝ่ากฎรัก ถ้าเล่มปรับปรุงเป็นรอยแต่เล่มที่ตัดเคลมไม่เป็นรอยก็แปลกๆอยู่นะ เพราะปกสีเดียวกัน สเปคปกเหมือนกัน แต่ทำไมก่อนเคลมไม่เห็นมีคนบ่น หรือเพราะรู้ว่าต้องเคลมก็เลยไม่ใส่ใจดูตำหนิอื่นกัน
>>320 เป็นไปได้อย่างมึงว่า หรือไม่ก็ตอนซื้อ พวกที่มาโพสซื้อกับพวกร้านในชปที่คัดให้ก่อนส่วนหนึ่ง พอมาเคลม สนพไม่ได้คัดเท่าร้านไม่ได้มองว่ามันเป็นตำหนิ พวกคลังกริบที่บังเอิญได้เล่มไม่กริบไปก็รับกันไม่ได้ แต่อาการคลั่งกริบของฝั่งวายในไทยมันเป็นกันหนักเกินเลอร์จนเหมือนจะจิตๆกันไปหน่อย
>>320-321 เครื่องปริ้นอาจจะคนละตัวก็ได้ ปกรอยขูดเห็นเป็นกันเยอะ ถ้าพวกผิวเคลือบด้านยิ่งเป็น แต่กูชอบเคลือบด้านนะ จับแล้วดีกว่าเคลือบมัน ความชอบส่วนตัวล้วนๆ 55 พวกรอยขูดของเครื่องปริ้นมันคอลโทรลไม่ได้นะ อย่างกูตอนปริ้นนามบัตร งานในไทยจะมีรอยจากเครื่องปริ้นน่ะ ไม่เนี้ยบเหมือนดีลจากจีน งานจีนพวกนาทบัตร/การ์ดดีมากนะ กูว่ามันขึ้นกับเครื่องล้วนๆ แต่ทั้งนี้ คนในกลุ่มที่เฮโลตามๆ กันเป็นเอามากจริงๆ ในชีวิตทุกอย่างต้องเพอร์เฟ็คจริงหรอวะ มีความสุขกันไหมถามจริง
พวกมึงอะประสาทแดรกหาแซะไปทั่วพอคนบอกอาจเป็นอย่างนี้ก็หาข้อมาแก้ตัว ตอนแแรกบอกอาจเป็นที่ปกสีเข้ม ทั้งที่ปกเหมือนกันก่อนเคลมไม่เป็น พอเถียงไรไม่ได้ก็บอก ไม่ใส่ใจดูตำหนิ อ่อจ้า หาข้ออ้างมาเยอะๆนะ อ่านแต่หนังสือละ อย่าเคลมเนอะ โม่งอวยกุหลาบด่าเซน หาอวยได้แต่อย่าด่าน้าาาา
>>323 5555555 เออ พอดีกูเป็นคนชอบสวนทางกับบนบกอยู่ แล้วถ้ามึงไม่พอใจก็โทษทีนะ แต่เรื่องตำหนินิยายนี่กูรำคาญมากจริงๆไม่ว่าเกิดกับที่ไหน ถ้ามันอ่านได้ก็จบ ไม่งั้นกูก็อยากให้ไปเลือกของที่โรงงานเอง มันทำให้ชีวิตกูต้องปสดตามเวลาเห็นอ่ะ แล้วไม่ใช่แค่ในโม่งหรอกที่ลำเอียง ถ้าเปลี่ยนเคสนี่ให้ไปอยู่มด.ดิทุกคนจะดราม่ากันมั้ย ทุกคนก็จะบอกว่า อ๋อ มดเหรอ ห่วยเป็นมาตราฐานอยู่แล้ว จบไม่มีใครมาด่าใคร แต่ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่สนพไหนก็ไม่ควรถูกด่ามั้ยกับเรื่องแค่นี้อ่ะ
>>322 จริงๆถ้ามีคนที่คุมคุณภาพได้อยู่แสดงว่ามันมีวิธีคุมได้กูก็คิดว่าควรให้คุมไม่ให้มันเป็นนะ ถ้ารอยนิดหน่อยเส้นสองเส้น น่ะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้ามันชัดแล้วลายพร้อยแบบที่กูเคยเจอคือ ไม่ต้องส่องไฟเอียงมุมก็เห็นรอยไป 1/2 ปกหลัง +ปกสีเข้มโทนดำด้วย อันนั้นมากไปหน่อยว่ะ แต่กุไม่เห็นโพสต้นเรื่องเลยไม่รู้ว่ามันลายขนาดไหน กุไม่ได้เคลมนะใส่ปกขุ่นปิดไปก็โอเคแล้ว
แต่กุพวกเดียวกับมึงตรงเบื่อดราม่ากริบมากๆ หมึกเลอะในเนื้อหยดเดียว รอยเปื้อนกระดาษจางๆจุดเล็กๆหน้าเดียว มาถามเคลมได้มั้ยคะ(เหมือนอยากจะเคลม) ถามจริงชีวิตมึงทำทุกอย่างได้เพอร์เฟคขนาดนั้นมั้ย รายงาน งานส่งอาจารย์ ทำงานให้หัวหน้า ได้แบบนั้นกันหรือเปล่าวะ แล้วพอพลาดจุดเล็กๆมึงยอมให้หัวหน้า อาจารย์หักเงินเดือน/คะแนน เกรด กันทุกจุดมั้ย ความผิดพลาดเล็กน้อยที่ไม่กระทบภาพรวมถ้ามึงปล่อยผ่านกันได้บ้างชีวิตจะง่ายและเป็นมิตรกันขึ้นอีกเยอะนะ
คนทำงานQCสบายแล้ววะ ถ้าพวกมึงจะคิดว่าเป็นตำหนิเล็กน้อย มันไม่ใช่เรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นนะ รอยขีดของปกเล่มที่เคลมใหม่
แอคหลุมที่ชอบจี้ประเด็นปก ลพก. แล้วมีความพยายามโยงไปหาประเด็นแก๊งหมาที่เป็นเพื่อนข.ลพก กูว่าแล้วว่าแม่งต้องอยู่แก๊งจล. ตอนนี้จล.โดนนักอ่านที่ไหนไม่รู้ออกแนวประสาทแดกหน่อยๆด่า นังแอคนี้โผล่หน้าออกมาฉอดกลับแอคนั้นทันที กูคุ้นๆชื่อแม่งเพราะเห็นปั่นแท็คลพกกับพยายามโยงหาแก๊งหมาโหยบ่อยมาก ก่อนหน้านี้มีประเด็นแอครีวิวรีวิวนิยายแบบฉอดๆเกียสกี ให้แต้มน้อยๆ นางก็ออกมาเห็นด้วยใหญ่ บอกนข.ไม่ให้อิสระกับคำวิจารณ์ รับไม่ได้ ดราม่างั้นงุ้น อิสระในการรีววิไม่มี ไม่ประชาติบไตยเลยค่าาาา อิแอคนั้นก็ประสาท ประสาทชนิดที่ว่ากุขอให้นิยายที่กุชอบอย่ามีอินี้แจ๋นมาอ่าน ประสาทเจอประสาท กุอ่านแล้วมันจริงๆ หรือจริงๆมันร่างอวตารนข.คนไหนป่าววะ 5555
>>327 ไม่รู้ว่ามึงกับกูได้เห็นตำหนิในกรุ๊ปเฟสเรียกเป็นรอยขีดที่ปกอันเดียวกันมั้ย ถ้าอันที่กูเห็นนั้นต้องส่องไฟถึงจะเห็นนะ ตำหนิในไทยทำกูรู้สึกว่าเกินไปหลายจุดมาก มันเป็นหนังสือจากโรงงาน ส่วนมากถ้ามองว่าอ่านได้อยู่เขาก็ไม่มองว่าเป็นตำหนิหรอกนะ ยิ่งต้องมาส่องไฟเช็คอีก ถ้าอยากให้ของออกจากโรงพิมพ์ กริบทุกเล่มก่อนส่งให้ลูกค้าก็ต้องเพิ่มคนงานคิวซี เพิ่มค่าเผื่อสินค้ามีตำหนิที่เกินมาตราฐานของโรงงาน ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายหมด สายกริบจะยอมได้มั้ยถ้าขายอัพราคาอีกเท่าหนึ่งแต่ทุกเล่มกริบหมด จาก 300 เป็น 600 อีกอย่างคือมันสามารถเกิดเคสเเบบนี้ได้ทั่วไปมากเพราะมาจากเครื่องจักร ถึงสุ่มเช็คก็มีโอกาสที่ไม่เห็นได้เพราะไม่มีเวลาเเละจำนวนคนที่จะมาสามารถส่องไฟได้ทุกเล่ม สมมุติผลิตประมาณ 1500 จะมี 10% ที่มีโอกาสไม่กริบ ก็เท่ากับ 150 เล่ม และมี 50 เล่มถูกส่งให้สายสะสม สายสะสมไม่พอใจมาโพสประจาน แต่หนังสือที่กริบอีกพันเล่มคนได้ไปเฉยๆไม่พูดอะไร แค่นี้ก็ถูกด่าว่าหนังสือไม่มีคุณภาพไม่มีคนคิวซีแล้ว กูอยากให้ทุกคนเข้าใจโรงพิมพ์ว่ามันควบคุมไม่ได้หมดหรอกกับทุกสนพ เวลามีคนมาโพสว่าของเราหน้าหาย ของเรามีรอยเปื้อน ก็จะมีคนแห่โลกันด่าสนพก่อนว่าทำไมไม่มีคุณภาพ ของเราจะเป็นไหม กลัวบลาๆทั้งที่ยังไม่ได้เช็คอะไร แต่แค่เล่มเดียวก็ทำให้ทุกคนด่ากันไปก่อนแล้ว ทั้งที่มันไม่ได้เกิดขึ้นทั้งล็อตด้วยซ้ำ คนด่าด่าแล้วพอไม่เกิดขึ้นกับตัวมันเรียกคำด่ากลับมาได้มั้ย
สนพวายในไทยที่ตามใจลูกค้ามากเกินไปจนคำว่าตำหนิของวงการวายไทยมันไปเกินโขแล้ว ไทยคิวซีแน่นกว่าตปทเยอะชิบหาย ขนาดเวียดนามยังไม่รับพรีกับร้านไทยไปร้านหนึ่งเพราะร้านเคลมไม่หยุดมึงว่านี่เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกมองว่าเป็นตำหนิเหรอ ยึดติกับวัตถุกันเก่งเหมือนปากกันหลายคนเลยในเฟสน่ะ
และถ้าใครจะบอกว่าทุกคนก็ต้องการของมีคุณภาพไม่ใช่เหรอเสียเงินมาแล้ว คือต้องเข้าใจก็นะว่าหนังสือในประเทศไทยไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อสำหรับขายในเชิงสะสม ที่ทุกเล่มต้องกริบ ต้องออกมาอย่างดีสวยงาม มันถูกผลิตออกมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้งาน ดังนั้นการที่โรงงานจะมองต่างกับสายสะสมในแง่ที่ว่าโรงงานคัดแล้วมองว่ายังอ่านได้อยู่ไม่ถือเป็นตำหนิ อ่านได้ = ใช้งานได้ และที่สายสะสมมองว่ามันหลุดมาได้ไง โรงงานไม่คิวซีเหรอ ก็เพราะมองต่างกันตรงจุดนี้ ซึ่งกูตลกนิดหน่อยตรงที่พอให้ตัดหนังสือไม่กล้าตัดรักน้อง ทำไมต้องทำร้ายน้อง แต่พอหนังสือมีตำหนิกระจิ้วริ้ว ก็ว่าน้องมีตำหนิไม่คู่ควรกับชั้นหนังสือของตัวเอง 55555555 รักหนังสือหรือรักรูปลักษณ์น้องกันแน่ โลกร้อนไม่ไหวเเล้วช่วยด้วย
>>330 กุคงเป็นสายมีโชค หน้าหาย หน้าขาดหน้าเกิน กุเจอประจำ เจอจากหลายสนพ. แต่จะเจอจากมด.บ่อยหน่อย😂
ปกติโรงพิมพ์คิวซีกันยังไงวะ กุนึกว่ามันจะไปเน้นพรูพ พิสูจร์อักษรอะไรพวกนั้นมากกว่า พอพิมพ์แล้วอย่างดีคงสุ่มเล่มสองเล่มดูว่าเนื้อในไม่มีปัญหา วรรค เนื้อหาครบตรงกับต้นฉบับก็พอ แต่ไหนแต่ไรโรงพิมพ์มองกันที่เนื้อหากับคุณค่าเป็นหลัก ถ้าเนื้อหาครบก็ไม่ถือว่าตำหนิป่ะ ที่เห็นเซลล์กันแต่ก่อนก็ไม่ได้เซลล์เพราะตำหนิยิบย่อย แต่เลหลังเพราะมันขายไม่ออกกันมากกว่า ยกเว้นโดนเปิดอ่านในร้านจนเยินสภาพเหมือนมือสอง อันนั้นถึงโดนเลเพราะสภาพกัน แต่ตอนนี้น่ะเหรอ... ที่สำคัญกุว่ามันเริ่มลามไปสายอื่นแล้วด้วย ไม่รู้ลัทธิคลั่งกริบจะขยายอิทธิพลไปได้ถึงไหน
>>332 งั้นกูเป็นสายตรงข้ามกับมึง เพราะเคยเคลมตอนหน้าไม่ครบแค่ครั้งเดียว (กลัวบอกกับมึงปุ๊ปเจอปั๊ป) และที่สายสะสมเรียกว่าตำหนิ พวกเล่มไม่เท่ากัน โปสการ์ดไม่ครบ ฟอยหลุดก็เจอ แต่กูไม่สนไม่ได้เป็นตำหนิสำหรับกู เคยเจอมดครั้งหนึ่งเปื้อนหมึกดำวงใหญ่สองหน้าแต่ขกเคลมก็ปล่อยทิ้งไว้เนื้อหายังอ่านได้ก็ช่างมัน เคสที่กูบอกว่าเคยเจอ กูเจอกับทุกสนพเลย ทั้ง มด จส ซบ ทั่วถึงกันหมด
>>331 การที่มึงว่ามา กูสรุปให้มันไม่ถือเป็นของเสีย แต่มันคือของมีตำหนิ ทำไมต้องเลี่ยงคำว่าตำหนิด้วยวะ กูงงกับมึงนะ แต่กูก็ไม่ได้ประสาทแดรกจะไปเคลม แต่มันไม่ควรเกิดขึ้น เข้าใจปะ ปล่อยผ่านQcมาต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไป คนที่ซื้อเขาก็ควรวิจารณ์ได้
บางทีจะอะไรแซะอะไรสายสะสมนักหนา คุณภาพมันต่ำลงเรื่อยๆเพราะบอกว่ายอมรับได้ทั้งที่ของตำหนินี่แหละ แต่บางทีปสดเกินไปก็ปล่อยมันไป
>>335 มึงสรุปได้ดีว่ะ ใช่มันไม่ใช่ของเสีย และมันเป็นตำหนิที่โรงงานไม่มองว่าเป็นตำหนิ/ของเสีย มึงทำกูตามไปย้อนกูรอยขีดที่บ่นๆกันอีกรอบแล้วว่ากูเข้าใจผิดมั้ยว่ามันต้องส่องไฟดู สรุปคือใช่จ้า มันไม่ได้เป็นรอยตัดปกหรืออะไรเลย แค่รอยขูดของกระดาษด้าน แบบนี้คือมึงเรียกตำหนิแต่กูไม่เรียก แค่นี้ก็ต่างกันแล้ว 555555 กูว่ากูเขียนอธิบายยาวชิบหายก็เพื่ออธิบายว่าเรื่องแบบนี้มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วไปมากๆ อยากให้ยอมรับได้กันบ้าง แต่มึงบอกปล่อยไม่ได้เลยงั้นก็ได้หมด ใครอยากคิดแบบไหนหลังอ่านเม้นกูก็ได้ มันก็แค่ความเห็นส่วนตัวของกู อ้อ ถ้าการยอมรับได้เรียกว่ามาตรฐานต่ำลง แล้วการที่ปกเป็นรอยไฟส่องบอกตำหนิให้เรียกอะไรหว่า มาตรฐานทั่วไปของมึงยึดอะไรเป็นหลักหว่า ถึงได้บอกว่าอันนี้มันต่ำกว่ามาตราฐาน มีกำหนดไว้เป็นรูปธรรมหรือออกเป็นหนังสือมั้ย บอกทิ้งหน่อย เผื่อสนพผ่านไปมาอ่านจะได้เอาไปยึดเป็นมาตราฐานคิวซีของโรงพิมพ์ได้
>>337 เมื่อเช้ามีมาอีกอันล่ะ กุส่องอยู่นาน มองไม่เห็น คิดว่าน่าจะรอยขีดอ่อนๆคล้ายๆกันกับเคสที่ถกกันอยู่มั้ง
ส่วนมากตำหนิของคลั่งกริบมันจะมีลักษณะแบบที่ กล้องถ่ายไม่ได้ ซูมก็ยังแทบไม่เห็น มองปกติไม่ค่อยเห็น ต้องเอียงเอามุมเอาองศา เอาไฟส่อง พวกนี้ที่ไหนกุก็ไม่คิดว่าเค้าจะเรียกตำหนิกัน มาเจอก็กะวงการวายช่วงสองสามปีนี้ล่ะ
กุเคยถ่ายขายให้คลั่งกริบ มุมมันไม่คมกริบ เป็นขาวๆจึ๊งนึง พยายามถ่ายให้ดูความไม่คมกริบของมุมถ่ายเท่าไหร่ก็ไม่ชัด มันเล็กเกินกว่าจะโฟกัส พอดึงมุมออกมาก็ไม่เห็นเพราะเล็กเกินไป กุเลยปล่อยเขาไป และลงขายโดยบอกไม่กริบทุกครั้งตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าหนังสือกุจะกริบหรือไม่ก็ตาม 555
เจออีกอันที่ขายเทของ ฝ่ากฎรักเล่ม 3 ที่บอกว่าซื้อหลายร้านก็ยังเจอ อสภาพทั่วไปนะ สำหรับกูไม่ตำหนิด้วย เเค่มันมันเข้าไปนิดเดียวตรงกาวด้วย
อันนี้สงสัยจริงๆ พวกนี้ใช้ชีวิตกันยังไงวะ คลั่งอะไรขนาดนั้น
โอ๊ะโอ มีคนโม่งแตก
5555 เล่นไงให้โม่งแตก
Ky ใครพอเล่าเรื่องแถลงการณ์ล่าสุดของสนพ.ใบสี่กลีบได้บ้าง นางโดนเรื่องไร หรือมีแท็กไหมจะไปส่อง
ขออนุถามแบบโง่ๆเลยนะ นางโดยแหกได้ยังไงอ่ะ
กูงงตรงสนพทำไมยังจะพิมพ์เรื่องของซ.อ. อยู่วะ คนเขียนจะยกเลิกเอง รับรู้เรื่องราวกันขนาดนั้นจะปล่อยต่อมาจนปัจจุบันเนอะ
>>353 กูอ่านแถลงของควแล้วเข้าใจงั้นนะ
ย่อหน้า2-3คือรู้เรื่อง ตกลงกัน ขอโทษกัน ซดนางก็รับผิดชอบ ขอถอนต้นฉบับตั้งแต่ยังไม่ตีพิมพ์แต่สนพจะพิมพ์ต่อ
ย่อหน้า 4 คือหลังจากนั้นนขกลุ่มที่โดนนินทามาฟ้องควว่าข่าวลือมันไปไกล ซดนางเลยออกมาขอโทษอีกรอบแบบสาธารณะ
ซึ่งเอาจริงกูอยู่ในแชทโม่งกูยังไม่รู้เรื่องเลย มารู้ตอนซดนางโพสเนี่ยแหละ ที่นขบอกว่าลือกันไม่ใช่แชทโม่งแน่ๆ แต่เอาแชทโม่งเป็นแพะ
>>350 เอิ่มอ่า มึงอ่านยังไงได้ความว่านข.กลุ่มนั้นจี้สนพ.วะ เขาไม่ได้จี้นะ แต่ในเมื่อประเด็นจริงๆ มันควรเป็นความลับกับสนพ.แล้วโดนตัวต้นเรื่องเอามาปั่น ตามหลักการแล้วนข.ก็แถลงการณ์เองไม่ได้ต้องคุยกับสนพ.ก่อนดิ
คนจี้ให้สนพ.มาเทคแอคชั่นคือชาวทวิตจ้า เอาจริงๆ กูรำคาญพวกไทยมุงอยู่นะ เรียกร้องให้รีบเทคแอคชั่นๆๆๆ ช่วยแหกตาดูด้วยว่าดราม่าเกิดตอนกี่โมงกี่ยาม มึงจะให้สนพ.เขาประชุมตอนเที่ยงคืนแล้วเทคแอคชั่นตามที่มึงเรียกร้องตอนนั้นเลยรึไง
สรุป ชาวทวิตแม่มท็อกซิกสุดละ 555555
พส ฮซน ด่าโม่ง ดูคุ้นๆเหมือนพส ด่า คนอื่นในมู้นักเขียนเรยค่ะ แง
>>359 แก๊งหมามาหมดเลยนี่หว่า 555 อย่าลืมว่าคนในแก๊งค์เมิงก็โม่ง มาใส่ไฟพชพในโม่ง กะใช้โม่งไปตีพชพแต่โม่งไม่เอาด้วย สุดท้ายก็ต้องไปงอกร่างแยกมาแฉเองในทวิตเต้อ แถมคนในแก๊งยังเคยเอาแค้ปแชทวงในมาแฉในโม่งอีก ตีกันแล้วก็มาแฉในโม่ง
อ่านโพสนางแล้วงงๆ พูดเหมือนโม่งถีบหัวส่งซด ทั้งๆที่มนโม่งยังงงอยู่เลยว่าเกิดไรขึ้น มีแต่ทวิตเตี้ยนที่ด่ายับๆ
โพสซดอันนี้กูไปคุ้ยย้อนหลัง มีเม้นนั้นมาโพสแค่นั้นแหละ ไม่มีใครคุยต่อ คนถัดมาก็พาเปลี่ยนเรื่องแล้ว แต่ด่าโม่งเหมือนโม่งรุมตีนนขยับๆ ทวิตเตี้ยนตอนนี้ยังหนักกว่าอีก
เห็นบนบกบอกว่าโม่งมีไว้ด่าอย่างเดียว อยากบอกว่าไม่จริง พวกใช้โม่งอวยนิยายเว่อๆจนโดนด่าเป็นหน้าม้าแม่งก็มีเยอะ 5555555
>>361 กูก็เห็น เหยียดโม่งกันใหญ่ 5555555 ก็เข้าใจว่าโม่งก็เหมือนแหล่งรวมตัวของแอคหลุมในนกฟ้านั่นแหละ คนจะมองด่าลบก็ไม่แปลกอะไร แต่อย่ายกเอานกฟ้าสูงกว่าโม่งเถอะ เพราะกูท๊อกซิกกับนกฟ้ามากกว่าโม่งเยอะ นกฟ้าก็ด่ากันเม้าส์กันไม่เกรงใจจนหลายเรื่องในโม่งเบาไปเลย เต้าข่าวปลอมก็บ่อย มีอะไรมายกว่าแพลตฟอร์มตัวเองอยู่สูงกว่าเอ่ย และเห็นมีคนบอกว่ามีแต่พวกขี้ขลาดที่จะเล่นโม่ง แล้วมึงจะไม่ให้พวกที่ไม่กล้าเข้าสังคมแบบแสดงตัวตนได้มีสิทธิเเสดงความคิดเห็นกันเลยอ่อ กูต้องกล้ากูต้องshine เท่านั้นกูถึงจะมีสิทธิแสดงความเห็นได้เท่านั้น คนที่สบายใจกับการเปลี่ยนยูสทุกเที่ยงคืนไม่ให้มีคนจำเราได้ไม่มีสิทธิแสดงความเห็นไรทั้งนั้นหรอ ต้องเป็นคนกล้าเท่านั้นถึงจะแสดงความคิดเห็นได้ งง จะให้เหมือนนกฟ้าได้ยังไงที่ถึงจะแสดงความคิดเห็นบ้งแค่ไหน แต่ถ้าเป็แอคใหญ่หรือมีลูกหาบคนก็เอออ่อไปกันหมดไม่กล้าเตือนกันจนล้มไปกี่แอคแล้สล่ะ
โม่งเหมือนเม้าด่าในที่ลับ นกฟ้าเหมือนไปยืนด่าทัวร์ลงหน้าบ้าน เอามาเทียบกันได้ไง 5555555
งงที่บอกโดนด่าในโม่งเป็นปีๆ ใครว่างๆนั่งไถย้อนดูให้หน่อยกว่ามีจริงไหม
ส่วนในโอเพ่นแชทถ้าเมิงเข้าไปได้นี่ เมิงก็คือโม่งคนนึงนะ คนในๆๆเลยแหละเพราะคนในบอร์ดก็ไม่ได้อยู่ในแชทกันทุกคน มันไม่ได้เข้าง่ายๆบังเอิญเข้าเหมือนเดินไปเจอเซเว่นตามข้างถนน
>>364 จริง ด่าตัวบอร์ดโม่งไม่เท่าไหร่ ด่าเรื่องโอเพ่นแชทนี่กุงงนะ นั่นคือหลุมมากๆแล้ว ไม่ค่อยนินทาด้วยเหอะ นินทาเฉพาะเวลามีประเด็น (ซึ่งส่วนใหญ่ประเด็นแม่งก็เกิดในนกฟ้าก่อน) แชทก็ไหลเร็วอ่านไม่เคยทัน มันก็กรุ๊ปแชทกรุ๊ปนึง โอเพ่นแชทอื่นๆแม่งก็คุยกันแบบนี้ นานๆก็ซุบซิบๆกันที ก่อนหน้านี้ยังเพิ่งมีคนไปป้ายสีดาราดังในกรุ๊ปแชทหมอเลย กรุ๊ปแชทไหนๆแม่งก็มีดีมีเหี้ยกันทั้งนั้นแหละ
>>365 โอเพ้นแชทก็เม้าส์แรงไม่ต่างกับบอร์ดนะมึงที่กูอ่านทันน่ะ ช่ะรูปปก รูปมีสี่นิ้ว ปกเหมือนผีบ้าง นินทานักเขียน ขำคิ้กค้าก กูอ่านยังสะดุ้ง ดราม่าต่างก็เม้าส์หมดไม่ใช่นานนานทีเม้าส์ เผลอๆเม้าส์ดราม่ากันเร็วกว่าบอร์ดอีก ต้นกำเนิดคนเล่นมันก็มาจากบอร์ด แค่พอย้ายไปแล้วมันระบุตัวกันได้เลยต้องแอพคีพลุคกันนิดนึง
>>366 ปกผีนั่นโม่งเข้าข้างนวตั้งแต่ต้นนะ ที่คิกค้ากคือมันตรงบรีฟ แบบ สวยนะตรงบรีฟด้วย(แต่บรีฟผิด) ตอนปกผีบนบกด่าแรงกว่ามั้ง ด่าจนคนวาดเลิกทำปก ส่วนโม่งถ้าเมิงไม่เป็นโม่งเมิงก็ไม่ได้มาเห็นหรอก
แต่ก็บู้บี้ขยี้จริง สี่นิ้วนั่นเอาจริงก็ชมนะว่าสวย(แต่มีสี่นิ้ว)
เรื่องที่คุยส่วนมากก็เป็นเรื่องที่มีต้นทางจากทวิตทั้งนั้นแหละ น้อยมากที่โม่งจะรู้ก่อนทวิต
เม้าส์ก็เม้าส์อ่ะ สุดท้ายก็คิ้กค้ากกันไม่ใช่หรอวะ กูยกปกเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพ แต่ถ้าเรื่องที่บอร์ดเร็วกว่านกฟ้าก็มี จำเรื่องป๊าหรือม๊าไม่ได้หรอ ที่มีคนเอามาเม้าส์ในโอเพ้นแชทตั้งนานโข่ หรือเรื่องขซ.ที่มีเพื่อนเอาเฟสส่วนตัวมาลงโอเพ้นแชท เห็นบอกนกฟ้าด่าบอร์ดโม่งไม่เป็นไร แต่โอเพ้นแชทไม่เกี่ยว แต่เรื่องซอที่โดนแหกมันเริ่มจากโอเพ้นแชทไม่ใช่อ่อ ทำไมโอเพ้นแชทเป็นแชททั่วไป แต่บอร์ดโม่งแย่เฉย ในเมื่อก็เป็นโม่งเหมือนกัน มีท๊อปปิคนินทาหมดอ่ะ ในนั้นก็มีพวกเล่นทั้งบอร์ดเล่นทั้งโอเพ้นแชท จะมาบอกว่าต่างจากบอร์ดโม่งกูไม่เห็นด้วยนะ แบ่งแยกชนชั้นกระทั่งในโม่งเลยว่ะ กูอย่างแซด
กูว่าไม่มีใครบอกว่าบอกว่าอพช.ไม่เกี่ยวนะ ตอนเห็นเรื่องแรกๆเค้างงๆกันเฉยๆไม่ใช่เหรอว่าเอามาจากห้องไหน (เพราะที่นข.แถลงบอกห้องนึง แต่ห้องนั้นมันเป็นห้องคุยเล่นนะ)
ก็ทุกคนก็เห็นว่าเค้าคุยในอพช.จริง รูปหลักฐานก็มี ก็ไม่มีใครดีเฟนด์ซะหน่อยว่ามันไม่มี
แต่ที่ 365 บอกมันก็จริงนี่ ก็มีทั้งคุยเรื่องอื่นๆ มีทั้งนินทา ไม่ได้บอกว่ามันไม่มีเรื่องนินทานะ
บอร์ดโม่งมันเป็นบอร์ดเปิด แต่โอเพ่นแชทมันกลุ่มปิด แค่นี้มันก็ต่างกันเยอะแล้วนะ
อธิบายเพิ่มอีกหน่อย มึงไม่เห็นที่เขาด่าเรื่องโอเพ่นแชทกันเหรอ เขาด่ากันว่าพวกเหี้ยตั้งกลุ่มแชทมานินทา ซึ่งมันไม่ใช่อย่างที่เขาด่ากันไงมึง นินทามันแค่ส่วนนึง และมันคือการนินทาในที่ปิดมากๆแล้ว มันไม่เหมือนการมานินทาในบอร์ดเปิดอ่ะ กรุ๊ปแชทนักเขียนแม่งคุยกันเหี้ยๆยิ่งกว่าโอเพ่นแชทโม่งก็มีนะ
>>371 เห็น >>365 บอกว่าทำไมต้องด่าโอเพ้นแชทด้วยกูก็เลยอ้าว ก็โม่งเหมือนกันไม่ใช่รึ
>>372 ส่วนตัวกูว่าโอเพ้นแชทไม่ปิด กลุ่มปิดคือกลุ่มส่วนตัวไป แต่โอเพ้นแชทใครจะเข้าก็เข้าได้เลยนิ ปิดยังไง อันนี้ไม่ได้กวนนะ แต่กูมองว่ามันไม่ปิดและเปิดเหมือนบอร์ดโม่งนี่แหละจริงๆ เพราะกูไม่ได้รู้จักรใครในโอเพ้นแชทยังเข้าได้เลย ไม่ต้องเช็คอะไรสักกะอย่าง
>>369 เอิบ ทำไมมันกลายเป็นเรื่องแบ่งแยกชนชั้นไปได้ มึงเป็นทวิตเตี้ยนเรอะ เอะอะก็ชี้นิ้วใส่คนอื่นว่าคลาสซิสซึ่ม กูหมายถึงคนที่ด่าโอเพ่นแชทเรื่องตั้งกลุ่มมาคุยในที่ลับ ไม่ได้จะบอกว่าโอเพ่นแชทสูงส่งกว่าบอร์ดเลย แต่โอเพ่นแชทมันคือการคุยในกลุ่มปิดแบบที่ไม่ได้อยากให้ใครมาเห็นแล้วไงมึง มันเหมือนหลบไปคุยกันใต้ดินแล้ว นี่คือที่กูจะสื่อ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องแบ่งแยกชนชั้นอะไรเลยโอ๊ยยย กูจะบ้าตาย
>>375 สรุปคือที่มึงจะสื่อคือในโอเพ้นแชทมันปิดจะเม้าส์ไรก็ได้ แอบนินทาเงียบๆ แต่บอร์ดมันโจ้งแจ้งไปว่างั้น งั้นมันก็ตรงนี้ที่กูมองต่างเพราะกูมองว่าไม่ว่าจะที่นี่หรือในโอเพ้นแชทคือที่เปิดโล่งหมด แล้วกูคิดว่าจะนินทาที่ไหนแม่งก็นินทาอ่ะ ขนาดขซนินทาในเฟซส่วนตัวยังโดนด่าจนต้องออกมาขอโทษเลย แล้วแบบนี้มันต่างกันไงวะมึง
>>373 นี่แหละประเด็น คือกูเห็นในนกฟ้ามีคนพูดเหมือนโม่งเป็นกลุ่มเหมือนสร้างมาเพื่อดราม่า คอยแต่จะดราม่า เอาคนนู้นคนนร้มานินทาอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งมันไม่ใช่ไง คือมันเป็นแนวกลุ่มแชททั่วไปอะ มีดราม่า มีเม้าท์ แต่ก็มีคุยเรื่องอื่นๆ ของกิน ของใช้ สายมู หมอดู ดอล โค้ดชป อยู่ในนั้นหมดอะ เพราะงั้นก็ต้องแยก
มีการเม้าท์ในกลุ่ม ✅
มีกลุ่มไว้เพื่อการเม้าท์ดราม่าอย่างเดียวอย่างอื่นกูไม่สน ❎
กูไม่ได้จะมาเปิดวอร์ไรทั้งนั้นอ่ะ แต่กูอ่านที่>>365 แล้วกูไม่โอเคตรง
>>> จริง ด่าตัวบอร์ดโม่งไม่เท่าไหร่ ด่าเรื่องโอเพ่นแชทนี่กูงงนะ
คือพวกนกฟ้าด่าโม่งอย่างที่ >>373 ว่าเป็นกลุ่มที่สร้างเพื่อนินทา ภาพลักษณ์โม่งมันก็แย่อยู่แล้ว ถ้านกฟ้าจะด่างั้นมันก็ไม่แปลก แต่กูไม่เข้าใจว่าทำไมแล้วบอร์ดโม่งด่าแล้วไม่เป็นไร แต่โอเพ้นแชทไม่ควรด่า เพราะในมู้นี้เเค่มู้สมาพันธ์ก็ไม่ได้ตั้งมาเพื่อนินทาอย่างเดียวเหมือนกัน นี่คือสิ่งที่กูไม่เข้าใจ และกูก็อธิบายไผข้างบนแล้วมึงจัมองว่าโอเพ้นแชทคือใต้ดินก็เรื่องพวกมึงแต่กูมองว่ามันคือที่สาธารณะแค่นั้นทำให้กูคิดว่าจะนินทาที่นี่หรือในโอเพ้นแชทแม่งไม่ต่างกันเลย
กูมองว่าบอร์ดโม่งมันมีที่เดียวคือที่นี่ (หรือมันมีอีกวะ กูไม่รู้) คนจะมองว่าบอร์ดโม่งเหี้ยแม่งปกติมากๆ เพราะมันเป็นบอร์ดปกปิดตัวตนแห่งเดียว
แต่โอเพ่นแชทแบบแชทโม่งที่คุยแม่งทุกเรื่อง+นินทาด้วย แม่งมีเยอะมากๆๆๆ ไม่ได้มีแค่ที่เดียวในประเทศไทยอ่ะ ถ้าด่าเรื่องตั้งโอเพ่นแชทคือมึงต้องไปไล่ด่าให้หมดทุกกลุ่ม ไม่ใช่ด่าแต่โอเพ่นแชทโม่งแค่เพราะเห็นว่าเป็นกลุ่มโม่งอ่ะ
เมิงไม่เข้าใจกู >>364 ไอ้เรื่องที่เป็นประเด็นเมิงลองไปค้นดูดิ มันโผล่มาในบอร์ดแค่ที่นางเอามาโพสนั่นแหละ แล้วเม้นต่อๆมาก็ไม่ได้มีใครสนใจคุยต่อเพราะย้ายไปคุยเรื่องอื่น ดังนั้นไอ้ที่ว่าโดนตามด่าอยู่เป็นปีนั่นไม่ใช่ในบอร์ดแน่ๆ ถ้าเมิงว่างลองไปย้อนอ่านก็ได้ หลักฐานมันชัดๆอยู่
ในอพชก็ไม่มีใครจำได้ขนาดนั้นเพราะมันนานแล้ว คุยกันแป้บเดียวก็ตกไป ไม่ได้มีการตามจิกด่าเป็นปี เรื่องที่คุยมันวนไปเรื่อยๆ ต้นเรื่องก็ออกไปนานแล้ว(หรืออาจจะเข้ามาใหม่แล้ว) กูอยู่มาตั้งแต่เปิดแรกๆ ยังไม่รู้เลยว่ามีคนตามด่านขกลุ่มนั้น เมื่อคืนก่อนที่ซดนางออกมาประกาศ หลายคนยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย
นี่กูไม่ได้เจาะจงปกป้องที่ใดที่นึง กูลงท้ายด้วย ..VM เมิงไถย้อนอ่านดูได้
>>382 เขาแคปมาแค่นั้น กูแต่กูมั่นใจว่ามีอีก 5555555 แก๊งนักเขียนที่โดนนินทาเป็นชื่อที่โผล่มาเรื่อย ๆ ทั้งในบอร์ดทั้งในอพช.อะ ไม่ถึงขนาดกลายเป็นวาระประจำมู้ แต่ก็เคยโดนดิสเครดิตจริงนี่หว่า เรื่องมันเกิดในโม่ง คนด่าโม่งก็ไม่เห็นแปลก เที่ยวเย้ว ๆ ดีเฟ้นให้แพลตฟอร์มเนี่ยแปลก
เห็นชาวทวิตเตี้บนบอกโม่งมีส่วนเสียมากกว่าดี แหล่งรวมพวกเหี้ยและเฟคนิวไรงี้ คือถ้ามึงไปจดจ่อกับพวกห้องนินทามึงก็คิดว่านั่นคือบอร์ดโม่งทั่งหมดเหรอวะ555 ไปดูห้องอื่นด้วยพส. ห้องเมะ ห้องเกม ห้องนิยาย ห้องเพลง ห้องหนัง เขาแยกหมวดไว้เยอะแยะและคนคุยที่ไม่ได้นินทาก็เยอะกว่าด้วย อย่างห้องนี้มู่ข้างๆก็ถกกันเรื่องวีเรื่องเกมกันแบบมีสาระอยู่นะ
ส่วนเฟคนิวนี่ขนาดพวกคนเปิดหน้ามันยังทำกันเลย อย่างล่าสุดสืือใหญ่เจ้านึงไปเฟคนิวกับคนดังคนนึงว่ามือที่สามงี้ ขนาดเป็นสื่อใหญ่อยู่มานานนะนั่น หรือคราวทิดไพรวัลย์ยังไม่สึก ก็มีสื่อเจ้านึงไปว่าเขามีทรัพย์สินพันล้านจนท่านจะฟ้องอยู่นั่น
เพราะงั้น โม่งส่วนใหญ่ขี้นินทาและขยันสร้างเฟคนิว ยี้ คนบนดินที่เปิดหน้าไม่มีใครทำไรแบบนี้หรอก×
โม่งดังในเรื่องนินทาและปั้นข่าวมั่วพอกับพวกแอคหลุมเฟสอวตารนั่นแหละ ✓
ก็เหมือนพันทิปอะ ห้องวิทย์ งานบ้าน กิฬา ท่อง เที่ยว อนิเม มีเยอะแยะที่คุยกันสาระ แต่ทำไมไปดังด้านอายุน้อยร้อยล้านกับทริปศูนย์บาทซะงั้นเล่า แถมมีกระทู้มโนแจ่มจนดังเป็นพักๆอีกต่างหาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนเล่นพันทิปส่วนใหญ่อายุน้อยก็เป็นอาเสี่ย ชอบทัวร์ประหยัดกับแต่งนิยายชีวิตอวดโซเซี่ยลด้วย ใช่ปะละ
>>386 จากใจกูที่มาจากกระทู้วี อยากบอกว่ากระทู้วีแทบไม่มีสาระอะไรเลยมึง โม่ยวีกับคร่ำครวญเรื่องวีมีเมียล้วนๆ 55555555555 แต่เห็นด้วยนะว่าบอร์ดโม่งมันก็มีหลากหลาย ซึ่งด้วยความไม่รู้ว่าใครเป็นใครมันก็ต้องอ่านแล้วใช้วิจารณญาณกันเอง ห้ามเชื่ออะไรง่ายๆ มันจะมีสักกี่คนเชียววะที่อ่านโม่งปุ๊บเชื่อทุกอย่างในโม่งทันที แหม่
Ky บนบกด่าลวดแบบไม่ลืมหูลืมตา ใจเย็นกันหน่อยมั้ย
>>391 งง คนที่ด่าว่าทำไมไม่เช็คเนื้อหาก่อนวางขาย คือเป็รแค่สายส่งมั้ยวะ ต้องมาทำหน้าที่เป็นกองเซนเซอร์อีกหรอ แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นฟิคถ้าไม่ได้ตรวจลึกจริงๆ สายส่งไม่ใช่แฟนคลับที่ข้อมูลพร้อมนะ กูยอมใจตอนนี้เหมือนล่าแม่มดหาใครก็ได้ลากลงมารับผิดชอบไม่ดูสี่ดูแปด
มีแววนักเขียนลอยตัวป่ะอิหรอบนี้
เพราะเรื่องที่มีปัญหาตอนนี้ไม่ได้ติดแท็กแฟนฟิคเลย แค่เอาเมจศิลปินมาดึงกระแส มันก็เลยดูยากว่าเป็นแฟนฟิคจริงๆรึเปล่า....
ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ เคสนี้ต่อให้นักเขียนแปะแท็กฟิคก็ไม่ผิดอะ
ต้องเข้าใจก่อนว่าฟิคใดๆก็ตาม เนื้อเรื่องเป็นลิขสิทธิ์ของนักเขียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คนอ่านอ่านโดยรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตัวดารา ถ้าเอามาแปลงเป็นออริ ตัดส่วนที่ไปพาดพิงถึงคนจริงๆ ตัวละครในเรื่องอื่น หรือเครื่องหมายการค้าทิ้งไปแล้ว มันจะเหลือแค่ลิขสิทธิ์ของนักเขียนเท่านั้น ขายได้ไม่ผิดกฏหมาย ถ้าจะบอกว่าชุบฟิคเป็นออริ มันจะวนลูปไปที่เดิม คือนักอ่านอ่านโดยรู้อยู่แล้วนะว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับดารา คนเขียนไม่เคยหลอกลวงอะไรเลย
เอาดารามาหากิน -> นักอ่านอ่านโดยรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวดารา
แต่การแปะรูปดาราทำให้มีคนอ่านมากขึ้นนะ -> นักอ่านอ่านโดยรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวดารา
โกงนี่นา -> นักอ่านอ่านโดยรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวดารา
เข้าใจว่าบางคนอาจจะเจ็บใจ บางคนอาจจะอ่านเพราะอยากให้ยอดขึ้น ฟิคกับดาราจะได้เป็นที่รู้จัก ฯลฯ แต่กฎหมายมันเป็นงี้จริงๆ
เอ่อกูเบื่อนะที่ต้องยกกฎหมายมา คนเขารู้กันอยู่แล้วเอาผิดไม่ได้ มันเลยมีแท็กแบนขึ้นมาเข้าใจไหมอะ ไม่งั้นก็ดำเนินการทางกฎหมายไปแล้ว
ที่คนต้องการคือค่ายแถลงว่ายังไง ตัดหางปล่อยนักเขียนไปเหอะกูบอกตรง
จารย์กูที่ขึ้นศาลกฎหมายลิขสิทธิ์บ่อยๆเขาก็เบื่อ อยากแก้กฎหมายชิบหาย มันคือช่องว่าง
>>394 ผิดไหมผิด มันผิดตรงที่เอาภาพมาใช้มึงเข้าใจปะ ถึงเขาจะลบไปมันมีหลักฐานที่เคยใช้ไม่ผิดตรงไหน ส่วนเรื่องงานเขียนมันอีกเรื่องหนึ่งมึงมองข้าม เรื่องภาพไม่ต่างอะไรกับพวกนักเขียนหรือนักอ่านที่บอกว่าอ่านแต่เรื่องไม่ได้สนใจภาพสักหน่อย
เสริมให้เจ้าของภาพฟ้องได้นะ รวมไปถึงคนที่ถ่ายภาพ เพราะเป็นลิขสิทธิ์เขา เอามาโปรโมทหากิน จะบอกสมัยนั้นทำเยอะ สมัยนั้นก็มีหลายเรื่องที่ไม่ได้ทำ กูก็เลือกอ่านค่ะ แล้วมันไม่ผิดตรงไหนเอาปากกามาวง หากินกับผลงานคนอื่น
>>398 คนเขาก็รออยู่ว่าจะแจ้งข้อหาอะไร แต่กูก็ว่าน่าจะมีพวกหลุดใช้คำหรือภาพที่ใช้ทางกฎหมายได้ เซฟๆตัวเองหน่อย นักเขียนก็ใช้คำเลี่ยงกฎหมายไปหมด ไม่รู้จักเป็นส่วนตัว แล้วคนเขียนฟิคคนอื่นเขารู้จักศิลปินเป็นการส่วนตัวเหรอ ตลก
ที่คนอยากเห็นก็ค่ายก็ออกมาทำแบบอีกเรื่องไปเลย ถ่ายทำใหม่อะไรก็ว่าไป มากระทบกับศิลปินอะไร ถ้ามองเห็นตรงนี้ก็ไม่กระทบ ทางกองถ่ายต้องรับภาระค่าใชจ่ายเพิ่มก็เพราะไม่กรองให้ดีก่อน ทีมงานคนที่เสนอเรื่องมาก็ต้องรับผิดชอบอะ แต่ที่เห็นคือปล่อยเบลออ หรือกำลังปรึกษากันก็ไม่รู้นะ รอดู
ทำไม ดพ ชอบทำตัวเองให้โดนด่าจังวะ ล่าสุดเนื้อหาเล่มสองน้อยกว่าที่บอกตอนเปิดพรี พอมีคนไปถามว่าทำไมตอนไม่ครบก็ตอบว่าที่ไม่พอเลยยกไปเล่มสามแทน ไม่เคยบอกในเพจด้วยนะว่าทำแบบนี้ แถไปว่าแจ้งในเล่มแล้ว
>>395 กูพูดเพราะ >>393 บอกว่าไม่ได้ติดแท็กฟิค นักเขียนน่าจะลอยตัว กูเลยบอกว่าต่อให้ติดก็ลอยค่ะ
แล้วในแท็กทวิตบางคนก็ยังออกตัวแรงคิดว่าผิดลิขสิทธิ์อยู่เลยนะ ถ้ามึงไม่ชอบใจคิดว่านักเขียนเอาเปรียบ ก็เทนักเขียนไป สิทธิ์ของผู้บริโภคอยู่แล้ว
>>396 >>397 กูพูดถึง "นิยาย" น่ะนะ ถ้าในเล่มไม่มีผลงานคนอื่นเลยมันก็ไม่ผิดไง แต่สิ่งที่พวกมึงพูดคือเรื่อง "ภาพ" อันนี้ไม่เถียงเลยจ้าว่าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ตอนที่ใช้ภาพมันดันเป็นตอนที่นักเขียนยังไม่ได้เก็บเงินปะ คือเอาภาพชาวบ้านมาใช้น่ะผิดแน่ แต่จะบอกว่าเอาผลงานคนอื่นมาหากิน มันก็พูดได้ไม่เต็มปากนะกูว่า
>>398 เนี่ยแหละที่กูกลัว บางคนไม่รู้ว่าแปลงฟิคเป็นออริมันไม่ผิดกฎหมาย แต่ด่าแรงไปแล้ว จากคดีละเมิดลิขสิทธิ์มันจะกลายเป็นคดีหมิ่นประมาทเอา อยากให้ระวังๆกัน
>>401 มึง ไม่ติดแท็กข้อความแฟนฟิค แต่ใช้ภาพคู่เป็นแฟนฟิคนะ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางข้อความหรือภาพ ถ้าผู้รับรู้ว่าใช่ก็คือใช่ กูยังงงกับมึงบอกว่านักอ่านไม่รู้ ในทวิตที่ติดแท็กหลายคนก็อ่านมาก่อนรับรู้ว่าเป็นแฟนฟิคและซื้อมา นักเขียนเลี่ยงด้วยการบอกแค่ใช้ภาพอิมเมจเฉยๆมันก็ไม่ได้ แล้วมึงบอกว่า ใช้ภาพมันดันเป็นตอนที่นักเขียนยังไม่ได้เก็บเงินปะ นี่ปีไหน มึงยังไม่รุ้เหรอถึงไม่เก็บเงินก็ผิด เปลี่ยนความคิดได้แล้วนะ เป็นการโปรโมทก็ผิดจ้า
แต่กูตกใจมากนะที่มึงบอกไม่เก็บเงินไม่ผิดอะ ไม่น่าเชื่อยังมีคนความคิดแบบนี้
เนียนสวยๆด้วยการบอกใช้ภาพตอนไม่ได้เก็บเงิน งื้ออ รณรงค์กันตั้งนานยังมีคนความคิดแบบนี้อีก
>>401 อ่อกูลืมบอกอีก ในอดีตรู้รับทราบว่ามีการใช้ภาพศิลปิน แล้วทำไมยังกล้าขายให้เขามาทำหนัง? ไม่มีความรับผิดชอบปะหรือไม่มีความละอายเอาสักอย่าง ภาพศิลปินไม่เป็นผลงานตรงไหน เอาของเขามาโปรโมท เขียนชื่อเรื่องตัวเองทับลงไป นักเขียนไปถ่ายภาพเองปะก็ไม่นี่ มันผิดตรงไหนที่กูว่าเอางานคนอื่นมาหากินละ
ky กุสงสัยอย่างถ้ากุเขียนแฟนฟิคแล้วดันมีคนซื้อไปทำซรได้คู่ที่เป็นเมจมาแสดงด้วยนี่ยังถือว่าผิดอีกไหม
นิยายที่เป็นปัญหามันมีมาตั้งแต่คนยังไม่ตระหนักขนาดนี้ใช่มะ สมัยก่อนฟิค(ทั้งพวกยืมเมจ ทั้งติดแท็ก)ขายบนดินกันโครมๆ พวกแฟนคลับสนับสนุนก็เยอะ แต่อยู่ๆมาตอนนี้แอนตี้ฟิคที่เปิดขายกันซะงั้น
มันเริ่มมีจุดเปลี่ยนมาจากตรงไหนวะเนี่ย
>>402 มึงใจเย็นๆ ก่อน กูงง นักอ่านไม่รู้นี่ไม่รู้เรื่องอะไร มึงตั้งใจจะพูดอะไร
กูไม่ได้บอกว่าไม่ติดแท็กฟิคแล้วไม่เป็นฟิคนะ แต่บอกว่าแปลงฟิคเป็นออริไม่ผิด ซึ่งพูดถึงแค่ตัวนิยาย ไม่ได้พูดถึงรูปภาพอะไรเลย
และกูก็บอกแล้วว่า "เอาภาพชาวบ้านมาใช้น่ะผิด" แต่มันคนละเรื่องกับ "เอาผลงานคนอื่นมาหากิน" เพราะตอนนั้นยังไม่ได้หากิน เก็ตปะ
มึงสามารถด่าเขาว่าเอางานคนอื่นมาใช้โดยไม่ขออนุญาตได้ เจ้าของภาพก็ฟ้องร้องได้ แต่ด่าว่าหากินกับผลงานคนอื่นไม่น่าจะได้
กูแค่เห็นกระแสในทวิตแล้วมันมีหลายข้อความที่ไม่เซฟเลยอยากเตือนเฉยๆ จะเชื่อไม่เชื่อแล้วแต่มึงเลย แต่ขอบอกไว้ก่อน ถ้าข้อความของมึงอยู่ในทวิต ตามตัวได้ แล้วกูโมโหกับร่ำรวย กูคงฟ้องเล่นหาเงินกินขนมอะ บิดสารกูซะงั้น
ฟ้องได้ศาลรับหรือเปล่าหรือแค่ตำรวจรับลงบันทึกประจำวัน หลายคนกลัวฟ้องไปเยอะแยะ มึงต้องมีหลักฐานที่แน่นอนและยืนยันตามข้อกล่าวหานะ โอเคเนอะ
>>410 แล้วมึงจะย้ำทำไม กูก็บอกไงว่า "เอาภาพชาวบ้านมาใช้น่ะผิด" เอ้อ
แล้วมึงยังจะบอกว่า "ไม่น่าเชื่อยังมีคนมีความคิดแบบนี้" มึงคะ อันนี้เข้าข่ายใส่ร้ายให้เข้าใจผิดค่ะ เพราะความหมายที่ซ่อนอยู่คือ (มึงเห็นว่า) กูมองว่าเอาภาพชาวบ้านมาใช้ไม่ผิด -> ไม่น่าเชื่อว่าจะคิดแบบนี้ พิสูจน์ได้ด้วยประพจน์สัจนิรันดร์ค่ะ
ส่วนเรื่องโปรโมท กูถามก่อนเลย มึงคิดว่าแฟนฟิคที่ติดรูปคู่ชิปทั้งหมด มีเรื่องไหนที่ดาราศิลปินมามีเอี่ยวหรือได้ค่าจ้างพรีเซนเตอร์แบบการโปรโมทสินค้าทั่วไปมั้ย
ถ้าคำตอบคือมี -> เอาล่ะ มึงเข้าใจผิด
ถ้าคำตอบคือไม่มี -> มึงยอมให้นักเขียนหลอกล่อด้วยรูปดาราเองอะ
กูไม่ได้มองว่าการเอาฟิคไปชุบมันดีงามนะ แต่มันเป็นช่องโหว่จริงๆ ถ้าไม่อยากให้เกิดเคสแบบนี้ก็ต้องมาทำความตกลงกัน จะเรียกร้องอย่างที่ทำๆอยู่ก็ได้ ก็อย่างที่บอก กูแค่เห็นหลายคำมันไม่เซฟเฉยๆ
ฟิคไม่ติดเหรียญ ไม่ผิดกฎด้อม ผิดกฎหมาย(ใช้ตัวตนชัดเจนแต่อฟชไม่สนใจฟ้อง)
ฟิคติดเหรียญ ผิดกฎด้อม ผิดกฎหมาย(ใช้ตัวตนชัดเจนแต่อฟชไม่สนใจฟ้อง)
ฟิคแปลงเป็นออริแล้วไม่เหลืออัตลักษณ์เดิม ผิดกฎด้อม ไม่ผิดกฎหมาย(ไม่เหลือตัวตนให้ใช้ฟ้องเพราะเป็นคนละเรื่อง)
ดันจ้า คุยกันได้อีโทรลเริ่มกลับมาอีกแล้ว
กุเข้าใจแหละว่าความจริงมันรับได้ยากหน่อย แต่มันไม่มีผลตามกฎหมายว่ะ
คือกุไม่ได้มาเข้าข้างหรือมาโทรลนะ กุอยู่ฝั่งไม่ชอบเวลาเมนโดนถอดเมจเหมือนกันแหละ แต่พออ้างอิงกฎหมายมันเอาผิดไม่ได้จริงๆว่ะ หรือถ้าได้ช่วยบอกหรือแย้งกุได้นะ กุก็อยากได้ความรู้เหมือนกัน
เหนื่อยจะคุย กูบอกละเบื่อกฎหมาย ช่องว่างเยอะแยะไปหมด เริ่มที่ตัวเองนะ อะไรไม่ควรทำก็ไม่ต้องไปทำ
เลิกเถียงกันได้ยังจนกูอยู่บ้านละว่างตอบพวกมึงมาก สรุปไม่มีใครเห็นด้วยเนอะ แต่ว่ากันมันเอาผิดทางกฎหมายไม่ได้ อยากให้ค่ายออกมารับผิดชอบ แต่นักเขียนแถ-ลงนะจ้ะ กูแปลกใจทำไมโม่งไม่ค่อยคุยกันเรื่องนี้ หรืออวยกันไปแล้วเกินครั้งปล่อยให้มันเงียบ? แฟนคลับฝั่งนั้นก็ดิ้นแรงมาก ลูกหาบนักเขียนไปไหนหมดวะ
นิยายใช้ภาพละเมิดลขเยอะกันจริง ถึงจะตัดหัวออกเหอะ แต่ละเรื่องไม่ไหว แปะรายตอนกว่าจะจบเป็นร้อยรูปได้ม่างง
我是一个在gay吧打工的直男,有一天,我碰到了一个不要脸的基佬。
沙雕文风沙雕作者,慎入。
说出来你可能不信,我在gay吧打工,但我是个直男。
真的直,直的顶天立地,人神共愤那种。
那可能就有人要问了,一个直男吃饱了撑的跑去gay吧打工?
我不是撑的,我他妈是穷的。
作为一个家庭经济条件非常一般的苦逼大学生,为了在付学费的同时维持打游戏买皮肤的必须开销,我不得不勤工俭学。当家教一周就两三次,还是晚上打工来钱快,然而大学城附近但凡是像样点的酒吧,基本上都满员了,我苦苦寻觅,最后只在这家刚开业不久的gay吧找到了个空缺的调酒师职位。
我平时对调酒就挺感兴趣的,培训了一段时间以后正式上岗,干得还不赖,再加上工资丰厚,一干就是一年。
这一年里,我成功从一个战战兢兢懵懵懂懂的小直男,成为了一个万gay丛中过,屹立
不摧折的笔直钢管。
说实话,基佬除了弯曲角度大了一些,跟一般男人也没什么区别,都是两只眼睛三条腿,还比学校里那些蓬头垢面的肥宅收拾干净多了,至少看着不辣眼。
更何况,像这样的gay吧,来客百分之八十都是零,百分之十五是来找刺激的女孩子,剩下百分之五才有可能是一。像我这样一米八不到全身上下没两斤肉还长着一张娃娃脸的弱不禁风男学生,是最最不起眼的,什么弱质小零进了gay吧被强取豪夺霸王硬上弓什么的,都是小说里瞎写的,现实中哪有那么美的事。
不过也不排除例外,在我一年的打工生涯中,也遇到过饥不择食的零号搭着肩膀凑过来撩骚的,最开始还不知所措,到后面有了经验,就能从容应对了。
很简单,只需要嗲着嗓子扭扭捏捏地说一句:“可是……人家在上面硬不起来的唉。”
不是我没节操,实在是在这种地方说自己是直的,根本没人会信,唯一可行的就是证明自己比对方还零,让对方知零而退。
唉,真是无奈,明明我是个直男。
生活不易,逼直装零啊。
这天我像往常一样来酒吧打工,临近期末,我准备今天结束后就不来了,毕竟考前还得绝地求生。
时间还早,酒吧里人不算多,我站在吧台后面擦着杯子,突然听见手指轻扣桌面的声音。
“哒哒”两声,我抬起头,看过去的瞬间一下子呆住,感觉心脏跟着“哐哐”跳了两下。
这是什么神仙颜值?
坐在吧台前的男人我没见过,应该是新客,穿着一件白衬衫,扣到了最顶上抵着喉结的地方,穿着和气质看起来高冷又禁欲,偏偏却长了一张勾魂摄魄的脸,上挑的桃花眼简直漂亮得能杀人。
尽管在gay吧里见过形形色色的帅哥美男,但眼前这个绝对是极品,连我这个如假包换的直男都忍不住看愣了。
这人的外貌很容易就惹来了注意,酒吧里为数不多的常驻一号轮番过来试图搭讪,却全都被毫不留情地冷淡拒绝了。
不过也正常,长成这样的,身边一定不会缺伴,那他来这里干什么?不会就为了喝酒吧。
……貌似还真是。
这人呆在这一小时从头到尾都不见挪动一下,一杯威士忌喝到冰都化了,要不是他又点了一杯,我都要怀疑是来蹭网的了。
我把新调好的酒推过去,还没放开他就伸手接了过去,恰好压住了我的手指尖。
触感冰冰凉凉的,不知道是不是我的错觉,我的小拇指好像被轻轻蹭了一下。
我一个激灵,很快就收了回来。
心里有点莫名其妙的异样,我低头擦桌上的酒液时,没忍住偷偷看了一眼,结果直直撞上他瞥过来的眼神,我他妈还没出息地看呆了一秒,反应过来后尴尬得要命。
靠,他该不会误会我看上他了吧?
老子是直的啊!
算了算了,呆在这地方不被误会才奇怪,又不是第一次了,不用管别人的眼光,心中有尺,自然笔直。
我很快就放下了这一茬,专心投入工作,忙忙碌碌几个小时后,到了下班时间,正打算走,一转头发现吧台外那个人居然还在!
我去,他喝了几瓶了?
我走上前默默收拾旁边的空酒瓶,数了数,一二三四五。
这人托着下巴闭着眼睛,苍白的脸上带了一点红,我怀疑他怕是已经不省人事了,刚打量了一会,这人却突然抬起眼皮看了过来,目光十分的清明。
这都没醉?牛逼。
我还在无声感慨,对面的人已经慢慢直起了身子,慢条斯理地打开钱包,掏出了一叠红票子,压在喝空的酒杯底下,朝我推了过来。
……他妈的,开玩笑吧?
酒吧里给小费很常见,但一给就是一叠的不可能,一般这种情况,基本上暗示了某种不可言道的意思。
我还有点不敢相信,结果这人冲着我别有意味地挑了下眉,那目光,赤裸裸的,就他妈是我想的那个意思。
我惊呆了,没想到高岭之花的口味不同寻常,竟然莫名其妙产生了一种受宠若惊的感觉。
可惜了,我是个直男,注定要辜负美人,唉。
我眨了眨眼睛,鼓起了十二万分的演技,捏着嗓子冲对方道:“哥哥……人家不知道怎么做上面那个……”
为了不被看出破绽,这一回我演得尤为真情实感,差点没把自己给恶心死。
对面的人微不可见地愣了一下,接着居然微勾起嘴角露出个似是而非的笑。
正当我看呆之际,听见对方低而缓的声音说道:“我上你,躺着就行。”
卧槽? 我第一反应竟然是,还他妈有这样的好事?
我是一个在gay吧打工的直男(二) (不是真事!不是真事!不是真事!)
可能是在gay吧呆得太久了,导致我的思想都不知不觉被gay化了,导致在被一个绝世美一莫名其妙地看上时,我的大脑居然第一时间设身处地地以一个小零的角度发出了喜出望外的信号。
靠,入戏太深了。
好在我的理智及时跳出来狠狠扇了我一个巴掌:想他妈什么呢!给老子直回来!
哦对,我是直的,差点忘了,好险好险。
悬崖勒马地拉回自己岌岌可危的思想后,我开始认真考虑当下的处境。
半分钟前,面前这个漂亮帅哥拿出一叠红票子,说要上我。
我呢?我他娘说了一句什么来着?
“哥哥……人家不知道怎么做上面那个……”
靠!!翻车了!!
都说百年修得零点五,千年修得共一眠,天真如我无论如何也想不到,我,一个普普通通的贫穷男大学生,在这gay吧里唯一的特别之处就是特别直,居然也有被一撩的一天。
这叫酒吧里众多衣冠楚楚的姐妹们如何自处啊。
啊呸!什么姐妹!我下次得少跟店里的母零服务员小哥讲话了,都他妈被带跑偏了。
言归正传,现在的问题是,如果我这会告诉面前这人我其实是个直男,不被揍的几率大概是多少?
无限趋向于零。
……我恨零这个数字。
当我目光呆滞地盯着按在红票子上那只白皙漂亮的手陷入玄妙的沉思时,对面的人见状不耐烦地眯了眯眼,好似误会了什么,下一秒面不改色地从钱包里又抽出一叠人民币,放在了桌上。
卧槽,真壕。
这年头还有人带这么多现金出门的吗?不都是用支付宝……不对,他难道以为这是钱的问题吗?
我,一个顶天立地的直男!我笔直如松的性向怎么可能轻易被金钱压弯!
呵,绝对不……
我盯着那只手底下厚厚的一刀人民币,不由自主地咽了口唾沫。
……
十分钟后,酒吧门口。穿着白衬衫的美人迈着长腿大步走在前面,我脚步虚浮地跟在后面,脑子陷入当机状态,还没反应过来刚刚发生了什么。
“带身份证了吗?”美人停在了一辆深灰色奥迪旁边,边开门边问。
我看到这辆豪车的瞬间,大脑一个激灵,猛的反应过来自己都干了什么。
卧槽,我现在这样,跟出来卖的有什么区别?
我是缺钱,可也不至于缺到卖屁股的地步吧!身为直男的尊严呢?
之前被美色和金钱迷了心窍,现在回过神来,后背上登时渗出一层冷汗。
怎么办,现在后悔还来得及吗?
抬头对上对方冷冽又深邃的眼神,我磕磕绊绊地扯谎道:“我好像……嗯……没带。”
所以要不就算了吧!山高水长,帅哥我们改天有机会再聚!
岂料对方毫不意外地点了下头,道:“没关系,我带了。”
……那你他妈问个屁啊!
不管我怎么想的,那边已经打开了车门,接着以不容抗拒的姿态推着我上副驾驶。
我的腿抖得像个筛糠,即将要被迫踏上去的瞬间,脑子里灵光一闪,忙道:“等等等等……你喝了酒怎么开车?”
对方先是一愣,反应过来后便顺理成章道:“那你开。”
我原本想谎称自己不会开来躲过这一劫,转念又想,万一他叫了代驾怎么办?万一到时候在车上对我做些这样那样的事,给别人看到了,那我的直男清白岂不毁于一旦?
于是我忍辱负重地上了驾驶座。
路上我抖着手开得很慢很慢,即便如此,我依旧觉得自己行在一条通往湾仔码头的不归路上,一去不复返。
开到学校侧门附近的时候,我终于忍不住一脚踩下了刹车。
车猛地停下,身旁闭目养神的美人睁开了眼,朝我看过来。
我深吸一口气,卯足了劲豁出去道:“哥!其实我是个直男!”
对方闻言挑起一边眉毛,眼神里明明白白写着不信。
我继续睁大了眼睛真挚道:“帅哥我对不起你,刚刚我是吃错了药骗你的,我真不是gay!”
这人眸光闪烁地盯着我,片刻后反问道:“直男?”
我立刻露出一个诚恳的笑容:“对,要是我说的有假,我就这辈子找不到女朋友!”
“那怎么办?”他压低了嗓子,边说边凑近我,“我付了钱了。”
我一听对方的态度有所松动,立刻喜上眉梢,以至于忽略了他脸上莫测的表情和不断缩短的距离:“我现在就还您!您要是不满意,我回头再补偿……唔!”
……
我话还没说完,嘴就被堵住了。
这人捏着我的下巴直接亲上来了。
亲!上!来!了!
我的大脑瞬间炸成一朵蘑菇云,接着就是一片空白。
过度的震惊使得我忘记了反抗,傻愣愣地瞪直眼睛任人施为,等我反应过来要推开的时候,闯进来的舌头已经肆意妄为地搅了两个来回了。
对方的嘴唇离开时,我甚至听到了羞耻的水声。
此刻的我感觉就像被雷劈了,从头顶麻到了脚心。因为缺氧,我瘫在椅子上无神地喘了两口气,迷茫之际听到身前的人轻笑一声,那双长睫毛下的深色眼瞳似笑非笑地盯着我,又一次反问道:“直男?”
我还没就这嘲讽的语气作出任何有力的反驳,他捏着我下巴的拇指突然移到我嘴角左边的某个位置,动作暧昧地揉了两下。
不是吧?还来?
第一次是我猝不及防马失前蹄,这一次怎么可能还被占便宜!
惊惶之际,我动作十分迅猛地伸手猛的推开压在身上的人,打开车门就往外逃。
因为姿势的原因,车门一开导致我整个人重心不稳翻了出去,胯部着地在地上滚了两滚,可谓十分惨烈,然而强烈的求生欲使得我忽视了上半身的疼痛连滚带爬地站了起来,飞速往旁边的校门里蹿。
不知道是不是我矫健的英姿吓到了对方,车上的人居然没有追过来。
我一路狂奔回宿舍,关上门就直接倒在了下铺的床上。
心脏因为激烈的运动还在狂跳着,我喘了几口气试图让自己平复下来,然而一想到刚才发生的事,就忍不住崩溃骂娘的冲动。
老子一个清清白白的小直男,保留了二十年的初吻,居然就这么被一个男的弄没了!!
我气,我好气,但这都不算什么,真正让我怀疑人生的是,刚才在车上被那人强吻的时候,我他妈居然……居然起了反应……
我操,老子完了。
我是一个在gay吧打工的直男(三)
我花了整整半个小时才让自己从刚才的人生阴影中脱离出来,扶着腰从床上下来,龇牙咧嘴地挪去浴室洗澡。
刚才跑的时候一心求生还不觉得,这会安全下来,就感觉从后腰到尾椎骨那一块疼得跟快裂了似的,转身对着镜子掀开衣服一看,淤青了一大片。
艹,装个gay的代价也太大了,脸皮掉了,初吻没了,连腰都折了。
但是没关系!老子的贞操还在!八百年后又是一个活蹦乱跳的小直男!
我坚信,今天晚上的事故只不过是我笔直人生大道上的一个小小的岔路,只要我无视诱惑目不斜视地大步朝前走,就他妈什么事也不会有!
反正今天过后我就不会再去酒吧了,也碰不到那个男人……
等等,我口袋里沉甸甸的一叠是什么?
我把手缓缓从袋里抽出来,看见了粉红毛爷爷慈祥的微笑。
哦豁,小火汁,没想到吧?
……日了狗了。
从现在起我对天发誓,我这辈子再也不立他妈的任何一个flag了。
我很想抛却良心把这刀人民币塞进自己的钱包,但是作为一名五讲四美的正直好青年,光是把这笔嫖资揣在口袋里都觉得烫得慌,连去医院检查腰伤都一分不敢动。
之后两个晚上我又偷偷跑到那家gay吧探头探脑,打算看见那个人就托认识的店员把钱转交给他,我再趁势溜走,我俩的乌龙就一笔勾销,往后他走他的盘山公路,我过我的独木小桥。
可惜命运总爱捉弄人,我在酒吧里连着蹲了几天也没再见到过那个人。那叠红票子日复一日地压在我的枕头底下,也不知道是不是沾上了些玄妙的基佬气息,导致我一连几天都没能睡个好觉,反反复复地梦见那天晚上的场景。
奇怪的是,不管梦里的我如何试图阻止事情的发展,最后的结果依旧是在车上被人强吻,甚至于还多了点现实中没有的剧情。
一吻完毕,那人又用手在我左脸上轻轻揉弄片刻,凑过来在嘴角边亲了一下,接着低声说了一句什么。
我还没听清,就睁开眼猛的惊醒了。
裤子果然又是湿的。
几天类似的经历下来,我已经从一开始的五雷轰顶变成了麻木不仁,默默爬起来去厕所换裤子。
经过镜子前时我无意间扫了一眼,顿时被自己眼下厚厚的青紫吓了一跳。
靠,生活对我的肾做了什么!
我甚至有点怀疑,那天晚上遇见的怕不是个男人,是个男狐狸精吧?在毛爷爷上做了法?
还是说……难道我真的……弯了?
这个可怕的想法吓出我一身冷汗,我认认真真思考了半天没能得出一个确切结果,无奈之下只好找人来咨询。
我打了个电话给我发小。
我发小是个女孩,确切地说,是个资深腐女。
资深到什么程度呢?我俩从幼儿园到高中都是一个班,我犹记得小学六年级的时候,她就在班上悄咪咪地写我和学习委员的同人文了。
以至于后来已经上了初中的我无意间翻到她的笔记本发现时,提前打开了一扇不属于我的新世界大门。
好在高中以后她就不再干给直男拉郎这种蠢事了,并且自称鉴gay一级雷达,我虽然不怎么相信,但问一问或许没关系。
电话打通后,我向她这样那样地描述了一下那天晚上的经历,略过了一些羞耻的细节,接着又讲了讲我最近几天的遭遇,我本以为以我发小的属性,一定得激动地嗷嗷叫,都做好了被尖叫轰炸的准备,然而电话那头却似乎十分冷静,安静得我几乎要以为她已经走开了,直到快说完的时候,电话里突然传来一声巨响。
我吓得跳了起来:“怎么回事?”
“没事没事,”她道,“打滚打得太猛翻到床底下了。”
我: ……
我开始后悔把事情告诉她了。
她清了清嗓子,很快调整好状态,问道: “那个帅哥给了你多少钱?”
我无聊的时候已经数过几百遍了:“四千二。”
“哇……”她发出了穷人的惊叹,又道,“少十块就刚刚好了。”
我没听懂:“什么?”
“没什么没什么,所以你已经做了一礼拜春梦了?”
我严肃纠正道:“不是春梦。”
打了个啵的事情,能叫春梦吗?
但肾虚确实是真的,我绝望地叹了口气:“我是不是完了?”
“不,”她严肃纠正道,“你只是弯了。”
我怎么也不愿意相信:“不可能!我他妈都直了那么多年了!”怎么可能说弯就弯!
她语重心长地解释道:“孩子,你知道有一种理论,叫做薛定谔的直男吗?”
我:“薛什么什么?”
她继续:“简单来说,就是根据量子力学,当一个男人被关在柜子里时,他处在一个直弯叠加态,在柜门打开之前,谁也不知道他到底是直的,还是弯的。”
听起来似乎有点道理……个屁啊!
我信了这个初中开始物理就没及格过的女人的邪才有鬼!
连定义一个基佬这种事也能扯到科学定律上去,我也是服了。
她料到我不会相信,只是叹了口气道:“小夏,性向不是你想直,想直就能直的,早点接受事实吧。”
在我心如死灰地挂断电话之前,她又说了一句:“我掐指一算,那天晚上的帅哥和你有未尽的缘分,根据我的直觉,你们肯定会重逢的。”
行吧,物理学不行就用玄学,我发小真是见识广博。
然而天真的我却没想到,这次真他妈让她给说中了。
我是一个在gay吧打工的直男(四)
再一次见到那个可怕的男人,是在我的学校里。
没想到吧?我他妈自己也没想到。
事情是这样的,期末考结束后,学校经院承办了一个国际交流项目,接待了几个国外名校来的商业研究队伍,本来这么高大上的活动,与我等大二小学鸡是无缘的,奈何我却阴差阳错地被同社团的金融系学姐拉去当了志愿者。
因为社团里只有我一个人,由于没抢到打折火车票,不得不暂时滞留在了学校里。
如果早知道这次志愿之行会葬送掉我身为直男最后的节操,不要说打折火车票了,我他妈飞也要飞回去。
……可惜,千金难买早知道,更买不来我零落成泥的节操。
犹记得那是一个阳光明媚,晴空万里的午后,我扛着比我人还高的塑料展板,满身大汗地在学院楼前的台阶上一步步往上挪。生无可恋之际,看见踩着高跟鞋的漂亮学姐从楼里出来迎接:“小夏辛苦了!”
我眼睛一亮,露出一个欣慰的笑容,挺直腰板蹭蹭蹭往上爬了几步,刚想把板子递过去,耳边冷不防炸开一个声音:“卧槽操操!”
我吓得差点一撅,就见学姐突然收回手理了理头发,一边露出微笑一边哒哒哒从我身边飞快掠过,开口就是一串流利的英语。
我隐约听到几个欢迎之类的词,艰难地扭头去看台阶下走来的几个穿西装的人,不看还好,这一看,我幼小的心灵顿时受到二重惊吓,脚下一个不稳就往后栽了过去。
接着,事情就像那种恶俗狗血小说里写的那样——我被人一个人从后面拦腰接住了。
确切地说,不是腰,是腰往下一点的位置。
电光火石间,我闻到了一股淡淡的男士香水味,心中顿时警铃大作,回头一看,正对上一双熟悉的漂亮眼睛。
“好久不见,”这个人说,“一来就这么热情。”
……热情你妹啊!怎么说话呢!没看到我摔了呢吗?手他妈往哪里放呢!!
我扭了扭身体站直,恶狠狠地瞪了他一眼,趁他没反应过来,捡起地上的板子,起身就嗖嗖嗖一溜烟地往台阶上蹿,跑进大门里。
此时不逃更待何时!
之后一个小时,我一直躲在离接待大厅远远的角落里打杂摸鱼,不是我怂,在未摸清敌人底细的情况下,战略防御性撤退才是正确的。
然而一层楼也就那么点大,躲不到哪里去,我实在憋不住去上了个厕所的工夫,就好死不死又碰见他。
这人缓步走到我旁边,慢条斯理地解开西装裤腰带,动作优雅得好像不是来撒尿是来选美的。
切,装逼。整些花架子有什么用,真男人还不是胯下见真章。
我不屑地往他那边扫了一眼。
……卧槽!真他妈大!
可能是我过于震惊的目光引起了对方的注意,他转头回视我,勾起唇角露出个调侃式的笑来。
笑什么笑,大就可以随便嘲笑别人了吗?肤浅!
我撇了撇嘴,三下五除二系上裤子就往外走。
“小夏。”他突然叫住我。
这音色低低哑哑的,普普通通的两个字像藏了钩子似的,我不由自主地一愣,很快又反应过来。
小什么夏?小夏是你能叫的吗!
我停下转身,满脸严肃地直视他,一字一句道:“我叫夏植!直男的直!”
他走上前来:“我叫沈昳。”
沈昳?名字还起的怪好听的……不对!谁他妈要跟他交换名字了?他难道没听出来我这是警告吗!
果然,直男和基佬的脑回路天生不同,和这人暗示什么根本没用,倒不如干脆摊开来说。
思及此,我转着脑袋四下打量一圈,确定洗手间里没有别人,又走到门口把门关上。
做这些的时候,这人一直饶有兴味地打量着我,什么也没问,甚至还在我使劲关门的时候上来帮了一把。
我深吸一口气,伸手从外套内袋里掏了掏,拿出一叠人民币,怼到他面前:“拿去!”
他的眼神里多了些许讶异,道:“你天天带在身边?”
那能怎么办?要不是怕自己存进卡里了就舍不得拿出来,压在枕头底下又睡不好,他以为我乐意天天揣口袋里吗?
本以为还了钱就一了百了,他却突然道:“如果我说我不想要了呢?”
我冷哼一声,凶神恶煞道:“那可由不得你。”
我管他乐不乐意要?反正不要也得要!
“钱还给你,我俩之间的事就一笔勾销了!你之前占我便宜的事我不计较,但你绝对不能把我在gay吧打工的事说出去!”
万一一传十十传百,让学校里的人都知道了,我接下来两年就别想交到女朋友了。
谁知他脸上却露出抓到把柄了的表情,不紧不慢道:“那可由不得你。”
靠!威胁我还抄袭我台词!
我气得要命,还想再辩驳几句,却冷不防听见厕所门口传来开门的声音。
我心中一惊,莫名的心虚感让我一下子跳起来,拉着面前这人就躲进了旁边的隔间里。
他不明所以地跟着我进来,眼里带着些啼笑皆非,开口道:“你……”
我耳尖地听见不少人进门的声音,忙一个猛子扑上去,赶在话出口前捂住了他的嘴。
“嘘——”我冲他比手势。
他先是意外了一瞬,随即很快平静下来,垂眸沉沉地看着我伸过来的手,突然张开嘴唇在我手心舔了一下。
舌尖轻扫过的感觉让我整个人都发麻,大脑一瞬间当机。
卧槽!他他他他,他怎么这么骚!
进来上厕所的人陆陆续续出去了,直到这时我才后知后觉地发现出危险来。
眼前的男人离我仅半步之遥,身高目测比我超出大半个头,长相极具迷惑性,行为举止没下限,最重要的是,这是个对我有意思的基佬。
我他妈脑子是被门夹了吗?!居然把自己和这个男狐狸精关在一块!
见势不妙,我当即打开门就想往外溜,却被对方抢先一步抓住手腕,顺便一把捞上了门。
唯一的生路被断绝,我欲哭无泪,无奈之下露出一个苦涩不堪的笑容,卑微道:“大哥我错了……我真不是故意招你的……我不想搞基……”
话还没说完,面前的人却突然伸手捏住我的左脸,眸光一暗,缓缓凑近到距我两指的距离,低声道:“你不是说你是直男吗?”
“……我帮你鉴定一下。”
我是一个在gay吧打工的直男(五)
话音刚落,他就捏着我的脸缓缓逼近。
我的大脑一片混乱,压根来不及思考,下意识想伸手挡住自己的嘴唇,然而下一秒,温热的触感却落在了我的脸上。
确切地说,是左脸靠近嘴角的位置。
恍惚间,我感觉到他的睫毛扫在我的眼皮上,微痒的感觉让我蓦地联想到了梦里的那个场景。
和当下的情况似乎重合起来,这人亲完我的脸,慢慢抬起头来盯着我看,半响舔了一下嘴唇,轻声道:
“真甜。”
他的手指还在我脸上绕着圈摩挲,我却瞪着眼睛,缓缓陷入了死机状态。
我知道他在亲哪里了。
那地方是老子的酒窝。
这他妈是什么奇怪的癖好?更奇怪的是,为什么明明只是亲了一下脸,我他妈的腿竟然软了?
那天在车上被强吻的时候,勇猛如我都能飞快推开人开门逃窜,可是现在站在这小小的隔间里被人密切注视着,我却有一种逃不掉的恐慌感。
呆愣之际,我隐约感觉到垂在身侧的手上有什么东西在逐渐松脱。
啊……是我风化的节操吗……
我低头看了一眼。
艹!老子的毛爷爷!!
眼见着一整刀人民币即将飞向马桶的怀抱,我瞪大了眼睛还没来得及抢救,斜里突然伸出一只手险险地接住,接着连同我的手一并握住。
这人攥着我的手,拉开我的外套,把钱塞回了我的衣服袋里。
“拿好,别丢了。”
这他妈明明是你的钱啊?非得放我这里是图啥?你当老子是银行还能生息啊?
他还想继续说点什么,袋里的手机却突然响了。
接电话的时候他一边伸手整了整领带,一边目不转睛地盯着我看,半响皱起眉应了一声,看我的眼神颇有那么点遗憾的意思。
门咔嗒一声打开,他迈步走了出去。
我还沉浸在劫后余生虎口脱险的幸福中暗自流泪,却见他走到一半突然转过身来,眯起眼睛盯着我胸前的工作牌,低声重复了一遍我的学号。
“你你你干啥?”
他摇了摇头:“记住了。”
记住什么?他几个意思?这是日后还要来骚扰我的节奏?!
我又气又急,几步跑出去冲着他的背影大喊:“姓沈的,你他妈……”
“小夏?”
我瞬间熄火,转头看向从对面女洗手间出来的学姐,露出了心虚无比的表情。
学姐好奇地看了眼走廊尽头的人影,道:“你和那个同学认识啊?”
“不是……我……”
“看起来关系挺好的嘛。”
“没有……其实……”
“你什么时候认识那么极品的帅哥了,也不给学姐介绍一下。”
“我我我不认识他!”
“又开玩笑,”学姐笑着斜睨我一眼,“既然这样,正好后勤组缺人,你晚上就负责送他们队去酒店吧?怎么样?”
“……”
“麻烦你了啊,改天学姐请你吃饭!”
我望着学姐蹬着小高跟离开的窈窕背影,伸手摸了摸自己的胸口,想看看我弱小的心脏是否还能跳动。
却摸到了那厚厚一叠纸币,在我胸口发出无声的嘲笑。
“学姐,你这是在把可爱的学弟……往弯路上逼啊……”
午饭过后我又留在会场帮着搬了几箱矿泉水,接着回去冲了个澡,剩下的时间就坐在会议厅的角落,一边蹭空调一边旁观各路大佬在台上侃侃而谈,说一些我半个字也听不懂的术语。
昏昏欲睡之际,旁边负责登记签到的女生突然低呼一声:“卧槽,这什么神仙?”
我往台上瞟了一眼,大屏幕前站着的果然是沈昳。
这人的身高在会场里一众老外之间也不显得逊色,长相身材更是不用说,用女孩子的话来说就是妥妥的禁欲系美男。
禁欲个屁,我呸。这人明明骚得没边了。
一想到这个,我顿时又觉得左脸上隐隐的发烫,怎么扇也冷不下来。
脸上这个酒窝我很小的时候就有了,而且奇怪地只长了一边,平时不做表情的时候也会有一个浅浅的凹痕,笑起来就更明显。家里长辈总说酒窝招桃花,然而我从小到大只因为这玩意被女生夸可爱,能处上的一个也没有。原本还郁闷过一段时间,现在看来,原来桃花也他妈分雄雌。
内心悲叹之际,旁边的女生一边拿起手机咔咔连拍,一边拿手肘推了推我:“小夏,我听说……”
我一个激灵:“我跟他不认识!”
“什么?”她奇怪地看我一眼,“听说这个帅哥是你负责的?”
什么负责不负责的,话也要说清楚嘛。
“昂,你要跟我换?”
“我倒是想,可惜没时间,”她遗憾道,“只好拜托你帮忙要个微信了。”
我:“啥?”
“拜托啦小夏,我这一个群的姐妹等着呢,回头请你吃大餐,顺便再拍几张近照就更好了。”
我:“你知不知道其实……”
“啊……不知道他喜欢什么类型的女生呢?”
他喜欢男的。
我当然没敢把这话说出来,只是在心里默默叹了一口气。
直女碰上基,注定要伤心,真是造孽。
晚八点以后,在食堂解决完晚饭,就接到了学姐打来催促的电话,我只好加快磨磨蹭蹭的脚步,跑到会场门口,履行志愿者的职责。
这会参加项目的人已经陆陆续续散的差不多了,我过去的时候只看到沈昳远离人群独自站在一边,一手插着西装裤口袋,连站姿都比旁人风骚两个度。
我脚步谨慎地挪过去,左看右看没发现跟他同队的那几个外国人,奇怪道:“怎么就你一个?”
他道:“他们去酒吧了。”
一听到这个词我就下意识想到gay吧,抬头看了一眼这人,道:“你怎么不去?”
他没有回答,却挑了挑眉,眼神里明明白白写着“你说呢”。
我原意是想嘲讽他假正经,却因为他这一眼而不自在起来,只好转身大步迈开掩饰尴尬:“走了走了!”
到校门口拦了出租车,为了不跟他坐在一起,我飞快蹿上了副驾驶,砰一下关上门。
他从善如流去了后座,不知道是不是因为有司机在所以有所收敛,一路上都没有开口说什么话,很好地维持了高冷人设。
到了酒店附近,我正准备下车,突然间又想到什么,转回身冲司机讨好一笑:“师傅,麻烦给打张发票呗。”
拿发票的时候我抬头一看,正对上后视镜里他看过来的眼神,似笑非笑的。
笑什么笑?还不准我打车报销了?有本事自己来付啊!
下车后,我把发票认认真真折好妥帖收进口袋里,突然听见身旁的人问:“你很缺钱?”
“是啊,怎么了?”我穷得非常有底气。
“那为什么不要我的钱?”
“那怎么能一样?”我说,“这又不是我应得的。”
“你可以让它变成应得的。”
我一愣,“什么?”
拐进一条僻静的小巷,他突然停下脚步,低声道:“想不想跟我做笔生意?”
我立刻警惕地后退两步:“干什么?我是直男,不卖身的!”
“不用卖身,卖点别的。”
“什么意思?”
“白天亲了一下,算五十,从这里扣,”他伸出手指在我胸前轻敲两下,“扣完你就不欠我了。”
我张着嘴,被他充满智慧的想法震惊了。
我错了,他压根不是把我当银行。
这他妈明明是在充会员卡。
想得倒挺美啊我艹!要不要我给你充五百返两百,顺便再打个尊享折扣啊!!
我一眼揭穿他的真面目:“你明明是想掰弯我!我才不上当!”
他没有否认,只是道:“你不是说自己是直男吗?能掰弯的都不叫直男,既然弯不了的话,那你怕什么?”
……听着好像有几分道理。
他不紧不慢地接着道:“你不是很想摆脱我吗?等这笔账两清了我自然会走,你什么也不会损失,还多赚一笔钱,不好吗?”
这人用一把低沉的嗓音娓娓谈起条件的时候,有着莫名的诱惑力,我紧张地咽了下口水,不敢承认自己居然有一瞬间答应的冲动。
我是一个在gay吧打工的直男(六)
“所以呢?你马上答应他了?”
电话那头传来发小掩藏不住兴奋激动的语气,我翻了个白眼,道:“怎么可能。”
我这么矜持的人,怎么会因为一点小钱就轻易抛掉节操。
当然是先象征性地推拒一下啊。
……
短暂的震惊过后,我很快反应过来,端正表情道:“这不太好吧。”
“怎么?”他问。
“万一你到时候……没忍住做了其他多余的事怎么办?”
“嗯?什么多余的事?”
“就……你自己心里没数吗!”
他笑了,接着一本正经道:“我保证不会做不该做的,放心了吗?要不然签个合同?”
还签合同?他真他妈当成一笔正经生意了啊?
我无语极了,实在跟不上这人的脑回路。
“答应了?”他低声催促。
“我……我考虑一下。”
夜晚的街道很安静,巷子里空无一人,我兀自低头思索着自己要是答应了算不算卖身,却没注意到面前不知何时靠近到咫尺之间的高大人影。
“夏植。”沉沉的声音唤我。
我下意识抬头,嘴唇却撞上了他的下巴,一瞬间轻轻擦过的触感分外明显。
还没来得及后退一步,他托住我的脸,顺势就吻了上来。
这一下来的过于猝不及防,我惊讶之下一张口,便让他瞬间得了逞。
靠!这个混蛋!
这他妈还是在街上呢!
和上次在车里不一样,他的动作从容不少,入侵的舌尖沿着唇齿有恃无恐地扫荡,随时可能被人撞见的惊恐使我的肾上腺素疯狂上涌,心跳得像要破开胸口蹦出来。
我使劲推他却纹丝不动,反倒是我自己腿软得站不住,靠着墙往下滑,整个人几乎挂在他身上,被他一手托住大腿往上提。
大脑划过一瞬间的清明,我抓住机会反抗,在他嘴上咬了一口。
咬得有点狠,有淡淡的血腥气,他轻嘶一声,居然不依不饶地捞着我又亲了一会,才将将放开。
我瘫在墙上抹了把嘴,愤怒道:“你他妈有病啊?老子还没答应!”
他依旧离我很近,舔了下嘴角上的伤口,眼神沉了一会才渐渐恢复清明,又伸手揉我的脸。
“……我总得先尝尝甜头。”他说。
低语间,他的气息扑在我脸上,我不适应地扭了扭头,在心里疯狂撇嘴。
尝个鬼啊,我看这奸商是来验货还差不多。
我发现自己能站稳时,便立刻把他推开,这会倒是没怎么使力就成功了。
“这他妈必须得算钱啊,你不准赖账。”
闻言,他的眼里闪过阴谋得逞的笑意,道:“你不是还要考虑一下吗?”
我艹!我猛的反应过来,被坑了!!
这人的手段也太他妈阴了,我气得心肌梗塞,怎么没干脆把他咬死!
可这下怎么办?我彻底踟蹰起来,答应的话就是上了这人的套,可要是不答应,我他妈岂不是被白占了便宜?
往旁边瞄一眼,这人神情怡然自得地往前走,俨然一副胜券在握的样子,看得我心头火大。
尽管脑子里还是一团乱,但我实在不想让这人这么快如愿,怎么着也得先整整他,以报刚才被坑之仇。
思及此,我蓦地停下脚步,道:“酒店就在前面,大厅里有其他志愿者接待,我先回去了。”
他转身看我:“决定好了?”
我沉默片刻,露出一个不怀好意的笑容,迎着他的眼神上前一步,伸手拉着他的领带往下拽。
他微讶,但还是跟着俯下身,看我要做什么。
我仰头凑近他耳边,动作没控制好,嘴唇不小心在他耳根处蹭了一下,明显感受到他整个人一僵。
我没多想,自顾自压低了声音恶狠狠道:“你他妈有本事自己猜啊!”
说完我转身就逃,跑到十步开外后停下,转身发现他还一动不动站在原地,猖狂地笑了一声:“等着,爷爷我明天再告诉你!”
……
虽然损失很大,但我最后好歹算是扳回一城,想起来就觉得心情好受了许多,因而不无得意地把过程告诉了我发小。
她那头却又突然没了声音,我隐约听到压低的不断吸气声,顿时有了不太好的联想,她该不会又掉到床底下了吧?
“艹!”她突然大吼一声,“老子面膜笑裂了!”
我:“……”
那头一阵窸窸窣窣,大概是把面膜揭了下来,她的声音正常了不少,憋着笑道:“小夏夏,你是真的傻啊。”
“怎么说话的?”我气道,“我哪里傻了?”
她却没有回答我的质问,只是叹了口气道:“这个大一,真他妈是个商业鬼才,你斗不过他的。”
เกิดเป็นโม่งแท้จริงแสนลำบาก แซะนักเขียนก็โดนด่าว่าลูสเซอร์ พอไม่แซะ ไม่พูดถึง ก็โดนโม่งด้วยกันด่าว่าไอ้พวกอวยนักเขียน กุเค่ด 55555 ชีวิตมึงจะยึดโม่งเป็นสรณะอะไรเบอร์นั้น
>>430 อยากคุยก็ได้ แต่คงไม่ได้ความเห็นที่มึงอยากได้นะ กูสายขี้สงสาร
อันนี้ความเห็นส่วนตัวกู ถ้านักเขียนเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ห้าปีก่อนจริง เป็นช่วงที่ยังไม่มีใครสนใจเรื่องลิขสิทธิ์ภาพเมจ เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจให้เป็นฟิค แค่ยืมภาพมาเฉยๆ กูก็เห็นใจนักเขียนแหละ รู้ว่าสมัยนี้ตื่นตัวแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่สมัยโน้นตอนเขาทำเขาไม่รู้ ไม่ได้นึกว่ามันจะตัดทางทำมาหากินตัวเองทีหลัง และนี่ก็ตัดไปบ้างแล้วด้วย ผลงานชิ้นต่อไปคงไม่มีใครซื้อไปทำซีรี่ส์อีก จะขายให้สนพ.ก็ยาก ถามว่าถ้าพลาดไปเพราะไม่รู้ครั้งเดียว อนาคตสายงานนี้ริบหรี่เลยเนี่ยมันแรงพอรึยัง สำหรับกู กูว่าแรงพอแล้ว เขาต้องฮึดอีกมากกว่าจะกลับมาที่เดิมได้ ใครยังเจ็บใจอยากโจมตีเขาต่อก็ตามอัธยาศัย แต่กูไม่เอาด้วยละ
แล้วจากประสบการณ์เลยนะเผื่อนักเขียนมาอ่าน ถ้าไม่มีความสุขแล้วก็เดินออกมาเหอะ สายงานเขียนเนี่ย ไปทำอย่างอื่นเงินดีกว่ามาก มีเงินแล้วก็จะมีความสุขเอง
เคยดูไรท์รุ่นที่เขียนมาตั้งแต่หลายปีก่อนคุยกับไรท์สายฟิครุ่นหลังๆนี้เรื่องยืมเมจ มันไปกันคนละทางจนคุยกันไม่รู้เรื่องเลย เรื่องเอาภาพมาใช้ผิดเรื่อลิขสิทธิ์แน่ๆแบบไม่ต้องถกแล้ว แต่รุ่นก่อนๆนะแบบแต่งนิยายมาก่อนแล้วค่อยหารูปมาแปะ เหมือนแคสคนมาแสดงเฉยๆ คือหามามั่วๆแบบมักง่ายชอบหน้าตาไม่ได้สนเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ไรท์ฟิคจะเป็นแนวมองเมนเป็นหลักแล้วสร้างauมาให้เมนอยู่ พอเจอรุ่นก่อนใช้เมจก็ไปหาว่าเค้าเกาะด้อมหากินกับชื่อเสียงเมนแบบจงใจไปแล้ว ยิ่งโดนถอดเมจยิ่งโมโหใหญ่เพราะเหมือนโดนกำจัดเมนออก อีกฝ่ายจะรู้สึกว่าถ้าห้ามใช้เมจทางเค้าก็เปลี่ยนให้แล้วไงยังโกรธอะไรอีก
เอาจริงๆพวกเอารูปคนจริง/ครต.เรื่องอื่นมาใช้เป็นอิมเมจตลค.เนี่ย ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัวหรอกว่าเอารูปมาแปะเฉยๆหรือแต่งแฟนฟิค ไม่เกี่ยวกับว่ารูปที่ใช้มีด้อมมีชิปเปอร์เยอะมั้ยด้วย เพราะคนจะชิปต่อให้อยู่คนละเรื่องหรือไม่มีโมเมนต์มันก็จิ้นได้ แต่ส่วนใหญ่พวกนข.ที่ใช้รูปคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันจะไม่โดนด่าเพราะถื อว่าไม่ได้เกาะคู่ชิปดังไง ถ้าจะอ้างว่าสมัยนั้นใครๆก็แปะอิมเมจก็มีนิยายอีกตั้งเยอะที่ไม่แปะป้ะ อย่าแถเลยว่าไม่ได้เกาะกระแสหรือไม่ได้ชุบฟิค มันปลอม
>>445 มึง แต่งนิยายเนี่ยประเด็นอื่นยังคิดว่าเรื่องบังเอิญหรือพลาดได้ แต่เรื่องแปะอิมเมจส่วนใหญ่ที่โดนด่ากันเนี่ยมันชัดนะว่านข.รู้จักคน/ครต.ที่เอามาใช้ ดูจากเคสล่าสุดนี่ก็ได้ เม้ามอยกับนักอ่านอย่างนู้นอย่างนี้ พอตอนหลังเป็นไงล่ะ ไม่รู้จักส่วนตัวค่ะ กุมองบนแทบไม่ทัน
>>446 นักเขียนที่แต่งเรื่องก่อนแล้วเอาศิลปินที่รู้จักมาลงเป็นเมจทีหลังก็มีนะ
แล้วเอาจริงๆ ถ้านักเขียนเขาชุบฟิคเป็นออริจริง กูก็คิดว่าเขาผิดแค่อยากเดินทางลัดน่ะ ใครจะเจ็บใจรู้สึกเหมือนโดนหักหลังกูก็เข้าใจ แต่กูมองว่าดราม่าที่เกิดมันแรงพอแล้ว จะโหมไฟให้คนไม่มีที่ยืนไปเพื่ออะไร เหลือที่ให้คนที่พลาดไปได้กลับตัวบ้างเท้อ~ วันหน้าอาจจะเป็นมึงก็ได้ที่ต้องการโอกาสแบบนี้
กูไม่ใช่พระ กูดักไว้ก่อน
กระแสแบนฟิคชุบออริกลับมาอีกแล้วสินะ
รอบนี้จะมีเรื่องไหนโดนลากออกมาทึ้งอีกมั้ย
เรื่องเก่าๆลากออกมาให้ครบทีเดียวเลยนะ มาทีละเรื่องสองเรื่องกูตามดราม่าไม่ทัน
>>447 กูพลาดเรื่องอื่นได้ แต่เรื่องนี้บอกเลยว่าโนโนโน เพราะ1กูไม่ใช่นข. และ2.กูเกลียดการชุบฟิค หากินจากฐานชื่อเสียงคนอื่นแล้วยังกล้าพูดว่าไม่ได้ทำ คนอื่นอาจจะคิดว่าไม่เป็นไรแต่กูไม่ว่ะ แถมไปส่องเคสล่าสุดมาไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ก็แปลว่าไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดนี่ เรียกว่าพลาดไม่ได้มั้ง และดูแล้วคงไม่กลับตัวด้วย ถึงกูไม่ให้ที่ยืนนข.ประเภทนี้ก็ยังมีคนอีกเยอะที่สนับสนุน ดูจากดราม่าเรื่องนี้แต่ละปีก็รู้แล้ว สนับสนุนกันต่อไป โนสนโนแคร์ดราม่า เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะกันเพียบ
งั้นนักเขียนที่เคยดอยรูปปกนิยายญี่ปุ่นมาแปะในนิยายออริตัวเองก็สมควรโดนตำหนิเหมือนกันมั้ยหว่า? มันก็คือการละเมิดลิขสิทธิ์เหมือนกัน กูไม่ได้พูดถึงเมื่อหลายปีก่อนด้วยนะ เมื่อกลางปีนี้ยังเคยเห็นนักเขียนดังคนนึงทำอยู่เลย (แต่พอมีคนพูดลอยๆในโม่งก็ลบทิ้งเงียบๆโดยไม่ขอโทษ ทำเนียนเหมือนไม่เคยเอารูปคนอื่นมาใช้) อันนี้กูไม่ได้จะดิสเครดิตใครเลยไม่ขอเอ่ยชื่อ แค่สงสัยเฉยๆว่าทำไมการดอยรูปนิยายเรื่องอื่นมามันถึงไม่ได้รับความสำคัญเท่าการดอยรูปศิลปินบ้าง หรือเพราะมันไม่ค่อยมีใครทำแล้วในยุคนี้ เหลือแต่ศิลปินยุคเดียวกับยุคแปะเมจที่ยังทำอยู่ ก็เลยไม่เป็นประเด็น?
>>451 มีคนว่าหลายคนอยู่นะ บางคนก็บ่นในโซเชียล บางคนกดรีพอร์ต แต่อะไรที่มันไกลตัวคนก็ไม่ค่อยเดือดร้อนกันมั้ง เพราะรูปอื่นมันต้องเอาไปเสิร์ชดูก่อนถึงจะรู้ว่าเป็นรูปฟรียูสหรือเปล่า อย่างที่มึงบอกคนที่เห็นแล้วรู้ต้องเคยเห็นปกนิยายญป.เรื่องนั้นมาก่อนถึงรู้ว่าเรื่องนี้ไปเอารูปคนอื่นมาใช้ แต่รูปศิลปินกูว่าเพราะแฟนคลับเยอะเสียงเลยดังกว่า บวกความรู้สึกส่วนตัวด้วย และฐานแฟนคู่ชิปที่มาอ่านมันมีจริงๆเลยยิ่งเป็นประเด็นมากกว่า
สมัยนี้จริงๆก็ยังมีคนใช้รูปคนอื่น(ทั้งคนจริงและรูปวาดของคนอื่น)มาเป็นเมจอยู่นะ แต่ที่กูเห็นเยอะคือแนวชญรักnc18+ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคงไม่ใช่คนที่คอนเซิร์นประเด็นนี้มั้ง มันเลยดูเหมือนไม่มีปัญหา
>>452 ขอบคุณนะ แต่สงสัยว่ากูจะ"พลาด"ในกรณีนี้และกรณีที่คล้ายกัน(ซึ่งคืออะไรไม่รู้)ได้ยังไงในเมื่อกูไม่ได้เป็นนข.หรือสายอาชีพด้านนี้อะมึง
ky คนที่แต่งลงเทรดทวิตเขาชอบให้เราไปเมนชั่นหวีดคอมเม้นมั้ยวะ หรือแค่เฟบก็พอ บางทีกุอ่านแล้วก็อยากเม้นเป็นคำขอบคุณแบบเวลาลงตอนในแอพ แต่ไม่รู้ว่าจะไปเมนชั่นดีมั้ย กลัวรก
ทวิตเตอร์มันมีฟังก์ชั่นจำกัดคนเมนชั่นแล้วนี่ ถ้าไม่อยากให้เมนชั่นก็ควรปิดเมนชั่นไปเลยรึเปล่า (เพราะยังไงตัวเองก็ยังทวีตต่อได้อยู่แล้ว) กูว่าคนไม่รู้ว่าไม่ควรเมนชั่นก็เยอะนา
KY พวกมึงทำใจยังไงกับเรือมึงมันสวนโพกับโลกใบนี้วะ กูเข้าเรือนึงมาได้ประมาณ1ปีล่ะ แล้วเรือกูนับวันยิ่งโดนจิ้นสลับโพกับชาวบ้านวะ ไม่รู้ทำไมที่สวนโพกูจู่ๆถึงได้บูมมาก เจอภาพสวนโพทุกวันจนกูเศร้ามาก
พวกมึงคนสวนโพทั้งหลาย พวกมึงทำใจยังไงวะกับเรือมึงแทบไม่มีคนขึ้น แต่เรือที่สวนโพมึงดังมาก กูน้อยใจแต่ทำอะไรไม่ได้ คนไม่ขึ้นเรือกูเลย พวกมึงทำใจยังไง บอกกูที
กูไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนบอกให้ทิ้งเรือ แต่กูยังรักเรือกูมาก แต่น้อยใจว่าทำไมเรือมันคนชอบน้อยขนาดนี้ อิจฉาเรือสวนโพกูว่ะ อิจฉาเรือเราที่ใหญ่และดัง แต่เรือเราเหี่ยวเฉามาก
คู่เดียวกันแต่พอสลับโพคือ ประชาชนบนเรือต่างกันราวกับฟ้าเหว กูเศร้ามากอ่ะ มีวิธีทำใจไหม
>>459 เคยเป็นๆเเต่ของกูไม่มีเพื่อนให้ปรึกษาอะ55555เเสดงว่ามึงฟิกโพเเบบจัดๆเลยชะ เเต่กูปล่อยวางล่ะ คือถ้ายึดติดเกินไปรส.ว่ามันจะไม่มีความสุขเลยอะ เเต่ถ้าจะให้เลิกคิดมากทันทีเลยก็คงทำไม่ได้ เพราะก็ต้องเห็นอยู่ทุกวันใช่มะ ส่วนตัวที่กูปล่อยวางได้คือใช้เวลารักษาล้วนๆ ไม่รู้จะมีประโยชน์ป่าวเเต่ก็สู้นะๆ
ขอแทรกหน่อยเพื่อนโม่ง ปกติสนพส่งของมาเกินนี่เพื่อนโม่งทำไงอ่ะ เอาไปขายต่อกันเหรอ พอดีกูเห็นคนหนึ่งในกรุ๊ปสปอย ได้เกินมาสองเล่มเอาไปขายต่อ มันโอเคเหรอวะเห็นนางคอมเม้นแบบดูภูมิใจมาก
>>461 ปกติก็แจ้งคืนนะ ของไม่ควรได้ ให้สนพ.ออกค่าส่งแล้วคืนตอนที่สะดวก แต่ของสนพ.หนึ่งไม่ออกนามคืนแล้วหัวเสียชิบ ส่งมาเกิน แจ้งคืนเราก็แจ้ง เสียเวลาจัดการส่งคืน เอกสารการส่งคืนกับหลักฐานค่าส่งเราก็ส่งให้ แทนที่จะรับผิดชอบคืนค่าส่งไม่อิดออด แม่งต้องให้กูไปวีนตามอีก ต้องส่งหลักฐานอีกรอบถึงจะคืนให้กู กูโมโห
>>461 กูแจ้ง สนพ. นะ นี่เคยซื้อจาก สนพ. นึงแล้วได้หนังสือทั้งเซ็ตซ้ำมา 3 ชุดเลย (เดาว่าน่าจะสลับออเดอร์กับคนอื่น) นอกจาก สนพ. ขอบคุณที่มีน้ำใจแจ้งความผิดพลาดแม้กูจะได้ประโยชน์แล้ว เขาให้โค้ดใช้แทนเงินสดราคาเท่าของที่เกินมาตอบแทนด้วยและไม่ต้องคืนของ จะว่ากูโลกสวยก็ได้ แต่ซื่อสัตย์มีแต่ได้กับได้ว่ะ
ยังไงสุดท้ายกูเลือกส่งของกลับนะ ราคามันแพง สนพ. ส่ง dhl มารับถึงหน้าบ้าน ไม่ต้องเสียเงินสักแดง
>>459 อีกโพแมสกว่าโพที่อวยกูยังเฉยๆนะมันเรื่องปกติของแฟนด้อมอะมึง ได้แต่ทำใจปลงๆบางโมเม้นสายผลิตอีกโพเขาก็น่ารักดีกูก็รีหมด แต่วันดีคืนดีคนในเรือบางคนตื่นรู้กลายเป็นนักฉอดคว่ำเรือล้างทวิตทำเหมือนไม่เคยชิปไม่พอยังด่าเรือว่าชิปเหี้ยอีกนี่กูเจ็บหัวมาก ก็เคยเจอแบบนี้
แปลกใจ ซบโดนชาวนกฟ้ารุมด่า ส่วนโม่งเงียบกริบ โลกกลับตาลปัตรเรอะ หรือพวกมึงแค่ไปด่าบนบกกันหมดแล้ว 55555555 แปลกใจเฉยๆนะเพราะปกติเจอแต่บนบกอวยแล้วโม่งด่า 5555555
หยุดเสพวายเพื่อชาวLGBTกันคะ
เอาเพศอื่นมาใช้หากิรไม่ได้นะ ไม่ใช่เกย์อย่าเสือกเขียนวายนะคะ
https://นกฟ้า.com/Ryoutes/status/1471341953451057159
>>468 อ่านทั้งเธรดแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่า สรุปต้องการให้ช่วยซัพคอมมู หรือเลิกแต่งไปเลยกันแน่ เพราะดูจากที่เขาพูดมาแสดงชัดว่าไม่อยากให้ทำควบคู่กัน ในฐานะที่กูเป็น straight สาววาย ที่มองว่าตัวตน lgbt ก็หลากหลายเช่นเดียวกันกับ straight หรทอแม้กระทั่งพวก homophibia มันไม่แปลกที่จะ lgbt ออก feminine มั้ยอะ กูนี่ไปร่วมม็อบ lgbt ใน กทม. แทบทุกม็อบ ชอบความครีเอทสร้างสรรค์ของคอมมูในการเรียกร้อง และอยากช่วยผลักให้ทุกคนเท่าเทียม มาเจอชาว lgbt ด่าเรื่องผลิตงานออกมาอย่างนี้ กูเลิกเป็นหนึ่งในเสียงผลักดันดีกว่า เฟลสัสที่มองแต่ว่าคนนอกเพียงใช้คอมมูตนอย่างไม่เคารพกัน เมื่อคนนอกวงแตะต้องไม่ได้ เอาลงงานศิลป์ไม่ได้ ทำเหี้ยอะไรไม่ได้สักอย่าง จะให้ช่วยผลักดันก็แปลกๆ มั้ยวะ เลือกอีกทางคือทิ้งเลยดีกว่า ไม่ให้ค่า ไม่สนใจ ต่างคนต่างอยู่ไป รณรงค์ถ้าการเมืองดีก็ปล่อยเบลอเรื่องนี้ไปแม่ง สมรสเท่าเทียมก็รอศาลมันเปลี่ยนคำวินิจฉัยด้วยตัวเองไป ไปช่วยร้องความเป็นธรรมแต่เอะอะก็ออกมางอแงทุกอย่าง เดี๋ยว straight ทำอะไรที่ได้ผลประโยชน์เข้าตัวเองด้วย (ในที่นี้กูหมายถึงงานวายของกู) ก็โดนด่าอีก เอาใจไม่ถูกแล้ว เฮ้อ
>>471 นี่อ่านในเธรดแล้วงงหลายอย่างเหมือนกัน ที่งงสุดคือบอกว่าไม่ว่าอะไรเลยที่จะเขียนนิยายวายแต่รับไม่ได้ที่มาเขียนแต่เน้นเรื่องบนเตียงแบบนั้นแบบนี้พอเป็นนิยายวาย ยังไงดี แล้วคนที่เป็น straight เขาต้องรู้สึก offense กับนิยายแนวโรแมนซ์ชายหญิง 18+ที่มีอยู่ล้นตลาดมั้ยวะ 5555 อ่านโด h นี่ต้องรู้สึกผิดหรือรับไม่ได้งี้เหรอ หรือเพราะตัวคนเขียนน่าจะเป็น straight เลยไม่ต้องรู้สึกต่อต้านก็ได้ อิหยังวะ ต้องการอะไร??? แล้วมันก็มีคนเขาตามอ่านแนว pwp ทั้งแบบ fm mm มาตลอด อย่างงานฝั่งตะวันตกที่คนเป็นเกย์เขาเขียนเองเลยมันก็มีแนวแบบนี้เยอะแยะอะ งงในงง
ป.ล.จำได้ว่าประเด็นแบบนี้เคยมีในทวิตไปรอบนึงแล้วนะเรื่องคอมมู lgbt ไม่ชอบให้ straight เขียนวายอะไรเนี่ย นี่มันกลับมาอีกแล้วเหรอ
>>473 กุคิดเหมือนมึงเลย 5555555 นิยายสเตรทเนื้อหา 18+ เน้นฉากยั่วเยมีเยอะกว่านิยายวายอีกมั้ง แต่กุลองคิดๆดู อาจเป็นเพราะแนวนี้มันไม่ได้มีคนเอามาหวีดตามโซเชียลบ่อยๆเหมือนวายด้วยแหละมั้ง ในทีแอลนี่กุเจอสาววายหวีดเมะเยดุ เมะคxยใหญ่ค้ำสวรรค์แทบทุกวัน แต่คนเสพแนวชญเขาเสพกันเงียบๆอะ สาววายจะกรี๊ดเนื้อหา nc เปิดเผยกว่า คนในคอมมูที่เกลียดสาววายอยู่แล้วเลยหยิบมาด่าได้ง่ายกว่า มั้ง
>>474 พอพูดแบบนี้ก็เข้าใจมานิดนึง แต่คนที่เขาหวีดกันแบบนั้นมันก็ตัวละครในจินตนาการนี่หว่า ไม่ต่างจากพวกคุชายที่พูดถึงตัวละครผู้หญิงประมาณนั้นเหมือนกันอะ นี่ว่าพวกคุชายก็โม่ยใส่สาวๆ 2d เปิดเผยนะ คือถ้าเป็นการ sh ทางคำพูดกับคนมีตัวตนจริงเช่นดารา แล้วจะออกมารณรงค์ว่าให้เลิกให้นึกถึงว่าตัวเองโดนจะรู้สึกยังไงอันนี้คือเก็ตและเห็นด้วย แต่นี่มันตัวละคนในนิยาย/การ์ตูนอะ มันต้องเดือดขนาดนั้นเลยเหรอ? เออ แต่เรื่องคนจดจำภาพลักษณ์สาววายจากพวกชอบหวีดน่าทีแอลว่าเป็นพวกน่ากลัวเหมือนพวกคุชายที่ทำตัวโม่ยๆนี่อีกเรื่องนึงนะ 5555555555
เอาตรงๆขนาดกูเสพนิยายวาย กูยังกลัวสาววายบางประเภทเลย เคยหลงไปเจอพวกชงคู่ชิปอนิเมะแบบเอาคลิปโป๊ชญมาชง แล้วบอกว่าฝ่ายรับมีฮี๋ (บอกเลยก็ได้ว่าด้อมจจส) เจอแบบนี้กูก็สะพรึงนะ สาววายบางคนก็อาการหนักจริง ทรีตตัวละครชายเป็นผู้หญิงเลย
>>473 มุมมองคนนอกอะมึง เวลาคนพูดถึงนิยาย/ซีรี่ส์วาย (เจาะจงที่เป็นชช.) เขาจะนึกถึงเรื่องเรท ซึ่งมุมมองแบบนี้มันก็จะมีอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะสื่อมันเยอะมาก เทียบง่าย ๆ ก็คู่จิ้นเลย ชัดสุด คู่จิ้นชายหญิงไม่มีทางได้เลื้อยกันออกรายการเพื่อเซอร์วิสติ่งอะ แต่พอเป็นผู้ชายทั้งคู่ดันทำได้ กูรู้สึกว่ามันทำให้เกย์ดูเป็น sex fantasy ของสาววาย ซึ่งส่วนมากก็เป็นสเตรทอะ นึกออกปะ
ตัวละครนี่กูว่าความชอบส่วนตัวไม่ควรจะไปยุ่งเรื่องคนอื่นวะ แต่ชงไอดอลแล้วกรี๊ดเป็นคนสวยขา ลูกสาวขานี่กูเห็นด้วยกะเค้าว่าไม่โอเค
กะเทยในจ๊อกจ๊อก ยังเอาพระเอกซีรีส์วายไปเป็นวัตถุดิบในการชักว้าวเลยมึง ไม่ใช่แค่สาววายหรอก
เพียงแต่ว่ากะเทยเค้าหื่นในกลุ่มของเค้า ไม่ค่อยหวีดนอกกลุ่ม
แล้วทำไมพวก lgbt ไม่ห้ามกะเทยหวีดผู้ชายบ้างวะ
ถ้าถามกู หวีดในพื้นที่ของตัวเองแบบเงียบๆ ไม่ให้คนนอกรับรู้ กูว่าก็โอเคนะ
ยกเว้นคนนอกเข้ามายุ่งวุ่นวายในพื้นที่ของกูเอง
อันนี้ต้นเรื่องมาจากนิยาย/ซีรีส์เรื่องไหนไหม หรือเขาแค่พูดรวม ๆ ทำไมดูเดือดมากขนาดนั้น
บางทีก็อยู่ในเน็ตกันเยอะเกินไป โลกจินตนาการทั้งนั้น
อยากแนะนำให้ออกไปเดินเล่น ไปใช้ชีวิตบ้าง . . .
โลกจริงๆไม่มีคนสนใจหรอกว่าจะเป็นอะไร จะทำอะไร
อยากเห็นนิยายรัก(ไม่ใช่แนวเรื่องเสียว)ที่"เกย์ไทย"เขียนเป็นบุญตา เพื่อนโม่งคนไหนมีในลิสต์บ้างมั้ยอะ อยากลองอ่านน
>>484 เฟติชแล้วไงหว่า งี้ต้องห้ามผู้ชายเฟติชร่างกายผู้หญิงด้วยไหม ถ้าการเฟติชคือการมองเป็นวัตถุทางเพศจะชญหรือชชญญก็ไม่ต่างกัน แล้วเอาจริงฝั่งเกย์เคยเสพแนวชญแล้วเอาพระเอกไปจิ้นเกย์กันมั่งไหม ถ้าห้ามสาววายเฟติชเกย์ก็ต้องห้ามเกย์กรี้ดผชในสื่อเสตรทเช่นกันสิ ต่างฝ่ายตามต้องเสพตามเพศสภาพเท่านั้น ห้ามข้ามสาย
มันน่ารำคาญตรงสาววายชนม์ที่พราวด์ว่าตัวเองช่วยให้แสงส่อง lgbt อ่ะ แต่จริงๆ ไม่ได้ช่วยห่าอะไรเลย
เฟติชก็ยอมรับว่าเฟติช แล้วก็ต้องยอมรับด้วยว่าตัวเองแค่เฟติชวาย ไม่ได้ช่วยผลักดัน lgbt เลย ก็แค่นั้นเอง สาววายชนม์โกรธอะไรกันวะ
เอาจริงๆ นะ ไม่ผลักดันแล้วผิดตรงไหน? มีเฟติสมันแย่ยังไง? แล้วอย่างที่ออกมาพูดอย่างในเธรดนั่น คำนึงบอกสาววายต่ำ คำนึงบอกสาววายแย่ อ่านแล้วเจอแต่อคติมากกว่าการเรียกร้อง จะขอความร่วมมือให้เห็นใจกันด้วยคำพูดคำจาแบบนั้น ก็เชิญรอสมรสเท่าเทียมเงิบต่อไปเถอะ
กูสงสัยว่าทำไมมองสาววายมีแต่ cis straight คนรอบตัวกูมีทั้งเลส ไบ แล้วก็ทรานส์ รสนิยมแต่ละคนก็แตกต่างกันไปอีก นี่ไม่ใช่ lgbt เหรอ แล้วการผลิตงานที่ตรงตามความต้องการตัวเองมันผิดตรงไหน หรือต้องเป็นเกย์เท่านั้นหรือจะสร้าง/เสพคอนเท้นท์ชชได้
เฟติชก็ยอมรับว่าเฟติช คัลเจอร์วายมีส่วนทำให้เกย์โดนสเตอริโอไทป์ก็ยอมรับว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แค่นี้เอง ง่ายๆเลย แต่ขนาดเรื่องง่ายๆแค่นี้สาววายหลายคนยังทำไม่ได้ คนเค้าเลยด่ากันอยู่เรื่อยๆไง
>>488 กลับกัน ส่วนมากกูเจอความน่ารำคาญแบบที่ถ้ามึงจะเสพวายมึงต้องโว๊คด้วย มึงต้องรับผิดชอบคอมมูด้วย ทั้งที่กูแค่เฟติชในแนวของสื่อบันเทิง ในชีวิตจริงกูช่วยรณรงค์สมรสเท่าเทียมและการไม่แบ่งแยก เข้าใจความลื่นไหลทางเพศ คนเรามีได้หลายแบบ แต่ด้านเสพวายกูมองเป็นเรื่องแต่งเรื่องแฟนตาซี กลับโดนนักฉอดบอกจะเสพแบบนี้ไม่ด้ายยย คอมมูไม่ชอบ มึงต้องโว็คๆๆ ห้ามอ่านนิยายเกย์ ห้ามจิ้นเกย์ มันทำร้ายคอมมู หื้ม?
คนอ่านวายแม่งก็มีทั้งอ่านวายอย่างเดียวแต่เหยียดเกย์ กับอ่านวายและสนับสนุนเกย์ มีทั้ง 2 กลุ่มแหละ
แต่มาโพสต์แบบนี้ มันเหมือนผลักไสคนอ่านวายออกไปมากกว่า
คนอ่านวาย ที่ชอบเคะตัวบางร่างน้อย ชอบเมะขวยใหญ่ยาว อาจจะสนับสนุนเกย์ในชีวิตจริงก็ได้ด้วยมึง
ไม่จำเป็นที่ fetish แล้วจะไม่สนับสนุน lgbt
จะมีคอมมูชาวเกย์ที่ช่วยผู้หญิงเรื่องโดนคุกคามทางเพศจากผู้ชายที่เสพAVจนแยกแยะไม่ออกมั่งไหมนะ
ถ้าจะห้ามสาววายผลิตงานที่เป็นชช หรือญญ เพราะทำให้lgbtดูมีภาพจำเป็นsex objectหรือสร้างค่านิยมแปลก งั้นกูห้ามคนอื่นเขียนโดโป๊ๆชญที่ทำให้ผู้หญิงโดนมองเป็นsex objectบ้างได้ป่ะ
คิดว่าชาวlgbtจะมีมูฟเม้นด่าอีสาววายเลวทุกตัว ไล่ให้เปลี่ยนตลค.ในนิยายวายเป็นชญ.มั้ย
บางทีกูก็งงนะ ทำไมพวกเฟมทวิตไม่มาฉอดสาววายชนม์กันมั่งว่ะ นี่แหละแม่งตัวกดขี่พอๆกับปิตา อ้อลืม แม่งคนเดียวกัน...
ถ้าลองสมมุติว่ามีผู้ชายสายยูริมาบอกว่ายูริไม่ใช่เลส+เลส หรือทอม+เลส แต่เป็นผู้หญิงแท้ๆสองคนมารักกัน แม่งต้องมีโดนด่ากลับมั่งล่ะว่าเหยียดเพศด้อยค่า กดขี่ความเป็นหญิง สร้างภาพจำผิดๆส่งต่อความไม่รู้
รับบทนางคิดเอาเอง พูดทำนองแบบนี้อะเหรอที่อยากได้คนตระหนักช่วยเรียกร้องเพิ่ม https://twitter.com/kikonwara/status/1471423275460792321
กุขำ lgbt ไม่ชอบที่สาววายเอาเกย์ไปแต่งนิยาย
แต่กะเทย ก็เอารูปชายแท้ไปชักว้าวเหมือนกันนะ
แม่งก็พอๆกันแหละ จริงๆอยากให้ต่างคนต่างอยู่ ถ้าไม่ได้หวีดออกหน้าออกตา
สำหรับกูเนี่ย หวีด 2D นิยาย มังงะ อนิเมะ ที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง กูหวีดตลอด
แต่กูไม่หวีดผู้ชายจริงๆ
ถ้ามันไม่ถึงขั้นระรานคนตัวเป็นๆ ก็ควรจะปล่อยผ่านได้ปะวะ
ยกเว้นสาววายไประรานเกย์ในชีวิตจริง พี่คะ พี่เป็นรับหรือรุกคะ พี่เยกับแฟนพี่ท่าไหนบ้างคะ อะไรแบบนี้
ถ้าไประรานเกย์ตัวเป็นๆ ค่อยมาด่า
กูงงความดัดจริตห้ามเขียนเนื้อเรื่องเน้นเยกัน จะเขียนเพศกูห้ามเขียนติดภาพจำกูหมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์ ก็กูชอบ pwp อ้ะ
แฟมทวิตบางคนยังเรียกผู้หญิงด้วยกันว่า “สัตว์เลี้ยงของปิตาธิปไตย” ไปเอาอะไรมาก ผู้เหมือนมีความรู้แต่ความจริงไม่รู้อะไรเลย
ไม่เข้ามจตรงที่พูดเรื่องนิยายเน้นเย หรือว่า kink เฉพาะทางแบบในที่สาธารณะอะไรงี้ คือพวกนี้มันก็คือพอร์นไม่ใช่หรอ คือกูไม่เข้าใจว่ามันทำไม
>>511 กุเข้าใจว่า >>510 ไม่เข้าใจคนที่ด่านิยายวายว่ามีแต่เน้นเย+kink นะ (สงสัยพวกที่ด่ามันอ่านแต่แนวนี้)
กูก็อยากบอกพวกที่ด่าว่า อย่าสำคัญตัวเองนักเลย อยากให้คนอื่นปฏิบัติด้วยอย่างปกติก็ทำตัวปกติๆ จะเรียกร้องโวยวายดราม่าอะไรนักหนา คนอ่านคนเขียนนิยายไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย ในชีวิตจริงมันไม่ได้อยู่ในความสนใจคนเขียนคนเสพเลยด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็สำหรับกูแหละ แยกแยะชีวิตจริงกับเรื่องแต่งก่อน ตัวเองยังไม่เหมารวมไม่ได้เลย
มันไม่มีใครบังคับใครได้ นิยายดีก็มีคนอ่าน แค่นั้น อยากให้นิยายโว้ก ๆ ดังก็แต่งให้มันดี ๆ มีมาเยอะ ๆ
>>512 +1
>>505 อยากได้ความปกติก็ควรเรียกร้องแต่จุดที่เป็นสาระสำคัญ สิทธิสมรส สิทธิในการเข้าทำงาน อะไรงี้ มาโวยวายผิดจุดแบบนี้คนที่เข้าใจและสนับสนุนก็ยิ่งเอือมนิสัยอ่ะ บางเรื่องที่โวย het เองยังหนีไม่พ้นเลยโดนเหมือนกันโดนโดยสันดานของมนุษย์นี่แหละไม่เกี่ยวว่ามึงจะ homo หรือ het บอกว่าอยากได้รับการปฎิบัติเหมือนกันมึงต้องเลิกแบ่งว่ากลุ่มตัวเองเป็นเหยื่อทุกสิ่งอันอยู่กลุ่มเดียวก่อนป่ะ
แต่ใดๆกุรู้สึกว่า lgbt ตัวจริงที่เดือดร้อนน้อยมากนะ มีแต่พวก wannabe อยากจุดแสง ที่ออกมาหาจุดหาซีนซะมากกว่า
กุว่าปัญหามันอยู่ที่การแบ่งหมวดและวางขายด้วยว่ะ ของไทยถ้าตัวเอกเป็นชชก็ปัดเป็นวายหมด แต่ญปถ้า bl คือรู้กันว่าเป็นวายมีฉาก nc ส่วนพวกนิยายทั่วไปที่ตัวละครเอกเป็น lgbt บ้านเขาก็ไม่ได้มาอยู่หมวด bl อ่ะ แล้ว bl ญี่ปุ่นไม่ได้วางขายในร้านหนังสือเรียงเป็นตับแบบไทยด้วย ต้องไปหาตามร้านหนังสือสายอนิเมะถึงจะเจอวางเป็นแผงๆ พวกร้านทั่วไปมีวางอยู่จึ๋งเดียว ของบ้านเราวายมันขายเอิกเกริกเกินไป หนังสือเบสท์เซลเลอร์ทุกร้านมีวายหมด จะโดนฉอดบ่อยก็ไม่แปลก
>>514 จริง กูแฝงตัวอยู่ในกลุ่มกะเทยจ๊อกจ๊อก แม่งไม่เห็นเหมือนพวกเฟมทวิตเลยมึง
วันๆโพสกันแต่รูปห่อหมก แล้วก็ตามหาวาป กูนี่ดูรูปห่อหมกตุงๆจนอิ่ม หรือไม่ก็คุยกันเรื่อง mk ระหว่างถอกแล้วกับยังไม่ถอก อะไรอร่อยกว่ากัน
>>515 ก็จริงนะ หมวดวายสมัยนี้ขายกันโจ่งแจ้งมาก แต่กูก็พอเข้าใจ เพราะมันขายดี ยิ่งขายดี ยังต้องวางขายให้มันเด่น
เฟมทวิตบอกเกย์ตุ้ดที่ชอบอ่านวายว่า ตัวเองพอใจไม่ได้หมัยความว่าคนในคอมมูคนอื่นจะโอเคนะคะ แล้วจะมาลดทอนมุฟเม้นไม่ได้นะคะะะ ตร่กกกกก
ยูทูปเบอร์ที่รีวิวนิยายวายเป็นตุ๊ด-เกย์ตั้งหลายคนนะ กุเห็นเขาก็รีวิว+หวีดกันเหมือนสาววายนี่แหละ
>>518 กูก็เกย์นะ กูอ่านนิยายวายแม่งตั้งแต่นิยายวายยังไม่ได้เอามาขายกันอล่างฉ่างแบบทุกวันนี้อะ อ่านแม่งตั้งแต่สมัยที่มีแต่ตัวเอกประเภท กูไม่ได้ชอบผู้ชายกูชอบแค่มึง มาจนทุกวันนี้แม่งตัวเอกแทบจะมีทุกรสนิยมทางเพศแล้วมั้ง คือบางทีกูก็เกาหัวนะ เฟมทวิตเรียกร้องอะไรให้กูนี่ถามกูรึยัง คิดแทนกูเก่งกันจัง
กูว่าตอนกูสมัยดูละครแล้วเห็นละครสอนความรู้เรื่องการแพทย์หรืออะไรทำนองนี้ผิดๆ แล้วบ่น กูว่ากูปสดแล้วนะ แต่เฟมทวิตแม่งปสดกว่ากันเยอะเลย แล้วทำให้เฟมที่เขาเรียกร้องความเท่าเทียมกันจริงๆ มีเหตุผลดูแย่ไปด้วยเลย
KY กูสงสัยนิดนึงเพื่อนโม่ง ช่วงนี้มีคนอวยงานบก.เยอะ บอกว่าที่เล่มนั้นเล่มนี้แปลดีเพราะได้บก.ดี นักแปลงั้นๆ มันจริงเหรอวะ
ถ้าบก.ขุดงานห่วยๆขึ้นมาเป็นงานขึ้นหิ้งได้ ทำไมบก.ไม่แปลเองอะ
ถ้าบก.แปลเองไม่ได้ แล้วรู้ได้ไงว่างานที่บก.เกลามามันตรงกับต้นฉบับ
ตกลงไอ้เล่มที่ชมๆกันว่าบก.เกลาดีนี่กูกำลังอ่านสำนวนบก. สำนวนนักแปล หรือว่าสำนวนนักเขียนวะ
ว่าแล้วขอบ่นหน่อยเหอะ งานบางเล่มกูไม่ได้กลิ่นสำนวนจีนเลย สำนวนไทยแบบบุพเพสันนิวาสล้วนๆแต่เซ็ตติ้งจีนเฉยๆ
>>526 ถ้า บก ทำมากขนาดนี้คงไม่มีกรณีประโยคหายแปลผิดชื่อตัวละครสลับกัน อะไรแบบนี้มั้งเพื่อนโม่ง แต่อาจจะเพราะลูกรักลูกชังเลยตรวจเข้มเป็นเรื่องๆ อันนี้พูดถึงกรณี สนพ อื่นๆด้วยนะ
เรื่องไม่แมสก็มั่วๆได้เหรอวะ ไม่ได้สิกูจ่ายเงินซื้อนะ กูก็อ่านจีนไม่ออกประโยคตกหล่นกูก็ไม่รู้หรอก
>>526 จริงๆกูคิดเหมือนมึงเลย บก.มีหน้าที่เช็คความถูกต้องปะ พวกทับศัพท์ ดูบริบทคำ ดูคำซ้ำ ไม่ใช่แก้สำนวน แต่กูเจอทวิตนึงบอกว่างานแปลบางเล่มบก.แทบจะงัดขึ้นมาจากตาตุ่ม กูเลยสงสัยว่ามันขนาดนั้นเลยเหรอวะ เป็นไปได้เหรอ ถ้าบก.ทำได้ขนาดนั้นทำไมไม่ไปรับงานแปล เงินดีกว่าไม่ใช่เหรอ
เวลาทำแย่ด่านักแปล เวลาทำดีชมบก. มันใช่เหรอวะ
เวลาด่า ด่าคนหนึ่ง เวลาชม ชมอีกคนหนึ่ง
แฟร์ๆหน่อย
ทำแย่ก็ด่า ทำดีก็ชม
ไม่ใช่เกลียดมาก จนเวลาเขาทำดี ก็โยนความชอบไปให้คนอื่น
เวลาเชฟทำข้าวผัดห่วย ด่าเชฟ
พอเชฟทำข้าวต้มอร่อย บอกวัตถุดิบดีค่ะ เชฟฝีมือยังห่วยอยู่
กูนี่งงกับตรรกะสาววายบางคน
เคสนักแปลกาก บกเข็นจนดีนี่ไปดูเจิ้นก็ได้ที่เห็นชัดๆ
ตอนแปลดีคนก็ชมนักแปล พอตอนหลังไปออกกับเจ้าอื่นแล้วปล่อยงานเผามาคนเลยเพิ่งรู้ว่าก่อนหน้านี้เพราะบกแจ่มเข็นให้ถึงได้ดีขนาดนั้น ก็ด่าทั้งนักแปล ทั้งบกอรุณ แล้วค่อยมาชมบกแจ่มทีหลัง
ใดๆคือถ้าปกตินักแปลแปลดีอยู่แล้วคนอ่านเขาก็ชมนักแปลนี่แหละ เคสที่ข้ามไปชมบกคือเคสที่นักแปลเคยมีปัญหาแล้วงานต่อมาจู่ๆก็ดีขึ้น อย่างฮัสกี้นี่ก็จำได้ว่าก่อนหน้านี้ก็แปลอ่านเข้าใจยากอยู่นะ คนเลยอวยว่าเรื่องนี้กุหลาบทำดี บกดี ฯลฯ
เออยกตัวอย่างฮัสกี้ลองไปอ่านงานแปลอื่นเขาดิ่ ยิ่งสัตบุรุษ ไม่ไหวจะเคลียร์ แล้วไม่ให้ยกความดีให้บก? อะๆกูยกความดีให้คนตรวจคำผิดงั้นก็ได้ เคๆ บกทำหน้าที่เรียบเรียงคำแปลที่นักแปลมา บางทีก็แก้ บางทีก็ตรวจคำผิดไปด้วยเพราะไม่มีคนทำหน้าทีตรงนี้ บางคนก็รับบทบก.กับคนแปลเลยก็มี5555
พวกมึงมาด่านักแปลไม่ได้นะ มีคนรับบทIOอยู่ แยกแยะหน่อยจ้า
กูไม่ได้สงสัยว่าบก.ไม่เก่ง กูสงสัยแค่ว่ามันเป็นไปได้เหรอที่ทุกอย่างดีขึ้นด้วยมือบก.ล้วนๆ บางเคสพูดเหมือนนักแปลไม่มีความดีความชอบอะไรเลย ทุกอย่างอยู่ที่บก. กูเลยสงสัยว่าถ้าถึงขนาดนั้น ทำไมบก.ไม่แปลเองอะ อย่างฮัสกี้ก็ได้ ถ้านักแปลงานแย่จริงๆ ทำไมไม่จ้างบก.แปล หรือถ้าบก.ไม่ถนัดแปลก็จ้างคนอื่นไปเลย ยังไงความสำคัญก็อยู่ที่บก.อยู่แล้วปะ
>>533 เป็นไปได้จ้า บก.ถ้าสนพ.ลงทุน จะมีทั้งเทียบความหมายต้นฉบับ ทั้งเรียบเรียง-เกลาประโยคภาษาไทย บก.ที่ทำทั้งสองอย่างในคนเดียวก็มีแต่ต้องเก่ง ส่วนบก.ที่ไม่เก่งหรือไม่ได้เช็กงาน แล้วนักแปลแปลมามีปัญหาก็จะเห็นได้ชัด
ส่วนทำไมบก.ไม่แปลเอง ก็ตำแหน่งงานก็บอกอยู่แล้ว ไม่งั้นจะแยกตำแหน่งบก. นักแปลทำไม การแปลมันใช้เวลา การเกลาหรือเทียบมันใช้เวลาน้อยกว่า (ในกรณีที่งานดิบนักแปลมาไม่แย่นัก)
>>533 ไม่ๆๆๆ กูว่างานแปล ยังไงความสำคัญก็อยู่ที่นักแปลสิ หน้าที่บก.ควรจะเป็นการเติมบุปผาบนผ้าดิ้นแพร ซึ่งหมายถึงนักแปลทำมาดีมีมาตรฐานนะ ถ้านักแปลทำไม่ดี บก.ต้องมาแก้เกือบทั้งผืนก็ไม่ไหว ซึ่งบางทีบก.ก็อาจจะคาดเดาล่วงหน้าไม่ได้ว่านักแปลจะงานแย่หรือเปล่า แล้วพองานแปลออกมาไม่ดีพอ คนเป็นบก.ต้องทำไงล่ะ ก็คงมีให้เลือกระหว่างแก้เอง แก้มากแก้น้อย หรือปล่อยผ่าน มันคงยากที่จะมีเคสที่บก.จะมาบอกว่างานแปลเรื่องนี้แปลแย่จัง จ้างคนใหม่แปลที แล้วจริงๆ คนเป็นบก.ก็คงไม่ได้อยากแปลเองหรอก ต้องคาดหวังว่างานจากนักแปลโอเคมาระดับนึงแล้ว
ทำไมบก.ไม่แปลเองอะ >> จะยังเรียกเป็นบก.ได้อยู่เหรอ ยังไงนักแปลกับบก. ก็มีขอบเขตงานแยกกันอยู่นะ กูว่าบก.ส่วนใหญ่ก็เป็นนักแปลมาก่อน คือต้องได้ภาษาบ้างแหละ (ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งลอย) เผลอๆบางคนแม่นภาษากว่าตัวนักแปลอีก แต่มาเป็นบก.กูว่ามันควรเน้นสกิลแสกนจับจุดผิดกับพวกสกิลเรียบเรียงมากกว่า คือไปดูภาพรวมแล้ว ไม่ใช้สกิลเดินหน้าแปลถอดความแบบนักแปล
กูว่าคำพูดกูคงทำให้เข้าใจผิด ที่ว่าทำไมบก.ไม่แปลเองนี่กูสงสัยจริงไม่ได้ประชด เพราะกูเคยได้ยินมาว่างานแปลเงินดีกว่างานบก.ไม่ใช่เหรอ ถ้าบก.สกิลเทพ เก่งกว่านักแปลมาก รับงานแปลไปเลยก็น่าจะได้ทั้งเงินทั้งชื่อเสียงปะ สนพ.เองก็น่าจะอยากจ้างคนที่เก่งทั้งถอดความทั้งเรียบเรียงมาเป็นนักแปลมากกว่าจ้างเป็นบก.ไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องจ้างนักแปลไม่เก่งมาแปล จ่ายตังค์เรทงานแปล แล้วให้คนที่เก่งกว่ามาซัพ จ่ายตังค์เรทบก.อะ
ถ้าจะบอกว่าเป็นความชอบส่วนตัว ชอบเป็นบก.ไม่ชอบแปลเอง แต่กูก็เคยเห็นบก.บางคนก็บ่นว่างานแปลบางเล่มแปลใหม่เลยง่ายกว่าเกลานี่หว่า กูไม่เข้าใจตรงนี้ ทำงานยากกว่าเพื่อเงินที่น้อยกว่าทำไม ไม่เก็ต
มึงบอกนิยายแปลดีเพราะบก.ดี นักแปลไม่เกี่ยว
งั้นกูด่าบ้างได้ปะวะ นิยายแปลห่วยเพราะบก.ห่วย นักแปลไม่เกี่ยวเหมือนกัน
>>536 อีกนิดนึง กูไม่ได้คิดว่าบก.ไม่มีบทบาทอะไรนะ อย่างเรื่องไหนที่ไม่มีคำผิด ไม่มีเขียนสลับ ไม่มีข้อมูลพลาดเนี่ย กูว่าควรชมบก.จริงๆ เพราะนั่นคือสโคปงานของบก.ไง แต่บอกว่าเรื่องนี้อ่านรู้เรื่องเพราะบก. นักแปลไม่เกี่ยว อันนี้กูก็จะไม่เข้าใจหน่อยๆ ตกลงบก.ทำอะไร แล้วนักแปลทำอะไร ดึงนักแปลทิ้งไปเลยมั้ยถ้างั้นน่ะ
>>536 คนที่เป็นทั้งนักแปลทั้งบก.ก็มีเยอะนะมึง แต่หมายถึงงานแปลสายอื่นๆ ตามหลักแล้วบก.ต้องแม่นภาษาด้วย แต่มีวงการวายจีนเนี่ยใช้แต่นักแปลหน้าใหม่กับเปิดรับบก.ใหม่แทบทุกไตรมาส แถมไม่ค่อยใช้บก.ตรวจภาษาต้นทางอีก ใช้แต่บก.ตรวจภาษาไทย (เผลอๆไม่มีบก.ตรวจภาษาไทยด้วย มีแต่พิสูจน์อักษร) งานมันเลยออกมาลูกผีลูกคน
>>534 >>535 กูเห็นด้วยกับสองความเห็นนี้
>>536 นักแปลนิยายเล่มที่กูรู้จักทุกคนทำเต็มเวลา ไม่มีทำควบ มีเพื่อนคนนึงแปลดี แต่ไม่รับงานเล่มสักที เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายทุกเดือน มันต้องมีเงินเข้ารายเดือนอะ แต่นิยายเล่มมันได้เงินต่อเล่ม กูว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยมั้ง
ส่วนเรื่องบก.ทวิตบ่นงานแปล น่าจะแค่เสี้ยวเดียวของวงการ แต่บ่นแล้วบ่นอีก อารมณ์แม่เจอมึงทำผิดครั้งเดียวบ่นตั้งแต่เด็กยันโต แต่ถึงขั้นแปลใหม่ทั้งยวง กูวางสิบบาทว่าเป็นที่ที่รับนักแปลรีบๆ ทีละเยอะๆ แล้วเทสไม่ดี ปัญหาเลยย้อนเข้าตัว
>>537 ลองคิดดูว่า ขั้นตอน แปลกับอีดิต อะไรมาก่อนกัน
แปลห่วย>บก.ห่วย=พังกับพัง ถามว่าใครผิดก็ทั้งคู่ แต่ให้บก.มากกว่าหน่อยที่กล้าปล่อยออกมา
แปลห่วย>บก.ดี=ยังมีโอกาสบก.ตบให้ออกมาดีได้ ปกตินอกจากตัวนักแปลกับบก.ก็ไม่มีใครรู้ตรงนี้เท่าไหร่หรอก แต่อาจเทียบจากผลงานเก่าแล้วชั่งน้ำหนักเอา
แปลดี>บก.ห่วย=ถ้าบก.ไม่แก้ ยังมีโอกาสออกมาดีได้ แต่ถ้าบก.แก้เป็นห่วยกว่าเดิมก็คือซวย
แปลดี>บก.ดี=คุณภาพมาตรฐานที่นักอ่านควรได้รับ แต่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องยากไปแบบงงๆ
อ่าว งงนะ
เวลางานแปลมันดีขึ้น ทำไมคิดกันหมดว่า ดีขึ้นเพราะ บก. ไม่คิดว่าดีขึ้นเพราะนักแปลปรับปรุงตัวเองอะ ใจแคบไปปะ
ไปจี้โดนลูกหาบนักแปลคนไหนเข้าเปล่าวะเนี่ย คอแข็งมาเลย
ไม่อยากชี้ลูกหาบ แต่เอาจริงๆคนที่อ่านงานนักแปลคนนี้ทุกเรื่องน่าจะรู้แหละว่าฮัสกี้ได้บก.เกลาเยอะจริงๆ เพราะการเรียบเรียงเอย สำนวนเอย มันเปลี่ยนไปจากงานเก่าๆของเขา (ในทางที่ดีขึ้น) อย่างผิดหูผิดตา ตัวนักแปลอาจฝีมือดีขึ้นด้วย แต่บก.ก็มีผลเยอะ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากรู้ว่านักแปลฝีมือดีขึ้นจริงไหมก็ต้องดูกันไปยาวๆแหละ ถ้าวันข้างหน้าไปแปลเรื่องอื่นที่ไม่ได้บก.ช่วยเกลาเดี๋ยวก็รู้เอง
ขนาดลิ่วเหยายังโดนบอกว่ามึงไม่เข้าใจปรัชญาเอง555555555555555555555555555555 กูละอย่างจี้ ร้อนตัวสัส
งานเขาขึ้นๆลงๆ ถึงกูจะไม่รู้ว่าอันไหนแปลก่อนแปลหลังแต่กูดูที่วันเรื่องนั้นออก มันขึ้นๆลงๆ แล้วคนก็พูดประมาณนี้เยอะ ถกเรื่องนักแปลคนนี้ไปหลายรอบละนะ แล้วคนที่เปิดเรื่องนักแปลกับบกมาคงหมายถึงอันนี้แหละจะมีที่ไหน คนอื่นมันก็ห่วยทั้งคู่ไม่ต้องไปพูดถึงหลายสนพ มีบกเปล่าเหอะ
กูเพิ่งมารู้สึกว่างานแปลเขาดีก็เรื่องฮัสกี้นี่นะ เรื่องอื่นๆ อ่านแล้วต้องอ่านทวนมากๆ อย่าราชันก็อ่านแล้วติดขัดมาก แต่กูก็อ่านจนจบ และไม่ได้ขายหนังสือต่อเพราะชอบงานของเฟยเทียน
กูอ่านฮัสกี้กับพันสารท สำหรับกูสำนวนใกล้เคียงกัน และกูชอบทั้งคู่ ถ้านักแปลมีปัญหาจริง ทำไมได้งานแปลเรื่อยๆวะ แล้วไอที่บอกว่า บก.เกลาหนักมาก กูไม่เคยเห็นคนหลังบ้านออกมาแฉเลย กูเป็น บก. กูแก้เยอะมากค่ะ
ทุกอย่างที่วิจารณ์กันเนี่ย เรื่องหลังบ้านทั้งนั้น มีใครรู้จริงบ้างว่างานดีขึ้นเพราะบก.แก้ ไม่ได้ดีขึ้นเพราะนักแปลพยายามปรับปรุงฝีมือตัวเอง
>>550 แหม่ เรื่องหลังบ้านใครเขาจะออกมาแฉวะ 55555555 แฉไปมีแต่สนพ.เสียกับเสีย จริงๆบก.บ่นนักแปลน่ะมีเยอะแยะ แต่เขาก็ไม่พูดกันหรอกว่าหมายถึงนักแปลคนไหนหรืองานเล่มไหน อย่างมากก็บ่นลอยๆกัน ส่วนคนแปลฮัสกี้กูว่าจุดนี้มันไม่มีใครรู้อ่ะว่างานดีเพราะตัวนักแปลพัฒนาขึ้นจริงมั้ย เขาอาจพัฒนาจริงก็ได้ แต่การที่คนเคยอ่านงานเก่าๆของเขาจะชมบก.ก็ไม่แปลกเลย มันเป็นผลมาจากงานแปลเก่าๆของเขาเองที่ทำให้คนมองแบบนั้น
อนึ่ง นักแปลที่แปลไม่ดีแต่มีงานเรื่อยๆก็มีถมไป (หมายถึงคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนที่พูดถึงกันอยู่) ขอแค่ส่งงานได้ตรงเวลา สนพ.ก็พร้อมจะป้อนงานให้เรื่อยๆอยู่แล้ว
>>550 พันสารทคนเลยบอกบก.แจ่มเกลาไง แต่ก็ยังมีส่วนที่หลุดมาอยู่เลย ไปหาดูได้
นักแปลพยายามขึ้นก็คงมีส่วน แต่เรื่องบก.นี่รู้สึกสนพ.บอกเองปะนะว่าตั้งทีมดูฮัสกี้เข้มเพราะมีนักอ่านผวากับผลงานก่อนๆ เลยถามไปก่อนฮัสกี้จะออก หาทวิตคนในสนพ.ไม่เจอแล้ว ใครคุ้ยเจอมาแปะได้
กับลองไปอ่านสัตบุรุษกับลิ่วเหยาดู เผื่อจะหายสงสัยว่าทำไมคนบางส่วนถึงให้เครดิตบก.ฮัสกี้ขนาดนี้
ส่วนตัวบก.ไม่ออกมาพูดเองหรอก เพราะมันเป็นการแฉปัญหาระบบหลังบ้านของตัวเอง
ขอถามกลับบ้าง ในเมื่อพูดเองว่าไม่มีใครรู้ แล้วทำไมถึงคิดว่าเป็นที่นักแปลพัฒนามากกว่าบก. ถ้าฝั่งคนชมบก.ใช้ผลงานเก่าเป็นตัวเทียบ แล้วฝั่งคนจะบอกว่าไม่ใช่เพราะบก.นี่เอาอะไรมาให้น้ำหนัก
ปรับปรุงแล้วก็คงดีแหละ เรื่องหน้าจะได้ไม่ต้องมาลุ้นกันอีก ผ่านฮัสกี้ไปก็ยกมาตรฐานขึ้นมาเยอะๆ อย่าลงไปกองที่เดิมละกัน เหนื่อยจะกรีดเคลม
พอเห็นถามทำไมถึงยังจ้าง นั่งคิดๆ ดู เหมือนจะยังไม่เห็นงานใหม่ออกกับมด.หรืออวว.เลยรึเปล่านะ
ทำไมคนมาดีเฟ้นแต่ละอย่างมันหาเหตุผลไม่ได้เลยวะ บอกทำไมบก.ไม่มาแฉละ เอ้า5555เหี้ยไรวะ
ขนาดนักแปลที่ชอบดองงานนานๆยังไม่ สนพ จ้างเรื่อยๆเลยนะเพื่อนโม่ง
ส่วนใหญ่ที่มาแฉก็มาจากฝั่งนักแปลทั้งนั้นแหละ แฉสนพ แฉตัวเอง กูว่าสำหรับฝั่งสนพมันยากที่จะหาคนที่โผล่มาก็แปลได้เก่งเทพเลย จะไปแฉก็คนหายหมด ก็ต้องเลี้ยงดูกันไป แล้วหวังว่านักแปลจะเก่งขึ้น แบบคนนั้นที่ตอนแรกแจ่มก็ป้อนงานตลอด ทั้งๆที่ลูกหาบด่าแจ่มสาดเสียเทเสีย ถ้าไม่มีเรื่องนั้นกูว่าเขาก็ยังใช้บริการนางต่อไป
คุ้นๆว่ามันเคยมีสนพแฉนักแปลดองงานป่ะวะ ที่ว่าออกช้าเพราะนักแปลไม่ส่งต้นฉบับ เขายังออกงานด้วยกันอีกมะ
โทษทีนะ กูคนเปิดประเด็นบก.กับนักแปลเองแหละ แต่อันนี้กูก็สงสัยอีกแล้ว ทำไมนักแปลดองงานแล้วยังมีคนจ้างอะ กูคิดว่าการดองงานนี่จะทำแผนของส่วนอื่นๆรวนหมดเลยนะ น่าจะร้ายแรงกว่าแปลห่วยด้วยซ้ำ ในวงการมันขาดแคลนนักแปลขนาดนั้นเลยเหรอ
>>561 ขาดแคลนแค่แปลวาย เพราะสาววายที่เสียงดังๆแม่งเป็นโรคประสาท ต่อให้ไม่ได้แปลแย่แต่แปลไม่ได้ดั่งใจแม่งก็ด่าสาดเสียเทเสีย คนแปลปรมจ.นี้ตัวอย่างชั้นดีเลยว่าความประสาทของสาววายเป็นยังไง พวกนักแปลดังๆเก่งๆที่แปลนอมอลเรื่องอะไรจะลงมาแปลให้ตัวเองเสียสุขภาพจิตเล่น
นั่นแงะ กุหลาบเปิดรับนักแปลอีกแล้ว 5555555555555
นักแปลฝีมือดีระดับอาจารย์ไม่ลงมาตลาดวายเพราะกลัวสายวายปสด เขารับแปลงานชายหญิงงานกำลังภายในสบายๆไม่ต้องเจอความปสด ไม่ลดตัวลงมาถูกด่าดีกว่า นักแปลปรมจโดนหนักขนาดนั้น นักแปลคนอื่นๆก็ต้องคิดเยอะๆบ้าง เดี๋ยวดราม่าไม่ทับศัพท์สาววายเอาเขาไปแขวนด่าอีก
วงในบอกว่า นักแปลฆมปคิวแน่นมาก ซบไปขอแทรกคิวเองแล้วรับปากดิบดีว่ารอได้ พอมีปัญหาเอานักแปลมาแขวน ปัญหาอยู่ที่ซบไม่ใข่นักแปล รับเงื่อนไขกับนักแปลเองว่ารอได้
นักแปลเพอร์ซี่ยังสับกันอยู่เลย นอมอลใครว่าไม่ปสด เชิญอีกมู้ได้เปิดโลก
>>566 นั่นเขาสับกันเพราะแปลผิดความหมายไง แล้วผ่านมานานแล้วเพิ่งมาโป๊ะด้วยว่าแปลผิด ไม่ได้มีคนรอจับผิดแบบปสดเหมือนนิยายวายบางเรื่องที่มีแปลเถื่อนมาก่อนซะหน่อย แถมเพอซี่นั่นเขาเทียบต้นฉบับให้เห็นจะๆด้วยนะ ไม่เหมือนนิยายวายบางเรื่องที่มีคนดราม่าเรื่องคำแปลทั้งๆที่ไม่รู้ภาษาจีนกันด้วยซ้ำ
สับแบบเป็นผู้เป็นคน “ทำไมแปล people ว่าสาวๆคะ” สับแบบปสด “ทำไมไม่แปลปัสสาวะว่าเยี่ยวคะ”
อันหลังนี่กูไม่รู้ว่าเรื่องไหน เจอใครซักคนมาบ่นในโม่งนี่แหละ แต่โคตรตราตรึง ประสาทแดกที่สุดแล้วเท่าที่กูเคยเจอ
>>561 นักแปลวายจีนขาดแคลนมาก ทุกวันที่เข็นออกมาส่วนใหญ่ใช้นักแปลหน้าใหม่มือสมัครเล่นทั้งนั้น มีนักแปลจีนอาชีพที่แปลฝั่งนอร์มอลระดับอาจารย์มาแปลอยู่แต่ดันโดนฝั่งวายว่าแปลห่วยจนนักแปลมืออาชีพคนอื่นแทบไม่ก้าวขาเข้ามาเพราะความปสดแล้ว เอาตามความจริงนะสำหรับกุฝั่งวายส่วนใหญ่แทบแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าอันไหนแปลดีไม่ดี ส่วนใหญ่ก็ว่าไหลตามกันไปอะ นอกจากเห็นได้ชัดจะๆ ทุกวันเลยมีแต่นักแปลหน้าใหม่ฝั่งวายตลอด ยิ่งช่วงนี้ขาดหนักหลายสนพเริ่มเอาแปลเกาหลีออกมาก่อนแล้ว
เควายจ้า มีใครอ่านแท็กโอตาคุมั้ย ก็รู้ว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อนเนอะ แต่ช่วงนี้อากาศก็ไม่ได้ร้อน ดันเจอคนร้อนตัวหยาบคายกันในแท็กไม่หยุดเยออออ เห็นแล้วปิดปากขำ ใจเย็นๆกันมั้ยเตง
>>576 กำลังสงสัยว่าตัวเองจำผิดหรืออีพวกในแทคจำผิด โอตาคุที่ว่าตัวเอกมันไม่ใช่โอตาคุแบบนั้นซะหน่อย มันแบบอารมณ์ตั้งฉายาให้ตัวเองปะ ว่าแบบเออชอบแนวเรื่องหลังวันสิ้นโลกก็เลยรู้วิธีรับมือว่าจะใช้ชีวิตยังไงแล้วก็เอามาแบ่งปันคนอื่นด้วย แล้วอีพวกประสาทแดกทั้งหลายเนี่ยชอบสมองปลาทองกันจริงๆแบบตอนด่าชาวบ้านเขานี่ด่าเรื่องนึง พอถึงเวลาหน้าแตกคนเขาสวนกลับก็บอกไม่ใช่หมายถึงแบบนู้นแบบนี้ต่างหาก เห็นเป็นแบบนี้ทุกรอบ
ky ขอบ่นนิดนึง เรื่องปกฮัสกี้แม่งยังมีคนเหน็บในโพส นิยาย10เล่มจบมึงจะอยากได้ปกคู่ทุกเล่มเลยหรือไง แล้วบอกแบบนี้ถึงได้รายละเอียด พอดีละกูไม่ต้องเห็นหน้าตัวละครคนอื่น รอดูสปอยล์ที่แฝงมากับปกพอ นิยายตั้งหลายเล่มจบก็แบ่งๆให้คนอื่นเขาขึ้นปกบ้างเถอะ ขอบคุณ โทษที่แต่เห็นละรำคาญพวกเรียกร้องปกคู่เหลือเกิน
โอตาคุปกไต้หวันตรงคาร์มั้ย มีคนดีเฟ้นให้ปกไต้หวันในทวิต แล้วบอกว่าคาร์เลล่าไม่ตรง อ่านเรื่องเดียวกันกับกูอยู่เปล่าวะ
ไม่มีใครด่าเลล่า5555555555 ด่าจนเขาต้องมาบอกว่าเขาก็อ่าน อิห่า สีผมบลาๆ สุดท้าบก็มาแย้งเรื่องสีเสื้อไม่มีใครใส่หรอก ปสด
โอตาคุประมาณมีนาเปิดปกลงตัวอย่าง คนด่าเรื่องแปลเยอะเรื่องปกประปราย กุหลาบเก็บกลับไปแปลใหม่ สิงหาเปิดโหวตปก ด่าปกเลล่าวายป่วงจนเลล่าเม้นลงเพจกุหลาบ กูมองว่าบรีฟไม่ใช่ปัญหานะ งานปกเลล่าแนวนี้แทบทุกเรื่อง มันคือลายเซ็นต์ของนักวาด จะให้กุหลาบบรีฟยังไงถึงจะถูกใจ ตอนนี้หน้าแหกเย็บไม่ทัน เลยมาด่ากลับชูประเด็นเรื่องแปล 5555555555555
ก็คนมันด่าปกโอตาคุจนต้องเก็บกลับไปแก้ จนมันเลท
พอเลทก็ด่าสนพอีก ทำไมเลท ไม่ออกเดือนละเล่มแบบฮัสกี้บ้าง
กูนี่มองบน ถ้าพวกปสดไม่ด่า มันคงออกเดือนละเล่มได้ตามเดิมอะ
สาววายแม่งเอาแต่ใจชห ด่าแต่คนอื่น ไม่ดูตัวเองเลย
พูดละกูเซง
ปกเลล่าสวยฉิบหายแต่ดันเป็นปกแจ้คเก็ต
อีสัดดด ทำไมกูต้องมีปก2ปก ทั้งๆที่ตอนแรกจะมีปกสวยๆดีๆให้แล้ว อีพวกดราม่าตอนนั้นไปตายไหนหมดวะ แล้วกูต้องหาอะไรมาสวมปิดปกอะไรก็ไม่รู้ ปกแจ้คเก็ตก็ยับง่ายฉิบหาย เซ็งโว้ยยยย
คนด่าแม่งไม่ความรับผิดชอบ ตอนเรื่องปกปั่นว่าผมพระเอกผิด พอมีคนออกมาบอกว่าไม่ผิด ก็ออกมาพูดว่าไหน ไม่เห็นมีคนด่าเรื่องสีผมพระเอกผิด เขาด่ากันเรื่องผิดคาร์ พอมีคนออกมาบอกวาถูกคาร์ ก็บอกไหนไม่มีคนออกมาบอกเรื่องผิดคาร์เลย เขาบอกว่ามันบรีฟผิด บรีฟแย่ พอเลล่าออกมาบอกว่าเขาอ่านก่อนวาด ก็บอกไม่มีคนด่าเลล่า เขาด่าคนบรีฟ คือมึงไม่คิดจะรับผิดชอบคำพูดที่ด่ากันไปอะ ไอเรื่องบรีฟไม่ตรงคาร์คนอ่านบอกตรงก็โยนไปที่บรีฟผิด บรีฟยังไงให้เหมือนทะลุมิติ คือสำหรับกูแม่งไม่ได้บรีฟผิดไรเลย แม่งพวกอ่านเถื่อนหมั่นไส้หาติของถูกลิขสิทธิ์ไปงั้น นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ดี ของเถื่อนดีที่สุด ขนาดออกเล่มมาคนอ่านบอกบรีฟตรงคาร์ยังต้องมีไปบอกว่าดอกไม้มันบรีฟเ-ี้ยค่ะ ไม่ใช่บรีฟผิดคาร์ พอปกเล่มสองเก็บเศษหน้าที่ด่าไม่ทัน บอกว่าถ้าไม่ได้ดราม่าปกจะได้อ่านแบบฉบับแปลดีกันเหรอ ให้สำนึกบุญคุณที่เคยด่าไป wtfffff ปกกับแปลมันคนล่ะเรื่องมั้ยคะ หลังกูอ่านทวตนั้นกูนอนตีนก่ายหน้าผากมาเลย กูเคียดดดดด ชักแม่น้ำทั้งห้ามาบอกว่าที่เราด่าไปไม่ผิด ขุดเรื่องแปลเรื่องเลื่อนจำหน่ายมาด่า ต้องด่าสนพให้ได้ว่าแม่งแย่ ขอให้เจริญนะ พวกเอาความไม่ได้ดังใจตามความเอาแต่ใจของตัวเองไปให้คนอื่นรับผิด หาที่ลงความหงุดหงิดของตัวเองไปเรื่อย รับผิดชอบอารมณ์ตัวเองไม่ได้ นี่กูต้องอยู่ในสังคมกับพวกมีตรรกะแบบนี้จริงหรือ กูนอนเหมอไปหลายคืน
นั่นแหละเค้าถึงว่าสาววายปสด. สักแต่มีปากกับมีอินเตอร์เนท คิดว่าตัวเองขับเคลื่อนคุณภาพและจริยธรรม แต่ความจริงแล้วนั้น.... กุเสพนิยายห่างๆ ไม่รวมวงม่ายังโดนผลกระทบเลยเพราะสนพ.ก็เอาใจกลัวอีพวกนี้รวมพลสร้างศาลเตี้ย บางเรื่องมันก็ควรหยุดอยู่ที่ความคิดเห็นส่วนบุคคลแล้วจบไปนะ
โอตาคุจำไม่ผิดเปิดปกเล่ม1 ด่ากันในเฟสในนกฟ้ากระจาย ผิดคาร์ สีผมผิด โอตาคุอะไรสดใสขนาดนี้ คนบ่นเรื่องแปลนี้น้อยมากส่วนใหญ่บ่นปกหนักสุด สักพักคนเริ่มว่างเลยไปอ่านตัวอย่างแปลก็เริ่มบ่นแปล จนกุหลาบเริ่มยอมเลื่อนไปแก้อะ
กูเป็นคนที่จะเลือกนิยายเพราะปกก่อน
บอกเลยถ้าตอนแรกเปิดมาเป็นปกไต้หวัน กูไม่แลอ่ะ
แต่แม่งเปิดปกมาเป็นปกเลล่า กูก็ชอบ แล้วก็ไปตามดูว่าเรื่องอะไร ไปตามหาอ่าน
ถ้าพวกแม่งอยากได้ปกไต้หวัน ทำไมไม่ไปซื้อของไต้หวันไปเลยวะ ยิ่งพูดก็ยิ่งเซ็ง
นี่ก็งงว่าปกไต้หวันเรื่องนี้ก็ไม่ได้สวยอะไรแบบนั้นปะ ไม่ใช่ว่าไม่สวยเลยนะ แต่ก็ธรรมดาอะไม่ได้แบบว้าวววว
ถ้ายกตัวอย่างคืออย่างเรื่องกลอรี่พี่เยี่ยอะ ของเวอร์ไทยจะเป็นปกของไต้หวันเก่าจะออกธรรมดา พอไต้หวันวาดปกใหม่คือสวยมากกกก
เข้าใจอยู่ว่าทำไมคนอยากได้ปกใหม่ เพียงแต่ปกใหม่ต้นทางขายให้ไม่ได้ ก็ยังมีคนไม่เข้าใจประสาทแดกใส่สนพ.อีก
ปกโอตาคุสำหรับกูเฉยๆทั้งคู่ ไม่มีอันไหนสวยกว่า5555 อันนึงสีสดอันนึงสีซีด
มันควรจะวิจารณ์ปกแบบนี้ได้ ชอบปกไหนไม่ชอบปกไหนมันแล้วแต่คน ไม่ใช่มาปั่นว่าอีกปกบรีฟผิดคาร์บรีฟแย่สีผมผิด ถามจริงว่านิยามคำว่าบรีฟผิดของคนในนกฟ้ามันคืออะไรวะ มีใครพออธิบายได้บ้างว่าใช้อะไรวัดว่าที่บรีฟไปมันผิด มันควรจะบอกว่าบรีฟไม่ถูกใจมากกว่าไม่ใช่หรอวะ ในเมื่อมึงไม่ชอบแต่คนที่ชอบแม่งก็มี กูเหมือนการใช้ตัวเองเป็นไม้บรรทัดของนักอ่านปสด
กูอยากรู้ เริ่มเรื่องที่ว่าแปลแย่แปลผิด มันเอาไปเทียบกับอะไรกันวะ เทียบกับแปลเถื่อน หรือเทียบต้นฉบับ??
ถ้าเทียบแปลเถื่อนคือ ควรไปกินยาแล้วนอนพักเนอะ
Ky เมื่อไหร่เฟมทวิตจะเลิกราวีสาววายแล้วไปต่อยตีกับชาวจ๊อกวะ
เฟมทวิตบางคนเป็นสาววาย เพราะฉะนั้น ประสาทแดก x 10000000000000000000000
มันไม่ใช่สาววายประสาทแดก มันแค่มีคนประสาทแดกเป็นสาววายปะวะ เหมือนที่มีคนประสาทแดกเป็นโฮโมโฟบ เป็นพวกปิตาจัด เป็นลัทธิแก้ ก็ด่าไอ้ประสาทแดกนั่นไปสิ จะได้ตรงเป้าหน่อย
แอบสงสัย ทำไมถึงรณรงค์ให้ใช้คำว่าตัวเอกแทนนายเอกกัน เคยเห็นทวิตประมาณว่าจะได้ไม่เป็นการ assume โพของตัวละคร แต่นิยายวายส่วนใหญ่ก็ฟิกซ์โพชัดเจนไม่ได้สลับอยู่แล้วนี่ คนเขียนกำหนดมาให้ชัดเจนแล้วจะเป็นการ assume ได้ไง ไม่ใช่อะไร เวลาเห็นคำว่าตัวเอกแล้วแวบแรกสมองกุจะเข้าใจว่าหมายถึงพระเอก+นายเอกทันที ก็ตัวละครเอกอะ
>>604 กุก็งงมาก ว่าถ้าพวกนั้นจะโยงกะชีวิตจริง คู่เกย์หรือคู่เลสเดินมา ใครจะโพไหนหรือจะสลับมันเรื่องอะไรมึงต้องไปจั๊ดเค้าวะและมึงจะเอาอะไรไปจั๊ด มันก็ผญ 2 คน ผช สองคนมั้ยบนเตียงเค้าจะเล่นอะไรยังไงก็เรื่องของเค้ามึงไม่มีทางรู้และไม่ควรไปสู่รู้ แค่รู้ว่าเค้ามีสถานะต่อกันและเห็นเค้าเป็นคู่รักคู่นึงก็พอ ดังนั้นนี่มันก็ชัดเจนว่ามันเป็นคำระบุเพื่อให้คนเสพนิยายเลือกเสพเท่านั้น เหมือนๆกับที่ระบุเจนนิยายว่านี่นิยายรัก ชญ ญญ ชช หรือ dom/sub นั่นแหละ
ส่วนความในใจกุคือ มีเรื่องอีกมากที่รอให้มึงเรียกร้องหาแสงในชีวิตจริงและมีประโยชน์ขับเคลื่อนสังคมได้ อย่ามามามัวจัดระเบียบโลกในนิยาย(เฉพาะนิยายรักด้วยนะ)อยู่เลยว่ะ
>>603 +100000 คำว่าพระเอกนายเอกมันแพร่หลายเพราะมันเข้าใจง่ายสุด จะใช้รุกรับมันก็สื่อถึงเรื่องบนเตียงชัดเจนเกินไป หลายๆคนก็ไม่สะดวกใจที่จะใช้ปะ คำว่า ตัวเอก มันสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจนเท่านายเอก มันใช้แทนกันไม่ได้หรอก จะใช้ตัวเอกกับผัวตัวเอกก็ไม่ได้ปะวะ ทุเรศกว่าพระเอกนายเอกอีก 555555
เวลาเห็นคนรีวิวว่าตัวเอกเป็นคนหน้าสวย กุก็จะชะงักแปปนึงแล้วต้องมานั่งคิดว่าหมายถึงพระเอกสวยหรือนายเอกสวยนะ ไม่ชินกับคำว่าตัวเอกเลยจริง ๆ แล้วถ้าสมมตินิยายเรื่องนึงมีพระเอกเป็นคนดำเนินเรื่อง พระเอกก็ต้องเป็นตัวเอกใช่ปะ แล้วจะเรียกนายเอกว่าไรดี
ก็ว่าและ ทำไมไปอ่านรีวิวนิยายวาย(มั้ง)เกาหลีเรื่องนึงแล้วถึงมานั่งงงกับตัวเองว่าสรุปนี่นิยายวายหรือไม่วาย
คือจั่วหัวมาว่าความสัมพันธ์พระนาย แล้วต่อมาบอกว่าตัวเอกเป็นแบบนี้ๆๆๆๆ พระเอกเป็นแบบนี้ๆๆๆๆๆ
ก็เลยงงไปเลยว่าสรุปอันนี้คือนิยาย genre อะไร คงเป็นผลมาจากการ 'รณรงค์' ให้ใช้ตัวเอกนี่เอง
เวลาเข้านกฟ้าเดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นกลัวพวกชื่อตามด้วยธงรุ้งๆไปเลย เจออะไรแปกๆเยอะ+บ่อยมากกับคนใช้ชื่อแอคตามด้วยธง ทั้งๆที่คนพวกนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของคนกลุ่มใดกลุ่มนึงเล้ยยยยย คือเป็นใครอะไรยังไงก็ไม่รู้ แต่กลัวไปเองแล้วอะ
แต่ก่อนกูก็ไม่ชินกับการใช้คำว่านายเอกนะ มันเหมาะกับเรื่องที่มีโพชัด ตอนแรกที่เจอในเน็ตเรียกคำว่านายเอกกูก็มึนๆ กระดากปาก ไม่ค่อยชิน
ก่อนมาวายจีนแปล กูอ่าน mm สมัยนั้นกูจะเรียกตัวละครเล่าเรื่องว่าตัวเอก ส่วนคู่ตัวเอกถ้าโพชัดกูอาจจะเรียกพระเอก แต่ก็ไม่ค่อยอะ ส่วนใหญ่กูจะเรียกว่าตัวเอกอีกคน เวลาพูดถึงก็แทนชื่อตัวละครไปเลย ถ้าคอนเซินค่อยระบุว่าใครรุกใครรับ
นี่ถ้าให้กูลองนึกวายฝรั่งที่อ่านแล้วลองแทนตัวละครว่าคนนี้นายเอก คนนี้พระเอก กูก็ว่ามันแปลกๆ บางเรื่องอาจจะไม่สลับโพ หรือสลับแต่มีโพหลัก กูก็ยังเรียกโพรับคนนั้นว่านายเอกไม่ลง
แต่วายจีนกูเข้าใจนะว่าเวลาเล่ารีวิว เรียกชื่อตัวละครมีจำยาก ใช้สรรพนามพระเอกนายเอก เล่าเข้าใจง่ายดี
>>612 เออ เอาตามมึงก็ดีเหมือนกัน คนที่เป็นคนเล่าเรื่องเท่ากับตัวเอก (protagonist) คนที่มาเป็นคู่ของตัวเอกก็คือ bf หรือ partner ของตัวเอก555 ละพอเป็นอิ้งแล้วเหมือนมันไม่ต้องระบุก็ได้ว่าใครพระใครนายรุกรับด้วยความที่มันไม่ค่อยระบุโพกันตายตัวแฮะ แต่พอเป็นไทยพอไม่ระบุแล้วคนจะรู้สึกว่ามันแป่กๆงงๆ อีกอย่างคือสื่อไทยมันชินกับการมีพระเอกคู่กับนายเอกหรือนางเอกไปแล้วด้วยมั้ย เหมือนไม่คุ้นเคยกับการเล่าเรื่องแบบโฟกัสที่ protagonist แต่คุ้นกับการเล่าเรื่องแบบเป็นคู่รักดำเนินเรื่องไปด้วยกันมากกว่า เอาง่ายๆก็แพทเทิร์นนิยายรักอ่ะ
ชาวนกฟ้าด่ากุหลาบเรื่องโอตาคุได้ป่วยมาก กูเวท 55555555555555
>>612 ขอพูดในฝั่งคนมาจากทางวายญี่ปุ่นแล้วกันคือต้องเข้าใจว่าบางเรื่องเขาก็มี seme uke อยู่แล้วไงแบบเวลาอ่านพวกนิยาย/มังงะญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่นิยายจีน เขาก็ใช้กันปกติมาแต่ไหนแต่ไร ภาษาไทยที่ชอบใช้กันคือ พระเอก นายเอก สำหรับเรื่องที่มีโพ แต่คนรณรงค์มันจะบอกให้ทุกเรื่องไม่ควรใช้คำพวกนี้ ด้วยการบอกว่าชีวิตจริงคนกลุ่มนี้บางส่วนไม่ฟิกซ์โพ แต่หลายๆเรื่องที่คนเขารีวิว/เเต่งมันฟิกซ์ไงจะมาบอกห้ามใช้นี่มันแป่กๆมั้ยอะ
เท่าที่เห็นมาตลอดคือถ้าเป็นนิยายที่เป็นแนว reverse couple แนว m/m เขาก็บอกมาเลยว่าเรื่องนี้สลับ/เรื่องนี้ไม่ฟิกซ์โพ แล้วก็ใช้คำว่าตัวเอกนั่นแหละก็ไม่ได้ใช้คำว่าพระเอก นายเอกอะไร
สรุปคือ จะใช้คำไหนยังไงคนเขาก็เลือกตามบริบทอยู่แล้ว มันน่าจะดีกว่าไปกะเกณฑ์ตายตัวหรือเปล่า เพราะเดิมๆเขาก็ทำงั้นกันอยู่แล้วนะไม่ได้ไปใช้พระเอก นายเอกกับทุกเรื่องแบบต้องใช้ไม่ใช้ไม่ได้อะไร
>>614 กูอยากขำ
ปกเล่ม2สวยเพราะแรงดราม่าปกเล่ม 1
ไปกินยานอนนะน้องนะ ปกมันเสกจากแรงด่าพ่กมึงเร้ออออออ
กุว่าที่โรสไม่ออกให้จบๆไปสักทีเพราะอีพ่กดร่าม่าทุกอย่างนี้แหละ
ดราม่านักก้อรอไปค่าาาาา ปีละเล่มไปเลยค่าโรสสส (กูประชด อย่าทำจริง กูรอยัลตี้มึงนะโรส..... แม้บางเรื่องจะบ้งจริงๆก็เถอะ)
>>603 เหตุผลของคนรณรงค์คือพอเป็นนายเอกแล้วมันเหมือนมองตัวละครเป็นตัวแทนผู้หญิงเฉยๆ ติดกรอบ het norm, gender binary ซึ่งกูว่ามันไม่ใช่อ่ะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่คำว่านายเอกปะ ปัญหาคือวิธีการเขียนต่างหาก นายเอกมันแค่เป็นคำเรียกฝ่ายรับเฉยๆ เรื่องที่สลับโพกันก็ไม่เรียกนายเอกกันนะ และต่อให้เรียกตัวเอกกับตัวเอก สุดท้ายคนเขียนก็อาจจะยังเขียนให้ฝ่ายรับ feminine อยู่ดี แทนที่จะฉอดเรื่องคำว่านายเอก มันควรฉอดที่วิธีการเขียนมากกว่า ไม่ใช่ตามจิกกีคนใช้คำว่านายเอก ถ้ามันจะตีประเด็นนี้กันอ่านะ (แต่ใดๆกูมองว่าใครฉอดประเด็นพวกนี้ปสดทั้งหมด)
>>620 ถ้าจะเอาตามพวกนั้นจริงๆ สาวสองหรือผชนุ่มนิ่มชอบรับแม่งก็ไม่มีสิทธิเกิดในนิยายวายเพราะข้อหาเฟมินีนเกินไป จนติดกรอบhetเหมือนกันสินะ มึงลืมรากเหง้าไปหรือเปล่าว่ามันมาจากความหลากหลายมากมายหลายแบบขนาดไหนจะจัดให้เป็นแบบเดียวเพื่อ
ส่วนตัวกุก็ยังนิยมนิยายที่ติดโรลพวกนี้แบบพอประมาณอยู่(ยังนิยมความมีเมะเคะ)และไม่ชอบนิยายที่นายเอกเป็นสาวสอง แต่มันก็รสนิยมกุอ่ะนะ ไม่ได้ไปกาหัวใครว่าควรเป็นงี้เป็นงั้น
ของต่างชาติแต่ก่อนใช้คำว่า male lead กับ protagonist(main character) มั้ง prota เป็นตัวนำเรื่องหรือเล่าเรื่อง กับ male lead เป็นคู่รักของตัวนำเรื่อง ถ้าจะอะแดปแบบนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนะ ฝ่ายนิยายยูริที่กุสงสัยมานานว่าเรียกตัวเอกว่าอะไรก็อะแดปใช้ได้ด้วย เป็น prota กะ female lead
แต่คือกุเกลียดความที่ออกมาหาซีนว่าต้องเปลี่ยนตามกูนะเพราะมันระรานคนอื่นทั้งๆที่ความจริงเปล่าเลย มึงมโนและแยกแยะไม่เป็นเองเฉยๆ
แบ้วฝั่งยูริที่ฟิกซ์โพ เรียกด้วยสรรพนามอะไรวะ รุก=นายเอก รับ=นางเอกเหรอ?
>>623 เคยเห็นเลสเบี้ยนที่ชอบอ่านแนวยูรินางบอกว่ายูริไม่มีรุกรับเพราะมันต้องผลัดกันทำอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ถ้าเป็นนิยายจะมีฟิกซ์มั้ย กุลองเสิร์ชดูเจออันนี้อ่ะ https://pantip.com/topic/37388436
กุในฐานะผุ้เสพยูริสายใสๆมาบ้างมันก็แยกไม่ออกจริงๆนั่นแหละว่าใครรุกใครรับ เพราะส่วนมากก็นิสัยญๆทั้งคู่อาจมีฝ่ายที่ตามจีบก่อนหรืออะไรบ้างแต่เพราะกุอ่านแบบไม่มีฉากบนเตียงอ่ะ ส่วนมากก็น้วยๆลวนลามกันแบบสาวๆ กุจะว่ายังไงดีล่ะ คือมันอาจจะมีฟีลรุกบ้างแต่สุดท้ายก็ไม่ชัดไง สายวายถ้าไม่มีฉากเรทถึงขึ้นบรรยายใครเสียบใครก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าโพไหนเหมือนกันใช่ป่ะ แล้วคือยุริมันเสียบกันไม่ได้ไง (ยกเว้นจะนับอุปกรณ์ด้วย) =w=" แต่เรื่องสไตล์ที่ตัวนำห้าวๆมีภาพแบบโรลชญมันก็มี ส่วนมากอ่านยูริก็ไม่ค่อยสนว่าใครรุกใครรับนะ แต่อาจจะเพราะกุไม่อ่านยูริเรทเวลาถามรีวิวส่วนมากก็แค่ถามใครคู่ใคร แต่คนที่อ่านสายเรทก็อาจจะมีอยากรู้โพแหละมั้ง
แต่วายนี่ไม่ได้เลยกูแบบต้องการฉากเรท และพอมีฉากเรทกูก็อยากรู้โพก่อน เผื่อไม่ตรงใจจะได้หนีทัน พอๆกับที่กุอยากรู้เรื่องย่อกะแนวก่อนนั่นแหละ กุเปย์ก่อนอ่านนี่หว่าขอข้อมูลให้กุตัดสินใจให้คุ้มค่าเงินกุหน่อย การันตีกุนิดนึงว่าได้เนื้อหาอย่างที่ใจกุต้องการ
สำหรับกูเคะมีจิ๋มก็ไม่นับเป็นวายนะ 5555555
>>631 ยูริเพื่อผช กับยูริเพื่อสาวๆฟีลมันก็ต่างกันแหละ เวบใต้ดินของสายหื่นก็ติดแทกyuriนะ... [อุ๊บส์... กุแค่แวะไปเพื่อการเรียนรู้ แถมอายุกุก็เกินไปเยอะแล้ว = w =;] omgv yuri ก็มีไอ้ที่เสียบเหมือนกัน ก็คล้ายๆ ฟุตะนะ ส่วนมังงะยูริที่กุเคยอ่านก็หวานแหววตาหวานน้ำตาลเรียกพี่จนกุสงสัยว่าจะมีผู้มาอ่านสักกี่คน
>>630 มึง ยุคแรกเริ่มอารยธรรม เคะสองเพศแบบกะเทยแท้หรือไร้เพศฮอตอยู่นะ 555 แบบแรกมีน้องสาวหลบอยู่แหละแค่ไม่พูดถึงโจ่งแจ้งสร้างกายวิภาคแบบยุคนี้ (สร้างเนียนจนคนเอารูปไปใช้ผิด555) เพราะยังท้องได้แต่อย่างที่สองคือโล่งเตียนเลย
เห็นพวกมึงคุยกันเรื่องนี้ วายไทยมีแต่งให้เคะมีสองเพศมั้ยวะ กูสงสัย กูเจอบ่อยในฟิคของฟค.จีน
>>633 เคยเจอแต่แบบใช้คำแทนตัวว่าผม เซตติ้งโลกปัจจุบันสังคมปัจจุบัน แต่มีอะไรกับพระเอกแล้วท้องเลยอุ้มลูกหนี พระเอกตามมาง้อเลยโดนตัวร้ายหญิงตามมาราวีด้วยมีการตบตีกันแย่งพระเอก จากนั้นหลังผ่านปมตามขนบคืนดีกันสำเร็จ ครอบครัวพระเอกชื่นมื่นได้ลูกสะใภ้และหลานครบ ชีวิตผม? ก็ลงเอยอย่างแสนสุขและกำลังท้องลูกคนต่อไปเพราะสามีเยหนัก...
ขอบ่นหน่อย นี่บางทีก็งงนะกับไอ้คนที่มานั่งเพ่งเล็งว่าชาวบ้านเขาเป็นโฮโมโฟบหรือเปล่าไม่ยอมใช้คำว่าเกย์
ทำไมชอบใช้คำว่าวาย วายไม่ใช่คำสุภาพของเกย์ คือเข้าใจแหละคนบางกลุ่มได้ยินแต่คำว่าวายๆ เเต่ไม่รู้ที่มาที่ไปของคำเลยเข้าใจผิดบ้าง
แต่เวลาคนเขาใช้คำว่าวายส่วนใหญ่เขาก็หมายถึง genre ของผลงานปะ นิยายวาย การ์ตูนวาย บางคนก็ใช้คำว่าบอยเลิฟ เกิลเลิฟไรงี้ ของตะวันตกเขาก็มีเป็น mm romance งี้ หรือถ้าพวก porn ปกติเขาก็เรียกกันว่า gay porn นะ คือมันเป็นเรื่องความเคยชินและประเภทของงานล้วนๆเลย ว่าเขาเรียกแบบไหนกันมา เขาไม่ได้ต้องการสุภาพอะไรเลย มันชินเรียกในฐานะ genre โว้ยยยยยยยยยยยยย เวลาพูดถึงเพศสภาวะ ก็ไม่เคยใช้คำว่าคนคนนั้นเป็นวายหรือเปล่าาาาาาาาาาาาาา แล้วเดี๋ยวพอ 'รณรงค์' ให้คนใช้ว่าเกย์ให้หมด พวกคนในคอมมูที่ประสาทแดกก็โยงมั่วเอามาวนด่าอีกแหละ ว่าหากินกับเพศคนอื่น เขียนอะไรบิดเบือน เกย์จริงๆไม่ได้เป็นแบบนี้ อย่ามาเขียน อยากเขียนต้องเขียนดีๆต้องแสดงให้เห็นความเคารพต่อคนกลุ่มนี้ ก็ได้แต่ช่างหัวพวกแม่งไปเพราะคนสติดีๆมีเยอะกว่าคนพวกนี้ เพียงแต่ไม่ค่อยมีเสียงกับแสง
กูใช้นิยายวาย การ์ตูนวาย เพราะวายกับเกย์ สำหรับกูมันไม่เหมือนกันอะ
นิยามกู วายคือเกย์ในจินตนาการสาวน้อย ซึ่งไม่ค่อยตรงกับเกย์ในชีวิตจริง
ฝ่ายรับในนิยายวาย คือตัวละครหญิงมีจู๋ เอาผู้ชายมาครอบ แต่จริงๆแล้วลักษณะนิสัย คำบรรยายดูยังไงก็ผู้หญิง
ไม่เหมือนเกย์จริงๆ กะเทยจริงๆ
>>636 สำหรับกู วายกับเกย์เป็นนิยามคนละประเภทกันเลย
วายคือ ตัวเอกมีลักษณร่างกายเป็นเพศชาย/เพศผู้ ทั้งคู่
เกย์คือรสนิยมทางเพศของตัวละครอีกที
กูพูดเรื่องนี้ปากเปียกปากแฉะจนโดนด่าว่าเป็นโฮโมโฟบแล้วมั้ง แต่กูเป็นเกย์นะฮัลโหล จะให้กูโฟเบียตัวเองก็แปลกๆ ไหม
>>637 ถ้ามึงพูดถึงนิยายวายสมัยก่อนการ์ตูนวายสมัยก่อนอะก็พอได้ แต่ในสมัยนี้มันไปค่อยข้างไกลแล้วอะนะ คนเขียนเดียวนี้เขาไม่ได้เขียนแต่ให้เคะเป็นสาวน้อยที่มีหำแล้ว บางคนนี้เขียนแบบเกย์จ๋ามากๆ ซึ่งมันก็เป็นการหาพล๊อตเรื่องแนวเรื่องใหม่ๆ มาให้ผู้บริโภคได้เลือกนั้นแหละ
แล้วก็จะบอกว่าวายคือเกย์ในจินตนาการสาวน้อยก็คงไม่ได้ เพราะ
1 ตัวละครวายส่วนใหญ่(โดยเฉพาะในยุคแรก) ไม่ได้ระบุรสนิยมทางเพศตัวเองเป็นเกย์หรือไบ ถ้ามาดูๆ กันพวกที่บอกตัวเองเป็นชายแท้ๆ คือเดมิกันซะหมดด้วยซ้ำ
2 ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เขียนวาย มันมีผู้ชายที่เขียนวายด้วย จำได้ว่า mm ฝรั่งที่พูดถึงกันบ่อยในห้องนี้ก็มีที่ผู้ชายเขียน ใกล้ตัวหน่อยในเมืองไทยก็คนเขียนลิงพาดกลอน คนนี้ก็มีเขียนเเนววายด้วย
ky กูขอคำแนะนำเพื่อนโม่งหน่อย นอกจากวายแล้วปกติพวกมึงอ่านอะไรกันบ้าง กูเริ่มจากวาย แต่อยากลองขยายแนว
ไม่นับวาย สมัยก่อนกูชอบแฟนตาซี กับสืบสวนสอบสวน
ขอบคุณพวกมึงมากๆค่ะเพื่อนโม่ง ใครมีอะไรแนะนำอีกโปรดบอก กูขอบคุณล่วงหน้า นิยายไทยก็ได้นะ กูอยู่ในช่วงอยากลองอะไรที่ไม่เคยลอง แต่ไม่มีไอเดีย
>>644 มึงไม่ลองแตกจากแบบที่มึงชอบไปเรื่อยๆล่ะ เช่น กุชอบพีเรียดวาย กุก็เขยิบไป รักชญพีเรียด ชิงบัลลังก์แบบหัวเอนเทอร์งี้ แบบไหนโอเคถูกสเปคก็เขยิบต่อไปเรื่อยๆ ไม่งั้นถ้าเอาแตกต่างเลยกุแนะนำพวกแนวสารคดีnon fictionแปล หรือพวก pop sci เลย แต่คงน้อยคนที่น่าจะชอบแนวนี้ 555
>>647 ลองงานของพนมเทียน ว วินิจฉัยกุล หรือทมยันตีปะล่ะ ภาษาดีนะ แต่ทัศนคติก็ตามยุคสมัย อ่านแล้วต้องตั้งสติดีๆ อีกเรื่องที่อยากแนะนำก็ลอดลายมังกร ใช้ภาษาเรียบๆทั้งเรื่อง แต่จังหวะดี ความครอบครัวใหญ่มีเรื่องวุ่นวายเยอะ แต่ถ้าชอบงานแปล มึงลองเล่มอื่นๆของนักแปลคนนั้นดิ กูว่าน่าจะแนวใกล้เคียงกัน
เพื่อนโม่ง จ่ายค่าตอนในจิ้นเจียงมันใช้ตัดบัตรเดบิตได้ปะ หรือต้องใช้ paypal เท่านั้น ใครมีประสบการณ์รบกวนแบ่งปันที //ไหว้ย่อ
อีคนแปลเถื่อนมาดูบ้างนะ ไปขโมยไฟล์มาแปลเคยซื้อตอนเข้าไปบ้างไหม สักแต่จะขโมยมาจากเว็บอื่น
>>660 กูมีเรื่องจะเล่า แปลเถื่อนคนหนึ่งใช้คำพูดแบบกูออฟฟิเชียลนะแต่ยังไม่มีหลักฐานอะไร บอกได้อนุญาตแล้วจากใครไม่รู้ พอมีคนไปทัก'ไม่เห็นลงที่มาเลย'
นางก็เอาลิ้งมาลง พีค!!! นางเอาลิ้งเว็บจีนเถื่อนที่ดูดไฟล์จากจิ้นเจียงมา5555555 แล้วบอกกูใส่ลิ้งจีนให้แล้วนะยังจะมาด่าอะไรอีก คนที่ไปทักก็ไม่ยอมด่าไปด่ามา
อีเหี้ย พีคคคอีก!!! นางหยุดแปลไปสักพัก แล้วกลับมาบอกมีคนซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้ และคนแปลคือกูเอง ได้แปลลิขสิทธิ์ถูกต้องแล้วนะ ยังจะมากล้าด่าเปล่า (แต่ยังไม่ปิดตอน) พอมีคนไปทัก"ถูกลิขสิทธิ์แต่เว็บจีนที่เอามาใส่ของเถื่อน?" นางรีบเปลี่ยนอย่างไว
อย่าให้กูบอกนะเรื่องไหน แนวแฟนเก่า LCเมื่อปีสองปีที่แล้ว
เพิ่งเห็นว่าในทวิตมีดราม่าเรื่องรณรงค์ไม่คอมมิชปกฟิค อะไรวะเนี่ย เหมือนว่างกันเกินจนไม่มีอะไรทำ 5555555
โควิดทำให้คนเป็นอะไรกันไปหมดไม่รู้ ล่าสุดมีนักเขียนบอกว่าอยากให้ช่วยกันลงชื่อถอดสติ๊กเกอร์มาต่อเร็วๆน้าในรอรออก *facepalm*
>>664 นี่อ่านประเด็นนี้แล้วไม่อิน สตก. มันบอกว่ามาต่อเร็วๆน้า อยากอ่าน คือส่วนตัวอ่านแล้วมันกลางๆอะ ไม่ได้บวกหรือลบอะไร ก็แค่คนอ่านบอกว่าอยากอ่านต่อแล้วเฉยๆ นักอ่านอยากอ่านต่อก็ดีแล้วมั้ยง่ะ ดีกว่าหลงมาตอนนึงแล้วจากไป 5555 แต่คนที่อินจะบอกประมาณว่ามันตีความไปทางลบได้เหมือนคนอ่านเอาแต่ใจ ไม่ให้กำลังใจนักเขียน มักง่ายไม่พิมพ์ แล้วก็สตก.เลิกดองอีกตัวนึง บอกว่ามาทำเหมือนนักเขียนเป็นเพื่อนเล่น มาเร่งอย่างเดียว เอาเหอะ คนอ่านจะเลิกมีปฏิสัมพันธ์กับคนเขียนก็ไม่แปลกอะ นี่บางทีก็เริ่มสงสัยนะว่าสรุปคนคนนึงเลือกมาเขียนนิยายเพราะอะไร คือเข้าใจนะว่าทำอะไรก็ตามแล้วผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการมันก็ท้อกันได้ แต่ทำไมนักเขียนหลายคนเหมือนแบบท้อง่ายหมดกำลังใจง่ายกันขนาดนั้น ทุกอย่างพร้อมจะทำลายกำลังใจในการเขียนงาน
>>665 +1 พูดแบบนี้อาจฟังดูใจร้ายสำหรับนักเขียน (นักเขียนคนไหนสิงอยู่แถวนี้แล้วรู้ตัวว่าใจบางก็ข้ามความคิดเห็นนี้ไปเลยก็ได้) แต่ในฐานะคนอ่านเนี่ย ว่ากันตรงๆเลยนะ นักเขียนไทยเอาใจยากมากกกกกก อ่านเฉยๆโดยไม่เมนต์ก็โดนด่าว่าไอ้พวกนักอ่านเงา อ่านแล้วไม่รู้จะเมนต์อะไรเลยกดสติ๊กเกอร์ให้ก็กลายเป็นบั่นทอน แล้วพอไม่อ่านวายไทย ไปอ่านวายแปล ก็มางอแงกันอีกว่าวายไทยไม่ได้รับความสนใจ ไม่มีคนเห็นคุณค่า นักอ่านทำอะไรก็ผิดหมดอ่ะทุกวันนี้
นักเขียนแม่งเรียกร้องให้ทุกคนเห็นใจตัวเอง แต่ถามจริงๆเลยนะ ตัวนักเขียนเองเวลาอยู่ในสถานะนักอ่านจะมีสักกี่คนที่เม้นนิยายทุกเรื่อง+ให้กำลังใจนักเขียนทุกคนบ้างอ่ะ ไม่มีหรอก นักอ่านเงาอะไรไร้สาระ ใครมันประสาทแดกจนช่างประดิษฐ์คำ ทุกคนบนโลกก็เป็นนักอ่านเงากันในทางใดทางนึงทั้งนั้นแหละ
กูเป็นครีเอเตอร์หลายวงการ คลุกคลีมาหมดแล้วทั้งเขียนนิยาย วาดรูป ช่องยูทูป เพจเฟซ บอกเลยว่าวงการนักเขียน (นอทออล) อ่ะใจบางสุดแล้ว มีฟีดแบคก็บ่น ไม่มีฟีดแบคก็บ่น ครีเอเตอร์วงการอื่นเขาไม่เรียกร้องฟีดแบคกันขนาดนี้ นักเขียนบางคนก็ทวงบุญคุณ บอกว่าถ้าเลิกเขียนแล้วจะรู้สึก อืม ไม่ต้องรอมึงเลิกเขียนกูก็รู้สึกตั้งแต่ตอนเห็นมึงตัดพ้อละ รู้สึกแย่กะมึงเนี่ย กูเข้าใจนะว่านักเขียนดีๆที่ไม่เล้าหลือก็มีเยอะ แต่นักเขียนพวกนี้ดันเสียงดังนี่สิ
สงสัยว่านักเขียนประเทศอื่นเขาเป็นเหมือนนักเขียนไทยมั้ย หรือมีแต่นักเขียนไทยที่ชอบ guilt trip คนอ่านกันแบบนี้
>>668 เวลากุอ่านงานบางเรื่องแค่ทอล์คคนเขียนต้นเรื่องก็ทำกูกดปิดได้แล้ว ถ้ารำคาญนิสัยกับทัศคติคือเลิกนะ แบนทันที ไม่อยากสนับสนุน เพราะเวลาอ่านงานมันจะมีภาพคนเขียน(ที่น่ารำคาญ)แทรกมาเวลาอ่าน ตัวกูชอบสไตล์แบบเก่ามากกว่า คือคนเขียนคนอ่านห่างกันระดับนึง ถ้าออกมาก็ทำตัวเป็นทางการ มีความสุภาพไม่ใช่งอแงเรียกร้องเหมือนเด็กร้องไห้เอาของเล่นออกสื่อ
ส่วนนึงกุว่าอาจจะเพราะพวกคนเขียนมันพัฒนาจากแฟนฟิคที่เป็นงานฟรีในยุคที่ขาดแคลนด้วย การเขียนเรื่องให้อ่านเลยกลายเป็นอะไรที่เป็นบุญคุณและต้องตอบแทนคนเขียนด้วยการยกย่องชาบูกัน แต่สมัยนี้งานล้นตลาดแล้ว แถมยังขายกันแบบการค้าทั่วไปเต็มรูป งานดีพอเงินเปย์ งานไม่ดีเท่าไหร่การตลาดดีก็ยังมีคนเปย์ ตลาดปกติมันเป็นแบบนี้ ถ้ายังมายด์เซทเดิมยุคตลาดใต้ดินวงแคบๆก็สมควรเจ็บปวดเองไปจนตายเถอะ กุไม่เห็นใจเพราะเรียกร้องมาแต่ละเรื่องคือ wf สำหรับกุ... ครส.คือไปเกาะงานแปลอย่างไม่หวนคืนดีกว่าว่ะ
ไอ้สตก.นี่กุก็งงจริงๆ กุไม่ได้ใช้นะแต่กุชอบพิมพ์แนวๆนั้นสนุกมากมาต่อเร็วๆนะคะ,อยากอ่านต่อ อะไรเงี้ย แต่คือกุชื่นชมไงนิยายมึงสนุกจนกุอยากอ่านต่อนี่ไม่ดีตรงไหน??แต่นักเขียนบางคนรู้สึกกดดันซะงั้น คือต้องทำไงอะ ใช่ว่าทุกคนจะเก่งในการบรรยายความรู้สึกยาวๆได้ปะ
ในฐานะนักเขียน กูได้หมดอะ เข้ามาอ่านก็เพิ่มยอดให้ เมนต์เป็นสติกเกอร์ก็โอเค จะพิมพ์ให้ก็ดี
ประเด็นสติกเกอร์ เห็นคนโควตว่า 'อ่านจากโควตอื่น ๆ แล้วเห็นเลยว่านักเขียนอยู่จุดต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร' แต่กุว่านักเขียนนี่อยู่สูงสุดแล้วนะ เรียกร้องรณรงค์ไปทุกเรื่อง อะไรนิดอะไรหน่อยก็ใจบาง ไม่พอใจอะไรทุกคนก็ต้องคอยโอ๋ งี้แหละกุถึงชอบนิยายที่นักเขียนไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับนักอ่าน สบายใจกว่าเยอะ คือถ้านักอ่านมันทำตัว ปสด ก็โอเคที่นักเขียนจะออกมาเรียกร้อง แต่เคสที่นักเขียน ปสด เองก็มีเยอะเหมือนกัน
Ky หน่อยกุเบื่อมากกกกับการที่ซื้อเหรียญอ่านล่วงหน้าแล้วนักเขียนเขียนไม่จบ กุอยากร้องไห้ เเค้นอะ อยากด่าด้วย กุเปย์เพราะความรักแล้วดูสิ่งที่กุได้ อิควายยยยยยย เจอหลายเรื่องจนแบบโอ้ยยยยย เงินก็ไม่ใช่น้อยๆ ละเดี๋ยวนี้เจอแต่ติดเหรียญแบบ สามตอนเเรกฟรีนอกนั้นติดเหรียญเซงอยุ่นะ
ตอนนี้กุเลยเลิกอ่านนข.ไทยละไม่ก็รอออกอีบุ้คแม่ง ไปเปย์เหรียญพวกแปลจีนดีกว่ายังไงมันก็ลงจบ แต่ติดตรงคำผิดเนี่ย สายอีบุ้คแบบกุไม่ได้มีทางเลือกไรเลยเหรอวะ เงินก็จ่าย
>>679 มันเป็นวงจร ติดเหรียญแต่เขียนไม่จบ--> นักอ่านระแวง รอจบค่อยซื้อ --> ระหว่างทางยอดขายไม่ดี เฟล+เท --> ติดเหรียญแต่เขียนไม่จบ -->...
นักเขียนหน้าใหม่ดีๆซวยไปด้วย ไม่มีอะไรรับประกันให้คนอ่านว่าจะเขียนจบ ดังนั้นก็รอซื้อตอนจบที่เดียว ส่วนอีพวกติดเหรียญแล้วเทก็โดนนักอ่านสาปไปนานแล้ว ไม่งั้นก็หนีไปเปิดแอคใหม่นามปากกาใหม่ ติดเหรียญเทใหม่อีก
ถ้าคิดว่าจะเขียนไม่จบอย่าเพิ่งลงเลย ไม่งั้นก็ควรมีทรีตเม้นต์ร่างไว้จนแน่ใจว่าเขียนจนจบเรื่องได้
เรื่องสติ๊กเกอร์แม่งไปกันใหญ่ละ ฝั่งที่เข้าข้างนักเขียนก็พ่นแต่คำว่า นักอ่านใจร้ายๆๆๆ กันอยู่นั่น บางคนเขาก็แค่แสดงตัวว่าไม่ได้ใช้เพื่อกดดัน แต่ใช้เพราะนิยายสนุก มึงก็ไปรุมชี้หน้าด่าว่าใจร้ายๆๆๆ นักอ่านเหี้ยๆๆๆ ตัวเองยังไม่พยายามเข้าใจคนอื่นเลย แล้วจะคาดหวังให้คนอื่นเข้าใจตัวเองได้ไงวะ
ฝ่ายเข้าข้างนักเขียนโคตรหลุดประเด็น พอมีคนออกมาอธิบายกันเยอะๆว่าใช้สติ๊กเกอร์เพราะเขียนไม่เก่ง ก็พากันรุมแซะว่านี่ขนาดเขียนไม่เก่งนะเนี่ยยยย เอ๊า การเขียนอธิบายเหตุผลกับการเม้นฟิคมันคนละอย่างกันมั้ยล่ะ
Ky หน่อย
นักเขียนจอยคนดัง ที่เป็นภญ.
ไปทำเรื่องอะไรอีกเหรอ
กูเจอเม้นในเพจข่าว
เรียกร้องได้ทุกสิ่ง
รีดอ่านไม่เม้น > ตัดพ้อว่ามีแต่นักอ่านเงา
รีดกดติกเกอ > ตัดพ้อว่าไม่ดีพอจะให้รู้สึกอะไรเหรอ
รีดเม้นสั้น > ตัดพ้อเขียนตั้งยาวเม้นมาแค่นี้เหรอ
รีดไม่กดเข้าชั้น > ตัดพ้อว่าไม่แมสซะที
รีดไม่ช่วย rt เวลาอัพฟิค > ตัดพ้อว่าโพสอะไรก็เงียบๆ
รีดไม่เล่นแท็กฟิค > ตัดพ้อว่าว่าเหงมไม่มีใครเล่นด้วย
ไมเป็นรีดที่ดีมันยากงี้วะ
นทก. ถ้าพิมพ์อิ้งไม่ได้หรือใช้กุเกิ้ลทรานก็อย่าฝืนเอามาลงในนิยายเลยพส. มันตร่ก
ถามหน่อยดิ สนพ ด เนี่ย สรุปนางดีหรือไม่ดี นข.บางคนก็ว่าดูเเลดี๊ดี เเต่ล่าสุดเห็นคนนึงมาบอกว่าหลังบ้านไม่ดี
ใครฟอลแอคลอคนักเขียนต้นเรื่องไว้บ้าง ในนั้นวีนแตกป้ะ กุเคยฟอลแต่อัลฟอลไปเพราะเชื้อคอมมี่เข้มข้นจนกุกลัว
อีเรื่อง สตก นี่เป็นบ้าอะไรกันวะ ปรับความคิดตัวเองหน่อยไหม มองให้เป็นคำด่าก็ทุกข์เอง มองดิวะว่าเออ กุตัดตอนจบได้ดีจนคนอ่านค้างกันเป็นแถวๆ เอาจริงๆ กูไม่เข้าใจว่าการมีคนรออ่านนิยายมันไม่ดีตรงไหนวะ หรืออยากให้นิยายไม่มีใครรอเลย มองให้มันไม่ดีเองแล้วมาให้ลงชื่อถอดสตกนี่โคตรเอาแต่ใจชิบหาย รำคาญ กูรณรงค์เลิกอ่านนิยายไทยบ้างได้มะ เบื่อพวกนักเขียนน่าลำไย
เรื่องเทียบขนาดตัวละครชายนี่ต้นเรื่องเทียบของเรื่องไรวะ กุมาไม่ทัน
ตลกกกก เพจส้มส้มทำโพล อีลุงเยี่ยนได้ควบพระเอกแห่งปีกับตัวร้ายแห่งปี 55555 มีคนเดียวที่คู่ควร
ky สงสัยนิยามคำว่า mindbreak อะ มันจำเป็นต้องเคลิ้มไปกับการโดนกระทำด้วยไหม ถ้าสมมติโดนทำจนหัว blank สติหลุดเลื่อนลอย ไม่รับรู้ไม่ตอบสนองไม่มีอารมณ์ร่วมไรงี้นับเป็น mindbreak ปะ
ขอบ่น เอสคลาสกลับมาเปิดตอน อีพวกอ่านเถื่อนดีใจกันใหญ่ แถมรวมหัวกันด่าคนที่เคย "ล่า" แปลเถื่อนด้วย เอิ่ม เอสคลาสที่เกาหลีไม่ได้อ่านฟรีนะจ๊ะ เป็นนิยายติดเหรียญ เอามาแปลให้อ่านฟรีๆ=เหี้ยนะ พวกแปลนิยายจิ้นเจียงอ่านฟรียังไม่เหี้ยขนาดนี้
>>707 เนติเซ่นเกาหลีด่าแปลเถื่อนกันจริงจังมาก เพราะพวกนางเสียตังค์อ่าน 55555555 ด้อมท่านเคลเคยแคปต่างชาติที่แปลเถื่อนไปประจานกันใหญ่โต เป็นที่ฮือฮาของบ้านเค้า ด่าต่างชาติกันยับ กลายเป็นต่างชาติที่หวีดนิยายบ้านเขาโดนมองแย่ไปหมดทั้งๆที่บางคนก็ไปจ่ายตังค์อ่านอย่างถูกต้องแล้วใช้โปรแกรมแปลเอา พวกนิยายติดเหรียญยังไงก็ไม่ควรเอามาแปลว่ะ ตอนนึงบาทสองบาทก็จริง แต่เป็นสิบๆร้อยๆตอนมันก็หลายตังค์นะ มันไม่แฟร์กับคนเสียตังค์อ่าน ลองถ้ามีนิยายติดเหรียญนักเขียนไทยโดนต่างชาติเอาไปแปลเถื่อนมั่งดิ ชาวเน็ตไทยก็ด่าเหมือนกันป่าว แต่กูว่าคนแปลคงคิดไม่ได้หรอกเพราะคนแปลเองก็แปลจากอิ๊งเถื่อน ไปจกมาแปลฟรีๆโดยที่ตัวเองไม่เคยจ่ายให้คนเขียนสักวอน
เรื่องนิยายแปลเถื่อนนี่กูไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมมันถึงเป็นเรื่องปกติขนาดนี้ ทั้งๆที่กระแสแอนตี้ของละเมิดลิขสิทธิ์มันก็มีเยอะกว่าเมื่อก่อน นกฟ้าก็มีประเด็นด่าเว็บเถื่อนกันบ่อยๆ แต่พอเป็นนิยายแปลเถื่อนปุ๊บ ความเห็นคนส่วนใหญ่จะกลายเป็นยอมรับได้ แถมเกลียดคนด่าพวกแปลเถื่อนด้วยนะ สำนักพิมพ์ก็เกี้ยเซี้ยกับพวกแปลเถื่อนไปอีก ทั้งเอาคนแปลเถื่อนไปแปลเล่มขายบ้าง เปิดให้เสนอลิขสิทธิ์แล้วรับเรื่องแปลเถื่อนดังๆไว้พิจารณาบ้าง วงการนิยายแปลเน่าเฟะไปหมดแล้วตอนนี้
แย่ทั้งคู่แหละ แต่จีนยังได้บูมในไทย ยังได้คืนตังเข้ากระเป๋านขบ้าง ของเกานี่เมื่อไร
>>712 กูว่าเพราะแพลตฟอร์มเฉยด้วย จำได้ตอนเด็กดีล้างบางแปลเถื่อนอะ หายกันไปเป็นแถบ แต่พอผ่านไปนานไม่มีการเน้นย้ำอะไร บวกกับรอร.เปิดใหม่ คนก็กลับมาทำอีหรอบเดิม แพลตฟอร์มต้องเอาจริงเรื่องการละเมิดลขส.หรือให้ลงได้แต่ต้องขออนุญาตเจ้าของคนจีนที่ไม่ใช่คนแปลอิ้ง แบบนี้น่าจะสบายใจทุกฝ่าย
>>717 ไม่ได้เฉย แต่แม่งจงใจ มึงต้องไปดูคำตอบแต่ละอย่างที่คนแจ้งรายงาน ขนาดมีหลักฐานว่านักเขียนไม่อนุญาตแล้ว นางก็ตอบมาไม่ได้เปิดโดเนทไม่ได้รับเหรียญตามที่ทีมงานกำหนดก็ผิดตรงไหน อีเหี้ย กูไม่รู้จะหาคำไรมาด่า เรื่องที่แจ้งแล้วโดนปิดผ่านไปสองสามเดือนก็มาเปิดใหม่ อ่อจ้า
เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ยกอันดับหนึ่งเลยเว็บนี้ ทั้งแปลเถื่อนกับภาพละเมิดลิขสิทธิ์ แม่งมีทีมงานคอยซัพ ทั้งที่หลักฐานพร้อม อย่าให้กูยกมาแปะ โกรธโมโห กูเหมือนเป็นโรคจิตไปละแคปไว้หมดทุกตัวจะ1gbละ ติดต่อนักวาดนักเขียนจนกูจะได้ภาษาจีนญี่ปุ่น กูว่ากูควรไปพบหมอ จัดการตัวเองเพราะแม่งทำไรแม่งไม่ได้จริงๆ เว็บอื่นรายงานไปไม่ต้องมีหลักฐานไรมากลบให้อย่างไว เหอะ แม่งเอ้ยอารมณ์ขึ้น
เว็บนี้ที่อวยกันก็อวยเรื่องระบบที่มันมีลูกเล่นเยอะด้วย %ที่จ่ายให้นข.ก็เยอะกว่าเว็บอื่น แต่ปัญหาแปลเถื่อนนี่เหี้ยจริงไม่รู้จักแก้ไขสักที
เคยเห็นนิยายแปลญี่ปุ่นเถื่อนในรอรปลิวอยู่นะ แต่อาจจะเพราะเรื่องนั้นดันแปะสแกนเวอร์ชั่นมังงะเอาไว้ในหน้านิยายด้วย มันเลยปลิวง่ายกว่าเรื่องอื่นๆ
กูว่าดีไม่ดีจะฮั้วกับสนพ.ด้วย สนพ.ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องไหนเอาเข้ามาแล้วจะมีคนซื้อเยอะแค่ไหน สนพ.เล็กๆที่ไม่มีปัญญาดีลเอาเรื่องดังๆก็อยากให้นิยายมันมีกระแสในไทยสักนิดสักหน่อยก่อนจะเอาเข้ามา แล้วจะสร้างกระแสยังไงให้ง่ายที่สุด? แปลเถื่อน แปลเถื่อนอ่านฟรียังไงคนก็มีแนวโน้มจะไปตามอ่านมากกว่า ถ้าเป็นสนพ.พอขึ้นต้นมาว่าทดลองอ่านคนก็รู้แล้วว่าเป็นของซื้อ มันปั่นกระแสได้ไม่ง่ายเท่าแปลเถื่อนหรอก
>>730 แปลเพื่อฝึกภาษา เห็นส่วนใหญ่ชอบแปะไว้แบบนี้ คงคิดว่าตัวเองยังไม่เก่งพอจะไปสมัครสนพ. เลยหัดก่อน แปลเถื่อนมันไม่มีคนคอยจับผิดไง แปลถูกรึเปล่าไม่รู้ คนรออวยอย่างเดียว แต่กูเจอแบบนี้ก็มองเป็นไม้กันหมามากกว่า ถ้าใจอยากจะฝึกภาษาจริงๆ ไปหาแปลบทความ นิทานบลาๆ ที่มันฟรีแปลก็ได้ 🤷♀️
แปลเพื่อหาแสงหาลอกพล็อต ได้ผู้ติดตามก็ลงนิยายตัวเองแล้วพล็อตแม่งนิยายแปลจีนชัดๆ
กูยังจำได้ชัดเจน ใครอยากโดเนทให้เราแต่ที่แปลเถื่อนโดเนทไม่ได้ไปโดเนทในนิยายเราได้นะคะ อี๋ เงินโดเนทแค่นี้ยังไม่พอค่าไฟเลย เราแปลเราก็เหนื่อยนะ
KY สายวายปสดดับเรื่องที่คั่นโปสการ์ดโปสเตอร์กันจัง อยากติดตามคอมมูสายวายนะ แต่มันดันมีแต่คนปสด กูเหนื่อย
>>733 เท่าที่กูรู้ นักแปลที่ไม่มีเส้นสายอะไรเลยแล้วส่งเมลล์ไปหาสนพ. ขอสมัครเป็นนักแปล ทำเทสต์ ผ่าน ได้เซ็นสัญญาเนี่ย จริงๆแล้วโคตรน้อย เพราะส่วนใหญ่ให้เทสต์แค่สิบกว่าหน้าเองมั้ง ถ้าสิบหน้านั้นทำได้ไม่ดี อ่านแล้วไม่ได้อยากอ่านต่อหรือเห็นกันชัดๆว่ามีของ ส่วนใหญ่ก็ไม่ผ่านหรอก บางคนเลยมาเริ่มจากการแปลเถื่อนแทน ซึ่งบอกตรงๆว่าโคตรมักง่าย ไม่แฟร์อย่างที่มึงบอกแหละ ความลุ่มลึกของคำกับการสื่ออารมณ์นี่แทบไม่มีเลย เอกลักษณ์ก็ไม่มี มาสำนวนเดียวกันหมด แปลแบบเรียงความ บอกเล่าทื่อๆ อ่านรู้เรื่องได้นี่ถือว่าดีชิบหายแล้ว
สนพสมัยนี้โหยหานักแปลจีนจะตาย เส้นสายอะไม่ต้องมีหรอก ขอให้ทำเทสต์ออกมาดี แปลถูกต้อง สละสลวย สนพยินดีรับอยู่แล้ว แต่พวกแปลเถื่อนมันไม่ได้มีฝีมือกันขนาดนั้น เอาง่ายๆแค่คนที่รู้ภาษาจีนยังแทบไม่มีเลย มีปัญญาแค่แปลจากอิ้งให้ลูกหาบเลียแผล่บๆไปวันๆ
เพราะแปลเถื่อนส่วนมากแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยปะวะ
แต่ที่สำนักพิมพ์รับคือ แปลจากภาษาต้นฉบับเป็นภาษาไทย
กูว่าคล้ายๆกรณีแปลมังงะ ที่มีคนอวยว่าคนแปลมังงะเถื่อนแปลสนุกกว่า แต่จริงๆแล้วแปลผิด เพราะแปลจากภาษาอังกฤษ
ในขณะที่คนแปลถูกลิขสิทธิ์โดนด่าว่าแปลไม่เก่ง แปลแข็ง แปลผิด แต่จริงๆแล้วเขาแปลจากภาษาญี่ปุ่นมาไทยโดยตรง
>>741 กูไม่ได้หมายความว่าต้องมีเส้นสายถึงจะรับนะเอ้อ แต่มันเป็นความจริงที่ว่าถ้ามีเส้นสายเขาจะรับง่ายกว่า เพราะอย่างน้อยๆก็คงสนพ.ก็คงมั่นใจขึ้นระดับนึงมั้งว่านักแปลจะไม่เบี้ยวไม่บูดไม่ดองงาน ส่วนคนที่ไม่มีเส้นอะไรเลยต้องเก่งแบบเก่งจริงๆอะมึง แปลดาษๆสำนวนเหมือนอีกแปดพันคนบนเน็ตนี่ยังไงก็ไม่ผ่านมาตรฐานสนพ.ใหญ่หรอก
>>743 กูเคยเห็นเจ้านึง คนแปลเถื่อนอ้างว่าตัวเองแปลจากต้นฉบับจีนนะ คนชอบเยอะเชียวเพราะแปลแบบใส่อารมณ์มาก ทั้งคำว่าฉิบหาย เหี้ยแม่ง อะไรไม่รู้มาเต็ม แต่พอของลิขสิทธิ์มานี่ไม่มีคำพวกนี้เลย ปลิงเกาะนักแปลเถื่อนก็บอกว่านักแปลลิขสิทธิ์แปลทื่อ จนมีคนเอาต้นฉบับมาเทียบนั่นแหละ ความถึงแตกว่าต้นฉบับสุภาพมาก อีเถื่อนมันหยาบคายของมันเอง และลิขสิทธิ์แปลถูกแล้ว ตรงตามอารมณ์ต้นฉบับมากกว่า
กูเกลียดพวกแปลเถื่อนแล้วมั่นหน้าเรียกตัวเองว่านักแปล พราวด์ในความเป็นนักแปล ชอบพูดจาเหมือนเป็นนักแปลอาชีพ ทั้งๆที่ละเมิดลิขสิทธิ์เต็มๆ แถมแปลผิดแปลถูก บางคนแค่ถอดเสียงชื่อยังถอดไม่ถูกเลยมึง นั่งเทียนใส่เชิงอรรถมั่วๆอีกต่างหาก คนก็อวยกันไปสิว่าแปลดี ใส่ใจ ถุยเหอะ
ยกตัวอย่างความ ปสด ของด้อมดกจาให้หน่อย อยากใส่ใจ
>>750 ขอยืมพื้นที่มู้เม้าส์หน่อยน้า
ขอออกตัวก่อนว่ากูไม่ได้เหยียบเข้าในด้อมลึกเพราะไม่มีเวลาตาม แต่สมัยก่อนก็รีเเฟนอาร์ตบ้าง พอจะรู้ว่าด้อมค่อยข้างขี้กังวล อยากให้มึงฟังหูไว้หูเพราะก็เป็นเเค่มุมความคิดกู กูอคติไปแล้วเวลาเล่าอาจจะมีความไบแอส แต่จะยกตัวอย่างเรื่องที่กูรับไม่ได้แล้วฝังใจพาลทำกูไม่ชอบด้อมไทย
เรื่องที่หนึ่งเริ่มเปิดตัวสนพไลน์ใหม่ที่แอลซีเรื่องนี้ จำได้ว่าสนพไปทำแบบยึดเพจนั้นนี้สร้างกระแสโปรโมทซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามากของการตลาด นางไปยึดเพจที่แรกคือเพจกุหลาบ ด้อมไทยเอาล่ะ ด่าสนพไปดีเอ็มด่ากุหลาบว่าเอาดกจามาโปรโมทอยู่นี่ได้ไง ดกจาไม่ใช่วาย คนเขียนไม่โอเคที่ถูกมองเป็นวาย ด่ากันยับทั้งที่ไม่รู้ว่าสนพโปรโมทอะไร มีแค่รูปเสี้ยวของรถไฟก็ตีความว่าแม่งงงงง มึงโปรโมทดกจากับวาย รับไม่ได้ มีคนแปลเป็นเกาหลีฟ้องแม่เกาว่าโปรโมทเป็นวายนี่แค่วันแรกนะ พอหน้าแหกเขาโปรโมทสนพก็ด่าว่าโปรโมททำให้คนตีความผิด เอาจริง ถ้าอ่านแคปชั่นหน่อยจะรู้ว่าเขาไม่ได้โปรโมทดกจา รูปก็ไม่ได้สื่อถึงดกจาเลยนอกจารถไฟ นี่แค่ดูรูปก็ตีโพยตีพายเเล้ว ไม่นับที่ด่าแท็กโปรโมทเพราะคิดว่าเป็นชื่อเรื่อง สรุปไม่มีใครออกมายอมรับหรือขอโทษกับที่ด่าๆไปแก้ตัวน้ำขุ่นกันหมด
เรื่องที่สอง ด่าไทโปทั้งที่เล่มยังไม่ออก เป็นแค่รูปประกาศเเอลซีแล้วมีชื่อเรื่อง ด้อมก็เริ่มเอาล่ะ ด่าไทโปยับรับไม่ได้ ต่างๆนาๆที่ทำกูคลื่นไส้จนถึงทุกวันนี้จนแค่เเฟชเเบคกับไปกูก็ยังรับไม่ได้อยู่ดีคือสายผลิตต่างๆออกมาทำไทโปเเข่งกัน ทับงานออฟฟิศเชียว ว่าเราทำดีกว่า สวยกว่า พร้อมให้เเฟนคลับอวย กูรับไม่ได้ ตัวเป็นสายผลิตเองแท้ๆ แต่ไม่ใจดีกับงานคนอื่น ออกมาทำงานทับชาวบ้าน ข่มออฟฟิศเชียว มีสายผลิตคนหนึ่งถ้ากูจำไม่ผิดออกมาประมาณว่าช่วยกันว่าเยอะๆงานจะได้ออกมาดี คือทุกคนใจร้ายกันจังวะ วันนั้นกูได้รับรู้ถึงความใจร้ายกับมารยาทของสายผลิต ทั้งที่หน้าปกเล่มก็ยังไม่ออก ไทโปไม่ใช่ของปกเล่ม แค่ไทโปรูปโปรโมท แต่ต้องหาจุดติให้ได้ ด่ากันไปก่อน ทับทมงาน คิ้กค๊ากงานคนอื่น พอปกมาจริงไม่มีใครออกมารับผิดชอบคำด่าของตัวเองที่ด่าไปเลยว่ะ
ไม่นับพวกอวยแปลเถื่อนว่าดีกว่าของแอลซี มันไม่ใช่วิจารณ์เพื่อก่อให้เกิดการสร้างสรรค์พัฒนาแต่ด่าเหมือนไม่ใช่คน พอเจอเรื่องที่สองกูบล็อกคำ อันฟอลด้อมดกจาไทยและสนพไทย ไม่อยากรับรู้ความใจร้ายของคนพวกนี้อีก รอซื้อเล่มอย่างเดียว และอย่าหาว่ากูเข้าข้างสนพอย่างใดเลยเพราะกูอันฟอลและบล็อกทั้งสนพทั้งด้อมกูไม่รับรู้เรื่องหลังจากนี้แล้ว กูสนเเค่หนังสือที่ออกมา ปิดการรับรู้เรื่องต่างๆภายในด้อมทั้งหมด แต่มึงลองเข้าไปอยู่ก่อนก็ได้ เพราะที่กูเล่าก็แค่ความคิดกูจากสิ่งที่เคยเจอ กูเป็นพวกขี้กลัวขี้กังวลฝังใจกับคำคน 5555555 รับคำด่าอะไรพวกนี้ไม่ค่อยไหว เจอแค่นี้ก็ใจสั่นแล้ว ชอบคิดว่าถ้าเป็นตัวเองเจอคำด่าหรือสถานการณ์พวกนี้จะรับไหวเหรอประจำ ตอนพิมพ์ย้อนเล่าให้มึงฟังยังแอบมือสั่น ;-; มึงลองอยู่ดูก่อนไม่ชอบค่อยออกมาไม่อยากให้อคติตั้งแต่แรก
>>750 กุเห็นปสดสุดก็ตอนประกาศลิขสิทธิ์แล้วฟอนท์ในภาพไม่สวยอ่ะ คนก็รุมด่าตามๆกัน ทั้งๆที่มันแค่เป็นรุปโฆษณาเฉยๆ ตอนมีแฮชแท็กโฆษณาสนพก็เหมือนกัน มันแค่เป็นคำโฆษณา แต่ดันมีคนปสดบอกว่าสงสัยจะเป็นชื่อเรื่อง (กุจำแท็กไม่ได้ละ แต่มันไม่ไพเราะ) แล้วแม่งก็ด่าตามๆกันอีก คือพร้อมจะด่าตามๆกันแบบไม่ดูตาม้าตาเรืออะไรเลย เรื่องการแปลอีกอย่าง บางจุดไม่ได้แปลแย่เลย แต่คนในด้อมก็เอามาปั่นว่ามันแปลแย่ (จุดที่แปลแย่จริงๆก็มี แต่บางอันเลเวลความปสดพอๆกับด้อมปรมจแล้ว)
>>752 แท็กประสบการณ์อ่านขั้นเทพ คือเขาทำโปรโมทแบบแวะไปตามเพจต่างๆของสนพ.ในเครือ อมร
โอโหหหห พวกติ่งปสดด่าเอาเป็นเอาตาย บอกชื่อมันไม่สื่อกับเนื้อเรื่องนู่นนี่นั่น ทั้งๆที่สนพ.ยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดไรเลย
แค่เริ่มโปรโมทก็ดราม่าชิบหายวายป่วง และมีความวายป่วงอื่นๆตามมาอีกมากมาย
กูว่าที่นักแปลนิยายจีนขาดแคลนไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ค่าจ้างมันไม่คุ้ม ไปแปลอย่างอื่นดีกว่า
>>754 ที่นักแปลประสบการณ์สูงไม่มาเพราะสาววายปสดมาก ค่าจ้างแปลไม่ได้ถูกกว่าเลย นักแปลกลัวโดนด่าต่างหาก ยกตัวอย่างจากเคสปรมจ พวกปสดด่านักแปลเละเทะ ไม่ทับศัพท์คือแปลผิด ใช้ศัพท์ที่ไม่รู้คือแปลผิด พิมพ์ผิดคือแปลผิด ไม่ใช่แค่ปรมจ เรื่องอื่นก็โดนแค่ไม่หนักเท่าปรมจ แบบนี้นักแปลดีๆที่ไหนจะกล้ามาแปลงานวาย ยิ่งนักแปลระดับอาจารย์โดยเฉพาะหมวดโบราณชายหญิงของส้มยิ่งไม่เอาด้วยเลย ไม่ลดตัวลงมาให้พวกปสดยำด่าฟรีหรอก
แต๊งมาก เก็ตละ ปสด จริง สงสาร สนพ เลย กุว่ากุอ่านเงียบ ๆ คนเดียวไม่มีปฏิสัมพันธ์กับด้อมดีกว่า
>>756 ค่าจ้างมันพอกินพออยู่ได้ แต่จากบรรดาแปลทั้งหมด แปลหนังกับแปลหนังสือนี่ถูกกดราคาเยอะสุดเลย แถมแปลไม่ดีโดนมวลชนด่าอีก ถ้าไปแปลสายอื่นอย่างแปลเอกสารราชการ หรือโดยเฉพาะแปลสาขาเฉพาะทางเงินที่ได้มันเยอะกว่าเมื่อเทียบกับปริมาณตัวอักษรที่ต้องแปลพอๆกันแล้วไม่โดนกดเรทเท่าด้วยเพราะนายจ้างเค้าพร้อมจ่ายเยอะเพื่อให้คุณภาพงานดี และถ้าจะโดนด่าก็โดนนายจ้างด่ารอบเดียวจบ
>>756 น้อยกว่าแปลเอกสารกับเป็นล่ามมาก แล้วมึงดูนักแปลแต่ละคนที่โดนด่า ปรมจงี้ เหรียญทองแดงงี้ พูดออกมาได้ว่าแปลแย่ มันไม่ได้แย่เลย คนด่านี่ด่าเหมือนเคยอ่านหนังสือมาสำนวนเดียว อะไรต่างออกไปแม่งด่าหมด ยิ่งเหรียญทองแดงนี่กูยิ่งงง บางคนบอกว่าคนเขียนเขียนดีมากกกกกกกก ตลกมากกกกกกก ซึ้งมากกกกกกกกกกก แต่แปลห่วย เอ้า ขนาดแปลให้คนหัวเราะและร้องไห้ตามได้ขนาดนั้นยังเรียกแปลห่วยเลยนะ กูเป็นนักแปลกูก็เลิก ไปแปลอะไรที่มันทำเงินให้ตัวเองดีกว่า
จริงนะ แปลอย่างอื่น แปลงานในบริษัท โดนด่าแค่นายจ้าง
แปลนิยาย โดนคนอ่านตั้งไม่รู้กี่คนด่า ทั้งๆที่จริงๆบางทีไม่ได้แปลผิด แค่แปลไม่ถูกใจ ของแบบนี้มันขึ้นกับความชอบ
เหมือนทำอาหาร บางคนว่าอร่อย บางคนว่าไม่อร่อย
อย่าว่าแต่เรื่องแปล เด้วนี้ไทโปยังสะแหลนจะวิจารณ์พร้อมแปะงานตัวเอง กูเข้าไปเห็นฝีมือแล้วเวท
>>764 มีสิมึง จะเหลือหรอ 5555555 กูเจอคนหนึ่งอันที่นางทำนฝกูไม่ซื้อแน่ถ้าใช้ นางก็ออกมาบอกว่าดูสิๆ นางทำแค่ 20 นาทีเองแต่มั่นใจว่าดีกว่าอฟช สักพักไม่แม่นว่ามีคนโควทหรือทวิตลอยๆว่าไม่ชอบ/อฟชดีกว่าสักอย่างซัมติ้ง นางก็ไปโควททว.เขาว่าก็นางทำแต่20 นาทีอ่ะ กูแบบ เห้อ ต้องอยู่แบ่งพื้นที่หายใจร่วมโลกกับคนแบบนี้จริงหรอ ย้อนแย้งชิบหาย
กูรังเกียจสายผลิตด้อมไทยดจและด้อมอันวาห์ จ้างคอมมิชกูก็จะไม่มีวันจ้างคนด้อมไทย ไม่สนับสนุนและไม่กดหัวใจให้ใครทั้งสิ้น รู้ทั้งรู้ว่าไม่ดีแต่ไม่มีใครห้ามใครก็โดนกูเหมารวมไปเหอะ ขอให้เจริญๆ ขนลุกกับคนบนนกฟ้าที่ขอให้ใจดีกับงานเราด้วยนะคะ🥺 แต่พอไม่ใช่งานพวกตัวเองหรือไม่รู้ว่างานใครมึงรุมด่าจนเละมากี่รายแล้ว แล้วมาบอกในไทยชอบกดงานชาวบ้าน ตลก
กูเป็นคนจากด้อมดจนะ ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่างกับพวกมึง สำหรับส่วนที่คิดว่าควรคิดให้ถี่ถ้วนกว่านี้คือเรื่องการโปรโมทกับไทโป กูเข้าใจแผนการตลาด แต่ไม่น่าไปเริ่มที่กุหลาบเลย พลาดมาก ยิ่งกับนิยายเรื่องนี้ที่เคยถูกโฮโมโฟบตามด่าว่าเป็นนิยายเกย์จนนักเขียนเขาซัฟเฟอร์(เรื่องจริง)อะ จะมาบอกว่ามันไม่ได้สื่อถึงนิยายเรื่องนี้ซักหน่อย ก็แค่โพสต์รูปเฉยๆแต่คนตีโพยตีพายกันไปเองไม่ได้ มันชัดๆอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องนี้55555555 และจากอดีตแบบนี้ กูเลยว่ามันเป็นประเด็นที่อ่อนไหวมาก ตอนเห็นก็สงสัยเลยว่าสนพคิดอะไรอยู่ ถ้าทำงี้ออกมาก็น่าจะรู้ว่าคนในด้อมไม่โอเคแน่ๆ ควรระวังกว่านี้อะ
ส่วนไทโป ก็ไทโปมันเหี้ยจริง55555 มันทำแบบขอไปทีมากๆ5555555 กูไม่โอเค ทั้งนี้ทั้งนั้น กูก็ไม่ชอบการไปทำไทโปเกทับสำนักพิมพ์เหมือนกัน กูว่าไม่ใช่เรื่องและเสียมารยาท
ส่วนเรื่องการแปลและประเด็นต่างๆ กูว่าด่ากันเกินไป จับผิดกันมากไปแล้ว
สรุปคือ กูว่าที่สำนักพิมพ์ทำก็ขาดความใส่ใจ แต่ฝั่งแฟนคลับก็ประสาทแดกเกิน และกูก็คงช่างแม่งทั้งสองฝั่ง รอซื้อเล่มแล้วค่อยฟีดแบ็กทีเดียว
บางที คนที่ทำร้ายนิยายก็ไม่ใช่สำนักพิมพ์หรอก แต่เป็นแฟนด้อมต่างหาก
ดจ.กูงงว่าตอนแรกไม่ได้จะลงหัวสนพ.ใหม่ เห็นบอกจะลงสถานีอะไรสักอย่าง พีโอนี่ม้ังนะ
แล้วสุดท้ายลงพี่โอนี่แต่ให้ไปต่อลงอีกสถานี งงเลยกู
>>771 คือจำได้ว่าตอนเขาโปรโมทคือเขาต้องการแบบส่งต่อไปเรื่อยๆอะ แบบตอนโปรโมทเขาก็บอกเลยนะว่าติดตามที่สถานีต่อไป >>>> ไรงี้อะ คือเขาก็ตั้งใจเปิดหัวสนพ.ใหม่แต่แรกนะแล้วให้ทุกเพจในเครือช่วยโปรโมท ตอนไปกุหลาบเขาก็บอกมายึดพื้นที่ชั่วคราวแล้วบอกให้ไปตามต่อ แต่ทัวร์ลงที่กุหลาบตั้งแต่เริ่ม แอดมินเพจตัวจริงได้แต่บอกไม่ทราบรายละเอียดเลยค่ะ รบกวนติดตามที่เพจต่อไป
>>767 1เรื่องโปรโมท ขอเน้นว่าเขา”โปรโมทสนพใหม่”ไม่ใช่โปรโมทดจ ถ้าด้อมไม่ไปเสิชisbnแล้วเอามาประกาศกันด้อมก่อนออฟจะแน่ใจได้ยังไงว่าดจอยู่ที่นี่ แค่เสี้ยวรถไฟเอาอะไรมามั่นใจว่าเขาโปรโมทดจ และการโปรโมทสนพใหม่ในเครือเดียวกันเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ผิด เขาไม่ได้มาเปิดตัวดจเขาเปิดตัว’สำนักพิมพ์’นะอยากให้มองมุมนี้บ้าง เคยขอโทษสนพที่ด่ากันป่าว หรือโยนว่าเป็นความผิดสนพการตลาดแย่จะได้ไม่รู้สึกผิดกับที่ด่าเขาไปตอนที่สุดท้ายเปิดตัวเป็นสนพเอ่ย
2typoมันไม่ใช่typoปกเป็นไทโปของรูปโปรโมท สตกูมันไม่แย่ ให้ยอมรับมั้ยว่ามีคนปั่นว่ามันจะเป็นไทโปปกไม่งั้นมองจากมุมไหนกูก้ไม่เห็นทางที่มันจะเป็นไทโปปกได้ หลักๆก็ไหลตามกระแสเซเลปในด้อมมั้ย
ถ้าสนพพลาดคือพลาดที่มาซื้อเรื่องนี้มาแปลแหละ สู้เอาเงินไปโกยวายจีนดีกว่า ยกให้สนพอื่นได้ไปปล่อยให้ไปปสดกับสนพอื่น เซฟใจเด็กในบริษัทที่ต้องมาทนเจออะไรแบบนี้เหอะ
กุนึงถึงตอนเข้าด้อมวายจีนแรก ๆ เลย อ่านเงียบ ๆ คนเดียว รู้สึกชีวิตสงบสุขดีมาก อยากหวีดแหละแต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีคนหวีดกันในทวิต พอเริ่มเข้าด้อมในทวิตมันก็ดีที่มีเพื่อนหวีด แต่ก็ต้องทำใจว่ามาพร้อมความ ปสด อะ ต่อจากนี้ตั้งใจว่าจะอ่านเงียบ ๆ คนเดียวละ ชีวิตวุ่นวายพออยู่แล้ว อย่าให้มาหงุดหงิดกับพวก ปสด เพิ่มเลย
พวกมึงเคยเจอเพื่อนแบบนี้ไหมวะ ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนั้น แต่ไปอ่านสปอยเอา ละทำตัวเหมือนซื้อเล่มอ่านจบแล้วอะ รำคาญว่ะ5555 คุยเนื้อเรื่องก็คุยไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ชอบแอ๊บว่าอ่านจบแล้วน้า เพื่อไรวะ ไหนจะบางทีมาขอยืมกูอ่านเอาอีก(ไม่ได้งกแต่มันขอไปหลายเรื่องมาก ให้ยืมหลายเรื่องแล้วด้วย กะจะเกาะกูอ่านตลอดไปรึไง)
>>777 เหมือนกันเลย ตอนแรกอ่านคนเดียวมีแต่เรื่องที่ชอบมากกับเรื่องที่ชอบน้อยหน่อย แต่พออ่านรีวิวเริ่มเข้าด้อมเท่านั้นแหละ อ้าว เรื่องนี้ไม่สนุกหรอวะ เรื่องนั้นแปลห่วยหรอกเรอะ เรื่องโน้นมีแต่ทับศัพท์ซึ่งกูต้องรับไม่ได้ใช่มั้ย แล้วอิเรื่องนี้มันไม่ทับศัพท์เลยซึ่งกูควรต้องการทับศัพท์เพื่อให้ซาบซึ้งกับความรักของพระนายเหรอ ฯลฯ
บางคนก็วิจารณ์ดีนะมึง แต่บางคนเหมือนแค่ไม่ถูกใจแล้วออกมาคายพลังลบเฉยๆ หลังๆนี่รีวิวไหนใช้คำว่า แย่ ห่วย สำนวนแปกๆ รูปปกเฮงซวย อ่านแล้วอยากปาทิ้ง บลาๆๆ นี่กูเลิกเอามาเป็นอารมณ์ละ อ่านแค่ตัวอย่างเลย อันไหนรับได้ก็ซื้อ ไม่ชอบก็ผ่าน อ่านจบชอบมากค่อยหาเพื่อนหวีด ช่วงติดอ่านรีวิวนี่กูพลาดเรื่องดีๆไปเยอะ 55555555555
เวลาด้อมไหนๆไม่ว่าจะดจหรือปรมจไปปสดใส่สนพมันก็ไม่มีครั้งไหนออกมายอมรับกันเองว่าทำเกินไปแล้วขอโทษหรอก มีแต่อวยตัวเองว่าสนพทำดีขึ้นเพราะแรงด่าจากด้อมทั้งนั้นแหละ
อยากด่าเหยียดคนอื่นด้วย แต่ก็อยากได้รับคำชมด้วย แหม มันโลภนะ คนเราสูงส่งกันง่ายๆด้วยการกดตัวคนอื่นแล้วยกยอตัวเองว่ะ
คือเพื่อนกูเริ่มตามซีรีย์จีน ละจะว่าไงดี มันดูเห่อหมอยอะ แบบคิดว่าดูละกูนี่ค่ดเท่เลย จากนั้นมันก็ทำเหมือนเป็นผู้รู้ทุกเรื่อง(ทั้งที่จริงๆมันรู้จักแค่เรื่องดังๆ แถมบางเรื่องรู้จักแค่ชื่อยังไม่ได้ดู+นิยายไม่เคยแตะก็มาพูดเหมือนรู้ดี) กูเหนื่อยใจชิบหาย
ขอแวะมาบ่นหน่อย พอดีกูเพิ่งไปเห็นทวิตพูดถึงlcแปลจีนใหม่ของบกร. แล้วคนเมนชั่นแบบนึกว่าสนพ.ปิดไปแล้ว ทำไมต้องสนพ.นี้อีกแล้ว เสียดายนิยายงี้ กูอยากจะแหมมมม รู้เลยว่าเคยอุดหนุน(หรือไปฟังเขามา?)บกร.แค่ปรมจ.เรื่องเดียว นี่มันสนพ.ลูกชังลูกเมียน้อยจริงๆ ถถถถ
บกร.ลูกเมียน้อยจริง ขนาดหมดเวรหมดกรรมจากปรมจ.แล้วยังมีเงาแค้นตามจิกไม่เลิก วงวารแทน
เอาจริงบกร.กูว่างานแปลไม่แย่เลยนะ อย่างชายากูอ่านก็ว่าแปลดีเลยแหละ แปลให้ขำหลายมุกอยู่ ถ้าพูดเรื่องความแปลบ้งของงานแปลที่ความติด่า(อย่างมีสติ)ควรเป็นสนพ.มด. กุหลาบ ซบ.มากกว่านะ
เนื้อหาที่เกินมาซบ.ออกมาแถ ลงแล้วเว้ยว่าไม่ใช่ความผิดนาง ไฟล์ต้นฉบับมางี้นางแค่แปลตาม แต่เรื่องถามหนิแค่บอกปัดๆไปมั้ง เล่นถามข้ามปีงี่คงปล่อยเบลอเรื่องนี้แล้วล่ะ ติ่งก็ไม่เห็นว่าอะไรแถมใครถามมากเดี๋ยวโดนด่าว่าเป็นเงาแค้นอีก ส่วนนิยายสูตรไขว้ก็… เอาเป็นว่ากุรอโม่งหน่วยกล้า(เสียตัง)มารีวิวละกัน กับวายที่ไม่เชิงวายนิยายสูตรผสมแบบนี้
กูเป็นเหี้ยไรว่ะชอบสวนโพกับนักเขียน พยายามชิบตามแล้วแต่ใจกูมันเอนเอียงT T
ปีที่แล้วกูโดนปกล่อลวงไปเยอะมาก ปีนี้กูจะพยายามตั้งสติในการซื้อ
นิยายสูตรไขว้กูเสียดายจริงๆนะ อยากจะร้องไห้กูรอมาอย่างยาวนาน
นิยายสูตรไขว้บวกเทพเจิ้นกูเสียดายโคตร ฮือ
กูก็ทำใจอยู่ว่าบกร.มีเงาแค้นเยอะ แต่เห็นทีไรก็หงุดหงิดตลอดในการตามจิกของพวกแม่งทั้งๆที่บางทีมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบกร.มีนิยายอะไรบ้างนอกจากปรมจ.อ่ะ ออกนิยายมาก็เยอะ เปิดมานานกว่าอีซบ.อีก มาโดนปสด.ตอนอีด้อมนี้อ่ะ
เทียนซือนี่จบยังวะ กี่ปีละเห็นหลายเล่มแต่แม่งบางนิดเดียว มรดกเหมียวเหมือนโม่งเคยคุยกันว่ามีปัญหาไรสักอย่างปะวะเลยเลื่อนไปนาน กูว่าสนพนี้ก็ไม่ต่างจากสนพเล็กๆเลยนะ ไปคว้าปรมจได้มายังไง55555
ขออนุญาตถามด้วยฟามน้อยใจส้ม นิยายวายส้มเคยซื้อปกสำเร็จมาทำปกมั้ย
อย่าน้อยใจไป จงหยวนแม่งยังปล่อยเบลอเรื่องภาพปกนั้นอยู่เลย ดัดแปลงสีจากต้นฉบับขนาดนั้นคิดว่าซื้อภาพมา? ไม่สวยยังดีกว่าขโมยมานาจา
ปกสำเร็จคืออะไร ไม่ค่อยเข้าใจที่คุยกัน
เมะสวย กับผัวออกสาวมันคืออันเดียวกันป่าวว่ะ กูเคยเขาใจว่ามันคืออันเดียวกัน แต่พึ่งมาเข้าใจใหม่ว่าเมะสวยคือผู้ชายหน้าสวยแต่นิสัยไม่ต้องออกสาวก็ได้แค่หน้าสวยเหมือนผญ.เฉยๆ กับผัวออกสาวก็คือเหมือนนิสัยออกสาวไปเลย นิสัยเหมือนผญ.แต่หน้าตาอาจจะไม่ต้องสวย หน้าหล่อ หุ่นกล้าม อารมณ์ประมาณกะเทยควายงี้ก็ได้ กูเข้าใจถูกปะ
>>804 สำหรับกู สวยอยู่ที่หนังหน้า ออกสาวอยู่ที่นิสัยการแสดงออก ซึ่งตัวละครตังนึงมันอาจจะมีทั้งสองอย่างก็ได้ แน่หละ ถ้ามึงสร้างพระเอกมาเป็นผัวออกสาวแต่หน้าตาไม่ดีคนก็ไม่ค่อยซื้อจริงไหม เออแต่ถ้าเป็นพวกชอบครอสเดรสแต่นิสัยแมนเห้ๆ กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านังควรเรียกผัวออกสาวอยู่ไหม
กูเข้าใจมาตลอดว่าเมะสวยคือหน้าตาสวย ผัวออกสาวคือผัวแรด ชอบแต่งตัว ชอบพูดคะขา ส่วนนิสัยจะเถื่อนแท้แลดูแมนหรือนุบนิบมุ้งมิ้งก็แล้วแต่ เป็นไส้ในเฉยๆ เหมือนไส้โมจิอะ
มึง กูไม่เข้าใจการเรียกเมะว่าคนพี่ เรียกเคะว่าคนน้อง มันเริ่มมาจากไหนวะ บางทีเมะเด็กกว่าแม่งก็ยังเรียกคนพี่กัน เดี๋ยวนี้เห็นคนเรียกแบบนี้เยอะมากๆๆ กูรู้สึกแปลกๆไงไม่รู้ หรือมันเป็นเรื่องปกติวะ นี่กูต้องทำตัวให้ชินมั้ย
ky ปกติเป็นคนไม่อ่านนิยายใน รอร เลย (รู้สึกเป็นคนประหลาดมาก 5555) แต่พอวันนี้ลองไปเปิดๆเล่นดูคือนิยายแปลเถื่อนเยอะมากกกกกกกกกจริงงงงเยอะจนตกใจ โดยเฉพาะนิยายจีน แล้วสงสัยกับความบอกว่าแปลเพื่อฝึกภาษามาก คือจะฝึกภาษาจีนหรือไปดูดแปลอังกฤษมาแปลต่อกันแน่
ถ้าอย่างแรกก็ว่าแย่แล้วนะ แต่ถ้าแปลแบบเรื่องไม่มี LC ไม่โดเนทใดๆคือต้องการฝึกแปลนิยายก็ยังดูตรงจุดประสงค์นิดนึง (ไม่ได้หมายความว่าไม่ผิด)
แต่ถ้าไปดูดของชาวบ้านมาแปลอีกทอดคือเห้ x100000000 จะฝึกภาษาอังกฤษก็ไปหานิยายภาษาอังกฤษอ่านสิคุณพี่ จะมาฝึกภาษากับนิยายจีนแปลอังกฤษแล้วมาแปลไทยอีกทีเพื่ออออ อยากฝึกจริงเรอะะะะะะะะะะะะะ
>>816 เมื่อกี้สดๆเลยคลิกเข้าไปหน้านิยายแปลเรื่องนึง เจ้าของเรื่องบอกเลยว่าใช้กูเกิ้ลแปล อ่านไม่ออกแต่อยากแปล แล้วเติมกะปิน้ำปลาเอา เหี้ยไรวะเนี่ย 555555555555555555555
เคสนี้ต่อให้คนแปลมันไม่หวังอะไรจริงๆ(สมมติว่าเป็นนั้นนะ เหอะๆ) ก็เหี้ยมากกกกกกก นอกจากละเมิดลิขสิทธิ์แล้วยังทำเสียของอ่ะะะะะะะะะะะะะะะะะ ไร้ประโยชน์เว่อร์
แปลเถื่อนเยอะว่าน่าหงุดหงิดแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้กูหัวร้อนกว่าคือพวกอวยแปลเถื่อนอ่ะ พอเรื่องไหนได้แอลซีแม่งก็ชอบด่าคนซื้อแอลซี สันดานปลิงอยากอ่านฟรีอ่ะ มีคนซื้อลิขสิทธิ์ถูกต้องแทนที่จะดีใจ ดันงอแงกันซะงั้น แถมพอมีคนเรียกแปลเถื่อนหรือเรียกพวกอ่านเถื่อนว่าปลิง บางคนแม่งดิ้นเป็นหมาโดนน้ำร้อนสาดเลย เวทนา ไหนจะอีพวกนักแปลเถื่อนที่ชอบชูคอเรียกตัวเองว่านักแปลอีก สมเพชนะ ไม่มีปัญหาสมัครงานสำนักพิมพ์ ได้แต่แปลเถื่อนให้ลูกหาบอวยไปวันๆ เหอๆ
เออจริง คนอวยแปลเถื่อนแม่งน่าด่าโคตรๆ โดยเฉพาะอีพวกที่ชอบขอให้เอานักแปลเถื่อนไปแปลให้สนพ. ฮัลโล่ สติค่ะ บางเรื่องแปะป้ายตัวเท่าควายว่าแปลมาจาก eng นะคะ แต่มีนักอ่านมาบอกอยากให้สนพ.เอาที่แปลเถื่อนไปลงในเล่มหลัก??? WTF มากกก เพราะงี้ไงกูถึงเกลียดติ่งแปลเถื่อนปสด.ที่ชอบสาระแนมาทำให้มาตราฐานการแปลมันต่ำลง
เออ แต่จะว่าไปถ้าแปลมาจาก eng อยากฝึกภาษาทำไมไม่ไปหาแปลบทความแทนว่ะ มาแปลเถื่อนนิยายจีน ver.eng เพื่อ?! กูงงใจนักแปลเถื่อน เกาหัวอย่างงงๆ**
ถ้าแปลจากจีนมาไทย แล้วบอกว่าฝึกแปล ยังพอฟังขึ้นบ้างนิดหน่อย
เจอพวกแปลจากอังกฤษมาไทย แล้วบอกว่าฝึกแปล กูนี่ขำก๊ากเลย
มึงฝึกแปลจริง ทำไมไม่ฝึกจากนิยายฝรั่งวะ 555
เวลาคนเค้าฝึกแปลจริง มันต้องแปลจากต้นฉบับสิโว้ย
แปล จีน ไป อังกฤษ ไป ไทย มันมีความตกหล่นทางภาษาเยอะอยู่นะ
สนพจริงๆเค้าไม่ให้แปลจากอังกฤษมาไทยเว้ย
วงการการ์ตูนก็เหมือนกัน ไม่แปลจากอังกฤษมาไทยเหมือนแปลเถื่อนนะ เค้ารับคนแปลญี่ปุ่นมาไทย
พวกอยากแปล wanna be ขนาดจะลงทุนเรียนภาษา ยังไม่กล้าลงทุนเลย
อยากเป็นนักแปลจริง ไปซื้อคอร์สเรียนภาษาที่ 3 ก่อนนะ
ไม่ใช่ไปลักไก่แปลจากภาษาอังกฤษ มันดูกากมากไปหน่อย
คนอ่านหลายๆคนไม่สนใจหรอกว่าจะแปลจากภาษาอะไร ขอแค่ได้อ่านก็พอ นิยายไม่วายหลายๆเรื่องพวกแปลเถื่อนมีคนสนับสนุนอย่างเยอะ ถ้ากูจำไม่ผิดฟชล.บางเรื่องยังให้คนแปลคนเดิมที่แปลจากอิ๊งทำต่อแล้วมีคนเช็คจีนอีกทีเลย 55555
กูไม่เข้าใจเลยอ่ะว่าทำไมบางคน โดยเฉพาะในนกฟ้า แอนตี้อนิเมะเถื่อน/มังงะเถื่อนมากกกกกกก แต่พอเป็นนิยายจีนแปลเถื่อนกลับชอบอ่าน สนับสนุน แถมชอบรีวิวอีก เพราะถือว่ายังไม่มีแอลซีในไทยงี้เหรอ?
>>826 เพราะช่องทาง ลข ดูฟรีก็มี แถมดูเถื่อนเสี่ยงเจอมัลแวร์อีก เลยทำให้ความชอบธรรมเสพเถื่อนอันนี้หมดเกือบสมบูรณ์ คล้ายๆ วงการสตรีมเกมที่ถูกจนมึงจะซื้อเกมเถื่อนทำเหี้ยทำไม
ส่วนมังงะ กะนิยายมันยังติดไม่มีช่องทางฟรีหรือถูกมากให้พวกนี้หมดคำอ้างเลยยังเห็นความย้อนแย้งอยู่
>>796 ตกแมวเคยไปทวงในอินบ๊อก (เดือนตุลา)
ล่าสุดคือ นักแปลคนเก่ามีปัญหาด้านสุขภาพ รอนักแปลใหม่อยู่ บอกว่าจะมาภายในปีนี้
แต่ตอนนี้ข้ามปีมาแล้ว ก็เดาว่าคิวนักแปลไม่ว่างมั้ง เพราะลองแย๊บๆเรื่องนักแปลใหม่ไปแล้ว แต่ไม่บอก
แล้วยิ่งของเก่าแปลดี สนุก น่ารัก ดีไม่ดีอาจจะรอนักแปลคนเก่าแทน
>>827 พูดถึงวงการเกม เมื่อก่อนเป็นวงการที่ละเมิดลิขสิทธิ์กันเยอะมากกกก แต่ปัจจุบันวงการนี้ยังมีจิตสำนึกเรื่องลิขสิทธิ์กันมากกว่าวงการนิยายวายอีก 555555 เข้าใจแหละว่านิยายวายถ้าไม่อ่านแปลเถื่อนก็ต้องไปงมภาษาต้นทาง ใช้ mtl ทรานสเลทกันเองมั่วซั่ว มันยุ่งยากกว่ามีคนแปล(มั่วๆ)มาให้อ่านเป็นภาษาไทยเสร็จสรรพแล้วอ่านะ แต่อ่านเถื่อนก็ควรรู้ตัวว่าไม่ดี ไม่ใช่พอมีเรื่องไหนปิดเรื่องไปก็ไปไล่ตีสนพ. อันนี้ทุเรศ
วงการเกมกับวงการอนิเมะ/มังงะเป็นสองวงการที่เคยละเมิดลิขสิทธิ์กันเป็นปกติ แต่ปจบคนหันมามี awareness กันเยอะขึ้นมากๆๆ ส่วนวงการนิยายวายแม่งตกต่ำลงทุกวัน นอกจากอ่านเถื่อนกันเป็นเรื่องปกติแล้วยังชอบสร้างเฟคนิวส์ดิสเครดิตของลิขสิทธิ์อีกต่างหาก
อวยของเถื่อน->ด่าLC->ยำนักแปล->ค่าแปลแม่งก็น้อยนักแปลนอยด์เลิกแปล->งานห่วย->อวยของเถื่อน->ด่าLC... วนลูปไปอะมึงวงการนี้ นิยายชญแม่งไม่เห็นเยอะสิ่งเท่านี้เลยนะ มีปสดบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่ส่วนใหญ่แทบไม่มีใครบ้าไปด้วย ไม่เคยถึงขั้นด่าคำว่าเลียแผล กูงงมาก ทำไมคนด่าถึงคิดว่าตัวเองถูก
>>831 เออกุงงนะ อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องที่คุยกันอยู่เท่าไหร่ แต่นักอ่านสายชญประสาทแดกน้อยกว่ามาก แถมคนชอบพูดกันว่ายังไงนิยายชญก็ขายดีกว่า แล้วทำไมพวกสนพ.ถึงไม่ทำแนวนี้กันเยอะๆอ่ะ อย่างกุหลาบตอนแรกๆเปิดมายังทำชญอยู่บ้าง แต่หลังๆทำแต่วายรัวๆเลย ตกลงชญมันขายดีกว่าจริงมั้ย
คนอ่านโรแมนซ์ชญ.ไปอ่านต้นฉบับอิ้งกันหมดแล้วมั้ง ไม่มีความจำเป็นต้องมาอ่านแปลไทยซึ่งก็ไม่รู้จะแปลผิดแปลถูกเติมกะปิน้ำผลาอะไรบ้างมั้ย กูเดางี้นะ
สรุปคือตลาดชญตอนนี้ที่รุ่งคือชญจีน ส่วนโรแมนซ์ฝรั่งไม่มีใครอ่าน?
ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้มีโม่งบอก ชญ แมสมากแต่แมสเงียบๆในกลุ่มคนทำงานที่มีกำลังซื้อหรอกเหรอ
กลุ่มทำงานซื้อกันเงียบมากๆ ไม่ค่อยสิงในโซเชียลเท่าไรหรอก ค่อนข้างมีอายุก็เยอะนะ 5555 รวมตัวกูด้วย >< และหลายคนคือกำลังเปย์เยอะมาก เวลาแจ่มออกเล่มใหม่ๆ แม้จะเล่มเดียวก็ให้แมสไปรับ อีกกลุ่มก็ซื้อตูมๆ เดียวเลยในงานนส เห็นเข็นทีเป็นตั้งๆ พวกป้าๆจงหยวนยิ่งแล้วใหญ่ กำลังเปย์มหาศาลมาก แม้จะยี้สนพ.นี้แต่ว่าไม่ได้นะ คนซื้อเยอะกว่าคนสาปมากๆ
แต่ชอบอย่าง ชญ ปัญหาไม่เยอะดี นี่ยังภาวนาทุกวี่วันว่าเลิกเถอะไอ้วิ่งตามพรีเมี่ยมเนี่ย แต่ก่อนก็ไม่เห็นต้องมีเลย หรือมีก็แค่แลกแต้มเก็บยอดช่วงงานนสเหมือนเดิม ส่วนฝั่งวายม่าทุกสิ่งอย่าง กระแสฝั่งวายไหลเร็วอะ ตามไม่ค่อยทัน 555
จงหยวนคนซื้อมากกว่าคนสาปจริง คือดูสาปแรงมาก แต่แรงเปย์จากกลุ่มคนที่เขาไม่สนดราม่ามีเยอะกว่ามากจริงๆ
มิหนำซ้ำ หลายคนสาปไปก็ซื้อไปขอรีวิวไป สนพ.ขายไม่ดีก็แย่แล้ว 55555555555555555555
>>837 นิยายไทยซบเซามาราวๆสิบปีแล้วมึง จากเคยพิมพ์ทีนึงหกพันก็เหลือห้าพันเล่ม สี่พันเล่ม ล่าสุดสามพันมั้ง นักเขียนที่ไม่ค่อยดังไม่มีฐานแฟนหนาๆก็อยู่ไม่ได้ หลายคนต้องไปทำอาชีพอื่น ส่วนนักเขียนดังๆอย่างกิ่งฉัตรงี้ก็ออกมาทำสนพ.ตัวเอง เก็บกินกำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วย สนพ.ก็ต้องหันไปหาตลาดใหม่เป็นนิยายแปลจีน แต่ยามเช้าเข้ามาหลังสยัมกับแจ่มเยอะมาก จะให้แย่งซื้อลขแย่งตัวนักแปลกับเค้าก็ลำบาก ส่วนงานแปลฝรั่งนี่เห็นว่าไปเด่นด้านสืบสวนสอบสวน ไม่ใช่โรแมนซ์ปะนะ
แต่ชญนี่แมสมากจริง ทั้งแบบแปลแล้วก็คนไทยเขียน แต่รุ่นนี้ส่วนใหญ่ไม่มาหวีดกันหรอกมึง อ่านกันเงียบๆ อย่างดีก็ถ่ายรูปลงโซเชียลพร้อมพร็อพเป็นถ้วยชากับผ้าปูโต๊ะลายลูกไม้ แถมอ่านได้หมดทุกสำนวนไม่เกี่ยงว่าจีนไทยฝรั่ง พีเรียดหรือปัจจุบัน ถ้ากำลังภายในเรื่องไหนมันกิ๊วก๊าวพอ บางคนก็พร้อมจะอ่านสำนวนกำลังภายในด้วย มีบ้างเหมือนกันที่ปสดไม่รับสำนวนที่ตัวเองไม่คุ้น แต่มันไม่มีใครต่อยอดอะมึง บ่นแล้วก็จบที่ตัวเองในโพสต์สองโพสต์นั่นแหละ สายนี้เลยมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง
ตามคหสตนะ ตลาดชญแมส แต่เบียดไปขอกินพื้นที่ยาก เค้กก้อนใหญ่จริงแต่แบ่งยากมาก ไม่เหมือนฝั่งวาย แบ่งเค้กกันทั่วถึงกว่า สนพเปิดใหม่ฝั่งวายเลยเยอะกว่าตามไปด้วย
วายจีนมันคนอ่านเยอะแซงหน้าชญไปนานแล้วมึง ถ้าทำงานอยู่ในๆ สนพใหญ่ๆ จะรู้เลย คือไม่ใช่ว่าชญขายไม่ดีนะ ชญยังขายดีในระดับเดียวกับที่เคยเป็นมานั่นแหละ เพียงแต่วายจีนในสองสามปีนี้มันกำลังมาแรงมากจนแซงหน้า (ไปมากๆๆๆๆ) เฉยๆ
แต่ก็นั่นแหละ ไม่รู้ว่ามันยังจะแมสขนาดนี้ไปอีกกี่ปี เพราะดูทรงแล้วฐานไม่เหนียวแน่นเท่าตลาดชญอ่ะ
พูดถึงชญ สต.โรมานซ์ไทยแต่งกับแปลฟีลมันต่างกันอยู่นะที่เคยอ่าน แต่ก็นานล่ะที่อ่าน นอกจากสำนวนที่ต่างกัน ผญในเรื่องนี่แหละที่เห็นชัด ฝรั่งมันจะแนวผญมั่นๆกล้าๆหน่อย แต่โรแมนส์ไทยผญจะออกไปแนวเรียบร้อย อ่อนหวาน เหมือนผ้าพับไว้ ไม่ขัดใจใคร ยอมเป็นเมียเก็บมาชี้ช้ำกะหล่ำปลี พรรณาความรู้สึกตัวเองอยู่เงียบๆ ฝั่งแปลฝรั่งที่ผญเรียบร้อยขี้อาย เชื่อในรักแรกก็จะขายดีเหมือนกัน กูมองว่าเพราะค่านิยมคนยุคก่อนๆด้วยที่แบบผญต้องเรียบร้อยไว้นวลสงวนตัว คน40+เลยนิยมอ่านแนวผญแบบโรมานซ์ไทยมากกว่า แต่ปีก่อนก็มีโรมานซ์แปลที่ดังมากเรื่องบริดเจอร์ตันเพราะมีซีรี่ย์ กระแสมันเงียบแต่ซื้อกันจนโซเอาท์พิมพ์ใหม่กันกี่รอบไม่รู้ ทั้งหมดทั้งมวลกูไม่รู้แนวนิยมโรมานซ์สมัยนี้เป็นไงแล้วนะ ยังนิยมผญแนวที่กูว่าอยู่หรือป่าวก็ไม่รู้
วายมันไม่ได้แมสจัดๆอย่างปรมจทุกเรื่องอะ ปรจมเองก็มีคนที่ไม่ใช่นักอ่านมาซื้อเยอะ มันถึงได้มีดราม่าเลียแผลไง
>>851 ไม่นะ โดยรวมๆ ตอนนี้เกินครึ่งของวายจีนขายดีกว่าชญแปลจีนอ่ะ แต่กูรู้เฉพาะของสนพที่ใหญ่ที่สุดในวงการซึ่งมันมีกำลังโปรโมตเยอะด้วย 555555 หัวร. ตอนนี้ยอดแซงหัวยามเช้าไปมากจนร.ต้องรีบกว้านลิขสิทธิ์ฝั่งวายจะเป็นจะตาย ไม่รู้ของที่อื่นเป็นไงแต่ส่วนตัวคิดว่าแนวโน้มไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่
กุเชื่อนะว่าตอนนี้วายขายดีมากๆๆ มันกลายเป็นกระแสหลักไปแล้วด้วยซ้ำ พวกหนังสือเบสท์เซลเลอร์แต่ละร้านมีแต่วายกับฮาวทู สนพ.เปิดใหม่ก็มีแต่วายจีนๆๆๆทั้งนั้น ถ้ามันไม่ขายดีจริง สนพ.ไม่เปิดใหม่กันเป็นดอกเห็ดขนาดนี้แน่ๆ แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีคนชอบโผล่มาพูดว่าวายแมสแค่กลุ่มเล็กๆ ชญเปย์เงียบๆแต่แมสกว่า อะไรทำนองนี้อยู่เลยมึง ไอ้ชญเปย์เงียบๆน่ะกูเชื่อว่าจริง แต่จะบอกว่าวายแมสแค่ในกลุ่มเล็กๆนี่กูว่าไม่ใช่ละ
เด็กรุ่นใหม่ไม่อ่านชญแล้วมั้ง
โตมาก็อ่านชชเลย
สมัยกูเรียนมัธยม ไม่กล้าเปิดตัวว่าเป็นสาววาย กลัวโดนเหยียด
แต่สมัยนี้ สาววาย = เรื่องปกติ
แม้กระทั่งชายแท้หน้าตาดี ยังยอมเล่นซีรีส์วาย
>>853 กูเชื่อว่าสำหรับบางสนพ.มันเป็นแบบนั้นจริงๆ อย่างยามเช้านี่กูไม่ประหลาดใจ แต่มึงลองไปดูชญของยามเช้าก่อนว่ามีเรื่องไหนเด็ดๆบ้าง สายโรแมนซ์หวานจ๋อยนี่มกรเก็บเรียบหมดเลยนะ จะมาสายหักเล่ห์ชิงเหลี่ยมก็โดนสยัมฟาดไปแดก เทียบดูแล้วนิยายวายที่ยามเช้าได้มันน่าสนกว่าชญที่ยามเช้าได้อะมึง วายก็เลยเฟื่องฟูกว่า
ส่วนที่ว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่อ่านชญ อันนี้ส่วนตัวกูเลยนะ กูมองว่าประสบการณ์การอ่านมีส่วน เด็กสมัยก่อนอ่านวรรณกรรมเยาวชน สำนวนแปลดีเนื้อเรื่องหลากหลาย พอฐานมันดีโตมาก็ต่อยอดได้เยอะ จะอ่านอกาธา คริสตี้ พนมเทียน ทมยันตี โสภาคสุวรรณ หรือ น.นพรัตน์อะไรก็ได้ อ่านได้เรื่อยๆไม่ฝืน แต่สมัยนี้เด็กส่วนใหญ่อ่านแฮร์รี่จบก็ต่อด้วยนิยายแจ่มจ้าหน้าปกการ์ตูน อันนี้ไม่ได้บอกว่านิยายแจ่มจ้าไม่ดีนะ แต่มันใสมากแบบไม่ต้องคิดอะไร และไม่ควรคิดอะไรตอนอ่านด้วย แต่พอเบื่อแล้วมันต่อยอดแทบไม่ได้ เพราะนิยายพวกนี้จะกี่เรื่องๆมันก็สำนวนเดียว ไม่เคยเจอวิธีการเล่าเรื่องแบบอื่น จะไปอ่านสำนวนผู้ใหญ่ก็ไม่คุ้น อ่านเรื่องเครียดหน่อยก็ตามไม่ทันเพราะบางคนไม่เคยคิดอะไรเลยตอนอ่านนิยาย แล้วอันนี้ต้องยอมรับว่าโดยรวมแล้ว (not all) พล็อตของสายวายมันซับซ้อนน้อยกว่าชญ มันก็เลยเสพง่ายกว่า แต่พวกนี้พอเจอวายที่เขียน/แปลด้วยสำนวนแบบเดียวกับชญ หรือเนื้อเรื่องซับซ้อนหน่อยก็เอาละ ด่าเลย แปลไม่รู้เรื่อง อ่านไม่เข้าใจ เห็นชัดสุดก็ปรมจกับเหรียญทองแดงนั่นแหละ คือมันจะมีทั้งคนที่เก็บเลเวลมาจนอ่านได้ชิวๆ กับคนที่บอกว่าแปลผิดทั้งที่ไม่ผิดอะ
>>857 เหรียญทองแดงนี่ขอเสริมหน่อยเหอะ บางคนบอกว่าแปลห่วย ไม่มีคำบุพบท แต่อ่านแล้วขำ แถมจำท่อนซึ้งๆได้ติดหัว กูอยากจะบอกว่าที่มันซึ้งและมึงจำได้ เพราะนักแปลเขาตัดบุพบทไม่จำเป็นออกนั่นแหละจ้า แถมยังพยายามใช้คำที่คล้องจองกันให้มันติดหูขึ้นไปอีก "คำสัญญาล้ำค่ากว่าทองคำ ไม่นำพาว่าเป็นหรือตาย" เงี้ย "ต่อให้ทะเลตะวันออกแห้งหายกลายเป็นแผ่นดิน กระดูกขาวผุสลายกลายธาตุหมดสิ้น" เงี้ย เจือกบอกเขาแปลห่วย กูงง
>>857 จริงๆไม่เกี่ยวกับเรื่องต่อยอดไม่ต่อยอดนะกูว่า คือถ้ามีใจที่จะอ่านเพื่อเสพอรรถรสจากเนื้อเรื่องอ่ะ มันจะมองก่อนว่าเออ รุ้เรื่องแปลกใหม่นะ น่าสนใจอะไรงี้ แต่เด็กตอนนี้เยอะมากที่มายด์เซทการเรียนรู้เปลี่ยนจากแต่ก่อนคือถือว่าเป็นหน้าที่ครู พ่อ แม่ บลาๆ ที่ต้องสอนกู ถ้ากูไม่รู้เรื่อง คือสิ่งนั้นๆห่วย ไม่ดี วิจารณ์ได้ด่าได้จะได้ดีขึ้น กุมีความคิดความสามารถพอแล้ว โลกควรเปลี่ยนให้ดีตามที่กูคิด (แต่ห้ามด่ากูนะ กุใจบาง แคร์ครส.กูด้วยเดี๋ยวกูซึมเศร้า ส่วนกูด่ามึงเพื่อการพัฒนา --> :/) ท๊อกซิกทวิตแม่งก็สไตล์นี้แหละ
ชญไทย ชญจีน มันก็คนอ่านเยอะมาตลอดนะ แค่ฐานเสียงเขาไม่ได้เสียงดังเหมือนพวกวาย ถ้าอยู่ใน echo chamber ก็จะรู้สึกว่าวายจีนมันเฟื่องฟูมากๆๆ ซรจีนชญเยอะแยะส่วนมากก็ทำมาจากนิยาย
ข้อดีของวายนี่น่าจะราคาที่แพงกว่า ขายพรีเมี่ยมได้รัวๆ ของชญเขาก็แค่อ่านกัน ขายบ๊อก แถมผ้าจบๆ ไม่มีมาปสดมาเอาไฟส่องหารอยขนแมวที่กล่อง
>>861 กูเชื่อในสิ่งที่เห็นอะ
-ร้านหนังสือใหญ่ๆแทบทุกร้านจัดชั้นวายจีนไว้เด่นๆตั้งแต่หน้าร้าน
-วายจีนติดเบสท์เซลเลอร์บ่อยๆแทบทุกเว็บ
-เบสท์เซลเลอร์ตามร้านสาขาก็เช่นกัน
-สนพ.วายจีนผุดขึ้นมาแทบเดือนเว้นเดือน
-แอลซีเรื่องใหม่ๆกันตลอดเวลา
แบบนี้ยังไม่เรียกเฟื่องฟู กูก็ไม่รู้แล้วนะว่าแบบไหนคือเฟื่องฟู 55555 ยุคที่ว่ากันว่าเป็นยุคทองของนิยายแฟนตาซีมันยังดูไม่บูมขนาดนี้เลย
เฟื่องฟูจริงแต่ก็ไม่ได้แปลว่าอันอื่นจะด้อยลงไปจนได้รับความนิยมน้อยกว่าเสมอไปไง
แทบทุกเว็บที่ว่านี่นอกจากนอ.แล้วเวบไหนบ้าง ลองยกมาหน่อย
lcเรื่องใหม่ๆ ชญ ก็มาเรื่อยๆ ประกาศก่อนบ้าง ขายเลยบ้าง
>>862 bestseller ไม่ได้มาจากการจัดอันดับจริงๆ นะ 🤣 น้อยเรื่องมากๆ ที่จะขายดีขึ้นอันดับจริงๆ ส่วนมากเอาไว้โปรโมทมากกว่า ก็ถ้าเทียบการออกใหม่ออกเยอะวายจีนออกเยอะกว่า มีแทบทุกเดือน เดือนละหลายเล่ม เพราะสนพ.มากเจ้าหลายรายอะ แต่กำลังซื้อและกำลังเปย์มันไม่ได้วัดแค่หน้าร้านการจัดโปรโมท ถ้าถามว่าวายจีนดังไหม ดังนะ เสียงดังด้วย แต่ฟากชญ เขาก็ซื้อของเขากันเงียบๆ ออกอะไรมาก็ซื้อ เรียกว่าซื้อกวาดยังได้เลย ในโลกออนไลน์ฝั่งชญเสียงไม่ดังเท่า ไม่ไฮป์เท่าวาย เหมือนวายจะเฟื่องฟูแต่ฐานคนซื้อมันต่างกันมากๆ พวกป้าๆ แม่ๆ ที่กำลังเปย์มหาศาลนั่นส่วนมากก็ไม่อ่านวาย เขาซื้อแปลจีน ไทยแต่งสารพัดสิ่ง ก็เลยมองว่าถ้าเทียบจากพวก bestseller มันไม่ค่อยได้แฮะ
พวกวายขายได้แปปๆ มากกว่า พิมพ์ 1 รอบจอง พรีเมี่ยมอลัง เลยเป็นกระแสในโซเชียล นอกจากจะเป็นเรื่องดังค้างฟ้าเลยที่ขายได้ตลอด แต่พวกชญ มันขายได้เรื่อยๆ ต่างคนต่างมุมมอง 555 ที่จะแชร์จริงๆ bestseller ไม่ได้จัดจากอันดับขายดีจริงๆ นะ
bestsellerฝั่งวาย ทิพย์มีอยู่จริง ผายมือไปที่สนพกาแฟ ต้องเป็นคนยังไงถึงหลอกตัวเองได้วะว่าขายได้bestseller555555 คอมเม้นทิพย์ไปอีก
>>864 เอาจริงๆพวกสาววายเจนแรกๆตอนนี้ก็แม่ๆป้าๆกันหมดแล้วนะ และก็น่าจะยังอยู่ในดงวายอยู่ 555 กลุ่มนี้ก็น่าจะเปย์วายกันเงียบๆกันอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าเทไปกลุ่มไหนมากกว่า ระหว่างนิยายแปล นิยายไทย(น่าจะน้อยเพราะเนื้อเรื่องไม่ค่อยทีโทนจริงจังจะให้อ่านวายมหาลัยวัยรุ่นจ๋ามันก็นะ) กับพวกมังงะ ส่วน mm คงเปย์เวอร์ภาษาต้นฉบับกันมากกว่าแล้ว
ถามนิด สงสัยจริงๆ โนออฟเฟนส์นะ ที่ว่าชญขายดีกว่าวายมากๆ แต่คนซื้อไม่พูดเนี่ย มึงวัดจากอะไรกัน ถ้าไม่ใช่ตัวเลขยอดขาย ถ้าคนซื้อไม่พูดมึงจะไปรู้เขาได้ไง 555555 หรือพวกมึงรู้ตัวเลขยอดขายกันหมดเลย มีเหตุผลประกอบที่จับต้องได้บ้างมั้ย หรือพวกมึงเป็นนักเขียนแล้วเขียนชญทำรายได้ดีกว่าวายไรงี้
แล้วตกลงที่คุยกันเรื่องความเฟื่องฟูนี่พูดถึงวายทั้งหมดหรือวายจีนวะ งงไปหมดละ 55555 ส่วนตัวกูไม่รู้ยอดขายกับยอดตีพิมพ์นิยายวายหรอกนะ แต่ดูจากยอดขายตามร้านใหญ่ๆในชอปปี้ เรื่องดังๆเห็นขายกันได้หลายพัน (นี่แค่ร้านเดียว) แค่นี้กูว่ามันก็เยอะมากๆละนะในยุคที่คนอ่านหนังสือกันน้อยลงและร้านหนังสือทยอยปิดอย่างนี้
>>866 มึงนับวายรุ่นแรกเจนไหนนะ 55555 คือกูก็อายุประมาณหนึ่งแล้ว โตมากับนิยายลูกกวาดเลยแหละ แบบพ่อแม่กูสายอ่านเล่มๆ พ่อนี่บู๊แหลก กำลังภายในเป็นหลัก หนังสือเหลืองกรอบหมดละ ส่วนแม่อ่านแนวจินตวีร์ กิ่งฉัตรนี่ยุคสทัยแม่กลางๆ คนแล้ว พวกนิยายปกขาว กูเลยซึมซับการอ่านมาจากครอบครัว กูเริ่มอ่านนิยายช่วงป.5-6 มาเข้าวายช่วงต้องซื้อใต้ดิน รหัสโค้ดลับ 😂 ถ้านิสัยการอ่านของกู กูเน้นหนักเนื้อเรื่อง วายจ๋านิยายรั้วม. ตบจูบไม่รอดแล้ว มันหมดยุคกูอ่านหวานแหววจะจ๊าไปละ ช่วงม.ต้นกูติดหนึบมกร มากๆ ตลคหญิงขึ้นปกนั่นแหละ ถ้าไม่อ่านชื่อเรื่องไม่รู้เลยว่าเรื่องไหน เพราะเป็นญงามคือกันหมด 55555 กูอ่านฝั่งจีนแปลมากกว่าฝั่งไทย ถ้าของแจ่มปกขาวรูปสีน้ำมันยุคนั้นอะ ตอนนี้กำลังซื้อของกูกูก็ยังให้ฝั่งแปลชญ กูแฟนคลับแจ่มด้วย เรียกว่าซื้อทุกเรื่อง แต่พักหลังเบรคตัวเองเพราะพรีเมี่ยม ไม่ใช่สายเลยจริงๆ อยากได้แค่หนังสือเหมือนเดิม รอไว้ซื้องานนสตูมเดียว
การซื้อฝั่งวาย กูก็อ่านแปล เน้นเรื่องที่เส้นเรื่องเข้มข้ม จะไร้สาระก็เอาให้สุดไรงี้ เรียกว่าดูพล็อตเป็นหลัก ในแต่ละปีที่กูดูจากสถิติการซื้อของกูก็ยังเทไปฝั่งชญอยู่ดี อย่าเทียบเงินนะเพราะฝั่งวายแพง 55555 นับเรื่องกูซื้อในอัตราส่วนชญ:วาย 70:30 เลย และเหมือนหลายคนลืมหัวบุปผาของสยามไป เจ้านั้นเงียบๆ แต่คนซื้อยังซื้อประจำนะ กูว่าสยามค่อนข้างขายดีเลย แม้จะเปิดหัวมาหลังส้มก็เถอะ ส่วนสนพ.กวางน้อยขายดีโคตร คำยอดฮิตผลาญเจ้าแม่วงการ ^^'
ยิ่งพวกแก๊งเพื่อนแม่กูซื้อกันเป็นลังๆ 55555 ก็ยังชญอะ รุ่นนั้นเขาไม่อ่านวายกัน ไม่เล่นโซเชียล แล้วอ่านก็ไม่เม้าท์กันด้วยนะ อ่านใครอ่านมัน กูยังคิดเลยว่าถ้าตัวเองอายุเท่านั้นกูจะเป็นยังไง 555 ที่กูอ่านกูไม่ได้แชร์กับใครอะ ไม่ได้ลงโซเชียลนอกจากถ่ายติดหนังสือในร้านกาแฟพักผ่อนงี้ ถ้าเทียบกำลังซื้อต้องดูฐานแฟนคลับจริงๆ ถ้ารุ่นๆ 20-35 กำลังซื้อฝั่งวายน่าจะมากกว่า ถ้ารุ่น 35++ เป็นต้นไปกูว่าฝั่งชญมากกว่าอะ จากประสบการณ์รอบตัวกูเลย เผื่อเพื่อนโม่งคนอื่นมาแชร์รอบตัวบ้าง
แต่ใดๆ bestseller อะเชื่อไม่ค่อยได้ ค่อนข้างไปทางโปรโมทมากกว่า
>>862 เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้มาก จากร้านนายอินทร์ที่กูเข้าเดือนละครั้งสามห้างใหญ่ในโคราชคือเหมือนกันหมด เบสเซลเลอร์ส่วนใหญ่คือวายจีนและฮาวทู ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางร้านคือวายทั้งจีนไทย แต่ที่อื่นกูไม่รู้กูพูดตามที่เห็นเลยเชื่อตามที่ตาเห็นด้วยเหมือนกันว่าวายบูมกว่าขายดีกว่าชญ
>>864 เพิ่งรู้จากความเห็นนี้เลยว่าเบสเซลเลอร์วัดอะไรไม่ได้มันคือการโปรโมทหรอกหรอกูนึกว่าขายได้เยอะจริง ใจมากมึงความรู้ใหม่กูเลย
-กูเข้าวงการวายครั้งแรกตอนอนิเมะรีบอร์นดังมากในบ้านเราแต่เพิ่งซื้อวายอ่านเป็นเล่มเมื่อปี 60 นี่เองเรื่องแรกรัชศกแล้วก็กลายเป็นเข้าวายจีนแล้วออกไม่ได้เลย
ไปกันใหญ่แล้ว เบสท์เซลเลอร์ไม่ได้เฟคเสมอไปนะ ที่เฟคก็มีแหละ แต่อย่างพวกเบสท์เซลเลอร์ตามร้านสาขาส่วนใหญ่มันก็อิงจากยอดขายสาขานั้นๆจริง แต่บางทีก็มีเฟคเพื่อการโปรโมตปนๆมาบ้าง แต่ส่วนน้อยอ่ะ
>>872 แล้วมึงได้ดูป่าว ว่าวายจีนที่ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางร้านอะ สัดส่วนของสนพไหนเยอะสุด ของยามเช้าเอง ของจสที่เป็นพันธมิตรกัน ของสนพ.เล็กที่ใช้บริการสายส่งของนอ (ในหนังสือจะเขียนประมาณว่า จัดจำหน่ายโดย...) หรือว่าของสนพอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้อง
บางทีเบสเซลเลอร์ก็แค่การตลาด
>>877 ก็วายรวมกลางร้านนั่นแหละ ได้ส่องมั้ยว่าของที่ไหนบ้าง คือมึงจะสรุปว่าวายจีนบูมจากสนพ.ที่ตอนนี้บูมเพราะวายจีนไม่ได้ไง เก็ตปะ อย่างร้านนอเนี่ย เขาก็ต้องมีหนังสือของเขาเองมากกว่าหนังสือต่างสนพใช่มั้ย ถ้าเขามีฮัสกี้ 10 ชุด บริดเจอร์ตัน 3 ชุด แล้วมีคนมาซื้อสองเรื่องนี้เท่าๆกันคืออย่างละ 10 ชุด เท่ากับเขาขายฮัสกี้ได้ 10 ชุด บริดเจอร์ตันได้ 3 ชุด เพราะเขามีแค่นั้น ฮัสกี้ก็ต้องเป็นเบสเซลเลอร์ปะ
เหมือนมึงไปงานหนังสืออะ มึงจะไปเดินบูทกกแล้วตัดสินว่าโรแมนซ์ฝรั่งแมสกว่าโรแมนซ์จีนไม่ได้ หรือจะไปเดิน ณ บ้านแล้วบอกว่านิยายไทยขายดีกว่านิยายฝรั่งไม่ได้ จะไปเดินบูทสยัมแล้วบอกว่านิยายจีนขายดีที่สุดก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน มึงต้องดูโดยรวมเด้อ
ทำไมมึงพูดเหมือนร้านหนังสือกับสนพมันมีแค่นอกับอมรวะ 5555555 การที่ปีที่แล้วมีสนพวายจีนผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ขนาดพวกสนพที่ปกติไม่ทำวายก็ยังแยกหัวใหม่มาทำวายจีน นี่ก็พอบอกได้ระดับนึงแล้วมะว่าวายจีนมันบูม กูงงว่าทำไมบางคนถึงพยายามจะกดให้วายจีนมันไม่บูมให้ได้ ถ้ามันไม่บูมจริงสนพมันจะมาแย่งกันทำแย่งกันซื้อแอลซีรัวๆเรอะ
เอาจริงๆสุดท้ายสิ่งที่จะบอกได้ชัดสุดก็คือยอดขาย ซึ่งไม่มีใครรู้อ่ะ 5555555 ดูจากโซเชียลไรงี้ก็ได้แต่เดาเอาเองกันทั้งนั้น
>>879 สนพวายจีนผุดเป็นดอกเห็ดแล้วทำกันคนละกี่เรื่องล่ะเมิง เจ๊งกี่สนพ ในขณะที่ฝั่งชญแจ่มกับสยามออกกันยี่สิบสามสิบเรื่อง
>>884 คือการรับสื่อแต่สิ่งที่ตัวเองสนใจ จนเชื่อว่านี่แหละคือเรื่องจริง เหมือนการเลือกฟอลแต่แอคนิยายวาย จนเชื่อว่านิยายวายนี่โคตรแมส มีแต่คนอ่านนิยายวาย เหมือนเดินเข้าร้านหนังสือแล้วตรงดิ่งไปชั้นนิยายวาย แล้วบอกว่าร้านหนังสือแม่งมีแต่นิยายวาย ทั้งๆที่เดินอ้อมไปอีกข้างก็จะเจอแฟนตาซี ชญ นิยายผี นิยายนักสืบ ฯลฯ
สรุปมีใครเอายอดขายมากางได้จริงๆบ้าง สุดท้ายมึงก็ตัดสินจากโซเชียลกันหมดหนิ 5555555
Ky เพื่อนโม่ง กูมีข่าวดีมาบอก https://imgur.com/a/fpgTQk1 มนกกบ.กำลังร่อนโนติสเด้อ ใครที่ด่านางรีบกลับไปลบเร็ว โดนกันไปหลายแล้วตอนนี้
Ky ชวนเม้าอีกเรื่องได้ป่าว กูว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับที่คุยๆ กันอยู่เรื่องกำลังเปย์และฐานแฟนชญ/วาย กูพูดในฝั่งคนสิงทั้งกลุ่มขายนิยายธรรมดา/นิยาวาย กูเน้นแต่นิยายแปลนะ ลูกค้าฝั่งชญอะเปย์เลย จ่ายเต็ม ส่วนฝั่งวายส่วนมาก ย้ำว่าส่วนมากที่กูเจอขอผ่อน ขอต่อราคา
ไหนจะแฟคอีกอันที่ยกกันขึ้นมาคือยอดขายในชป อย่างร้านดว เขาขายแต่นิยายวายอะนะ ก็เทียบไม่ได้ละ ร้านใหญ่ๆ อย่างบอฮ ก็ขายคู่แต่ไม่ได้ลงหนังสือฝั่งชญทุกสนพ. เจ้านี้เน้นแจ่ม/จงหยวน mb ก็หนังสือหลากหลายมากๆ ไม่ได้มีแค่วาย ร้านนี้เน้นออกบูธด้วย อย่างวายร้านในชปขายกันเยอะเพราะช่องทางขายมันไม่ได้มาก/กระจายเท่าร้านหนังสือ สนพ.ไม่ได้ฝากสายส่ง ถ้าจะเทียบว่าบูมมากไหมวายก็บูมกว่าแต่ก่อนมากๆ ฝั่งชญเองก็ไม่ได้ลดลงอะ ฐานกำลังเปย์ชญแน่นมากนะ อย่างที่เจอรอบตัวกูคือเจอ ถูกใจ จ่าย ไม่ค่อยได้มาคำนวณส่วนลดหรอก แต่ก่อนเวลาซื้อลด5-10% ก็ดีละ 5555 จ่ายเต็มก็เปย์ ส่วนหนึ่งนี่ว่าเพราะอายุ รุ่นๆ นั้นเขาไม่ค่อยมาพะวงส่วนลดกันนะ อย่างที่คุยกันบนๆ คือซื้อกันเองเงียบๆ ไม่ค่อยมีกระแสในสังคมออนไลน์ แล้วก็จ่ายตรงกับสนพ.กัน ไม่ก็เทตูมๆ ในงานหนังสือ
ปล. แต่เปิดโลกกูมากเลยกับการซื้อนิยายแบบผ่อน กูโตมาด้วยการเห็นและเจอเวลาผ่อนจะผ่อนของที่ยอดใหญ่ๆ ส่งบ้านส่งรถ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า พอเจอหนังสือผ่อนก็เลยแบบ culture shock หน่อยๆ เปิดโลกกูดี
พูดถึงจงหยวน มาคิดๆแล้วแม่งเก่งมากเลยนะที่สร้างกระแสแฝดหกแฝดแปดแต่ไม่คลั่งกริบได้ เหมือนจะไม่เคยเจอพวกลูกกวางพูดเรื่องรอยขนแมวเลย
มนกกบนี่ตอนเค้าดราม่ากันก็มีโม่งมาเตือนนี่หว่าว่าอย่าไปกล่าวหาอะไรที่ไม่มีหลักฐาน เอาแค่สิ่งที่เป็นแฟคพอหอมปากหอมคอปะ แต่ตอนนั้นโม่งคนนั้นโดนถล่มยับเลยนี่ กูก็ไม่ได้ชอบมนกกบน่ะนะ แต่ถ้าตอนนั้นใครด่าเพลินจนขึ้นบกแล้วเจอโนติส ก็พูดได้แค่กรรมใดใครก่ออะมึง มีคนเตือนบ่อยจะตายว่าระวังคดีลิขสิทธิ์จะกลายเป็นคดีหมิ่นประมาท
พูดถึงเรื่องผ่อน ราคานิยายวายแม่งแพงจริงๆแหละยิ่งพรี่เมี่ยมอลัง หรือพวกหนังสือบ้งโดนเก็บ ราคาอัพเกิ๊น
ขอผ่อน เพราะเป็นวัยเรียนแหละ
หรือไม่ก็ ซื้อนิยายหลายเรื่องพร้อมกัน จนช็อต หาเงินไม่ทัน
>>896 กูว่าถึงสนพ.จะเคลียร์ให้แต่มันก็ไม่เท่ากับนักเขียนพูดเองอะ ที่กูเคยเห็นมาถ้าไม่ก็อปจริงเขาพิสูจน์ตัวเองเอาหลักฐานมากางเป็นสิบเธรด ส่วนก็อปจริงถ้ายอมรับสำนึกผิดยังไงคนก็ให้โอกาส ไม่เชื่อมึงดูนข.อ.สิวะ ตอนสารภาพคนให้กำลังใจเยอะฉิบหาย ป่านนี้แม่งยังไม่ปิดนิยายเลยเอาอะไรมาสำนึก แต่คนก็ให้โอกาสไปแล้ว
>>900 ปกติถ้าขายเรื่องให้สนพ.ไปแล้ว สนพ.จะเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้เองนะ เคยมีเหมือนกันที่นขบางคนไม่ได้ก็อปแต่โดนหาว่าก็อป หลักฐานมีหมด แต่ออกมาอธิบายเองไม่สะดวก ต้องรอให้สนพ.ออกหน้า เพราะการเทคแอคชั่นพวกนี้มันจะกระทบภาพลักษณ์สนพ.
แต่งานนี้ต้องถือว่าสถพใจดีมากนะ บางเคสที่กูเคยเห็นนี่แค่ก้ำกึ่งระหว่างดัดแปลงกับบังเอิญ ไม่ได้เหมือนขนาดเคสนี้ด้วยซ้ำ สนพ.ยังออกมาสลัดนขทิ้งเพื่อเอาตัวรอดเลย
>>893 +1 กูว่าเข้าใจที่ >>887 แม่งเตือนนะ กุเชื่อว่าบางคนในนี้ก็มีหลุมไปด่านางตามกระแสตอนนั้นในทวิตอ่ะ กูก็เคยด่านางเรื่องก็อปนิยายนะ 55555555555 แต่กูคิดว่าเชื่อได้อยู่นะ 887 ไม่น่าจะปั่นเพราะกูเห็นเพจมนกกบ.ก็โพสว่ามีเส้อไพ้สำหรับใครบางคนอยู่ เออ คิดว่าโม่งที่ผ่านมาเห็นก็ลองย้อนๆทล.ไปดูหน่อยก็ดี จะได้เซฟตัวเองไม่เสียเงินหมื่นเงินแสนรับปีใหม่ เพราะกูไปกาสุ้บกาสิ้บมาแล้ว ได้ข่าวว่าโดนไปหลายคนแล้วและน่าจะมีอีกหลายคนที่โนติ้สยังไม่เคาะประตูบ้าน เพื่อนกูที่เคยด่านางก็บอกยังไม่มีอะไรมา บ้านกุก็ไม่มีอะไรมา
เรื่องมนกกบ.ก็มีใครdmมาถามในทวิตกุเหมือนว่ากุโดนฟ้องมั้ย(น่าจะไล่ถามทวิตที่เคยต่อว่าในแทคมนกกบ.) ซึ่งกุไม่มีวันโดนฟ้องแน่ๆคนนึงล่ะ กุไม่ได้กล่าวหานางลอยๆกุแปะหลักฐานประกอบตลอด(ซึ่งก็คือสิ่งที่นางเคย เคยยอมรับในอดีต) ไม่ได้ด่านางหยาบๆคายๆ ต่อให้นางอยากฟ้องก็ฟ้องกุหรือคนอื่นที่ทวิตแนวเดียวกับกุไม่ได้หรอก
>>905 ถ้าหว่านแหฟ้องแบบมั่วๆไม่ดูสี่ดูแปดถ้าคนโดนฟ้องเกิดพลิกชนะคดีตัวนางเองมีสิทธิ์โดนฟ้องกลับนะ (โรเซเนีย จิ้นหยาง มู่หรงเยียน หลักฐานค่อนข้างมัดตัวฟ้องหมิ่นก็ไม่น่าชนะ มังกรมีรักต้องเช็คคนที่จะฟ้องว่าเขาหมิ่นด่าตัวเองจริงๆไม่ใช่ติชมด้วยความสุจริต) กุว่านางน่าจะจิ้มฟ้องคนที่นางฟ้องได้ชัวร์ๆมากกว่า แบบเรื่องที่หลักฐานไม่แน่น อย่างหาว่านิยายนางก๊อปเทียนกวาน ซึ่งนางอาจจะไม่ได้ก๊อปจริงๆก็ได้
วงในเล่าให้กูฟังว่าบางคนแค่ถามในแท็กว่ามนกกบ.ก็อปเรื่องนี้มาจริงมั้ยแม่งก็โดนแล้ว เขาถึงบอกกันไงว่านางหว่านแหเอา
แล้วสรุปนางลอกจริงปะ ถ้านางลอกจริงแล้วมาไล่แจกโนติแบบนี้กูคงรู้สึกแปลกๆ แต่เท่าที่ฟังโม่งแค่ถามว่านิยายก๊อปไหมแล้วไล่หว่านแหแบบนี้โอกาสโดนตอกกลับสูงนะ
ว่าแต่เห็นนางฟ้องยังงี้แล้ว กูอยากให้คุณอ.ลองฟ้องแบบนี้บางเลย555 อันนี้โดนหนักบางคนเล่นด่าพ่อแม่ การศึกษา บางคนไล่เขาให้ออกจากอาชีพ คำหยาบสารพัด ถ้าคุณเขาฟ้องขึ้นมากูว่าน่าจะได้เยอะอยู่
มันต้องแยกก่อน วิจารณ์โดยสุจริตน่ะได้ ไม่ถือว่าหมิ่นประมาท แต่ต้องไม่มีการกล่าวหานะ "อ่านแล้วนึกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ได้แรงบันดาลใจมารึเปล่า" อันนี้ไม่ผิด แต่ถ้าไปถามเขาว่า "อ่านแล้วเหมือนเรื่องนี้เป๊ะๆๆเลย ลอกมาใช่มั้ยคะ" อันนี้อาจจะผิดได้เด้อ ถ้าเขาฟ้องจริงๆก็ต้องไปพิสูจน์ว่าไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาท แค่อยากถามเฉยๆ แต่ปกติเป็นคนพูดจาห้วนๆอยู่แล้ว อะไรก็ว่าไป แล้วก็สุดแท้แต่ศาลแหละว่าจะเชื่อมั้ย
อ.ที่เป็นคนแปลปรมจ.ป่ะ ถ้าใช่กุจะปักป้ายไฟเชียร์เลย อิด้อมปากแจ๋วนี้ต้องโดนซะบ้าง พ่นมาแต่ละอย่างต่ำๆตมๆ
กูเริ่มงงว่าโม่งกำลังพูดถึงคุณอ.หรือมนกกบ.แล้ว
กู>>916 นะ เออ กูหมายถึงคุณอ.ที่แปลปรมจ.นั่นแหละ กูอยากให้เขาลองฟ้องแบบมนคคบ.บ้าง ที่คุณเขาโดนหนิกูเห็นว่าหนักมากทั้งด่าเรื่องส่วนตัวเขา ไล่เขาออกจากงาน สร้างเฟคนิวส์ ด่าคำหยาบสารพัด บางคนที่ด่าไม่ได้อ่านด้วยซ้ำแค่ด่าตามๆกันไปจนเกิดอุปทานหมู่ เอาจริงกูว่าเคสคุณอ.มันน่าฟ้องกว่าของมนคคบ.อีก
เหมือนเคสพวกติชมโดยสุจริตในอะโกด้าในช๊อปปี้แล้วโดนเจ้าของร้านร่อนจดหมายจากทนายมาขู่อ่ะแหละ
ผลจากวลีฮิต อยากได้คำขอโทษเป็นเงินสด หวังว่าจะมีคนแพนิคแล้วยอมจ่ายเงินแสนแต่โดยดีเรื่องจะได้ไม่ถึงศาล เดี๋ยวนี้เริ่มทำอย่างนี้กันเยอะแล้ว กูสงสัยว่าเมืองไทยไม่มีกม.ป้องกันการฟ้องหว่านแหเหรอวะ ทนายแม่งก็น่าโดนสอบจรรยาบรรณ
จรรยาบรรณเดี๋ยวคนมองว่าไม่ได้เป็นกฎไม่ปฏิบัติตามก็ไม่เห็นจะเป็นไร เจอคนคิดงี้ทีกูเศร้า😔 ยิ่งเห็นแต่ละคดีในช่วงนี้ยิ่งทำให้กูรู้เลยว่าจรรยาบรรณในสมัยนี้มันไม่ค่าอะไรทั้งนั้น เม็ดต่างหากที่สำคัญใครจ่ายหนักใครมีปัญญาจ่ายทำแล้วมีโอกาสได้เงิน หลายอาชีพส่วนใหญ่ก็พร้อมจะเมินคำว่าจรรยาบรรณทิ้งหมดนั่นแหละ🥲
เม็ดเงิน พอดีพิมพ์ตก
เห็นว่าการฟ้องครั้งนี้นางดำเนินการเองนะ ไม่ผ่านสนพ.
>>945 มันไม่เกี่ยวกับลอกจริงหรือลอกไม่จริง เพราะอันนี้มันคดีหมิ่น มันเกี่ยวกับว่ามีคนไปชี้ว่านขก็อปงาน ทำให้นขเสียชื่อเสียง ถ้าจะแย้งว่าติชมโดยสุจริตนี่มันต้องออกแนวไม่ได้ด่าไม่ได้เบลมอะ วิจารณ์งานเฉยๆเลยว่าอ่านแล้วนึกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้นะ มีกลิ่นแบบเดียวกับเรื่องโน้นเรื่องนู้น อะไรก็ว่าไป ดูที่เจตนา
ส่วนเรื่องลอกไม่ลอกมันคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ฟ้องกลับไม่ได้เพราะ 1. คนฟ้องคดีนี้ต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ 2. การเขียนแบบที่เรียกว่า ก็อปคาร์ ก็อปพล็อต ยำใหญ่ บางทีมันไม่ผิดกฎหมาย มันจะผิดต่อเมื่อเข้าข่ายทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ผลงานทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ซึ่งไอ้การดัดแปลงกับแก้ไขเนี่ย มันต้องมีหลักฐานชัดพอว่าแปลงมาจริงๆ ต้องพิสูจน์ให้ศาลเชื่อว่าพล็อตนี้ไม่มีทางที่คนอื่นๆบนโลกจะเขียนได้ ส่วนใหญ่ก็ต้องลอกกันมาเป็นประโยคๆอะ ถ้าดัดแปลงคาแรกเตอร์มาจากคนละสื่อนี่ยากเลย ส่วนใหญ่จะโดนปัดเข้าข่ายแรงบันดาลใจกับความบังเอิญ บางคนคิดว่าแรงบันดาลใจคือคำสุภาพของก็อป แต่มันไม่ใช่ การเอาแค่ 'คาแรกเตอร์บางส่วน' ของพระเอกเรื่องนึงไปเขียนเป็นเรื่องใหม่ไม่ใช่การก็อป มันคือแรงบันดาลใจจริงๆ เพราะเรื่องที่ได้เกิดจากมันสมองของนักเขียนที่ชำแหละข้อมูลแล้วเรียบเรียงขึ้นมาใหม่เอง ทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย ถ้าทำแล้วติดกลิ่นเดิมมากๆนขก็แค่โดนข้อหาไม่สร้างสรรค์ แต่คนด่าอาจจะโดนคดี
เคสของมนกกบมันชัดเจนแค่พาราเฟส ซึ่งสนพ.เคลียร์แล้ว ใครด่าอันนี้ก็น่าจะรอดไป มันชัดมากจนน่าจะถือได้ว่าติชมสุจริตจริงๆ ไม่ได้พุ่งเป้าเพื่อให้นขโดนเกลียดชัง
กุอยากรู้ว่าแล้วรู้ได้ไงว่ามีคนโดนฟ้อง ส่องในทวิตไม่เห้นเจอ หรือว่าเริ่มได้โนติสกันแล้วออกมาหาเพื่อน
>>952 เออ อันนี้กูก็สงสัย ปกติเขาไม่ค่อยฟ้องกันเพราะเสียเงินเสียเวลา คนที่เจออะไรแบบนี้ส่วนใหญ่จะร้องห่มร้องไห้จนป่วย รู้ตัวอีกทีก็ต้องวิ่งหาทางรักษาตัวน่ะนะ ไม่มีเวลาฟ้องใครหรอก นอกจากจะจิตแข็งและเหลืออดจริงๆ คิดว่าไหนๆสุขภาพจิตกูก็พังแล้ว อีคนทำมึงต้องพังไปกับกู อันนี้เก็ต แต่ก็ไม่ค่อยเห็นอยู่ดี
>>955 คืองี้ พาราเฟสในเรื่องจยเนี่ย หลักฐานมันชัดมากว่าเอาผลงานของคนอื่นมาใส่ในผลงานของตัวเองจริงๆ ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็มองออก กรณีนี้คนอ่านมีสิทธิ์ที่จะถามอย่างสุภาพว่าอันนี้ได้ขอเขาหรือยัง ถ้าไม่ขอมันผิดนะ การบอกว่า "นิยายเรื่องนี้มีการพาราเฟส" และ "พาราเฟสมันผิด" เนี่ย มันเป็นการติชมโดยสุจริต ไม่ได้ด่านักเขียน
แต่ในเคสยำใหญ่ เท่าที่กูเห็นคือมีหลายคนออกมาบอกว่าพอ-นอ "เหมือน" เรื่องโน้นเรื่องนี้จังเลย "ลอกชัวร์" อันนี้ไม่ด้ายยยยยย มันเลื่อนลอยเกินกว่าจะบอกว่าความ "เหมือน" นั้นเป็นการ "ลอก"
>>eg. ตัวละครใช้พู่กันเป็นอาวุธ ว้าว เหมือนอนิเมะที่กูเคยดูเลย กูไม่เคยเห็นเรื่องไหนที่ตัวละครใช้พู่กันเป็นอาวุธมาก่อน สิ่งนี้ยูนีคสุดๆ คนอื่นคิดไม่ได้แน่ งั้นกูตัดสินเลยดีกว่า "ลอกมาชัวร์" หรือไม่ก็ "แรงบันดาลใจเข้มข้นจังเนอะคิกค้าก"
แต่ใจเย็นก่อน ตัวละครที่ใช้พู่กันเป็นอาวุธมีหลายสิบเรื่อง แค่ในนิยายจีนกำลังภายในกับเทพเซียนก็เจอเกือบทุกเรื่องแล้ว นิยายญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับองเมียวจิก็เพียบ บางคนแค่ไม่เคยอ่านไม่เคยเจอก็เลยคิดว่ายูนีค ทั้งที่ความจริงแล้ว เกร่อค่ะ เขาเขียนกันเยอะแยะ และมันต้องยอมรับว่าโลกนี้ไม่มีอะไรใหม่ ถ้าตั้งใจจะมองหาความเหมือน มันจะต้องเจอเข้าสักหนึ่งเหมือน ทุกเรื่องแหละ
สรุปคือการจะกล่าวหาใครซักคนว่าทำผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์เนี่ย มันใช้ความรู้สึกส่วนตัวไม่ได้ มันต้องมีหลักการกับหลักฐานด้วย ถ้าไปชี้หน้าตัดสินคนอื่นทั้งที่ไม่มีหลักอะไรรองรับเลย เขาฟ้องขึ้นมาก็ขิตอะ
กุขอถามโม่งที่รู้กฎหมายเพิ่ม จากวงในคนนั้นบอกเรียกสามแสน สมมุติว่าเขาไม่มีจ่าย เพราะเห็นบอกเด็กๆ เต็มไปหมด ทางกฎหมายจะเกิดอะไรขึ้นต่อหรอ
>>958 จริงๆกูไม่ได้ทำงานสายนี้นะเออ แค่เคยเรียนนิดๆหน่อยๆ เพราะงั้นมันอาจจะมีอะไรผิดพลาด ขอออกตัวไว้ก่อน ยึดตามกูไม่ได้นะ
ปกติแล้วมันจะเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยก่อน ส่วนใหญ่ก็จะต่อรองตกลงกันได้ในขั้นตอนนี้แหละ ไกล่เกลี่ยได้ก็ไม่ต้องฟ้อง ไม่ต้องเป็นความ
แต่ถ้าไกล่เกลี่ยแล้วไม่ได้ผล เจ้าทุกข์ไม่ยอม ก็ต้องยื่นฟ้องต่อไป ถ้าอัยการรับฟ้องก็เข้าสู่กระบวนการ ไปตกลงกันในศาล
ส่วนใหญ่ศาลจะแนะนำให้คุยกันเอง เมื่อคุยไม่ได้แน่ๆแล้วศาลถึงจะตัดสินว่าควรจ่ายขนาดไหน บางทีก็ไม่ถึงขนาดที่เจ้าทุกข์ขอไปหรอก เท่าที่กูเคยได้ยินคือบางคนฟ้องยี่สิบล้าน ได้มาสองหมื่นกว่าบาทก็มี แต่แลกมาด้วยสุขภาพจิตนะ ขึ้นศาลไม่ใช่ของสนุก และถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริง มันจะมีประวัติติดตัว ถ้าโตขึ้นมาคิดจะไปทำงานในบริษัทที่เขาสตริกเรื่องนี้ หรือไปขอวีซ่าไปตปท มันก็จะโดนตรวจสอบเจอทุกครั้ง ชีวิตอาจจะลำบากนิดนึง
>>957 เคสมู่หรงเหยียนนี้ตอนแรกมันมีคนตั้งข้อสังเกตก่อนว่าคล้ายคู่ฮาคุทาคุเหมือนจุดนั้นจุดนี้(นิสัย สไตล์การแต่งตัว อดีตความสัมพันธ์ แล้วมันมีคนไปขุดเจอตอนนึงที่มีเม้นนักอ่านหลายคนขอบคุณนางว่าขอบคุณที่ยืนยันว่าคาร์เอามาจากคู่ฮาคุทาคุจริงๆ จุดนี้ค่อนข้างมัดตัวนข.อยู่แล้วทำให้เห็นว่าคนตั้งข้อสงสัยไม่ได้คิดไปเอง ถ้าคนต่อว่าหรือบอกว่านางก๊อปจากเรื่องนี้ ถ้านข.ฟ้องเปอร์เซ็นต์การฟ้องชนะระหว่างคนฟ้องกับคนถูกฟ้องฝั่งไหนจะมากกว่ากันวะ อันนี้ถามเพราะกุอยากรู้กฏหมายมันจะคุ้มครองนักก๊อปได้มากแค่ไหน
>>960 มันก็จะไปติดอีกขั้นนึง คือมันแย้งได้ว่าสิ่งนี้คือ "แรงบันดาลใจ" จากคาแรกเตอร์ตัวละคร และ "มันไม่ผิดกฎหมาย"
จริงๆแล้วการที่นักเขียนได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูน (และอื่นๆ) นี่มันไม่ผิดนะ ไม่ผิดจรรยาบรรณ ไม่ผิดอะไรเลย เวลาดูเรื่องพวกนี้มันดูแค่ส่วนที่เหมือนไม่ได้ มันต้องดูส่วนที่ต่างด้วย ถ้าสัดส่วนความแตกต่างและความสร้างสรรค์มีมาก มีแก่นความคิดเป็นของตัวเอง มันก็เป็นแรงบันดาลใจ ถ้าจะตัดสินว่าก็อป สัดส่วนที่สร้างสรรค์ควรจะต้องน้อยกว่า คือมันต้องมีหลักการมารองรับมากกว่านี้น่ะ ไม่ใช่นักเขียนบอกว่า อ๋อ ใช่ เราเอาคาแรกเตอร์มาจากเรื่องนี้ๆ แล้วจะฟันธงโช๊ะๆเลยว่าลอก อันนี้ก็ไม่ได้ เพราะ "เอามา" นี่เขาอาจจะหมายถึงแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ "ลอกมา"
ขอพูดซ้ำนิดนึง ถ้าไม่แม่นหลักการ อย่าตัดสินว่า แรงบันดาลใจ = คำสุภาพของลอก
>>960 ลืมประเด็นนึง คือระหว่างคนฟ้องกับคนถูกฟ้องใครมีสิทธิชนะมากกว่ากันใช่มั้ย
ตอบ: นักเขียน เพราะตอนนี้นักเขียนมีสิทธิฟ้อง แต่คนที่ไปบอกว่าเค้าก็อปไม่มีสิทธิฟ้องเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์อยู่แล้ว มีสิทธิอย่างเดียวคือแก้ข้อกล่าวหาว่าที่พูดไปเป็นการวิจารณ์โดยสุจริต แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าไม่เคยหมิ่นเค้าจริงๆนะ ไอ้พวก "ของฝากนักก็อป" อะไรงี้อย่าไปหลุดพิมพ์ ผิดชัวร์
>>963 ดูเจตนาว่ะ แล้วก็ดูว่าศาลจะคิดยังไง กูก็ไม่รู้เด้อ แต่ถ้าให้แนะนำก็คือ เวลาอยากด่าใครอะ พิมพ์ลอยๆไปเลย ไม่ต้องไปเอ่ยชื่อ หรือถ้าอัดอั้นอยากแสดงความไม่พอใจกับเรื่องนั้นจริงๆก็พิมพ์อย่างสุภาพ เน้นวิจารณ์ผลงาน ถ้าคิดจะด่าก็อย่าเพิ่งพิมพ์เลย เดี๋ยวพลาด
แต่จริงๆกูก็ยังสงสัยอยู่เลยนะ ฟ้องจริงเหรอวะ มันแลดูไม่ค่อยมีใครฟ้องอะ
เรื่องมันเกิดเกิน3เดือนแล้วไม่ใช่เหรอวะ ตอนแรกมันก็เขียนไว้ว่าแค่ทนายขู่ไม่ได้ฟ้องศาล แล้วยังไงต่ออะ? คนที่เปิดเรื่องมาตอบหน่อย
บกร.ออกปกคู่รัวๆในที่สุดมันก็รู้แล้วสินะว่าคุณภาพใดๆล้วนไม่สำคัญเท่าปกคู่
สรุปนางทำจริงดิ ปกติกูเห็นนข.เขาไม่ค่อนทำกัน ว่าแต่เกิดคึกอะไรถึงลุกขึ้นมาไล่แจกโนติสวะ
>>966 กระซิบ//ฟ้องจริงแหละ เห็นครอบครัวนางยังเชียร์เย้วๆเลยดุได้ใจจัง ไม่ใช่สติแตกไล่ฟ้องหรอก คือรอให้เรื่องซาแล้วไล่ฟ้องตบไก่ไปก่อนไง ถ้าสติแตกจริงคงฟ้องตั้งแต่เรื่องแดงๆ แต่นางฉลาดพอจะรอให้เรื่องซาแล้วตามเก็บไง ฟ้องตอนนั้นกระแสแรงกว่าเดิมดิ555 มาฟ้องตอนนี้อย่างน้อยคนก็ลืมไปเยอะละ แหม มึงคิดว่าคนที่ทำผิด เอ้ย มีแรงบันดาลใจซ้ำซากโดนแหกแค่ไหนก็ลอยตัวตลอด จะมาพลาดง่ายๆงี้เรอะ ไม่จ้า สมกับที่นางพลิกแพลงยำแรงบันดาลใจให้เป็นออรินั่นแหละ เรื่องแบบนี้ก็ไม่คณามือหรอก
เออ ว่าแต่นางฟ้องนี่คือคนวิจารณ์งานเริ่องไหนวะ ถ้ามู่หรงกับเรื่องจีนอื่นๆนี่ตลค.ก้บพล็อตมันแถได้จรืงแหละว่าแรงบันดาลใจ แต่ถ้าโรเซเนียนี่คิดว่าหลุดยากว่ะ เพราะมีคนมาเทียบจะๆว่าเหมือนกันยันภูมิหลัง แทบทุกตลค.เกมจีบหนุ่มแวมไพร์ในตำนานนั่นแหละ คือมันยุนีคจริงอะแบบเกริ่นมางี้นึกออกเลยว่ามาจากเกมนี้แน่ๆ
ครอบครัวนางเชียร์เย้วๆดูได้ใจ… การจะหล่อหลอมคนแบบไหนให้ออกมาใช้ชีวิตในสังคมได้สถาบันครอบครัวสำคัญจริงๆนั่นแหละ คนที่ด่านางแต่ละคนก็ใช่ว่าจะถูก แต่การที่ครอบครัวรู้แต่ทำเป็นเมินความผิดที่คนของตัวเองเคยทำ กูก็เข้าใจละว่าทำไมนักเขียนบางคนถึงมี mindset ด้านการทำงานแบบนั่น
ทำผิดแล้วไม่สำนึก แถมยังมาไล่ฟ้อนคนอื่นอีก ไม่พอครอบครัวดันสนับสนุน กูยอมใจโลกนี้คนผิดหากินง่ายจังว่ะ
>>971 แต่มันทำแบบนี้ไม่เท่ากับว่าทุบหม้อข้าวตัวเองรอบสองเหรอวะ มันเหมือนไม่คิดจะหาแดกกับการเป็นนักเขียนแล้วถึงได้มาไล่ฟ้องเนี่ย ส่วนเรื่องอายุความยังไงก็หมดแล้วแน่ๆมันจะมาเอาอะไรวะ ถ้ามันจะเอาจริงทำไมมันไม่ไปแจ้งตำรวจให้เขาหาตัวจริงของคนพิมพ์ทวิตแทนการสืบเองวะ กูว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยสักอย่าง
มึงรุ้ได้ไงว่ามันหมดอายุความอะ กุนึกว่าที่โนติสเพิ่งมาเพราะว่าเขากับทนายทำเรื่องดำเนินการไรงี้อยู่ปะ หมายเลยเพิ่งมา (คือกุไม่รู้จริงๆ อย่าหาว่ากุโง่เลยนะ)
>>980 ใช่อย่างที่มึงว่า แล้วกูสงสัยตรงที่บอกแค่ทนายไม่ส่งถึงศาล เหมือนขู่ให้ยอมรับโดยดี แบบคุยหลังไมค์ หลายเคสก็โดนแจ้งกลับว่าเป็นการข่มขู่กรรโชกทรัพย์(ใช้คำนี้เปล่าวะ) แล้วยังบอกให้รีบลบ ทั้งที่มันต้องแคปไว้แล้วถึงจะแจ้งมึงได้ ถ้ามึงลบมึงก็จะไม่มีหลักฐานแย้งถือเป็นการยอมรับ ยกเว้นทางนั้นติดต่อให้ลบ เหมือนอย่างเคสดพที่ลบก่อน?กูไม่แน่ใจ ทั้งที่นางเอาหลักฐานมาปาครบจู่ๆลบทวิตแล้วออกมาขอโทษว่าตัวเองผิดที่หมิ่นสักอย่าง กูละงงไปหมด
กูไปถามเพื่อนเป็นทนายมา เขาบอกถ้าเรื่องอยู่บนเน็ตจะเกินสามเดือนได้ว่ะ เพราะมันยังไม่โดนลบไป
แล้วเขารู้ได้ไงว่าใครเป้นใคร แอคนี้คือใคร สืบจาก ip address หรอ กุสงสัยมานานแล้ว เห็นบางคนบอกสืบง่าย บางคนบอกได้ยาก ตกลงว่ายังไงกันแน่วะ
>>981 >>982 อันนี้ปกติ ไม่ใช่การขู่นะ เวลาจะฟ้องหมิ่นใครก็ต้องจ้างทนาย รวบรวมหลักฐาน ทนายก็จะติดต่อไปหาคนที่ด่า อาจจะขอให้ลบความเห็นแล้วจะไม่ฟ้อง หรืออะไรก็ว่าไป มันเป็นขั้นตอนเจรจาปกติอะ ถ้าแค่ขอให้ลบแล้วไม่ฟ้องนี่ถือว่าใจดีมากนะ เพราะนขต้องจ่ายค่าจ้างทนายอยู่ดีโดยไม่ได้เรียกร้องอะไรจากคนด่าเลย แต่ถ้าคนด่าคิดว่าตัวเองไม่ผิด ไม่ต้องลบก็ได้ ทนายก็จะยื่นฟ้องต่อไป ถ้าอัยการเห็นว่าเป็นความผิดควรฟ้องได้ก็จะยื่นฟ้องให้ แล้วก็ไปตกลงกันที่ศาล เดี๋ยวศาลก็ตัดสินเองแหละว่าผิดมั้ย
กูอยากให้มีการฟ้องเป็นตัวอย่างไปซักเคสนะ จะได้รู้ไงว่าตกลงผิดหรือไม่ผิด
ไม่มีคนโดนฟ้องออกมาพูดบ้างหรอวะ หรือว่าเงียบเพราะคุยกันอยู่
>>986 ใช่จ้าขั้นตอนเจรจาที่โดนฟ้องกลับกันเยอะแยะเพราะจำตัวยังไม่ได้แจ้งหมิ่นแต่เจรจาก่อนไงมึง ไม่ได้เคสนี้นะกูหมายถึงบางเคสที่จะเเาเงินอย่างเดียวไม่รับคำขอโทษพวกนั้น คนโดนก็ไม่ยอมจ่ายแม่งก็ฟ้องขู่เป็นเรื่องกันจริง
ส่วนเคสนี่กูยังรอคนแม่นอยู่นะว่าฟ้องได้จริงหรือไม่ได้เพราะอายุความ
คำถามคือแม่งสืบหาตัวจริงได้ไง กูว่ามันเกินขอบเขตอำนาจของทนายนะถ้าจะสืบหาipอะ
>>990 ปกติถ้าส่งทนายไปเจรจาเนี่ย มันจะออกมาแนว “คุณได้ไปด่าคนนี้ๆๆนะ ตอนนี้เขาจะฟ้องเรียกเงินคุณเท่านี้ๆ แต่ถ้าคุณไม่ต้องการเป็นคดีความก็มาเจรจากันได้นะ ถ้าลบคอมเมนต์ที่ด่าแล้วขอโทษ เราก็จะไม่ฟ้อง” มันไม่ใช่กรรโชกทรัพย์นะ แต่ที่มึงพูดถึงน่าจะไม่ได้ติดต่อทนายอะไรเลย แค่ไปขู่เขาว่า “เธอด่าฉัน เอาเงินมาเท่านี้ๆนะ ถ้าไม่จ่ายฉันจะฟ้อง” แบบนี้ถึงจะกรรโชกทรัพย์เว่ย
ถ้าเรื่องเป็นจริงตามโม่งกระซิบคือมันมีโนติซจากทนาย ทนายปกติไม่น่าจะแนะให้ลูกความทำผิดกฎหมายซะเองปะวะ กูเลยมองว่าเคสนี้ไม่น่าใช่การขู่ แต่เป็นการเจรจาให้ลบข้อความตามปกติ
ส่วนฟ้องได้มั้ย ถ้ากูจำไม่ผิด คดีหมิ่นประมาทมีอายุความสามเดือนนับตั้งแต่เจ้าทุกข์รู้เรื่อง แต่การโพสต์ด่าในอินเตอร์เน็ตเนี่ย เจ้าทุกข์สามารถย้อนกลับไปรู้เรื่องได้เรื่อยๆตราบใดที่โพสต์นั้นยังไม่ลบ ต่อให้โพสต์เมื่อสิบปีที่แล้ว แต่เจ้าทุกข์เพิ่งย้อนกลับไปอ่านเมื่อวานนี้แล้วเกิดนึกอยากจะฟ้อง ก็ฟ้องได้
เรื่องการตามหา ip ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้อยู่ในขั้นตามหา ip ก็ได้ปะ แค่อินบ็อซ์หรือดีเอ็มไปเจรจาด้วยเฉยๆ ถ้าเจรจาไม่สำเร็จต่อไปก็คงแจ้งความให้ตำรวจไปหาให้มั้ง
สืบจากทวิตของคนที่โดนหมายไหม บางคนอาจจะใช้แอคที่มีข้อมูลส่วนตัวของตัวเองไรงี้ตอนพิมติดแท็ก เขาเลยได้ข้อมูลมามั้งนะ กุเดาๆๆๆๆ
มีนักเขียนได้โนติสไป 1คน
>>994 งั้นจ้างทนายของตัวเองเลยอย่าช้า เพราะดูแล้วทางนั้นน่าจะเอาเรื่องแน่ ไม่ใช่แค่ลบคอมเมนต์แล้วจะจบอะ
แต่อย่าเผลอไปด่าอะไรลงสื่อเพิ่มนะมึง สุภาพเข้าไว้ ต้องเข้าใจว่าถึงมึงจะคิดว่านางทำผิด แต่จริงๆแล้วการกระทำของนางไม่ผิดกฎหมาย ต่อให้เจ้าของลิขสิทธิ์มาฟ้องก็พิสูจน์ยาก แต่คนที่บอกว่านางก็อปงานลอกงานเนี่ย ผิดกฎหมายเห็นชัดกว่า เสียเปรียบว่ะ จ้างทนายแล้วพยายามให้จบที่ขั้นเจรจาเหอะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.