Fanboi Channel

สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์ ยกที่ 90

Last posted

Total of 1000 posts

934 Nameless Fanboi Posted ID:myClRBy/dP

>>930 +1 สมัยม.ปลายใช้วิธีนี้เหมือนกัน ฝากคนไปหิ้วแทน อีกอย่างสั่งจากชป.ไม่มียืนยันอายุนะคะ

935 Nameless Fanboi Posted ID:nySNGO4ToO

>>929 กูเห็นด้วยนะ ส่วนใหญ่เปิดมาก็ฉอดแรงๆ รีแอคชั่นมันเลยแรงตาม ทั้งที่จริงถ้ามึงเปลี่ยนมาวิจารณ์ ชอบไม่ชอบตรงไหน อะไรไม่สมเหตุสมผล อะไรควรมากน้อยกว่านี้ มึงอาจจะได้แนวร่วมแทนก็ได้5555

936 Nameless Fanboi Posted ID:fTrPzVIQUC

ky จาก >>933 กูสงสัยว่าทำไมแนวขึ้นอย่างหงส์ลงอย่าโบ้มันมีแต่ฝั่งพอ. ไม่ค่อยเห็นแนวนี้เป็นนอ.อะ

937 Nameless Fanboi Posted ID:ZYEkN7Ea0O

ตรงกันข้ามรัชทายาทดันเป็นแนวอินเซสที่กุไม่ชอบรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เพราะความสัมพันธ์ในเรื่องมันเริ่มจากการบีบบังคับ นายเอกไม่มีทางเลือก สุดท้ายยอม ตกหลุมรัก ขาดกันไม่ได้ จบท้ายที่แฮปปี้เอนด์ดิ้ง เป็นขนบนิยายอินเซสแบบที่กุไม่เคยจะชอบเรื่องไหนมาแนวทางนี้กุอ่านไม่จะจบ ตรงข้ามกุโอเคกับอินเซสที่ตัวละครมันยินยอมพร้อมใจ รู้ว่าบาป รู้ว่าคนไม่มีทางยอมรับ แต่เต็มใจจะเลือกทางนี้เอง ต่อให้ไม่มีดราม่าอุปสรรคลากเลือดแบบยิ่งใหญ่อลังการ แต่กุอ่านแล้วสบายใจไม่อึดอัดจิตตกแบบแรก
ส่วนองค์ชายสามฯกุอ่านไม่จบเพราะไม่โอเคกับการทรีตตัวละครหญิงในเรื่องของนข. เลยโนคอมเม้น

938 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

>>936 คนอ่านเป็นผู้หญิง เลยจินตนาการว่าตัวเองเป็นนายเอก
รักพระเอกมาก ยอมให้อภัยพระเอกได้ ถ้าพระเอกได้รับกรรมที่ก่อไว้มากพอ
แบบ โอเค กูให้อภัยมึงก็ได้นะ เห็นมึงทรมานมากพอแล้ว และรักกูจริงๆ
เหมือนกู (ในร่างนายเอก) เป็นแม่พระ อะ เข้าใจฟีลมะ 5555

939 Nameless Fanboi Posted ID:zQkZycEGG8

>>930 เอาลงเน็ตแล้วกำหนดอายุ ถ้าเด็กมันไม่เปรตถึงขนาดขโมยบัตรพ่อบัตรแม่มายืนยันอายุ ทำยังงี้มันก็เซฟกว่าว่างขายตามร้านหนังสืออยู่แล้ว ร้านหนังสือแค่หาคนสักคนแถวๆนั้นแล้วฝากหิ้วเลยก็จบ

940 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

>>937 เข้าใจๆ แต่ละคนความชอบไม่เหมือนกัน
สำหรับกู การรับเรื่องใดได้หรือไม่ได้ อยู่ที่ความสงสารของกูเอง ถ้ากูสงสาร กูจะรับได้

941 Nameless Fanboi Posted ID:fTrPzVIQUC

>>938 พอเก็ทละขอบคุณนะเพื่อนโม่ง กูไม่ได้สายนี้เลยไม่เก็ทฟีลเท่าไหร่ แต่เข้าใจขึ้นว่ายังไงนะ 55

942 Nameless Fanboi Posted ID:5JQ+TrG6EI

>>936 แนวนี้ฝั่งชญมีมานานแล้ว ละครไทยที่สาววายชอบด่ากันก็แนวนี้ทั้งนั้น พระเอกเหี้ยตามง้อนางเอกที่ท้องแล้วหนี กุเจอในละครไทยมายี่สิบสามสิบปีละ แต่วายเพิ่งมาฮิตกันช่วงที่เริ่มฮิตนายเอกท้องได้ พอมาฮิตในฝั่งวายมันก็เลยมาแนวเดียวกับชญตรงที่พระเอกต้องเป็นคนง้อ มันเป็น trope น้ำเน่าคลาสสิกอ่ะ

943 Nameless Fanboi Posted ID:zQkZycEGG8

กูรู้สมัยเรียนกูเปรตมาเยอะ555 วิธีหาช่องใช้ทริกต่างๆทำมาเยอะ

944 Nameless Fanboi Posted ID:uHVNOswmHb

กูคือ >>914 กูกลับไปย้อนอ่านที่พวกมึงถกกันอีกครั้ง กูก็เกิดข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งว่า :

'ถ้า' งานเขียนผิดศีลธรรม(กูไม่พิมพ์ซ้ำนะ แต่ในคห. 914 กูยกตัวอย่างไว้แล้วพอสมควร) สามารถเขียนได้ สามารถขายได้แต่ต้องมีการตรวจอายุและจำกัดการเข้าถึงอย่างเข้มงวด เอาลงดินแบบที่มดชิดที่สุด ปัญหาถัดมาที่ต้องเจอแน่นอนก็คือ : เด็กน้อยไม่มีวิจารณญาณ มีแต่ความกระสันอยากจะอ่านจนหาวิธีอย่างการ เอาบัตรปชช.คนอื่น/ฝากหิ้ว/ซื้อออนไลน์ ไปซื้อมาอ่านจนได้

กูค้นพบว่าวิธีการแก้ปัญหานี้(การจำกัดอายุ)มีช่องโหว่ กูเลยคิดขึ้นมาได้ว่า ไม่ว่าปัญหานั้นจะถูกแก้ด้วยวิธีไหน มันก็ยังคงมีช่องโหว่เสมอ (อาจจะมีวิธีแก้แบบไม่มีช่องโหว่ แต่ในที่นี้กูไม่ได้พูดถึงการแบนห้ามเขียน เพราะไม่งั้นงานนิยาย ละคร มังงะ และสื่อต่าง ๆ (ไม่รวมแค่วาย) ในตลาดจะต้องหายไปประมาณ 70% แน่นอน ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่านิยายแปล(และสื่อต่าง ๆ )จากประเทศอื่น ๆ ก็ต้องระงับการซื้อลิขสิทธ์และล้มเลิกการตีพิมพ์ไปพอสมควร)

ดังนั้นสิ่งที่กูอยากจะถามอีกครั้งในคห.นี้ก็คือ : ใครเป็นคนรับผิดชอบในการอุดช่องโหว่เหล่านั้น?

1. ผู้มีคุณวุฒิที่สามารถเผยแพร่แนวความคิดการแยกแยะและใช้วิจารณญาณกับสื่อ (เช่นผู้ปกครอง ครู และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)
2. ติด TW และชี้แจงเกี่ยวกับเนื้อหาโดยนักเขียน (แต่นักเขียนมีคนเดียว การแก้ปัญหาแบบนี้จึงมักจะอยู่ในรูปแบบประชาสัมพันธ์และการชี้แจงท้ายตอนหรือไม่ก็สอดแทรกความตระหนักรู้เข้าไปในเนื้อหา แต่ก็นั่นแหละ เพราะนักเขียนมีคนเดียว ประกอบกับมีนักอ่านบางประเภทที่ไม่อ่านรายละเอียดหนังสือ เช่นท้ายปก และคำนำ รวมถึงไม่อ่านทอล์คท้ายตอนของนักเขียนด้วย นั่นจึงเป็นการอุดช่องโหว่ที่ไม่เต็มร้อยเท่าไร แต่ถ้าพูดถึงผลส่วนใหญ่ก็ถือว่าได้ผลที่ดี...ถ้าคนที่ได้รับสารพอมีสติปัญญาในการขบคิดหน่อย)
3. ตัวนักอ่าน (กลุ่มคนที่ทำให้เกิดปัญหาโดยตรง)

ซึ่งข้อ 3 มันจะเป็นปัญหาต่อไปว่า จะทำยังไงให้คนกลุ่มนี้ตระหนักรู้ได้? และคำตอบก็จะไปสอดคล้องกับคนกลุ่มที่ 1

ที่กูพิมพ์ทั้งหมดเพื่อจะออกความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้คือทุกคนต่างทำเท่าที่ตัวเองรับผิดชอบได้เถอะ ไม่โบ้ยให้ใครคนใดคนหนึ่งรับผิดไปเต็ม ๆ แต่ช่วยกันหารก็พอแล้ว การผลักภาระไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีไม่ว่ากับเรื่องไหน นักเขียนก็ติด TW และเตือนให้นักอ่านตระหนักรู้เสมอทุกครั้งที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความผิดศีลธรรมปรากฏ นักอ่านก็กุมวิจารณญาณของตัวเองแน่น ๆ ตอนอ่าน ท่องในใจตอนอ่านไปได้ทุก ๆ 1 นาทีว่า 'นี่คือนิยาย นี่คือเรื่องในจินตนาการ'

ในส่วนของคนที่มันจะรั้นให้เขียนต่อแบบไม่สนใจผลกระทบต่อเหยื่อ หรือรั้นให้เลิกเขียนแบบไม่สนใจความหลากหลายของเนื้อหาแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้นก็ปล่อยมันไปเถอะ คุยกันคนละภาษาแล้วล่ะ

945 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

>>942 ใช่เลย กูอ่าน rape to love ได้ เพราะกูดูละครไทยตอนเด็กๆ
มันเลยเกิดแนวคิด รับได้ถ้าทำตัวน่าสงสารขึ้นมา
เวลาดูละคร มันจะมีฟีลพระเอกตามง้อ แล้วน่าสงสารอะ
ยืนตากฝนอยู่หน้าบ้านนางเอกไรงี้ 5555
มันเลยพาลให้กูรับได้กับทุกแนว ถ้าทำให้กูสงสารได้มากพอ

946 Nameless Fanboi Posted ID:myClRBy/dP

กูงงทำไมคนฉอดแนวนี้ แต่ไม่มีใครไปฉอดอิพระเอกคลั่งรักไร้สติที่เหี้ยกับคนทั้งโลกดีกับเธอคนเดียวบ้างวะ พระเอกบางเรื่องนิร้ายกว่าตัวร้ายอีกกูเคยเจอแม่งสั่งให้องค์รักษ์รุมโทรมตัวละครหญิงเงี้ย เสือกมีแต่คนอ่านบอกฟินนน กูอยากถามจะตายว่ามึงบ้ากันปะ

947 Nameless Fanboi Posted ID:uHVNOswmHb

>>944 คือกู และกูไม่ได้พยายามจะดีเฟ้นให้ใครทั้งนั้น กูแค่คิดว่าประเด็นนี้มันน่าสนใจดี เลยพิมพ์แบบจริงจังไปหน่อย(ก็ขี้สงสัยและชอบเสือก กูยอมรับ) ถ้าส่วนไหนทำให้โม่งอ่านแล้วไม่สบายใจ กูก็ขออภัยไว้ตรงนี้เลย

948 Nameless Fanboi Posted ID:PGl/UmmHhE

มีคนยกตัวอย่าง incest ของเฟิ่งน่ง กุบอกเลยว่า รัชทายาทของเฟิ่งน่งนี่บ้งกว่าองค์ชายสามเยอะมาก แค่เริ่มเรื่องก็เป็นเรื่องการบังคับขืนใจแล้วจ้า และเป็นตัวอย่างนิยายที่ใช้อำนาจไม่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน กุรู้สึกว่าออกแนวคนที่ทำดีกับนายเอกเหลืออยู่ไม่กี่คนด้วย เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดบนพื้นฐานจิตใจที่ไม่ปกติเลย สำหรับกูเรื่องนี้ unhealthy relationship ว่ะ

แต่กุก็อ่านและซื้อเก็บนะ ตอนอ่านคือรู้ แยกแยะได้ว่ามันผิด กูว่านี่คือ common sense ที่คนอ่านนิยายทั่วไปมีนะ

949 Nameless Fanboi Posted ID:PGl/UmmHhE

แล้วทำไมเรื่องพวกนี้ถึงไปอยู่บนพื้นฐานของความน่าสงสารไปได้ล่ะเนี่ย

950 Nameless Fanboi Posted ID:I/Vryek6zo

อันนี้แอบสงสัย คือโลกความจริงในปัจจุบันก็ยังมีบางชนเผ่าที่มีการร่วมเพศในครอบครัว แบบนี้ชาวทวิตจะตามไปชี้หน้าด่าเขาด้วยไหมว่าผิดศีลธรรม

951 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

>>949 เป็นหลักของกูเอง 55555
ไม่รู้ใครใช้หลักแบบกูมั้งเปล่า
กูใช้อารมณ์เดียวกันกับคุณป้าดูละครไทยอะ
ถ้าสงสาร แล้วมันจะอิน พออินแล้วมันจะยอมรับได้

952 Nameless Fanboi Posted ID:sb5Rie1Imx

อาจจะคนละเรื่องแต่เห็นพวกมึงฉอดเลืองนี้กันแล้วกูคิดถึงกรณีคุณแม่วัยใสเลย คือในเรื่องมีอุปสรรคมีคนไม่ยอมรับนะแต่มันน้อยกว่าความเป็นจริงมากจนคนอ่านแถมไม่รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคอะ กูว่ามันคล้ายกับองค์ชายสามที่เป็นเรื่องผิด มีคนไม่ยอมรับ มีอุปสรรคแต่ดันน้อยกว่าความเป็นจริงทำให้ประเด็นแรงๆแบบนี้ดูซอร์ฟลงจนคนไม่เห็นถึงความอันตรายของประเด็นนี้ว่ะ คือถ้าโตๆกันแล้วแยกแยะเป็นก็ดีแหละ พอคนที่แยกแยะไม่ได้มาอ่านสิถึงมีผลเสีย กูจำได้เลยหลังจากคุณแม่ไว้ใจออกมาเด็กท้องก่อนแต่แม่งยกให้เรื่องนี้เป็นไอดอล มองว่าท้องก่อนแต่งเป็นเรื่องไม่ผิดทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่ กลายเป็นปัญหาสังคมไปอีกหนึ่งแทน กูเลยคิดว่าจริงแล้วข้ออย่างนี้ถ้าจะเขียนจะเล่นกันความเขียนให้เห็นของผลกระทบจริงๆที่ไม่ปรับให้ซอร์ฟลงดีกว่ารึป่าว ให้รู้จริงๆว่าประเด็นนี้คือเรื่องที่ผิดไม่ได้ทำให้ประเด็นมันดูโลกสวยจนคนบ้างกลุ่มเข้าใจผิดแล้วพาสังคมเดือดร้อน
กูอาจสื่อสารไม่ดีมากนะ แต่คิดจริงๆถ้าจะเขียนแนวนี้ไว้บนดินควรเล่นประเด็นให้แรงถึงผลเสียที่ตามมามากกว่านี้

953 Nameless Fanboi Posted ID:ZtB+sZkSJx

ถกกันได้ยาวมากกกกกกกก 300++เม้น

954 Nameless Fanboi Posted ID:NKhMx6eFc2

>>952 คุณแม่วัยใส มีการขึ้นคำเตือนอะไรมั้ยนะ? กับปัญหาอยู่ที่การที่คนบางกลุ่มเคลมว่ามัน "สะท้อนสังคม" รึเปล่า? พอใช้คำนี้แล้วมันคืออิงตรรกะของโลกสังคมจริง กับถ้าเปลี่ยนเป็นบอกว่า นี่เป็นการ์ตูนสนองนี้ดคนเขียน ไม่ได้สะท้อนสังคมใดๆ การมองจะต่างออกไป

955 Nameless Fanboi Posted ID:xfn5JqyeVJ

>>954 คุณแม่วัยใสโดยฉอดไปเท่าไหร่แล้ว มึงไปอยู่ไหนมา

956 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

>>955 จำได้ว่าฉอดเพราะแต่งให้โลกสวยกว่าความเป็นจริงปะ อุปสรรคน้อย อะไรๆก็ผ่านได้อย่างง่ายดาย ไม่ตรงกับความจริง ชีวิตจริงไม่ง่ายแบบนั้น ประมาณนั้นมะ ถ้าจำไม่ผิด

957 Nameless Fanboi Posted ID:AN.djEz2i8

>>952 จริงๆองค์ชายสามมันก็ควรเป็นแบบนั้นนะ คือบ้งตรงไหนคนก็วิจารณ์กันไป แค่นั้นเอง

958 Nameless Fanboi Posted ID:xfn5JqyeVJ

>>956 โดนฉอดเพราะภาคสองอะ ไม่ได้มีแค่นั้น ยังทัศนคติของคนเขียนที่บ้งตอนออดมาโพสอีก ต้องไล่ไปดูตอนนั้นคนออกมาด่าเยอะมาก

959 Nameless Fanboi Posted ID:zQkZycEGG8

>>952 กูพอจะเข้าใจพ้อยท์มึงนะ ปัญหาของสองเรื่องเหมือนกันตรง ‘ทำให้ประเด็นที่ควรจริงจังมันเบากว่าความเป็นจริง’ นี่แหละ อุปสรรค ความผิด คนต่อต้านมีแต่น้อยจนแทบไม่เห็นผลเสีย

960 Nameless Fanboi Posted ID:0ohIHlFrqt

>>952 คมวสกูว่าผิดที่มันโปรโมทมาเป็นเรื่องอบอุ่นหัวใจ ทำเหมือนจะสะท้อนสังคมด้วยแหละ พอคนท้วงว่ามันเฮนไตลอจิค คนเขียนก็ตะแบงว่าเขียนถูกแล้วอีก ถ้ามันอยู่ถูกหมวดแต่แรกก็คงไม่มีใครไปยุ่งกะมันอะนะ (รึเปล่าวะ)

961 Nameless Fanboi Posted ID:YVkhAjjII/

>>916 ส่วนตัวกู กูอยากให้มีอย่างน้อยสักหนึ่งย่อหน้าในเนื้อเรื่อง ในตัวเนื้อเรื่องนิยายเลยนะ ที่อธิบายว่าอินเซสมันไม่ปกติยังไง และทำไมอินเซสในเรื่องนี้ถึงรับได้

แค่ย่อหน้าเดียวในเรื่องเท่านั้นเองที่กูอยากได้ และแค่อยากได้ด้วยนะ ไม่ได้ไปคาดคั้นว่าต้องมีให้ได้ แค่ถ้ามี กูคิดว่ามันอาจจะป้องกันการฉอดได้บ้าง

กูรู้และกูเข้าใจว่าติด tw แล้ว พยายามแล้ว ทั้งนักเขียนและสนพไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลย แต่เอาเข้าจริง tw มันเป็นแค่การเตือนเฉยๆว่าในเรื่องนี้คุณจะได้พบกับอะไรบ้าง

อาจจะมีคนบอกว่าแค่ติด tw เป็นการเตือนก็เหมือนบอกแล้วไงว่าผิด อันนี้สรุปแบบนั้นไม่ได้ เพราะ tw นี่มันรวมเนื้อหาลามกอนาจาร ความตายของตัวละครด้วย ซึ่งสองอย่างนี้ไม่ได้เป็นความผิดอะไร และในบางกรณี ตัว incest เองก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เลยว่าผิดจริงๆมั้ย ถ้าตัดประเด็นเรื่องยีน เรื่องศีลธรรม และเรื่องกรูมมิ่งออกไป ถ้าสองคนรักกันจริง incest จะยังเป็นความผิดรึเปล่า

สำหรับกู กูมองในแง่ร้ายไว้ก่อนว่าความสัมพันธ์อาจจะตั้งอยู่บนพื้นฐานอำนาจที่ไม่เท่ากัน เลยอยากให้ใส่ลงไปในเนื้อเรื่องด้วย เพื่อประโยชน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กมาอ่าน หรือผู้ใหญ่อ่านแล้วถือเป็นข้ออ้างให้ตัวเองไปล่อลวงเด็กก็ตาม มันอาจจะช่วยหรือไม่ช่วยก็ได้ แต่กูมองว่ามีดีกว่าไม่มี ทั้งเพื่อชื่อเสียงของตัวนักเขียนเองและคนอ่าน

962 Nameless Fanboi Posted ID:fTrPzVIQUC

>>944 ถ้ามองประเด็นหลักเป็นเยาวชนนะ สื่อทำหน้าที่ตัวเองคือแปะป้ายแจ้งตามความเหมาะสมก็พอแล้ว ไม่ใช่หน้าที่สื่อที่จะต้องมาทำหน้าที่สอนใจเด็กหรือกังวลว่าอุ๊ยเดี๋ยวมีเด็กหลงมานะปรับเนื้อหาดีกว่า ทั้งที่ก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเค้าและได้แปะป้ายเตือนระดับเรตติ้งแล้ว เพราะสุดท้ายหน้าที่หลักคือพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ดีนะ มู้บนๆมีคนมาโพสว่าเป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายต้องยื่นมือมาช่วยดูแลเพราะพ่อแม่ก็ต้องทำงานไม่ว่างมาดู แต่กูว่ามันเป็นแก่นของปัญหาเลยวะ จะโยนปัญหาให้แต่ผู้ผลิตแก้ที่ปลายน้ำไม่ได้
ยกตัวอย่างอ้อมๆประชดเล็กๆ ถ้าเป็นเด็กเล็กมากๆพร้อมจะหยิบทุกอย่างเข้าปากหมดแม้แต่ฝาขวดน้ำหรือเหรียญบาท หน่วยงานใดๆต้องแปะป้ายบนฝาขวดน้ำด้วยหรือเป็นหน้าที่พ่อแม่ที่ต้องดูแลและสอนลูกว่าสิ่งนี้เอาเข้าปากไม่ได้อะ
กลับมาถ้าเป็นเคสที่ถกกันอยู่ว่ากลัวเรื่องเยาวชนจะเข้าใจผิดเรียนรู้ผิดๆจากสื่อ คือต่อให้พยายามทำให้มันเข้าถึงยากยังไง ถ้าเด็กมันมีใจดื้ออยากท้าทายอยากลองไปแล้วมันจะไปหาทางมาได้อยู่ดีวะ กูเลยเห็นเป็นหน้าที่ผู้ปกครองที่ต้องสอนเรื่องว่าเด็กควรจะเลือกเชื่ออะไรไม่เชื่ออะไร อะไรที่ควรลองหรือเข้าถึงได้ในวัยไหนด้วย ถ้าเด็กมันอยากลองเหล้า ต่อให้หาซื้อยากถ้าพี่ข้างบ้านมาชวนมันก็ไปลองอยู่ดี ถ้าเด็กอยากอ่านr18 ก็ไปเอาบัตรพ่อแม่มาสมัครอยู่ดี

963 Nameless Fanboi Posted ID:+yXspa5es/

>>959 กอมมึง ใช่นี่แหละคือสิ่งที่กูจะสื่อปัญหาที่มันดูรุนแรงมันดันทำให้ซอร์ฟกว่าความเป็นจริงจนคนบางกลุ่มเข้าใจผิดแล้วเอาไปปฏิบัติตาม

964 Nameless Fanboi Posted ID:18mQY.Hvbg

เออ เอาจริงที่ตบตีกันในทวิตมีถกกันไหมว่าอินเซสผิดศีลธรรมยังไง หรือแค่ไฝว้กันเรื่องนิยายอย่างเดียว ไล่ดูเห็นมีแต่บอกอินเซสผิดมาก รับไม่ได้ แต่ไม่มีคนบอกว่าผิดยังไงเลย

965 Nameless Fanboi Posted ID:vKT9wX89+G

ตอนนี้กูอยากให้ สนพ เวลาออกนิยายออกทีเดียวครบชุดว่ะ กลัวโดนดราม่ากลางทางแล้วต้องหยุดขายแบบไม่จบ เห้อม

966 Nameless Fanboi Posted ID:v5DtDR3Nf3

>>962 ผู้ปกครองทิพย์กันทั้งนั้น ถ้าไม่สอนแล้วเน้นห้ามเน้นปิด สุดท้ายฉุดไม่อยู่หรอก ขนาดเมื่อก่อนพวกโซเชียลอะไรเข้าถึงยาก กูยังลองอ่านไทยเซ็กสตอรี่ครั้งแรกตอน ม.2 ดูหนังโป๊เรื่องแรกตอน ม.4 แต่กูทำครั้งเดียวนะ ไม่ใช่แนวว่ะ มันrealไปออกแนวขยะแขยงอ่ะ เลยกลับมาสายการ์ตูน สายฟิคชั่นต่อ ตอนนั้นก็มีให้อ่านวายไม่มาก พวกวายลิขสิทธิ์นี่ไม่มีเลยมั้ง นิยายก็ยังไม่ค่อยมี แต่ฟิคชั่นเจป๊อปเจร็อคจะเยอะหน่อย

เมื่อก่อนยังห้ามไม่อยู่ ตอนนี้เด็กๆเข้าโซเชียลเก่งกว่ากูอีก จากที่พวกมึงทำมันจะไม่overprotectiveเหรอวะ กูกลัวว่าจากที่คิดว่าดีจะกลายเป็นร้ายแทน

967 Nameless Fanboi Posted ID:S9fA+QHNF6

>>964 มึงหวังอะไรจากแอคเอดูเขต มันฝังหวังอย่างเดียวว่าถ้าอ่าน Incest คือสนับสนุน ส่วน rape ได้แต่ต้องไม่โรแมนติไซส์ กุจับประเด็นอะไรไม่ได้เลย อ่อ tw ไม่ใช่ยันต์กันด่า ซึ่งถ้าไม่ใช่ก็ไม่รู้ต้องทำอะไรแล้ว เพราะเรื่องบอกตั้งแต่แรกว่านิยายนี้คือ”เรื่องแต่ง”

968 Nameless Fanboi Posted ID:50/VRBqk3G

>>962 +1 ถ้ามัวแต่กลัวเด็กจะมาเจอเข้าแล้วเลียนแบบหรือเชื่อผิดๆ แบบนั้นก็สร้างสื่อเพื่อความบันเทิงแทบไม่ได้เลยนะ ต้องทำแต่สื่อสอนใจเท่านั้น

969 Nameless Fanboi Posted ID:fTrPzVIQUC

>>964 ชญเค้าจะกลัวทายาทมีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากเรื่องเลือดชิด แล้วถ้าเกิดขึ้นในบ้านกับผู้เยาว์มันก็เหมือนเคสเปโดกรูมมิ่งนะ
ส่วน ชชหรือญญ กูพยายามหาคำตอบมาตั้งแต่มีเรื่องแล้วว่า ชชหรือญญ โตแล้ว คอนเซนทั้งคู่ผิดยังไง คือพื้นฐานกูไม่ได้สายนี้หรือสนับสนุนนะ แต่กูรำคาญแอคฉอดศีลธรรม 55
กูเปิดใจไล่อ่านในนี้หรือไปฟังสเปซเมื่อวานเผื่อจะเจอว่าผิดยังไงในแง่ที่กูคาดไม่ถึง สุดท้ายไม่มีคำตอบเลยว่าผิดยังไงวะ ในสเปซมีคนถามด้วยว่าชชผิดไหมก็ไม่ได้มีทายาท คนที่ออกปากด่าก่อนหน้าเงียบไปเลยเพราะตอบไม่ได้จนต้องไปถามฝั่งวิชาการ ฝั่งวิชาการก็ตอบได้แค่กรณีเด็กซึ่งมันเปโดกรูมมิ่งไง

970 Nameless Fanboi Posted ID:v5DtDR3Nf3

เอาจริงนะ กุคิดว่าเด็กๆ ประเทศเรามีคุณภาพกว่าที่คิดนะ ดูจากการแสดงออกหลายๆ อย่าง (แน่นอนว่ามันมีเด็กบ้งด้วย แต่ยุคไหนสมัยไหนมันก็มี) ประเด็นเรื่อง incest กุคิดว่าที่มันลุกลามขึ้นก็เพราะเด็กเขารู้อยู่ว่ามันผิด เขาแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนดีไม่ดี แล้วมันเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมเรื่องผิดๆไม่ดีพวกนี้มันถึงมาอยู่ในนิยายได้ แต่ถ้ามองรอบตัวมากขึ้นเขาจะรู้ว่าเรื่องไม่ดีพวกนี้จริงๆมันมีอยู่ในสื่อรอบตัวทั้งหมดนะ ไม่ใช่แค่นิยายเรื่องเดียว เปิดละคร 1 เรื่องก็ต้องเจอ เดินเข้าโรงหนัง 1 รอบก็ต้องเจอ แต่ขอแค่คนแยกแยะได้มีมากกว่าคนแยกแยะไม่ได้ เหมือนที่เขาเองก็แยกแยะได้ว่ามันผิด มันก็ไม่มีทางนอมอลไลซ์สังคมได้แล้ว สิ่งที่กลัวกันอยู่ตอนนี้มันคือการกลัวเกินไปรึเปล่า พวกมึงอาจจะคิดว่ากูโลกสวยเกินไป แต่กูคิดว่าอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่วนใหญาไม่ได้เกิดจากการเลียนแบบนิยายที่เป็นตัวอักษรยาวๆแบบนี้หรอก บอกว่าคนเลียนแบบหนังหรือซีรี่ส์ยังง่ายกว่าด้วยซ้ำ

กูสนับสนุกเรื่อง rate , tw , ทำเป็นแถบคาดหนังสือ , หรือจะเพิ่มหน้าคำอธิบายเพิ่มเติม , หรือใส่ไว้ในทอล์กนักเขียนนะ สนับสนุนเรื่องการตรวจบัตรก่อนซื้อ จะห้ามเอาลงเชลฟ์กลางร้าน จัดโซนเฉพาะ อะไรก็ว่าไป ให้มันดูเข้าถึงยากขึ้นซะหน่อย อันนี้ถ้าทำได้ก็ดี แต่กูว่าสำหรับคนที่คิดว่ามันต้องใส่ใต้ดิน หรือต้องห้ามเขียน หรือไปเขียนในซอกหลืบ อันนี้กูรู้สึกว่ามันเกินไปว่ะ

971 Nameless Fanboi Posted ID:18mQY.Hvbg

>>969 แต่เรื่องสุขภาพมันเป็นประเด็นวิทยาศาสตร์ไงไม่ใช่ศีลธรรม ซึ่งกุก็เห็นด้วยที่ไม่ควรมีลูกในเครือญาติเดียวกัน แต่พอถามว่าผิดศีลธรรมยังไงไม่มีใครตอบ 5555 มีแต่แช่งว่าขอให้เกิดกับครอบครัวมึงงี้ สรุปนักฉอดแค่จดบทมาว่ามันผิดเหรอ

972 Nameless Fanboi Posted ID:Ds..cFRHQn

KY นักเขียนนิยายวายในทวิตที่ยอดฟอลเยอะๆ นี่ประมาณไหนถือว่าเยอะวะ? หรือเอาที่เยอะที่สุดที่พวกมึงเคยเห็นก็ได้ หรือเอายอดไลก์เพจก็ได้ (เฉพาะสายวายนะ/หรือจะเขียนชายหญิงด้วยก็ได้แต่เขียนวายด้วย) กุอยากรู้อะ หรือเกณฑ์พวกมึงเท่าไรอัพถึงจะถือว่าเยอะ??

973 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

ชช กูว่ามันผิดในแง่ความเชื่อในสังคม
สังคมเชื่อกันมาเป็นร้อยๆปี ว่ามีสัมพันธ์ในครอบครัวเดียวกันมันบาป
อารมณ์คล้ายๆ เรื่องอื่นที่ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ผิดหลักศาสนา
สรุป ความคิดกู ชช มันผิด เพราะมันขัดกับความเชื่อของสังคม ที่ฝังรากลึก จนลืมตั้งคำถามว่าผิดยังไง

974 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

>>973 หมายถึง ชช อินเซสนะ

975 Nameless Fanboi Posted ID:fTrPzVIQUC

>>971 จากที่กูเจอมาในสองวันนี้ ใช่วะมึงนักฉอดมันท่องจำฝังหัวตามๆกันมา

976 Nameless Fanboi Posted ID:ZYEkN7Ea0O

>>969 กุจำได้ว่าได้คำตอบจากในโม่งซักห้องนี้แหละว่าอินเซสต่อให้ไปไม่ทายาทและต่างฝ่ายต่างยินยอมพร้อมใจ ก็ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องปกติเพราะสถาบันครอบครัวจะล่มสลาย พี่น้องต้องมาระแวงกันว่าจะถูกพี่น้องตัวเองมองเกินเลยรึเปล่า แล้วถ้าไม่สมหวังคนนึงรักคนนึงไม่รักจะมองหน้ากันติดกลับมาเป็นครอบครัวปกติเหมือนเดิมได้มั้ย

ซึ่งกุโอเคกับคำตอบนี้นะไม่ควรมองเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ควรตีตราดราม่าไปเผือกด่าในกรณีที่คู่อินเซสนั้นเขาต่างฝ่ายต่างเต็มใจที่จะเลือกทางนี้ และป้องกันไม่มีลูก/หามีลูกไม่ได้

977 Nameless Fanboi Posted ID:7WOKjdKDbd

อินเซส ไม่ว่าเพศอะไร
มันถูกสอนกันมาเป็นร้อยๆปี ว่าผิด
ผิดโดยอัตโนมัติ ถามใคร ใครก็ต้องบอกว่ามันผิด
ผิดแบบไม่ต้องการเหตุผลด้วย เพราะมันผิด (กำปั้นทุบดินมะ)
ถึงขนาดมีคำพูดด่าคนผิดอินเซสเลยว่า
มีแต่สัตว์เท่านั้นแหละ ที่สมสู่กันเองในสายเลือดเดียวกัน
แล้วแนวคิดนี้มันเปลี่ยนยากด้วย ไม่เหมือน lgbt
เพราะคนส่วนใหญ่ในสังคมเห็นพ้องต้องกันว่ามันผิด มันเลยเป็นแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงยาก
แม้จะเป็นในกรณีพี่ชายน้องชายที่ท้องไม่ได้ก็ตาม

978 Nameless Fanboi Posted ID:fTrPzVIQUC

>>971 กูเดาเพิ่มนะ หลักศาสนาหรือความเชื่อสมัยก่อนมันมาเพื่อรักษาความมั่นคงของสังคมอะ และคนมีหน้าที่ต้องผลิตทายาทให้ตระกูลหรือสังคม
ชช เมื่อก่อนหลายที่ผิดเพราะเค้าคิดว่าธรรมชาติคนต้องผลิตทายาท อินเซสอาจทำให้มีทายาทที่ไม่สมบูรณ์หรือทำให้ทายาทนับลำดับญาติไม่ได้ พอทายาทนับลำดับญาติไม่ได้ก็มีผลกะเรื่องลำดับในตระกูล มรดก ไรงี้
พอเกิดปัญหานี้ สังคมเลยศีลธรรมว่าสิ่งนี้ผิดห้ามทำ

979 Nameless Fanboi Posted ID:vKT9wX89+G

มีคนสอนไว้ อย่าเชื่อในสิ่งที่เล่าต่อๆกันมา ต้องหัดสงสัย หัดตั้งคำถาม แต่พอถามไม่มีใครตอบได้เลย แย่จัง

980 Nameless Fanboi Posted ID:18mQY.Hvbg

>>976 อันนี้กุนึงถึงกรณีที่พี่น้องหรือพ่อลูก/แม่ลูกต่างเพศต้องระวังเรื่องการวางตัวกันอยู่แล้วอะ เช่น ไม่นอนแหกแข้งแหกขาโชว์คนในบ้านหรือพอโตหน่อยก็เลิกอาบน้ำด้วยกันงี้ คหสต ต่อให้เป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องระวังเรื่องทางเพศ สนิทใจกันไม่ได้เต็มร้อยอยู่แล้ว อันนี้เรื่องมองเกินเลยนะ ส่วนเรื่องถ้าไม่สมหวังในรักแล้วจะมองหน้ากันไม่ติดนี่เหมือนความรักในกลุ่มเพื่อนสนิทเลยนะ แบบกระอักกระอ่วน แต่ไม่ได้ถึงขึ้นผิดศีลธรรมปะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สมมติถ้าอินเซสกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมกุก็คงรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน แต่หาเหตุผลไม่ได้นะ 5555

981 Nameless Fanboi Posted ID:vyi7M+J8Ji

จริงๆของพวกนี้คำตอบง่ายๆก็แค่ สังคมกำหนดไว้แบบนั้นแค่นั้นจริงๆ ในอียิปต์มันเคยมีความเชื่อรักษาเลือด อินเชสกลายเป็นไม่ใช่เรื่องผิด
ในอดีตมีความเชื่อ/จารีตบัดซบ ที่ให้คนรุ่นเรากลับไปฟัง/รับรู้แล้วจะรับไม่ได้เยอะมากนะ ถ้าเป็นสายฉอดแม่งไม่รู้จะดีใจจนตัวสั่นมั้ย มีเรื่องให้ฉอดคว้าแสงเยอะเลย

982 Nameless Fanboi Posted ID:vKT9wX89+G

>>981 แปลว่าอะไรที่สังคมกำหนดไว้ไม่ควรตั้งคำถามเหรอ เพราะคำตอบมันมีแค่สังคมมันตั้งไว้แบบนั้น ซึ่งบางเรื่องมันก็ตั้งนานแล้ว ไม่ต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยเหรอ ลางทีสิ่งที่สังคมตั้งไว้มันก็ไม่ได้ถูกเสมอไปป่าวอ่ะ

983 Nameless Fanboi Posted ID:nySNGO4ToO

>>976 เห็นด้วยเรื่องเซฟสเปซในบ้าน บ้านควรเป็นที่ที่สบายใจอ่ะ ไม่ควรต้องมานั่งกังวลว่าจะถูกละเมิดมั้ย คิดว่าที่อินเซสไม่ควรปกติในสังคม เพราะมันนำไปสู่การ grooming/sexual abuse ได้ง่ายนี่แหละ (พูดถึงแนวโน้มที่จะเกิดนะ ไอ้ที่เกิดการกระทำไปแล้วอ่ะผิดเต็มๆ)
ขนาดอินเซสไม่ปกติ พ่อแม่พี่ป้าน้าอายังไม่ค่อยเคารพสิทธิเด็กกันเลยมึง5555

984 Nameless Fanboi Posted ID:SqCzaYUnh+

>>982 คน 99% เชื่อว่ามันผิด
คน 1% ที่เหลือจะตั้งคำถามยังไง
ก็โดนตัดสินว่าผิดอยู่ดี
ไปๆมาๆ คน 1% ที่ตั้งคำถาม จะเงียบไปเอง

985 Nameless Fanboi Posted ID:vKT9wX89+G

>>984 ไม่ล้าสมัยไปหน่อยเหรอวะ เหมือนเวลาทำอะไรแล้วก็ให้เหตุผลว่า เมื่อก่อนเขาก็ทำกันมาอ่ะ เมื่อก่อนมันก็เป็นแบบนี้ มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว

986 Nameless Fanboi Posted ID:vKT9wX89+G

มันไม่ย้อนแย้งกับประเด็นตอนนี้เหรอวะ ที่แต่ละคนอยากจะพัฒนาวงการ งี้กุบอกว่าวงการนิยายมันก็แลบนี้มานานแล้วอ่ะ มีเรื่องผิดศีลธรรม มีเรื่องไม่ดี แต่เขาก็ทำกันมานานแบ้ว อยู่ๆ จะมาตั้งคำถาม มาเอะใจอะไรกันทำไมอ่ะ จะมาให้ติด tw ติดเรททำไมอ่ะ สังคมนิยายเมื่อก่อนไม่เห็นต้องมีอะไรแบบนี้เลย

987 Nameless Fanboi Posted ID:DW7uWewRIP

>>983 กูมองว่าที่โม่งมีสติคุยๆกันมาด้านบนเป็นร้อยๆเมนต์ เขาก็ไม่ได้มองว่าอินเซสมันควรถูกมองว่าปกติหรอก แต่เขามองว่าถ้านิยายมันขายในที่ๆสมควรขาย (ซึ่งอันนี้คุยๆกันไปเยอะเลย) มีการติดแทค จัดเรท จำกัดการเข้าถึงแล้ว มันไม่ควรโทษนิยาย ด่าคนเขียนว่าเขียนได้ไงสนับสนุนเรื่องแบบนี้เหรอ เพราะนิยายมันก็มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะอะ แต่นักฉอดในนกฟ้าไม่เข้าใจไม่เอาอะไรทั้งนั้น ฉอดอย่างเดียวว่าผิด ทำไมถึงรับกันได้ล่ะ ทำไมสนับสนุนเรื่องแบบนี้ พวกแกคือพวกคุณภาพต่ำที่ถูกสื่ออินเซสล้างสมอง แบบไปไกลมากกกก คือ ถ้าใช้ตรรกะนี้ นิยายเรื่องไหนมีฉากไม่เหมาะสม เช่นพระเอกข่มขืนนางเอก คือต้องโดนประนามเอาลงใต้ดิน เลิกเขียนเหมือนกัน เพราะคนเขียนไม่เห็นใจเหยื่อเรปเหรอสนับสนุนเรปเหรอถึงเขียนออกมา คือกูเข้าใจว่าหลายคนที่ฉอดอินเซสไม่โอเคกับเรปก็เยอะ แต่เอเนอจี้ตอนฉอดคนละเรื่อง เผลอๆก็แค่ไม่ชอบก็เลี่ยงอ่านเอา

988 Nameless Fanboi Posted ID:vyi7M+J8Ji

>>982 มึงก็ตั้งคำถามได้ แต่มึงจะเอาอะไรวัดความถูกต้องล่ะ มันไม่ใช่ 1+1 เท่ากับ 2 เห็นเป็นชิ้นเป็นอันนี่ มันก็ขึ้นกับว่าคนส่วนมากเชื่อว่าอะไรถูกมันก็เทไปทางนั้นจากนั้นก็มีการลงโทษทางสังคมตามมาขึ้นกับว่าคนในสังคมนั้นๆจะต่อต้านมันร้ายแรงแค่ไหน ถ้ามีคนตั้งคำถามมากๆ รู้สึกว่ามันน่าจะไม่ถูก พอผ่านไปสักพักมันก็เปลี่ยน นี่แหละธรรมชาติของความเชื่อที่เถียงกันจนนูกลงก็ไม่จบล่ะ
ความวายที่เราชอบก็แพทเทรินแบบนี้แหละ ตอนนี้มันถึงพอจะขึ้นบนดินได้ไง เพราะคนที่คิดตั้งคำถามและตอบว่าไม่ผิดมันมากขึ้นไง

โดยส่วนตัวกูไม่ได้สนับสนุน อินเชส และไม่คิดว่าควรปลูกฝังสนับสนุนเด็กให้เห็นว่าปกตินะ เอาลงใต้ดิน เอาห่างๆเด็กน่ะดีแล้ว กุมองพี่น้องกูแล้วก็ไม่รู้จะไปเอาความหื่นมาจากไหน ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวสักนิด จริงๆมันสปาร์คค่อนข้างยากนะ แม้แต่ธรรมชาติก็ยังมีกลไกกันอินเชสในระดับนึง

คือถ้ามึงจะถกว่าทำไมผิด คำตอบที่กูคิดออกมันก็มีแค่นั้นจริงๆ

989 Nameless Fanboi Posted ID:MnEjuYT5rl

>>985 กูเข้าใจว่ามันควรจะตั้งคำถามได้
แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่แบบนั้น
การตั้งคำถาม หรือเรียกร้องแนวคิดอะไรสักอย่าง มันต้องมีแนวร่วมที่คิดเหมือนกันมากพอ
หมายถึงถ้ามึงตั้งคำถาม มันต้องมีคนเห็นด้วยกับมึงระดับหนึ่ง
แต่ประเด็น incest เนี่ย แค่คุยกันในวงสาววาย อายุใกล้เคียงกัน มันยังมีคนไม่เห็นด้วยเต็มไปหมด
ไม่ต้องนึกถึงการตั้งคำถามนี้ในวงกว้างเลย
แค่วัยรุ่นยังไม่เห็นด้วย นับประสาอะไรกับการขยายวงไปที่ผู้ใหญ่
ลองยิงคำถามนี้ ในวงผู้ใหญ่อายุ 40-60 ดู
มีแต่จะเรียกมึงไปปรับทัศนคติ ว่ามึงคิดแบบนี้ได้ยังไง

990 Nameless Fanboi Posted ID:nySNGO4ToO

>>987 กูเข้าใจๆ แต่เห็นคุยในแง่โลกจริงว่าผิดตรงไหนนอกจากกรูมมิ่งเปโด หรือเสี่ยงโรคทางพันธุกรรม เลยคิดว่ามันมีแนวโน้มสุ่มเสี่ยงอยู่เหมือนกัน กูไม่คิดว่าคนเขียนหรืออ่านนิยายประเภทนี้เห็นเป็นเรื่องปกติหรือสนับสนุนหรอก เพราะมันผิดในโลกจริง มันเลยให้ความรู้สึกแบบที่นิยายปกติให้ไม่ได้ อ่านเพื่อความบันเทิงกันเฉยๆ อยู่แล้ว

991 Nameless Fanboi Posted ID:MnEjuYT5rl

กูอยู่ในกลุ่มจ๊อกจ๊อกกะเทย
เคยมีอยู่ช่วงนึง กะเทยโพสกันขำๆ
ว่ามีอะไรกับพระสงฆ์ดีมั้ย คนมาคอมเม้นเฮฮา ขำๆ กันเต็มไปหมด ก็เอาเลยสิคะ นส อย่าไปกลัว
โพสต่อมา มีอะไรกับพี่ชายดีมั้ย เริ่มมีคนไม่ขำ
พอโพสว่า มีอะไรกับพ่อตัวเองดีมั้ย เท่านั้นแหละ กะเทยด่าเพียบ บาปจะกินหัวมึง มึงทำแบบนี้ได้ยังไง
นี่แหละ ความเชื่อของคนในสังคม
มีอะไรกับพระ ยังไม่บาปเท่ามีอะไรกับพ่อตัวเอง

992 Nameless Fanboi Posted ID:DW7uWewRIP

>>990 เข้าใจๆ ว่ามาจากประเด็นว่าในนกฟ้าเขาพูดเรื่องในโลกจริงยังไง แต่คือจะบอกว่าเวลามีคนไปบอกว่าเข้าใจว่าในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ควร มันผิด แต่นิยายมันมี genre นี้ไม่ผิด พวกนักฉอดก็จะกลับมาจุดเดิม ว่าดูสิคะ สื่ออินเซสผลิตคนคุณภาพแบบไหนออกมา กรรมแท้ๆ

993 Nameless Fanboi Posted ID:18mQY.Hvbg

เออจริงนะ พวกเรื่องที่พระเอกเป็นพระนี่กรี๊ดกันจัง บาปแต่ฟิน ไม่มีคนออกมาฉอดเลย แล้วก็ดูไม่ใช่นิกายที่มีลูกมีเมียได้ด้วยนะ มาตรฐานแปลก ๆ

994 Nameless Fanboi Posted ID:NzNH+oGK5B

>>984 มึงไปเอาเปอร์ที่ว่ามาจากไหน?

995 Nameless Fanboi Posted ID:NzNH+oGK5B

>>984 พิมพ์ผิด จะพิมพ์ว่า "เปอร์เซ็นต์"

996 Nameless Fanboi Posted ID:MnEjuYT5rl

>>994 กูตั้งขึ้นเอง
ถ้าโหวตกันในที่สาธารณะจริง กูว่าก็ 99 : 1 แหละ

997 Nameless Fanboi Posted ID:NzNH+oGK5B

>>996 มึงคิดเอง มึงต้องให้มันมีตัวเลขออกมาจริงๆ ก่อนดีกว่านะ ค่อยบอกแบบนี้ มึงอย่าเอาความคิดตัวเอง แบบมัคงคิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ไปสนับสนุนความคิดตัวเองอีกทีแบบนี้มันแปลกๆ นะ

998 Nameless Fanboi Posted ID:DW7uWewRIP

>>993 เป็นเพราะพวกพระเอกเป็นพระมันเป็นงานของฝั่งยุ่นปะเป็นพระญี่ปุ่น แบบมันไกลตัวอะมึง มันเลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เหมือนที่มีคนบอกแหละ ว่าพอเป็นงานของนักเขียนต่างประเทศมันไม่ค่อยโดนอะไรอะ 555555

999 Nameless Fanboi Posted ID:MnEjuYT5rl

>>997 แล้วแต่มึงเลย ว่าจะคิดยังไง
กูแค่คิดว่า lgbt ที่เป็นคนเป็นๆยังไม่เอา incest เลย
พูดถึงในชีวิตจริงนะ ไม่ใช่ในนิยาย

1000 Nameless Fanboi Posted ID:NzNH+oGK5B

>>970 รู้ว่าผิดจากการคิดเองเออเองใช่มั้ยมึง สุดยอดวะ แล้วมันจะพิสูจน์ยังไงวะว่าความคิดนี้มันถูก หรือคิดว่ามันผิดมันต้องผิด คิดว่ามันถูกมันต้องถูก บรรทัดฐานสังคมวัดจากความคิดคนกลุ่มหนึ่งหรอวะ ไม่คิดว่าทำแบบนี้สักวันความคิดมันจะไปทำร้ายใคร หรือบูลลี่ใครบ้างหรือวะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.