นักฉอดนี่ แยกแยะจินตนาการกับความจริงไม่ได้เหรอวะ ถึงต้องมาฉอด ชอบยกตัวอย่างเหตุการณ์จริง กุถามหน่อย พวกเหตุการณ์จริงนี่มันเลียนแบบนิยายมาเหรอ เห็นพี่น้องเยกันเลยอยากไปเยพี่น้องตัวเองบ้าง พ่ออ่านนิยายแล้วอยากเลียนแบบเลยไปเยลูก งี้เหรอ แค่ common sense มันก็ไม่ได้แล้วอ่ะ แล้วที่บอกให้เอาลงใต้ดินอย่าโจ่งแจ้ง สุดท้ายแล้วพวกมึงคิดว่าห้ามได้จริงเหรอ
ใส่เรท ใส่tw แล้วหัดให้คนมันมีความคิด มีวิจารณญาณไม่ดีกว่าเหรอวะ ทุกวันนี้แทบจะมีแต่คนคิดแทนไปหมด พวกมึงไม่ overprotect สังคมเกินไปหน่อยเหรอ เรื่องนั้นก็ไม่ได้ เรื่องนี้ก็ห้าม กลัวสารพัดกลัว ไม่เหนื่อยกันเหรอ มีกี่อย่างให้พวกมึงมานั่งแบน ทั้งการ์ตูน อนิเมะ หนัง ซีรี่ส์ ละคร หรือแม้แต่สื่อการเรียนเนี่ย แบนหมดนี่ไม่เหนื่อยเหรอ สิ่งสำคัญไม่ใช่การสอนให้รู้จักแยกแยะเหรอวะ พวกมึงไม่รู้สึกเหรอว่าเหตุผลที่พวกมึงใช้เนี่ย โคตรจีนแผ่นดินใหญ่เลย ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม เวลาพวกมึงฉอดจีนนี่เคยหันกลับมามองตัวเองไหมว่าตรรกะความคิดพวกมึงก็เป็นแบบนั้นล่ะ เพราะขัดต่อต่อมศีลธรรมอันดีงาม ต้องกำจัดออกไปให้หมด แต่ขนาดจีนแบนขนาดนั้น มึงว่าห้ามเด็กๆ จีนได้เหรอ ก็มุด vpn กันออกมาอยู่ดี แล้วทุกวันนี้เด็กเข้าอินเตอร์เน็ตเยอะกว่าเข้าร้านหนังสือเยอะ ถ้าเรื่องไหนไม่ลงหน้าร้าน จำกัดอายุเข้าอ่าน แต่รีวิวเสียงตอบรับดี พวกมึงว่าเด็กมันจะไม่หาทางหาอ่านเหรอ พวกมึงว่าจะไม่มีพวกกรุ๊ปใต้ดินเก็บเงินค่าเข้าแล้วเอาเถื่อนมาให้อ่านเหรอ
แล้วถ้าพูดเรื่องทริกเกอร์ กูว่าอะไรมันก็มีเรื่องทริกเกอร์ได้ว่ะ เสียพ่อแม่พี่น้อง เวลาอ่านนิยายไม่ทริกเกอร์กันเหรอ โรคซึมเศร้า เวลาอ่านนิยายไม่ทริกเกอร์กันเหรอ โดนหลอกให้รักเวลาอ่านนิยายไม่ทริกเกอร์เหรอ แบบนี้นิยายเขียนเรื่องอะไรได้บ้าง เรื่องที่ส่งเสริมแต่สิ่งที่ดีงามเหรอ พวกมึงสร้างบรรทัดฐานไว้ตอนนี้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นยกหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง สักวันก็ต้องมีนิยายสักเรื่องที่พวกมึงชอบโดนบ้าง แล้วก็จะไม่เหลืออะไรเลย
เรียนภาษาจีนออนไลน์ที่ไหนดี กูต้องเตรียมตัวเผื่ออนาคตแล้วว่ะ