Last posted
Total of 1000 posts
โอตาคุ พอเขาปรับแปลใหม่แล้ว อ่านแล้วดีขึ้นไหม กุลังเลจะซื้อ ดูในทวิต มีแต่คนคุยกันแค่เรื่องปก ไม่มีใครคุยเรื่องแปลเลย =__=
ซบ โดนด่าเรื่องคำโปรโมทว่ะ สะใจจัง
สนพมะเร็ง เลยเลือกประโยคแบบนี้มาโปรโมท
กูยังทวงเรื่องเทียนกวานได้มั้ยนะ เคยถามลงแท็กไปไม่มีใครสนใจเลย 55555555 อยากรู้ข้อสรุป ส่งจดหมายนกพิราบหากันหรอ ช้าขนาดนี้
kyหน่อย มีใครทักเพจมด.ไปช่วงนี้แล้วเขาตอบบ้างไหม ที่ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ กูเจอระบบตอบกลับอัตโนมัติมาเป็นเดือนแล้ว บอกประมาณว่าอย่าทักมาอีกไม่งั้นเลื่อนคิวตอบนะคะ กูรอแล้วก็ไม่มีมาตอบจนทักไปอีกก็ยังไม่มีคนตอบ ชาตินี้จะได้เคลมไหมวะ
>>573 เห็นมีคนอ่านแล้วบอกว่าไม่ผิดคาร์ ไม่ได้บรีฟผิด พวกที่ออกมาปั่นตอนเเรกไม่ออกมาเเก้ตัวเเล้วเหรอคะ หรือยอมรับว่าที่ปั่นๆกันเพราะติดภาพจากปกแปลเถื่อน สงสัยมากเลยว่าใครมันเริ่มปั่นว่าบรีฟผิดบรีฟไม่ตรงคาร์จนเกิดอุปทานหมู่วะ สายวายเป็นแบบนี้ประจำเเห่โล่ตามกันถามว่าที่ด่าๆว่าผิดคาร์สีโทนไม่เหมาะกับเป็นนิยายซอมบี้นี่อ่านเถื่อนกันมาแล้วกี่คนที่เหลือก็ตามน้ำด่าไปงั้นอ่ะ พวกอ่านเถื่อนมาก่อนแม่งมั่วเกิน กูเเฟนคลับเลล่าโคตรโมโหเลย
>>582 มึงลองแจ้งไปสามทางเลย
-ib เพจ ใส่รายละเอียดไปให้ครบ เลขออเดอร์รายการที่ขาด บลาๆ แล้วรอคนตอบกลับ
-ไลน์ มีช่องให้แจ้งสินค้าขาด
-หน้าเวบ มีช่องทางให้แจ้งสินค้าขาดเหมือนกัน
หมดนี่แล้วไม่ได้รับการตอบกลับ มึงค่อยบอกมันว่าจะแจ้งสคบ. ถ้ายังไม่ตอบอีกก็สคบ. นั่นแหละ
แต่ปกติมด. มันตอบเพจตลอดนะ ถ้ามึงรอสักหน่อยไม่ทักซ้ำมันก็มาตอบนะมึง
จากปสก.ที่พอดีกูเคลม +ตามของบ่อยประมาณนึง
กูช่วยเปิดประเด็น องค์ชายสามมันวางแผงขายมาเป็นชาติแล้วเกิดนึกคึกเชี่ยไรถึงค่อยมานั่งวิจารณ์ตอนนี้วะ
กูก็บล็อคไปละ เป็นขี้ฉอดปากแจ๋วปากไว ฉอดได้ฉอดดี แต่ฉอดที ที่ฉอดคือไม่เคยอ่าน อย่างกลวง
งานกากๆเอาไปเทียบกับอี้เหรินเป่ย555555
พวกเสิ้นเจิ้น หวังเขียนเอาอยากให้นายเอกโดนรุมเย อยากอ่านก็บอกเหอะ กูก็อ่านจ้า แต่ไม่มาดีเฟ้นโง่ๆเอาไปเทียบงานดีๆ
สรุปถ้าอยากคุยเรื่องฉอดองค์ชายสาม กูควรมามู้นี้สินะ 5555
นางชอบใช้คำแรงมาตลอดเลยนะ สำหรับกูมัน toxic มากกกกกกกก พอนางออกมาพูดว่าโดนด่าหยาบคาย ไล่ให้ไปตาย กูเลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เพราะคำที่นางใช้ตอบโต้คนอื่นก็ประมาณนี้มั้ย ไม่ใช่ว่านางสมควรโดนใช้คำพวกนี้กลับแต่แปลกใจที่นางออกมาว่านางผิดอะไรทำไมต้องใช้คำพวกนี้ด่าด้วย ไม่อินง่ะ นางก็ยังเคยใช้เลย แต่นางอยู่ทุกดราม่าเลยว่ะ กูจำนางได้จากดราม่าแบนกุหลาบ นางคือคนที่เอาพ้อยเล็กๆของกุหลาบมาบอกว่าต้องแบน ทั้งหน้าปกไม่สวย ไทโปไม่ดี รวมมาหมด แถมมีเรื่องมั่วอย่างตอนพิเศษฟีโรโมนมาด้วย ทำไมรักการเป็นนักฉอดจังวะ? ไม่เหนื่อยเหรอ กูเหนื่อยแทน
แอดไหนวะที่พวกมึงพูดถึงกัน พอฉอดเดอร์ในวงการวายแม่งเยอะจัดกุตำไม่ถูก
>>593 นี่คือนข.เรื่ององค์ชายสามเหรอวะ? อห หรือว่าแอคหลุมลูกหาบที่พยายามลากฮัสกี้มาจะถล่มนี่คือนข. กูเห็นจะโยงเข้าฮัสกี้ให้ได้ แม่งเทียบกันได้ตายแหละ ฮัสกี้มันไม่ romanticize สักนิด มันต่างกับองค์ชายสาม นั่นมันเอา insect มาทำเป็น romanticize ชัดๆ เล่มพิเศษเอากันนัวพี่น้องอะ แม่งโมโหลูกหาบ ถ้าที่มึงว่าเป็นนข.กูเกลียดเลยนะ นิสัย สงสัยด้วยว่าเป็นคนลากฮัสกี้มา
สนุกสนานวงการวาย มีเรื่องให้ฉอดไม่เว้นแต่ละวัน
>595 ขอค้านนะฮัสกี้ไม่โรแมนติกไซค์ตรงไหนไง ใส่เหตุผลให้ข่มขืนมันไม่ช่วยให้ทุปอย่างดูดีขึ้นมานะ กูตลกมาก ด้อมฮัสกี้เป็นโรคสองมาตฐานเหรอ คือเอาแค่ตอนเป็นคนดีๆ อิพระเอกยังแอบบลึกๆ อยากทำนายเอกแรงๆ เอาไม่รู้จักพอ มึงเราชอบฮัสกี้และยอมรับว่าเรื่องที่เราอ่านมันแนวไหน ไม่ต้องเอดูเคตให้มันดูดีมันไม่ผิดนะ สำหรับกูฮัสกี้คือแนวนี้ และนักเขียนก็เคยบอกด้วยว่าชอบเขียนแนวนี้ ในเรื่องทั้งเรป กรอกยาโป๊ พูดกับคนอื่นโต้งๆ ว่ากู...อาจารย์มา แถมนายเอกยังคิดกับพระเอกกึ่งๆจะเกินเลยตั้งแต่พระเอกเด็กด้วยซ้ำ เรปไม่เต็มใจและพอใส่เหตุผลว่าโดนดอกปาขู่ เหมือนนายเอกกูไร้ทางเลือกนอกจากให้อภัยมัน แถมยังเอาคาแรคเตอร์อิท่าที่สมองทวงที่กรวยให้กับมาอีก555555 แบบนี้ยังไง ถ้าเราถูกเรปแต่คนเรปแค่โดนวางยา เราก็รักเขาได้แบบนี้ใช่ป่ะ
กุอ่านหมดทุกสิ่งที่พวกคนดีศรีทวิตมันด่า สมน้ำหน้าจ้าอีทวิตต้นเรื่อง ฉอดเก่งนักนี่ เก่งให้มันได้ตลอดสิ แบร่ๆ
>>601 พูดถึง เรป กับ นอนคอน
หมาโม่ 2.0 มันเสียใจที่มันทำนะมึง
แล้วชาติที่แล้ว ที่อ.โดนเรป อ.มีอาการหวาดกลัว ไม่เต็มใจ ถึงแม้จะแอบชอบ แต่ในเรื่องก็มีเขียนอยู่ว่าไม่ชอบที่โดนกักขัง ข่มขืน
จนกระทั่งรู้ความจริงว่าเด็กมันโดนควบคุมนั่นแหละ ถึงจะเริ่มมีเซ็กส์แบบเต็มใจ
แล้วเรื่อง อ.คิดเกินเลย มันหยุดอยู่ที่ความคิดอะ
คิดแล้วก็มาด่าตัวเองว่า จะไปคิดกับเด็กแบบนั้นได้ยังไง คิดแล้วก็ขยะแขยงตัวเอง
ไม่ใช่ไปหลงรักเด็ก แล้วสารภาพรัก แล้วบอกเด็กว่าให้มาเยกูที กูอยากโดนเย
>>604 แล้วทั้งหมดที่มึงว่ามาไม่โรแมนติกไซด์ยังไง คือกูไม่อะไรเลยกับแนวนี้ แต่มันคือเรปแฟนตาซีแน่นอน แค่หาเหตุผลที่กูพูดคือ พอเรื่องที่ชอบต้องล้างบาปให้เหรอในเมื่อมันคือแนวนี้ และโร่เปานางโดนดราม่าเรื่องเขียนแนวนี้ที่จีนเยอะแยะจนถึงขั้นพอออกเรื่องใหม่ นางบอกเลยว่านางชอบเขียนแนวนี้รสนิยมนาง ฮัสกี้คือเรปแฟนตาซีมึง การที่ถูกข่มขืนแต่พอดีคนทำเขาโดนคำสาป นายเอกโดนตบหน้าตอนเอา โดนเอาจนสลบ สุดท้ายท่าเซียนจวินก็ยังได้อยู่กับนายเอกอย่างมีสุขไม่ได้ตายจากมันไม่โรแมนติกยังไง ใส่ความรู้สึกให้ผิดมันไม่ได้ลบแกนเรื่องที่เขาจงใจเขียนนะมึง
กุมายืนยันรัชทายาทที่มีความสัมพันธ์แบบincest คือ
.
.
.
.
.
คนในเรื่องไม่มีใครยอมรับนะตั้งแต่พ่อแม่พี่น้องพอ.นอ. ขนาดตอนแรกตัวนอ.เองมันยังรับไม่ได้เลยที่ถูกน้องตัวเอง rape เอาจริงเรื่องนี้จะบอกว่าเหตุการณ์ทุกอย่างมันอีรุงตุงนังเพราะอีพอ.ดันเสือกรักนอ.ที่พี่ชายตัวเองยังได้เลย เรื่องเลยชห.ลากยาว 5 เล่ม จนสุดท้ายหลังจากชห.กันมาทั้งเรื่องพอ.ถูกลงโทษหนักโดนจับขังคุกหลวง นอ.สภาพปางตายเกือบได้ขิตจริงๆถึงค่อยสมหวังเพราะคนรอบตัวปลงกันหมดแล้ว แต่ความสัมพันธ์มันก็ต้องหลบซ่อนไม่ให้ใครรู้อยู่ดี แบบหาข้ออ้างให้นอ.ไว้ทุก10ปี ทำงานอยู่ในวัง ไล่ขุนนางเก่าที่เคร่งจารีตออกเพราะกลัวโดนทัก ขนาดตอนสุดท้ายจะมีไรกันนอ.ยังกลัวข้ารับใช้ได้ยินแล้วปากมากเลย
.
.
.
.
.
>>605 โอเค ดูจากเหตุผลมึง กูยอมรับก็ได้ว่ามัน โรแมนติกไซด์เรื่อง rape กับ noncon
แต่สำหรับกู มันไม่ได้โรแมนติกไซด์เรื่อง ศิษย์-อาจารย์ และไม่ได้มี incest ด้วย
คือมันไม่สมควรโดนโยงจากเรื่ององค์ชายสาม มึงเข้าใจปะ
ความสัมพันธ์ของเรื่องนี้คือ สังคมรับไม่ได้ โดนนินทา เสียชื่อเสียง กลับสำนักเดิมไม่ได้
ถ้ายินดีจะคบกัน ก็ต้องยอมรับสายตาเหยียมหยามของคนอื่น
ซึ่งสำหรับกู มันไม่ได้โรแมนติกไซด์
ตอนแรกที่กูอ่านชายสามนี่กูนึกว่าตอนท้ายต้องดราม่าอินเซสแน่ๆ อยากดูว่านักเขียนจะแก้ปมยังไง แต่ปรากฏว่าไถไปแบบนั้นเฉยเลย ในเรื่องจะไม่มีใครซักคนที่มีสติแล้วว่าสิ่งนี้ผิดนะเลยเหรอ เป็นโลกที่อินเซสคือเรื่องปกติงี้ กูไม่ได้คิดว่าแนวนี้ห้ามแต่งนะ แต่ถ้าจะแต่งก็ควรเสริมเซ็ตติ้งให้แน่นกว่านี้ว่ะว่าทำไมมันถึงปกติ เพราะเขาถือว่าเอากันเองเพื่อรักษาสายเลือดบริสุทธิ์ หรือแต่งงานการเมืองรักษาอำนาจ หรือเป็นธรรมเนียมอะไรอยู่แล้วก็ว่าไป แล้วควรจะพูดถึงข้อเสียด้วย ลูกหลานจะไม่แข็งแรงนะ คนในครอบครัวจะประสาทแดกเนืองๆเพราะมันมีเพาเวอร์ไดนามิกนะ ออกมาในรูปของครอบครัวป้าแม่บ้านทำงานในวังก็ได้ว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง แต่แบบชายสามนี่มันแฟนตาซีเกิน ถ้าอยู่ในเว็บมีตรวจบัตรก็พอว่า แต่ตีพิมพ์ออกมามันเข้าถึงง่ายไปหน่อยว่ะ
>>607 มึงชายสามมันนิยายเซ็ตติ้งโบราณ กูดูGame of Thrones สนุกฉันใดฉันนั้นที่เขาสื่อแล้วโยงกันเพราะถ้ามีตีกรอบงานเขียนด้วยคำว่าศีลธรรมที่ดีงามเมื่อไหร่ นิยายที่มึงอ่านได้ในโลกนี้จะลดไปกว่าครึ่งแต่เข้าใจนะไม่มีใครอยากให้นิยายที่เราชอบโดนโยงมาด่า แต่คือฮัสกี้มันคือตัวอย่างที่ยกได้ง่ายสุดในตอนนี้กูคิดว่าเลยโดนยก
โม่หรานยอมเจ็บปวดแทบตาย แต่ไม่ยอมรับว่า ล้างบรรพจารย์ เพราะไม่อยากให้ อ.เสียชื่อ
ส่วนหว่านหนิง โดนคนนินทาว่าเป็นตาแก่ตัณหากลับ รับศิษย์หน้าตาดีเพื่อมีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆที่หว่านหนิงโดนโม่หรานจีบก่อน
อันนี้แหละ ที่กูบอกว่ามันไม่โรแมนติกไซด์
ความสัมพันธ์ศิษย์-อาจารย์ มันโดนสังคมเหยียด โดนสังคมลงโทษ
>>611 ฮัสกี้มันไม่มี incest แต่โดนโยง
และฮัสกี้ไม่ได้โรแมนติกไซด์ศิษย์-อาจารย์
แถมเรื่อง rape noncon มันก็มีเกือบครึ่งของนิยายทั้งโลก โยงฮัสกี้เรื่องเดียว ไม่แปลกหรอกที่คนในด้อมจะออกมาปกป้อง
ทำไมไม่โยงเรื่องอื่นอะ โยงเรื่องอื่น คนอื่นก็ต้องปกป้องเหมือนกัน
มึงยอมรับเหอะ ว่าคนโยงอะหาเรื่องเอฃ
>>605 เรปแฟนตาซีไม่เท่ากับโรแมนติโซส์นะมึง เรปแฟนตาซีคือเรปแฟนตาซี มีความสุขกับการจินตนาการถึงเซ็กส์แบบข่มขืน แต่ไม่ได้สนับสนุนการข่มขืนจริงๆ อันนี้มันจะออกมาในรูปของนิยายบอกกล่าวชัดเจนว่าการข่มขืนมันผิด ถึงจะมีฉากข่มขืนระหว่างตัวเอกก็เหอะ แต่มันผิด เป็นปม และต้องแก้ ถ้าโรแมนติไซส์คือข่มขืนไม่ผิด ไม่เป็นปม ไม่ต้องแก้อะไรเลย กูว่าฮัสกี้นี่เรปแฟนตาซีจริง แต่ไม่ได้โรแมนติไซส์การข่มขืนว่ะ
ส่วนชายสาม อินเซส ไม่ผิด ไม่มีปม ไม่ต้องแก้อะไร จบปิ้ง แฮปปี้เอนดิ้ง เนี่ย โรแมนติไซส์
กูบอกเลย นิสัยโยงนิยายเรื่องอื่นแบบติ่งองค์ชายสามเนี่ย สมควรแล้วที่จะโดนโต้กลับ
ถ้าโดนโจมตีก็อยู่เฉยๆ ไม่ใช่ไปลากเรื่องอื่นมาซวยด้วย ไม่แปลกที่จะโดนด้อมอื่นด่านะ
ชายสามหนิแฟนตาซีจัดๆเลย พูดถึงความบ้งของตรรกะในเรื่องแม่งพอๆกะอิคุณแม่วัยใสเลย
ส่วนตัวนะ คือการโดนเหยียดหยามจากคนอื่น การกลัวการถูกจับได้ หรือการไม่ได้รับการยอมรับ มันก็ไม่ได้มาเป็นเหตุผลที่จะมาบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ romanticize เรื่อง rape/incest/ความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ทั้งหลาย (พูดรวมๆเลยละกัน) ในเมื่อตั้งแต่เริ่มต้นอะ ปัจจัยนึงที่คนฟินกับแนวนี้ก็เพราะว่าแบบนี้ไม่ใช่หรอ มันบาป มันต้องห้าม มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำไง มันเป็น taboo ยิ่งเป็น taboo มันก็ยิ่งฟินไง บวกกับในหลายๆเรื่อง (ไม่ได้พูดถึงแค่เรื่องที่เป็นดราม่านะ) การฟันฝ่าอีเรื่องต้องห้ามพวกนี้ มันยิ่งทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเชี่ย ความรักของคู่นี้แม่งยิ่งใหญ่มาก เข้าไปอีก แบบนี้อะคือการ romanticized
งั้นในแง่กฎหมายนะมึงอินเซ็ตไม่ผิด ถ้าเขาเอากันแบบสมยอมแค่สังคมไม่ยอมรับแต่มันจะผิดต่อเมื่อพี่ชาย หรือน้องชาย หรือพี่สาวน้องสาว ข่มขืนอีกฝ่าย กูเก็ตพ้อยว่าคนยกข้อนี้ขึ้นมาเพราะที่พูดกันอยู่มันคือประเด็นศีลธรรมในยุคนี้ แต่ตัวละครมันอยู่ยุคที่พี่น้องยังแต่งกันเองได้ และตัวละครคือสมยอมจะเยกัน สำหรับกูคือความจริงถ้าเอาแง่ตรวจบัตรเราควรไล่บี้จัดโซนหนังสือเหมือนเวลาไปต่างประเทศเขาก็จะมีจัดแยกโซนนิยายและถ้ามึงจะจัดจริง เราควรจัดยันแนวเรป ผิดศีลธรรมทุกอย่างด้วยเพราะเด็กเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกัน และเอาจริงนะเว็บเข้าถึงได้ดีกว่าหนังสือด้วยเพราะฟรี
>>619 สำหรับกู การที่โดนสังคมลงโทษ เหยียดหยาม ต้องอยู่แบบโดนคนนินทา แต่ยืนยันจะรักกัน
มันไม่ใช่การ romanticize นะ มันคือการกล้าทำ กล้ารับ กล้าจะรักกัน ก็ต้องโดนคนอื่นนินทา
การ romanticize ของกูคือ พี่น้องท้องเดียวกัน เยกัน แล้วพ่อแม่รับได้ ปู่ย่าตายายรับได้ เพื่อนในสังคมรับได้ ไม่โดนลงโทษอะไรเลย
เหมือนทำความผิด แล้วไม่โดนผลของการกระทำ อันนั้นอะ romanticize
สรุปโยงมาฮัสกี้ได้ไงวะ
เอ่อ กูว่าอยู่ๆเรื่องนึงงานเข้าแล้วจะไปลากอีกเรื่องให้งานเข้าตามมันดูพาลวะ แต่มึงจะปกป้องว่ามันไม่โรแมนติไซส์เรปไม่ได้วะ มันชัดเจนยังกะช้างในห้อง
จริงๆนะ ถ้ามึงจะโจมตีเรื่อง rape เรื่อง noncon ทำไมต้องเจาะจงฮัสกี้วะ มีนิยายเต็มไปหมด ที่ noncon
แต่เลือกฮัสกี้เรื่องเดียว
แล้ว tw อื่นๆ ก็ไม่ได้ romanticize หรือ normalize เลยสักนิด
ตัวละครไม่ว่าจะตัวละครหลักหรือตัวละครรอง แม่งก็จมอยู่กับความรู้สึกผิดที่ตัวเองได้กระทำลงไป
ไม่มีใครทำผิด แล้วไม่ได้รับผลกรรม
นี่คือสิ่งที่กูคิดว่า มันไม่ได้ romanticize
ตามอ่านตั้งแต่มีเรื่อง กูคั่นได้มั้ย ไม่ต้องตอบไรกูหรอก แต่จีนโบราณตามจริงไม่เอากันในพ่อเดียวกันนะ ที่แต่งกันปกติคือกับญาติแบบต่างแซ่ อย่างฝ่ายแม่ ลูกป้าลูกอา เรื่ององค์ชายสามไม่อิงตามจริงก็ได้ แต่ถ้าบอกว่าเพราะมันเป็นโบราณเลยทำได้อันนี้ไม่100% กูกลัวคนเข้าใจผิดว่าเซตติ้งโบราณ=ฟรีเรื่องอินเซสทุกแบบ เรื่องรัชทายาทจากที่อ่านด้านบนเหตุผลที่คนไม่ยอมรับก็น่าจะแบบนี้
>>624 อ่ะ กูหามาให้ จาก Cambridge Dictionary เนอะ คิดว่าน่าเชื่อถือประมาณนึง
Romanticize: to talk about something in a way that makes it sound better than it really is
Romantic: relating to love or a close loving relationship
Normalize: to return to the normal or usual situation
>>622 ไม่ใช่การ romanticize คือการทำให้คนอ่านรู้สึกว่าสิ่งนี่โรแมนติก เช่น ถ้าสมมติกูเขียนนิยาย incest คนทั้งเรื่องไม่มีใครรับได้เลย แต่พระนายรักกันมาก จบแบบตายจากกันแบบ romeo and juliet ตอนจบดอกกุหลาบโปรยปราย ซาบซึ้ง โศกนาฎกรรม แบบนี้คือ romanticized ตอนจบพระเอกยื่นมือมาหานายเอก มองแล้วยิ้มตายไปด้วยกัน สุดท้ายคนอ่านก็จะรู้สึกว่าสิ่งนี่อะฟินว่ะ คือเอาจริง incest อะไม่ต้องสอนหรอก ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี แต่เรื่องพวกนี้อะมันขายความบาป แล้วคนอ่านก็อยากอ่านความบาป การที่คนรอบตัวจะรับได้หรือไม่ได้มันไม่ได้สำคัญกับการฟินหรือไม่ฟินของคนอ่านเลย
จริงๆมันอยู่ที่โทนของการเขียน ถ้าอยากรู้ว่า rape ที่ไม่ romanticized เป็นยังไงไปอ่าน สวนสนุกแห่งการลงทัณฑ์ รักในฝันของฝางซือฉี แล้วเอามาเทียบกับนิยายที่มึงอ่านปกติดู
>>631 งั้นปัญหาคืออยู่ที่คำนิยาม
การ romanticize ในนิยามของกู (หรือคนอื่นๆ) คือ การทำความผิด ไม่ว่าจะผิดกฏหมายหรือผิดศีลธรรม แล้วไม่ได้รับการลงโทษ
คนในนิยายมองว่ามันคือเรื่องถูกต้อง ทั้งที่จริงๆแล้วมันผิด อันนี้คือ romanticize ของกู
ซึ่งฮัสกี้ สำหรับกูมันไม่เข้าข่าย เพราะคนในนิยายมองว่ามันไม่ถูกต้อง ไม่มีใครยืนปรบมือให้กับการข่มขืน หรือยืนปรบมือให้กับการที่ศิษย์-อาจารย์เยกัน
คนกระทำ รู้สึกผิดไปกับมัน และคนรอบข้างไม่ได้กลับดำเป็นขาว ทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
ส่วน romanticize ในนิยามของมึงจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ แต่กูใช้ในนิยามนี้
เออพูดถึง กูเจอนักอ่านบางคนเดี๋ยวนี้มันยังคิดเลยผิดแค่ไหนแต่ความรักชนะทุกสิ่ง ความรักคือสิ่งสวยงามต่อให้ผิดแค่ไหนกูรักเขา หัวใจกูรักเขาไปแล้วห้ามไม่ได้กูไม่ผิด ศีลธรรมอะไรกูไม่สน แยกความเป็นจริงกับนิยายไม่ออก มองว่าความรักคือเรื่องยิ่งใหญ่ต่อให้ผิดศีลธรรมแค่ไหนก็ตาม กูเจอนักอ่านประเภทนี้ไปเป็นเครียด คำเตือนตัวใหญ่เท่าฝาบ้านว่าไม่หนับหนุนความสัมพันธ์แบบนี้ นักอ่านยังมโนต่อไม่สนคำเตือน กูว่าเรื่องแบบนี้โทษนักเขียนฝั่งเกียวไม่ได้วะ ต้องโทษนักอ่านบางคนที่ไม่มีวิจารณญาณในการแยกแยะด้วย
สรุปชายสามลงเอยที่สนพ.เปิดโหวตจะไปหรือไม่ได้ไปต่อก็ขึ้นอยู่กับงานนี้แหละ
กุขอพูดในฐานะคนชอบงานที่ผิดศีลธรรมหน่อย คือกุอ่ะ ชอบงานเขียนที่มันไม่ควรเอามาบนดิน พวกตัวเอกเหี้ยๆ(ที่ไม่ใช่เหี้ยแบบดาษดื่น) กุมองว่าไม่ใช่ทุกงานเขียนที่คนผิดมันต้องรับกรรมตลอด หรือมันต้องจบเหี้ย พูดตรงๆว่ากุหัวเสียตอนเจอนักฉอดด่านิยายว่าเขียนไม่ดีเพราะคนเหี้ยไม่ได้รับผลกรรม แต่ส่วนตัวก็มองว่าถ้าเป็นงานเขียนประเภทนี้ไม่ควรเอาขึ้นบนดินและจำกัดอายุ แต่บ้านเราบางงานเขียนแม่งลงโจ่งแจ้งสัดๆ
จะแนวไหน นิยายก็คือนิยาย มันคือเรื่องแต่งขึ้น คนอ่านบางคนแยกแยะไม่ได้ว่าเรื่องไหนแต่งเรื่องไหนจริง ก็ไม่ควรต้องอ่าน อ่านไปแล้วอันตรายแก่ตัวเอง และคนรอบข้างวะ
>>636 คืองี้มึง โรแมนติไซส์แปลว่าการทำให้บางสิ่งดูดีกว่าที่มันเป็นอยู่จริง
ผิดศีลธรรมแล้วบอกว่าผิด มีปัญหาตามมาอย่างหนักหนาสมเหตุสมผล = ไม่โรแมนติไซส์
ผิดศีลธรรมแล้วปล่อยเบลอประหนึ่งไม่มีปัญหา หรือมีก็แค่นิดเดียว ไม่เลวร้ายเท่าที่ควรเป็น = โรแมนติไซส์
ผิดศีลธรรม สังคมลงโทษ จบโศก = แทรจิดี้ไม่โรแมนติไซส์
ผิดศีลธรรม สังคมลงโทษ สำนึกผิดแก้ไขฝ่าฟันจนได้อยู่ด้วยกัน = โรแมนติก แต่ไม่โรแมนติไซส์
ผิดศีลธรรม ปล่อยเบลอ อยู่ด้วยกันแฮปปี้เอนดิ้ง = โรแมนติกและโรแมนติไซส์
>>629 +1 จริงมึง กูว่าจีนนี่เคร่งเรื่องพี่น้องสัสๆ ไอ้ญาติที่แต่งกันได้ ต้องญาติฝั่งแม่ด้วยโว้ย แซ่เดียวกันห้ามเด็ดขาด กูงงเลยตอนเห็นดราม่าแล้วบอกจีนญาติแต่งกันเยอะแยะ ล่าสุดอิเห้ อ่านผัวกลายเป็นท่านอา(ช-ญ) พระเอกนางเอกมันเป็น อา-หลาน ไม่แท้ยังถูกว่าเลย จีนมันไม่ฟรีขนาดน้านนน มันงงกับฝั่งยุโรปเป่า อันนั้นล่ะใช่ พี่น้องได้กันละปกติ
เอาใหม่สิ่งที่กูจะสื่อนะ มึงไม่ต้องมาหาศัพท์ ที่กูจะบอกคือจะดิ้นเพราะฮัสกี้โดนโยงด่าฮัสกี้ทำไม มึงไม่ควรปกป้องไรมันหรือ หาเหตุป้องกันว่ามันจะถูกฉอดไม่ได้เพราะมึงชอบเลยมีเหตุผลขึ้นมา ฮัสกี้คือนิยายสนองนี๊ดความรักแบบแฟนซีชนิดหนึ่งและมันสนุกที่กูขำคือมึงพยายามบอกว่ามันดีมันไม่เหมือนอีกอันที่พี่น้องได้กันแบบเต็มใจ และจริงๆที่กูจะสื่อคือถ้ามึงคิดว่าแนวเอไม่ควรขายบนดินแนวบีอย่างฮัสก็ขายบนดินไม่ได้ไหม ที่พูดๆเพราะมึงๆ นี่แก้กรรมรัวมากข่มขืนมีเหตุผลบลาๆร้อยแปด ในขณะที่นักเขียน เขายอมรับชัดเจนว่าเขาเขียนแนวนี้ชอบแนวนี้คือมึงไปอ่านมาม่าที่จีนกันได้นะ เรื่องนี้มันโดนกังขามาตั้งแต่จีน เพราะยังไงฮัสกี้ก็คือแนวสนองนี๊ด ในขณะที่นักเขียนบอกกูจะแต่งแนวนี้มึงไม่อ่านก็ช่าง ชอบแบบทำจิตใจ จิตๆ นางบ่นด้วยซ้ำว่าแนวนี้แต่งยากขึ้นเพราะชอบมีคนมาว่า คนไทยกับบอกว่านี่มันไม่ใช่แนวนี้ข่มขืนมีเหตุบลาๆ สรุปที่กูจะสื่อคือทำใจเรื่องโดนโยงนิยายที่เราชอบไม่ใช่แนวโลกสวยใสสะอาด และมันก็ดังสุดในตอนนี้แถมวางขายบนดิน ถ้าเจอนักฉอดอีกฮัสกี้ก็โดนยกขึ้นมาสืบไป ดืมน้ำชา
คนเขียนเขาอธิบายยาวเป็นหน้าๆ มึงจับใจความมาได้แค่เขาเขียนสนองนี้ดแฟนตาซีเหรอ เขามีบอกด้วยว่าทุกอย่างในนิยายเขามีเหตุผลและที่มา ตัวละครเขาไม่ได้มีด้านเดียว เขายกตัวอย่างฮัสกี้ด้วยซ้ำว่า ถ้าไม่อ่านจนจบจะรู้เหรอว่าทำไมโม่หรานถึงทำเหี้ย เขาบ่นคนที่อ่านนิยายเขาไม่จบแล้วด่วนสรุปแล้วมาดราม่า รุมรีพอร์ตนิยายเขามากกว่านะมึง แนวที่เขาชอบนอกจากที่เขาหมายถึงมีประเด็นศีลธรรมกับสารพัดคิ้งแล้วยังรวมการเล่าเรื่องที่เฉลยปมอย่างช้าๆ ด้วย กูยอมรับว่าฮัสกี้สนองนี้ดแฟนตาซีจริงเพราะเอเลเม้นท์หลายๆอย่างคือเฟติชคนเขียน แต่คนเขียนเขาก็ปกป้องงานเขาเรื่องที่คนชอบฉอดอยู่บ้างนะ คือเขาไม่ได้จะยัดมาแต่แฟนตาซีเขา เขาพยายามไม่โรแมนติไซส์ด้วย เขาบอกตลอดว่าถึงพระเอกเขาจะเหี้ยแต่ต้องชดใช้อย่างสาสมแน่นอน เรื่องที่เขียนอยู่ตอนนี้กูว่าพระเอกอาจจะอาการหนักกว่าโม่หรานในบางเรื่อง ไม่แปลกที่จะดราม่า
Romanticize ไม่เกี่ยวว่าเฉพาะกับรสนิยมหรือศีลธรรม ไม่เกี่ยวกับความชอบส่วนตัวของคนตัดสินคนใดคนหนึ่ง นิยายทุกเรื่องมันมีความromantizice ความรักให้สวยงามกว่าปกติเป็นฐานอยู่แล้ว ไม่งั้นมันจะเรียกนิยายรักว่านิยายโรมานซ์เหรอมึง ที่เหลือมันขึ้นกับว่ามึงชอบ มึงรับได้มึงก็จะออกมาดีเฟนท์ มนุษย์เราก็งี้แหละมึง ไอ้ที่บอกว่าได้รับบทเรียนนะ มีลงโทษนะ เสียใจกับสิ่งที่เกิดนะ คำถามคือลงโทษแค่ไหนถึงแรงพอ เสียใจง้อสามบรรทัดคืนดีกัน ติดคุกสามปีมีนายเอกเฝ้ารองี้เหรอ ถ้าถามกูหลายๆเรื่องแม่งลงโทษได้เบาหวิวชิบ
และถ้ามึงจะยึดโลกจริง ไม่โรมานซ์เลย โลกจริงแม่งเหี้ยได้มากกว่านิยายอีก ถ้าไม่โรมานซ์เลยนิยายมึงเป็นได้แค่บันทึกชีวิตบัดซบประจำวันเท่านั้นล่ะ ชีวิตยังไงที่มึงเถียงกันมันก็แค่ความพยายามยัดอุดมคติของตัวเองใส่นิยาย พยายามดีเฟนท์ว่าทำไมอุดมคติกูถึงถูกต้องเท่านั้นแหละ
ฮัสกี้เนื้อหาคือแรงนั่นแหละ ทริกเกอร์เป็นหางว่าว เล่มแรกคนค้าทาสเอาเด็กมาทำจนพิการแม่งก็ไม่เห็นบทลงโทษจะแรงอะไร มีประเด็นยิบย่อยในองค์ประกอบหมิ่นเหม่ศีลธรรมเยอะ มันเป็นนิยายที่อ่านสนุกและเนื้อเรื่องเข้ม แต่มึงก็ยอมรับเถอะว่ามันไม่ใช่นิยายแสนดีในอุดมคติอะไร เป็นนิยาย 18+ที่ต้องจำกัดอายุ โรมานิไซส์คสพ. ต้องใช้วิจารณญาณอ่ะถูกแล้ว ถ้ามึงซัพพอร์ตแนวคิดสายฉอดทวิตที่อยากในนิยายมีแต่เรื่องดีงาม แน่นอนมาตรฐานนี้ฮัสกี้มึงก็ต้องถูกเก็บลงดินด้วย
อย่าลืมว่าครั้งนึงรักร่วมเพศก็เคยเป็นสิ่งที่คนถือว่าผิดศีลธรรมมาก่อนเหมือนกัน(แม้แต่ในตอนนี้ก็ยังมีคนเชื่อแบบนั้น) มาตรฐานศีลธรรมมนุษย์แม่งก็เคลื่อนได้เหมือนความลำเอียงในตัวนี่แหละ
จีนโบราณนี้แอบย้อนแย้งสำหรับกุหน่อยตรงนี้ห้ามแซ่เดียวกันแต่งงานกันแล้วมันลามไปที่ต่อให้ไม่มีบรรพบุรุษร่วมกันหรือไม่มีสายเลือดเดียวกันเลยแค่บังเอิญแซ่เดียวกันก็ห้ามแต่ง แต่พอคนละแซ่เลือดชิดญาติสนิดแค่ไหนก็แต่งกันได้ ลูกลุง ลูกป้า ลูกน้า ป้าแท้ๆ น้าแท้ๆ ดันแต่งงานกันได้ไม่ผิด ทุกคนในสังคมมองเป็นเรื่องปกติ ขนาดคนอื่นอ่านผ่านไปเฉยๆไม่รู้สึกสกิดใจเลย จนกุงงว่าอินเซสนี้เขานับกันแค่ฝั่งพ่อเหรอ มันก็ไม่ต่างจากที่เจ้า/ขุนนางยุโรปแต่งงานวนกันจนเลือชิดซักนิด องค์ชายอัปลักษณ์พระเอกก็โดนจับแต่งกับน้าตัวเอง แนวชิงบัลลังก์ไทเฮาก็ชอบหนุนหลังแต่สนมที่เป็นหลานสาวตัวเอง ถ้าองค์ชายคนไหนเกิดจากหลานสาวตัวเองก็จะพยายามหนุนให้เป็นฮ่องเต้คนต่อไป ยันแนวหลังบ้านขุนนางกุอ่าน10เรื่องต้องมีครึ่งนึงมาแนวแม่ผัวพยายามเลื่อยขาเก้าอี้นางเอกให้กระเด็นจากตำแหน่งเมียเอกแล้วพยายามดันหลานสาวตัวเองมาแทน
ศีลธรรมมันก็คือความเชื่อและความเชื่อมันก็เปลี่ยนได้ตลอดเวลานั่นแหละ ในอนาคตไม่แน่พวกเมิงอาจเห็นศิษย์-อาจารย์ พี่-น้อง แม่-ลูก พ่อ-ลูก แย่งผัว แย่งเมีย กินเด็ก ความรักแบบ3p เป็นเรื่องถูกทำนองคลองธรรมก็ได้ใครจะรู้
Ky พอดีพึ่งเห็นคนที่เคยออกมาฉอดปกฮัสกี้ มาชมว่าปกเล่ม 8 สวย ขอบคุณที่รับฟังและปรับให้ คือ?????? ทำไมต้องคิดว่าแรงฉอดและแรงด่าของตัวเองเป็นบุญคุณทำให้ปกสวยขึ้นอ่ะ ระดับออกได้หนึ่งเล่มต่อเดือนแบบนี้คิดว่าเขาบรีฟไปออกไปหรอ ปวดหัวมากตอนเห็น ต่อไปมายเซ็ต ด่าก่อนงานออก พองานออกมาดี คำด่า=บุญคุณ จะใช้อีกนานมั้ย กูหงุดหงิด ให้เครดิสคนทำงานบ้างนะ ไม่ใช่ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะคำด่าขอบคุณเป็นหลัก
โอเค มา เถียงกันต่อ กูไปตั้งสติมา
กูจะตัดคำว่า romanticize หรือไม่ romanticize ออก ตามที่เพื่อนโม่งข้างบนกล่าว
ตัดเรื่องศีลธรรม คุณธรรม บาปบุณคุณโทษ กฎแห่งกรรมออกไปด้วย
ฮัสกี้เป็นเรื่องสนองนี๊ดความรักแบบแฟนตาซีจริง และมีประเด็นล่อแหล่มที่ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านจริง
งี้ประเด็นที่ฮัสกี้โดนโยงจากองค์ชายสาม เป็นเพราะว่า มีประเด็นอ่อนไหวทางสังคมเหมือนกันเหรอ?
คือคนโยงเนี่ย เห็นว่านิยายตัวเองลงหลุมไปแล้ว เลยจะลากฮัสกี้ลงหลุมไปด้วย เพราะเป็นประเด็นอ่อนไหวเหมือนกัน แบบนี้ปะ?
กูอยากจะบอกว่า ถ้าจะลากฮัสกี้ลงใต้ดินไปด้วยเนี่ย นิยายเรื่องอื่นก็ต้องโดนลากลงไปด้วยเหมือนกันนะ
ไม่ใช่ฮัสกี้ที่มีประเด็น ศิษย์-อาจารย์ rape noncon นะเว้ย เรื่องอื่นก็มี
คนโยงจะลากนิยายให้ลงไปใต้ดินเหมือนยุคหลุมดำเหรอ?
ฮัสกี้จะขายเรปแฟนตาซีหรืออะไรกูก็ไม่รู้หรอกนะ ไม่ได้ไปนั่งในหัวนักเขียน แต่ดูแค่ผลงานที่มันออกมา เขาเขียนฉากเรป และบอกชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่ผิด ไม่สนับสนุนให้ทำ คนอ่านทุกคนรู้หมด ใครอ่านแล้วจะไปอ้างว่าข่มขืนไม่เห็นเป็นไรเลยก็ไม่ได้ เพราะเขาบอกแล้วว่าผิด นี่คือความสำคัญของการไม่โรแมนติไซส์สิ่งไม่ดี
ส่วนโรแมนติไซส์ความรัก อันนี้กูว่าพูดลำบาก เพราะความรักไม่ใช่สิ่งไม่ดีอยู่แล้ว มันมีแต่ดีมากกับดีน้อยต่างกันไปตามประสบการณ์แต่ละคนเท่านั้นแหละ แถมในนิยายทุกเรื่องนะมึง ต่อให้ความรักตัวเอกสมหวัง ก็ต้องมีความรักของคนอื่นที่ไม่สมหวังปะวะ กูว่าไม่น่ามีนิยายเรื่องไหนที่ตัวละครทุกตัวสมหวังในรักกันหมดนะ ต่อให้ตัวรองเคยรักตัวเอก แต่ตัวเอกได้กับตัวเอง ตัวรองไปได้กับตัวรองตอนจบ ก็ถือว่าเคยผิดหวังจากตัวเอกอยู่ดี แล้วจะว่าโรแมนติไซส์ได้ไง
องค์ชายสามนี่ถ้าเซ็ตติ้งเป็นอียิปต์โบราณมันจะไม่ผิดเลยนะ เพราะมันอธิบายได้ด้วยความเชื่อสมัยนั้นว่าต้องรักษาสายเลือดบริสุทธิ์ แล้วข้อเสียของมันก็เห็นๆกันอยู่คือพวกเชื้อพระวงศ์ยุคนั้นสุขภาพแย่กันเกือบหมด แต่พอมาเป็นเซ็ตติ้งจีนมันเลยไม่โอ จีนไม่ได้โอเคกับการแต่งงานสายเลือดใกล้ชิด ที่อนุโลมให้ญาติฝ่ายแม่ได้ก็เพราะเรื่องทรัพย์สมบัติกับอำนาจด้วย แถมยังไม่อธิบายอะไรเลยว่าอินเซสมันมีข้อเสียยังไง เหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา อันนี้ต่างหากที่เป็นปัญหา ไม่ใช่ว่านิยายทุกเรื่องต้องใสสะอาดนะมึง แค่ต้องไม่ฟอกขาวให้พฤติกรรมแย่ๆเท่านั้นแหละ จะเขียนให้โลกในนิยายมันเหี้ยห่าแฟนตาซีจัดๆหรืออะไรก็เขียนไป แต่เขียนด้วยว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ถือว่ารับผิดชอบสังคมหน่อย เผื่อเด็กหลุดมาอ่าน
คือ ถ้านิยายโดนโจมตีเนี่ย แทนที่จะดีเฟ้นว่า นิยายมันแต่งให้แฟนตาซีได้ ให้มันผิดศีลธรรมได้
แต่คนอ่านเองต่างหากที่ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน
รวมถึงตัวคนเขียนด้วย ที่ควรเขียนเหตุผลมาซัพพอร์ต รองรับการกระทำของตัวละครที่ผิดศีลธรรม
ไม่ใช่มาลากนิยายเรื่องอื่นให้โดนไปด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้านิยายกูโดน นิยายมึงก็ต้องโดนด้วย เพราะผิดศีลธรรมเหมือนกัน
ลากมาด้วยเพราะต้องการเทียบว่า มันเป็นเรื่องแต่ง อ่านได้ ใส่คำเตือนดีๆ ให้ผู้อ่านมีวิจารณญาณ เรื่องราวเป็นเรื่องสมมุติ โลกสมมุติ อย่าเอาชุดความคิดนี้ไปใช้กับโลกความเป็นจริง คิดให้ได้ แยกให้ได้ ไม่ใช่ลากมาให้ลงหลุม กูตายมึงตายปะ
>>652 ถ้าถามกู ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง มันคือมาตรฐาน ถ้ามึงคิดว่าแนวคิดแบบทวิตเตี้ยนถูก พอapplyด้วยมาตรฐานเดียวกัน Blก็จะโดนดึงลงหลุมเกือบหมดนั่นก็ถูกแล้วไม่ใช่รึไง
ในฐานะที่กูเป็นเด็กดวกสมัยรุ่นอนาล๊อกยังแพร่หลาย แล้วเสือกใช้ความดวกเข้าถึงนิยาย BL undergroud 18+ ตั้งแต่ยังไม่จบม.ต้น ขอยืนยันว่ามึงปิดกั้นเด็กไม่ได้ 100% หรอก และมึงก็ล้างบางความไม่สวยงามพวกนั้นออกไปจากโลกไม่ได้ ความไม่สวยงามพวกนั้นไม่ได้ปรากฎแค่ในนิยาย มีที่อื่นอีกเยอะที่มันปรากฎ พื้นฐานมันควรอยู่ที่การสั่งสอนสร้างวิจารณญาณขั้นต้น และใช้การจำกัดการเข้าถึงเป็นมาตรการรองว่ะ
พูดง่ายๆกุแค่ไม่เห็นด้วยกะอุดมคติของทวิตเตี้ยนที่ต้องการให้นิยายสวยงามมีแค่เรื่องถูกคุณธรรม 100%เท่านั้นในโลกนี้โดยการล่าแม่มดกับนักเขียนไทยเพียงอย่างเดียวเพราะทำได้แค่นี้ที่ง่ายสุดแค่นั้นแหละ
แต่แนวไรแบบนี้ก็อยากให้ขึ้นคำเตือนเป็น "romanticize incest" "romanticize rape” “มีการromanticizeอาชญากรรม/ประเด็นละเมิดศีลธรรม อย่านำไปใช้ในชีวิตจริง” “ผู้ที่แยกแยะไม่ได้หรือรับไม่ได้กรุณากดปิด/อย่าซื้อ” ฯลฯ ไปนะ
เอาจริงๆ สำหรับกู กูไม่อะไรกับประเด็น incest เลยนะ เพราะกูอ่านหลายแนว กูอ่าน pwp ด้วย
พี่น้องเอากัน พ่อเอากับลูก คนเอากับหมา นรเอากับครู 3p 4p 5p แนว NTR แนวมีชู้ rape รุมโทรม กูอ่านหมดอะ
แล้วกูก็ไม่คิดด้วยว่าการอ่านสิ่งเหล่านี้มันผิด ตราบใดที่ยังมีวิจารณญาณในการอ่าน แยกแยะ และไม่เอาไปปฏิบัติในชีวิตจริง
ที่สำคัญ คนเขียนควรจะ tw ตัวใหญ่ๆ ให้คนอ่านรับรู้ด้วย ว่ามึงกำลังจะอ่านอะไร
ฮัสกี้เนี่ย tw 1 หน้ากระดาษตัวโตๆ เป็นป้ายเตือน ว่ากูเตือนมึงแล้วนะว่ามึงจะเจออะไร
ทีนี้ต้องถามองค์ชายสามด้วยว่า ในตัวเล่มนิยายเนี่ย มี tw เตือนไว้เหมือนฮัสกี้เปล่า
แล้วเวลาที่นิยายโดนโจมตีเนี่ย มันควรจะ defense ว่าถึงผิดศีลธรรมก็อ่านได้
ไม่ใช่ลากเพื่อนไปลงหลุม
>>648 ต้องมองด้วยมุมมองคนโบราณอะ ญาติฝั่งแม่=คนนอกครอบครัว ป้าอาพี่น้องพ่อที่แต่งออกไป=คนนอกครอบครัว ถือว่าแต่งกับเราได้ ส่วนเรื่องตาสีตาสาก็กูบอกไม่ชัดเจนเหมือนกัน อาจจะซวยขี้ถ้ารักกับคนแซ่เดียวกัน แต่แซ่สมัยก่อนมันมีเป็นหมื่นๆ แซ่ก่อนจะลดลงเหลือเท่าปัจจุบัน การเจอแซ่เดียวกันแล้วเป็นญาติคงมีโอกาสสูง
อีกอย่างยุคนั้นเหมือนยังไม่รู้ว่ามันเพราะสายเลือดใกล้ชิดด้วยมั้ง มันมีบันทึกแค่แซ่เดียวกันแต่งงานแล้วลูกหลานโตไม่ดี มาเปลี่ยนเป็นห้ามสายเลือดใกล้ชิดแต่งงานกันก็ตอนเกือบๆ สมัยปัจจุบันแล้วอะ
ต้นเรื่องที่ฉอดอชส แล้วมันดันชอบนปนสชภที่มีเรปเลยโดนฉอดเรื่องเรปกลับ อันนี้กูเข้าใจนะ แต่ฮัสกี้เกี่ยวไรวะ กูไม่ได้ปกป้องว่าฮัสกี้ขาวใสแต่มาโยงได้ไงก่อน
ถ้าจะลากนิยายวายลงหลุม มันลากลงได้ทั้งวงการอะ
ทำไมไม่รณรงค์ให้ติด tw ลงไปในหน้านิยาย จัดเรตคนซื้อ ตรวจบัตรประชาชน อะไรก็ว่ากันไป
กูเคยเห็นโม่งบางคนก็บอกไม่ชอบการติดTWเพราะสปอยล์เนื้อเรื่องเกินไป บางเว็บมียืนยันตัวตนด้วยบัตร คนบางคนก็แอบจิ๊กบัตรญาติผู้ใหญ่มายืนยันเพื่อให้ตัวเองได้อ่านฟิค/นิยายที่เขาตั้งไว้ให้สำหรับอายุ18+ขึ้นไป ส่วนเรื่องตรวจบัตรตอนซื้อนิยาย/มังงะเงื่อนไข18+ ก็ฝากคนอื่นหิ้วได้
ถ้าจะลาก incest ลาก rape กูว่าเหลือนิยายในท้องตลาดไม่ถึง 20% มึงต้องการอ่านนิยายหรือมึงต้องการอาราธนาศีล
>>666 สำหรับกู การติด tw มันคือการป้องกันตัวเองของนักเขียนระดับหนึ่งนะ
ว่ากูเตือนมึงแล้วนะ กูจะแต่งแบบนี้ ถ้ามึงรับไม่ได้ มึงก็ปิดนิยายเล่มนี้ซะ
แต่งนิยาย incest มันแต่งได้ แต่นิยายควรมี tw เผื่อคนรับไม่ได้ จะได้ไม่ต้องซื้อมาอ่าน
ไม่ใช่ไม่บอกล่วงหน้า แล้วให้คนอ่านไปตกใจเอง แล้วมาบ่นทีหลังว่าต้องขายนิยายมือสองเพราะรับไม่ได้
ไม่ใช่แค่ incest ด้วย rape-noncon หรือ tw อื่นๆก็ควรติดให้หมด ทำให้มันชัดเจน
นิยายมันเสรีขนาดซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไปแล้ว ก็ทำให้มันเคลียร์ไปเลย
ไม่ใช่มาพร้อมใจกันลากนิยายเรื่องอื่นไปลงหลุม ทำให้มันผิดอีกรอบ
มันต้องรณรงค์ให้ชัดเจนว่า มันอ่านได้ มันเป็นรสนิยมส่วนตัว ตราบใดที่ไม่ลอกเลียนแบบ ไม่อ่านนิยายแล้วไปทำในชีวิตจริง มันก็อ่านได้
>>666 ถ้าถึงขนาดจิ๊กบัตรผู้ใหญ่มาเพื่ออ่าน อย่าโทษนิยายเลยต้องโทษสันดานคน ก็คนมันจะอ่านมันก็หาทางจนได้เหมือนคนอยากดูหนังโป๊นั่นแหละ แต่เรื่องติด TW กูชอบให้ติดแบบกว้างๆนะ ไม่ต้องลงละเอียดทุกอย่าง มันสปอยล์เนื้อเรื่องจริงๆแล้วก็ทำให้การอ่านหมดสนุก บางเรื่องติด tw ยาวเหยียดจนไม่ต้องเดาแล้ว กูกดออกเลยไม่อ่านแม่งละ
กุจำได้ว่าเคยมีคนบอกว่าต้องติดtwพวกกันtriggerโฟเบียของต่างๆ แล้วคือของพวกนั้นไม่ใช่โฟเบียทั่วไป ยกตัวอย่างนะ อย่างพวกกลัวแมวงี้ อันนี้คือประสาทแดกเกิน ใครจะไปนั่งติดให้มึงขนาดนั้น
กูว่าปัญหาคือการฉอดนิยายเหมือนกลายเป็นเทรนด์อะไรสักอย่าง บางคนเปิดประเด็นมาฉอดด่าเหมือนคนเขียนไปฆ่าใครตายอะ
บอกตามตรงสำหรับกูการติด tw อะไรเนี่ย คือที่อื่นๆประเทศโลกอื่นเขาก็ติดเฉพาะสำคัญ แบบโอเค incest gore rape drama fantasy romance ไรงี้
คือติดมาเท่านี้มันก็รู้แล้วว่าโอเคมีเนื้อหารุนแรงนะ ถ้าเว็บโนเวล ตอนไหนแรงมากๆมีอะไรแปลกๆอกค่อยเตือนต้นตอน
คนอ่านควรรู้แล้วนะว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ตัวเองชอบไม่ชอบ แนวไหนยังไง ไม่ใช่มาโทษคนเขียนหมดว่าต้องติดให้ละเอียดยิบๆ
แล้วกูงงมากกับการที่ต้องมาเตือนว่าอย่าทำตาม เฮ้ย นี่มันตรรกะเดียวกับผู้ใหญ่ด่าเกมแล้วนะ ว่าเล่นเกมนี้แล้วไปก่ออาชญากรรมตาม
มันควรรู้แต่แรกแล้วว่านี่เรื่องแต่ง เรื่องไหนแรงๆ pwp ทริกเกอร์ มันก็คือคนเขียนอยากเขียนและมีคนอยากอ่าน ถ้าใครเอาไปทำตามปัญหามันอยู่ที่คนอ่านนะ ไม่ใช่คนเขียน
กูไม่ดีเฟนด์ให้เรื่องไหนในดราม่า กูดีเฟนด์ให้ทุกเรื่อง คืออ่านแล้วไม่ชอบตรงไหนยังไงมันถกเถียงกันได้ มันจะไปมีนิยายสมบูรณ์แบบไร้ที่ติคนอ่านทุกคนบนโลกชอบก็ได้ไง แต่ถ้าฉอดกันแบบต้องการนิยายสีขาว รังเกียจเรื่องผิดศีลธรรม
งั้นก็ต้องทำเซนเซอร์แบบอีสีแล้วล่ะ ซึ่งมันคือการจำกัดเสรีภาพในการเขียนเรื่อง เพราะงั้นให้คนมีปัญหากับนิยายมากๆคือเลิกอ่านนิยายง่ายกว่า
อิต้นเรื่ององค์ชายสามนี่มันคิดว่ามันเป็นใครวะ มาชี้ๆ บอกเรื่องนี้มันไม่เหมาะ มึงคิดว่ามึงเป็นใคร๊ ครูระเบียบเหรอ ไกด์ไลน์ใหม่ของนิยายเหรอ หนังสือมีเรทมีwarningครบ มึงยังจะเอาอะไรอีก ทำตัวข้ามถนนตอนรถไฟเขียวโดนรถชนแล้วมาโวยวายทั้งๆที่มีสัญญาณไฟบอกอยู่ อย่างนี้ต้องห้ามมีถนนให้รถขับด้วยไหม หือ ดูถูกวิจารณญาณชาวบ้านจริง ปัญหาเยอะควรเลิกอ่านนิยายไปซะ ไม่ใช่สั่งให้คนเลิกเขียน
>>673 มึง เด็กแบบนี้จะติดแทกสักกี่สิบก็ไม่ช่วย ต่อให้มึงถล่มนิยายทิ้งทั้งโลกแม่งก็ยังมี ครีมผิวขาว ยาลดอ้วน ลัทธิเจ้าแม่เจ้าพ่อ ของศักดิ์สิทธิ์ ยาเสพติด คนชั่วช้าโดยสันดานรอล่อลวงอีกเพียบ พออย่างนี้มึงคิดว่าโลกนี้มีปัญหาหรือเด็กมันกันแน่ที่มีสติปัญญา/ความรู้ไม่เพียงพอให้เอาตัวรอดจากโลกใบนี้
ใจเย็น กูหมายถึงการบอกว่าห้ามทำตามเนี่ย สำหรับบางคนอย่างพวกมึงมันเป็นเรื่องที่รู้ๆกันอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องติด แต่กับบางคนมันไม่ใช่ ติดๆไปเหอะเผื่อช่วยกระตุกต่อมอะไรบ้าง เพิ่มความเป็นไปได้ที่สมองจะทำงานหน่อยก็ยังดี
>>677 มึงงง นิยายมันคือ fiction ไม่ใช่หนังสือ how to ;;w;;
มันไม่มีใครมานั่งเตือนกันแบบนี้จริงๆๆๆ อย่างที่บอกว่าทุกอย่างมันควรอยู่ในแท็ค เซตติ้ง fantasy คือติดแฟนตาซีแล้วจบ ถ้าเด็กเชื่อว่าเรื่องจริงคือไม่เข้าใจเองแล้วว่า fantsy คืออะไร
(อันนี้พูดถึงในกรณีที่ยกตัวอย่างมา) แล้วของบางอย่างมันต้องผ่านการหล่อหลอมมาจากสังคมอยุ่แล้วว่านี้ผิดกฎหมาย ผิดกฎศีลธรรม ถ้าแยกแยะไม่ได้จริงๆควรเลิกอ่านนิยายแล้วรอโตจนมีวิจารณญานค่อยอ่าน
อีต้นเรื่องโดนแหกว่าชอบแนวข่มขืน ล็อคแอคมุดรูหนีไปแล้ว 5555
>>681 ถ้ามีประเด็นอ่อนไหวทริกเกอร์เหยื่อในโลกจริงได้แต่ไม่ติด tw อันนี้สมควรโดน แต่กูยังไม่เคยเห็นกระแสด่าเช็ดเพื่อให้ติดคำเตือนว่าแฮร์รี่กับโอเมก้าเวิร์สเป็นแฟนตาซีนะ กูเองก็ไม่ได้เรียกร้อง กูแค่บอกว่าถ้าเรื่องแฟนตาซีขนาดนั้นยังมีคนแยกไม่ออก นิยายที่มีเนื้อหาผิดศีลธรรมก็ควรมีคำเตือน
หรือจริงๆแล้วผิดที่เป็นผลงานของคนไทย เพราะพอเป็นงานของชาติอื่น ต่อให้เฉพาะกลุ่มขนาดไหน กูก็ยังไม่เคยเห็นสายฉอดออกไปดิ้นให้ถอด got เลย และมันฮวาอีกล้านแปดเรื่องที่มีลิขสิทธิ์ในไทยหรือจะไม่มีก็ตาม มีแต่สายอวยสายเลีย ขนาดไอ้แอคที่ออกมาแหกมันยังเลียงานสายเรปของเพ้นเต้อ แต่กุไม่เคยเห็นเอเนอจี้แบบสายฉอดด่าจิกหัวไปด่างานตปท ด่าแบบเปิดประเด็นปั่นกระแส จิกหัวแท็กหาสนพ.และนข.ตปทตรงๆโต้งๆ อย่างgotอันนั้นอินเซส รักกันชิบหายด้วย แถมฉากตายก็ตายด้วยกัน ซาบซึ้งตรึงใจกันไป งี้ต้องปลดไหม ซีรีย์ระดับโลกนิยายระดับโลก เขียนไร ไม่ตระหนักเลยคร่ะ จาอ้วก
>>686 +1 หลายๆเรื่องของเกาหลีถ้าเป็นคนไทยแต่งคือโดนด่าเละแล้วเละอีก ถูกขุดมาด่ายันชั่วลูกชั่วหลาน ทีอ่านของต่างประเทศอ่านได้ พอคนเป็นคนเขียนคนไทย คนเขียนต้องมานั่งประสาทแดกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าจะต้องทำยังไงไม่ให้คนมาถล่มทำยังไงให้เซฟ งง แต่กูเห็นมึงกรี๊ดพระเอกเกลาหลีนะ จะเอายังไงกันฮะนังผีสาว 5555555
เออ กูถามนิดนึง เรื่องชาย3เนี่ย ขุดมาเพื่อไรวะ นิยายนานละนี่หว่า กูไม่ได้อ่านเลิกอ่านไปสมัยลงรายตอน เพราะนักเขียนกั๊กเรื่องฮาเร็ม กูไม่อ่านฮาเร็มพอตามไปๆได้กลิ่นฮาเร็มกูเลยเลิกอ่านไปก่อน สรุปเป็นฮาเร็มอินเซสแบบไม่มีฉากncในเนื้อเรื่องหลักใช่ปะวะ สนพ.ติดคำเตือนแล้ว แต่ไม่ได้จำกัดอายุคนอ่านใช่ปะวะ เท่าที่กูสรุปๆจากการเผือก
กุขำตั้งแต่มันมีคนเคยบอกว่าถ้าเป็นคนที่อยากมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายชายมาอ่านนิยายวายแล้สเอาไปใช้ผิดๆจะทำยังไง อีเหี้ย เซ็กส์ด้านหลังแม่งยุ่บยั่บจะตายชัด มันมีสักกี่คนที่จะสมองน้อยมาอ่านนิยายวายไปเป็นแนวทาง ถ้าเอาตรรกะเดียวกันไม่ไปด่าชญ.ว่าทำไมไม่สอนเพศศึกษาว่าจริงๆหลังมีเซกส์ควรฉี่ด้วยเหรอ
คนฉอดมันก็มือถือสากปากถือศีลแหละ มันไม่มีใครสะอาดพอที่จะไปตัดสินรสนิยมคนอื่นว่าดีหรือไม่ดี
อย่างที่กูบอกไป คือ นิยายมันควรจะเปิดกว้าง ให้เขียนแนวใดก็ได้ ขอแค่มี tw เตือน มีการจำกัดเรตอายุคน ตรวจบัตรประชาชน
อย่างน้อยจะได้คัดวุฒิภาวะของคนอ่านได้อย่างหยาบๆ
กูเชื่อว่าคนส่วนใหญ่แม่งมีวิจารณญาณขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว
เหมือนคนเล่นเกมยิงปืนฆ่าคน ก็ไม่ได้แปลว่าคนนั้นจะต้องเอาปืนไปฆ่าคนในชีวิตจริง
คนอ่านนิยายข่มขืน หรือพี่น้องรักกัน มันก็ไม่ได้แปลว่าคนนั้นจะต้องไปข่มขืนชาวบ้าน หรือมีอะไรกับคนในบ้านตัวเอง
นิยายมันเป็นบันเทิงคดี อ่านเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก ถ้ามันสนุกจริง tw ต่างๆ เผลอๆจะรับได้กันด้วยซ้ำ
ทุกวันนี้มีแต่คนจะเอาอะไรก็ไม่รู้ มาวางกรอบให้นิยาย แต่งแบบนั้นก็ไม่ได้ แต่งแบบนี้ก็ไม่ได้ สำหรับกูมันหมดสนุกไปเลย
นิยายที่มีแต่เรื่องถูกต้องทางศีลธรรม สำหรับกูมันจืดชืดลงเยอะ
กูเคยทำงานกับเด็ก ขอพูดหน่อยละกัน
เด็กอายุเจ็ดขวบถึงสิบสองเนี่ย อ่านนิยายพวกนี้เยอะนะ ส่วนใหญ่ก็มาจากพวกพี่โตๆชวนน้องๆอ่าน เด็กก็นึกว่าเท่ อ่านแล้วแสดงว่าเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็จำอะไรไปผิดๆเยอะมาก บางคนยังดีมีอะไรก็คุยกับผู้ใหญ่ไง ผู้ใหญ่ก็สอนได้ แต่บางคนพ่อแม่ปล่อยโตมากับพี่เลี้ยง เก้าขวบก็เริ่มเอาดินสอแหย่รูตัวเองแล้วจ้า ผู้ชายนะ พอถามก็บอกว่าพี่ชายข้างบ้านสอน เอานิยายให้อ่าน เห็นมั้ยนิยายยังทำได้เลย ไม่ตาย ฟินๆ ถ้ามันแย่เขาไม่เขียนออกมาหรอก แล้วเด็กอายุขนาดนั้นบางคนก็คิดจริงๆว่าสิ่งที่เขียนเป็นตัวอักษรมันถูกเสมอ นึกว่าเหมือนหนังสือเรียนไง ชีวิตเกิดมาเก้าปี ไม่เคยรู้จักคำว่านิยายโป๊แฟนตาซี เจองี้เข้าไปเด็กแยกไม่ออกเด้อ เคสที่กูเจอน่ะยังดีที่เขามาเล่าให้กูฟังแบบอวดๆ แต่ที่ปิดเงียบแอบไปลองเองอะไรเองล่ะมึง
กูก็ไม่ได้หวังให้นิยายทุกเรื่องต้องมีคุณธรรมล้ำเลิศอะไรหรอกนะ แต่ตรงไหนที่ผิด ก็บอกชัดๆหน่อยเหอะว่าผิด ไม่ควรเลียนแบบ มีบรรยายซักนิดนึงว่าสิ่งนี้อันตราย ทำไมอันตราย มันคงไม่ทำให้นักอ่านที่มาเพื่อ sex fantasy หมดสนุกอะไรมากมายมั้ง
>>694 ผู้ปกครองก็ทำงานงกๆกันอยู่ยังไงล่ะ มันไม่ใช่เขาไม่ใส่ใจ แต่บางทีกว่าผู้ใหญ่จะรู้มันก็เกิดปัญหาแล้ว พ่อแม่ไม่ได้นั่งเฝ้าลูกได้ตลอด 24 ชม นะมึง แล้วเด็กเองก็ต้องการเวลาเป็นส่วนตัว ต้องการหาสิ่งที่เขาสนใจเหมือนกัน แต่มันจะดีกว่านี้ถ้ามีคนช่วยบอกว่าสิ่งที่เขากำลังหาอ่านหาทำอยู่เนี่ย มันคืออะไร ไม่ใช่ปล่อยเบลอเลยตามเลย
ตำรวจด้อมมาแล้วค่า
>>696 มีหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด บกพร่องการเลี้ยงดู อบรมสั่งเอง จะโทษฟ้าโทษลมไม่ได้ ไม่มีวุฒิภาวะพอจะเลี้ยงเด็ก อย่ามีลูกจ๊ะ อ้างเรื่องเวลาไม่ได้นะจ๊ะ มีคนแจ้งก็รับผิดชอบไปจ๊ะตามหน้าที่เนอะ ยังหาเงินงกๆ รู้แก่ใจว่าไม่มีเวลา แล้วมีลูกทำไม เขาควรถามตัวเอง ก่อนโทษคนอื่นที่ไม่ได้ไปขอให้มีลูก
ลูกตัวเองยังไม่ดูเอง สั่งสอนเอง แต่ไปหวังให้คนอื่นช่วยบอกแทนเนี้ยนะ ใครเขาจะบอก เขาแจ้งเลยดีกว่า ในเมื่อผู้ปกครองทำหน้าที่ไม่ได้ก็ส่งเด็กไปในที่ที่เขาจะรับผิดชอบได้
>>695 พ่อแม่เด็กไม่บอกแล้วจะโยนให้คนอื่นบอก กูว่าไม่ใช่วะ มันไม่ได้มีคนขอให้มีลูกอะ มันไปมีกันเอง มันก็มีหน้าที่รับผิดชอบตามมา รับผิดชอบไม่ไหวก็ไม่ต้องมี อ้างว่าไม่มีเวลาไม่ได้ อ้างว่าไม่รู้ไม่ทราบไม่ได้ ยังไงก็ผิดเต็มๆ ส่วนคนอื่นนอกครอบครัวพบเห็นเจอแจ้งผู้ปกครองหรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เดี๋ยวเขาไปถามผู้ปกครองเด็กเอง เจอไม่แจ้ง ปัญหามันก็อยู่ที่คนรับรู้แต่ไม่ดำเนินการ โทษคนอื่นไม่ได้
แต่กุงงมากนะว่าทำไมเดี๋ยวเด๋ดบางคนมันไอคิวต่ำแบบแยกอะไรไม่ค่อยได้วะ กุโตมากับการอ่านนิยายวาบเรทๆ สารภาพบาปเลย คือมันมีเตือนแต่กุเสร่อเข้าไปอ่านเอง แต่ไม่เคยทำตามหรืออะไรเลย ไม่ได้ไปปรึกษาอะไรกับใครด้วย เต็มที่คือทำตัวเป็นเด็กเบียวในอดีตอันดำมืด
>>698 เคสองค์ชายสามใช่มะ สิ่งที่กูขอจากนิยายเรื่องนี้คืออย่างเดียวเลย บอกชัดๆไปในนิยายว่าการสมสู่กันเองในครอบครัวมันผิด ยุคนี้ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะมันเปิดทางให้ใช้อำนาจกดทับสมาชิกครอบครัวที่อ่อนแอกว่า บางคนไม่ได้สมยอมแต่หนีไปไหนไม่ได้ แต่ในยุคสมมติของนิยายยังไม่มีใครตระหนักเรื่องนี้ จบ กูต้องการแค่นี้เลย ไม่ได้ขอให้เลิกเขียนเลิกขายใดๆ แค่บอกว่ามันผิด
>>699 สิ่งที่มึงพูดน่ะ คนอื่นเขาก็พยายามอยู่แล้ว พ่อแม่เด็กที่กูรู้จักก็ไม่ได้โทษใครเลยนะ เขาไม่มีเวลาก็พยายามจ้างคนมาดู แต่ปัญหามันเกิดได้ตลอดแหละ พ่อแม่เขาพยายามรับผิดชอบลูกเขาที่สุดแล้ว แล้วเจ้าของผลงานล่ะมึง ได้รับผิดชอบความเสียหายที่อาจเกิดจากผลงานตัวเองรึเปล่า ถ้าไม่รับผิดชอบอะไรเลย แถมโรแมนติไซส์จัดๆ โดนด่าก็สมควรแล้วมั้ย บางเรื่องนี่บุญหัวแล้วนะที่ยังไม่โดนแจ้งความว่าเป็นสื่ออนาจาร แล้วขอยืมคำของมึงหน่อย แต่งเรื่องออกมาเอง มันก็มีหน้าที่รับผิดชอบตามมาเหมือนกัน รับผิดชอบไม่ไหวก็ไม่ต้องเขียน โดนฟ้องโดนด่าแล้วจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่ทราบว่าผิดกฎหมายผิดศีลธรรมไม่ได้นะ
>>700 บางคนก็ไม่ได้ไอคิวต่ำ เขาแค่ไม่รู้ แล้วคนที่ไปเปิดโลกแม่งก็ไม่สอนไง เด็กมันก็นึกว่าเรื่องพวกนี้ปกตินะสิ ดีไม่ดีคนเปิดโลกนั่นแหละกะเอาเปรียบเด็กด้วย
ใครเรียกนักฉอดมาลงโม่งวะสัด
กุขอถามหน่อยว่าคนเขียนมันผิดยังไงถ้าแม่งมีทั้งคำเตือนคำอธิบายแปะแต่คนที่ไปอ่านมันไม่อ่าน อ่านไม่เข้าใจเพราะสาเหตุอะไรก็ตาม มีการจำกัดอายุในการเข้าถึงแต่เด็กมันดิ้นรนจะเข้า มึงจะไปบีบคอคนเขียนทุกคนว่าให้เลิกเขียนหรืองานเขีบนทุกเรื่องต้องถูกศีลธรรมเหรอ
สิ่งที่ควรทำคือการสอนในครอบครัวและโรงเรียนที่ถูกต้องรวมถึงการจำกัดอายุเข้าที่แน่นหนากว่านี้ต่างหาก
>>700 ยุคนี้สื่อมันเข้าถึงง่ายกว่าแต่ก่อนไงมึง ย้อนไปสัก15ปีก่อน เน็ตก็ยังกากแถมไม่ได้ติดทุกบ้าน มือถือยังกดปุ่มโง่ๆอยู่เลย
สมาร์ทโฟนก็แพงชิหัย ไม่ใช่ของที่เด็กจะพกมาเล่นส่วนตัวได้ คอมก็ไม่ได้มีเกลื่อนเมือง ต้องเข้าร้านเกมไปเล่น นิยายวายยังมียุคหลุมดำ คนที่ตะหาลายแทงไปซื้อได้ก็ต้องรู้ลู่ทางระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าแม่งทำได้ขนาดนั้น แค่คิดว่าในเรื่องอย่าทำนะโว้ย มันคงคิดเป็นแล้ว
แต่ยุคนี้มึงเสิร์ชกูเกิ้ลก็โผล่เต็มเว็บ เดินเข้าร้านหนังสือเจอนิยายเรทเกลื่อน
พอสื่อมันเข้าถึงง่าย โอกาสคนที่มันแยกเยะไม่เป็นไปเจอสื่อพวกนี้ง่ายขึ้น คนบ้งๆ มีตรรกะบ้งๆเพราะเขื่อความรู้ผิดๆจากสื่อเลยเยอะตามเป็นเงา
>>702 ถ้านักฉอดที่มึงว่าหมายถึงกูนะ กูไม่เคยขอให้ใครเลิกเขียน และไม่มีปัญหากับเรื่องที่ติด TW ไม่มีปัญหากับเรื่องผิดศีลธรรมที่บอกว่ามันผิดยังไง กูมีปัญหาแค่กับการโรแมนติไซส์ ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าห้ามเขียนอีกแหละ แค่อยากให้ช่วยใส่ลงไปหน่อยว่ามันไม่ดียังไง อย่าพยายามฟอกขาว กรุณาอ่านดีๆก่อนตีโพยตีพาย เรื่องต้องเขียนให้ถูกศีลธรรมนี่มึงคิดไปเองเดือดร้อนไปเองทั้งนั้น ไม่ใช่ความคิดกูเลยจ้า
คนอ่านมันผิดกลุ่มแต่แรกแล้ว ไม่เกี่ยวกะฟอกขาวอะไรเลย ยังงี้สนพต้องใส่เชิงอรรธสอนธรรมะสำหรับเด็กต่ำกว่า 13 ลงไปทุกหน้ากระดาษของหนังสือที่ 18 + เหรอ
มึง หนังสือมันจำกัดอายุ จำกัดการเข้าถึงอยู่แล้ว ถ้าเจอครูชีวิตเหี้ยๆแบบนี้คือจบทุกสิ่งอัน ไม่มีสื่อเลยแม่งก็ยังชวนทำเรื่องพวกนี้ได้อยู่ดี
ถ้ามีแนวโน้มเยอะๆก็ควรไฟต์ เรียกร้อง ให้ปรับอัดเพศศึกษาขั้นต้น ขั้นกลางใส่ให้เด็กประถมกับมัธยมได้แล้วนะ กุเห็นหนังสือเพศศึกษาสำหรับเด็กของต่างประเทศกูว่าก็ดีมาก ไม่ได้โป๊เปลือยอะไร ให้รู้ขั้นต้นว่าอะไรคือจับได้ จับไม่ได้ เล่นได้ เล่นไม่ได้ อันไหนคือขอบข่ายเรื่องเพศ ควรเก็บเป็นส่วนตัว มันจะดีมากกว่าเยอะเลยเป็นอะไรที่กูอยากเห็นมากแต่ไม่ค่อยมีใครออกมาเรียกร้องจริงจัง สายฉอดแม่งก็มัวมุ่งแต่การล่าแม่มดทีละเรื่อง ฟินเวลากำจัดไปได้เรื่องนึงอยู่นั่นล่ะ
อีตัวพี่ชายข้างบ้ายนี่ก็พังจากการเลี้ยงดูมาแต่ต้นเหมือนกัน มันต้องฆ่าตัดตอนตั้งแต่อีตัวนี้เลย อีนี่ก็น่าจะพวกที่ชอบมาถามตามเวบบอร์ด ไปสดมาตอนไฟแดงจะท้องมั้ยคับ เอายาคูลย์ทาแล้วกันท้องได้มั้ยคับ แหงๆ และไอ้เคสพวกนี้แหละที่กูบอกว่า มึงไม่สามารถห่อผ้าขาวคลุมเด็กไว้100% ได้ ต้องใส่เกราะทางความคิดให้มันถึงจะเซฟ ส่วนการช่วยกันจำกัดการเข้าถึงก่อนวัยนี่ก็หน้าที่ผปค.ด้วยซึ่งเคสนี้มีกุญแจบายพาสจากพี่ชายเห้ๆข้างบ้านแล้วอะไรมันจะกั้นอยู่ล่ะวะ ไม่มีนิยายก็มีหนังโป๊แหละ ไม่งั้นก็แม่งใช้ประสบการณ์ตัวเองนั่นแหละชวนน้องทำอะไรเห้ๆ
>>696 กูเข้าใจเจตนาดีของมึงนะ แต่กำลังจินตนาการว่าถ้ากูเป็นนักเขียนเรื่อง GOT กูจะต้องพิมพ์สั่งสอนไว้ตรงหน้าคล้ายๆคำนำเยอะขนาดไหนวะ 555555 ไม่ได้แซะมึงนะ แต่เริ่มเห็นใจนักเขียนที่ต้องรับภาระสั่งสอนลูกชาวบ้าน โลกนี้ไม่ใช่ทุ่งลาเวนเดอร์ มีคนชั่วสารพัดรูปแบบยิ่งกว่าที่ในนิยายเขียนไว้อีก สำหรับกูให้รู้ว่ามันมีแบบนั้นแบบนี้ด้วย ต้องหัดแยกแยะ ดีกว่าปิดหูปิดตาให้คิดว่าโลกนี้มีแต่คนทำดีคิดดีเหมือนนิยายข๊าวขาวที่อ่านว่ะ อันนี้พูดถึงนักฉอดทั้งหลาย
แล้วถ้าเด็กไม่มีตรรกะความคิดแยกแยะว่าไม่ควรอ่านหนังสือเกินวัยแต่แรก มาเจอคำสอนมันจะเชื่อเหรอ คิดว่าแปะคำเตือนหราบนซองบุหรี่เหล้าแล้วมันลดความอยากลองของเด็กลงหรือกระตุ้นจิตวิญญาณชอบลองชอบแหกกฎละ สิ่งที่ดีที่สุดคือสอนให้พื้นฐานแยกแยะดีแต่แรกดิ มึงกันโลกทั้งโลกให้เด็กไม่ได้หรอก นอกจากไม่ได้ผลแล้วมันยังไปลำบากชีวิตคนอื่นด้วย
ไอ้คนที่มาชี้นิ้วด่านิยายแนวๆนี้ไม่ค่อยต่างกับไปชี้หน้าด่าavว่าทำไมมันไม่สมจริงเลยว่ะ
ต้อฝพูดก่อนเลยว่าเพศศึกษาประเทศเราบอบบางมาก ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ยังใช้หลักสูตรเงี่ยนแล้วไปเตะบอลอยู่มั้ย
>>696 เมิง เอาจริงไม่ต้องผปคสอนก็ได้ เด็กมันควรรู้ได้เองว่าโลกนี้มีสองเพศ ความรู้รอบตัวขั้นต้นเลย แถมหน้าแรกนิยายอมกวส่วนใหญ่ก็มีเขียนว่าเป็นโลกสมมุติ นี่เด็กมันอยู่ในโลกสมมุติมากไปจนแยกไม่ออก ไม่รู้ว่าเพ้อหรือเบียว
อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กคนนั้นมันอายุเท่าไร ถ้า17-18แล้วยังแยกแยะไม่ได้ก็น่าเป็นห่วงละว่าวันๆเข้าสังคม ใช้ชีวิตในสังคมยังไง ความคิดในสมองโดนนิยายล้างไปแล้วแบบนี้ ไม่สงสัยเหรอวะว่าพ่อตัวเองเป็นเบต้าหรืออัลฟ่า
องค์ชายสามไม่ได้ติด tw ตั้งแต่แรก เพิ่งมาติดทีหลัง
องค์ชายสามมีหน้า tw ติดไว้ที่นิยายเหมือนเรื่องอื่นเปล่า
หรือแปะ tw แค่ใน raw
อันนี้ก็เป็นอีกประเด็นนึงที่กูเห็นคนออกมาบ่นนะ
ว่าตอนซื้อนิยายไม่รู้เรื่องว่า incest
พออ่านไปกลางเรื่องแล้วรับไม่ได้ ต้องเลิกอ่าน
>>701 แล้วทำไมมึงไม่แจ้งวะ กูอยากรู้ แต่มาถามหาคำตอบในนี้ เอางี้มึงคิดว่ามึงฟ้องได้ มึงลองดู เผื่ออมึงจะได้เข้าใจมากขึ้น ว่าอะไรเรียก นิยาย อะไรเรียก สื่ออนาจาร เนอะๆ มึงดูแยกแยะไม่ออก มึงอย่าเสพเลยวะ มึงแยกประเภทสื่อไม่ได้อะ มึงก็จะมาก่อกวนอะไรที่เขามีกฎระเบียบกำหนดไว้แล้ว มีการตีความหมายไว้แล้ว แต่ยังมานั่งถามซ้ำๆ กับสังคม ว่าไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลยหรอ มันมีกฎหมาย ระเบียบข้อกำหนดให้อ่านแต่ไม่อ่าน โยนความผิดให้คนที่ทำถูกกฎหมาย ฮาแท้ๆ
คนเป็นพ่อแม่พยายามแต่ทำไม่ได้ หรือไม่คิดจะทำ กรุณาอย่าผลิตเด็กกัน เพราะผลิตออกมาเอา แต่ถามหาความรับผิดชอบคนอื่น พอคนอื่นถามตัวเองบอกพยายามแล้ว โอ๊ย แม่งโคตรฮาาาา คนประเภทนี้ทำไมชอบทำเด็กกันวะ ความรับผิดชอบแม่งไม่มีเลย
กูเข้าใจแหละไมมันมีเด็กไอคิวต่ำแยกแยะไม่ได้ ก็ต้นพันธุกรรมมันยังแยกแยะไม่ได้เลย~ มันจะเอาอะไรไปสอนเด็กวะ
>>707 GOT นี่เอาตรงๆเลยนะ กูว่าปราการป้องกันเด็กอย่างแรกคือภาษาของมันนี่แหละ ภาษามันสำหรับผู้ใหญ่อ่าน ทั้งต้นฉบับทั้งงานแปล ตัวซีรี่ส์เองก็ไม่ได้ภาพสดใสล่อใจเด็ก เด็กแม่งยินดีไปดูเอลซ่ามากกว่าอยู่แล้ว แต่นิยายพอร์นบางเรื่องนี่บางทีก็เด็กนั่นแหละแต่ง สำนวนภาษาบางทีก็ลูกกวาดใสๆ เสพง่าย
>>710 เคสเด็กที่หลงว่าโอเมก้าเวิร์สมีจริงนี่กูไม่รู้ กูแค่เห็นที่เขาแคปกันมา แต่เด็กเอาดินสอแยงรูที่กูเจอน่ะ เก้าขวบ โดนคนรู้จักหลอกโดยมีนิยายเป็นเครื่องมือ ***กูไม่ได้คิดว่านิยายมันผิดนะ*** แต่กูมองว่าคนที่เขียนนิยายเนื้อหาผิดศีลธรรมเนี่ย เตือนคนอ่านได้ก็เตือนๆเหอะ จะใส่มาเป็น tw หรือเนียนๆเขียนมาในนิยาย หรือจะเขียนให้ทำผิดแล้วเจอปัญหาอะไรก็ใส่ๆมา อย่าเขียนเหมือนมันเป็นเรื่องปกติที่มันไม่มีปัญหาเลย คนที่อาศัยนิยายไปเอาเปรียบเด็กมันจะได้ลำบากขึ้นบ้าง
และกูไม่เคยบอกให้ใครเลิกเขียนนิยาย นิยายที่โรแมนติไซส์เรป อินเซส เปโด หรืออะไรก็ตามนี่กูก็ไม่เคยตามจิกตามกัดตามแบน อชสเองกูก็ไม่ได้คิดว่ามันควรเลิกขาย แต่ถ้านิยายพวกนี้โดนฉอด มันก็มีเหตุผลว่ะ ส่วนตัวกูนะ ถ้านักเขียนไม่อยากโดนฉอด เขียนแบบไม่โรแมนติไซส์ก็ได้นี่นา อย่างที่บอกอะ แค่เติมเข้าไปว่ายุคนี้อินเซสมันผิด แต่ยุคนั้นไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็นปัญหา แค่เนี้ย พระนายจะไปลงเอยแฮปปี้เอนดิ้งกลางฮาเร็มเหมือนเดิมก็ได้
>>714 กุพกมาแค่เล่ม 4(เล่มพิเศษ)นะ ดราม่านักกุเลยหยิบมาอ่านอีกรอบ แต่มีติด tw+rate ไว้แล้ว https://www.img.in.th/image/WccY6S
ติด tw ตัวเล็กๆที่ตรงบาร์โค้ดมันไม่ชัดเจนพอนะ
มันมีคนที่ไม่เหลือบไปมองราคาหนังสือหลังปกอะ
หนังสือส่วนใหญ่ที่วางหน้าร้าน ก็น่าจะห่อพลาสติกไว้หรือเปล่ามึง...
พวกนักฉอดที่อยากให้ประเทศเต็มไปด้วยศีลธรรมอันดีงาม ฉอดให้ได้ทุกเรื่องนะ นิยายทุกชาติ จะชายชาย ชายหญิง หญิงหญิง ละครเวที ละครโทรทัศน์ หนัง ซีรี่ส์ เน็ตฟลิกซ์ เอาให้ครบนะ อย่ามาฉอดแค่เรื่องเดียวแล้วจากไป
>>720 ตัวจิ๋วเดียว
กูเป็นคนที่หยุดอ่านไปสมัยลงรายตอนนะ เท่าที่จำได้แรกที่ลงไม่ได้ติดคำเตือนนะ นานแล้วความจำกุก็เลือนๆ แต่มีคนเม้นต์ถามอยู่นะว่าฮาเร็มหรืออินเซสมั้ย เท่าที่จำได้คือนข บอกว่าพอจิ้นได้หรือคำตอบราวๆนั้นแหละ แต่สำหรับกูอ่านไปละเริ่มจับทางได้ว่าไม่ใช่แนวกุแน่ๆ กุเลยหยุดอ่าน ไม่รู้ว่า นข ติดคำเตือนตอนไหน แต่ตอนที่กุเริ่มอ่านถึงหยุดอ่าน(น่าจะยังช่วงวัยเด็กเลยมั้งนะ)ยังไม่เตือน แต่กุโบกมือลาก่อนแล้ว ฮาเร็มไม่ใช่แนว อินเซสก็ด้วย เริ่มมีแนวโน้มกุก็หยุดอ่านละ
>>715 มีมั้ง เห็นในทวิตบอกอชสนางไม่โรแมนติไซส์ เมิงไถไปดูกูก็ไม่ได้อ่านไม่อยากพิมพ์เดี๋ยวผิด
นิยายมันก็มีเนื้อเรื่องที่พาให้ไปถึงจุดนั้นแหละ ไม่ใช่โยนตุ้บๆมา ก็เหมือนที่คนมีเหตุผลมาแก้ตัวให้ฮัสกี้ว่าไม่ romantize นั่นแหละถ้าอ่านเองก็จะเข้าใจ แต่นักฉอดไม่ได้อ่านเพราะกะมาฉอดอย่างเดียว พวกไทยมุงที่ไม่ได้อ่านก็รับข้อมูลเบี้ยวๆ มาจากนักฉอดเพราะแสงส่องไปทางนั้นเยอะ
>>722 >>723 แต่มันควรจะมี tw อีกรอบก่อนขึ้นบทที่ 1 ด้วยนะมึง
กูสารภาพเลย กูเป็นคนไม่อ่านบาร์โค้ดหลังหนังสืออะ เพราะงั้นไอ tw ตรงบาร์โค้ด เป็นกู กูคงมองไม่เห็น
คือเวลากูอ่านใน raw กูเห็นนักเขียนพิมพ์ tw ไว้ใหญ่มาก เด่นมาก ไฮไลท์สีแดงด้วย เอาให้ชัดๆ
เพราะงั้นกูว่า คนเข้าใจผิดเพราะอ่านใน raw มัยไม่น่ามี
ประเด็นคือ พอมาทำเป็นรูปเล่ม หน้า tw มันควรจะเด่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใน raw
>>717 กูบอกว่ากูถูกตอนไหนวะเพื่อนโม่ง ช่วยบอกทีบรรทัดไหน กูบอกมึงแยกแยะไม่ได้ก็ไม่ต้องอ่าน และช่วยอย่าไปว่าคนที่เขาทำตามกฎหมายแล้ว กะอย่ามาผลิตเด็กถ้าไร้ความรับผิดชอบ ถ้ามึงว่าไม่ถูกมึงก็บอกมาว่าตรงไหน ขัดมาตราไร หรือมีคำพิพากษาเรื่องไหน กูจะได้ไปอ่านอีกที
แล้วมันเรื่องเดียวกันหรอโม่ง เนื้อหาเดียวกัน? คนเขียนเดียว? สนพ.เดียวกัน? งานเขียนประเภทเดียวกัน? ว่าแต่มึงเห็นหนังสือแจ้งข้อหาหรอวะ ว่าเป็นเรื่องเดียวกันที่มึงแหกปากอยู่ เขาจับผิดลิขสิทธิไม่ได้? ขายโดยไม่ได้ขออนุญาตไม่ได้? ไหนๆ ขอลิงค์เรื่องทีว่าทีดิ ไม่ใช่ฟังผ่านหูมาแล้วเอามาอ้างปากเปล่าๆ
ย้ำอีกทีแยกแยะไม่ถูกไม่ต้องอ่านเน้อ~ ไม่ใครบังคับ หรือมีคนบังคับมึงอ่านหรอ
>>731 อย่าน้อยก็ยังห้ามตัวเองไม่ให้อ่านทันไงมึง
จะได้ไม่ต้องมีคนมาบ่นทีหลังว่า ไม่รู้มาก่อนเลย พอรู้แล้วเลิกอ่านเลย ไม่ใช่แนว
คือมันเซฟนักเขียน กับเซฟสนพอะมึง ว่ากูเตือนมึงแล้วนะ กูเตือนมึงหลายรอบแล้งนะ เห็นมั้ย กูใส่ไว้ 1 หน้าเต็ม ก่อนเข้าบทที่ 1 แล้วนะ ห้ามด่ากูนะ ถ้าไม่ใช่แนวมึง แล้วมึงยืนยันจะอ่านต่อ ก็ต้องโทษตัวเองนะ ไรงี้
สำคัญที่ต้องตรวจบัตรคนซื้อ ถ้าสนพ.เข้มงวดจริงก็ทำได้ มังงะเรื่องนึงไม่นานมานี้แต่จำไม่ได้ว่าสนพ.ไหนมีตรวจบัตร ให้ซื้อตรงสนพ.กับร้านที่กำหนด ถ้าอายุไม่ถึงต้องให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมเท่านั้น
>>727 ถ้ามึงไม่รู้หลักการคัดแยกประเภทนิยาย มึงหลีกเลี่ยงในการอ่านนิยายเถอะ ใครๆเข้าก็รู้ว่ามันอยู่ตรงปกหนังสือ หรือสันหนังสือ หรือปกหลังกันทั้งนั้น เวลาดูเรทเรื่อง
ไม่งั้นหนังสือซีนอยู่มึงจะเปิดอ่านเนื้อหาด้านในยังไงถามหน่อย เขากันให้ขนาดนี้ มึงยังไม่ยอมดูเองโทษใคร อย่าบอกนะแม้แต่ราคานิยายกับเรื่องย่อที่อยู่หลังปกมึงยังไม่เหลือบดู =_= แล้วทำไมมึงถึงยอมจ่กตังค์หลายร้อยให้เรื่องที่ตัวเองไม่รู้รายละเอียดเลยวะ
>>736 กูเป็นคนซื้อนิยายผ่านรีวิวอะ ไม่เคยดูปกหลัง ราคาก็ไม่ดูด้วย ไปลุ้นเอาที่เคาท์เตอร์ เพราะมีส่วนลด 15 % ดูราคาปกหลังมันก็ไม่ตรงกับความจริงอยู่ดี
กูแค่มาคอมเมนต์เฉยๆว่า มันมีคนบ่นว่าไม่รู้มาก่อน เลยคิดว่ามันน่าจะแปะป้าย tw ให้ชัดเจนกว่านี้ จะได้ไม่มีคนเข้าใจผิดอีก
ใส่บนปกหลังนี่กูว่าดีแล้วนะ อิห่า นิยายมันซีลพลาสติก ไปใส่TWในเล่ม คนซื้อไปแล้วมันก็ด่าอยู่ดีมะ กูเสียตังค์ไปแล้วอะ มึงอะแหละไม่ดูเอง
ยิ่งตรงบาร์โค้ดกูว่ายิ่งต้องเห็นเลยไหมวะ ก็มันเป็นตรงที่มีราคาอะ มึงคงไม่ซื้อของโดยไม่ดูราคาหรอกใช่ไหม?
ไอ้ห่า ก็ตอนมันลงออนไลน์มันไม่แดกเนื้อที่ไง มึงจะพิมพ์ตัวใหญ่เท่าควายกลิ้งเล่นก็ได้ หนังสือแม้งก็เล่มเท่านั้น เรื่องย่อข้างหลังแดกไปแล้วเกือบครึ่ง ข้างหน้ามีหน้าปก ไม่ว่านิยายหรือมังงะแม่งก็แปะเตือนไว้แถวๆนั้นกันหมดแหละ หรือวันหลังต้องมีปกห่ออีกรอบเขียนtw cwตัวโตๆแทน หน้าปกไม่ต้องดูแม่งล่ะ
>>744 เออ มึงจะบอกกูเป็นโทรลก็ได้ เรื่องของมึง
กูไม่ได้ซื้อองค์ชายสาม กูแค่เห็นคนในทวิตเตอร์บอกว่า ซื้อมาแล้วไม่รู้มาก่อนว่ามี incest พออ่านไปแล้วเจอ incest เลยเลิกอ่าน
กูเลยแค่คิดว่า สนพควรจะเน้น tw ให้เด่นกว่านี้มั้ย มันจะได้ไม่มีคนบ่นว่าไม่รู้มาก่อน แค่นั้น
ถ้า tw มันเด่นพอ มันคงจะไม่มีคนมาบ่นว่าไม่รู้มาก่อนเลย
>>743 ถ้าคนรีวิวไม่ได้เตือน แต่นักเขียนเตือนแล้ว สนพเตือนแล้ว แล้วมึงไม่ได้ดู นี่เป็นความรับผิดชอบของใครวะ..
กูก็เห็นด้วยนะว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ tw ตัวใหญ่ๆ เด่นๆ กว่านี้ เผินๆมันมองข้ามได้จริง อย่างน้อยวงเล็บไว้หลังเรื่องย่อก็ได้ แต่จะมาบอกไม่เตือน เตือนไม่พอ มันก็ไม่ใช่อ่ะเมิ้ง
อ่านนิยายปกติวิเคราะห์ได้เป็นขั้นเป็นตอน พอเป็นเรื่องที่สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมได้ล่ะสมองน้อยลงทันที มึงแม่งน่ารักว่ะ555555555
>>749 ส่วนตัวว่าอยากให้ tw มันเป็นตัวเหนังสือเหนือบาร์โค้ดขึ้นมา ฟอนต์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ตัวหยาสีแดง เพราะสีแดงสะดุดตาง่าน ปกติสนพ.จะใส่ไว้กะกรอบบาร์โค้ด แล้วตัวหนังสือขาว อาจจะไม่ค่อยเด่น แต่เข้าใจว่าเพื่อความสวยงาม 55555 (แต่ 18+ เอาตัวเล็กไว้ในบาร์โค้ดเหมือนเดิมได้ เพราะมี tw ขนาดนั้นก็่าจะรู้แล้วว่านี่ไม่ธรรมดา ฮา)
ดราม่านี้มันอะไรวะเนี่ย ด่าเนื้อเรื่องยังกะเป็นสื่ออนาจารแต่ไม่เคยอ่าน ด่าไม่มีtwแต่ไม่เคยดูปก
ที่ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆกัน ต้นเรื่องคือ romanticize incest แค่นี้ แต่โยงกันไปนู่นมั่วไปเรื่อย
เออ กูงงนะ กูแค่มาเสนอแนะ เผื่อจะลดความเข้าใจผิดของคนซื้อได้มากขึ้น
เห็นๆอยู่ว่ามันมีคนเข้าใจผิด ไม่ว่าจะเพราะไม่อ่านหรืออะไรก็แล้วแต่
แต่ทางสนพก็ควรจะช่วยลดความเข้าใจผิดของคนอ่านให้มากขึ้นมั้ย
ไม่ใช่เตือนนิดเดียวเป็นตัวเล็กๆ แล้วพอมีคนเข้าใจผิด ก็ไปด่าว่ามึงไม่ดูเอง
มันก็ต้องช่วยกันลดตรงนี้ถูกมะ
บางคนซื้อนิยายเพราะกระแส เห็นว่าสนุกก็ซื้อเก็บไว้ก่อน มันก็ต้องช่วยกันเตือน ทำให้มันชัด
ถ้าทุกวันนี้มันชัดพอ คงไม่มีคนมาบ่น แล้วพอคนมาบ่น มันก็ทำให้ดูไม่ดี
>>737 กูชอบความเห็นมึงนะ ดูโง่ดี เป็นกำลังใจให้ ชีวิตคือการเรียนรู้
>>750 ส่วนตัวกุนะ กุไม่ค่อยอยากให้มันติดเด่นหราบนปกจะหน้าหรือหลังเท่าไหร่เลยว่ะ อยากให้เป็นกระดาษแยก หรือพวกที่คาดหนังสืออ่ะ เคยเห็นป่ะ คล้ายๆปกแจ็คเก็ตแต่คาดแค่ช่วงล่างประมาณ 1/5 ของปก
แต่กุก็คิดนะ คนมันไม่อ่าน ไม่มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง ติดตัวเท่าควายบางทีมันก็ปล่อยเบลอว่ะ
>>755 คือถ้าโลกมีคนแบบมึง เรื่องย่อไม่อ่าน ราคาไม่ดู กูก็เขื่ออว่า ต่อให้ติดกระดาษแยกเขียนแนวใส่ปกหลัง มันก็คงบอกกูไม่เห็นอยู่ดี และเชื่อไปอีกว่าถ้าทำTWใหญ่ๆทับปกแม่งเลย ก็จะโดนคนบ่นว่าปกไม่สวยไปอีกอยู่ดี
ดังนั้นทาวที่ดีสุดคือปรับมายเซ็ตตัวเองซะ ดูแลตัวเองโว้ย
>>752 งั้นมึงรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงมีการรณรงค์เรื่อง incest
ไม่ใช่เรื่องศีลธรรมอันดีอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเรื่องของยีนส์ด้อยที่จะแสดงออกในรุ่นลูกรุ่นหลานถัดๆไป มันคือเรื่องของการสืบเผ่าพันธุ์ แล้วถ้าจะพูดถึงการสืบเผ่าพันธุ์ ก็ต้องกลับมาพิจารณาแล้วว่า ความสัมพันธุ์ ช-ช นี่ก็ควรรณรงค์ไหมวะ พวกมึงจะรณรงค์กันไหมล่ะ
โลกหมุนรอบตัวเองจัดเลยว่ะ
ถามหาเหตุผลก็ยังลากไปวนชุดศีลธรรมที่ท่องจำมา ไม่น่าคุยกันรู้เรื่องแล้วะ
>>766 ถ้ามันเป็นอาชญากรรม มันคือ sexual abuse ต่อให้มึงเปลี่ยนตัวละคร ไม่ใช่พ่อเอาลูกแต่เป็นลุงข้างบ้านมาเอาลูกสาวเพื่อนบ้านก็ผิด ความสัมพันธุ์ที่ไม่ยินยอมพร้อมกันทั้ง 2 ฝ่าย มีการบังคับ หรือใช้อำนาจ ยังไงก็ผิด แต่เรื่องนี้มัน sexual abuse เหรอวะ พวกเมิงบอกจะรณรงค์เรื่องนี้เพราะมัน incest แล้วรู้หรือยังว่าข้อมห้าม incest มันคือเรื่องของการสืบพันธุ์
>>763 เขารณรงค์กันเพราะมันมีเรื่องพาวเวอร์ไดนามิกในครอบครัวด้วย พ่อแม่จะเอาลูก พี่จะเอาน้อง ลุงป้าน้าอาจะเอาหลาน มันจะมีฝ่ายใดฝ่ายนึงที่อำนาจน้อยกว่าสู้ไม่ได้แต่หนีไม่ได้ด้วย ยังไม่นับประเด็นกรูมมิ่งอีกนะ อินเซสนี่มันเป็นปัญหาที่โยงไปหลายประเด็น
จะบอกว่านักเขียนเขียนยังไงก็ได้ แต่นักอ่านต้องระวังกันเอง แบบนี้กูว่าไม่ถูก เพราะถ้านักเขียนกับสนพไม่เซฟห่าอะไรเลย ปล่อยเสรีทุกอย่างไม่มีการควบคุม ภาพลักษณ์ของวงการก็จะตกต่ำ พ่อแม่ระแวงว่านิยายที่ลูกกูอ่านนี่มันเวิร์คไหม ไม่สนับสนุนแนววายดีกว่าไหม ผลเสียก็จะตกกับนักเขียน สนพ และตัวคนอ่านเอง แล้วนี่กูเห็นส่วนใหญ่ก็แค่เตือนๆนะ ไม่เห็นมีใครจิกว่าอชสเลวร้ายห้ามพิมพ์ปะ เห็นมีแต่บางคนนี่แหละที่จะให้ปล่อยฟรี ทุกคนรับผิดชอบตัวเอง ไม่ได้ไหมมึง
กุอ่านไปละก็งงๆ ว่าเค้าฉอดทำไมนะ ถ้าหนังสือมันติดเรทชัดเจน จะ incest ก็ไม่มีปัญหาไรนะ คนอ่านควรแยกแยะเองได้ป่ะวะ ว่าในชีวิตจริงมันไม่ใช่ norm (ของปัจจุบัน - แต่ถ้ากังวลเรื่องยีนด้อย ชาย-ชาย มันก็ไม่ท้องนี่หว่า)
ถ้าเป็นห่วงเรื่อง child abuse ปัญหาจริง ๆ คือเด็กก็ควรได้รับสื่อที่เหมาะสมกับวัยและการเลี้ยงดูที่เหมาะสม ถ้าเป็นเด็กที่พ่อแม่ปล่อยปละละเลยนี่ก็ไม่ต้องรอนิยายอ่ะ เด็กมันเข้าเนตไปดูหนังโป๊เองได้อยู่ละ อ่านนิยายลำบากกว่าเยอะ
กุก็ไม่ได้อยากอ่านนิยายสร้างสรรค์สังคมตลอดเวลา บางทีก็อยากอ่าน toxic relationship บ้งบ้างไรบ้าง
>>771 "ไม่เห็นมีใครจิกว่าอชสเลวร้ายห้ามพิมพ์ปะ" >> มี แรงด้วย ด่ากระทั่งคนอ่านด้วย ห้ามเขียน ห้ามอ่าน พอคนอ่านบอกแยกแยะได้ก็ทำเป็นอ้วก บอกว่านี่คือพวกเพิกเฉยต่อเหยื่อ ทั้งที่คนอ่านไม่มีใครบอกเลยว่าเหยื่ออินเซสต์ในชีวิตจริงเป็นเรื่องปกติ
ก็ไม่ได้บอกว่านข.ยังไงก็ได้ พูดกันอยู่ จัดเรท ขึ้นคำเตือน คุยรูปแบบตำแหน่งคำเตือน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ"วิจารณญาณคนเสพ" ไม่งั้นเตือนแค่ไหนก็มีพวกบอกไม่เห็น ไม่รู้ ไม่สนใจ อยู่
>>775 สำหรับกู กูมองที่การจำกัดการเข้าถึง
เพราะตัวเนื้อหา มันห้ามกันไม่ได้
ถ้าจำกัดที่เนื้อหา มันจะมีคนแต่งนิยายลงใต้ดิน
เหมือนพวกหนัง av แบบแปลกๆอะ
ถ้าห้าม ก็จะมีคนทำอยู่ดี แค่หลบไปใต้ดิน
กูเลยมองว่า ไม่ต้องไปไล่ให้อยู่ใต้ดิน แต่ต้องจำกัดเรท จำกัดอายุคน ให้โตแล้ว ถึงอ่านได้
มึง กูขอแทรกถามนิดนึง ถ้ามีนิยายตัวเอกสองคนชาติก่อนเป็นพี่น้องกัน รักกันแบบพี่น้องไม่ชู้สาวใดๆ ตายแล้วเกิดใหม่จำความทรงจำเดิมได้จำกันได้หมด ชาตินี้เสือกรักกันแบบชู้สาว สำหรับพวกโม่ง อินเซสมั้ย
ชาตินี้คนละพ่อคนละแม่
>>773 ส่วนใหญ่เรื่องที่กูอ่านมันอาจจะเริ่มรู้จักจากความสัมพันธ์แบบนั้นจริง แต่คบหาตอนที่พ้นภาวะนั้นมาแล้ว ถ้าเป็นเรื่องที่ดำเนินคสพตอนที่สถานะยังไม่เท่า กูก็เห็นโดนฉอดอยู่นะ แค่บางเรื่องอาจรอดเพราะไม่ดังปะวะ แต่มึงไม่ต้องห่วงว่าจะไม่เหลืออะไรให้อ่าน เขาก็อ่านไปฉอดกันไปนี่แหละ อย่างโลลิต้า ฟิฟตี้เฉด ทไวไลท์ พวกนี้ก็ไม่ใช่นิยายเฮลตี้นะ
>>774 ถ้าจิกแรงขนาดนั้นกูก็ไม่เห็นด้วยนะ กูอ่านแค่ในนี้ ก็ไม่เห็นแรงขนาดนั้นนี่หว่า ยังว่าอยู่ว่าทำไมต้องเกรี้ยวกราด
>>775 ถ้าความเห็นกู เคสนี้มันทั้งสองอย่างอะ แต่มันอย่างละนิดละหน่อย อินเซสติด tw แล้วก็จริง แต่มันโรแมนติไซส์ด้วย อยากให้นักเขียนเติมเนื้อหาให้เซฟกว่านี้ แล้วเท่าที่กูจำได้ ตอนลงเว็บไม่ได้ตรวจบัตรปะนะ ไม่ชัวร์ คือถ้ามัน 18+ ก็ตรวจบัตรเซฟๆอีกรอบก็ดี มันจะได้เป็นยันต์กันทั้งตัวนักเขียนเองทั้งนักอ่านเด็กๆ ถ้านักเขียนกันทุกอย่างแล้วยังโดนฉอดจะได้มีเหตุผลมาโต้กลับ อชสมันไม่ได้เนื้อหาแรงอะไรเลย บางส่วนจรรโลงมากด้วยซ้ำ กูเสียดายถ้าจะเลิกขาย
>>779 ตอนลงเว็ปนี้เว็ปไหนที่ว่าไม่มีตรวจ เว็บที่เขาลงมันมีให้ยืนยันอายุพร้อมบัตรปชช.นี้ สำหรับนิยาย18+
ถ้านักอ่าน(หรือเปล่า?) ฉอด แบบสมองไหลขนาดนี้ ทุกอันที่บอกมา มั่ว + ไร้หลักฐาน เชิญไปพบแพทย์
คำเตือนไม่ใช่ยันต์เนอะ ทำไมถึงอยากให้เป็นยันต์?
พยายามโยนให้นักเขียนจัง ทำไมไม่โยนให้ตัวเองมั้ง ว่าทำไมมาสิงในโหมดนี้
เป็นวลีติดปาก ตรด ที่มีศาสดาคนเดียวกันมั้ง 'คำเตือนไม่ใช่ยันต์กันด่า' กูว่ากูเคยอ่านเจอคำพูดนี้จากทวิตใครสักคน
ตอนขายหนังสือทำไมไม่ตรวจบัตรไปเลยละคะ อุ้ยย โดนยกเลิกขายไปดีแล้ว พวกของก็อป
ถ้าองค์ชายสามอยู่ในหมวดนิยาย pwp จะมีคนด่าปะวะ
กูเห็น pwp ใน raw แนวแรงๆ ผิดศีลธรรมเยอะนะ
จริงๆกูว่า pwp เป็น tw ที่มีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว
เห็นฉอดองค์ชาย ฮัสกี้ หนึ่งปรารถนา
แต่ไม่เห็นมีคนฉอด pwp เลย
เหมือนทุกคนมองข้าม ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
มึงต้องถามไอ้คนเริ่มฉอดว่า ตัวมันขาวบริสุทธิจริงๆ หรือเปล่า ก่อนฉอดคนอื่น หรือมันทำตัวเป็นแม่ดอกบัวขาว พิทักษ์คุณธรรม 5555
งั้นแสดงว่าจริงๆแล้ว เรื่องโรแมนติไซส์หรือไม่ มันอยู่ที่ความคาดหวังของสังคมด้วยปะ
พอเป็นนิยายที่เริ่มดัง คนก็เริ่มคาดหวังว่านิยายมันควรจะอยู่ในกรอบของศีลธรรมอันดีงาม
แต่ถ้านิยายไม่ดัง คนก็ไม่คาดหวังว่าจะโรแมนติไซส์หรือไม่ มีข้อคิดคติสอนใจหรือเปล่า
เหมือนคนเป็นดารา พอเป็นดาราดัง ก็คาดหวังว่าต้องประพฤติตัวดีงาม
กูคิดแบบนี้ได้มั้ยว่า คนเขียนจะเขียนนิยายแบบไหนก็ได้ แต่ถ้านิยายมึงดัง คนจะคาดหวังให้มึงเขียนนิยายที่อยู่ในกรอบของความดีงาม มีข้อคิด คติสอนใจ ไม่โรแมนติไซส์สิ่งที่ผิดศีลธรรม
>>780 กูอ่านที่มึงเขียนแล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าจะสื่ออะไร
แต่ที่กูจะพูดคือ รอร.มีตรวจบัตร แต่ถ้ากูจำไม่ผิด เขาไม่ได้ตั้งให้ตรวจบัตรหรือเปล่า อันนี้กูจำไม่ได้ ถ้าเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วย
tw มันคือการเซฟตัวเองระดับนึงว่าเตือนแล้วนะ ไม่โรแมนติไซส์คือเซฟอีกชั้นว่าไม่ได้ตั้งใจจะส่งผ่านความคิดบ้งๆนะ มันไม่ใช่ยันต์กันคนฉอด แต่มันคือยันต์กันคนมาด่าว่าไม่รับผิดชอบ หรือพอ tw ไม่ใช่ยันต์กันด่าแล้วไม่ต้องติด? ใครมาอ่านแล้วทริกเกอร์ก็ช่างหัวแม่ง?
งานมันก็งานของนักเขียน คนที่ติด tw กับแก้ไขเนื้อหางานได้ก็มีแต่นักเขียน ไม่ให้โยนให้นักเขียนแล้วจะโยนให้ใคร ให้นักอ่านอ่านแล้วไปแต่งเรื่องหาข้ออ้างให้เองในใจเหรอ
>>788 เรียกว่าถ้านิยายดัง คนจะคาดหวังให้มันไม่มีที่ติดีกว่า ไม่ใช่แค่โรแมนติไซส์หรอก อย่างบุพเพฯก็มีคนบอกว่าเนื้อหาประวัติศาสตร์ไม่แน่น คู่กรรมก็บอกว่าโรแมนติไซส์กองทัพญี่ปุ่น เพชรพระอุมาก็โดนเรื่องสนับสนุนให้ฆ่าสัตว์ สี่แผ่นดินนี่คนเขียนเองด้วยซ้ำที่สับงานตัวเองว่าไม่สมจริง คนอย่างแม่พลอยไม่ใช่ลักษณะของชาววัง
กูคิดว่าจริงๆแล้วคนไม่ได้คาดหวังให้นิยายต้องอยู่ในกรอบของความดีงาม แต่นิยายที่ดังมักจะมีคนตั้งคำถามว่ามันดีขนาดนั้นจริงเหรอ แล้วก็ขุดคุ้ยความบ้งของมันออกมา อาจจะเพื่ออวดว่าตัวเองฉลาด ไม่อวยนิยายตามกระแส หรือแค่วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้าจริงๆ หรืออะไรก็ช่างเหอะ แต่บังเอิญอชสมีจุดอ่อนที่การโรแมนติไซส์อินเซสเท่านั้นเอง
>>789 1. เขาติดเตือนแล้ว เขาตั้งแล้ว มึงอย่าว่าถ้าจำไม่ผิด มึงเอาหลักฐานที่บอกว่า เขาไม่ได้ตั้งมาแนบเลย เพราะกูเห็นกฎเว็บเขาระบุแล้ว และตัวกูเองก็ผ่านการตรวจบัตรมาแล้ว
2. มึงเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสั่งบุคคลบุคคลหนึ่ง ให้แก้ไขงานเขียนหรือ ถ้ามึงไม่มีอำนาจ มึงอย่าไปบอกให้เขาแก้
3. ในเมื่อเขาติดเตือนแล้ว ไปย้ำคิดย้ำทำกับเขาเพื่ออะไร ถ้ามันยังมีเยาวชนหลงเขาไป(ถ้ามีช่วยเอาหลักฐานมาให้ดูด้วย มึงไม่กล้าแจ้งกูแจ้งให้เอง) ความผิดนักเขียน? มึงกลับไปอ่านระเบียบ กฎหมาย กฎเว็บอีกที
4. นักอ่านคิดเอง แยกแยะ เรื่องจริง เรื่องแต่งไม่ได้ ต้องดูอายุ ถ้าเยาวชนเขาไม่ได้อนุญาติอยู่แล้ว เข้าไปได้ไง ถ้าไม่ใช้เยาวชน น่าจะมีปัญหาที่สมอง แนะนำพบผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์
ไม่เห็นมีใครตอบกูเลย ที่เขาพูดถึงหมายถึงกันส่วนใหญ่หนังสือเล่ม หรือหาข้ออ้างไม่ได้เลยบอกแต่รอรตรวจแล้วน้าาา เพราะงั้นโดนแบนไปเหอะ บายยของเสิ่นเจิ้น ปกก็ละเมิดลิขสิทธิ์ตอนแรกไม่อยากจะอุดหนุน
เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของนักเขียนเลยนะ ถ้าไปเขียนและให้สนพ.ญี่ปุ่นขาย มีตามเช้ลฟ์แบบแหกขาตรึม จะเอาตีมอินเซสก็เยอะ ควรจะไปทุบร้านหนังสือที่ไม่จัดโซนดีกว่ามั้ย ไม่เกี่ยวเลยว่าออกสนพ ประเทศเจริญแล้วมันก็ขายได้โว้ย อยากจะทำตัวเป็นผู้เจริญแล้วแต่ความจริงก็กะลาอะนะ
>>791
1. กูแบ่งรับแบ่งสู้ตั้งแต่แรกนะว่าไม่รู้ว่าเขาตั้งตรวจบัตรหรือเปล่า กูบอกว่า "เท่าที่กูจำได้" เพราะตอนที่เขาเอาลงรอร. กูก็เข้าไปอ่าน และกูจำได้ว่าตัวเองไม่ได้ยืนยันบัตร และบอกแล้วว่า ถ้าจำผิด กูขอโทษด้วย ไม่เคยกล่าวหาเขาเลย อย่าเพิ่งโกรธจนหน้ามืด อ่านดีๆก่อน ใจเย็นๆ
2. กูไม่ได้เป็นหน่วยงานอะไร กูบอกแล้วว่า "ความเห็นกู" เขาไม่แก้ก็เรื่องของเขา แค่โดนฉอดต่อไป แก้แล้วอาจจะโดนฉอดต่อก็ได้ แต่กูไม่เคยฉอดเขา
3. กูย้ำคิดย้ำทำกับพวกที่บอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย เขียนอะไรก็ได้ ไม่ต้องรับผิดชอบสังคม สังคมต้องรับผิดชอบตัวเอง กูมองว่ามันไม่ถูก กูมองว่าต้องช่วยๆกัน มีคนจิ้มเลขถามกูมาว่าปัญหาอยู่ตรงไหน กูก็ตอบไปตามที่กูคิดเฉยๆ
4. นั่นความเห็นมึง แต่กูมองว่าปัญหามันละเอียดอ่อนกว่านั้น มันไม่ได้ง่ายๆแค่เอาอายุเป็นเกณฑ์ปุ๊บ ปัญหาทุกอย่างหมดไป
ตั้งแต่กูเข้ามาร่วมวงประเด็นนี้ กูไม่เคยด่านักเขียนอชสเลยนะ ไม่เคยด่าใครเลยด้วย เรื่องเด็กอ่านนิยายพอร์นกูก็ยกตัวอย่างว่าถ้าไม่คุมมันจะเป็นยังไง แล้วมึงจับแพะชนแกะพุ่งใส่กูทำไมคะ?
มาแล้วจ้า มันเริ่มแล้ว ถกกันเรื่องกันอยู่ดีๆเริ่มมีคนโยงการเมืองแล้วจ้า~ เหมือนมู้ที่แล้วเดะเลยเถียงกันเรื่อง incest สักพักโยงการเมือง ไปเลยไปกันให้สุดกูจะรอดูว่าจะหยุดกันที่ตรงไหน
มึงเอ่ย มึงไปบังคับให้คนมีศีลธรรมยันสื่อบันเทิงมันเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้โว้ย นิยายโป๊ ภาพวาดโบราณเปลือยมันจะมีตั้งแต่ยุคพันกว่าปีก่อน เว็บหนังAVอยู่ยืนยงมีคนใช้ทั่วโลก
นิยายระดับตำนาน ทุกเรื่องขาวสะอาดไหม? ก็ไม่ บางเรื่องเต็มไปด้วยความโรคจิต ผิดมนุษย์ก็มี //ชี้ไปที่โลลิต้า
สื่อเสพระบายความเงี่ยน หรือจะความชอบตามเฟติช สามารถเสพได้ไม่มีปัญหา ตราบใดที่คนเสพสามารถแยกเยะได้และไม่เอาไปทำจริง
แต่แน่นอนว่าสื่อก็ควรตระหนักรู้และป้องกันการเข้าถึงผู้ชมที่ไม่สามารถแยกเยะได้ด้วยตัวเอง หรือก็คือเยาวชน ซึ่งเรื่องแม่งเปะ TW ทั้งในฉบับเว็บ เว็บมีระบบตรวจบัตรก่อนเข้าโหมด 18+ และฉบับเล่มก็มีTWเปะที่ปกแล้ว ถ้ายังอุตสาห์เสร่อฝ่าเข้าไปนี่คือกูควรด่าใครดีวะ?
และมึงอย่าพูดนะว่าเกิน18แล้วยังไม่รู้อีกว่าincestมันไม่ควรทำ อย่าทำจริงนะโว้ย ถ้าถึงขนาดนั้นมึงอย่าอ่านนิยายหรือเสพสื่อเหี้ยอะไรบนโลกอีกเลยเหอะ
กูฟังสเปซคุยเรื่องอินเซส แล้วเหมือนคุยงานวิชาการเลย
>>799 มึงเคยเข้าร้านหนังสือญี่ปุ่นจริงๆรึเปล่าวะ งานนอกลู่นอกทางไม่ได้วางหราอย่างที่มึงคิดหรอกนะ มันมีเชลฟ์เฉพาะ บางทีก็มีร้านเฉพาะ สิ่งที่มึงจะเจอกลางร้านหนังสือปกติอย่างร้านมารุเซนไม่ใช่การ์ตูนพี่น้องอ้าขาใส่กัน แต่เป็นโคนันเล่มพิเศษรวมตอนที่อามุโร่ปรากฏตัวค่ะ งานเอโร่ยนี่บางร้านตรวจบัตรตอนซื้อด้วยซ้ำ หรืออย่างร้านหนังสือที่ไต้หวันก็มีเชลฟ์ที่อุทิศให้แนวนี้โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่หันหลังให้ประตูร้านหรือไม่ก็อยู่ด้านในๆ ไอ้ด้านหน้าๆน่ะวันพันช์แมนกับอุลตร้าแมน ยิ่งถ้าเป็นร้านหนังสือใหญ่อย่างเฉิงผิ่นนี่มึงไม่มีทางได้เจอแนวค้ำคอร์หรอก
ใครกันแน่ที่อยู่ในกะลาวะ
บอกไม่ได้บังคับแต่บอกว่าให้นักเขียนเขียนเนื้อหาเซฟๆ แล้วถ้านข.อยากเขียนพล็อคคนเหี้ยๆแต่จบดี เนี่ย มึงบอกไม่บังคับแต่ที่มึงพูดก็บังคับแล้วว่าต้องเขีบนเรื่องที่คอยสอนศีลธรรมให้คนทั่วไปเท่านั้น
เพราะมีคนอย่างมึงที่ออกมาแบบนี้พล็อตแม่งจะไปไหน วนไปวนมาอยู่ที่เดิม คนที่อยากเขียนแนวอื่นก็กลัวจะโดนฉอด ทำตัวเป็นคนมีศีลธรรมแต่ง้างมือด่าคนอื่นขนาดนี้อ่ะนะ 555555555
>>795
1.ถ้ามึงย้ำคิดย้ำทำ มึงต้องไปพบแพทย์ เพราะนอกจากย้ำคิดน้ำทำ มึงพยายามเอาข้อมูลเท็จมาลงโซเซียลด้วย และส่งต่อข้อความเท็จให้ผู้อื่นด้วย เพื่อใส่ร้ายคนหนึ่งคน โดยไม่มีหลักฐาน
2. ในเมื่อมึงรู้ว่าความเห็นมึงคนเดียว งั้นมึงก็ไม่ควรเอาความคิดมึงคนเดียว ไปตัดสินคนคนหนึ่งนะ ถ้ามึงคิดคนเดียวและไม่ได้บอกต่อความคิดและพยายามชักชวนบุคคลอื่นให้คิดตามไปกับมึงจนเกิดความเกลียดชังหมู่ เพื่อทำร้ายคนคนหนึ่ง มันก็ไม่มีปัญหา
3. ช่วยกัน ให้ถูกวิธี และต้องเป็นไปตามวิธีกฎหมายอย่างถูกต้องนะ วิธีที่มึงทำอยู่ คือการตั้งศาลเตี้ย ไร้ซึ่งหลักฐาน และความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญที่มีใบประกอบวิชาชีพเป็นที่ยอมรับในสังคมส่วนใหญ่
4. ไม่มีใครเขียนอะไรก็ได้นะมึง เข้าใจใหม่ ทุกอย่างกระทำภายใต้กฎหมาย และเขาได้ทำตามกฎหมายนั้นแล้ว ไม่งั้นคงมีหมายระงับการจำหน่ายมาเอง ไม่ต้องรอให้บุคคลธรรมดามาชี้ เขามีหน่วยงานตรวจสอบ มีคณะกรรมการ มีกฎระเบียบ มีบก. และมีสนพ.กำกับเนอะ มึงอย่าสรุปเอาเองคนเดียว หลักฐานมึงไม่พอ มึงมีแต่ความคิดมึงคนเดียว ความคิดมึงคนเดียวไปตัดสินความผิดคนอื่นได้หรอ คิดดีๆ
กูไม่ได้บอกว่านิยายทุกเล่มต้องดีมีศีลธรรมนะ แต่ถ้าประเด็นมันอ่อนไหวมาก มันก็มีโอกาสโดนฉอดมาก เลี่ยงไม่ได้หรอกมึง
แต่มึงสังเกตรึเปล่าว่าโลลิต้านี่สื่อที่โดนด่าว่าโรแมนติไซส์เปโดมีแค่หนังนะ หนังสือรอด แถมได้รับคำวิจารณ์ในทางดีอีกต่างหาก เพราะหนังสือมันไม่ได้วาดภาพเปโดออกมาสวยงามไง พระเอกในหนังสือคือโรคจิตดีๆนี่เอง
กูชอบเสพนะ งาน incest แต่ยืนยัน นอนยัน เอาลงใต้ดินเถอะ ไม่ก็ถ้าอยากลงบนบกตอนเขียนจะให้เขาอ่านก็จัดเรทอายุหน่อย ชายสามลงใน raw มันกำหนดเรทอายุเข้าอ่านได้หนิ จริงๆแค่ติดคำเตือนเด็กสมัยนี้มันไม่ฟังกันหรอแถมทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ได้ด้วย พอคนอ่านมีวิจารณญาณไม่มากพอมาอ่านเกิดปัญหาตามมาชัวร์อยู่แล้ว เพราะงั้นกำหนดเรทอายุให้เข้าอ่านเถอะ แต่ถ้าเจอเด็กเวรขโมยบัตรปชช.พ่อแม่แล้วเข้ามาอ่านก็ปล่อยไปเหอะ ถือว่านข.ทำเต็มที่แล้ว
กูฟังสเปซแล้วเหมือนไม่ใช่สเปซนักเขียน จริงๆแล้วเป็นสเปซนักกฏหมาย นักสังคมสงเคราะห์ไปแล้ว
หรือจริงๆดราม่าอินเซสมันใหญ่จนต้องเล่นถึงขั้นนี้วะ
>>806 กุออกละไม่ไหว ตั้งห้องเรื่องแนวๆงานเขียน แต่ดันพูดลากไปถามแต่ความผิดในโลกจริง โฮสตอนเปิดก็ศีลธรรมๆๆอยู่ได้ สปิกเกอร์คนที่ดูเรื่องสิทธิเด็กอะตอบดี เค้าแนะแนวๆก็ซ่อนก็ปิดใหิมิดชิดไปกับตอบคำถามว่าทำไมผิดได้ชัดเจนดีเลย แต่ถ้อยคำเหมือนในโม่งวันนี้หน่อยๆไม่รู้กูคิดไปเองไหม 55
>>814 ไปอ่านความเห็นตัวเองก็รู้แล้วปะ ขี้เกียจย้อน ย้อนแค่นี้ นะ อ่านแล้วพิจารณาสิ่งที่ตัวเองคิดตัวเองพิมพ์ด้วย
3. กูย้ำคิดย้ำทำกับพวกที่บอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย เขียนอะไรก็ได้ ไม่ต้องรับผิดชอบสังคม สังคมต้องรับผิดชอบตัวเอง กูมองว่ามันไม่ถูก กูมองว่าต้องช่วยๆกัน มีคนจิ้มเลขถามกูมาว่าปัญหาอยู่ตรงไหน กูก็ตอบไปตามที่กูคิดเฉยๆ
4. นั่นความเห็นมึง แต่กูมองว่าปัญหามันละเอียดอ่อนกว่านั้น มันไม่ได้ง่ายๆแค่เอาอายุเป็นเกณฑ์ปุ๊บ ปัญหาทุกอย่างหมดไป
กูฟังสเปซแล้วกูสงสัย นิยายมันจะขัดกฎหมาย หรือสนองนี๊ดไม่ได้เหรอวะ
>>817 แล้วกูบอกว่าต้องมีศีลธรรมตรงไหน มึงอ่านดีๆ กูบอกว่า "พวกที่บอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย เขียนอะไรก็ได้" กูด่านักเขียนตรงไหน คนที่บอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลยเขียนอะไรก็ได้คือนักเขียนเหรอ เปล่าทั้งนั้น นักเขียนยังไม่ได้พูดอะไรเลย คนพูดคือโม่งบางตัวรึเปล่า คือมึงรึเปล่า
และกูน่ะนะ พูดตั้งแต่
>>609 "กูไม่ได้คิดว่าแนวนี้ห้ามแต่งนะ แต่ถ้าจะแต่งก็ควรเสริมเซ็ตติ้งให้แน่นกว่านี้ว่ะว่าทำไมมันถึงปกติ"
>>653 "ไม่ใช่ว่านิยายทุกเรื่องต้องใสสะอาดนะมึง แค่ต้องไม่ฟอกขาวให้พฤติกรรมแย่ๆเท่านั้นแหละ จะเขียนให้โลกในนิยายมันเหี้ยห่าแฟนตาซีจัดๆหรืออะไรก็เขียนไป แต่เขียนด้วยว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ถือว่ารับผิดชอบสังคมหน่อย เผื่อเด็กหลุดมาอ่าน"
>>684 "นิยายที่มีเนื้อหาผิดศีลธรรมก็ควรมีคำเตือน"
>>695 "กูก็ไม่ได้หวังให้นิยายทุกเรื่องต้องมีคุณธรรมล้ำเลิศอะไรหรอกนะ แต่ตรงไหนที่ผิด ก็บอกชัดๆหน่อยเหอะว่าผิด ไม่ควรเลียนแบบ มีบรรยายซักนิดนึงว่าสิ่งนี้อันตราย ทำไมอันตราย มันคงไม่ทำให้นักอ่านที่มาเพื่อ sex fantasy หมดสนุกอะไรมากมายมั้ง"
>>704 "กูมีปัญหาแค่กับการโรแมนติไซส์ ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าห้ามเขียนอีกแหละ แค่อยากให้ช่วยใส่ลงไปหน่อยว่ามันไม่ดียังไง อย่าพยายามฟอกขาว"
>>715 "***กูไม่ได้คิดว่านิยายมันผิดนะ*** แต่กูมองว่าคนที่เขียนนิยายเนื้อหาผิดศีลธรรมเนี่ย เตือนคนอ่านได้ก็เตือนๆเหอะ จะใส่มาเป็น tw หรือเนียนๆเขียนมาในนิยาย หรือจะเขียนให้ทำผิดแล้วเจอปัญหาอะไรก็ใส่ๆมา อย่าเขียนเหมือนมันเป็นเรื่องปกติที่มันไม่มีปัญหาเลย คนที่อาศัยนิยายไปเอาเปรียบเด็กมันจะได้ลำบากขึ้นบ้าง"
>>779 "แต่มันโรแมนติไซส์ด้วย อยากให้นักเขียนเติมเนื้อหาให้เซฟกว่านี้ แล้วเท่าที่กูจำได้ ตอนลงเว็บไม่ได้ตรวจบัตรปะนะ ไม่ชัวร์ คือถ้ามัน 18+ ก็ตรวจบัตรเซฟๆอีกรอบก็ดี มันจะได้เป็นยันต์กันทั้งตัวนักเขียนเองทั้งนักอ่านเด็กๆ ถ้านักเขียนกันทุกอย่างแล้วยังโดนฉอดจะได้มีเหตุผลมาโต้กลับ อชสมันไม่ได้เนื้อหาแรงอะไรเลย บางส่วนจรรโลงมากด้วยซ้ำ กูเสียดายถ้าจะเลิกขาย"
>>790 "กูคิดว่าจริงๆแล้วคนไม่ได้คาดหวังให้นิยายต้องอยู่ในกรอบของความดีงาม แต่นิยายที่ดังมักจะมีคนตั้งคำถามว่ามันดีขนาดนั้นจริงเหรอ แล้วก็ขุดคุ้ยความบ้งของมันออกมา อาจจะเพื่ออวดว่าตัวเองฉลาด ไม่อวยนิยายตามกระแส หรือแค่วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้าจริงๆ หรืออะไรก็ช่างเหอะ แต่บังเอิญอชสมีจุดอ่อนที่การโรแมนติไซส์อินเซสเท่านั้นเอง"
ไม่มีข้อความไหนของกูที่บอกว่าห้ามเขียนงานผิดศีลธรรมเลย ถ้าแค่นี้ยังอ่านไม่เข้าใจก็เรื่องของมึงละ ไร้สาระฉิบหาย
>>820 ประเทศไหนอินเซสรักกันได้ อินเซสใน GOT ก็โดนฉอดเหมือนกันค่ะ แต่เนื้อหามันไม่ได้เน้นอินเซส มันเน้นการดิ้นรนไขว่คว้าอำนาจ และเซ็ตติ้งมันแน่น เป็นแฟนตาซียุคสงครามอะไรก็เกิดขึ้นได้ แถมลักษณะภาษายังยากเกินกว่าที่เด็กจะอ่านได้
หรือถ้าจะอ้างญี่ปุ่นก็ >>803
อชสมันเซ็ตติ้งจีน จีนมีกฎหมายห้ามตั้งแต่ราชวงศ์โจว ถ้าจะเขียนอินเซสก็ควรปูให้แน่นกว่านี้ กูพูดไปแล้วใน >>609
คงเพราะประเทศที่เจริญแล้วคุณภาพประชากรของของประเทศเขาสูงกว่าประเทศเราไง เมื่อเทียบอัตราส่วนของประชากรกับอัตราส่วนของการเกิดอาชญากรรมเขาน้อยกว่าประเทศเราจริงๆ เทียบกับคุณภาพประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเราแล้วมีแต่พวกมือถือสากปากถือศีล คนไร้วิจารณญาณที่มองเห็นความรักแค่ด้านเดียว คนแยกแยะไม่ได้อันไหนนิยายอันไหนความจริง พวกไร้สติที่ถูกค่านิยมในนิยายบ้างเรื่องล้างสมอง คนเลียนแบบสื่อการกระทำในนิยายแล้วนำมาใช้ในชีวิตจริง คน…บลาๆๆ ถ้าถามว่าทำไมประเทศเราทำแบบประเทศที่เจริญแล้วไม่ได้สาเหตุคงเป็นเพราะคนจำพวกที่กูกล่าวมาด้านบนมีจำนวนมากกว่าจำนวนคนมีคุณภาพละมั้ง คุณภาพประชากรส่วนใหญ่ก็กำหนดคุณภาพประเทศนั้นไปด้วย คุณภาพประชากรส่วนใหญ่เป็นยังไงภาพลักษณ์ประเทศก็แสดงออกมาแบบนั่นแหละ
สรุปก็คือ บางคนแค่อยากจะให้งานอินเซสไทยวางขายบนดินอย่างพรั่งพร้อมทุกคนยอมรับเท่านั้นแหละ ส่วนใครจะเดือดร้อนก็ช่างแม่ง รับผิดชอบตัวเองไปสิ คิดงี้ไม่ขยะแขยงตัวเองมั่งเหรอวะถามจริง
กูเหงา กูเปิดประเด็นใหม่ดีกว่า
เห็นแท็กแบน notme เรื่องมันเป็นไงวะ เล่าที
บอกแทบตายว่าตัวเองไม่อะไรกับงานเขียนถ้านักเขียนจะเขียนอะไรแบบนี้นะ ไม่เคยฉอด สุดท้ายแหกตัวเองว่าจริงๆก็แค่คนที่ไม่ชอบอ่าน
มันมีคนไหนบอกไปบ้างว่าอยากให้ทุกคนอ่านแล้วยอมรับเรื่องนี้ว่ามันถูกต้อง มันมีแต่คนบอกว่าให้จำกัดอายุแต่ไม่ควรจำกัดว่าต้องเขียนแบบไหนเท่านั้นถึงจะขายงานได้ ถ้านักเขียนทั้งเตือนทั้งจำกัดการเข้าอ่าน/ซื้อแต่คนมันอยากจะอ่านจนหาทางลัดมึงจะให้ทำยังไง คำตอบมึงมีแต่ก็เขียนให้มันตรงตามศีลธรรมสิ เนี่ย แค่นี้มึงยังไม่ยอมรับความคิดตัวเองเลย เหมือนมึงเข้าเว็บโป๊แล้วไปด่าว่าทำไมหนังโป๊ถึงเย้ดกันแบบนี้อ่ะ
นักฉอดนี่ แยกแยะจินตนาการกับความจริงไม่ได้เหรอวะ ถึงต้องมาฉอด ชอบยกตัวอย่างเหตุการณ์จริง กุถามหน่อย พวกเหตุการณ์จริงนี่มันเลียนแบบนิยายมาเหรอ เห็นพี่น้องเยกันเลยอยากไปเยพี่น้องตัวเองบ้าง พ่ออ่านนิยายแล้วอยากเลียนแบบเลยไปเยลูก งี้เหรอ แค่ common sense มันก็ไม่ได้แล้วอ่ะ แล้วที่บอกให้เอาลงใต้ดินอย่าโจ่งแจ้ง สุดท้ายแล้วพวกมึงคิดว่าห้ามได้จริงเหรอ
ใส่เรท ใส่tw แล้วหัดให้คนมันมีความคิด มีวิจารณญาณไม่ดีกว่าเหรอวะ ทุกวันนี้แทบจะมีแต่คนคิดแทนไปหมด พวกมึงไม่ overprotect สังคมเกินไปหน่อยเหรอ เรื่องนั้นก็ไม่ได้ เรื่องนี้ก็ห้าม กลัวสารพัดกลัว ไม่เหนื่อยกันเหรอ มีกี่อย่างให้พวกมึงมานั่งแบน ทั้งการ์ตูน อนิเมะ หนัง ซีรี่ส์ ละคร หรือแม้แต่สื่อการเรียนเนี่ย แบนหมดนี่ไม่เหนื่อยเหรอ สิ่งสำคัญไม่ใช่การสอนให้รู้จักแยกแยะเหรอวะ พวกมึงไม่รู้สึกเหรอว่าเหตุผลที่พวกมึงใช้เนี่ย โคตรจีนแผ่นดินใหญ่เลย ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม เวลาพวกมึงฉอดจีนนี่เคยหันกลับมามองตัวเองไหมว่าตรรกะความคิดพวกมึงก็เป็นแบบนั้นล่ะ เพราะขัดต่อต่อมศีลธรรมอันดีงาม ต้องกำจัดออกไปให้หมด แต่ขนาดจีนแบนขนาดนั้น มึงว่าห้ามเด็กๆ จีนได้เหรอ ก็มุด vpn กันออกมาอยู่ดี แล้วทุกวันนี้เด็กเข้าอินเตอร์เน็ตเยอะกว่าเข้าร้านหนังสือเยอะ ถ้าเรื่องไหนไม่ลงหน้าร้าน จำกัดอายุเข้าอ่าน แต่รีวิวเสียงตอบรับดี พวกมึงว่าเด็กมันจะไม่หาทางหาอ่านเหรอ พวกมึงว่าจะไม่มีพวกกรุ๊ปใต้ดินเก็บเงินค่าเข้าแล้วเอาเถื่อนมาให้อ่านเหรอ
แล้วถ้าพูดเรื่องทริกเกอร์ กูว่าอะไรมันก็มีเรื่องทริกเกอร์ได้ว่ะ เสียพ่อแม่พี่น้อง เวลาอ่านนิยายไม่ทริกเกอร์กันเหรอ โรคซึมเศร้า เวลาอ่านนิยายไม่ทริกเกอร์กันเหรอ โดนหลอกให้รักเวลาอ่านนิยายไม่ทริกเกอร์เหรอ แบบนี้นิยายเขียนเรื่องอะไรได้บ้าง เรื่องที่ส่งเสริมแต่สิ่งที่ดีงามเหรอ พวกมึงสร้างบรรทัดฐานไว้ตอนนี้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นยกหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง สักวันก็ต้องมีนิยายสักเรื่องที่พวกมึงชอบโดนบ้าง แล้วก็จะไม่เหลืออะไรเลย
เรียนภาษาจีนออนไลน์ที่ไหนดี กูต้องเตรียมตัวเผื่ออนาคตแล้วว่ะ
ล่าสุดหวงธงรุ้งไป1กรุบ
https://ทวิตเต้อ.com/bunnytofyu/status/1465511723801055237?t=z5n9GA2luKQ0qk7P2tUA8A&s=19
>>827 เสล่อ ไม่เคยบอกเลยว่าต้องเขียนให้ตรงศีลธรรม ไม่เคยบอกว่าพี่น้องห้ามได้กันเองแล้วแฮปปี้เอนดิ้ง บอกแต่ว่า “บอกชัดๆไปในนิยายว่าการสมสู่กันเองในครอบครัวมันผิด ยุคนี้ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะมันเปิดทางให้ใช้อำนาจกดทับสมาชิกครอบครัวที่อ่อนแอกว่า บางคนไม่ได้สมยอมแต่หนีไปไหนไม่ได้ แต่ในยุคสมมติของนิยายยังไม่มีใครตระหนักเรื่องนี้ จบ” >>701 แล้วจะจบฮาเร็มพี่น้องแบบเดิมก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย
แล้วเข้าใจใหม่ด้วย ที่รังเกียจนี่ไม่ได้รังเกียจนิยาย แต่รังเกียจคนที่พยายามปิดหูปิดตาไม่รับรู้ว่าการปล่อยงานแนวนี้ออกไปโดยไม่ระวังให้ดี “อาจจะ” ส่งผลร้ายต่อเด็กได้ในกรณีที่มีคนพยายามจะหลอกล่อเด็ก รังเกียจคนที่มองไม่เห็นอะไรนอกจากความสะดวกและความพอใจของตัวเองถึงขั้นบอกว่า นักเขียนควรจะเขียนอะไรก็ได้ tw ก็อย่าติดมาก มันสปอยล์ โรแมนติไซส์แล้วไงกูแยกแยะได้ ส่วนเด็กก็ไปรับผิดชอบตัวเองสิ พ่อแม่ไปรับผิดชอบเด็กเองอย่าให้ใครหลอกลูกมึงสิ ทำไม่ได้ก็ไปหาหมอสิ พูดออกมาได้ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ งานนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เลวร้ายเท่าเสี้ยวความคิดแบบนี้เลยจะบอกให้ แต่ก็พิมพ์ออกมาอย่างภูมิใจเหลือเกินว่าฉันคิดแบบนี้ถูกต้องแล้ว โคตรน่ารังเกียจเลยรู้ไว้เหอะ
>>828 พูดถึงเรื่องติด tw กับแก้เนื้อหาโรแมนติไซส์มั้ย มาถามกูว่าอะไรๆก็โยนให้นักเขียนเหรอ? ก็ใช่น่ะสิ นอกจากนักเขียนใครมันจะทำได้ นักอ่านติดเองเขียนแก้เองได้มั้ง ไม่โยนให้นักเขียนจะโยนให้ใคร อันนี้คำด่าเหรอ
แง้ พี่โม่งหัวร้อนแล้ว อุตส่าปั้นหน้าเป็นคนดีตั้งนานสุดท้ายเป็นแค่ไอ้ย้อนแย้ง บอกเขียนยังไงก็ได้แต่ก็บอกว่าห้ามโรแมนติไซส์นะคะ ตกลงคุณพี่จะบังคับหรือไม่บังคับอ่าคะ งงไปหมดเลย หน้ากากเป็นคนดีร่วงหมดแล้ว
สุดท้ายก็วนอยู่แค่ต้องแทรกประเด็นสอนใจเข้าไปในเรื่องไม่งั้นกุจะสับมึงนะ
ปล.เผื่อมึงจะยังไม่เจริญทางความคิดว่านข.ส่วนมากจะเขียนทอล์คไว้เรื่องไม่ควรทำตาม มันแย่ยังไงกันหมด แต่พอลงเล่มแล้วมันไปอัดอยู่ที่อื่น และมันไม่เปิดอ่านกัน คำถาม นักเขียนต้องไปบีบคอให้อ่านมั้ย ใครไม่เปิดอ่านกุจะฉีกหนังสือมึงทิ้งเอง
คนอื่นเขียนแทบตายว่าถ้ามีเนื้อหาแบบนั้นก็ควรตำกัดอายุ จำกัดการเข้าถึงการซื้อ
ก็เห็นอยู่ว่ามันมีคนอื่นที่ควรมีส่วนร่วมในการจำกัดวงคนอ่าน กุเห็นคนพิมพ์ไปสิบกว่ารอบสุดท้ายมีไอ้งั่งที่จับใจความได้แค่นักเขียนรัยผิดชอบทุกอย่างนะคะ เขียนได้ค่ะแต่ต้องเขียนแบบนี้ต้องทีแบบนี้เท่านั้น ตั้งแต่ตีพิมพ์ยันออกขายเลย ประหนึ่งนข.ไปยืนขายหน้าชั้น
เอาเหอะ คนอื่นพูดไปขนาดนั้นมันยังทะลุหูออก สมองมีไว้คั่นก็ไม่พูดต่อล่ะ
ชายสามถ้ากูจำไม่ผิดตอนลงเขาไม่ได้จำกัดอายุนะ แบบไม่ได้ให้ยืนยันบัตรปชช.ก็เข้าอ่านอะ จำได้เลยกูใช้แอดอีกเครื่องที่ไม่ได้มียืนยันอายุไว้ก็ยังกดเข้าไปอ่านได้
ส่วนตัวในความเห็นกูมองว่ามันควรจะอยู่ใต้ดินแค่ในมุมมืด ไม่ใช่เสนอหน้าออกมาให้โดนแสง ถ้าจะลงในรอร.ก็ควรยืนยันบัตรปชช.เวลาอ่าน ไม่ใช่ถูกลงมาว่างแผนขายเกลื่อนตลาดแบบนี้แต่ก็ยังว่านะประเทศที่คุณภาพประชากรขนาดโตแล้วบางคนยังไร้วิจารณญาณ แยกแยะถูกผิดไม่ค่อยออกจะให้เอาหนังสือประเภทนี้มาว่างขายแบบโจ่งแจ้งเกรงว่าจะมีปัญหาตามมามากกว่า หากนักเขียนอยากเขียนจริงๆก็เอาลงใต้ดินไม่ก็ยืนยันอายุเหอะ แต่ๆๆยังไงจะเขียนแนวนี้ก็เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วปะกับเสียงนกเสียงกาของพวกมนุษยธรรมสูงงงง ขนาดฮัสกี้ที่มีฐานแฟนคลับแน่นยังโดน หนังสือจากนักเขียนโนเนมจะรอดหรอ
ที่กูสงสัยมากกว่าคือทำไมคนเขียนมันอยากเขียนแนวนี้แต่ดันไม่ทำแบบยืนยันอายุกำจัดเรทคนเข้าอ่านวะ อย่างน้อยก็น่าจะพอเกณฑ์เด็กไร้วุฒิภาวะออกไปได้บ้างนะ
>>834 มึงพอจะจำได้ไหมว่าตอนนั้นที่มึงเข้าไปอ่านเนื้อเรื่องมันถึงช่วงไหน เพราะอย่างกูที่เข้าไปช่วงเขาแต่งจบแล้วมันมีขึ้น แล้วเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศก็โผล่มาช่วงท้ายๆ เลย กูเลยสงสัยว่าเขาใส่เข้ามาที่หลังตอนมีฉากทางเพศแล้วรึเปล่า กับเห็นว่าตอนแรกๆ แม่งมีให้นักอ่านเชียร์เรือกันด้วย คือตอนนั้นยังไม่กำหนดพระเอกปะ เพราะกูมาอ่านมันตอนที่เขาเลือกจบแบบฮาเร็มไปแล้ว เลยอยากถามว่าคนที่อ่านแรกๆ นี่รู้สึกยังไงกันตอนที่ยังไม่ได้กำหนดให้จบแบบฮาเร็มอะ
>>836 อห.มันเลื่อนลางในความทรงจำกูมากเลยนะ555 แต่กูจำได้แน่ๆว่าไม่มียืนยันอายุเพราะเหมือนช่วงนั้นอิเครื่องที่กุใช่อ่านนิยายประจำส่งซ่อม กุเลยใช้อีกเครื่องอ่านแทน กุจำได้เป็นฉากๆนะอาจไม่ต่อเนื่องแต่จำได้ว่าอยู่ช่วงท้ายๆประมาณว่า
.
.
.
.
.
ช่วงพี่รองกับนอ.ได้กัน แล้วเหมือนฮองเฮาขอให้พี่ใหญ่รออะไรหรือทำอะไรสักอย่าง ถึงค่อยได้กับนอ.ปะ กับตอนประมาณหลังจบอีเว้นแล้วอิน้องสี่กับเพื่อนนอ.ตีกันบนรถม้าเรื่องแย่งนอ.ประมาณนี้ น่าจะช่วงใกล้จบแหละ เพราะเหมือนมีคอมเม้นแนวๆรอฉากเรทเรือตัวเองอยู่ จบฮาเร็มแนวๆนี้แหละมั้ง
จบฮาเร็มกูไม่รู้สึกไรนะ คงเพราะกูเหยียบเรือสองแคมระหว่างเรือชายใหญ่กับชายรองมั้ง555 ชอบความตอบจดหมายน้องยาวกว่าแม่ตัวเองของชายใหญ่ กะฉากกัดแก้มของชายรอง พอคนเขียนจบฮาเร็มกูเลยแบบ เคกูไม่ต้องเลือกละลงแม่งสองเรือไปเลย555
.
.
.
.
.
เออ งานแนวนี้มันควรจำกัดวงเว้ย คือโม่งบนๆแม่งพูดคำนี้ย้ำไปย้ำมา ไอ้โม่งเม้งแตกแม่งจับใจความได้แค่พวกกุอยากหาอ่านสบายๆเลยความเห็นตรงข้ามกับมัน
จุดพวกกุคือไม่ควรไปห้ามไม่ให้เค้าเขียนอะไรก็ตามที่นข.อยาก จะโรแมนติไซส์เรื่องเหี้ยๆ แนวเรื่องเลวๆก็เขียนไปแต่จำกัดวงให้มันแคบแบบเด็กอ่านไม่ได้ ซึ่งตรงนี้มันไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นด้วยถ้าเกิดเป็นกรณีวางขายในรูปแบบหนังสือ
แต่โม่งเม้งแตกคือ เขียนได้(กัดฟันพิมพ์)แต่ห้ามโรแมนติไซส์ ต้องเขียนว่าห้ามทำตาม ถ้าเกิดเด็กไปอ่าน=นข.ต้องรับผิดชอบ
ก็ไม่ควรทำให้มันเป็นสิ่งที่ดีหรือสวยงามนี่หว่าถ้าเขียนว่ามันสวยงามในโลกของพวกตัวเอก แต่คนอื่น ๆ ในนิยายไม่เห็นด้วยหรือให้รับรู้หน่อยว่ามันไม่ดีและผิดปกติก็ได้นี่ จะทำตามแบบยุคนักเขียนสมัยเทพโบราณพี่น้องได้กันเองน่ะเหรอ ถ้าเขียนสิ่งที่ไม่ใช่ norm ของสังคมสมัยนี้ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาหรือเปล่า
>>840 ถ้าเรื่ององค์ชายสาม คนอื่นก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยไปซะหมดนะ ฮองเฮาที่เป็นแม่องค์ชายใหญ่ก็รับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ (ที่ >>837 พูดถึงอะ คือฮองเฮาขอพี่ใหญ่ไว้ มึงจะจับน้องทำเมีย+เป็นเกย์อีก อย่างน้อยขอมึงได้กันหลังทำพิธีแต่งได้ไหม แค่นี้แม่ก็จะอกแตกตายแล้ว แล้วก็พิธีแต่งงานก็แบบแอบๆ มีแค่พ่อแม่ไหว้ศาลไม่มีคนอื่น) ความสัมพันธ์ของนอต่อพอทุกๆ คนเองก็ต้องปิดเอาไว้ไม่ให้คนนอกรู้ ที่รู้มีแค่พวกคนรับใช้สนิทใกล้ตัวเท่านั้นแหละ จะมีก็แต่คนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กที่โดนเอาไปซุบซิบว่าปีนเตียงนอไต่เต้าเอาตำแหน่ง
>>841 ส่วนตัวกุเองไม่ได้ว่าองค์ชายสามหรอก แต่พูดถึงคนที่อยากเขียนแนวนี้ แต่โวยวายเวลาคนว่าน่ะ ส่วนตัวกุให้อิสระกับงานเขียนพอควรอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่เขียนเอาไว้ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปและรับผลที่ตามมา ถ้าชอบงานแบบ problematic ใจก็ต้องแกร่งยืนหยัดพออ่ะ กุอยากให้คนยืนหยัดในตัวเองมากกว่าไปโต้เถียงคนที่มาด่าว่ามันผิด เพราะมันผิดจริงไงเอาอะไรมาแก้ตัว จะให้กลับดำเป็นขาวเป็นเทาเสียไม่ได้ ยอมรับว่าผิดแต่ยืนหยัดในแนวคิดตัวเองไปเลย แน่นอนกว่า ส่วนเรื่องการรับผิดชอบต่อสังคม เป็นเหมือนสิ่งที่ควรทำปฏิบัติให้สังคมมันน่าอยู่ขึ้นอยู่แล้วอันนี้แล้วแต่พิจารณาเลย และปัญหาหลัก ๆ คือขอบเขตการรับผิดชอบของนักเขียนมันอยู่ตรงไหนนี่แหละ เป็นสิ่งที่ต้องมีร่วมกันทั้งนักเขียน นักอ่าน คนในสังคม แพลตฟอร์ม ถ้าพูดถึงก็ยาวอีก
>>841 กุก็ว่าคนในเรื่องไม่ได้เห็นด้วยหมดนะ นายเอกโดนตัวร้ายด่าแบบแรง (จำคำมะได้) ตอนจบมันก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อ่ะ แต่ตัวละคร OP เกิน มันเลยจบแฮปปี้เอนด์ได้
เห็นความพยายามห้าม romanticised ของโม่งแล้ว นึกถึงสมัยก่อนที่การ์ตูนเกย์หรือhomosexual ต้องมีบทสรุปแบบ tragedy เท่านั้นเลย หรือห้ามจบแบบฮาเร็ม ที่สมัยก่อนนางเอก vampire knight ก็โดนฉอดหนักมาก เพราะมีลูกกับทั้งพระเอกสองคน ทั้งที่อันนั้นไม่ได้ฮาเร็มด้วยนะ 555555
>>836 กูอ่านตั้งแต่แรก ตอนแรกนึกว่าเป็นนิยายแบบไม่ฟิคคู่ คือจิ้นเอาหรือไม่ก็จบแบบคู่เดียว ตอนนั้นกูจำได้ว่านักเขียนแบบ bait นักอ่านเรื่องเรือเยอะอยู่ จนจบวัยเด็กได้นิดนึงกูก็เลิกอ่านไปก่อนเพราะจับทางได้แล้วว่าน่าจะฮาเร็มแน่ๆ (กูไม่อ่านฮาเร็ม) ตอนนั้นยังไม่มีเตือนแน่ๆ แต่ก็ยังไม่มีเนื้อหาทางเพศด้วย ยังไม่ยอมบอกว่าใครพระเอกหรือฮาเร็มยังกั๊กอยู่
>>836 ตอนแรกๆรู้สึกว่าเป็นแค่นิยายจิ้นได้ธรรมดา (ยกตัวอย่างนะ เหมือนเรื่องไม่อยากเป็นฮ่องเต้) พออ่านไปๆพักนึงก็สนุกดี แล้วนักเขียนก็เชียร์เรือนักอ่านก็เชียร์เรือเฮฮา (ช่วงนี้ยังไม่เตือนอะไร) พอเริ่มชัดก็มีtag ฮาเร็มงอกออกมา (ไม่แน่ใจ tag incest แต่ยังไม่เตือนตัวแดง/ตรวจบัตรแน่ๆ มันยังไม่ชัดเจนด้วย ไม่มีเนื้อหาทางเพศด้วยตัวเอกทั้งหลายยังเด็ก) พอtag ฮาเร็มงอก+เนื้อหาเริ่มชัดกูก็เลิกอ่านแล้ว รู้สึกเหมือนถูกหลอกอยู่บ้าง สำหรับกูคือเสียเวลามาอ่าน เพราะถ้าติดแท็ก harem incest แต่แรก กูคงไม่เปิดอ่านแม้แต่บทนำแต่แรกแล้ว
กูไม่มีปัญหากับคนเขียนแนวที่กูไม่อ่านถ้าเขาเตือนแต่แรก เพราะกูเลือกที่จะอ่านหรือไม่อ่านได้ แต่ที่ไม่เตือนแล้วหลงเข้าไปอ่านคือเสียความรู้สึกมากนะ (หมายถึงทุกๆเรื่องเลยไม่เฉพาะเรื่องนี้) เห็นนักเขียนบางคนไม่อยากติดเตือนเพราะจะสปอยเนื้อหาหรืออะไร ถ้าแบบนั้นหลังๆมาคือกูก็จัดการตัวเองด้วยการไม่อ่านแต่แรก ถ้าเรื่องดูดีน่าอ่านมากก็รอจบก่อนหารีวิวหาสปอยก่อนค่อยซื้อ
จริงๆกูว่านข.มันควรจะกำหนดอายุ+บอกแต่เนิ่นๆว่า incest กับ ฮาเร็มนะ ไม่ใช่พึ่งมาบอกที่หลัง
สรุปคนเขียนพึ่งมาให้ยืนยันอายุหลังนิยายจบกูยอมใจจริง
>>848 มึงเอาคุณภาพประชากรของประเทศเจริญแล้วมาเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาที่ย้ำอยู่กับที่เป็น 10 ปี แถมมีแววกำลังจะถอยหลังลง? กูถามจริง อีกอย่างนักเขียนอยากเขียนก็เขียนไปสิ แต่ลงในถูกที่ถูกทางหน่อยบอกให้ลงใต้ดินไม่ก็ยืนยันอายุเข้า ไม่ใช่ค่อยมายืนยันตอนค่อยจบแบบนี้
แนว incest กูก็อ่านแต่ก็ไม่สนับสนุนให้เอาขึ้นมาบนบก นักเขียนอย่างลงก็เอาไปลงใต้ดินแทนสิ ถ้าอยากลงในรอร.ก็ให้มียืนยันอายุ ถ้าทำขนาดนี้แล้วยังหลุดมีเด็กเอาบัตรปชช.พ่อแม่มายืนยันแล้วหลุดเข้ามาอ่านได้ก็ช่างแม่ง ถือว่านักเขียนทำเต็มที่แล้ว แต่ชายสามคือไม่ได้ยืนยันอายุแต่เริ่มพอจบได้กันแล้วสักพักถึงค่อยมียืนยันอายุ
เอ๊ะ หรือมึงคืออิโม่งบ้าการเมืองมู้ที่แล้วที่พอใครคิดต่างหน่อยก็ด่าซลิ่มไปทั่ว?
เข้าหมวดซีเคร็ท เว็บเหมือนเว็บเล่าเรื่องเสียวไปแล้วยังรู้สึกว่าเป็นเว็บบนดินเด็กเข้าไปอ่านได้อีกเหรอวะ ช่างก่อสร้างดุ้นใหญ่ ไอ้กล้วยค_ยใหญ่ ในเรื่องฮิตน่ะ นี่แค่ยกตัวอย่างนะ เข้าไปมีอีกเต็ม เห็นพูดกันว่าเว็บบนดินๆ เรื่องฮิตในเว็บแต่ละเรื่องกูไม่กล้าบอกเพื่อนอ่ะถ้าอ่าน
อย่างเกาหลีเวลานักวดเรื่องแรงโดนขู่ฆ่า เขามีแบคปกป้องดีนะ ของไทยเห็นเวลามีดราม่าอะไรไม่ค่อยมีใครปกป้องนักเขียนนักวาดเลยอ่ะเนอะ ตปทเข้าไฟทแต่ก็อยากให้พัฒนาแต่เถียงสู้พวกสักแต่ฉอดไม่เคยได้ ก็โดนกลืนหายไปหมด
นิยายเรื่องนี้ก็เป็นปีแล่วป่ะ ตอนนั้น tw ยังไม่มี ต่อมาเรื่อง tw มันบูม เขาเลยเพิ่งติดแท็ก
พวกมึงนี่ก็ได้คืบจะเอาศอก ตอนแรกบอกขอแค่หนังสือมันติดเรทติดtwชัดๆ ต่อมาก็เริ่มบอกไม่ควรเอาขายหน้าร้าน ต่อมาก็บอกต้องเอาลงใต้ดิน จำกัดเฉพาะกลุ่มเล็กๆ สรุปแล้วมันจะสุดที่ตรงไหน ยังไม่นับในทวิตที่บอกห้ามแต่ง แต่งไม่ด้ายยย อีกนะ
แล้วแบบนี้อย่างเรื่องหนึ่งปรารถนาที่เป็นประเด็นเพราะอีตัวต้นเรื่องมันชอบยังควรขายอยู่ไหม พวกมึงบอกมันไม่ romanticize กุงงว่ามันไม่ยังไง พระเอกก็คนเดิม สุดท้ายพระเอกก็ได้อยู่กับนายเอกถึงจะชาติถัดมา แต่พระเอกคนเดิมนะ นายเอกก็มีความทรงจำ ในแง่ศีลธรรมนายเอกชาติสองก็มีลูกมีเมียแล้ว มันก็ผิดศีลธรรมอันดีข้อ3ชัดมาก ไปยุ่งกับลูกเมียชาวบ้านแถมยังทำให้ลูกเมียเขารู้สึกเป็นปัญหาอีก แถมลูกก็ยังมีชีวิตอยู่ในชาติที่ 3 ด้วย แล้วเอาจริงๆ ตัวนายเอกชาติ 2 เองก็รู้สึกรักป่ะ แต่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ รู้ว่าตัวเองยังมีความรับผิดชอบอยู่ มันไม่ใช่ไม่รัก แต่รักแล้วไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ อ้าว แล้วทำไมพระเอกทำเหี้ยแบบนั้นนายเอกถึงไปรักลงอีก
ยังไม่นับเรื่องที่มันผุดมาในหัวกุอีกหลายสิบเรื่องว่าอบบนี้มันควรขายอยู่ไหม หรือจับลงใต้ดินให้หมด
-เรื่องที่ความสัมพันธ์ผิดบาปของครูอาจารย์ หรือฮ่องเต้ขุนนาง ในเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียม คล้ายเรื่องincestที่จะมีฝ่ายที่มีอำนาจมากกว่า แบบนี้ถือว่าผิดไหม
-เรื่องที่พระเอกเลี้ยงนายเอกมาแต่เด็กแม้ไม่มีสายเลือดเดียวกันนี่นับเป็นincestไหม ตอนเลี้ยงก็รู้สึกเหมือนเป็นพ่อลูก โตมากลายเป็นความรักซะงั้น ยังมีเรื่องpowerในครอบครัวอีก
-เรื่องที่พระเอกทำเหี้ยไม่พูดด้วยเหตุผลก็ทำร้ายนายเอกแล้วแต่สุดท้ายก็รักกัน มันก็ออกแนวความรุนแรงใยครอบครัวป่าววะ triggerง่ายด้วยเรื่องแบบนี้
-เรื่องที่เริ่มต้นด้วยการหลอกให้รัก แต่สุดท้ายตกหลุมพรางตัวเองดันรักจริงขึ่นมา ขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างหมา จริงๆพวกนี้ก็romanticizeคนเลวป่ะ บางเรื่องนายเอกหนีแล้วหนีอีกพระเอกก็แค่ตื๊อๆๆ มาทำดีช่วงหลังๆตามประสาหมาแล้วนายเอกก็รัก เรื่องพวกนี้ก็สร้างความเข้าใจผิดให้สังคมได้ไหม
-อย่างแนวbdsmอีกล่ะ อันนี้ก็เห็นมีขายอยู่นะ ถึงด้านในจะให้ความรู้อยู่ว่ามันต้องมีคำที่รู้กันว่าแปลว่าต้องหยุด แค่ไม่คิดว่าจะมีเด็กมาอ่านแล้วอยากรู้อยากลองบ้างเหรอ
-พวกนิยายร้ายกับทุกคนแต่ดีกับเธอคนเดียวอีก พวกนี้ควรขายจริงๆ เหรอ เด็กมาอ่านจะไม่เข้าใจผิดเหรอว่าเราสามารถเลวกับใครก็ได้แต่ให้ดีกับคนที่เรารัก จะกลายเป็นnormสังคมได้ไหม
-นิยายที่พระเอกที่มันแบบจะต้องเยนายเอกทุกวัน ไม่สนใจว่าจะมีเหตุผลอะไรทั้งนั้น เพราะกูบอกแล้วว่าต้องทุกวัน นี่จะสอนให้เด็กหมกมุ่นในกามป่าววะ ถ้าหมกมุ่นในกามก็ผิดศีลข้อ3อีก กูเห็นกรี๊ดกร๊าดความทุกวันกันมาก เด็กๆ มาอ่านจะเข้าใจผิดป่าววะว่าเยทุกวันคือความรัก จะกลายเป็นnormใหม่ของสังคมไหม
-แล้วอย่างพวกเว็บโนเวลที่ไม่ตรวจอายุอีก นอกจากเรื่องอชส มันยังมีอีกเยอะมาก ไม่รู้พวกมึงเคยเข้าธัญวลัยไหม อันนี้หนักว่าอชส หนักกวาารอรเยอะ ต้องเข้าไปจัดการด้วยไหม จะบอกว่าคนเขารู้กันว่าธวลมันแหล่งรวมอะไร แต่มันก็ต้องมีเด็กไม่รู้หลงไปบ้างล่ะ เผลอๆเด็กนี่ล่ะตัวตั้งตัวตีหัวหน้าfcนิยายบางเรื่องเลย อย่างกูตอนเด็กกว่านี้ก็ชอบอ่านนะ พระเอกแบดบอยทำแต่เรื่องเหี้ยๆกักขังหน่วงเหนี่ยว วันๆไม่มีอะไรหาเรื่องจับผิดนายเอกเพื่อเย แต่พอโตมาก็รู้สึกมันเป็นนิยายที่ไม่มีอะไรเลยไปหาอ่านนิยายขายเนื้อเรื่องแทน
แล้วยังมีนิยาย ชญ อีกร้อยแปดพันเรื่อง นี่ห้องวายเลยอาจจะไม่มีการพูดถึงเท่าไหร่ แต่กูบอกเลย นิยาย ชญ เนี่ยเนื้อหาที่แต่งมันก็วนๆคล้ายๆนิยายวายแหล่ะ ถ้ากลัวนิยายวายสักเรื่องจะกลายเป็นnorm นิยายชญน่า
กลังกว่าเยอะ ฐานลูกค้าชญเยอะกว่ามาก และมีขายมานานมากแล้ววววววววววววววว หรือพวกมึงจะบอกว่าวิจารณญาณของฐานลูกค้านิยายชญมีมากกว่านิยายวาย?
พวกมึงคิดจะจัดการแล้ว ถ้าจัดการแต่เรื่องอชส เขาไม่ได้เรียกรับผิดชอบต่อสังคมนะ สุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกมึงเรียกว่าปัญหามันก็ยังอยู่ต่อไป จัดการได้เรื่องนึงแต่ปัญหายังไม่จบ นขกับสนพเรื่องนี้ก็แค่ซวย
กูไม่อยากให้องค์ชายสามลงใต้ดิน เพราะกลัวเรื่องอื่นโดนลากไปด้วยนี่แหละ 5555
เลยคิดว่า ถ้ามีการจัดเรทอายุได้ ก็คงดี ให้ยืนยันบัตรประชาชาทุกครั้งที่จะซื้อ ไรงี้
ไม่ต้องเอาลงใต้ดินก็ได้ เดี๋ยวเรื่องอื่นซวยไปด้วย
กูบอกแล้วศีลธรรมมันก็คือความเชื่อและความเชื่อมันก็เปลี่ยนได้ตลอดเวลานั่นแหละ ในอนาคตไม่แน่พวกเมิงอาจเห็นศิษย์-อาจารย์ พี่-น้อง แม่-ลูก พ่อ-ลูก แย่งผัว แย่งเมีย กินเด็ก ความรักแบบ3p rape non-con เป็นเรื่องถูกทำนองคลองธรรมก็ได้ใครจะรู้
กูบอกไปแล้วว่าไม่เอาลงดินก็ยืนยันอายุ กูละเบื่อ กูไปห้ามนักเขียนไม่ใครเขียนตอนไหนก่อน แล้วทำไมพวกมึงต้องกระเสือกกระสนอยากให้นิยายแนวนี้ได้ตีพิมพ์กันขนาดนั้นก่อน
>>861 เอ่อ พงกศิษย์อาจารย์ พี่น้อง อนาคตอาจจะเป็นเรื่องปกติได้ แต่กูว่า rapeนี่ไม่ได้ว่ะมึงงงงงง คือถ้ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ยินยอมพร้อมใจ มีการผ่านการคิดมาดีแล้ว อันนี้กูรับได้นะ (ถึงจะครีปปี้ถ้ามันเป็นพ่อ-ลูก ปู่-หลานก็เถอะ) แต่rapeนี่ไม่ใช่ ไม่ว่ายังไงrapeก็คืออาชญากรรม
>>862 อ้ออิประโยคนั้นกูคงต้องเอาอันที่เขียนเต็มมาสินะ กูของขยายความประโยคตัวเองที่กูเคยตอบไปว่าทำไมเอาขึ้นมาขายเหมือนยุยไม่ได้ “คงเพราะประเทศที่เจริญแล้วคุณภาพประชากรของของประเทศเขาสูงกว่าประเทศเราไง เมื่อเทียบอัตราส่วนของประชากรกับอัตราส่วนของการเกิดอาชญากรรมเขาน้อยกว่าประเทศเราจริงๆ เทียบกับคุณภาพประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเราแล้วมีแต่พวกมือถือสากปากถือศีล คนไร้วิจารณญาณที่มองเห็นความรักแค่ด้านเดียว คนแยกแยะไม่ได้อันไหนนิยายอันไหนความจริง พวกไร้สติที่ถูกค่านิยมในนิยายบ้างเรื่องล้างสมอง คนเลียนแบบสื่อการกระทำในนิยายแล้วนำมาใช้ในชีวิตจริง คน…บลาๆๆ ถ้าถามว่าทำไมประเทศเราทำแบบประเทศที่เจริญแล้วไม่ได้สาเหตุคงเป็นเพราะคนจำพวกที่กูกล่าวมาด้านบนมีจำนวนมากกว่าจำนวนคนมีคุณภาพละมั้ง คุณภาพประชากรส่วนใหญ่ก็กำหนดคุณภาพประเทศนั้นไปด้วย คุณภาพประชากรส่วนใหญ่เป็นยังไงภาพลักษณ์ประเทศก็แสดงออกมาแบบนั่นแหละ”
เคปะ ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะคงไม่ต้องมาถามกูเนอะว่าเคสไหนบ้าง
กูว่ามันไม่เกี่ยวกับเจริญไม่เจริญหรอกมึง
มันเกี่ยวกับการจัด rate
คือนิยาย harem incest มันควรให้ 18+ 21+ เท่านั้นถึงซื้อได้ ไม่ควรให้เด็กอายุ 12-13 ได้อ่านนิยายแบบนี้
กูถึงคิดว่ามันควรตรวจบัตรก่อนซื้อ
>>864 แหมมมมมม มรึงงงงง สมัยก่อนไม่ว่าจะเกย์ ทอม เลส กระเทย ดี้ ก็ต่างเป็นเรื่องผิดศีลธรรมชนิดคอขาดบาดตายกันทั้งนั้นนี่ยังรวมถึงใครท้องก่อนแต่ง มีsexก่อนแต่ง ไม่ซิง ไม่บริสุทธิ์หนิถูกสังคมประณามชนิดไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดกะเอาให้ตาย แล้วดูปัจจุบันสิกลายเป็นเรื่องโคตรปกติ อนาคตไม่แน่สิ่งที่พวกมึงเอามาประณาม tw ทั้งหมดอาจเป็นเรื่องโคตรปกติก็ได้ใครจะรู้
กูมานั่งคิดดู ตอนแรกไม่คิดว่าเรื่ององค์ชายสามจะคุยกันได้นานขนาดนี้
ถึงได้ข้อสรุปว่า incest นี่ คนไทย sensitive มากนะ
บางคนรับอย่างอื่นได้ แต่รับ incest ไม่ได้
เรียกว่าเป็นประเด็นอ่อนไหวมากๆ
>>866 จริง ไอ้ประเทศที่บอกว่าเจริญๆ ก็แค่เขาทำให้มันมีกฎเกณฑ์หลักการขึ้นมา
มันไม่ใช่จู่ๆคนในประเทศกลายเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานเป็นคนดีมีศีลธรรมอะไร
อย่างกรณีเรื่องที่เป็นประเด็นนี้คือหนังสือมีจัดเรทแล้ว เราถกเถียงกันต่อได้ว่าแล้วเรื่องการจัดโซนนิ่งร้านหนังสือล่ะ?
การที่ต้องขอตรวจบัตรเมื่อซื้อหนังสือในโซนเฉพาะล่ะ? หรือถ้าแรงมากๆขายแต่ออนไลน์สั่งผ่านสนพ.ดีมั้ย?
พูดเรื่องการจัดการ ควบคุม ไม่ใช่เหมาด่า แบนนน ทำไมคนเขียนไม่รับผิดชอบ ลากไปต่ออีก
พวกที่ออกมาบอกว่านักเขียนไม่ผิดสนับสนุน incest ไม่เห็นใจเหยื่ออะไรไม่รู้ แล้วลามไปคนด้อยคุณภาพเลยทำเหมือนคนประเทศอื่นไม่ได้
ตรรกะเดียวกะพวกที่บอกว่าสนับสนุนทำแท้งเสรีเท่ากับสนับสนุนให้คนไปท้องไม่ระวังมาทำแท้งเลยไม่มีกฎหมายแบบนี้ดีกว่า ทั้งที่การที่บอกว่ามันเสรีหรือทำได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์อะไรมาควบคุม
>>867 คือมึง จะทอมดี้ เลส เกย์ ไบ 3p อันนี้คือเขาเลือกที่จะเป็นป่าววะ อนาคตพวก incest หมอคนไข้ ศิษย์อาจารย์อาจจะเป็นเรื่องปกติ ยอมรับได้ ขึ้นมาบนดินได้ อันนี้ก็เห็นด้วย อนาคตอาจจะมีที่ปรึกษาเฉพาะทางเลยเรื่องนี้เพื่อตรวจสอบสภาพจิตใจว่ามีการใช้อำนาจที่ไม่เท่าเทียมในทางที่ผิดรึเปล่า ความสัมพันธ์ยังเฮลตี้อยู่ไหม หรือแม้แต่ตอนนี้ถึงกูจะครีปปี้แต่ถ้าเพื่อนกูสักคนมาบอกคบกับพ่อตัวเองอยู่ แม่ตายแล้ว พ่อไม่ได้แต่งงานใหม่ อันนี้กูก็รับได้นะ แต่คงต้องเตือนเรื่องห้ามมีลูก แล้วอาจจะต้องถามเพิ่มว่าบังคับกันรึเปล้า ถ้ารู้สึกผิดปกติต้องหาที่ปรึกษานะ บลาๆ คือกูเปิดกว้างเว้ย
แต่กูไม่รู้สึกว่า rape หรือ noncon มันปกติเพราะมันมีฝ่ายที่เลือกไม่ได้ ฝ่ายที่โดนบังคับ และไม่รู้สึกด้วยว่าเรื่องพวกนี้ในอนาคตจะเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้ามันเป็นเรื่องปกติโลกก็อยู่ยากแล้วครับ (ไม่พูดถึงกลุ่มคนผิดปกติที่จะรู้สึกฟินเวลาใครมาข่มขืนตัวเองพวกนั้นนะ คล้ายๆ bdsm ที่จะมีความฟินแปลกๆของเขา มันกลุ่มเล็กมาก)
>>869 คือมึงต้องเข้าใจนะ ว่าตอนนี้พวกมึงก็แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม
1. ห้ามเขียน (กูเจอในทวิต)
2. เขียนได้แต่เอาใต้ดินนะ อยู่ในซอกหลืบเล็กๆ พอ
3. เขียนได้ ขายได้ แต่ต้องจำกัดอายุคนซื้อนะ และห้ามขายหน้าร้าน
4. ขายหน้าร้านได้ แต่ต้องติด tw กับ rate และร้านต้องมีระบบการคัดกรองคนซื้อ
ถ้าอันไหนเขาพูดถึงแล้วไม่ใช่มึง มึงก็อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย บางทีเขาด่าไอ้ข้อ 1-2 กัน
โทษนะ กูขอบ่น
อีห่า ใครบอกสวยใครบอกควีนแล้วเสียบไม่ได้วะ ใครตั้งบรรทัดฐานให้มึง อีสัส ผัวออกสาวม่ะ กูมาอ่านฝั่งนี้เพราะต้องการเสพพระเอกสวยล้วนๆ มึงพูดได้ยังไงว่าคนสวยออกสาวของกูไม่สิทธิเสียบ อีดอก เหยียดวะ เหยียดผู้ชายหน้าสวย ทำม่ะ คนหน้าสวยเขาไม่มีสิทธิ์เลือกจะรุกหรอ เหยียด เหยียดเหี้ยๆ
>>873 ด...ได้เหรอวะ ถ้าอนาคตมันคงเป็นอนาคตที่มนุษย์ใกล้สูญพันธุ์ป่าววะ โอ้ย กูขอโทษนะ กูนึกภาพ rape เป็นเรื่องปกติของสังคมไม่ออกเลยว่ะ
>>875 แบนหนึ่งปรารถนาต้องมาแล้วป่าววะ กูชอบเรื่องนี้มากๆ แต่ถ้าจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นกับอชสเป็นยรรทัดฐาน หนึ่งปรารถนาก็ต้องโดนว่ะ อย่างที่กูบอกไว้ที่ความเห็นบน พระเอกคนเดิมไม่ได้กลับชาติมาเกิดเหมือนนายเอก คนทำเหี้ยก็คือพระเอก ผิดศีลธรรม แล้วนายเอกก็มีความทรงจำช่วงนั้นด้วย สุดท้ายก็รักกันอยู่ดี ในชาติที่ 3 นายเอกก็มีความยึดติด แม้พระเอกจะเป็นร่างงูแล้วแต่ก็ยังยึดติดอยู่ อันนี้กูว่สก็มากเกินไป แล้วคนเราก็ดันซาบซึ้งในเรื่องนี้ (กูด้วย ทำไมกูเหี้ยจัง) เอาจริงๆ เรื่องมันบ้งเยอะ แต่กูชอบเรื่องนี้มากนะ เป็นนิยายรักหม่นๆที่กูอ่านเม็บจบก็ไปซื้อรูปเล่มราคาแสนแพงต่อทันที
ตอนนี้เหลือเรื่องอะไรที่คิดว่าขายหน้าร้านได้บ้าง โดยที่ไม่น่าจะมีอะไรดราม่าในอนาคต กูจะไปตามหาอ่าน
>>876 เออ กูเกียดชห พวกอ่านปกติจะอ่านสายดาร์คอะไรก็แล้วแต่เลยเรื่องใครเรื่องเค้า แต่พวกคลั่งศิลธรรมเป็นหย่อมๆนี่รำมาก เอาจริงๆเรปในโลกจริงแม่งแย่กว่าอินเซสชชที่คอนเซนและเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่แล้วมากอะ เคสแรกนี่อาชญากรรมชัดเจนดันหวีด เคสหลังนี่ไปเผือกเรื่องในบ้านเค้าแล้วเอาเส้นศีลธรรมตัวเองไปฟาด
งงอะไรกับคำว่าไม่โรแมนติไซส์นักหนาวะ นึกว่าแปลว่าต้องทำให้ชีวิตตัวละครเฮงซวยรักกันไม่ได้เหรอ ประสาท อันนี้งั่งเองแล้วปรี๊ดแตกเองปะ เคยอ่านธุวตารามั้ย พ่อแม่นางเอกก็พี่น้องแต่งงานกันเองแต่ไม่มีใครบอกว่ามันโรแมนติไซส์เลย เขียนให้ไม่โรแมนติไซส์ไม่ใช่เขียนให้ถูกศีลธรรมซักหน่อย อธิบายเท่าไหร่ก็ด่าแรง
บอกว่าเขียนไปตามเดิมแค่เติมคำอธิบายอะไรลงไปหน่อยก็กรี๊ดว่ามึงจะให้นักเขียนแก้ให้ถูกศีลธรรม ทำไม ต้องเหี้ยถึงที่สุดและไม่มีคำอธิบายอะไรเลยให้ได้เหรอ
บอกว่าพ่อแม่เด็กต้องรีบผิดชอบลูกตัวเองอยู่แล้วแต่นักเขียนควรช่วย ก็กรี๊ดอีกว่าปัดความรับผิดชอบให้นักเขียนทั้งหมด แค่ให้ติด tw ซึ่งเขาก็ทำอยู่แล้ว กับเติมคำอธิบายแค่เนี้ย คือความรับผิดชอบทั้งหมดเหรอ
บอกว่าหนังสือพี่น้องอ้าขาให้กันในญี่ปุ่นไม่ได้วางขายเกลื่อนขนาดนั้น มีร้านมีเชลฟ์เฉพาะ ก็กรี๊ดอีกว่าเขาวางขายปกติ ปกติยังไงวะ ก็กูเนี่ยเข้าร้านหนังสือที่ญี่ปุ่นทุกปี ไปทีไรไม่เห็นเคยเอาออกมาวางขายตรงหัวเชลฟ์หรือโต๊ะกลางแบบหนังสือเรื่องอื่นๆ ขายกระมิดกระเมี้ยนในมุมลึกๆทั้งนั้น ไปเอามาจากไหนว่าขายปกติ
ไอ้เรื่องจัดเรทกำจัดคนซื้อน่ะมันต้องทำอยู่แล้ว แต่กับเนื้อหาบางอย่างแค่นั้นมันไม่พอ ไอ้ที่เสนอให้เติมก็เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวงานมีประเด็นโดนโจมตี จะได้วางขายได้ ก็หาว่ากูเกลียดงานแนวนี้ล่ะสิ หน้ากากคนดีแตกแล้วบลาๆ
เออ ขอให้เจริญเถอะ
>>884 การบอกว่าต้องเขียนให้มีฉากสังคมไม่ยอมรับ ต้องโดนดูถูกเหยียดหยาม=ไม่โรแมนติไซส์ กูก็คิดนะว่าไอ้การที่ถูกดูถูกเหยียดหยาม ข้ามผ่านความลำบากมากมาย สุดท้ายพบรักแท้ที่คู่ควร นี่โคตรจะโรแมนติไซส์เลย5555555 กูคิดว่างาน taboo จุดขายของมันคือการเล่นกับศีลธรรมในใจคนอยู่แล้ว อาจจะเป็นศีลธรรมของตัวละครเอง หรือ conflict ในใจคนอ่าน ไอ้ incest อะไรต่างๆ ที่สังคมไม่ยอมรับ บางทีก็เป็นเหมือนอุปสรรคในเรื่องที่ตัวเอกต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนจะไปถึงจุดนั้นด้วยซ้ำ
แล้วเห็นข้างบนพูดถึงโลลิตา จริงๆ โลลิตานี่ก็เล่าจากมุมมองพระเอก ถ้าจำไม่ผิดมันก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองทำผิดอะไรด้วยนะ ออกจะบอกว่าตัวเองน่าสงสาร โทษเด็ก โทษแม่เด็กล้วนๆ แต่โทนเสียงมันออกมาครีปปี้ แล้วมันก็มีนิยายอีกมากที่เล่าจากมุมมองตัวเอกที่ไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ อย่างนี้จะทำไงอ่ะ ถ้าคนอ่านแยกแยะเองไม่ได้ก็จะฉอดนักเขียนไปเรื่อยๆ แบบนี้เหรอ มึงเขียนมาให้ถูกด่าเอง งี้เหรอ
ประเด็นวางร้าน เขาก็หมายถึงให้จัดเรท แบ่งโซน เพื่อไม่ได้ให้เด็กเข้าถึงได้มั้ย แต่มึงบอกว่าต้องเขียนบอกว่าไม่ดีเพื่อไม่ให้เด็กเข้าถึงด้วย ซึ่งถ้าในโซนนิ่งก็แล้ว ตรวจอายุก็แล้ว มันจะมีเด็กที่ไหนเข้าไปซื้อได้ล่ะ
ถ้าหมายถึงที่บ้าน หรือจะรู้ได้ไงว่าจะไม่ถึงมือเด็ก นี่ก็เกินความรับผิดชอบของนักเขียนจริงๆ นั่นแหละ มันไม่ใช่งานที่มีเป้าหมายเป็นเด็กตั้งแต่แรกแล้วอะ
เมื่อความรักเป็นสิ่งสวยงามบริสุทธิ์ เราห้ามได้ด้วยเหรอ แต่ก็อย่างที่กุบอกว่าไม่ใช่ norm ของสังคมถ้าจะเขียนก็ต้องมีคนด่าอยู่แล้ว ไม่รู้มึงนับถือซรัทธาในสิ่งไหนนะ แต่ความคิดมึงบางทีก็งงอ่ะ
ล่าสุดมีนักศีลธรรมตั้งแท็กแบนสนพ 7 คนสู้ๆนะค่ะ แยกโลดนิยายกับอาชญากรรมจริงๆออกเมื่อไหร่ค่อยมาเอดูเขตใหม่ ไม่ต้องยกตนข่มท่านว่าสูงด้วยอีดอก
>>891 ทำไมกุคิดว่าของจริงมันไม่ได้สวยงามบริสุทธิ์อะไรหรอก แม่งเจือใคร่ทั้งนั้นล่ะ เราถึงต้องมาหาความสวยงามจากนิยายกันไง ที่มึงบอกว่าสวยงามบริสุทธิ์ มันก็คือการโรมานติไซส์ให้เกินจริงทั้งนั้น กุถึงคิดว่าพวกที่เสพนิยายรักแต่บอกว่าห้ามโรมานติไซส์ นี่แม่งโคตรย้อนแย้ง
อยากอ่านแบบไม่โรมานซ์ โน่นบันทึกชีวิตภรรยาข้ามแดน แต่งกะฝรั่งเพราะเงินกะความจำเป็น ฝรั่งอยากได้คนดูแลกะคนไว้เย ผญ. อยากได้ที่พึ่งพิงทางการเงิน อยู่ๆกันไปเผอิญผช นิสัยไม่แย่ ผจญความต่างวัฒนธรรม อยู่กันได้ด้วยดีแต่ก็ดีงั้นๆ ไม่ได้รักไรลึกซึ้งปานกลืนกิน นิยายสไตล์เรียลไลฟ์แบบนี้มึงสนใจจะอ่านจริงๆเหรอ มันก็มีเวลาที่อยากเสพแนวนั้นแต่กูก็บอกได้เลยว่ามึงจะไม่ได้ความฟินแบบทุกวันนี้หรอก
งั่นหนังบู๊ฮอลลีวูดระดับโลกที่ตัวเองเป็นแก๊งค์โจร ไปปล้นธนาคารต่างๆ ของโบราณ จบด้วยการหนีตำรวจแล้วไปใช่เงินอย่างมีความสุขจัดปาร์ตี้ที่ทะเลในตอนจบ โรแมนติไซส์พอมั้ย ทำไมไม่มีใครมาตั้งคำถามบ้าง
>>890 เขาบอกแค่ว่ามันเป็นยุคอียิปต์โบราณ วัฒนธรรมมันคือแต่งงานกันเองรักษาสายเลือดบริสุทธิ์ ผลพวงคือน้องชายนางเอกไม่แข็งแรง ป่วยตายตั้งแต่สิบกว่าขวบ แต่บังเอิญชายสามอ้างไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงคือวัฒนธรรมจีนไม่ได้สนับสนุนการแต่งกันเอง ต้องหาเหตุผลใหม่ เท่านี้เลย
บางคนก็นึกว่าไม่โรแมนติไซส์คือนึกว่าต้องหาดราม่าให้ตัวเอก ต้องแต่งให้คนไม่ยอมรับนู่นนี่แล้วค่อยรักกันตอนจบเนอะ คิดไปเองทั้งนั้น แล้วก็มาด่ากู ประสาทแดก
ดราม่าแล้วรักกันอยู่ด้วยกันตอนจบน่ะเขาเรียกว่าโรแมนติก
โรแมนติไซส์=ทำให้บางสิ่งดูดีกว่าที่เป็นจริง
โรแมนติไซส์≠ทำให้โรแมนติก
กูอ่านอชสมาตั้งแต่มันเพิ่งลงเว็บ เคยโดเนทให้กำลังใจ แต่เท่าที่กูจำได้ ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ไม่มีตรงไหนบอกว่าอินเซสเป็นสิ่งผิดในโลกจริงๆ ตัวเรื่องปล่อยเบลอเหมือนเป็นของปกติ ซึ่งการเขียนให้เรื่องผิดปกติเป็นเรื่องประหนึ่งปกตินี่แหละที่เข้าข่ายโรแมนติไซส์
อ้อ นอร์มอลไลซ์ แปลว่า “ทำให้กลับเป็นปกติ” นะ เผื่อใครอ่อนภาษาอังกฤษ
สิ่งที่กูคิดคือ น่าจะเพิ่มเนื้อหาตรงนี้ซักย่อหน้า อธิบายว่า “ในโลกจริงมันไม่ใช่นะ” แต่นี่คือโลกที่คนเขาไม่ถือสาตรงนี้ เขารับได้ แค่นี้เท่านั้นเอง แล้วก็บอกแบบนี้มาตั้งแต่ต้น ไม่เคยพูดเลยว่าให้เขียนแบบถูกศีลธรรมหรือต้องมีดราม่ามาขัดขวางตัวละคร ที่ด่าๆเนี่ย ด่ากูหรือด่าจินตนาการตัวเอง หรือจริงๆก็เข้าใจ แต่ไม่อยากให้ในเรื่องมีแม้แต่คำว่า “อินเซสมันผิด” กันแน่ล่ะ
>>905 ต้องการคุยอะไรล่ะ กูไม่เห็นประเด็นของมึงเลย มึงบอกกูว่า “การทำให้มันซาบซึ้ง ทำให้รู้สึกว่าคู่ควรความพยายาม ทำให้รู้สึกสวยงามเกินจริง นี่ก็เป็นการโรแมนติไซส์เหมือนกันจ้ะ คนพูดกันไปเยอะแล้ว” เออ แล้วไงอีก กูเคยพูดอะไรแย้งประโยคนี้เหรอมึงถึงบอกกูว่าคนพูดกันไปเยอะแล้ว จะให้กูคุยกับมึงว่ายังไง
มันมีนิยายเรื่องไหนไม่โรแมนติไซส์อะไรสักอย่างด้วยเหรอ
ไม่ใช่ 910 แต่ก่อนว่าใครตอแหลต้องกลับขึ้นไปอ่านบ้างนะว่าพ่นอะไรไว้บ้าง อธิบายยาวยืดแต่ใจความก็คือตามนั้นเลยอะ ไม่ใช่มาเลี่ยงบาลีว่าไม่ได้พูด ตอแหล
กูเกิดความสงสัยนิดหน่อยตรงที่ว่าต้นเรื่องที่ฉอดเสือกชอบนิยายแนว Rape แล้วก็จบดีโดยที่ก่อนหน้านั้นมีการปรับความเข้าใจกัน (ถือว่าไม่โรแมนติไซส์ใช่ไหมนะ???)
ในส่วนขององค์ชายสามเท่าที่กูสกิมมาและคุยกับเพื่อนที่ได้อ่าน มันก็ไม่ได้เชิดชูว่า Incest ถูกต้อง เพราะตัวเอกก็เครียดกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แถมคนรอบตัวตัวเอก(แม่พี่ใหญ่)ก็ดูจะไม่ได้รับกับเรื่องแบบนี้ได้เต็มที่ด้วย คือมันเป็นการจำใจยอมรับนะในความเห็นกู
แต่ถ้าหากคนบอกว่า องค์ชายสามเป็นนิยายที่มีเนื้อหา Incest+ตัวเอกไม่สบายใจกับความสัมพันธ์ แม่ของหนึ่งในพระเอก(คนนอก)จำใจยอมรับ(=ไม่เห็นด้วยเต็ม 100) แต่จบ Happy End = โรแมนติไซส์
ดังนั้นเรื่องนั้นที่ต้นเรื่องดราม่าอ่านที่มีฉาก Rape+ปรับความเข้าใจ แต่จบดี = เรียกว่าอะไร? โรแมนติไซส์รึเปล่า? หรือแค่ปรับความเข้าใจกันแล้วก็ถืว่าไม่โรแมนติไซส์? ถ้างั้นความรู้สึกไม่สบายใจของตัวเอกและความจำใจยอมรับของแม่พี่ใหญ่ของเรื่ององค์ชายสามคืออะไร?
หากวิเคราะห์โดยที่พื้นฐานของการ Rape และ Incest นั้นขัดต่อศีลธรรมกับความดีงามของ norm ณ ปัจจุบัน (ปล. Rape เป็นอาชญากรรมที่มีโทษทางกฎหมาย ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ในขณะที่ Incest ขึ้นอยู่กับปัจจัยของเรื่อง Consent / Power Dynamic / Grooming* (*ซึ่งหัวข้อนี้ต่อยอดไปประเด็น Pedo ได้ แต่กูเกรงว่าถ้าพิมพ์ถึงมันจะยาวเกินไป) หากตัดปัจจัยเหล่านั้น (Consent / Power Dynamic / Grooming) ออกแล้วก็จะเหลือแค่คนสองคน (ชญ./ญญ./ชช.) ที่มีสายเลือดเดียวกันแต่รักกันฉันชู้สาวโดยที่มี Consent ทั้งสองฝ่าย นอกนั้นจะเป็นเรื่องของกรณีเด็ก(กรณีท้องได้)ที่เกิดมาผิดปกติ และเรื่องของศีลธรรมที่เป็นข้อกังขาในสังคม ณ ปัจจุบัน)
ดังนั้นกูอยากจะขอสรุปดราม่าที่มีทั้งหมดก็คือ : บางทีมันก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานว่าคนคนนั้นชอบเรื่องไหนเท่านั้นแหละ เพราะขอแค่เป็นเรื่องที่ตัวเองชอบ ทุกอย่างต่อให้จะเห้ ต่อให้จะมี TW ที่อุจาดขนาดไหนก็รับได้หมดนั่นแหละ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่ไม่มีคำว่า 'เป็นกลาง' อย่าง 'เที่ยงตรง' อยู่ในจิตใจอยู่แล้ว
ปล. เหยื่อของเรื่อง Incest Rape การถูกนอกใจ การถูกหลอกหลวง การถูกเล่นกับความรู้สึกเพื่อความสนุกสนาน/เพื่อบรรลุเป้าหมายของใครสักคน (aka พวกพระเอกเจ้าชู้ เพลย์บอย พระเอกเลว ๆ เล่นกับความรู้สึกนายเอก/นางเอกเพื่อทำให้ตนบรรลุเป้าหมายบางประการ) ฯลฯ มีความบอบช้ำทางจิตใจที่รุนแรงเท่ากันในระดับแผลใจ(Trauma)แน่นอน ดังนั้นหากพูดว่าการอ่าน/เขียน Incest + สอดแทรกการตระหนักรู้ (อาจจะในตัวเนื้อหานิยายหรือไม่ก็ Talk ของนักเขียน) แต่จบ Happy End เป็นการไม่เห็นใจต่อเหยื่อ งั้นในทางกลับกัน การเขียน Rape การถูกนอกใจ การถูกหลอกหลวง การถูกเล่นกับความรู้สึกเพื่อความสนุกสนาน/เพื่อบรรลุเป้าหมายของใครสักคน + สอดแทรกการตระหนักรู้ (อาจจะในตัวเนื้อหานิยายหรือไม่ก็ Talk ของนักเขียน) แต่จบดีก็เป็นการ 'ไม่เห็นใจ' เหยื่อเฉกเช่นเดียวกันกับกรณีของ Incest
(บรรทัดฐานของแต่ละหัวข้อที่กูเสนอ คือบรรทัดฐานที่ว่ามีเหยื่อเกิดขึ้นจริง ๆ เหมือนกันทั้งหมด แต่จะมี Rape ที่จะแตกแยกออกมาจากพวกหน่อยตรงที่มันผิดกฎหมายและมีโทษอย่างเห็นได้ชัด)
ดังนั้นหากประเด็นของเรื่อง Incest นำไปสู่การยุติการเผยแพร่สื่อทุกประเภททั้งบนดินและใต้ดิน คำถามก็คือ : นิยายที่มีฉาก Rape การถูกนอกใจ การถูกหลอกหลวง การถูกเล่นกับความรู้สึกเพื่อความสนุกสนาน/เพื่อบรรลุเป้าหมายของใครสักคน ก็สมควรที่จะไม่ได้รับการเผยแพร่ด้วยใช่หรือไม่?
กูแค่สงสัย อยากจะให้โม่งออกความเห็นกันอย่างสุภาพกับประเด็นนี้ เพราะมันเป็นเคสที่น่าสนใจสำหรับกู และกูก็ไม่ได้สนับสนุนเรื่องของ Incest Rape การถูกนอกใจ การถูกหลอกหลวง การถูกเล่นกับความรู้สึกเพื่อความสนุกสนาน/เพื่อบรรลุเป้าหมายของใครสักคนในชีวิตจริง กลับกันเมื่อกูรับรู้ถึงข่าวแบบนั้น กูก็เกิดเป็นความขยะแขยงขั้นสุดในจิตใจและอยากจะสาปส่งคนทำด้วยซ้ำ แน่นอนว่าที่กูคิดแบบนั้นเพราะกูแยกแยะเรื่องของนิยายและความเป็นจริงได้ และกูมีวิจารณญาณพอสมควร
>>903 "ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ไม่มีตรงไหนบอกว่าอินเซสเป็นสิ่งผิดในโลกจริงๆ ตัวเรื่องปล่อยเบลอเหมือนเป็นของปกติ"
ประโยคนี่แหละ ทำให้บางคน (ไม่รู้ส่วนใหญ่มั้ย) รับไม่ได้กับประเด็นของเรื่องนี้
ซึ่งเรื่อง incest แม่ง sensitive มาก
กูยกตัวอย่างนิยายคินดะอิจิ จำไม่ได้แล้วว่าเล่มไหน
มันมีคดี ผู้ชายกับผู้หญิงรักกัน มีอะไรกัน แล้วมารู้ทีหลังว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน แล้วฝ่ายหญิงฆ่าตัวตาย
ถ้ามันเป็นแบบคินดะอิจิ คือคนทั่วไปยอมรับได้ไง เนื่องจากมันไม่ขัดกับการรับรู้ในสังคมเท่าไหร่
พอมันเป็นนิยายที่ happy ending แบบอุปสรรคน้อย คนเลยรับไม่ได้
ถ้าสมมติแต่งให้องค์ชายสาม เจออุปสรรค์เยอะๆ หนักๆ คนอาจจะรับได้มากกว่านี้รึเปล่า หรือก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี เนื่องจากไม่ฟังเหตุผลก็ไม่รู้
>>911 มึง เอางี้นะ ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าไอ้คำเตือนแนวที่มึงบอกมันไม่มีนะ หลายสนพ. หลายเล่มส่วนมาก จะมีจั่วหัวไว้หน้าแรกๆอยู่แล้วว่า "นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องแต่ง (ถ้าแฟนตาซีหน่อยอาจมีคำว่าจากจินตนาการของผู้เขียน)ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ ความจริง" กันอยู่แล้วนะ คำถามคือมึงจะให้เพิ่มเคสทริกเกอร์อื่นๆอีกเป็นรายทริกเกอร์เพื่อเตือนสติเด็กใช่ไหม
ขนาดไอ้อันแรกที่กูยกมายังไม่มีใครสนใจเลย แล้วพอมึงเอามาใส่เตือนเด็กมันต้องเน้นขนาดไหน และหนังสือที่ไม่ได้ผลิตมาเพื่อให้เด็กเข้าถึง ทริกเกอร์มันย่อมเพียบอยู่แล้ว มันต้องเตือนขนาดไหนถึงจะรั้งสติเด็กอยู่ แปะเต็มหน้าเหมือนเชิงอรรถเจ้หลินเลยไหม หรือแค่หน้าแรกแบบข้างบน อันนี้คือความพอดีในทางเชิงปฎิบัติที่จำต้องถกนะมึง ถ้าแปะทุกจุดทุกชนิดทริกเกอร์ มันเหมาะมั้ย แปะหน้าแรกเด็กมันจะรู้มั้ยว่ามึงห้ามอันไหน ยังไม่รวมอันแรกที่กูยกมามึงคิดว่ามันได้ผลมั้ย อันนั้นคือมีมานานแล้วนะ
ใดๆคือคำเตือนพวกนี้มันรั้งสติเด็กไม่ได้ เพราะวุฒิภาวะมันยังไม่ถึงตั้งแต่ต้น ถ้ามึงเป็นคนที่ยกเคสพี่ชายข้างบ้านเมื่อวานขึ้นมา เด็กมีแนวโน้มเชื่อฟังคนใกล้ตัวมากกว่าตัวอักษรที่เขียนแบบทางการไร้อารมณ์อยู่แล้ว ทางที่ดีคือหาทางไม่ให้เข้าถึงก่อนวัย ถ้าเข้าถึงแล้วมันหลุด ก็แก้เคสบายเคสไป อันนี้กรรมใครกรรมมันแล้ว เพราะมึงวางกฎดียังไงมันห็แค่ตาข่าย เคสลอดแหโดยคนชั่วๆมันต้องมีบ้างแหละ
ไม่อย่างงั้นก็เหลือแค่ทางปิดกั้นกำจัดสื่อพวกนี้ออกไปอย่างสมบูรณ์ห้ามมีห้ามเกิด มึงห้ามพวกผญ.ที่ต้องการระบายด้านมืดไหวมั้ยละ อีสียังกั้น bl เข้าประเทศมันไม่ไหวเลยนะ หลายๆคห.ที่มีเหตุผลอาจจะแค่อยากบอกว่า คิดว่ามันน่าจะทำได้ยากและน่าจะไม่ได้ผลดีเท่าไหร่แค่นั้นแหละมึง
>>914 กูว่ามันมีประเด็นที่ยังเจออุปสรรคไม่มากพอ
สำหรับกูเนี่ย มัน happy ending ได้ แต่อุปสรรคต้องเยอะมาก จนคนอ่านสงสาร
แบบ ถ้ามันเจอหนักขนาดนี้แล้วยังรักกัน ก็ให้มันรักกันไปเหอะ กูทนไม่ไหวแล้ว
เช่น ความรักเปิดเผย คนทั้งแผ่นดินรับไม่ได้ พอ นอ ต้องสละราชสมบัติ เป็นสามัญชน หลบหน้าผู้คน แต่รักกัน
อันนี้คนจะรับได้มากกว่า
แต่ถ้าอุปสรรคน้อย คนจะรู้สึกว่า อะไรวะ โดนแค่นี้เองเหรอ น้อยไปหน่อยมั้ย ดูไม่สาสมกับการผิดศีลธรรมมากเท่าที่ควร ไรงี้
คือมันดูไม่เป็น โรมิโอกับจูเลียต พออะ ถ้าจะเล่นประเด็นศีลธรรม ต้องดราม่าเยอะๆ คนถึงจะยอมรับได้
ถ้าดราม่าน้อย มันจะรู้สึกขัดหน่อยๆ
อ้าว ตกลงในเรื่องมันไม่มีบอกว่าผิดเหรอ กุสงสัยเฉยๆนะ เพราะเห็นมีคนบอกว่าตัวละครก็รู้สึกผิดกับความสัมพันธ์แบบนี้
มึงกูสงสัย
1.พี่น้องจริงๆพ่อและ/หรือแม่เดียวกัน (หรือสายเลือดชิดอื่นๆ (เช่นพ่อลูกแท้ๆ) โตมาด้วยกัน
2.พี่น้อง พ่อลูก คนละสายเลือด แต่โตมาใกล้ชิด เลี้ยงดูมาด้วย status ครอบครัว เช่น adopted
3.สายเลือดเดียวกัน แต่ไม่ได้โตมาด้วยกัน เป็นคนแปลกหน้าต่อกัน รู้ความจริงภายหลัง
4.ร่างกายเกี่ยวพันธ์ทางสายเลือด แต่จิตใจเป็นคนอื่น (เช่นนิยายสิงร่างคนอื่น หรือทะลุมิติ)
5.ร่างกายไม่เกี่ยวกันทางสายเลือด แต่วิญญาณใช่ เช่น ข้อ4สิงร่าง เพียงแต่กลับกัน
พวกโม่งจัดอันไหนเป็นอินเซส อันไหนไม่เป็น
ส่วนตัวกูจัดว่าเป็นทั้งหมด กูไม่อ่านทั้งหมด แต่กูไม่สนว่าใครจะเขียนนะ
องค์ชายสามเทียบกับแนว incest อื่นหนิ อุปสรรค์น้อยมาก ไม่ต้องอะไรหรอเทียบกับรัชทายาทของเฟิ่งนงที่โม่งเคยยกมาไม่ได้ถึงครึ่งอุปสรรคของเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ทั้งที่ตัวแปรโคตรเหมือนกัน ทั้งชิงบัลลังก์ ทั้ง incest แต่เรื่องนั้นกว่าจะรักกันได้ก็ลากเลือดปางตายกันทั้งคู่
ความเห็นกูต่อประเด็น incest ในนิยายนะ
กูแบ่งเป็น 2 แบบ
incest แบบ pwp อันนั้นไม่ต้องการเหตุผล คนเงี่ยนจะเยกัน ไม่ต้องมีอะไรซัพพอร์ตก็ได้ กูอ่านเพื่อความเงี่ยน
incest แบบนิยายปกติ
กูว่ามันแต่งได้ แต่ต้องมีดราม่ารองรับเยอะๆ เพื่อบิ้วคนอ่านให้สงสารและเห็นใจ
ถ้ามันดราม่า มันจะมีทางให้คนยอมรับได้มากกว่า
เช่น พอ นอ รักกัน แต่ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นพี่น้อง มารู้ทีหลัง แต่เลิกไม่ได้
ความแตก คนไม่ยอมรับ พอ นอ โดนทรมานสารพัด โดนเฆี่ยน ตี เสื่อมเสียชื่อเสียง โดนปาหิน
ผ่านอุปสรรคมาเยอะมาก จนคนอ่านนอนร้องไห้น้ำตาไหล สุดท้ายรักกัน happy ending อันนั้นกูว่ามี % ยอมรับได้เยอะหน่อย
แต่ถ้าอุปสรรคมันน้อย ดราม่ามันน้อย คนจะรู้สึกว่ามันไม่พอ มันดูขัดมากไปหน่อย ดูคล้ายๆแนว pwp มากไป
นิยายไม่จำเป็นต้องทำตามขนบ ถ้าอยากทำตามศีลธรรม มีศีลสมาธิปัญญา อย่าอ่านเลยนิยาย เชิญไปอยู่ในโลก 1984 ตำรวจความคิด
>>924 ใช่ กูเคยอ่านรัชทายาท กูรับได้กับ incest ในรัชทายาท
เพราะรู้สึกว่า มันสาสม มันโดนการลงโทษอะไรบ้าง กว่าจะรักกันได้
มึงอาจจะมองว่ามัน romanticize หรือไม่ก็ได้
แต่กูรู้สึกว่า ถ้าโดนลงโทษมาก แล้วสุดท้ายยืนยันจะรักกัน ก็ปล่อยไปให้ ให้เค้าได้รักกันเหอะ อย่าทรมานเค้าอีกเลย
กูเลยคิดว่า ผิดศีลธรรมได้ แต่ต้องทำให้คนอ่านสงสารและเห็นใจ
อะไรประมาณนี้อะ
>>914 ความเห็นกูคือใช่ ถ้าแบนก็แบนหมด ถ้าไม่แบนก็ไม่หมด แต่กูไปทางแค่จัดระเบียบการเข้าถึง แปะtwก็พอแล้ว
กูคือคนบนๆที่โพสว่างงทวิตเตี้ยนที่สองมาตรฐานกับเรื่องนี้ ฟินกับเรปโคดเยอะ แต่หยี๋กะอินเซส ทั้งที่ความเห็นกูคือเรปผิดกว่าอย่างชัดเจน (เช่นอินเซสชช.โตแล้วconsentทั้งคู่ผิดประเด็นไหนอีก ไม่มีทายาท ไม่กรูมมิ่ง ไม่เปโด) สุดท้ายมันเป็นที่คนส่วนมากได้รับคำสอนฝังหัวมาว่าผิดแต่ไม่เคยตั้งคำถามอะว่าผิดยังไง แต่เรปเห็นกันในละครหลังข่าวแต่เด็กเลยกลายเป็นเฉยๆฟินกันได้
คหกุอาจเป็น unpopular opinion แต่ส่วนตัวกุมองว่าคนเขียนอยากเขียนไรเขียนเลย ไม่ควรมีใครไปปิดกั้นว่าแนวนั้นแนวนี้ไม่ควรเขียน แต่ขณะเดียวกันคนอ่านก็มีสิทธิ์วิจารณ์ว่ะ แต่ควรวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่มาแนว "ฉอด" ถ้าไม่โอเคกับอินเซสก็วิจารณ์ไปว่าอินเซสมันไม่ดียังไง ในเรื่องมันนอมัลไลซ์มั้ย ยังไง ซึ่งตอนนี้มันไม่มีใครวิจารณ์แบบนั้นอ่ะ ฝ่ายที่เข้าข้างงานเขียนหลายๆคนก็เลยทำเหมือนงานเขียนพวกนี้แตะต้องไม่ได้ไปด้วย แบบดีเฟนด์ว่างานเขียนก็คืองานเขียน ไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน (ซึ่งกูไม่เห็นด้วยนะ อ่านแล้วไม่ชอบก็วิจารณ์ได้ งานเขียนไม่จำเป็นต้องชมอย่างเดียว) มันเหมือนยิ่งเถียงกันก็ยิ่งสุดโต่งทั้งสองฝ่ายไปแล้วอ่ะ แต่อันนี้กุหมายถึงพวกดีเฟนด์แบบสุดโต่งเหมือนห้ามแตะต้องไรงี้นะ ไม่ได้หมายถึงคนที่ด่าพวกไม่ชอบอินเซสแล้วแหก tw มาอ่าน
คิดสภาพเอานิยายแนวๆนี้มาตีพิมพ์บนบก ถ้าวางขายในร้านหนังสือมันฝากหิ้วได้อยู่แล้ว ขนาดกูยังเคยเจอเด็กม.ต้นมาขอฝากหิ้วนิยาย 20+ เลย555 ยิ่งเอาลงออนไลน์นะ บางที่ซื้อ-ขายไม่ตรวจอายุผู้ซื้อด้วยซ้ำ เจอยังงี้พวกมึงจะป้องกันกันอย่างไงเอ่ย? ของบางอย่างอย่าเอาขึ้นบกไปตีพิมพ์เลย ถ้ามันจะมีผลเสียมากกว่าผลดี
>>927 ถ้าเอากรณีแค่ว่าดราม่ามากพอไหมถ้ามากพอแล้วสุดท้ายจบเรื่องถึงคู่กันเป็น incest คนจะโอเคมาตัดสินเป็นเกณฑ์เรื่อง มันจะกลายเป็นสองมาตรฐานมาก กูเข้าใจที่มึงสื่อนะ ไม่ได้บอกว่ามึงเป็นคนเอาเกณฑ์นี้มาตัดสิน กูแค่บอกว่าสมมติใช้เกณฑ์นี้จริงๆมันก็ไม่ได้อะ เพราะบางคนเขาก็มองว่าตัวละครก็รู้สึกผิด ไม่ได้คิดว่ามันถูกมันก็สื่อในตัวมันเองแล้ว ปัญหามันเลยอยู่ที่ว่าถ้าอยากจะแบนก็ต้องแบนหมด แล้วเลยมีคนตั้งคำถามด้วยว่าแบบนี้กรณีพระเอกขึ้นอย่างหงส์ทำตัวโบ้ๆเรป สุดท้ายโดนลงโทษแต่กลับตัวกลับใจกลายเป็นหมาได้กลับมารักกับนายเอก ทำไมคนถึงไม่ค่อยโวยวายเป็นประเด็นขนาดนั้นทั้งๆที่มันก็คือ rape to love จะเรื่องดราม่ายังไงสุดท้ายมันก็รักกับคนที่เรปตัวเอง เคยทำ toxic กับตัวเอขนาดนั้นอะ
>>932 กูเข้าใจมึง และขอบคุณที่มึงเข้าใจกู
กูรู้สึกเหมือนกันในประเด็น rape to love
สารภาพนะ กูอ่าน
กูรู้สึกว่า คนรับ rape to love ได้ ถ้าพระเอกขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างหมา คือมึงทำเลวได้ แต่ถ้ามึงโดนกรรมที่ได้ก่อไว้จนสาสม
กูจะยอมให้อภัยมึง และยอมรับให้มึงได้รักกับลูกกู (กูเป็นมัมหมี ลูกก็คือนายเอก)
แต่ถ้ามึง rape มึงทำเลว แล้วมึงไม่กลับใจ ไม่ได้รับกรรมที่ก่อไว้ กูจะรับไม่ได้ขึ้นมาทันที
กูว่าประเด็นคนรับได้กับรับไม่ได้ มันอยู่ที่ควรน่าสงสาร
ถ้าเขียนให้น่าสงสาร คนจะรับได้
แต่ถ้าไม่น่าสงสาร คนจะเฉยๆ หรืออาจจะรับไม่ได้ก็ได้
incest ก็เหมือนกัน
ถ้าแต่งให้คนสงสาร คนจะเข้าข้าง ปล่อยให้เค้ารักกันเหอะ อย่าด่าลูกกู ลูกกูทรมานมามากพอแล้ว ปล่อยให้เค้ารักกัน
แต่ถ้าคนไม่สงสาร มันก็จะไม่มีมัมหมีคอยปกป้อง
อันนี้คือไม่ได้ยึดตามหลักการอะไรเลย ขึ้นกับอารมณ์คนอ่าน
ตรงกันข้ามรัชทายาทดันเป็นแนวอินเซสที่กุไม่ชอบรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เพราะความสัมพันธ์ในเรื่องมันเริ่มจากการบีบบังคับ นายเอกไม่มีทางเลือก สุดท้ายยอม ตกหลุมรัก ขาดกันไม่ได้ จบท้ายที่แฮปปี้เอนด์ดิ้ง เป็นขนบนิยายอินเซสแบบที่กุไม่เคยจะชอบเรื่องไหนมาแนวทางนี้กุอ่านไม่จะจบ ตรงข้ามกุโอเคกับอินเซสที่ตัวละครมันยินยอมพร้อมใจ รู้ว่าบาป รู้ว่าคนไม่มีทางยอมรับ แต่เต็มใจจะเลือกทางนี้เอง ต่อให้ไม่มีดราม่าอุปสรรคลากเลือดแบบยิ่งใหญ่อลังการ แต่กุอ่านแล้วสบายใจไม่อึดอัดจิตตกแบบแรก
ส่วนองค์ชายสามฯกุอ่านไม่จบเพราะไม่โอเคกับการทรีตตัวละครหญิงในเรื่องของนข. เลยโนคอมเม้น
>>936 แนวนี้ฝั่งชญมีมานานแล้ว ละครไทยที่สาววายชอบด่ากันก็แนวนี้ทั้งนั้น พระเอกเหี้ยตามง้อนางเอกที่ท้องแล้วหนี กุเจอในละครไทยมายี่สิบสามสิบปีละ แต่วายเพิ่งมาฮิตกันช่วงที่เริ่มฮิตนายเอกท้องได้ พอมาฮิตในฝั่งวายมันก็เลยมาแนวเดียวกับชญตรงที่พระเอกต้องเป็นคนง้อ มันเป็น trope น้ำเน่าคลาสสิกอ่ะ
กูรู้สมัยเรียนกูเปรตมาเยอะ555 วิธีหาช่องใช้ทริกต่างๆทำมาเยอะ
กูคือ >>914 กูกลับไปย้อนอ่านที่พวกมึงถกกันอีกครั้ง กูก็เกิดข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งว่า :
'ถ้า' งานเขียนผิดศีลธรรม(กูไม่พิมพ์ซ้ำนะ แต่ในคห. 914 กูยกตัวอย่างไว้แล้วพอสมควร) สามารถเขียนได้ สามารถขายได้แต่ต้องมีการตรวจอายุและจำกัดการเข้าถึงอย่างเข้มงวด เอาลงดินแบบที่มดชิดที่สุด ปัญหาถัดมาที่ต้องเจอแน่นอนก็คือ : เด็กน้อยไม่มีวิจารณญาณ มีแต่ความกระสันอยากจะอ่านจนหาวิธีอย่างการ เอาบัตรปชช.คนอื่น/ฝากหิ้ว/ซื้อออนไลน์ ไปซื้อมาอ่านจนได้
กูค้นพบว่าวิธีการแก้ปัญหานี้(การจำกัดอายุ)มีช่องโหว่ กูเลยคิดขึ้นมาได้ว่า ไม่ว่าปัญหานั้นจะถูกแก้ด้วยวิธีไหน มันก็ยังคงมีช่องโหว่เสมอ (อาจจะมีวิธีแก้แบบไม่มีช่องโหว่ แต่ในที่นี้กูไม่ได้พูดถึงการแบนห้ามเขียน เพราะไม่งั้นงานนิยาย ละคร มังงะ และสื่อต่าง ๆ (ไม่รวมแค่วาย) ในตลาดจะต้องหายไปประมาณ 70% แน่นอน ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่านิยายแปล(และสื่อต่าง ๆ )จากประเทศอื่น ๆ ก็ต้องระงับการซื้อลิขสิทธ์และล้มเลิกการตีพิมพ์ไปพอสมควร)
ดังนั้นสิ่งที่กูอยากจะถามอีกครั้งในคห.นี้ก็คือ : ใครเป็นคนรับผิดชอบในการอุดช่องโหว่เหล่านั้น?
1. ผู้มีคุณวุฒิที่สามารถเผยแพร่แนวความคิดการแยกแยะและใช้วิจารณญาณกับสื่อ (เช่นผู้ปกครอง ครู และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)
2. ติด TW และชี้แจงเกี่ยวกับเนื้อหาโดยนักเขียน (แต่นักเขียนมีคนเดียว การแก้ปัญหาแบบนี้จึงมักจะอยู่ในรูปแบบประชาสัมพันธ์และการชี้แจงท้ายตอนหรือไม่ก็สอดแทรกความตระหนักรู้เข้าไปในเนื้อหา แต่ก็นั่นแหละ เพราะนักเขียนมีคนเดียว ประกอบกับมีนักอ่านบางประเภทที่ไม่อ่านรายละเอียดหนังสือ เช่นท้ายปก และคำนำ รวมถึงไม่อ่านทอล์คท้ายตอนของนักเขียนด้วย นั่นจึงเป็นการอุดช่องโหว่ที่ไม่เต็มร้อยเท่าไร แต่ถ้าพูดถึงผลส่วนใหญ่ก็ถือว่าได้ผลที่ดี...ถ้าคนที่ได้รับสารพอมีสติปัญญาในการขบคิดหน่อย)
3. ตัวนักอ่าน (กลุ่มคนที่ทำให้เกิดปัญหาโดยตรง)
ซึ่งข้อ 3 มันจะเป็นปัญหาต่อไปว่า จะทำยังไงให้คนกลุ่มนี้ตระหนักรู้ได้? และคำตอบก็จะไปสอดคล้องกับคนกลุ่มที่ 1
ที่กูพิมพ์ทั้งหมดเพื่อจะออกความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้คือทุกคนต่างทำเท่าที่ตัวเองรับผิดชอบได้เถอะ ไม่โบ้ยให้ใครคนใดคนหนึ่งรับผิดไปเต็ม ๆ แต่ช่วยกันหารก็พอแล้ว การผลักภาระไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีไม่ว่ากับเรื่องไหน นักเขียนก็ติด TW และเตือนให้นักอ่านตระหนักรู้เสมอทุกครั้งที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความผิดศีลธรรมปรากฏ นักอ่านก็กุมวิจารณญาณของตัวเองแน่น ๆ ตอนอ่าน ท่องในใจตอนอ่านไปได้ทุก ๆ 1 นาทีว่า 'นี่คือนิยาย นี่คือเรื่องในจินตนาการ'
ในส่วนของคนที่มันจะรั้นให้เขียนต่อแบบไม่สนใจผลกระทบต่อเหยื่อ หรือรั้นให้เลิกเขียนแบบไม่สนใจความหลากหลายของเนื้อหาแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้นก็ปล่อยมันไปเถอะ คุยกันคนละภาษาแล้วล่ะ
กูงงทำไมคนฉอดแนวนี้ แต่ไม่มีใครไปฉอดอิพระเอกคลั่งรักไร้สติที่เหี้ยกับคนทั้งโลกดีกับเธอคนเดียวบ้างวะ พระเอกบางเรื่องนิร้ายกว่าตัวร้ายอีกกูเคยเจอแม่งสั่งให้องค์รักษ์รุมโทรมตัวละครหญิงเงี้ย เสือกมีแต่คนอ่านบอกฟินนน กูอยากถามจะตายว่ามึงบ้ากันปะ
มีคนยกตัวอย่าง incest ของเฟิ่งน่ง กุบอกเลยว่า รัชทายาทของเฟิ่งน่งนี่บ้งกว่าองค์ชายสามเยอะมาก แค่เริ่มเรื่องก็เป็นเรื่องการบังคับขืนใจแล้วจ้า และเป็นตัวอย่างนิยายที่ใช้อำนาจไม่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน กุรู้สึกว่าออกแนวคนที่ทำดีกับนายเอกเหลืออยู่ไม่กี่คนด้วย เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดบนพื้นฐานจิตใจที่ไม่ปกติเลย สำหรับกูเรื่องนี้ unhealthy relationship ว่ะ
แต่กุก็อ่านและซื้อเก็บนะ ตอนอ่านคือรู้ แยกแยะได้ว่ามันผิด กูว่านี่คือ common sense ที่คนอ่านนิยายทั่วไปมีนะ
แล้วทำไมเรื่องพวกนี้ถึงไปอยู่บนพื้นฐานของความน่าสงสารไปได้ล่ะเนี่ย
อันนี้แอบสงสัย คือโลกความจริงในปัจจุบันก็ยังมีบางชนเผ่าที่มีการร่วมเพศในครอบครัว แบบนี้ชาวทวิตจะตามไปชี้หน้าด่าเขาด้วยไหมว่าผิดศีลธรรม
อาจจะคนละเรื่องแต่เห็นพวกมึงฉอดเลืองนี้กันแล้วกูคิดถึงกรณีคุณแม่วัยใสเลย คือในเรื่องมีอุปสรรคมีคนไม่ยอมรับนะแต่มันน้อยกว่าความเป็นจริงมากจนคนอ่านแถมไม่รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคอะ กูว่ามันคล้ายกับองค์ชายสามที่เป็นเรื่องผิด มีคนไม่ยอมรับ มีอุปสรรคแต่ดันน้อยกว่าความเป็นจริงทำให้ประเด็นแรงๆแบบนี้ดูซอร์ฟลงจนคนไม่เห็นถึงความอันตรายของประเด็นนี้ว่ะ คือถ้าโตๆกันแล้วแยกแยะเป็นก็ดีแหละ พอคนที่แยกแยะไม่ได้มาอ่านสิถึงมีผลเสีย กูจำได้เลยหลังจากคุณแม่ไว้ใจออกมาเด็กท้องก่อนแต่แม่งยกให้เรื่องนี้เป็นไอดอล มองว่าท้องก่อนแต่งเป็นเรื่องไม่ผิดทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่ กลายเป็นปัญหาสังคมไปอีกหนึ่งแทน กูเลยคิดว่าจริงแล้วข้ออย่างนี้ถ้าจะเขียนจะเล่นกันความเขียนให้เห็นของผลกระทบจริงๆที่ไม่ปรับให้ซอร์ฟลงดีกว่ารึป่าว ให้รู้จริงๆว่าประเด็นนี้คือเรื่องที่ผิดไม่ได้ทำให้ประเด็นมันดูโลกสวยจนคนบ้างกลุ่มเข้าใจผิดแล้วพาสังคมเดือดร้อน
กูอาจสื่อสารไม่ดีมากนะ แต่คิดจริงๆถ้าจะเขียนแนวนี้ไว้บนดินควรเล่นประเด็นให้แรงถึงผลเสียที่ตามมามากกว่านี้
ถกกันได้ยาวมากกกกกกกก 300++เม้น
>>916 ส่วนตัวกู กูอยากให้มีอย่างน้อยสักหนึ่งย่อหน้าในเนื้อเรื่อง ในตัวเนื้อเรื่องนิยายเลยนะ ที่อธิบายว่าอินเซสมันไม่ปกติยังไง และทำไมอินเซสในเรื่องนี้ถึงรับได้
แค่ย่อหน้าเดียวในเรื่องเท่านั้นเองที่กูอยากได้ และแค่อยากได้ด้วยนะ ไม่ได้ไปคาดคั้นว่าต้องมีให้ได้ แค่ถ้ามี กูคิดว่ามันอาจจะป้องกันการฉอดได้บ้าง
กูรู้และกูเข้าใจว่าติด tw แล้ว พยายามแล้ว ทั้งนักเขียนและสนพไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลย แต่เอาเข้าจริง tw มันเป็นแค่การเตือนเฉยๆว่าในเรื่องนี้คุณจะได้พบกับอะไรบ้าง
อาจจะมีคนบอกว่าแค่ติด tw เป็นการเตือนก็เหมือนบอกแล้วไงว่าผิด อันนี้สรุปแบบนั้นไม่ได้ เพราะ tw นี่มันรวมเนื้อหาลามกอนาจาร ความตายของตัวละครด้วย ซึ่งสองอย่างนี้ไม่ได้เป็นความผิดอะไร และในบางกรณี ตัว incest เองก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เลยว่าผิดจริงๆมั้ย ถ้าตัดประเด็นเรื่องยีน เรื่องศีลธรรม และเรื่องกรูมมิ่งออกไป ถ้าสองคนรักกันจริง incest จะยังเป็นความผิดรึเปล่า
สำหรับกู กูมองในแง่ร้ายไว้ก่อนว่าความสัมพันธ์อาจจะตั้งอยู่บนพื้นฐานอำนาจที่ไม่เท่ากัน เลยอยากให้ใส่ลงไปในเนื้อเรื่องด้วย เพื่อประโยชน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กมาอ่าน หรือผู้ใหญ่อ่านแล้วถือเป็นข้ออ้างให้ตัวเองไปล่อลวงเด็กก็ตาม มันอาจจะช่วยหรือไม่ช่วยก็ได้ แต่กูมองว่ามีดีกว่าไม่มี ทั้งเพื่อชื่อเสียงของตัวนักเขียนเองและคนอ่าน
>>944 ถ้ามองประเด็นหลักเป็นเยาวชนนะ สื่อทำหน้าที่ตัวเองคือแปะป้ายแจ้งตามความเหมาะสมก็พอแล้ว ไม่ใช่หน้าที่สื่อที่จะต้องมาทำหน้าที่สอนใจเด็กหรือกังวลว่าอุ๊ยเดี๋ยวมีเด็กหลงมานะปรับเนื้อหาดีกว่า ทั้งที่ก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเค้าและได้แปะป้ายเตือนระดับเรตติ้งแล้ว เพราะสุดท้ายหน้าที่หลักคือพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ดีนะ มู้บนๆมีคนมาโพสว่าเป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายต้องยื่นมือมาช่วยดูแลเพราะพ่อแม่ก็ต้องทำงานไม่ว่างมาดู แต่กูว่ามันเป็นแก่นของปัญหาเลยวะ จะโยนปัญหาให้แต่ผู้ผลิตแก้ที่ปลายน้ำไม่ได้
ยกตัวอย่างอ้อมๆประชดเล็กๆ ถ้าเป็นเด็กเล็กมากๆพร้อมจะหยิบทุกอย่างเข้าปากหมดแม้แต่ฝาขวดน้ำหรือเหรียญบาท หน่วยงานใดๆต้องแปะป้ายบนฝาขวดน้ำด้วยหรือเป็นหน้าที่พ่อแม่ที่ต้องดูแลและสอนลูกว่าสิ่งนี้เอาเข้าปากไม่ได้อะ
กลับมาถ้าเป็นเคสที่ถกกันอยู่ว่ากลัวเรื่องเยาวชนจะเข้าใจผิดเรียนรู้ผิดๆจากสื่อ คือต่อให้พยายามทำให้มันเข้าถึงยากยังไง ถ้าเด็กมันมีใจดื้ออยากท้าทายอยากลองไปแล้วมันจะไปหาทางมาได้อยู่ดีวะ กูเลยเห็นเป็นหน้าที่ผู้ปกครองที่ต้องสอนเรื่องว่าเด็กควรจะเลือกเชื่ออะไรไม่เชื่ออะไร อะไรที่ควรลองหรือเข้าถึงได้ในวัยไหนด้วย ถ้าเด็กมันอยากลองเหล้า ต่อให้หาซื้อยากถ้าพี่ข้างบ้านมาชวนมันก็ไปลองอยู่ดี ถ้าเด็กอยากอ่านr18 ก็ไปเอาบัตรพ่อแม่มาสมัครอยู่ดี
เออ เอาจริงที่ตบตีกันในทวิตมีถกกันไหมว่าอินเซสผิดศีลธรรมยังไง หรือแค่ไฝว้กันเรื่องนิยายอย่างเดียว ไล่ดูเห็นมีแต่บอกอินเซสผิดมาก รับไม่ได้ แต่ไม่มีคนบอกว่าผิดยังไงเลย
ตอนนี้กูอยากให้ สนพ เวลาออกนิยายออกทีเดียวครบชุดว่ะ กลัวโดนดราม่ากลางทางแล้วต้องหยุดขายแบบไม่จบ เห้อม
>>962 ผู้ปกครองทิพย์กันทั้งนั้น ถ้าไม่สอนแล้วเน้นห้ามเน้นปิด สุดท้ายฉุดไม่อยู่หรอก ขนาดเมื่อก่อนพวกโซเชียลอะไรเข้าถึงยาก กูยังลองอ่านไทยเซ็กสตอรี่ครั้งแรกตอน ม.2 ดูหนังโป๊เรื่องแรกตอน ม.4 แต่กูทำครั้งเดียวนะ ไม่ใช่แนวว่ะ มันrealไปออกแนวขยะแขยงอ่ะ เลยกลับมาสายการ์ตูน สายฟิคชั่นต่อ ตอนนั้นก็มีให้อ่านวายไม่มาก พวกวายลิขสิทธิ์นี่ไม่มีเลยมั้ง นิยายก็ยังไม่ค่อยมี แต่ฟิคชั่นเจป๊อปเจร็อคจะเยอะหน่อย
เมื่อก่อนยังห้ามไม่อยู่ ตอนนี้เด็กๆเข้าโซเชียลเก่งกว่ากูอีก จากที่พวกมึงทำมันจะไม่overprotectiveเหรอวะ กูกลัวว่าจากที่คิดว่าดีจะกลายเป็นร้ายแทน
>>964 ชญเค้าจะกลัวทายาทมีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากเรื่องเลือดชิด แล้วถ้าเกิดขึ้นในบ้านกับผู้เยาว์มันก็เหมือนเคสเปโดกรูมมิ่งนะ
ส่วน ชชหรือญญ กูพยายามหาคำตอบมาตั้งแต่มีเรื่องแล้วว่า ชชหรือญญ โตแล้ว คอนเซนทั้งคู่ผิดยังไง คือพื้นฐานกูไม่ได้สายนี้หรือสนับสนุนนะ แต่กูรำคาญแอคฉอดศีลธรรม 55
กูเปิดใจไล่อ่านในนี้หรือไปฟังสเปซเมื่อวานเผื่อจะเจอว่าผิดยังไงในแง่ที่กูคาดไม่ถึง สุดท้ายไม่มีคำตอบเลยว่าผิดยังไงวะ ในสเปซมีคนถามด้วยว่าชชผิดไหมก็ไม่ได้มีทายาท คนที่ออกปากด่าก่อนหน้าเงียบไปเลยเพราะตอบไม่ได้จนต้องไปถามฝั่งวิชาการ ฝั่งวิชาการก็ตอบได้แค่กรณีเด็กซึ่งมันเปโดกรูมมิ่งไง
เอาจริงนะ กุคิดว่าเด็กๆ ประเทศเรามีคุณภาพกว่าที่คิดนะ ดูจากการแสดงออกหลายๆ อย่าง (แน่นอนว่ามันมีเด็กบ้งด้วย แต่ยุคไหนสมัยไหนมันก็มี) ประเด็นเรื่อง incest กุคิดว่าที่มันลุกลามขึ้นก็เพราะเด็กเขารู้อยู่ว่ามันผิด เขาแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนดีไม่ดี แล้วมันเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมเรื่องผิดๆไม่ดีพวกนี้มันถึงมาอยู่ในนิยายได้ แต่ถ้ามองรอบตัวมากขึ้นเขาจะรู้ว่าเรื่องไม่ดีพวกนี้จริงๆมันมีอยู่ในสื่อรอบตัวทั้งหมดนะ ไม่ใช่แค่นิยายเรื่องเดียว เปิดละคร 1 เรื่องก็ต้องเจอ เดินเข้าโรงหนัง 1 รอบก็ต้องเจอ แต่ขอแค่คนแยกแยะได้มีมากกว่าคนแยกแยะไม่ได้ เหมือนที่เขาเองก็แยกแยะได้ว่ามันผิด มันก็ไม่มีทางนอมอลไลซ์สังคมได้แล้ว สิ่งที่กลัวกันอยู่ตอนนี้มันคือการกลัวเกินไปรึเปล่า พวกมึงอาจจะคิดว่ากูโลกสวยเกินไป แต่กูคิดว่าอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่วนใหญาไม่ได้เกิดจากการเลียนแบบนิยายที่เป็นตัวอักษรยาวๆแบบนี้หรอก บอกว่าคนเลียนแบบหนังหรือซีรี่ส์ยังง่ายกว่าด้วยซ้ำ
กูสนับสนุกเรื่อง rate , tw , ทำเป็นแถบคาดหนังสือ , หรือจะเพิ่มหน้าคำอธิบายเพิ่มเติม , หรือใส่ไว้ในทอล์กนักเขียนนะ สนับสนุนเรื่องการตรวจบัตรก่อนซื้อ จะห้ามเอาลงเชลฟ์กลางร้าน จัดโซนเฉพาะ อะไรก็ว่าไป ให้มันดูเข้าถึงยากขึ้นซะหน่อย อันนี้ถ้าทำได้ก็ดี แต่กูว่าสำหรับคนที่คิดว่ามันต้องใส่ใต้ดิน หรือต้องห้ามเขียน หรือไปเขียนในซอกหลืบ อันนี้กูรู้สึกว่ามันเกินไปว่ะ
KY นักเขียนนิยายวายในทวิตที่ยอดฟอลเยอะๆ นี่ประมาณไหนถือว่าเยอะวะ? หรือเอาที่เยอะที่สุดที่พวกมึงเคยเห็นก็ได้ หรือเอายอดไลก์เพจก็ได้ (เฉพาะสายวายนะ/หรือจะเขียนชายหญิงด้วยก็ได้แต่เขียนวายด้วย) กุอยากรู้อะ หรือเกณฑ์พวกมึงเท่าไรอัพถึงจะถือว่าเยอะ??
ชช กูว่ามันผิดในแง่ความเชื่อในสังคม
สังคมเชื่อกันมาเป็นร้อยๆปี ว่ามีสัมพันธ์ในครอบครัวเดียวกันมันบาป
อารมณ์คล้ายๆ เรื่องอื่นที่ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ผิดหลักศาสนา
สรุป ความคิดกู ชช มันผิด เพราะมันขัดกับความเชื่อของสังคม ที่ฝังรากลึก จนลืมตั้งคำถามว่าผิดยังไง
>>969 กุจำได้ว่าได้คำตอบจากในโม่งซักห้องนี้แหละว่าอินเซสต่อให้ไปไม่ทายาทและต่างฝ่ายต่างยินยอมพร้อมใจ ก็ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องปกติเพราะสถาบันครอบครัวจะล่มสลาย พี่น้องต้องมาระแวงกันว่าจะถูกพี่น้องตัวเองมองเกินเลยรึเปล่า แล้วถ้าไม่สมหวังคนนึงรักคนนึงไม่รักจะมองหน้ากันติดกลับมาเป็นครอบครัวปกติเหมือนเดิมได้มั้ย
ซึ่งกุโอเคกับคำตอบนี้นะไม่ควรมองเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ควรตีตราดราม่าไปเผือกด่าในกรณีที่คู่อินเซสนั้นเขาต่างฝ่ายต่างเต็มใจที่จะเลือกทางนี้ และป้องกันไม่มีลูก/หามีลูกไม่ได้
อินเซส ไม่ว่าเพศอะไร
มันถูกสอนกันมาเป็นร้อยๆปี ว่าผิด
ผิดโดยอัตโนมัติ ถามใคร ใครก็ต้องบอกว่ามันผิด
ผิดแบบไม่ต้องการเหตุผลด้วย เพราะมันผิด (กำปั้นทุบดินมะ)
ถึงขนาดมีคำพูดด่าคนผิดอินเซสเลยว่า
มีแต่สัตว์เท่านั้นแหละ ที่สมสู่กันเองในสายเลือดเดียวกัน
แล้วแนวคิดนี้มันเปลี่ยนยากด้วย ไม่เหมือน lgbt
เพราะคนส่วนใหญ่ในสังคมเห็นพ้องต้องกันว่ามันผิด มันเลยเป็นแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงยาก
แม้จะเป็นในกรณีพี่ชายน้องชายที่ท้องไม่ได้ก็ตาม
>>971 กูเดาเพิ่มนะ หลักศาสนาหรือความเชื่อสมัยก่อนมันมาเพื่อรักษาความมั่นคงของสังคมอะ และคนมีหน้าที่ต้องผลิตทายาทให้ตระกูลหรือสังคม
ชช เมื่อก่อนหลายที่ผิดเพราะเค้าคิดว่าธรรมชาติคนต้องผลิตทายาท อินเซสอาจทำให้มีทายาทที่ไม่สมบูรณ์หรือทำให้ทายาทนับลำดับญาติไม่ได้ พอทายาทนับลำดับญาติไม่ได้ก็มีผลกะเรื่องลำดับในตระกูล มรดก ไรงี้
พอเกิดปัญหานี้ สังคมเลยศีลธรรมว่าสิ่งนี้ผิดห้ามทำ
มีคนสอนไว้ อย่าเชื่อในสิ่งที่เล่าต่อๆกันมา ต้องหัดสงสัย หัดตั้งคำถาม แต่พอถามไม่มีใครตอบได้เลย แย่จัง
>>976 อันนี้กุนึงถึงกรณีที่พี่น้องหรือพ่อลูก/แม่ลูกต่างเพศต้องระวังเรื่องการวางตัวกันอยู่แล้วอะ เช่น ไม่นอนแหกแข้งแหกขาโชว์คนในบ้านหรือพอโตหน่อยก็เลิกอาบน้ำด้วยกันงี้ คหสต ต่อให้เป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องระวังเรื่องทางเพศ สนิทใจกันไม่ได้เต็มร้อยอยู่แล้ว อันนี้เรื่องมองเกินเลยนะ ส่วนเรื่องถ้าไม่สมหวังในรักแล้วจะมองหน้ากันไม่ติดนี่เหมือนความรักในกลุ่มเพื่อนสนิทเลยนะ แบบกระอักกระอ่วน แต่ไม่ได้ถึงขึ้นผิดศีลธรรมปะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สมมติถ้าอินเซสกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมกุก็คงรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน แต่หาเหตุผลไม่ได้นะ 5555
จริงๆของพวกนี้คำตอบง่ายๆก็แค่ สังคมกำหนดไว้แบบนั้นแค่นั้นจริงๆ ในอียิปต์มันเคยมีความเชื่อรักษาเลือด อินเชสกลายเป็นไม่ใช่เรื่องผิด
ในอดีตมีความเชื่อ/จารีตบัดซบ ที่ให้คนรุ่นเรากลับไปฟัง/รับรู้แล้วจะรับไม่ได้เยอะมากนะ ถ้าเป็นสายฉอดแม่งไม่รู้จะดีใจจนตัวสั่นมั้ย มีเรื่องให้ฉอดคว้าแสงเยอะเลย
>>976 เห็นด้วยเรื่องเซฟสเปซในบ้าน บ้านควรเป็นที่ที่สบายใจอ่ะ ไม่ควรต้องมานั่งกังวลว่าจะถูกละเมิดมั้ย คิดว่าที่อินเซสไม่ควรปกติในสังคม เพราะมันนำไปสู่การ grooming/sexual abuse ได้ง่ายนี่แหละ (พูดถึงแนวโน้มที่จะเกิดนะ ไอ้ที่เกิดการกระทำไปแล้วอ่ะผิดเต็มๆ)
ขนาดอินเซสไม่ปกติ พ่อแม่พี่ป้าน้าอายังไม่ค่อยเคารพสิทธิเด็กกันเลยมึง5555
มันไม่ย้อนแย้งกับประเด็นตอนนี้เหรอวะ ที่แต่ละคนอยากจะพัฒนาวงการ งี้กุบอกว่าวงการนิยายมันก็แลบนี้มานานแล้วอ่ะ มีเรื่องผิดศีลธรรม มีเรื่องไม่ดี แต่เขาก็ทำกันมานานแบ้ว อยู่ๆ จะมาตั้งคำถาม มาเอะใจอะไรกันทำไมอ่ะ จะมาให้ติด tw ติดเรททำไมอ่ะ สังคมนิยายเมื่อก่อนไม่เห็นต้องมีอะไรแบบนี้เลย
>>983 กูมองว่าที่โม่งมีสติคุยๆกันมาด้านบนเป็นร้อยๆเมนต์ เขาก็ไม่ได้มองว่าอินเซสมันควรถูกมองว่าปกติหรอก แต่เขามองว่าถ้านิยายมันขายในที่ๆสมควรขาย (ซึ่งอันนี้คุยๆกันไปเยอะเลย) มีการติดแทค จัดเรท จำกัดการเข้าถึงแล้ว มันไม่ควรโทษนิยาย ด่าคนเขียนว่าเขียนได้ไงสนับสนุนเรื่องแบบนี้เหรอ เพราะนิยายมันก็มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะอะ แต่นักฉอดในนกฟ้าไม่เข้าใจไม่เอาอะไรทั้งนั้น ฉอดอย่างเดียวว่าผิด ทำไมถึงรับกันได้ล่ะ ทำไมสนับสนุนเรื่องแบบนี้ พวกแกคือพวกคุณภาพต่ำที่ถูกสื่ออินเซสล้างสมอง แบบไปไกลมากกกก คือ ถ้าใช้ตรรกะนี้ นิยายเรื่องไหนมีฉากไม่เหมาะสม เช่นพระเอกข่มขืนนางเอก คือต้องโดนประนามเอาลงใต้ดิน เลิกเขียนเหมือนกัน เพราะคนเขียนไม่เห็นใจเหยื่อเรปเหรอสนับสนุนเรปเหรอถึงเขียนออกมา คือกูเข้าใจว่าหลายคนที่ฉอดอินเซสไม่โอเคกับเรปก็เยอะ แต่เอเนอจี้ตอนฉอดคนละเรื่อง เผลอๆก็แค่ไม่ชอบก็เลี่ยงอ่านเอา
>>982 มึงก็ตั้งคำถามได้ แต่มึงจะเอาอะไรวัดความถูกต้องล่ะ มันไม่ใช่ 1+1 เท่ากับ 2 เห็นเป็นชิ้นเป็นอันนี่ มันก็ขึ้นกับว่าคนส่วนมากเชื่อว่าอะไรถูกมันก็เทไปทางนั้นจากนั้นก็มีการลงโทษทางสังคมตามมาขึ้นกับว่าคนในสังคมนั้นๆจะต่อต้านมันร้ายแรงแค่ไหน ถ้ามีคนตั้งคำถามมากๆ รู้สึกว่ามันน่าจะไม่ถูก พอผ่านไปสักพักมันก็เปลี่ยน นี่แหละธรรมชาติของความเชื่อที่เถียงกันจนนูกลงก็ไม่จบล่ะ
ความวายที่เราชอบก็แพทเทรินแบบนี้แหละ ตอนนี้มันถึงพอจะขึ้นบนดินได้ไง เพราะคนที่คิดตั้งคำถามและตอบว่าไม่ผิดมันมากขึ้นไง
โดยส่วนตัวกูไม่ได้สนับสนุน อินเชส และไม่คิดว่าควรปลูกฝังสนับสนุนเด็กให้เห็นว่าปกตินะ เอาลงใต้ดิน เอาห่างๆเด็กน่ะดีแล้ว กุมองพี่น้องกูแล้วก็ไม่รู้จะไปเอาความหื่นมาจากไหน ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวสักนิด จริงๆมันสปาร์คค่อนข้างยากนะ แม้แต่ธรรมชาติก็ยังมีกลไกกันอินเชสในระดับนึง
คือถ้ามึงจะถกว่าทำไมผิด คำตอบที่กูคิดออกมันก็มีแค่นั้นจริงๆ
>>985 กูเข้าใจว่ามันควรจะตั้งคำถามได้
แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่แบบนั้น
การตั้งคำถาม หรือเรียกร้องแนวคิดอะไรสักอย่าง มันต้องมีแนวร่วมที่คิดเหมือนกันมากพอ
หมายถึงถ้ามึงตั้งคำถาม มันต้องมีคนเห็นด้วยกับมึงระดับหนึ่ง
แต่ประเด็น incest เนี่ย แค่คุยกันในวงสาววาย อายุใกล้เคียงกัน มันยังมีคนไม่เห็นด้วยเต็มไปหมด
ไม่ต้องนึกถึงการตั้งคำถามนี้ในวงกว้างเลย
แค่วัยรุ่นยังไม่เห็นด้วย นับประสาอะไรกับการขยายวงไปที่ผู้ใหญ่
ลองยิงคำถามนี้ ในวงผู้ใหญ่อายุ 40-60 ดู
มีแต่จะเรียกมึงไปปรับทัศนคติ ว่ามึงคิดแบบนี้ได้ยังไง
>>987 กูเข้าใจๆ แต่เห็นคุยในแง่โลกจริงว่าผิดตรงไหนนอกจากกรูมมิ่งเปโด หรือเสี่ยงโรคทางพันธุกรรม เลยคิดว่ามันมีแนวโน้มสุ่มเสี่ยงอยู่เหมือนกัน กูไม่คิดว่าคนเขียนหรืออ่านนิยายประเภทนี้เห็นเป็นเรื่องปกติหรือสนับสนุนหรอก เพราะมันผิดในโลกจริง มันเลยให้ความรู้สึกแบบที่นิยายปกติให้ไม่ได้ อ่านเพื่อความบันเทิงกันเฉยๆ อยู่แล้ว
กูอยู่ในกลุ่มจ๊อกจ๊อกกะเทย
เคยมีอยู่ช่วงนึง กะเทยโพสกันขำๆ
ว่ามีอะไรกับพระสงฆ์ดีมั้ย คนมาคอมเม้นเฮฮา ขำๆ กันเต็มไปหมด ก็เอาเลยสิคะ นส อย่าไปกลัว
โพสต่อมา มีอะไรกับพี่ชายดีมั้ย เริ่มมีคนไม่ขำ
พอโพสว่า มีอะไรกับพ่อตัวเองดีมั้ย เท่านั้นแหละ กะเทยด่าเพียบ บาปจะกินหัวมึง มึงทำแบบนี้ได้ยังไง
นี่แหละ ความเชื่อของคนในสังคม
มีอะไรกับพระ ยังไม่บาปเท่ามีอะไรกับพ่อตัวเอง
เออจริงนะ พวกเรื่องที่พระเอกเป็นพระนี่กรี๊ดกันจัง บาปแต่ฟิน ไม่มีคนออกมาฉอดเลย แล้วก็ดูไม่ใช่นิกายที่มีลูกมีเมียได้ด้วยนะ มาตรฐานแปลก ๆ
>>970 รู้ว่าผิดจากการคิดเองเออเองใช่มั้ยมึง สุดยอดวะ แล้วมันจะพิสูจน์ยังไงวะว่าความคิดนี้มันถูก หรือคิดว่ามันผิดมันต้องผิด คิดว่ามันถูกมันต้องถูก บรรทัดฐานสังคมวัดจากความคิดคนกลุ่มหนึ่งหรอวะ ไม่คิดว่าทำแบบนี้สักวันความคิดมันจะไปทำร้ายใคร หรือบูลลี่ใครบ้างหรือวะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.