นักเขียนเก่า ๆ ยังมีใครญาติดีกับ สนพ. คู่บุญอยู่บ้างมั้ยวะ หรือตอนนี้วงแตกกันหมดแล้ว (เหมือนกู) เพราะมีนักเขียนลูกรักเกิดใหม่ให้ต้องดูแลเยอะ
Last posted
Total of 387 posts
นักเขียนเก่า ๆ ยังมีใครญาติดีกับ สนพ. คู่บุญอยู่บ้างมั้ยวะ หรือตอนนี้วงแตกกันหมดแล้ว (เหมือนกู) เพราะมีนักเขียนลูกรักเกิดใหม่ให้ต้องดูแลเยอะ
>>257 กูไม่เคยมีสนพ.คู่บุญอะมึง กูมีแต่นิยายทำยอดไม่ดี เขาก็ไม่รับงานกูต่อ ส่วนนข.ลูกรักก็มีฐานแฟนคลับแน่น คนอ่านเยอะ เอามาทำเล่มก็ยังขายดิบขายดี สนพ.ก็ต้องกอดไว้นั่นแหละ ทำกำไรให้เขานี่นะ ใครจะกอดกันหอมกันก็ตามใจ อย่ามาเหยียบหัวกูเป็นพอ กูจรัม! เพราะกูถูกลูกรักสนพ.เหยียบหัวมาแล้ววว อยากสิไห้ เจ็บยิ่งกว่าสนพ.บอกไม่รับงานกูแล้วซะอีก
อยากจ้างคอมมิชชั่นนักวาดเกาหลีคนนึงว่ะ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง จะเข้าหาเขายังไงไม่ให้เขาตกใจวะ เขาวาดปกให้พวกนิยายเกาหลีหลายเรื่องละ ถ้าตามๆนิยายเกาหลี ลายเส้นน่าจะผ่านตาพวกมึงไปเยอะอยู่ แต่กูอยากคอมมิชชั่นเขาเพื่อความฟินส่วนตัวที่อยากเห็นออริตัวเองในลายเส้นเขาน่ะ เห็นแต่เขาลงงานพวกที่เหมือนรับจากสนพ.มั่ง เว็บตูนมั่ง ถ้ากูเป็นแค่คนธรรมดาไปจ้างเขาจะรับมั้ยวะ กูกังวล แล้วคอมมิชชั่นกับต่างชาตินี่ใช้เงินเยอะมากมั้ย เตรียมไว้ซักหมื่นนึงจะพอรึเปล่า กูไม่เคยจ้างคอมมิชชั่นใครเลย งานคนไทยที่กูชอบเขาก็ไม่เปิดรับงานอีก ทั้งที่กูอยากจ้างมากๆ
>>264 ด่าเรื่องอะไรวะ เรื่องนักวาดคิดค่าใช้งานเพิ่มเหรอ กูว่าอันนี้ควรคุยขอบเขตกันให้ชัดเจนนะ ไม่ว่านักวาดไทยหรือตปท ส่วนใหญ่กูจะเขียนขอบเขตค่อนข้างครอบจักรวาล ราคาก็แพงหน่อย แต่กูสบายใจกว่า เพราะกูเป็นพวกวันดีคืนดีงอกโน่นเพิ่มนี่ ไปเห็นคนทำการ์ดน่ารักกูก็อยากทำแล้ว 5555
>>265 เวลามีพวกหน้าใหม่มาถามคมชต่างชาติหรือคนไทยอะ ว่ามีรายละเอียดไรบ้าง กูที่จ้างบ่อยก็แนะนำบอกไปว่ามันมีคนที่บวกเพิ่มพวกนี้ๆนะ แล้วมีคนไม่เชื่อกู กูก็แปะที่เขาเขียนไว้ในรายละเอียดให้ดู แล้วสักพักจะมีคนเสนอหน้ามาว่ามีสิทธิ์อะไรมาบวกเพิ่ม หลายรอบมากยิ่งในมู้เน็ตวอทละสัสมาก กูละแบบมึงไม่พอใจ ไม่ต้องจ้าง มึงไม่มีเงินจะมากดราคางานคนอื่นทำเหี้ยไร ยิ่งเกานี่ซีเรียสเรื่องของแถมมาก ร้านหนังสือออนไลน์แม่งทำของจากหลายเรื่องแจก จนละเมิดลิขสิทธิ์เขาไปจนมองเป็นเรื่องปกติไม่เห็นต้องจ่ายเพิ่มเรื่องคมชพวกนี้ กูละเพลีย
Ky จริงเหรอที่นักอ่านสายวายชอบของฟรี ไม่ชอบเปย์ พอนักเขียนลงจบก็ไม่ซื้อ แล้วพวกที่ขายได้หลักล้านหลักแสนทำยังไงคนถึงยอมเปย์ กูกำลังคิดว่ากูจะอัพแบบไม่จบเรื่อง
>>268 กูว่าคนจะซื้อลงไม่จบเค้าก็ซื้อ คนไม่ซื้อลงจนจบมันก็ไม่ซื้อ
กูเชียร์ให้มึงลงไม่จบนะถ้ามึงอยากได้เงิน คือก็ไม่ใช่ทุกคนที่อ่านเค้าจะซื้องานมึง แต่ถ้ามึงลงให้อ่านฟรีจนจบ มึงอาจจะได้เงินน้อยกว่าการลงไม่จบแล้วขายง่ะ
ส่วนนักเขีนนที่เค้าขายได้เป็นแสนเป็นล้าน กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าทำยังไง อยากรู้ด้วยคน กูอยากขายงานได้เยอะๆจังโว้ย 5555
>>268 ตอบคำถามแรก อย่าว่าแต่แนววาย ธรรมชาติคนอ่านแนวไหนก็ตาม ชญ. กลภณ. ฟตซ. ถ้าได้อ่านจนจบแล้วตีพิมพ์ออกมาจะมีสักกี่คนควักตังค์ซื้อ กูเองยอมรับว่าอ่านฟรี100เรื่องสั่งซื้อจริงจังน่าจะไม่ถึง20เรื่อง แต่ที่คนมักชี้หน้าบอกว่าสาววายชอบอ่านฟรีก็เพราะมันเป็นขนบตั้งแต่สมัยเล้าเป็ดว่าต้องลงจนจบ คนเลยติดธรรมเนียมว่าแนววายต้องได้อ่านฟรีก่อน เงินเอาไปจ่ายงานแปลที่ลงแค่ตัวอย่าง เศรษฐกิจแบบนี้ด้วยอ่ะแหละ
ตอบคำถามที่สอง (เท่าที่สังเกตโดยกูเอง และกูอยู่ฝั่งอ่านนะไม่ใช่ฝั่งเขียน ขอพูดเฉพาะสายวายเพราะกูตามเหนียวแน่นกว่าสายอื่น) นามปากกาดัง ๆ ที่ลงอีบุ๊คทีแล้วทำเวบเมบล่มอย่างพฟนช. รองลงมาก็พวก ฝกล. ยด. สซ. มซ. หรือที่ได้ทำซีรส์แทบทุกเรื่องอย่างนก. พวกนี้สร้างฐานคนอ่านจากสายอ่านฟรีมาก่อน สายอ่านฟรีกระจายข่าวกันปากต่อปากเก่ง บิลด์กระแสในเพจเล่นแท็กในทวิต พวกนี้พอคนเยอะ ๆ แล้วหนุกดี กระทั่งกูที่ไม่ค่อยมีเวลาเล่นแท็กยังมีแจมกับเค้าด้วย แล้วคนเขียนกลุ่มนี้จะมีวิธีบิลด์ให้คนอ่านอยากตาม ผูกพันกับตลค. อยากเก็บนิยายเค้า แต่ละคนมีเทคนิคต่างกันไป มึงไปลองกดเฟบกดฟอลแล้วคอยสังเกตดูก็ได้ สายอ่านฟรีอ่ะปั่นง่ายขอแค่ได้อ่านจบจน กูเคยเห็นนข.เปิดเรื่องให่ใช้ทริคว่ายอดเฟบครบพันเริ่มลงตอนแรก ยอดเมนต์ครบร้อยเล่มลงตอนต่อไป ไรงี้ก็มีคนอ่านเล่นด้วย แม้กูจะรู้สึกลำไยวิธีการแต่แป๊บๆก็เห็นขึ้นแรงค์ใหม่มาแรงว่ะ
ป.ล. กูเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของนักเขียนเบสต์เซลเลอร์(ติดชาร์ตอเมซอนมั้งหรือสักเว็บ) เค้าบอกว่ายุคนี้(หนังสือเค้าปี 2010)นักเขียนที่ยังคิดว่างานของตัวเองคือการเขียนอย่างเดียวคือพวก asshole เพราะคุณเขียนแล้วต้องขายงานของคุณด้วย หลับตานึกดูว่าคุณเป็นบ.ก.เลือกงานเขียนมาพิมพ์ แล้วนักเขียนไม่ช่วยขายงานเลย เฝ้ารอจะไปนั่งแจกลายเซ็นอย่างเดียว กับอีกฝั่งรู้จักขายรู้จักโฆษณาให้งานผ่านตากลุ่มคนอ่านบ้าง บ.ก.จะอยากเหนื่อยกับกลุ่มแรกมั้ยถ้าไม่ใช่ว่าฝืมือเลิศเลองานระดับเทพ (เดี๋ยวนี้กูว่าคนอ่านชิทเทสต์เน้นแดกไวก็เยอะกว่า)
ป.ล.อีกที ทั้งหมดนี้กูไม่ได้จะบอกว่าให้นักเขียนจนซื้อแอ็ดหรือเอานิยายไปแปะตามเพจทุกวี่ทุกวัน (เพราะกูรำคาญ) หรือจิกโทรหาเพื่อนญาติโกโหติกาเพื่อขายนิยายตัวเอง กูแค่ว่าความเห็นเค้าน่าคิดดี เปลี่ยนมุมมองที่กูมีต่อคนทำงานนักเขียนในระดับนึง
>>270 มันสะสมมาจากตรรกกะยุคนั้นที่ไม่ได้ให้ค่างานเขียน ทั้งรณรงค์ไร้สาระเยอะแยะ ไรเตอร์ห้ามเขียน ให้เรียกนักเขียน 55555 พวกบ้งๆยุนนั้นก็โตมาชุบตัวบ้งยุคนี้ต่อ ไม่ได้มองว่างานเขียนทำเงินได้ จนทุกวันนี้ต่อให้นักเขียนไทยจะลงจบไม่จบ มันก็จะมีคอมเม้นถมถุยอยู่ดีว่าจะไม่ตามนักเขียนที่หิวเงิน นักเขียนที่ไม่ลงฟรี ทัศนคติแบบนี้ไม่หมดง่ายๆหรอก เรียกนักวาดนักเขียนตปทว่าอาจารย์ ส่วนในไทยเรียกไอ้เรียกอีเวลาลงนิยายไม่จบ คุณค่าในงานศิลปะที่นี่มันต่ำเตี้ยแบบนั้นแหละ ต่อให้แปะป้ายบอกตั้งแต่แรกด้วยว่าลงจบไม่จบ ส่วนงานเขียนก็ต้องตามตบาดตามค่านิยมยุค ไม่งั้นขายไม่ได้ อย่าสักแต่เขียนแล้วลืมเลียตีน มึงอย่ารอโชคว่าจะมีพวกหิวแสงเอานิยายมึงมาดัน มันไม่มีอะไรแบบนั้นบ่อยๆหรอก มึงต้องวิ่งหาแสงให้งานตัวเองด้วย นักเขียนมันอยู่แบบโลกสวยไม่ได้ เบื้องหลังความดังจากพวกที่บอกไม่ยุ่งไรกับใคร แม่งผ่านการเลียตีน คอนเนคชั่นจากการคุยกับคนในวงการนข. แอครีวิว เกาะกระแสอวยกันทั้งนั้น
>>273 กูว่าไอ้คนให้สัมภาษณ์เนี่ยแหละ asshole ลองมึงเป็นนข.โนเนมออกงานเดบิวต์เล่มแรกมึงจะโฆษณาขายงานมึงยังไง ถ้าเป็นนข.ตปท.กูต้องไปเลียตีน Stephen King ลุง J.R.R. มาร์ติน หรือป้าเจเคให้ช่วยโปรโมตงานกูมั้ย อย่างมากก็ลงทวิตติดแท็ก เมนชั่นใต้ทวิตชาวบ้านเนียนขายงานหรือโปรโมตตัวเอง(ซึ่งอย่างกับคนอื่นแม่งดูไม่ออก) ลงงานในกลุ่มเฟซ ซื้อโฆษณา แล้วมึงคิดว่าของพวกนี้มันจะกระจายไปได้ทั่ววงการนักอ่านเหรอ คนตามข่าวหนังสือในเน็ตทุกช่องทางมันเยอะขนาดนั้นเลยดิ หลายคนที่ขยันซื้อๆกันแม่งก็ตามแค่เพจสนพ.นี่แหละ พวกเด็กๆที่ขยันหางานอ่านฟรีในเน็ตก็จะดันหวีดแต่งานเทสต์สำหรับวัยตัวเอง คือเหมือนแม่งจะไม่ให้โอกาสแนวอื่นมันได้เติบโตเลยอ่ะนะ สุดท้ายก็เป็นสนพ.ที่ต้องทำงานการตลาด+คัดงานดีๆเอามาหาวิธีดันขาย ทำให้งานนข.อยู่ในตลาดซื้อขายกันจริงๆก่อนไม่ใช่เหรอวะ ละคนอ่านชิทเทสต์มันมีจำนวนเยอะเสมอแหละสัส ไม่งั้นพวกนิยายน้ำเน่ามันจะขายได้มาตลอดเหรอ ใจคอมึงจะให้สนพ.ที่เอางานมึงไปขายได้รายได้จากงานเขียนของมึงมันทำหน้าที่เป็นแค่ distributor เพียวๆจริงดิ ปวดหัววว
>>275 อยากกระทืบไลค์ให้ร้อยๆไลค์เลยค่ะ แหม้ นักเขียนต้องลดตัวเองลงไปขายของด้วยเหรอ ทุกวันนี้นักเขียนคือจุดเริ่มต้นของสายผลิต แต่ก็เหมือนเป็นจุดต่ำสุดให้คนย่ำ ถามจากใจจริงๆถ้าไม่มีคนเขียนสร้างผลงานออกมาแล้วสนพ.จะเอาอะไรขาย คนอ่านจะเอาอะไรอ่าน (ตอบบบบบ)
ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น นักเขียนอายุน้อยวัยมัธยม บ.ก. ก็เรียกเขาว่าเซ็นเซ ข้ามมาดูประเทศเรา คนอ่านคงใกล้ชิดกับนักเขียนง่ายเกินไปล่ะมั้ง ถึงไม่มีสัมมาคารวะกันเลย นักเขียนก็มีต้นทุนค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ตค่ากาแฟ แล้วยังต้องเอาเวลาไปขายนิยายด้วยเหรอ ตลกกกกกก
กูว่ามันเป็นความเห็นที่กึ่งๆว่ะ ในสภาวะที่สื่อล้น สิ่งเอนเตอร์เทนล้นตลาด ใครๆก็ส่งงานออกมาวางขายได้ แต่ลูกค้าไม่โตตาม ประชากรลด เวลาน้อยลง กำลังซื้อน้อยลง กองงานเขียนมีขนาดมโหฬาร แค่มองก็เหน่ยจะค้น มึงไม่โปรโมทงานแล้วรอคนมาเจอคืออยากชิบ นึกภาพพอๆกะมึงเป็นแค่ทรายเม็ดนึงในชายหาดกว้างสุดขอบฟ้าอ่ะ งานมึงอาจจะดีแต่คนไม่เจอ หรือจริงๆคนเจอแล้วแต่มันไม่ตรงความต้องการของตลาด ถ้ามึงไม่ใช่ทรายเม็ดใหญ่จนคนที่บังเอิญผ่านมาสะดุดตาต้องยกไปเก็บก็ต้องรวมอยู่เป็นผืนทรายให้คนเหยียบผ่านยังงั้นแหละ
อำนาจสนพ.เอง ในโลกที่ใครๆก็ขายงานตัวเองได้ผ่านแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องสนว่ามีคุณภาพพอไหมกูว่าก็ไม่ได้ทรงพลังเท่าเดิมเหมือนกัน เหมือนต้องควานหาจากผืนทรายแล้วลงเดิมพันทีละเม็ด สนพ.แม่งก็คน เลยเลือกแบบที่เสี่ยงน้อยเอาเม็ดที่คนไปรุมแล้วมาดีก่า ดันจากที่ระดับสิบเมตรขึ้นฟ้ามันต้องง่ายกว่าคุ้มกว่าดันจากระดับใต้ดินลบสามเมตรอยู่แล้ว
เราจะคิดยังไงก็ได้แต่ตัวอย่างมันก็เห็นๆอยู่ บรรดาหิวแสงขยันขายในนกฟ้าเป็นยังไง เอาจริงๆหลายรายถ้าไม่โป๊ะแตกคือโกยได้หลายนะมึง เปรี้ยงปร้างทั้งที่คุณภาพงานก็ทั่วๆไปอ่ะ
อีกอย่างกูว่าระบบการแบ่งหมวดหมูแอพบ้านเราไม่ค่อยตอบโจทย์การค้นหาสำหรับเรื่องเก่าๆหรือแนวเฉพาะเลย นานหน่อยแล้วไม่เกิดแม่งเหมือนถูกฝังลงดินสิบเมตรแล้ว ต้องอาศัยบุญกุศลให้มีคนเอาจอบมาขุดจริงๆ แม่ง
งงสัส
>>277 เข้าใจที่มึงว่ามานะ แต่คนที่จะแมสในโลกออนไลน์ได้ก็มีแต่คนที่สามารถผลิตงานขายตลาดแมสได้ แต่ตลาดแมสมันไม่ใช่ทุกอย่าง มึงต้องมีโอกาสสำหรับงานประเภทิอื่นๆบ้าง ถ้าสนพ.ไม่คิดจะหยิบงานประเภทอื่นเลย เลือกเอาแต่ที่ดูแมสในโลกออนไลน์กูว่ามันแย่เกินไปในฐานะคนทำหนังสือ บางเจ้าไม่มีสไตล์ชัดเจนด้วยซ้ำว่าเน้นงานแนวไหนเอาแต่ที่ยอดวิวเยอะๆมาขาย คนทำหนังสือบ้านเมืองนี้มันจะไม่มีกระดูกสันหลังอะไรปานนั้น เข้าใจว่าเงินสำคัญ เงินคือต้นทุนในการไปต่อ วัฒนธรรมการอ่านบ้านเราก็ไม่เข้มแข็งด้วย แต่มึงทำหนังสือมึงก็ควรคิดบ้างว่าควรนำงานอะไรออกสู่สังคม หรือควรจะดันงานดีๆยังไง งานภาษาดีๆที่ได้ตีพิมพ์กับสนพ.ควรจะมีแต่ของนข.ดังชื่อติดหูคนบางท่านจริงๆเหรอ งานพล็อตเรื่องเจ๋งๆอลังๆที่ได้ตีพิมพ์ควรยกให้เป็นของนิยายแปลเท่านั้น นิยายวายไทยไม่มีสิทธิ์อลังเหรอวะ เหมือนแค่เป็นนิยายวายไทยมึงก็ต้องเจียมตัวแล้ว ขายแมสไม่ได้ก็ไม่มีใครเอามึงหรอกไอ้พลเมืองชั้นสามเงี้ย
>>279 อันนี้ก็เหนด้วยนะ แบบถ้าสนพเมนสตรีมหยิบแต่เรื่องแมสๆตามยอดวิว วงการมันก็จะไปทางเรื่องแมสๆอย่างเดียว ไม่ได้ว่าแมสไม่ดี แต่แบบแมสก็ไม่ได้แปลว่าดี
กุเองก็เปนคนอ่านชิทเทส เวลาว่างชอบอ่านงานแดกง่ายๆเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าบ้านเราควรมีงานอลังการดาวล้านดวงบ้าง ไม่ใช่แบบเปิดไปมีแต่เยๆๆ แต่ก็เข้าใจอะ เยมันก็ขายได้อะ (กุก็ซื้อ 555555555)
บอกให้อีนักเขียนไทยเลิกละเมิดลิขสิทธิ์ เลิกฉอดคนนู้นคนนี้ก่อน ค่อยหวังให้คนกลับไปอ่าน รกตามากจนกูเลิกออกจากวงการไทยไปเลย
>>277 เห็นด้วยว่าสื่อล้นมาก ล้นจนกูเอียน ท่ามกลางยุคปจบ.ที่การดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคมีค่ายิ่งกว่าทอง
ไม่แปลกใจที่นักเขียนจะสร้างคอนเทนต์เรียกร้องความสนใจแปลกประหลาด กูก็ตามเสพ เป็นดราม่าสนุกประจำวัน แล้วก็จำๆไว้บ้างว่านข.คนไหนเป็นพวกขี้ลอก ข้อนี้เท่านั้นที่กูจะไม่ compromise
ส่วนที่มึงบอกว่านักเขียนหาแสงในนกฟ้าถ้าโป๊ะไม่แตกแล้วรวยเป็นกอบเป็นกำ อันนี้กูว่าคนเสพโง่เองนะ ไปเชื่อเค้าเองนี่ ยุคนี้น่าจะมีสกิลแยกแยะระดับนึง ถ้าหลวมตัวไปอุดหนุนก็ช่วยไม่ได้ว่ะ ซื้อของไม่ดูเอง
แต่ก็อย่างว่า บางคนรู้ว่าสนพ.เหี้ย / คนเขียนเหี้ยก็ยังอยากอุดหนุนก็มี 55555 เงินใครใคร่จ่ายยังไงก็เรื่องของคนนั้น
>>285 กูว่า >>282 มันน่าจะหมายถึงที่ >>281 บอกว่าแบนนักเขียนไทยทั้งหมด แต่คนที่เขียนงานแบบไม่ก่อเรื่องแบบ >>282 ก็โดนแบนไปด้วย อะไรงี้มั้ง
อยากให้ยกตัวอย่างนักเขียนที่ไม่มีเรื่อง หรือจริงๆแล้วมึงอาจแค่คิดว่าเขาไม่ผิดแค่นั้นเอง ขนาดรูปมีมบางคนยังบอกผิดตรงไหน เดี๋ยวก็จะมีคนมาบอก เทาๆ เห้ออ
>>289 บนโลกนี้นขมันก็ไม่มีคนขาวสะอาดทุกซอกทุกมุมหรอกเพื่อนโม่ง ไม่มีเรื่องสำหรับกูนะกูขอแค่ ไม่ลอกงานชาวบ้าน ไม่หาเรื่องกดเพื่อนร่วมอาชีพ ไม่ฉอดคลั่งศีลธรรมเป็นsjwเสือกเรื่องชาวบ้าน ไม่ขโมยภาพนักวาดที่ไหนไม่รู้มาแปะอิมเมจ(เดี๋ยวนี้นขเขาก็คอมมิชภาพมาแปะนิยายตัวเองกันอย่างถูกต้องเยอะแล้ว) ที่เหลือจะลงงานช้า เปิดงานใหม่ดองงานเก่า ห่าเหวอะไรกูช่างแม่งหมดแล้ว หลายอย่างก็ไม่ได้เป็นแค่ที่ไทย ทนพวกนี้ไม่ไหวกูก็พักไปหาอย่างอื่นเสพก่อน เผื่อกลับมามันจะล้มหายตายจากไปจากวงการกันบ้าง สมัยนี้สื่อบันเทิงไม่ได้มีแค่นิยายว่ะ
มึงว่าตอนนี้ นข.แยก pwp กับ อีโรติกไม่ออกปะ?
นักเขียนคงคิดว่า PWP = พรที่มากับพล็อต 555555555555
กูหนึ่งคนละ pwpก็อีโรติกไม่ใช่เหรอวะ โรมานซ์ก็แยกต่างหากคือpwp พอร์นวิทพอท อธิบายให้กูพลีส เห็นมู้ฝั่งชายหญิงบอกกันอยู่ หรือกูเข้าใจผิดไปอีก
>>294 ตามความเข้าใจกู (ย้ำความเข้าใจของกุนะ)คือ ไม่มีพลอต ไม่มีไคลแม๊กซ์ ไม่มีการเดินเรื่อง สร้างสถานการณ์มาเพื่อแค่เปิดฉากเย เยเสร็จจบ
คนเขียนหลายคนน่าจะเข้าใจเหมือนกู เพียงแต่พอเปิดตอนแรกไปแล้วมันเสือกปัง พอจะต่อก็กลายเป็นพลอตยาวไปแล้ว แต่ติดมาแต่แรกก็ติดต่อไป เพราะคนอ่านมองคำนี้ = nc20/30/40/50+++ แทนไปแล้ว
ส่วนการแยกอีโรติก/ porn กุดูที่คำที่ใช้อ่ะ ถ้าเน้นภาพชัดแจ๋ว คำตรงเด๊ะไม่อ้อมค้อม อันนี้เรื่องเสียว ถ้าอัอมๆเน้นละมุนให้เป็นอีโรติก แต่ทุกวันนี้แม่งก็แยกยากเหมือนส่วนที่กลืนๆกันเริ่มเยอะขึ้นงานที่อยู่ขอบวงสองฝั่งก็เยอะขึ้นนะ
ตรงๆเลยคือPwpมึงมาขายฉากเย้ดอ่ะ โดยส่วนมากแทบจะไม่มีพล็อตเรื่องให้เดินยกเว้นเซตติ้งนิดๆหน่อยๆ หรืออาจจะมีพล็อตเล็กๆน้อยๆ อย่างทางตะวันตกบางคนก็เลยแท็กไว้ว่าwp(porn with plot) อะไรแบบนี้ก็มี
เอาจริงๆ โรมานซ์ที่เป็นคำว่าจากฝรั่ง ไม่มีฉากเย่ แต่รักกันก็โรมานซ์แล้วนะ
พอไทยใช้ กลายเป็นนิยาย ที่ต้องมีฉากเน้นเย ถ้าไม่มีไม่ใช่โรมานซ์
อีโรติก มีเรื่องราว มีแก่น มีจุดพีค แต่เน้นขับเคลื่อนด้วยอารมณ์เย่ๆ
pwp คือเรื่องเสียว พวกที่บอกเขียน pwp ยากนะ ชุ้นก็คิดพล็อตและหาข้อมูล อันนี้คือไปพักเถอะ
ตัดมาที่นักเขียนไทยหลายคนแม่งไปแย่งหมวดอื่นเพราะโดนปิดการมองเห็น เหอะๆ
ขอบคุณมาก กูว่าหลายคนคงใช้ปนกัน กูคนหนึ่งก็ไม่เข้าใจเพราะไม่ได้อ่านพวกนี้แต่เห็นนักเขียนฝั่งชญแม่งบ่นกันไปตามเสือกมา
เพื่อนโม่งระหว่างติดเหรียญกับอ่านล่วงหน้าในความรู้สึกอันไหนโอเคกว่ากันเหรอ ทั้งในแง่ของยอดคนกดเข้ามาอ่านกับยอดซื้อ ตอนนี้ลังเลมาก ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้า
Ky กูแต่งชญถึงครึ่งเรื่องแล้ว มีปกแล้ว ยังไม่ได้อัพที่ไหน เขียนออฟไลน์อยู่เพราะกูเน้นแต่งจบค่อยลง แต่นึกอยากลองของ อยากเปลี่ยนเป็นแนววายและจะเป็นวายเรื่องแรกของกูเอง กูทำปกสำเร็จชญไว้แล้ว แนวๆ เตียงนอน ช่อดอกไม้ ถ้าเอามาใช้กับวาย กูต้องเปลี่ยนปกมั้ย สายวายซีเรียสเรื่องปกกันปะ กูใช้แอคเดียวกับที่เขียนชญนี่แหละแต่แยกนามเขียนวาย
เพื่อนๆนักเขียนเคยมีใครส่งเล่มฟรีให้เซเลบรีวิวกันไหม กูส่งไปให้สามสี่คนที่เป็นเซเลบรีวิวสายวาย ทุกคนรับปากดิบดีเหมือนกันหมดว่าจะรีวิวให้ แต่ต้องรอคิวหน่อย เหตุการณ์เกิดขึ้นปีที่แล้ว ผ่านมาจะปีนึงแล้วยังไม่มีใครรีวิวให้กูเลยสักคน 555555 จะทักไปทวงกูก็ไม่กล้า เพราะกูให้แต่เล่มไป ไม่ได้ให้เงินค่าจ้างรีวิว (กูถามแล้วนะว่าเขารับเงินไหม ทุกคนพูดเหมือนกันว่าให้แต่เล่มก็พอ) แล้วบางคนในนั้นชอบบ่นว่าไม่มีอะไรจะอ่าน นิยายจะหมดสต๊อก กูเลยรู้สึกแบบ อ้าว แล้วหนังสือที่กูส่งไปให้ล่ะะ แถมพวกหนังสือออกใหม่ของสนพ.ก็เห็นรีบลงรีวิวให้กันหมดเลย แต่ก็เข้าใจว่าคนอื่นเขาคงใช้เงินฟาดกันมั้ง เฮ้อ เซ็งว่ะ รู้งี้กูใช้เงินฟาดแต่แรกบ้างก็ดี
ถ้ากูจะเขียนแนวผัวชั่วที่จบแบบนายเอกเปิดกรงแล้วบินหนี ไม่มีผู้ใหม่ ออกแนวปลายเปิด จะมีคนอ่านมั้ยวะ แล้วกูต้องจั่ว be มั้ย คือ รู้สึกเหมือนแปะทีเดียวสปอยหมดเรื่องเลยว่ะ เพราะกูอยากให้การที่มันจะรักหรือไม่รักมันเป็นปมนึงอ่ะ
>>305 มีคนอ่านแน่นอน มึงน่าจะตกคนอ่านกลุ่ม Niche ได้ พวกใช้สมองในการอ่านว่าไม่ควรกลับไปหาผัวเหี้ย แต่ถ้าฝีมือเขียนไม่ถึง โน้มน้าวให้เชื่อไม่ได้ว่านอ.ตัดสินใจถูก มึงจะพลาดตลาดกลุ่มแมส พวกที่อ่านเอาฟินๆ รอดูผัวชั่วของมึงกลับไปง้อเมีย
>>303 ทักไปถามได้ ส่งหนังสือไปเป็นปีไม่อ่าน ป่านนี้เอานิยายมึงไปปล่อยขายแล้ว แอครีวิวเอานิยายที่ได้มาฟรีไปปล่อยขายมีเยอะแยะ มึงทักไปแหย่ดูสันดานขำๆ ก็ได้ ที่เคยส่งให้ลองอ่านดูหรือยังคะ แล้วว่าถ้าอยากให้ช่วยทำรีวิวเป็กิจจะลักษณะ คิดค่ารีวิวยังไงคะ ได้ผลยังไงกลับมาเล่าด้วยนะ
>>302 วายไม่เชิงซีเรียสเรื่องปก ปกดอกไม้ปกธรรมชาติก็มี สำหรับนปก.ติดตลาดแล้ว มึงลองไปส่องตลาดดูก็ได้ ส่วนตัวกูถึงเป็นนปก.ไม่ดังมาก ถ้าเป็นคนที่เคยอ่านงานแล้วคลิก ปกขอแค่ไม่อุบาจมาก ยังไงกูก็ต้องลองกดตัวอย่างมาอ่านนะ
>>301 ยังไงนะ ระหว่างติดเหรียญไปเลย กับเปิดให้อ่านฟรีล่วงหน้าแล้วค่อยติดใช่ป่ะ "ในความรู้สึกอันไหนโอเคกว่ากันเหรอ ทั้งในแง่ของยอดคนกดเข้ามาอ่านกับยอดซื้อ" ความรู้สึกคนอ่านหรือคนเขียนนะที่มึงจะถาม ถามในแง่ยอดคนกดเข้ามาอ่าน อย่างหลังเยอะกว่าอยู่แล้ว ของฟรีนี่
>>306 นี่ >>303 นะ ขอบคุณมึง เดี๋ยวจะลองทักไปถามดู แต่เจอแบบนี้แล้วมองเซเลบเปลี่ยนไปเลยว่ะ ตอนคุยกันรับปากกูดิบดีว่าจะรีวิวให้ สุดท้ายหายต๋อมทุกคน ทีหนังสือใหม่ๆของสำนักพิมพ์รีบรีวิวกันเชียว ถ้าเป็นงี้แค่คนเดียวกูจะไม่อะไรเลย นี่อะไรวะ เป็นเหมือนกันหมดทุกคน ถ้าจะทำเพื่อเงินกันขนาดนั้นก็ปฏิเสธกูแต่แรกก็ได้นะ กูไม่ได้เสียดายหนังสือหรอก แต่กูเสียความรู้สึก กูดิ้นรนเองขนาดนี้เพราะหวังว่าถ้าหนังสือกูมีคนค้นพบเพิ่มขึ้นบ้างสักนิดก็ยังดี แต่นี่แม้แต่การดิ้นรนของกูยังไม่ประสบผลเลย เพื่อนเซเลบที่จะช่วยโปรโมทให้กูก็ไม่มี กูเลยต้องไปง้อพวกเซเลบที่กูไม่รู้จักส่วนตัว สุดท้ายกลับเจอแบบนี้ เป็นนักเขียนหนังสือทำมือนี่มันเหนื่อยฉิบ
หำจินตนาการ
เพื่อนโม่งขอถามความเห็นหน่อย ระหว่าง
1.ติดเหรียญให้อ่านล่วงหน้า
2.อัปประมาณสิบกว่าตอนแล้วติดเหรียญถาวร
3.ให้อ่านฟรีจนจบแล้วค่อยติดเหรียญ แบบไหนดีกว่ากัน
แล้วก็อีบุ๊คควรขายระหว่างอัปนิยายหรือหลังลงนิยายในเว็บจบแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น
>>313 ขึ้นอยู่กับการลงรายตอนมึงด้วย แนะนำให้อัพสม่ำเสมอตามตารางวันใกล้ๆกันหน่อย เป็นไปได้ทุกวันหรือเว้นวัน(ถ้ายอดไม่เยอะ ยอดเยอะๆก็เอาสม่ำเสมอพอ) แล้วรีบติดเหรียญตอนแรกมาเรื่อยๆ พอติดเหรียญเกือบครบก็เปิดอีบุ๊ค ย้ำว่าไม่ใช่สำหรับนิยายเรื่องแรกนะ เรื่องแรกเปิดฟรีไปหมดเลยแล้วขายอีบุ๊คไม่ต้องติดเหรียญ
>>313 ข้อ 1 คิดว่าเวิคสำหรับเรื่องที่สนุกจริง แบบติดมากต้องอ่านวันนี้ไรงี้ แล้วคนเขียนสม่ำเสมอพอ คือในฐานะนักอ่าน กูรออ่านตอนฟรีได้ 55555
แต่ในฐานะคนเขียน เปิดอ่านฟรีหมดได้วิวมากสุดจริงตามคอมมอนเซนส์ แต่มันก็แอบแบบขายอีบุ้คยาก ยอดวิวเยอะๆแต่ยอดขายน้อยก็เยอะแยะไป
ขอปรึหน่อยสิเพื่อนโม่ง เวลาจะตั้งชื่อนิยายพวกมึงตั้งกันยังไงวะ กูมีพลฮตแล้ว แต่คิดชื่อเรื่องไม่ออก😂
ขอถามหน่อย กูเคยเขียน pwp แต่ไม่ได้อัพนานละ ว่าจะมาลองปั่นใหม่ ตอนนี้ของรีดที่แยกหมวดเป็น party กับ secret นี่ต่างกันยังไงบ้างอะ เงื่อนไขการลงคือยังไง อันไหนแรงกว่า ละอันแรงกว่าคือใช้คำได้ขนาดไหน คำว่าควx เย็x พวกนี้เขียนได้แบบไม่ต้องเซ็นเซอร์เลยปะ
มึง การที่กูไม่มีปกสวยตั้งหน้านิยายคือการที่กูไม่ลงทุนกับการแต่งนิยายหรอวะ กูสู้ราคาประมูลปกนวสวยๆไม่ได้สักคน ปกไหนหล่อหน้าทิ่มนขที่ต้นทุนเยอะก็สอยเรียบไปหมด นขเงินน้อยอย่างกูจะเอาอะไรไปสู้อะ แล้วยังมาเจอคนบอกว่านี่สิคือการลงทุนน่าติดตาม บางเรื่องเพิ่งเปิดด้วยซ้ำคนรออ่านเพียบ แล้วกูที่พยายามแต่งพยายามอัพให้สม่ำเสมอหน้านิยายก็คือเงียบกริบ กูโคตรเศร้าอะ
>>321 สังคมวัตถุนิยมไง นิยายเว็บชาติอื่น(ไม่นับเกา)ปกกากชิบหายตายห่าเทียบกับปกนิยายเว็บไทย ญป.บางเว็บปกยังใส่ไม่ได้แต่แม่งงานในนั้นไม่รู้กี่งานยังดังขึ้นมาได้ มีคนอ่านได้ตีพิมพ์ อย่าว่างั้นงี้เลยปกนิยายอิ้งนิยายเล่มจีนตามคิโนะเทียบกับของไทยยังคนละชั้น แต่ที่บ้านเขาแม่งก็ยังขายได้เป็นหมื่นๆแสนๆเล่มตามจำนวนประชากรนักอ่านว่ะ บางเรื่องหลักแสนหลักล้านทำไมปกมันไม่เห็นว้าวเลยแว้ พิมพ์กับสนพ.อีกต่างหาก สรุปคนไทยก็นั่งงมกันอยู่กับปกสวยๆแม่งทั้งวันนี่แหละไม่รู้มันอ่านนิยายหรือมันอ่านปก (รู้ว่าอ่านข้างในด้วยแต่เวลาเปิดพรีแปลจีนเล่มใหม่ทีก็ไม่เห็นจะโฟกัสกันตรงนั้นเลยนะสัส) นิยายเจ๋งๆปังๆถ้าทำปกกากๆหรือไม่ตรงจริตบอกเลยความผิดนข.นะที่ไม่มีปัญญาเก็บรวบรวมเงิน3หมื่นอัปไปจ้างนักวาดต่างชาติให้ถูกใจพวกมัน ใครยังต้องสู้อยู่กับอะไรแบบนี้คือช่วยตบบ่ากันได้อย่างเดียว แต่งแนวpwpขโมยรูปซิคแพ็คฟิตๆหรือtwinkเอวเอสจากกูเกิ้ลมาทำปกยังมีโอกาสรุ่งมากกว่า โดนแหกทีก็ชุบตัวสร้างแอคใหม่จบ
ส่วนมึงไม่ต้องท้อ ตราบใดที่ยังอยากเป็นนข.ในอิปาเทดนี้อยู่ ดูลมดูทิศทางตลาดแล้วมาร์เก็ตรีเสิร์ชให้แน่นๆซะ นิยายปกไม่อลังเท่าชาวบ้านแต่ถ้ามันสะกิดต่อมอะไรบางอย่างในคนไทยมึงก็มีสิทธิ์รุ่งอยู่ อาทิ ด่าการเมือง
แล้วกูจะตัดพ้อเลยไม่ได้หรอวะ ลงนิยายประจำโปรโมทเท่าที่ทำได้แต่เหมือนไม่มีคนมองเห็น กับแค่ใช้เงินเอฟปกสามสี่หมื่นไม่ต้องลงสักตอนคนก็พร้อมซัพพอร์ตยอดเข้าชั้นเด้ง 2-3 พันในพริบตา กูไม่ได้ตัดพ้อโชคชะตาอะไรนั่นของมึงค่ะ โชคมาเกี่ยวอะไรด้วยก่อนกูแค่รู้สึกท้อเท่านั้นแล้วคือเป็นความผิดของกูที่ไม่รู้จักจัดการกับความรู้สึกตัวเองใช่มั้ย งั้นกูขอโทษ
>>325 คนหนึ่งฐานเก่ามีแต่ไม่มากที่ยอดจะพุ่งสูงขนาดนั้น คนสองฐานเก่าไม่มีเรื่องแรกที่ลง แต่พอจบประมูลหลักสามสี่หมื่น เปิดเรื่องศูนย์ตอนเข้าชั้นไปแล้วเป็นพัน เม้นกับใจอีกสามสี่ห้าร้อยอัพ คนติดตามโซเชี่ยลเพิ่มแบบพรวดพราด กูเห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจกับตัวเอง กูอยากรวยบ้าง5555
เพื่อนโม่ง นิยายกูใกล้จบแล้วอีกไม่ถึงสิบตอน ยอดหัวใจกูสามร้อย เข้าชั้นสามพันกว่าๆ ถ้าจะส่งสนพกูพอมีหวังมั้ยวะ กูตามส่องงานที่ได้ตีพิมพ์กับสนพ มีแต่ยอดไลค์พันอัพ หรือกูควรตัดใจทำมือไปเลยเองดี ไม่ใช่ไรกูมันโนเนม รอสนพ พิจารณาอาจไม่ได้ออกหรือได้ออกแต่ช้า คนอ่านกูอาจหายหมดแล้ว
กู 328 นะ งั้นกูว่าตอนใกล้จบจะยืดเวลาลงนิดนึง คือเขียนไปแต่ลงช้ากว่าเดิม ขอบใจนะเพื่อนโม่ง กูว่ากูจะลองส่งไปก่อนถึงจะตุ้บก็เป็นปสกแหละ ถ้าไม่ได้จริงกูก็มาพิมพ์เอง
>>328 มึงลองดูแนวของสนพ นั้นๆ ด้วยนะว่าส่วนมากรับแนวไหน ลองส่งไปก่อนไม่ต้องสนว่าเราโนเนมไหม เป็นประสบการณ์ สนพมันไม่ได้พิจจารณาแค่ ยอดวิวกับยอดใจอย่างเดียว ดูภาษากับโครงเรื่องด้วย แต่ก็มีสนพที่ดูพวกวิวกับใจ กูเห็นมีนข.ออกมาบอกว่าถ้าไม่แสนวิวขึ้นสนพ.ไม่รับก็มี
ขอบใจมากเพื่อนโมง กูได้นะแสนวิว มีคนตามมาอ่านเรื่อยๆ แต่กดใจกูน้อยเหลือเกิน ยอดวิวอาจเป็นคนเดิมมาอ่านซ้ำเปล่าก็ไม่รู้ แต่โอเค กูจะลองส่งดู
ประเด็นปกถูกไม่รักงานมันมาจากนว.คนไหนวะจะได้แบนถูกคน
ประเด็นนี้นว.เป็นคนพูดอ๋อวะ กูเห็นมีแต่นักนว.ที่ปิดประมูลปกไปสี่ห้าหมื่น เค้าก็ไม่ได้พูดไร นอกนั้นก็พวกนข.ลูซเซอร์ที่มาบ่นกันเองเรื่องไม่มีตังค์ไปเอฟ ไม่ก็ไปแซะคนบิดได้ ถ้ามีนว.ที่พูดแบบนี้ช่วยบอกต่อกูที อยากเผือกต่อ
มึงใช้คำว่าลูซเซอร์ก็ออกจะแรงไปหน่อยว่ะ แค่ไม่มีเงินถุงเงินถังไปสู้แค่นั้นกูก็กลายเป็นขี้แพ้ไปแล้วหรอวะ55555 งานนว. คนนั้นเหมือนเป็นจุดเกิดให้นข. มีตังค์ไปแล้วด้วยซ้ำ อีกอย่างเรื่องที่ 333 กำลังพูดถึงจริงๆแล้วต้นโพสต์เขาไม่ได้แสดงท่าทีแซะหรือบอกว่าใครที่ไม่ได้ลงทุนเอฟปกว่าไม่รักงานตัวเองเลยนะ ทวิตที่ออกมาโพสต์ถามความเห็นนั่นล่ะออกจะใส่สีบิดเบือนข้อความเขาไปหน่อย ตอนนี้เรื่องมันก็จบลงละ แต่กระแสคนด่ายังระอุอยู่ก็เพราะยังเข้าใจว่าต้นโพสต์เขาด่าไม่รักงานเขียนทั้งที่แค่สื่อสารบิดเบือนไป
มึงใช่ลูซเซอร์ มึงรับ มึงไม่ใช่ มึงไม่ต้องรับ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหมือน
เพื่อนโม่งขอถามหน่อย ถ้าสมมติแต่งนิยายให้ตัวเอกสองคนเป็นเด็กประถม อายุพอๆกัน ชอบกันแบบ Puppy love ไม่มีกอดจูบลูบคลำอะไรทั้งนั้น กูจะมีโอกาสโดนด่ามั้ย
มีใครเคยส่งต้นฉบับกับบ้านY บ้างป่าว สนพนี้เป็นไงบ้างวะ
เพื่อนโม่ง กุอยากส่งต้นฉบับให้สนพ (แนววาย) แต่คงไม่เอา ฟฉ ด ซบ เหลือที่ไหนให้กุพอส่งได้อีกบ้างมั้ย อวว กุหลาบ กุคงไม่ส่ง นักเขียนนูกูยอดไม่เยอะอย่างกุดูแล้วน่าจะไม่ผ่านว่ะ
กูอยากเขียนนิยายแต่กูคิดพล็อตไม่ออก เพื่อนโม่งโยนพล็อตอะไรก็ได้มาให้กูหน่อย [ EX : พระเอกอายุน้อยกว่านายเอก, พระเอกเป็นสส.พรรคการเมืองน้อยใหม่ไฟแรง, นายเอกบ้านรวยกว่าพระเอก ]
นาบูไม่ค่อยสนยอดวิวเท่าไหร่น่าจะขึ้นกับจริตภาษาของบก. ลวด.ของบีทู แล้วก็มีสนพ.ใหม่หลายสนพ.ที่รับพิจารณาต้นฉบับอยู่นะ กูเหมือนเห็นเคยมีคนรวบรวมไว้ในนกฟ้า ลองดูๆ
ถามเรื่องติดเหรียญหน่อย อยากรู้ว่าสาย pwp นี่ระหว่างติดเหรียญอ่านล่วงหน้า กับติดเหรียญหลังเปิดอ่านฟรี สายไหนทำเงินได้มากกว่ากันวะ ถ้านับว่ามีคนติดตามไม่เยอะ แต่เรื่องเก่าๆ ก็เคยมีคนอ่าน 4-5 หมื่นอยู่
ฟิคแชทนี่มันควรมีกี่แชทขี้นไปอะตอนนึงถึงไม่รู้สึกน้อย รอรมัน/2000 ไม่ได้กลับไปแต่งนานกุลืมหมดแล้ว
>>352 คือปกติกูลงให้อ่านประมาณ 4-5 ตอนอยู่แล้ว ละก็ตอนที่เหลือจะลงก่อนละค่อยติดเหรียญตาม แต่เห็นมีเพื่อนบอกว่า มีคนทำแบบให้ติดเหรียญอ่านล่วงหน้าก่อน แล้วค่อยมาเปิดอ่านฟรี
ถ้างั้นสงสัยคงแบ่งตามแฟนคลับใช่ปะ ถ้ามีแฟนเยอะ ให้ติดเหรียญอ่านล่วงหน้า ส่วนถ้าแฟนยังน้อย ให้ลงอ่านฟรีแล้วติดเหรียญทีหลัง
คือจริงๆ มีเรื่องที่ลงตอนสั้นๆ อยู่แบบลงแล้วติดเหรียญเลย ก็มีคนเปย์อยู่หลัก 40-50 คนอะ แต่ตอนนี้อยากเขียนตอนที่มันยาวประมาณนึงเลยว่าจะแยกออกมาแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำการตลาดยังไงดี
แล้วถามเพิ่มอีกหน่อย ปกติคนอ่านจะเห็นนิยายกันจากไหน กูไม่ได้ทำโปรโมทเท่าไหร่ แต่เรื่องแรกโชคดีที่มันขึ้นใหม่มาแรง แต่ว่าเรื่องต่อๆ มากลัวว่าจะไม่มีคนเห็นเท่าไหร่ หรือต้องหาโปรโมทในติ๊กต่อกเอาวะ 555
>>353 อันนี้กูไม่กล้าตอบว่ะ ไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเป็นนักเขียน รอโม่งนักเขียนคนอื่นมาตอบนะ
>>354 สำหรับกู กูเห็นจากแอครีวิวนิยายและกดเข้าไปในแท็กหลักเพื่ออ่าน/ค้นแท็กรอง(ในแอปนะ)ด้วย ถ้ามึงเพิ่มแท็กรองเยอะ ๆ คนอาจจะเจองานมึงเยอะขึ้นนะ ส่วนติ๊กต่อกกูเล่นนะ แต่ไม่เคยตามไปอ่านนิยายเพราะติ๊กต่อกเลย รู้สึกไม่ค่อยคลิกกับนิยายที่โปรโมทงี้555555 ถ้ามึงเป็นpwpแล้วโปรโมทในตต.ระวังคำที่ใช้ดีๆนะ ตต.มันแบนโคตรง่ายเลย สู้ๆเว้ยโม่งนักเขียน เป็นกำลังใจให้
มีใครเป็นเหมือนกูบ้างไหมวะที่แบบเป็นสายแต่งฟิคแล้วพอออกจากด้อมที่เคยแต่งเคยวางพล็อตเป็นฟิคชิปนู้นชิปนี้ไว้แล้วเปลี่ยนเอาพล็อตไปให้ชิปคู่ใหม่ที่เริ่มชิปแทนอ่ะ มันดูแย่ไหมวะ ไม่ได้แบบแค่เอามาลบชื่อตัวละครเดิมออกแล้วใส่ชิปใหม่ลงไปนะ แต่แบบแค่หยิบพล็อตที่เคยคิดไว้มาเขียนให้เป็นของคู่ใหม่แทนอ่ะ แต่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนนะ ส่วนมากยังไม่ได้เริ่มเขียนจริงจังด้วยซ้ำำ แค่ร่างพล็อตกว้างๆไว้เฉยๆ กูรู้สึกผิดอย่างไงไม่รู้ว่ะ แต่โคตรเสียดายพล็อตฟิคที่เวิ่นเว่อไว้แต่ออกด้อมออกชิปก่อนได้เขียนเป็นรูปเป็นร่างจริงๆว่ะ เอาพล็อตมารียูสใส่ด้อมใหม่ตัวละครใหม่มันดูแย่ไปไหมวะ?
ถ้ามีนาตาชาอยู่ในนี้ กุฝากบอก เรื่องสั้นอะมึง คนอ่านไม่ได้ผูกพันตัวละคร แถมแนวกุไม่ได้อ่านแต่เดาเน้นเyดุ ซึ่งแม่งฉากเน้ดก็ปาไปครึ่งต่อครึ่ง ละมุงเขียนตัวละครเหียแต่แรก เค้าก็ด่า แต่เค้าไม่ได้ด่ามึง ใจบางปานทิชขู่อย่าหวัฃอยากดังเลย ตอนมึงดังอะ ชื่อเสรยงมาพร้อมคำด่า กุบอกเลยไม่มีคนชมมึงหมดหรอก มันต้องมีคนปสด.ใส่ ยิ่งดังมียิ่งเจอปสด. ถ้าเขาไม่ล้ำเส้น อย่าบ่นมาก
มึงรู้เค้าด่าตัวละครก็สมควรดีใจ เขียนเหี้ยจนเค้าด่า ซึ่งมึงจะพลิกบทดียังไง คนมันอ่านไม่ถึง ตีไม่แตกมีเยอะแยะ ถ้าเขาไม่ล้ำเส้นมึง ไม่ต้องดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อน
เอาไปด่ากับเพื่อนหลังไมค์ก็ได้ มันไม่ได้จำเป็นต้องมาดราม่าอะไรขนาดนั้น เพราะเขาไม่ได้ล้ำเส้น
กุถึงไม่ชอบพวกนข.ดังแบบนี้
ถ้าเขาล้ำเส้นด่ามึง อย่างเป็นคนเหี้ยใช่มะถึงเขีบนตัวละครเหี้ย มึงจะดรามาหาเอนเกจนี่กุไม่ว่านะ
แต่เค้าด่าตัวละครเหี้ยยังงี้เป็นพอ.เหรอคะ มันไม่ควรดราม่ามั้ย
ใจบางมากไม่ต้องอยากดัง เป็นคนดังมาคู่กับคำด่าข่าาาาา
อ้อ ไม่ต้องโลกสวยบอกกุทำไมถึงต้องด่านะ บ้านกุไม่ได้ปลูกลาเวนเด้อ ปกติของโลก
กุถามได้มั้ย ขายอีบุ๊คนี่ได้เงินหลักแสนต่อเดือนเลยเหรอวะ งานกุยอดยังเคยถึงหมื่นเลย
พวกมึง ทำไงกับสาววายกลัวหีดีวะ
คู่รองผู้หญิงเป็นแฟนเก่าพระเอก หรือควรพยายามเปลี่ยนพล็อตเอาคู่รองออกไปเลย
แยกเป็นสองเรื่อง นิยายวายกับนิยายชาญหญิง
แต่ฟีลหนึ่งก็คือขี้เกียจแยก เพราะเนื้อเรื่องมันล้อไปด้วยกัน
กุเปลี่ยนคู่รองเป็นวายไม่ได้ มันไม่ใช่อะนะ ต้องเป็นผู้หญิงกับผู้ชายว่ะ
มีคำด่าแบบซอฟๆ หรือคำเตือนแบบ สะกิดใจ ยังไงดีวะ ให้เลิกเม้นต์ว่ารำคาญลูกสาวกูสักที
>>370 ยากวะมึง ปัญหาดันไม่ได้อยู่ที่นักเขียนแต่เป็นนักอ่าน555
กุนึกถึงนิยายที่กุเคยอ่านเลย แนวแฟนตาซี คนเขียนเติมตัวละครนำชายมาเพิ่มอีก1คนในเรื่อง มีแต่คนคอมเม้นไม่ชอบที่มีบท จนคนเขียนนอยด์(กุก็นอยด์เพราะกุก็ชอบตัวละครใหม่นี้) คนเขียนก็อุตส่าห์เขียนแก้ให้ตัวละครสลับกันมีบท สลับความสำคัญเขียนเยอะๆหลายๆตอน คนอ่านก็ยังวอแวอยู่ดี เพราะงั้นช่างมันเถอะ55555
เอาใหม่ มึงก็ถามกลับไปเลยว่าลูกสาวเราน่ารำคาญตรงไหน จะไปเอาไปปรับปรุงเรื่องหน้า พอนอ.เม้นตอบกลับมามึงก็ค่อยไปแย้งเพิ่ม
กูเคยเห็นมีคนรวบเอาคอมเม้นมาตอบกลับในตอนใหม่ด้วยด้วยนะ ลองดูไหม
พวกมึงเห็นที่แฉ นักวาดดังกันหรือยัง ระวังตัวกันด้วยเน้อ
พวกมึง โอเมก้าชายนี่เขามีประจำเดือนไหมวะ กุสงสัยอะ
มึงคิดไงที่มีนักเขียนก๊อปงานออกแบบคนอื่นเหมือนจงใจให้ layout เหมือนยันสี fonts ก็จงใจเอาแบบใกล้เคียง ส่วนแบบชุดนี้copyมาเลย แล้วเอามาขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองวะ เปลี่ยนแค่เนื้อหานิดหน่อย แต่ชื่อตัวละครประวัติตัวละครมาแนวเดียวกัน เอามาเขียนมาวาดลงขาย แต่ตัวละครออริตัวเองไม่เลือก งานดัดแปลงนี้ลงทุนทำฉากอลัง ทำขายลงตรงกลางอย่างอลัง จ้างคนโปรโมทเน้นรูปงานดัดแปลง คนติงไปบอกเฮ้ยมันไม่ใช่เปล่า ตัวออริตัวเองก็มี มึงขายหนังสือ มึงเอาตัวออริมึงขายดิวะ นักเขียนเอาแอคอีกอันมาบอกอ่อนไหว ไม่ได้ทำเสียหายสักหน่อย สรุปคือคนเขียนมันจะบอกว่าเอาตัวละครคนอื่นมาทำยังไงก็ได้ ตราบใดที่ไม่ทำเสียหายอะไรใช้ปะวะ เอามาทำขายหาเงินเข้ากระเป๋าได้สบาย ไงคนก็รู้จักต้นแบบเยอะงี้ งานกูปังกว่า ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต เพราะเอามาเขียนและวาดตัวตัวเองใหม่แล้ว แม่งทำเหมือนด๊อกเตอร์พีไปได้ นั้นก็เอางานคนอื่นมาดัดแปลงตั้งแต่ต้นยันจบ ขายงานผ่านสนพ. เงินเข้ากระเป๋าตุงๆ ทำไมคนชอบสนับสนุนคนแบบนี้กันวะ
>>382 กฎหมายยังเอาผิดจริงๆไม่ได้ สั้นๆ ลองมีบทลงโทษทางกฎหมายให้เห็นจริงๆใครจะกบ้าหาบ คนไม่มีจิตสำนึกในปาเทดไทมันเยอะกว่าที่คิสจะทำไง ทำใจดิ กลุ่มลูกหาบมีแต่พวกรักของฟรีจะก๊อปจะอะไรยังไงก็ได้ขอแค่พวกมันได้อ่านฟรี ตราบใดยังมีคนอ่านคนเขีบนก็ก๊อปให้อ่านเป็นซัพพลายดีมานฉ่ำๆอีก ข่ะคุณน้า
พวกมึงถ้ากุจะเขียนแนวโรมานซ์ที่ตอบจบนายเอก กับพระเอกไม่ได้คู่กันทั้งๆทีเยกันทั้งเรื่อง กุจะโดนด่ามั้ย
ขอมาถามโม่งเพื่อนนักเขียนในนี้อีกรอบ ก๊อปข้อความมาจากอีกมู้ ไม่รู้ว่าเพื่อนนักเขียนในนี้พอรู้บ้างมั้ย ขอบคุณล่วงหน้าจ้า
เพื่อนโม่ง กูขอความรู้หน่อย กูเห็นปกสำเร็จที่เค้าบอกว่าเป็นปกจากจีนสวยๆ คนขายบอกไม่มีส่วนผสมของ AI ราคาแค่ 200-300 บาท เป็นเทมเพลตที่เค้าทำมาจากจีน คืออะไรหว่า แล้วควรซื้อมาเป็นปกมั้ย เค้าบอกว่าใช้ได้เชิงพานิชย์ แต่ได้แค่อีบุคเท่านั้น
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.