Fanboi Channel

ชั้นหนังสือของสาวฟุ LV 71

Last posted

Total of 1000 posts

842 Nameless Fanboi Posted ID:Ac/bgtd8eT

>>839 ไม่ชอบอะ รำคาญนายเอก ซื้อเล่ม1มาอ่านแล้วพอ

843 Nameless Fanboi Posted ID:Mnunoboi8E

>>837 สปอยล์นกอ้วน
.
.
.
.
.
- ไม่ได้มีแต่ประเด็นนี้ มีเรื่องกระดานดาราด้วยเพราะพอเริ่มรักนายเอก พระเอกก็จะเริ่มคุมกระดานไม่ได้เพราะมีความรู้สึกมีความรักแล้ว (เพราะคนควบคุมกระดานดาราต้องไม่มีหัวใจไร้ความรู้สึก) ก็ต้องหาวิธีคุมกระดานดาราใหม่ไม่งั้นเดี๋ยวจะเกิดภัยพิบัติ แล้วก็มีเรื่องบุญคุณความแค้นกับพวกดาวบริวารที่ลงไปเกิดกันชาติแรก มีคนทรยศแอบปล่อยข่าวเรื่องที่พระเอกคุมกระดานดาราไม่อยู่ทำให้พวกมารปีศาจเตรียมลุกฮือ
- ก็ขายความนุ่มฟูแหละ เอาจริงๆเนื้อเรื่องมันก็แอบดราม่าอยู่นะ แต่มันถูกความนุ่มฟูของนายเอกมาเบรคช่วยบังไง เราเลยมองข้ามๆขำๆไป
- สีขนนายเอกเดิมไม่ใช่สีขาวแต่เป็นสีทองผสมแดง(มั้ง กูจำเป๊ะๆไม่ได้แต่ก็ราวๆนี้)) แต่ถือว่าเป็นสีที่โชคดีมากอะ พอมอบสีขนให้ต่อมาขนเลยค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาว
- ส่วนเรื่องต้นฉบับกูไม่รู้ว่ะ แต่เห็นส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้นะแล้วแต่ที่ดีลกันไว้กับต้นทาง บางทีต้นฉบับมี 4 พอแปลไทยแล้วจำนวนเล่มมากว่าเดิมก็เห็นมีอยู่บ่อยๆนะ
.
.
.
.
.

844 Nameless Fanboi Posted ID:NOTOOE3xob

>>831 เอาตรงๆ ตอนเห็น รัฐทายาท กูนึกถึงทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งผู้ครอง "รัฐ" นะ เพราะมันมีคำว่ารัฐอะ เลยคิดว่าเหมือนกันรัชทายาท (ราชา+ทายาท)ที่ครองประเทศ, แคว้น กูเลยงงๆ ตอนเห็นคำอธิบายว่า รัฐทายาท=ผู้สืบทอดตระกูล (รัฐ=ตระกูล?)

845 Nameless Fanboi Posted ID:YzvHHhDkbo

>>843 เพื่อนโม่งขอบคุณสำหรับสปอยมาก กุตั้งใจว่าจะซื้อล่ะหลังจากอ่านสปอย

846 Nameless Fanboi Posted ID:XvUjnFP4mV

Ky หน่อย มีใครรู้ข่าว earth online มั้งไหม จำได้ว่าเขาบอกมีสนพ.lcแล้ว แต่จนถึงตอนนี้กูยังไม่เห็นแม้แต่เงา กูอยากอ่านอะ กูชอบแนวนี้ นายเอกไม่โง่ไม่ง่อย และสกิลกวนตีนชิบ

847 Nameless Fanboi Posted ID:jns1cKhXzg

กลับกันกับกูเลย กูเพิ่งอ่านนกอ้วนจบ ความรู้สึกค้างๆ คาๆ ยังไงก็ไม่รู้ เส้นเรื่องความรักราบเรียบมากอาจเพราะพระเอกฮีไร้ใจอะเนอะ ส่วนพาร์ทอดีต อดีตย้อนอดีตไปอีก 5555 กูไม่ชอบการเล่าย้อนกลับไปกลับมามากนักเพราะนับๆ ดูเหมือนบทสองบทก็ย้อนอดีตสลับกันไปมา มันเลยทำให้ขยี้ไม่สุด แบบมันได้อีกสิ ได้อีก และวนไปอย่างนี้ตั้งแต่เล่มหนึ่งสอง หลายคนอาจจะชอบการเล่าเรื่องแบบนี้ แต่ส่วนตัวกูไม่โอเค ส่วนเล่มสามก็ว่าเรื่องเริ่มยืดละ ปมอดีตของแก๊งเทพกูเข้าไม่ถึงแฮะ ไม่ค่อยอินเท่าไร สรุปว่าน่าจะเพราะเรื่องมันฟีลกู๊ดด้วยมั้ง กูก็ไม่ได้อยากหาความเข้มข้นอะไรนะ แต่มันครึ่งๆ กลางๆ ชอบกล
ส่วนการแบ่งเล่ม ถ้าแบ่งและจัดหน้าดีๆ สองเล่มก็จบได้ เห็นโม่งบนๆ บ่นอยู่ซึ่งกูอ่านเองแล้วก็เห็นด้วย
งานอาร์ตไม่ได้ประทับใจอะไรค่อนข้างรกเพราะยิบย่อย
โดยรวมอ่านได้ จำได้แค่ความนุ่มๆ ฟูๆ กับพาร์ทอดีตจริงๆ ของทั้งสองคน นอกนั้นเลือนรางและหยิบยกมาเล่าไม่ถูก 5555 ก็ไม่ได้แย่นะแต่คงไม่หยิบมาอ่านอีกในปีสองปีนี้
คะแนนรวม การแปล/เนื้อเรื่อง 7.5/10
อาร์ต/การจัดหน้า/ราคา 6/10

848 Nameless Fanboi Posted ID:XPHmlaeH3R

>>825 ดูเหมือนจะเป็นคำสมาธิที่นักแปลประดิษฐ์ขึ้นเอง ซึ่งเก่งมาก กูชอบ แต่เคยมีคนใช้รัฐทายาทแล้วโดนด่าไง หาว่าพิมพ์ผิด ต้องเป็นรัชทายาทต่างหาก นักแปลบางคนเลยทับศัพท์แล้วเชิงอรรถแม่ง จบๆ
อีกอย่างซื่อจื่อมันไม่ได้หมายความว่ารัฐทายาทเสมอไปด้วยแหละ อ๋องบางคนไม่ได้ปกครองรัฐ ทายาทเขาก็เป็นแค่ทายาทสืบตำแหน่งเฉยๆ อันนี้บางคนก็ปสดจะให้เขาแปลว่ารัฐทายาท หาว่าไม่รู้จักคำนี้ล่ะสิถึงได้ทับศัพท์ กูเห็นดราม่าแล้วปวดกบาลแทนนักแปล
ถ้าปัญหามากนัก กูอยากแนะนำให้กลับไปแปลคำว่าซื่อจื่อเป็นท่านอ๋องน้อยแบบสมัยเปาบุ้นจิ้น จะได้รู้แล้วรู้รอดกันไป

849 Nameless Fanboi Posted ID:F7dFliUo0t

>>848 กูก็ชอบนะ รู้สึกถึงความพยายามของคนแปล

850 Nameless Fanboi Posted ID:LQaUXw5DrH

>>846 มึงมีสนพเงาแค้นไหมอ่ะ

851 Nameless Fanboi Posted ID:F+TKpao/TK

เคยเห็นคนแปลซื่อจื่อว่า คุณชายผู้สืบทอด แล้วต่อด้วยยศพ่อ

852 Nameless Fanboi Posted ID:gu95SWCT0G

>>849 >>851 กูชอบความพยายามของคนแปลแบบนี้จัง กี่มากกี่น้อยยังไงก็ยังช่วยให้กูเข้าใจได้ดีกว่าการทับศัพท์เรี่ยราด

853 Nameless Fanboi Posted ID:YzvHHhDkbo

พูดถึงเกอเกอแม่งยังไงก็ควรแปลจริงๆ กุว่าลวด.เขาติดมาจากต้นฉบับนั่นล่ะ เพราะพระเอกเรียกนายเอกแต่เกอเกอเขาคงชอบ คำว่าซือจุนก็ด้วย ตอนเขาไปแปลตัวร้ายฯ เขายังทับศัพท์ซือจุนเลย แล้วกลายเป็นทำเอาคนอื่นติดคำว่าซือจุนไป จนตอนฮัสกี้ลงตัวอย่างอ่านตอนแรกๆ แล้วใช้คำว่าอาจารย์ คนไปเรียกร้องจะเอาซือจุนเต็มเลย มีไปอ้างว่าเรื่องตัวร้ายฯ ยังใช้ซือจุนเลย แถมยังเข้ากับเนื้อเรื่อง ดูบาปกว่าคำว่าอาจารย์(???)

บอกตามตรงว่ากุก็ชอบคำว่าซือจุนนะ แต่ก็ไม่ติดอะไรถ้าจะใช้คำว่าอาจารย์ เพราะเจอจนชิน ไปๆ มาๆ กุนับถือโรสที่ออกมาตอบว่าไม่เปลี่ยนด้วยซ้ำ โรสบอกประมานว่าพอลองเทียบทั้งสองคำแล้วบริบทหลังๆ มันจะไม่เข้ากัน เพราะใช้คำว่าศิษย์ก็ต้องคู่กับอาจารย์ ไม่ใช่ศิษย์กับซือจุน กุอ่านล่ะสะใจชะมัด ฮ่าๆๆ

ส่วนนึงที่คนมาติดคำทับศัพท์กับคำง่อยๆ แบบซือจุน/เกอๆ จนต้องออกมาโวยวาย ก็เพราะพวกนักแปลพวกนี้นี่แหละ ที่พยายามจะทำให้คนเห็นจนชิน จนเลิกบ่นไปเอง

พูดถึงตำแหน่งนิด กุสงสัยว่า แคว้นของเซี่ยเหลียนก็ล่มสลายไปแล้ว ทำไมถึงควรจะต้องเรียกเจ้าตัวว่าไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยด้วย ในเมื่อไม่มีแคว้น/เมือง/ประเทศให้ปกครองแล้ว จะมาเป็นไท่จื่อแค่ในนามก็ได้เหรอวะ

854 Nameless Fanboi Posted ID:CdWeqZX3AW

>>853 จริง สำหรับกู คำว่าซือจุน มันเป็นคำเรียกแทนอาจารย์แบบน่ารักๆของคนไทย
แล้วถ้าบริบทมันเศร้าเลย ถ้าใช้คำว่าซือจุน มันจะเศร้าได้เหมือนแปลว่า อาจารย์ไหม
เหมือนคำว่า เกอเกอ ก็แทนคำว่าพี่ชายแบบเรียกให้น่ารักๆของคนไทย
แล้วถ้าประโยคเศร้า แปลว่าเกอเกอ มันก็ไม่เข้าปะ
เหมือนที่กูยกตัวอย่างอะ ข้าไม่คู่ควรเป็นพี่ชายเจ้า กับ ข้าไม่คู่ควรเป็นเกอเกอของเจ้า
ใช้คำว่าพี่ชาย มันดึงอารมณ์ซึ้งได้มากกว่าเยอะเลย เกอเกอโคตรจะไม่เข้ากัน
เพราะยังไงคนไทยก็เข้าถึงคำศัพท์ไทยๆได้มากกว่าการทับศัพท์อยู่แล้ว

855 Nameless Fanboi Posted ID:gu95SWCT0G

>>854 จริงสุด ข้าไม่รู้คู่ควรเป็นพี่ชายเจ้า >>>>> ข้าไม่รู้คู่ควรเป็นเกอเกอเจ้า
กูกลัวอีกหน่อยจะลามมาถึงงานยุคปัจจุบัน ผมรักพี่ชายครับ กลายเป็นผมรักเกอเกอครับ จบกัน

>>853 กูทะแม่งคำว่าซือจุนกับเว่ยซือตั้งแต่ตรยข. ตอนนี้ไม่ใช่แค่ทะแม่ง เกลียดชห.เลย นับถือโรสที่กล้าต้านกระแส สาธุมาก

856 Nameless Fanboi Posted ID:SIRol0RUIk

>>853 กูอ่านเลยเล่มไทยไปนิดหน่อย เดาว่าเรียกตามตำแหน่งตอนตายอะ เลยติดมาจนชิน อย่างหล่างเชียนชิวคนก็เรียกไท่จื่อ แต่บางทีก็เรียกด้วยตำแหน่งใหม่ นี่คิดว่าเพื่อจะได้ระบุตัวง่ายๆ มั้ง(ในช่วงยังไม่ได้รับตำแหน่งใหม่อะ) พูดปุ๊บอ๋อปั๊บว่าใครมาจากไหน อย่างจวินอู่คือเรียกเซี่ยเหลียนว่าเซียนเล่อเลย

857 Nameless Fanboi Posted ID:NQzQHb6QJ/

>>853 นึกถึง ตรยข แล้วยังไงก็อยากได้ อาจารย์ มากกว่า ซือจุน น่ะนะ ได้แต่เสียดายจริงๆ

858 Nameless Fanboi Posted ID:CdWeqZX3AW

>>857 ตอนกูอ่าน กูนึกว่านายเอกชื่อซือจุนอะ กูโง่ปะ กูไม่เคยเรียนจีน มารู้ทีหลัง หลังจากอ่านจบไปแล้ว 5555

859 Nameless Fanboi Posted ID:YzvHHhDkbo

>>856 ขอบคุณเพื่อนโม่ง แปลว่าถ้าเปลี่ยนยศ คนอื่นก็จะเปลี่ยนคำเรียกเหรอ ว่าแต่ทำไมจวิ้นอู๋ถึงเรียกจากชื่อประเทศเลยล่ะ ไม่แปลกๆ เหรอวะ จริงๆ ยศใกล้กัน (หรือสูงกว่า?) ก็น่าจะเรียกชื่อตรงๆ ก็ได้มั้ง ไม่น่าจะเสียมารยาทอะไร

>>858 สงสัยว่าตอนมึงอ่านไม่งงเหรอวะ เพราะในเรื่องก็มีแต่พวกศิษย์กับพระเอกที่เรียกซือจุน นอกนั้นก็เรียกชื่อ เสิ่นชิงชิว เจ้ายอดเขาเสิ่น ไม่ก็เสี่ยวจิ่ว กันไม่ใช่เหรอวะ ในบทบรรยายมันก็ใช้คำว่าเสิ่นชิงชิวตลอดนะ

860 Nameless Fanboi Posted ID:roZMgWFFTj

>>858 กูนึกว่าเป็นฉายา เพิ่งมาตะงิดๆตอนกำลังจะจบ 555 แบบอ๋อ แปลว่าอาจารย์นี่เอง

861 Nameless Fanboi Posted ID:CdWeqZX3AW

>>859 กูตามมาจาก ปรมจ อะ
แล้วรู้มาว่า คนจีนจะมีหลายชื่อ ชื่อหลักชื่อรอง ไรงี้
เลยคิดว่า ซือจุน คือหนึ่งในชื่อหลายๆชื่อของนายเอก 5555555555555
เวลาเรียก ซือจุนๆๆๆ คิดว่าเรียก ชื่อตลอด
เป็นปัญหาของกูเอง ที่ไม่เคยเรียนจีน แล้วแยกไม่ออกระหว่างชื่อ กับคำทับศัพท์ เพราะแม่งเป็นภาษาจีนเหมือนกัน

862 Nameless Fanboi Posted ID:CdWeqZX3AW

อันนี้แล้วแต่คนมองว่าจะมองแบบซีเรียสมั้ย
ถ้าจะมองให้ซีเรียส การใช้คำทับศัพท์แล้วให้คนอ่านเข้าใจเนื้อหาผิด มันก็เป็นการสื่อสารที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จนักให้ความคิดกูนะ
แต่คงมีกูคนเดียว หรือมีไม่กี่คนที่เข้าใจผิดตอนที่อ่าน

863 Nameless Fanboi Posted ID:PGB7p1aWIc

>>853 เป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนตาย?

864 Nameless Fanboi Posted ID:SIRol0RUIk

>>859 ปัจจุบันคือสูงกว่านะ แต่กูยังอ่านไม่จบอะ ไม่รู้ทำไมเรียกงั้นเหมือนกัน ซอรี่ว่ะมึง

865 Nameless Fanboi Posted ID:+E.X9U1AP1

>>858 ไม่ มึงไม่โง่ และไม่ใช่มึงคนเดียวที่เป็นกูและเพื่อนกูและคนพึ่งเข้าด้อมอีกหลายๆคนเป็น ปกติกูอ่านLNไม่เคยเจอทับศัพท์คำอะไรแบบนี้จากฝั่งเกาะ พอมาเจอทับซึนจุนแปลว่าอาจารย์แล้วเลิ่กลั่กสัส
>>860 กูก็เข้าใจว่าเป็นฉายา ไม่ก็เป็นชื่อเล่นที่ศิษย์ใช้เรียกเล่นๆอะไรแบบนี้ ไม่เคยเอ๊ะใจว่า ซืนจุน = อาจารย์ เพราะในเรื่องคำว่า อาจารย์อา เจ้าสำนัก ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง ศิษย์ทั้งหลายยังแปลกันปกติเลย กูเลยไม่คิดว่าอยู่ๆนักแปลจะโดดมาทับซืนจุนคำเดียว เอาจริงๆถ้ากูไม่ตามด้อมปรมจ. กูคงยังเข้าใจซือจุนแบบผิดๆต่อไปอีกนาน

866 Nameless Fanboi Posted ID:myLHV///3e

กูเข้าใจแหละ ที่เพื่อนกุแต่ละคนมันชอบบอกวายจีนเข้ายากมันเป็นแบบนี้เองสินะ… ทับซือจุน เกอเกอ แล้วบอกได้อรรถรสกว่าแปลอาจารย์ พี่ชาย กูก็พึ่งเจอในด้อมนี้ด้อมแรกแฮะ

867 Nameless Fanboi Posted ID:YzvHHhDkbo

>>861 กุขำมึง5555555 แต่กุก็เข้าใจฟีลนะ แรกๆ กุก็งงว่าพวกมึงจะมีหลายชื่ออะไรนักหนาเนี่ย เรียกยิบเรียกย่อยไปหมด จำยากโว้ย

>>864 ไม่เป็นไรมึง ขอบคุณมาก

>>865 เออเนี่ย อย่างที่กุบอกเลย คือลวด.เขาคงชอบอ่ะ เขาเลยทับซือจุนมาคำเดียว (และคำว่าเกอเกอ) เพราะคำอื่นก็ยังใช้ ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง อาจารย์อา เนี่ยทีงี้มึงไม่ทับศัพท์บ้างอ่ะ คำว่าศิษย์พี่ (ซือซยง) ศิษย์น้อง (ซือตี่) หรือจะคำว่าอาจารย์อามันก็มีให้ทับถ้าจะทับ ศิษย์พี่เจ้าสำนักก็ทับได้ โดดมาทับแค่คำว่าซือจุนคำเดียวแบบงงๆ ว่าแล้วก็นึกถึงตอนโรสบอกไม่เปลี่ยนเพราะไม่เข้าคู่ ซือจุน-ศิษย์ก็ดูทะแม่งจริงๆ สรุปมาแปลเพราะอยากใช้คำที่ตัวเองชอบหรือแปลเพราะอยากให้คนอ่านรู้เรื่องกันแน่ล่ะนั่น

868 Nameless Fanboi Posted ID:0riI5I06yZ

>>867 หลักการคือซือจุนฟังดูอ้อนกว่าไง เนี่ย ไม่ได้ทับแบบไม่มีหลักการนะเว้ยย

869 Nameless Fanboi Posted ID:CdWeqZX3AW

>>867 คงอยากได้ฟีลลิ่งการเรียกชื่อแบบน่ารักๆมั้ง
แต่มันน่ารักสำหรับคนที่รู้ภาษาจีนอะดิ
คนไม่รู้ภาษาจีน กูว่ามีส่วนหนึ่งที่จะงง เข้าไม่ถึง

870 Nameless Fanboi Posted ID:roZMgWFFTj

ky แป๊บ ทซ lc หวานใจในหนังสยองขวัญมาแล้ว คงมีอะไรให้อ่านเบาๆอีกเรื่อง

871 Nameless Fanboi Posted ID:utOgZK+FN7

>>859 มีเหตุผลที่เรียกอยู่นะ แต่กุไม่รู้จะเล่ายังไงเพราะมันเกี่ยวพันกับสปอยใหญ่

872 Nameless Fanboi Posted ID:VoD59TcN5Y

>>870 เห็นคนเม้าท์เรื่องปกกันอยู่ว่าไม่ตรงกับเนื้อเรื่อง จริงๆต้องใส่เดรสแดงแต่ปกดันเป็นเสื้อกางเกง

873 Nameless Fanboi Posted ID:roZMgWFFTj

>>872 พอมึงพูดปุ๊บ กูก็นึกขึ้นได้ 55

874 Nameless Fanboi Posted ID:CFVfhMsmzs

กูก็เข้าใจแบบข้างบน แบบศักดินา ที่ดินลอย ของจริงอาจจะมีหรือไม่มี

875 Nameless Fanboi Posted ID:CFVfhMsmzs

>>874 กูลืมชี้ เอาเป็นว่า คุยเรื่องซื่อจื่อต่อจากด้านบนๆ

876 Nameless Fanboi Posted ID:/iywtUCDkI

ตอนสวรรค์ทดลองอ่าน กูไม่ชอบที่รัชทายาทยังทับศัพท์ไม่สม่ำเสมอ บางคนรัชทายาท บางคนไท่จื่อ เล่มจริงแก้ยัง

877 Nameless Fanboi Posted ID:i2AvYqjf4D

สวรรค์ในเล่มหน้าแนะนำตัวละคร กูยังเห็นใช้ ‘องค์ไท่จื่อ’ อยู่เลย คือไงฟะ

878 Nameless Fanboi Posted ID:Mr/4U4DNIw

ถาม มีพีเรียดไทยแฟนตาซีเรื่องไหนบ้างที่ภาษาสวยๆแบบ แก้วอสุรา ปิตุครรภ์ นานาวลี

879 Nameless Fanboi Posted ID:.IiaAwoGpb

>>878 บ่วงนาคบาศของแบคทีเรียนับเป็นพีเรียดมั้ยหว่า กูชอบ ถ้ายังไม่ลองขอแนะนำ

880 Nameless Fanboi Posted ID:jPkFFUwnan

>>878 นึกถึงเรื่องปางบรรพ์ นานมาแล้ว แต่สนุกมากๆ

881 Nameless Fanboi Posted ID:czNy6/KKoC

ขอถาม เห็นโม่งห้องนี้เคยบ่นเรื่องละประธาน ปกติถ้าไม่ใช้เยอะเกิน หรือเป็นกริยาที่ประหลาดจริงๆ กุไม่สะดุดเลย
Ex. “ชายหนุ่มพูดแค่นั้นแล้วเดินจากมา จินตนาการภาพใบหน้าบูดบึ้งของอีกฝ่ายได้แม้จะไม่ได้หันไปมอง” อย่างนี้ ถ้าจะเขียนแบบไม่ละก็จะได้ว่า “ชายหนุ่มพูดแค่นั้นแล้วเดินจากมา เขาสามารถจินตนาการภาพใบหน้าบูดบึ้งของอีกฝ่ายได้แม้จะไม่ได้หันไปมอง”
กุกลับรู้สึกว่าอย่างแรกออกจะสมูธกว่าด้วยซ้ำ พวกมึงว่าไง อยากรู้ความเห็น

882 Nameless Fanboi Posted ID:hhQPI50oqW

>>881 การละประธานมันเป็นเรื่องปกติของนิยายอยู่แล้วปะวะ จะนิยายไทย ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น ไงๆมันก็มีการละประธานอะมึง เป็นเรื่องของสำนวน ถ้าเติมประธานเข้าไปหมดนี่กูว่าเป็นแบบเรียนภาษาไทยแล้วแหละ ไม่ใช่นิยายหรอก แต่บางคนชอบจับผิดจนประสาทแดกไง อยากให้คนเห็นว่าตัวเองเก่งเลยเที่ยวชี้ว่าคนนั้นคนนี้เขียนผิด ลืมมองไปว่านิยายมันเป็นบันเทิงคดี เขียนยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละถ้าคนอ่านเข้าใจและสื่อความหมายถูกต้อง

883 Nameless Fanboi Posted ID:zbP..3d39N

ละประธานในความหมายของกูคือ การขึ้นต้นด้วยคำกริยาเหมือนประโยคคำสั่ง
ตัวอย่างที่มึงยกมาไม่ใช่ละประธานในความคิดกู

884 Nameless Fanboi Posted ID:hhQPI50oqW

>>883 ถ้าเป็นอะไรแบบ “เดินไปตามทาง ชายหนุ่มปล่อยความคิดให้ล่องลอย” กูว่ามันมาจากนิยายฝรั่ง หลังๆจีนก็รับมา มันเลยดูใช้กันเยอะขึ้น ส่วนตัวกูไม่ติดอะไร ใครจะแปลว่า “ระหว่างเดินไปตามทาง ชายหนุ่มก็ปล่อยความคิดให้ล่องลอย” กูก็ชอบเหมือนกัน มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับประโยคเดียวว่ะ มันต้องดูว่าจังหวะการเขียนมันเนียนต่อกันไปทั้งเรื่องรึเปล่า ทำให้กูอินไปกับอารมณ์ของเรื่องได้มั้ย ถ้าเขียนแบบมีประธาน-กริยาตลอดเรื่อง แต่สำนวนจืดชืดฉิบหายเป็นนิยายตามเน็ตที่เด็กม.สองหัดเขียน กูก็เท

885 Nameless Fanboi Posted ID:zbP..3d39N

>>884 อันนี้กูว่ากูอ่านได้
ที่กูเจอคือหาประธานไม่เจอด้วยมึง
เดินไปตามทาง ปล่อยความคิดให้ล่องลอย

886 Nameless Fanboi Posted ID:njhk7vOCJ5

>>885 เอ้อ อันนี้ก็อยากตบบ่ามึงนะ
กูไม่ค่อยเจออะไรแบบนั้นเท่าไหร่ ที่กูเจอจะแบบ “เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวมรกตเชิดหน้าหนี” “คนผมสีม่วงหัวเราะแหะๆ” “คนตัวเล็กส่ายหน้าดิก” คือมันมีประธาน แต่กูจำไม่ได้ว่าอีประธานคนนี้มันเป็นใคร ใครตาเขียวใครผมม่วงใครตัวเล็กวะ แล้วแม่งเป็นนิยายแฟนตาซีมีหลายเผ่า

887 Nameless Fanboi Posted ID:LePjOBgYPV

>>885 เหนด้วย ส่วนมากพวกที่ละประธาน คือเปนวลีๆติดๆๆๆกัน ขึ้นด้วยกิริยาไปเรื่อยๆ
เคยเจอเอนซีที่เปนแบบนี้ โคดแบบทำลายมู้ด

888 Nameless Fanboi Posted ID:mQ0FMtbiO7

>>881 ที่เขาบ่นกันไม่ใช่แบบนี้ ตัวอย่างที่ยกมาเป็นเรื่องปกติของภาษาไทยที่เน้นกริยาเรียงต่อกัน และนิยมความกระชับ
ซึ่งถ้าละแล้วความหมายไม่เปลี่ยน และสื่อความชัดเจน สามารถทำได้อยู่แล้ว
ที่เขาบ่นกันคือกรณีเปิดย่อหน้ามาด้วยการละประธาน และกว่าจะเห็นประธานก็ผ่านไปแล้ว 4-5 ประโยค

เช่น สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะสั่น ก่อนนิ่งงัน ละมือจากการทำงานหลังเหลือบเห็นข้อความที่แจ้งเตือน
เหม่อมองออกหน้าต่าง ดูผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา พลันรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา ผ่านไปหลายอึดใจ
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนข่มอารมณ์และตั้งต้นลงมือทำงานใหม่อีกครั้ง

ซึ่ง เอาจริงๆ ถ้าจงใจบรรยายแบบบุคคลที่หนึ่ง (ฉัน) หรือบุคคลที่สามแบบจำกัด (limited third-person point of view) ของตัวละครตัวเดียวไปเลย มันก็ทำได้แหละ แต่ถ้าใช้มุมมองพระเจ้า หรือสลับจากอยู่ในหัวละครตัวนั้นบ้าง ตัวนี้บ้าง
คนอ่านต้องอาศัยสติและความตั้งใจเยอะมากว่า
เอ๊ะ ตอนนี้เรากำลังอยู่กับใครนะ ใครเป็นคนทำกริยานี้ เพราะไม่มีประธานคอยช่วยกำกับ

889 Nameless Fanboi Posted ID:zbP..3d39N

>>888 ประโยคที่มึงยกมา คือละประธานของกูเลย
ประโยคยาว 2 บรรทัด หาประธานไม่เจอ
โครงสร้างเป็น กริยา+กรรม กริยา+กรรม กริยา+กรรม กริยา+กรรม ยาวไปเรื่อยๆ 2-3 บรรทัด

890 Nameless Fanboi Posted ID:EEPucwErPj

>>888 กุ881อ๋อออ มายาวๆ อย่างนี้เข้าใจละ ถ้าเจอแบบนี้กูอ่านแล้วสะดุดเหมือนกัน แต๊งกิ้ว

891 Nameless Fanboi Posted ID:67PvOm5vks

ถ้าละประธานแล้วเรียงกริยา, กรรมต่อกันยาว ๆ แต่ประธานเป็นคนเดียวทำทั้งหมดกุยังรับได้นะ แต่วันก่อนไปอ่าน Time Mover เจอการเรียงกริยา, กรรมยาว ๆ แล้วละประธานในย่อหน้าที่มีประธานสองคน ตึ้บเลย ใครทำอะไรนะ

892 Nameless Fanboi Posted ID:Mt52b0sxz+

>>882 ออกตัวแรงแซงซ้ายด่ามาเลยนะว่าคนอื่นปสด. คนเขาอธิบายให้มึงฟังแล้ว อย่าเพิ่งหายนะมึง

893 Nameless Fanboi Posted ID:spBi7JEIJN

>>891 Time Mover เซ็งเรื่องละประธานยิ่งกว่าเรื่องฟอนต์+สีปกอีก

894 Nameless Fanboi Posted ID:fpqYtFBs7j

time mover ที่เป็นนิยายเกาหลีปะ
ไวยากรณ์เกาหลีเค้าละประธานเหมือนญี่ปุ่นหรือเปล่าวะมึง
เป็นไปได้มั้ยว่า ต้นฉบับเค้าละประธานมา แล้วคนแปลคนไทย ไม่ได้ใส่ประธานไปให้เพื่อทำให้มันเป็นประโยคภาษาไทยมากขึ้น
อันนี้กูเดานะ

895 Nameless Fanboi Posted ID:67PvOm5vks

>>894 คิดว่างั้นเหมือนกัน แต่คนแปลก็น่าจะเติมประธานลงไปสักหน่อยนะ ไม่ได้ถึงกับทำให้ความหมายเปลี่ยนสักหน่อย ละประธานเยอะขนาดนี้อ่านแล้วมันค่อนข้างสับสนน่ะ

896 Nameless Fanboi Posted ID:fpqYtFBs7j

>>895 ปัญหาต้องอยู่ที่การใช้ภาษาไทยของคนแปลแน่ๆ ไม่ได้หมายความว่าแปลไม่ดีนะ
แต่หมายถึงไม่ได้เรียบเรียงใหม่ให้กลายเป็นประโยคไทย
กูอ่านโม่งมาสักพัก แล้วรู้สึกเลยว่า วงการนิยาย วิชาภาษาไทยแม่งสำคัญมาก
สมัยเรียนหนังสือ ไม่เคยให้ความสำคัญกับภาษาไทยเลย

897 Nameless Fanboi Posted ID:aJ9f/xItmp

>>891 เรื่องนี้แปลแย่มากกกก แต่ไม่ค่อยเห็นคนบ่นเลย เหมือนแปลตามไวยากรณ์เกาหลีมาลุ่นๆแบบไม่คิดจะปรับให้มันสมูธในฐานะภาษาไทย เรื่องนี้กูไม่โทษคนแปลนะ แต่กูโทษสนพ.ที่ไม่แก้ภาษา อ่านแล้วหงุดหงิด มาตรฐานงานแปลนิยายวายตกต่ำลงทุกวี่ทุกวัน

898 Nameless Fanboi Posted ID:jUwAaR3tu6

กูขอรบกวนถามหน่อย การเว้นประโยคแบบนี้มันโอเคใช่ไหมวะ พอดีดี๋ยวนี้กูอ่านเจอแต่เว้นวรรคแบบนี้เลยสงสัยว่ามันเป็นปกติหรือเปล่า

- เขาส่ายศีรษะ นั่งลงข้างๆ กล่าวว่า
- วันนี้ไม่ว่าง มีเรื่องต้องทำไม่น้อย ท่านไปยกชามาให้ข้าสักถ้วยก็พอ
- เป็นเสียงของคนผู้นั้น เขาเลิกคิ้ว วางของลง
ลุกไปเปิดประตู

คือบางอันกูก็รู้สึกว่าไม่เห็นต้องเว้นวรรคเลย เอาจับมาเรียงต่อกันก็ได้

899 Nameless Fanboi Posted ID:2apechMPqZ

>>898 ปกตินะ ไม่รู้สึกขัดตากับการเว้นวรรคแบบนี้

900 Nameless Fanboi Posted ID:0dll7EOwbk

>>898 ถ้านิยายจีน มันคือการเว้นแบบต้นฉบับ กูว่านักแปลคงเก็บตามแบบต้นฉบับ ส่วนตัวกูไม่ขัดเหมือนกัน

901 Nameless Fanboi Posted ID:n9YJysxTY.

>>898 เว้นวรรคแบบนี้ดีนะ ไม่มีปัญหาอะไร

902 Nameless Fanboi Posted ID:njhk7vOCJ5

>>892 กูพูดถึงตัวอย่างที่ >>881 ยกมามั้ยล่ะ แล้วกูก็ไม่ได้หายไปไหน คุยกับคนถัดมาแล้วจ้าว่าเขาหมายถึงอะไร คุยจบก่อนมึงจะเสนอหน้ามาอีก อ่านดีๆอย่าให้ความกระเหี้ยนกระหือรืออยากจับผิดชาวบ้านมาเบียดเนื้อที่สมองเนอะ เดี๋ยวคนเขารู้ว่าไอคิวไม่สูง

>>898 มันเป็นจังหวะของเรื่องด้วย ทุกครั้งที่เว้น กริยาก็จะเปลี่ยนไป แบบนี้กูว่าอ่านไม่เหนื่อยนะ บางทีมันไม่จำเป็นต้องเว้นก็จริง แต่ถ้าเว้นแล้วอ่านง่ายขึ้น ทำไมจะไม่เว้นอะ จะทำให้เป็นประโยคความซ้อนทำไม

903 Nameless Fanboi Posted ID:JgB5R7lu1I

>>898 กูไม่ชอบเพราะดูเป็นคนพูดๆหยุดๆ
แต่ชีวิตจริงกูก็เขียนแบบนี้แหละ

904 Nameless Fanboi Posted ID:gm0d+Iu4U0

>>898 ทำไมกูอ่านไม่เข้าใจอะ กูเข้าใจอะไรยากไปเหรอ มัน pov ของใคร ของกี่คน
กูคิดภาพตามฉากนี้ไม่ออก ใครนั่ง นั่งลงข้างอะไร พูดกับใคร ใครได้ยินเสียงใคร ลุกไปเปิดประตูให้ใคร ฉากนี้มีกี่คน กูยังงงเลย

905 Nameless Fanboi Posted ID:67PvOm5vks

>>898 ก็เข้าใจดีนะ ถ้าเขียนติดกันไม่เว้นวรรคอาจจะงง แบบนี้อ่านง่ายดี

906 Nameless Fanboi Posted ID:mQ0FMtbiO7

กูว่าภาษาไทยมันมีจังหวะจะโคน (จริงๆ ก็มีทุกภาษาแหละ แต่จังหวะต่างกัน)
และส่วนมาก คิดว่าหลายๆ คนน่าจะเว้นวรรคหายใจตามการพูด ซึ่งคนเราบางทีก็พูดไป หยุดคิดไป
บางครั้ง เลยส่งผลให้การแปลติดขัดตาม ยิ่งพอมีประเด็นจังหวะของภาษาต้นทางอีก
ส่วนประโยคที่ยกมา กูว่าเว้นวรรคอย่างนั้นก็อ่านเข้าใจอยู่หรอก
แต่บางคนอาจจะติงว่าพออ่านในใจ เสียงมันจะสะดุดๆ

มันก็มีวิธีร้อยประโยคหลายแบบนะ จะเว้นวรรค หรือบางทีจะอาศัยเติมคำช่วยก็ได้
เช่น เขาส่ายศีรษะ ทรุดตัวนั่งลงข้างๆ และกล่าวว่า
เป็นเสียงของคนผู้นั้น เขาเลิกคิ้วก่อนวางของลงแล้วจึงลุกไปเปิดประตู

907 Nameless Fanboi Posted ID:fpqYtFBs7j

>>906 โห พอมึงแต่งแล้วสวยเลย

908 Nameless Fanboi Posted ID:3Ekl/VECyy

Ky เพิ่งลุยอ่านม.ซอมบี้เล่ม 3 จบ รอบนี้ทิ้งช่วงจากตอนหนังสือออกไปนาน มารีวิวต่อจากเล่ม 1/2 นะ ก่อนเริ่ม แนะนำว่าอย่าทิ้งช่วงอ่านเลย รอครบอ่านทีเดียวก็ได้ กูที่อยากลองเล่มแรกเพื่อดูว่าจะโอเคไหมมันเลยลองต่อมาเรื่อยๆ น่ะ จุดสปอย
.
.
.
.
เล่มนี้เรื่องยังวนอยู่ในรั้วม. เหมือนเคย แต่ท้ายเล่มจะออกไปละนะ ^^ โชคดีที่เล่มนี้มีแผนที่มาให้ด้วย กูต้องการมากมึง มันช่วยได้เยอะจริงๆ เรื่องเล่าต่อจากเล่มก่อนที่มาตึกฟิสิกส์เพื่อหาวิทยุ แล้วนายเอกกับเด็กฟิสิกส์ติดอยู่ในลิฟต์ด้วยกัน เพราะไฟดับ เล่มนี้มีเฉลยอยู่ว่าเพราะอะไรไฟดับ อีเวง 5555 สถานการณ์ติดลิฟต์ พระเอกมาช่วยแงะลิฟต์ โคตรประทับใจเลิฟไลน์ มันแบบเหมือนจะตื่นเต้นไปด้วย(ก็นะ ซอมบี้รายล้อมอยู่) แล้วแบบพระเอกนายเอกก็ยังทะเลาะลุ่มๆ ดอนๆ อยู่แต่ทั้งคู่เชื่อใจกันและกันมาก พอออกจากลิฟต์มาเจอกันก็จูบกันโลด สงสารเพื่อนคณะฟิสิกส์! แต่แบบเหตุการณ์เป็นตายทำให้เห็นความสำคัญของกันและกันมากขึ้น ไปค้นหาวิทยุจากห้องของอ. กูว่าเล่มนี้เห็นการพัฒนาของนายเอกชัดเจน คือเป็นคนเก่งมีความสามารถแต่มันต้องผ่านการขัดเกลาจริงๆ นะ ชอบนายเอกเล่มนี้มาก และชอบความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ ทุกคนเลย จากเล่มสองที่ตอนวิ่งมาตึกฟิ เพื่อนๆ ต้องหยุดล่อซอมบี้ให้จุดละคนสองคน คนละตึกคนละที่ แบบกระจายตัวกัน เล่มนี้เขียนถึงพาร์ทเอาตัวรอดของเพื่อนๆ แต่ละจุดเยอะมาก มันแบบ ฮือ ร่วมเป็นร่วมตายกันมาขนาดนี้แล้วอะ กว่าจะรวบรวมกันเป็นกลุ่มก้อนได้อีก แต่สุดท้ายก็ได้วิทยุมานะ แล้วก็พากันกลับโรงอาหารฐานมั่น แต่ว่าตอนกลับถึงโรงอาหาร ทีมที่อยู่ที่นั่นรับเด็กใหม่เข้ามาเป็นนศ.เคมี/วิศวะ ด้วยกลัวซ้ำรอยเดิมเลยแบบขู่ วางตัวมีอำนาจแต่แรก ตรงนี้คือเข้าใจเลยมึง ใครจะไปอยากเจอแบบตอนโดนยึดซุปเปอร์วะ ต้องจำฝังใจมากแน่ แต่พวกเด็กเคมีนี่แหละต้นเหตุไฟดับ นางทำระเบิดบึ้มๆ หนีพวกซอมบี้มา ละมันไประเบิดตรงที่จ่ายไฟมั้งไฟเลยดับหมด พวกนี้คนดี อาจเพราะทีมโรงอาหารใช้กลยุทธ์พระเดชและพระคุณตั้งแต่แรกเริ่มอะ พอพวกเอาวิทยุ ทีมนายเอกพระเอกกลับมาก็นะ คนเพียบ เลยต้องมีคิดแล้วว่าอาจจะต้องย้ายถิ่นกันเพราะกลัวเสบียงไม่พอ แต่ก็แค่คิดหาหนทางยังไม่ได้รีบร้อนอะไร พวกที่ไปเอาวิทยุด้วยกันเกิดป่วย ป่วยหนักด้วยสามสี่คนแหนะ ไม่มียาเลยต้องออกเดินทางไปรพ.อีกครั้ง เหมือนเคย เจอทั้งซอมบี้บุกทั้งยังต้องหาทางเอายา โชคดีฮีพระเอกเก่ง แต่กูว่ามันเป็นยาสามัญพื้นฐานที่ทุกคนน่าจะรู้ชื่ออยู่แล้วนะ แต่ในสายตานายเอกพระเอกคือเดอะเบสอะ น่ารักดี มีฉากที่ทำให้พระเอกระเบิดอารมณ์ด้วย ดุด่านายเอกเหมือนสมัยก่อนเลิกกัน จริงๆ เพราะห่วงมาก แต่ใช้คำพูดไม่ดี พอมารอบนี้เหมือนตกตะกอนได้อะ มีแวบคิดถึงที่รูมเมทนายเอกเคยบอกว่าพระเอกนิสัยเสียยังไง พอแว่บคิดได้จากที่ด่าไฟลุกก็มอดดับ กลายเป็นบอกเสียงอ่อนไปแทนว่าเป็นแบบนี้ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังฮีปวดใจนะ พอกลับมาที่โรงอาหารอีกครั้งรอบนี้เจอศึกหนัก มีพวกรอดชีวิตอีกทีม สามสิบกว่าคนกรูกันเข้ามาในโรงอาหาร ทั้งเตะต่อย ทุบตู้เย็น เอามีดจะแทงแก๊งพระนายเพราะหิวและคลั่งจนขาดสติ ตอนกูอ่านยังนึกว่าแม่มม อีหรอบเดิมแน่ แต่ไม่ใช่แฮะ พระเอกทั้งขู่ทั้งต่อยตีกลับ เหตการณ์สงบแล้วแหละ แต่ต้องมาคิดจริงจังละว่าจะออกไปหาเสบียง/ย้ายถิ่นกันยังไง ตอนนี้ทีมมีทั้งหมดตั้งห้าสิบกว่าชีวิต เล่มก่อนรูมเมทนายเอกบอกว่ามีรถ ทุกคนเลยว่าจะขับรถฝ่าออกไปนอกม. เพราะในวิทยุมีประกาศจากรบ ว่าจะมีจุดหย่อนอาหารในเขตชุมชน มีการพยายามให้ความช่วยเหลือ บลาๆ เลยเป็นเหตุที่ทำให้ต้องการออกไปกัน ทีนี้ทุกคนคิดหนักว่าจะขนกันยังไง รถ 1 คัน คนห้าสิบคน แต่พวกที่มาใหม่ ไม่ใช่แก๊งเดิมตัดสินใจไม่ไป มีเหตุผลอยู่ พวกพระนายก็เคารพการตัดสินใจและเตรียมออกเดินทาง มีกันทั้งหมด 14 คนเหมือนอย่างเคย รถ 2 คันพอ ศึกษาการจั๊มแบตต่อไฟเพื่อสตาร์ทรถไปก่อนแล้วนะ แต่เล่มนี้จบตอนเดินทางไปลานจอดรถ ระหว่างทางผ่านสนามกีฬาซากศพเกลื่อนเลย ทุกคนคิดแบบสมรภูมิรบแน่ๆ แต่จริงๆ คือซอมบี้ที่จำศีล ใช้การนอนต่อต้านความหนาว ฉากนี้ร้องเห้หนักมาก คือทั้งลานมีแต่ซอมบี้ หนีตายของแท้เลย ลุ้นโคตร หนีถึงขนาดซุกตัวไปอยู่ในกองซากศพจริงๆ เพื่อให้กลิ่นศพ/กลิ่นซอมบี้กลบกลิ่นมนุษย์ของตนเอง แต่ในความตึงเครียดยังมีฉากที่ทำให้ขัน เบรคอารมณ์ได้โคตรดี ชอบฉากเอาไม้กั้นกระโดดรั้วมาใช้ ชอบการส่งไม้ต่อกัน เอ็งวิ่งไปนะ ข้าหนีไปนอนในกองศพก่อน มันขำและน่ารักไปในเวลาเดียวกัน มาลุ้นเล่มจบว่าจะหนีออกไปอะไรกันยังไง กูขอบคุณแผนที่จริงๆ ช่วยได้มาก
.
.
.
.

909 Nameless Fanboi Posted ID:3Ekl/VECyy

เรื่องยังน่าลุ้น แนะนำๆๆๆๆๆ ให้รอออกครบและอ่านทีเดียว ตลคเยอะ จำชื่อยาก ทิ้งช่วงนาน = ตายสนิท ที่มารีวิวนี่จำชื่อแต่ละคนนอกจากพระนายกับพวกเด่นๆ ได้แค่ไม่กี่คนอะ และกูยังติดปัญหาเริ่องบทกวี กาพย์กลอนเหมือนเคย เข้าไม่ถึง พวกพรรณาความเป็นชาติ/ประวัติศาสตร์จีนนี่แหละเข้าไม่ถึงจริงๆ
แอบเห็น warning เตือนหลังเล่ม อย่างน้อยก็ขอบคุณที่สนพ.รับฟัง
เล่ม 4 อยากให้แยกขายกับ box ไม่ใช่สาย box แต่เก็บพวกจิบิอะไรงี้ 555 เป็นคนอยู่ยากอะกู หวังว่าเล่ม 4 จะมาเร็วๆ โดยรวมกูถือเป็นนิยายที่ชอบอีกเรื่องนะ จากคนที่ไม่เคยคิดอ่านแนวซอมบี้มาก่อน ความสัมพันธ์พระนายและเพื่อนๆ คือดีมากๆ เล่มสองว่าเรื่องยืดไปหน่อย แต่พอเล่มสามก็ไม่ติดใจตรงนี้อะ ตอนแรกคิดว่ามันจะวิ่งอะไรกันวะตั้งสี่เล่ม 5555

910 Nameless Fanboi Posted ID:A.eY9jFwFg

>>898 ปกตินะ กูว่าถ้าเขียนติดกันหมดจะอ่านไม่รู้เรื่องมากกว่า ต้องเว้นวรรคไม่ก็ใส่คำเชื่อมแหละ สไตล์การเขียนหรือสำนวนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่งั้นหนังสือภาษาอังกฤษคงไม่มีแบบที่ประโยคนึงยาวเป็นย่อหน้าได้หรอก

911 Nameless Fanboi Posted ID:jUwAaR3tu6

>>906 นั่นแหละคือกูก็สงสัยว่าใส่คำเชื่อมแบบนี้ไม่ได้เหรอ แต่ก็มีคนบอกอีกแหละว่าภาษาจีนปกติไม่มีคำเชื่อม

912 Nameless Fanboi Posted ID:njhk7vOCJ5

>>911 จริงๆแล้วภาษาจีนก็มีคำเชื่อมแหละ แต่ไม่นิยมใช้ เพราะคนจีนจะมองว่ามันเยิ่นเย้อ ถ้าใครเขียนให้กระชับได้ถึงจะถือว่าเก่ง ส่วนใหญ่แล้วจะถือกันว่ายิ่งใช้ตัวอักษรน้อยมากแต่สื่อความได้เยอะมากก็ยิ่งเก่งมาก ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับนักแปลแหละ ว่าจะเกลาให้เป็นไทยหรือจะใช้สำนวนแบบจีน มันก็มีเอกลักษณ์ของมันทั้งสองแบบนะกูว่า

913 Nameless Fanboi Posted ID:jUwAaR3tu6

>>912 ขอบคุณมากนะเพิ่งเคยมาถามห้องนี้ ทุกคนตอบดีตั้งใจตอบมากๆเลยอะ

914 Nameless Fanboi Posted ID:n9YJysxTY.

>>912 กูชอบแบบนักแปลเติมคำเชื่อมเข้าไปนะ ไม่งั้นถ้าไม่มีคำเชื่อม ประโยคหรือวลีจะแข็งมาก เหมือนเอากำปั้นทุบดิน ตุบ ตุบ ตุบ

915 Nameless Fanboi Posted ID:njhk7vOCJ5

>>914 เข้าใจๆ แต่บางทีเขาก็ต้องการจังหวะแบบทุบดินนั่นแหละ เรื่องจะดูไปเร็วฉึบฉับ ถ้าเขาจังหวะที่เขาเลือกใช้มันเหมาะกับประเภทนิยายแล้ว ก็ต้องสุดแล้วแต่คนอ่านแหละว่าชอบแบบไหน นักแปลคนโปรดของแต่ละคนก็ต่างกันไปอะ

916 Nameless Fanboi Posted ID:LePjOBgYPV

มีใครดำน้ำโหย่วซูจนจบแล้วปะ อยากรู้ว่ามันมีกี่ arc แล้วกี่ arc ที่จบแฮปปี้ แบบเหนเล่ม 4 เพิ่ง 3 arc เองแบบยังไม่จบด้วย
แอบรู้สึกว่าเรื่องนี้ขายแพงอะ แบบรู้สึกว่าสี่ห้าเล่มจบก็น่าจะได้มั้ง จากจำนวนหน้าต่อเล่มอะนะ

917 Nameless Fanboi Posted ID:sofl61v9sX

>>914 สงสัยว่าถ้าเติมคำเชื่อมเข้าไปเองให้ดูสละสลวย แต่ถ้ามันไม่ตรงกับความต้องการของผู้แต่งล่ะ หรือถ้าเติมเองแล้วมันทำให้ความหมายที่ออริจินอลต้องการจะสื่อเพี้ยนไปล่ะ แบบนั้นไม่น่าจะเวิร์คนะกุว่า คนเขียนบางคนอาจจะชอบสไตล์นี้ อยากเขียนแบบนี้ กุว่าคนแปลมีหน้าที่แค่ถ่ายทอดมั้งว่าเขาเขียนมาแบบนี้ด้วยสไตล์นี้ ไม่น่าไปเปลี่ยนหรือเติมอะไรงานเขานะ

918 Nameless Fanboi Posted ID:0dll7EOwbk

>>917 ขอแบ่งเป็นสองส่วนนะ ถ้าแบบบรรยายสนทนาปกติ คือจีนมันละก็จริง แต่กูตอนอ่านอะรู้สึกว่าคำเชื่อมมันก็อยู่ในนั้นนะแค่ไม่ได้เขียนให้เห็นจะๆ สำหรับกูกูโอเคทั้งสองแบบ อีกแบบที่ว่ายิ่งกระชับยิ่งสวยอันนี้ส่วนใหญ่จะเจอน้อย จะเจอในเวลาพรรณนาอะไรสักอย่างเพ้อๆ สวยๆ หน่อย ตอนกูอ่านมันจะเด่นกว่าบรรยายปกติอะ กูว่านักแปลเขาคงรู้อยู่แล้วมั้งว่าตรงไหนควรเติมไม่ควรเติม

ส่วนเรื่องสำนวนนักเขียน ถ้าแปลเป็นไทยแล้วทำใจเลยว่าเจือด้วยสำนวนนักแปลอยู่ละ มันเป็นปัญหาระหว่างภาษา ถ้าเอาตรงนักเขียนมากๆ แบบเรียงตามเป๊ะๆ วรรคเป๊ะๆ อาจกลายเป็นแบบเรื่องที่บ่นกันว่าแปลทื่อก็ได้ กูเคยไปเทียบเรื่องที่คนชมว่าแปลลื่นเพราะสงสัยอะ เห็นแต่คนแหกเรื่องที่แปลทื่อ เขาก็เติมอยู่ (ในกรอบต้นฉบับนะ) แต่ใดๆ มันก็ไม่ได้กลืนหมด สไตล์การเขียนของนักเขียนมันอยู่ในการดำเนินเรื่องนั่นแหละ

919 Nameless Fanboi Posted ID:jUwAaR3tu6

>>918 สงสัยสไตล์กูคงจะชอบแบบพวกมีคำเชื่อมแหละ แต่ขอบคุณมากๆเลยนะที่ช่วยตอบ ทำให้กูได้มุมมองและความรู้เพิ่มเยอะเลย กูเคยไปถามที่อื่นแล้วเจอแซะว่ากลับมา เลยไม่กล้าถามอีก เพิ่งมาเจอที่นี่ที่ตอบดีแบบใช้เหตุผล ขอบคุณทุกคนมากๆเลย

920 Nameless Fanboi Posted ID:H0+3SW8tQo

>>917 มึง การแปลมันต้องผ่านการตีความหลายอย่างมาก มันช่วยไม่ได้หรอกที่มันจะมีการปรับหรือเติมคำเชื่อมเพื่อให้อ่านได้ลื่นไหลในภาษาปลายทาง มันเป็นแบบนี้กันทุกภาษาแหละ เอาง่ายๆมึงลองไปดูงานแปลชั้นครูที่ใครๆก็ยกย่องแบบกามนิตดูสิ แปลเวอร์เกินต้นฉบับไปไกลชิบหาย ภาษาต้นฉบับอย่างเพลน แปลไทยออกมาเว่อวัง แต่คนไทยชื่นชมเป็นงานชั้นครู ถ้ามึงจะบอกว่าการแปลที่นักแปลแต่งเติม=งานแปลที่ไม่ดี งานแปลชั้นครูโดนปัดตกกันระนาวเลยนะ คือถ้ามึงอยากได้แบบมีความเป็นนักเขียน 100% โดยไม่มีการตีความของนักแปลเจือปนเลยแม้แต่ 1% ทางเดียวที่มึงทำได้คืออ่านภาษาต้นฉบับเท่านั้น

921 Nameless Fanboi Posted ID:rSHg9wOvJT

กูว่างานแปลแม่งละเอียดอ่อนมากเลย
ปัญหามันคือความต่างกันของภาษาและวัฒนธรรม
กูไม่รู้ภาษาจีนอะ ว่าภาษาจีนเป็นยังไง
แต่ภาษาไทย กูว่าเป็นภาษาที่มีคำเชื่อมที่หลากหลาย เท่าที่กูสังเกต
นิยายแปลที่ได้รับคำชมว่าแปลดี คือนิยายที่มีทำเชื่อมที่ลื่นไหล คล้ายภาษาไทย
หรือมีลักษณะต่างๆที่ใกล้เคียงกับภาษาไทย ถึงจะโดนชมว่าแปลดี
บางทีกูว่านักแปล ต้องชั่งน้ำหนักเอาว่า จะเอียงไปทางให้ใกล้เคียงต้นฉบับ หรือจะแปลให้เอียงไปทางลักษณะของภาษาไทยมากกว่า
ยากนะ

922 Nameless Fanboi Posted ID:sofl61v9sX

>>920 กุยังไม่ได้พูดสักคำเลยว่า งานที่นักแปลแต่งเติม = งานแปลที่ไม่ดี มึงอ่านข้อความกุดีๆ ก่อนมั้ย กุก็สงสัยไงว่าถ้านักแปลเติมคำเพิ่มลงไปเอง มันจะเวิร์คเหรอ มันจะขัดกับความต้องการของคนแต่งหรือเปล่าถ้าเติมแล้วความหมายเพี้ยน แล้วก็พูดถึงหน้าที่ของคนแปล(ในความเห็นกุ) อย่ามายัดเยียดคำพูดอื่นให้กุสิ

923 Nameless Fanboi Posted ID:KQOhbAZ.hC

>>922 งานแปลทุกชิ้นมีตัดและเติมหมดจ้า มึงลองเทียบดู เชื่อกู มี ทุก เล่ม เพราะการแปลบันเทิงคดีมันคือการแปลแบบ "เอาความ" มึงจะให้นักแปลแปลตรงๆตามต้นฉบับทุกคำไม่ได้ มันจะออกมาไม่เป็นภาษาไทย

924 Nameless Fanboi Posted ID:CJL6HFX3.Z

>>922 เติมคำเชื่อมอะเวิร์คอยู่แล้วมึง ไอ้ที่ไม่เติมอะ ไม่เวิร์คสักเรื่อง 555555555555

925 Nameless Fanboi Posted ID:V6NzZDBG.S

>>922 "นักแปลไม่น่าไปเปลี่ยนหรือเติมอะไรงานเขา" ไม่ได้แปลว่ามึงมองว่าการเติม=ห้ามทำ หรอกเหรอ กูงงละ สรุปในความคิดมึงคือเติมได้หรือไม่ได้

926 Nameless Fanboi Posted ID:njhk7vOCJ5

>>921 งานที่คำเชื่อมน้อยใกล้เคียงกับต้นฉบับแต่ลื่นไหลก็มีนะ ลื่นด้วยจังหวะและการใช้คำล้วนๆ แต่เหมือนนักอ่านวายจะไม่ค่อยอ่านแนวนั้นกัน ส่วนใหญ่ชอบสำนวนแบบไทยๆมากกว่า แต่พวกนิยายชญหรือกำลังภายในนี่หลากหลายมาก มีทุกแบบ แล้วก็มีคนชมทุกแบบด้วย ไม่ได้ชมแต่แบบที่คำเชื่อมเยอะหรอก ถ้ามึงสนใจก็ลองหาๆดู มีสนุกๆหลายเรื่องเลย

927 Nameless Fanboi Posted ID:sofl61v9sX

>>925 แล้วตรงไหนที่กุบอกว่าไม่ดี? อันนั้นคือความเห็นในมุมหน้าที่ของนักแปลที่กุว่าไม่น่าทำต่างหาก

กุไม่คิดเลยว่ากุจะต้องมาทำแบบนี้

[สงสัยว่าถ้าเติมคำเชื่อมเข้าไปเองให้ดูสละสลวย แต่ถ้ามันไม่ตรงกับความต้องการของผู้แต่งล่ะ หรือถ้าเติมเองแล้วมันทำให้ความหมายที่ออริจินอลต้องการจะสื่อเพี้ยนไปล่ะ แบบนั้นไม่น่าจะเวิร์คนะกุว่า] -> ประโยคคำถามของกุ "สงสัยว่า"

[คนเขียนบางคนอาจจะชอบสไตล์นี้ อยากเขียนแบบนี้ "กุว่า" คนแปลมีหน้าที่แค่ถ่ายทอดมั้งว่าเขาเขียนมาแบบนี้ด้วยสไตล์นี้ ไม่น่าไปเปลี่ยนหรือเติมอะไรงานเขานะ] -> ความเห็นกุในหน้าที่ของคนแปล มีคำว่า "กุว่า" ที่บ่งชี้ถึงความเห็นกุ / และคำว่า ไม่น่าก็ไม่ได้ ≠ ห้าม ป่ะวะ เพราะสำหรับกุคำว่า ไม่น่า มันยังเข้าข่าย maybe เช่น ไม่น่าจะทำแบบนี้ มันไม่ใช่ ห้าม ที่เป็น cannot เลยนะ

แล้วเนี่ย ที่กุแย้งคือ แล้วมันตรงไหนล่ะที่กุบอก "งานที่นักแปลแต่งเติม = งานแปลที่ไม่ดี"

ส่วนโม่งคนอื่น เรื่องใส่คำเพิ่ม/เชื่อมในงานแปลกุเข้าใจไอเดียตั้งแต่ >>918 แล้ว แต่ขอบคุณที่ช่วยอธิบายเพิ่ม

928 Nameless Fanboi Posted ID:sofl61v9sX

>>927 กุพิมพ์ปิด กุจะพิมพ์ว่า คำว่าไม่น่าก็ไม่ได้ = ห้าม ต่างหาก โทษที

929 Nameless Fanboi Posted ID:kPtX0mP2n2

>>927 กุยิ่งอ่านยิ่งงงตามไปอีกคน 55555 ถ้ามึงมองว่านักแปลไม่ควรทำ มันก็แปลว่ามึงมองว่าเป็นเรื่องไม่ดีไม่ใช่เหรอ

930 Nameless Fanboi Posted ID:sofl61v9sX

>>929 สำหรับกุคือไม่ เพราะสำหรับกุตอนพิมพ์กุไม่ได้ไปยึดโยงคำว่าดี/ไม่ดี กับคำว่าน่าจะทำหรือไม่น่าจะทำ

931 Nameless Fanboi Posted ID:kPtX0mP2n2

>>930 งั้นทำไมถึงคิดว่าไม่ควรทำเหรอ เพราะกลัวว่าเติมแล้วจะทำให้ผิดเพี้ยนได้? แต่ถ้าเติมแล้วไม่เพี้ยนก็ไม่เป็นไร? กูงงมึงเพราะกูคิดว่าเวลาคนเรามองว่าอะไรสักอย่างไม่ควรทำ มันแปลว่าคนๆนั้นมองว่าสิ่งนั้นไม่ดีง่ะ

932 Nameless Fanboi Posted ID:njhk7vOCJ5

>>931 กูไม่ใช่คู่กรณีมึงนะ แต่กูเองก็คิดว่าควรปรับแต่งให้น้อยที่สุดเหมือนกัน อย่างแรกคือยิ่งปรับเยอะก็ยิ่งมีอารมณ์ของคนแปลใส่เข้าไปเยอะ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เจตนาของนักเขียนก็ได้ อย่างที่สอง อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ คือกูรู้สึกว่านักแปลบางคนแต่งเติมเข้าไปแล้วภาษามันไม่ได้สวยขึ้นอะ มันดูรุงรัง

แต่ถ้านักแปลเก่ง แปลยังไงก็เพราะนะ อย่างประโยค Where you tend a rose, my lad, a tristle cannot grow. คุณเนื่องน้อย ศรัทธา แปลไว้ว่า "ที่ใดที่เจ้าฟูมฟักกุหลาบ ที่นั้นพงหนามย่อมมิอาจเติบโต" กูชอบมาก ทั้งที่มีทั้งส่วนที่ตัดทิ้งแล้วก็ส่วนที่เกินระดับคำมา แต่โดยรวมแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกัน อันนี้กูยอม แปลอะไรกูก็จะตามอ่าน

934 Nameless Fanboi Posted ID:ho.9X95Akv

การแปลมันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัวอะ ที่สำคัญที่สุดคือความหมายต้องถูก ใจความต้องครบ อ่านรู้เรื่องในฐานะภาษาไทย แค่ข้อนี้นักแปลวายจีนหลายคนยังทำไม่ได้เลย

935 Nameless Fanboi Posted ID:Igwfbjmrr6

ขอถามหน่อยเพื่อนโม่ง พอดีกูไปอ่านเรื่องฮิต เรื่องเขาชื่ออันวา ยอดอ่านเขาเยอะมากยอดเฟบก็เยอะมากจนกูว้าวเลย ทีนี้กูเลยสงสัยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงคนอ่านเยอะขนาดนี้วะ มันต่างกับเรื่องอื่นๆยังไงเหรอ ไม่เข้าใจ

936 Nameless Fanboi Posted ID:1f+IxiERNw

>>935 ขยันโปรโมทฝากนิยายตามกลุ่มบ่อย เซ็ตติ้งตวต.มีน้อยเทียบกับจีนโบราณกูยังไปลองอ่านเลยแต่จอดกลางทาง

937 Nameless Fanboi Posted ID:Ux7JezCZ1I

>>935 ลองไปส่องมาแล้วกูตกใจยอดโดเนทมาก โห ทำได้ไงวะ สุดยอด

938 Nameless Fanboi Posted ID:Igwfbjmrr6

>>936 อ๋อ โหขยันโปรโมทแล้วยอดคนอ่านเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ทึ่งแฮะ คือกูแค่ข้องใจอ่ะ กูเคยอ่านตอนเขาลงแรกๆ กูก็เฉยๆ พอมาตอนนี้คือยอดอลังการมากกูเลยสงสัยว่าเพราะอะไรเรื่องนี้คนถึงอ่านเยอะขนาดนี้เลย หลายคนชอบพระเอกมาก แต่กูอ่านแล้วไม่รู้สึกไรเลย แบบเออก็ดีแหละ เขียนเล่าได้บรรยากาศเรื่อยๆดี แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะปังได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันเลยลองมาถามในโม่งดู แต่อ่านเมนท์กับรีวิวมีแต่คนชอบความสัมพันพระนาย กับ nc แซ่บมาก กูไม่เคยอ่านตอน nc เลยไม่รู้ว่าดียังไง ตอนนี้โคตรอยากรู้ว่ามันสนุกมากเลยเหรอ กูควรซื้อมาลองอ่านดีมั้ยวะ

939 Nameless Fanboi Posted ID:UXw7jg+nd.

>>938 ถ้ามึงอ่านตัวอย่างแล้วเฉยๆ จากประสบการณ์​กู ซื้อเล่มมาแม่งก็ไม่หนุกอยู่ดี แต่ถ้ามึงสงสัยจริงก็ลองซื้อดูก็ได้แล้วแต่

940 Nameless Fanboi Posted ID:QYlLJpp.Ml

>>932 คุณเนื่องน้อยนักแปลในดวงใจกู แปลดีมากกกก จะร้อง

941 Nameless Fanboi Posted ID:Crb8r.ahmT

>>937 กูไปดูตอนพิเศษเขาสามตอนที่ลง รวมกันยอดเข้าอ่านแสนกว่า คูณเหรียญเข้าไปตอนละห้าบาท ได้หกแสนเลยนะ โห เยอะมาก นี่คือถ้ากูไม่ได้เข้าใจผิดเรื่องการติดเหรียญนะ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าอาจจะมีคนเข้าไปอ่านซ้ำๆ? แต่ยังไงก็เยอะอยู่ดี อย่างกับรายได้ของตีพิมพ์เลยอะ

942 Nameless Fanboi Posted ID:MQq1vdOqQD

>>936 อันนี้ดังเพราะฝากอวยจริง ไม่งั้นดับนานแล้ว พอติดลมบนเลยโชคดี

943 Nameless Fanboi Posted ID:/j4aRj5sMY

>>935 นักเขียนเล่นทวิตเป็นโปรโมทตลอด​ เคยติดเทรนท็อป5ด้วย​ แล้วมีหลายคนส่วนใหญ่ที่อ่านมีทวิตมองว่าสำนวนการเขียนแบบนี้คือสำนวนเซ็กซี่​ขยี้หัวใจ​ เลยชอบกันเวลาเล่นแท็คมันก็เหมืินการโปรโมทไปในตัว

944 Nameless Fanboi Posted ID:FRYKja2DXQ

>>941 กูเข้าใจว่ายอดวิว≠ยอดคนซื้อตอนนะ แต่ยังไงก็เยอะอยู่ดีถ้ายอดวิวเป็นแสนตามที่มึงบอก อย่างน้อยคนซื้อก็น่าจะหลักพัน-หมื่น

945 Nameless Fanboi Posted ID:/j4aRj5sMY

กุว่าชอบคนไทยชอบเนื้อเรื่องแบบนี้ดูอย่างเรื่องNeverthelessดิ​ ขนาดยังไม่มีซับคนไทยดูสดติดเทรนทวิตอันดับ1ทุกวันที่ออน​ ติดจนเป็นเทรนติดจนฮิต​ แต่เกาหลีที่เป็นประเทศที่สร้างเรตติ้งยังไม่ถึง1%คนเกาหลีแทบไม่ดู

946 Nameless Fanboi Posted ID:MQq1vdOqQD

>>936 ถ้าตามอ่านจะรู้ว่านิสัยอัพหลอกอ่ะ เรียกงี้มะ เพราะจะชอบอัพสปอยในตอนสั้นๆเรียกยอดเม้นก่อน จากนั้นค่อยอัพแบบซอยถี่ๆ ทีละ10% 20% กระแสเลยไม่ขาด เพราะนักอ่านจะชอบตามนข.ที่มีอัพเดต คนไม่ลืมเนื้อเรื่องแล้วตี้ซี้ขาอวยตามกลุ่มตามทวิต เรื่องเลยดังแค่นั้นเอง เพราะนิยายส่วนใหญ่ดังได้เพราะแอคดังๆอวยสังเกตดู ตามอ่านแต่แรกกูเฉยๆ ไม่ชอบนิสัยอัพหลอกเลยรำคานเลิกอ่านไป ที่ติดลมบนในชาร์ตแม่งมีแต่อัพทีละน้อยๆทั้ง นั้นเลย

947 Nameless Fanboi Posted ID:7xRaAn7eWZ

>>945 คนไทยชอบเรื่องที่มันเน้นความสัมพันธ์ตัวละครซับซ้อนจัดๆ อะไรแบบนี้เหรอ พึ่งสังเกตแฮะ พอดีกุไม่ค่อยอินเลยไม่ค่อยเสพ

948 Nameless Fanboi Posted ID:7xRaAn7eWZ

>>946 อ้าวเหรอ แบบนั้นถือว่าเก่งการตลาดได้มั้ยนะ เหมือนช่วงนี้เปิดอ่านฟรีบางตอนช่วงจะขายอีบุ๊กพอดี มันเลยกลับมาขึ้นเทรนอีก ขนาดไม่ใช่แนวกู เห็นยอดขนาดนั้นยังสนใจอยากรู้เลยว่าดียังไง

949 Nameless Fanboi Posted ID:AWzMG6kp2D

>>946 กุรู้สึกเหมือนเป็นวัฒนธรรมนิยายในไทยไปแล้วว่ะว่าต้องเลียตีนแอคดังถึงจะเด่นจะดังได้ นข.หลายๆคนที่กูตามต่อให้เคยดัง แต่ถ้างานชิ้นต่อๆไปไม่มีรีวิวในนกฟ้าเลยก็คือยอดวิวกริบมากเลยอ้ะ

950 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

>>934 กูว่าวายจีนนี่ดูไทยที่สุดในหมวดหมู่นิยายจีนแปลไทยแล้วนะมึง ชญบางเล่มติดกลิ่นจิ๊กโฉ่วหนักกว่าเยอะ แต่กูว่าที่มันอ่านไม่รู้เรื่องเพราะบางคนใช้คำไม่เก่งมากกว่า กูเจอคำว่า “ไล่ตาอ่านหนังสือ” แล้วโคตรงง เคยเจอแต่ “กวาดตา” กับ “ไล่สายตา” เหมือนเคยคนแปลเคยอ่านแค่นิยายในเน็ตที่ไม่มีบก.อะมึง แต่ไม่เคยอ่านนิยายไทยของพวก ก. สุรางคนางค์ ว ณ ประมวลมารค ว วินิจฉัยกุล ประภัสสร เสวิกุล กิ่งฉัตร ภัสรสา ฯลฯ แล้วก็คงจะรีบพิมพ์รีบขายไง บก.แก้ไม่ไหวก็ปล่อยหลุดๆมา

951 Nameless Fanboi Posted ID:1f+IxiERNw

>>946 คนนี้กูไม่รู้นิสัยตอนอัพ แต่กูก็เกลียดพวกอัพหลอก ลำใยโคตรแม่ หลายคนมึงดังติดล้านวิวแล้วยังอัพหลอกปล่อยแต่สปอยไม่ก็ลงทีละนิดแบบคนเยี่ยวไม่สุด แล้วยังเสร่อลงท้ายว่าช่วยทวิตช่วยหวีดนิยายเราเยอะๆนะคะ อีห่า มึงลงให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก่อนเหอะ เป็นนักเขียนหรือนักตอดวะ ตอดยอดวิวเก่งโคตรแม่ กดเข้าไปเจออย่างงี้ทีไรแม่งเหมือนเห็นคนอ่านเป็นควายให้หลอกกดเข้าไป

952 Nameless Fanboi Posted ID:BovK1slnzi

>>950 กูว่านักแปลสมัยนี้เก่งภาษาต้นทาง แต่ไม่ค่อยเก่งภาษาไทย มันเลยมีปัญหาด้านการแปล

953 Nameless Fanboi Posted ID:j2dvnP15Dv

>>952 จริง ตอนกุเรียนแปลภาษาปลายทางสำคัญมาก แบบกุอ่านต้นทางแล้วเข้าใจ แต่แม่งจะแปลเป็นไทยให้มันสมูธยังไงดีวะ อาจารย์กุเคยบอกว่าให้อ่านภาษาปลายทางเยอะ ๆ เพิ่มคลังศัพท์

>>949 ไม่เชิงวัฒนธรรมนิยายไทยหรอก มันเป็นเรื่องปกติของการจะขายสินค้าอะไรสักอย่างอะ ถ้าไม่ให้คนดังโปรโมทก็จะไม่มีคนเห็น ไม่มีคนซื้อ ช่วยไม่ได้จริง ๆ อย่างเวลากุหานิยายอ่านก็ตามมาจากรีวิวทวิตไม่ก็ฟังปากต่อปากทั้งนั้นแหละ เพราะหาในแอปเอาเองมันยากมากที่จะเจอเรื่องถูกใจ ถ้าเจอนักเขียนเขียนดีถูกจริตสักคนแทบจะเกาะขาเขาไปตลอดชีวิตอะ พวกเรื่องติดท๊อปก็ไม่ค่อยใช่แนวกุ

954 Nameless Fanboi Posted ID:sz8m4UH1YL

>>952 จริงๆพอนักแปลส่งงานไปก็ต้องมี บก.ตรวจอีกทีใช่ไหม จริงๆกูก็เข้าใจนะว่าคงโทษคนแปลอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมันต้องผ่านบ.ก.อีกทีก่อนจะปล่อยออกมา

955 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

>>954 +1 เคสคุณบู๋ที่บก.แก้จากถูกเป็นผิดก็มี

956 Nameless Fanboi Posted ID:BovK1slnzi

แบบนี้ต้องเรียกว่านักแปลไม่เก่งภาษาไทย หรือบก.ไม่เก่งภาษาไทยวะ
สรุปโทษครูภาษาไทย 5555
(กูอยากกลับไปตั้งใจเรียนภาษาไทยจัง เพิ่งรู้ว่ามีความสำคัญกับการอ่านนิยายขนาดนี้)

957 Nameless Fanboi Posted ID:BovK1slnzi

จริงๆไม่อยากโทษนักแปลหรือบก.ตรงจุดนี้เท่าไร เพราะกูเองก็ไม่ค่อยเก่งภาษาไทย
งานเขียนแม่งวัดความสามารถด้านภาษาจริงๆ
ตอนกูสอบ ดันไปเน้นแต่เรื่องจำชื่อตัวละครในวรรณคดีไทย

958 Nameless Fanboi Posted ID:CH.OmmdJ4f

>>956 ความรู้เรื่องภาษาไทยเรียนรู้ได้ตลอดอยู่แล้วมึง ฝึกบ่อยๆ ทุกภาษาแหละ

959 Nameless Fanboi Posted ID:5HNFbOPdNB

>>935 ช่งงแรกสนุกแต่เลิกอ่านกลางทาง สำนวนเฉยๆ ไม่ได้เซ็กซี่ตามความคิดกูนะ

960 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

>>957 แต่นักแปลกับบก.ควรเก่งภาษาไทยปะ อย่างน้อยก็ควรอ่านวรรณกรรมคลาสสิกมาบ้างซักยี่สิบสามสิบเล่มอะ เขาได้เงินจากการทำสิ่งนี้นะมึง

961 Nameless Fanboi Posted ID:ZpeHaN9DFM

>>960 เห็นด้วยเลยว่านักแปลกับ บก.ควรเก่งภาษาไทย โดยเฉพาะ บก. คุณต้องรู้ว่าจะต้องใช้คำยังไง สำนวนถูกผิดยังไง เรียงประโยคยังไงให้เป็นภาษาไทย

962 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

จริงๆจะแปลติดกลิ่นนมกลิ่นเนยกลิ่นจิ๊กโฉ่วซูชิอะไรมานี่กูไม่ว่าเลยนะ เข้าใจว่าตอนที่แปลมันต้องได้รับอิทธิพลจากต้นฉบับแหละ กูขอแค่อ่านรู้เรื่อง ไหลลื่น ใช้คำแบบมาตรฐานนิยายตีพิมพ์ก็พอใจแล้ว แต่สำนวนเหมือนเด็กมอต้นหัดแต่งนิยายอย่าง “ไล่ตา” นี่ไม่เอาเด้อ

963 Nameless Fanboi Posted ID:Uf.1GZsMva

มีบก.ก็เหมือนไม่มีอะมึง ตรวจคำผิดก็เหมือนกัน กูว่าจริงๆอาจไม่มีด้วยซ้ำ พูดถึงหลายที่เลยแหละ

964 Nameless Fanboi Posted ID:j7SGNu.cuW

>>960 หรืออ่านวรรณกรรมร่วมสมัยที่แปลและเรียบเรียงดีๆก็ได้ คือควรอ่านอะไรที่มันมีมาตรฐานเอาไว้เป็นมาตรฐานตัวเองน่ะ แล้วเวลาใช้งานจะไปปรับเป็นแนววัยรุ่นจ๋า แนวหละหลวมก็แล้วแต่สไตล์งานอีกที
แต่เดี๋ยวนี้หนังสือนิยายแบบฟาสต์ฟู้ด นิยายประโลมโลก หลายๆที่ทำได้แค่แทบไม่ต่างหรือดีกว่านิยายตามเน็ตนิดเดียวเอง

965 Nameless Fanboi Posted ID:9w8QT1RvHe

นักแปลที่แปลดีๆส่วนใหญ่ใจรักการอ่านอยู่แล้ว อ่านนิยายบ่อยๆสะสมศัพท์ใช้คำถูกกับบริบท ส่วนที่ออกมาไม่ดีเลือกใช้คำแปลกๆส่วนตัวคิดว่า ไลฟ์สไตล์เดิมอาจไม่ได้อ่านนิยายมากพอควร แต่แปลเพราะเป็นงานได้เงินเลยขาดประสบการณ์คำไทยตรงนี้ต่างจากนักแปลที่เดิมทำตัวเป็นนักอ่านอยู่แล้ว

966 Nameless Fanboi Posted ID:9w8QT1RvHe

นิยายแปลลงแอพแบบไม่ตีพิมพ์ขายนี่คำผิดเยอะเป็นพิเศษสังเกตได้ มีทุกเรื่อง คำผิด คำซํ้า พิมพ์สลับ มาหมด แล้วถ้าไม่มีคนทักก็ไม่แก้ด้วย ยังกับไม่มีคนตรวจเช็คก่อนลงยังไงยังงั้น

967 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

มันจะมีช่วงนึงที่คนโวยถี่ๆหน่อยว่าทำไมนิยายถึงเขียนผิด แปลผิด หรือใช้คำแปลกๆไม่คุ้น แต่พอเข้าไปอ่าน คำที่โดนโวยคือ กัน(ที่แปลว่าฉัน) ทว่า กอปร สลายโต๋ๆ ล่าสุดเห็นแวบๆ แม้แต่คำว่าบานปลายก็ต้องมีเชิงอรรถกันแล้วว่ะ กูตึ้บ กูไม่แน่ใจว่ากูควรสงสารนักเขียนนักแปลหรือโมโหที่งานยุคนี้มันหย่อนมาตรฐานลงจนคนไม่รู้จักคำพวกนี้ดี หรือกูควรปลง

968 Nameless Fanboi Posted ID:rZPHF1+Cyg

เป็นเพราะเดี๋ยวนี้นิยายออกเยอะการแข่งขันสูงหรือไงวะ คุณภาพการแปลเลยยิ่งดรอปลงเรื่อยๆ

969 Nameless Fanboi Posted ID:VNhT4jfa5x

>>967 กูว่ามีปัญหาด้านภาษาไทยกันทั้งคนอ่าน คนแปล และบก. ปนๆกัน มันเลยออกมามั่วๆหน่อย

970 Nameless Fanboi Posted ID:RyIFGrLDmK

>>967 ภัยความมั่น สมัยก่อนเจอคำแปลกก็หาความหมาย ถามคนอื่น เปิดพจนานุกรม ไม่ได้คิดทันทีว่าผิด กอปร กูงงมาก ไม่เรียนวิชาภาษาไทยเหรอ วรรณคดีในแบบเรียนก็มีบ่อยนะ ส่วนคำแสลงแบบสลาบโต๋ก็ผ่านมาไม่นานอ่ะ ถ้าถามสักหน่อยก็น่าจะรู้ แต่จะว่าไงได้ ขนาดเลียแผลยังไม่รู้จัก แถมทำตัวเป็นนางสอนอีก

971 Nameless Fanboi Posted ID:Y4fC60rCKT

>>955 แต่เคสบ.นั่น บก.แก้เป็นผิดแค่จุดเดียวเองปะ ที่แปลผิดเองก็เยอะนะมึง

972 Nameless Fanboi Posted ID:2bEzJ6rARL

>>966 กูอ่านนิยายที่ขายรายตอนในเว็บ ฟชล กูอยากจะร้อง สะกดทุกตอน ย้ำ มีทุกตอน ตอนละมากละน้อย แล้วชื่อตัวละครนะสะกดไม่เหมือนกัน เดี๋ยวก็สะกดด้วยตัว ว ตัว ง วรรรณยุกต์ก็เปลี่ยนไปมา สงสัยว่าทำไมไม่มีใครตรวจก่อนลง คือแต่ละตอนก็ไม่ได้จะยาวอะไรมากมาย อ่านแป๊บเดียวก็เห็นแล้วว่ามันมีคำผิดเยอะมาก จ่ายเงินซื้อแล้วได้แต่เนื้อหาไม่ตรวจทานแบบนี้โคตรอารมณ์เสีย

973 Nameless Fanboi Posted ID:cjWFvVv+VR

กุว่านักแปลที่แปลดีๆภาษาสวยๆมักเป็นนักแปลมีอายุ แบบ 30+ อะ พวกนักแปลเด็กๆอาจจะยังชั่วโมงบินต่ำ+ไม่ทันอ่านหนังสือของนักเขียนรุ่นเก่าๆที่ภาษาสละสลวยกว่า เลยแปลออกมาทื่อๆไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะ นักแปลแก่ๆแปลห่วยแตกก็มี นักแปลเด็กฝีมือดีก็คงมี

974 Nameless Fanboi Posted ID:VNhT4jfa5x

กูว่าโดยภาพรวม สกิลภาษาไทยของคนไทยสมัยใหม่ดรอปลงกว่าสมัยเก่า
ไม่ใช่แค่นักแปลหรือฝั่งบก.
นักแต่งนิยายคนไทยโดยทั่วไป ก็ใช้คำผิดกันเยอะ มีทั้งสะกดผิด และใช้คำผิดบริบท
กูไม่ใช่คนเก่งภาษาไทย บางทีอ่านนิยายในรอร ยังเจอคำผิดเยอะมาก เป็นคำผิดที่ไม่ได้เกิดจากการพิมพ์ผิด
แต่เป็นคำผิด ที่ใช้ผิดจริงๆเช่น ร ล น่า หน้า เกียจ เกลียด
คำพวกนี้เจอบ่อยกว่าสมัยที่อ่านนิยายเมื่อ 10 ปีที่แล้วเยอะเลย

975 Nameless Fanboi Posted ID:r60rnuTHX0

>>972 นักแปลรายตอนในเวป กุว่าไม่น่าจะผ่านบก.

1. จำนวนคำเยอะมากกกกกกกกกกกก + กำหนดเวลาสั้นมาก
2. นักแปลบางคนมาจ้างเด็กๆแปลเรตต่ำๆ ต่ออีกไม้ก็มี
3. กุเห็นด้วยกัน >>974 สกิลภาษาไทยนี่ หน้าเกียจมาก อันนี้คือเห็นบ่อยแบบ อ๊ากซ์

976 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

แปลเว็บเขาถือว่าเขากลับมาแก้ได้ตลอดเวลาปะ เลยเน้นเร็วไว้ก่อน แต่ปกติงานแบบนี้กูไม่ซื้อนะ ถ้าจะจ่ายแล้วกูยอมจ่ายแพงกว่าแต่ขอของมีคุณภาพ กูจะได้กลับมาอ่านได้บ่อยๆ

977 Nameless Fanboi Posted ID:o7CJD3R4Ib

>>974 เป็นไปตามยุคสมัยแหละ แต่เห็นคนอ่านความรู้น้อยโวยวายเวลาเจอคำแปลกๆนี่กูก็เพลียใจ

978 Nameless Fanboi Posted ID:KP8zy5bBx/

ky ชั่วประกายหินเหล็กไฟคืออะไรวะ กูนึกถึงหน้าพี่โป่งร้องเพลงนางแมวทุกครั้งเลย

979 Nameless Fanboi Posted ID:3pybIbOZBb

>>978 กูมาขำ5555555555555555 กูไม่รู้นะ น่าจะความหมายเดียวกับทันใดนั้นนั่นแหละแค่ขยาย ลองคิดเอาหินมาจุดแล้วไฟลุกคิดง่ายๆก็มึงจุดไฟแช็คแล้วไฟก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วประมาณนั้นมั้ง

980 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

>>978 ชั่วพริบตาเท่าประกายไฟจุดวาบ กูเคยเห็นคนแปลงี้

981 Nameless Fanboi Posted ID:fDgHCoNUOe

>>978 ผ่างงงงงง อ่านเรื่องเดียวกับกูแน่ๆ 55555

982 Nameless Fanboi Posted ID:j/NLfUhcoU

>>979 >>980 ขอบคุณค่า ก็น่าจะแว้บนึงไรแบบนี้
>>981 ฮัสกี้นั่นเอง 5555 กูเห็นหินเหล็กไฟ หัวกูก็มีเสียง ไอ้เธอมันคือนางแมวยั่วสวาท ไอ้เธอมันคือปิศาจหุ่นเซ็กซี่ ก็เหมาะกับจารย์เหมียวดีนะ 555

983 Nameless Fanboi Posted ID:fDgHCoNUOe

>>982 55555 ตลกจริง
แต่เห็นแซวๆแบบนี้ กูรออ่านทุกเดือนเลยนะ

984 Nameless Fanboi Posted ID:g2PDCKqN7R

หินเหล็กไฟเป็นคำแปลไทยของ flint stone
อันนี้กูก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าแปลงี้ เป็นหินที่ใช้จุดไฟสมัยก่อน
ก็คงเป็นชั่วพริบตาที่ตีหินให้เกิดประกายไฟแหละ
แต่เออ พอภาษาไทยมันมีวงหิน เหล็ก ไฟ หัวทุกคนเลยคิดไปในทางนั้นโดยอัตโนมัติ 5555

986 Nameless Fanboi Posted ID:LiARmIsfvv

ราชบัณฑิตใช้ว่าหินเหล็กไฟแหละ แต่ดูเหมือนพวกช่างเจียรที่ใช้หินนี่จริงๆเขาจะเรียกว่าหินไฟ ซึ่งว่าไปแล้วกูสงสัย ถ้ามีคนใช้คำว่าหินไฟแทนหินเหล็กไฟ จะดราม่ามั้ยวะ

987 Nameless Fanboi Posted ID:Kenakri.NB

>>986 ถ้ามีปกคู่ก็ไม่มีใครดราม่าเรื่องปสดแบบนี้หรอกน่า

988 Nameless Fanboi Posted ID:fDgHCoNUOe

>>987 เดี๋ยวปกคู่ก็ใกล้มาแล้ววว ต้องมีอย่างน้อย 1 เล่มแน่นอนน

989 Nameless Fanboi Posted ID:j7SGNu.cuW

พูดถึงปกคู่แล้วปกคู่เล่มสาม หวานใจหนังสยองขวัญ เหมือนคนจะชอบกันเยอะ แต่กูเห็นปกสามแล้วคิดหนักกว่าตอนเห็นปกหนึ่งอีกว่ะ คือกูไม่ชอบสไตล์เคะชนเคะ กูคงเป็นคนส่วนน้อย ดีใจกับคนที่ชอบนะ ส่วนกูขอกลับไปคิดต่อก่อน ความอยากได้ลดลงนิสสนึง

990 Nameless Fanboi Posted ID:g2PDCKqN7R

>>986 พูดแทนคนอื่นไม่ได้ แต่เป็นกู กูก็ไม่ติดใจนะ
คำคำนึง มันแปลได้หลายอย่างอะ
ราชบัณฑิตก็มีบัญญัติศัพท์หลายครั้งที่ทำให้คนในวงการจริงๆ เขาขมวดคิ้วเพราะความหมายมันไม่ได้
ดังนั้น ถ้าเราคิดว่าคำแปลนั้นสื่อความชัดกว่า ตรงกว่า ตราบใดที่ไม่ใช่แปลผิดแบบผิดไปเลย กูว่าก็ใช้ได้อะ
อันนี้ก็อาจจะต้องไปเช็กด้วยว่า โอเค วงการช่างใช้อย่างนี้ แล้ววงวิชาการที่พูดถึงในเชิงประวัติศาสตร์ใช้ว่าไงด้วย
เพราะบางที ต่างวงการก็เรียกต่างกัน เช่น วงการเดินป่าอาจจะเรียกหินจุดไฟงี้

991 Nameless Fanboi Posted ID:j/NLfUhcoU

>>989 เรื่องนี้เคะชนเคะเหรอ… แต่เรื่องปก กูไม่ชอบสักเล่มอะ เหมือนปกนิยายเว็บ

992 Nameless Fanboi Posted ID:fDgHCoNUOe

>>990 กูก็ไม่ติดใจนะ มองผ่านได้ แค่มีคนทักแล้วขำเฉยๆ
แต่ไม่คิดว่าเป็นเรื่องซีเรียส เรื่องใหญ่อะไร

993 Nameless Fanboi Posted ID:j7SGNu.cuW

>>991 เนื้อเรื่องกูไม่เคยอ่าน ที่บอกเคะชนเคะ กูหมายถึงสไตล์ภาพปก

994 Nameless Fanboi Posted ID:3pybIbOZBb

หวานใจ เหตุผลเหี้ยมากบอกเลย เรียกว่าเหยียดได้เลยนะ แต่งหญิงแล้วยังไง?คำตอบที่ได้คือ ไปพักเหอะ

995 Nameless Fanboi Posted ID:4UPjaIjYct

อยากอ่านสปินออฟ yes or no เล่ม off air แปลไทย ชาตินี้จะได้อ่านมั้ยน้อ ไหนจะเล่มของซาคาเอะซังอีก เซ็งๆๆ

996 Nameless Fanboi Posted ID:zTEbPUk7cr

>>995 ค่ายนี้ทำใจเลยมึง เจ้าแห่งการดอง มังงะบางเรื่องดองนานเป็นปีๆกว่าจะออกเล่มต่อ ดองจนออกเล่มใหม่มาทีต้องย้อนกลับไปเริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่เล่มแรกเพราะลืมเนื้อเรื่องหมด นิยายเห็นบางเรื่องหายไปสามสี่ปีแล้วค่อยออกต่อก็มี

997 Nameless Fanboi Posted ID:q1cJ9gpjSt

>>995 ไม่รู้ดอกบัวได้ LC มาไหมนะ เพราตอนเล่มทัตสึกิ นางแอลซีมาพร้อมเล่มหลัก แต่เล่มของซาคาเอะ+Spinoff ตอนนัตจังออกกูก็ไปถามมารอบหนึ่ง เขาบอกกำลังพิจารณาหรือเสนอเรื่องนี่แหละ ผ่านมาปีหนึ่งแล้วยังไม่ประกาศก็ไม่รู้ว่าไม่ได้ซื้อมาหรือซื้อมาแล้วแต่แปลอยู่ค่อยประกาศตอนจะออกเล่มเพราะกลัวคนหาว่าดอง

998 Nameless Fanboi Posted ID:qaM4Z4F0gt

Ky ลิ่วเหยาแปลแย่ขนาดไหนว่ะ คนถึงอยากให้แปลใหม่ กูไม่เคยอ่านแต่อยากเผือก เห็นโม่งเข้ามาสับกันหลายทีเหมือนกันว่าสำนวนบ้ง แปลนมเนย คือไงว่ะ ขอตัวอย่างสักประโยคไว้เป็นกรณีศึกษา

999 Nameless Fanboi Posted ID:8gAV.TNLlS

Ky คนวังหลวงหลอกข้าน่าตำมากปะ

1000 Nameless Fanboi Posted ID:li3R258jHH

>>998 กุกะลังจะเข้ามาถามเลย ว่าอะไรกดดันกุหลาบจนยอมแปลใหม่หมด ทั้งๆที่เข็นพิมพ์ 2 ออกมาแล้วด้วย เจตนาไม่ได้กะแก้หรือเต็มใจแก้แน่นอน
ว่าแต่บ้านเรามีเคสแบบนี้บ่อยมั้ยวะ รู้สึกเหมือนนานแสนนานจะได้ยินสักเคส ที่แปลพลาดจนต้องเรียกคืนพิมพ์ใหม่ เห็นส่วนมากโดนแหกไม่กี่จุดก็เบลอๆไป รอแก้พิมพ์ 2 หรือขายหมดค่อยเปลี่ยนคนแปล

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.