เรื่องทับศัพท์กูเห็นด้วยกับโม่งมู้เม้าท์น่ะ
กูลืมวิธีแปะคอมเม้นข้ามมู้ขอเอาข้อความมาใส่แทนล่ะกันน่ะ
“การทับศัพท์จริงๆมันสรรคำหรือพยายามสร้างคำมาแทนได้น่ะ แต่นั่นแหละมันไม่มีทางได้ความละเอียดอ่อนของคำมาทั้งหมดหรอ อย่างที่กูเคยบอกแค่วัฒนธรรมต่างกันนิดเดียว ความหมายของคำก็ต่างกันแล้ว ถ้าจะเอาความละเอียดอ่อนมาทั้งหมดมันมีแต่ต้องทับเท่านั้นแหละ แต่ทีนี้พอทับแล้วมันก็จะมีปัญหาอย่างอื่นทำมาแทนไง การทับศัพท์จีนเลยมันไม่สามารถทำให้คนไทยได้รับความรู้สึกแบบคนจีนอ่านจริงๆได้หรอก การที่เรารู้ความหมายของคำมันไม่ได้ทำให้เราได้ความรู้สึกจากบริบทของคำๆนั้นขึ้นมา ทีนี้นักแปลมันเลยต้องเลือกไงว่าจะเอาความละเอียดอ่อนหรืออารมณ์ร่วมในการอ่านนิยาย ซึ่งมันคือนิยายไงจุดประสงค์ที่นักอ่านนิยายต้องการคืออะไร? คือการอ่านเพื่อความบันเทิงการอ่านเอาอรรถรส นักแปลเลยเลือกที่จะลดทอดความละเอียดอ่อนของคำลงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านนิยายให้นักอ่าน(ยกเว้นบางคำที่นักแปลพยายามสรรคำ สร้างคำแล้วทำไม่ได้จริงๆถึงทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถรสเอา)”
“ จริงๆต่อให้ทับศัพท์น่ะ ถ้าไม่ได้ลองใช้เองให้ได้สัมผัสบริบทของคำจริงๆมันก็ไม่ได้อรรถรสขึ้นมาหรอก ต่อให้รู้ว่าคำๆนั้นมั้งมีความละเอียดอ่อนแค่ไหนก็ตาม อย่าง “ซือฝุ ซือฟู ซือจุน เหล่าซือ” ที่ไทยแปลรวมว่า อาจารย์ไปเลยอ่ะ ความจริงมันมีความละเอียดอ่อนของคำมันอยู่ แต่พอทับศัพท์ไปคนไทยรู้ความละเอียดอ่อนแต่เข้าไม่ถึงบริบทของคำมันเลยไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับคำๆนั่นด้วย กูเคยเจอคนบอกคำว่า ซือฟู ดูน่ารักน่าเอ็นดู ตอนแรกไม่คิดไรแต่พอได้ใช้ได้เจอบริบทของคำๆกับตัวจริงๆถึงได้รู้สึกว่า แม่งไม่ได้น่ารักเลย บาปเหมือนกำลังจะโดนนรกกินกบาล ถ้าเป็นแบบนี้กูว่าให้เลือกใช้คำที่คนคุ้นเคยให้ได้อารมณ์ใกล้เคียงกับคำๆนั้นดีกว่ามาทับศัพท์แล้วได้อะไรแบบนี้นะ”
By โม่งมู้เม้าท์ยกที่ 89 เลข 603,608