ในการทดลอง บราวน์ใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาหญิง 160 คน โดยวัดระดับของโปรเจสเทอโรนและฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อ คอร์ติซอล (Cortisol) ในน้ำลาย ร่วมกับข้อมูลเกี่ยวกับรอบประจำเดือน และการใช้ยาคุมกำเนิดกับยาประเภทฮอร์โมนอื่นๆ
พบว่า ผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มที่ขี้เมาท์กว่า จะมีระดับของโปรเจสเทอโรนสูงกว่า จึงเป็นหลักฐานให้กับสมมติฐานในทางชีววิทยาวิวัฒนาการ ที่บอกว่า เมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนแล้ว มนุษย์เราพัฒนาการนินทามาเป็นอาวุธ เพื่อช่วยควบคุมฝูง และการนินทานี่เองที่มีส่วนทำให้สมองของเราพัฒนามากขึ้น และอาจเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดภาษาขึ้นมาด้วย
เพราะฉะนั้นก็เลยเข้าใจได้นะครับ ว่าการซุบซิบ นินทา เมาท์แตกนั้น มีประโยชน์อย่างนี้นี่เอง และแม้มันจะ Toxic ต่อผู้ถูกนินทา แต่ถ้าพอทำใจได้ก็ต้องถือว่าได้บุญไม่น้อย