Fanboi Channel

สมาพันธ์สาวฟุนักเม้าท์ ยกที่ 84

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:JPHhDRXpbu

ยกที่ 01 >>>/801/2253/
ยกที่ 02 >>>/801/2374/
ยกที่ 03 >>>/801/2498/
ยกที่ 04 >>>/801/2736/
ยกที่ 05 >>>/801/2860/
ยกที่ 06 >>>/801/2956/
ยกที่ 07 >>>/801/3025/
ยกที่ 08 >>>/801/3119/
ยกที่ 09 >>>/801/3197/
ยกที่ 10 >>>/801/3241/
ยกที่ 11 >>>/801/3287/
ยกที่ 12 >>>/801/3381/
ยกที่ 13 >>>/801/3495/
ยกที่ 14 >>>/801/3626/
ยกที่ 15 >>>/801/3705/
ยกที่ 16 >>>/801/3926/
ยกที่ 17 >>>/801/4012/
ยกที่ 18 >>>/801/4097/
ยกที่ 19 >>>/801/4199/
ยกที่ 20 >>>/801/4290/
ยกที่ 21 >>>/801/4406/ **(วาระ ภกด แห่งมู้)**
ยกที่ 22 >>>/801/4451/
ยกที่ 23 >>>/801/4488/
ยกที่ 24 >>>/801/4539/
ยกที่ 25 >>>/801/4606/
ยกที่ 26 >>>/801/4640/
ยกที่ 27 >>>/801/4731/
ยกที่ 28 >>>/801/4832/
ยกที่ 29 >>>/801/4920/
ยกที่ 30 >>>/801/5011/
ยกที่ 31 >>>/801/5115/
ยกที่ 32 >>>/801/5323/ (ชื่อเป็น 31)
ยกที่ 33 >>>/801/5436/
ยกที่ 34 >>>/801/5612/
ยกที่ 35 >>>/801/5704/
ยกที่ 36 >>>/801/5731/
ยกที่ 37 >>>/801/5749/
ยกที่ 38 >>>/801/5764/
ยกที่ 39 >>>/801/5788/
ยกที่ 40 >>>/801/5825/
ยกที่ 41 >>>/801/5887/
ยกที่ 42 >>>/801/5950/
ยกที่ 43 >>>/801/6027/
ยกที่ 44 >>>/801/6071/
ยกที่ 45 >>>/801/6147/ **(วาระตัวร้ายฯแห่งชาติ)**
ยกที่ 46 >>>/801/6179/
ยกที่ 47 >>>/801/6271/
ยกที่ 48 >>>/801/6324/
ยกที่ 49 >>>/801/6410/
ยกที่ 50 >>>/801/6464/
ยกที่ 51 >>>/801/6500/
ยกที่ 52 >>>/801/6538/
ยกที่ 53 >>>/801/6635/
ยกที่ 54 >>>/801/6726/
ยกที่ 55 >>>/801/6822/
ยกที่ 56 >>>/801/6880/
ยกที่ 57 >>>/801/6963/
ยกที่ 58 >>>/801/7058/
ยกที่ 59 >>>/801/7127/
ยกที่ 60 >>>/801/7254/
ยกที่ 61 >>>/801/7760/
ยกที่ 62 >>>/801/8148/
ยกที่ 63 >>>/801/8348/
ยกที่ 64 >>>/801/8452/
ยกที่ 65 >>>/801/9043/
ยกที่ 66 >>>/801/9298/
ยกที่ 67 >>>/801/9901/
ยกที่ 68 >>>/801/10239/
ยกที่ 69 >>>/801/10413/
ยกที่ 70 >>>/801/10725/
ยกที่ 71 >>>/801/10806/
ยกที่ 72 >>>/801/10877/ **(วาระกุ้งม่วง & LGBT+)**
ยกที่ 73 >>>/801/10929/ **(วาระ Minikikaboo)**
ยกที่ 74 >>>/801/10980/
ยกที่ 75 >>>/801/11125/ **(วาระ ละ-ล่ะ)**
ยกที่ 76 >>>/801/11312/
ยกที่ 77 >>>/801/11591/ (ชื่อเป็น 76)
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
ยกที่ 80 >>>/801/11739/
ยกที่ 81 >>>/801/11796/
ยกที่ 82 >>>/801/12157/
ยกที่ 83 >>>/801/12315/

Hall of shame
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1IXpef-npDJdoj427b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik

Hall of shame 2
https://docs.google.com/document/d/1A0T0jr1Kt9mYtcIr4ECK2LRVmaqkCBtpOUYdDwLIb3k/edit?usp=drivesdk27b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik

2 Nameless Fanboi Posted ID:WFx9WLWMD+

กูประเดิมให้ ดราม่าสดๆเมื่อกี้มีใครทันปะวะปิดเรื่องไปล่ะ คนแปลเถื่อนในรอร. เป็นนักเขียนยอดเข้าชั้นหลักพันทำไมลดตัวมาแปลเถื่อนวะ

3 Nameless Fanboi Posted ID:Eb7SHZSFGY

>>2 ไม่ทันว่ะเหลาหน่อย

4 Nameless Fanboi Posted ID:CD2HEIk8t.

>>2 อะไรยังไงไหนเล่า อยากมุงด้วยๆๆ

5 Nameless Fanboi Posted ID:vnQlrT5AXW

>>2 มุงด้วยๆๆ

6 Nameless Fanboi Posted ID:WFx9WLWMD+

กูก็เกือบไม่ทันเอามาเล่าต่อบางส่วน
เอานิยายจีนมาแปลเถื่อนแล้วติดโดเนทหลายวัน จนมีคนแปลเถื่อนคนอื่นแซะทำไมเรื่องนี้ถึงเปิดโดเนทได้ พอมีคนเตือนก็โดนลบคอมเม้นต์(นางบอกทำไมจะลบคอมเม้นต์ด้านลบไม่ได้ล่ะ ด้านลบตรงไหนว่ะมาเตือน) แล้วก็ค่อยเพิ่มคำอธิบายทีหลังว่าช่วยโปรโมทเรื่องไม่ได้หวังเชิงพาณิชย์ แต่ไม่มีลิ้งอะไรที่ไปสู่นักเขียนต้นฉบับเลย แปลอิ้งก็เขียนไว้ว่าห้ามแปลต่อด้วย นางก็อ้างต่อว่าจริงๆแปลจากจีน(แล้วบอกไม่รู้ช่องทาง)
ไอดีนามปากกาอะไรก็คืออันเดียวกับที่ตัวเองแต่งนิยายยอดหลักพัน แล้วมีคนบอกมันเป็นการโปรโมทนิยายตัวเองชัดๆ กูก็คิดเหมือนกัน ต่อ นางอ้างว่าใส่ลิ้งไม่เป็น???? กูแบบว้อทมาก
ถามไปหลายประเด็น ตอบเลี่ยงๆ แล้วตอบถำถามเดียว ทั้งที่คนถามไปเยอะแยะ พอถามย้ำสุดท้ายจบด้วยที่นางไม่พยายามแก้ปัญหาเองตัดจบแล้วก็ปิดตอน ลูกหาบเยอะจัดๆ ลูกหาบด่าคนเตือนอีก กูล่ะสงสารนักเขียนต้นฉบับตอนมีคนมาบอกหาเรื่องคนแปลเถื่อนทำไม คนรออ่านเดือนร้อนรู้ไหม คนแปลเถื่อนก็เสียกำลังใจอีก /มองบน

7 Nameless Fanboi Posted ID:EwW48Csr4B

ลบเม้นที่สัญญาจะไม่แปลเกินตอนอีก เจตนาดูออก คนอ่านงานเยอะมากกูเข้าไปดูเรื่องที่เขาแต่ง เสียชื่อเสียงตัวเองเปล่าๆทำเพื่ออะไร

8 Nameless Fanboi Posted ID:1Cq1l5fReO

>>6 วาร์ปต้องมาแล้วไหมมึง ทำสันดานเสีย แต่แปลเถื่อนมึงก็ไม่ดีอยู่แล้วยังเสือกเปิดโดเนทอีกไม่ทีสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานเลย

9 Nameless Fanboi Posted ID:WFx9WLWMD+

เชี้ย หรืออ่านโม่งด้วยวะ ปิดอีกเรื่องออกด้วย ว้าว มึงควรลบไปก็ได้นาจา กูแคปเรื่อย่อไว้ก่อน ถ้าเจอชุบตัวใหม่จะได้ไม่ไปอ่าน

10 Nameless Fanboi Posted ID:vnQlrT5AXW

>>9 ใครววะ ใบ้หน่อย

11 Nameless Fanboi Posted ID:WFx9WLWMD+

>>8 AUMไรสักอย่าง ปิดนิยายไว้ทุกเรื่องอะวาร์ปไม่ได้ ทวิตที่ทิ้งไว้ก็เหมือนจะไม่ได้อัพเดต

12 Nameless Fanboi Posted ID:2HrEZVyXU8

คนแปลเรื่องกูลูปะ กูเห็นปิดตอนไปละ ตงิดๆ ตั้งแต่อัพว่าจะเก็บเงินเข้ากลุ่ม แต่ไม่รู้ว่านิยายเขียนนางเรื่องไหร

13 Nameless Fanboi Posted ID:WFx9WLWMD+

>>12 คนละคน อ้าวกูลูก็ปิดหรอกูตามเผือกแต่เรื่องนี้ กูลูมีแจ้งปะว่าทำไม

14 Nameless Fanboi Posted ID:auPoM5FbkU

>>6 ดราม่าเพราะเปิดโดเนทสินะ กูก็ว่าถ้าแปลเถื่อนลงรอร.เฉยๆคนไม่น่าดราม่ากัน เพราะแปลเถื่อนมีเต็มเว็บขนาดนั้น ถ้าจะดราม่าก็ต้องโดนกันหมดอะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:VvX9G.gAbg

>>13 กูลูกูเห็นเค้าอัพตอนว่าแจ้งข่าวอะ ประมาณว่าช่วงนี้ช็อตเลยจะไปแปลอีกเรื่องลงกลุ่ม แล้วจะเก็บเงินเข้ากลุ่ม แล้วอยู่ๆ ก็ปิดนิยายไปเลย กูก็ไม่แน่ใจว่าเคสเดียวกับที่โม่งบนๆ พูดถึงมั้ยแต่น่าจะโดนด่าอยู่แหละมั้ง 555

16 Nameless Fanboi Posted ID:z4T8hz3gHq

>>15 โห น่าเกลียดวะ

17 Nameless Fanboi Posted ID:wA6tWHLsrw

>>15 เหมือนเรื่องbeastmaster นั้น เค้าบอกว่ามีคนแปลอยู่แล้วป่ะ เลยเปลี่ยนไปแปลแบบเก็บเข้ากลุ่มเรื่องหมอผ่าตัดแทน

18 Nameless Fanboi Posted ID:2u1CBq3g7I

KY กูเห็นในกลุ่มดราม่า มาถามกันเรื่องนี้ว่ะ “ พอดีเห็นนิยายในหน้าใหม่มาแรงเรื่องหนึ่ง มีประเด็นว่าเรื่องคล้ายนิยายจีนแนวอาหารค่ะ เห็นคนบอกว่าคล้ายเรื่อง i'm using the interstellar live broadcast to raise cubs กับเรื่อง the film emperor’s daily live cooking broadcast พอไปลองอ่านเรื่องหลังมาแล้วรู้สึกว่าช่วงต้นตรงเปิดเรื่องค่อนข้างคล้ายกันเลยค่ะ ที่โลกมนุษย์ถูกทำลายเพราะซอมบี้เลยหาโลกอื่นอยู่ มนุษย์ทำอาหารแย่มาก นายเอกมาเข้าร่างเก่งด้านทำอาหารสตรีมการทำ สุ่มส่งของให้ผู้ชม ฯลฯ มีใครเคยอ่านเรื่องที่เป็นประเด็นไหมคะ คนอื่นคิดยังไงกันบ้าง หรือเราคิดไปเอง เพราะไม่เห็นคนโพสต์คุยเรื่องนี้ที่ไหนกันเลย มีแต่ในคอมเมนต์ที่ทักคนเขียน” ใครอ่านมั่งวะ เห็นนข.ออกตัวว่าไม่เคยอ่านของงานจีน แต่คนจับผิดหลายคนอยู่ เขาว่าติดท๊อปด้วยตอนนี้

19 Nameless Fanboi Posted ID:z4T8hz3gHq

>>18 นข.บอกได้แรงบันดาลใจมากจากเรื่องนั้นไม่ใช่หรอ กูเคยเห็นคนคุยเรื่องนี้ในทวิตเตอร์อยู่ บอกว่าตัวนักเขียนเองเป็นคนบอกว่ามีแรงบันดาลใจ แต่เราว่ามากกว่าแรงบันดาลใจเพราะตอนแรกเกือบเหมือนเลย ประมาณนี้ เห็นแวปๆ

20 Nameless Fanboi Posted ID:W/dS11cBpO

>>18 กูรู้ละเรื่องไหน ไม่ได้ติดท็อปนะ ติดใหม่มาแรงเฉยๆ ไปไล่หาดูสิ มีคอมเมนต์โต้ตอบกันอยู่ นข.ก็ตอบดี ไม่หัวร้อนแต่ก็นั่นแหละ เห็นว่าจะรีไรท์

21 Nameless Fanboi Posted ID:XmiJVNbVTN

อะมีคนไล่พวกกูจากมู้จงหยวนให้มาห้องวาย งานของ อ.หวายซ่าง ที่ สนพ.หสม เพิ่งประกาศ เขาบอกมีอีบุ๊คด้วยนะ คือแบบปกติของคนนี้ขายlc อีบุ๊คด้วยปะ

22 Nameless Fanboi Posted ID:9xwIJVJAUW

>>21 มีไล่อีก มู้จงหยวนมันไม่อยากเผือกกันหน่อยเหรอวะ 555
อีค่ายนี้มันได้อีบุ๊คบ่อยมากตั้งแต่เมื่อก่อน ได้มั่วบ้างได้จริงบ้าง อยากรู้ว่าได้จริงไหมต้องถามต้นสังกัดนั่นแหละ

23 Nameless Fanboi Posted ID:XmiJVNbVTN

>>22 ก็เผือกกันอยู่ บอกกูคุยเรื่องวาย เชิญมาที่นี่ อาจเป็นลูกหาบละมั้ง5555

24 Nameless Fanboi Posted ID:9xwIJVJAUW

>>23 กูเห็นเมื่อก่อนมันก็แหกกันเรื่อง ITW นึกว่าถ้าได้ด่าจงหยวนจะชญชชก็ไม่เป็นไร แต่มู้นั้นมันมีเงาแค้นที่คอยส่งเมลล์ไปหานักเขียนนักวาดอยู่นะ แนวว่าคอยเช็คว่าจงหยวนมันซื้อจริงหรือดอยมา

25 Nameless Fanboi Posted ID:XmiJVNbVTN

เอาจริงๆ นะสาย ช-ญ ลูกหาบแข็งแกร่งมาก ถ้ามีอะไรตุกติกกูก็คาดหวังพลังสาววายเอาสักดอก ส่วนสาววายใครไม่เคยอ่านงานที่นี่กูเสียใจด้วยที่เขา lc ได้ มึงทำใจเรื่องการแปลไว้ล่วงหน้าเลย กากอันดับต้นๆ ในใต้หล้าเลย

26 Nameless Fanboi Posted ID:HSMUn1J.ba

https://twitter.com/Lemonjasmine2/status/1365841874972409857 อ่านโควตแล้วปวดหัว ใส่การเมืองในนิยายอ่ะใส่ได้ แต่ที่พวกมึงใส่ๆกันอยู่มันฝืนไง มือไม่ถึงก็อย่าฝืนนนน อยู่ห้องเชฟกับสิงหกุลโภชนาที่ยกว่าดีนักหนาไปอ่านแล้วบ่าได้เลย

27 Nameless Fanboi Posted ID:KhxgaWhDEC

>>26 ในทวิตต้องทำเป็นเฟียสขอช่องทางติดตามหน่อย ลองไปอ่านไม่ค่อยรอดกันหรอก แล้วก็ไปเปิดเรื่องใหม่เพราะคนตามน้อย ต้องยอมรับจริงๆอะ กูก็เคยตามหลายเรื่องแรกๆก็เห้ยเจ๋งวะเอาการเมืองมาเขียน สักพักก็ไปไม่รอดกัน ที่รอดๆก็มีคนรีวิวอวยให้ทั้งนั้น

28 Nameless Fanboi Posted ID:qWsj5GCjIn

คือเพราะแม่งเขียนแบบยัดเยียดใช้เป็นเครื่องมือด่าเฉยๆ ไง ไม่ได้สะท้อนสร้างแรงสะเทือนห่าอะไรเลย อ่ะ กูขอยกผู้พิพากษาของชาติ กอบจิตติ แค่สังคมเล็กๆ ไม่ต้องสเกลใหญ่มันก็สะท้อนการเมืองได้ มึงเขียนแค่เรื่องในครอบครัวก็ยังได้ กูไปอ่านมาหมดอ่ะ เมื่อไรจะเลิกเป็นซาหริ่ม ขายยำต่างโลก มึงก็แค่ด่าเฉยๆ เหมือนที่ฉอดในทวิต มึงไม่ได้เข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้างด้วยซ้ำ

29 Nameless Fanboi Posted ID:/c7izd8j9G

>>28 กูว่าคงเพราะเขียนลึกถึงปัญหาเชิงโครงสร้างไปก็หาคนอ่านยากว่ะ ต่อให้ใส่วายลงไปเป็นผงชูรสหรือลูกชิ้นก็คงไม่ค่อยมีคนสน
อย่างเมื่อไรจะเลิกเป็นลิ้มอ่ะแมสมากในกลุ่มเพื่อนกู (โดยเฉพาะตอนปัญหาหน้ากากขาดตลาด) แต่ถามว่ามีใครเสพแล้วคิดตามจริงจังมั้ย กูว่าน้อยว่ะที่จะหาเครื่องสะท้อนสังคมในนิยายวายนอกจากความบันเทิง อย่างนิทานพันดาวหรืออีกเรื่องที่เน้นแนวปลูกป่าของอวว. กูยังเข็นแล้วเข็นอีกกว่าจะอ่านจบ

30 Nameless Fanboi Posted ID:9xwIJVJAUW

เขียนได้นะ แต่บางคนมันเหมือนอัดอั้นอยากฉอด อ่านแล้วมันเหมือนอ่านแอคเห็บฉอด พลังลบใครจะอยากรับเข้ามาเยอะๆวะ ปสดพอดี
ขึ้นอยู่กับฝีมือคนเขียนอ่ะ จะสอดแทรกยังไงใหเอ่านไม่สะดุด ไม่เหมือนอ่านแอคฉอด มือไม่ถึงก็เขียนนิยายปกติไปเถอะ อย่าฝืน

31 Nameless Fanboi Posted ID:KhxgaWhDEC

กูว่าเขียนลงTalkช่วงท้ายดีสุด อยากคุยอะไรก็ใส่ไปเลยเผลอๆคอมเม้นต์เยอะขึ้นด้วย แต่เอามาแต่งเป็นเนื้อเรื่องนักอ่านลดฮวบแน่นอน
นักเขียนคนไหนเขียนแนวนี้อยู่ ที่สมมุติเป็นประเทศโลกอื่นแล้วนายเอกคอยประคองอำนาจฝ่ายนั้นส่วนพระเอกจะล้มอำนาจอะ มีกูตามอยู่นะคนหนึ่ง มึงเขียนต่อทีกูชอบแบบนายเอกพระเอกรู้ทันฟาดกัน

32 Nameless Fanboi Posted ID:HSMUn1J.ba

>>31 เรื่องไหนอ่ะ อ่านที่มึงเขียนละอยากอ่านบ้าง

33 Nameless Fanboi Posted ID:KhxgaWhDEC

>>32 กูไปค้นมาให้มึงเลยนะ พึ่งเห้นเขาปิดเรื่องมิน่าไม่แจ้งเตือน เปลี่ยนชื่อลงใหม่เป็นความลับของท้องฟ้า ภาษาอัง กูไม่รู้ว่ารีไรท์ไหมนะ เตือนไว้ก่อนว่านายเอกเข้าร่างคนอื่น ซึ่งกูไม่ชอบตรงนี้ และคนไม่ค่อยอ่านเพราะตรงนี้แหละ แต่ฉากร่างจริงอะเขียนดี

34 Nameless Fanboi Posted ID:KhxgaWhDEC

Ky www.รอร.com/a/6d41ad6bb4362e8be15608633e99c61b?r=user_page มีเครดิตอยู่บนรูปจริงๆนะคะ แค่มันเล็กมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เท่านั้น เสียใจจังเลยค่ะ เป็นแฟนคลับน้องเหมือนกัน มาพูดแบบนี้เสียกำลังใจในการแต่งนะคะ /มองบน

35 Nameless Fanboi Posted ID:jKZd339nGw

>>34 กูละขำำ เดี๋ยวก็มีแฟนคลับมาบอกว่าคนเตือนทำเกินไปไหม พูดดีก็ได้ เชื่อกู

36 Nameless Fanboi Posted ID:jKZd339nGw

เครดิตที่อ้างกับเครดิตจริงในรูปไม่เห็นตรงกัน เฟคป่ะวะ

37 Nameless Fanboi Posted ID:KhxgaWhDEC

>>36 อันนี้กูไม่รู้ว่าอันไหนจริง ในรูปที่ใช้ก็เป็นเครดิตสีขาวแต่ที่นักเขียนลงเป็นเครดิตสีดำ กูว่าไม่ต้องรอแถแล้วแหละ กูรอโดนบล็อกดีกว่า

ระบบรีดยิ่งดีๆอยู่ด้วย ไม่บล็อกก็รายงานความคิดเห็นแค่นั้นคนก็ไม่รู้แล้ว ทีมงานดีเยี่ยมรายงานเม้นไปก็ช่วยอ่านหน่อยว่าเขียนละเมิดลิขสิทธิ์ สัส กูรายงานไปหลายสิบเรื่องหลักฐานครบถ้วน ดันไปเข้าข้างนักเขียนคุยกับนักเขียนบอกแค่นี้ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรอก กูจำได้แม่นนักเขียนแม่งแคปมาเย้ยกู รายงานไปยี่สิบครั้งเรื่องนั้น แถได้แถดี ขอบคุณที่อ่านกูบ่น

38 Nameless Fanboi Posted ID:KhxgaWhDEC

วันนี้โม่งคนหายไปไหนกันวะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:/2u9k7tRhH

กูเจอแต่แนวสิ่งแวดล้อม ซึ่งเขาก็เล่นแต่สิ่งแวดล้อมจริงๆ อย่างน้อยก็ทำให้กูฮึดลดใช้พลาสติกได้

40 Nameless Fanboi Posted ID:gV7/YlB/es

>>34 เขาลบคอมเม้นต์แล้วว่ะมึง

41 Nameless Fanboi Posted ID:9fxcNm4EMW

>>28 คิดเหมือนมึงกูไม่มีปัญหาเรื่องการเมืองในนิยายนะ ออกจะชอบด้วยซ้ำ แต่ที่เจอส่วนมากคือนิยายที่อยากฉอดแบบเอียงข้างสุด ไม่มีวรรณศิลป์ ไม่มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้ม ไม่มีอะไรเลย เหมือนเน้นอ่านเพื่อความสะใจแบบชั่วคราว อ่านแล้วก็หายไป ถ้านิยายวายแต่งแนวการเมืองที่กูชอบในช่วงยุคนี้คงเป็นเรื่อง 69 อะ อาจมีเรื่องอื่นอีกแต่กูจำชื่อเรื่องไม่ได้ แต่69ตราตรึงในความทรงจำกูสุดล่ะ

42 Nameless Fanboi Posted ID:czEtqEWlDl

อยากบ่นเรื่องยัดการเมืองในนิยายเหมือนกัน แต่ดูท่าถ้าบ่นลงทวิตคงโดนแหกไส้แตกแหง ปัญหาคือหลายคนสักแต่จะใส่แต่มือไม่ถึงจริงๆ ว่ะ ไม่ใช่แค่การเมือง แต่ประเด็นทางสังคมทุกประเด็นอะมันใส่ลงในนิยายได้ แต่ใส่มาแล้วมันเข้ากับนิยายมึงมั้ยนี่ก็ควรพิจารณาเหมือนกันนะ บางเรื่องกูเปิดผ่านๆ อย่างกับลอกไทม์ไลน์ทวิตมาแปะลงเนื้อเรื่อง ไม่มีชั้นเชิงเหี้ยไรเลยแถมเสือกติไม่ได้ เพราะติปุ๊บ=มึงเป็นsลิ่ม อีสัส

43 Nameless Fanboi Posted ID:hgkkH5iceY

>>42 เออ เรียกว่าชั้นเชิงในการแต่งอะ มันอิมแพคพอให้เราอินไหม หรือสมูทไปกับเนื้อเรื่อง คือยาวอย่างมันจะโพล่งออกมาไม่ได้อะ

44 Nameless Fanboi Posted ID:xTWXZ1WrP6

กูรำคาญมากกว่า เอาเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของทุกคนมาอ้าง อีเหี้ยพวกมึงก็แค่ผลักภาระให้คนอื่นไปสู้ไปตายแทน แต่ตัวเองนั่งแฮชแท้กโง่ๆอยู่หน้าจอ กูกดอันฟอลนิยายแม่งเลย ไม่ชอบ

45 Nameless Fanboi Posted ID:n/oQBave31

บางคนมันอินค้างมั้ง แล้วเห็นคนอื่นทำแล้วรุ่งก็อยากทำบ้าง แต่มือไม่ถึง
นิยายที่แอบสอดแทรกที่กูอ่านมาแต่ละเรื่องกูยังไม่เห็นเลยมันช่วยสะท้อนหรือพัฒนาอะไรได้ ฉอดจบก็จบไปแค่นั้น กูอ่านนะแต่คงไม่ซื้อเก็บ รู้สึกเวลาอ่านย้อนมันคงดูหลงยุค แบบอ่านนิยายแล้วเจอพระเอกใช้ไอโฟนสามไรงี้

46 Nameless Fanboi Posted ID:2MsME.yIyu

กูเคยไปอ่านนิยายวันสิ้นโลกเรื่องนึงที่ยัดด่าการเมืองตั้งแต่ต้นๆ เรื่อง บอกว่ารัฐบาลไม่ปิดประเทศ แต่หน้าเงินรับผู้อพยพจากประเทศอื่นที่หนีโรคเข้ามาทำให้ไวรัสซอมบี้ระบาดในไทย กูอิหยังวะมาก แบบเหมือนมึงสักแต่จะด่าใส่เหตุผลมั่วจนกูพูดไม่ออก แล้วจะอิงไปอยู่ตามฐานปฏิบัติการแบบจีนอีก คือฐานปฏิบัติการมันเป็นของทหาร บทบาททหารในนิยายจีนมันไว้โชว์เท่แบบโฆษณาชวนเชื่ออ่ะว่าพึ่งพิงได้ แต่ถามหน่อยว่าเนื้อเรื่องอยู่ไทย มึงจะรอพึ่งทหารไทยจริงๆ เหรอ บอกว่าเข้าไปปล้นคลังแสงที่มีแค่จ่าเฝ้ากับกุญแจรั้วลูกกรงโง่ๆ ยังง่ายกว่าอีก

47 Nameless Fanboi Posted ID:14Udvz3WL8

เขียนการเมืองลงนิยายไม่ใช่เขียนในมุมมองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันต้องเขีบนไปถึง2มุมมอง ศึกษาและรับรู้ถึงโครงสร้างของปัญหาจริงๆ ลักษณะนิสัย ทำไมตัวมีถึงคิดแบบนี้ ทำอีกฝั่งถึงคิดแบบนี้ ข้อจำกัดต่างๆ จิตวิทยา ความกลัวในจิตใจของมนุษย์ มันเกี่ยวโยงไปหมด

48 Nameless Fanboi Posted ID:UA20g7R9zR

>>47 แล้วถามว่าอีพวกนิยายที่อวยๆ กันอยู่บนทวิตนี่ทำได้สักกี่เรื่อง กริบ

เห้อ แล้วมาโวยวายว่าคนอื่นเป็นสหริ่ม แต่ไม่เคยสงสัยว่าตัวเองแค่เขียนห่วย

49 Nameless Fanboi Posted ID:J6q4KufZrB

เขียนได้แต่กูเคยเห็นพวกที่เขียนแบบยัดเยียดความคิดตัวเอง แถมปะนามพวกเห็นต่างแล้วยังมีชักชวนไปม้อบ ขายตรงสัสๆ เลิกติดตามเลยกู

50 Nameless Fanboi Posted ID:J6q4KufZrB

>>49 นิยายที่ นข คนนี้เขียนมันไม่ว้าว เนื้อเรื่องงั้นๆ ภาษาก็ติดๆขัดๆอยู่แล้วแต่กูก็อ่านเล่นๆ พอยัดการเมืองมาแบบนี้จากตอนแรกเฉยๆตอนนี้รู้สึกว่านิยายมันห่วยทันที

51 Nameless Fanboi Posted ID:WIqgrlhsHh

มีหน้ายกนิยายของทมยันตี ว.วินิจฉัยกุลมาเป็นตัวอย่างของ soft power ว่านิยายเขียนเรื่องการเมืองได้ แต่ไม่ได้ดูเลยว่าไอ้ที่ตัวเองเขียนๆมา มันได้เท่าเค้ามั้ย ถ้าเขียนแล้วมันอ่านลื่น ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ฉอดการเมืองแบบcopy pasteจากทวิต ใครมันจะไปด่าวะ

52 Nameless Fanboi Posted ID:PcTEXtXzUl

Ky กุถามหน่อย นักเขียนคนไหนที่แม่งซื้อเพจมาอวยนิยายตัวเองวะ ไอ้แบบชอบแจกของให้นักอ่านอ่ะ กูเห็นเขาถาม ๆ กันเลยมาถามเผื่อพวกมึงรู้กัน

53 Nameless Fanboi Posted ID:XOVe6/fzlY

>>52 ไม่รู้เรื่องเดียวกันไหม แต่ถ้านักเขียนที่แจกของบ่อยๆ ก็นุ นางชอบอวยนิยายตัวเองเวอร์วัง แล้วชอบปั่นว่าขายดีหลักหมื่นเล่มอะไรงี้ ยอดวิวสิบล้าน แจกไอโฟนมั่ง แจกนั่นแจกนี่ แต่ไม่รู้มีใครได้ไปบ้างยัง เขียนมาไม่นานยอดเพจคนตามเยอะกว่านักเขียนไฮป์ๆ อีก

54 Nameless Fanboi Posted ID:jzOymHV56V

พวกยัดการเมืองเค้าในนิยาย ใส่บทพูดมาแบบดื้อๆ ถ้ามันไม่ใช่แนว slice of life ที่ตลคบ่นหินแดดไปเรื่อย หรือมีผลต่อพล็อตมองยังไงก็ฝืนอะ ขอโทดที่ไม่ชอบแต่กูไม่ผิด

55 Nameless Fanboi Posted ID:9JhMkpL8mn

>>53 ไม่ใช่คนตามนักเขียนนะ แต่คนนี้เคยเห็นผ่านตา อ่านแล้วได้แต่กลอกตา เลื่อนผ่านไป

56 Nameless Fanboi Posted ID:.+1EYKW/Za

ขึ้น #28 ก.พ. กันเต็มเลยจ้า เอิ่มนี่แอปอ่านนิยายนะคะ ไม่ใช่ทวิตเตอร์ ผิดที่คร่า

57 Nameless Fanboi Posted ID:PcTEXtXzUl

>>53 จิงดิวะ กูไม่เคยอ่านงานเขาอ่ะ ถีงขนาดซื้อเพจมาอวยตัวเองเลยเหรอวะ มันลงทุนขนาดนั้นเลยเรอะ ?

58 Nameless Fanboi Posted ID:Ac5s7cRNd1

>>53 ยอดพิมพ์เป็นหมื่นกูนึกว่าแฮร์รี่พอตเตอร์

59 Nameless Fanboi Posted ID:XOVe6/fzlY

>>57 เรื่องล่าสุดของนาง นางประกาศว่า ขายได้ 6,000 เล่ม ขายดีกว่าข้าวปั้นอีก ข้าวปั้นว่าไฮป์แล้วนะ นี่เห็นแล้วจะเวอร์ไปไหน

https://www.img.in.th/image/pQfmOf

60 Nameless Fanboi Posted ID:.+1EYKW/Za

>>59 ข้าวปั้นนิยายนางดีตรงไหนวะ

61 Nameless Fanboi Posted ID:CrT9B76Yvr

>>60 พล็อตไม่บ้ง ภาษาดี คาร์ไม่หลุด หนังสือรูปเล่มสวย กูว่ามันไม่มีอะไรไม่ดีหรือแผลใหญ่
ยุคนึงกูมองนิ้วด. พยายามจะถีบตัวไปให้ถึงนาง แต่ช่วยไปปรับปรุงภาษาขึ้นๆลงๆ กับคาร์บ้งๆ ก่อน เรื่องล่าสุดพระเอกอย่างกับหลุดมาจากตลาดสด

62 Nameless Fanboi Posted ID:JUSGUvUj.O

Ky มีวายการเมืองเรื่องไหนสนุกบ้างวะหรือไม่มีเลย ไม่เอาแบบสักแต่ด่าร้าบานนะ

63 Nameless Fanboi Posted ID:14Udvz3WL8

วายแต่งขายได้500ก็ถือว่าเยอะแล้ว หลัก6000 กระแสต้องมีบ้างดิ อย่างเรื่องหนึ่งที่ตีพิมพ์2000เล่มตอนนั้นยังมีคนพูถึงเยอะเลย แต่6000เล่มนี้กูไม่เคยได้ยินชื่ออะ

64 Nameless Fanboi Posted ID:W0Ae99DOoG

>>62 sky's sercet พอได้ปะ กูไม่ชอบตอนปัจจุบัน แต่คิดว่าเขาเขียนเรื่องการเมืองได้ดีพอตัว เตือนไว้ถ้าไม่อยากเสียเวลาก็ไม่ต้องอ่านหรอก คนหายไปเพราะเนื้อเรื่องปัจจุบันกูก็เลิกอ่านไปกลางคันเหมือนกัน แต่ชอบตรงที่เขาเขียนเรื่องการเมือง

65 Nameless Fanboi Posted ID:JUSGUvUj.O

>>64 นภาเร้นรักปะ ถ้าใช่ขอบใจมากเดี๋ยวกูไปอ่าน

66 Nameless Fanboi Posted ID:3QCvBgpfmd

>>59 กูเคยเห็นคนนี้อยู่ เรื่อง sxx fxxxx ที่เคยบอกจะทำซีรี่ย์(แล้วยกเลิกไปแล้ว) บอกขายได้สองหมื่นเล่ม ตอนนั้นก็อึ้งมากว่า...จิงอ๋อวะ แต่ตอนนั้นนางเคลมว่าได้ทำซีรี่ย์ กูเลยว่าอาจจะถึง...มั้ยนะ??? กูไม่รู้ว่าถ้าได้ทำซีรีส์จะพิมขนาดไหน แต่สองหมื่นเล่มรู้สึกเยอะมากๆ ใครแวดวงนี้ช่วยแถลงไขที

67 Nameless Fanboi Posted ID:2zYCY1MXaO

บางครั้งกูก็รู้สึกว่าพวกนักเขียนยิ่งคุยโว ยิ่งยกหางตัวเอง คนอ่านยิ่งสนใจยิ่งอยากรู้อยากเห็น กลายเป็นว่าไปเพิ่มยอดวิว มียอดซื้อเพราะอยากรู้ว่ามันสนุกจริงมั้ย แรงคุยโม้มันเอื้อกันเป็นทอดๆ อย่างคนที่บอกพิมพ์6000เล่ม ก็เห็นมีเรื่องนึงไปเอี่ยวกับเว็บนิยายวายทำซีรี่ส์วายเจ้าของเดียวกับสพ.ปูน
นี่ก็สร้างตัวตนเก่ง การสร้างภาพตัวตนให้ยิ่งใหญ่มันก็มีผลทางการตลาดนะเว้ย เหนียมๆ อายๆ ไม่ได้กินเงินนักอ่านหรอก
คิดถึงเคสนึงนานมาแล้วที่บอกว่าได้ยอดพิมพ์ 5000 เล่ม วงการชญ.มั้ง นานจนลืม
สุดท้ายก็แค่คำโวโอ้อวด แต่แฟนคลับก็ปกป้องนักเขียนเขาดีนะ พลังหาบมาเต็ม

68 Nameless Fanboi Posted ID:02VT4OZ6Zi

>>59 แต่ยอดวิวในรอรแค่ 7 แสนเองนะ...

69 Nameless Fanboi Posted ID:OMiTulNfLq

>>59 กูไม่เชื่อจ้า นิยายที่เป็นซีรีส์บางเรื่องยังยอดไม่เท่านี้เลย

70 Nameless Fanboi Posted ID:.+1EYKW/Za

>>61 พล็อตบ้งนะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:VRmlYNFsXF

>>59 ไม่เชื่ออะ ไม่มีกระแสอะไรเลย ไม่มีเลย

72 Nameless Fanboi Posted ID:6QuLV/51RC

>>70 บ้งจริง แต่ก็สนุกดี 555
นุนี่เขียนเรื่องไรดังๆวะ ป้ายยากูหน่อยไม่เคยได้ยินเลย รู้จักแต่หนุดี

73 Nameless Fanboi Posted ID:02VT4OZ6Zi

>>72 เซ็กเฟรนด์ เพื่อนกันมันดี กูเคยเห็นในแบนเนอร์รอร. แต่ไม่เคยเข้าไปอ่านจริงจัง แค่คำโปรยก็ไม่ใช่แนวกูแล้วง่ะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:PcTEXtXzUl

>>73 กูก็คิดว่าไม่ใช่แนวกูเหมือนกัน หะหะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:SJSHFW.qJy

>>73 แค่ชื่อเรื่องก็จบละ

76 Nameless Fanboi Posted ID:jxLFl02aeB

>>72 เขียนแนวเสียว ประเภท เรียกช่องทวารว่า รูHee เสียวK ยังไม่ได้ปล่อยน้ำ ท่อนK มีกลิ่น แบบเสียวเกย์

77 Nameless Fanboi Posted ID:ej8HJXVZ9o

นุนี่กูว่าแค่ยกหางตัวเองว่ะ เป็นไปแทบไม่ได้เลยที่นิยายจะไฮถึงขนาด 6000 เล่ม ปีก่อนที่ไฮๆ กันจนติดเทรนอย่างมหาลัยครึ่งมนุษย์ องค์ชายสาม หรืองานคูมเหมี่ยวก็แค่สองพันกว่าๆ สองสามเรื่องนี้ติดเทรนทวิตเตอร์ไทย ยอดวิวหลักล้าน แล้วนุนี่มีอะไรมาสู้อะ นิยายก็ไม่ได้ดีภาษาก็ไม่สวย ออกแนวเรื่องเสียวเกย์สมัยก่อนด้วย ในเมพก็ไม่ได้ดังจนขึ้นป้ายแดงทุกเรื่องด้วย ถ้าดังจริงดีจริงทำไมไม่มีคนรู้จักเท่าไหร่ ทำไมไม่มีเทรนทวิตหรือรางวัลจากเมพอะไรพวกนี้อะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:W0Ae99DOoG

ky ทำไมคนแปลเถื่อนชอบปากดีจังเลยว่ะ หรือเป็นคนแปลเถื่อนเดิมที่ชอบปากดีเห็นมาเม้นด้วย อุ้ยคุณพี่มีคดีติดตัวตั้งเยอะเลยนะคะ หรือจะชุบตัว

79 Nameless Fanboi Posted ID:J53a7DGnSi

รค.นี่โม่งคนไหนจำประเด็นที่ห้องนี้เคยเมาธ์นางได้ไหมวะ มีซักประเด็นกูจำได้แต่นึกไม่ออกว่าเรื่องอะไร

80 Nameless Fanboi Posted ID:Eh01JJkKwW

>>78 เพราะพวกมันเล่นโม่งไง

81 Nameless Fanboi Posted ID:t6PObrbmHq

>>79 รค ที่เป็น นข เพื่อน มต ใช่ปะ ถ้าใช่มีประเด็นออกตัวแรงช่วยเพื่อนตอนเพื่อนไปกล่าวหาว่าคนอื่นก็อปงานตัวเอง แต่เขาไม่ได้ก็อปนะ เพื่อนมึงมโนกล่าวหาคนอื่นลอยๆเอง ตั้งแต่ตอนนนั้นมากูจำไม่ลืม ไม่อ่านนิยายนางอีกเลย

82 Nameless Fanboi Posted ID:W3fn/WwQ2A

Ky มึง มีใครอ่าน เรื่อง สามี ภรรยา และชายชู้ไหม
เขียนดีนะ แต่มีบางมุมยังแอบไม่เห็นถึงความสำนึกของตัวเอก ที่ไปเป็นชู้เขาอะ เหมือนนางแค่กลัวพระเอก แต่ไม่ได้รู้สึกสำนึก ว่าสิ่งที่ทำมันผิดอะ แล้วนายเอกแม่งป่วย เพราะโดนพระเอกคุกคาม กดดัน
ไม่รู้จะจบยังไง จะรักกันได้เหรอวะ กับคนที่ทำให้เราป่วย สร้างภาวะกดดัน วิตกกังวลอะ กุอ่านแล้วเหมือนนายเอกป่วยมาก กูไม่ฟินฉากที่เขามีโมเม้นกันเลย ยิ่งให้เงินมาก ตามประสาคนรวย แต่มันน่ากลัวอะ นายเอกแพนิกไปเลย เหมือนพระเอกปั่นหัวไงไม่รู้
พระเอกเหมือนชอบไปกระตุ้นอาการป่วยอะ แบบส้รางแรงกดดัน ตั้งเงื่อนไขขึ้นมา
อยากเม้ามาก มีใครอ่านไหมมมม

83 Nameless Fanboi Posted ID:n85MUBxUfN

>>82 ผิดมูู้ โทดที

84 Nameless Fanboi Posted ID:jDZQaZ1GAe

>>80 ฝากด้วยว่าไม่เนียน เอาเวลาไปแต่งนิยายอันมีค่าของคุณมึงดีกว่า น่าสงสารงานแปลเถื่อนแมสกว่างานเขียนตัวเอง

85 Nameless Fanboi Posted ID:1W3Wm2Vm+4

>>84 เขาอาจจะแปลเพื่อฝึกภาษาเฉยๆก็ได้ พอ สนพ.สนใจเดี๋ยวก็LCลบทิ้งเองแหละ คิดมากไปมั้ง

86 Nameless Fanboi Posted ID:j4ROc5tmTx

>>85 มันรัััับโดเนทแล้วกูบอกจะแจ้งทีมงาน มันบอกกูไม่มีมารยาทไม่ต้องมาสอน สัส

87 Nameless Fanboi Posted ID:7jPJZJ2iSB

อีคนแปลเถื่อนบ้านไม่มีตังค์จ่ายค่าไฟอะนะ ปากดีจะตาย เตือนแบบปัญญาชนก็ได้ ปัญญาชนที่ไหนก็อปงานชาวบ้านมาคะ

88 Nameless Fanboi Posted ID:hC62V83Cs.

นางโดนหลายคนบอกนางนั้นแหละไปด่าเขาก่อนแล้วแถมสลับแอคมาด่า รีบลบเรื่องเลยแล้วไปเย่วๆในทวิตว่าเถียงสู้ไม่ได้ หนีไปเปิดเรื่องใหม่บอกอย่ามาตามหลอกหลอนโถ่ กลัวคนไม่รู้หรอว่ามึงทำไรไว้ ใครเถียงสู้ไม่ได้กันแน่ แปลเถื่อนอย่าปากดี

89 Nameless Fanboi Posted ID:YArX3ro+XU

>>85 อันนี้ปั่นหรือคิดแบบนี้จริงๆ ต่อให้แปลเพื่อฝึกภาษา แปลเถื่อนก็ผิด 100% อ่ะ อ้างเหตุผลใดๆก็ไม่ช่วยให้มันชอบธรรมมากขึ้น

90 Nameless Fanboi Posted ID:tekzrKqPM9

กูสงสัยเรื่องหนึ่งว่ะ ทำไมคนถึงต้องไปถามหาสปอยนิยายอัพในเน็ตวะ ถ้าเป็นรูปเล่มกูเข้าใจนะว่าก่อนเสียเงินบางคนอยากรู้สปอย แต่นิยายในเน็ตอ่านฟรีอะมึงเอามาถามหาสปอย ทำไมไม่อ่านไปเลยวะ อ่านก็อ่านฟรีอยู่แล้ว งง ใครก็ได้อธิบายให้กูเข้าใจหน่อย

91 Nameless Fanboi Posted ID:17fMXoDmqh

>>89 กูรอคนอย่างมึงมาตอบอยู่ แปลเถื่อนควรเงียบๆไม่ควรเสนอหน้ามาทั้งที่รู้ว่ามันผิดจะอ้างว่าช่วยโปรโมทอะไร ไม่รู้จักรีวิวหรอวะ รีวิวที่ไม่ใช่ก็อปงานมาลง
>>90 หมายถึงสปอยทั้งเรื่องไม่ใช่เรื่องย่อใช่ป่ะ ขก.อ่านเอง มันเสียเวลา เสียความรู้สึกบางครั้งถ้าเจออะไรที่ไม่ชอบ มีคนบอกไว้ก่อนก็ดีจะได้ไม่เสียเวลาไปอ่าน

92 Nameless Fanboi Posted ID:IZZOUkXLPr

https://twitter.com/miiz16s/status/1366796562878238720?s=19 คนนี้สนพ
นางเป็นไงบ้าง มีออกงานอื่นอีกมั้ย ตั้งแต่เล่มนั้นก็เงียบกริบไปเลยหรือกูตกข่าวเอง & กูหาแอคสนพ.มันไม่เจอด้วย

93 Nameless Fanboi Posted ID:1GizuBZjeD

>>92 แอคสนพ.ก็ยังอยู่นี่ แต่ไม่ได้ออกเรื่องใหม่อีกเลย กูเอานิยายนางไปส่องข้อมูลจดแจ้งการพิมพ์มา ตรงชื่อสำนักพิมพ์เป็นชื่อนางว่ะ แสดงว่าตัวสนพ.ไม่ได้จดทะเบียนบริษัทให้เป็นเรื่องเป็นราว เหมือนเป็น self-published เฉยๆแล้วแปะคำว่าสำนักพิมพ์ลงไปบนหน้าปกมากกว่า แบบนี้ในทางปฏิบัติไม่น่าจะเรียกว่าสำนักพิมพ์ได้มั้ยหว่า

94 Nameless Fanboi Posted ID:IZZOUkXLPr

>>93 เมื่อก่อนสนพ.บางแห่งกูเคยซื้อเป็นชื่อบัญชียังเป็นชื่อคนอยู่เลย แบบฟฉ.กับพชพงี้ แต่ฟฉ.เดี๋ยวนี้จดทะเบียนแล้ว แต่นางคนนี้กุรู้สึกเหมือนนักเขียนหลายคนจะไม่ชอบขี้หน้านะ

95 Nameless Fanboi Posted ID:abdMiERWG4

เออ สนพยังอยู่ กุแอบส่องมาแล้วยอดฟอลตกเยอะเลยหายไปเป็นพัน

96 Nameless Fanboi Posted ID:1GizuBZjeD

>>94 พชพ.ก็ไม่มีข้อมูลสนพ.ในเว็บ isbn นะ เป็นชื่อบุคคลเหมือนกัน แสดงว่าไม่ได้จดทะเบียนบริษัทเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกัน แต่ที่กูเอาไปค้นมันเรื่องเก่าละ ไม่รู้ปจบ.จดยัง ขี้เกียจหาว่าเรื่องล่าสุดคือเรื่องอะไร

97 Nameless Fanboi Posted ID:2g.cQiM3oz

https://twitter.com/porzhan/status/1366762777629450245?s=19. นักเขียนด้องจีนตีกันอีกแล้วว่ะ แล้วเวลาด้อมนี้ตีกันทำไมกูเจออีเปียกมีเอี่ยวด้วยตลอดเลย 555555 แล้วนักเขียนอีกคนที่นางตีด้วยนี่คือก่อนนี้มีเคสโดนข่มขืนใช่มั้ย คนเดียวกันมั้ย แล้วเค้าทะเลาะไรกันอ่ะ วานผู้รู้เบิกเนตรกูหน่อยค่ะ

98 Nameless Fanboi Posted ID:RH0ZjcZtHQ

>>94 ทำไมวะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:4m5SR3oylH

>>97 นักเขียนเป็นแม่งานจัดมีตพบปะสแตนดี้ป๋อจ้านอะ โดเนทได้เงิน240000 แต่งานกากมาก ทำไม่ดีกับคนมาช่วยงาน ของที่ให้คนร่วมโดเนทก็เป็นของจ้างทำกับหนึ่งในทีมแม่งาน แต่ราคาของแพง คุณภาพต่ำ เขาขอดูรายการต่างๆ บัญชีก็ไม่ให้ดู บอกแต่ว่าอยากดูก็ไปขอหมายมาประมาณนี้ เรื่องคาราคาซังมาตั้งแต่ปีก่อน แล้วนักเขียนคนที่เปียกตามจี้ก็คือไม่ฮือไม่อืออะไรแล้วไง ตั้งหน้าตั้งตาขายฟิคป๋อจ้านเอาเป็นเอาตาย ไม่ซัพสินค้าป๋อจ้านเหมือนนางจุลาลัมพี

100 Nameless Fanboi Posted ID:VJlk2ObH3e

>>99 อ่อ งานนั้น เห็นด้อมปรมจรีมาด่าเยอะมาก อยู่ว่างานเห่ยแต่กูแค่เห็นในรูปมันก็เห่ยจริงๆ

101 Nameless Fanboi Posted ID:abdMiERWG4

>>99 เออ นางไม่หือไม่อือจริงๆนะ เหมทอนไใ่เคยมีไรเกิดขึ้น

102 Nameless Fanboi Posted ID:ah110FYfkd

>>99 มีแท็กงานให้ส่องมั้ยวะ กูอยากใส่ใจ

103 Nameless Fanboi Posted ID:QR7hkm3B9p

นางกลับมาแล้วนะ มนกกบ

104 Nameless Fanboi Posted ID:3cv0sbqAXN

>>103 หายไปเจ็ดเดือนเศษ ไปอัพสกิลมาล้าวจ้า

105 Nameless Fanboi Posted ID:UX+ZmLuQUF

>>102 #BoZhanMemoryMeeting

106 Nameless Fanboi Posted ID:qa/NyftvKS

>>103 สัมภเวสีในเพจนางดีใจกันใหญ่ โรงทานกลับมาเปิดแล้ว เย้

107 Nameless Fanboi Posted ID:CRZTAKS05N

>>103 ยังอยู่อีกหรอ หายจากยุธภพไปกี่เดือนอ่ะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:6gIfmM60Q8

ทำไมเราจะต้องอยากรู้วะว่าสนพ.แพ็คนิยายถึงออเดอร์ที่เท่าไรแล้ว แค่สนพ.แจ้งกำหนดการส่งก็พอไม่ใช่เหรอ

109 Nameless Fanboi Posted ID:VK2ku+MzRj

เดี๋ยวนี้ถึงขนาดแกะซีลยังไงต้องถามในกลุ่มด้วยหรอวะ เจ้าของโพสต์บอกว่าไม่อยากแกะน้อง ทำใจไม่ได้ โลกมันหมุนกลับทิศหรือยังไงหว่า

110 Nameless Fanboi Posted ID:6gIfmM60Q8

>>109 55555 ขำว่ะ สงสัยกลัวไม่กริบ เดี๋ยวขายต่อไม่ได้

111 Nameless Fanboi Posted ID:deW5QLQxqh

>>108 อันนี้โดยส่วนตัวกูคือจะได้แพลนถูกว่าจะมาถึงเมื่อไร สนพแจ้งแค่วันเริ่มส่งงี้ก็จะไม่รู้ว่าแต่ละวันของส่งออกได้เยอะแค่ไหน สมมุติกูมีเวิคฟอมโฮมเลยกลับบ้านที่ตจว.กูจะได้ไปบอกสนพ.ทันว่าขอเปลี่ยนที่อยู่

112 Nameless Fanboi Posted ID:6gIfmM60Q8

>>111 มันขอเปลี่ยนที่อยู่กะทันหันได้ด้วยเหรอ

113 Nameless Fanboi Posted ID:P1mhKijqn3

>>108 กุเคยถามว่าคนที่ได้แล้วคิวเลขออเดอร์อะไร เพราะนานจนกุนึกว่าเบี้ยวไม่ส่ง สนพนั่นคือมนว

114 Nameless Fanboi Posted ID:49YVzdhIe+

>>112 ได้นะ สำหรับบางทีที่ยังไม่ได้แพ็ค แล้วแต่สนพ.ด้วย แต่ถ้าเลื่อนส่งไม่ตามกำหนดส่วนมากก็เปลี่ยนได้นะ

115 Nameless Fanboi Posted ID:yU/vkPh/DV

ม้อบแม้บแปลว่าอะไรวะ

116 Nameless Fanboi Posted ID:arcYvwkB/u

>>115 กลิตเตอร์เล่นเสียงอะมึง สำหรับกูม้อบแม้บมันคือคำที่คนเหนือไว้เรียกอะ ซึ่งกูคนเหนือไง

117 Nameless Fanboi Posted ID:arcYvwkB/u

>>116 เล่นสีสะท้องแสงดิ

118 Nameless Fanboi Posted ID:FMXS4q/iyw

KY เดี๋ยวนี้จะเขียนนิยายทีต้องแทรกพวกการเมือง ปัญหาสังคมใส่ลงไปด้วยใช่มั้ยวะถึงจะแมส แล้วถ้าไม่ใส่นี่จะถือว่าละเลยไม่ใส่ใจปัญหาพวกนี้รึเปล่า

119 Nameless Fanboi Posted ID:yU/vkPh/DV

>>116 แต๊งกิ้ววว นึกว่าคำวัยรุ่นมาใหม่

120 Nameless Fanboi Posted ID:aFblFRhuEb

>>118 มีนิยายเรื่องไหนแทรกแล้วแมสด้วยหรอวะ เห็นติดท็อปก็ไม่มีแทรกการเมืองนะ แมสเพราะนิยายหรือแมสเพราะฉอด?

121 Nameless Fanboi Posted ID:BTnYoadCRz

>>118 มีเรื่องไหนแมสด้วยเหรอ เรื่องที่พระเอกเป็นส-ิ่มน่าจะดังสุดเท่าที่กูเคยได้ยินละ 555 ส่วนตัวกูไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการแทรกเรื่องพวกนี้ลงในนิยายนะ
แต่เท่าที่เห็นตอนนี้คือ บางเรื่องพยายามใส่มาแบบไม่ค่อยมีศิลปะ จู่ๆ ให้ตัวละครพูดเรื่องสังคมเป็นฉากๆ ตอนกำลังจีบกันงี้ มันดูยัดเยียด ดูฝืนเกิน อ่านแล้วอึดอัด

122 Nameless Fanboi Posted ID:Wf4piET9L/

>>121 กูว่าคขพอมีฝีมืออยู่แต่ไม่แมสก็มาเกาะด้อมใหญ่เอาเป็นที่ปชสพงานตัวเอง
ไม่ต่างกับพวกเขียนเขียนฟิคปจหรอก
แต่กูอ่านไม่ไหวนะ ฉอดเกิน อ่านแล้วรำคาญนายเอก

123 Nameless Fanboi Posted ID:2Ex.ujx1NM

>>121 หลายเรื่องเลยที่เป็นแบบนี้ คือจู่ๆก็ยัดบทฉอดให้ตัวละครพูดยาวสี่ห้าบรรทัด คือแม่งไม่เนียน ขัดอารมณ์ ไร้ชั้นเชิง

124 Nameless Fanboi Posted ID:uCeRSx28VS

>>123 อย่าว่าแต่เกาะกระแสการเมืองเลย ปีสองปีก่อนเน้นแนวสามีแห่งชาติ กูสอยคุณติอร่อยมากมาอ่านแทบหลับ อย่างกับเอาพอ.มาท่องคัมภีร์​ยัดบทสั่งสอนผัวให้กูอ่าน เห็นนข.ดังกูก็คิดว่าจะเขียนมีชั้นเชิงกว่านี้
กูได้ข้อสรุปกับตัวเองเลยว่ากูเสพนิยายเพื่อบันเทิง ไม่ได้ต้องการข้อคิดทางการเมืองหรือฮาวทูเป็นคนดีย์

125 Nameless Fanboi Posted ID:LT875sJWKo

>>124 เออกูก็ไม่ชอบแนวสามีแห่งชาติผู้แสนดี มันดีเกินมนุษย์มนาไปหน่อย กูอ่านแล้วจะหลับ

126 Nameless Fanboi Posted ID:3f82bQuJpT

เลื่อนเจอพอดี มนกกบ คัมแบคคึ นางก็จะเอากับเค้าด้วยว่ะ omegaverse ก็มา ลูกหาบตามมารอที่ท่าน้ำอย่างไว

127 Nameless Fanboi Posted ID:aFblFRhuEb

เห็นออกกับสนพ.อื่นด้วย ลูกไม่รักแล้วหรอวะ

128 Nameless Fanboi Posted ID:vSpjI1pDVf

>>126 เห็นลูกหาบนางดีอกดีใจแล้วกุมองบน เพราะงี้แหละวงการวายไทยมันถึงไปไม่ถึงไหน นักเขียนขี้ก๊อปมีสปอตไลท์มากกว่านักเขียนดีๆแต่โนเนม เฮ้อ

129 Nameless Fanboi Posted ID:RSGHX1fjjz

>>126 กูเคยเมนต์ถามนางว่ามีอะไรก็แถลงมาเหอะ กูในฐานะคนเคยอุดหนุนก็ต้องการคำอธิบายนิดนึง ว่าไอ้ที่เค้าประนามกันเต็มทวิตคือยังไง ให้กูได้ตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับนิยายที่กูซื้อมา
สรุปกูโดนลบเมนต์จ้า 555 เหมือนไร้ตัวตนไปเลยกู รู้สึกโง่ๆนิดนึงที่ยังหวังว่าจะมีคำอธิบาย

130 Nameless Fanboi Posted ID:X06tHpBvNR

>>127 คุ้นๆว่านางเคยออกกับสนพ.อื่นมาแล้วครั้งสองครั้งนะ

131 Nameless Fanboi Posted ID:rh/rLlx5dr

>>127 ถึงว่า ดีพเร่งหาปั้นนข.หน้าใหม่มาเสริมเพราะตัวทำยอดฉาวด้วยหรือเปล่า เพื่อนกูมาปรึกษา มันลงนิยายได้ 10 ตอน บอกว่าดีพทักมาจีบ

132 Nameless Fanboi Posted ID:aFblFRhuEb

>>130 อ้าวหรอ กูไม่ได้ตามนึกว่าดีลไว้กับที่เดียวลูกรักขนาดนั้น
กุรออย่างเดียวนักวาดคู่บุญเขาจะกลับมาวาดให้ไหม

133 Nameless Fanboi Posted ID:qcbmmA8Y.+

>>129 ลบเม้นต์ในไหนวะ เพจเขาหรือนิยาย

134 Nameless Fanboi Posted ID:7.IIVC5e.u

Ky มีใครเห็นประเด็นในเพจคุณฝนม่วงบ้าง ว่ามีคนเขียนนิยายคล้ายเรื่องหอมกลิ่นความรักมาก แต่ยืนยันว่าไม่ได้ก๊อป ไม่ลบ ยืนยันจะเขียนต่อ กูอ่านเรื่องย่อที่เขาเขียนมา เหมือนหอมกลิ่นมากจริงๆ สงสารว่ะ

135 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

>>134 ที่ฝนม่วงเขียนบอกคือฝั่งนั้นยอมรับ ขอโทษและจะแก้ไขแล้ว เขาเลยลบโพสออก ไปบอกฝนม่วงก่อน ใช้รูปอาจารย์เขามาหลายปี ไม่เห็นออกมาขอโทษบ้างเลย

136 Nameless Fanboi Posted ID:S7kq6IaQXC

>>135 แรงส์ 555555
บทเหยื่อเล่นใหญ่ แต่บทโจรคือต้องเงียบๆ

137 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

อ้าว โทษๆประเด็นใหม่อีกแล้วหรอวะ กูว่าไม่ใช่ล่ะ แปลกๆ >>135 คือเรื่องเมื่อของสัปดาห์ก่อน แต่ไม่ยอมออกมาขอโทษคือเรื่องจริง สำนงสำนึกผิดไม่มี ชอบผลงานเขาแล้วทำไมเอารูปเขามาใช้เกือบทุกงาน

138 Nameless Fanboi Posted ID:BRPJi69jpH

>>135 มึง เค้าเพิ่งโดนโม่งแซะแล้วไปแอบลบรูปเงียบๆ อย่าทักดัง
ขี้ขโมยรูปกับขี้ขโมยเรื่อง ศีลเสมอกันเลยหากันเจอ

139 Nameless Fanboi Posted ID:HlXwsUGU5e

ฝนม่วงเงียบๆในโม่งไม่มีคนพูดถึงก็ดีแล้ว พอมีคนมาอวยมาพูดถึงทีไรโดนแหกไม่หยุด

140 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

"อย่างนี้เค้าเรียกละเมิดลิขสิทธิ์นะคะ ขโมยผลงานของคนอื่นมาแอบอ้างเป็นของตัวเอง ควรจะดำเนินคดีตามกฎหมายเลยค่ะ อย่าให้เค้ามาขโมยผลงานของเราค่ะ"
เอ๊ะ บอกนักเขียนตัวเองหรือเปล่า

141 Nameless Fanboi Posted ID:7.IIVC5e.u

>>135 เออว่ะ55555555 เขาเล่นโม่งหรือมีคนคาบข่าวไปบอกรึเปล่านะ ถึงได้แอบไปลบรูปเงียบๆ

142 Nameless Fanboi Posted ID:btMcIDTgDh

>>139 ก็ปกตินะ โม่งแซะทุกคนที่มีประเด็น ตอนมนกกบ มา คนก็แซะ ไม่แปลก มีรอยหมองคนก็พูดถึงได้ป่าววะ

143 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

>>142 กูเองที่เปิดอวยหอมกลิ่นตอนนั้นและก็คือคนที่แซะในตอนนี้ เรื่องผิดก็คือผิด ไม่ได้หลับตาอวย

144 Nameless Fanboi Posted ID:HlXwsUGU5e

>>142 บอกเผื่อคนอยากมาอวยอ่ะ กูว่าก่อนนี้เขาก็เงียบๆไม่มีไร ข้างนอกโม่งก็พอมีชื่ออยู่ พอมีคนเข้ามาป้ายยาเขาในโม่งดันกลายเป็นว่าโดนแหกเรื่องรูป อย่างที่เมิงบอกอ่ะมีรอยหมอง คนที่จะมาอวยกลายเป็นว่ามาให้นขโดนแหก

145 Nameless Fanboi Posted ID:9rnhRctSob

>>135 มึงอ่านผิดหรือเปล่า ฝนม่วงบอกว่าทางนั้นไม่ยอมรับว่าลอก และจะขอแต่งต่อตามเส้นเรื่องเดิมไม่ใช่เหรอวะ หรือกูอ่านผิด เพราะกูไม่เห็นว่ามีตรงไหนที่บอกว่ายอมรับหรือขอโทษเลย

146 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

>>145 มึงไม่อ่านหรือเปล่า>>137

147 Nameless Fanboi Posted ID:RQfyjZGMcV

>>146 ไม่ใชนะมีง กูหมายความว่าที่ 135 ว่าฝนม่วงเชียนบอกว่าฝั่งนั้นยอมรับ ขอโทษและจะแก้ไขแล้ว แต่ที่กูอ่านฝนม่วงบอกว่าฝั่งนั้นไม่ยอมรับ แต่จะแก้ส่วนที่เหมือนแล้วแต่งต่อในเส้นเรื่องเดิม กูเลยติงตรงนี้

148 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

>>147 อ้าวเรื่องนั้นไม่ใช่ยอมรับแล้วหรอวะคนละเรื่องกับที่ฝนม่วงโพสตอนนี้นะ เป็นโพสที่ฝนม่วงลบไปแล้วกูจำได้ว่าตอนนั้นไม่ใช่แฟนฟิคนิ หรือกูจำผิด

149 Nameless Fanboi Posted ID:RQfyjZGMcV

>>148 มันเป็นแฟนฟิคมึง

150 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

>>149 อ่อเค เขาแก้ไขฝนม่วงเลยลบโพส?

ส่วนเรื่องที่บอกทำไมลบรูปเงียบๆ มีคนคาบไปบอกตอนนั้น ในมู้หนังสือบอกว่าไปบอกฝนม่วงแล้ว

151 Nameless Fanboi Posted ID:T448wUOfSG

เหมือนแฟนคลับเขามีแต่รุ่นใหญ่เลย30++++

152 Nameless Fanboi Posted ID:K3MjEFlxGP

กูเดานะว่าตัวฝนม่วงเองก็น่าจะอายุไม่น้อยแล้วปะ เป็นสาววายยุคที่โตมากับนิยายแปลญี่ปุ่นเถื่อน (เห็นได้จากการใช้รูปคะไซ) และชินกับการซื้อมังงะเถื่อน เลยไม่ค่อยมีจิตสำนึกเรื่องลิขสิทธิ์เท่าไหร่ ยกเว้นเวลาตัวเองโดนเองน่ะ

153 Nameless Fanboi Posted ID:JAzhtHUWh5

>>152 ใช่ ฝนม่วง 40++

154 Nameless Fanboi Posted ID:VkkvcO3En.

ขนาดนั้นเลยหรอวะ555 กูก็ว่าคงยุคเล้าไรงี้แต่เรื่องเขาก็ไม่ได้ดังไรมาก กลิ่นหอมตอนแรกก็คนอ่านไม่เยอะพึ่งมาดังตอนสนพ.โปรโมทให้ เขาหยุดเขียนไปสักพัก

155 Nameless Fanboi Posted ID:ITnI6Npuih

จริงๆตอนที่นางเอารูปคะไซมาใช้ กูยังมองว่า เออ นางอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์แหละ เพราะสมัยก่อนก็ใช้รูปปกนิยายรูปแฟนอาร์ทประกอบฟิคกันเยอะ แต่พอนางแอบลบไปเงียบๆไม่ขอโทษสักคำนี่กูว่าน่าเกลียด เหมือนจงใจปกปิดความผิดตัวเอง รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่ไม่คิดจะขอโทษ มันดูไม่มีวุฒิภาวะเลย

156 Nameless Fanboi Posted ID:S7kq6IaQXC

>>155 กูว่านางไม่ได้ลบทิ้ง แค่ปิดชั่วคราว รอคอมมิชรูปของตัวเอง (สักที) ค่อยกลับมาแบบไรตเตอร์เนื้อทอง ผุดผ่องไม่เคยผิด เคยแต่ถูกกระทำ
ส่วนตัวกูไม่ชอบภาพคะไซเลยว่ะ (กูจะโดนยำมั้ยวะ) สัดส่วนอุเคะแปลกๆ แขนขายวบๆ ทำตาลอยๆ แล้วก็จือปากยั่วๆ แทบทุกปก มีที่ชอบอยู่ปกนึงที่เป็นช่างตัดเสื้อมั้ง

157 Nameless Fanboi Posted ID:RN0a5NxaVf

>>156 ปกคะไซที่ไม่ทำท่าประหลาดๆสวยหลายปกนะมึง แต่จะยังไงก็ไม่ควรมีใครไปจกเอาปกนิยายคนอื่นมาประกอบนิยายตัวเองมั้ยวะ ทำไมนางไม่คิดบ้างว่าวันดีคืนดีมีคนเอาปกนิยายตีพิมพ์ของนางไปใช้เป็นปกนิยายในเว็บบ้างจะรู้สึกยังไง เป็นนักเขียนน่าจะตระหนักเรื่องพวกนี้ได้มากกว่าคนอื่นนะ ใจเขาใจเรา

158 Nameless Fanboi Posted ID:tnJG994Sk5

มีใครยังไม่นอนบ้างปะว เรื่องนี้ https://www.readawrite.com/a/117f830bcde958a44775b8740cf40b92 ติดใหม่มาแรงได้ยัง คำผิดเยอะมาก ใช้ประโยคผิดอีโมจิต่างๆนานา คนติเยอะมาก ใช้รูปละเมิดลิขสิทธิ์อีก หรือเพราะจีนโบราณ=ฮิต

159 Nameless Fanboi Posted ID:z1MiTKasNH

>>158 เม้นล่าเริ่มมีคนไปด่าเรื่องรูปละ ทำไมตอนฝนม่วงไม่มีคนไปด้วยเอเนอร์จี้นี้มั่งวะ

160 Nameless Fanboi Posted ID:tnJG994Sk5

ฝนม่วงไม่มีโม่งคนไหนกล้าไปเตือนเลยวะ สงสัยรักมาก

กูรอเลยพน ต้องมีคนบอกจะติดตามต่อไปนะคะ จะอ้วก เมื่อไหร่จะเลิกสนับสนุน มาเสือกคอมเม้นคนอื่นแต่ไปว่าเขาแซะอีกช่างกล้า

161 Nameless Fanboi Posted ID:JGlXmkMbij

>>160 กูข้องใจอยู่ว่าที่ฝนม่วงซ่อนโพสต์อย่างไวนี่เป็นเพราะมีโม่งไปเม้นบอก หรือมีคนไปกระซิบบอก หรือนางสิงโม่งเองวะ ถถถถถ

162 Nameless Fanboi Posted ID:oOAZTTmt//

>>156 สัดส่วนเคะเหมือนตั๊กแตนตำข้าวบวกกับท่าแบบนั้นยิ่งประหลาด แต่กูชอบภาพในเล่มนะ ถึงนายเอกจะดูเมายาตลอดเวลา 555 เคะแหกขาจือปาก มือเมะล้วงซัมติง = ซิกเนเจอร์อ.คาไซ

163 Nameless Fanboi Posted ID:ufq4lVAYPt

>>160 เป็นกูไม่กล้านะ โคตรแถ เบื่อพวกโลกสวยเดี๋ยวแก้ก็มาอ่านต่อ

164 Nameless Fanboi Posted ID:7hBuFQthQT

>>158 อ่อ เรื่องนี้ จีนโบราณ = แมส จริงๆ นะ แม่งใส่รูปทุกตอนเลยอ่ะ

165 Nameless Fanboi Posted ID:7hBuFQthQT

>>160 นักเขียนโนเนม มันจัดการง่ายมั้ง คนดังหาบเยอะ

166 Nameless Fanboi Posted ID:QrqBsZVCp7

>>160 มีโม่งเคยบอกอยู่ไงว่ามันส่งข้อความไปบอก มึงยังไม่จบกับเรื่องนี้อีกเหรอวะ กูเห็นถามกันอยู่ได้ฝนม่วงรู้ได้ไง

167 Nameless Fanboi Posted ID:7hBuFQthQT

>>166 บางคนก็ไม่ได้ตามป่าววะ แค่ถามเอง

168 Nameless Fanboi Posted ID:W3g7GPpk1m

>>167 มีถาม 2-3 รอบละ มีคนตอบทุกครั้งที่มีประเด็นฝนม่วง อิโม่งคนที่เอาไปบอกมันก็เคยมาตอบว่ามันเอาไปบอกเอง เห็นประเด็นฝนม่วงแล้วจะไม่เห็นคำตอบได้ไงวะ กูยังเห็นจนรำคาญต้องมาตอบแทน

169 Nameless Fanboi Posted ID:qK2jrw6pvG

ในโม่งคนตามฝนม่วงน้อยนะกูว่า คนที่คุยๆก็มีไม่กี่คนหรอก เพราะคนอื่นไม่ได้ตาม 555

170 Nameless Fanboi Posted ID:l329VFKKuS

>>168 ขอบคุณที่มึงพูดแทนกู กูเนี่ยตอบทุกครั้งบอกแล้วๆ ยังจะมาบอกกูอีกว่าทำไมไม่ไปบอกล่ะ ก็กูบอกแล้วว รำคาญจนเลิกตอบไปล่ะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:heMg+dIk4h

>>170 ประเด็นอาจจะเพราะฝนม่วงก็ไม่เคยขอโทษไงว่าไปละเมิดภาพคนอื่น แต่พอคนที่ไม่ใช่ ไม่ติ่งทำ ตามด่าเขาไม่เผาผี กดดันให้ขอโทษ บางคนมองว่าสองมาตรฐาน เพราะถ้าโนเนมทำก็จะด่าไม่มีจิตสำนึก แต่พอนข.ที่รักลบ ก็จะแบบ จะติดตามต่อไปคร่าาาา ทำดีแล้วนะค้า ทั้งที่ไม่เคยออกมาขอโทษสักคำ แบบคนอื่นต้องทำ

172 Nameless Fanboi Posted ID:heMg+dIk4h

>>171 เพราะถ้าฝนม่วงยอมพิมพ์สักหน่อยว่าชั้นรู้ว่าชั้นผิดแต่ชั้นไม่ทำแล้ว แมนๆ ใจๆ คนคงไม่แซะลากยาวมาขนาดนี้หรอก แต่แอบลบเงียบๆ ไม่หือ ไม่อือ ถ้าเป็นคนอื่นทำ กูว่าโดนแขวะไม่จบไม่สิ้นเหมือนกันแหละ

173 Nameless Fanboi Posted ID:YT7B1S+Sjo

สรุปคือเมิงก็ไม่ได้อยากมาถามมาอัพเดตข่าวเพราะไม่รู้ไม่ได้ตามอะไรหรอก แค่อยากมาดูว่าเขาไม่ออกมาขอโทษแล้วคนทั่วไปคิดยังไง มาซาวเสียงในโม่งว่ามีใครจะช่วยเมิงย่ำไหม 5555
คือในโม่งคนอ่านฝนม่วงน้อยอ่ะ ขนาดกูทันช่วงเล้าเปิดใหม่ๆกูยังไม่เคยอ่านเลย เมิงดันไม่ขึ้นหรอก เขาอาจจะแมสข้างนอกแต่ไม่ได้แมสขนาดนั้น ไปหาข้างนอกเถอะ

174 Nameless Fanboi Posted ID:hHQsY28RS2

กูติ่งฝนม่วง งานเขาแมสนะโว้ย หอมกลิ่นความรักมึงลองพูดชื่อมามีนักเขียนคนไหนเขียนได้อย่างเขา แล้ว 69 มีใครเขียนได้
เรื่องรูปเค้าผิดจริง กูว่าที่เค้าไม่รับผิดเพราะมีความดื้อแบบนักเขียนรุ่นใหญ่ที่อยู่วงการมานาน ขอโทษทีมันก็เสีย อย่าว่าแต่รุ่นใหญ่เลย พวกรุ่นเล็กที่ลอกหนักกว่านี้ขโมยรูปหนักกว่านี้ยังดื้อตาใส แล้วทำไมคุณฝนม่วงต้องมาขอโทษเพื่อสนองนี้ดพวกมึงด้วยวะ

175 Nameless Fanboi Posted ID:ZZjORYIrtS

กูไม่ติ่งฝนม่วงและไม่ได้ตามงานเขา แต่ทันมหกรรมแหกสองมาตรฐานรอบก่อน
อันนี้กูไม่แคร์นะว่ารุ่นใหญ่รุ่นเล็ก อยู่ที่จิตสำนึกล้วนๆเลยว่าตัว นข จะออกมาตอบสนองอย่างไร อีโก้ก็ได้ กูแบน ถ้าละเมิดจริงแล้วหาทางแก้ กูโอเค แต่เคสฝนม่วงนี่ เขาเหมือนแค่ปิดหนีกันกระแสแต่ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องผิดจริงๆอะ

176 Nameless Fanboi Posted ID:kiLiZWIKGn

คนทำผิดแล้วไม่ยอมขอโทษ ตีเนียนกลบเกลื่อนความผิดตัวเองเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น จะมีคนทวงถามคำขอโทษก็ไม่แปลกป่าว ตราบใดที่ไม่ออกมาขอโทษ เวลามีเคสแบบนี้ก็คงมีคนนึกถึงนางเรื่อยๆแหละ ยิ่งถือทิฐิไม่ขอโทษ ความผิดก็จะยิ่งติดตัวนะ

177 Nameless Fanboi Posted ID:./luCxy2ne

>>174 ก็ตามนั้น ติ่งคิดงี้ก็ไม่แปลกละ

178 Nameless Fanboi Posted ID:qK2jrw6pvG

>>174 หมายถึงแมสแต่ไม่ได้แมสในโม่งน่ะ หอมกลิ่นความรักตอนไฮป์ๆก็มาเป็นพักๆไม่ได้ไฮป์กันยาวอะไร พอจบก็จบไป นานๆจะมีคนเอามาพูดถึงอีกรอบ 69 ก็ไม่ได้มีโม่งพูดถึงเยอะขนาดนั้นเพราะมันเก่ามากแล้ว กระแสก็โรยไป
ในโม่งกูว่าเน้นไปทางนิยายจีนมากกว่า ถ้าเทียบกับ อชอปล หนึ่งคำมั่น เฟยเทียน แม่โม่ ฯลฯ ที่มีพูดถึงเรื่อยๆ ฝนม่วงก็เด็กน้อยอ่ะ เอาไปเทียบกับนิ้วด.ที่แมสในเชิงโดนด่ายังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
การที่กูบอกว่าไม่แมสในโม่งไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ ดูอย่างอีแก๊งค์อตปสสิ แมสในโม่งชิบหาย ดีไหมล่ะ

179 Nameless Fanboi Posted ID:./luCxy2ne

>>176 +1 จริง ก็ไม่ออกมาพูดอะไร คนจะแซะก็ไม่ผิดป่ะ ในเมื่อลบเงียบๆ ตีเนียน หุหุ ในเมื่อเป็นรุ่นใหญ่ก็ควรคิดบ้างสิ มาอ้างรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ เรื่องเบสิกจิตสำนึกไหมเนี่ย ไอ้ที่เย้วๆกันมันสองมาตรฐานจริงๆนี่หว่า

180 Nameless Fanboi Posted ID:BgezdcGGPw

>>174 มีติ่งแบบนี้เวทนานักเขียน เคสเดียวกันกับนิ้วดำเปี๊ยบ ติ่งจะบอกเขียนสนุกพอ เรื่องอื่นผิดช่างมันค่า ก็ไม่แปลกอะนะที่คนมันจะออกมาแซะเรื่อยๆ

181 Nameless Fanboi Posted ID:HA/9eo3DwP

>>174 มึงนี่ตรรกะติ่งขนานแท้ พูดจาเหมือนอีมนกกบ.ที่มันบอกว่า ก๊อปแล้วไง ใครทำได้อย่างมันบ้าง สัส ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ใครทำได้ไม่ได้อย่างฝนม่วง ประเด็นมันอยู่ที่ฝนม่วงดอยรูปชาวบ้านเขามาใช้ มึงจะเถียงมึงเถียงให้ถูกประเด็นก่อน ที่สำคัญเขียนเก่งแล้วไง รุ่นใหญ่แล้วไง มันลบล้างความผิดของแม่งได้เหรอ เก่งก็บ้งได้ มึงไปแหกตาดูป้าเจเคนะบ้งทีคนด่ากันชิบหาย มึงนี่มาอะไรเนี่ย กางปีกปกป้องจนตรรกะเพี้ยนไปหมดแล้ว

182 Nameless Fanboi Posted ID:IFTwveEfcs

>>174 กูว่างานเขาค่อนข้างมีคุณภาพ ถูกจริตกูหลายเรื่อง กูตามงานเขาแต่เรื่องใช้รูปติดลิขสิทธิ์กูไม่ได้มองข้าม ถ้าเขาออกมาขอโทษก็คงจะดี แต่โม่งคงไม่เลิกพูดถึงเรื่องนี้หรอกว่ะ

183 Nameless Fanboi Posted ID:lhrLh6VdF/

ตลกนะ นักเขียนคนอื่นมีเคสลอกนิยายหรือจิ๊กรูปคนอื่นไปใช้ โม่งแซะกันซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่เห็นมีใครบ่นรำคาญ บางคนแม่งโดนแซะอยู่สามวันแปดวันไม่มีใครทัดทานใครเลย มีแต่ช่วยกันยำตีน พอเป็นฝนม่วงปุ๊บ คนพูดถึงแค่สองสามครั้งมีคนโผล่มาบอกให้เลิกคุยเรื่องนี้ละ ทั้งๆที่เจ้าตัวยังไม่ได้เทคแอคชั่นอะไรสักอย่าง แค่ซ่อนนิยายไปเงียบๆ ใครที่ปกป้องฝนม่วงวันหลังมึงก็อย่าด่าคนอื่นเรื่องก๊อปละกันนะ มันกระทบนักเขียนสุดที่รักของมึง

184 Nameless Fanboi Posted ID:J/VrKkdz89

หอมกลิ่นความรักพึ่งมาแมสตอนใกล้จบ ตอนแรกๆที่กูตามคนอ่านน้อยจนเขาเลิกเขียนไปช่วงหนึ่ง ส่วน69กูไม่ทัน กูเป็นคนไปเตือนเองทำไมติ่งอย่างมึงไม่ไปเตือนล่ะ กูชอบงานเขียนเขาจริงอวยให้แต่ไม่ใช่มาปกป้องผิดๆแบบนี้ ตัวเล็กๆมันเลยอ้างไงทำไมพวกนักเขียนดังๆทำได้ ทำไมด่าแต่คนเล้กๆ มันเป็นตัวอย่างที่ผิด ไม่ต้องไปดูใครดูที่ตัวเอง แต่กูบอกตัวเองล่ะว่าจะเลิกตาม ไม่น่าไปเตือนให้โดนแหกซะบ้าง เสียความรู้สึกวะ พอตัวเองโดนก็อปทำเป็นเรื่องใหญ่จังทีตัวเองก็อปคนอื่นมานานปีเงียบกริบ

185 Nameless Fanboi Posted ID:J/VrKkdz89

ต่อ แล้วทำไมไม่บอกให้เขาออกมาขอโทษเพราะมีติ่งพวกงี้ไงชอบพูด เขาแก้ไขรูปแล้วจะเอาไรอีกกูเบื่อเถียงกับคนประเภทนี้มาก ก็ควรออกมารับผิดชอบอะไรหน่อยไหมไม่ใช่ปล่อยเนียนๆลบไป

186 Nameless Fanboi Posted ID:NFFU4O7GNq

สมัยนี้ขนาดติ่งดาราเขายังไม่ค่อยปกป้องดาราตัวเองเวลาทำผิดกันเลยนะมึง มีแต่บ่นผิดหวังกับขอโทษแทนดารา มึงไม่ต้องกางปีกปกป้องนักเขียนเวลานักเขียนทำผิดขนาดนั้นก็ได้

187 Nameless Fanboi Posted ID:hHQsY28RS2

สิ่งที่กูถามไปไม่เห็นมีใครตอบกูสักคน กูถามว่ามีใครเขียนได้อย่างหอมกลิ่นหรือ 69 ไหม ถ้าตอบไม่ได้ก็เป็นอันเข้าใจกัน
ขอโทษทีที่เหมือนเหมารวมแต่กูว่าที่มาเย้วๆ ด่าไม่ใช่นักอ่านหรอก แต่เหมือนนักเขียนขี้อิจฉาที่เห็นคนอื่นประสบสำเร็จกว่าไม่ได้ พอพูดถึงฝนม่วงทีก็ต้องขุดเรื่องนี้ขึ้นมาที ต้องให้มีอยู่ในทุกมู้ กูรำคาญอะขอโทษ

188 Nameless Fanboi Posted ID:NFFU4O7GNq

>>187 มึงตรรกะเหมือนติ่งมนกกบเลยอะ ขำดี ขอโทษนะคือกูไม่คิดว่าจะเจอคนตรรกะแบบนี้ในโม่ง 55555555555

189 Nameless Fanboi Posted ID:wzdhQOvTEu

>>187 คือต้องเขียนดีกว่าฝนม่วงเหรอถึงจะด่าได้ กูงง เวลากูเจอเชฟขโมยสูตรอาหารอีกร้านกูต้องทำอร่อยกว่ามันมั้ยถึงจะด่าได้ว่าขี้ขโมย? เวลากูเจอแบรนด์เสื้อผ้าก๊อปอีกแบรนด์ กูต้องตัดชุดเก่งกว่ามั้ยถึงจะทวงถามได้ว่าทำไมไม่ขอโทษเรื่องขโมย? ไม่จำเป็นปะ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด

190 Nameless Fanboi Posted ID:wzdhQOvTEu

อ้อ แล้วก็สำหรับใครที่ปกป้องฝนม่วงอยู่ มึงลองคิดนะว่าถ้าวันนึงมีคนเอารูปหน้าปกนิยายฝนม่วงไปใช้โดยไม่ขอบ้าง มึงจะกล้าพูดรึเปล่าว่าไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไร มึงจะกล้าบ่นมั้ยว่ารำคาญ มึงจะปล่อยไปเฉยๆมั้ย มึงจะกางปีกปกป้องคนที่เอารูปของนักเขียนคนโปรดของมึงไปใช้รึเปล่า

191 Nameless Fanboi Posted ID:./luCxy2ne

>>187 ตรรรกะติ่งแบบไม่ลืมหูลืมตา กูคนอ่านแหละ ทำไมวะ ต้องเขียนดีกว่าถึงจะว่าได้ ทุเรสนะความคิดมึง รำคาญก็เลื่อนผ่านไป ชิ้วๆ

192 Nameless Fanboi Posted ID:BgezdcGGPw

>>187 ต้องเขียนดีกว่าถึงด่าได้ ตรรกะอะไรของมึงเนี่ย อะไรผิดก็ว่าไปตามผิดปะ มันเกี่ยวอะไรกับเขียนเก่งกว่าแล้วข่มคนอื่น งงเวอร์

193 Nameless Fanboi Posted ID:108UOboFos

เป็นติ่งจริงเหรอวะ เหมือนมาล่อตีนให้ฝนม่วงมากกว่าจะมาปกป้องนะ 5555555

194 Nameless Fanboi Posted ID:tBn3wz7hox

กูก็ขำเหมือนกัน เซอร์ไพรส์โคตร55555 เพิ่งเคยได้ยินว่าคนเขียนดีละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่นได้ตามใจชอบ
และเอาจริงๆนะมึง 69 ไม่ได้ว้าวขนาดนั้นสำหรับกู แค่สายวายไม่ค่อยมีใครเขียนเพราะมันเป็นกลุ่มคนอ่านเขียนที่ส่วนใหญ่โตมาจากโรแมนซ์ไม่อิงสังคม ไม่งั้นนิยายวายจะโดนด่าเรื่องบ้งถึงทุกวันนี้เหรอ หลายปีมานี้ถึงค่อยดีขึ้นหน่อย ถ้าอ่านหนังสือหลากหลาย ฝนม่วงก็จะธรรมดามาก
แต่ถึงเขาดีมากสำหรับใคร ก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะยกย่องมองข้ามความผิดแล้วกดหัวคนอื่นที่ทำเพราะเขาไม่ดีสำหรับตัวเองอะ

195 Nameless Fanboi Posted ID:V+Pf.5sQJF

กูไม่เคยอ่านงานฝนม่วง แต่กูเป็นสายวายปุ่น ขอกูบ่นหน่อยเหอะ วายปุ่นบ้านเรามันอาภัพอะไรนักไม่รู้ สมัยก่อนมีไพเรทเอามาแปลเถื่อนเป็นล่ำเป็นสัน พอขึ้นบนดินก็ดัน สนพก็ดันไปคว้าเอาอดีตนักแปลไพเรทมาแปลมั่วๆซั่วๆ มาคราวนี้นักเขียนชื่อดังของไทยจิ๊กรูปปกนิยายวายปุ่นไปใช้เป็นปกนิยายตัวเองหน้าตาเฉยก็ยังอุตส่าห์มีคนปกป้อง นอกจากจะไม่มีใครสงสารคนวาดแล้วคนวาดยังโดนแซะอีกว่าวาดประหลาด (ทั้งที่กรณีนี้คนวาดเขาเป็นผู้เสียหาย) แถมวายปุ่นแม่งอยู่เฉยๆก็โดนด่าว่าบ้งอย่างนั้นบ้งอย่างนี้ ทั้งที่คนที่ด่าแม่งก็เคยอ่านแต่เรื่องเก่าๆสมัยไพเรท ไม่รู้วายปุ่นทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ส่วนตัวกูว่าฝนม่วงจะขอโทษหรือไม่ขอโทษก็เรื่องของนาง เพราะอ.คาไซที่เป็นผู้เสียหายเขาไม่ได้รับรู้ด้วย แต่การที่นางไม่ขอโทษนี่สุดท้ายมันก็จะเป็นชนักติดหลังนางไปเรื่อยๆนะ แต่นางคงไม่แคร์มั้ง เพราะเรื่องก๊อปรูปมันดูไม่ได้แมสไปถึงข้างนอก คงมีคนรู้กันแค่ในโม่งไม่กี่คนนี่แหละ ติ่งที่รำคาญมึงก็ทนๆคนแซะหน่อยละกันนะ เพราะเขาทำผิดจริงๆอย่างแก้ตัวไม่ได้เลย

196 Nameless Fanboi Posted ID:.dznsa0NmE

กูตั้งข้อสังเกตว่าช่วงหลังเวลามีใครโดนด่าเรื่องลิขสิทธิ์รูปจะถูกโยงไปหาฝนม่วง บางทีลืมด่าอีคนนั้นหันมาแซะฝนม่วงแทน นักเขียนเด็กดีรุ่นเก่าเหมือนเขาที่เคยทำแบบนี้แล้วลบรูปไปเงียบๆไม่ขอโทษเหมือนกันไม่เห็นโดนลากมาแซะเหมือนเขา ในนี้มีทั้งคนเขียนคนอ่าน กูว่าคงมีทีั้งคนเคร่งลิขสิทธิ์กับคนที่หมั่นเขาอยู่ว่ะ

197 Nameless Fanboi Posted ID:.dznsa0NmE

กูเห็นด้วยกับ>>195 ฝนม่วงจะขอโทษรึไม่ขอโทษไม่ควรลามไปแซะคูปคาไซว่ะ งานเขาสวยหลายรูปแต่ไพเรทแม่งเลือกแต่รูปอ้าซ่ามาแปล หลายคนเลยติดว่างานเขามีแต่แบบนี้

198 Nameless Fanboi Posted ID:wnYKjOCFYs

>>196 ก็เคสฝนม่วงมันใหม่กว่าไง ผ่านไปนานๆเดี๋ยวคนก็เลิกพูดถึงเองแหละ มึงดูตอนนี้มนกกบคัมแบ็คก็ไม่มีใครตามแซะนางแล้วเพราะปลงกันหมด และที่ฝนม่วงจะโดนลากมาตลอดก็ไม่แปลกอะ ก็มันเป็นความผิดชนิดเดียวกันไง

199 Nameless Fanboi Posted ID:RfVytg3gv9

กูถึงบอกหลายรอบ พวกมึงก็ไม่เลิกจบกับเรื่องนี้ซักที อยากแหกอยากยำก็ไปที่อื่น

200 Nameless Fanboi Posted ID:dSZvzMJj5u

เวลาใครเบื่อประเด็นที่คุยกันในโม่ง สิ่งที่มึงควรทำคือเปิดประเด็นใหม่หรือไม่ก็ปิดโม่งไปทำอย่างอื่นจ้า ไม่ใช่บอกให้คนอื่นเลิกคุยเรื่องที่มึงรำคาญ โม่งไม่ใช่ของมึงคนเดียวโนะ

201 Nameless Fanboi Posted ID:.dznsa0NmE

>>199 ไล่ไปแหกที่อื่นไม่ได้หรอกมึง นี่มันมู้เม้า แต่กูก็เบื่อเหมือนมึงบางทีต้องรีบลากผ่านไปอ่านมู้อื่น อยากให้ฝนม่วงขอโทษจะได้จบเรื่องนี้ไม่ต้องรำคาญ

202 Nameless Fanboi Posted ID:wnYKjOCFYs

เออเนอะ กลายเป็นคนที่บ่นว่าอยากให้คนผิดออกมาขอโทษกลายเป็นคนน่ารำคาญไปซะงั้น

203 Nameless Fanboi Posted ID:YT7B1S+Sjo

กูพยายามบอกอยู่นะว่ามันไม่มีคนช่วยแหกเพราะคนตามฝนม่วงในโม่งไม่ได้เยอะขนาดนั้น พอคนไม่รู้จักมันก็รับข้อมูลแล้วจดไว้ในใจอย่างเดียว
อ่านครั้งแรกเห็นด้วย อ่านครั้งสองเห็นใจ อ่านครั้งสามครั้งสี่รำคาญทำไมเมิงวนๆเรื่องเดิม ข้อมูลใหม่ก็ไม่มี มาทีก็เอาแต่หย่อนหินถามทาง ซึ่งในโม่งมันไม่มีใครตามฝนม่วงอ่ะอ่ะ ก็รับข้อมูลแล้วจบไป ไม่มีใครคิดจะไปตามเรื่องต่อ พอเป็นงั้นเมิงก็มางอแงว่าทำไมไม่มีคนสนใจ คนเขาดูออกว่าเมิงพยายามหาแนวร่วมแหกเขาแต่ในโม่งมันไม่มีคนสนไง เขาอ่านรับข้อมูลอย่างเดียว ทำไงก็จุดไฟไม่ขึ้น
สมมุติถ้าเมิงบอกเมิงมีหลักฐานแหกนขขวัญใจโม่งอย่างฮซนไรงี้ กูเชื่อเลยว่าโม่งจะพร้อมใจกันช่วยเมิงแน่ๆ แต่เมิงพยายามแหกนขที่ในโม่งแทบจะไม่ได้พูดถึงเลยกูก็ไม่รู้จะช่วยยังไง คนมันไม่รู้จักอ่ะ
แรกๆกูก็อ่านแล้วจดไว้นะว่าเขาทำอะไร แต่กูไม่อ่านงานเขาอยู่แล้วก็ไม่รู้จะช่วยแบนยังไง ตอนนี้พอเห็นเมิงมาบ่อยๆกูเริ่มสงสารเขาแทนละ 5555

204 Nameless Fanboi Posted ID:./luCxy2ne

>>203 ไปเรื่อย เป็นตุเป็นตะ

205 Nameless Fanboi Posted ID:YT7B1S+Sjo

>>204 มุแง

206 Nameless Fanboi Posted ID:J/VrKkdz89

ก็มีแค่เรื่องใช้ภาพละเมิดลิขสิทธิ์แล้วแอบเปลี่ยนไม่ออกมาพูดอะไรนั้นแหละแค่นั้นมึงจะหาเรื่องไรมาอีกอะ เขาอยากแค่นี้ ไม่ได้มีหลายเรื่องปสด.แบบแก้งค์นั้น แต่ไม่กล้าแหกหรอกเชื่อกู แค่ไปเม้นหรือไปเตือนเขายังไม่มีใครทำ กูอุสาห์โยนเรื่องอื่นลงมาก็ยังจะมีคนบอกทำไมตอนฝนม่วงไม่มีคนไปด้วยเอเนอร์จี้นี้อีก /มองบนสองสามที

207 Nameless Fanboi Posted ID:ns/KTKXCJZ

โม่งน่าจะตามฝนม่วงเยอะอยู่นะ ตอนหอมกลิ่นค.รักนี่หวีดกันประจำ จนกุตามไปอ่านแต่ไม่รอด จุดอิหยังวะเยอะเกิน

208 Nameless Fanboi Posted ID:rpl+LQQ9B.

ฝนม่วงเป็นหนึ่งในนักเขียนไทยไม่กี่คนที่กูตามงานเขา เขาเก่งนะมีความสามารถ เรื่องที่เขาผิดก็ผิดจริง กูคงไม่ช่วยเขาเรื่องนั้นหรอก แต่เห็นคนพยายามโยงแหกเขาบ่อยแทบจะทุกอาทิตย์กูก็เอียน

209 Nameless Fanboi Posted ID:YT7B1S+Sjo

อยากแหกก็แหกเองอ่ะ ไม่ใช่มาหย่อนในโม่ง ฝนม่วงแม่งแย่ๆๆ แล้วก็มางอแงว่ายังไม่มีโม่งตัวไหนไปตามเรื่องเหรอวะ เรื่องถึงไหนละวะ ฝนม่วงแย่ๆ มีคนตามเรื่องยัง โม่งแม่งไม่ตามเรื่องเลย ลำเอียงๆ ฝนม่วงแย่ๆ ฯลฯ โม่งก็ไม่โง่ป่ะวะ

210 Nameless Fanboi Posted ID:K9tShpDFZy

พวกมึงนี่ก็แปลก คนที่มาพูดในโม่งก็คือคนที่ไม่อยากพูดบนบกปะ โม่งก็เป็นแบบนี้มาตลอดนะ เวลามึงนินทานักเขียนมึงก็มานินทากันในนี้ไม่ได้ไปพูดบนบกนี่ กูเห็นโม่งนินทานักเขียนกันมาเยอะแยะ บางคนโดนนินทาอยู่เป็นอาทิตย์ นินทาจนเป็นวาระแห่งมู้ รอบนี้ที่คนพูดถึงฝนม่วงอีกก็เพราะฝนม่วงออกมางองแงว่างานตัวเองโดนก๊อป ก็เลยมีคนมาถามไงว่าอ้าวแล้วทีตัวเองก๊อปคนอื่นไม่คิดจะรับผิดชอบ?? ถัดมาก็มีคนทำตัวเหมือนฝนม่วงโดนคนด่า ก็เลยมีคนถามอีกว่าอ้าว แล้วทำไมนักเขียนดังทำแล้วไม่มีใครด่า?? เวลาหยิบขึ้นมาพูดก็มีประเด็นตลอดนะ ไม่เหมือนตอนเมาท์แก๊งอตปสที่อีพวกนั้นทวีตบ่นขิงข่าไรก็เอาทวีตมาแปะลอยๆแล้วหาเรื่องด่า แบบนั้นก็เกินไป แต่ฝนม่วงนี่ไม่ใช่ปะ ถ้าไม่มีประเด็นอะไรก็ไม่มีใครพูดถึงหรอก กูขำนะที่พยายามพูดกันว่าโม่งไม่สนใจฝนม่วงๆๆๆกันอยู่นั่น แต่ลูกหาบมาพยายามบ่นรำคาญเบี่ยงประเด็นกันเต็มไปหมด อิหยังวะ

211 Nameless Fanboi Posted ID:K9tShpDFZy

เอ้อ ลืมอีกอย่าง กูว่าตอนนี้คนอยากแหกก็แหกไม่ได้แล้วปะ นางกดซ่อนเรื่องไปหมดแล้ว จะแหกยังไงล่ะถ้าไม่ได้แคปไว้

212 Nameless Fanboi Posted ID:cU1iPGNQy.

>>208 "แหกเขาบ่อยแทบจะทุกอาทิตย์" เว่อไป กูถึงกับไปย้อนอ่านมู้ที่แล้ว ไม่เห็นจะเกาะติดอะไรเรื่องฝนม่วงขนาดนั้น พวกที่บ่นรำคาญนี่มึงคิดไปเองแล้วแหละว่าโม่งพูดถึงบ่อย นับจริงๆนี่เพิ่งรอบสองเองปะ รอบแรกคือตอนที่แหกแล้วนางรีบปิดเรื่อง แล้วก็รอบนี้ที่มีคนแซะแล้วพวกมึงออกมาบ่นรำคาญเนี่ย

213 Nameless Fanboi Posted ID:./luCxy2ne

ติ่งฝนม่วง ในโม่งก็มีพอตัวเลยหนิ ตอนพูดถึงนิยายฝนม่วงก็ออกมาเต็ม กูสิงมู้ตลอด ไม่ได้มีประเด็นย่อยถึงขั้นรำคาญ 2 มาตรฐานก็งี้ นข ดัง หาบเยอะ กูก็ไม่ได้แคป หน้านิยายเขาไว้ เลยไปเตือนไปบอกไม่ได้ ใครใจดีเอาแปะลิ้งให้หน่อย เดี่ยวจะไปถามเอง

214 Nameless Fanboi Posted ID:RfVytg3gv9

>>213 เค้าเจอปัญหาโดน​ลอกนิยายอยู่ มึงจะไปแซะเค้าเพื่อ?

215 Nameless Fanboi Posted ID:fMMhkb0Gg.

โอ้ย 5555555 เค้าโดนลอกนิยาย น่าสงสารจังค่ะ เค้าไม่ควรโดนแซะ แงๆๆ และที่เค้าไปเอารูปคนอื่นมาใช้ไม่ต้องไปพูดถึงนะคะ ลืมๆมันไปค่ะะะ

216 Nameless Fanboi Posted ID:tBn3wz7hox

คือเรื่องละเมิดลิขรูป/โดนลอกนิยาย กูมองว่าเป็นปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์เหมือนกัน คนก็ยิ่งจับตามองดิว่าในเมื่อเย้วๆเรื่องตัวเองโดนลอกได้ ที่ตัวเองละเมิดทำไมเงียบ ก็ช่วยไม่ได้ที่คนจะติงเรื่องนี้อะ
แต่กูเห็นด้วย ในโม่งติ่งฝนม่วงเยอะ ติ่งจนจะหาบกันแล้ว

217 Nameless Fanboi Posted ID:sGpxKUvZsu

213 มันแซะตรงไหนวะ ก็เรื่องจริงนี่ พอโดนลอกหน่อยออกมาให้ติ่งโอ๋ ทีเรื่องที่ไปขโมยรูปเขามาใช้ไม่พูดอะไร ปิดเรื่องไปเงียบๆ ขอโทษซักคำยัง หรือไม่คิดว่าตัวเองผิด?

218 Nameless Fanboi Posted ID:./luCxy2ne

555555555555 เหลือจะเชื่อ กูหน่าย ถ้าซีเรียสเรื่องการโดนลอกนิยาย รู้เรื่องการละเมิดลิขฯ ดี ก้น่าจะเข้าใจประเด็นนี้นะ พอละ กูหน่ายว่ะ อยากหาบอยากโอ๋ก็เรื่องของมึง แตะต้องไม่ได้สุดๆ พอพูดเรื่องตีเนียน ติ่งแม่งออกมาพรึบ

219 Nameless Fanboi Posted ID:YT7B1S+Sjo

>>211 สรุปก็คืออยากแหกเขา แต่แหกไม่ได้แล้ว เลยมาหย่อนในโม่งเผื่อจะมีคนช่วย
พอในโม่งไม่มีคนช่วยก็โดนหาว่าเป็นหาบหาว่าลำเอียงอีก กูอธิบายวนแล้ววนอีก ว่าในโม่งไม่ได้มีคนสนใจเขาขนาดนั้นเมิงก็ยังไม่ฟัง

220 Nameless Fanboi Posted ID:./luCxy2ne

>>219 ก็มันจริงนี่หว่า ทำไมจะเอามาพูดในโม่งไม่ได้วะ ปกติก็เอามาแหกในโม่งตลอด ทุกคนที่โดนอ่ะ มึงเป็นมากป่ะ ใครกันแน่ไม่ฟัง

221 Nameless Fanboi Posted ID:+QJfgzqoKo

กูว่าก็ไม่ได้มีใครอยากแหกหรอก การแซะในโม่งไม่ได้แปลว่าอยากให้คนช่วยแหกมั้ย นี่กระทู้นินทา มีไว้นินทาอยู่แล้ว เผอิญเห็นนางทำตีเนียนแล้วมันน่าเกลียด คนก็เลยมาแซะมานินทาในโม่ง ทำไม่ดีคนก็แซะ เรื่องปกติ ยิ่งมางอแงที่โดนก๊อปแต่ทำเนียนไม่ขอโทษตอนตัวเองทำผิดมันก็ยิ่งน่าเกลียด ไม่ได้มีใครคาดหวังให้มีโม่งคนไหนขึ้นไปแหกหรอก ก่อนหน้านี้กูไม่อะไรกะนางนะเพราะกูไม่อ่านวายไทย ไม่รู้จักนักเขียนสักคน จะว่ากูเกลียดนางมาก่อนก็ไม่ได้เด้อเพราะกูเพิ่งรู้จักนางจากเรื่องนี้ แต่ตอนนี้กูจะจดจำนางในฐานะนักเขียนสูงวัยไร้จิตสำนึกละกัน

222 Nameless Fanboi Posted ID:cU1iPGNQy.

>>219 นี่ขนาดไม่ได้มีคนสนใจเขาขนาดนั้นนะเนี่ย ยังมีคนโผล่มาปกป้องเพียบเลย ว้าว

223 Nameless Fanboi Posted ID:UHhjNmCp1I

>>212 ใช่ กูงงมากบอกรำคาญโดนโยงบ่อย นิเราพูดถึงฝนม่วงเดียวกันรึเปล่า

224 Nameless Fanboi Posted ID:rpl+LQQ9B.

ใครอยากปกป้องเขาก็แล้วแต่มึง ใครเกลียดเขามึงก็เอาแอคหลุมทักเขาไปเลย กูรำคาญ!

225 Nameless Fanboi Posted ID:YT7B1S+Sjo

>>222 กูไม่ได้ปกป้องเขา งานเขากูยังไม่เคยอ่านสักงาน กูมาบอกว่าทำไมเมิงถึงจุดไฟไม่ขึ้น เห็นเมิงเอาแต่ฟาดงวงฟาดงาว่าโม่งนิ่งเฉย ลำเอียง
การแซะในโม่งไม่ได้แปลว่าอยากให้คนช่วยแหก แต่การออกมาบอก ไม่มีโม่งตามข่าวเหรอวะ ไม่มีโม่งไปเตือนเหรอวะ มันต่างกับการหาคนช่วยแหกยังไง มันเหมือนให้โม่งไปทำ ทั้งๆที่เมิงตัวคนแซะเนี่ยยังไม่ทำเองเลย ทำไมไม่ทำเองวะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:RfVytg3gv9

กูไม่ได้อยากทำตัวเป็นมาเฟียเที่ยวบอกใครว่าคุยเรื่องนี้ได้ เรื่องนี้คุยบ่อยมึงคุยไม่ได้ต้องเปลี่ยนเรื่อง
แต่คนเจอปัญหาโดนลอกมึงจำเป็นต้องไปแซะเค้าตอนนี้ป่ะ โม่งตรรกะป่วยยังไงก็มีกาลเทศะ​นิดนึงดิเฮ้ย

227 Nameless Fanboi Posted ID:IFdKaWdhI+

>>226 มันก็ต้องเป็นตอนนี้ปะถูกแล้ว ตัวเองโดนลอกแล้วโวยวาย แต่ตอนตัวเองเอาทรัพย์สินทางปัญญาของคนอื่นมาใช้ดันทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ไม่แซะตอนนี้จะให้แซะตอนไหนวะ งง

228 Nameless Fanboi Posted ID:oVP84a0/z+

>>226 มึงกำลังทำตัวเป็นมาเฟีย วางกาวลงนะ

229 Nameless Fanboi Posted ID:JyE+nqewr3

>>225 สรุปคือมึง take it personal เพราะมึงคิดว่า identity ของมึงคือโม่ง ก็เลยรู้สึกไม่ดีที่มีคนแซะโม่งว่าทำไมไม่มีโม่งไปเตือน งี้สินะ 5555555 มึงไม่ต้องรู้สึกว่ากระทบตัวเองขนาดนั้นก็ได้จ้า

230 Nameless Fanboi Posted ID:J/VrKkdz89

>>227 +++++++++++++++ก็ต้องตอนนี้ถูกแล้วปะวะ แถมสนพ.ยังช่วยเขาเคลียร์ปัญหาจบแล้ว แล้วมึงยืนยันว่าเขาโดนลอก?ทั้งที่บทสรุปไม่ได้แบบนี้จริง ใช้คำว่าคล้ายดีกว่าเลี่ยงโดนฟ้อง
อย่าวนมาเรื่องเตือนไม่เตือนอีกนะเรื่องนั้นเตือนไปแล้วจบสักที
แต่ที่คุยอยู่ตอนนี้คือนางโดนก็อป แต่ตอนตัวเองโดนก็อปดันเงียบ

231 Nameless Fanboi Posted ID:KMos4JGwH6

จริงๆถ้าไม่มีลูกหาบมาปกป้อง เรื่องฝนม่วงก็คงมีคนแซะแค่สองสามคนแล้วก็เงียบๆไปแหละกูว่า 555555 นี่ดันมีคนมาบ่นรำคาญ บ่นว่าเขียนให้ดีเท่าเขาให้ได้ก่อนค่อยด่า บางคนที่ผ่านไปผ่านมาเขาก็หมั่นไส้ดิ ทำผิดแล้วยังมีคนปกป้องขนาดนี้ แตะต้องไม่ได้เลย

232 Nameless Fanboi Posted ID:FaQSWMgs5A

ky แม่ในข่าวคือเหี้ยแต่อินี่ก็ด่าแรงไม่ไหวหยั่งกะโทรลในบอร์ดโม่ง สาววายมันโง่ทุกตัวนะค้าาาา
https://twitter.com/Qwsa890/status/1368770117606117376

233 Nameless Fanboi Posted ID:6KEr+lbbFN

>>232 ประโยคต้นๆคือดีนะ แต่ประโยคสุดท้ายคือไม่ได้ เก็บกดไรกับสาววายป่าวเนี้ย

234 Nameless Fanboi Posted ID:b05r969UGo

>>233 สาววายหลายคนก็ทำเรื่องไว้เยอะแล้วชอบยัดเยียด จนคนเขาเหมารวมเกลียดไปทั่ว

235 Nameless Fanboi Posted ID:0zxgrbVWMY

>>234 ไอ้คนด่าสาววายนี่กูก็เห็นเป็นสาววายทั้งนั้น im not like other girls สัสๆ

236 Nameless Fanboi Posted ID:C0FGc0.vTf

>>158 มึงเรื่องนี้ยังไม่จบๆ ประทุอีกรอบวะ

237 Nameless Fanboi Posted ID:F1r8K0k2Dc

>>236 ตอกกลับนิ่มๆแต่เจ็บใจวะ555 อ่อนแอจังเลยวะพวกนักเขียน

238 Nameless Fanboi Posted ID:I54e.O3.Fy

>>236 กูงง คือไรวะ เห็นในนั้นมีคนติงว่าใช้รูปผิดลิขสิทธิ์เยอะมาก แต่กูเห็นอยู่รูปเดียวคือปก ซึ่งมันก็ผิดอะนะ
แล้วตอนนึงลงสั้นโคตร ทำไมยอดหัวใจโคตรเยอะ

239 Nameless Fanboi Posted ID:C0FGc0.vTf

>>238 ตอนแนะนำตัวละครไงมึง ใช่ ทำไมยอดเยอะวะกูงงมาก ตอนแรกติดใหม่มาแรงตอนนี้ติดท็อปละมึง

240 Nameless Fanboi Posted ID:F1r8K0k2Dc

>>239 นิยายจีนโบราณก็อแรูปคนอื่นมาใช้=ฮิต เกือบทุกเรื่องอะมึงเป็นงี้กูเห็นบ่อย

241 Nameless Fanboi Posted ID:iMpxxZ4tCz

>>238 แนวยั่วเยซอยตอน อ่านง่ายแป้บๆจบตอนนึง มันรู้สึกดีนะเว้ยตอนไถๆ อุ้ยจบตอนแล้วไวเหมือนอ่านจอยลดา
อีกอย่างคนน่าจะเห็นใจที่โดนถล่มด้วยว่ะเลยกดหัวใจให้ มันจะมีคนประเภทที่เห็นเขาโดนด่าแล้วสงสารอ่ะ สู้ๆนะคะ

242 Nameless Fanboi Posted ID:C0FGc0.vTf

เรามาถึงช่วงไม่มีการศึกษา=เหยียบคนอื่นแล้วหรอวะ เอ๊ะ กูเกิลก็มีนะคนเรา มีอินเทอร์เน็ตมาก็อปภาพคนอื่นใช้ก็ควรมีปัญญาอ่านกฎหมายลิขสิทธิ์นะ

243 Nameless Fanboi Posted ID:F1r8K0k2Dc

สัส555555 หมาป่าเดียวดายกู จี้555 ความเป็นมนุษย์มีไหมคะ หลุดโลกไปไกลล่ะ กูว่าอายที่ตัวเงทำผิดนั้นแหละ ตัดพ้อไปทั่ว

244 Nameless Fanboi Posted ID:I54e.O3.Fy

>>241 เดี๋ยวนี้กูก็ชอบตอนสั้นๆ นะ
นักเขียนบางคนลงทีละ 3 พัน 5 พัน สมัยก่อนกูชอบมาก อ่านทีเดียวจุก ๆ สะใจ
แต่เดี๋ยวนี้ชอบแบบสั้นๆอย่างที่มึงว่า แต่ไอ้เรื่องที่ยกมา ตอนละ 5 ร้อย 6 ร้อยก็น้อยเกิ้น นิ้วโป้งไถแค่สโตรกเดียวจบตอน

245 Nameless Fanboi Posted ID:C0FGc0.vTf

>>244 แต่ก่อนเรื่องไหนตอนละ2หมื่นคำกูชอบมาก ตอนนี้ส่วนใหญ่ประมาณเกือบ2พันคำ กูsad กูอ่านนิยายจีนก็ได้วะ ถ้าเรื่องไหนต่ำกว่า3พันคำจะโดนนักอ่านว่าทำไมสั้นจัง หันมามองงานคนไทยสมัยนี้ก็ได้แต่ เอ่อ...

246 Nameless Fanboi Posted ID:S.g+pc0ff/

กูขอบ่นหน่อย กูเกลียดความการเมืองเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องและเป็นเรื่องของทุกคนวะ กูอยู่กลุ่มหวีดนิยายเรื่องนึงที่ต้อนนี้แม่งเป็นกลุ่มการเมืองจ๋าไปแล้ว ตั้งแต่ปีก่อนยันปีนี้ไม่คุยวิเคราะห์เนื่อเรื่องนิยายกันแล้วนาจา ขายตรงชวนไปม๊อบรั่วๆ จนกูสงสัยว่าทำไมไม่ไปตั้งกลุ่มแยกคุยการเมืองกันเลยถ้าจะขนาดนี้ คนถามคนคุยเนื้อเรื่องกันไม่ได้เลยการเมืองกลบหมดพอไม่สนใจโดนหาว่าเป็นซาลิ่มจ้า~ เอ้า กูเข้ากลุ่มนิยายกุก็ต้องอยากหวีดตัวละครวิเคราะห์เนื้อเรื่องป่าวว่ะ กูจะมาคุยการเมืองในกลุ่มนิยายเพื่อ!!!?

247 Nameless Fanboi Posted ID:iMpxxZ4tCz

>>246 กูเล่นหุ้นตั้งแต่สมัยแดงจนถึงนกหวีด ในกลุ่มส่วนใหญ่จะห้ามเรื่องการเมืองหมด ไม่ต้องพูดถึงชวนไปม้อบ บางคนด่าม้อบทำหุ้นตกยังไม่ได้เลย โดนเตือน ถ้าเตือนไม่หยุดก็เตะออก ห้ามคุยเรื่องการเมืองเพราะทุกคนมาเพราะเรื่องหุ้น
เมื่อก่อนกลุ่มอื่นๆก็เป็นแบบนี้นะ ห้ามการเมืองเด็ดขาด แต่เดี๋ยวนี้คนบางกลุ่มมันชอบอ้างว่าใครไม่สนใครห้ามคุย=อิ้กนอ=หริ่ม ทั้งๆที่ความจริงคือเขาเข้ามาคุยเรื่องอื่นอ่ะ เมิงมาแทรกยาวๆ เสียเวลาคนอ่าน แย่งซีนคนเขาจะโฟกัสคุยที่เรื่องหลัก ทุกวันนี้มีแค่กลุ่มหุ้นที่ยังใช้กฎนี้กันอยู่ นอกนั้นพวกกลุ่มเกมกลุ่มการ์ตูนกลายเป็นสายฉอดกันหมดละ 555

248 Nameless Fanboi Posted ID:KDU.c5fUKX

>>241 >>244-245 กูว่าสองพันคำกูยังรับได้นะ พันคำก็ยังอ่ะๆ ให้อภัย แต่ไอ้สัส ตอนละห้าร้อยคำ กูที่เขียนนิยายบางตอนล่อไปสี่พันคำคือร้องเหี้ยละอีชิบหาย นิยายกูตอนเดียวมันเอาไปซอยได้แปดตอน แม่งถึงติดท็อปไง

249 Nameless Fanboi Posted ID:E2dMY3gAt1

>>246 นักเขียนบางคนลงการเมืองในนิยายโจ่งแจ้งมีการอ้างว่ามาประชาสัมพันธ์เผื่อคนที่ไม่มีทวิต ที่กูไม่เล่นทวิตเพราะกูรำคาญคนแบบพวกมึงไง ยังตามมาระรานกูอีก เหี้ยยย

250 Nameless Fanboi Posted ID:qhwLr6KORX

"นินทา" หมายถึง ..
การกล่าวร้าย ให้ร้ายลับหลัง เพื่อให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น
ให้ได้รับความอับอาย เสื่อมเสีย เสียชื่อ เสียเกียรติ เสื่อมความเคารพนับถือ
แม้บางเรื่องจะเป็นจริง แต่เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหาย ก็ไม่ควรนำไปเล่าต่อผู้อื่น ..
"นินทา" นั้นไม่มีโทษแก่ "ผู้ถูกนินทา" เลย
ถ้า "ผู้ถูกนินทา" ไม่รับคือไม่ตอบ เช่นเดียวกับผู้ถูกด่าไม่ด่าตอบ
ผู้ถูกขู่ไม่ขู่ตอบ ผู้ถูกชวนวิวาทไม่วิวาทตอบ ..
"ผู้นินทา" คือผู้ทำกรรม ซึ่งเป็นกรรมไม่ดี
ไม่ว่า "ผู้ถูกนินทา" จะรับหรือไม่รับก็ตาม
"ผู้นินทา" ย่อมได้รับผลไม่ดี แห่งกรรมไม่ดี อย่างแน่นอน
เปรียบได้กับ ..
มีคนยื่นสิ่งสกปรก เน่าเหม็นให้เรา ถ้าเราไม่รับ
"มือเราจิตเรา" ก็ไม่เปื้อน ไม่สกปรก ไม่เดือดร้อน
แต่ "มือเขาจิตเขา" ก็เปื้อน ก็สกปรกเน่าเหม็นเอง ..

251 Nameless Fanboi Posted ID:ZIcSjRMbwC

การกระแนะกระแหนต่อหน้า ติฉินนินทาลับหลัง เป็นปัญหาคลาสสิกจุกจิกกวนใจมาทุกยุคทุกสมัย เกิดขึ้นทุกองค์กร และเชื่อว่าเคยโดนกันทุกคน

ยิ่งปัจจุบันสังคมออนไลน์มีบทบาทในการใช้ชีวิตมากขึ้น สเตตัสในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ กลายเป็นเครื่องมือในการนินทากระแนะกระแหนที่ทรงพลังมากขึ้นไปด้วย แหม โดนทั้งต่อหน้า ลับหลัง จะหนีความวุ่นวายไปหาอะไรเพลินตาเพลินใจดูในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กยังไม่พ้นอีก เครียดเลย “บ่องตรง”...

สถานการณ์

252 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

วิภาวี เป็นสาวสวย เชื่อมั่นในตัวเองสูง มนุษยสัมพันธ์ดี ทำงานก็เก่ง แถมยังเป็นที่รักของเจ้านายและเพื่อนร่วมงานด้วย โดดเด่นเป็นดาวจรัสแสงแบบนี้ ย่อมมีบางคนหมั่นไส้เป็นธรรมดา กลุ่มคนขี้อิจฉาพากันซุบซิบนินทา กระแนะกระแหน ทั้งต่อหน้า ลับหลัง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการโพสต์สเตตัสกัดจิกความเพอร์เฟกต์ของเธอกันอย่างสนุกสนาน คนฉลาดอย่างวิภาวีมีหรือจะไม่รู้ เธอใช้ความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว หารู้ไม่ในใจร้อนรุ่มจนแทบทะลักจุดเดือด

ทางออก

การนินทาไม่ใช่ของใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ คนเราประพฤติกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว แม้กระทั่งพระพุทธเจ้ายังโดนนินทา

พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต เคยบอกว่า ความโกรธคือความป่วย คนโกรธมากยิ่งป่วยมาก หากใครไม่อยากโกรธ ไม่อยากป่วยแนะนำวิธีฝึกจิตให้รู้จักการยอมรับ เพื่อขจัดอารมณ์ขุ่นมัว

หนึ่ง ตั้งจิตว่า วันนี้หรือพรุ่งนี้จะยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่โกรธ หรือหงุดหงิด

สอง เมื่อเผชิญเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่พอใจ พิจารณาสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป จึงไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องเหล่านั้น

สาม เปิดใจกว้าง มองหาข้อดีในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเราถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งนั้น

บางคนเลือกจะใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน เดินเข้าไปพูดตรงๆ จนบานปลายกลายเป็นทะเลาะวิวาท ลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกัน สุดท้ายที่ได้กลับยิ่งทวีความแค้นฝังลึกลงในใจ ผลได้ไม่คุ้มเสีย ขณะที่บางคนเลือกที่จะนิ่งเฉย ใช้โอกาสนี้ในการฝึกอภัยทานและอโหสิ มิใช่ต่อกรและต่อกรรม ด้วยการทำหน้าบูดหน้าบึ้งใส่ หรือตั้งสเตตัสแรงๆ ตอบโต้ ไม่ต้องบล็อก ไม่ต้องอันเฟรนด์ ลองใช้วิธีเอารายชื่อบุคคลนั้นออกไปจากกระดานข่าว จะได้ไม่เห็นการอัพเดตสเตตัสของเขาอีกต่อไป ไม่งั้นยิ่งเห็น ก็จะยิ่งคิด ยิ่งโมโหกันไปใหญ่

ควรเอาอุปสรรคนี้แปรเปลี่ยนเป็นบทเรียนที่จะใช้ฝึกการพัฒนาตัวเองดีกว่า เพราะวันหนึ่งประสบการณ์ครั้งนี้จะสอนเราในภายภาคหน้าได้อีกเยอะ

253 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

ควรเอาอุปสรรคนี้แปรเปลี่ยนเป็นบทเรียนที่จะใช้ฝึกการพัฒนาตัวเองดีกว่า เพราะวันหนึ่งประสบการณ์ครั้งนี้จะสอนเราในภายภาคหน้าได้อีกเยอะ

อย่างไรก็ดี แม้เป็นการยากที่เราจะมีความเมตตากับคนที่ไม่ชอบหรือถึงขั้นเกลียดชังเรา ดังนั้นจึงต้องอาศัยการฝึกการอบรมจิตของเราให้มีความเมตตาอย่างเป็นธรรมชาติ การแผ่เมตตาแบบมาตรฐานเป็นประจำ ผ่านใจ ผ่านจิต (ไม่ได้แผ่เมตตาแค่ปาก) เป็นกระบวนการที่ทำให้เมตตาจิตถูกแผ่ออกไปได้แบบไม่เลือกบุคคล แผ่ออกไปกับทุกคน จึงเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืน ไม่เสแสร้ง พร้อมกันนั้นก็เข้าใจความเป็นเขา สภาวะจิตของเขา เพื่อจะไม่พยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่น เมื่อเข้าใจเขาได้ เมตตาเขาได้ เราก็ไม่ใช่ศัตรูเขา เมื่อเราไม่แสดงออกว่าเป็นศัตรูกับเขา และยังแสดงออกว่าเราเป็นมิตร เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าเราเป็นศัตรู และไม่จำเป็นต้องแสดงออกกับเราอย่างศัตรู

วิธีกำจัดศัตรูที่ดีที่สุด คือ การเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ลองดูนะครับ ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราเอง

254 Nameless Fanboi Posted ID:ZIcSjRMbwC

การแซะก็คือการบ่อนทำลายอีกฝั่งหนึ่ง โดยมากมักเกิดขึ้นด้วยการกล่าวลอยๆ ไม่เจาะจงตรงไปตรงมาว่าพูดถึงใคร แต่มีการบอกใบ้ให้พอรู้ว่าเป็นใคร

การแซะมักเกิดขึ้นเนื่องจากผู้แซะ ‘พิพากษา’ แล้วว่า อีกฝ่ายหนึ่งกำลังทำอะไรบางอย่างผิด แต่กระนั้น ผู้แซะก็ไม่ต้องการจะใช้วิธีตรงไปตรงมาในการบอกกล่าวกับผู้ถูกแซะ ไม่ว่าจะด้วยวิธี ‘ดีๆ’ เช่น การระบุชื่อออกมาเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ เขียนหลังไมค์ไปหาตรงๆ นัดคุยกัน หรือด้วยการ ‘ด่า’ กันตรงๆ

ที่จริงแล้ว การแซะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในสมัยก่อนการแซะเกิดขึ้นในนามของการล้อเลียน โดยเฉพาะการล้อเลียนโดยใช้อารมณ์ขัน เช่นที่เราเห็นในการ์ตูนล้อการเมือง ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า มักเป็นการแซะของคนที่มีอำนาจน้อยกว่า (คืออยู่ด้านล่างของโครงสร้างสังคม) ค่อยๆ เซาะ ค่อยๆ แซะ ค่อยๆ สื่อ เพื่อให้คนอื่นเห็นถึงภัยของอำนาจที่อยู่ด้านบนกว่าและใหญ่กว่า โดยใช้อารมณ์ขันมาปกปิดเป็นเครื่องประดับ การแซะในแบบดั้งเดิมจึงเป็น ‘อาวุธ’ ของคนที่มีอำนาจน้อย ที่ใช้เพื่อต่อกรกับผู้มีอำนาจมากกว่า ในโลกออนไลน์ปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่า การแซะที่เกิดเป็นวงกว้าง ไวรัล และแพร่หลายไปได้ไกลๆ หรือพูดได้ว่าเป็นการแซะที่มีสัมฤทธิผล มักเป็นการแซะผู้มีอำนาจหรือสภาวะที่เป็นตัวแทนของอำนาจที่ใหญ่กว่าแทบทั้งนั้น

การแซะผู้มีอำนาจเหนือกว่า จึงคือความพยายา

255 Nameless Fanboi Posted ID:ZIcSjRMbwC

การแซะผู้มีอำนาจเหนือกว่า จึงคือความพยายามบ่อนทำลายที่ฐานราก โดยหวังว่าจะเกิดผลสะเทือนต่อเนื่อง เพราะมีคนอื่นๆ เห็นด้วยกับการแซะหรือการพิพากษานั้น แล้วค่อยๆ ส่งเป็นคลื่นกระเพื่อมออกไป จนในที่สุดก็ไป ‘ทำลาย’ ผู้ถูกแซะที่ตั้งตระหง่านเหมือนหอคอยให้ล้มครืน หรืออย่างน้อยที่สุดก็ค่อยๆ ทรุดลงมา

แต่ในโลกปัจจุบัน อำนาจของคนที่อยู่ในโลกออนไลน์นั้นค่อนข้างเท่าเทียมกันด้วยหลายเหตุผล ดังนั้น เราจึงมักพบเห็นการแซะอีกแบบหนึ่งได้บ่อยครั้งขึ้น

การแซะในแบบหลังนี้ ผู้แซะจึงมักต้องทำทีออกตัวเอาไว้ก่อนว่า ตัวเองเป็นคนไม่เก่ง รู้น้อย ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรนักหนาหรอก แต่จำเป็นต้องออกมาแซะเพราะมองเห็นถึงอันตรายบางอย่าง แต่การที่ผู้แซะบอกว่าตัวเงมี ‘ความสามารถ’ จะ ‘เห็น’ ถึงอันตรายที่ว่า โดยเนื้อแท้ก็คือการบอกเป็นนัยว่า ผู้แซะมีอะไรบางอย่าง ‘เหนือ’ กว่าผู้ถูกแซะ และในบางกรณีก็ ‘เหนือ’ กว่าผู้อ่านด้วย

256 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

พฤติกรรมใส่ร้ายป้ายสีคืออะไร? การใส่ร้ายป้ายสี คือ การกระทำที่จ้องทำลายผู้อื่นในทางร้ายด้วยใจอคติ โดยอาจแสดงผ่านการพูด การเขียน หรือการแสดงกิริยาต่างๆ โดยสิ่งที่พูดหรือเขียนหรือแสดงออกไปนั้นมักเป็นสิ่งทีบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง ใส่สีตีไข่ เพื่อทำให้ชื่อเสียงของคนอื่นเสียหาย บางกรณีอาจมุ่งหมายถึงให้พินาศวอดวายไปก็มี

257 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

สาเหตุของการเป็นคนที่ชอบใส่ร้าย ได้แก่

1. เคยเป็นคนที่ล้มเหลวมาก่อน คนที่ชอบใส่ร้ายผู้อื่นมักเป็นคนขี้น้อยใจ เพราะรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยกว่าผู้อื่นอยู่เสมอ ด้วยสาเหตุที่เคยล้มเหลวในชีวิตมาก่อน เช่น เคยสอบตกหรือสอบไม่ผ่านมาก่อน เคยไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน มีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลว เมื่อเห็นคนที่ดีกว่าหรือประสบความสำเร็จมากกว่า จึงทำให้รู้สึกเจ็บปวด ทนไม่ได้จนหาทางกลั่นแกล้งใส่ร้ายเพื่อให้คนๆ นั้นล้มเหลวเหมือนอย่างกับที่ตัวเองเคยประสบมา

258 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

2. เป็นคนมีปมด้อย ไม่ว่าจะเป็นปมด้อยเรื่องความรู้สึก เช่น ขาดความรักเพราะมาจากครอบครัวที่แตกแยกไม่อบอุ่น พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน หรืออาจเป็นคนที่มีปมด้อยทางร่างกาย เช่น โดนล้อตั้งแต่เด็กๆว่าอ้วน พูดไม่ชัด ติดอ่าง พิการ ไม่หล่อ ไม่สวย หรือมีปมด้อยทางสติปัญญา เช่น เรียนไม่เก่ง สอบตกๆ หล่นๆ ทำให้เกิดความฝังใจว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น จึงทำให้เกิดมีนิสัยอิจฉาริษยาชอบใส่ร้ายป้ายสีคนที่ดีกว่าตนเองเพื่อความสะใจอยู่เสมอ

259 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

ดังนั้น จึงอยากจะฝากทุกคนไว้ว่า การใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นนั้น เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ น่าชิงชัง และถือเป็นภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่สามารถทำลายชีวิตและชื่อเสียงของผู้อื่นได้ ทั้งๆ ที่คนที่เราไปใส่ร้ายเขานั้นอาจเป็นคนดี เป็นคนบริสุทธิ์ และถึงอย่างไรก็ตาม อยากให้เราคิดดูเถิดว่าเรามีสิทธิอะไรไปทำร้ายคนอื่น เพราะฉะนั้นใครที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ก็อยากให้หยุดและเลิกเสียเถิด เพราะสุดท้ายสิ่งร้ายที่เราทำไว้จะย้อนกลับมาทำลายตัวเราเองไม่วันใดก็วันหนึ่งอย่างแน่นอน

260 Nameless Fanboi Posted ID:E2dMY3gAt1

>>259 ย้ายบ้านไป Open chat หมดแร้วนะะะ
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

261 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

มันอาจจะรู้สึกแย่เวลาที่มีคนพูดลับหลังคุณ มันยากในการหาต้นตอเพราะการนินทาเหล่านี้แนบเนียน ด้วยเหตุผลนี้คุณอาจจะทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลงโดยการพยายามเผชิญหน้ากับคนที่นินทาคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือการเมินเฉยต่อพวกเขา คุณยังสามารถเข้าร่วมในกิจกรรมที่เป็นบวกเพื่อรับมือและพยายามเปลี่ยนแปลงมุมมองของคุณเกี่ยวกับการนินทา

ไม่ทำอะไรเลย. ถึงแม้ว่าคุณอาจจะต้องการแสดงตัวหรือหรือเผชิญหน้ากับคนๆ นั้นแต่บางครั้งการตอบโต้ที่ดีที่สุดของการนินทาคือการเมินเฉยมัน ลองนึกว่าใครคนนั้นไม่ได้พิจารณาการพูดสิ่งที่เขาพูดใส่หน้าคุณ เพราะฉะนั้นคุณไม่ควรสนใจที่จะสานต่อเรื่องนี้ ตัดไฟแต่ต้นลมโดยการเมินเฉยมัน [1]

262 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความปราณี. อีกหนึ่งการตอบโต้ของคนชอบนินทาคือทัศนคติที่ดีที่สุด พวกเขาจะรู้สึกผิดที่คุณทำตัวดีกับเขาในขณะที่เขาพูดให้ร้ายคุณ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากคุณมีทัศนคติที่เป็นบวกที่สุด คุณอาจจะทำให้เขารู้สึกผิดเหมือนกันพูดถึงคุณตั้งแต่แรก
ชมเชยคนอื่นอย่างจริงใจ เช่น “ตายแล้ว ริสา ฉันเห็นได้เลยว่าเธอตั้งใจทำแผ่นปลิวพวกนั้นมาก รูปภาพกราฟฟิกดูดีสุดๆ”[2]

จัดตั้งขอบเขตกับคนนินทา. ถ้าหากคุณต้องใช้เวลาจำนวนมากกับคนที่พูดลับหลังคุณ คุณสามารถกันพวกเขาออกห่างจากคุณหนึ่งช่วงแขน เพียงเพราะคุณต้องอยู่ร่วมกับพวกเขาไม่ได้แปลว่าคุณต้องทำตัวเหมือนเป็นเพื่อนรักกัน [3]
ให้ความเคารพแต่ปฏิเสธที่จะใกล้ชิดกับคนที่นินทา อย่าบอกเรื่องส่วนตัวของคุณให้พวกเขาฟังของพวกเขาจะสามารถเก็บข้อมูลเอาไว้นินทาคุณลับหลังต่อไป

263 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

หมวดหมู่ความสัมพันธ์ทางสังคม
วิธีการ การรับมือกับการมีคนพูดลับหลังคุณ
ร่วมเขียน โดย ทีมงานวิกิฮาว
ข้อมูลอ้างอิง

มันอาจจะรู้สึกแย่เวลาที่มีคนพูดลับหลังคุณ มันยากในการหาต้นตอเพราะการนินทาเหล่านี้แนบเนียน ด้วยเหตุผลนี้คุณอาจจะทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลงโดยการพยายามเผชิญหน้ากับคนที่นินทาคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือการเมินเฉยต่อพวกเขา คุณยังสามารถเข้าร่วมในกิจกรรมที่เป็นบวกเพื่อรับมือและพยายามเปลี่ยนแปลงมุมมองของคุณเกี่ยวกับการนินทา

วิธีการ 1 ของ 3:
การรับมือกับคนที่นินทาคุณ

1
ไม่ทำอะไรเลย. ถึงแม้ว่าคุณอาจจะต้องการแสดงตัวหรือหรือเผชิญหน้ากับคนๆ นั้นแต่บางครั้งการตอบโต้ที่ดีที่สุดของการนินทาคือการเมินเฉยมัน ลองนึกว่าใครคนนั้นไม่ได้พิจารณาการพูดสิ่งที่เขาพูดใส่หน้าคุณ เพราะฉะนั้นคุณไม่ควรสนใจที่จะสานต่อเรื่องนี้ ตัดไฟแต่ต้นลมโดยการเมินเฉยมัน [1]

2
ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความปราณี. อีกหนึ่งการตอบโต้ของคนชอบนินทาคือทัศนคติที่ดีที่สุด พวกเขาจะรู้สึกผิดที่คุณทำตัวดีกับเขาในขณะที่เขาพูดให้ร้ายคุณ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากคุณมีทัศนคติที่เป็นบวกที่สุด คุณอาจจะทำให้เขารู้สึกผิดเหมือนกันพูดถึงคุณตั้งแต่แรก
ชมเชยคนอื่นอย่างจริงใจ เช่น “ตายแล้ว ริสา ฉันเห็นได้เลยว่าเธอตั้งใจทำแผ่นปลิวพวกนั้นมาก รูปภาพกราฟฟิกดูดีสุดๆ”[2]

3
จัดตั้งขอบเขตกับคนนินทา. ถ้าหากคุณต้องใช้เวลาจำนวนมากกับคนที่พูดลับหลังคุณ คุณสามารถกันพวกเขาออกห่างจากคุณหนึ่งช่วงแขน เพียงเพราะคุณต้องอยู่ร่วมกับพวกเขาไม่ได้แปลว่าคุณต้องทำตัวเหมือนเป็นเพื่อนรักกัน [3]
ให้ความเคารพแต่ปฏิเสธที่จะใกล้ชิดกับคนที่นินทา อย่าบอกเรื่องส่วนตัวของคุณให้พวกเขาฟังของพวกเขาจะสามารถเก็บข้อมูลเอาไว้นินทาคุณลับหลังต่อไป

4
หาแรงกระตุ้นของคนที่บอกข่าว. ถ้าหากคนที่มาบอกข่าวคุณคือเพื่อนรักหรือคนที่คุณรู้จักดี คุณอาจจะต้องดูว่าพวกเขาหวังดีกับคุณจริงหรือเปล่า เพื่อนที่ดีส่วนใหญ่จะไม่กระจายข่าวเรื่องที่ไม่ดีเกี่ยวกับคุณที่จะทำให้คุณเสียใจ ถ้าหากบุคคลนี้มีส่วนร่วมในการนินทา คุณต้องดูว่าอะไรที่ทำให้พวกเขามาบอกคุณและวิธีที่พวกเขาโต้ตอบกับคำนินทา
คุณอาจจะถามคำถาม เช่น “เธอรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องนี้ถูกกระจายไปทั่ว?” คุณอาจจะถามแบบเรียบง่ายว่า “เธอมาบอกฉันทำไม?” เพื่อเข้าใจแรงกระตุ้นของพวกเขาให้ดีขึ้น
คุณไม่จำเป็นต้องจบความสัมพันธ์กับคนที่มาบอกข่าวแต่คุณควรระวังคนๆ นี้ให้มากขึ้น พวกเขาอาจจะไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์อย่างที่เห็น พวกเขาอาจจะใส่ไฟคำนินทาแทนที่พยายามจะหยุดมัน
อย่าสนใจคํานินทา. ถ้าหากคุณถูกนินทา คุณอาจจะรู้สึกแย่มาก อย่างไรก็ตาม การรู้สึกผิดต่อคำนินทาไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น บางคนชอบพูดเรื่องของคนอื่นแต่พวกเขาทำสิ่งนั้นไม่ได้ถ้าหากไม่มีคนรับฟัง
คราวหน้าที่ใครบางคนพยายามนินทาคุณ ลองพูดว่า “รู้ไหมว่าเรื่องนี้มันเริ่มกลายเป็นคำนินทา ฉันไม่อยากพูดถึงเธอถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้เพื่อยืนยัน” [4]

264 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

คุยกับคนที่มีอำนาจ. ถ้าหากคำนินทาที่เลวร้ายเริ่มแทรกแซงประสิทธิภาพการทำงานหรือการเรียนของคุณ คุณอาจจะต้องจัดการกับปัญหาให้เด็ดขาดมากขึ้น คุณครู คุณครูใหญ่หรือหัวหน้างานอาจจะสามารถหยุดปัญหานี้ได้
คุณสามารถพูดว่า “ฉันกำลังมีปัญหากับนักเรียน/ผู้ร่วมงานคนอื่น ฉันคิดว่าเขากระจายข่าวลือเกี่ยวกับฉันและมันมีผลต่อความสามารถในการจดจ่อกับการเรียน/การทำงาน คุณช่วยพูดกับเขาได้ไหม?”
นักเรียนหรือพนักงานที่เกี่ยวข้องอาจจะมีชื่อเสียงในด้านการนินทาหรือกลั่นแกล้ง เพราะฉะนั้นหัวหน้าของคุณอาจจะต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดกับเขา[5]

เบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง. มันอาจจะยากในการจดจ่อกับการเรียนหรือการทำงานเมื่อมีคนพูดลับหลังคุณ แทนที่จะใส่ใจกับข่าวลบๆ ใส่พลังของคุณลงไปในกิจกรรมที่เป็นบวกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
คุณสามารถจัดโต๊ะ ไปเดินเล่น คุยกับเพื่อนหรือกำหนดวันส่งงาน

ใช้เวลากับคนที่คิดบวก. เมื่อคนพูดลับหลังคุณ คุณอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยว จัดการความรู้สึกนี้โดยการพยายามอยู่กับคนที่ชื่นชมคุณ คนเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณอารมณ์ดี เพิ่มความมั่นใจในตัวเองและแม้แต่ทำให้คุณลืมคำนินทาหรือข่าวลือที่เป็นลบ [6]
โทรหาเพื่อนรักและชวนไปเที่ยว คุณยังสามารถใช้เวลากับคนรักหรือครอบครัว

265 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

เตือนตัวเองว่าคุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน. การถูกพูดถึงลับหลังอาจจะทำให้คุณข้องใจความแข็งแกร่งและความสามารถของคุณ อย่าตกเป็นเหยื่อของการวิจารณ์ตัวเอง พยายามจดจำคุณค่าของคุณในฐานะบุคคลโดยการไตร่ตรองว่าอะไรที่ทำให้คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยม นั่งลงและเขียนสิ่งเหล่านั้น
รวบรวมคุณสมบัติที่ดีของคุณ สิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเองและสิ่งที่คนอื่นชื่นชมเกี่ยวกับคุณ คุณสามารถเขียนว่า “เป็นนักฟังที่ดี” “เป็นที่พึ่งพาที่ดี” หรือ “มีความคิดสร้างสรรค์” [7]
ทำบางอย่างที่ดีให้กับตัวเอง. การกระทำที่เป็นบวกสามารถนำพาความคิดและความรู้สึกที่เป็นบวกได้ เมื่อคุณคิดทบทวนตัวเองเพราะโดนนินทา ปฏิบัติต่อตัวเองอย่างปราณีเช่นเดียวกับที่คุณปฏิบัติต่อเพื่อน ทำสิ่งที่คุณชอบ เช่น พาสุนัขไปเดินเล่นในสวนสาธารณะหรือทาสีเล็บเท้า หาเวลาทำบางอย่างที่ดีให้กับตัวเองทุกวัน [8]

อย่าเก็บมาใส่ใจ. คุณสามารถรับมือกับการมีคนพูดลับหลังได้โดยการนึกว่าคำพูดเหล่านั้นแสดงถึงตัวตนของพวกเขา ไม่ใช่คุณ คุณไม่สามารถเลือกสิ่งที่คนอื่นพูดถึงคุณได้แต่คุณสามารถเลือกวิธีที่คุณโต้ตอบมันได้ ตระหนักว่าคำนินทาเหล่านั้นคือบางอย่างที่คนอื่นต้องการทำให้กับพวกเขา ปฏิเสธที่จะตกเป็นเหยื่อของปัญหาของคนอื่น [9]

266 Nameless Fanboi Posted ID:oi2a.YXUUE

รับรู้ว่าพวกเขาอาจจะอิจฉา. มันอาจจะไม่รู้สึกแบบนั้นเวลาที่มีคนพูดถึงคุณในแง่ลบแต่บ่อยครั้งที่มันมีบางอย่างเกี่ยวกับคุณที่ทำให้พวกเขากลัว ใครคนนั้นอาจจะอิจฉารูปร่างหน้าตา ความสามารถหรือความมีชื่อเสียงของคุณ คำพูดที่น่าเกลียดของพวกเขาเป็นวิธีในการทำร้ายคุณ [10]

ตระหนักถึงความเชื่อมั่นในตัวเองที่ต่ำ. อีกแรงกระตุ้นที่พบได้บ่อยของคนที่ชอบนินทาคือการมีความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำ ผู้คนที่พูดถึงคุณไม่ดีอาจจะทำสิ่งนั้นเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น เขาอาจจะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองหรือขาดความเคารพในตัวเองเป็นประจํา ผลลัพธ์คือการที่พวกเขาพูดไม่ดีเกี่ยวกับคนอื่นเช่นกัน [11]
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการปฏิบัติตัวอย่างปราณีหรือชื่นชมคนที่นินทาคุณจะสามารถจบความคิดเห็นที่เป็นลบเกี่ยวกับคุณได้ คนหล่อนี้อาจจะเพียงต้องการความสนใจที่เป็นบวกเพราะพวกเขารู้สึกแย่ลึกลงไปในตัวของพวกเขาเอง

267 Nameless Fanboi Posted ID:2Afd6CD9Dl

กูขอถามหน่อย ไม่รู้ถูกมู้ไหม พอดีเหลือบไปเห็นดราม่าเอาหนังสือมารีเซลละบวกกำไร 200 (คนที่เขียนเรื่องญปโบราณ) กูสงสัยตรงนี้นิดนึง ทำไมเขาด่าแม่ค้าสาดเสียเทเสียขนาดนั้นวะ กูเก็ตตรงที่ว่า มันมีราคาปกติที่ นข ขาย แล้วก็มีราคาอัพของแม่ค้า แม่ค้าเขาก็ต้องซื้อมาเพื่ออัพราคา ใครอยากได้จริงๆ ไปเสิร์ชก็ต้องขึ้นอยู่แล้วว่าแอค นข มี(หรือเปล่าไม่แน่ใจ กูไม่ได้ตาม แต่เห็นดราม่าแล้วสงสัย)
กูอยู่ในวงการอื่นด้วยที่การอัพเซลส์รอบพรีเป็นเรื่องปกติ พอมาเจอวงการนิยายวายเลยงงๆว่าเขาแบนกันขนาดนั้นหรือพวกนี้ฟาดหัวฟาดหางเกินเบอร์

268 Nameless Fanboi Posted ID:JbJ/502zZc

>>267 ไม่รู้เรื่องไหนนะ แต่น่าจะเพราะเงินที่อัพราคาไม่ได้เข้านักเขียนมั้ง มีช่วงนึงก็เห็นนักเขียนที่ทำเล่มเองบ่นๆอยู่

269 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

ยิ่งโตขึ้นเท่าไรสังคมของเราก็จะยิ่งกว้างขึ้น ทำให้ต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา แต่จะมีสักกี่คนที่เป็นมิตรแท้กับเราจริง ๆ บางคนหน้าตาท่าทางดูดี แต่พอรู้จักได้สักพักกลายเป็นพวกปากหวานก้นเปรี้ยวซะงั้น บางคนมาแบบใส ๆ แบ๊ว ๆ แต่ที่ไหนได้ร้ายยิ่งกว่านางร้ายในละครซะอีก เหมือนคำที่โบราณว่าไว้ “รู้หน้าไม่รู้ใจ” ดังนั้น เราต้องรู้จักสังเกตไว้แต่เนิ่น ๆ ว่าคนไหนเป็นมิตรแท้ คนไหนเป็นศัตรูในคราบมิตร ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
เพื่อนที่เอาแต่พูดคำหวาน
เพื่อนบางคนเข้าตำรา ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ต่อหน้าเราก็พูดจาหวานไพเราะเสนาะหูจนเราหลงคารมไว้ใจ พอลับหลังกลับเอาเราไปนินทาว่าร้าย หรือเอาความลับของเราไปขยายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าเป็นมิตรแท้จะพูดเหมือนกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง รวมทั้งช่วยเก็บความลับของเราด้วย

270 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

เพื่อนที่คอยเยินยอเราตลอดเวลา
เราทุกคนล้วนชอบคำชื่นชมจากคนอื่นทั้งนั้น แต่ถ้าเพื่อนเอาแต่เยินยอเราทุกเรื่องแม้แต่เรื่องที่เราทำผิดพลาด อาจจะทำให้เราหลงไปกับคำเยินยอของเขาจนไม่รู้ว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก สิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาอาจจะมีจุดประสงค์ร้ายต่อเรา ต้องการทำให้เราดูแย่ในสายตาคนอื่น หรือหวังประโยชน์อะไรจากตัวเรา ถ้าเป็นมิตรแท้ควรตักเตือนในเรื่องที่เราทำผิดพลาดด้วยความจริงใจ
เพื่อนที่คอยกดเราให้ต่ำ
เพื่อนประเภทนี้มักจะตั้งใจพูดเกทับ ชอบยกเรื่องที่เหนือกว่ามาข่มเราเป็นประจำ เช่น ชอบอวดแฟน อวดเสื้อผ้าแบรนด์เนม อวดเงินเดือน เขาจะทำเหมือนพูดเล่าให้ฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไร พร้อมตบท้ายปลอบใจไม่ให้เราคิดมากที่ด้อยกว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาฟินแต่กลับทำให้เรารู้สึกแย่ หมดกำลังใจ ถ้าเป็นมิตรแท้จะไม่ยกตนข่มท่านแบบนี้เด็ดขาด

271 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

เพื่อนที่คอยกดเราให้ต่ำ
เพื่อนประเภทนี้มักจะตั้งใจพูดเกทับ ชอบยกเรื่องที่เหนือกว่ามาข่มเราเป็นประจำ เช่น ชอบอวดแฟน อวดเสื้อผ้าแบรนด์เนม อวดเงินเดือน เขาจะทำเหมือนพูดเล่าให้ฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไร พร้อมตบท้ายปลอบใจไม่ให้เราคิดมากที่ด้อยกว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาฟินแต่กลับทำให้เรารู้สึกแย่ หมดกำลังใจ ถ้าเป็นมิตรแท้จะไม่ยกตนข่มท่านแบบนี้เด็ดขาด
เพื่อนที่เอาแต่นินทาคนอื่นให้เราฟัง
เพื่อนบางคนว่างเป็นไม่ได้ชอบเอาคนอื่นมานินทาลับหลังอยู่เสมอทั้ง ๆ ที่เรื่องเหล่านั้นไม่เกี่ยวกับเราเลยแม้แต่น้อย แค่เพราะความสนุกปาก ลองคิดดูนะ ถ้าเขานินทาคนอื่นได้ เขาก็นินทาเราได้เช่นกัน
เพื่อนที่ชอบทำหน้าแบ๊วไม่รู้เรื่องตลอดเวลา
ในชีวิตไม่ว่าที่โรงเรียนหรือที่ทำงานเราคงต้องเจอเพื่อนประเภทหน้าใส ๆ แบ๊ว ๆ ไม่รู้เรื่องตลอดเวลา เช่น เวลาทำงานผิดพลาด เขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หรือถ้าอยู่ทีมเดียวกันแล้วทำงานพลาดเขาจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ พร้อมทำหน้าตาอินโนเซ้นท์ เจ้านายก็มักจะเอ็นดูไม่เอาเรื่องเอาราว ปล่อยให้เรารับไปเต็ม ๆ ถ้าเป็นมิตรแท้จะร่วมกันรับผิดชอบโดยไม่อิดออด

272 Nameless Fanboi Posted ID:00QCIdf.E6

>>267 เขารู้สึกว่าทำนาบนหลังเขาน่ะ เขาก็มีสิทธิ์บ่นแหละ

273 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

เพื่อนที่ชอบทำหน้าแบ๊วไม่รู้เรื่องตลอดเวลา
ในชีวิตไม่ว่าที่โรงเรียนหรือที่ทำงานเราคงต้องเจอเพื่อนประเภทหน้าใส ๆ แบ๊ว ๆ ไม่รู้เรื่องตลอดเวลา เช่น เวลาทำงานผิดพลาด เขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หรือถ้าอยู่ทีมเดียวกันแล้วทำงานพลาดเขาจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ พร้อมทำหน้าตาอินโนเซ้นท์ เจ้านายก็มักจะเอ็นดูไม่เอาเรื่องเอาราว ปล่อยให้เรารับไปเต็ม ๆ ถ้าเป็นมิตรแท้จะร่วมกันรับผิดชอบโดยไม่อิดออด
เพื่อนที่หายตัวทุกทีเวลามีปัญหา
เคยกันไหมพอมีปัญหาเกิดขึ้นกับตัวเองทีไร เพื่อนหายตัวได้ยังกับนินจาเต่า แต่พอเขามีปัญหามักมาขอความช่วยเหลือกับเรา มีเรื่องทุกข์ใจก็มาระบายให้เราฟัง ถ้าเป็นมิตรแท้จะคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจเราเสมอ
เพื่อนที่ชอบมีข้ออ้างตลอดเวลา
เวลาต้องแบ่งทำงาน หรือต้องทำโอที เพื่อนประเภทนี้มักจะสรรหาสารพัดข้ออ้างมาเสมอ เช่น ปวดหัว, ตัวร้อน, มีธุระด่วนที่บ้าน ฯลฯ ปัดความรับผิดชอบด้วยการทิ้งงานให้เราทำ แต่พองานเสร็จกลับรีบมาเอาหน้าตลอด ถ้าเป็นมิตรแท้จะไม่เอาเปรียบเราแบบนี้
เพื่อนที่แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ
เพื่อนประเภทนี้ดูยากมาก บางทีเรารู้ตัวอีกทีอาจโดนแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจจนแผลเหวอะหวะไปแล้วก็ได้ เช่น เจอกันต่อหน้าปกติมาก แต่ไป ๆ มา ๆ แฟนเรากลายเป็นแฟนเขาซะงั้น มีงงกันไปเป็นแถบ ๆ หรือบางคนที่เรารู้สึกว่าเขาดีกับเรามาตลอดแต่กลับเอาเราไปพูดใส่ร้ายให้คนอื่นไม่ชอบหรือหมั่นไส้เรา เป็นต้น ถ้าเป็นมิตรแท้จะจริงใจไม่อิจฉาริษยา หรืออยากได้ของของเรา

274 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

ในโลกแห่งความจริงเรามีโอกาสที่จะเจอเพื่อนรักเพื่อนร้ายได้ตลอดเวลา ดังนั้น เราต้องหาวิธีป้องกันตัวเอง รู้เขารู้เรา คอยสังเกตพฤติกรรมของเขาทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถ้าเจอคนประเภทนี้เราก็ไม่ควรนำตัวเองเข้าไปสุงสิง แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงคนที่เป็นศัตรูในคราบมิตรได้ เราควรรับมือกับปัญหาด้วยสติ ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ไม่เต้นไปตามเกมของเขา ให้เลือกใช้วิธีนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ในกรณีกลับกันถ้าเราเจอมิตรแท้แล้วก็ควรถนอมมิตรภาพนั้นไว้ให้ยืนยาว

275 Nameless Fanboi Posted ID:2Afd6CD9Dl

>>268 เรื่องญปที่ตัวเอกเป็นโสเภณี ไม่รู้ญปเรียกอะไร แต่นั่นแหละ พอเข้าใจ ก็คือเพราะกำไรตรงนั้นไม่เข้าคนเขียน
>>272 โอเค กูยิ่งเห็นภาพมากขึ้นและ กูไม่ใช่สายเขียนหรือทำเล่มและคิดว่าแม่ค้าก็ทำให้ยอดขายเดิน กูเลยงงๆว่าทำไมเขาถึงเหวี่ยงขนาดนั้น เขาใช้คำว่า ไม่ได้มาเสียค่าไฟค่าพิมพ์จัดหน้าหรือทำเล่มด้วย เอากำไรไปฟรีๆเลย กูก็เอ้า เพราะวงที่กูอยู่การซื้อมาเพื่ออัพเป็นเรื่องปกติมาก แต่ความลำบากของการทำหนังสือมันอาจต่างกันก็ได้

276 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

โสเภณีเป็นมรดกวัฒนธรรมของสังคม วัฒนธรรมคือ พฤติกรรมร่วมของมนุษย์หมู่หนึ่ง สังคมหนึ่งที่ประพฤติปฏิบัติร่วมกัน รับสืบทอดต่อกันเป็นมรดกวัฒนธรรม โสเภณีเป็นพฤติกรรมร่วมดังกล่าว ย่อมสืบทอดเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงตามสภาพการณ์และเวลาของสังคมนั้น

โสเภณีมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่โสเภณีสมัยนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะดังนี้ :

277 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

ศิลปวัฒนธรรมศิลปวัฒนธรรม
หน้าแรก ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
วัฒนธรรมโสเภณี แก้เหงาไม่เฉามือ..จากสมัยพุทธกาลถึงรัตนโกสินทร์

(ภาพประกอบเนื้อหา)
ที่มา ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมีนาคม 2536
ผู้เขียน พล.ร.ต.สมภพ ภิรมย์
เผยแพร่ วันพฤหัสที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2563
โสเภณีเป็นมรดกวัฒนธรรมของสังคม วัฒนธรรมคือ พฤติกรรมร่วมของมนุษย์หมู่หนึ่ง สังคมหนึ่งที่ประพฤติปฏิบัติร่วมกัน รับสืบทอดต่อกันเป็นมรดกวัฒนธรรม โสเภณีเป็นพฤติกรรมร่วมดังกล่าว ย่อมสืบทอดเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงตามสภาพการณ์และเวลาของสังคมนั้น

โสเภณีมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่โสเภณีสมัยนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะดังนี้ :

1. รูปร่างดี คือ สวย
2. เล่นดนตรีได้
3. ขับร้องได้
4. ฉลาดในการปฏิสันถาร คือ รับแขก

ในสมัยพุทธกาล เช่น นางสิริมาเป็นโสเภณี เมื่อได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วสำเร็จโสดาบัน และภิกษุณีวงศ์เคยเป็นโสเภณีมีค่าตัวครึ่งเมืองสีกา เป็นตัวอย่างในโบราณกาล ท่านแพทย์ชีวกโกมารภัจ ท่านเป็นบุตรนางสาลวดี นางบำเรอประจำกรุงราชคฤห์ (จากหนังสือเรื่อง โกมารภัจ)

โดยเฉพาะหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นครโตเกียวของญี่ปุ่นคลาคล่ำไปด้วยโสเภณียืนตามบาทวิถีในค่ำคืน เชิญชวน “ร่วมรสรัก” โดยเฉพาะบริเวณอาซักกูซ่า การปรนนิบัติบางแห่ง “ยอดเยี่ยม” คือมี “ห้องหอรอรัก” บนเสื่อปูนวมแล้วนำอิฐเผาให้ร้อนวางไว้ นำนวมคลุมทับทำให้อบอุ่นเป็นที่นอน “ร่วมรสรัก” เยี่ยมมาก แต่เมื่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นปัจจุบันดีมากจนเป็น “สัตว์เศรษฐกิจ” โสเภณีญี่ปุ่นก็วูบหายวับไป

278 Nameless Fanboi Posted ID:cDbHh1wrMc

ในประเทศเยอรมนี หลังสงครามในนครฮัมบูร์ก ย่านซังเปาลีหรือริบเปอร์บานก็เต็มไปด้วยโสเภณีถนนราคาไม่แพง ในประเทศเนเธอแลนด์ประมาณ พ.ศ. 2500 ที่นครเฮกและนครอัมสเตอร์ดัม นางในห้องกระจกนั่งเชิญชวนให้ชม-เชย-ชิด ทุกค่ำคืนมีทุกสาวแส้และพะโล้

ในประเทศอียิปต์ กรุงไคโรนับว่าวิเศษยอดเยี่ยมในโลก คือ กลางแม่น้ำไนล์จะมีเรือขนาดกลางรวบรวมโสเภณีไว้ประมาณ 15-20 นาง มีเรือแจวจากท่าริมฝั่งให้หนุ่มกลัดมันไปเลือก แล้วพาไปนอนในเรืออีกลำหนึ่งเรียกว่าเรือเรือนหอ นอนร่วมรสรักแนบชิดสนิทสเน่หากลางแม่น้ำไนล์

ครั้งหนึ่งที่คลองแสนแสบประตูน้ำประทุมวันก็ลอยเรือโสเภณีแบบนี้ แต่บรรยากาศไม่ Romantic เลย กรุงลอนดอน แถว BAY WATER ไฮด์ปาร์ก โสเภณีก็มีไม่น้อยและใช้สุมทุมพุ่มไม้เป็นเรือนหอ หรือจะยืนใช้เสื้อฝนคลุมถ้าปฏิบัติได้ถนัด

ขอกลับมาที่ประเทศไทยสมัย พ.ศ. 2480 หรือกว่านั้น คุณแก่คุณหนุ่ม ต้องรู้จัก “ซอยทรัพย์” โดยเฉพาะนิสิตชายจุฬาฯ ต้องรู้จักแน่ ๆ เพราะหลังจากกินซากเนื้อสัตว์เนื้อเปื่อยเป็นอาหารเย็นแล้ว นิสิตชั้นดีก็เตร่ไปซอยทรัพย์เพื่อรับ “โรค” เป็นประเพณีอย่างหนึ่ง

279 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

“สพานถ่าน” ใคร ๆ ก็รู้จักว่าเป็นย่านโสเภณีราคาถูก ซอยข้างเรือนจำลหุโทษ หรือถนนซอยหลังร้านขายเครื่องหวาย ถนนหน้าโรงหวย ตรอกเต้า ตรอกโพธิ์ ถนนอนุวงศ์มีโสเภณีกวางตุ้ง นุ่งกางเกงในวัับ ๆ แวม ๆ ล่อใจอยู่ทั้งกลางวันกลางคืน บ้านป้าอบ บ้านป้าหยิบ ดงกล้วย ย่านแพร่งสรรพศาสตร์ ย่านถนนวิสุทธิกษัตริย์ สำหรับอุปกรณ์ที่สำคัญจำเป็นของโสเภณีคือ “กระโถน 1 ใบ น้ำสะอาด 1 ขวด” โสเภณีจะหิ้วของสองสิ่งนี้ขึ้นไปกับหนุ่ม-แก่กลัดมัน เรียกว่า “ขึ้นห้อง” หนุ่มบริสุทธิ์จะเริ่มเที่ยวครั้งแรกนั้นเรียกเป็นภาษาเฉพาะว่า “ไปขึ้นครู”

280 Nameless Fanboi Posted ID:E2dMY3gAt1

>>276-279 กูเปิดวิกิหาเองได้ ขอบใจ

281 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

มารยาทในการร่วมเพศ

มารยาทที่ถูกต้องในการขอร่วมเพศและหลังจากนั้นก็คิดกันเอาเอง
การที่จะขอคนอื่นร่วมเพศควรจะกระทำอย่างมีสติและมีมารยาท และไม่บังคับผู้อื่น มันจะเป็นการไม่ดีที่ถ้าเขาไม่อยากร่วมเพศกับคุณ แต่คุณดันไปใช้กำลังบังคับเขาร่วมเพศ เพราะฉะนั้นจึงควรมีมารยาทถ้าเราอยากร่วมเพศ โดยการขอร่วมเพศก่อน วิธีการคือยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อเชื้อเชิญให้ร่วมเพศ ถ้าฝ่ายตรงข้ามยินดีจะร่วมเพศ เขาจะสนองด้วยการร่วมเพศตอบเอง

เพื่อน ๆ คะ สงสัยค่ะ ว่าเงินค่าขอร่วมเพศหรือเงินสินสอด (ถ้าต้องใช้) จำเป็นไหมว่าต้องเป็นแบงค์ใหม่คะ...
— ท่านผู้นั้นถาม

ถ้าเป็นอ้นกับเบสจะร่วมเพศกัน เงินทองต่าง ๆ เหล่านั้นก็ไม่จำเป็นเลย
— ไอพีลึกลับตอบ

สินสอดอาจจะไม่จำเป็น แต่ของที่จะสอดจำเป็นมากครับ
— ขอตอบ

ภาพของคนที่กำลังร่วมเพศกับสุนัข
การร่วมเพศวิธีอื่นๆ
การร่วมเพศนั้นไม่ได้มีวิธีเดียว หากแต่มีหลายวิธี ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันออกไปด้วย

ออรัลเซ็กซ์
ออรัลเซ็กซ์ เป็นการร่วมเพศโดยใช้ปาก ลิ้น หรือกระทั่งลำคอ โดยการใช้นิ้วมือล้วงเขาไปในลำคอ แล้วทำการสัมผัสไปยังลิ้นไก่ชั่วครู่ จนผู้ที่ทำการร่วมเพศ (หรือตนเองในขณะที่ทำคนเดียว) มีอาการกระตุกเกร็งบริเวณช่องท้อง จนกระทั่งปล่อยของเหลวออกมาจากสะดือจึงเป็นอันเสร็จพิธี

เอนัลเซ็กซ์
เอนัลเซ็กซ์ (อะนัลเซ็กซ์ ก็ว่า) เป็นเซ็กซ์ผ่านทางทวารหนักโดยการใช้นิ้ว, ฝ่ามือ หรือไม้เรียว สัมผัสไปยังแก้มก้นอย่างเต็มแรง เพื่อให้ผู้ถูกสัมผัสมีอารมณ์ไปถึงจุดสุดยอด

ในอดีต ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ ครูมวย หรือ ครูไวใจร้าย นิยมลงโทษนักเรียนโดยการบังคับทำเอนัลเซ็กซ์กับนักเรียนคนนั้น

282 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

ประโยชน์ของการร่วมเพศ
การร่วมเพศ เป็นกิจกรรมปกติของสัตว์ที่ปฏิสัมพันธ์โดยอาศัยเพศ เป็นกิจกรรมที่เริ่มต้นการปฏิสัมพันธ์ เพื่อให้กำเนิดมิตรภาพใหม่

ในกรณีของสัตว์บางประเภท โดยเฉพาะสัตว์ที่มีวิวัฒนาการทางสังคมสูง การร่วมเพศ เป็นได้ทั้งการทำสัญญา การฆ่าเวลา การกีฬา การแข่งขัน การลดน้ำหนัก การบริหารร่างกาย การขายประกัน การลงโทษ การแก้แค้น และการปลดปล่อย เพื่อความบันเทิง

283 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

การสำเร็จความใคร่ คือ การกระตุ้นมือของตนเองจนถึงจุดสุดยอด รวมถึงการให้ผู้อื่นเป็นฝ่ายกระตุ้นได้ด้วย การสำเร็จความใคร่เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง รวมถึงการใช้เซ็กส์ทอย และการกระตุ้นโดยไม่ร่วมเพศ นอกจากนี้ ยังอาจใช้เครื่องมือเพื่อให้ช่วยให้รู้สึกว่ากำลังร่วมเพศจริงๆได้

การสำเร็จความใคร่และการมีเพศสัมพันธ์ จัดว่าเป็นกิจวัตรทางเพศอย่างหนึ่ง แต่ทั้งสองไม่เป็นกิจกรรมหลักอย่างเดียว (ตัวอย่างเช่น มีบางคนที่จะหาคนมาช่วยสำเร็จความใคร่ให้กันและกัน เพื่อให้ปลดปล่อยความใคร่ได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องมีการร่วมเพศกันจริงๆ ซึ่งการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองนั้นลดอัตราเสี่ยงการติดเอดส์และไม่มีโอกาสตั้งครรภ์โดยสิ้นเชิง(ถ้าไม่เล่นพิเรน)

สำหรับสัตว์ พบว่ามีการสำเร็จความใคร่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ซึ่งมักจะไม่ทำกันในเมือง แต่ทำกันในป่าหรือในถ้ำ ส่วนสัตว์เลื้อยคลานมักทำกันในที่ทำการพรรค

สารบัญ
1 วิธีสำเร็จความใคร่
1.1 ผู้หญิง
1.2 ผู้ชาย
2 ความถี่ อายุ เพศ
3 วิดีโอ
4 บทความที่เกี่ยวข้อง

284 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

วิธีสำเร็จความใคร่

นิ้วทิ่มรู
วิธีสำเร็จความใคร่ของหญิงและชาย จะเกี่ยวข้องกับการลูบไล้หรือคลึงบริเวณมือ ด้วยนิ้วหรือวัตถุต่างๆเช่น หมอน สอดนิ้วหรือวัตถุเข้าไปในง่ามนิ้วมือ กระตุ้นนิ้วมือหรือเล็บด้วยไวเบรเตอร์ ซึ่งอาจสอดใส่ได้ทั้งง่ามมือและง่ามเท้า ขณะที่กำลังสำเร็จความใคร่ ทั้งชายและหญิงอาจจะมีความสุขกับการสัมผัส ถู คลึงที่ข้อมือ หรือบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก ทั้งชายและหญิงอาจใช้สารหล่อลื่นเพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกได้

การสำเร็จความใคร่มักกระทำร่วมกับการดูหนังโป๊ หนังสือเปลือย การ์ตูนโป๊ เว็บโป๊ หรืออ่านเรื่องลามก เพื่อสร้างอารมณ์ให้เหมือนกับว่าได้มีการร่วมเพศจริงๆอยู่ บางคนอาจจะสร้างได้ด้วยการถูกหรือเห็นผู้อื่นทรมาน ร้องครวญคราง หรือการที่ได้เห็นสุนัขปี้กัน หรือแม้กระทั่งการมองผู้หญิงที่แต่งกาย แต่งหน้า ทำผม ฯลฯ ให้ดูโดดเด่นกว่าผู้หญิงทั่วไป หรือการมองผู้หญิงที่แต่งกายโป๊หรือวาบหวิว

วิธีการสำเร็จความใคร่มักมีหลากหลายวิธี แต่ที่สำคัญคือต้องสามารถกระตุ้นจุดรับสัมผัสให้ได้ ถึงแม้จะทำร่วมกับสิ่งอื่นๆ ไม่ว่าเชือก แส้ เทียนไข ม้าไม้ ดิลโด้ ปีโป้ สาก ฯลฯ แต่ก็ยังไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้ โดยจุดรับสัมผัสที่สำคัญของทั้งชายและหญิงจะอยู่ที่บริเวณฝ่ามือ จึงไม่น่าแปลกใจนักที่การช่วยตัวเองมักจะต้องสัมผัสบริเวณนี้อยู่เสมอ

285 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

ผู้หญิง

การตกเบ็ดซึ่งเป็นวิธีสำเร็จความใคร่ของผู้หญิง

เครื่องยนต์แวงเคิล แสดงวิธีการช่วยตัวเองของผู้หญิง
การสำเร็จความใคร่ของผู้หญิงนั้น แม้ว่าจะไม่ค่อยมีผู้หญิงเขาทำกัน (เห็นมีแต่ในหนังที่ทำ) แต่กลับมีหลากหลายวิธีกว่าของผู้ชาย แตกต่างกันไปตามปัจจัยและรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน วิธีสำเร็จความใคร่ทำได้โดยการลูบหรือคลึงที่ฝ่ามือโดยเฉพาะที่ร่องที่อยู่กลางฝ่ามือ หรือที่โคนเล็บ ด้วยนิ้วกลางหรือนิ้วชี้ ที่เรียกกันว่า ตกเบ็ด หรืออาจใช้หลายๆนิ้วสอดใส่เข้าไปในง่ามนิ้วและลูบบริเวณผนังด้านหน้าซ้ำๆ (จากงานวิจัยของ มาสเตอรส์ และ จอห์นสัน พบว่า 10% ของผู้หญิงเท่านั้นที่ถึงจุดสุดยอดได้โดยการกระตุ้นที่ฝ่ามืออย่างเดียว) สามารถใช้ไวเบรเตอร์ หรือ ดิลโด้ เพื่อช่วยกระตุ้นฝ่ามือและง่ามมือได้ การกระตุ้นทางหลังมือก็ทำให้มีความสุขได้เช่นกันเพราะมีปลายประสาทอยู่บริเวณนั้นหลายพันเส้น

บางครั้งก็มีการใช้สารหล่อลื่น โดยเฉพาะในส่วนที่ทะลุผ่านเข้าไป แต่ก็ไม่ได้ทำกันทุกคน เพราะผู้หญิงหลายคนก็มีสารหล่อลื่นที่หลั่งมาเองเพียงพออยู่แล้ว บางคนจะหลั่งสารหล่อลื่นออกมาได้มากเมื่ออยู่กับผู้อื่น ดูเหมือนจะเป็นเหตุผลทางด้านสภาพจิตใจ

ผู้หญิงหลายคนสำเร็จความใคร่ในอ่างอาบน้ำ หรือบ่อน้ำร้อน บางครั้งก็ใช้น้ำอุ่นกระตุ้นนิ้วมือ ท่าที่ใช้กันส่วนใหญ่คือท่านอนหงาย นอนคว่ำ นั่ง นั่งยองๆ และยืน บางคนอาจนอนคว่ำแล้วคร่อมกับหมอน หรือขอบเตียง หรือม้วนเสื้อผ้าแล้วใช้สันมือหรือฝ่ามือถูกับมัน บางคนก็ยืนถูกับมุมของเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่เครื่องซักผ้าก็ใช้กระตุ้นฝ่ามือผ่านสันมือได้

บางคนถึงจุดสุดยอดได้ด้วยการประสานมือและเกร็งนิ้ว ซึ่งช่วยสร้างแรงกดที่ง่ามนิ้วได้ วิธีนี้ใช้ได้ผลในที่สาธารณะที่ไม่มีใครจ้องมอง บางคนอาจใช้การกดเพียงอย่างเดียวที่ข้อนิ้วโดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง เช่นการกดฝ่ามือหรือข้อมือที่ชุดชั้นในหรือเสื้อผ้าอื่นๆ

286 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

ความถี่ อายุ เพศ
ความถี่ของการสำเร็จความใคร่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความถี่ของอารมณ์ทางเพศ, ระดับฮอร์โมนเพศ, สถานภาพ โสดหรือแต่งงานแล้ว ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน มีคู่แล้วหรือยัง ถ้ามีแล้ว มีกี่คน เขาเป็นคนอย่างไร ฯลฯ

อย่างไรก็ตามการสำเร็จความใคร่ไม่ได้ทำให้มีขนขึ้นที่ฝ่ามือ อย่างที่พวกมือถือสากปากถือศีล บางส่วนพยายามจะพูดเพื่อหลอกไม่ให้เด็ก ป.5 ช่วยตัวเองก่อนเวลาอันควร เพราะถ้ามีขนขึ้นที่นั่นจริงๆ คงจะถอนหรือโกนออกได้โดยง่าย แต่เวลาที่ควรจะเริ่มทำนั้น คือ ช่วงอายุ 13 - 18 ปี ถ้าหลังจากช่วงอายุนี้ จะทำให้ ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไปมาก และมีอาการผิดปกติของฮอร์โมน ในช่วงเวลาต่อมา

287 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

จุดสุดยอด
ไปยังการนำทางไปยังการค้นหา
Wikisplode.gif
สำหรับผู้ที่ไร้อารมณ์ขันสิ้นดี เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่วิกิพีเดียมีบทความที่โคตรมีสาระ ที่นี่!
จุดสุดยอด เป็นสถานที่อยู่ที่ชั้นเหนือสุดหรือชั้นสูงสุด เช่น ดาดฟ้าบนยอดตึกไทยคู่ฟ้า, ยอดดอยอินทโมน หรือที่อำเภอแม่ซ้าย จังหวัดเตียงลาย เป็นต้น

หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ การถึงจุดหมายสูงสุดในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้วยจุดหมายที่คาดหวังมาตั้งแต่ต้น หรือจุดหมายที่ได้รับมาโดยไม่ได้คาดหวัง เช่น การบรรลุอธรรมขั้นสูงสุดของท่านศาสดาหมูแฮม

ในปัจจุบัน การไปถึงจุดสุดยอดของตัวแทนจากช่องทีไอ้ทีวี ถือเป็นปฏิบัติการเกียรติยศเลยทีเดียว เนื่องจากสภาพของร่างกายในขณะไปสู้จุดสุดยอดนั้น อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะจากอาการหัวใจวายเพราะอากาศไม่เพียงพอ

288 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

การถึงจุดสุดยอดด้วยโปรแกรมมึงเกิลเอิร์ธ

ธงที่มันปักไว้ในมึงเกิลเอิร์ธมาโผล่ได้ยังไง
ข่าวการถึงจุดสุดยอดด้วยมึงเกิลเอิร์ธของชายคนหนึ่ง
ข้อมูลปกปิด
บทความที่เกี่ยวข้อง
จุดเอ
การเสพกราฟฟิกนั้น ประหนึ่งจุดสุดยอดของบางคนเลยทีเดียว

289 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

เคราะห์กรรมของคนช่างนินทา
เรื่องโดย วารี

คุณเคยได้ยินกลอนบทนี้ของท่านสุนทรภู่บ้างไหม

“อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน แค่องค์พระปฏิมายังราคิน คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา”

แม้คำนินทาจะอยู่คู่โลกทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ดิฉันก็ไม่คิดว่าการพูดนินทาคนอื่นจะเป็น “กรรม” หนักหนาสาหัสอะไร เพราะใครๆก็คงเคยพูดนินทาทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจกันมาบ้าง

ครั้งหนึ่งดิฉันเคยไปฟังพระเทศน์เกี่ยวกับการนินทา พระท่านเป็นผู้มีความรู้ จึงคิดบัญญัติศัพท์เกี่ยวกับการนินทาด้วยคำชวนหัวว่า นินทาวิทยา ( Gossipology ) ตามความหมายและคำแปลจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานให้ความหมายว่า นินทาคือ “คำติเตียนลับหลัง”

แต่พระท่านว่า หากพิจารณาจากที่ไปที่มาและสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ในสังคมอาจหมายรวมไปถึงการตำหนิ เพราะผู้พูดไม่ชอบใจ ผู้พูดไม่สบอารมณ์ และไม่ตำหนิต่อหน้าหรือไม่ได้ว่ากล่าวตักเตือนต่อหน้า แต่กลับนำเรื่องของเขาไปตำหนิลับหลัง ทั้งๆที่เขาเป็นคนดี ทั้งๆ ที่เขาทำดีอยู่แล้ว เพราะการนินทาหมายถึง การเล่าเรื่องในทางที่ไม่ดี เล่าเรื่องในแง่ที่ไม่ดีของคนอื่นลับหลัง หรือนำเรื่องที่ไม่ดีของบุคคลที่สองไปเล่าต่อบุคคลที่สาม เพื่อให้ผู้ถูกเล่านั้นได้รับความเสียหายอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เสียเกียรติ เสียความเคารพนับถือ แม้เรื่องที่เล่านั้นอาจไม่เป็นจริง และรวมถึงเรื่องนั้นเป็นจริง แต่เป็นเรื่องที่ไม่ควรนำไปเล่าต่อที่สาธารณะหรือกับบุคคลอื่น เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องเฉพาะส่วนบุคคล เป็นเรื่องภายในครอบครัว

290 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

เพราะท่านยังว่า พฤติกรรมของคนช่างนินทานั้น ทุกคนโปรดเข้าใจไว้ด้วยว่า มิใช่เป็นพฤติกรรมของคนที่มีความสุข เพราะไม่ได้เกิดจากจิตที่มีคุณธรรมเป็นเครื่องปรุงเครื่องผสม หากแต่เป็นเชื่อของกิเลสชนิดหนึ่งเป็นตัวกระตุ้น แล้วทำใจให้เศร้าหมอง ขุ่นมัว ทุรนทุรายอยากว่าร้าย ใส่ร้ายคนอื่น จนแสดงอาการออกมา

นอกจากนั้น การนินทาถือเป็นการทำผิดศีลอีกด้วย ดิฉันรับรู้รับฟังเรื่องการนินทาว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่ไม่เคยคิดว่าจะนำพาเคราะห์กรรมหนักหนามาให้ จนกระทั่งวันหนึ่ง ดิฉันก็ได้ประสบกับเหตุการณ์นั้นแบบต่อหน้าต่อตาด้วยตัวเอง

เพื่อนบ้านของดิฉันชื่อคุณมารศรี อายุ ราว 50 ปลายๆ เธอเปิดร้านของของชำอยู่ใกล้บ้านของดิฉัน ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าคุณมารศรีเป็นคนช่างคุย ช่างเมาท์และช่างนินทาเป็นที่หนึ่งของหมู่บ้าน หากใครอยากรู้เรื่องอะไรของใครก็จะเข้าไปกระแซะถามจากคุณมารศรี เธอก็จะเล่าได้เป็นคุ้งเป็นแคว หลายครั้งเรื่องราวที่เธอเล่าไม่ได้เป็นความจริงเลยสักนิด แต่เมื่อเธอใส่สีตีไข่เข้าไป คนที่ได้ฟังก็นำไปเล่าต่อๆกัน นำความเดือดร้อนมาสู่คนที่เธอนินทาอยู่เนืองๆ

แม้เธอจะทำตัวเป็นกรมกระจายข่าวที่ช่วยให้คนอื่น “ทันเหตุการณ์” แต่กลับไม่มีใครรัก นับถือ ชื่นชมเธอเลย มิหนำซ้ำ คนช่างนินทาอย่างเธอก็ถูกคนอื่นนินทาเอาเหมือนกัน

คุณมารศรีแต่งงานอยู่กินกับสามีมาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีลูกเมื่ออายุเข้าใกล้วัยกลางคน สามีของคุณมารศรีจึงขออนุญาตภรรยาเพื่อไปบวชเป็นพระตลอดชีวิต บวชอยู่หลายปี ในที่สุดก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดซึ่งมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

291 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

เพื่อนบ้านบอกว่า พระรูปนี้นำเอาข้าวของที่ผู้มีศรัทธานำมาถวายท่านมาให้คุณมารศรีผู้เป็นภรรยาขายที่ร้านขายของชำ สังเกตได้จากข้าวของที่นำมาขายนั้นมักเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่ผู้คนนิยมนำไปถวายพระนอกจากนี้ บางครั้งคุณมารดศรียังเผลอเล่าในเชิงอวดว่า ตัวเองมีกินมีใช้ ไม่ลำบากอะไร เพราะมีบุญเก่า มีคนช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่

แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าการนำข้าวของที่คนอื่นถวายพระมาขายเพื่อนำเงินมาใช้ส่วนตัวเป็นสิ่งที่ผิด แต่คุณมารศรีก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ระยะหลังๆ ถ้าหากใครถามเรื่องนี้ เธอมักจะบอกว่า ที่วัดไหนเขาก็ทำกัน ขายของได้เธอก็นำเงินไปถวายวัดนั่นแหละ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถมีใครรู้ได้ว่าเธอนำเงินไปถวายวัดอย่างที่พูดจริงหรือไม่

แล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นกับคุณมารศรีโดยไม่ทันตั้งตัว

หนึ่งเดือนหลังจากที่คุณมารศรีเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคหัวใจอยู่ดีๆระหว่างที่เธอกำลังยืนคุยอยู่กับดิฉัน เธอก็เป็นลมล้มพับลงไปต่อหน้าต่อตา เมื่อดิฉันพาไปหาหมอจึงพบว่า เธอมีอาการหลอดเลือดในสมองตีบ คุณหมอบอกว่า คนที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะมีอาการชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีกทันทีทันใด ซ้ำร้ายไปกว่านั้น กล้ามเนื้อของคุณมารศรีก็ยังยึด ทำให้ร่างกายบิดเบี้ยวผิดรูปผิดร่าง

ปากที่เคยค่อนแคะ นินทาคนอื่นมานักต่อนักของคุณมารศรีบิดเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ดูแล้วน่าเกลียดน่ากลัว คล้ายคนกำลังร้องไห้โหยหวนไม่มีผิด แม้คุณมารศรีจะพยายามรักษาด้วยการไปหาทั้งหมอพื้นบ้าน หมอแผนปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาอาการแขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซึก พูดไม่ชัด และปากเบี้ยวให้หายขาดได้

เพื่อนบ้านได้แต่มองคุณมารศรีอย่างสังเวช ต่างพูดกันว่า นี่คงเป็นผลกรรมจากการที่ชอบนินทาคนอื่น มิหนำซ้ำยังนำข้าวของที่คนอื่นถวายวัดมาขาย นำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองอีกด้วย ผลกรรมที่ทำไว้จึงรุนแรง ทำให้ได้รับผลอย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ดิฉันได้ประสบมากับตัว จึงสามารถบอกได้ว่าคำพูดของคนเรามีอานุภาพมาก ดังนั้นจะคิด พูด ทำสิ่งใด เราต้องมีความระมัดระวัง อย่าประมาทว่า “เป็นแค่เพียงคำพูด”

เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจประสบกับเคราะห์กรรมอย่างคุณมารศรีก็เป็นได้

292 Nameless Fanboi Posted ID:9W8QUk.uu5

ถ้าขยันเขียนนิยายพอๆกับมาป่วนมันคงจะดี ไร้ค่าชิบหาย

293 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

>>292 เหตุผลที่เราทำอาชีพนี้?
"ตอนนั้นเพิ่งคลอดลูกใหม่ๆ แล้วเราไม่มีเงินเลี้ยงลูก ที่บ้านฐานะไม่ค่อยดี ไม่อยากเอาตัวเองไปเป็นภาระพ่อแม่ ไหนจะลูกอีก เราเลยมาทำงานนี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราอยากขายนะ เราทำงานหลายอย่าง เราเป็นเด็กเสิร์ฟ ทำงานห้างแต่เงินไม่พอ จนวันนึงเพื่อนชวนไปทำงานที่พัทยา บอกว่าไปชงเหล้า ไม่ได้บอกว่าไปขายตัว เราก็เลยไป แล้วได้เงินเดือน 5 พัน มีทิปต่างหาก แต่พอไปถึงจริงๆ เราไปนั่งอยู่ในตู้ 3-4 วันเราไม่รู้ว่าเราขายตัว หนิงไม่เคยเห็นสังคมแบบนี้ บ้านเราปิดหูปิดตา เราคิดว่าถ้าแขกเลือกเรา เราก็ออกไปชงเหล้า แต่เราไม่รู้ว่าไปไหน แล้วมีคาราโอเกะอยู่ข้างใน เราก็คิดแค่นั้น"

294 Nameless Fanboi Posted ID:E2dMY3gAt1

ห้องนี้ไม่ได้นินทาแก๊งมึงซักหน่อย กลับไป้

295 Nameless Fanboi Posted ID:8K/Y9Fm./u

>>294
พอตัดสินใจเริ่มทำงาน มีระยะเวลาในใจมั้ยว่ากี่ปีจะเลิก?
"ตอนแรกตั้งใจทำไม่กี่เดือนแล้วเลิก แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ มันก็ไหลไปเรื่อยๆ ออกไม่ได้ จนอยู่มา 7-8 เดือนไม่ทำแล้ว กลับบ้าน แต่อีกสักพักก็ขออีกสักปีสองปี พอปีสองปีผ่านไปก็เลิกไม่ได้อีก เพราะไม่มีตังค์ เราก็ตั้งเป้าว่าจะซื้อบ้านให้ได้ก่อน แต่พอถึงเวลาก็ไม่ได้อีก เพราะเงินที่ได้มาง่ายๆ มันหมดไปกับอะไรก็ไม่รู้ กินเที่ยวเล่นช็อปปิ้ง พอไปอยู่เมืองนอกชีวิตเละมาก ติดการพนัน ลืมเป้าหมาย"

ทำทั้งหมดกี่ปี?
"วนเข้าวนออก 20 กว่าปี"

ทำไมวงการนี้เข้าแล้วออกยาก?
"ทุกคนมีเป้าหมายหมด แต่พอเข้าไปแล้วเลิกไม่ได้ มันเหมือนมีบางอย่างทำให้เราติดใจหลงใหล เงินได้มาง่ายๆ กับการไปรับกติกาการเป็นมนุษย์เงินเดือน เขาทนกันไม่ได้ พอออกมาแบบนี้มันเสรี ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ หรือฟลุคมีสามีฝรั่ง แต่อยู่มา 20 ปีก็ไม่เห็นใครขายตัวแล้วรวย นอกจากได้สามีรวย แต่งงานแล้วเลิกอาชีพนี้ไปเลย เงินได้ง่าย พอได้ง่ายก็ทำให้เราติดใจ ซึ่งตอนเราเข้าไปเราก็คิดว่าง่าย แต่ไม่ง่ายนะ เพราะเวลาทำงานเราเจอแขกสารพัดรูปแบบ ทั้งคนแก่งี่เง่า ขี้เมาซาดิสต์ วิตถาร โสโครก เจอคนตบตีทำร้าย ขโมยตังค์ สารพัด สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครออกมาพูดมาเล่า จะเห็นแค่คนขายบริการใช้ของแบรนด์เนม ใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อ แต่สิ่งที่เขาโดนเขาก็ไม่ได้มาเล่าเพราะอาย ไม่อยากเล่าให้ใครฟัง ก็จะโชว์แต่ภาพลักษณ์ดีๆ ทำให้คนอื่นอยากเป็นแบบนี้บ้าง แต่พอเข้ามาแล้วไม่ได้จะออกไปได้ง่ายๆ"

พี่ทำงานขายบริการทั้งหมดกี่ประเทศ?
"4-5 ประเทศค่ะ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุุ่น บาเรนห์"

296 Nameless Fanboi Posted ID:ZIcSjRMbwC

แต่ละประเทศแตกต่างกันยังไง?
"ก็เริ่มจากการทำงาน ฮ่องกงกับสิงคโปร์เราทำงานใช้หนี้เป็นรายหัว ระยะการทำงานสั้นไม่เกิน 1 เดือน สิงคโปร์ใช้หนี้ประมาณ 80 คน ระยะการทำงานคือสองอาทิตย์ขึ้น สองอาทิตย์คุณต้องใช้หนี้ให้หมด 80 คนหรือ 150 คน อันนี้เราจะไม่ได้ค่าตัวแม้แต่บาทเดียว เราต้องใช้หนี้ให้หมดก่อนแล้วมาหารแบ่งกันอีก"

หนี้อะไร?
"ค่าแท็กค่ะ คือค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่พ่อแท็กหรือแม่แท็กจัดส่งเราไป ญี่ปุ่นเราใช้หนี้เป็นตัวเงิน เราอยู่ได้ยาวนานเป็นโรบินฮู้ด บางคนอยู่ได้ 7-10 ปีก็มี"

ไม่โดนตร.หรือตม.?
"มีค่ะ ถ้าวันไหนซวยก็จะโดนจับ เพราะเวลาเราไป เราจะมีวีซ่า 3 เดือน ถ้าเกิน 3 เดือนวันไหนตร.ขึ้นร้านก็รวบเราไป หรือบาเรนห์ ตร.มาล่อซื้อแล้วจับเราไป เราก็ซวยแล้วส่งกลับ เราเองแทบทุกครั้งที่โดนจับไม่เคยมีเงินค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่เคยพกตังค์ ไม่มีเงินติดตัว ก็ถูกส่งกลับ"

มีประสบการณ์หนักหนาสาหัส?
"ญี่ปุ่นหนัก เพราะเราไปอยู่กับแก๊งมาเฟีย เราเข้าไปโดยไม่รู้ตัว แล้วเราถูกบังคับให้ทำโน่นนี่นั่น โชคดีตรงที่คนเอาเราไปอยู่กับยากูซ่า ซึ่งหนิงไม่ได้ถูกบังคับให้ทำงาน แต่หนิงต้องดูแลคนในร้าน เรารู้สึกถูกตีกรอบ ไปไหนไม่ได้ เราเลยหนีไปหาอิสระของเราเอง อยากทำงานหาเงินเก็บเงินเอง เราถูกจับได้ ก็ถูกตีถูกซ้อม การทำงานในญี่ปุ่น ไปเจอมาเฟีย ยากูซ่า หรือแขกวิตถาร ตีเรา ก่อนทำร้ายร่างกายมันเกิดจากเราไม่ยอมทำตามใจเขา เขาก็บันดาลโทสะ ตบตีกัน เจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยมาก ตื่นมาแขกขโมยตังค์ก็มี ถ้าคิดจะมาขายตัวคุณเตรียมใจไว้เลย สิ่งพวกนี้เขาไม่เคยรู้ เขาไม่เคยมาขาย ได้แต่เห็นคนพวกนี้แต่งตัวดี แต่ไม่รู้ว่าโดนอะไรมาบ้าง เพราะไม่มีใครพูด เราไม่มีโอกาสเลือกแขกนะ ถ้าคุณไปทำงานต่างประเทศคุณจะเลือกแขกไม่ได้ เขาจับยัดอะไรให้ก็ต้องไป ไม่ทำก็ไม่ได้ บางทีเข้าไปเจอแขกเล่นยา เราก็ต้องอยู่ให้ได้"

297 Nameless Fanboi Posted ID:bghQj6h/y6

กูป่วนมู้อื่น

กูเงาเเค้นมู้นี้ค่ะ แต่กูจะป่วนทุกมู้
แล้วกูไม่ใช่นักเขียนเพราะกูกูกำลังโทรล จำใส่กะโหลกด้วย
ไม่ต้องมโนว่ากูเป็นนักเขียน เพราะกูเป็นโทรลเลิกเพ้อเจ้อแล้วดึงสติ กูเป็นคนว่าง และกูเบื่อ

กูไม่ได้ระรานคนไปทั่ว กูว่างก็จริงเเต่ก็ไม่ได้ขนาดต้องไปใส่ใจมู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง สมองกูยังดี สติกูยังครบ

ฝากด่าคนที่ป่วนมู้อื่นด้วยเเล้วกัน ไม่ต้องมาก็อปวิธีที่กูป่วนค่ะ สมองมีก็คิดเองว่าควรทำอะไร คิดเองไม่ได้ก็ไปตายซะ

กูสั่งคนให้ป่วนเเค่มู้นี้ อุตส่าห์นึกว่าจะปิดมู้
ก็เสือกเปิดให้กูมาฟลัดเล่นฆ่าเวลารอกระเป๋ามาส่ง

ขอบคุณคนเปิดมู้ 4 กูสนุกมาก

298 Nameless Fanboi Posted ID:V4IEz0+INi

>>297 อ่ะ

ก็อปของกูมา
ขอบคุณ แต่ไม่ต้องนะคะ สาระเเน

299 Nameless Fanboi Posted ID:V4IEz0+INi

กูคนป่วนมู้หมาหมู่

ไม่เคยแตะมู้นี้ ปากกูดี กูกวนตีนเเต่กูไม่ได้ตอเเหล โทรลลงห้องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับกู

กูสั่งคนให้ป่วนเเค่มู้หมาหมู่ ที่เหลือกูไม่ยุ่ง

300 Nameless Fanboi Posted ID:dzZTgbcn.s

>>299 มาๆเร็วกำลังสนุกเลย อย่าทิ้งช่วงนาน กูรอช่วยเลย เอิ้ก เอิ้ก เอิ้ก

301 Nameless Fanboi Posted ID:qhwLr6KORX

>>298 กูอยากจะแหมมมมมมม ในความตอแหลของมึงจัง

302 Nameless Fanboi Posted ID:FQDESuHjUv

>>301 สนุกสนาน

303 Nameless Fanboi Posted ID:qhwLr6KORX

>>302 มันบอกให้กูมาช่วนป่วน บอกมันไม่อยากป่วนแค่มู้เดียว เพราะมันโดนด่าเยอะ มันไม่ยอม

304 Nameless Fanboi Posted ID:iMpxxZ4tCz

>>303 อีดอกเมิงอยากทำเองไม่ต้องมาอ้าง

305 Nameless Fanboi Posted ID:qhwLr6KORX

>>304 อีดอก ไปตายมึงอย่าเสือก

306 Nameless Fanboi Posted ID:qhwLr6KORX

>>304 ถ้าไม่เห็นที่มันบอกข้างบนก็ไม่ต้องสะเหร่อ

307 Nameless Fanboi Posted ID:Y0/c4lEicJ

>>305 ด่ากูเสือกเมิงป่วนคนเดียวเลยละกัน สันดานหมา

308 Nameless Fanboi Posted ID:Y0/c4lEicJ

อีหน้าข้อศอกหมา

309 Nameless Fanboi Posted ID:STP0Pn9h46

ที่มา , ประวัติ คาถาชินบัญชร หรือพระคาถาชินบัญชร
ชินบัญชรเป็นคาถาหนึ่งที่มีความสำคัญ และมีอายุยาวนานนับร้อยปี ตั้งแต่เริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 มาจนถึงปัจจุบัน เพราะด้วยพลานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์จึงทำให้ชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธหันมาท่องพระคาถานี้เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง อีกทั้งยังเป็นการป้องกันให้ตนเองนั้นพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ ทั้งปวง

มีการถกเถียงกันมาเป็นระยะเวลายาวนานนับทศวรรษเกี่ยวกับเรื่องราวที่ว่า ใครที่เป็นผู้แต่ง คาถาชินบัญชร ขึ้นระหว่าง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรํสี แห่งวัดระฆังโฆษิตาราม กับพระมหาเถระผู้เชี่ยวชาญบาลีปกรณ์รูปหนึ่งจากเชียงใหม่ ซึ่งในกรณีของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) นั้น เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าท่านเป็นเพียงแค่ผู้นำพระ คาถาชินบัญชร มาเผยแพร่ต่อ มิได้เป็นผู้แต่งขึ้นเอง

ตามที่ได้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ได้ไปสวดพระคาถานี้ถวายองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์ทรงมีรับสั่งว่าถ้อยคำในบทสวดนั้นไพเราะ และได้ทรงซักถามเพิ่มเติมว่า “ขรัวโตได้มาจากไหน แต่งเองหรือเปล่า” สมเด็จพระพุฒาจารย์จึงได้ถวายพระพรตอบว่า “หามิได้ เป็นสำนวนเก่าของเมืองเหนือ นำมาแก้ไขดัดแปลงใหม่ ตัดตอนให้สั้นเข้า ของลังกายาวกว่านี้” ฉะนั้นจึงเป็นไปได้ว่าผู้แต่งขึ้นน่าจะเป็นพระภิกษุชาวล้านนารูปหนึ่ง อยู่ในสมัยพระเจ้าติโลกราชที่อาจะเป็นยุคทอง

เนื่องจากในยุคนั้นเป็นยุคสมัยที่มีการสนับสนุนให้พระเถระหลายร้อยรูปเดินทางไปศึกษาพระไตรปิฎกที่ลังกา เมื่อได้สำเร็จการศึกษาจึงมีการแข่งขันกันแต่งบาลีปกรณ์กันอย่างเอิกเกริกจนชื่อเสียงแผ่ขยายไปจนถึงพม่า กรุงศรีอยุธยา สิบสองปันา และล้านช้าง ทำให้เมืองเหล่านั้นต้องขอคัมภีร์ภาษาบาลีที่จารโดยพระภิกษุล้านนาไปศึกษาอย่างแพร่หลาย

310 Nameless Fanboi Posted ID:STP0Pn9h46

ความหมายของชินบัญชร
ในความหมายของคำว่า ชินบัญชร นั้นแปลว่า กรง หรือ เกราะป้องกันภัยของพระพุทธเจ้า คำว่า ชิน หมายถึง พระพุทธเจ้า คำว่า บัญชร หมายถึง กรง หรือ เกราะ โดยที่เนื้อหาในคาถาในชินบัญชรนั้นจะเป็นการอัญเชิญพระพุทธเจ้าจำนวน 28 พระองค์ เริ่มตั้งแต่พระพุทธเจ้าพระนามว่าตัณหังกร เป็นต้น เดินทางลงมาสถิตอยู่ในทุกอณูของร่างกาย เพื่อเป็นการเสริมให้ตนเองนั้นมีพลังพุทธคุณให้ยิ่งใหญ่

จากนั้นจึงอัญเชิญพระอรหันต์ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 80 องค์ซึ่งเป็นผู้มีบารมีธรรมที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังได้มีการอาราธนาพระสูตรอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ทรงอานุภาพในด้านต่างๆ มาสถิตในทุกส่วนของร่างกายจนรวมกันเป็นกำแพงแก้วคุ้มกัน ตั้งแต่กระหม่อมลงมาห้อมล้อมรอบตัวของผู้สวดภาวนาพระคาถาชินบัญชรจนกระทั่งอันตรายก็ไม่สามารถหาช่องโหว่เพื่อสอดแทรกเข้ามาได้

เราได้รู้จักประวัติความเป็นมาของพระคาถาชินบัญชรอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องไปกำหนดจิตใจให้สงบเพื่อเริ่มสวดภาวนาพระคาถากันแล้ว

311 Nameless Fanboi Posted ID:STP0Pn9h46

อานุภาพของพระคาถาชินบัญชร
พระคาถาชินบัญชรนี้มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก หากผู้ใดสวดมนต์ หรือภาวนาคาถาชินบัญชรอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะกิน เดิน นั่ง นอน หรือภาวนาพระคาถาแม้ยามอาบน้ำ แปรงฟัน หรือแม้กระทั่งตอนทำงานก็จะช่วยเสริมให้เกิดความเป็นสิริมงคล สมบูรณ์พูลผล ศัตรูหมู่พาลไม่กล้ำกราย เดินทางไปที่ได้ก็เกิดเมตตามหานิยม มีลาภผลทวี ขจัยภัยภูตผีปีศาจ ตลอดจนคุณไสยต่างๆ

หากสวดคาถาชินบัญชรนี้ขณะทำน้ำมนต์รดแก้วิกลจริต แก้สรรพโรคได้หายสิ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งพระคาถาที่มีคุณานุภาพตามแต่จะปรารถนา ดังคำโบราณที่ว่า “ฝอยท่วมหลังช้าง” เมื่อเดินทางไปที่ใดๆ ให้สวด 10 จบแล้วอธิฐานก็จะสำเร็จได้สมดังใจ

312 Nameless Fanboi Posted ID:STP0Pn9h46

สำหรับใครที่ไม่ค่อยถนัดนักในการที่จะท่องคาถาชินบัญตามตัวหนังสือ หรืออยากจะจำพระคาถานี้ให้ได้ขึ้นใจ เราก็มีคาถาชินบัญชรในรูปแบบที่เป็นวีดีโอ หรือเสียงมาฝาก เอาไว้ให้ไปนั่งฟัง พร้อมกับท่องตามกันได้ง่ายๆ เชื่อว่าหากเพื่อนๆ หมั่นฟังเป็นประจำก็จะทำให้สามารถจดจำคาถาชินบัญชรนี้ได้โดยไม่ต้องเปิดอ่านจากหนังสือสวดมนต์อีกแล้วล่ะ

จงระลึกไว้เสมอว่า บทสวด หรือพระคาถาใดๆ ซึ่งรวมถึงพระคาถาชินบัญชรก็ไม่อาจสามารถพยุงเราให้รอดพ้นจากภัยอันตราย หรือกำหนดจิตใจของเราให้สงบ แน่วแน่ได้ด้วยตัวเองทั้งหมด ตัวของเรา ใจของเราเอง ยังคงต้องเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยประสานการทำงานให้การสวดภาวนาเหล่านั้นสัมฤทธิ์ผลด้วย อาจมีการนั่งสมาธิ สวดภาวนาพระคาถาต่างๆ หมั่นทำบุญ ตักบาตร และใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ มีสติ เพียงเท่านี้ชีวิตของเราก็จะได้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

313 Nameless Fanboi Posted ID:qhwLr6KORX

>>308 กิ้สสๆๆ กะแด่วๆๆ

314 Nameless Fanboi Posted ID:wGb1E16K0q

ky https://www.readawrite.com/a/97d329b717c3f8cfe0e5341d4623285b มึงกูขอคนด่าเจ็บๆดิ่ แม่งปากดีแถมไล่บล็อกอีกสัสไม่สำนึกเอารูปคนอื่นมาใช่ แจ้งทีมงานก็ไม่ช่วย

315 Nameless Fanboi Posted ID:qhwLr6KORX

>>314 มึงด่าเองดิ

316 Nameless Fanboi Posted ID:wGb1E16K0q

>>315 ช่วยคิดคำด่าดิ่

317 Nameless Fanboi Posted ID:9XCCPPxYO/

เดี๋ยวกูเข้าผิดมู้ปะ กูตกใจมากเปิดมาเจออิหยังวะ55555

318 Nameless Fanboi Posted ID:wGb1E16K0q

>>317 โทรลเยอะมึงอย่าไปสน

319 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

คุณคงรู้สึกแย่ถ้าประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างในชีวิตและรู้ว่าคนใกล้ตัวอิจฉาคุณแทนที่จะแสดงความภูมิใจในตัวคุณ และเหตุผลเบื้องหลังความอิจฉานั้นก็คือความไม่มั่นใจและความอยากได้ในสิ่งที่คุณมี แต่เราทุกคนย่อมต้องเคยอิจฉา! ในบางช่วงบางตอนของชีวิต อย่างไรก็ตามเราสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แต่ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของผู้อื่นได้ ดังนั้นเราจึงมีวิธีสังเกตง่ายๆว่าอาการแบบไหนกันนะที่เรียกว่า..ขี้อิจฉา

320 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

1. ชอบเลียนแบบ

เมื่อใครสักคนอยากได้ในสิ่งที่คุณมี เช่น งาน ความรัก หรือแม้แต่แนวการแต่งตัว พวกเขาก็จะเลียนแบบพฤติกรรม แนวการแต่งตัว และแนวคิดของคุณ ทั้งนี้คุณไม่ควรหงุดหงิดแต่ควรให้กำลังใจพวกเขาให้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง รวมถึงแสดงให้พวกเขาเห็นว่าการเป็นตัวของตัวเองนี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

321 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

2. เสแสร้งแกล้งชม

คนขี้อิจฉาจะชื่นชมคุณอย่างจริงใจแต่พอลับหลังไปพวกเขาก็จะเบะปากมองบนใส่คุณทันที พวกเขาจะแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้อิจฉาคุณ

322 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

3. ดูถูกความสำเร็จของคุณ

คนขี้อิจฉามักจะสบประมาทความสำเร็จของคุณโดยไม่สนใจว่าคุณต้องใช้ความพยายามหนักมากขนาดไหน พวกเขาอาจถึงขั้นทำตัวเสียมารยาทเลยล่ะ แต่คุณไม่ควรใส่ใจเพราะจะยิ่งทำให้พวกเขาได้ใจ ดังนั้นจงถ่อมตัวและมุ่งมั่นกับความสำเร็จของตัวเอง

323 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

4. ดีใจเมื่อคุณล้มเหลว

คนเหล่านี้ไม่สามารถยินดีกับความสำเร็จของคุณได้ แต่จะดีใจกับความล้มเหลวของคุณแทน ถ้าคุณพลาดเมื่อไหร่พวกเขาก็รอซ้ำเติมเลยล่ะ

324 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

5. พวกเขาจะไม่อยู่เคียงข้างคุณในยามที่คุณมีความสุข

พวกเขาอาจทำเป็นเฉยๆเนื่องจากไม่สามารถยินดีกับความสุขของคุณได้ เมื่อคุณมีความสุขคนเหล่านี้จะรู้สึกสำคัญน้อยลง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไปไกลๆดีกว่า

325 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

6. หาเรื่องแข่งขัน

เนื่องจากคนเหล่านี้ต้องการเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและอยากพิสูจน์ความเหนือกว่าของตัวเอง อย่างไรก็ตามคุณควรปฏิเสธไปซะ

326 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

7. นินทาคุณ

คนขี้อิจฉาจะหาเรื่องนินทาคุณได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังอาจใส่ร้ายป้ายสีคุณอีกด้วย ทางที่ดีคุณควรเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ตรงๆกันไปเลยและพูดคุยกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกเขา ไม่แน่นะพวกเขาอาจยอมเปลี่ยนพฤติกรรมก็ได้

327 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

8. เอาแต่วิจารณ์

คนขี้อิจฉาจะมองคุณว่าเป็นคนที่มีข้อบกพร่องมากมายแต่แค่โชคดีเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกว่าต้องทำให้คุณรู้ตัว แม้คุณจะทำทุกอย่างเลิศเลอเพอร์เฟกต์แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะจับผิดคุณจนได้นั่นแหละ

328 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

9. พวกเขาเกลียดคุณ

คนขี้อิจฉาจะเกลียดคุณอย่างไร้เหตุผล นั่นเป็นเพราะพวกเขาใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นเหมือนคุณ และที่สำคัญการทำความดีใดๆก็ไม่สามารถลดทอนความเกลียดของคนเหล่านี้ลงได้

329 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

10. พยายามทำลายความสัมพันธ์ของคุณกับคนอื่น

ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัว ความรัก และเพื่อนฝูง โดยเฉพาะคนที่สนิทกับคุณเพื่อทำให้คุณรู้สึกเคว้งคว้างเปล่าเปลี่ยว

330 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

11. ซ่อนความอิจฉาของตัวเองไว้

เมื่อใครสักคนรู้สึกยินดีกับคุณ คนเหล่านี้ก็จะสวมหน้ากากแสดงความยินดีกับคุณด้วย

331 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

12. เป็นที่ปรึกษาที่แย่สุดๆ

พวกที่อิจฉาคุณจะพยายามหาวิธีให้คำแนะนำที่อาจทำร้ายจิตใจคุณ และพวกเขาอาจหว่านล้อมให้คุณเชื่อว่าวิธีของพวกเขาดีที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายคุณจะเดือดร้อนมากกว่าเดิม ทั้งนี้การรับมือกับคนขี้อิจฉาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อันที่จริงพวกเขามีความมั่นใจในตนเองต่ำและการหงุดหงิดใส่พวกเขาก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นด้วย ดังนั้นคุณควรเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละ เผชิญหน้ากับพวกเขาเมื่อจำเป็น และพยายามช่วยพวกเขาให้แก้ไขปัญหาต่างๆให้ได้

332 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

คุณเคยมองใครว่าเป็นคู่แข่งมั้ย?

อันที่จริงเรามักจะชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่เสมอทั้งแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว แถมบางครั้งยังพาลต่อยอดความรู้สึกหมั่นไส้ ไม่ชอบ และอิจฉาคนอื่นรอบตัว ไม่ว่าจะเพื่อน พี่ น้อง หรือคนอื่นๆที่เราเห็นชีวิตของเขาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียทั้งๆที่นิสัยขี้อิจฉาไม่อยากเห็นใครดีกว่าไม่ใช่นิสัยที่ใครอยากมี!

333 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

Pofo
toggle navigation
นิสัย “ขี้อิจฉา” เกิดจากสมอง
14 NOV 2019

คุณเคยมองใครว่าเป็นคู่แข่งมั้ย?

อันที่จริงเรามักจะชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่เสมอทั้งแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว แถมบางครั้งยังพาลต่อยอดความรู้สึกหมั่นไส้ ไม่ชอบ และอิจฉาคนอื่นรอบตัว ไม่ว่าจะเพื่อน พี่ น้อง หรือคนอื่นๆที่เราเห็นชีวิตของเขาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียทั้งๆที่นิสัยขี้อิจฉาไม่อยากเห็นใครดีกว่าไม่ใช่นิสัยที่ใครอยากมี!

“สมอง” สนุกเมื่อเห็นคู่แข่งของเราทุกข์

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน นำโดย ดร.มีนา ซิคารา ดร.ซูซาน ฟริสก์ และดร.แมทธิว บอทวินิค ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการรับรู้ ได้ศึกษาพฤติกรรมของแฟนเบสบอลทีมบอสตัน เรด ซอกซ์ และทีมนิวยอร์ก แยงกีส์ ซึ่งเป็นทีมคู่ปรับกันมายาวนาน พบว่า เมื่อทีมใดทีมหนึ่งแพ้ สมองส่วน Ventral Striatum ของแฟนคลับของทีมที่ชนะจะมีการตอบสนองเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นสมองนี้เป็นส่วนที่สัมพันธ์กับความสนุกสนาน เพลิดเพลินใจ นอกจากนี้ ปฏิกิริยาของสมองในส่วนนี้ยังตอบสนองในแบบเดียวกันเมื่อแฟนคลับแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อเวลาพูดถึงการกระทำที่อยากทำร้ายแฟนคลับอีกฝ่าย และมีความสุขเมื่ออีกฝ่ายทำผิดพลาด

334 Nameless Fanboi Posted ID:JbJ/502zZc

ky มีใครตามนักวาดในทวิตที่ชอบวาดแฟนอาร์ทตัวจิบินิยายดังๆคนนึงปะวะ แรกๆกูก็ชอบแหละน่ารักดี หลังๆกูว่าหิวแสงว่ะ วาดแต่เรื่องดังๆ เห็นมีจะทำโปสการ์ด ไม่ขายแต่หาร กูงงว่าทำได้เหรอวะ ถึงจะไม่ทำขายแต่มันมีเรื่องเงินมาเกี่ยว แล้วที่ทำก็ไม่ได้ขออีกต่างหาก กูแบบอิหยังวะมากจนอยากจะเลิกตามงานนาง

335 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

แล้วจะฝึกสมองของเราให้ไม่โดยความอิจฉาครอบงำได้อย่างไร?

เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเสพย์ “สื่อ” เป็นตัวกระตุ้นที่มีอิทธิพลทำให้เราเกิดความรู้สึกอิจฉา ไม่อยากเห็นใครดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์ ที่เมื่อเราดูพฤติกรรมของตัวร้ายหรือนางอิจฉากลั่นแกล้งหรือทำร้ายตัวละครเอก เราก็ซึบซับทัศนคติและพฤติกรรมแบบนั้นไปโดยไม่รู้ตัว และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบได้

ทฤษฎีนี้ได้รับการพิสูจน์โดยนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ด้านรังสีวิทยาแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างโดยให้อาสาสมัครลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นตัวแสดงในละครและสแกนสมองแบบ fMRI พบว่าเมื่อต้องนึกถึงตัวละครฝ่ายตรงข้ามที่พวกเขาอิจฉา จะทำให้ต่อมรับความเจ็บปวดในสมองเกิดแสงวูบวาบขึ้น และเมื่อให้จินตนาการถึงความหายนะที่เกิดขึ้นกับตัวละครเหล่านั้น กลับมีปฏิกิริยาต่อสมองส่วนที่เป็นศูนย์กลางระบบรางวัล ซึ่งเป็นสมองส่วนที่แสดงออกถึงความสุขนั่นเอง

รู้อย่างนี้แล้ว คุณเองก็สามารถสังเกตตัวเองได้ ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกว่าเพื่อน พี่ น้อง หรือคนไหนที่เราเคยรู้สึกดี เคยทักทายกันยิ้มแย้มน่ารัก กลายเป็นคนที่เราเริ่มรู้สึกระแวง เริ่มตีตัวออกห่าง หรือดีใจเมื่อเห็นเขามีความทุกข์ละก็ สมองของคุณกำลังดึงดูดความคิดติดลบเข้ามาเรื่อยๆ แบบไม่รู้ตัวแล้วล่ะ

ก่อนที่ความรู้สึกไม่พอใจคนเคยรักชอบพอกันจะทวีความรุนแรงไปกว่านี้เราอยากให้คุณกลับมาตั้งหลักความคิดในสมองของคุณใหม่ โดยมีวิธีดังต่อไปนี้

336 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

ให้อภัยอดีต - ถ้าต้องเจอปัญหาแล้วมัวแต่โทษตัวเองหรือโทษคนอื่นก็จะยิ่งบั่นทอนจิตใจ เมื่อมีแต่ความคิดเคียดแค้น มองโลกในแง่ลบ เรียนรู้ที่จะให้อภัยกับสิ่งที่ผิดพลาด แล้วค่อยหาทางแก้ไข เริ่มต้นใหม่

มองทุกอย่างด้วยใจเป็นกลาง - เปิดใจรับความคิดใหม่ๆ ปรับจูนกระบวนการคิดด้วยเหตุและผล ทำความเข้าใจเข้าใจเรื่องความแตกต่าง เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ละคนมีดีไม่เหมือนกัน เราไม่สามารถเอาคน 2 คนมาเปรียบเทียบกัน

หาจุดเด่นของตัวเอง - เมื่อคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน ลองมองจุดเด่นของตัวเอง แล้วพัฒนามันให้โดดเด่นมากขึ้น ควบคู่กับเรียนรู้จุดอ่อนของตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

ความอิจฉา หรือมองคนอื่นเป็นคู่แข่ง จริงๆแล้วในมุมของนักจิตวิทยามองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เมื่อมาอยู่ร่วมกัน แต่หากปล่อยให้สมองติดอยู่กับกลไกการคิดแบบติดลบไปเรื่อยๆ คงไม่เป็นผลดีกับการใช้ชีวิตในสังคมแน่ๆ

337 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

การเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น และลองถอยออกมาจากสื่อที่เป็นสิ่งกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่องโซเชียลมีเดีย หรือการเสพย์ข้อมูลมุมใดมุมหนึ่งที่มากเกินไปสามารถช่วยติดเบรคให้กับสมองของคุณให้ได้พัก และกลับมาตั้งหลักกับตัวเองใหม่อีกครั้ง แล้วคุณจะเห็นโลกที่กว้างขึ้น พร้อมกับการมองโลกที่ไม่ต้องเอาตัวเองไปวัดความสำเร็จกับใคร

338 Nameless Fanboi Posted ID:ZeMZgHaVAE

บทสวดมนต์ก่อนนอน นับเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ โดยที่ในแต่ละวันเราต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องที่ทำให้ชีวิตเป็นสุข ไปจนถึงเรื่องราวแย่ๆ ที่ทำให้ชีวิตวุ่นวาย เมื่อกลับถึงบ้านเราต่างก็ต้องการเวลาพักผ่อน อยากนอนหลับสบายเพื่อลืมเรื่องราวแย่ๆ

การท่องบทสวดมนต์ก่อนนอนจะช่วยให้เรามีสมาธิ จิตใจสงบ ผ่องใส อีกทั้งยังเป็นการแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้ทำมาในแต่ละวันให้กับเพื่อนมนุษย์ หรือสรรพสัตว์ต่างๆ บนโลก เมื่อเรามีสมาธิ จิตใจเย็นลง จะทำให้เรานอนหลับสบาย ตื่นเช้ามาจะรู้สึกสดใส พร้อมที่จะสู้ไปกับงาน หรือการเรียนได้อย่างมีความสุข

ซึ่งใน บทสวดมนต์ก่อนนอน นั้นไม่ว่าจะเป็นบทใดก็ตามล้วนแล้วแต่มีอานุภาในตัวเองอยู่มากมาย อีกทั้งยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ ที่จะเป็นหลักนำทางให้เราดำเนินชีวิตในทุกๆ วันไปได้อย่างราบรื่น ฉะนั้น การสวดมนต์ก่อนนอนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งปฏิบัติทุกวันก็จะส่งผลที่ดีในเรื่องของสมาธิ ปัญญา ทำให้ใจของเราสามารถพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างละเอียด รอบคอบ และใจเย็นมากขึ้น

เริ่มต้นบทสวดมนต์ กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (3 ครั้ง) แล้วจึงเริ่มต้นกล่าวบทสวดตามปกติ

คำบูชาพระ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง พุทธัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ตัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ

339 Nameless Fanboi Posted ID:ZeMZgHaVAE

บทสวดมนต์ บูชาพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ฯ (กราบ)

บทสวดมนต์ นะโมสรรเสริญพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

บทสวดมนต์ อาราธนาศีล 5
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

340 Nameless Fanboi Posted ID:ZeMZgHaVAE

บทสวดมนต์ ไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

บทสวดมนต์ สมาทานศีล 5
ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

341 Nameless Fanboi Posted ID:ZeMZgHaVAE

บทสวดมนต์ อธิษฐานรักษาศีล 5
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า ต่อแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะขอรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ดังเดิม

บทสวดมนต์ก่อนนอน ศีล 5
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (กล่าว 3 จบ)

บทสวดมนต์ แผ่เมตตาแก่ตนเอง
กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์

อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร

อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์การทุกข์ใจ

สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นเถิด

บทสวดมนต์ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

บทสวดมนต์ บทแผ่ส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่บิดามารดาของข้าพเจ้า ขอให้บิดามารดาของข้าพเจ้ามีความสุข

342 Nameless Fanboi Posted ID:ZeMZgHaVAE

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของรข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.
การสวดมนต์นั้น ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคนในยุคนี้ สะดวกมากในทุกเพศ ทุกวัยและไม่ใช่เรื่องของคนแก่ อีกต่อไปเหมือนที่เคยเป็นและเราเข้าใจผิดกันอย่างนั้น บทสวดมนต์ต่างๆ มีการเผยแพร่ออกมามากมายในรูปแบบต่างๆ ที่เห็นกันและได้ยินกันจนเคยชินมากมาย

343 Nameless Fanboi Posted ID:ZeMZgHaVAE

ามสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.
การสวดมนต์นั้น ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคนในยุคนี้ สะดวกมากในทุกเพศ ทุกวัยและไม่ใช่เรื่องของคนแก่ อีกต่อไปเหมือนที่เคยเป็นและเราเข้าใจผิดกันอย่างนั้น บทสวดมนต์ต่างๆ มีการเผยแพร่ออกมามากมายในรูปแบบต่างๆ ที่เห็นกันและได้ยินกันจนเคยชินมากมาย

จนกระทั่งในปัจจุบัน การสวดมนต์เข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มเด็กหรือวันรุ่น ก็หันมาสนใจการสวดมนต์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสวด สวดมนต์ก่อนนอนด้วยบทสวดตามปกติ จนไปถึง คาถาชินบัญชร บทสวดยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก และบทสวดอื่นๆ อีกมากมาย

แต่สำหรับบางคนที่กำลังเริ่มจะสวดมนต์ ยังไม่เคยทราบว่านอกการได้สติ ได้จิตใจที่สงบสุขมาแล้ว สิ่งทีเราสวดมนต์นอกเหนือจากนั้นคือ "อานิสงค์จากการสวดมนต์" หรือผลที่ได้รับจากการสวดมนต์ว่ามีอะไรอย่างไร

อานิสงส์จากการสวดมนต์
สวดมนต์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเป็นบุญที่ได้กล่าวคำศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ บทสวดพุทธมนต์นั้น มาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าที่ได้ทรงสอนสั่งสาวกและมีการจำและท่องสืบกันมา จนถึงมีการจดบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ผู้ที่ได้มีโอกาสสวดมนต์ในชีวิต เป็นการเปล่งคำศักดิ์สิทธิ์ถวายเป็นพุทธเจ้า เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าและย่อมได้บุญกุศล

เกิดผลดีต่อร่างกาย คนที่สวดมนต์เป็นประจำนั้น ทางการแพทย์สมัยใหม่รับรองแล้วว่า การสวดมนต์ทำให้เกิดความสุขได้จริงในจิตใจ ส่งผลต่อร่างกายให้หลั่งสารความสุขออกมา ร่างกายก็จะแข็งแรง ใบหน้าสดใส ครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณถึงปัจจุบันทราบถึงเคล็ดลับลับสำคัญ ให้สังเกตว่าท่านจะมีอายุยืนมาก และบรรพบุรุษของเรานั้น ท่านสวดมนต์เป็นประจำอายุท่านจึงยืนยาว ไม่เหมือนคนในปัจจุบันที่ห่างเหินการสวดมนต์มาก อายุจึงสั้น

เป็นการบำเพ็ญภาวนาอย่างหนึ่ง ทำให้มีสมาธิจิตใจ แจ่มใส การสวดมนต์เป็นการสร้างสมาธิวิธีการหนึ่ง เมื่อจิตที่มีสมาธิย่อมแจ่มใส มีกำลัง คิดอ่านแก้ไขปัญหาอะไรก็จะทำได้ง่ายเพราะมีสติกำกับอยู่

เป็นที่โปรดโปรนของเหล่าเทพเทวดาและดวงจิตวิญญาณทั้งปวง แม้ผู้ใดไม่ว่าจะเป็นพรหมเทพเทวดา สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดวงจิตวิญญาณทั้งหลาย เมื่อได้ยินบทสวดนั้นจะพบกับความเย็นสบาย คลายทุกข์ ทำให้นิยมชมชอบคนที่สวดด้วย และเมื่อยินก็จะช่วยปกป้องรักษาคนที่สวด

เกิดบุญจากการแผ่เมตตา เมื่อสวดมนต์เสร็จสิ้น มีการแผ่เมตตาแก่ตนเองและเหล่าสรรพสัตว์ย่อมเกิดอานิสงส์บุญเกิดขึ้น

ได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนที่สวดมนต์เป็นประจำนั้นย่อมได้รับการอวยพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสมอ เพราะเป็นผู้สร้างกรรมดีจากการสวดมนต์และแผ่เมตตา

สร้างสิริมงคลต่อตนเอง และครอบครัว ปัดเป่าภัยพิภัย โรคร้ายได้จริง ทุกบทสวดมนต์นั้นมาจากอักขระที่ศักดิ์สิทธิ์ มีอำนาจดลบันดาลให้สิ่งอัปมงคลนั้นออกไปจากชีวิต และสร้างสิริมงคลให้กับคนที่สวด ยิ่งสวดมากก็จะมีสิริมงคลมากขึ้น ทำอะไรก็สำเร็จโดยง่าย

สามารถแผ่บุญไปช่วยผู้อื่นที่เดือดร้อนได้ บทสวดมนต์ทุกบทนั้น สมารถแผ่บุญกุศลไปช่วยผู้อื่นที่เดือดร้อนได้ทุกเรื่อง ยิ่งเป็นสายเลือดเดียวกันจะยิ่งเร็วขึ้น เพราะมีทั้งบุญและกรรมผูกพันกันมา อานิสงส์ที่ดังที่กล่าวมาข้างต้นคงพอจะทำให้ทุกท่านเข้าใจ เรื่อง อานิสงส์ หรือ ประโยชน์ที่จะรับจากการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ตลอดจนการแผ่เมตตาเป็นอย่างดีแล้วอย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงประโยชน์เบื้องต้นเท่านั้นความจริงแล้วมีอานิสงส์ที่จะได้รับทางอ้อมทางลึกอีกมากมายกว่านี้นักแต่เป็น "ปัจจัตตัง" หรือรู้ได้เฉพาะตัวของแต่ละคนไป โปรดจำไว้เสมอว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นต้องปฏิบัติเองถึงจะได้

เป็นพื้นฐานไปสู่การก่อนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานชั้นสูงต่อไป เมื่อทุกท่านทราบถึงการที่จะต้องทำอย่างไรก่อนถึงจะเริ่มต้นการสวดมนต์ ที่ครบถ้วนทุกประการแล้ว ต่อไปนี้จะขอนำทุกท่านพบกับวิธีการสวดให้ชีวิตดี สวดให้สุข สวดให้รวย กันในลำดับต่อไป
บทสวดมนต์ก่อนนอนเป็นบทสวดที่ก่อให้เกิดอานิสงค์กับผู้ที่สวด ทำให้จิตใจสงบ นอนหลับง่าย ตื่นมาสดชื่นเบิกบาน ดังนั้นการสวดมนต์ก่อนนอนทุกๆ คืนเป็นประจำ เป็นเรื่องที่พุทธศาสนิกชนควรยึดถือปฏิบัติ

344 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

บทชัยมงคลคาถา หรือ พาหุงมหากา คือ บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วก็ พรพาหุงอันเริ่มด้วย พาหุงสะหัส จนไปถึง ทุคคาหะทิฏฐิ แล้วเรื่อยไปจนถึง มหาการุณิโกนาโถหิตายะ และจบลงด้วย "ภะวะตุสัพพะมังคะลัง สัพพะพุทธา สัพพะธรรมา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต" อาตมาเรียกรวมกันว่า "พาหุงมหากาฯ"

บทความบทสวดมนต์ พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )

พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติฯ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ

พาหุงสะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆ ระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

มาราติเร กะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะยะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกาวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฉฐะคาถา โย
วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ

345 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัมหมะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

346 Nameless Fanboi Posted ID:qvSKCJoXEq

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง (สามครั้ง)

ข้าพเจ้าขอถือเอา พระพุทธเจ้าเป็นสะระณะ
ข้าพเจ้าขอถือเอา พระธรรมเจ้าเป็นสะระณะ
ข้าพเจ้าขอถือเอา พระสงฆเจ้าเป็นสะระณะ

แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอา พระพุทธเจ้าเป็นสะระณะ
แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอา พระธรรมเจ้าเป็นสะระณะ
แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอา พระสงฆเจ้าเป็นสะระณะ

แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอา พระพุทธเจ้าเป็นสะระณะ
แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอา พระธรรมเจ้าเป็นสะระณะ
แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอา พระสงฆเจ้าเป็นสะระณะ

พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้ทรงแจกจ่ายธรรม เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้ดีโดยชอบด้วยพระองค์เอง ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชา และ จรณะ (ความรู้และความประพฤติ) เสด็จไปดี (คือไปที่ใดก็ยังประโยชน์ให้ที่นั้น) ทรงรู้แจ้งโลก ทรงเป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึก หาผู้อื่นเปรียบมิได้ ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงเป็นผู้ตื่น ทรงเป็นผู้แจกจ่ายธรรม

พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว อันผู้ปฏิบัติเห็นชอบได้ด้วยตนเอง ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา ควรเรียกมาดูได้ ควรนอบน้อมเข้าไปหา อันผู้รู้พึงรู้ได้ด้วยตนเอง

พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติตรง พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความรู้ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติชอบ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคนั้น จัดเป็นบุรุษสี่คู่ เป็นบุคคลแปด เป็นผู้ควรบูชา เป็นผู้ควรรับทิกษิณา เป็นผู้ควรกราบไหว้ เป็นเนื้อนาบุญของโลก หาสิ่งอื่นเปรียบมิได้

สมเด็จพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นจอมของนักปราชญ์ ทรงชนะพญามารพร้อมด้วยเสนา ซึ่งเนรมิตแขนได้ตั้งพัน มีมือถืออาวุธครบทั้งพันมือ ขี่ช้างคิรีเมขล์ ส่งเสียงสนั่นน่ากลัว ทรงชนะด้วยธรรมวิธีมีทานบารมี เป็นต้น และด้วยเดชะของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะอาฬวกยักษ์ผู้โหดร้ายบ้าคลั่ง น่าสพึงกลัว ซึ่งต่อสู้กับพระองค์ ตลอดทั้งคืนรุนแรงยิ่งกว่าพญามาร จนละพยศร้ายได้สิ้น ด้วยขันติธรรมวิธีอันพระองค์ได้ฝึกไว้ดีแล้ว และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพญาช้าง ชื่อ นาฬาคิรี ซึ่งกำลังตกมันจัด ทารุณโหดร้ายยิ่งนัก ดุจไฟป่าจักราวุธและสายฟ้า ด้วยพระเมตตาธรรม และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะมหาโจร ชื่อ องคุลีมาล ในมือถือดาบเงื้อง่าโหดร้ายทารุณยิ่ง วิ่งไล่ตามพระองค์ห่างออกไปเรื่อย ๆ เป็นระยะทางถึง ๓ โยชน์ ด้วยทรงบันดาลมโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ) และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะคำกล่าวใส่ร้ายท่ามกลางชุมชน ของนางจิญจมาณวิกา ผู้ผูกท่อนไม้ซ่อนไว้ที่ท้องแสร้งทำเป็นหญิงมีครรภ์ ด้วยความจริง ด้วยความสงบเยือกเย็นด้วยวิธีสมาธิอันงาม และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

347 Nameless Fanboi Posted ID:3Dz+AijMBN

สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะสัจจกนิครนถ์ ผู้เชิดชูลัทธิของตนว่าจริงแท้อย่างเลิศลอย ราวกับชูธงขึ้นฟ้า ผู้มุ่งโต้วาทะกับพระองค์ ด้วยพระปัญญาอันเป็นเลิศดุจประทีปอันโชติช่วง ด้วยเทศนาญาณวิถี และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพญานาคชื่อนันโทปนันทะ ผู้หลงผิดและมีฤทธิ์มาก ด้วยทรงแนะนำวิธี และ อิทธิฤทธิ์แก่พระโมคคัลลานะ พระเถระภุชงค์ พุทธบุตร ให้ไปปราบจนเชื่อง และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพรหม ชื่อ ท้าวพูกะ ผู้รัดรึงทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดไว้แนบแน่น โดยสำคัญผิดว่าตนบริสุทธิ์มีฤทธิ์รุ่งโรจน์ด้วยวิธีวางยาอันวิเศษ คือ เทศนาญาณ และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

แม้นรชนใดไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพุทธชัยมงคลคาถา ๘ บทนี้ ทุกวัน ย่อมเป็นเหตุให้พ้นอุปัทวอันตรายทั้งปวง นรชนผู้มีปัญญาย่อมถึงซึ่งความสุขสูงสุดแล สิวโมกข์นฤพานอันเป็นเอกันตบรมสุข

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงบำเพ็ญพระบารมีทั้งปวง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณอันสูงสุด ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

ขอข้าพเจ้าจงมีชัยชนะในชัยมงคลพิธี ดุจพระจอมมุนีผู้ยังความปีติยินดีให้เพิ่มพูนแก่ชาวศากยะ ทรงมีชัยชนะมาร ณ โคนต้นมหาโพธิ์ทรงถึงความเป็นเลิศยอดเยี่ยม ทรงปีติปราโมทย์อยู่เหนืออชิตบัลลังก์อันไม่รู้พ่าย ณ โปกขรปฐพี อันเป็นที่อภิเษกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ฉะนั้นเถิด เวลาที่กำหนดไว้ดี งานมงคลดี รุ่งแจ้งดี ความพยายามดี ชั่วขณะหนึ่งดี ชั่วครู่หนึ่งดี การบูชาดี แด่พระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ กายกรรมอันเป็นกุศล วจีกรรมอันเป็นกุศล มโนกรรมอันเป็นกุศล ความปรารถนาดีอันเป็นกุศล ผู้ได้ประพฤติกรรมอันเป็นกุศล ย่อมประสบความสุขโชคดี เทอญ

ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

348 Nameless Fanboi Posted ID:n4f42e4Jah

การหัดสวด คาถาชินบัญชร ควรจะเริ่มสวดในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นวันครูและให้เตรียมดอกไม้ 3 สี หรือดอกบัว 9 ดอก หรือดอกมะลิ 1 กำ จุดธูป 3 5 ถึง 9 ดอก เทียน 2 เล่ม จากนั้นให้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยโดยการตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จากนั้นตั้งจิตนึกถึงสมเด็จโต

349 Nameless Fanboi Posted ID:n4f42e4Jah

พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งอธิษฐานว่า

คำภาวนาก่อนสวด
ตั้งนะโม 3 จบ >>> ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

พระคาถาชินบัญชร ฉบับย่อ
ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา (ภาวนา 10 จบ)

พระคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม
ก่อนสวดให้นึกถึง หลวงปู่โต พรหมรังสี แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ว่า

ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง

อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา

อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ

มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

เริ่มสวดบทพระคาถาชินบัญชร 15 บท
ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตวา มารัง สะวาหะนัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.

ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา.

สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.

หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก.

ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล
กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.

เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว

กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก
โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร.

ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ.

เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.

ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง

ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา

ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา
วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.

อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.

ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.

อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

350 Nameless Fanboi Posted ID:n4f42e4Jah

คำแปลพระคาถาชินบัญชร ทุกบท
พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์

มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น

ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก

พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง

พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย

มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง

พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ

พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก

ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่

พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง

พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ

อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น

ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ

ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล

ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ

351 Nameless Fanboi Posted ID:n4f42e4Jah

ชินบัญชรเป็นคาถาหนึ่งที่มีความสำคัญ และมีอายุยาวนานนับร้อยปี ตั้งแต่เริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 มาจนถึงปัจจุบัน เพราะด้วยพลานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์จึงทำให้ชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธหันมาท่องพระคาถานี้เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง อีกทั้งยังเป็นการป้องกันให้ตนเองนั้นพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ ทั้งปวง

มีการถกเถียงกันมาเป็นระยะเวลายาวนานนับทศวรรษเกี่ยวกับเรื่องราวที่ว่า ใครที่เป็นผู้แต่ง คาถาชินบัญชร ขึ้นระหว่าง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรํสี แห่งวัดระฆังโฆษิตาราม กับพระมหาเถระผู้เชี่ยวชาญบาลีปกรณ์รูปหนึ่งจากเชียงใหม่ ซึ่งในกรณีของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) นั้น เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าท่านเป็นเพียงแค่ผู้นำพระ คาถาชินบัญชร มาเผยแพร่ต่อ มิได้เป็นผู้แต่งขึ้นเอง

ตามที่ได้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ได้ไปสวดพระคาถานี้ถวายองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์ทรงมีรับสั่งว่าถ้อยคำในบทสวดนั้นไพเราะ และได้ทรงซักถามเพิ่มเติมว่า “ขรัวโตได้มาจากไหน แต่งเองหรือเปล่า” สมเด็จพระพุฒาจารย์จึงได้ถวายพระพรตอบว่า “หามิได้ เป็นสำนวนเก่าของเมืองเหนือ นำมาแก้ไขดัดแปลงใหม่ ตัดตอนให้สั้นเข้า ของลังกายาวกว่านี้” ฉะนั้นจึงเป็นไปได้ว่าผู้แต่งขึ้นน่าจะเป็นพระภิกษุชาวล้านนารูปหนึ่ง อยู่ในสมัยพระเจ้าติโลกราชที่อาจะเป็นยุคทอง

เนื่องจากในยุคนั้นเป็นยุคสมัยที่มีการสนับสนุนให้พระเถระหลายร้อยรูปเดินทางไปศึกษาพระไตรปิฎกที่ลังกา เมื่อได้สำเร็จการศึกษาจึงมีการแข่งขันกันแต่งบาลีปกรณ์กันอย่างเอิกเกริกจนชื่อเสียงแผ่ขยายไปจนถึงพม่า กรุงศรีอยุธยา สิบสองปันา และล้านช้าง ทำให้เมืองเหล่านั้นต้องขอคัมภีร์ภาษาบาลีที่จารโดยพระภิกษุล้านนาไปศึกษาอย่างแพร่หลาย

ความหมายของชินบัญชร
ในความหมายของคำว่า ชินบัญชร นั้นแปลว่า กรง หรือ เกราะป้องกันภัยของพระพุทธเจ้า คำว่า ชิน หมายถึง พระพุทธเจ้า คำว่า บัญชร หมายถึง กรง หรือ เกราะ โดยที่เนื้อหาในคาถาในชินบัญชรนั้นจะเป็นการอัญเชิญพระพุทธเจ้าจำนวน 28 พระองค์ เริ่มตั้งแต่พระพุทธเจ้าพระนามว่าตัณหังกร เป็นต้น เดินทางลงมาสถิตอยู่ในทุกอณูของร่างกาย เพื่อเป็นการเสริมให้ตนเองนั้นมีพลังพุทธคุณให้ยิ่งใหญ่

จากนั้นจึงอัญเชิญพระอรหันต์ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 80 องค์ซึ่งเป็นผู้มีบารมีธรรมที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังได้มีการอาราธนาพระสูตรอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ทรงอานุภาพในด้านต่างๆ มาสถิตในทุกส่วนของร่างกายจนรวมกันเป็นกำแพงแก้วคุ้มกัน ตั้งแต่กระหม่อมลงมาห้อมล้อมรอบตัวของผู้สวดภาวนาพระคาถาชินบัญชรจนกระทั่งอันตรายก็ไม่สามารถหาช่องโหว่เพื่อสอดแทรกเข้ามาได้

เราได้รู้จักประวัติความเป็นมาของพระคาถาชินบัญชรอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องไปกำหนดจิตใจให้สงบเพื่อเริ่มสวดภาวนาพระคาถากันแล้ว

352 Nameless Fanboi Posted ID:n4f42e4Jah

อานุภาพของพระคาถาชินบัญชร
พระคาถาชินบัญชรนี้มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก หากผู้ใดสวดมนต์ หรือภาวนาคาถาชินบัญชรอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะกิน เดิน นั่ง นอน หรือภาวนาพระคาถาแม้ยามอาบน้ำ แปรงฟัน หรือแม้กระทั่งตอนทำงานก็จะช่วยเสริมให้เกิดความเป็นสิริมงคล สมบูรณ์พูลผล ศัตรูหมู่พาลไม่กล้ำกราย เดินทางไปที่ได้ก็เกิดเมตตามหานิยม มีลาภผลทวี ขจัยภัยภูตผีปีศาจ ตลอดจนคุณไสยต่างๆ

หากสวดคาถาชินบัญชรนี้ขณะทำน้ำมนต์รดแก้วิกลจริต แก้สรรพโรคได้หายสิ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งพระคาถาที่มีคุณานุภาพตามแต่จะปรารถนา ดังคำโบราณที่ว่า “ฝอยท่วมหลังช้าง” เมื่อเดินทางไปที่ใดๆ ให้สวด 10 จบแล้วอธิฐานก็จะสำเร็จได้สมดังใจ

353 Nameless Fanboi Posted ID:n4f42e4Jah

สำหรับใครที่ไม่ค่อยถนัดนักในการที่จะท่องคาถาชินบัญตามตัวหนังสือ หรืออยากจะจำพระคาถานี้ให้ได้ขึ้นใจ เราก็มีคาถาชินบัญชรในรูปแบบที่เป็นวีดีโอ หรือเสียงมาฝาก เอาไว้ให้ไปนั่งฟัง พร้อมกับท่องตามกันได้ง่ายๆ เชื่อว่าหากเพื่อนๆ หมั่นฟังเป็นประจำก็จะทำให้สามารถจดจำคาถาชินบัญชรนี้ได้โดยไม่ต้องเปิดอ่านจากหนังสือสวดมนต์อีกแล้วล่ะ

จงระลึกไว้เสมอว่า บทสวด หรือพระคาถาใดๆ ซึ่งรวมถึงพระคาถาชินบัญชรก็ไม่อาจสามารถพยุงเราให้รอดพ้นจากภัยอันตราย หรือกำหนดจิตใจของเราให้สงบ แน่วแน่ได้ด้วยตัวเองทั้งหมด ตัวของเรา ใจของเราเอง ยังคงต้องเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยประสานการทำงานให้การสวดภาวนาเหล่านั้นสัมฤทธิ์ผลด้วย อาจมีการนั่งสมาธิ สวดภาวนาพระคาถาต่างๆ หมั่นทำบุญ ตักบาตร และใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ มีสติ เพียงเท่านี้ชีวิตของเราก็จะได้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

354 Nameless Fanboi Posted ID:UlnQgIHtMv

เข้ามา งง นึกว่ามู้ธรรมะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:+Kd5Sg/E72

>>334 hp หรือ hv อะไรไหม คนนั้นป่าววะ

356 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

อาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูผัด แบบง่ายๆ ใช้ผักกวางตุ้งเป็นวัตถุดิบหลัก ผักกวางตุ้งทำอะไรกินได้บ้าง มีผักกวางตุ้งทำอะไรกินดี เรามีคำตอบให้ด้วย ผัดผักกวางตุ้งหมูสับ เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ ผักสดๆ หมูสับสดๆ และ เทคนิคการผัด รวมถึงการปรุงรสชาติ ต้องได้อัตราส่วนที่พอดี

ผัดผักกวางตุ้งหมูสับ ภาษาอังกฤษ เรียก Stir fried Soy sum with minced pork อาหารเบาๆ สบายท้อง หมูสับทำอะไรกินดี อาหารผัดสำหรับวันนี้ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำผัดผักกวางตุ้งหมูสับ

เนื้อหมูสับ 1 ถ้วย
ผักกวางตุ้ง หั่นเป็นท่อนๆ 1 ถ้วย
พริกสดบด 2 ช้อนชา
กระเทียมสดบด 2 ช้อนชา
น้ำซุป 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช สำหรับผัด 1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำผัดผักกวางตุ้งหมูสับ

เริ่มต้นโดยการตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ กระเทียม และ พริกสด ลงไปผัด เมื่อ ความหอมของกระเทียมออกมาอย่างเต็มที่ ให้ใส่เนื้อหมูสับลงไปผัด
ผัดหมูสับให้สุกก่อน จากนั้น ปรุงรส ด้วย น้ำตาล น้ำปลา ซอสหอยนางรม และ น้ำซุป ผัดจนน้ำซอสได้รสชาติที่ต้องการ
ขั้นตอนสุดท้าย ให้เร่งไฟใ้แรง และ นำผักกวางตุ้ง ลงไปผัด อย่างรวดเร็ว และ นำขึ้นมาเสริฟใส่จานเลย ขั้นตอนนี้สำคัญอย่าผัดนาน เพราะจะทำให้ผักเฉาเหี่ยว
เคล็ดลับการทำผัดผักกวางตุ้ง

ผักกวางตุ้ง ให้เลือกผักที่อ่อนๆ เนื่องจากผักอ่อนๆ จะเนื้อนุ่ม รสอร่อย ไม่หยาบ และ เหนียว นำมาล้างให้สะอาด และหั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
กระเทียม ให้เลือกทำเป้น 2 ส่วน ส่วนแรกบดละเอียด นำมาผัดให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติ ส่วนที่สอง กระเทียมฝานเป็นแผ่นๆ นำมาผัด เพื่อให้ได้สีสันที่สวยงาม
พริกสด ให้เลือกพริกขี้หนูสวน จะทำให้ได้รสชาติที่น่ารับประทาน
น้ำมันสำหรับนำมาผัด ให้เลือกใช้น้ำมันใหม่ อย่านำน้ำมันเก่ามาผัด สำหรับเมนูนี้ ไม่ใช่น้ำมันมาก หากใส่น้ำมันมากๆ จะทำให้มันเยิ้มมากเกินไปไม่น่ารับประทาน
ผักกวางตุ้งเฉาง่าย การผัดอย่าผัดนาน หากผักเหี่ยวเกินไป จะทำให้ไม่น่ารับประทาน

357 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

Ingredients of Stir fried choy sum with minched pork

minced pork 1 cup
Choy sum cut arount 2″ 1 cup
chili minched 1 teaspoon
garlic minched 1 teaspoon
sugar 1 teaspoon
fish sauce 1 tablespoon
oyster sauce 1 tablespoon
cooking oil 1 tablespoon
Step cooking of Stir fried choy sum with minced pork

Heat oil in a pan. and then put garlic , chilli, and minced pork to stir in a pan.
Put sugar, fish sauce, oyster sauce and choy sum to stir in a pan.
Serve to a dish.

358 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

สูตรยำไส้กรอก สูตรอาหาร เมนูง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูยำ

ส่วนผสมสำหรับทำยำไส้กรอก

ไส้กรอกหมู 3 แท่ง นำมาหั่นให้พอดีคำ
หมูสับลวก 1 ช้อนโต้ะ
หอมหัวใหญ่ ครึ่งหัว นำมาซอยเป็นเส้น
มะเขือเทศ 1 ลูก นำมาหั่นเป็นซีกๆ
ต้นหอม 1 ต้น นำมาหั่นเป็นท่อน
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต้ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต้ะ
พริกขี้หนูสวน 1 ช้อนโต้ะ นำมาโขรกให้ละเอียด
คื่นฉ่าย สำหรับโรยหน้า
น้ำซุปหมู 2 ช้อนโต้ะ
วิธีทำยำไส้กรอก

เริ่มจากการเตรียมไส้กรอกก่อน นำไส้กรอกไปนึ่งให้สุกก่อน
เตรียมน้ำยำ โดยการผสมน้ำปลา น้ำตาลทราย พริกขี้หนูสวน น้ำซุป และ น้ำมะนาว ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากัน
จากนั้นจึงใส่ไส้กรอก หมูสับ หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ คื่นฉ่ายและต้นหอม ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำยำ
เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นอาหารอร่อยๆแบบง่ายๆ พร้อมรับประทานได้
เคล็ดลับการทำยำไส้กรอก

การเลือกซื้อไส้กรอก ให้ใช้ไส้กรอกอย่างดี เนื่องจากเมนูนี้ความอร่อยหลักอยู่ที่ไส้กรอก ดังนั้นต้องเลือกซื้อไส้กรอกที่อร่อยถูกปากก่อน และ ที่สำคัญต้องเลือกไส้กรอกที่สดใหม่
การเตรียมไส้กรอกให้นำไปนึ่งให้สุกก่อน
หอมหัวใหญ่จะมีกลิ่นแรง การลดกลิ่นของหอมหัวใหญ่ให้นำไปลวกก่อน กลิ่นของหอมหัวใหญ่จะลดลง
พริกสำหรับนำมาทำน้ำยำ แนะนำให้เลือใช้พริกขี้หนูสวน
น้ำตาลให้เลือกใช้น้ำตาลทราย น้ำตาลทรายจะละลายง่ายเมื่อผสมกับน้ำปลาและน้ำมะนาว
น้ำมะนาวให้เลือกใช้น้ำมะนาวสดแบบคั้นจากผลมะนาว ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมะนาวเทียมหรือน้ำส้มสายชู
สำหรับคนที่อยากเพิ่มความหอมมันของน้ำยำ สามารถใส่พริกเผาลงไปได้ แต่ต้องปรุงรสเพิ่ม
น้ำสำหรับใส่ในยำ หากต้องการให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น ให้ใช้ น้ำซุป จะทำให้มีรสชาติมากกว่าน้ำเปล่า แต่สำหรับ ยำ นั้น การลวกผัก ทำให้เกิดน้ำสะสม ดังนี้ ให้ใส่ น้ำซุป ในปริมาณที่เหมาะสม
หากชอบถั่วสามารถใส่เพิ่มได้ เช่น ถั่วลิสงคั่ว หรือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
สามารถใส่ส่วนผสมอื่นๆร่วมได้ตามความต้องการ เช่น ปูอัด ปลาหมึกลวก กุ้งลวก เป็นต้น
ยำไส้กรอก อาหารอร่อยๆจากไส้กรอก วิธีทำยำไส้กรอก สามารถทำกินเองได้ ความอร่อยของเมนูนี้ คือ รสเผ็ด หวาน เค็ม เปรี้ยว ที่พอดี

359 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

สูตรแกงส้มปลาช่อนผักรวม อาหารไทย อร่อยๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูปลา

ส่วนผสมสำหรับทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม

ปลาช่อน 1 ตัว (หั่นเป็นท่อนๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน)
น้ำพริกแกงส้ม 1 ช้อนโต้ะ ( พริกชี้ฟ้าแห้ง พริกขี้หนูแห้ง พริกจินดาแดง หอมแดง กระเทียม กระชาย เกลือ และ กะปิ)
ผักกระเฉด 1 กำมือ หั่นเป็นท่อนๆ
หัวไชเท้า 2 ชิ้น
ดอกแค 1 กำมืิิอ
ฟักทอง 1 กำมือ (หั่นเป็นชื้น)
มะละกอดิบ 1 กำมือ (หั่นเป็นชิ้น)
ถั่วฝักยาว 2 เส้น (หั่นพอคำ)
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
ผักกาดขาว หั่นเป็นชิ้นพอคำ
วิธีทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม

เริ่มจากการเตรียมเนื้อปลาก่อน ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดใส่ปลาช่อนลงไปต้ม กับตะไคร้และใบมะกรูด เพื่อช่วยดับคาว ต้มจนสุก
จากนั้นนำปลาช่อนที่ต้มสุกแล้ว นำมาแกะเนื้อเฉพาะเนื้อ จากนั้นนำน้ำพริกแกงส้มมาโขรกรวมกับเนื้อปลาช่อนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ส่วนเนื้อปลาอีกครึ่งหนึ่งให้นำมาคลุกแป้งมัน ตั้งกระทะนำมันให้ไฟร้อน ใส่เนื้อปลาช่อนลงไปทอดให้ผิวภายนอกเหลืองสุก ไม่ต้องทอดนาน เราทอดให้เนื้อปลาช่อนเกาะตัวไม่เละ จากนั้นให้พักปลาช่อนทอดเอาไว้ก่อน
เริ่มทำแกง โดยใส่น้ำลงหม้อต้ม ต้มให้น้ำเดือด ใส่น้ำพริกส้มที่โขรกกับเนื้อปลาช่อนลงไปต้ม ช่วงนี้ให้ใช้ไฟแรงให้พริกแกงหอม
ใส่หัวไชท้าว มะละกอดิบ และ ฟักทองลงไปต้ม
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และ น้ำมะขามเปียก
จากนั้นใส่ เนื้อปลาช่อนทอด ดอกแค ผักกระเฉดและถั่วฝักยาว ลงไปต้ม ไม่ต้องต้มนาน ปิดไฟ
เสริฟใส่ชามพร้อมรับประทาน
เคล็ดลับการทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม

ปลาช่อนให้เลือกใช้ปลาช่อนนา ขนาด 7 ขีด จะเป็นปลาช่อนขนาดที่ใหญ่พอดี มีเนื้อมากพอ และ เลือกซื้อปลาช่อนที่สดๆ เทคนิคการเลือกซื้อปลาช่อน ให้ดูที่เหงือกปลาต้องแดงสด ตาปลาใส ไม่ขุ่น ลักษณะของตัวปลาสมบูรณ์ ไม่มีแผล เกร็ดสมบูรณ์ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
เทคนิคการเตรียมปลาช่อน ให้ขอดเกร็ดออก เอาเหงือกออก ผ่าท้องเอาไส้และขี้ออก ล้างให้สะอาด เทคนิคการล้างปลาให้ใช้เกลือ และ แป้งมันในการถูตัวปลาให้เมือกของตัวปลาออก
เนื้อปลาช่อนเมื่อสุกจะเละไม่น่ารับประทาน ยิ่งการนำปลามาทำแกงด้วยแล้ว เทคนิคการทำให้เนื้อปลาคงรูปไม่เละ ให้นำปลาไปทอดก่อน เนื้อปลาทอดจะไม่เละ คงรูปเนื้อปลา
เนื้อปลาในแกงจะมี 2 ส่วน คือ เนื้อปลาต้ม นำมาโขรกให้ละเอียดผสมในน้ำแกง และ เนื้อปลาทอด ใส่ลงไปในแกงให้รสชาติของเนื้อปลา
แกงส้มหากทิ้งน้ำแกงให้เย็นค้างไว้หนึ่งคืน น้ำแกงส้มจะหวานอร่อยเค้มข้น น่ารับประทาน
การปรุงรสเปรี้ยวของแกงส้มจะใช้ความเปรี้ยวของมะขามเปียก จะได้ทั้งความหวานและเปรี้ยว เหมาะสำหรับเมนูแกงส้ม
หัวไชท้าวและฟักทอง สุกยากให้ใส่ลงไปต้มก่อนและรอให้สุกก่อน จึงค่อยปรุงรสและใส่ส่วนผสมที่เหลือ
ผักที่สุกง่ายให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย เนื่องจากผักอาจเละไม่น่ารับประทาน
แกงส้มปลาช่อน อาหารพื้นบ้าน ยอดนิยม ขั้นตอนการทำเข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนชอบอาหารไทย เมนูอาหารสุดโปรด กับข้าวจากปลาช่อน

360 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

สูตรมะพร้าวแก้ว ขนมไทยง่ายๆทำจากมะพร้าว ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบทำขนมหวาน

ส่วนผสมสำหรับทำมะพร้าวแก้วใบเตย

เนื้อมะพร้าวทึนทึก 1 ถ้วยตวง นำมาขูดเป็นเส้น
น้ำตาลปี๊บ 5 ขีด
เกลือป่น 1 ช้อนโต้ะ
ใบเตย 4-5 ใบ หั่นเป็นท่อนๆ
ดอกอัญชัน 1 กำมือ
น้ำหวานสีแดง 1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำมะพร้าวแก้วใบเตย

เริ่มจากการเตรียมน้ำใบเตยก่อน โดยนำ ใบเตยที่เตรียมไว้นำมาเข้าเครื่องปั่นผลมน้ำเปล่า ปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำมากรองเอาเฉพาะสีเขียวธรรมชาติ
เตรียมสีน้ำเงินม่วง โดยใช้ดอกอัญชัน นำดอกอัญชันมาคั้นกับน้ำเปล่า ให้ได้สีน้ำเงินม่วงแบบธรรมชาติ
นำเนื้อมะพร้าวขูดที่เตรียมไว้ลงไปแช่ในสีธรรมชาติที่เตรียมไว้ โดยแยกสีละชาม สีแดงจากน้ำหวานสีแดง สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน สีเขียวจากใบเตย
เมื่อเนื้อมะพร้าวขูดดูดซึมสีจนได้สีสันที่ต้องการแล้วให้นำมาพักให้แห้งก่อน
เตรียมน้ำตาล แบ่งน้ำตาลและเกลือเป็น 4 ส่วน สำหรับทำมะพร้าวแก้ว 4 สี โดยตั้งกระทะไฟอ่อนๆ ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปเคี้ยวให้น้ำตาลละลาย จากนั้นใส่เกลือป่นลงไป เคี้ยวให้น้ำตาลง่วน และ เหนียว
นำมะพร้าวขูด ลงไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลที่เคี้ยวไว้ ให้น้ำตาลผสมกับเส้นให้ทั่วถึง
จากนั้นนำมาพักเอาไว้ให้เย็น
นำแบบเดียวกันแบบนี้ กับเส้นมะพร้าวสีต่างๆจนครบที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานได้
เคล็ดลับการทำมะพร้าวแก้วใบเตย

น้ำใบเตย ให้ใช้น้ำที่คั้นจาก ใบเตยสด จะให้สีเขียวและความหอมของใบเตยแบบธรรมชาติ ให้ความอร่อยแบบต้นตำรับ
น้ำหวานสีแดง จะให้สีแดงธรรมชาติสามารถรับประทานได้
ดอกอัญชันจะให้สีน้ำเงินธรรมชาติ สามารถนำมารับประทานได้
การเตรียมสีธรรมชาติสำหรับผสมอาหารให้ทำให้สะอาด อย่าให้มีสิ่งสกปรกเจือปน
น้ำตาลสำหรับนำมาทำมะพร้าวแก้ว เลือกใช้ให้ใช้น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลให้ความหอมและหวานแบบเข้ากับเนื้อมะพร้าว
การเคี้ยวน้ำตาลให้ใส่เกลือลงไปด้วย ความเค็มของเกลือจะเพิ่มความกลมกล่อมของน้ำเชื่อมให้อร่อย
มะพร้าว ใช้ เนื้อมะพร้าวแก่ เนื่องจากเนื้อมะพร้าวมีความเหนียวนุ่ม สามารถนำมาทำเป็นเส้นได้ มะพร้าวของเพรชบุรี เป็นมะพร้าวที่มีความหวานและหอม
สำหรับคนที่ชอบเนื้อมะพร้าวมากๆ สามารถเปลี่ยนจากการขูดเป็นเส้นให้เป็นแบบฝานเป็นแผ่นได้ แต่การฝานเป็นแผ่นจะทำให้เนื้อมะพร้าวติดกันเวลารับประทานไม่น่ารับประทาน จึงต้องใช้น้ำตาลไอซ์ซิ่งโรยอีกเพื่อไม่ให้น้ำตาลเกาะเส้นมะพร้าวเป็นก้อน
เนื้อมะพร้าว นำไปแช่เย็นก่อน จากนั้นนำเนื้อมะพร้าวล้างให้สะอาด นำมาขูดเป็นแผ่นๆ โดย การหั่นต้องไม่หนามาก เพราะ จะทำให้มะพร้าวเนื้อแข็ง
มะพร้าวแก้ว หลังจากคลุกเคล้ากับน้ำตาลแล้วให้ตากลมให้แห้งให้น้ำตาลคลายความชื้นและแห้งก่อน
มะพร้าวแก้ว หากโดนความร้อนน้ำตาลจะละลายไม่น่ารับประทาน จึงไม่ควรเก็บในที่มีความร้อน
มะพร้าวแก้ว ขนมไทย เนื้อมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้น หรือ เป็นแผ่น นำมาคลุกกับน้ำตาลเชื่อม ความเนียวนุ่มของมะพร้าว กับความหวานของน้ำตาล ให้ความหวาน มัน ตามแบบฉบับของ ขนมหวานแบบไทยๆ

361 Nameless Fanboi Posted ID:prLb+jTzXV

ระวังมันฟ้อง ม.293 นะ

362 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

สูตรแกงคั่วมะระปลาดุก อาหารอร่อยๆ เมนูปลาดุก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำแกงคั่วมะระปลาดุก

ปลาดุก 1 ตัว นำมาหั่นเป็นท่อนพอดีคำ
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 6 เม็ด
เกลือ 1 ช้อนชา
กระเทียม 1 หยิบมือ
ข่าซอย 1 หยิบมือ
ตะไคร้ซอย 1 หยิบมือ
ผิวมะกรูด 1 หยิบมือ
รากผักชี 2 ราก นำมาซอย
หอมแดง 1 หยิบมือ
กะปิ 1 ช้อนชา
มะระ หั่นพอคำ 1 ถ้วย
ใบมะกรูด 4-5 ใบ นำมาซอย
พริกขี้หนูสวน 5-6 เม็ด
กะทิ 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแกงคั่วมะระปลาดุก

เริ่มจากการเตรียมมะระก่อน นำมะระล้างให้สะอาด แช่น้ำเกลือ จากนั้นนำ มะระไปลวกในน้ำร้อน และ นำไปแช่น้ำเย็น พักเอาไว้ก่อน
เตรียมพริกแกง โขรก พริกแห้ง เกลือ กระเทียม ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี กะปิ และหอมแดงให้ละเอียด เป็นเนื้อเดียวกัน
ตั้งกระทะน้ำมัน ไม่ต้องเปิดไฟ ใส่พริกแกงลงไปในกระทะ จากนั้นค่อยเปิดไฟให้ความร้อนค่อยๆให้พริกแกงสุกจนส่งกลิ่นหอม
จากนั้นใส่กะทิ ลงไปเคี่ยวกับพริกแกง เคี้ยวจนกะทิแตกมัน
ให้เติมน้ำ
ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริกขี้หนูสวน และ ใบมะกรูด
ใส่ ปลาดุก และ มะระ ลงไปต้ม เคี่ยวต่อจนสุกเนื้อปลาสุกปิดไฟและเสริฟใส่ชามพร้อมรับประทานได้
เคล็ดลับการทำแกงคั่วมะระปลาดุก

การทำให้มะระไม่ขม ต้องคว้านเอาไส้ขาวๆและเมล็ดออกให้หมด จากนั้นนำๆปต้มด้วยน้ำเกลือ 15 นาที และนำมาแช่เย็นให้มะระยังคงความสด
การเลือกมะระ ให้เลือกมะระจีนตาใหญ่ๆ หยักน้อยๆ จะได้มะระที่ไม่ขม
มะระ ให้นำไปลวกก่อน การลวกมะระ จะช่วยให้ลดความขมของมะระลงได้ แต่น้ำที่ใช้ในการลวกมะระ ไม่ควรนำมาทำอาหาร เนื่องจากน้ำจะขม
เคล็ดลับการทำพริกแกง ส่วนผสม อย่าง ข่า ตะไคร้ กระเทียม และ หอมแดง ให้นำไปคั่วกระทะ ให้หอมก่อน จึงนำไปโขรก จะทำให้พริกแกงมีความหอมแบบธรรมชาติ
เทคนิคการผัดพริกแกงให้ใช้ไฟอ่อนๆ ให้ความร้อนอ่อนๆทำให้พริกแกงสุกหอม จะได้ความหอมและรสชาติของพริกแกงอย่างเต็มที่ หากใช้ไฟแรงเกินไปพริกแกงจะไหม้ เสียรสชาติ
น้ำกะทิ สำหรับนำมาทำอาหาร เมนูแกงกะทิ ให้เลือกใช้ กะทิคั้นสด ความสดของกะทิ ช่วยให้ อาหารเมนูแกงกะทิ มีความหอมแบบธรรมชาติ
ใบมะกรูด ส่วนแกนของใบ เป็นส่วนที่ความขม การเตรียมใบมะกรูด ให้เอาแกนใบออก
น้ำตาล สำหรับปรุงรส แกงคั่วนั้น ให้ใช้น้ำตาลปีี๊บ เนื่องจากความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะสำหรับนำมาทำแกงคั่ว
ปลาดุก ให้เลือกใช้ ปลาดุกสดๆ ใช้ปลาดุกรัสเซีย เนื่องจากปลาดุกรัสเซีย เนื้อเยอะ ได้เนื้อปลามากๆ
การล้างปลา เป็น เคล็ดลับความอร่อยของเมนูปลา ต้องล้างให้เมือกที่ตัวปลาออกให้หมด การล้าปลาใช้ แป้งมันถูกปลา ให้แป้งมันจับกับเมือกปลา และ ใช้เกลือ ล้างปลาอีกครั้ง เมือกปลาจะออกหมด

363 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

สูตรแกงอ่อมหมู เมนูแกงหมูแบบง่าย ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำแกงอ่อมหมู

หมูสามชั้น 1 ขีด โดยนำมาหั่นเป็นชิ้นพบคำ
น้ำซุปกระดูก 3 ถ้วย
ใบมะกรูด 3-4 ใบนำมาซอย
พริกแห้ง 7 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียม 1 หัว
ข่า 1 หัวนำมาซอย
ตะไคร้ 1 ต้น นำมาซอย
รากผักชี 1 ราก นำมาซอย
กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
ใบแมงลัก 1 กำมือ
ฟักทอง 3-4 ชิ้น
ผักชีลาว 1 ต้น นำมาหั่นเป็นท่อน
วิธีทำแกงอ่อมหมู

เริ่มจากการทำพริกแกงก่อน โดยใส่ พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ รากผักชี และ กะปิ ในอัตราส่วนที่เท่ากัน นำส่วนผสมทั้งหมดมาโขรกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
ตั้งหมอต้มน้ำซุปกระดูกใส่เนิื้อหมูสามชั้นลงไปต้ม โดยต้มให้เนื้อหมูสามชั้นสุกก่อน
จากนั้นปรุงรสด้วยพริกแกงที่เตรียมเอาไว้ ใส่ใบมะกรูดและฟักทองลงไป
ใส่ใบแมงลักและผักชีลาวลงไปต้ม และ ปิดไฟ ให้ความร้อนทำให้ผักสุกเอง
เพียงเท่านี้ก็สามารถเสริฟใส่ชามพร้อมรับประทาน
เคล็ดลับการทำแกงอ่อมหมู

เนื้อหมู ใช้เนื้อหมูสามชั้น การเลือกเนื้แหมูสามชั้น ให้เลือก เนื้อหมูสามชั้น ที่มีอัตราส่วนของ เนื้อหมู 8 ส่วน มันหมู 2 ส่วน
การเตรียมหมูสามชั้น นั้น ต้องขูดขนหมูออกจาหหนังหมู เนื่องจากขนหมูทำให้เสียอรรถรสความอร่อยของหมูสามชั้น การหั่นเนื้อหมู ให้หนาหน่อย เนื่องจากหมูสามนั้น ต้องนำไปเคี้ยวจนเนื้อนุ่ม
พริกแกงเผ็ด เป็น เคล็ดลับความอร่อย การทำพริกแกงเผ็ด ใช้ พริกแห้ง ซึ่ง พริกแห้ง ให้นำไปแช่น้ำ และ เอาเมล็ดออก หอมแดง และ กระเทียม ให้นำไปคั่วให้หอมก่อน กะปิ ให้นำไปย่างให้หอมก่อน การโขรกพริกแกงเผ็ด ให้โขรก ข่า ตะไคร้ รากผักชีก่อน ใส่ หอมแดงขั้นตอนสุดท้าย เนื่องจาก หอมแดงมีน้ำมาก ให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย
ฟักทอง สุกยาก การต้มฟักทองต้องสังเกตุให้ฟักทองสุกก่อน จึงค่อยใส่ผักที่สุกง่ายลงไปต้ม
ใบแมงลักและผักชีลาว ให้กลิ่นหอมในน้ำแกง แต่ว่าสุกง่าย หากต้มนานเกินไปจะกลิ่นหอมจะหายและผักเละ ไม่น่ารับประทาน ดังนั้น เทคนิคการต้มใบแมงลักและผักชีลาว ให้ใส่ในขั้นตอนสุดท้าย และไม่ต้องต้มนาน
ใบมะกรูด สรรพคุณให้กลิ่นหอม และมีน้ำมันหอมระเหย มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การต้มใบมะกรูด ให้เอาส่วนของแกนใบออก เพราะว่าแกนใบจะทำให้มีรสขม เสียรสชาติของอาหาร
แกงอ่อมหมู นิยมใช้เนื้อหมู หรือ เครื่องในหมู นำมาทำแกง เป็นอาหารยอดนิยมของภาคเหนือ วิธีทำแกงอ่อมหมู ไม่ยากใครๆก็ทำกินเองได้ เมนูอาหารนิยมทำกินในเทศกาลต่างๆ เนื้อหมูทำอะไรกินดี

364 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

สูตรอาหาร เมนูอาหารแนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารคลีน แคลอรีต่ำ เมนูพันหอม เป็นอาหารว่างชื่อ พันหอม เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรพันหอม อาหารเวียดนาม อร่อยๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร อาหารลดความอ้วน

ส่วนผสมสำหรับทำสลัดพันหอม

หมูสามชั้น 1 ขีด
กุ้งขาว 10 ตัว
ไข่ไก่ 2 ฟอง
หมูยอ 1 แท่ง
ผักสลัด 1 ต้น
ต้นหอม 3 ต้น
น้ำจิ้มซีฟู๊ด หรือ น้ำจิ้มปอเปี๊ยะเวียดนาม
วิธีทำสลัดพันหอม

เริ่มจากการเตรียมเครื่อง นำเนื้อหมูลงไปต้มให้สุกจากนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ โรยเกลือนิดหน่อยเพิ่มรสชาติเนื้อหมู นำมาพักไว้ก่อน
จากนั้นนำเนื้อกุ้งลงไปลวกให้สุก เช่นกันและนำมาพักไว้ก่อน
เตรียมหั่นหมูยอให้มีขนาดพอดีกับเนื้อหมูสามชั้นที่เตรียมเอาไว้
ตั้งกระทะน้ำมัน ตอกไข่และตีให้ละเอียด นำไปทอดเป็นแผ่นไข่ จากนั้นนำมาหั่นให้เป็นชื้นขนาดเท่ากับเนื้อหมูที่หั่นไว้
นำใบต้นหอมไปลวกน้ำให้สลด และ พักเอาไว้ก่อน
เริ่มทำโดย นำใบผักสลัดวางเป็นฐานให้มีพื้นที่เพียงพอที่จะพันเครื่องทั้งหมดได้ วางหมูยอ กุ้ง ไข่ทอด และ หมูสามชั้น ตามใจชอบ จากนั้นนำให้ใช้ใบผักสลัดพันเครื่องทั้งหมดให้รอบๆ
นำใบต้นหอมมาพันและมัดให้แน่น จัดวางใส่จาน เสริฟสลัดพันหอม พร้อม น้ำจิ้มซีฟู๊ด หรือ น้ำจิ้มปอเปี๊ยะเวียดนาม
เคล็ดลับการทำพันหอม

ต้นหอม สำหรับนำมาพันสลัด นั้น หากนำมาลวกให้สุก จะทำให้ ต้นหอมเหนียว สามารถนำมาพันผักกาดหอมได้
ผักกาดหอม หรือ ผักสลัด ให้เลือกใบที่อ่อนหน่อย จะได้ผักที่มีความหวานไม่ขม
การหั่นส่วนผสมต่างๆ อย่าง หมูสามชั้น ไข่ทอด กุ้ง ให้ทำให้ขนาดพอดี และ เมื่อพันเสร็จ ต้องขนาดไม่ใหญ่เกินไป
กุ้ง ให้เลือกใช้กุ้งสดๆ นำมาแกะเปลือก ผ่าหลัง และนำไปลวก การลวกกุ้ง นั้น ไม่ควรลวกนานเกินไป เนื่องจาก กุ้งหากลวกนานเกินไป จะทำให้เนื้อกุ้งแข็ง กระด้าง
การทอดไข่ นั้น ให้ทาน้ำมันให้ทั่วกระทะ ใช้ไฟอ่อน แต่ต้องกระทะร้อน ใส่ไข่ลงไป และทำให้ไข่เป้นแผ่นสั่วกระทะ ลอกไข่ออกจะได้แผ่นไข่ทอด
การลวกเนื้อหมู เนื้อกุ้ง และ ใบหอม ให้ใช้น้ำใหม่ในการลวกแต่ละวัตถุดิบ เนื่องจากหากใช้น้ำเดิมอาจทำให้กลิ่นของอาหารปนกัน เสียรสชาติของอาหาร
เนื้อหมูสามชั้นลวก ให้โรยเกลือนิดหน่อย เพื่มรสชาติให้เนื้อหมู
การจัดวางชั้นของผักสลัด ไข่ทอด หมูสามชื้น กุ้ง หรือ หมูยอ สามารถจัดได้ตามใจชอบ
สามารถใส่วัตถุดิบอื่นๆเพิ่มได้ตามใจชอบ เช่น แครอท ผักชี หรือ อย่างอื่นๆตามใจชอบ
พันหอม อาหารเพื่อสุขภาพ ผัก ไข่ เนื้อสัตว์ จิ้มน้ำจิ้มแสนอร่อย วิธีทำพันหอม ง่ายๆใครๆก็สามารถทำเองได้ เมนูผักสลัด นำผักสลัดห่อ หมูสามชั้น กุ้ง ไข่ทอด และ พันเป็นชื้นทานคู่กับน้ำจิ้ม

365 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

เมนูอาหาร สำหรับวันนี้ นำเสนออาหารไทยพื้นเมืองยอดนิยม โดยมีผักหวานป่า เป็นวัตถุดิบหลักสำคัญ ผักหวานมีประโยชน์หลากหลาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งได้ คือ แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง เมนูแกง เมนูผักหวานป่า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใขง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

ยอดผักหวานป่าอ่อน 2 กำมือ
ไข่มดแดง 5 ช้อนโต้ะ
ใบแมงลัก 1 ต้น
ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต้ะ โขรกหยาบๆ
ตะไคร้ 1 ต้น นำมาหั่นเป็นท่อนเฉียงๆ
หอมแดง 3 หัว นำมาบุบให้แตก
เกลือป่น 1 หยิบมือ
ใบมะกรูด 3 ใบ
วิธีทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

เริ่มจากต้มน้ำให้เดือดและลดไฟอ่อน จากนั้นในตะไคร้ พริก ใบมะกรูด และ หอมแดงลงไป
ปรุงรสด้วย เกลือป่น น้ำปลา และ ปลาร้า
จากนั้นใส่ ยอดผักหวานป่า ลงไปต้มให้สุก
ปิดไฟหม้อ ใส่ใบแมงลัก และ ไข่มดแดง ลงไป ทิ้งให้แกงกรุ่นๆ ก็สามารถเสริฟรับประทานได้
เคล็ดลับการทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

ผักหวานป่า ให้เลือกใช้ส่วนยอดอ่อน เนื่องจากยอดอ่อนผักหวานนุ่มอร่อย
พริกขี้หนูสวน นำมาโขรกแบบพอบุบ ไม่ต้องโขรกให้เละ
ไข่มดแดง ให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย เนื่องจาก ไข่มดแดง หากจะอร่อยๆ ต้องเคี้ยวแบบแตกมัน หากต้มนาน ไข่มดแดง จะแข็ง
ตะไคร้ ให้บุบ ให้แตก จะทำให้ได้กลิ่นของตะไคร้มากขึ้น
แกงผักหวานสามารถใส่เนื้อสัตว์อื่นๆลงไปตามใจชอบ เช่น เนื้อปลา เนื้อกุ้ง เนื้อไก่ เป็นต้น
ไข่มดแดงให้นำมาล้างน้ำให้สะอาด และ คัดตัวมดออกจะได้ไม่เสียอรรถรสในการรับประทาน
การต้มไข่มดแดง ไม่ควรต้มให้ไข่สุกเกินไป เนื่องจากความอร่อยของไข่มดแดง คือ ความมันแบบกรุบๆ สามารถปิดไฟและใส่ไข่มดแดงในขั้นตอนสุดท้ายได้
ใบแมงลักให้กลิ่นหอม เทคนิคการรักษาความหอมของใบแมงลัก ให้ใส่ใบแมงลักในขั้นตอนสุดท้ายจึงจะรักษาความหอมของใบแมงลักได้
หอมแดง จะให้รสหวานของน้ำแกง เทคนิคให้นำมาบุบให้น้ำหอมแดงออกมาจะทำให้หอมแดงได้รสชาติหวานเร็วขึ้น
ใบมะกรูด ให้นำส่วนของแกนใบออกก่อนนำมาต้ม เนื่องจากแกนใบมะกรูดให้รสขม
ปลาร้าที่นำมาใช้ทำแกงผักหวาน ให้เลือกใช้ปลาร้าที่สะอาด ก่อนนำมาปรุงรสชาติให้ต้มให้สุกก่อน
แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง เมนูอาหารแบบง่ายๆ แกงอีสาน วิธีทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง ไม่ยากใครๆก็สามารถทำกินเองได้ เมนูผักหวาน เมนูไข่มดแดง แกงผักหวาน มีประโยชน์ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

366 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

ออส่วน คือ หอยทอด ( Oyster omelette ) เป็นอาหารจีน ที่ใช้ แป้ง ไข่ไก่ และ หอยนางรม เป็นส่วนประกอบ ลักษณะของออส่วนแป้งหอยทอดจะนิ่ม เสริฟบนกระทะจัด พร้อมถั่วงอกและซอสพริก คำว่า ออส่วน เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ออส่วนในประเทศไทยมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความชอบของคนไทย

สูตรออส่วน อาหารแบบง่ายๆส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัการทำอาหาร เมนูทอด

ส่วนผสมสำหรับทำออส่วน

ไข่ไก่ 2 ฟอง
หอยนางรมสด แกะเปลือก 1 ถ้วย
ถั่วงอกเด็ดหัว 1 กำมือ
กระเทียม สับละเอียด 2 ช้อนชา
ต้นหอม ซอยแฉลบ 2 ช้อนโต้ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
แป้งมัน ละลายน้ำอัตราส่วน น้ำ 1 ถ้วย แป้งครึ่งถ้วย
น้ำมันพืช สำหรับผัด 2 ช้อนชา
น้ำมันพืช สำหรับทอด
ใบผักชี สำหรับโรยหน้า
ซอสพริก สำหรับรับประทานคู่กัน
วิธีทำทำออส่วน

เริ่มจากใส่ หอยนางรม ลงเคล้าเบา ๆ กับแป้งมัน ละลายน้ำให้ทั่ว พักไว้ก่อน
ตั้งน้ำมันประมาณ 2 ช้อนชา โดยตั้งไฟปานกลางให้กระทะร้อน ใส่ กระเทียม ลงเจียวให้หอม ตามด้วยถั่วงอก ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และ พริกไทย ( เหลือไว้เล็กน้อยสำหรับโรยหน้า ) ผัดเข้าด้วยกัน
ใส่ต้นหอม ( แบ่งไว้เล็กน้อยสำหรับโรยหน้า ) ผัดต่อพอเข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟเตรียมไว้ พักเอาไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันสำหรับทอด โดยระดับไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่ส่วนผสม หอยนางรม ลงทอดพอเกือบสุกจากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไป ใช้ตะหลิวเกลี่ยเบา ๆ พอให้ไข่แดงแตก แล้วกลับด้านทอดจนสุกทั่ว ปิดเตา
ตักใส่จานเสิร์ฟ ถั่วงอกผัด วางหอยทอดผัดด้านบน และ น้ำซอสพริก โรยหน้าด้วยต้นหอม ใบผักชี และ พริกไทยป่น
เคล็ดลับการทำออส่วน

การเลือกใช้หอย ให้เลือกใช้หอยนางรมที่สดใหม่ แบบวันต่อวัน โดยเทคนิคการเลือกซื้อหอยนางรม ดูลักษณะของเนื้อหอยยังตึงๆ น้ำแช่หอยใส ไม่มีเมือก และ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
หอยนางรม ไม่ต้องปรุงให้สุกเกินไป ให้ความร้อนสะดุ้งให้หอยพอสุก หอยนางรมหากสุกเกินไปเนื้อหอยจะแข็ง และ ไม่อร่อย หากสุกแบบพอดีๆ เนื้อหอยจะนุ่มและให้รสหวาน
น้ำมันที่ใช้ในการทอดหอย ให้เลือกใช้น้ำมันใหม่ที่ไม่ผ่านการทอดมาก่อน จะได้รสชาติอาหารที่ไม่มีการเจือปนกลิ่นของอาหารอื่นๆ
ไฟที่ใช้ในการทอด ให้ใช้ไฟปานกลาง แต่กระทะร้อน จะทำให้แป้งพอดีไม่สุกพอดี พร้อมกับเนื้อหอยที่สุกพร้อมๆกัน
ออส่วน หอยทอดแบบนิ่ม อาหารจีน เมนูทอด แสนอร่อย วิธีทำออส่วน ง่ายๆสามารถทำกินเองได้ เคล็ดลับควรมอร่อยของออส่วน คือ วัตถุดิบสดใหม่ หอบนางรมสดๆ ส่วนผสมของแป้งพอดี กับข้าวง่ายๆ เมนูหอย หอยทำอะไรกินได้บ้าง

367 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

เมนูอาหารสำหรับวันนี้ ลองขนมหวานแบบง่ายๆ เมนูถั่วเขียว ขอเสนอ เต้าส่วน ภาษาอังกฤษ เรียก Mung Bean Pudding เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ เนื้อถั่วเขียวต้องเนียนสุกพอดี ยังมีความเป็นเม็ดถั่วเขียวอยู่ น้ำแป้งเหนียวกำลังพอดี และ ความหวานตัดกับน้ำกะทิ อย่างลงตัว

สูตรเต้าส่วน ขนนหวานจากถั่วเขียว แบบง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูขนมไทย

ส่วนผสมสำหรับทำเต้าส่วน

ถั่วเขียวกระเทราะเปลือกผ่าซีก 1 กิโลกรัม
น้ำเปล่า 3 ลิตร
ใบเตย 3 ใบ
น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับน้ำเต้าส่วน
แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง สำหรับใช้ผสมแป้ง
หัวกะทิ 1 ลิตร
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับน้ำราดกะทิ
วิธีทำเต้าส่วน

เริ่มจากการเตรียมถั่วเขียวก่อน โดยนำไปแช่น้ำและคัดเอาถั่วที่ลอยน้ำออกให้หมด ล้างให้สะอาด แช่ถั่วเขียวในน้ำเปล่า 2 ชั่วโมง จากนั้นนำมานึ่งในหม้อนึ่งด้วยความร้อนปานกลาง ใช้เวลานึ่ง 30 นาที ลองชิมว่าถั่วเขียวสุกจากนั้นให้นำถั่วเขียวมาพักให้เย็นก่อน หากถั่วเขียวยังไม่สุกให้นึ่งจนกว่าจะสุก
เตรียมหม้อต้ม โดยต้มน้ำให้เดือด จากนั้นเอาใบเตยลงไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ ให้น้ำมีกลิ่นหอมใบเตย เติมน้ำตาลทราย และ เกลือ ลงไป เคี้ยวให้ได้ที่ลองชิมให้ได้รสน้ำเชื่อมที่กลมกล่ม
เตรียมแป้ง โดยน้ำ 1 ถ้วยตวง ผสม แป้งท้าวยายม่อม และ แป้งมันสัมปะหลัง ผสมแป้งให้ละลาย และพักเอาไว้ก่อน
สำหรับหม้อน้ำเชื่อมเอาใบเตยออก จากนั้นเร่งไฟให้เดือด กวนน้ำเชื่อมเร็วๆ ค่อยๆหยอดน้ำผสมแป้งลงไปทีละนิดกวนจนน้ำเชื่อมเหนียวได้ที่ จากนั้นปิดไฟ ใส่ถั่วเขียวนึ่งลงไป กวนให้ถั่วเขียวนึ่งทั่วน้ำเชื่อม พักให้เต้าส่วนเย็น
เตรียมน้ำกะทิ โดยต้มหัวกะทิด้วยไฟอ่อนๆ และ ใส่เกลือป่นลงไป เคี้ยวให้กะทิพออุ่น อย่าให้กะทิแตกมัน จากนั้นก็พักน้ำกะทิเอาไว้ก่อน
ตักเต้าส่วนใส่ชาม และ ราดด้วยน้ำกะทิ พร้อมรับประทานได้
เคล็ดลับการทำเต้าส่วน

ถั่วเขียว เลือกใช้ถั่วเขียวกระเทาะเปลือก และ ผ่าซีก สามารถเลือกซื้อถั่วเขียวฝ่าซีกกระเทาะเปลือกแบบสำเร็จรูปได้
การเตรียมถั่วเขียว ให้คัดเอาถั่วเขียวที่เสียออกก่อน โดยการแช่น้ำ หากถั่วเขียวลอยน้ำแสดงว่าใช้ไม่ได้ ให้คัดออก จากนั้นล้างให้สะอาด ล้างเบาๆหลายๆน้ำจนถั่วเขียวไม่มีี
การนึ่งถั่วเขียวให้สุกก่อน ทำให้เราได้ถั่วเขียวที่สุกพอดี หากใช้การต้มถั่วเขียวให้สุก บางครั้งไม่สามารถควบคุมคุณภาพถั่วเขียวให้สุกทุกเม็ดได้ การนึ่งถั่วเขียวให้แช่น้ำแค่ 2 ชั่วโมงพอ อย่าให้นานกว่านั้นถั่วจะเละ และ การนึ่งให้นึ่งด้วยไฟปานกลาง 30 นาที จะได้ถั่วเขียวที่สุกพอดี ก่อนนำไปผสมน้ำเชื่อมแป้ง ให้ลองชิมถั่วเขียวก่อนว่าสุกหรือไม่ หากยังไม่สุกให้นึ่งต่อจนกว่าถั่วเขียวจะสุกพอดี
น้ำเชื่อมให้ใส่ใบเตยลงไป จะไดกลิ่นหอมของใบเตย โดยให้ทุบใบเตยให้ช้ำสักหน่อยก่อนนำไปต้ม โดยต้มด้วยไฟอ่อนๆ ให้ความหอมของใบเตยค่อยๆออกมา
การผสมน้ำแป้ง ให้กวนน้ำให้เร็วๆ และ น้ำเดือด ค่อยๆหยอดน้ำแป้งลงไป จะได้น้ำเชื่อมที่เหนียวพอดี แป้งไม่จับตัวเป็นก้อน
กะทิให้ใช้ หัวกะทิคั้นสดๆจากเนื้อมะพร้าวทึนทึก น้ำกะทิคั้นสด ให้ความหอมของกะทิอย่างลงตัว
เต้าส่วน ขนมไทย ถั่วเขียวนึ่งสุก น้ำเหนียวพอดีตัดกับกะทิอย่างลงตัว วิธีทำเต้าส่วน ง่ายๆสามารถทำกินเองได้ ขนมหวานจากถั่วเขียว มีถั่วเขียวทำอะไรกินได้บ้าง เคล็ดลับความอร่อยของเต้าส่วนอยู่ตรงไหน

368 Nameless Fanboi Posted ID:pqg2jG+2KM

สูตรอาหารยอดนิยม เมนูอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูไข่เยี่ยวม้า อาหารจานด่วน คือ ผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิตการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า อาหารยอดนิยม เมนูผัด ง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับครักการทำอาหาร เมนูผัดกระเพรา

ส่วนผสมสำหรับทำผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า

ไข่เยี่ยวม้า 4 ฟอง นำมาปลอกเปลือก และ หั้นครึ่ง
หมูสับ 100 กรัม
พริกชี้ฟ้า 5 เม็ด นำมาโขรกหยาบๆ
กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
ใบกระเพรา 1 ถ้วย (หนึ่งหยิบมือ)
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช สำหรับผัดและทอด
วิธีทำผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า

เริ่มจากตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำใบกระเพรา 1 กำมือ ลงไปทอด ให้ใบกรอบ จากนั้นนำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
ตั้งกระทะน้ำมัน ประมาณ 3 ช้อนโต้ะ ใส่ พริกชี้ฟ้าและกระเทียมลงไปผัดให้หอม ใส่นเนื้อหมูสับลงไปผัด
ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย น้ำปลา และ น้ำตาลทราย เติมน้ำลงไปนิดหน่อย ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน ผัดจนเนื้อหมูสุก ชิมรสชาติให้ได้ตามใจชอบ
ใส่ใบกระเพราลงไปผัด ปิดไฟกระทะได้
จัดหน้าจาน โดยให้วางไข่เยี่ยวม้าผ่าครึ่งลงบนจาน ราดด้วยผัดกระเพราหมูสับ และ โรยหน้าด้วยใบกระเพราทอด พร้อมรับประทานได้ทันที ทานคู่กับ พริกน้ำปลา
เคล็ดลับการทำผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้า

เนื้อหมูสับ ให้ใช้ เนื้อสันคอหมู ที่มี มันหมู และ เนื้อหมู นุ่มๆ โดยสับให้ละเอียด แต่คงความเป็น เนื้อหมู ชิ้นบ้าง จะได้ ความอร่อยของเนื้อหมู
เนื้อหมู ต้องใช้ เนื้อหมู ที่สดใหม่ ลักษณะหมูที่สดใหม่ คือ เนื้อแดงสด เนื้อหมูเด่ง ไม่มีเมือก และ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
กระเทียม ให้เลือกใช้กระเทียมไทย กลีบเล็ก จะให้กลิ่นหอมแสนอร่อย
การทอดใบกระเพราให้ล้างใบกระเพราก่อน จากนั้นพักให้ใบกระเพราสะเด็ดน้่ำให้แห้งก่อน จากนั้นจึงทอด จะได้ใบกระเพราที่กรอบหอม ไม่ไหม้
ใบกระเพรา ให้ใช้ กระเพราแดง คัดเอาแต่ใบ ใบกระเพราแดง จะหอมมากกว่า ใบกระเพราเขียว ใบใหญ่ รสเผ็ดร้อนก็จะมากกว่า ใบกระเพราธรรมดา
พริกสด ให้ใส่พริก 2 แบบ พริกขี้หนูสวน ให้บดละเอียด เพื่อให้ความสด และ พริกชี้ฟ้า ให้หั่นเฉียงให้สีสันสวยงาม
ไข่เยี่ยวม้า ให้ใช้ ไข่เยี่ยวม้า สดใหม่ และให้นำ ไข่เยี่ยวม้า ไปต้มให้สุกก่อน เมนูนี้เราจะไม่ใส่ไข่เยี่ยวมาลงไปผัด เพราะ การผัดไข่เยี่ยวม้าจะทำให้ไข่แตกจากนั้น และ เละไม่น่ารัับประทาน
สำหรับคนที่ไม่ชอบไข่เยี่ยวม้าแบบสดๆ สามารถนำไข่เยี่ยวม้าชุบแป้งทอดได้
ผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า สูตรอาหาร แบบง่ายๆ แสนอร่อยเมนูผัดกะเพรา วิธีทำผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า ไม่ยากใครๆก็สามารถทำกินเองได้ ไข่เยี่ยวม้าทำอะไรกินได้บ้าง เคล็ดลับการทำผัดกระเพรา ไข่เยียวม้าทำอะไรกินดี

369 Nameless Fanboi Posted ID:kkyVfiBQLQ

กุฝาก "ด้อมคลั่งรัก 🤟". ด้วยนะเค้าย้ายมาอยู่นี่หมดแล้ว สำหรับคนคลั่งรักแก็งค์หมาหมู่ รวมชาวด้อมนักเขียนดังๆไว้ที่เดียว เช่น นทกร ชาลลี่อีสอีส(สัส) ฮซน ไรท์เอ็ม กระต่ายใต้โคลนตม ออกัสอีสควาย ผู้ซึ่งดอกทองเป็นหนึ่ง และอีกมากมาย
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

370 Nameless Fanboi Posted ID:kkyVfiBQLQ

กุฝาก "ด้อมคลั่งรัก 🤟". ด้วยนะเค้าย้ายมาอยู่นี่หมดแล้ว สำหรับคนคลั่งรักแก็งค์หมาหมู่ รวมชาวด้อมนักเขียนดังๆไว้ที่เดียว เช่น นทกร ชาลลี่อีสอีส(สัส) ฮซน ไรท์เอ็ม กระต่ายใต้โคลนตม ออกัสอีสควาย ผู้ซึ่งดอกทองเป็นหนึ่ง และอีกมากมาย
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

371 Nameless Fanboi Posted ID:UlnQgIHtMv

ทำไมโม่งมันเละเทะ คนป่วนเป็นไรเหรอเปล่าวะ
เครียดอะไรเหรอเปล่า รีบไปหาหมอนะ

372 Nameless Fanboi Posted ID:bJXZIO3l9r

>>371 สาเหตุเพราะเงาแค้นมู้หมาหมู่ที่เป็น1ในแก๊งค์หมาหมู่ มันป่วนมู้หมานั้นแล้วเค้าไม่สนใจ ตอนนี้เลยลามไปป่วนมู้อื่นด้วย เมื่อคืนก็เข้าไปด่ามู้เม้าใน open chat แต่โดนรุมซะหนีไม่ทัน ตอนนี้เค้าย้ายไปอยู่ใน open chat หมดแล้วมึง มึงไปคุยในโอเพ้นแชทดีกว่า ตอนนี้ห้องแชทคึกคักขึ้นจากแต่ก่อนมากกกกกกกก สมาชิกเป็น 100คน 5⁵545544445565555

373 Nameless Fanboi Posted ID:pIjMeOMuwP

>>371 โม่งมันเริ่มเละตั้งแต่มีมู้นินทาแก๊งนักเขียนอะ มันเลยมีโทรลมาลงบ่อยขึ้น คาดว่าเป็นคนในแก๊งนั้นแหละ แล้วบางคนที่ชอบนินทานักเขียนมันก็เลยโทรลกลับ

374 Nameless Fanboi Posted ID:ulP1WTL9sU

>>373 พวกที่โดนนินทาน่าจะธสตุไฟแตก ทนไม่ได้ เลยมาป่วน

375 Nameless Fanboi Posted ID:ksvNrsaqbu

ป่วนในนี้พวกเราก็ไปคุยในแชท แกหยุดชั้นไม่ได้หรอกโทรล 5555555555
>>373 กุเดาว่าคนที่โดนนั่นแหละมาป่วน แต่เค้าบอกเค้าไม่ให้ค่านะ 55555

376 Nameless Fanboi Posted ID:ksvNrsaqbu

แล้วล่าสุดอีโทรลมันเปิดโอเพ้นแชทตามแล้วนะ บอกใครอยากด่าให้เข้าไปด่า ไปสุดมาก 555555555555

377 Nameless Fanboi Posted ID:0fUqYHB0e5

>>372 ทำไมมันขึ้นสมาชิดแค่15วะ

378 Nameless Fanboi Posted ID:ksvNrsaqbu

>>377 15น่ะห้องนินทาหม่หมู่ ส่วน 100กว่าคนน่ะห้องเม้า

379 Nameless Fanboi Posted ID:mFm83NqDnl

สูตรอาหารอร่อยๆ เมนูแนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนออาหารผัดแบบง่ายๆ คือ กุ้งผัดผงกะหรี่ เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การเตรียมอาหาร และ การปรุงอาหาร

ผัดผงกะหรี่กุ้ง อาหารไทย เมนูกุ้ง เมนูผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด

ส่วนผสมสำหรับทำกุ้งผัดผงกะหรี่

กุ้งทะเลลอกเปลือก 5 ตัว
เห็ดหอมหั่นเป็นซี่ 2 ดอก
ผงกะหรี่ 4 ช้อนชา
หอมใหญ่หั่น 3 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่น 1 ต้น
ไข่ไก่ 1 ฟอง
คึ่นช่ายหั่น 2 ช้อนโต้ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต้ะ
วิธีทำกุ้งผัดผงกะหรี่

ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ผงกะหรี่ หอมใหญ่ คื่นช่าย ลงไปผัดให้เข้ากัน
ปรุงรสด้วย น้ำตาล เกลือ และ ซีอิ้วขาว ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้น นำ ไข่ไก่ นมสด ลงไปผัด จนเป็นเนื้อเดียวกัน
นำกุ้งและเห็ดหอมลงไปผัด จนสุก จากนั้นนำต้นหอมลงไปผัด และเสริฟใส่จาน
เคล็ดลับการทำกุ้งผัดผงกะหรี่

เนื้อกุ้ง ให้เลือกกุ้งที่สดๆ การสังเกตุกุ้งที่สด ดูจาก สภาพของกุ้ง ลักษณะความสมบูรณ์ของกุ้ง เปลือก และ เนื้อกุ้ง ยังแน่น ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
การผัดกุ้ง เนื่องจากกุ้งสุกง่าย และเมื่อกุ้งสุดเกินไป จะทำให้กุ้งเนื้อแข็งกระด้างไม่น่ารับประทาน การผัดกุ้งนั้น ต้องผัดให้พอดี จะได้ผัดกุ้งผงกะหรี่ที่พอดี
การเพิ่มความมันของ เมนูผัดผงกะหรี่ นั้น ใช้ความมันของนมข้นจืด หลายๆ คน ใช้ความมันของจากกะทิ ซึ่งสามารถใช้แทนกันได้
การผัดไข่ สำหรับผัดผงกะหรี่ ให้ผัดไข่ข้นๆ ผัดจนเนื้อไข่เนียนนุ่ม
การผัด นั้น ต้องใช้น้ำมัน ซึ่งน้ำมันสำหรับผัด ให้ใช้นำมันพืช และ เป็นน้ำมันใหม่ จะทำให้ไม่มีกลิ่นของอาหารอื่นๆ
เมนูผัดผงกะหรี่ อยู่ที่ ผงกะหรี่ และ การผัดพริกแกง ผัดผงกะหรี่ทำอย่างไร สูตรกุ้งผักผงกะหรี่ มีเคล็ดลับการทำอย่างไร เนื้อกุ้งเน้นๆ เครื่องแกงกะหรี่ หอมๆ ผัดกับไข่ค้นๆ เป็นสูตรอาหารรัญจวนใจ สำหรับวันง่ายๆ

สูตรผัดผงกะหรี่กุ้ง เมนูยอดนิยม รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม หอมอร่อยมาก เนื้อกุ้งนุ่มๆ หอมเครื่องปรุงรสผงกะหรี่ หอมอร่อยเข้ากันมากค่ะ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก เคล็ดลับของผัดผงกะหรี่กุ้ง คือ กุ้งสดๆ ผงกะหรี่หอมๆ เครื่องปรุงรสต่างๆ รวมถึง ผักสมุนไพร ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน จะมีรสชาติเข้มข้นและกลมกล่อม สูตรอาหาร น่าลอง สำหรับวันว่างๆ

380 Nameless Fanboi Posted ID:mFm83NqDnl

สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ขนมหวานแบบไทยๆจากกล้วย คือ กล้วยบวชชี ( banana with coconut milk ) สำหรับเคล็ดลับความอร่อยของกล้วยบวชชี คือ การเลือกวัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ ต้องเลือกกล้วยที่ความสุกเหมาะสมสำหรับนำมาทำขนม กะทิต้องสดใหม่ ความหวานต้องพอดี

สูตรกล้วยบวชชี ขนมไทยแสนอร่อยๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำขนม เมนูกล้วย

ส่วนผสมสำหรับทำกล้วยบวชชี

กล้วยน้ำว้าสุกแต่ไม่งอม 8 ลูก
หางกะทิ 500 กรัม
หัวกะทิ 500 กรัม
เม็ดสาคู 1 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ ครึ่งกิโลกรัม
เกลือ 1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำกล้วยบวชชี

เริ่มจากการเตรียมน้ำกะทิก่อน นำหัวกะทิ และ หางกะทิลงไปต้มอย่าให้กะทิแตกมัน
ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บและเกลือ ชิมรสชาติ และ พักเอาไว้ก่อน
เตรียมสาคู นำเม็ดสาคูแช่น้ำให้หมาดๆก่อน แช่ในน้ำอุณหภูมิห้อง ประมาณ 30 นาที สังเกตุว่าพอสาคูเริ่มดูดน้ำหมด พองตัวก็ใช้ได้ ต้มน้ำให้เดือดจัดนำสาคูลงไปต้ม ไม่ต้องต้มนาน พอสาคูใสก้นำขึ้นมาพักในน้ำเย็น ให้สาคูหดตัวให้เหนียวหนึบ แช่ในน้ำเย็นเอาไว้
ตั้งหม้ออุ่นกะทิให้ร้อน จากนั้นนำกล้วยน้ำว้าลงไปต้ม ไม่ต้องต้มนาน ต้มพอให้กะทิมีรสกล้วย ก็ปิดไฟ
รอให้หม้อกล้วยบวชชีเย็นจึงค่อยนำเม็ดสาคูที่ต้มไว้แล้วลงไป
เคล็ดลับการทำกล้วยบวชชี

การเลือกกล้วย ให้เลือกกล้วยที่กำลังจะสุก ออกเขียวปนเหลือง หากใช้กล้วยดิบเกิน ก็ทำให้กล้วยเป็นชิ้นสวย แต่รสชาติไม่หวานดังต้องการ และรสจะฝาดมากกว่า ไม่อร่อย หากเลือกสุกเลย กล้วยก็จะหวาน แต่โอกาสที่กล้วยจะเละไม่เป็นชิ้นมีมาก
การเลือกกะทิ ต้องเป็น กะทิคั้นสด ผสมกันในอัตราส่วน หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 3 ส่วน ใส่เกลือเพื่อช่วยตัดความมันของกะทิ ซึ่งการที่ไม่แนะนำให้ใช้กะทิสำเร็จ เนื่องจากรสชาติและความหวานมันแบบธรรมชาติมันต่างกัน
ให้ ปรุงรสของกะทิ ให้เสร็จก่อนที่จะใส่กล้วยลงไป
ไม่ต้มกล้วยในกะทิที่ใช้ไฟร้อนเกินไป แนะนำให้ใช้ไฟอ่อน ให้กะทิซึมเข้าเนื้อกะทิ
ทิ้ง กล้วยบวชชี ให้เย็นก่อน กะทิจะซึมเข้าเนื้อกล้วย จะได้กล้วยบวดชีที่หวานมันอย่างถึงใจ
สาคูให้แช่น้ำให้อิ่มน้ำก่อน หากนำไปต้มโดยไม่แช่น้ำก่อน สาคูจะไม่สุกด้านใน
เทคนิคการต้มสาคูให้ใช้น้ำร้อนจัด ต้มให้สาคูใน และนำไปแช่น้ำเย็นจัด 2 น้ำ โดยความเย็นจะทำให้สาคูหดตัวและเหนียวนุ่มอร่อยไม่เละ
น้ำตาลสำหรับการทำขนมไทย ต้องเป็นน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลมะพร้าว จึงได้ความหวานแบบไม่แสบคอ หวานกลมกล่อม
การปรุงรสกะทิ ต้องใส่เกลือ เพื่อลคความหวานและมันของกะทิ
กล้วยบวชชี ขนมไทยแบบง่ายๆ นำกล้วยมาต้มในกะทิ หวานมันหอมอร่อยรสกล้วย วิธีทำกล้วยบวชชี ไม่ย่ากใครๆก็สามารถทำกินเองได้ สำหรับกล้วยบวชชีมีเคล็ดลับหลายอย่างๆ ตั้งแต่กล้วย น้ำตาล รวมถึงกะทิ

381 Nameless Fanboi Posted ID:mFm83NqDnl

หมูย่างใบชะพลู อาหารว่าง สไตล์อาหารเวียดนาม รสชาติกลมกล่อมจากเนื้อหมู หอมกลิ่นใบชะพลู วิธีทำหมูย่างใบชะพลู นำหมูมาหมัก ห่อใบชะพลู และนำไปย่าง สูตรหมูย่างใบชะพลู ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำหมูย่างใบชะพลู

หมูบด 1 ถ้วย
มันหมูบด 1/2 ถ้วย
เนื้อหมูเด้ง 3 ช้อนโต้ะ
รากผักชี กระเทียม พริกไทย โชลกละเอียด 2 ช้อนโต้ะ
ตะไคร้โขลกละเอียด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต้ะ
ซอสน้ำมันหอย 2 ช้อนโต้ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
ใบชะพลู 10 ใบ
เส้นหมี่ลวก 1 ถ้วย
ผักสด เช่น ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง กระเทียม พริกสด แตงกวา
น้ำจิ้มปอเปี๊ยะเวียดนาม
วิธีทำหมูย่างใบชะพลู

นำหมูบดมาผสมกับมันหมูบดและหมูเด้งผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
จากนั้นปรุงรสด้วย รากผักชี กระเทียม พริกไทย น้ำตาล ตะไคร้บด ซอสน้ำมันหอบ ซอสปรุงรส นวดให้ส่วนผสมเข้ากัน หมักไว้ 30 นาที
ล้างใบชะพลูให้สะอาด เช็ดให้แห้งจึงนำ หมูหมัก มาห่อด้วย ใบชะพลู เสียบไม้ไว้ หรือ เอาไม้จิ้มฟันยึดไว้ให้แน่น
นำไปย่างให้สุก พร้อมผักสด หมี่ลวก และ น้ำจิ้มปอเปี๊ยเวียดนาม
เคล็ดลับการทำหมูย่างใบชะพลู

เนื้อหมูสำหรับนำมาทำ สามารถใช้ หมูเป็นชิ้น หรือ หมูแบบบดก็ได้ เคล็ดลับการเลือก หมูให้เลือกใช้ หมูสันใน เนื้อหมูสันใน จะเป็น หมูส่วนที่นุ่ม อร่อยๆ
การผสมเนื้อหมูบดต้องนำมาผสมกับมันหมูด้วย จะช่วยเพิ่มความนุ่มของเนื้อหมู เพิ่มความอร่อยให้มากขึ้น
เนื้อหมูเด้ง จะทำให้เนื้อหมูมีความนุ่มหนึบ เพิ่มความอร่อยของเมนูนี้
เทคนิคการห่อเนื้อหมู นำหมูหมักมาห่อใบชะพลู ให้นำไม่จิ้มฟัน เสียบหมู เพื่อให้ ใบชะพลูไม่หลุดออกจากเนื้อหมู จะได้ เนื้อหมูย่าง ที่หอมกลิ่นใบชะพลู รสชาติหมัก ถึงเครื่อง
หมูย่างใบชะพลู ต้องทานคู่กับน้ำจิ้มหวานๆ โดยน้ำจิ้มปอเปี๊ยะ เหมาะสำหรับนำมาทานคู่กับ หมูย่าง
เส้นหมี่ สำหรับ ทานคู่กับหมูย่าง ให้นำไปแช่น้ำ และ ลวกก่อน จะได้เส้นที่เหนียว นุ่ม น่ารับประทาน
การรับประทานร้อนๆ จะอร่อยที่สุด เนื่องจาก ยังคงมีน้ำหมักฉ่ำๆ หอมใชพลู หากทิ้งให้เย็น เนื้อหมูจะแข็ง ไม่น่ารับประทาน

382 Nameless Fanboi Posted ID:mFm83NqDnl

สูตรแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง เมนูแกง เมนูผักหวานป่า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใขง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

ยอดผักหวานป่าอ่อน 2 กำมือ
ไข่มดแดง 5 ช้อนโต้ะ
ใบแมงลัก 1 ต้น
ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต้ะ โขรกหยาบๆ
ตะไคร้ 1 ต้น นำมาหั่นเป็นท่อนเฉียงๆ
หอมแดง 3 หัว นำมาบุบให้แตก
เกลือป่น 1 หยิบมือ
ใบมะกรูด 3 ใบ
วิธีทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

เริ่มจากต้มน้ำให้เดือดและลดไฟอ่อน จากนั้นในตะไคร้ พริก ใบมะกรูด และ หอมแดงลงไป
ปรุงรสด้วย เกลือป่น น้ำปลา และ ปลาร้า
จากนั้นใส่ ยอดผักหวานป่า ลงไปต้มให้สุก
ปิดไฟหม้อ ใส่ใบแมงลัก และ ไข่มดแดง ลงไป ทิ้งให้แกงกรุ่นๆ ก็สามารถเสริฟรับประทานได้
เคล็ดลับการทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

ผักหวานป่า ให้เลือกใช้ส่วนยอดอ่อน เนื่องจากยอดอ่อนผักหวานนุ่มอร่อย
พริกขี้หนูสวน นำมาโขรกแบบพอบุบ ไม่ต้องโขรกให้เละ
ไข่มดแดง ให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย เนื่องจาก ไข่มดแดง หากจะอร่อยๆ ต้องเคี้ยวแบบแตกมัน หากต้มนาน ไข่มดแดง จะแข็ง
ตะไคร้ ให้บุบ ให้แตก จะทำให้ได้กลิ่นของตะไคร้มากขึ้น
แกงผักหวานสามารถใส่เนื้อสัตว์อื่นๆลงไปตามใจชอบ เช่น เนื้อปลา เนื้อกุ้ง เนื้อไก่ เป็นต้น
ไข่มดแดงให้นำมาล้างน้ำให้สะอาด และ คัดตัวมดออกจะได้ไม่เสียอรรถรสในการรับประทาน
การต้มไข่มดแดง ไม่ควรต้มให้ไข่สุกเกินไป เนื่องจากความอร่อยของไข่มดแดง คือ ความมันแบบกรุบๆ สามารถปิดไฟและใส่ไข่มดแดงในขั้นตอนสุดท้ายได้
ใบแมงลักให้กลิ่นหอม เทคนิคการรักษาความหอมของใบแมงลัก ให้ใส่ใบแมงลักในขั้นตอนสุดท้ายจึงจะรักษาความหอมของใบแมงลักได้
หอมแดง จะให้รสหวานของน้ำแกง เทคนิคให้นำมาบุบให้น้ำหอมแดงออกมาจะทำให้หอมแดงได้รสชาติหวานเร็วขึ้น
ใบมะกรูด ให้นำส่วนของแกนใบออกก่อนนำมาต้ม เนื่องจากแกนใบมะกรูดให้รสขม
ปลาร้าที่นำมาใช้ทำแกงผักหวาน ให้เลือกใช้ปลาร้าที่สะอาด ก่อนนำมาปรุงรสชาติให้ต้มให้สุกก่อน
แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง เมนูอาหารแบบง่ายๆ แกงอีสาน วิธีทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง ไม่ยากใครๆก็สามารถทำกินเองได้ เมนูผักหวาน เมนูไข่มดแดง แกงผักหวาน มีประโยชน์ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

383 Nameless Fanboi Posted ID:eF+.C3dn3b

สูตรไข่ผัดเห็ดหอมเต้าหู้อ่อน เมนูเต้าหู้อ่อน กับ ไข่ผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูเห็ดหอม และ เมนูไข่ไก่

ส่วนผสมสำหรับทำไข่ผัดเห็ดหอมเต้าหู้อ่อน

ไข่ไก่ 2 ฟอง
หมูสับ 3 ช้อนโต้ะ
เต้าหู้ขาว ชนิดอ่อน 3 แผ่น
เห็ดหอมแห้ง 3 2 ดอก
กระเทียมบด 2 กลีบ
เหล้าจีน 1 ช้อนชา
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือ 1 หยิบมือ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ใบต้นหอมซอย 1 หยิบมือ
พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด ซอยเฉียง
วิธีทำไข่ผัดเห็ดหอมเต้าหู้อ่อน

เริ่มจากการเตรียมเห็ดหอม นำไปแช่น้ำให้อ่อนๆ และ ซอยเป็นเส้นๆให้พอดีกิน
จัดจานสำหรับเมนูนี้ นำเต้าหู้อ่อนๆวาง และ นำไปนึ่งให้สุก โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที นำมาพักเอาไว้เตรียม ไข่ผัด
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ กระเทียมและ หมูสับ ลงไปผัดจนหมูสับสุก จากนั้นตอกไข่ไก่ คั่วให้ไข่สุก
จากนั้นปรุงรสด้วย เหล้าจีน ซอสน้ำมันหอย น้ำตาลทราย เกลือ และ พริกไทยป่น ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
ราดไข่ผัดบนเต้าหู้อ่อนที่นึ่งเอาไว้แล้ว โรยหน้าด้วย พริกชี้ฟ้า และ ใบต้นหอม
เคล็ดลับการทำเต้าหู้ไข่เห็ดหอม

เห็ดหอม ให้เลือกใช้เห็ดหอมแห้ง นำเห็ดหอมแห้งแช่น้ำ ให้เห็ดอิ่มตัว ล้างให้สะอาด ซอยเห็ดหอมเป็นชิ้นบางๆ
การผัดไข่ ให้ผัดไข่ให้สุก จากนั้น ปรุงรส ตามอัตราส่วนที่กำหนด การใส่เครื่องปรุงให้ใส่ตอนที่ไข่ยังไม่สุก จะทำให้ไข่มีรสชาติถึงเนื้อในของไข่
กระเทียม สำหรับ เมนูนี้ ให้ใช้กระเทีนมจีน เนื่องจาก เมนูนี้ ต้องการความหอมของกระเทียมพอประมาณ หากใช้กระเทียมไทย กลิ่นของกระเทียมอาจแรงเกินไป ไม่เหมาะสำหรับนำมาทำ
น้ำมัน สำหรับผัด ใช้น้ำมันพืช เป้นน้ำมันใหม่ ไม่ควรใช้น้ำมันเก่ามาผัด จะทำให้มีกลิ่นของน้ำมัน และ ไม่ต้องใส่น้ำมันมาก เมนูนี้ ไม่ต้องการให้น้ำมันมากเกินไป
สามารถใช้ หมูสับผัดกับไข่ด้วยก็ได้ หมูสับ จะเพิ่มความหลากหลาย ให้กับหมูสับ
ผัดไข่เห็ดหอมเต้าหู้อ่อน อาหารเบาๆรสอร่อย ไม่เผ็ด แบบง่านๆ วิธีทำไข่ผัดเห็ดหอมเต้าหู้อ่อน ง่ายๆ สามารทำกินเองได้ เมนูไข่ เบาๆ เหมาะสำหรับคนชอบอาหารรสไม่จักจ้าน มีไข่ไก่ทำอะไรกินดี มีเต้าหู้ทำอะไรได้บ้าง

384 Nameless Fanboi Posted ID:eF+.C3dn3b

สูตรน้ำพริกปักษ์ใต้ อาหารอร่อยๆของชาวใต้ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกปักษ์ใต้

กุ้ง 6-8 ตัว
เกลือป่น 1 ช้อนชา
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
หอมแดง 3 หัว นำมาซอย
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
กะปิ 2 ช้อนโต้ะ
วิธีทำน้ำพริกปักษ์ใต้

เริ่มจากการเตรียมกุ้ง นำมาแกะเปลือก แกะหัว ผ่าหลัง และ ล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาสับให้ละเอียด และ นำไปผัดให้เนื้อกุ้งสุก จากนั้นพักเอาไว้ก่อน
จากนั้น เตรียมกะปิ โดย นำกะปิห่อใบตองและเผาให้กะปิสุก
เตรียม พริกขี้หนูสวนและหอมแดง โดยนำเอาไปคั่วในกระทะให้หอม
จากนั้นนำ กะปิ พริกขี้หนูสวน และ หอมแดง มาโขรกให้ละเอีนด เข้ากัน
ใส่ เนื้อกุ้ง และ ปรุงรสด้วย น้ำตาลปีีบ และ เกลือป่น เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำพริกแสนอร่อย เสริฟร่วมกับ ผักสด ไข่เค็ม และ ข้าวสวยร้อนๆ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกปักษ์ใต้

เทคนิคการเลือกกะปิ ให้ใช้กะปิแท้จากคลองโคลน จะได้กะปิที่หอมน่ารับประทาน และ ต้องนำกะปิด้วยการห่อใบตอง และ ย่าง ก่อน ให้กะปิสุก และ ให้ความหอม ที่สำคัญกะปิที่สุกจะทำให้อาหารบูดช้าลง สามารถเก็บได้นานขึ้น
การเลือกน้ำตาล ให้ใช้ น้ำตาลปี๊บ เนื่องจากน้ำตาลปี๊บ มีความหวานหอม เหมาะสำหรับนำมาทำน้ำพริก
ผักสดๆ สำหรับนำมาทานคู่กับน้ำพริก แนะนำให้แช่ในน้ำเย็นก่อน จึงจะทำให้ผักกรอบๆ เย็น เวลากิน เพิ่มความอร่อยมากขึ้น
ไข่เค็ม ให้เลือกใช้ไข่เค็มแบบใหม่ๆ ความเค็มจะพอดี ไม่เค็มเกินไป ไข่เค็มไชยา เป็นไข่เค็มที่ได้รับความนิยม
กุ้ง ให้เลือกใช้กุ้งขาว เทคนิคการเลือกกุ้ง ให้เลือกกุ้งสดๆ โดยการเลือกกุ้ง ให้ดูความสมบูรณ์ของตัวกุ้ง หัวไม่หลุกจากตัว เปลือกกุ้งไม่ลอก เนื้อกุ้งยังแน่นตึง
การเตรียมกุ้งให้ ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือก และ เอาเส้นที่หลังออก เส้นที่หลังของกุ้ง เป็นส่วนที่ทำให้เนืื้อกุ้งคาว
เนื้อกุ้งสุกง่าย การผัดเนื้อกุ้งให้สุก ไม่ควรผัดนานเกินไป หากผัดนานเกินไปเนื้อกุ้งจะแห้งและกระด้าง ไม่น่ารับประทาน
พริก ให้เลือกใช้พริกขี้หนูสวน จะได้รสชาติของพริกที่เผ็ดน่ารับประทาน หากเลือกใช้พริกหลายสีจึงให้ความสวยงามของอาหาร
ก่อนนำพริกและหอมแดงมาทำน้ำพริก ให้คำไปคั่วให้หอมก่อน การคั่วพริกและหอมแดง จะให้กลิ่นหอม และ ลดกลิ่นเหม็นเขียวของพริกและหอมแดงได้
น้ำพริกปักษ์ใต้ อาหารพื้นเมืองของภาคใต้ เมนูน้ำพริก แสนอร่อย วิธีทำน้ำพริกปักษ์ใต้ ไม่ยาก สามารถทำกินเองได้ อาหารปักษ์ใต์ อีกหนึ่งสูตรอาหาร เคล็ดลับความอร่อยของน้ำพริก อยู่ที่ความถึงเครื่อง

385 Nameless Fanboi Posted ID:eF+.C3dn3b

สูตรขนมศิลาอ่อน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเขาใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำขนม

ส่วนผสมสำหรับทำขนมสิลาอ่อน

ข้าวสารเจ้า 2 กิโลกรัม
แป้งท้าวยายม่อม 300 กรัม
น้ำปูนใส 18 ลิตร
น้ำตาลทราย 5 กิโลกรัม
น้ำตาลปี๊บ 2 กิโลกรัม
ใบเตย 1 กิโลกรัม
กะทิ 14 ลิตร
วิธีทำขนมศิลาอ่อน

เริ่มจากเตรียมน้ำปูนใส การหมักน้ำปูนใสไว้ก่อน 3 วัน จากนั้นเก็บเอาน้ำปูนใสมาทำขนม โดยให้เตรียมน้ำปูนในประมาณ 20 ลิตร
หมักข้าวสารเจ้าในน้ำปูนใส 6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาโม่ เอาแป้งข้าวเจ้า พักเอาไว้ก่อน
นำใบเตยมาปั่นกับน้ำปูนใส และ คั้นเอาน้ำใบเตย พักเอาไว้ก่อน
ผสมแป้ง โดยเอาแป้งข้าวเจ้า น้ำใบเตย และ กะทินำมาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
จากนั้นนำตั้งกระทะ นำแป้งที่ผสมทั้งหมดลงไปเคี้ยวในไฟปานกลาง
ปรุงรสด้วย น้ำตาลทรายและน้ำตาลปี๊บ เคี้ยว 2 ชั่วโมง จนแป้งเหนียวหนืด
จากนั้นเทใสพิมพ์ อัตราส่วนน้ำสามารถทำให้ 20 กิโลกรัม
พักให้เย็น หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ และ โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด
เคล็ดลับการทำขนมศิลาอ่อน

น้ำปูนใสต้องแช่น้ำปูนในก่อนนำมาทำอาหาร 3 วัน จะได้น้ำปูนที่ไม่หยาบและไม่มีปูนติด
ทุกขั้นตอนต้องใช้ผ้าขาวบางกรอง เพื่อรักษาความสะอาด
กะทิให้ใช้เนื้อมะพร้าวมาคั้นแบบสดๆ จะได้กะทิที่มีความหอมมัน
น้ำตาลให้ใช้ 2 แบบ คือ น้ำตาลทรายและน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลปี๊บให้ความหอม ส่วนน้ำตาลทรายให้ความหวาน
แป้งข้าวเจ้า ให้เลือกใช้ข้าวสารเจ้ามาแช่น้ำและโม่ เอาแป้งข้าวเจ้า จะได้แป้งข้าวจ้าวที่อร่อย
น้ำปูนใส ให้ความกระด้าง ทำให้ขนมมีความยืดหยุ่น แต่ไม่ติดภาชนะ
ขนมศิลาอ่อน ขนมไทย ลักษณะคล้ายขนมเปียกปูน วิธีทำขนมศิลาอ่อน ง่ายๆ สามารถทำกินเองได้ เคล็ดลับความอร่อยของขนมศิลาอ่อน คือ แป้ง และ เทคนิคการทำขนม เมนูขนมจากแป้งแสนอร่อย

386 Nameless Fanboi Posted ID:eF+.C3dn3b

สูตรน้ำพริกสุโขทัย ส่วนผสมและขั้นตอนเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกสุโขทัย

พริกป่น 1 ถ้วยตวง
กระเทียม 1 ช้อนโต้ะ นำมาโขรกละเอียด
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต้ะ
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
หมูสับ 1 ขีด
หมูสาม 1 ขีด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
ผักสดสำหรับทานกับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ถั่วพลู เป็นต้น
วิธีทำน้ำพริกสุโขทัย

ตั้งกระทะให้ร้อน จากนนั้น ใส่ หมูสามชั้น ลงไปผัด โดยผัดให้หมูสามชั้นคายน้ำมันหมูออกมา ผัดจนหมูสามชั้นกรอบสุก ขั้นตอนนี้ อาจจะใส่น้ำมันเล็กน้อยช่วยให้หมูสุกเร็วขึ้น
เมื่อหมูสามชั้นได้ที่ ให้ใส่หมูสับ และ กระเทียม ลงไปผัดให้หมูสับสุกและหอมกระเทียม
จากนั้นจึงปรุงรสด้วย น้ำพริกเผา พริกไทย น้ำเปล่า น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปี๊ยก และ เกลือ ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก ทานคู่กับข้าวหุงสุก และ ผักสดตามใจชอบ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกสุโขทัย

เคล็ดลับสำคัญของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบที่สดใหม่ และ การปรุงรสชาติ ให้ หวานอมเปรี้ยว มีรสชาติของเนื้อหมู
เนื้อหมูให้เลือกหมูสดๆ หมูสับให้ใช้หมูสันใน นำมาหั่น และ สับเอง ไม่แนะนำให้ใช้หมูสับสำเร็จ เพราะ เขาใช้เศษหมูและ มันหมูผสม ไม่ได้เนื้อหมูส่วนที่มีคุณภาพมาทำอาหาร
หมูสามชั้น ให้เลือก ส่วนที่มีเนื้อ 3 ส่วน มันหมู 7 ส่วน ให้มีชั้นของเนื้อและไขมันที่พอดี ไม่มีไขมันมากเกินไป จะได้หมูสามชั้นที่อร่อยพอดี
กระเทียม เลือกใช้กระเทียมไทย นำมาทำอาหาร หากนำไปเผาก่อน จะทำให้กระเทียมส่งรสหวานเพิ่ม และ ความหอมของกระเทียมเผา ทำให้อาหารมีกลิ่นและรสชาติที่ดีขึ้นไปอีก
มะขามเปียก เลือกใช้มะขามที่ให้รสเปรี้ยว สามารถชิมรสชาติของน้ำมะขามก่อนนำามปรุงอาหารได้ หากความเปรึ้ยวไม่พอ ก็ใส่น้ำมะนาวช่วย
ความหวานในอาหารไทย ควรเลือกใช้ความหวานจากน้ำตาลปี๊บ เพราะ รสชาติ ความหอม ความเนียนของเนื้อน้ำตาล ให้ความเป็นธรรมชาติ
น้ำพริกสุโขทัย สูตรอาหารไทย น้ำพริกพื้นบ้าน วิธีทำน้ำพริกสุโขทัย ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ อาหารภาคกลาง เมนูหมู น้ำพริกรสไม่เผ็ด หมูสับทำอะไรกินดี หมูสามชั้นทำอะไรกินได้บ้าง

387 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

388 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

389 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

390 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

391 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

392 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

393 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

394 Nameless Fanboi Posted ID:ll3zspbOHV

ย้ายบ้านมาอยู่ในนี้แล้วนะ ตามมาๆ

ห้องหลัก : "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องแยกสำหรับแก๊งค์หมาหมู่ : "ด้อมคลั่งรัก 🤟".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

395 Nameless Fanboi Posted ID:/BBawaSqci

ดันนนน

396 Nameless Fanboi Posted ID:cFTbXK.hOt

ดันนนน มึงมู้เม้าล่าสุดคืออันนี้

397 Nameless Fanboi Posted ID:Ba11b8VJEg

เออ ก็ว่าทำไมถึงไปคุยในมู้ 29

398 Nameless Fanboi Posted ID:Rx2SpstUhf

หลงเลยกุ 55

399 Nameless Fanboi Posted ID:yybAKFPjtu

มู้เม้าาาาา

400 Nameless Fanboi Posted ID:sTPHv+H0kr

อันนี้นะ

401 Nameless Fanboi Posted ID:I9b4czwG9K

Ky สนพกุ้งม่วง(ที่เคลมว่าเป็น)วายน้ำดี ทุกวันนี้เป็นไงบ้างอ่ะ เห็นเงียบหายจากไทม์ไลน์กุไปเลย

402 Nameless Fanboi Posted ID:Nd4D9KDIGO

Ky สนพบกรไม่ตอบเมล์วันเสาร์-อาทิตย์ใช่เปล่ามึง

403 Nameless Fanboi Posted ID:2yHqikpfxr

>>402 ถ้าจำไม่ผิดกูเคยคุยเสาร์ค่ำๆ ตอบนะ แต่ไม่ได้ไวมาก

404 Nameless Fanboi Posted ID:2yHqikpfxr

>>402 เอ้ยโทษ กูหมายถึงคุยทางอินบ็อกซ์​ของเพจ
ทางเมลไม่เคยคุยอะ โทษที

405 Nameless Fanboi Posted ID:FPtuTmIOXJ

>>402 ส่วนใหญ่ก็คุยทางIBนะ เสาร์ ทิตย์ตอบอยู่แค่ตอบช้า เมลไม่เคย

406 Nameless Fanboi Posted ID:ichvtjT3pM

>>401 กูเห็นโพสต์ล่าสุดคือพิมพ์อินิยายเรื่องนั้นเสร็จก็หายยาวเลย ไม่มีเข็นเรื่องใหม่ใดใดออกมา

407 Nameless Fanboi Posted ID:cLy3f6U+uC

KY
https://twitter.com/LocationUnkn0wn/status/1373522057447809024?s=19

ต้องขนาดนี้เลยเหรอวะ

408 Nameless Fanboi Posted ID:ud.NP4SXN.

>>407 พูดเยอะคร่ำครวญกูอันฟอลนะรำคาญ เป็นนขก็เป็นนขไป อย่าผันตัวไปเป็นสายฉอดการเมือง

409 Nameless Fanboi Posted ID:LlhEgQ1Ns0

>>407 บาร์มึงสูงมากเลยเเหรอวะ ต้นทวิต มันต้องแยกปะ แอค นข กะแอคฉอดทั่วไป อย่างกุรีข่าวมา (ยอดคนอันฟอลไปบางส่วน ) แต่กุก็ยังกลัวเลยนะว่าคนอ่านจะรำคาญไหม หรือว่าเราจะเยอะเหินไป ส่วนไอ้ที่ฉอดก็แอคแยกอีกที คนเรามีหลายบทบาทปะ

บาร์สูงจนไปกดทับคนอื่น

410 Nameless Fanboi Posted ID:MtzzeP6TO2

กูขอนักเขียนได้ไหม ได้โปรดอย่าโยงการเมืองโดยไม่จำเป็นเลย T_T
คือใส่ไว้นิดหน่อยตรงทอลค์ท้ายตอน กูก็ยังพอไหว แต่นอกนั้นไปแสดงพลังทีอื่นเถอะ

411 Nameless Fanboi Posted ID:pibkdJdrvD

>>410 +10000 กูจะเลิกอ่านคนไทยแต่งก็เพราะโยงการเมืองเยอะเกินนี่แหละ คือมึงใส่มาได้พอกรุบกริบแต่เล่นมาทั้งดุ้นกุเบื่อว่ะ โดยเฉพาะการขายตรงไปม็อบโดยไม่จำเป็นกุแบบอิหยังวะในทวิต เฟสก็มีไหมเพ่ยังแสดงพลังกันไม่พออิรึ!!! กูอ่านนิยายหาความบันเทิงไม่ได้ต้องการหาเรื่องชวนปสดเสียใส่สมองเพิ่ม

412 Nameless Fanboi Posted ID:+oL14nKRdp

กูเห็นอันไหนหนักเกินปุ้บอันฟอลปั้บเลย อยากให้เขารู้ว่าอันฟอลเพราะทวิตไหน 555
รีหรือบ่นเนี่ยกูโอเคนะ แต่บางอันมันเป็นพวกแอคเห็บพ่นขยะพ่นความคิดเชิงลบยังจะรีมา

413 Nameless Fanboi Posted ID:8C.oCYPyNN

>>411 น่ารำคาญจริงมึง แล้วพอไม่สนใจไม่ชอบก็ด่าว่าอิกนอแร้นไม่ก็เป็นหลิ่มอีก ถ้ากูสนใจกูไปหาอ่านเองได้ไม่ต้องยัดเยียดหรอก

414 Nameless Fanboi Posted ID:QQqJo0cFsx

แมร่ง นักเขียนคนไหนเอาการเมืองมาใส่ในนิยายหรือเปิดตอนใหม่เฉพาะการเมือง กูเลิกอ่านเลย บางทีมันก็ไม่ต้องขนาดนั้นป่าววะ ทวิตเอย เฟสเอ่ยมีก็โพสก็รีไป แต่ลงในนิยายนี่ไม่ใช่เหมือนกันว่ะ บาร์สูงบาร์ต่ำบ้าบอแมร่งเหอะ บางทีก็เยอะไป แทรกมาในนิยายจนกูงงว่าอ่านอะไรอยู่นิยายหรือบทความทางการเมือง อันฟอลเลิกอ่านแมร่งหมดจริงๆ

415 Nameless Fanboi Posted ID:uTbon+KTsI

เรื่องของมึงจ้า

416 Nameless Fanboi Posted ID:FofIXENgJy

นักเขียนส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตที่หล่อเลี้ยงด้วยอารมณ์แล้วก็ชอบถ่ายทอดความคิดตัวเองอยู่แล้วอะ ไม่งั้นคงไม่ชอบการเขียน ทีนี้ถ้านักเขียนจะอินการเมืองจนระบายออกมาในพื้นที่เขา มันก็ปกตินะมึง ถ้าเครียดก็แค่เลิกอ่าน แรกเริ่มสุดคือมึงไปตามอ่านเขาเองนะ มึงเคยมีความสุขเพราะสิ่งที่เขาเขียน พอมาตอนนี้เขาไม่ได้สร้างความบันเทิงให้มึงแล้ว มึงก็แค่ถอยปะ ไม่เห็นต้องไปทำร้ายจิตใจเขาส่งท้ายเลย

417 Nameless Fanboi Posted ID:D5d72Y3LDe

>>416 จริง กูเป็นทั้ง นอ และ นข นะ เห็นด้วย ถ้าเรื่องแค่นี้ทำให้ไม่สบายใจก็เลิกอ่านไปเถอะ ยังมีคนที่เค้าตามอ่าน ถ้าเค้าไม่ชอบตรงนั้นเค้าก็แค่กดข้าม

418 Nameless Fanboi Posted ID:O.bDxo6f15

มันเป็นสิทธิ์ของนักเขียน กูรู้ ต่อให้ไม่ชอบกูก็ไม่เคยไปพิมพ์ด่าหรือบอกให้เขาเลิกเขียนแบบนี้เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขาเป็นพื้นที่ของเขา กูก็ไม่คิดจะไปแกว่งตีนหาเสี้ยนให้ตัวเองโดนด่าเล่นหรอ ที่กูมาบ่นในโม่งเพราะกูแค่รำคาญความบ้าการเมืองของนข.บางคนที่พยายามโยงทุกอย่างเข้าการเมืองหมด ต่อให้มันจะไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรเลยก็ตาม ยิ่งเดี๋ยวนี้เหมือนแม่งเป็นเทรนไปแล้วว่าต้องยัดการเมืองสักส่วนลงในนิยายตัวเอง ซึ่งส่วนตัวกูไม่ชอบและรำคาญกับอิแนวคิดเชี่ยนี่มากแต่ถึงกูไม่ชอบกูก็แค่กดเลิกติดตามแล้วถอดออกจากชั้น จบ!!! แบบต่างคนต่างอยู่

419 Nameless Fanboi Posted ID:+EpISy+vRc

>>416 แล้วในนี้มีใครไปทำไรนข ไหม ก็ถอยออกมาแล้วไง

420 Nameless Fanboi Posted ID:+EpISy+vRc

>>415 เรื่องของกูเหมือนกันจ้า

421 Nameless Fanboi Posted ID:E2SQh8tqub

เอาจริงเวลาเจอคนอ่านเป็นแนวร่วมการเมืองขั้วเดียวกันมันฟินดีนะ รู้สึกคลิกถึงกันยิ่งกว่าตอนเค้ามาเมนต์นิยาย 555
ทีนี้ถ้าพวกมึงรู้สึกเกะกะสายตา คือใครบังคับให้เข้ามาอ่านเหรอ หรือมึงเข้ามาอ่านนิยายฟรีๆ แล้วจะชี้นิ้วว่าไม่ให้เขียนเรื่องไร

422 Nameless Fanboi Posted ID:oVZnwBTUqn

>>419 +1

423 Nameless Fanboi Posted ID:WSLuTrJlfM

>>421 แล้วมีใครไปชี้นิ้วอ้ะยัง

424 Nameless Fanboi Posted ID:+EpISy+vRc

>>421 โอ๊ย อ่านบ้างป่าววะ ชี้นิ้วไรจ๊ะเธอ ถ้าเรื่องที่เเป็นการเมืองอยู่แล้วก็ไม่ได้ว่านะ ไม่ได้อ่านไรเครียดๆ

425 Nameless Fanboi Posted ID:O.bDxo6f15

>>421 ที่เขามาบ่นๆกันเขาก็ไม่ได้ไปชี้นิ้วสั่งนักเขียนนิ เขาแค่รำคาญกันเฉยๆ เข้าใจไรผิดป่ะ

426 Nameless Fanboi Posted ID:+EpISy+vRc

ปากบอกประชาธิปไตย แต่แค่มีออกความเห็นเรื่องการคอลเอ้าท์ของนักเขียน ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมืองในนิยายเลย จู่ๆ มีพวกโพล่งออกมา ไม่คิดจะรับฟังความเห็นอื่นก็ข้ามไปจ้า เกะกะมากก็ข้ามไป เหมือนที่มึงบอกป่าวๆอ่ะ ยอมรับความคิดเห็นคนอื่นมั่ง เสร่อมาแย้งมั่วๆ แล้วมาฟินกับนิยายการเมือง แค่เคารพความเห็นคนอื่ยังทำไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้่ด่า หรือไปก้าวก่ายคนเขียนสักคน

427 Nameless Fanboi Posted ID:.6M8vAfnky

กูไม่ได้อ่านวายไทยนานละ สมัยก่อนคนยังไม่อินการเมืองเลยไม่เจอแบบนี้ แต่เก็ทฟีลนะ เหมือนตอนกูอ่านวายจีน/เกาที่ยัดเนื้อหาเหยียดญป. คือมันเป็นเรื่องธรรมดาของคนกลุ่มนึงแต่น่ารำคาญสำหรับคนอีกกลุ่มที่ไม่อิน

428 Nameless Fanboi Posted ID:O.bDxo6f15

กูงง นิยังไม่ได้ด่าอะไรนักเขียนเลยด้วยซ้ำแค่มาบ่นในโม่ง ทำไมบางคนต้องออกมาดิ้นเป็นปลาโดนน้ำร้อนลวกขนาดนั้น555อิทธิพลการเมืองแม่งแรงจริง แค่ออกมาแสดงความเห็นไม่ตรงใจก็มีแววโดนโขกสับมาแต่ไกล/บอกก่อนกูไม่ใช่ซาหริ่มนะ แต่ถ้ามึงไม่เชื่อก็รขม.คะ กูแค่เห็นต่างจากพวกมึงเฉยๆ

429 Nameless Fanboi Posted ID:U0rN64g1fo

อีพวกอปตสมาโทรลเปล่า ให้เมิงตีกัน

430 Nameless Fanboi Posted ID:FofIXENgJy

>>419 ข้างบนๆมีคนบอกปะ ว่าอยากให้นขรู้ว่าโดนอันฟอลเพราะทวิตไหน อันนี้เหมือนจะโอเคแต่ไม่โอนะ เพราะมันคือการบอกว่า เพราะเธอทวิตอันนี้ ไม่ถูกใจชั้น เธอทำผิด ชั้นเลยอันฟอล ทั้งๆที่อิการเมืองนี่มันก็เกี่ยวกับทุกคนนั่นแหละ ถ้าเขาจะอินจนพยายามแสดงออกทุกทาง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นต้องพยายามไปบั่นทอนน่ะนะ โดยเฉพาะคนอ่านที่อย่างน้อยๆก็เคยหลบวันแย่ๆเข้าไปมีความสุขในนิยายเขา

431 Nameless Fanboi Posted ID:U0rN64g1fo

>>430 เขาก็ถอยออกมาแบบที่เมิงว่าป่ะ ไม่สบายใจตอนนั้นก็ถอยตอนนั้นเลย ต้องรอสักสองชั่วโมงค่อยถอยหรอวะ คขจะได้เดาไม่ออกว่าถอยเพราะทวิตไหน แหม คนดีจัง

432 Nameless Fanboi Posted ID:FofIXENgJy

>>431 กูไม่ได้พูดถึงว่าเขาควรถอยตอนไหน มันไม่ได้สำคัญเลย กูพูดถึงความคิดเขาต่างหาก ที่ "อยาก" ให้อีนักเขียนรู้สำนึกซะบ้างว่าทำให้นักอ่านหงุดหงิดรำคาญ ความคิดแบบนี้มันน่ารังเกียจน่ะ

433 Nameless Fanboi Posted ID:Pjv1wRCXjf

>>432 นี่น่ารังเกียจแล้วพวกที่เมนชั่นไปด่าไม่เป็นขี้เลยหรอวะ บาร์เมิงสูงดีจัง หรือต้องเรียกบาร์ต่ำวะเริ่มงง
แล้วคนอ่านที่ไปฟอลเพราะหวังจะได้ตามอะไรดีๆได้อ่านนิยายดีๆตรงปกตรงคำโปรยแต่เข้าไปเจอขยะที่คขยัดเยียดเข้าไปเพราะอินการเมืองนี่ไม่มีสิทธิทำไรเลยเหรอวะ แค่จะอันฟอลยังต้องอันฟอลด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์เลย โดนยัดเยียดให้แดกขี้แต่ก็ต้องยิ้มขอบคุณ ขนาดไม่ได้เมนชั่นไปด่านะเนี่ย

434 Nameless Fanboi Posted ID:FofIXENgJy

>>433 อาจจะเกี่ยวกับสังคมที่อบรมเลี้ยงดูมาน่ะ

435 Nameless Fanboi Posted ID:6gLpAPpRnV

นิพูดถึงในทวิตหรอ นึกว่า refer ถึงนข.ที่ยัดการเมืองในนิยาย+ปลุกระดมในทอล์ค ถ้าในทวิตกูไม่อะไรเพราะกูไม่ฟอลอยู่แล้ว ที่กูรำคาญน่ะอย่างหลัง

436 Nameless Fanboi Posted ID:8CtI.NK4y5

>>430 ยังๆ ก็ถอยแล้วป่าววะ อ่านให้แตก

437 Nameless Fanboi Posted ID:WAv41BpcPw

>>430 ทวิตไม่ถูกใจก็อันฟอลก็ถูกแล้วปะวะ จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวการเมืองถ้าทวิตไม่ถูกใจจะเก็บไว้ให้รกไทม์ไลน์ทำไม อันฟอลแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ ถ้าโผล่มาบ่อยก็มิ้วท์หรือบล็อกไปก็เป็นสิ่งที่ควรทำปะ ไม่ใช่ว่าไปโควต ไปเมนชั่น หรือDMหาสักหน่อย

438 Nameless Fanboi Posted ID:OrvqULY.xh

>>430 ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกทางการเมือง แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะเห็นอะไรไม่ถูกใจก็อันฟอลเปล่า แล้วจะมาบั่นทอนอะไรถ้าคิดว่าตัวเองทำถูก ไม่มีใครลิดรอนเสรีภาพนักเขียนค่ะ

439 Nameless Fanboi Posted ID:FofIXENgJy

ถ้าไม่พอใจแล้วอันฟอลมันก็ไม่อะไรหรอก แต่ต้องมากระเหี้นยกระหือรืออยากให้นักเขียนรู้ด้วยเหรอว่าโดนอันฟอลเพราะอะไร ถ้ามึงบอกด่านักเขียนว่าปสดอินการเมืองลงโม่งได้ ทำไมกูด่าว่าพวกมึงคิดอะไรใจแคบน่ารังเกียจ ถึงได้ดิ้นกันล่ะ แล้วแรกสุดเลยกูไม่ได้ด่าด้วยนะ กูแค่บอกว่าไม่จำเป็นต้องไปทำร้ายจิตใจเขา พวกมึงนึกว่าโม่งนี่ลับมาก นักเขียนไม่รู้จักหรือไง กูไม่ได้ด่าการกระทำเขา กูด่าความคิดที่เอามาพ่นลงในนี้ มึงย้อนขึ้นไปอ่าน หลายคำโคตรใจร้ายเลยกูว่า

440 Nameless Fanboi Posted ID:kG6VI/b1yM

>>439 เอิ่ม กูย้อนไปอ่านก็ไม่เห็นว่ามันใจร้ายอะไรตรงไหนเลยนะ เท่าที่กูอ่านก็แค่อันฟอลออกมาเฉยๆ นข.คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครอันฟอลไปเพราะอะไรอ่ะ

441 Nameless Fanboi Posted ID:FofIXENgJy

>>440 คืองี้ กูว่ากูคงไม่เคลียร์ กูไม่ได้ด่าการกระทำของเขา (ที่อันฟอล หรือเลิกอ่าน) และกูไม่เห็นด้วยกับการบ่นด้วยคำแรงๆ (ของบางคน) แต่สิ่งที่กูคิดว่าน่ารังเกียจคือ คห ที่อยากให้นักเขียนรู้(สำนึกสักที)ว่าโดนฟอลเพราะอะไร (คราวหน้าจะได้ไม่กล้าทำอีก) เก็ตมะ ถ้าไม่ได้หวังให้นีกเขียนปรับปรุงตัวทำตามที่ตัวเองชอบ ทำไมต้องอยากให้เขารู้ และกูรู้ว่าเขาไม่ได้ทำจริง แต่ในเมื่อเขาพ่นลงโม่ง กูก็มีสิทธิ์พ่นเหมือนกันว่ากูไม่ชอบความคิดแบบนี้ ไหนบอกว่าแค่บ่นไง ไม่ได้ดีเอ็มไปด่านักเขียนซักหน่อย นี่กูก็แค่บ่นเหมือนกันไง ไม่ได้ตามแหกโม่งใครเพื่อแฉว่าเคยพ่นอะไรไว้สักหน่อย

442 Nameless Fanboi Posted ID:5/rPweBeR2

>>435 ในทอล์คกูเฉยๆนะ แต่ยัดมาในนิยายแบบก็อปทวิตมาทั้งดุ้นเนี่ย กูไม่โอเค

443 Nameless Fanboi Posted ID:DzrCeIJpA7

เอาตรงๆนะ เจ้าของทวิตเป็นของใคร เขาจะอันฟอลตอนไหนก็เรื่องของเขามั้ย พื้นที่ก็พื้นที่ของเขา ชีวิตบางคนเครียดจะตายห่าเขาก็อยากให้หน้าเทเลมีแต่ที่เขาสนใจเปล่า แล้วไม่ต้องมาว่าคนอิกนอนะ คนที่เขาอันฟอลไม่ใช่เขาไม่รู้เขารู้แต่ก็ไม่ได้อยากเสพเรื่องพวกนี้ติดๆให้เครียดกว่าเดิม มึงทำตัวเหมือนแบบ"ตัวเองๆ เราตามฟอลตัวเองเพราะ(ชื่อสินปิน)แต่ตัวเองรีคนอื่นทำไม" ทั้งที่หน้าเทเลตัวเองก็จัดการตัวเองดิ

444 Nameless Fanboi Posted ID:f3s7jG+iNw

>>442 เออ ใส่ในนิยายนี่สุดจริง 555

445 Nameless Fanboi Posted ID:I/0DAv8yUk

>>441 แหม ก็นี่มันโม่ง ปล่อยให้พวกกูได้แสดงความน่ารังเกียจบ้างจะเป็นไรไป ความเหี้ยในใจใครๆก็มีปะวะ ถ้าเป็นบนบกใครจะกล้า ก็กดอันฟอลกันเงียบๆทั้งนั้นแหละ

446 Nameless Fanboi Posted ID:ljTCEG0xlw

>>441 ด่ามาด่ากลับไม่โกง

447 Nameless Fanboi Posted ID:FofIXENgJy

>>446 ตามสบายเลย กูไม่ได้รู้จักมึงนี่ กูแค่อยากแสดงความเห็นเท่านั้นแหละ ว่าความคิดบางคนก็น่ารังเกียจในสายตากู อันที่จริงกูจะคิดยังไงก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยนะ แค่คิดว่าถ้ามีใครเขาเห็นแบบกูแล้วผ่านมาอ่าน เขาจะได้รู้ว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่คิด ส่วนใครที่คิดแบบมึงก็แล้วแต่เลย อย่าเผลอติดนิสัยไปหลุดบนบกแล้วกัน

448 Nameless Fanboi Posted ID:I9Dh2Sahcv

ดันทุรังชิบหาย ถถถถถ

449 Nameless Fanboi Posted ID:JKbl9TYWwJ

เออๆ ก็ปสดจริงแหละ สุดท้ายกูก็อันฟอลอยู่ดี เถียงไปเหอะมึง 555

450 Nameless Fanboi Posted ID:I/0DAv8yUk

>>447 อ่ะ กูเข้าใจมึงละ แต่มึงพอเหอะ พวกกูไม่ได้อยากมีศีลธรรมสูงส่งอะไร แค่อยากบ่นให้สะใจแบบที่จิกด่าออกหน้าไม่ได้อ่ะมึงเข้าใจมะ ไม่เห็นเหรอว่าไม่มีใครสนใจเรื่องใจร้ายใจดีอะไรของมึง ด่ารวมๆ ไม่ได้เจาะจงใครก็ถือว่าไม่ได้ด่าปะวะ นักเขียนที่ไหนจะมาเห็นแล้วนอยด์ไปเองก็เรื่องของมันดิ แต่ก็ขอบใจนะที่เตือน กูทำตัวต่ำแค่ในนี้ค่า~

451 Nameless Fanboi Posted ID:8CtI.NK4y5

>>447 ค่า แม่คนดีศรีสยาม โม่งมันขยะอยู่แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะไปบนบก เพื่งรู้เหรอ ถถถ

452 Nameless Fanboi Posted ID:U0rN64g1fo

คราวหน้าก่อนเอาออกจากชั้นกูเม้นไปด่าด้วยดีกว่า อ่านนิยายอีดอกอย่าสาระแนสอดใส้มาให้อ่าน กูไปหาอ่านตามทวิตได้ อยากเห็นนขดิ้นๆๆ

453 Nameless Fanboi Posted ID:6CLooflvaY

น่าจะเป็นคนที่อยากให้นขออกมาคอลเอ้าเยอะๆมั้ง เดี๋ยวนขมาอ่านเจอพวกเมิงด่าๆกันเห็นแล้วใจฝ่อ

454 Nameless Fanboi Posted ID:I/0DAv8yUk

>>452 เอาเลยมึง ให้พวกแม่งเข็ด จะได้เลิกซะทีเอาการเมืองมาใส่นิยายเนี่ย ถ้าเขียนให้พวกกูฟินเฉยๆไม่ได้ก็เลิกเขียนไป๊ นิยายมันมีไว้อ่านสนุกๆ ใครมันจะไปอยากอ่านเรื่องเครียดๆของแม่ง มาอ่านให้ก็ดีแล้วมั้ย ไม่มีใครอ่านก็งอแงอีก

455 Nameless Fanboi Posted ID:Z9mxjYMZdK

กูโอเคกับนิยายเนื้อหาการเมืองนะ ชอบด้วย แต่นิยายฉอดการเมืองที่เขียนๆกันแม่งไร้ชั้นเชิงมากกก สักแต่เอาเนื้อหาที่ฉอดในทวิตเตอร์มายัดใส่ปากตัวละครทื่อๆ ให้ตัวละครมันฉอดตามสคริปท์อย่างไม่แนบเนียน บางเรื่องก็ยัดเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มันอ่านไม่สนุก ตัวอย่างนิยายการเมืองที่เขียนออกมามีชั้นเชิงก็โน่นเลย ฮังเกอร์เกม ถ้าทำได้แบบนั้นใครจะด่าวะ สรุปคือนักเขียนไทยที่ฉอดการเมืองผ่านนิยายมีแต่คนมือไม่ถึงอะ

456 Nameless Fanboi Posted ID:U0rN64g1fo

>>455 ฮังเกอร์เกมแม่งเสียดสีขั้นสุด สู้แทบตายสรุปลาสบอสคือคนที่อยากให้มาขึ้นแทน สุดท้ายกลับไปซบอกคนเก่า 55555555

457 Nameless Fanboi Posted ID:koi.3mLJCp

>>455 จริง อยู่ดีๆก็ให้ตัวเอกมาฉอดๆๆๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีเลย พอทีกระแสกลับทำขึ้นมา ถ้าอยากทำมูฟเม้นอะไรเลยจะใส่ในทอล์คหรือลงทวิตกุไม่ว่านะ แต่อย่ายัดจนตัวละครกับโครงเรื่องมันมัรผิดไปสิวะ

458 Nameless Fanboi Posted ID:sfcZVoNAc9

สรุปคือเขียนห่วยเอง มาโทษนักอ่านได้ไงวะ ส่วนอันฟอล ก็เพราะรำคาญที่รีแต่พวกท็อกซิคมานั่นแหละ กูไม่อยากเห็น แล้วถ้าเป็นกู กูก็อยากจะให้อินักเขียนรู้เหมือนกันว่าทวิตไหนทำให้กูอันฟอล เผื่อจะสำนึกบ้างว่านี่ทวิตนักเขียน คนเขาตามก็เพราะงานเขียน จะไปคอลเอ้าท์ก็เปิดทวิตใหม่หรือไปทวิตส่วนตัวสิวะ กูอยากอ่านนิยายเพลินๆ กูตามเพราะนิยาย ไม่ได้ตามเพราะการเมือง

459 Nameless Fanboi Posted ID:OrvqULY.xh

>>452 ฝ่ายซ้ายก็ดิ้น สาววายเป็นหริ่ม ไม่สนใจการเมือง
>>455 ฮังเกอร์เกมแนวเรื่องมันการเมืองอยู่แล้ว แต่ที่เห็นคือแนวรักวัยรุ่นแต่ยัดการเมืองโต้งๆแบบไม่เนียน ถ้าเนียนมันต้องมีสถานการณ์ที่เทียบกันได้ ที่ทำให้คนอ่านรู้สึกคุ้นๆ แต่ขขแบบ กูขี้เกียจคิดค่ะละกูก็อินมาก ยัดมาเลย
ส่วนตัวกูชอบแนวมุกสารเลว แต่ไม่มีใครแต่งแบบนั้น เพราะทุกคน take it serious

460 Nameless Fanboi Posted ID:OrvqULY.xh

>>459 *แต่นข

461 Nameless Fanboi Posted ID:f3s7jG+iNw

อย่างเรื่องเมื่อไรจะเลิกเป็นหลิ่ม ถือว่าสอบผ่านสำหรับพวกมึงมั้ยวะ ?
อันนี้ถามแบบไม่ได้จะแหย่หาเรื่องนะโว้ย แค่อยากรู้เทสแต่ละคนเฉยๆ เห็นนักเขียนคนนี้มีคนแอนตี้เยอะเลยไม่รู้จะถามดีป่าว
ส่วนตัวกูนะ เรื่องนี้ช่วงแรกที่ลงกูชอบฟอนต์ชื่อเรื่องมาก (เวอร์ชั่นก่อนคนเขียนเปลี่ยนอะ ไม่รู้มีใครทันเคยเห็นป่าว มันจะเป็นฟอนต์ที่เหมือนเขียนด้วยสีชอล์กอะ สีหลิ่มๆ ดี กูชอบความครีเอทจุดนี้)
เนื้อเรื่องก็บ่นๆ ด่าๆ อ่านแล้วนึกถึงเคียวน์เรื่องฮารุฮิ ประเด็นที่เอามาฉอดมันปัจจุบันไปหน่อย ผ่านไปปีหนึ่งก็กลายเป็นนิยายหมดอายุแล้ว พาร์ทความรักกับการแก้โรคหลิ่มของพอ. ก็ง่ายไปนิด แต่โดยรวมกูุอ่านรอดว่ะ ไม่ถึงกับขว้างทิ้ง

462 Nameless Fanboi Posted ID:sQDx6duyH7

>>461 ไม่ผ่าน น่ามคาน กูไม่ชอบนิยายที่เอาแต่บ่น เนื้อเรื่องไม่เห็นมีไร

463 Nameless Fanboi Posted ID:+H54lvWALA

>>461 แก้โรคหลิ่มยังไง ไม่ได้อ่าน

464 Nameless Fanboi Posted ID:f3s7jG+iNw

>>463 นอ. ตั้งกัณฑ์เทศน์ให้พอ. ฟังเรื่องรฐบ. แทบทุกตอนจนพอ. เปลี่ยนความคิด
ตรงจุดนี้กูว่าไม่สมจริงที่มันเปลี่ยนง่ายไป

465 Nameless Fanboi Posted ID:XyLGXM8aIe

สมัยช่วงปี56-57กูเห็นต่างโดนด่าว่าเป็นกระบือแดง สมัยนี้ช่วงปี64 กูเห็นต่างโดนด่าว่าเป็นซาหริ่ม ...นิสัยคนไทยมันก็ไม่ได้ต่างกันมากนักหรอก เหยียดคนเห็นต่าง ด่าคนเห็นต่างเหมือนกันทุกยุคทุกสมัยนั้นแหละ ถ้าไม่อยากมีปัญหาปสด.ก็เบี่ยงประเด็นเถอะ กูไม่อยากให้มู้เม้าท์กลายเป็นมู้การเมืองไปอีกมู้

466 Nameless Fanboi Posted ID:6CLooflvaY

>>461 หริ่มกูอ่านแล้วรำคาญ แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะการเมืองหรือเพราะรำคาญนายเอกฉอด ถ้าอันแรกก็ไม่ผ่านเพราะฝีมือไม่ถึง ถ้าอันสองก็ไม่ผ่านเพราะนิสัยนายเอก ใดๆคือนขฝีมือไม่ถึงด้วย นายเอกนิสัยจุกติกแต่ถ้ามือถึงก็เขียนให้สนุกได้

467 Nameless Fanboi Posted ID:pf71sJSLgH

กูอ่านเรื่องแนวสอนแนวฉอดไม่ค่อยรอดเลยว่ะ รู้สึกว่า นข. หลายคนไม่มีศิลปะในการสอดแทรกการเมืองอะ
อยู่ๆ ก็ให้ตัวละครร่ายบทพูดการเมืองมายาวมากเหมือนอยู่บนเวทีปราศรัย บางทีกำลังสวีทอยู่ก็โยงเข้าอะไรแบบนี้เฉยเลย

468 Nameless Fanboi Posted ID:JeuJ6Y.bq8

>>461 กูอ่านไม่รอดเพราะใส่วงเล็บเยอะเกินไป ถ้าเชิงอรรถจะไม่ว่าเลย แต่อันนี้วงเล็บ เจอเยอะจนรำคาญ เลยเทไปแล้ว

469 Nameless Fanboi Posted ID:YXkpA4KMLh

Ky งานหนังสือไบเทค ใครมีที่กินแนะนำไหม จากรถไฟฟ้าเดินไกลม่ะ

470 Nameless Fanboi Posted ID:6CLooflvaY

>>469 เหมือนเดินจากสยามไปชิดลม แต่ไบเทคชั้นล่างมีตลาดนัดมีโซนนั่งกินเมิงไม่อดตายแน่นวล

471 Nameless Fanboi Posted ID:vU/eJK3Ke.

>>470 เห็นโม่งในไลน์บอกของกินแพงมากก

472 Nameless Fanboi Posted ID:KkN9lHcPnw

>>471 มันเป็น food court ไม่ใช่หรอ ตอนไปดูงาน(ไม่ใช่งานหนังสือ) ทำไมจำได้ว่าไม่แพง ด้านล่างมีเซเว่นด้วยเผื่อประทังหิวได้ ปกติเดินกันเต็มวันเลยหรอ ของกูไปงานอย่างน้อยสองวัน วันแรกๆ (รอหนังสือครบ) คือสอยตามลิสหยิบๆ ขนกลับบ้าน แล้วไปอีกทีใกล้ๆ วันสุดท้าย เดินเรื่อยๆ หาเก็บตกประปราย แต่อย่างมากก็ไม่เกิน 3 ชมอะ กูชอบออกมาหาร้านนั่งกินชิลๆ มากกว่า ในงานทีไรคนเยอะทุกที ยิ่งช่วงนี้ยิ่งกลัวที่แออัด

473 Nameless Fanboi Posted ID:f3s7jG+iNw

>>472 +1 Food court ของไบเท็คกูเคยไปลองราคาพอรับได้นะ กูว่าเรทราคาไม่ต่างจากศูนย์ประชุมสิริกิติ์แต่กว้างกว่า
กูอยากไปเดินช่วงวันธรรมดาสัก 2 วัน แต่เดือนเม.ย. เป็นเดือนที่ยุ่งสัดๆ
แม่งต้องยอมไปเดินเบียดคนตอนส. อา.

474 Nameless Fanboi Posted ID:f3s7jG+iNw

KY นอกเรื่องสัดๆ
โม่งในนี้แยกร่างไปเล่นในไลน์กันเยอะมั้ยวะ
กูก็สิงอยู่ที่นั่นนะ แต่เป็นคนอ่านซะส่วนใหญ่เลย กูพิมพ์คีย์บอร์ดมือถือไม่ถนัด (; _ ;)
กลัวห้องโม่งนี้จะร้างจัง (ถึงแม้ประเด็นนข. โยงการเมืองเมื่อคืนจะคึกคักมากก็ตาม 555+)

475 Nameless Fanboi Posted ID:.6M8vAfnky

>>472 ไม่รู้แฮะ เห็นโม่งไลน์คุยกัน กูไม่ได้ร่วมวงเพราะไม่เคยไปงานไบเทค
กูก็ไปสองวัน ตอนไปสิริกิตกับเมืองทองกูอยู่เต็มวันเลย ประมาณ 11 โมงถึง 6 โมงเย็น เมื่อก่อนกูตามทั้งมังงะทั้งนิยายด้วยเลยแวะหลายบูธ ฟินกับการเก็บของพรีเมียมยิบย่อย(เอามารกบ้าน) บางทีมีอีเวนต์อีก บวกกับความต๊ะต่อนยอนของกูเองด้วยเวลาเลยไม่พอ ถถถถ

476 Nameless Fanboi Posted ID:7GnsFMK+DM

>>474 กูแว้บๆเข้ามาอ่านโม่งทุกวัน แต่ไม่ได้สิงในไลน์นะ ไม่คิดจะไปสิงด้วย กูสบายใจกับแพลตฟอร์มโม่งมากกว่า

477 Nameless Fanboi Posted ID:PjpVRNUItp

กูแวบมาดูที่นี่ตลอดแหละ ในไลน์ก็อยู่ แต่ตอนโทรลล์ลงหนักๆกูก็ไปคุยในไลน์เอา เพราะตอนนั้นแทบจะหามู้และเนื้อหาไม่เจอเลย มีแต่โทรลล์ปั่นอิหยังไม่รู้
กูว่าที่นี่ไม่ร้างหรอก ก็เห็นมีเรื่องคุยกันอยู่ตลอดนะถ้าไม่นับช่วงโทรลล์ลง

478 Nameless Fanboi Posted ID:3YLLF3DO0R

>>477 ขอลิงค์โอเพ่นแชทหน่อย กูเห็นแล้วลืมเข้าทุกที

ปกติในนั้นคึกคักมั้ยวะ หรือก็พอๆกับในนี้

479 Nameless Fanboi Posted ID:5M82JwSXnq

ky เห็น ด ประกาศโปรเจ็กต์นิยายรวมนักเขียน พวกนี้แกงค์อิติปิโสใช่ป่ะ

480 Nameless Fanboi Posted ID:PjpVRNUItp

>>478 คุณได้รับคำเชิญให้เข้าร่วม "fanboi.ch#801" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้
https://line.me/ti/g2/A4eG2eEkOndRZWgR_eounw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

481 Nameless Fanboi Posted ID:PjpVRNUItp

เหยแป๊บ มึงถามหาห้องไหนนะ
ด้านบนคือห้องรวม
ถ้าห้องสาวฟุนักเม้าท์ เป็นอันนี้
คุณได้รับคำเชิญให้เข้าร่วม "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

482 Nameless Fanboi Posted ID:+H54lvWALA

ถ้าอิงชีวิตจริงที่ประสบมา ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนความคิดเพราะแค่เทศน์เรื่องรฐบเฉยๆ หรอก คนที่อยู่ฝั่งนั้นเขามีชุดความเชื่อของเขาอยู่แล้ว ก็เหมือนคนอยู่อีกฝั่ง ต่างคนต่างมีชุดความเชื่อ กุกะแฟน คนนึงเป็นรยล อีกคนเป็นอตรยล ยังไม่คิดจะเปลี่ยนความคิดกันเลย เวลาอีกคนแชร์ข้อมูลของตัวเองให้อีกคนฟังหรืออ่าน แค่ฟังขำๆ แต่สุดท้ายก็เลือกเชื่อตัวเองอยู่ดี ไม่มีหรอกที่ว่าเปลี่ยนความคิดแค่เพราะแฟนเทศน์ให้ฟัง ยกเว้นแต่เขาไม่ได้บีลีฟในความเชื่อตัวเองแต่แรกอยู่แล้ว

483 Nameless Fanboi Posted ID:+H54lvWALA

โดนเซนเซอร์คำว่ะ ขก ตอบละ 55

484 Nameless Fanboi Posted ID:+H54lvWALA

ลบได้มั้ยนิ เซนคำกุซะอ่านไม่ออกเลย -_-"

485 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

“อันนินทา กาเร เหมือนเทส้วม ถ้ารวบรวม รับไว้ ย่อมได้เหม็น หากไม่รับ กลับหาย คลายประเด็น ย้อนไปเหม็น ปากเน่า ของเขาเอง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ขวัญใจโลก คนยังโขก ยังสับ งับเหยงเหยง ถ่มน้ำลาย รดฟ้า ด่าบรรเลง ใครจะเก่ง เกินลิ้น คนนินทา”

ท่านพุทธทาสภิกขุ ก็ได้กล่าวไว้ว่า “ในโลกนี้…ถูกเขาสรรเสริญก็ตัวลอยฟุ้งเฟ้อไป ถูกเขาก็นินทาด่าว่าก็มาขัดใจโกรธแค้นอยู่ เหมือนคนบ้า ได้รับสรรเสริญก็บ้าไปอย่าง ได้รับนินทาก็บ้าไปอย่าง เพราะมันไม่รู้ว่าในโลกมันเป็นเช่นนั้นเอง”

ดังนั้นการนินทาเป็นเรื่องธรรมดาของโลกดีเสียอีกที่ว่าคนนินทาก็แสดงว่าเขายังเห็นเรามีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้ แต่จะเห็นเราเป็นความสุขหรือความทุกข์ก็เป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา ตราบเท่าที่เราคิดว่าได้ทำตามหน้าที่ดีพอแล้วเกิดอะไรจากนั้นก็ต้องทำใจเท่านั้นเอง

486 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

ปัญหาธรรมประจำวันนี้: โดนใส่ร้าย นินทา จนคนอื่นเข้าใจเราผิด ควรทำอย่างดี
ถาม: โดนพูดจาใส่ร้าย นินทา จนคนอื่นเข้าใจเราผิด ยิ่งไม่แก้ตัว คนอื่นก็ยิ่งเข้าใจผิด ควรจะทำอย่างไร

ตอบ:
หลวงพ่อชา เคยสอนว่า คนมีปัญญาอาจหาประโยชน์ได้แม้จากกองขยะ คำนินทาว่าร้ายเป็นสิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจแต่หากพิจารณาให้ดีแล้วอาจเป็นประโยชน์ต่อเราได้มาก ไม่ต่างจากขยะที่ถูกแปรให้กลายเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้

พระไพศาล วิสาโล กล่าวถึงผู้ชอบนินทาไว้ว่า คนที่ชอบนินทาคนอื่นให้เสียหายนั้น เป็นเพราะเขาเองมีความทุกข์อยู่ก่อนแล้ว เช่น อิจฉาคนอื่น หรือมองคนอื่นในแง่ลบ ทำให้ใจเขาเป็นอกุศล จึงแสดงออกด้วยการนินทาว่าร้ายคนอื่น และเมื่อทำไปแล้ว ย่อมต้องได้รับผลกระทบ(หรือวิบาก)จากกรรมนั้น ๆ เช่น ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากคนอื่นน้อยลง หรือเสียภาพพจน์ไปเลย อีกทั้งยังมีศัตรูมากขึ้น ทำอะไรก็ยากจะสำเร็จ ไม่ได้รับความเจริญ ทั้งหมดนี้ย่อมทำให้ชีวิตของเขาไม่ได้รับความสุข หรือถึงจะมีสุขก็ชั่วคราว

487 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

ส่วนพระอาจารย์มานพ อุปสโม แนะนำวิธีแก้ไขไว้ว่า หากมีการใส่ร้าย เราควรชี้แจงว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ใครจะเชื่อนั้นเป็นเรื่องสุดวิสัย เราไม่ควรทุกข์ใจ เพราะเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาใส่ร้าย ปุถุชนย่อมหวั่นไหวเป็นธรรมดา เราต้องทำใจให้หนักแน่นด้วยการนั่งสมาธิให้มาก สักวันเขาจะเข้าใจเราเอง ขอเพียงเราอย่าเป็นอย่างที่เขาใส่ร้ายเท่านั้นพอ

เช่นเดียวกับที่ ท่านปิยสีโลภิกขุ กล่าวไว้ว่า ท่าทีที่พึงมีต่อคำนินทา คือ น้อมนำมาใคร่ครวญ เพราะอาจทำให้เห็นข้อบกพร่องที่ตนไม่เคยมองมาก่อน แม้คำนินทานั้นจะไม่จริง เรายังอาจวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้มีผู้มองเราในแง่ลบได้เช่นกัน และหากอยู่ในวิสัยจะแก้ไขปรับปรุงได้ เราย่อมมีโอกาสพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น มองในแง่นี้ ควรขอบคุณผู้นินทาเสียด้วยซ้ำ

ที่สุดแล้ว คำนินทาควรทำให้ตระหนักได้ว่า ไม่มีใครเป็นที่พอใจของทุกคนได้ ต่อให้ปฏิบัติดีเพียงใด ย่อมไม่แคล้วมีผู้มองในแง่ลบ ความเข้าใจนี้ช่วยให้คลายความคาดหวังต่อการกระทำของตนเองลง สามารถทำความดีโดยไม่ต้องเกร็งกับคำพิพากษาของใคร

488 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

นินทาว่าร้าย
เพราะอิจฉาริษยาเป็นเหตุ

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมกาสังฆปริณายก

นินทาและสรรเสริญ อันเป็นกระแสแห่งกรรม แห่งโลกธรรม ที่สำคัญอย่างยิ่ง

เป็นเหตุแห่งทุกข์โทษภัยนานาประการ แก่จิตใจที่ขาดสติ ขาดปัญญา
เมื่อผจญกับกระแสเสียงสรรเสริญก็ตาม กระแสเสียงนินทาก็ตาม
ไม่มีสติ ไม่มีปัญญาปิดกั้น ปล่อยให้เข้าไปทำร้ายจิตใจ
หนักหนาเพียงไรก็ได้ เพียงไม่หนักหนานักก็มี

กระแสเสียงนินทาน่าจะหนักหนารุนแรงกว่ากระแสแห่งการยกย่องสรรเสริญ
ดังที่เห็นอยู่ก็เช่นนี้ คือโบราณท่านว่าไว้ว่าจะถึงสมัยหนึ่งที่
คนดีจะต้องเดินตรอก ขี้ครอกจะได้เดินถนน
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม

ผู้ใหญ่ ในสมัยโบราณ ท่านอธิบายให้ลูกหลานเข้าใจความหมายของคำที่ว่านี้คือ
คนดีจะถูกเหยียบย่ำ จนไม่อาจเผยอหน้าให้ใครเห็นได้
คนชั่วร้ายจะได้รับการยกย่อง จนแทบจะล่องลอยฟ้า

ผู้ใหญ่สมัยก่อนที่ ท่านเป็นผู้ดี เป็นคนดี ท่านสอนลูกสอนหลาน
ให้มีเหตุผลในการพูดในการฟัง นั่นก็คือ อย่าไม่มีเหตุผล ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา
ในการพูด ในการฟัง ใครพูดอะไร ใครบอกอะไร ได้ยินก็เชื่อ ก็ฟังก็พูดต่อ

ท่านว่านี้เป็นเหตุสำคัญให้ถึงสมัยผู้ดีต้องเดินตรอก
น่าจะหมายความว่า ผู้ดีหรือคนดี ถูกประณามหยามเหยียด จนอับอายขายหน้า
ไม่อาจให้เห็นหน้าค่าตาได้ พิจารณาให้เห็นเหตุผล น่าจะเห็นได้ว่า
เสียงนินทามีความสำคัญไม่น้อย ทำให้คนดีกลายเป็นคนไม่ดี
หรือคนถูกกลายเป็นคนผิดไปได้มากมายยิ่งขึ้น ในทุกวันนี้

489 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

จนเป็นเหตุให้มีคำกล่าวว่า กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม
หรือผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน นั่นเอง

ได้ยินใครพูดถึงใครอย่างไร ถ้าเป็นผู้ได้ยิน ที่ไม่เคยพบเคยผ่านเรื่องราว
ที่ฟังเสียงบอกเสียงเล่าด้วยตนเอง ไม่รู้จักผู้ที่ถูกกล่าวถึง ไม่เคยรู้เคยเห็นด้วยตนเอง
ในการพูดการทำของแต่ละคน เขาจะเป็นคนดีคนชั่วหรือเป็นคนถูกคนผิดอย่างไร
แม้ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้ฟัง จากปากเขา
เป็นภาพเป็นเสียงจากคนอื่นทั้งสิ้น

แม้คนอื่นนั้นเราพอรู้จักอยู่ แต่ก็จงมั่นคงในสติปัญญาของตน
จงรอบคอบให้อย่างยิ่ง ในการเชื่อ

ผู้รอบคอบในการเชื่อ ก็คือรอบคอบในการฟัง
เมื่อเป็นผู้รอบคอบในการเชื่อ ก็ย่อมเป็นผู้รอบคอบในการพูดด้วยเป็นธรรมดา
การนินทาว่าร้ายที่เต็มไปทุกแห่งทั่วโลกก็ว่าได้
มิได้เกิดแต่เหตุใดอื่น แต่เกิดจากความเชื่อและนอกจากความเชื่อ ก็คือความอิจฉาริษยา

ที่ทรงมีพระพุทธภาษิตว่า -ความริษยาเป็นเหตุให้โลกฉิบหาย-
จะกล่าวว่าการนินทาว่าร้าย เป็นเหตุให้โลกฉิบหาย ก็น่าจะไม่ผิด
น่าจะเหมือนกันกับที่ทรงมีพระพุทธภาษิตว่า -ความริษยาเป็นเหตุให้โลกฉิบหาย-

เพราะการนินทาว่าร้ายจะไม่เกิด แม้ไม่มีความริษยาเป็นเหตุ
เมื่อได้ฟังการนินทาว่าร้าย ก็ไม่ควรลืมพระพุทธภาษิตที่ว่า
-ความริษยาเป็นเหตุให้โลกฉิบหาย-

ได้ยินเสียงนินทาว่าร้าย ไม่ว่าจะจากผู้ใดก็ตาม ให้นึกถึงพพระพุทธภาษิตทันทีที่ว่า
-ความริษยาเป็นเหตุให้โลกฉิบหาย- อย่ายอมเข้าร่วมในการนินทาว่าร้าย
หรือในความริษยา แม้เพียงด้วยการเชื่อ โดยมิได้บอกกล่าวเล่าขานต่อไปก็ตาม

แต่ถ้าเชื่อตามเสียงนินทาว่าร้ายและเป็นการเชื่อด้วยจริงใจ
เชื่ออย่างปราศจากความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องที่ได้ยินได้ฟังจากคำบอกเล่าของคนอื่น
ซึ่งอาจจะป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ น่าไว้ใจ
มีความจริงใจ มีความหวังดี ในการนำเรื่องมาบอกกล่าวเล่าให้ฟัง

จงรอบคอบให้อย่างยิ่งในการฟัง ไม่ว่าผู้พูดผู้เล่าจะเป็นใครก็ตาม นึกไว้อย่างหนึ่งว่า

การนินทาว่าร้าย ถ้าจริงก็เสียหายแก่ผู้พูดผู้ฟังพอสมควร
แต่ถ้าไม่จริง ไม่เพียงแต่ผู้พูดเสียหายเป็นอย่างยิ่ง ผู้ฟังผู้เชื่อก็จะเสียหายมาก

490 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

มีบัญชีอยู่แล้ว?เข้าสู่ระบบ
หรือลงทะเบียน

ฝึกใจไปกับธรรมะ

ติดตาม
12 เม.ย. 2020 เวลา 20:59 • ไลฟ์สไตล์

คนนั่งนิ่งก็ถูกนินทา คนพูดมากก็ถูกนินทา คนพูดน้อยก็ถูกนินทา คนไม่พูดเลยก็ถูกนินทา คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก ดังนั้น จึงควรยอมรับคำนินทาอย่างเต็มใจ และพยายามแก้ไขตามเหตุตามผลกันไป
แต่ไม่ควรยึดมั่นกับคำนินทาเป็นจริงเป็นจังนัก เพราะจะทำให้สุขภาพจิตเสียเปล่า ๆ เอาเวลาที่จะเสียไปเปล่า ๆ นั้น ไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ดีกว่า อย่าให้คำนินทาของคนอื่นรกสมองเลย ชอบคำพูดของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ที่ว่าด้วยความจริงหรือเรื่องเหลวไหล เขากล่าวไว้น่าคิดว่า
"ความจริงก็คือความจริง ต่อให้คนพันคนเชื่อเรื่องเหลวไหล มันก็ยังเป็นเรื่องเหลวไหลอยู่ดี เพราะความเป็นจริงไม่เคยต้องขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ เราพบว่าการทำตามความจริงโดยลำพัง ก็ยังดีกว่าการไหลไปตามเสียงอื้ออึงของฝูงห่านโง่ ๆ ที่สุดท้ายลงเอยด้วยความธรรมดาสามัญ"
วิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงการนินทาได้ ก็คือปล่อยมันไปตามกระแสสักพัก เมื่อความจริงปรากฏก็จะหยุดไปเอง แต่ถ้ายังไม่หยุด มีวิธีให้ลองนำไปใช้ดู คือ

491 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

ทะเบียน

ฝึกใจไปกับธรรมะ

ติดตาม
12 เม.ย. 2020 เวลา 20:59 • ไลฟ์สไตล์

คนนั่งนิ่งก็ถูกนินทา คนพูดมากก็ถูกนินทา คนพูดน้อยก็ถูกนินทา คนไม่พูดเลยก็ถูกนินทา คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก ดังนั้น จึงควรยอมรับคำนินทาอย่างเต็มใจ และพยายามแก้ไขตามเหตุตามผลกันไป
แต่ไม่ควรยึดมั่นกับคำนินทาเป็นจริงเป็นจังนัก เพราะจะทำให้สุขภาพจิตเสียเปล่า ๆ เอาเวลาที่จะเสียไปเปล่า ๆ นั้น ไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ดีกว่า อย่าให้คำนินทาของคนอื่นรกสมองเลย ชอบคำพูดของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ที่ว่าด้วยความจริงหรือเรื่องเหลวไหล เขากล่าวไว้น่าคิดว่า
"ความจริงก็คือความจริง ต่อให้คนพันคนเชื่อเรื่องเหลวไหล มันก็ยังเป็นเรื่องเหลวไหลอยู่ดี เพราะความเป็นจริงไม่เคยต้องขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ เราพบว่าการทำตามความจริงโดยลำพัง ก็ยังดีกว่าการไหลไปตามเสียงอื้ออึงของฝูงห่านโง่ ๆ ที่สุดท้ายลงเอยด้วยความธรรมดาสามัญ"
วิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงการนินทาได้ ก็คือปล่อยมันไปตามกระแสสักพัก เมื่อความจริงปรากฏก็จะหยุดไปเอง แต่ถ้ายังไม่หยุด มีวิธีให้ลองนำไปใช้ดู คือ
1. เป็นธรรมดาของโลก ให้คิดว่านี่เป็นธรรมดาของโลก ไม่เคยมีใครสักคนบนโลกนี้ที่รอดพ้นจากคำนินทา เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าของเรา ขนาดท่านเป็นผู้ที่ประเสริฐบริสุทธิ์สูงสุด แต่ท่านก็ยังไม่พ้นถูกคนพาลกล่าวโจมตีว่าร้ายจนได้ แล้วนับประสาอะไรกับเราที่เป็นแค่คนธรรมดาสามัญที่ยังมีทั้งดีและชั่วจะรอดพ้นปากคนนินทาไปได้ คิดอย่างนี้แล้วจะได้สบายใจ ว่าการถูกนินทานี่เป็นแค่เรื่องธรรมดา เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลก (โลกธรรม) และยังคงมีอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย
2. ให้มีจิตใจมั่นคงดุจภูผา ถ้าเรามีความบริสุทธิ์ใจ ทำการงานด้วยความตั้งใจปรารถนาดี แต่แล้วก็ยังไม่พ้นถูกคนนินทา กล่าวร้ายว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ขอให้เรามีความมั่นใจในความดีของเรา อุปมาภูผาหินแท่งตันไม่หวั่นไหวในลมพายุฉันใด บัณฑิตผู้มีจิตใจหนักแน่นในความดี ย่อมไม่หวั่นไหวในคำสรรเสริญ และคำนินทาฉันนั้น
3. ให้มีจิตเมตตาสงสารผู้นินทา ให้คิดด้วยความเมตตากรุณาว่าคนที่นินทาเรานั้น ย่อมกระทำไปด้วยความอิจฉาริษยา เขาจะต้องเผาลนจิตใจของเขาให้ร้อนรุ่มเสียก่อน จึงจะสามารถพูดนินทาว่าร้ายคนอื่นออกมาได้ ให้คิดเมตตาสงสาร แทนที่จะไปโกรธเคืองเขา
อนึ่ง คนที่ชอบกล่าววาจาส่อเสียดหรือชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น โดยปรกติเขาย่อมเป็นผู้หามิตรสหายที่ใกล้ชิดไม่ค่อยได้ เพราะไม่เคยมีใครไว้วางใจคนที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น ให้คิดเห็นใจเขาในฐานะที่เขาต้องเป็นผู้อยู่ในโลกนี้ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเขาย่อมหาเพื่อนแท้ไม่ได้
4. คิดหาประโยชน์จากคำนินทา คนที่คิดกล่าวร้ายเรา บางทีเขาต้องไปนั่งคิดนอนคิดหาจุดอ่อนในตัวของเรา เพื่อเอามาพูดโจมตี บางทีจุดอ่อนเหล่านี้ตัวเราเองก็มีอยู่จริง แต่ทว่าเราไม่รู้ตัวมาก่อน นี้เป็นประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาปรับปรุงตนเองได้ ดังนั้น เราจึงควรที่จะขอบคุณคนนินทาเรา เพราะเขาอุตส่าห์ไปนั่งคิดนอนคิดค้นหาข้อมูลมาช่วยให้เราปรับปรุงตนเอง
5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสังคม สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง คือ เน้นเรื่องการใช้อำนาจครอบงำกันและกัน จึงมีการปลูกฝังสอนให้คิดแข่งดีแข่งเด่น คิดเหนือผู้อื่น สอนให้อยากเป็นใหญ่เป็นโต (มานะ) มาตั้งแต่โบราณ (คาดว่าไม่ต่ำกว่า 500 ปี คือตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น) ทำให้คนไทยเราเวลาเห็นใครทำดีก็มักจะเกิดความริษยาโดยไม่รู้ตัว คือ ทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นดีกว่า

492 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

สังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่งเช่นนี้ ผู้คนจึงมักจะชอบนินทาว่าร้ายกันและกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดวิเคราะห์ได้เช่นนี้แล้วก็สบายใจ ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไรมาก ให้ถือว่าการที่เราถูกนินทานี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ทางสังคมก็แล้วกัน มันเป็นเช่นนั้นเอง
ในอนาคตไม่แน่ ถ้ามีการศึกษาเรื่องพุทธธรรมกับสังคมไทยกันอย่างจริงจัง บางทีเราอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทางสังคมจาก "แนวดิ่ง" ให้เป็น " แนวราบ" คือ คนไทยมีความเสมอภาคกัน ไม่ถืออำนาจเป็นใหญ่ แต่ถือความถูกต้องดีงามเป็นใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้น สังคมที่เต็มไปด้วยการนินทาว่าร้ายก็จะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ แล้วภาษิตยอดฮิตที่ว่า
"สังคมเสื่อมถอย เพราะคนดีท้อแท้" หรือ "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" จะได้เลิกใช้กันเสียที
#ถูกนินทาว่าร้ายคิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์

493 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้ หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่าเป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดา อย่าเป็นคนสำคัญ เวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา อย่าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป

2. ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม หมายความว่า การสะสมอะไรสักอย่างนั้นเป็นภาระไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดี นอกนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย

3. ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ หมายความว่า อย่าไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่มองว่า ความสมบูรณ์แบบมีจริง

4. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ หมายความว่าถ้าอะไรไม่ดีก็อย่าไปพูดมากไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด แต่ถ้ามันไม่ดีเป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูด เพราะการพูด หรือวิจารณ์ในทางเสียหายนั้น มีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำ และขุ่นมัว

5. ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอ หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไป เวลามีความทุกข์ ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไป เวลามีสถานการณ์แย่ๆ เกิดขึ้น ก็ให้รู้ทันว่า เรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้อยู่กับเราจนวันตาย

6.ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทาแน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า "เรามาถูกทางแล้ว" แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลก คนที่ชอบเต้นแร้งเต้นกา กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลกแม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูกคนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่ นับประสาอะไรกับคนอื่น ถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่นได้เมื่อไหร่ ค่อยมาคิดว่า เราจะไม่ถูกนินทา

7.ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รถยนต์ใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน นาฬิกาใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อน เมื่อรู้จักพอแล้ว ก็ไม่ต้องหาเงินมาก เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน

494 Nameless Fanboi Posted ID:7NVH1lKySq

>>482 ทฤษฎี cognitive dissonance เหี้ยๆ

495 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

เชื่อว่าไม่ว่าใครก็คงต้องเคยเจอปัญหาเกี่ยวกับ "คน" แน่นอน โดยเฉพาะคนขี้อิจฉา แต่จะให้มัวแต่มานั่งเครียดกับคนจำพวกนี้ก็ชวนให้เสียสุขภาพจิตเสียมากกว่า แม้ว่าคนขี้อิจฉา จะเป็นคนจำพวกที่นิยมชอบพูดจาส่อเสียด ใส่ร้ายให้คนอื่นหรือตัวเราเสียหาย แต่การที่คุณจะ "ลดตัว" ลงไปต่อเถียง หรืออธิบายความจริงแก่คน "หูเบา" ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะคนพวกนี้มักจะมีนิสัยชอบเถียงข้างๆคูๆ

496 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

พบกับบทความภาษาอังกฤษน่าสนใจกันอีกครั้งครับ ครั้งนี้เราจะมาคำว่า ‘ขี้ขลาด’ กันนะครับว่าในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่าอะไร คำที่ให้ความหมายว่า ‘ขี้ขลาด’ ในภาษาอังกฤษมีกันอยู่หลายคำทีเดียว อาทิคำที่หลายๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี อย่าง

Coward หมายถึง ขี้ขลาด ขี้กลัว สามารถเป็นได้ทั้งคำนาม (Noun) และ คำคุณศัพท์(Adjective) เช่น

Tom called me a coward.

-ทอมเรียกฉันว่าไอ้ขี้ขลาด

อย่างไรก็ดีสำหรับคำคุณศัพท์ส่วนมากจะนิยมใช้คำว่า ‘Cowardly’ เสียมากกว่า เช่น

Only cowardly warriors ran from the battle.

-มีเพียงแค่นักรบผู้ตาขาวเท่านั้นที่จะวิ่งออกจากสมรภูมิ

Timid หมายถึง คนขลาด เป็นได้ทั้งคำคุณศัพท์ และคำนาม เช่นกัน เช่น

Fortune repulses the timid.

-โชคลาภย่อมปฏิเสธคนขลาด

หากเป็นคำคุณศัพท์คำว่า timid นั้นหลายๆ คนอาจจะมองว่า สงบเสงี่ยม สุขุม แต่ทว่าจะสื่อไปในทาง ขี้อาย กระดาก ขี้ขลาด เสียมากกว่าครับ

A mouse is a timid creature.

-หนูเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้กลัว

Timorous หมายถึง ขี้กลัว สำหรับคำนี้ดูอลังการขึ้นมาบ้าง ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช่ในกรณีที่เราเกิดความวิตกกังวลจนทำให้ขาดความมั่นใจและไม่กล้าที่จะทำอะไร

Everything is impossible to the timorous man.

-ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น สำหรับคนขี้ขลาดตาขาว

Sasha spoke in a timorous tone.

-ซาช่าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นๆ.

เรายังไม่จบกันเท่านี้นะครับสำหรับขี้ขลาดตาขาวเดี๋ยวเราจะมาดูต่อในครั้งหน้ายังมีคำใดอีกบ้างที่ให้ความหมายว่าขี้ขลาดครับ

497 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

ความหมายของคำว่า ' หมาลอบกัด '
หมาลอบกัด หมายถึง (สำ) น. คนที่ลอบทำร้ายหรือกลั่นแกล้งผู้อื่นลับหลัง.
คำที่ใกล้เคียงกัน
หมาไล่เนื้อ
(สำ) น. คนที่รับใช้ผู้อื่นเมื่อเวลายังทำประโยชน์ให้ได้ ผู้เป็นนายก็เมตตาเลี้ยงดู แต่เมื่อทำประโยชน์ไม่ได้แล้ว ผู้เป็นนายก็ทอดทิ้งไม่ไยดีหรือหาเรื่องลงโทษขับไล่ไสส่งเป็นต้น เปรียบเสมือนหมาไล่เนื้อเมื่อแก่สิ้นเขี้ยวสิ้นเล็บ ใช้ไล่ล่าสัตว์ไม่ได้ เจ้าของก็ไม่เมตตาเลี้ยงดูอีกต่อไป.

หมาสองราง
(สํา) น. คนที่ทำตัวเข้าด้วยทั้ง ๒ ฝ่าย.

หมาหมู่
(ปาก) น. กลุ่มคนที่กลุ้มรุมทําร้ายคนคนเดียว.

หมาหยอกไก่
(สํา) น. เรียกอาการที่ชายหยอกล้อหญิงในทำนองชู้สาวเป็นทีเล่นทีจริง.

หมาหวงก้าง
(สํา) น. คนที่หวงของที่ตนไม่มีสิทธิ์, คนที่กันท่าคนอื่นในสิ่งที่ตนได้ใช้ประโยชน์แล้วหรือใช้ประโยชน์ไม่ได้.

หมาหวงราง
(สำ) น. คนที่หวงแหนสิ่งที่ตนเองกินหรือใช้ไม่ได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นกินหรือใช้, หมาในรางหญ้า ก็ว่า.

หมาหัวเน่า
(สํา) น. คนซึ่งเป็นที่รังเกียจของคนอื่นจนไม่สามารถเข้ากับใครได้, คนที่ไม่มีใครรักหรือคบหา

498 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

สำนวน หมาลอบกัด ใช้ในการเปรียบเปรยถึง คนที่ลอบทำร้าย หรือ คอยกลั่นแกล้งผู้อื่นลับหลัง ในทีเผลอ

ที่มาของสำนวน หมาลอบกัด ในภาษาไทยมีสำนวนที่เกี่ยวกับสุนัขหลายสำนวน เนื่องจากคนไทยมักจะเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้าน มักจะสังเกตอาการพฤติกรรมต่าง ๆ ของสุนัขได้ดี จึงนำข้อสังเกตนั้นมาเป็นสำนวนเพื่อสั่งสอนคนหลายสำนวน และในสำนวนนั้นใช้คำว่า หมา โดยเปรียบคนที่ทำอาการไม่ดีต่าง ๆ ว่าเป็นหมา เช่น คนที่เข้ากับคน ๒ ฝ่ายที่ไม่ถูกกัน เรียกว่า หมาสองราง. ชายที่หยอกล้อหญิงสาวอย่างทีเล่นทีจริง ในทำนองชู้สาว เรียกว่า หมาหยอกไก่. คนที่หวงสิ่งที่ตนใช้ประโยชน์ไม่ได้ เรียกว่า หมาหวงก้าง. คนที่มีข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดแล้วชวนคนอื่นให้ทำตาม เรียกว่า หมาหางด้วน. คนที่เดือดร้อนกระวนกระวาย เรียกว่า หมาถูกน้ำร้อน. เปรียบคนที่ไม่สามารถได้ของที่ต้องการว่า เหมือนหมาเห็นข้าวเปลือก. เปรียบคนที่ไม่มีคนรักว่าเป็นหมาหัวเน่า. ส่วนคนที่ชอบยกตนเองโดยไม่มีใครเห็นด้วย จะถูกล้อว่า หมาขี้ไม่มีใครยกหาง.

สำนวนที่เกี่ยวกับสุนัขมีอีกหลายสำนวน เป็นสำนวนที่เปรียบอาการต่าง ๆ ของสุนัขกับคนเมื่อต่อสู้หรือเผชิญกับศัตรู เช่น หมาลอบกัด หมายถึง คนที่แอบทำร้ายผู้อื่นลับหลัง.

หมา หมายถึง น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Canidae มีรูปร่างและสีสันแตกต่างกัน ลำตัวมีขนปกคลุม หัวอาจยาวและแหลม หรือกลมและสั้น มีเขี้ยว ๒ คู่ ตีนหน้ามี ๕ นิ้ว ตีนหลังมี ๔ นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ อวัยวะเพศของตัวผู้มีกระดูกอยู่ภายใน ๑ ชิ้น หางค่อนข้างยาว ที่ยังคงเป็นสัตว์ป่า เช่น หมาใน [Cuon alpinus (Pallas)] ที่เลี้ยงเป็นสัตว์บ้าน คือ ชนิด Canis familiaris (Linn.) บางพันธุ์สามารถนำมาฝึกหัดให้ช่วยงานของมนุษย์ได้ เช่นสุนัขสงครามหรือสุนัขตำรวจ.
ลอบ หมายถึง ก. แอบทำโดยไม่ให้ผู้อื่นรู้เห็น เช่น ลอบทำร้าย ลอบเข้าไปในหมู่ข้าศึก.
กัด หมายถึง (๑) ก. เอาฟันกดไว้โดยแรง เพื่อไม่ให้สิ่งที่กดไว้หลุดไป เช่น กัดสำลีไว้ให้แน่น หรือเพื่อให้เข้าไป ให้ทะลุ ให้ฉีกขาด เป็นต้น เช่น สุนัขกัดเข้าไปถึงกระดูก หนูกัดผ้าเป็นรู, โดยปริยายหมายความว่า ทำให้กร่อนสลายหรือจางไป เช่น สนิมกัดเหล็ก กัดสิวกัดฝ้าออกให้หมด, ทำให้เปื่อยเป็นแผล เช่น ปูนกัดปาก น้ำกัดเท้า

499 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

ตัวอย่างการใช้งาน สำนวน หมาลอบกัด ในประโยค
1. ที่มาของคำว่า “หมาลอบกัด” โจ๋สุดเถื่อน คว้าขวดเบียร์ฟาดหัวอริ ก่อนเผ่นแน่บ ให้คนอื่นรับเคราะห์

2. “หนุ่ม กรรชัย”เดือดด่าคู่แข่งทำรายการหมาลอบกัด. 1 ปีที่แล้ว ... อย่าไปออกโหนกระแสนะ เพราะรายการนั้นชอบเอาคนมาทะเลาะกันและกรรชัยห้ามไม่ได้เอาไม่อยู่

3. คนอย่างผม ใครจะแน่กว่า ไอ้หมาลอบกัด มาวัดกันให้รู้ไป ว่าสุดท้าย ใครจะชั่วดี พี่ๆ ครับ บุคคลที่ผมกำลังพูดถึง อาจจะเป็นคนที่คุณรู้จัก

4. “ หมาลอบกัด ” ก็คือ หมาที่แอบซ่อนมากัดโดยที่เราไม่รู้ตัว ... ครับผม โดยปรกติธรรมดาธรรมชาติของหมา ถ้ามันจะกัดใครมันจะกัดซึ่งๆหน้า ชนิดที่เห็นตัวกันเลย

5. ด่าโจรใต้ หมาลอบกัดฆ่าผู้บริสุทธิ์ ลั่น หาก อ.หาดใหญ่ เกิดเหตุรุนแรง ... 103 ปี โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในฐานะศิษย์เก่ามาร่วมงาน พร้อมกันนี้

6. ถ้าเป็น "หมาลอบกัด" คงประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ไม่มีใครระวังเรา ไม่มีใครป้องกัน ... พูดถึงรวมทุกด้านนะ ใช้กำลัง เอาผิดทางกฎหมาย

500 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

การนินทา หรือ การกล่าวถึงผู้อื่นในทางที่ไม่ดีนั้น จัดเป็นกลไกการป้องกันทางจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งช่วยปกป้องจิตใจให้หลุดพ้นจากความรู้สึกมีปมด้อย หากนินทาอย่างสร้างสรรค์ก็จะช่วยปลดปล่อยความรู้สึกคับข้องใจได้ แต่หากนินทาเพื่อทำร้ายคนอื่นก็ดูเหมือนจะมีปัญาหาทางสุขภาพจิตหน่อยๆ ตามหลักจิตวิทยาให้เหตุผลของคนขี้นินทาไว้ ดังนี้
1. เป็นคนที่มีปมด้อย รู้สึกด้อยค่า การนินทาว่ากล่าวผู้อื่นในทางที่ไม่ดีเป็นการชดเชยความรู้สึกแย่ๆ ที่มีต่อตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าคนที่กำลังกล่าวถึง
2. มีความอิจฉาอยู่ภายใน เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ จะต้องหาเรื่องมานินทาเขาในทางที่เสียๆ หายๆ เพื่อทำให้รู้สึกว่าตนเองดีกว่าเขา
3. เป็นพวกที่ชอบเรียกร้องความสนใจ เพราะลึกๆ นั้นเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ การนินทาเป็นเครื่องมือที่จะดึงดูดให้คนอื่นหันมาสนใจ แต่จะสนใจได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว
4. เป็นการปลดปล่อยความโกรธหรือความทุกข์ที่มีอยู่ภายในจิตใจ บางคนไม่เคยรู้เท่าทันอารมณ์ภายใน ไม่มีทักษะในการจัดการกับอารมณ์ที่เป็นลบ จึงมักเลือกวิธีการจัดการด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือการพูดระบายออกมา หากจะระบายเรื่องความทุกข์ใจของตัวเองก็กลัวคนอื่นจะตำหนิ ยิ่งจะทำให้รู้สึกด้อยค่ามากขึ้น กระนั้นการพูดระบายในเรื่องของคนอื่นจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

501 Nameless Fanboi Posted ID:1TcDAfSBHz

การนินทา เป็นพฤติกรรมที่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจกระบวนการเกิด เมื่อปล่อยให้เกิดพฤติกรรมซ้ำๆ ก็จะกลายเป็นนิสัย เมื่อเป็นนิสัย ก็จะพัฒนาเป็นบุคลิกภาพของคนๆ นั้น
หากจะมองให้ลึกลงไปถึงจิตใต้สำนึกของบุคคลที่มีพฤติกรรมชอบนินทาผู้อื่นเราจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่น่าสงสาร ไม่สามารถจัดการกับปมด้อยของตัวเองได้ บางคนรู้ว่าการนินทาเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่ก็ควบคุมตัวเองไม่ให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้
เมื่อเป็นบ่อยๆ ก็จะเกิดปัญหาตามมา เกิดความขัดแย้ง มีปากเสียงกับคู่กรณีที่นินทาไว้ เมื่อเกิดเรื่องบ่อยๆ ยิ่งทำให้เขารู้สึกด้อยค่ามากขึ้น และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
ดังนั้นเมื่อเข้าใจกลไกกระบวนการเกิดพฤติกรรมการนินทาแล้ว ก็ควรเปลี่ยนวิธีการจัดการกับปมด้อยของตัวเองให้เป็นวิธีที่สร้างสรรค์ ไม่นำปัญหามาสู่ตนเองและคนรอบข้างนะครับ

502 Nameless Fanboi Posted ID:pnYmhKeutj

ด่าอีพวกหมาหมู่เหรอวะ ทั้งนัดกันมารุมกัดพชพ รุมกัดจล แอบสุบสิบๆกันพอเปิดหน้าตบก็ออกมารับส่งลูกกัน เก่งทั้งนินทา วางแผน ลอบกัด

503 Nameless Fanboi Posted ID:01MhHFdi/W

กูอึ้งอิโทรลพวกนี้มาก มันต้องว่างขนาดไหนว่ะถึงป่วนได้ทุกสามมื้ออาหาร จนกูสงสัยละว่าวันๆมีงานมีการทำบ้างรึป่าว ถึงมีเวลามาป่วนมู้บ่อยขนาดนี้

504 Nameless Fanboi Posted ID:wO.ctCP7jA

ถถถถถถถถถ โทรลได้ก็โทรลไปสิ เมื่อเช้าพวกโม่งยังยอมรับหน้าชื่นตาบานอยู่เลยว่ากูมาอยู่โม่งเพื่อด่าคนเอาสะใจ ใครเก็บไปนอยด์เองก็โง่ แต่ก่อนมันยังพอมีพวกกระแดะศีลธรรมสูงมาคุยจริงจังอยู่บ้างหรอก มาทีก็เราต้องว่ากันตามหลักฐานนะ พูดงั้นพูดงี้เสียมารยาทนะ ความคิดมึงใจร้ายนะ โถ แม่คุณแม่คนดีศรีแผ่นดิน แถมคนพวกนี้ยังดันทุรังเถียงอยู่ได้ตั้งหลายเม้น กูอ่านแล้วจะอ้วก แต่ตอนนี้แม่งคงรู้ตัวแล้วว่าไม่เหมาะกับโม่ง อีโทรล เดี๋ยวมึงก็รายต่อไป

505 Nameless Fanboi Posted ID:d+Gb+A2r3K

ใคร่ครวญก่อนทำ...ทำดีที่สุดเต็มความสามารถของตัวเองในทุกเหตุการณ์...
ก็คงไม่ต้องกังวลว่าใครจะพูดว่าอย่างไร
ถือเสียว่า...การที่เราได้เป็นหัวข้อนินทาของคนอื่น ให้เขามีความสุขจากการได้นินทาเรา ก็เป็นการสร้างกุศลอย่างหนึ่งก็แล้วกัน...ขำขำ นะ
(โลกธรรม 8 ก็อย่างนี้ ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ มันเป็นธรรม/ของคู่โลก)

กรรม คือการกระทำ ..การคิดนึก ก็ถือว่าเป็นกรรม

การแค่เพียงคิดนึกในทางอกุศลต่อผู้อื่น เพียงชั่วขณะจิต ก็เป็น อกุศลกรรมแล้ว
ผล(อกุศลวิบาก) ก็ต้องตามมา หากสั่งสมมาก(ย้ำคิดนึกบ่อยๆ) ก็ยิ่งมาก จนอาจจะ
แสดงออกทาง วาจา และกาย ก็ยิ่งตอกย้ำ อกุศลกรรม ให้ส่งผลเร็ว และแรงขึ้น
กว่าเดิม

ดังนั้น สิ่งที่เราได้รับผลปัจจุบัน จึงเป็น วิบากกรรมในอดีตแน่นอน

อดีต เราแก้ไขไม่ได้ ให้ยอมรับในผลกรรมที่ปรากฎอยุ่ด้วยความเข้าใจ
แล้วแผ่เมตตาต่อเขาคนนั้น ด้วยความไม่โกรธ ไม่เกลียด นั้นคือ ใช้ "เมตตาธรรม"
ต่อเขา ยิ้มเสมอ เมื่อเจอคนนินทา มธุรสวาจาเมื่อได้เจรจาด้วย ด้วยความจริงใจ
(เท่ากับเราหยุดก่อเวรต่อไป เมื่อเราหยุด ก็เท่ากับหยุดกรรมในส่วนนี้ได้)

อย่าลืมว่า เมื่อเขาใส่ร้าย นินทาเรา เขาก็ต้องคอยรับผลกรรมอันเจ็บแสบ และ
เผ็ดร้อนอย่างไร อยู่ที่ความแรงของจิต และการกระทำของเขาที่จะย้ำคิดบ่อยๆ
กระทำบ่อยๆ หรือยิ่งถ้าไปกระทำกับคนดีๆ มีศีล เท่ากับก่อบาปอกุศลกรรมที่ยิ่งแรง

เหตุนี้เขาจึงยิ่งน่าสงสาร เพราะความเขลา ความไม่รู้ในเรื่องกรรม วิบากกรรมโดยแท้
..นี้คือเหตุที่เราต้องทำใจ เมตตาต่อเขาเถิด

กระทำบุญครั้งใด ก็อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เราเคยก่อกรรมด้วยวาจา ด้วยใจ
ต่อเขาเหล่านั้น

หมั่นสวดมนต์ หมั่นภาวนา(สมาธิ) ฟังธรรม ทำทาน รักษาศีลเมื่อมีโอกาส

โมทนา

แม้แต่องค์พระปฏิมา ยังราคิน
เป็นมนุษย์ หรือจะสิ้น คนนินทา
กรรมเก่า อะไรก็ไม่สำคัญ อย่าไปสนใจมันเลย ถึงมี คุณก็แก้ไขอะไรไม่ได้
สิ่งที่คุณทำได้ คือ ทำปัจจุบันให้ดีทึ่สุด
ความหมายของคำว่า ดีที่สุด คิดว่าน่าจะสมบูรณ์ แล้ว
ที่ "ทุกข์เพราะเกิด" ก็เพราะ"เกิดทุกข์""มีทุกข"์
หากมีความสุข ถึงเกิดก็ไม่เป็นไร
อย่ามัวแต่คิดว่า "ทำอย่างไร ถึงจะพ้นทุกข์ "
แต่ให้คิดว่า "ทำอย่างไร เราถึงจะสามารถมีความสุขได้ ในทุกๆสถานะการณ์ ทุกๆวัน ทุกๆเวลา"
เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็ไม่เสียดายที่ต้องเกิด

ทำใจครับ เพราะการนินทา มีอยู่คู่กับโลกนี้มานานแล้ว

การนินทา เป็น 1 ในโลกธรรม8 เป็นของคู่โลก เราไม่ต้องเกรงกลัวกับสิ่งนั้น

การที่คุณถูกนินทา เป็นเพราะคุณอยู่สูงกว่าเขา เหมือนกับการอิจฉา
การที่คนจะอิจฉาใครนั้น คนผู้ถูกอิจฉาย่อมอยู่สูงกว่าผู้ที่อิจฉาเสมอ

เขานินทาคุณเพราะเขาอิจฉาคุณ คุณไม่ควรกังวลกับสิ่งไร้สาระนี้

เพราะมันเป็นปกติของโลกที่ มีคนชอบ ย่อมมีคนชัง มีสรรเสริญ ย่อม มีนินทา

506 Nameless Fanboi Posted ID:d+Gb+A2r3K

ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ หนูอยากทราบว่าจะใช้หลักธรรมอะไรมาช่วยบรรเทาจิตใจที่รู้สึกร้อนรน เพราะ "ถูกเข้าใจผิด ถูกใส่ร้าย โดยที่ไม่สามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้เลย" ทั้งๆ ที่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด อย่างที่เขาคิด แล้วหนูต้องทำอย่างไรกับคนที่เขาใส่ร้ายกับหนูดีคะ พระอาจารย์ช่วยชี้แนะทางสว่างให้หนูด้วยนะคะ
วิสัชนา : อย่างแรกที่ควรมีคือ "ขันติ" ได้แก่ความอดกลั้น ไม่ลุแก่โทสะ หาไม่คนที่เป็นทุกข์คนแรกก็คือคุณ ประการต่อมา "สติ" ซึ่งช่วยให้คุณไม่มัวคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนี้ หาไม่คุณจะไม่เป็นอันทำอะไรเลย "สติ" ช่วยให้คุณอยู่กับปัจจุบัน และไม่เก็บเอาอะไรต่ออะไรมาคิดให้รกหัวหรือหนักใจ
นอกจาก "ขันติ" และ "สติ" แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีคือ "ปัญญา" หรือ ความเข้าใจในโลกธรรมว่า ชอบหรือชัง สรรเสริญหรือนินทา เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหนีพ้น ในเมื่อมีคนที่รักคุณ เข้าใจคุณ ก็ต้องมีคนที่เกลียดคุณ เข้าใจผิดในตัวคุณ จึงควรมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าคุณอยากให้ทุกคนเข้าใจถูกในตัวคุณ พูดถึงคุณในทางที่ดี คุณจะมีแต่ความทุกข์และความผิดหวัง เพราะไม่มีทางที่จะเป็นเช่นนั้นได้ มองในอีกแง่หนึ่ง คนที่เกลียดคุณ ใส่ร้ายคุณ เข้าใจผิดในตัวคุณนั้น เขาคือ "ครู" ที่กำลังสอนคุณให้เข้าใจในสัจธรรมดังกล่าว เพื่อฝึกใจให้ปล่อยวาง ไม่ทุกข์เพราะมัน
พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าให้คุณ "ทำใจ" อย่างเดียวเท่านั้น หากการใส่ร้ายคุณนั้น ก่อให้เกิดผลเสียต่างๆ ตามมาทั้งต่องานการและคนอื่น คุณก็ไม่ควรนิ่งเฉย ควรหาทางแก้ไข เช่น พยายามชี้แจงให้เขามีความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือให้ผู้อื่นรู้ว่าความจริงคืออะไร อาตมาชอบคำพูดของท่านทะไลลามะเมื่อท่านต้องเจอปัญหาคล้ายๆ กับของคุณ
ท่านกล่าวว่า “รัฐบาลจีนกำลังสร้างภาพให้ข้าพเจ้าเป็นคนชั่วร้าย โดยส่วนตัวในฐานะที่เป็นชาวพุทธ มันคือโอกาสดีที่ข้าพเจ้าจะได้ฝึกฝนขันติอดกลั้นต่อความคิดเห็นของผู้อื่น แต่ในฐานะของผู้นำประชาชนชาวทิเบต ข้าพเจ้ามีหน้าที่ที่จะต้องบอกว่าจีนกำลังกล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริง”

ทำอย่างไรจะอยู่กับคนที่จิตใจคับแคบและร้ายกาจได้อย่างมีความสุข

507 Nameless Fanboi Posted ID:d+Gb+A2r3K

คมชัดลึกออนไลน์Thailand Web Stat
หน้าแรก
ไลฟ์สไตล์
ถูกใส่ร้ายใช้หลักธรรมใด...
ถูกใส่ร้ายใช้หลักธรรมใดช่วยบรรเทา
ถูกใส่ร้ายใช้หลักธรรมใดช่วยบรรเทา
17 พฤษภาคม 2556 - 00:53 น.
6k
widget-line
ติดตามข่าวสารผ่าน 'คมชัดลึก' Line Official
ถูกใส่ร้ายใช้หลักธรรมใดช่วยบรรเทา : ปุจฉา -วิสัชนากับพระไพศาล วิสาโล

ผิวเนียนใส ไร้หลุมสิว เพียงแค่ทำสิ่งนี้วันละ 2 ครั้ง!
MALIYA
ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ หนูอยากทราบว่าจะใช้หลักธรรมอะไรมาช่วยบรรเทาจิตใจที่รู้สึกร้อนรน เพราะ "ถูกเข้าใจผิด ถูกใส่ร้าย โดยที่ไม่สามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้เลย" ทั้งๆ ที่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด อย่างที่เขาคิด แล้วหนูต้องทำอย่างไรกับคนที่เขาใส่ร้ายกับหนูดีคะ พระอาจารย์ช่วยชี้แนะทางสว่างให้หนูด้วยนะคะ
วิสัชนา : อย่างแรกที่ควรมีคือ "ขันติ" ได้แก่ความอดกลั้น ไม่ลุแก่โทสะ หาไม่คนที่เป็นทุกข์คนแรกก็คือคุณ ประการต่อมา "สติ" ซึ่งช่วยให้คุณไม่มัวคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนี้ หาไม่คุณจะไม่เป็นอันทำอะไรเลย "สติ" ช่วยให้คุณอยู่กับปัจจุบัน และไม่เก็บเอาอะไรต่ออะไรมาคิดให้รกหัวหรือหนักใจ
นอกจาก "ขันติ" และ "สติ" แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีคือ "ปัญญา" หรือ ความเข้าใจในโลกธรรมว่า ชอบหรือชัง สรรเสริญหรือนินทา เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหนีพ้น ในเมื่อมีคนที่รักคุณ เข้าใจคุณ ก็ต้องมีคนที่เกลียดคุณ เข้าใจผิดในตัวคุณ จึงควรมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าคุณอยากให้ทุกคนเข้าใจถูกในตัวคุณ พูดถึงคุณในทางที่ดี คุณจะมีแต่ความทุกข์และความผิดหวัง เพราะไม่มีทางที่จะเป็นเช่นนั้นได้ มองในอีกแง่หนึ่ง คนที่เกลียดคุณ ใส่ร้ายคุณ เข้าใจผิดในตัวคุณนั้น เขาคือ "ครู" ที่กำลังสอนคุณให้เข้าใจในสัจธรรมดังกล่าว เพื่อฝึกใจให้ปล่อยวาง ไม่ทุกข์เพราะมัน
พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าให้คุณ "ทำใจ" อย่างเดียวเท่านั้น หากการใส่ร้ายคุณนั้น ก่อให้เกิดผลเสียต่างๆ ตามมาทั้งต่องานการและคนอื่น คุณก็ไม่ควรนิ่งเฉย ควรหาทางแก้ไข เช่น พยายามชี้แจงให้เขามีความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือให้ผู้อื่นรู้ว่าความจริงคืออะไร อาตมาชอบคำพูดของท่านทะไลลามะเมื่อท่านต้องเจอปัญหาคล้ายๆ กับของคุณ
ท่านกล่าวว่า “รัฐบาลจีนกำลังสร้างภาพให้ข้าพเจ้าเป็นคนชั่วร้าย โดยส่วนตัวในฐานะที่เป็นชาวพุทธ มันคือโอกาสดีที่ข้าพเจ้าจะได้ฝึกฝนขันติอดกลั้นต่อความคิดเห็นของผู้อื่น แต่ในฐานะของผู้นำประชาชนชาวทิเบต ข้าพเจ้ามีหน้าที่ที่จะต้องบอกว่าจีนกำลังกล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริง”

ทำอย่างไรจะอยู่กับคนที่จิตใจคับแคบและร้ายกาจได้อย่างมีความสุข
ปุจฉา : กราบนมัสการท่านอาจารย์ ทำอย่างไรจะอยู่กับคนที่จิตใจคับแคบและร้ายกาจได้อย่างมีความสุข
วิสัชนา: คุณควรวางระยะห่างจากเขาทั้งในทางกายภาพและความรู้สึก เพราะถ้าอยู่ใกล้กันมาก ก็ย่อมมีเรื่องกระทบกระทั่งกันมาก ขณะเดียวกันถ้าไปยึดติดถือมั่นกับพฤติกรรมของเขาก็จะเป็นทุกข์ได้ง่าย การรู้จักและเข้าใจเขาตามที่เป็นจริง ไม่คาดหวังมากเกินกว่าที่เขาเป็น จะช่วยบรรเทาความโกรธเกลียดเขาได้ และทนต่อพฤติกรรมของเขาได้มากขึ้น
ความโกรธเกลียดและความรู้สึกทนไม่ได้นั้น คือสิ่งที่จะรบกวนจิตใจคุณจนอยู่ไม่เป็นสุข หากบรรเทาความรู้สึกนั้นได้ คุณก็สามารถจะอยู่กับเขาได้ แต่ที่ไม่ควรลืมคือ ควรบอกหรือส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าคุณขีดเส้นไว้ที่ตรงไหนเพื่อไม่ให้เขามาล่วงเกินหรือเอาเปรียบคุณ

508 Nameless Fanboi Posted ID:d+Gb+A2r3K

คำพูด” เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะการพูดสิ่งใดออกไป ถือเป็นการกระทำที่จะส่งผลต่อตนเองและผู้อื่นในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ คำพูดจึงสามารถทำให้คนรักกันได้ หรือเกลียดกันได้ หากพูดในสิ่งที่ดีก็ย่อมทำให้คนรักกัน สามัคคีกัน แต่ถ้าพูดในสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ พูดจาส่อเสียดให้คนอื่นต้องแตกแยกกัน ก็ย่อมมมาซึ่งกรรมที่ไม่ดี
ในทางพระพุทธศาสนา การพูดในลักษณะที่ทำให้ผู้อื่นแตกแยกกันด้วยความจงใจหรือมีเจตนาเป็นที่ตั้ง ปรารถนาให้เขาไม่เป็นมิตรกัน ต้องการให้เขาแตกแยกกัน โดยมีมูลเหตุเป็นโลภะก็ดี หรือเป็นโทสะก็ดี เรียกว่า “พูดส่อเสียด” ซึ่งเป็นหนึ่งใน ๔ วจีทุจริต คือ การทำชั่วทางวาจา ๔ อย่าง อันได้แก่ การพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ส่งผลให้เกิดกรรมต่อผู้กระทำหลายประการ โดยจะหนักเบาไปตามเจตนาและความสม่ำเสมอในการกระทำนั้นๆ

สำหรับผลกรรมของวจีทุจริต ๔ ประการอัน พระพุทธเจ้าแสดงไว้ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต สัพพลหุสสูตร

509 Nameless Fanboi Posted ID:d+Gb+A2r3K

กรรมชั่ วที่สร้างนี้ก็จะสนองเขาอย่างหนักทั้งในภพนี้และภพหน้า ในภพนี้เวลาที่กรรมดีแต่ปางก่อนจะส่งผลให้มีความสุขหรือมีโชคลาภ ก ร ร ม ชั่ วก็จะเข้ามา ตั ด รอนกรรมดี เหมือนอย่างเขาผู้นั้นซื้อหวยเลข 56 หวยก็จะออกเลข 55 หรือ 57 บางทีก็ติดต่อการค้าหรือง า นต่าง มองเห็นอยู่ว่าง า นนี้ได้แน่นอน แต่พอถึงเวลาก็ไปไม่ทันบ้าง ไปแล้วไม่เจอหรือมีเหตุต่าง มาทำให้มีอุปสรรคอยู่เสมอ

ซึ่งที่จริงแล้วผู้นั้นจะมีโชคที่ควรได้ประมาณเป็นล้าน เขาก็จะได้แ ค่หมื่นสองหมื่น หรือโชคครั้งนี้จะได้หลายหมื่นแต่เขากับได้เพียงไม่กี่พันบาท หรือเพียงได้ไม่กี่ร้อยเท่านั้นเอง นี้เป็นเพราะกรรม ชั่ วเข้ามาตั ดรอนกรรมดีและรวมถึงญาติพี่น้องลูกหลาน เขาเหล่านั้นก็จะทำความเดือดร้อนเสียหายมาให้ มีพี่น้องหรือญาติไปจ นถึงเพื่อนฝูง ก็จะโกงทรัพย์สินเงินทองของเราบ้าง บางครั้งก็พูดใส่ร้ า ยให้โทษ ด่าว่าทะเลาะวิวาท ทำให้เราไม่สบายกายและสบายใจเป็นอย่างมาก มีเรื่องเดือดร้อนต่าง อยู่ตลอดเวลาอย่างไม่จบสิ้น

510 Nameless Fanboi Posted ID:Vbf93jjo5G

พวกมึงพูดถึงมัน มันกลับมาอย่างไวเลยเห็นปะ

511 Nameless Fanboi Posted ID:EPzATOWv2K

>>510 เฮี้ยนจริงๆ เมื่อวานกูตามอ่านเพลินๆอยู่เลย กลับมาดูอีกทีโทรลลงซะแล้ว ถถถถถถ

512 Nameless Fanboi Posted ID:et/5zV+Asx

การนินทา หรือ การกล่าวถึงผู้อื่นในทางที่ไม่ดีนั้น จัดเป็นกลไกการป้องกันทางจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งช่วยปกป้องจิตใจให้หลุดพ้นจากความรู้สึกมีปมด้อย หากนินทาอย่างสร้างสรรค์ก็จะช่วยปลดปล่อยความรู้สึกคับข้องใจได้ แต่หากนินทาเพื่อทำร้ายคนอื่นก็ดูเหมือนจะมีปัญาหาทางสุขภาพจิตหน่อยๆ ตามหลักจิตวิทยาให้เหตุผลของคนขี้นินทาไว้ ดังนี้

1. เป็นคนที่มีปมด้อย รู้สึกด้อยค่า การนินทาว่ากล่าวผู้อื่นในทางที่ไม่ดีเป็นการชดเชยความรู้สึกแย่ๆ ที่มีต่อตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าคนที่กำลังกล่าวถึง

2. มีความอิจฉาอยู่ภายใน เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ จะต้องหาเรื่องมานินทาเขาในทางที่เสียๆ หายๆ เพื่อทำให้รู้สึกว่าตนเองดีกว่าเขา

3. เป็นพวกที่ชอบเรียกร้องความสนใจ เพราะลึกๆ นั้นเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ การนินทาเป็นเครื่องมือที่จะดึงดูดให้คนอื่นหันมาสนใจ แต่จะสนใจได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว

4. เป็นการปลดปล่อยความโกรธหรือความทุกข์ที่มีอยู่ภายในจิตใจ บางคนไม่เคยรู้เท่าทันอารมณ์ภายใน ไม่มีทักษะในการจัดการกับอารมณ์ที่เป็นลบ จึงมักเลือกวิธีการจัดการด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือการพูดระบายออกมา หากจะระบายเรื่องความทุกข์ใจของตัวเองก็กลัวคนอื่นจะตำหนิ ยิ่งจะทำให้รู้สึกด้อยค่ามากขึ้น กระนั้นการพูดระบายในเรื่องของคนอื่นจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

การนินทา เป็นพฤติกรรมที่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจกระบวนการเกิด เมื่อปล่อยให้เกิดพฤติกรรมซ้ำๆ ก็จะกลายเป็นนิสัย เมื่อเป็นนิสัย ก็จะพัฒนาเป็นบุคลิกภาพของคนๆ นั้น

หากจะมองให้ลึกลงไปถึงจิตใต้สำนึกของบุคคลที่มีพฤติกรรมชอบนินทาผู้อื่นเราจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่น่าสงสาร ไม่สามารถจัดการกับปมด้อยของตัวเองได้ บางคนรู้ว่าการนินทาเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่ก็ควบคุมตัวเองไม่ให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ เมื่อเป็นบ่อยๆ ก็จะเกิดปัญหาตามมา เกิดความขัดแย้ง มีปากเสียงกับคู่กรณีที่นินทาไว้ เมื่อเกิดเรื่องบ่อยๆ ยิ่งทำให้เขารู้สึกด้อยค่ามากขึ้น และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

ดังนั้นเมื่อเข้าใจกลไกกระบวนการเกิดพฤติกรรมการนินทาแล้ว ก็ควรเปลี่ยนวิธีการจัดการกับปมด้อยของตัวเองให้เป็นวิธีที่สร้างสรรค์ ไม่นำปัญหามาสู่ตนเองและคนรอบข้างนะคะ.

513 Nameless Fanboi Posted ID:et/5zV+Asx

ชื่อภาษาไทย / เหี้ย,เหี้ยลายดอก(ตัวเงิน ตัวทอง)
ชื่อภาษาอังกฤษ / Common Water Monitor
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ / Varanus salvator
สิ่งที่น่าสนใจ :
ตัวสีดำ ลิ้นสีม่วงปลายแฉก มีลายดอกสีขาวหรือเหลืองเป็นแถวพาดขวางตัว หางเป็นปล้องสีดำสลับกับเหลืองอ่อน หนังหยาบเป็นเกล็ด ลำตัวมีขนาดใหญ่กว่าสัตว์อื่นในจำพวกเดียวกัน แต่เล็กกว่ามังกรโคโมโด

ถิ่นอาศัย :
พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งอินเดียและศรีลังกา ในประเทศไทยพบได้ทุกภาค

อาหาร :
เหี้ยไม่เลือกอาหาร กินทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ สัตว์ปีก เช่น ไก่ นก ปลา กบ เขียด หนู กินได้ทั้งของสดและของเน่า

พฤติกรรม :
ดุ ใช้หางเป็นอาวุธฟาดศัตรูแล้วใช้ปากกัด ชอบอยู่ใกล้น้ำว่ายน้ำ ดำน้ำเก่ง และขึ้นต้นไม้เก่งด้วย

สถานภาพปัจจุบัน :
สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์

วัยเจริญพันธุ์ :
เหี้ยวางไข่ครั้งละ 15-30 ฟอง ขุดหลุมหรือทำโพรงเป็นที่วางไข่ ไม่ฟักไข่ คือพ่อแม่ไม่ต้องกกไข่ ลูกฟักตัวออกมาเองจากไข่โดยธรรมชาติ เมื่อลูกออกมาจากไข่แล้วก็หากินเอง เปลือกไข่นิ่มแต่เหนียว

514 Nameless Fanboi Posted ID:et/5zV+Asx

“เหี้ย” ในความเชื่อของคนไทยทั่วไปเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ดี อัปมงคล เข้าบ้านไหนเป็นวอดวายถึงความเชื่อที่ว่าจะจริงเท็จแค่ไหน ไม่อาจพิสูจน์ความอัปมงคลของมันได้ แต่มักมีการยืมชื่อของมันมาใช้เป็นคำก่นด่ากันอย่างหนาหู

เหี้ยในความเชื่อพื้นบ้านของแต่ละภาค ไม่เป็นที่เล่าขานให้ได้ยินนัก แต่ทางภาคใต้มีการนำเข้าไปเกี่ยวกับชีวิตและวัฒนธรรมหลายอย่าง โดยเรียกกันภายใต้ชื่อว่า “แลน” ครอบคลุมทั้งเหี้ยและตะกวด

515 Nameless Fanboi Posted ID:et/5zV+Asx

สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ ๒๕๒๙ เล่ม ๘ ให้ความหมาย “แลน” ไว้ว่า

“แลน” ในความรู้สึกของชาวภาคใต้เป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจด้วย ๒ สาเหตุ คือ แลนชอบกินของเน่าเหม็น โดยเฉพาะซากศพของสัตว์ แม้กระทั่งซากศพของคน และชอบกินสัตว์ เช่น อึ่งอ่าง คางคก เขียด และตัวหนอน

บางแห่งถึงกับไม่ให้นำแลนเข้าบ้านเพราะเชื่อกันว่าถ้าแลนขึ้นบ้านใคร บ้านนั้น “โส้ย” (ซวย) เป็นอัปมงคล

เรื่องราวของแลนในภาคใต้นั้นปรากฏในรูปแบบนิทานพื้นบ้านเรื่อง “แลนทองกับแลนเถื่อน” เล่ากันในเขต อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เป็นนิทานให้คติสอนใจว่าด้วยโทษของความอิจฉาริษยา โดยเล่าว่า

มีหญิงสาว ๒ คน คนหนึ่งยากจน แต่ชอบเอื้อเฟื้อชาวบ้าน อีกคนร่ำรวย แต่เย่อหยิ่ง ดูถูกชาวบ้าน ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน วันหนึ่งหญิงยากจนพบแลนทองตัวหนึ่ง จึงนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านด้วยความอารี วันหนึ่งเธอจึงจูบที่หัวแลน ทำให้แลนทองตัวนั้นพ้นจากคำสาปแม่มดกลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าเมืองคนหนึ่ง ทั้งสองจึงแต่งงานกันอย่างมีความสุขสืบมา ต่อมาหญิงผู้ร่ำรวยทราบข่าว เกิดความอิจฉาริษยา ต้องการจะได้ดีกว่าเพื่อนที่อดีตเคยยากจน จึงจ้างให้คนใช้ไปจับแลนตัวโตมาให้ตัวหนึ่ง นางกอดจูบแลนเถื่อน (แลนธรรมดา) หวังจะให้กลายเป็นหนุ่มรูปงาม แต่แลนเถื่อนตกใจ ข่วนหน้าตาหญิงสาวคนนั้นเป็นแผล ตั้งแต่นั้นมาหญิงสาวคนนั้นก็ไม่มีใครขอแต่งงานด้วย

516 Nameless Fanboi Posted ID:et/5zV+Asx

นอกจากนี้เรื่องของแลนยังปรากฏในเรื่อง “นายแรง” เป็นตำนานการเกิดแม่น้ำ ภูเขาบางแห่งในจังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา เช่น การเกิดเขารุนคลองห้วยแลน เขาหัวหมา เขาแดง เขาเก้าแสนหรือเก้าเส้ง เป็นต้น โดยนิทานเรื่องนายแรงได้จากการเอาลักษณะของภูมิประเทศมาผูกแต่งเป็นเรื่องราว เพื่อให้คนรุ่นต่อมาได้เรียนรู้และเกิดความรักความภูมิใจในท้องถิ่นตนเอง

แม้ว่าแลนในความรู้สึกของผู้คนเป็นสิ่งไม่ดีนัก แต่ในทางเศรษฐกิจ แลนเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สามารถทำรายได้ให้กับผู้ล่าเป็นอย่างดีซึ่งหนังแลนสามารถนำไปทำเครื่องหนังประเภทของใช้ และทำเครื่องประดับได้อย่างสวยงามไม่แพ้หนังจระเข้เลยทีเดียว

517 Nameless Fanboi Posted ID:vBkgLHX0t5

เพื่อนโม่งว่าตอนนี้มีด้อมไหนปสดท็อปฟอร์มเท่า ด้อมปรมจอีกไหม กูว่าตั้งแต่ซีรี่ย์เป็นกระแสจนเริ่มแปลสวรรค์กูยังไม่เห็นด้อมในปสดเท่าด้อมนี้มาก่อนเลย เหมือนแหล่งรวมค.ปสดทั้งร้อยแปดอะ ทั้งคลั่งกริบ สายฉอดไร้สมอง พวกคลังศัพท์น้อยที่ขอด่าไว้ก่อน สายแบนไปเลื่อย สายเปย์ของแฟนเมด(ผิดกฎแม่โม่) เป็นด้อมที่กูส่องทวิตกี่ทีก็รู้สึกท็อปฟอร์มมากในเรื่องความปสด

518 Nameless Fanboi Posted ID:wN56xePyZe

อีด้อมคลั่งรักเนี่ย วันดีคืนดีไอด้อลก็ผีเข้าผีออกทำโม่งไม่ได้คุยกันหมด

519 Nameless Fanboi Posted ID:PXbFjcGR6f

>>517 รอดูซร.ของฮัสกีเฉายก่อน​ กูว่าเผลอๆน่าจะสูสีกัน

520 Nameless Fanboi Posted ID:uKWzyU2wDa

>>518 ก็ข้างบนมีคนถามถึงพวกมันนี่หว่า มันเลยมา เฮี้ยนมาก 5555555555555

521 Nameless Fanboi Posted ID:LGR21ukPR6

กูขอถามโม่งที่ชอบอ่านทับศัพท์หน่อย คือถ้ามึงเจอแปลไทยนี่ถึงขึ้นอ่านไม่ได้กันไหม อันนี้กูสงสัยเพราะกูเพิ่งไปเจอคนบอกว่า "เจอแปลไทยคนชอบอ่านทับศัทพ์คืออ่านไม่ได้เลย" กูเลยแบบขนาดนั้นเลยหรอ รังเกียจถึงขั้นอ่านไม่ได้? //จากเม้นท์เรื่องปรมจ.

522 Nameless Fanboi Posted ID:zOyXtHx/+7

ขอโทษทุกคนล่วงหน้า แต่ขอวิ่งมาร้องไห้ตรงนี้หน่อย อัดอั้นล้นใจหลาย นี่อ่านปีนั้นฯ ก่อนนอนแล้วฝันว่าสอบภาษาจีนมาสองสามวันแล้ว ไม่ไหวแล้ว จะทับศัพท์เบอร์นี้เพื่ออะไร คำไหนแปลได้ทำไมไม่แปล๊ ทำไมอ่านนิยายคลายเครียดกลายเป็นเครียดกว่าเดิม จะให้ปล่อยผ่านก็ไม่ได้เพราะไม่ได้อ่านเมาโมเม้นอย่างเดียว นี่อ่านเอาเนื้อเรื่องด้วย เชื่มโยงเรื่องผิดๆ ถูกๆ ต้องพลิกหน้าพลิกหลัง พลิกเทียบไปเทียบมา เสียเวลาเสียอารมณ์เปลืองพลังสมองมาก นึกว่าอ่านแบบเรียนภาษาจีน ถ้าอยากเรียนจีนเดี๋ยวไปซื้อคู่มือมาเองได้ ไม่ต้องใช้นิยาย

มีคนบอกไม่อยากให้พลาด เรื่องมันดีจริงๆ นะ พยายามอ่านเข้า แต่ไม่ไหวไหม อ่านให้จบยังทำไม่ได้แล้วเอาที่ไหนมารู้สึกว่าดี แปลและเรียบเรียงให้คนอ่านได้จบเล่มก่อนนนนนนนนน ขอร้องสนพ. ขอร้องคนแปล ขอร้องแค่แปลให้มันอ่านรู้เรื่องได้ก็พอ มันใช่เหรอที่อ่านนิยายคลายเครีดแล้วต้องมาเครียดกว่าเดิม

แล้ววันนี้อ่านตัวอย่างฮัสกี้ฯ แรกๆ ก็เออว่าเรียบเรียงดีขึ้น พอมาตอน 6 ประทานโทษฉายาปรมจารย์ฉู่ยาวเป็นวลีสองวรรค ไม่แปลเหรอวะ มันน่าจะหาคำแปลสวยๆ มาลงได้ปะ ทับศัพท์วลียาวสองวรรคได้เหรอวะ ไม่มีใครเห็นจริงเหรอ

ขอบคุณสำหรับพื้นที่ให้พูดสิ่งที่อยู่ในใจ นี่ก็ไปเม้นแจ้งสนพ.นะ แต่ดูทรงคงไร้ประโยชน์ ไปขายหนังสือทิ้งก่อนแล้ว ไม่ไหวจะสู้ สนพ.ไหนนโยบายแปลทับศัพท์ทุกสิ่งแบบนี้เอาใบแดงไปเลยค่ะ ไว้ถึงวันที่ไม่เหลือหนังสือแปลที่อ่านให้จบได้อย่างราบรื่นแล้วค่อยว่ากันใหม่ อยากร้องไห้

523 Nameless Fanboi Posted ID:Th2L51WUxU

>>522 กูเข้าใจมึง กูเจอแบบนั้นกูเลยเท 55555

เรื่องฉายากูอยากเม้นท์มาก อยากให้แปล แต่เห็นไม่มีใครทักเลยรอดูน่ะ

524 Nameless Fanboi Posted ID:gJhXd3vOXt

>>521 ไม่นะ​ อ่านได้​

525 Nameless Fanboi Posted ID:DOevoPHCY9

>>521 อ่านได้ที่สุดคือรำคาญลดความสนุกหรือสะดุดขมวดคิ้วเป็นระยะ คือว่าด้วยอาชีพนางสนม พิจารณาแต่การแปลชื่อไทยนะ ไม่เกี่ยวกับสำนวนหรือ แปลผิด แปลชื่อยศตำแหน่ง เทียบกับของไทย อ่านแล้วไม่เก็ท แถมให้บรรยากาศลิเกมากกว่า. หรือชื่อตำหนัก หรือแปลกระทั่งเกี้ยว จะนึกไปถึงวรรณคดีไทยไปโน่น

526 Nameless Fanboi Posted ID:2JIpzucbdW

>>525 อันนั้นกูจำได้ ยศสนมของไทยแม่งยากกว่าจีนอีก พระอัครมเหสี พระวรชายา ฯลฯ ไม่รู้ไปขุดมาจากไหน กุมขมับกว่ากุ้ยเฟยเสียนเฟยอีก

527 Nameless Fanboi Posted ID:xtEu3dcnHR

>>526 จริงมึง ถ้ามันเป็นชื่อตำแหน่งกูว่าอย่าแปลเลย ยิ่งพวกตำแหน่งของฝ่ายใน กูเก็ทแบบทับศัพท์มากกว่า แต่ถ้ามันเป็นแบบเกอเกอ เม่ยเม่ย ซือจุน ซือฝุก็แปลเถอะ

528 Nameless Fanboi Posted ID:SdDoD3H0QP

หมวดที่กูว่าใช้ทับศัพท์แล้วดีกว่าแปลคือขั้นนางใน ขั้นบัณฑิต+การสอบขุนนาง ขั้นเซียน
เท่าที่อ่านมานักแปลสายวายส่วนใหญ่ก็ทับแค่นี้ปะ

529 Nameless Fanboi Posted ID:X4edREjCfj

>>528 +1 นักแปลที่กูชอบอย่างคนแปลรัชศก,เวยเวยก็ทับแค่นั้น

530 Nameless Fanboi Posted ID:DOevoPHCY9

>>528 ย้อนเวลาอ๋องน้อย ทับศัพท์พวกเครือญาติ แบบสมองบานในช่วงแรก แต่พออ่านไปเข้าใจได้ว่าทำไมทับศัพท์เพราะความสัมพันธ์มันอีรุงตุงนังจะแปลแบบไทยๆก็จะไม่เข้าใจ ดีที่ตอนนั้นอ่านฟรี ไม่ติดเหรียญ ถ้าเสียเงินแล้วมีเลิกอ่าน

531 Nameless Fanboi Posted ID:FTQRxBFA+T

>>530 ทับศัพท์เครือญาติเป็นไงอะ พวกแปะกงโกวเจ็กซิ่มเตี๋ยกู๋อี๊ตี๋หมวยไรงี้อ่อ

532 Nameless Fanboi Posted ID:xtEu3dcnHR

>>528 +1​ ถ้าแปลความหมายก็เหมือนกันหมดแยกแยะความต่างไม่ได้​ อ่านแล้วก็ชวนเทเหมือนกัน

533 Nameless Fanboi Posted ID:27dvgYsa7/

>>531 พวก อาแปะ อาโกว พวกนี้มันแต้จิ๋วนะ บ้านกูยังใช้เรียกกันอยู่ แบบฝั่งพ่อกูเขามีพี่น้องเยอะ จะมีใส่ลำดับนำหน้าด้วย กูว่าถ้าเป็นนิยายแปลจีนกลางไม่น่าทับมาแบบนี้

534 Nameless Fanboi Posted ID:ZXtb5KdZfI

>>530 ตอนนี้เค้าปรับแปลเป็นภาษาไทยแล้ว กูเองก็เคยเทเพราะไม่ไหวเหมือนกัน น้องสี่ น้องห้า กลายเป็น อี๋ เอ๋อ ซาน ซื่อ ลูกเมียเอก ลูกอนุก็ทับศัพท์ ป้า น้า อา เขย สะใภ้ ญาติฝั่งสะใภ้ ทับศัพท์หมด แต่ตอนนี้เค้าปรับเป็นภาษาไทยหมด แต่ยังคงทับศัพท์เรียกลูกเมียเอก ลูกอนุไว้ และเปิดตอนให้อ่านเพิ่ม กูไปอ่านมาแล้วเค้าควรแปลจริงๆ ญาติแม่มวุ่นวายไปหมดยังมีเรื่องในวังอีก แปลเป็นไทยแล้วอ่านง่ายขึ้นเยอะ

>>531 ทับศัพท์จีนกลาง

535 Nameless Fanboi Posted ID:ANHtx135ul

ช่วงนี้กูเห็นมู้นักเขียนถกราคาค่าวาดปกแล้วกูอดเอาไปเปรียบเทียบขึ้นมาไม่ได้ ปกสองใบคือหมื่นกว่าๆ(เรทนักวาดชั้นกลางค่อนไปหน้าๆแล้ว)​ใช่ไหมวะ แล้วอย่างมังงะเล่มนึงงี้ คนวาดจะได้สักกี่บาทวะ วาดทั้งเล่มเป็นร้อยหน้า เรื่องก็ต้องแต่ง เนมก็วางเอง คือรู้สึกว่าเปลี่ยนงานไปรับวาดปกน่าจะรวยกว่า ชีวิตดีกว่า ไม่ต้องโดนไพเรทด้วย

536 Nameless Fanboi Posted ID:ccuXyniaLD

>>535 มังงะไม่ได้วาดเองทั้งเล่ม มีผู้ช่วยมีอะไรเหมือนมังฮวาพวกเว็บตูนงี้นั้นแหละ คนวาดปก คนวาดข้างใน คนแต่งคนละคนกัน หายากที่จะทำคนเดียวทั้งเล่ม จ้างทำคุ้มกว่าต้องมาเหนื่อยทำเองหมด

537 Nameless Fanboi Posted ID:X9p7S0MWnM

อยากเป็นนักวาดการ์ตูน ไม่ได้อยากเป็นนักวาดปก

538 Nameless Fanboi Posted ID:3QW+kmqWQ/

เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่)

เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อารา เมฯ

ตัตตระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะวะโต ปัจจัสโสสุงฯ

ภะคะวา เอตะทะโวจะ เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเส วิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ

วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ กะตะเม เอกาทะสะ?

(๑) สุขัง สุปะติ (๒) สุขัง ปะฏิพุชฌะติ (๓) นะ ปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ (๔) มะนุสสานัง ปิโย โหติ

(๕) อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ (๖) เทวะตา รักขันติ (๗) นาสสะ อัคคิ วา วิสัง วา สัตถัง วา กะมะติ (๘) ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ

(๙) มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ (๑๐) อะสัมมุฬฬะโห กาลัง กะโรติ (๑๑) อุตตะริง อัปปะฏิวิชฌันโต พรหมมะโลกูปะโค โหติฯ

เมตตายะภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเสวิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ

ยานีกะตายะ วัตถุกะตายะ อะนุฏิฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ อิเม เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ

อัตถิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ

อัตถิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ

อัตถิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

กะตีหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

กะตีหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

กะตีหาการเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุติฯ

สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

กะตะเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

(๑) สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๒) สัพเพ ปาณา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๓) สัพเพ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๔) สัพเพ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๕) สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ

อิเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

กะตะเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

(๑) สัพเพ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๒) สัพเพ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๓) สัพเพ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๔) สัพเพ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๕) สัพเพ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๖) สัพเพ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๗) สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ

อิเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

กะตะเมหิ ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

539 Nameless Fanboi Posted ID:3QW+kmqWQ/

๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๘) สัพเพ ทักขะณายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๑) สัพเพ ปุรัตถิยายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๘) สัพเพ ทักขินายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

(๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

540 Nameless Fanboi Posted ID:3QW+kmqWQ/

ข้าพเจ้าได้ฟังมาอย่างนี้ว่า ในสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นอารามของท่านอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถีฯ ณ โอกาสนั้นและรพผู้มีพระภาคตรัสเรียกพระภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายฯ พระภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตอบรับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญฯ พระผู้มีพระภาคได้ประทานพระดำรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย (คนผู้เจริญเมตตาภาวนาเป็นประจำ) หวังได้แน่นอน (ที่จะรับ) อานิสงส์ ๑๑ ประการ ของเมตตาเจโตวิมุติ ที่ตนต้องเสพ (ทำให้ชำนาญ) แล้ว ทำให้เจริญขึ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว สั่งสม (ด้วยวสี ๕ ประการ) ดีแล้ว ทำให้บังเกิดขึ้นด้วยดีแล้วฯ อานิสงส์ ๑๑ ประการ (ของเมตตาเจโตวิมุติ) คืออะไรบ้าง? (อานิสงส์ ๑๑ ประการ ของเมตตาเจโตวิมุติ คือ)

(๑) นอนหลับเป็นสุข

(๒) ตื่นเป็นสุข

(๓) ไม่ฝันร้าย

(๔) เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย

(๕) เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย

(๖) เทวดาทั้งหลายเฝ้ารักษา

(๗) ไฟ ยาพิษ หรือ ศัสตรา ไม่กล้ำกราย (ในตัว) ของเขา

(๘) จิตเป็นสมาธิเร็ว

(๙) ผิวหน้าผ่องใส

(๑๐) ไม่หลงตาย

(๑๑) ยังไม่บรรลุคุณธรรมเบื้องสูง ก็จะบังเกิดในพรหมโลก

ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนผู้เจริญเมตตาภาวนาเป็นประจำ หวังได้แน่นอนที่จะได้รับ อานิสงส์ ๑๑ ประการของเมตตาเจโตวิมุติ ที่ตนส้องเสพ ทำให้ชำนาญ แล้วทำให้เจริญขึ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว สั่งสม ด้วยวสี ๕ ประการดีแล้ว ทำให้บังเกิดขึ้นด้วยดีแล้วฯ

เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) มีอยู่

เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปเจาะจง บุคคล มีอยู่

เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปในทิศที่มีอยู่ฯ

เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปโดยไม่เจาะจง (บุคคล) มีกี่อย่าง?

เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) มีกี่อย่าง?

เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปในทิศ มีกี่อย่าง?

เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) มี ๕ อย่าง

เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) มี ๗ อย่าง

เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปในทิศมี ๑๐ อย่างฯ

เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) ๕ อย่างมีอะไรบ้าง?

เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) ๕ อย่าง คือ

(๑) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ

(๒) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

(๓) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ

(๔) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ

(๕) ขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ

เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) ๗ อย่าง มีอะไรบ้าง? (เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) ๗ อย่าง คือ)

(๑) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

(๒) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

(๓) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

541 Nameless Fanboi Posted ID:jHI6zUpjpV

มาแว้ว อตปส

542 Nameless Fanboi Posted ID:M2d0HsDF+w

เพราะพวกมึงไปเมาท์คุณภาพปกของบทอ.ป่าววะ กูจะทักก็ไม่ทัน

543 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

คำบูชาพระรัตนตรัย
โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ

นมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

๑. พุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

๒. ธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ

๓. สังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกมีดังนี้

๑.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วัจจะโส ภะคะวา

๒.
อะระหัง ตัง สะระณัง คัจฉามิ
อะระหัง ตัง สิระสา นะมามิ
สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมามิ
วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ
สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ
สุคะตัง สิระสา นะมามิ
โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ
โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ

๓.
อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะธัมมะสาระถิ วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วัจจะโส ภะคะวา

๔.
อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ
อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ
ปุริสะทัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ
ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
พุทธัง สิระสา นะมามิ

544 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

๕.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา

๖.
อิติปิ โส ภะคะวา ปะถะวีจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา เตโชจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา วาโยจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อาโปจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน

๗.
อิติปิ โส ภะคะวา ยามาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระติธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน

๘.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะมะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา จะตุตถะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมาฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน

๙.
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะเนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะอะรูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณัญจายะตะนะ เนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะอะรูปาวะ จะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะ เนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะ อะรูปาวะ จะระธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน

๑๐.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปะฏิมัคคะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน

๑๑.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน

545 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

๑๒.
กุสะลา ธัมมา
อิติปิ โส ภะคะวา
อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ชมภูทีปัญจะอิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นะโม พุทธายะ
นะโม ธัมมายะ
นะโม สังฆายะ
ปัญจะ พุทธา นะมามิหัง
อา ปา มะ จุ ปะ
ที มะ สัง อัง ขุ
สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ
อุ ปะ สะ ชะ สุ เห ปา สา ยะ
โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ
เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ
อิ สวา สุ สุ สวา อิ
กุสะลา ธัมมา
จิตติวิอัตถิ

๑๓.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง
อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
สา โพธิ ปัญจะ อิสาะโร ธัมมา

๑๔.
กุสะลา ธัมมา
นันทะวิวังโก
อิติ สัมมาพุทโธ
สุ คะ ลา โน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
จาตุมะหาราชิกา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
อิติ วิชชาจะระณะสัมปันโน
อุ อุ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตาวะติงสา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นันทะ ปัญจะ สุคะโต โลกะวิทู
มะหาเอโอ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ยามา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
พรหมมาสัททะ
ปัญจะ สัตตะ
สัตตาปาระมี
อะนุตตะโร
ยะมะกะขะ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

๑๕.
ตุสิตา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
ปุ ยะ ปะ กะ
ปุริสะทัมมะสาระถิ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

๑๖.
นิมมานะระติ อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
เหตุโปวะ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง
ตะถา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

๑๗.
ปะระนิมมิตะ อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
สังขาระขันโธ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
รูปะขันโธ พุทธะปะผะ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

๑๘.
พรหมมา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นัจจิปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวะตา ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
นะโม พุทธัสสะ
นะโม ธัมมัสสะ
นะโม สังฆัสสะ
พุทธิลา โลกะลา กะระกะนา
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ ฯ

๑๙.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ
อัตติ อัตติ มะยะสุ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ

546 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

๒๐.
อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง
พรหมะสาวัง มะหาพรหมะสาวัง
จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติสาวัง
เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวัง
อิสิสาวัง มะหาอิสิสาวัง
มุนีสาวัง มะหามุนีสาวัง
สัปปุริสาวัง มะหาสัปปุริสาวัง
พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง
อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิวิชชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกา
อิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

๒๑.
สาวัง คุณัง วะชะพะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิกัมมัง นิพพานัง
โมกขัง คุยหะกัง
ถานัง สีลัง ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ตัปปัง สุขัง
สิริรูปัง จะตุวีสะติเสนัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ

๒๒.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม อิติปิโส ภะคะวา

๒๓.
นะโม พุทธัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม

๒๔.
นะโม ธัมมัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม

๒๕.
นะโม ธัมมัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

๒๖.
นะโม สังฆัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ
สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตัง

๒๗.
นะโม พุทธายะ
มะอะอุ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
ยาวะ ตัสสะ หาโย
นะโม อุอะมะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
อุ อะมะ อาวันทา
นะโม พุทธายะ
นะ อะ กะ ติ นิ สะ ระ นะ
อา ระ ปะ ขุ ธัง มะ อะ อุ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา

547 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก (แปล)

๑. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้รู้แจ้งโลก

๒. ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ว่า เป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ ด้วยเศียรเกล้า

ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เองโดยชอบว่า เป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เอง ด้วยเศียรเกล้า

ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ด้วยเศียรเกล้า

ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว ด้วยเศียรเกล้า

ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ด้วยเศียรเกล้า

๓. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นอนุตตะโร คือ ยอดเยี่ยม

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตื่นจากกิเลส

๔. ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ด้วยเศียรเกล้า

ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

ด้วยเศียรเกล้า

ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็น

ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยเศียรเกล้า

ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลส ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลส ด้วยเศียรเกล้า

๕. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น รูปขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เวทนาขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สัญญาขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สังขารขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น วิญญาณขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึง

548 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

๖. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ดินจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ไฟจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ลมจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ น้ำจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ อากาศจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

๗. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นยามา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นนิมมานรดี

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในกามาวจรภูมิ

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในรูปาวจรภูมิ

๘. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปฐมญาน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ทุติยญาน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ตติยญาน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ จตุตถญาน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปัญจมญาน

๙. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ อากาสานัญจายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ วิญญาณัญจายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ อากิญจัญญายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ

๑๐. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระโสดาปัตติมรรค

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระสกิทาคามิมรรค

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอนาคามิมรรค

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอรหัตตมรรค

๑๑. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระโสดาปัตติผล และ พระอรหัตตผล

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระสกิทาคามิผล และ พระอรหัตตผล

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอนาคามิผล และ พระอรหัตตผล

๑๒. ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นอิสสระแห่งชมภูทวีป

ธรรมะฝ่ายกุศล ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ด้วยหัวใจพระวินัยปิฎก ด้วยหัวใจพระสุตตันตปิฎก ด้วยหัวใจพระอภิธรรมปิฎก

ด้วยมนต์คาถา ด้วยหัวใจมรรคสี่ ผลสี่ และ นิพพานหนึ่ง ด้วยหัวใจพระเจ้าสิบชาติทรงแสดงการบำเพ็ญบารมีสิบ

ด้วยหัวใจพระพุทธคุณเก้า ด้วยหัวใจพระไตรรัตนคุณ ธรรมะฝ่ายกุศล

549 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

คาถาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

พุทธมังคลคาถาถือเป็นอีกหนึ่งบทคาถาของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
คำว่าพุทธมังคลคาถานี้ คือการนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศซึ่งล้วนแต่เป็นพระมหาเถระที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น

พุทธมังคลคาถา

สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม
โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ อาคเณยเย จะ กัสสะโป
สารีปุตโต จะ ทักขิเณ หะระติเย อุปาลิ จะ
ปัจฉิมเมปิ จะ อานันโท พายัพเพ จะ คะวัมปะติ
โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร อีสาเนปิ จะ ราหุโล
อิเม โข มังคะลา พุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา
วันทิตา เต จะ อัมเหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา
เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน
อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง
ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโยฯ

--------------------------------------------------------------------------------

คาถาบูชาพระสมเด็จ
ปุตตะกาโม ละเภ ปุตตัง
ธะนะกาโม ละเภ ธะนัง
อัตถิ กาเย กายะญายะ
เทวานัง ปิยะตัง สุตะวา

คาถาอารธนาพระสมเด็จ
โตเสนโต วะระธัมเมนะ
โตสัฏฐาเน สิเว วะเร
โตสัง อะกาสิ ชันตูนัง
โตสะจิตตัง นะมามิหัง

คาถาสืบสร้างทางสวรรค์และนิพพาน
พุทธะ พุทธา พุทเธ พุทโธ พุทธัง อะระหัง พุทโธ อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ

550 Nameless Fanboi Posted ID:iztxXzVKfo

>>522 ib บอกสนพ.เลยมึง จะได้มีหลายๆเสียง แปลเถอะะะ

551 Nameless Fanboi Posted ID:HcZJ0.uQt6

อิสัส ช่วงนี้วงการหนังสือเป็นไรกันหมดว่ะ ทั้งนักแปลเถื่อนชุบตัว นักเขียนขี้ก็อป นักอ่านปสดบางคนอวยแปลเถื่อนทับศัพท์ดีกว่าแปลแท้ถูกลิขสิทธิ์ นักอ่านเถื่อนเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค แบนสนพ.ด้วยปัญหาเท่า ีมด ดราม่าปกคู่ปสด ลูกหาบนักเขียน/นักแปลไร้สมองอวยคนที่ชอบแบบหลับหูหลับตาทำผิดเหี้ยไรมาไม่เคยสน ด่าคนออกมาเตือน ด่าคนเห็นต่าง ด่าทุกอย่างยกเว้นนักแปล/นักเขียนที่ตัวเองชอบ วงการนี้แม่งเปลี่ยนไปเยอะจริงๆว่ะ

552 Nameless Fanboi Posted ID:Zc6JujNP.W

กูกำลังอ่านปรารถนาเพียงรักแล้วสบายใจมาก แปลแบบ 98% เลย จะมีบางคำที่เป็นเฉพาะจริง ๆ เช่น จุดต่างๆ บนร่างกาย ซึ่งในเรื่องก็พูดครั้งเดียว นอกนั้นแปลหมด คำว่าพี่ชายก็แปลจังหวะที่เรียกก็ให้ความรู้สึกอ้อนอะ พอกูเห็นบ่นเรื่องทับศัพท์แล้วคือแบบไม่มีใจอยากหยิบอ่านเลย

553 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

กราบพระรัตนตรัย

กราบครั้งที่ ๑ กราบพระพุทธ

กราบครั้งที่ ๒ กราบพระธรรม

กราบครั้งที่ ๓ กราบพระสงฆ์

คำบูชาพระ

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ*

อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ*

อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ*

(*หากสวดพร้อมกับผู้อื่น ให้เปลี่ยนเป็น มะ)

บทสวดมนต์ บูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ฯ (กราบ)

บทสวดมนต์ สรรเสริญพระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

บทสวดมนต์ อาราธนาศีล 5

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

554 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

บทสวดมนต์ ไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

บทสวดมนต์ สมาทานศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (กล่าว 3 จบ)

บทสวดมนต์ บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง

กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์

อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร

อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

อะหัง อะนีโฆ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ

สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นเถิด

บทสวดมนต์ บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

555 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

บทสวดมนต์ บทแผ่ส่วนกุศล

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่บิดามารดาของข้าพเจ้า ขอให้บิดามารดาของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

556 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

วิธีสวดพระพุทธคุณเท่าอายุบวกด้วย ๑
ให้เริ่มสวดตั้งแต่บท บูชาพระรัตนตรัย บทกราบพระรัตนตรัย นมัสการพระรัตนตรัย สวด 3 จบ ขอขมาพระรัตนตรัย ไตรสรณคมน์ ถวายพรพระ (อิติปิโสฯ) ชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ) ชัยปริตร (มหากาฯ) บทอิติปิโส เท่าอายุ บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ บทแผ่ส่วนกุศล อธิฐานตามสิ่งที่ปรารถนา สวดพระคาถาชินบัญชร

สารบัญ

บูชาพระรัตนตรัย
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ

สารบัญ

บทกราบพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

สารบัญ

นมัสการพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)

สารบัญ

ขอขมาพระรัตนตรัย
วันทามิ พุทธัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต,

วันทามิ ธัมมัง,สัพพะเมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต,

วันทามิ สังฆัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต

557 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

วิธีสวดพระพุทธคุณเท่าอายุบวกด้วย ๑
ให้เริ่มสวดตั้งแต่บท บูชาพระรัตนตรัย บทกราบพระรัตนตรัย นมัสการพระรัตนตรัย สวด 3 จบ ขอขมาพระรัตนตรัย ไตรสรณคมน์ ถวายพรพระ (อิติปิโสฯ) ชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ) ชัยปริตร (มหากาฯ) บทอิติปิโส เท่าอายุ บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ บทแผ่ส่วนกุศล อธิฐานตามสิ่งที่ปรารถนา สวดพระคาถาชินบัญชร

สารบัญ

บูชาพระรัตนตรัย
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ

สารบัญ

บทกราบพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

สารบัญ

นมัสการพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)

สารบัญ

ขอขมาพระรัตนตรัย
วันทามิ พุทธัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต,

วันทามิ ธัมมัง,สัพพะเมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต,

วันทามิ สังฆัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต

สารบัญ

ไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

สารบัญ

ถวายพรพระ (อิติปิโสฯ)
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (พุทธคุณ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (อ่านว่า วิญญูฮีติ) (ธรรมคุณ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (สังฆคุณ)

สารบัญ

พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)
พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

นาฬาคิริง คะชะวะรังอะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง (อ่านว่า พรัมมัง) วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โยวาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

(* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต)

558 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

สารบัญ

ชัยปริตร (มหากาฯ)
มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม* ชะยะมังคะลัง ฯ

ชะยันโตโพธิยา มูเล สักยานัง นันทิ วัฑฒะโน เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ (ถ้าสวดให้คนอื่นเปลี่ยนเป็น ตะวัง วิชะโย โหหิ) ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล

อะปะราชิตะ ปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะ ติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏ ฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ (อ่านว่า พรัมมะ) จาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะ ทักขิณา นิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ

สารบัญ

อิติปิโส เท่าอายุ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

(ให้สวดเกินอายุ ๑ จบ เช่น อายุ ๔๒ ปี ต้องสวด ๔๓ จบ)

สารบัญ

บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์

อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร

อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ

สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

สารบัญ

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิด ฯ

559 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

มนุษย์ Toxic มีหลายแบบ เลยอยากชวนมาดูมนุษย์ Toxic 2 แบบยอดนิยม นั่นคือ Toxic แบบขี้บ่น ก่นด่า สบถ สาบาน ทัศนคติไม่ค่อยจะดี กับอีกแบบคือ Toxic ขี้เมาท์ขี้นินทา
การสบถสาบานแรงๆ จะไปกระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เพราะฉะนั้นการพูดหยาบๆ แรงๆ จึงเป็นเหมือนการ ‘เกา’ สมองส่วนที่คันยุบๆ ยิบๆ อยู่ เป็นเหมือนการจัดการทางอารมณ์ของสมอง หรือเป็นการจัดการอารมณ์ทางกายภาพ
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกนบอกว่า การที่สาวๆ ชอบซุบซิบนินทาจับกลุ่มเมาท์กันนั้น แท้จริงแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกายของพวกเธออยู่ไม่น้อย นั่นคือ ทำให้อารมณ์ของพวกเธอดีขึ้น
คำฮิตใหม่ที่เอาไว้บ่นว่าคนอื่นคือคำว่า ‘Toxic’

คนที่มีความ Toxic หรือสภาพแวดล้อมที่ Toxic หมายถึงอยู่แล้วไม่มีความสุข มีแต่ปัญหาโน่นนั่นนี่สารพัด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วความ Toxic มักมีจากการพูดจานี่แหละครับ

ที่จริงแล้วมนุษย์ Toxic มีหลายแบบ แต่ถ้าให้พูดถึงมนุษย์ Toxic ทุกแบบ คงต้องเขียนกันเป็นเล่มๆ เลยอยากชวนมาดูมนุษย์ Toxic 2 แบบยอดนิยม นั่นคือ Toxic แบบขี้บ่น ก่นด่า สบถ สาบาน ทัศนคติไม่ค่อยจะดี กับอีกแบบคือ Toxic ขี้เมาท์ขี้นินทา รวมไปถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความ Toxic เหล่านี้กัน

560 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

Toxic ขี้บ่น สบถ สาบาน

คนแบบนี้เวลาอยู่ใกล้ๆ บางทีจะรู้สึก Toxic จริงๆ เพราะแทบไม่มีอะไรในโลกนี้ดีงามเลย มีแต่สบถ สาบาน ใช้คำหยาบด่าโน่นนั่นนี่เต็มไปหมด คำที่หลุดออกมาจากปากมักจะเป็นคำในแง่ลบเสมอ โดยเฉพาะคำหยาบและคำสบถ สาบานทั้งหลายแหล่

แต่รู้ไหมครับ ว่าเคยมีงานวิจัยของ ริชาร์ด สตีเฟนส์ จากภาควิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยคีล ของสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ในวารสารชื่อ The Journal of Pain ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ บอกว่า การบ่น ก่นด่า อะไรทำนองนี้ มันช่วยลดความเจ็บปวดได้

เราเชื่อกันมานานแล้วนะครับ ว่าการได้ปลดปล่อยระเบิดระบายอะไรออกมาแรงๆ นั้น จะทำให้เราคลายความเครียดลงไปได้ สตีเฟนส์ก็บอกแบบเดียวกัน เขาบอกว่า การสบถ สาบาน พูดหยาบคาย มีผลในทางการแพทย์แบบ Analgesia คือเป็นเหมือนยาแก้ปวด (ดูรายละเอียดได้ที่ www.jpain.org และ www.keele.ac.uk) โดยเขาให้ผู้เข้าทดลองเอามือวางบนน้ำแข็งจนเย็นเฉียบ แล้วก่นด่าออกมากับไม่ก่นด่าออกมา จากนั้นก็ดูกิจกรรมทางสมอง

เขาอธิบายว่า ภาษาโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับสมองชั้นคอร์เทกซ์​ (Cortex)​ หรือเปลือกสมองของสมองซีกซ้าย แต่การสบถ สาบานแรงๆ นั้น จะไปกระตุ้นสมองส่วนที่ลึกกว่า คือสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ (ซึ่งจริงๆ แล้วมีหลายส่วน) เพราะฉะนั้น การพูดหยาบๆ แรงๆ จึงเป็นเหมือนการ ‘เกา’ สมองส่วนที่คันยุบๆ ยิบๆ อยู่ คือกำลังเจ็บปวดกับเรื่องหนึ่งเรื่องใด แล้วพูดโพล่งหยาบๆ ออกมา ก็จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในสมองได้ มันจึงเป็นเหมือนการจัดการทางอารมณ์ของสมอง หรือเป็นการจัดการอารมณ์ทางกายภาพ

แต่แน่นอน นี่เป็นคนละเรื่องกับการจัดการอารมณ์ในทางสังคม นั่นคือคนอื่นเขาอาจจะไม่ได้ ‘หายคัน’ ไปกับคุณด้วย แต่เหมือนเป็นการผลักความเจ็บปวดนั้นไปใส่สมองของคนอื่นแทน ทำให้เขาอยากจะสบถสาบานกลับใส่คุณแทน

561 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

อย่างไรก็ตาม อย่าคิดว่าการสบถ สาบานแรงๆ พวกนี้จะให้ประโยชน์เสมอไปนะครับ เพราะสตีเฟนส์บอกว่า ยิ่งทำบ่อยเท่าไร ผลที่ได้ (อันที่จะลดความเจ็บปวด) ก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น พวกที่ Toxic ทางวาจาเป็นประจำ อาจต้องพิจารณาตัวเองกันหน่อยนะครับ ก่อนที่จะไปบอกใครๆ ว่าจำเป็นต้องทำเพื่อผลทางการแพทย์

สตีเฟนส์บอกด้วยว่า งานวิจัยของเขาเสนอว่า การสบถ สาบานเป็นประโยชน์ เพราะช่วยให้เราแสดงอารมณ์รุนแรงออกมา แต่ทำบ่อย และทำในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่ล่อแหลมอันตราย ก็ไม่ใช่เรื่องดี

Toxic ขี้เมาท์

ใครๆ ก็เบื่อพวกขี้เมาท์ ชอบซุบซิบ นินทา แต่รู้ไหมครับ ว่าเคยมีงานวิจัย (น่าเสียดายที่เป็นงานวิจัยที่ทำเฉพาะในสาวๆ เท่านั้น) ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (ดูที่นี่) โดย สเตฟานี บราวน์ ซึ่งตีพิมพ์ผลงานร่วมกับคณะลงในวารสาร Hormones and Behavior

เธอบอกว่า การที่สาวๆ ชอบซุบซิบ นินทา จับกลุ่มเมาท์กันนั้น แท้จริงแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกายของพวกเธออยู่ไม่น้อย นั่นคือทำให้อารมณ์ของพวกเธอดีขึ้น

ที่อารมณ์ดีขึ้นนั้น ไม่ใช่แค่ได้พ่นพล่อยลับหลังคนอื่นเท่านั้นนะครับ แต่เพราะการเมาท์ (โดยเฉพาะเรื่องแซ่บๆ) ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายที่ชื่อ โปรเจสเทอโรน (Progesterone) เพิ่มปริมาณขึ้น ซึ่งฮอร์โมนนี้จะช่วยลดความวิตกกังวลและความเครียดลงได้

บราวน์บอกว่า สิ่งที่เธอทำคือ การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกลไกทางชีววิทยากับพฤติกรรมทางสังคมของมนุษย์ เพื่อทำความเข้าใจให้ลึกขึ้นว่า ทำไมคนที่มีชีวิตทางสังคมจึงมีความสุข หรือมีสุขภาวะที่ดี และมีชีวิตยืนยาวกว่าคนที่โดดเดี่ยว โดยการซุบซิบ นินทา เป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยสร้างพันธะระหว่างคนในกลุ่มให้แน่นแฟ้น ด้วยการสร้าง ‘ศัตรูร่วม’ ขึ้นมา

โปรเจสเทอโรนเป็นฮอร์โมนที่ทำงานคล้ายๆ กับออกซิโตซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก แต่ออกซิโตซินวัดค่าได้ยาก ต้องวัดจากไขสันหลัง ซึ่งเป็นวิธีที่แพงและเจ็บ ส่วนโปรเจสเทอโรนวัดค่าได้ง่ายกว่ามาก แค่ตรวจตัวอย่างน้ำลายก็ใช้ได้แล้ว และโปรเจสเทอโรนก็สัมพันธ์กับออกซิโตซินด้วย

562 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

ในการทดลอง บราวน์ใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาหญิง 160 คน โดยวัดระดับของโปรเจสเทอโรนและฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อ คอร์ติซอล (Cortisol) ในน้ำลาย ร่วมกับข้อมูลเกี่ยวกับรอบประจำเดือน และการใช้ยาคุมกำเนิดกับยาประเภทฮอร์โมนอื่นๆ

พบว่า ผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มที่ขี้เมาท์กว่า จะมีระดับของโปรเจสเทอโรนสูงกว่า จึงเป็นหลักฐานให้กับสมมติฐานในทางชีววิทยาวิวัฒนาการ ที่บอกว่า เมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนแล้ว มนุษย์เราพัฒนาการนินทามาเป็นอาวุธ เพื่อช่วยควบคุมฝูง และการนินทานี่เองที่มีส่วนทำให้สมองของเราพัฒนามากขึ้น และอาจเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดภาษาขึ้นมาด้วย

เพราะฉะนั้นก็เลยเข้าใจได้นะครับ ว่าการซุบซิบ นินทา เมาท์แตกนั้น มีประโยชน์อย่างนี้นี่เอง และแม้มันจะ Toxic ต่อผู้ถูกนินทา แต่ถ้าพอทำใจได้ก็ต้องถือว่าได้บุญไม่น้อย

563 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

วางเฉย ไม่ร่วมวงสนทนา
เมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมงานของคุณกำลังนินทาคนในออฟฟิศ ให้คุณรีบลุกหนีและไม่ร่วมวงสนทนาด้วย เพื่อเป็นการแสดงออกว่าไม่ต้องการรับรู้เรื่องนี้ และที่สำคัญการลุกหนีอาจทำให้คุณเป็นเป้าหมายต่อไปในการนินทาของพวกเขาก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะคนขี้นินทาไม่ว่าอย่างไรก็ต้องนินทาอยู่แล้ว จงจำไว้ว่าคนที่นินทาเรานั้นก็เพราะเราไปอยู่ในความสนใจของเขา ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ดีกว่า หรือเราสวยกว่าเขาจึงหันมาสนใจและพยายามหาข้อบกพร่องของเรา เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น และอย่าลืมว่าคนขี้นินทามักจะก้าวช้ากว่าเราเสมอจึงมีคำว่า “ นินทาลับหลัง ” ดังนั้นจึงควรวางเฉยไม่ต้องไปสนใจและทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

ถามตัวเองว่าเราทำผิดอะไร?
เมื่อถูกพิษจากการเมืองในออฟฟิศหรือคนขี้นินทา เราควรมองที่ตัวเองก่อนว่าเราทำผิดอะไร? เช่น มาทำงานสายหรือไม่ ส่งงานตรงเวลาหรือเปล่า หรือมีเรื่องชู้สาวกับใครหรือเปล่า เมื่อทบทวนตัวเองอย่างนี้แล้วพบว่าผิดจริงก็ควรทำการแก้ไขปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ นำคำนินทาเหล่านั้นมาพัฒนาตนเองและคิดเสียว่าเป็นการติเพื่อก่อ แต่ถ้าเราสำรวจตัวเองแล้วยังไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ จากการทำงานก็ควรปล่อยผ่านและทำงานตัวเองต่อไป เพราะบางครั้งการนินทาก็เป็นแค่เรื่องที่พูดขึ้นเพื่อความสนุกของชาวออฟฟิศขี้นินทาเท่านั้นเอง

564 Nameless Fanboi Posted ID:LrJ/hyxhxY

เอาเวลาคิดมากไปพัฒนาตัวเอง
ปัญหาความเครียดในที่ทำงาน ส่วนมากจากพิษของการเมืองในออฟฟิศนั้นมาจากการนำคำพูดของเพื่อนร่วมงานมาคิดวกไปวนมา จนเป็นปัญหาต่อสุขภาพจิตที่ส่งผลหลายด้าน ๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ควรเสียเวลาไปกับการคิดทบทวนซ้ำ ๆ โดยนำเวลาว่างจากการทำงานไปใช้ในการพัฒนาตัวเองในด้านอื่น ๆ หรือหาช่องทางหาเงินใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และความภาคภูมิใจในตัวเอง

วิธีการรับมือกับเพื่อนร่วมงานขี้นินทาและการเมืองในออฟฟิศก็คือการวางเฉยและไม่ต้องสนใจ พยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด นอกจากนี้ควรนำเวลาว่างไปพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีความรู้หรือรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะดีกว่า และปล่อยให้คนนินทาลับหลังอยู่แต่ข้างหลังในขณะที่เราเดินนำไปไกลแล้วก็น่าจะเป็นการดีที่สุด

565 Nameless Fanboi Posted ID:o7svNeqyDg

เชี่ย55555555555 นี่ขนาดโม่งมันไม่มีค่าให้ใส่ใจนะเนี่ย เข้ากี่ทีโทรลลงตลอด ปังสัส

566 Nameless Fanboi Posted ID:bL59dGLowE

>>565 โม่งนี่แหละตัวชี้นำแบบไม่ต้องรับผิดชอบอะไร บางทีกูก็เห็นความคิดโม่งไปโผล่บนบกแบบแทบจะลอกไปทุกตัวอักษร แต่โม่งไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย มาพูดในโม่งนี่หลักฐานก็ไม่ต้องมีด้วยนะ จะกล่าวหาใครก็เอาเลย เต็มที่ วัดกันที่ความเหี้ยในใจล้วนๆ 555555555

567 Nameless Fanboi Posted ID:hjh1SPrVsH

>>565 สำคัญตัวเองผิดไปรึเปล่า ลูซเซอร์ก็เป็นได้แค่ลูซเซอร์ แต่ลูซเซอร์ที่ภาคภูมิใจกับการที่ได้เป็นลูซเซอร์คือขยะของลูซเซอร์อีกทีนึง

568 Nameless Fanboi Posted ID:P11tqXNnZC

>>567 คนที่โดนปั่นจนต้องดิ้นตามก็ขั้นต่ำสุดของลูซเซอร์ อิอิ

569 Nameless Fanboi Posted ID:PBSPOnuuYh

สมาธิ จิตใจสงบ ผ่องใส อีกทั้งยังเป็นการแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้ทำมาในแต่ละวันให้กับเพื่อนมนุษย์ หรือสรรพสัตว์ต่างๆ บนโลก เมื่อเรามีสมาธิ จิตใจเย็นลง จะทำให้เรานอนหลับสบาย ตื่นเช้ามาจะรู้สึกสดใส พร้อมที่จะสู้ไปกับงาน หรือการเรียนได้อย่างมีความสุข

ซึ่งใน บทสวดมนต์ก่อนนอน นั้นไม่ว่าจะเป็นบทใดก็ตามล้วนแล้วแต่มีอานุภาในตัวเองอยู่มากมาย อีกทั้งยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ ที่จะเป็นหลักนำทางให้เราดำเนินชีวิตในทุกๆ วันไปได้อย่างราบรื่น ฉะนั้น การสวดมนต์ก่อนนอนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งปฏิบัติทุกวันก็จะส่งผลที่ดีในเรื่องของสมาธิ ปัญญา ทำให้ใจของเราสามารถพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างละเอียด รอบคอบ และใจเย็นมากขึ้น

เริ่มต้นบทสวดมนต์ กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (3 ครั้ง) แล้วจึงเริ่มต้นกล่าวบทสวดตามปกติ

570 Nameless Fanboi Posted ID:PBSPOnuuYh

คำบูชาพระ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง พุทธัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ตัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ

บทสวดมนต์ บูชาพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ฯ (กราบ)

บทสวดมนต์ นะโมสรรเสริญพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

บทสวดมนต์ อาราธนาศีล 5
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

บทสวดมนต์ ไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

571 Nameless Fanboi Posted ID:PBSPOnuuYh

บทสวดมนต์ สมาทานศีล 5
ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

บทสวดมนต์ อธิษฐานรักษาศีล 5
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า ต่อแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะขอรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ดังเดิม

บทสวดมนต์ก่อนนอน ศีล 5
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (กล่าว 3 จบ)

บทสวดมนต์ แผ่เมตตาแก่ตนเอง
กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์

อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร

อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์การทุกข์ใจ

สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นเถิด

บทสวดมนต์ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

572 Nameless Fanboi Posted ID:uBmzezvMN+

บทสวดมนต์ บทแผ่ส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่บิดามารดาของข้าพเจ้า ขอให้บิดามารดาของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของรข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

573 Nameless Fanboi Posted ID:uBmzezvMN+

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.
การสวดมนต์นั้น ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคนในยุคนี้ สะดวกมากในทุกเพศ ทุกวัยและไม่ใช่เรื่องของคนแก่ อีกต่อไปเหมือนที่เคยเป็นและเราเข้าใจผิดกันอย่างนั้น บทสวดมนต์ต่างๆ มีการเผยแพร่ออกมามากมายในรูปแบบต่างๆ ที่เห็นกันและได้ยินกันจนเคยชินมากมาย

จนกระทั่งในปัจจุบัน การสวดมนต์เข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มเด็กหรือวันรุ่น ก็หันมาสนใจการสวดมนต์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสวด สวดมนต์ก่อนนอนด้วยบทสวดตามปกติ จนไปถึง คาถาชินบัญชร บทสวดยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก และบทสวดอื่นๆ อีกมากมาย

574 Nameless Fanboi Posted ID:uBmzezvMN+

คาถาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

575 Nameless Fanboi Posted ID:uBmzezvMN+

บทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร
หลังจากที่ทุกคนสวด “บทแผ่เมตตา” จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากเป็นการสวดที่วัด พระท่านก็จะนำสวดในส่วนของ “บทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร” ต่อ แต่หากสวดอยู่ที่บ้าน อาจจะหาต้นไม้ พร้อมกับน้ำใส่ขวด จากนั้นเริ่มกรวดน้ำและมกล่าวคำตามนี้

ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนายบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ

576 Nameless Fanboi Posted ID:PBSPOnuuYh

สะดวกกว่าเมื่ออ่านด้วยแอปฯ
เปิดแอปฯ

ข่าว ดูดวง เพลง Joox หวย ผลบอล ดูทีวีออนไลน์ เกม

ดูดวง
หมวดอื่นๆ
5 คาถาเด็ด ถอนของ ไล่ผี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย!
5 คาถาเด็ด ถอนของ ไล่ผี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย!
07 เม.ย. 60 (11:18 น.)listen กดฟัง
S! Horoscope
สนับสนุนเนื้อหา

วันนี้ Sanook! Horoscope มีเรื่องราวของคาถาเด็ดๆ มาฝากกัน เป็นเรื่องของคาถาด้านมืดที่มีความลึกลับกว่าเดิม เป็นคาถาถอนของ ไล่ผี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ซึ่งเรารวบรวมมาไว้ที่นี่

คาถาถอนของ
ตั้งนะโม 3 จบ บูชาพระรัตนตรัย 3 จบก่อนภาวนาคาถานี้

นะโมเม สุขคะโต นะโมเม โสปัตติ นะโมสุคะโต โหติ อะสัญญัตตา จะ สัมภะวา ปัจจุปันนา ปัญจะพุทธา เสติ นะโมสุคะโต จะ อะนาคะตา นะมามิหัง สัพเพ เทวา ยักขา เปตา ภูตา ปะริตา ปะโรคะตา อัคคะเน วา ชาเมตะยะมัง มะนุสสานัง สัพเพ โกทะวิทา วินาสสันติ ทะสา ตันจะ ปิยัง มุกขัง มุกคะปัตโต เอหิ สะเนโท สะเนทา สะเนหา นะเนโห จะ สัพเพ ชะนะมาเร ปะระชายา ชายะ มะหาโภโค มะหาโทโส พายะสะเต กัมเมนะ วินาสสันติ

หากรู้ว่าของเข้าตัว จงใช้คาถาบทนี้ถอนออก และสามารถขับของให้ผู้อื่นได้

คาถาถอนโบสถ์ ถอนเสมา ถอนศาล ถอนของ ฯลฯ

สมุหะเนยยะ สมุหะคะติ สมุหะคะตา พัทธะเสมายัง เอวัง เอหิ นะเคลื่อน โมถอน พุทคลอน ธาถอน ยะหลุด ลอยเลื่อน เคลื่อนด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ พุทธัง ปัจจกขามิ ธัมมัง ปัจจักขามิ สังฆัง ปัจจักขามิ เอกาเสติ ปะสิทธิ เม เอหิ คัจฉะมุมหิ เปหิ เปหิ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ

คาถาถอนโบสถ์ ถอนเสมา ถอนศาล ถอนของ ทั้งหลายได้ทั้งปวง

คาถาแก้อาคม
นะโมพุทธายะ
นะรา นะระ รัตตัง ญานัง
นะรา นะระ รัตตัง หิตัง
นะรา นะระ รัตตังเขมัง วิปัสสิตัง นะมามิหัง

ใช้สวดภาวนากับน้ำแล้วนำมาดื่มและอาบ ถ้าหากรู้สึกว่าร่างกายจิดใจไม่เป็นปรกติ กระวนกระวายวซึ่งอาจจะถูกของ

577 Nameless Fanboi Posted ID:PBSPOnuuYh

สัพเพทวาปีสาเจวะ อาฬะวะกาทะโยปิยะ
ขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา
ปะลายันติ สักกัสสะ วะชิราวุธัง
เวสสุวัณณัสสะ คะธาวุธัง
อะฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง
ยะมะนัสสะ นะยะนาวุธัง
อิเมทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ

ใช้สวดภาวนาเมื่อเกิดความกลัวผีขึ้นมา วิญญาณจะไม่มารบกวนเข้าใกล้

คาถาขับไล่สิ่งชั่วร้าย
มะโทรัง อะตะระโร เวสะวะโน นะหากปิ ปิสาคะตาวาโหมิ
มหายักขะ เทพะอนุตะรัง เทพะดา เทพะเอรักขัง ยังยังอิติ เวสะวะนัน
ภูตัง มหาลักชามะนง มะภูอารักขะ นะพุททิมะมัตตะนัง กาลปะติทิศา
สัพเพยักขา ปะลายัตตะนิ

ใช้ท่องกับน้ำบริสุทธิ์แล้วนำมาประพรมให้ทั่วสถานที่นั้นๆ จะช่วยแก้อาถรรพ์ต่างๆ ณ ที่นั้นได้

คาถาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาแล้วแน่วแน่ให้การภาวนา คาถาจึงจะเกิดผลมากที่สุด ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน

578 Nameless Fanboi Posted ID:wg83IlA3vN

อิสัตว์สวดแผ่เมตตาให้พ่อแม่มึงที่นอนเป็นผักอยู่เหรอสมพรปากของมึงนะอิเหี้ย

579 Nameless Fanboi Posted ID:mhk7ZCTTxO

ไม่ว่างจริงทำไม่ได้น่ะ ป่วนโม่งเหมือนทั้งชีวิตไม่มีงานทำ

580 Nameless Fanboi Posted ID:3vXt9bguo3

มู้นี้ธรรมะธรรมโมดีว่ะ สวดมนต์กรวดน้ำทุกวัน

581 Nameless Fanboi Posted ID:YqxIqpf.tf

ตัวเดียวกับที่ป่วนมู้จีนปะวะ ถ้าใช่เขาเป็นหาบจงหยวน เคยโป๊ะที่ห้องมูู้้จีนจ้า

582 Nameless Fanboi Posted ID:xPOW0vTirZ

>>581 หายแก๊งค์หมาหมู่จ้ามึง ข้างบนมีคนพูดถึงมันเลยมา เอ้าเวรละ กูพูดไปซะแล้ววววว

583 Nameless Fanboi Posted ID:G7NqwqL+Xg

น่าจะพวกอปตส มาแนวๆนี้ ว่างๆก็โผล่มาป่วนที

584 Nameless Fanboi Posted ID:qPPyurL8kW

ความบังเอิญแม่งน่ากลัวว่ะ บังเอิญโทรลลงทุกรอบที่มีเรื่องเกี่ยวกับแก๊งหมาหมู่

585 Nameless Fanboi Posted ID:yDOunmvTPc

เห็นพวกคลั่งกริบมาหาพวกนี้ห้องสปอยล์แล้วกระแสตีกลับ สะใจชะมัด

586 Nameless Fanboi Posted ID:yjy/g4L.+V

วันก่อนมีใครหักไม้ผีพูดเรื่องปกนิยายอีแก๊งนี้ ไม่ทันไรแม่งก็มาเลย

587 Nameless Fanboi Posted ID:CemhFJQXz4

ปกล่าสุดของบทอ. ฝีมือไลล่าดร็อปลงเยอะเลยว่ะ ปกติขึ้นชื่อเรื่องค.คงเส้นคงวานะ
หรือเพราะมาเป็นภาพปกให้นิยายนี่วะ งานดร็อปทันตาเห็น😂

588 Nameless Fanboi Posted ID:yvMRotMRWr

>>587 ปกดรอปจนถ้าไม่ดูชื่อคนวาดนี่กูไม่รู้จริงๆ ว่ะ แฟนคลับปกเลล่าได้แต่คิดว่างานเผาหรือเปล่า มึงลองดูงานปกเลล่าของบทอ.ที่ผ่านมาสิ พ่อฮะปะป๊าดุ เทพฮาเดส ขอโทษครับฟ้า ภาคต่อของความรัก แล้วมาดูปกล่าสุดของนข.อิติปิโส 5555 จะเฮี้ยนในโม่งขนาดนี้ก็ไม่แปลก

589 Nameless Fanboi Posted ID:8SCkjILuNZ

>>588 +1 ปกนี้ไม่ดูชื่อกูเดาไม่ออกจิงว่ะ

ขอโทษแฟนอจ.ตรงนี้เลย (กูก็ไม่ได้เกลียดแกนะ)​ แต่ไม่รู้จะเรียกเผาหรืออัดเทคนิคมาจนล้นดี ฉากหลังรกรุงรัง แสงเงางงๆ มืดไปหมด
กูสังเกตไลล่าช่วงหลังเพิ่งค้นพบเอ็ฟเฟกต์ทำภาพย้อนแสงในโฟโต้ช็อป​หรือไงไม่รู้ เอะอะเอามายัดใส่รูปแล้วแปะอวดฝีมือ (ใช่ กูตามเผือกเพจไลล่าด้วย)​ บางอันดูรู้เลยว่าร้อนวิชา
กูว่าบางเทคนิคที่แกใช้ยังไม่คล่อง ไม่ควรเอามายัดใส่ในงานคอมมิชว่ะ ราคาตกเปล่าๆ

590 Nameless Fanboi Posted ID:OhUzP.5qM/

ราคาไม่ตกหรอกมึงยังไงคนก็จ้างเรื่อยๆ มันคุ้มกับราคาเมื่อเทียบกับนักวาดคนอื่น ใครโชคดีปังก็ดีไป

591 Nameless Fanboi Posted ID:G7NqwqL+Xg

>>587 จริงว่ะ อื่นๆการลงสีอะไร พอยังโอเคนะแต่นอหน้าเบี้ยวเชียว เกิดไรขึ้นวะ
วันก่อนกูเห็น vicmon วาดปกวายเรื่องไรก็ไม่รู้ก็เผา ช่วงนี้นักวาดงานชุมเหรอวะ

592 Nameless Fanboi Posted ID:yjy/g4L.+V

>>591 กูก็ว่าแผลใหญ่สุดคือหน้านอ. ซีดจนกูคิดว่าเป็นแวมไพร์ (หรือใช่วะ ? เรื่องนี้กูไม่รู้จัก)
ปกติเห็นอาจารย์ชอบลงดีเทลที่หน้าจะตาย นี่สาดสีทื่อๆ แล้วจบเลย อย่างกับคนแต่งหน้าลงรองพื้นขาวเกินไปหนึ่งเฉดแล้วลืมปัดแก้ม

vicmon ปกไหนวะ กูจะไปส่องมั่ง

593 Nameless Fanboi Posted ID:WjNF3HlRv9

>>587 เรื่องไรวะ ไรโจ้ๆนั่นปะ

594 Nameless Fanboi Posted ID:ccNW9wL6k7

>>593 กูว่านาชใช่

595 Nameless Fanboi Posted ID:0MhNC/c2UV

>>592 จำไม่ได้ว่ะ เหมือนเห็นในกลุ่มรีวิว เส้นมันคุ้นๆแต่ดูเผาๆกูเลยซูมดูชื่อคนวาด

596 Nameless Fanboi Posted ID:nl5W7ml41Z

>>592 คนอื่นไม่รู้ แต่ของกูจากเมษาถึงธันวา อันนี้กุให้หนักสุดในทุกปกที่เคยเห็นเลย ลองเสิร์ชดู กูโกรธเลยตอนเห็นเพราะชอบลายเส้นเค้าจากปกแจ่มใสมากกกกก กุเก็บทุกเล่มทุกที่คั่น แต่เล่มนี้ออกมาเหมือนไม่ตั้งใจวาดเท่าวาดนิยายชายหญิง(เค้าดูถนัดวาดผู้หญิงกว่าอยู่แล้ว) แล้วพี่แกไม่เอาปกเรื่องนี้ลงเพจตัวเองด้วยเลยคิดว่าคงรู้ตัวว่าเผาจริง เวลาใครพูดถึงพี่วิคกูนึกภาพปกนี้ขึ้นมาตลอดเลย เห้อ

597 Nameless Fanboi Posted ID:3tXKtZtMgF

>>596 เชื่อและว่าเผา มือนอคือไม่ได้เลย55555555 เหมือนวาดพอเสร็จแล้วขี้เกียจวาดนอต่อเลยเผาแม่ง555555555

598 Nameless Fanboi Posted ID:MRiqMDCAH5

>>596 เออ อันนี้ก็เห็นแวบแรกไม่รู้ว่าเป็นงานวิค คิดว่านักวาดหน้าใหม่ อนาโตมีแปลกแท้

599 Nameless Fanboi Posted ID:DDvj7mEbzL

KY พูดถึงลวด.ทำไมกูรู้สึกว่าหลังๆ นิยายออกกับที่นี่เยอะจังวะเหมือน บก.แม่งไปจีบดะมาหมดเลย

600 Nameless Fanboi Posted ID:qy07HdUEFP

เห็นพูดกันจนกูชักอยากไปหามาอ่านละ5555

601 Nameless Fanboi Posted ID:2mYMbuDJ1V

กูขอด่าได้ไหม อิพวกคลังศัพท์น้อยแล้วค่อยโทษนักแปลอะ คือไม่รู้จักคำว่าอิหลักอิเหลื่อ กับ ขนด 55555 มึงเรียนจบมาได้ไง ยังงี้ถ้าต่อไปมึงรู้จักแต่คำว่า กิน มึงไม่ด่านักแปลเลยหรอ ถ้าใช้รับประทาน ทาน ฉัน แดก

602 Nameless Fanboi Posted ID:gy1fZQINj0

กุหลาบคงงง แปลชุ่ยก็ด่า แปลพิถีพิถันก็โดนด่าอีก ถถถถถ

603 Nameless Fanboi Posted ID:njKBaD6Ed9

ในชีวิตหนึ่งของมนุษย์เรานั้น... สิ่งที่ทุกคนปรารถนาเป็นอย่างมากนั้นก็คือ "ความสุข" เพราะไม่ว่าเราจะกระทำสิ่งไหน สิ่งที่เราหวังให้เกิดขึ้นตามมานั้นก็คือความสุข ถึงแม้ว่าความสุขของคนเราจะมีหน้าตาและมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่า "ความสุข" จะมาในรูปแบบไหน เชื่อเลยค่ะว่าทุกคนต้องเต็มใจรับมันอย่างแน่นอนใช่ไหมล่ะคะ

และในฐานะพุทธศาสนิกชนมองความสุขว่า... เป็นการได้มาซึ่งความอิ่มเอมและสบายใจ และที่สำคัญความสุขของเรานั้นจะต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น แต่ทั้งนี้บางทีเราอาจจะเบียดเบียนผู้อื่นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือทำไปเพราะการไม่รู้ ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ทุกคนมีจิตใจเมตตาต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนมนุษย์ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก สัตว์เดรัจฉาน ตลอดจนเทพเทวา เจ้ากรรมนายเวร เพื่อให้ทุกสรรพชีวิตมีความสุขเสมอกันด้วยการ "แผ่เมตตา" นั่นเอง

ส่วนในวันนี้ กระปุกดอทคอมก็ขอรวมบทแผ่เมตตามาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้แบ่งปันความเมตตาไปยังทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ ... ทั้งนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าการแผ่เมตตาจะต้องท่องบทสวดเป็นภาษาบาลีเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว เพียงแต่ตั้งสมาธิ ทำจิตให้ว่าง เราก็สามารถแผ่เมตตาได้แล้วล่ะค่ะ เพราะว่าหากไม่ตั้งจิตให้ว่าง ถึงแม้จะท่องบทแผ่เมตตาถูกต้อง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอย่างแน่นอน

604 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

บทแผ่เมตตาให้แก่ตัวเราเอง

อะหัง สุขิโต โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข)

อะหัง นิททุกโข โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์)

อะหัง อะเวโร โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร)

อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง)

สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ (ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พ้นจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด)

บทแผ่เมตตาไปสู่ผู่อื่น

สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ นิททุกขา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ

ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิดฯ

บทแผ่เมตตาทั่วไป

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวราโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

605 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

คาถาแผ่ส่วนกุศลแผ่เมตตาทั่วไป

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

บทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร

ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้า ด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ

606 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

บทสวดนมัสการบูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

เป็นการรำลึกถึงพระพุทธคุณเบื้องต้นก่อนสวดมนต์ บูชาพระ หรือทำพิธีการต่าง ๆ

607 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

บทสวดขอขมาพระรัตนตรัย

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ )ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ (กราบ) แบบที่ 1
อุกาสะ อัจจะโย โน ภันเต อัชชะขะมามิ ยะถาพาเล ยะถามุฬเห ยะถาอะกุสะเล เย มะยัง กะรัมหา เอวัง ภันเต มะยัง อัจจะโย โน ปะฎิคคัณหะถะ อายะติง สังวะเรยยามิ เถเรปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะกะตัง สัพพัง อะปะราทังขะมามิภันเต
ณ โอกาสบัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอขมาโทษ ต่อพระรัตนตรัย ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้สบประมาทพลาดพลั้ง ต่อพระพุทธ ต่อพระธรรม ต่อพระสงฆ์ สมัยเป็นคนพาลคนหลง อกุศลเข้าสิงจิต ให้ทำความผิดต่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ผิดต่อคุณครูอาจารย์ ผิดต่อหลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงน้า หลวงอา หลวงพี่ทั้งหลาย ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อย่ามีเวร เกิดชาติหนึ่งภพใด ขอให้ได้สร้างแต่กรรมดี สร้างบารมีของตน ให้พ้นภัยพาล ลุล่วงบ่วงมาร ในชาติปัจจุบันกาลนี้เทอญฯ

(บางที่กล่าวบทสวดนี้ว่า : อุกาสะ อุกาสะ อัจจะโยโนภันเต อัจจักคะมา ยะถาพาเล ยะถามูลเห ยะถาอะกุสะเล เยมะยัง กะรัมหา เอวัง ภัณเต มะยัง อัจจะโยโน ปะฏิคคัณหะถะ อายะติง สังวะเรยยามะฯ )

แบบที่ 2

วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระพุทธเจ้า เพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระองค์จงประทานอภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
ข้าแต่พระธรรมอันเจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระธรรมเพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระธรรมจงให้อภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระสงฆ์เพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระสงฆ์จงให้อภัยโทษแก่้ข้าพเจ้าด้วยเถิด

608 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

แบบที่ 3

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ (ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ.... , ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ ) หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดลดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

แบบที่ 4

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ,
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยัง, ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม,
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ. ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้า, ขอพระพุทธเจ้า จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระธรรม, ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระธรรมในกาลต่อไป
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระสงฆ์, ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ในกาลต่อไป

609 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

แบบที่ 3

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ (ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ.... , ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ ) หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดลดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

แบบที่ 4

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ,
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยัง, ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม,
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ. ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้า, ขอพระพุทธเจ้า จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระธรรม, ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระธรรมในกาลต่อไป
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระสงฆ์, ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ในกาลต่อไป

610 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

แบบที่ 3

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ (ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ.... , ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ ) หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดลดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

แบบที่ 4

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ,
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยัง, ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม,
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ. ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้า, ขอพระพุทธเจ้า จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระธรรม, ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระธรรมในกาลต่อไป
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระสงฆ์, ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ในกาลต่อไป

611 Nameless Fanboi Posted ID:qy07HdUEFP

ต้องมีเวลาว่างขนาดไหนวะ

612 Nameless Fanboi Posted ID:gy1fZQINj0

กูไปส่องปกที่พวกข้างบนเมาท์กันแล้วก็สงสารจริงว่ะ ปล่อยมันไปเหอะ
เอ๊ะ หรือไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้

613 Nameless Fanboi Posted ID:iGYDCF.zq0

กูเข้าใจว่าเป็นอีอกไม่ก็อีดพนะ ช่วงนั้นด่ามันบ่อย ดิ้นแรงชิบหาย
อันนี้เหมือนหมาแวะมาขี้หน้าบ้านเฉยๆ

614 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

615 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

616 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

617 Nameless Fanboi Posted ID:iGYDCF.zq0

แวะขี้=2ก้อน
ขี้จริง=3ก้อน

618 Nameless Fanboi Posted ID:xWh33n.EDI

>>617 ส่วนกุปวดขี้ ไปขี้แปป

619 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

620 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

621 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

622 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

623 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

624 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

625 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

626 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

627 Nameless Fanboi Posted ID:61aNm3cnSz

ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ
ความบังเอิญก็คือพวกมึงขี้ขลาด กล้าเห่าแต่ในที่ลับ

628 Nameless Fanboi Posted ID:iGYDCF.zq0

เห็นป่ะ ปกติมันเหมือนแค่แวะมาขี้เฉยๆ แต่พอพูดถึงอีดพอีอกแล้วมันขี้ราดเลย

629 Nameless Fanboi Posted ID:gSDkuPUINJ

>>628 ดูไม่ออกเลยว่าโทรลเป็นแก็งค์ไหน 55555

630 Nameless Fanboi Posted ID:HoIUgW1Sth

บทสวดธัมมะจักร

ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ยามานัง เทวานัง
ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะ มะนุสสาเวสุง ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะกายิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปุโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปุโร หิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา มะหาพรหมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง มะหาพรหมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อาภัสสะระ เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อสัญญะสัตตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อสัญญะสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ . อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ

631 Nameless Fanboi Posted ID:HoIUgW1Sth

บทสวดทำวัตรเช้า

หมายเหตุ คำบาลีในวงเล็บใช้สำหรับผู้สวดภาวนาที่เป็นสตรี

เริ่มด้วยการบูชาพระรัตนตรัยว่า

โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม
สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง
อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ
ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา
อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ
อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ

(แต่ถ้าแบบธรรมยุตพระเถระจะเริ่มจากที่นี่)
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

(เฉพาะแบบธรรมยุต-ผู้สวดนำกล่าวผู้เดียวว่า ยะมัมหะ โข มะยัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา โย โน ภะคะวา สัตถา ยัสสะ จะ มะยัง ภะคะวะโต ธัมมัง โรเจมะ อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง สะสัทธัมมัง สะสาวะกะสังฆัง อะภิปูชะยามะ)

ปุพพภาคนมการ

(ผู้สวดนำเริ่มว่า หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

พุทธาภิถุติ

(ผู้สวดนำเริ่มว่า หันทะ มะยัง พุทธาภิถุติง กะโรมะ เส)

โย โส ตะถาคะโต อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง
พุทโธ ภะคะวา โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง
สะพรหมะกัง สัสสะมะณะพราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง
สะยัง อะภิญญา สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ โย ธัมมัง เทเสสิ อาทิกัลยาณัง
มัชเฌกัลยาณัง ปะริโยสานะกัลยาณัง สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง
ปะริสุทธัง พรหมะจะริยัง ปะกาเสสิ ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
ตะมะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิ (กราบ)

632 Nameless Fanboi Posted ID:HoIUgW1Sth

ธัมมาภิถุติ

(ผู้สวดนำเริ่มว่า หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เส)

โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ
ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ ตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิ (กราบ)

สังฆาภิถุติ

(ผู้สวดนำเริ่มว่า หันทะ มะยัง สังฆาภิถุติง กะโรมะ เส)

โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลิกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ
ตะมะหัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ
ตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิ (กราบ แล้วนั่งราบ)

รตนัตตยัปปณามคาถา

(ผู้สวดนำเริ่มว่า หันทะ มะยัง ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ สังเวคะวัตถุปะริทีปะกะปาฐัญจะ ภะณามะ เส)

พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว
โยจจันตะสุทธัพพะระญาณะโลจะโน
โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก
วันทามิ พุทธัง อะหะมาทะเรนะ ตัง
ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตัสสะ สัตถุโน โย
มัคคะปากามะตะเภทะภินนะโก
โลกุตตะโร โย จะ ตะทัตถะทีปะโน
วันทามิ ธัมมัง อะหะมาทะเรนะ ตัง
สังโฆ สุเขตาภยะติเขตตะสัญญิโต
โย ทิฏฐะสันโต สุคะตานุโพธะโก
โลลัปปะหีโน อะริโย สุเมธะโส
วันทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง
อิจเจวะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง วัตถุตตะยัง
วันทะยะตาภิสังขะตัง ปุญญัง มะยา ยัง
มะมะ สัพพุปัททะวา มา โหนตุ เว ตัสสะ ปะภาวะสิทธิยา

สังเวคปริกิตตนปาฐะ

อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปันโน
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
ธัมโม จะ เทสีโต นิยยานิโก
อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต
มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ ชาติปิ ทุกขา ชะราปิ ทุกขา มะระณัมปิ ทุกขัง
โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา
อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข
ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง
สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา
เสยยะถีทัง
รูปูปาทานักขันโธ เวทะนูปาทานักขันโธ
สัญญูปาทานักขันโธ สังขารูปาทานักขันโธ วิญญาณูปาทานักขันโธ
เยสังปะริญญายะ ธะระมาโน โส ภะคะวา
เอวัง พะหุลัง สาวเก วิเนติ
เอวัง ภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ
อะนุสาสะนี พะหุลา ปะวัตตะติ
รูปัง อะนิจจัง เวทะนา อะนิจจา สัญญา อะนิจจา
สังขารา อะนิจจา วิญญาณัง อะนิจจา
รูปัง อะนัตตา เวทะนา อะนัตตา สัญญา อะนัตตา
สังขารา อะนัตตา วิญญาณัง อะนัตตา
สัพเพ สังขารา อะนิจจา สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ
เต (ตา) มะยัง โอติณณามหะ ชาติยา ชะรามะระเณนะ
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ
ทุกโขติณณา ทุกขะปะเรตา อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ
ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ
จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง
ภะคะวันตัง สะระณังคะตา
ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ
ตัสสะ ภะคะวะโต สาสะนัง ยะถาสะติ ยะถาพะลัง
มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ
สา สา โน ปะฏิปัตติ
อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุ

*จบทำวัตรเช้า แต่อาจต่อด้วยคาถากรวดน้ำตอนเช้าดังนี้ (มีข้อสังเกตุว่ามีหลายสำนวนด้วยกันและจะไม่เหมือนกัน)

633 Nameless Fanboi Posted ID:HoIUgW1Sth

สัพพปัตติทานคาถา (กรวดน้ำระลึกพระคุณ)

(ผู้นำสวดเริ่มว่า หันทะ มะยัง สัพพะปัตติทานะคาถาโย ภะณามะ เส)
ปุญญัสสิทานิ กะตัสสะ ยานัญญานิ กะตานิ เม
เตสัญจะ ภาคิโน โหนตุ สัตตานันตาปปะมาณะกะ
เย ปิยา คุณะวันตา จะ มัยหัง มาตาปิตาทะโย
ทิฏฐา เม จาปยะทิฏฐิ วา อัญเญ มัชฌัตตะเวริโน
สัตตา ติฏฐันติ โลกัสมิง เต ภุมมา จะตุโยนิกา
ปัญเจกะจะตุโวการา สังสะรันตา ภะวาภะเว
ญาตัง เย ปัตติทานัมเม อะนุโมทันตุ เต สะยัง
เย จิมัง นัปปะชานันติ เทวา เตสัง นิเวทะยุง
มะยา ทินนานะ ปุญญานัง อะนุโมทะนะ เหตุนา
สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชีวิโน
เขมัปปะทัญจะ ปัปโปนตุ เตสาสา สิชฌะตัง สุภา (จบแล้วกล่าวเพิ่มว่า)
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง อะหัง วันทามิ (กราบ)
คะรุอุปัชฌายะอาจาริยะคุณัง อะหัง วันทามิ (กราบ)

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.