สปอยเทียนกวานอาร์ค 5 ต่อจาก >>648 เทียนกวาน Part.158
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนถามฮวาเฉิงว่าอีกฝ่ายต้องดูบาเรียที่เมืองหลวงมาที่นี่จะไม่เป็นไรหรือ แถมจวินอู๋ก็จับตาอยู่ด้วย อ๋องผีตอบว่าเขาให้คนมาช่วยดูแทนแล้ว คงอีกพักหนึ่งกว่าความจะแตก ทั้งยังอธิบายเพิ่มว่าเทพแห่งฝนที่ให้ความช่วยเหลือตนได้เข้าร่วมเหตุการณ์เขาตงลู่ การที่เธอมาตามเชคสถานการณ์บนสวรรค์จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่สำคัญจวินอู๋ไม่มีทางกล้าทำอะไรเธอ เพราะในปัจจุบันเทพที่ดูแลเรื่องการเพาะปลูกของมนุษย์มีคนเดียว หากขาดเธอไปภพมนุษย์จะเกิดความโกลาหลแล้วกระทบถึงสวรรค์กับตัวจวินอู๋เอง
หลังจากนั้นเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงก็หลบออกจากตำหนักเพื่อไปตามหาราชครู ตอนที่อยู่บนหลังคาของตำหนักหนึ่ง ทั้งสองก็พบกับเจียนหลันที่วิ่งตามวิญญาณตัวอ่อนมาพอดี โชคดีที่ทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นพวกเขา พอผีสาวสังเกตเห็นป้ายว่าที่นี่คือตำหนักของเฟิงซิ่นก็รีบเรียกลูกกลับ แต่เฉาเชาก็วิ่งซนเข้าไปด้านในจนไปปะกับเฟิงซิ่นเข้า วิญญาณตัวอ่อนเลยเตะของอัดหน้า แถมกัดอีกฝ่ายเลือดอาบ เฟิงซิ่นด่าแล้วขู่จะตี แต่ก็ถูกเจียนหลันตอกกลับว่าเขาไม่มีสิทธิ์ตีลูกของเธอ พอเฟิงซิ่นกล่าวว่าทำไมวิญญาณตัวอ่อนถึงได้ทำตัวแย่แบบนี้ แถมยังไปตามจวินอู๋ทั้งๆ ที่เขาเป็นพ่อ ทั้งสองเริ่มทะเลาะกัน เฟิงซิ่นบอกว่าเจียนหลันเป็นฝ่ายไล่เขาไม่ใช่หรือ ผีสาวเลยเหลืออด บอกว่าที่เธอเอ่ยเช่นนั้นก็เพื่อช่วยเหลืออีกฝ่าย เฟิงซิ่นถูกคนซ้อม ต้องเหน็ดเหนื่อยจนโทรม พอเหนื่อยมากๆ ก็อารมณ์เสีย เขาเองก็รู้แก่ใจดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือว่าด้วยจำนวนเงินที่เขาตรากตรำแสดงข้างถนนในตอนนั้นไม่มีทางที่จะแสดงความภักดีต่อเซี่ยเหลียนและราชาไปพร้อมกับไถ่ตัวเธอจากซ่องได้ ของมีค่าเพียงชิ้นเดียวอย่างผ้าผูกเอวทองคำที่มอบให้ก็ย้ำว่าไม่ให้ขายเด็ดขาด ในเมื่อเขาไม่ยอมเลือกสักทาง ถ้าเธอไม่ปล่อยเขาไปจะให้เธอทำยังไง ปล่อยให้เขาทรมานจนตายไปทั้งอย่างนั้น ยากลำบากจนถึงจุดที่เขาเกลียดเธอ รำคาญเธอ เบื่อเธอ และไม่อยากเห็นหน้าเธออีกต่อไปเพราะเป็นตัวภาระอย่างนั้นหรือ
ไม่ใช่แค่เฟิงซิ่น แม้แต่เซี่ยเหลียนที่แอบฟังอยู่ก็ถึงกับพูดไม่ออก ในตอนนั้นเซี่ยเหลียนใช้ชีวิตอย่างลำบากจนลืมนึกถึงเพื่อนที่อยู่ข้างกัน เฟิงซิ่นที่ทำงานจนเหน็ดเหนื่อย เฟิงซิ่นที่เดี๋ยวมีความสุข เดี๋ยวก็เครียด เฟิงซิ่นที่เคยบากหน้าขอยืมเงินของเขา ยามที่เขาเจ็บ เฟิงซิ่นก็เจ็บ แม้เฟิงซิ่นจะพยายามช่วยเหลือเซี่ยเหลียน แต่สุดท้ายพวกเขาต่างก็ทนทุกข์จนถึงจุดที่ไปกันต่อไม่ได้ เจียนหลันคาดการณ์ได้ถูกต้องจริงๆ
พอพูดเสร็จเจียนหลันก็ทำท่าจะจากไป เฟิงซิ่นร้องขอไม่ให้เธอไป เอามือดึงผมตัวเองเหมือนโศกเศร้าจนเริ่มทนไม่ไหว เขาบอกว่าตอนนี้เขาก็ยังอยากดูแลเธอกับลูก และให้สัญญาว่าเขาจะทำตามนั้นจริงๆ เจียนหลันหันกลับมาบอกว่าไม่จำเป็น เธอรู้ว่าเฟิงซิ่นรังเกียจเฉาเชาและมองลูกไม่ต่างจากปีศาจตนหนึ่ง แต่เฟิงซิ่นก็บอกว่าตราบเท่าที่เฉาเชายังกลับสู่ทางที่ถูกต้อง เขาก็รับได้ แต่เจียนหลันก็ตอกความจริงอีกว่าในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ เขากล้ายอมรับหรือว่าเฉาเชาคือลูกชาย คำถามนั้นทำให้เฟิงซิ่นนิ่งไปพักใหญ่ เพราะในฐานะเทพ สิ่งนี้จะกลายเป็นมลทินที่ส่งผลต่อผู้ศรัทธา กุศล และชื่อเสียงของเขาอย่างมาก แต่ไม่ทันที่เขาจะตอบ เจียนหลันก็ห้ามไว้ บอกว่าเธอไม่เชื่อคำพูดของเขา เพราะฉะนั้นอย่าพูดอะไรอีกเลย เมื่อผีสาวอุ้มลูกชายจากไปโดยไม่ฟังเสียงเรียก เฟิงซิ่นที่ถูกทิ้งไว้ก็ทิ้งตัวนอนกุมหน้าผากบนพื้นตำหนักเพียงลำพัง
ฮวาเฉิงชวนเซี่ยเหลียนเปลี่ยนเรื่องคุยว่ายังจำได้หรือไม่ในคดีเจ้าบ่าวผี วิญญาณตัวอ่อนชักนำเซี่ยเหลียนไปหาคนร้ายตัวจริงของคดี ในเมื่อวิญญาณตัวอ่อนเป็นลูกน้องจวินอู๋ นั่นย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายคือตัวการ แต่ทำไปทำไมและเพื่ออะไร คนที่จะตอบข้อสงสัยของพวกเขาได้คงมีเพียงราชครูเท่านั้น ตอนนั้นเองผีเสื้อที่ฮวาเฉิงส่งไปสืบข่าวก็ได้รู้ว่าตอนนี้ราชครูถูกขังไว้ในตำหนักหลิงเหวิน แต่เพราะตอนนี้หลิงเหวินใส่เสื้อคลุมอมตะ หากพวกเขาไม่ระวังตัวเสื้อคลุมคงรู้ตัว และเมื่อเทพสาวรู้ เธอต้องรายงานเรื่องนี้แก่จักรพรรดิสวรรค์แน่ แต่ด้วยความที่เสื้อคลุมอมตะมีอายมาร และการใช้สวมใส่มันโดยเฉพาะในร่างชายย่อมทำให้พลังทิพย์หมดเร็ว สักพักเธอต้องถอดมันออกมาแน่นอน และพวกเขาจะอาศัยโอกาสนั้นแอบบุกเข้าไปช่วยราชครูออกมา
.
.
.
.
.