กู >>148 เอง >>150 ใช่เลย แต่พ้อยท์มันเล่นกับสงครามเย็นด้วย ช่วงค่ายโซเวียตแยกตัวสู้ คนนึงเป็นเจ้าหน้าที่เคจีบี อีกคนเป็น SAS มั้ง สก๊อตแลนด์ สังกัดบริเตน / ถ้าไม่นับตรงประเด็น rape และซ้อมกันไปมาตอนแรกด้วยความคนละขั้วการเมือง กูนับว่ามันไม่ค่อย romanticize เรื่องนี้ เพราะหลังจากนั้นตัวคนที่ถูกข่มไม่เคยให้เอาเลย คนทำดันเป็นฝ่ายยอมให้ตลอด (พ่อเคจีบีผมบลอนด์กู5555) จนหลังๆ พอมันมีความรู้สึกให้กัน อีกคนถึงยอมให้ทำ / แต่แม่มมีประเด็นความมั่วอย่างทั่วถึง พอค้นพบตัวตนมันก็ไม่ได้รักเดียวใจเดียว แต่บอกว่าสัมพันธ์ทางกายไม่เกี่ยวกับความรู้สึก ที่หนึ่งคือพ่อเคจีบี เป็นเซ็ตเปิดโลกกูมาก 25 ปีในชีวิตสองคนอะ5555 กูเลยมองว่ามันน่าจะเป็นความจริงระดับนึงของสังคมเกย์ เซ็กส์ส่วนเซ็กส์ make love for fun ซึ่งสาววายจะไม่เขียน
>>151 ใช่ กูชอบความ YA ตรงที่มัน coming of age ให้เห็นว่าคนที่เขาเป็น lgbt จริงๆรับมือกับสังคมยังไง เออใช่ กูนึกถึง danish girl ด้วย เนี่ยอะไรแบบนี้ที่มันมีความเชิงสังคม เหมือนที่โม่งบนพูดถึง pride ถ้านักฉอดอยากทำตัวมีสาระจริงๆ กูก็อยากไล่ให้ไปอ่านงานที่มันเป็น gay lit บ้าง
แต่บ่นไปก็เท่านั้น ประเด็นโอเพ่นในวายกระแสหลักก็แทบจะไม่มีเลย อาจมีซีนเรียกน้ำตากับครอบครัวนิดนึงตอนรู้ว่าคบผช แต่แทบไม่มีใครพูดถึงความเปลี่ยนแปลง/การปรับตัว/รับมือในใจของตัวคนที่เป็น lgbt / แต่ก็พอเข้าใจได้ ส่วนใหญ่คนเขียนก็ไม่ได้เป็นเกย์กันอะ แบบเกย์ ผช ชอบ ผช
กูว่าตราบใดที่ไม่มีประเด็นตรงนี้ ที่กุ้งม่วงบอกจะชูความหลากหลาย ก็คงเป็นแค่คำสวยหรู