กูมองว่าพวกฉอดล่าแม่มดนี่มันทำเกินไปว่ะ คนเขียนนิยายส่งผลต่อการสร้างค่านิยมผิดๆให้คนอ่านก็จริง แต่คำถามคือที่ฉอดล่าแม่มดจนทำให้นักเขียนแสดงออกอะไรที่ผิดศีลธรรมไม่ได้เลยนี่มันไม่ต่างกับคอมมิวนิสต์เหรอวะ? แถมเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด อย่าลืมว่าทุกคนเป็นมนุษย์ที่มีกิเลสสิวะ สิ่งที่ผลิตจากคนมันไม่สมบูรณ์แบบหรือบริสุทธิ์นักหรอก มึงบังคับให้คนเลิกคิดเรื่องผิดศีลธรรมไม่ได้พอๆกับขจัดคนร้ายไปให้หมดโลกนี้ไม่ได้ มันถึงมีคำกล่าวที่บอกว่าถ้าวันไหนคนร้ายมีเยอะเพ่นพ่านเต็มถนนแล้วทำประชาชนเดือดร้อน มึงต้องไปผลักดันคนดี สร้างตำรวจหรือกฎหมายมาควบคุมให้โจรออกไปจากท้องถนนให้มากที่สุดสิ และถ้าอยากให้งานผลิตน้ำเน่าลดน้อยลงก็ผลิตงานน้ำดีให้มากขึ้นมากๆจนสังคมยอมเปลี่ยนได้
นั่นแหละมันคือโครงสร้างของทุกสังคมว่าพวกมึงต้องร่วมมือกัน ถ้าจะเป็นคนผลิตก็อย่าบิดเบือนในงานผลิตตัวเองว่าถูกต้อง อย่าชี้นำว่าเรื่องผิดศีลมันถูกต้องและไม่มีผลร้ายตามมา กูว่าจะตั้งพาสหรือเขียนคำเตือนว่าควรอ่านแบบวิจารณญาณหรือไม่ควรเลียนแบบพฤติกรรมตัวละคร ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยาก ส่วนคนอ่านหัดรับผิดชอบตัวเองด้วย การจัดเรทไม่ได้หมายถึงเรื่องมันมีแต่ปล้ำๆเยๆกันอ่านให้ฟิน มันไม่ใช่ว่ามึงเท่มึงเก่งที่อ่านเรื่องเรทสูงๆได้ แต่มันคือการจัดเรทควบคุมว่ามึงพร้อมที่จะรับผิดชอบตัวเองรึยัง รับสารพวกนั้นแล้วเอาไปฝังในหัวได้มากน้อยแค่ไหน อย่าเชื่อทุกอย่างที่นิยายเขียน หัดหาข้อมูลเพิ่มเติมเองบ้าง ส่วนพวกฉอดศีลธรรม มึงไม่ใช่เจ้าลัทธิที่จะทำให้คนเป็นคนดีบริสุทธิ์ได้หมดจดหรอก ยิ่งไปจิกหัวให้คนทำตามกรอบศีลธรรมมากมึงจะยิ่งก่อศัตรูที่ทำให้ประเด็นของมึงถูกปัดตกได้ หัดใช้หัวมากๆในการจูงใจคนซะบ้างถ้าแคร์อยากให้ประเด็นของพวกมึงน่าฟัง
และงานผลิตน้ำดีน่ะ ถ้ามันเกิดยากในสังคมก็สู้กันสิวะ คนอ่านเขาชอบjunk foodแต่ถ้าคิดว่ามันแย่ต่อสังคมขนาดนั้นก็ทำให้อาหารคลีนมันมีคุณค่า มีความอร่อยดึงดูดใจให้ได้สิ อย่าสักแต่ผลักภาระด่าแต่คนผลิตjunk foodว่าทำร้ายสังคม ปากบอกว่าทำไมต่างประเทศมันไม่มีงานผลิตผิดๆเยอะเท่าบ้านเรา ทำไมบ้านเมืองอื่นเขาแยกแยะได้ พวกมึงก็ย้อนดูปัญหาโครงสร้างของบ้านเราก่อนสิว่าทำได้แค่ไหน พฤติกรรมคนเป็นแบบไหน แล้วมองว่ามันคือปัญหาของทุกบทบาทในสังคม ถ้าอยากแก้ไขก็พยายามกับมันให้มากกว่านี้สิ
มันต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างแหละอย่าใจร้อนก็พอ