>>361 >>364 ไม่ใช่ว่ากูไม่เก็ตความคิดพวกมึง กูบอกไปก่อนหน้านี้แล้วใช่ไหมว่าไปดูนิยามของคำว่าก็อปก่อน ก็อปคือลอกนะคะมึง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ ไม่ใช่ได้รับอิทธิพล ไม่ใช่ยำใหญ่ แต่ยำใหญ่ลอกทั้งประโยคนี่ก็อป
กูรู้ว่าคนที่ยำใหญ่เอาเรื่องของคนโน้นคนนี้มาเขียนเป็นนิยายตัวเองมีจริง แต่พวกมึงอย่าลืมว่าความบังเอิญก็มีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถึงต้องว่ากันที่หลักฐาน มึงไม่ชอบเขา มึงอ่านงานเขาแล้วนึกถึงทวิตคนนั้นคนนี้ หรือนิยายเรื่องนั้นเรื่องนี้ มึงทำได้แค่วิจารณ์ค่ะ มึงมีสิทธิ์บอกว่า "รู้สึกเหมือนเอาทวิตหลายๆทวิตมายำรวมกัน" มีสิทธิ์บอกว่ากลวง มีสิทธิ์บอกว่าไม่ชอบ แต่มึงไม่มีสิทธิ์พูดว่าก็อป นอกจากมึงจะบอกว่าก็อปของมึง ไม่ใช่ก็อปที่แปลว่าลอก ก็อปของมึงเป็นอะไรที่กว้างกว่านั้น เท่าที่อ่านมา ก็อปของมึงคือ "เอาล่ะ กูเห็นด้วยกับความเห็นนี้ เอาแนวคิดนี้ไปเขียนในนิยายดีกว่า" แค่นี้มึงก็ว่าก็อปแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ และกูพยายามจะบอกมึงแล้ว
กูไม่ได้กะเกณฑ์ให้พวกมึงคิดแบบกู แต่อย่างน้อยก็อปควรจะแปลว่า "ลอก" มั้ยล่ะ มึงลองคิดดูถ้ามึงออกไปพูดแบบนี้ในเฟส หรือในทวิต แล้วมีคนคิดว่านักเขียนคนนี้ "ละเมิดลิขสิทธิ์" งานคนอื่นมา ชื่อเสียงเขาเสียหายนะว่าทำผิดข้อกฎหมายอาญา ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะโทษหนักสุดที่คุกสามเดือนหรือไงนี่แหละ แต่ถ้ามันไม่จริง ตัวมึงเองก็จะเป็นฝ่ายผิดในการกล่าวหาคนอื่นว่ากระทำผิดกฎหมายอาญานะ ถึงได้บอกไงว่าไม่ใช่เรื่องลอยๆ มันมีชีวิตคนจริงๆ มีคุกจริงๆอยู่ข้างนอกนั่นน่ะ ต้องพูดกันที่หลักการ แล้วนี่พวกมึงมึหลักการอะไร กูเห็นแต่ความรู้สึก เห็นแต่อารมณ์