Last posted
Total of 1000 posts
งั้นกูขอเรียกว่านำไปต่อยอดดัดแปลงโดยที่เจ้าของไม่ได้อนุญาตละกัน
>>346 ไม่จบค่ะ การกล่าวหาว่าก็อปนี่ร้ายแรงนะคะ ถ้ามึงไม่มีหลักฐาน มึงควรยอมรับว่ามึงกล่าวหาเขาอย่างเลื่อนลอยโดยพล่อยปาก นิยามคำว่าก็อปของมึงไม่มีหลักการ ไอ้ที่มึงบอกว่ารู้ทั้งรู้ว่าก็อปเนี่ย รู้จริงแค่ไหน คิดไปเองหรือเปล่า ถ้าไม่มีหลักฐาน สิ่งที่มึงกำลังทำก็คือการกล่าวหาคนอื่นด้วยอคติส่วนตัวของมึง
งั้นถามหน่อย อย่างโซตัสที่เอาแฮชแท็กที่เล่นกันในทวิตเตอร์มาตั้งเป็นชื่อนิยายเป๊ะๆเลย แถมเอามุกที่เล่นๆกันในนั้นมาดัดแปลงอีก แบบนี้เรียกว่าก๊อปมั้ย ในสายตาโม่งมองว่าน่าเกลียดรึเปล่า?
ถ้าอ่านแล้วบอกว่า "ทำให้นึกถึงทวิตนั้นนี้" อันนี้กูว่าไม่ได้ผิดอะไรนะ แต่คำว่าก็อป ก่อนจะพูดออกไป ลองศึกษานิยามของมันก่อนมั้ยล่ะ พลาเจียนี่มีโทษทางอาญาด้วยนะ ไม่ใช่แค่แพ่ง จะกล่าวหาใครในข้อหานี้ มึงต้องมีหลักฐานจริงๆ มันเหมือนกล่าวหาว่าเขาเป็นขโมย เพราะงั้นอย่าลอย ไม่สนุก ไม่ตลก โดนเขาฟ้องมาก็ไม่ตลก คิดดีๆก่อน อย่าเอาแต่คะนองปาก ในโม่งนี่ไม่รู้ใครเป็นใคร แต่ชีวิตคนจริงๆอยู่ข้างนอกนั่น กูรู้ว่าถ้าชีวิตใครจะพังเพราะลมปากพวกมึง พวกมึงก็คงไม่ได้รู้สึกผิดหรอก นั่งอยู่คนละฝั่งหน้าจอ หน้าตายังไม่เคยเห็นกันด้วยซ้ำ จะเอาอะไรมารู้สึกผิด แต่ก็นั่นแหละ สำนึกผิดชอบชั่วดีของพวกมึงไม่เกี่ยวกับกู ที่เหลือพวกมึงก็คิดเองแล้วกัน
>>351 กูพูดตรงๆ นั้น ทุกครั้งฝ่ายที่โดนก๊อปจะต้องทนทุกข์ตลอดเมื่อกัน เพราะมันไม่มีหลักฐานเป๊ะๆ ไง บางอย่างอะมึง อ่านดูก็รู้ว่าเอามายำๆๆๆๆ เหมือนนิยายหลายๆ เรื่อง คนเล่นทวิตมีที่ไหนจะไม่เห็นทวิตฉอดการเมืองผ่านตาบ้าง อ่านแปปนึงก็คุ้นแล้วมึง ขนาดกูไม่ใช่โม่งนั่นไปอ่านก็ยังรู้เลยว่าเอามายำ เพราะมันตื้นเขิน มาจากทวิตฉอด ไม่ได้มาจากออริจินอล อ่านปุ๊บก็รู้ อย่างเรื่องแทคพี่ว๊ากก็เหมือนกัน ทุกนักเขียนที่มีเรื่องแม่งก็บอกให้เอาหลักฐานออกมา แต่มันเอาไปบิดเบือน ดัดแปลงแล้ว สุดท้ายคนโดนลอกก็ทำไรได้ป่าว เรื่องพวกนี้พูดไปก็หาว่าเอาหลักฐานมาอย่างเดียว แต่ก็นั่นละ สำนึกผิดชอบชั่วดีของนักเขียนบางคนมีน้อย คิดเอาเองละกัน
ถ้ามึงเป็นอินักฉอดปสด.ในทวิตมาปกป้องเพื่อนฉอดด้วยกัน กูมองบนเลยนะ ฉอดได้ทุกเรื่อง บางเรื่องมีมูลนิดเดียวมึงก็เอามาฉอดจนเขาเสียหายกันไปตั้งเท่าไหร่ ทำนักเขียนพังไปตั้งเท่าไหร่เพราะการฉอดของมึงเหมือนกัน ทำลายสุขภาพจิตเขา นี่มันโม่งอยู่ในที่ปิดด้วยซ้ำโม่งคุยกันในนี้ ทีพวกแม่งไล่ฉอดคนในทวิตเอาเขาไม่ผุดไม่เกิดแต่ละตัวสำนึกบ้างมั้ยล่ะ เดี๋ยวนี้ทวิตเตี้ยนแม่งแดนปสด.ทำร้ายคนกว่าโม่งอีก
>>353 แล้วเอามายำคือก็อปรึเปล่า ผ่านการดัดแปลงแล้วคือก็อปไหม มึงเอาแค่นี้ก่อน นิยายเขาจะตื้นเขินจะแบนจะอะไรกูไม่สนใจทั้งนั้น กูต้องการแค่ประเด็นก็อป มันก็อปจริง หรือมันแค่สะท้อนกระแสสังคมในโลกความเป็นจริงกันแน่ ต้องขนาดไหนถึงจะเรียกว่าก็อป มึหลักอะไรมาตัดสินไหม นี่กูเห็นแต่เอาความรู้สึกตัวเองมาตัดสิน "รู้ทั้งรู้" บ้างล่ะ "คุ้น" บ้างล่ะ ความรู้สึกมึงเที่ยงตรงจริงเหรอ รู้ได้ไงว่าไม่อคติ แล้วถ้าไม่ใช้หลักฐาน จะให้ใช้อะไร กล่าวหาเลื่อนลอยแค่ลมปาก แล้วก็เชื่อๆกันไปเพราะคนที่โดนกล่าวหาคือคนที่มึงเกลียดเหรอ เหตุผลอยู่ตรงไหน
กูไม่ใช่นักฉอดอะไรที่ไหนทั้งนั้นแหละ กูแค่สงสัยว่าทำไมถึงหาว่าเขาก็อป กูไม่ได้ชื่นชมอะไรกับนิยายเขาด้วยซ้ำ แต่จากที่พวกมึงพูดๆกันมา มันไม่ได้เข้าข่ายพลาเจียไง งงตรงไหน แล้วแน่ใจเหรอว่าทวิตเตี้ยนทำร้ายคนกว่าโม่ง นี่พวกมึงกำลังกล่าวหาว่านักเขียนคนนึงก็อปงานโดยไม่มีหลักฐานอยู่นะ
>>358 มึงไปเถอะ ถ้าใช้เกณฑ์หลักฐานเป๊ะมาตัดสินนะ กูไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำจะไปอคติทำไม กูก็เข้าไปอ่านนิยายเข้าวันนี้จนหมดเพราะเห็นคนรีทวิตมา แล้วกูก็ไม่ใช่คนที่พูดว่าก็อปด้วย มึงว่าพี่ว๊ากก็อปไหมล่ะ? มึงว่าบารามอส กับนักเขียนจอมดัดแปลงคนนั้นก็อปไหม? ถ้าใช้เกณฑ์มึงคือเกณฑ์เดียวกับสนพ.คือไม่ก็อป แค่มีกลิ่นออก สะท้อนสังคมได้ไหมก็ได้ไง มึงจับทวิตมายำได้มันไม่ผิด แต่โม่งก็มีสิทธิ์วิจารณ์ป่าวว่ามันหากินง่ายๆ เอาคอนเทนต์ผ่านตาที่เป็นกระแสตอนนั้นมายำ อ่านดูก็รู้ปะวะ คนอื่นจะเชื่อไม่เชื่อมันก็ไปอ่านเองดิ กูอ่านกูก็มาโม่งลง ทำไม? โม่งมันทำร้ายคนน้อยกว่าอยู่แล้ว กูได้ไปฉอดใส่เขามั้ย?? แล้วมึงเป็นอะไรมากะเกณฑ์ว่าโม่งต้องพูดแบบนี้ ต้องแบบนี้ ต้องห้ามสงสัย
ถามว่าก็อปมั้ยก็ไม่ไง ถ้ามึงใช้หลักฐานเป็นเกณฑ์ มึงคิดว่าที่ผ่านมานักเขียนที่จับคอนเทนต์มายำผสมมันรอดมาด้วยวิธีไหนล่ะ มันได้ดิบได้ดีทุกวันนี้โดยไม่โดนฟ้องเพราะอะไรล่ะ
>>359 ก็กูที่เป็นต้นเรื่องคำว่าก๊อปไม่ได้พูดถึงเขาในแง่ที่มึงยกมาไง เข้าใจมั้ย ต่อให้คุยกันอีกกี่สิบโพสมันก็ไม่จบเพราะมันคุยคนละมุม มุมของมึงไม่ได้ผิดถูกต้องตามพลาเจียและกฎหมายแต่มุมของกูคือพฤติกรรมการเอาคอนเทนต์ของคนอื่นมาดัดแปลงซึ่งมึงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดแบบที่กูพูดอยู่แล้วเพราะงั้นกูถึงบอกว่าจบไง จบตรงที่บรรทัดฐานมันไม่เท่ากันกูไม่สามารถพูดให้มึงเข้าใจในสิ่งที่กูคิดได้และถึงกูจะเข้าใจสิ่งที่มึงพูดกูก็ไม่สามารถเห็นด้วยได้ทั้งหมดเช่นกัน อย่างที่บอกว่านักเขียนคนนี้ไม่มีโพเทนเชียลที่จะเป็นนักเขียนที่ดีแบบที่มึงว่าด้วยซ้ำ นักเขียนที่ดีแม้แต่การจะคิดคอนเท้นต์ออกมาเองยังไม่ได้ต้องอาศัยดัดแปลงจากของคนนั้นคนนี้มานับว่าดีตรงไหน มึงจะเถรตรงต่อไปแบบนี้ก็ได้แต่ความคิดแบบมึงไม่มีทางเข้าใจแนวคิดแบบพวกกูไง มึงกะกูมองคนละมุมใช้คำคนละความหมาย ถามว่ากูยอมรับเรื่องที่มึงพูดมั้ยกูยอมรับกูเห็นด้วยในหลายๆแง่แต่มึงยอมรับความเห็นของพวกกูได้มั้ยล่ะ มึงเก็ตพ้อยท์คำว่าก๊อปที่กูพูดได้มั้ยล่ะ มึงไม่เก็ตไง แล้วจะให้กูพูดยังไงถึงจะเข้าใจ การนิยามคำว่าก๊อปจากผลตัดสินของศาลมันก็สื่อตัวตนมึงแล้ว มึงจะให้กูพูดยังไงให้มึงเข้าใจล่ะว่าความหมายของคำว่าก๊อปของมึงกับกูมันอยู่คนละเส้นคนละบรรทัดฐานของแนวคิดเลย
>>360 จากความรู้สึกกู ถ้าเขามีคอนเทนต์ที่เขาต้องการจะสื่อต่างหาก เช่นเขายกประโยคพวกนั้นไป แล้วบอกว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของทวิตด่ารัฐบาลในโลกสมมติของเขา เขายกไปเพื่อเน้นความเฮงซวยของรัฐบาลสมมติ อันนี้กูว่าไม่ผิด มันคือการสะท้อนโลกความเป็นจริง
แต่ถ้าเขายกประโยคเท่ๆไปสวมในบทบรรยาย "ทุกคำ" ประหนึ่งว่านั่นเป็นความคิดเขาเอง อันนั้นนอกจากจะน่าเกลียดแล้ว ยังผิดกฎหมาย เป็นพลาเจียด้วย
ที่กูต้องเน้นว่า "ทุกคำ" เพราะความคิดคนเรามันซ้ำกันได้จริงๆ ความบังเอิญมีจริงๆ แล้วถ้าเขาแค่บังเอิญล่ะ การไปกล่าวหาว่าเขาลอกก็ไม่ยุติธรรมเลยนะ เพราะเขาก็คิดขึ้นมาอย่างลำบากลำบนด้วยสมองของตัวเองเหมือนกัน
>>364 มึงได้อ่านหรือยังล่ะ แล้วมึงจะเข้าใจ การเขียนหนังสือเพื่อสะท้อนโลกความจริงเป็นยังไง? สำหรับกูงานของเขาไม่มีเส้นเรื่อง ไม่มีแก่นเรื่อง ไม่มีใจความอะไรอย่างที่มึงบอกเลย จับคอนเทนต์ตอนนั้นมาเป็นกระแสแบบเห็นได้ชัด "เขาไม่ได้ก็อป" กูพิมพ์ให้เลยถ้ามึงอยากได้คำนี้ แต่ที่โม่งคุยกันเพราะมันคือเอาคอนเทนต์มายำ มันไม่ได้หยิบแก่นของการเมืองออกไปแตกประเด็นออกไปเล่า แนวทางของนิยายที่เดินเรื่องมันก็เดินทื่อแบบนั้น พูดให้ตายก็ไม่เข้าใจ กูเหนื่อยจะคุย
จบงวดนี้มึงไปสมัครงานสนพ.สถา/รได้เลย กูเพลีย
บังเอิญเป็นชุดๆ กูก็ไม่แปลกใจทำไมพวกขี้ก็อปขี้ยำมันถึงลอยหน้าลอยตาได้เต็มโลกอินเทอร์เน็ตขนาดนี้แหละนะ ฝั่งนักวาดก็เจอเหมือนกัน 5555
เคสแบบนี้กว่าจะรอให้ละอายใจเองกูว่าคงขายหนังสือจนรวยไปแล้วอ่ะงั้น
>>361 >>364 ไม่ใช่ว่ากูไม่เก็ตความคิดพวกมึง กูบอกไปก่อนหน้านี้แล้วใช่ไหมว่าไปดูนิยามของคำว่าก็อปก่อน ก็อปคือลอกนะคะมึง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ ไม่ใช่ได้รับอิทธิพล ไม่ใช่ยำใหญ่ แต่ยำใหญ่ลอกทั้งประโยคนี่ก็อป
กูรู้ว่าคนที่ยำใหญ่เอาเรื่องของคนโน้นคนนี้มาเขียนเป็นนิยายตัวเองมีจริง แต่พวกมึงอย่าลืมว่าความบังเอิญก็มีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถึงต้องว่ากันที่หลักฐาน มึงไม่ชอบเขา มึงอ่านงานเขาแล้วนึกถึงทวิตคนนั้นคนนี้ หรือนิยายเรื่องนั้นเรื่องนี้ มึงทำได้แค่วิจารณ์ค่ะ มึงมีสิทธิ์บอกว่า "รู้สึกเหมือนเอาทวิตหลายๆทวิตมายำรวมกัน" มีสิทธิ์บอกว่ากลวง มีสิทธิ์บอกว่าไม่ชอบ แต่มึงไม่มีสิทธิ์พูดว่าก็อป นอกจากมึงจะบอกว่าก็อปของมึง ไม่ใช่ก็อปที่แปลว่าลอก ก็อปของมึงเป็นอะไรที่กว้างกว่านั้น เท่าที่อ่านมา ก็อปของมึงคือ "เอาล่ะ กูเห็นด้วยกับความเห็นนี้ เอาแนวคิดนี้ไปเขียนในนิยายดีกว่า" แค่นี้มึงก็ว่าก็อปแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ และกูพยายามจะบอกมึงแล้ว
กูไม่ได้กะเกณฑ์ให้พวกมึงคิดแบบกู แต่อย่างน้อยก็อปควรจะแปลว่า "ลอก" มั้ยล่ะ มึงลองคิดดูถ้ามึงออกไปพูดแบบนี้ในเฟส หรือในทวิต แล้วมีคนคิดว่านักเขียนคนนี้ "ละเมิดลิขสิทธิ์" งานคนอื่นมา ชื่อเสียงเขาเสียหายนะว่าทำผิดข้อกฎหมายอาญา ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะโทษหนักสุดที่คุกสามเดือนหรือไงนี่แหละ แต่ถ้ามันไม่จริง ตัวมึงเองก็จะเป็นฝ่ายผิดในการกล่าวหาคนอื่นว่ากระทำผิดกฎหมายอาญานะ ถึงได้บอกไงว่าไม่ใช่เรื่องลอยๆ มันมีชีวิตคนจริงๆ มีคุกจริงๆอยู่ข้างนอกนั่นน่ะ ต้องพูดกันที่หลักการ แล้วนี่พวกมึงมึหลักการอะไร กูเห็นแต่ความรู้สึก เห็นแต่อารมณ์
แต่คนนี้เขาทั้งลอก ทั้งดัดแปลง ทั้งแรกบันดาลใจนะคะมึง มึงจะเอาลอกไหน ลอกคำทั้งหมดยังไม่มี(เพราะเดี๋ยวโดนจับได้แคปไปฉอด) แต่ลอกคอนเทนต์ชัดๆ
เพราะการลอกทุกอย่างต้องเป็นนามธรรม ต้องมาในรูปละเมิดลิขสิทธิ์มันถึงได้ทำกันเยอะ จากนั้นก็ขู่ฟ้อง ฟาดงวงงาขู่กฎหมาย
กูจะเลิกด่าว่าก็อปว่าลอกละ บอกว่าน่าไม่อายแทนละกันนะ
ไม่ได้ลอกก็ได้ค่ะ แค่ยกประโยคแมสๆ ในทวิตมาใช้เฉยๆ เหมือนเพจในเฟซบุ๊กที่ชอบแคปทวีตแมสๆ ไปโพสต์ คุรพี่ ID EVNMKVvshC พอใจยังคะ
คนที่ไหนเค้าจะมานั่งดีเฟ้นเรื่องนิยามของคำว่าก็อปไม่ก็อปพร้อมปกป้องการยำงานขนาดนี้ถ้าตัวเองไม่ได้ทำ หรือคนที่ตัวเองอวยทำกันล่ะนะ
กรณีนี้กูว่าเห็นชัดอยู่นะ แต่ส่วนตัวกูอคติเพราะกูหมั่นที่เขาอีโก้ยกยอตัวเองเป็นน้ำดีจากการหยิบๆ มาเขียนใส่ เหยียดสนพอื่นอีก รำคาญโม่งที่มาปกป้องเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ด้วย เหมือนคุยกับลูกหาบ
>>375 ไม่อ่ะ เอาจริงๆเลยนะ สมัยก่อนน่ะยังพอมี พวกได้ตีพิมพ์ทีละหมื่นเล่มอะไรงี้ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้วแหละ มาตรฐานอยู่ที่ 3000 เล่มมั้ง นักเขียนจะได้อยู่ราว 8-12% แล้วแต่สำนักพิมพ์ ตีเฉลี่ยๆสัก 10% แล้วกัน สมมติหนังสืออย่างหนาเล่มละสามร้อย ก็ได้ 30*3000 = 90,000 เท่านั้นเอง สมมติปีนึงเขียนสักสามเล่ม ก็ได้ 270,000 เฉลี่ยรายได้เดือนละ 22,500 เท่านั้น และถ้าไม่ได้ตีพิมพ์ซ้ำ ก็ต้องเขียนไปเรื่อยๆ ไม่มีขึ้นเงินเดือนนะ มันอาจจะดูเยอะสำหรับเด็กจบใหม่ แต่ห่างไกลคำว่ารวยมากเลย
ถ้าไม่ได้มีปมทำเองคงไม่มานั่งเถียงกับโม่งทุกความเห็นเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนี้ ขนาดเถียงอยู่คนเดียว เอาประโยคแมสๆ มา คอนเทนต์กระแสมาใช้ มายำ ตามสามัญสำนึกคนเราคงไม่ได้มาพุ่งประเด็นเรื่องก็อปทุกคำกับโม่งหรอก สามัญสำนึกแล้วมันก็ต้องคำว่าหากินแบบนี้หน้าไม่อาย
แหมะ เมื่อต้นปียังมีนักเขียนจอยที่โกยเงินจากฟิคป๋อจ้านเป็นแสนๆในเวลาไม่กี่เดือนอยู่เลยนิ
>>378 กูไม่ได้เขียนนิยาย และถึงกูจะเขียนกูก็ไม่คิดจะก็อปใคร แต่กูมีปัญหาเพราะกูคิดว่าเขาไม่ได้ก็อป เขาไม่ควรถูกกล่าวหาแบบนี้มั้ย
และสิ่งที่มึงกำลังทำนี่คือพยายามลดทอนความน่าเชื่อถือของตัวกูโดยอ้างว่ากูมีส่วนได้ส่วนเสีย แต่นั่นไม่ได้ทำให้คำพูดกูมีเหตุผลน้อยลงนะ
เหตุผลของมึงคืออะไรล่ะ นอกจากต้องการให้โม่งเลิกใช้คำว่าก็อปเพราะไม่ได้ลอกทุกคำตามบทกฎหมาย โม่งก็เปลี่ยนเป็นหน้าไม่อายแล้วไง มึงพอใจยังคะ
>>388 มึงไม่มากูก็เรียกเขาแบบนั้นอยู่แล้วนะ ตอนกูตอบมึงกูไม่ได้มองด้วยซ้ำว่ามึงเป็นคนไหน เพราะงั้นมึงไม่มีส่วนอะไรเลยนอกจากคิดเอาเองว่ากูเกลียดเขาและคิดเอาเองว่ากูกำลังกล่าวหาเขาในนิยามที่มึงพูดถึง ส่วนตัวมึงเองบางทีควรเริ่มคิดนะว่าทำไมถึงไม่มีใครเห็นด้วยกับตรรกะมึง มึงเข้าใจคำว่าก๊อปที่พวกกูกำลังพูดจริงๆหรือตรรกะมึงบ้งเอง
อ่ะ ดูเหมือนทุกคนมีประเด็นกับกูหนักมาก แต่กูยืนยันว่าถ้าจะกล่าวหาใครว่าก็อป มึงต้องมีหลักฐาน และกูรู้สึกผิดมากที่ถามถึงเรื่องก็อปขึ้นมาจนทำให้คนไปด่านักเขียนคนนั้น กูถึงได้มาดีเฟนด์ให้ แต่ดูเหมือนยิ่งอธิบายพวกมึงก็ยิ่งด่าเขานะ กูไม่ได้ทำงานในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ กูเป็นแค่นักอ่านที่ตามเพจสนพ.มาหลายปีแล้ว กูจะรู้เรทราคาอะไรก็ไม่แปลกหรอก เคยเห็นดราม่าเรื่องก็อปมาหลายครั้งแล้วด้วย เคยเห็นนักเขียนที่พังเพราะโดนกล่าวหาผิดๆ เคยเห็นนักเขียนที่กูเองก็คิดว่าก็อป แต่รอดเพราะไม่มีหลักฐาน แต่ใดๆก็ตาม ก่อนมึงจะกล่าวหาใคร มึงก็ต้องมีหลักฐาน มีหลักการ มีคำนิยาย มึงมาพูดลอยๆไม่ได้ ไม่ว่าจะมีกี่คนที่เห็นด้วยกับมึงก็ตาม แต่ถ้าไม่มีหลักยึด มันก็ไม่ต่างอะไรกับไม้หลักปักขี้เลน หลักของมึงจะเอนเอียงไปมาได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับความรู้สึกของมึง และนั่นทำให้มึงไม่น่าเชื่อถือ
มึงจะคิดว่ากูเป็นนักเขียนที่ก็อปมา เลยร้อนตัว หรือเป็นคนทำงานในสนพ.อะไรก็ตาม นั่นเป็นจินตนาการของมึง แต่นั่นไม่ได้หักล้างเหตุผลของกู ถ้ามึงไม่มีหลักฐาน มึงไม่ควรกล่าวหาใคร แต่สิ่งที่พวกมึงกำลังทำคือตะโกนว่า "ต่อให้ไม่มีหลักฐาน แต่ถ้ากูจะกล่าวหา กูก็ทำได้" ซึ่งกูคิดว่ามันผิดนะ
คือไม่เสือกดิ
คือตรรกะมึงบ้งมากจริงๆ ...มึงพยายามเล่นบทนางเอกให้นักเขียนมากกว่าพวกกูไม่มีหลักฐานไปกล่าวหาเขา ซึ่งโม่งทั้งหลายก็ได้พยายามให้มึงเข้าใจอยู่ว่าเพราะใช้ตรรกะมึง พวกที่ก็อปทั้งหลายมันถึงอยู่รอดไง ทุกคนอ่านหนังสือมาเป็นร้อยๆ พันๆ เล่ม ทั้งนักเขียน สนพ. เด็กอักษรบลาๆๆ ใส่โม่งมาดิสคัสกันในนี้ ทำไมเขาอ่านจะไม่รู้กันว่าอันไหนมันลอก มันแรงบันดาลใจ อันไหนมันจับคอนเทนต์มาปัดๆ ถูๆ อันไหนมันบังเอิญเหมือน อันไหนลอกพล็อตวนในอ่าง ถ้าเอาผิดเป็นชิ้นเป็นอันหลักฐานอย่างที่มึงว่ามันจับไม่ได้อยู่แล้ว เขาก็ได้แค่ประนามกัน โม่งอื่น ๆ ไม่เห็นด้วยกับมึงจึงแย้งไง
>>396 กูเก็ทพอยท์มึงนะ เพราะคำว่า ก็อป มันก็แรงจริงๆ และการจะพิสูจน์ว่านักเขียนคนไหนก็อปมันก็ควรจะมีหลักฐานยืนยันชัดๆอย่างที่ดิ้นไม่หลุดอะ
ยกตัวอย่างก็กระทู้แหกโรเซเนียในพันทิป เคสนั้นแม่งชัดมากเลยว่าก็อปคาร์จริงๆ ถึงจะไม่ได้ก็อปประโยคต่อประโยคอย่างที่มึงบอก แต่ลักษณะต่างๆของคาร์มันก็ชัดเจนแล้วว่าก็อปมา
ส่วนคนเขียนส-ลิ่มนี่ กูว่าถ้าเขาก็อปไอเดียมาจากทวิตเตอร์จริงๆ ทีมแหกอาจจะหาหลักฐานยากหน่อยว่ะ เพราะระบบเสิร์ชของทวิตเตอร์แม่งห่วยบัดซบ เพราะงั้นก็อยู่ที่คนรับสารคนอื่นๆแล้วแหละว่าจะเชื่อการกล่าวหาลอยๆตรงนี้มั้ย โดยส่วนตัวถ้าไม่มีหลักฐานแน่ชัดกูก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าก็อป แต่กูก็ไม่คิดจะออกตัวแรงเรียกหาหลักฐานหรือปกป้องเขานะ
กูว่าให้เป็นหน้าที่คนอื่นพิจารณาเองก็ได้มั้งว่ามันเข้าแก็ปก็อปไม่ก็อป ยำไม่ยำมั้ย ถึงไม่ก็อปมาเป๊ะๆ แต่รู้ทั้งรู้ว่าจับมายำใหญ่ใส่สารพัด กูก็ปกป้องให้ไม่ลงอยู่ดีมั้ยล่ะ
กูรอคนอื่นนอกจากนี้มาคุยละกัน เผื่อมีเหตุผลที่ฟังขึ้นกว่า ถ้าโม่งอื่นมามึงก็ไปอ่านเรื่องแล้วก็ใช้วิจารณญาณเอาเอง
ถ้าไม่เป็นคนผลิตที่โดนเอาคอนเทนต์ซึ่งคิดเองไปยำใหญ่โดยตัวเองไม่ได้อะไรเลยก็อาจจพไม่เข้าใจว่ารู้สึกถูกก็อปมันเป็นไงอ่ะ
>>402 ตอนแรกน่ะกูถามเขาว่าก็อปมาเหรอ ก็อปอะไรมายังไง เพราะกูไม่รู้เรื่องนี้ไง กูไม่ได้ถามหาหลักฐานอะไรด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เขาตอบมันลอย กูก็เลยบอกว่า เฮ้ย ถ้างั้นอันนี้น่าไม่ผิดอะไรนะ มันคนละเรื่องกับโรเซเนียหรือบารามอส แล้วทุกคนก็ซัดกระแสอารมณ์ใส่กูว่าเพราะคิดอย่างกูนี่ไง นักเขียนเลวๆขี้ก็อปมันถึงได้รอด แต่เดี๋ยว มึงเคยคิดถึงกรณีที่บังเอิญเหมือนมั้ย มันมีจริงๆนะ อย่างวงการนักวาดก็เพิ่งผ่านไปไม่นานนี้เอง ที่ประนามเขาสามภาษาว่าก็อปน่ะ ถ้ามึงจะสงสารคนถูกก็อป มึงช่วงแบ่งมาสงสารคนที่อาจจะโดนกล่าวหาผิดๆด้วยได้มั้ยล่ะ มึงจะทำยังไงถ้ามึงเข้าใจผิด การอ่านหนังสือมาเป็นร้อยๆพันๆเล่มไม่ได้การันตีว่ามึงจะไม่มีอคติ และนักเขียน สนพ. กับเด็กอักษรไม่ได้มีญาณทิพย์หยั่งรู้ว่าใครลอกไม่ลอกมั้ย มันถึงต้องว่ากันไปตามหลักการไง กูไม่ได้ถามหาหลักฐานมาดีเฟนด์ให้นักเขียนหรอก กูแค่อยากให้คนที่กล่าวหาใครด้วยข้อหานี้มาพร้อมหลักฐานเท่านั้นเอง มันไม่ควรจะชี้นิ้วด่าใครด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะกับใครก็เหอะ
ประจานสามภาษาสุดท้ายก็ไม่ได้เคลียร์นี่ว่าก็อปไม่ก็อป แถมเคสนี้ส่วนตัวกูก็ยังคิดว่าก็อปด้วยซ้ำ มึงจะมองว่าเค้าไม่ก็อป มันไม่เหมือนในสายตามึงก็แล้วแต่ แต่กูมองแล้วรู้สึกว่ามันก็อป เชื่อหลักฐานที่อีกฝั่งพูด ก็เรื่องของกู
เฮ้อ กูรู้สึกว่าแล้วแต่ละ บางทีก็อาจจะต้องเจอกับตัวอ่ะ ถึงจะรู้ว่ากูกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ขอให้ทุกคนอยู่ดีมีสุข อย่าโดนกล่าวหาผิดๆโดยไม่มีหลักฐานเข้าสักวันแล้วกัน
แต่เอาจริงๆนะ เรื่องแบบนี้ ทุกคนต้องเจอแหละ ขึ้นอยู่กับหนักหรือเบาเท่านั้นเอง ถึงตอนนั้นมึงอาจจะเข้าใจว่ากูพูดอะไรอยู่ก็ได้
จากเรื่องฉอดในทวิต ลากมาเรื่องก็อปไม่ก็อปแล้ว เอาว่ะ
กูว่าจะกล่าวหาใครก็ควรมีหลักฐานก็ถูกแล้ว อันนี้มันหลักสากลไม่ใช่เหรอวะ แฟร์ๆ ดีออก
จากที่โม่งบอกนขคนนั้นเอาเครดิตออกเพราะจำไม่ได้ว่าเอามาจากไหน ไม่นับเป็นหลักฐานหรอ อันนี้กูถามจริงๆนะ ไม่ได้กวนด้วย เพิ่งเข้ามาตามอ่าน ไม่รู้จักตัวนขที่เป็นประเด็น ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลย แค่เข้ามาอ่านเฉยๆ ^^'' ถ้าเอาเรื่องก็อป/ไม่ก็อป การยำและแรงบันดาลใจ มันขึ้นกับจิตสำนึกล้วนๆ ถ้าต้องเอามาเป็นประโยค ยกมาทั้งดุ้นนับว่าก็อป(แบบกฎหมาย) โคตรน่าสงสารคนที่โดนก็อป นานาจิตตังเพราะบรรทัดฐานการตัดสินไม่เหมือนกัน และจากที่นั่งอ่านมาแทบทุกความเห็นของเพื่อนโม่ง การยำสำหรับกูคือลอกคือก็อปว่ะ มันคือการลอกนิดสลับหน่อย ไม่มีใครหรอกที่จะลอกมาโต้งๆ ให้โดนด่าอะ สามัญสำนึกล้วนๆ เลย
กุเห็นนักฉอดเข้าไปกัดแอคเฟมทวิตเรื่องสาววาย55555555555
นขคนนั้นจะก๊อปหรือไม่ก๊อปกูไม่รู้หรอกนะ และกูเห็นด้วยที่ว่ายำใหญ่เป็นการก๊อป แต่การจะรู้ว่าเขาก๊อปมันก็ต้องมีอย่างน้อยบางประโยคที่ไปเหมือนกับต้นฉบับไม่ใช่เหรอวะ แสดงว่ามันก็ต้องมีหลักฐานดิ ป้ะ? งั้นพวกมึงจะทะเลาะกันทำไม นี่คือการกล่าวหาแบบมีหลักฐานไม่ใช่เหรอ
แต่ๆๆๆ แต่นะ แต่ถ้าไม่ใช่ อันนี้กูกลัวแทน >>322 ละนะ ไหนๆก็ลากมาเรื่องกม.แล้ว พวกมึงรู้ใช่มั้ยว่าถึงจะเป็นโม่ง แต่แอดมินพร้อมส่งข้อมูลให้ตำรวจถ้ามีหมายศาลนะโว้ย และมึงพูดเต็มปากเต็มคำเลยว่าเค้าก๊อปอ่ะ ถ้าเค้ามาเห็นแล้วฟ้องขึ้นมานี่บันเทิงละนะ
ถ้าจะมีคนโดนฟ้อง ไอ้โทรลโดนไปนานแล้วเมิง อีห้องเน็ตวอชอีก
55555555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555
กูตัดบรรทัดให้ด้วย กลัวโม่งมันปัดเป็นแถวยาวๆ
ถามว่าลอกไหม มันก็เป็นเรื่องที่เคยมีคนโพสในทวิตแล้วทั้งนั้นอ่ะ คนรี 2-3 หมื่นกูไม่ค่อยสนพวกนี้ยังเคยผ่านตามาบ้างเลย ยิ่งเรื่องอิกนอแร้นยิ่งใช่ มีคนการันตีให้แล้วว่าถ้าเอามาปรับๆแต่งๆเขียนแล้วปังแน่นวล คนอ่านตบโต๊ะปังๆๆๆ แต่หาตัวคนเขียนคนแรกยากหน่อยเพราะส้มเองก็เอาเรื่องพวกนี้มารีเขียนใหม่หลายรอบเหมือนกัน ทวิตซ้ำเนื้อหาคล้ายๆกันก็มีควายรีให้อยู่ดี ปังๆฟาดๆมากแม่
Ky สวยพี่สวย https://www.ทวิตเต้อ.com/op_synziac/status/1275111651189026816
นักฉอดก็พลังงานล้นเหลือดีนะ ฉอดกันบ่อยฉิบหาย
ฉอดกันชิบหายทวิตเนี่ย ใครเสียงดังหน่อยคนก็เฮโลตามกัน แข่งกันกระแทกกระทั้ง อย่างกับสาวกศาสดาคนโง่หัวขนุนในเฟสเลยสัส
>>427 กูรำคาญเวลามีคนบ่นว่าเดี๋ยวนี้ทวิตเตอร์ไม่น่าอยู่/ทวิตเตอร์บรรยากาศแย่ อีพวกทีมฉอดจะต้ิงลุกมาชี้หน้าด่าว่าอีพวกอิ๊กนอแร้น! ทนอยู่ในทวิตเตอร์ไม่ได้เพราะหล่อนมันอันเอ๊ดดูเคทล่ะสิ! คือไม่ได้รู้ตัวกันเล้ยว่าเพราะทีมฉอดแม่งชอบทำตัวแบบนี้กันไง คนถึงบ่นว่าไม่น่าอยู่
กูรีพอดว่าเป็น harmful แล้วบล็อคละ สบายใจดี 555555
ถามจีง โม่งกล้าว่าทวิตทั้งๆที่ตัวเองก็เม้าท์กันมาถึงมู้70เนี่ยนะ 555555555
ky เห็นวันก่อนมีโม่งพูดถึงเรื่องเซ็กทอย กูเห็นข่าวเรื่องการยื่นเสนอเรื่องเซ็กทอยถูกกฎหมายมึงว่าเราจะพอมีความหวังกันมั้ยวะ
งั้นทวิตก็ไม่ได้มีอะไรดีสูงส่งไปกว่าโม่งอะเนอะ แถมยังมุดลงโม่งมาอีก 😏 ไอ้ที่ฉอดๆ ชาวบ้านเค้าก็ไม่ได้มีไรชวนฟัง ก็แค่อยากด่าชาวบ้าน ยกหางตัวเองสูงๆ เข้าไว้
>>431 กุไม่รู้จะหวังอะไรเพราะกุไม่ได้ใช้ แต่ก็คิดว่ามันไม่ได้มีอะไรเสียหายนะ ส่วนมากก็คนซื้อซือใช้เอง ไม่เห็นจะต่างกะการช่วยตัวเองตามปกติตรงไหน เอาเข้ามาแล้วขอให้คุมการจำหน่ายได้จริงๆ ชนิดประหลาด harmful ก็แบนซะ อัดภาษีเข้าไปหนักๆหน่อยรัฐก็ได้ประโยชน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจากที่เห็นข่าวที่มีคนอัดคลิปใส่ของเล่นลงเวบโป๊แล้วเกิดเรื่องงอกมาบนดิน(ใช่มั้ยกุเห็นแว่บๆ) กุว่าไม่มีทาง
>>430 แล้วที่พวกกูด่าทวิตมันผิดตรงไหน พวกกูก็พูดถูก ทั้งเรื่องนักฉอดเหี้ยๆ ทั้งเรื่องดราม่าตอนนี้ ยังไม่ได้เอาทวิตมาเทียบโม่งสักคำ หรือว่าจริงๆ มึงคือแอคใน >>423 วะ ทำไมจะด่าแอปอื่นไม่ได้วะ ทุกคนต้องมาพิมพ์ตามคำสั่งมึง ต้องมาทำให้ถูกใจมึงเหรอ มึงเป็นใครวะทุดคนต้องมาทำตามที่มึงพูด ตลก ถ้ามึงเป็นแอคใน423จริง มึงก็หาประเด็นอื่นมาคุยดิ ถ้าไม่จุดประเด็นใหม่พวกกูก็ไม่หยุด เอาเรื่องบนดินมาเม้าท์มันคือจุดประสงค์ของมู้นี้อยู่แล้ว
>>433 มึงก็โม่งเช่นกันจ้าที่รัก
ทำไมเวลาใครพูดไม่ถูกใจ โม่งบางคนชอบแซะว่า หรือมึงจะเป็นคนนั้นคนนี้ หรือมึงเคยทำแบบนั้นแบบนี้วะ อุตส่าห์มาอยู่ในโม่งที่ไม่ต้องสนตัวตน สนแต่เนื้อหาที่พูดแท้ๆ กุอ่านตั้งแต่อิดราม่าก๊อปเมื่อคืนแล้วนะ แล้วนี่โม่งก็นินทาชาวบ้านมา 70 มู้จริง บางคนตรรกะก็บ้งจริง อย่างที่อ้างว่านักเขียน สนพ เด็กอักษรอ่านหนังสือมาเยอะ ต้องรู้อยู่แล้วว่าใครก๊อปไม่ก๊อปนั่นน่ะ ถามจริง มีเหตุผลเหรอวะ ใช้เด็กอักษรเป็นหนึ่งในเกณฑ์เนี่ยนะ 55555555 ต่างจากทวิตตรงไหน ต้องเยินยอโม่งเหรอ
จู่ๆ พวกมึงก็แห่เข้ามาว่าโม่งพร้อมกันหมด เหมือนนักฉอดนัดเข้ามาอ่าน อีกอย่างที่พูดกันหมายถึงโม่งมันลับกว่าไม่ได้ลากคนไปฟาดประจานล่าแม่มดแบบทวิตนี่หว่า ไม่ได้หมายความว่าโม่งมันไม่มีบ้ง มึงเข้าใจไรผิดป่าว บ้งของโม่งอยู่แบบโม่ง วิจารณญาณเป็นของมึง บ้งของนักฉอดคือถ่มถุยน้ำลายใส่หน้าโคว้ตด่าไปก่อนไงวะ
>>438 นี่งะ เหมือนนักฉอดเข้ามาอ่าน? เนี่ย พอเห็นไม่เหมือนกันก็ชอบบอกว่าเขาจะต้องเป็นคนที่โดนด่าแน่ๆเลยมาเถียง เขาแค่ไม่เห็นด้วยกับมึง แล้วไม่มีอะไรทำ ว่างพอจะมาเถียงมึง แค่นี้ไม่ได้เหรอ แล้วอย่าบอกว่าไม่ได้ลากใครมาด่าแบบในทวิต นู่น มึงย้อนขึ้นไปนู่น ไม่ต้องไกลก็ได้ แล้วค่อยพูดอีกที
>>443 ต่างตรงที่ว่าโม่งมันยกมาคุยกันในโม่งไง ทวิตมันเหมือนไปตะคอกใส่หน้าคนเจ้าของทวิต นักเขียนตรง ๆ ให้กูเลือกสองอย่างกูว่าบางอย่างที่มึงคิดไม่ตรงเอามาคุยในโม่งดีกว่าไปฉอดใส่เจ้าของทวิตป่าว เขาไม่เข้ามาดูโม่งก็จบเรื่องไป กูไม่ได้หลอกตัวเองว่ากูดีอะไรกูไปบอกตอนไหนวะ กูแค่อาจจะไม่ชอบนิยายเรื่องไหนเลยเอามาบ่นในโม่งเพื่อมาคุย แต่กูก็ไม่ได้อยากไปบอกนักเขียนเขาไง ไม่ได้ทักเขาไปว่าตอนนี้เขียนไม่ชอบอิพระเอก เป็นไรมากป่าว มึงเก็ทพ้อยต์กูมะ
อ๋อ แค่เพราะไม่ได้ไปบอกกับเจ้าตัวตรงๆเลยไม่แย่เท่าทวิตนี่เอง จริงๆมันก็แค่ด่าต่อหน้ากับด่าลับหลังมั้ย
>>444 จำนวนคนมีผลต่อความถี่ว่ะ อาจจะแคปไม่บ่อยเท่าเพราะคนน้อยกว่าก็ได้ แต่หลังๆนี่ก็เห็นเกือบทุกวันอยู่นะมึง 5555555 แล้วใช้ชื่อย่ออ่ะ บางทีก็ไม่ได้ใช้ ไม่งั้นจะด่ากันรู้เรื่องได้ไง แหม ไอ้ที่บอกชาวทวิตด่าคนอื่นแล้วยกหางตัวเองสูงๆเนี่ย กูว่าในนี้ก็มี พอกันทั้งนั้นแหละ
แข่งกันเป็นคนดีอยู่หรอ 😂
ใครเยินยอโม่งวะ ก็แค่บอร์ดๆนึงเอง โม่งก็เหมือนทวิตเตอร์ พันทิปแหละ มันมีคนหลายประเภทมารวมกัน อย่างเรื่องประเด็นเปโดคนยังหลากความเห็นเลยแล้วแต่ว่าใครจะอยู่ไม่อยู่บอร์ด ไม่มีใครสามารถคุมความเห็นคนอื่นได้ว่ะ 70กว่ามู้ก็บู๊กันเองซะเยอะ เห็นด้วยเรื่องคุยในโม่งทั้งทีอย่าชี้ว่าใครเป็นใคร กูก๊อปไกด์ไลน์โม่งแปะจนบางทีโดนคนด่าว่าเจ้าตัวมาเองหลายรอบแล้ว555
กูไม่ได้เยินยอว่างโม่งมันคนดีเลยนะเว้ย ส่วนนึงกูไม่ชอบนักฉอดเพราะเมนชั่นไปฉอดมันก็ทำร้ายคนเขาป่าววะ ถึงโม่งมันจะลับหลังข้อดีของมันคือใจนักเขียนบาง ๆ ไม่ต้องพังไง แล้วไงวะมันไม่โอเคยังไง55555 อีกอย่างนี่มันมู้หนังสือไม่ใช่เหรอ กูจะคุยจะเม้าท์เรื่องมู้หนังสือลับหลังกับโม่งด้วยกันก็เรื่องของกูป่าววะ กูงอง ให้กูเลือกบ่นหนังสือกูก็มาบ่นในโม่งไง กูไม่ได้อยากไปด่านักเขียนเขานี่หว่า อีกอย่างมันก็ความเห็นกูคนเดียวมึงจะมาเหมากูทำไม โม่งด้วยกันเองมันก็ตีกันทุกวัน
มันก็ตัวตนอุปโลกน์ทั้งนั้นแหละ ด่าข้างบนข้างล่าง อ่านด้วยความเสี่ยงของตัวเองไปจ้า ไม่ต้องมาเทียบกันหรอก
>>439 ใครหวังให้ทุกคนคิดแบบกูเอ่ย5555+ กูไม่ได้หวังให้ทุกคนคิดแบบกู แต่เห็นมึงเข้ามาทะลุกลางปล้องพร้อมกับข้ออ้างเบสิคของพวกนักฉอดที่ฉอดคนอื่นได้แต่ตัวเองโดนมั่งไม่ได้ กูเลยสงสัย ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป
และใช่ พวกกูนินทาลับหลังในหลืบในซอก ไม่งั้นคงไม่มาที่นี่ ถ้าจะบอกก็พูดไปแล้ว ไม่มาลงโม่งหรอก
>>451 ถ้างั้นกูเห็นด้วยว่าถ้าจะวิจารณ์นิยายแรงๆ มาในโม่งก็อาจจะดีกว่า กูคิดว่าโม่งเป็นที่ๆดีมากที่กูจะวิจารณ์งานเพื่อนกูได้ตรงๆโดยไม่ต้องกลัวโดนเลิกคบ แต่ที่กูคิดว่าโม่งไม่น่าจะไปด่าทวิตเตี้ยนเนี่ย เพราะบางทีโม่งไม่ได้ด่านิยาย โม่งด่าคนเขียนว่ะ ไม่ได้หมายถึงมึงนะ กูออกตัวไว้ก่อน แค่บางคนฉอดแรงจนกูแอบเชียร์ให้นักเขียนมาเห็นแล้วฟ้องเป็นตัวอย่างซักที เผื่อจะรู้ตัวกันว่าต่อให้อยู่ในโม่งก็ไม่ควรปากหมาน่ะ
>>453 ข้ออ้างเบสิคของพวกนักฉอด ถถถถถถ แค่เพราะมีคนคิดต่างกับมึงก็สงสัยว่าเป็นคนในทวิตมาเล่นโม่งเนี่ยนะ ละมันจะต่างกับที่ข้างบนๆพิมพ์มายังไงเอ่ย แล้วด่าอิทวิตอย่างนู้นอย่างนี้ โม่งหลายๆคนก็เล่นทวิตเหมือนกันมั้ย ไม่งั้นจะรู้เรื่องจนเอามาเม้าท์(akaนินทา)ได้ไงกูแค่อยากบอกว่าที่ในโม่งเม้าท์คนอื่นกันมันก็พอๆกับที่ในทวิตฉอดคนอื่นนั่นแหละ ยังมีหน้าไปว่าเค้าว่าฉอดจนคนอื่นเสียใจ/เสียเซลฟ์/ดีเพรส/ไม่กล้าแต่งนิยาย โม่งก็เป็นพับลิคแพลตฟอร์มแบบทวิต ใครเข้าเว็บมาก็อ่านได้หมดเหมือนกัน ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองชัดๆ
>>454 กูว่าด่าได้ มึงงง คนเล่นทวิตยังด่าคนที่เล่นทวิตด้วยกันเลย มันไม่มีที่ไหนหรอกนะที่ด่าะวกเดียวกันได้แต่คนอื่ยห้ามด่า แถมโม่งAด่านักเขียนกับโม่งBด่าทวิตยังเป็นคนละคนได้ด้วย ต้องปรับความคิดต่อโม่งก่อนว่าแต่ละคนเป็นปัจเจกบุคคลแยกจากกันไม่ใช่ทุกคนเป็นโม่งอันหนึ่งอันเดียว
>>451 โทดทีกูไม่ได้จิ้ม กูหมายถึง >>437 คือมันเป็นบอร์ดนึงจะประชดด้วยการเยินยออะไร ความน่าเชื่อถือยังไม่มีเลยเพราะไม่ได้บอกตัวตนดูกันที่ความเห็น คนอ่านก็ต้องคิดวิเคราะห์เอง นี่มู้เม้า
แล้วสรุปทำไมนักฉอดถึงกล้าโควตด้วยคำพูดกระแหนะกระแหนนะ
เอ้า ไม่ประชดก็ไม่ประชด งั้นพูดดีๆก็ได้ กูไม่เห็นด้วยที่โม่งบางคนบอกว่าทวิตมันแย่งั้นงี้ ทั้งที่ความจริงโม่งก็ไม่ต่าง ด่าทวิตย้อนเข้าโม่งทั้งนั้น
แล้วอย่าเพิ่งเถียงว่าใครอวยโม่งเหรอ เพราะบางทีไม่ต้องพูดอวยโม่งก็ได้ แค่การบอกว่าทวิตแม่งเหมือนพวกมากลากไปว่ะ มันก็เหมือนบอกเป็นนัยๆแล้วว่าแต่โม่งไม่เป็นนะ มึงเก็ตพ้อยน์กูมั้ย
ในโม่งนี่แม่งมีทั้งลากคนมาด่า นินทา ชี้หน้าว่าโม่งคนนั้นคนนี้ต้องเป็นไอ้นั่นไอ้นี่แน่ๆ (แล้วพอโดนเถียงว่าไม่ใช่ก็บอกว่า ไม่ใช่ก็แล้วไปสิ) กล่าวหาชาวบ้านแบบไม่มีมูล นึกจะพูดอะไรก็พูด ซึ่งถามว่าทำได้มั้ย กูก็ขอบอกว่าอยากทำก็ทำไปสิ คนอ่านก็พิจารณาเองแล้วกัน แต่ถ้าที่โม่งข้างบนโน้นพูดมามันจริง คือโม่งไม่ได้ปลอดภัย 100% ก็ควรจะเซฟๆตัวเองกันบ้างนะ เขาไม่เคยฟ้องกันไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการฟ้องตลอดไป แล้วบางเม้นต์นี่โคตรเสี่ยงเลย โดยเฉพาะในดราม่าเมื่อคืน ด้วยความหวังดี
ฉอดในโม่งกับฉอดในทวิตต่างกันตรงในทวิตมึงลากไปรุมตีนใส่แอคๆนึงได้ สภาพมันต่างกัน โม่งมันเปลี่ยนไอดีไปเรื่อยๆ ที่มาฉอดพร้อมกันโม่งก็ไม่ได้นัดหมายแต่ในทวิตคือนอกจากทวิตระบุลอยๆ ลากพวกไปรุมตีนแล้วยังมีการโควทการดมนขั่นแซะตรงๆต่อหน้าอีก ระดับกสรกระทืบกระเทือนมันต่างกัน แต่ไม่ใช่ว่าโม่งจะดี ก็อย่างที่รู้ว่าที่นินทาที่ชอบมาเพราะมันไม่มีตัวตน กุมาบ่นพวกนักฉอดในนี้เพราะถ้าบ่นลงทวิตกุโดนทัวร์แน่ๆ ไม่ได้เสียใจเพราะคำพูดแม่งหรอกแต่หัวอุ่น
กุว่าโม่งอิสระในการdiscussกันมากกว่าทวิตเยอะเรยมึง แบบไม่จำเป็นต้องแสร้งๆคิดว่าอย่างนั้นเพราะกลัวจะโดนคนมองไม่ดี คิดไงก็พูดงั้นซึ่งควรจะเป็นtable for discussion อารมณ์แดกข้าวละคุยกันง่ะ
โทดที กูอาจจะแหวกมาช้าไปหน่อย กูเพิ่งได้อ่านข้อความเมื่อวานเรื่องก๊อปไม่ก๊อป มันมีอีกคำที่เหมาะกว่าสำหรับเคสนี้ อาจจะเป็น paraphrase ว่ะ พาราเฟสแบบเอาข้อความคนอื่นมาดัดเป็นข้อความของตัวเอง กูเห็นเคสนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน นข ที่เข้ารอบซีไรต์โดน นข อีกคนท้วงเรื่องนี้ เพราะเขาเอาข้อความคนอื่นมาพาราเฟสเป็นของตัวเอง โดนจิกให้ใส่คำอธิบายทั้งในหน้าประกาศ หน้าตอน และถ้านำไปตีพิมพ์ต้องถึงขั้นชี้แจงบนหน้ารองว่ามีการนำข้อความคนอื่นมา แบบนี้คือเทคแอคชั่นที่กูมองว่าพอรับได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่อ่านปย ที่พาราเฟสมาแล้ว ดื่มด่ำไปแล้วอวยไปแล้วทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้คิด และไม่เห็นประกาศก็ยังมี เคสแบบนี้แม่งก็เหมือนที่พวกมึงคุยกันบนโน้นเลย ใดๆก็ไม่ส่งผลดีต่อต้นความคิด
ดังนั้นสำหรับกู แรงบันดาลใจ/ยำใหญ่/พาราเฟส = ละเมิดลิขสิทธิ์ความคิดเหมือนกัน อยู่ที่ฝ่ายไหนอยู่ที่แจ้งหรือสว่าง หรือจะโดนแหกมั้ย ซึ่งโรเซเนีย บารามอส และอื่นๆ ในสถพ เสือกเป็นเคสที่รอดตัวเพราะมีชื่อหน่อย และต้นความคิด (ญป) คงไม่มานั่งแหกให้
สรุปว่าโม่งดีกว่าทวิตตรงที่ไม่ต้องเปิดแอคหลุมอันใหม่มาบ่นเท่านั้นแหละ 555555555555
ถ้าไงก็พยายามคุมๆไว้ให้อยู่ในโซนเม้าหนังสือแล้วกันเนอะ กูว่าอย่าลามปามไปตัวบุคคลเลย สมัยนี้แล้ว ใครคิดว่าอยู่ในเน็ตตามตัวไม่ได้ก็ไร้เดียงสาเต็มทน แล้วโม่งก็ลบความเห็นไม่ได้ด้วย ถ้านขคนไหนมาเห็นแล้วจะเอาเรื่อง ก็หนีไม่น่าพ้นอ่ะ 555555555555555
เห้อ ในโม่งก็ยังจะมากะเกณฑ์คำพูดกันเน้อ ใครอยากพูดอะไรแล้วมันอาจจะโดนเล่นก็เรื่องมันเถอะ
>>464 เปล่า ไม่ได้มีเจตนาจะกะเกณฑ์คำพูดใครหรอก กูจะไปห้ามใครได้ล่ะ กูแค่คิดว่ามันควรจะมีลิมิตของมันนะ ดราม่าข้างบนสำหรับกูแล้วมันเกินไปนิดนึงเพราะข้อกล่าวหาแรงอ่ะ เหมือนมึงไม่ควรไปชี้หน้าด่าคนที่มึงไม่รู้จักว่าเป็นขโมย แค่เพราะเขาใส่สร้อยที่หน้าตาเหมือนสร้อยทำมือของเพื่อนมึง แต่ตั้งข้อสังเกตได้ว่าเหมือนกันจัง อะไรเงี้ย แต่ถ้าอยากวิจารณ์ก็ทำไปเหอะ จะคุยกันเรื่องก๊อปเรื่องพาราเฟรสเรื่องพาโรดี้หรืออะไรก็แล้วแต่เลย เรื่องพวกนี้มันวิจารณ์โดยสุจริตอ่ะ ต่อให้ไปวิจารณ์ในทวิตยังได้เล้ย ไม่ต้องโม่งหรอก
โห บ่นในทวิตว่าไม่ชอบบรรยากาศทวิตก็ไม่ได้ มาบ่นในโม่งก็ยังอุตส่าห์มีคนตามมาปกป้องทวิตอีก กูล่ะยอมใจ ทวิตเตอร์นี่มันแอพหรือศาสนาวะ /จากโม่งที่มีแอคทวิตสิบแอค
โม่งก็นินทาแบบนี้อยู่แล้ว ใครลอก ตรงไหนแปลกๆ ทำไมเมิงมาเตือนโดนฟ้องจังวะ เห็นตั้งแต่เมื่อคืนละนะ 55555555
แล้วสรุปประเด็นเปลี่ยนจากอีนขคนนั้นเป็นโม่งตีกันเอง/โม่งฉอดทวิตฉอด 555555 เก่งจังวะ
ถ้าโม่งฟ้องได้จริงเน็ตว้อชมันโดนยับ บอร์ดโม่งปิดไปตั้งนานแล้วมึง ทำไมพอด่านักฉอดในทวิตก็มีคนตามมาปกป้องกันจังวะ
คนเมื่อคืนนั่นกูรึไงล่ะ กูเตือนเพราะคิดตามที่เขาเตือนตะหากโว้ย ที่เขาพูดก็จริงอ่ะ กูว่าบางทีโม่งคะนองไป เซฟตัวเองไว้ก่อนมันเสียหายตรงไหนล่ะ
https://twitter.com/fhso_/status/1275310837968691206?s=21 ก้คือชอบบอกคนอื่นด้วยด่าเป็นสันดานของพวกนักฉอดสินะ อืมๆ
เล่นโม่งมาสามสิบปี เพิ่งมีวันนี้แหละค่ะที่โม่งไม่น่าอยู่ขนาดนี้😔
ในทวิต ถ้ากุไม่เห็นด้วยกับแอคฉอดกุกลายเป็นหลิ่ม เปนผชกลุ่มทะเนด เป็นทุกอย่างที่โดนยัดเยียดให้ ส่วนในนี้กุเป็นแค่โม่งปากดีตัวนึง 5555 บ้งแค่ไหน พอไอดีเปลี่ยนกูก็ชุบตัวใหม่ อิอิ
แล้วจู่ๆ ก็อยากจะฟ้องกันเองแล้ว 555555555555555555 อินขนั่งขำคิก
โม่งจะขู่ฟ้องโม่งกันเองแล้วเหรอ ทั้งที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใครอะนะ 555555555555
555555655665555555555555555555555555655665555555 แกะรอยกันมันส์แน่งานนี้ กูมาเชียร์ ป็อปคอร์นพร้อมแล้ว //ดึงม้านั่ง
เผื่อพวกมึงจะตีกัน ในฐานะผู้ชม กูขอบอกว่าแค่นั้นไม่พอ ต้องขอไอดีจาก sirn +ค่าแกะรอยต่ออีกตั้งสองแสนกว่า ไม่มีอะไรมาบอกเฉยๆ อยากเห็นคนตีกันเลยมาบอกทริค
ขู่จังเลย โอ้ยกลัวววว
ว่างๆนั่งคุ้ยทวิตหาที่มาแรงบันดาลใจมาแหกดีกว่า จะได้รู้ว่าใครจะฟ้องใคร อิอิ
จริงๆ กูจะพูดนานแล้วว่า อีการหาว่าใครสักคนที่มาแย้งในโม่งเป็นเจ้าของประเด็นเข้ามาดีเฟนตัวเองเนี่ย มันเป็นมุกในโม่งนะ เล่นกันทุกมู้มานานแล้ว 55555555555555
มุกไม่สร้างสรรค์เล้ยยยยย มีแค่ความกวนตีนล้วนๆ เหมือนบอกว่าถ้ามึงเถียง มึงก็คือคนเดือดร้อนสินะ ไม่เดือดร้อนไม่ต้องเถียง ต่างจากเอากฎหมายมาอุดปากกันตรงไหนวะเนี่ย กูว่าโม่งวันนี้เหมือนเด็กประถมเถียงกันเลย
โม่งจะขู่ฟ้องโม่งกันเองว่ะ นี่มันอะไรกันคะพี่ตา//เอามือทาบอก
สัส แร้วมีคนหัวร้อนด้วย กุถัมจีง หัวร้อนเพราะโม่ง กุถัมจีงเลยนะ
กูเห็นด้วยว่ามุกไม่สร้างสรรค์เลยนะ ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในไกด์ไลน์โม่งเลยนะว่าอย่าทำ คนโดนไม่ขำด้วย เวลากูเห็นกูไม่มองว่าเป็นมุกว่ะแต่เป็นคนที่โค้แย้งความเห็นไม่ได้เลยต้องโยงว่าอีกฝ่ายเป็นคนนู้นคนนี้ มันเป็นช่องทางที่ใส่ความกันง่ายๆเลยเพราะต่อให้ตัวจริงลงมาประกาศว่าไม่ใช่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยัน คนมุงก็หัวเราะคิกคักกันสนุกสนาน
ช่วงนี้โม่งมันส์ดีว่ะ มีทั้งคนมาถามหาศีลธรรม มาถามหาการเล่นมุกอย่างสร้างสรรค์ 555555555
ยสตน กูว่าห้องฟุมีอารยะสุดแล้ว ห้องการ์ตูนกับห้องเกมแม่งอย่างเรื้อน ส่วนเน็ตวอทช์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไอ้มุกเจ้าตัวมาเองแม่งเล่นกันทุกวัน
กูอาจจะคิดว่ามุกมันปกติเพราะชอบสิงห้อง gg ก็เป็นได้ ที่นั่นแม่งหาว่าเมมเบอร์มาตอบเองทุกวัน
อยากอ่านไกด์ไลน์โม่งเลยค่ะรุ่นพี่
ขยายความอีกนิด กูว่าไอ้มุกเจ้าตัวมาเองเนี่ย โม่งเล่นกันโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เจ้าตัวหรอก มันเป็นการเล่นมุกแบบที่คนมองปุ๊บก็รู้ว่าโกหกแน่ๆ มุกแน่นอน แต่กูเพิ่งรู้นี่แหละว่ามันมีโม่งบางคนเชื่อมุกแบบนี้จริงจังด้วย พอคิดว่ามันอาจจะมีคนเชื่อสิ่งที่โม่งพูดกันจริงๆจังๆแบบไม่กลั่นกรองเลยแล้วมุกแบบนี้มันก็คงไม่สร้างสรรค์จริงๆมั้ง
ลองไปเนตวอชห้องเกมอ่ะ ปั่นยับ อ่านแล้วปวดตีนอยากเอาไปขยี้หน้า
>>507 สนใจในเนื้อหามากกว่าผู้โพส
เว็บไซต์ฯ ไม่ให้ลงชื่อเพื่อให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่โพสมากกว่าผู้โพส ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องตามหาตัวตนว่าผู้โพสข้อความหนึ่งๆ นั้นเป็นใคร ไม่จำกัดว่าเป็นตัวตนในเว็บไซต์ฯ หรือนอกเว็บไซต์ฯ เลือกที่จะโต้ตอบกับสิ่งที่โพสมากกว่าว่าใครเป็นผู้โพส
👎 “นี่ใช่นาย ช หรือเปล่า ยังอคติเหมือนเดิมเลยนะ”
👍 “ความเห็นนี้ดูอคติจัง”
อ้อ ปกติกูอยู่นู่นแน่ะ ตำหนักหอสมุดจีน ก็มีกวนตีนกันบ้าง แต่ไม่ขนาดนี้ แล้วกูก็ไม่ได้เข้าบ่อยด้วย เลยไม่ชินกับมุกของพวกมึงมั้ง
กูว่าแต่ละห้องก็มีรูปแบบของมันว่ะ ห้องเรื้อนก็เรื้อนสุดตีนแบบที่หลายคนในนี้ก็ไม่เอาด้วย บางมู้ก็ตั้งวงจิบน้ำชาสวนดอกไม้สะพรั่ง ดังนั้นความปกติของห้องอื่นกับห้องนี้ก็ต่างกันไปว่ะ
กูไม่รู้หรอกว่ามีคนเชื่อจริงมั้ย แต่กูมองว่าเจตนาของบอร์ดที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนใจความคิดเห็นของผู้พูด พอชี้ว่าใครเป็นใครจากการแลกเปลี่ยนความคิดกลายเป็นการโจมตีตัวบุคคลพยายามลดบทบาทของความเห็นที่คุยกันว่ะ
>>517 +1 ว่าแต่วงจิบน้ำชานี่วงเดียวกับกูใช่มั้ย5555 อย่าลืมแวะไปกวนกาวในไลน์บ้างนะมึงห้องเงียบเกินทน
ที่แน่ๆกูก็ยังเชื่อในแนวความคิดแรกของโม่งอยู่ว่ะ การใส่โม่งคือการที่พวกมึงพูดได้โดยไม่ยึดติดอคติที่คนอื่นมองมึง หรือมึงไปมองคนอื่น ไม่ใช่อาศัยโม่งปิดหน้าปิดตาแล้วไปไล่ทำร้ายด่าชาวบ้านปาวๆๆหรือไปชี้หน้าใครว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้สักหน่อย
ปล. จริงๆที่กูเคยดิ่งจนเกือบไปแล้ว ก็มีโม่งจากเว็บนี้แหละช่วยดึงกูไว้อยู่อะ
กูขอบอกตรงๆนะ ตอนแรกกูก็เชื่อว่าโม่งนี่มีไว้สำหรับให้ความสำคัญกับสิ่งที่มึงพูด ไม่ใช่ตัวตนของมึงอยู่หรอกนะ แต่การเล่นมุกของห้องนี้ตั้งแต่เมื่อวานที่กูอ่านมาจนถึงวันนี้ กูว่าเหมือนหลายคนสวมโม่งไว้ทำร้ายคนอื่น บางคนโคตรใจร้ายเลยนะ
>>518 กูไม่ใช่ >>517 หรอกนะ แค่สงสัยวงนั้นหายไปไหน ที่แท้มาสิงห้องฟุ
สำหรับกู บางทีกูก็อยากให้โม่งหวดหนัก ๆ กับสายฉอดโคตรบ้ง สายฉอดย้อนแย้ง นักเขียนขี้ก๊อป นักอ่านขี้วีน
แต่ในความหวดมันต้องมีเหตุผลว่ะ ไม่ใช่เถียงไม่ออกแล้วบอกเจ้าตัวมาเอง คือกูคิดว่าคงมีแหล่ะที่เจ้าตัวมาโม่งเถียงแทนตัวเอง โม่งแอบโฆษณานิยายให้เพื่อนหรือตัวเอง แต่ใด ๆ ควรตั้งอยู่ในเหตุผลไม่ใช่อคติตัวบุคคลว่ะ
กู >>430 นะ กูไม่ได้มาถามหาศีลธรรมหรือความดีงามอะไรจากโม่ง ไม่ได้มาปกป้องคนฉอดในทวิตด้วย เพราะก็อย่างที่เห็น กูก็เล่นมู้นี้ คนดีๆคงไม่มาเม้าท์คนอื่นหรอก แต่ที่พิมพ์แบบนั้นเพราะว่าหลายวันที่ผ่านมา มีโม่งหลายคนพูดเหมือนแอคฉอดในทวิตมันแย่มากอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็อวยโม่งกลายๆ คือจะเม้าท์เค้าแต่ตัวเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกันแล้วยังคิดว่าตัวเองดีกว่าเนี่ยนะ มันก็ไม่ใช่มั้ยวะ อยากบ่นแอคฉอดก็บ่นไป แต่ไม่ต้องทำเหมือนโม่งสูงส่งกว่าหรอก มู้นี้มู้เม้าท์ นินทาคนมาตั้งเท่าไหร่ ไม่ใช้มู้หิ้งที่คุยกันเรื่องนิยาย ก็เหมือนที่โม่งสักคนข้างบนบอก โม่งสะดวกกว่าทวิตก็แค่ที่ไม่ต้องสมัครแอคหลุมใหม่ แล้วก็มีพื้นที่รวมตัวอยู่แล้ว ไม่กระจัดกระจายเหมือนทวิตที่ต้องหาเอง
>>522 กูว่าคนเล่นโม่งก็เข้าใจตรงกันหมดแหละว่าเว็บนี้มันแหล่งรวมความต่ำตม รวมคนขี้นินทา รวมคนไม่กล้าพูดต่อหน้าแต่เอามาเมาท์ลับหลัง การบอกว่า "สบายใจกับโม่งมากกว่าทวิตเตอร์" ก็ไม่ได้แปลว่าอวยว่าโม่งสูงส่งมีศีลธรรมกว่านี่นา กูเก็ทพอยท์หลายๆคนนะที่บอกว่าโม่งยังดีกว่าทวิตเตอร์ตรงที่มันทำร้ายได้น้อยกว่า (มึงอาจจะรู้สึกว่าไม่จริง ซึ่งกูก็เห็นด้วยแหละว่าไม่จริงเสมอไป) แต่ระบบของทวิตเตอร์กับโม่งมันต่างกันเยอะไง ทวิตเตอร์เนี่ยมึงสามารถโควททวีตเรียกทัวร์ไปลงที่คนคนเดียวได้ แต่ในโม่งเนี่ยต่อให้มึงพยายามนินทา พยายามเปิดประเด็นแค่ไหน มันก็อยู่แค่ในนี้ ไม่ได้ไปรุมยำตีนใส่เจ้าตัวตรงๆเหมือนในทวิตเตอร์
อะไรก็ช่าง ไม่ต้องเถียงหรอกว่าอะไรดีกว่ากัน มันคนละแฟลตฟอร์มกัน
นอกประเด็นไปถึงไหนเนี่ย แต่กูก็เพิ่งรู้ว่ามีคนเชื่อมุกเจ้าตัวมาเองเหมือนกัน ถ้าไม่ได้โป๊ะขนาดภาษาเหมือนเจ้าตัวเป๊ะ (กรณีเจ้าตัวใช้ภาษา/คำผิดเป็นเอกลักษณ์) ก็ไม่มีใครเค้าเชื่อกันหรอกมึ้ง
เหตุผลที่กูสบายใจกับโม่งมากกว่าอย่างแรกเลยนะ มันไม่ทีคนมานั่งคอยแคปว่าเมื่อวานกูคิดยังไง วันนี้กูคิดยังไง กูจะแสดงความคิดเห็นในโม่งเท่าไรก็ไม่ต้องกลัวแตกหักกับเพื่อนรอบตัว ทวิตแม่งใครพลาดหน่อยก็รุมจวก รุมประนาม แต่กูอยู่ในนี้จะโดนรุมจวกไปก็ไม่มีใครมาลากทึ้งกูในชีวิตจริง เมื่อก่อนกูถึงกับเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากโม่งด้วยซ้ำ โม่งมันไม่ได้ดีกว่าทวิต แต่มันเซฟความรู้สึกกูมากกว่าทวิตแน่ๆ อ่ะ
และบวกอีกหน่อย ถึงจะมีคนนินทากูเสียๆ หายๆ กูก็ยังอยากให้มันอยู่ในโม่งมากกว่าในทวิตอีก ในทวิตเริ่มแหกอะไรกันทีแล้วก็เชื่อตามๆ กัน ยิ่งถ้ามึงโดนแอคใหญ่หน่อยแหกนะมึงเอ๊ย ไม่ต้องผุดไม่ต้องเกิด โม่งยังเบรกตัวเอง ยังมีแปะหลักฐาน เล่า 1 หาร 100 ถ้าใครหัวอ่อนเชื่อทั้งหมดกูก็ช่างแม่งแล้ว อยู่แพลตฟอร์มไหนก็ไม่ต่างกันหรอก
2-3 วันก่อนกูเป็นคนนึงที่มาบอกว่าโม่งสบายใจกว่าทวิต (คห.ไหนไม่รู้กูไม่ได้เลื่อนขึ้นไปดู อันคห.บนๆซักอันอะที่เป็นของกู) ก็ช่วง 2-3 วันมานี้กูรู้สึกงั้นจริงๆนี่ กูว่าช่วง 2-3 วันก่อนในทวิตคือคนแรงกันมากๆอะ ฉอดได้ฉอด เปิดด้วยคำพูดรุนแรงมาก่อนเลย แล้วกูมาเข้าโม่งแล้วเจอพวกมึงถกกันเรื่องหนังสืออะไรซักอย่าง ที่มึงคุยกันเรื่องสายอักษรอะ กูอ่านแล้วรู้สึกว่า เออ ช่วงนั้นที่นี่ดีเบทกันแบบอ่านสนุกดี มีเหตุมีผล ไม่เปิดด้วยการด่าก่อน
กูไม่ได้บอกว่าที่นี่สูงส่งกว่าทวิตอะ เพราะช่วงดราม่าที่นี่ก็ปสด.เหมือนกัน แต่เมื่อ 2-3 วันก่อนในทวิตกูรู้สึกว่ามันปสด.กว่าที่นี่ไง กูก็พูดไปตามที่คิดในเวลานั้นอะ อย่างวันนี้ไทม์ไลน์ทวิตกูไร้ดราม่ามากจนกูงงแต่ก็รู้สึกดีมากๆ กูก็กลับไปรักทวิตต่อ ก็แค่นั้น
ร้อนตัวก็งี้แหละ เห็นมีคนจะแหกก็รีบเอาคุกมาขู่ จนลืมไว่าโม่งมันกวนตีนเล่นประจำอยู่แล้ว
ที่แน่ๆยังไงกูก็ยังไม่เห็นด้วยกับการไปชี้บอกว่าใครเป็นอะไรๆอยู่ดีว่ะ ต่อให้แม่งมุกหรือจริงจังก็เหอะ ในเมื่อมึงลงมาโม่งต่อให้มึงเป็นใครเป็นเหี้ยอะไรที่ไหนแม่งก็โม่งเหมือนกันปะวะ ทำไมต้องไปยัดให้เป็นตัวบุคคลขนาดนั้น
>>531 กูเคยเจอมู้นึงในห้องการ์ตูน มีคนนินทาเพื่อนกู แล้วเพื่อนกูก็ทวีตด่าอีโม่งที่นินทานั่น สักพักในโม่งมีคนโวยวายด้วยภาษาสไตล์เพื่อนกูเป๊ะ แต่เพื่อนกูบอกว่ามันเปล่าพิมพ์ มันโดนสวมรอย ทุกวันนี้กูยังไม่รู้เลยว่าตกลงเพื่อนกูพูดจริงหรือมันมาพิมพ์ตอบในโม่งแต่ไม่อยากบอก เอาเป็นว่ากูไม่เชื่ออะไรใดๆในโม่งทั้งนั้นอะ 555555555
เออ แล้วถ้ามีคนเชื่อจนเจ้าตัวเขาเดือดร้อนนี่ยังไงอ่ะ ใครรับผิดชอบเหรอ หรือคิดกันว่า อ้อ ก็ถึงคราวซวยของเขาเอง คนรอบข้างเขาเสือกโง่เอง สมน้ำหน้า แล้วก็จบ คนพูดพล่อยลอยตัว หืม
>>537 เคสนี้กูเจอบ่อยๆ มีป้าคนนึงที่ด้อมอนิเมะหลายๆด้อมเหม็นกันมาก แล้วคนเหม็นนางจะชอบสุบสิบกันว่านางสิงโม่ง เคยลงโม่งมานินทาด้อมอื่นแว้ดๆ แล้วคนก็เชื่อจริงจังว่าเป็นนางแน่นอน ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยด้วยนะ ทุกวันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านางรู้ตัวมั้ยเรื่องที่โดนกล่าวหา
ประเด็นไม่ใช่ว่าคนเชื่อจริงมั้ย แต่เป็นไม่ควรชี้ใครเป็นใครในโม่งที่อุตส่าไม่มี username ไม่ใช่เหรอ
อ้างว่าเป็นมุกมันจบแค่นั้นไม่ได้อะ เพราะกล่าวหาว่าใครเป็นใครมันทั้งไม่ขำ ทั้งขัดประเด็นที่กำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอยู่ วันก่อนคุยในชั้นหนังสือยาวยืดอยู่ๆมีคนทะลุกลางปล้องว่านักเขียนมาเอง กูโคตรอีหยังวะ ไม่เห็นประโยชน์อะไรนอกจากพยายามลดทอนความคิดเห็นของคนถูกกล่าวหาว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับประเด็นนั้น
กูไม่ได้บอกว่าคนพูดพล่อยลอยตัวหรอกนะ อย่างที่โม่งบนๆ บอกมันก็มีตัวเลือกฟ้องโม่งอยู่ แต่คนที่เชื่อโม่งเป็นตุเป็นตะทุกคำก็น่าห่วงจริงๆ อะมึง ถ้าถึงขนาดคนรอบตัวเลือกเชื่อโม่งมากกว่าเชื่อเจ้าตัวกูว่าใครมานินทาเจ้าตัวถึงไม่ใช่โม่งแม่งก็เชื่อหมดแหละ ไม่อยากใช้คำว่าถ้าเล่นโม่งมานานเดี๋ยวจะโดนด่าว่ากูเป็นโม่งโซตัสอีก แต่ถ้าเล่นโม่งมานานสักระยะนึงมึงก็เก็ตเองว่ามันเชื่อไม่ได้อ่ะ
ส่วนควรชี้ไม่ควรชี้ สุดท้ายแล้วมึงก็ห้ามโม่งคิดหรือถามไม่ได้หรอกถ้าคคห.มึงมันไปสะกิดใจเพื่อนโม่งคนอื่น ก็เหมือนเห็นต่างในทวิตแล้วโดนโยนว่าเป็นส/ลิ่มนั่นแหละ เห็นต่างในโม่งมันก็โดนโยนอยู่ไม่กี่อย่างหรอก ไม่เจ้าตัวก็เพื่อนเจ้าตัว
>>544 มู้ชั้นหนังสือขนาดนิยายแปลมีคนอวยเยอะๆยังโดนสงสัยว่าเป็นม้าเลยมึง 55555555 ของแบบนี้ห้ามกันยากว่ะ คนเล่นโม่งมันก็หน้าเก่าไปหน้าใหม่มา ผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆด้วยแหละ ต่อให้วันนี้ตกลงกันได้ว่าจะเลิกเล่นมุกชี้หน้าคนนั้นคนนี้เป็นเจ้าตัว ผ่านไปสักพักมันก็ต้องมีอะไรแบบนี้โผล่มาอีกอยู่ดี
>>530 อันนี้มุกหรือเชื่อว่าเปนนักเขียนมาขู่จริงๆ อ่ะ
ส่วนตัวกูคิดว่าการมาป้ายว่าคนนี้ต้องเปนคนนั้น คนนั้นคือคนนี้เปนวิธีการเอาตัวรอดจองคนที่โต้อีกฝั่งกลับไม่ได้มากกว่า ฟีลแบบเบี่ยงประเด็น
เพราะมันเคยมีเถียงกันแบบนี้แหละแล้วไปโยงว่าเขาคือทวิตนั้นแน่ๆ เลย ร้อนไปถึงทวิตนั้นที่เขาก็อยู่ของเขาดีๆ แต่มีโม่งในนร้ไปโยงเขามาอ่ะ น่าจะสักสี่หรือห้าดรัทู้ที่แล้วด้วยซ้ำ
>>546 เคสนี้กูว่าต้องคอยดู ip ด้วยว่าจู่ๆคนที่ทะลุกลางปล้องขึ้นมาชี้หน้าคนนั้นคนนี้เนี่ยคือคนที่คุยประเด็นนั้นอยู่ก่อนแล้ว หรือจู่ๆโผล่มาจากไหนไม่รู้ ถ้าอย่างหลังเป็นไปได้สูงว่ากวนตีนเล่นเฉยๆเพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับการถกเถียงนั่นอยู่แล้ว
แต่กูยังยืนยันว่าอ่านโม่งให้กรองเยอะๆ เพราะแม้แต่ ip มันก็ยังหลอกกันได้ รีเราเตอร์ได้ ต่อ vpn ได้ เคสที่โม่งลืมรีเราเตอร์แล้วโป๊ะแตกทะเลาะกับตัวเองให้เห็นก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ บางคนมันก็แค่ใช้โม่งเป็นที่ปั่นเล่นเฉยๆอะ
>>543 เมื่อก่อนมู้เม้าแย่กว่านี้อีก จำเซเลบที่ชอบแจกของบ่อยๆได้มั้ย คนนั้นโดนโม่งนินทาเป็นคุ้งเป็นแควว่าชอบเอาความเซเลบไปซื้อของแรร์ราคาถูก คุยกันหลายครั้งมากจนช่วงนึงคนถามถึงหลักฐาน ถามหาอะไรสักอย่างที่ว่าเจ้าตัวทำเรื่องอื่นนอกจากแจกของ พอไม่มีก็พยายามคุยกันว่าอย่ามโนความผิดใครโดยไม่มีหลักฐานเลย จากนั้นที่นินทาคนคนนั้นก็หายไป ดังนั้นถ้าคนส่วนใหญ่เลือกมองว่ามันเป็นสิ่งไม่ควรสักวันมันก็จะหายไปเองว่ะ การเต้าข่าวนินทาใครหรือชี้ว่าใครเป็นใครมันเป็นความสนุกปากมากกว่าการแลกเปลี่ยนความเห็น เพราะการถามว่าใครเป็นใครมันไม่มีทางได้คำตอบอยู่แล้ว กรณีถามนะ ส่วนที่ไปเล่นมุกกูมองว่ามันเหมือนมุกคุกคามทางเพศว่ะ ความตลกที่เป็นภาระคนถูกเล่น
จะเอาให้ได้เลยเว้ย กูเริ่มเชื่อจริงๆละว่านขมาเอง
วันนี้โม่งมันส์จังวะ กูนี่รีเฟรชไม่หยุด
คือโม่งควรลดหรืองดเล่นมุกเจ้าตัวมาเอง กูเข้าใจ แต่ยังไงมึงก็ยังต้องกรองสารอยู่ดีไง มึงห้ามทุกคนไม่ให้เล่นมุกไม่ได้หรอก เดี๋ยวมันก็มีคนโผล่เข้ามาใหม่อยู่ดี หรือเจ้าเดิมๆ ที่ไม่อยากเลิกก็มี มึงก็แค่เมิน หรือไม่ก็โต้แย้งมันไปก็จบ
ดิ้นจนกูงงว่าอะไรของมันวะ เพิ่งเล่นโม่งหรือร้อนจริง หยอดไปก็รับตลอดไม่เหนื่อยเลย
ห้ามกันไม่ได้
เหตุผลยอดฮิตของดราม่าข่มขืนว่ะ ไม่ห้ามผู้ชายแต่ห้ามผู้หญิงแต่งตัวโป๊ห้ามไปพื้นที่สุ่มเสี่ยง ถ้าเกิดโดนขึ้นมาก็เป็นความผิดของคนที่โดนเอง
แล้วกรณีถูกจับโยงว่ามครเป็นใคร คนที่ได้รับผลกระทบของจริงบางทียังไม่รู้ตัวว่าโดน
>>556 นี่แหละที่เขาถกกัน มันไม่ใช่แค่มุก มีคนสงสัยจริงๆ ไม่ต้องการคำตอบ แค่สร้างความสงสัยให้คนที่อ่านผ่านไปผ่านมาด้วย โดยที่มึงรู้ว่าหลังความสงสัยนั้นเกิดไม่มีใครสามารถคลายข้อสงสัยได้ ก็ติดค้างในใจมึงและคนที่เกิดสงสัยตามคำถามมึงนั่นแหละ สิ่งที่มึงถามโดยไม่ได้ต้องการคำตอบไม่ใช่'แค่'ถาม แต่เป็นการสร้างเหยื่อต่างหาก
>>564 โห อย่างกูที่เพิ่งเล่นห้องนี้ได้ไม่นานเนี่ย ไม่เคยรู้เลยว่ามีมุกอะไรแบบนี้ด้วย บางทีเห็นกำลังเถียงอะไรซีเรียสๆกันอยู่ แล้วคนก็เข้ามาชี้นิ้วบอกว่าเป็นนักเขียนรึเปล่า แล้วเขาก็ตอบ กูไม่ได้คิดว่าเขาร้อนตัวหรืออะไรเลยนะ จากสายตากู เขาแค่ไม่อยากให้ความเห็นเขาโดน judge แบบอคติเพราะคนนึกว่าเขามีส่วนได้ส่วนเสียตามที่มึงแหย่ นึกออกปะ แต่มึงไม่ได้ให้เกียรติความเห็นโม่งคนอื่นเลยว่ะ
ไอ้เหี้ยเฟมทวิตมาห้องวายแล้วจ้า
จริงๆคือกูรู้ว่ากูไปห้ามมือใครพิมพ์ไม่ได้หรอก แต่อย่างน้อยก็อยากหวังให้ทำตามไกด์ไลน์เว็บสักนิดกันหน่อยเหอะมึง ส่วนถ้ามีใครโพสต์เหี้ยไรแค่ไหน ให้โทรลรีโมทแอร์กลับมากูก็ทำจริงได้แค่บอกว่าไม่เห็นด้วย/เมินแค่นั้น
>>572 ห้ามไม่ได้ของกูหมายถึงมึงกระโดดไปตีมือคนอื่นตอนที่กำลังพิมพ์ข้อความไม่ได้ อย่างที่มึงยกตัวอย่างมาถ้ามันพิมพ์ออกมาแล้วก็คือห้ามไม่ได้ใช่มั้ย แต่ทีนี้คนพิมพ์ข้อความนั้นน่ะจะโดน backlash ยังไงมันก็เป็นผลจากการกระทำของเจ้าตัวแล้ว ซึ่งคนพิมพ์อะไรแบบนั้นออกมามันอาจจะโดนสังคมรุมเหยียบแล้วไม่กล้าพิมพ์อีกก็ได้ กูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้พวกมึงเข้าใจแล้วว่ะ แต่กูเข้าใจที่พวกมึงบอกว่าอยากให้คนลดๆมุกพวกนี้นะเว่ย เข้าใจทุกอย่างเลย กูแค่คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างยั่งยืน ก็เท่านั้นแหละ
ไม่ใช่ว่ามึงไปห้ามคนนู้นคนนี้เล่นมุกไม่ได้ ยังไงมุกนี้ก็มีโอกาสโผล่มาเรื่อยๆ บางคนก็เลือกเมิน มึงอยากเตือนก็เตือน ไม่ใช่มาบอกให้คนอื่นทำ ไม่ทำพวกมึงมันแย่
ยกตัวอย่างนะ มู้อดอปห้องซับคัล สมัยก่อนพยายามเตือนกันว่าอย่าแปะลิงค์ตรงๆเพราะบางทีที่เขาก็ไม่ได้ลอกชาวบ้านตามที่คนแปะด่า ให้ฝากรูปเซ็นชื่อแล้วค่อยมาแปะ ตอนนี้ก็เห็นกลับมาแปะกันเหมือนเดิม จบ
กูว่ากูชักจะได้ข้อสรุป ไอ้ที่ไปชี้นิ้วบอกว่าคนนั้นคนนี้ที่เห็นต่างเป็นนักเขียนกับผองเพื่อนเนี่ย ตกลงคือสิ่งที่เรียกว่าโทรล์ใช่มั้ย ไม่ใช่มุกหรืออะไรหรอก มาด้วยเจตนาทำลายบรรยากาศการถกเถียงอย่างมีเหตุผลทั้งนั้น และ >>569 ก็กำลังพยายามจะบอกว่าห้ามโทรล์ไม่ได้ เพราะมันจะโทรล์อยู่ดี ถูกปะ
แต่ไม่รู้ทำไมนะ บางทีกูคิดว่าโทรล์ไม่ได้ตั้งใจโทรล์หรอก เป็นพวกเถียงแล้วแพ้แหละ เลยปั่นแม่ง ไม่อยากโดนหาว่าโง่ไง แต่รับได้ถ้าโดนหาว่ากวนตีน ฟังแล้วดูเบากว่าเยอะ อย่างน้อยก็ยังมีสมอง อะไรแบบเนี้ย
ก็ไม่ได้คิดว่าแพ้ชนะไรนะ เห็นมันดิ้นๆเลยแหย่เพิ่มแล้วมันดันดิ้นต่อก็แค่นั้นเอง แต่ถึงขนาดต้องกางกฎโม่งอ่านกันก็วันนี้ละวะ เฟมจ๋าสัสๆ ยินดีด้วยนะโม่งความชิบหายมาเยือนแล้ว
ขออนุญาตคั่น กูคิดว่าถึงมึงถกไปก็จบลงที่ความเห็นไม่ตรงกันแล้วมั้งวันนี้ เมื่อไรกูจะได้อ่านเรื่องเม้าท์ต่อกันนะ
มึงอะไรกันวะเนี่ย555555 บอกไว้อย่างนึงละกันมึงห้ามโม่งทุกตัวไม่ได้หรอกก กูเห็นลูปเดิมวนมาเรื่อย ๆ ทุกปี
เม้าเรื่องไหน ที่ว่าฉอดในทวิตหรือฉอดในโม่งดีกว่ากันเหรอ
กูว่าในทวิตมันมีสิ่งที่เรียกว่าความรับผิดชอบอยู่อ่ะ เพราะมันเปลี่ยนไอดีหนีไม่ได้ง่ายๆอย่างโม่ง คนฉอดอาจกลับเป็นฝ่ายถูกฉอดได้ถ้าข้ออ้างไม่แน่นพอ แต่ส่วนใหญ่ฉอดกันแรงเกิ๊น แล้วถ้าเหยื่อคนไหน crisis management ไม่ดี ก็ตายอย่างเขียดคาทวิตนั่นแหละ
แต่ในโม่ง บางทีกูว่าในโม่งมันเชื่อถือไม่ได้อ่ะ อาจจะอ่อนโยนกับนักเขียนกว่านิดหน่อย แต่มันก็เป็นแหล่งที่ไม่เปิดโอกาสให้นักเขียนได้ตอบโต้เหมือนกันนะ หรือใครมาแย้งเข้าข้างนักเขียน ก็อาจจะถูกหาว่าเป็นตัวนักเขียนมาเอง ก็อย่างที่เห็นกันสดๆร้อนๆเนี่ย
เม้าท์เรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องฉอดอ่ะ เรื่องนักเขียน เรื่องอะไรก็ได้ที่มันตรงกับจปส.ของมู้เม้าท์ ไม่ใช่เม้าท์ฉอดกันเอง 55555 แต่ถ้าโม่งยังอยากฉอดกันต่อกูก็ไม่ได้ว่าไร แค่เบื่อ
คราบผงหมึกที่สันบนหนังสือถือเป็นตำหนิร้ายแรงมั้ยวะ ?
สอยนิยายวายมือหนึ่งจากนายอินทร์มา ตอนเห็นไม่ได้คิดอะไร มันก็หมึกพิมพ์อะ จะเลอะมาบ้างไม่แปลก
แต่ไอ้เล่มที่ว่า ดันไม่สนุกเลยยยย ว่าจะขายต่อ
ให้คะแนนด้วยตัวเองว่าสภาพหนังสือจัดว่าดี เพราะอ่านไม่ถึงครึ่งเล่ม จะมีก็ไอ้คราบหมึกบาง ๆ
พวกคลั่งกริบนี่เน้นเฉพาะมือหนึ่งใช่ป่าว ? หรือมือสองก็ต้องกริบ ไม่เลอะ ไม่บุบสลาย ?
>>590 ค่อนข้างมั่นใจว่าสภาพดี เพราะเวลาอ่านกางเบามือมาก ไม่อ้ากว้างเลยด้วย
เลยจะตั้งราคาไม่ถูกมาก (คิด ๆ ไว้ที่ 70-75% รวมส่ง) แล้วก็ไม่อยากติดแท็ก #ไม่เหมาะกับสะสม เพราะกลัวโดนกดราคา
รูปคงลงไว้เลยแหละ ว่ามีรอยหมึกนะ
แต่พูดก็พูด สมัยก่อนเวลาไปเลือกหนังสือที่ร้าน เจอคราบหมึกก็ไม่คิดมากนะ แต่เดี๋ยวนี้ต้องมาคิดเผื่อเวลาจะปล่อยมือสอง T-T
กูขอย้อนเรื่องการสวนล้าง ปกติก็ไม่ได้ทำเป็นประจำขนาดที่ทำทุกครั้งก่อนมีพสพ แล้วไม่ได้แถมกันง่ายๆด้วย (แล้วแต่คน)
เข้ วันนี้ไม่อยู่โม่งวันเดียวเกิดไรขึ้น
เออเข้าท่า #ไม่กริบ ดูไม่เหมือนประชดดี
ถ้าสะสมขอให้ผ่าน ก็ฟังดูดีกว่า #ไม่เหมาะกับสายสะสม ดีว่ะ
ตามความรู้สึกคือ ไม่เหมาะกับสายสะสม = สภาพสำหรับอ่านเท่านั้น = ติดจะเยินเพราะมือแรกมาแล้ว (ความรู้สึกส่วนตัวนะ)
ขอบคุณสำหรับทุกคห.
>>597 เค้าก็ใส่ใจดีนะ ชื่นชม กูแอบเซอไพรส์นิดนึงที่เค้าแก้ความเข้าใจผิด เรียกทำแท้ง แบบใช้ถูก ปกติกุจะเห็นคนใช้ล้างตู้เย็น ทั้งที่จริงมันคือริมมิ่ง
แต่เพิ่นกูที่เป็นเกย์อะ บอกว่าส่วนใหญ่มาถึงก็ใส่เลย 555 ดังนั้นสายผลิตไม่ต้องเครียดเบอร์นั้นนะ แต่ถ้าเอาเรียลๆ lube ก็ต้องมีอะ
ขอkyถามแล้วกันว่าพวกมึงชอบของแถม เล่มแพงหรือไม่มีของแถมเล่มถูก
ทำไมกุเป็นคนเดียวที่ไม่อยากได้ของแถม ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไร รกบ้านค่ด แต่ทุกคนเหมือนอยากได้ของแถม??? ถ้าคนที่ไม่อยากได้ของแถมส่งเสียงไปดังๆบ้างสนพ.จะลองพิจารณาป่ะวะะะ
>>603 ไม่แถม ถ้าลดค่าปกได้กูเอาด้วยแล้ว😂😂😂 จริงๆกูว่าสายกลางสุดคือแยกขายอะ ใครใคร่สะสมยกเซ็ตก็ซื้อไปเลย หรือเป็นโปรซื้อได้เฉพาะรอบพรีแทนของแถมรอบพรีงี้ ตัดปัญหา แต่ถ้ามารวมสนพมันก็น่าจะบวกกำไรได้เนียนๆอะนะ
เห็นตามกรุ๊ปการ์ตูนมือสองเค้าใช้ #สภาพบ้าน กัน ถ้ามาใช้กับวายคนจะเก็ตปะวะ
มด แถมของใหญ่เลยวุ้ย สงสัยยอดจองรอบนี้น้อยป่าววะ กูนี่ทีมรอเฉพาะเล่มอย่างเดียวขอลดราคาเยอะๆ พวกที่คั่นสมุดโน้ตไม่รู้เอามาทำไร รกบ้านเหลือเกิน
กุไม่อยากได้ของแถมมมมม กุอยากได้หนังสือราคาถูกกกกก แต่กุก็ต้องเก็บของแถมเผื่อซื้อมาแล้วไม่ชอบจะได้ขายออก
พูดถึงของแถม กูส่องทวิตของมด.ที่ถามคห.เรื่องบ๊อกซ์ มีคนบอกให้เปลี่ยนที่รองแก้วเป็นโปสเตอร์เพราะสาววายชอบเก็บโปสเตอร์ด้วย สำหรับกูโปสเตอร์นี่กูเกลียดเป็นอันดับต้นๆเลยนะ ทั้งรก เก็บรักษาก็ยาก ไม่มีประโยชน์ที่สุดแล้ว
สำหรับกู จริงๆกูชอบแค่หนังกับที่คั่นอะ แต่ถ้าสนพออกชุดสะสมมากูซื้อชุดสะสมอะเพราะชอบที่มันมีครบๆอะ แต่อยากให้มันออกแค่หนังสือกับที่คั่นมาง่ายๆแต่แรกมากกว่า
>>612 +1 เกลียดโปสเตอร์สุด ยับง่าย พับมาก็เป็นรอย เก็บยาก เวลาปล่อยขายเป็นหนึ่งในของแถมที่วิตกสุดว่าคนซื้อจะโวยนั่นโวยนี่ป่าววะ ทั้งที่ซื้อมาก็เก็บทันที ไม่เคยไปคลี่หรือแตะมันเลยนะ
เอาจริงในชีวิตเคยแปะโปสเตอร์ข้างฝาบ้านแค่แผ่นเดียว เป็นอนิเมกรุ่นกลิ่นวาย แต่เลือกลายที่มีตัวละครหลายๆ คนให้มันดูไม่วาย
พวกที่เร่าๆ อยากได้โปสเตอร์นิยายวายนี่จะเอาไปแปะจริงง่ะ?
ก็กะเก็บไว้ขายด้วยแหล่ะกูว่า แต่เอาจริงไม่มีของแถมก็ยังขายได้นะ แต่ถูกกว่า 5555
พวกกาวแหว่งนิดนึงตรงสันแต่หนังสือเปิดอ่านได้ปกตินี่นับเป็นตำหนิปะวะ?
ถามตรงนี้ตรง topic ปะ แต่มึงเห็น workshop สอนเขียนนิยายวายกันยังวะ มันต้องสอนกันด้วยเหรอ
Ky ชฟค ออกจากอววแล้ว กรณีเดียวกับWเปล่าวะ เพราะยอดขายไม่ถึงเป้าเลยโดนบีบออกเหรอ ช่วงนี้อววเอานสมาลดแหลกแสดงว่ายอดขายตก?
เพิ่งเห็นนักวาดด้อมเกาหลีที่ย้ายมาด้อมจีนเงียบหาย ไม่ส่งของไม่ตอบ อ้างว่ามีปัญหาสุขภาพกับติดโปรเจค ดีนะ กูไม่ชอบลายเส้นสไตล์นี้เลยไม่ได้สั่ง
>>636 นขที่กูชอบหลายคนชหเพราะนักฉอดในทวิตเนี่ย เกือบเลิกเขียนไปก็หลายคนอีก อย่างเรื่องทัพเปิดกระโปรงน้องตอนนั้นโดนรุมจนกูสงสารเขาอ่ะ มีลามไปด่าพ่อล่อแม่ว่าเติบโตมายังไง เรื่องของยนtriggerแรงกว่าหลายเท่าแต่ยังลอยลำได้ทำซีรี่ย์ ส่วนนขทัพโดนสนพลอยแพ ทั้งที่เขาแต่งเรื่องดีๆหลายเรื่อง แต่ดันแมสเรื่องทัพ ที่แนวบ้งๆมันแมสเพราะนักอ่าน แต่เวลานขโดนลากขึ้นเขียงไม่ค่อยมีใครออกมาป้อง
ky มด มาแปลกวุ้ยเพิ่มของแถมรอบจองมาทีละชิ้นๆ วันนี้เพิ่มพวงกุญแจมาให้อีก จันทรานี่กูรอลงร้านหนังสืออย่างเดียวเลยของแถมไม่ต้องจ้า รกบ้าน
>>650 เรื่องทัพมันโดนเพราะพระเอกมาแนวเสกช่วลฮาราสไม่ใช่เหรอวะ ไม่ใช่เรื่องอายุ กูว่าจะพูดหลายทีละ ในนี้ดูเหมือนเกลียดสายฉอดเข้าไส้เลยนะ กูเป็นส่วนน้อยมั้ยที่เหมือนได้เปิดโลกมากขึ้นจากการตามพวกนี้ ไอ้ที่มึงบอกสายฉอดทำชิบหายหลายเรื่องนี่บางเรื่องกูว่าส่งต่ออะไรพังๆ มากเลยนะ ลวนลาม เยเดก คนเขียนทัพก็น่าสงสาร แต่กูว่าควรแยกระหว่างน่าสงสารกับปล่อยให้มันเขียนไรแบบนั้นต่อไปป่ะหว่า รึกูเข้าใจอะไรผิด
555 กูขอโทษ กูทำสับสนเอง ไม่รู้ว่าเขาเขียนเหมือนกัน กูเคยเปิดจับมือผ่านๆเลยรู้ว่าเกี่ยวกับอะไร แต่ไม่เคยเห็นเรื่องผู้กล้าของเขา (เขาไม่ลง รอร ปะ หรือลงแต่กูเลิกตามไปแล้วไม่รู้) รู้ว่าเป็นคนนี้กูยิ่งไม่เหลียวแลเลย เคสทัพยังพอทำใจอ่านเรื่องอื่นเขาได้ แต่อันนี้ดูเหมือนเน่าโดยนิสัยนาง
>>652 ส่วนตัวกูก็ได้เรียนรู้อะไรจากสายฉอดเยอะนะ แต่กูไม่ชอบวิธีการ "ฉอด" น่ะ มันมีวิธีตั้งมากมายที่จะตักเตือนนักเขียนหรือเอดูเคทคนในสังคม ซึ่งถ้ากูพูดแบบนี้บนบก สายฉอดก็จะอ้างอีกว่าไม่ได้อยากเอดูเคทใคร อยากด่าเฉยๆ กูว่าการอยากให้สังคมมีความตระหนักรู้มากขึ้นมันก็ดี แต่การ "ฉอด" มันก็ทำร้ายคนในสังคมเหมือนกันนะ ถ้าเลือกได้ก็ไม่มีใครอยากบ้งให้คนยำตีนหรอก
>>654 กูเข้าใจ รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คนแรงกันขึ้นมากๆ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ ไม่ค่อยนึกถึงใจเขาใจเรามากขึ้นจริง แต่ส่วนตัวกูก็พยายามแยกระหว่างแอคที่มาด่าอย่างเดียวกับแอคที่พยายามขับเคลื่อนสังคมอยู่ ถึงบางทีจะจึ้กๆ เวลาโดนเหมารวมสาววายก็เถอะ อย่างเคส ป นี่กูว่าเขาแค่ออกแนวประสาทแดกตอนฉอดหนักๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเน่าอย่างที่โม่งข้างบนพูด อ่านแล้วเลยรู้สึกว่าคนเรามันจะเกลียดสายฉอดขนาดนี้ได้เลยเหรอวะ แต่กูเก็ตคนที่ไม่ชอบนะ รู้สึกเหมือนกันว่าถ้ากูบ้งก็เตือนกูดีๆ ไม่ต้องด่าก่อนได้มั้ย
ยน แต่งเรื่องอะไรวะ
Ky กูเพิ่งเห็นพกบ.นักวาดเป็นโรคเลื่อนเหรอวะ แต่มีคนนึงทวิตว่าไปตามที่ม.นางก็หายไปเลยติดต่อไม่ได้
กูว่าคงเพราะเดี๋ยวนี้ยิ่งแรงยิ่งได้รับความสนใจด้วยมั้ง เวลาอยากจะ raise awareness อะไรสักอย่างเลยต้องแรงๆกันไว้ก่อน คนถึงจะรีต่อๆกันไปเยอะๆ กลายเป็นว่านับวันก็เลยยิ่งฉอดกันแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพูดแบบสุภาพเรียบร้อยไปมันก็ไม่ได้รับความสนใจ
แต่อย่าง ป น่าเกลียดตรงที่ฉอดใส่คนไม่รู้จักแรงๆ แต่พอเป็นคนรู้จักกันดันงุบงิบๆ กูไม่ได้อยากให้เขาฉอดเพื่อนตัวเองแรงเท่ากัน แต่เวลาไปฉอดคนไม่รู้จักก็ไม่ควรแรงขนาดนั้นมั้ยนะ
ป กูไม่ชอบที่เค้ามีเรื่องอะไรปุ๊บก็รีบโดดลงไปเล่นอะ บางเรื่องเค้ายังไม่ได้รู้จริงด้วยซ้ำแต่ก็ชอบทวิตแซะๆ เม้าท์ๆ ลอยๆ แล้วเค้าเป็นแอคใหญ่ไง แค่แซะไรหน่อยคนก็เฮโลตาม ไหนจะความสองมาตรฐานระหว่างฉอดเพื่อนกับฉอดคนอื่นอีก นิยายตัวเองก็ดู aware แค่ประเด็นที่ตัวเองอิน
ส่วนเรื่องสายฉอด กูว่าโม่งแม่งไม่ได้เกลียดสายฉอดกันขนาดนั้นหรอก แต่เกลียดวิธีที่สายฉอดใช้ สายฉอดหลายคนบอกว่าเคยพูดดีๆ แล้วไม่ฟังเอง แต่นักเขียนหรือแอคทั่วไปหลายคนอยู่ๆ ก็โดนลากมาด่าทั้งที่ไม่เคยโดนเตือนหรือโดนพูดอะไรก่อนเลย ไหนบางคนจะจั่วหัวเลยว่ามาด่า ไม่ได้มาเอดูเขตอีก ใครจะรู้สึกดีด้วยล่ะมึง กูรู้สึกว่าขนาดแอคที่เมื่อก่อนออกแนวสายฉอดอย่างส้มยังดูแหยงๆ สายฉอดเดี๋ยวนี้เลย
ละสายฉอดเดี๋ยวนี้ไปสุดจะตายห่า ห้ามอ่านอินเซส ห้ามเขียนท็อกซิกรีเลชั่นชิป ห้ามนู่นห้ามนี่ ลงใต้ดินติดพาสกรองคนยังไงก็โดนหยิบมาด่าได้ กูเข้าใจว่าการโรแมนติไซส์มันส่งผลเสียยังไงกับสังคมนะ แต่ทางแก้คือห้ามเขียนห้ามอ่านหรอวะ ไม่คิดว่าจะต้องมีวิจารณยาณกันบ้างเลยหรอ 5555 เออแต่กูไม่อยากเถียงประเด็นนี้ละ แถมพอผ่านไปไม่กี่วัน กูก็เห็นคนอวยการ์ตูนวายที่มีประเด็นท็อกซิกๆ เหมือนเดิม บางคนวันก่อนทวิตห้ามเผยแพร่ส่งต่อการ์ตูนนิยายที่เนื้อหาผิดบาปแทบตาย วันต่อมาก็อวยอีการ์ตูนวายพวกนี้ กูล่ะงง แถมอ่านจากเถื่อนอีกต่างหากมั้ง
>>661 https://twitter.com/39shopbook/status/1276104865240903680?s=19 นี่ป้ะ กุตกใจเหมือนกัน เพราะกุชอบลายเส้นนาง ตามมานานมากกกกกกกกกก ไปเสือกแป๊บ
ที่กูเหลียดแอคฉอดเพราะเจอแต่พวกแรงๆเห้ๆ เตือนดีไม่ได้ต้องเอามีดไปแทงเขาก่อน นิยายหลายเรื้องนขหลายคนที่โดนแอคฉอดพวกนี้เฮโลไปรุมยำ
อะไรที่ติดป้ายเตือน อยู่ในที่ของมัน ตรวจบัตร บลาๆๆ แล้วยังลากเขามาฉอดอ่ะอันนี้กูไม่เห็นด้วย แล้วแอคฉอดส่วนใหม่แม่งบอกว่าให้เลิกแต่งแนวนี้ไปเลย ไม่ใช่รสนิยมแต่เป็นอาชญากรรมเห้ไรไม่รู้ พวกที่ชอบแนวนี้อ่านอยู่ใต้ดินเงียบๆโดนไปด้วย อนาคตแม่งไม่เหลืออะไรให้อ่านแล้ว เหลือแต่หนังสือเรียนสุขศึกษากับพวกconsentเท่านั้นมั้ง
>>656 ของกูโอเคกับสายฉอดนะ แต่ละคนก็มีความเชื่อของตัวเอง พูดดีกว่าไม่พูด แต่กูไม่โอเคกับป.เพราะเหมือนด่าอย่างเดียวไม่ได้ตั้งใจขับเคลื่อนสังคมว่ะ
ขนาดเจเคกูยังเข้าใจประเด็นนะว่านางมองทรานส์ยังไงทำไมไม่โอเค ต้องการขับเคลื่อนสังคมไปในทิศไหนแม้กูไม่โอเคกับความคิดเจเค แต่ประเด็นที่ไม่โอเคกับป. เพราะกูไม่เข้าใจว่ะ เปโดมันเป็นปัญหาที่power dynamics กับการหลอกคนที่มีความสามารถในการตัดสินใจไม่พอใช่ปะ แต่จับมือลงนรกเป็นจุดนั้นจังๆ แถมนางคิกคักสนุกกับพระเอกเหี้ยและนายเอกที่ไม่เคยเรียนเพศศึกษา อีกอย่างนางคุยกับคนอื่นว่าติดเตือนไม่พอต้องจำกัดอายุใช่ปะ แต่เรื่องนั้นนางแค่ติดเตือนหลังมีคนว่านางแต่ไม่จำกัดอายุ ไหนจะเรื่องตั้งกลุ่มของนางที่เพื่อนลงขายงานเปโดที่นางอ้างว่าไม่รู้เรื่อง คือไม่อ่านงานเพื่อนกูเข้าใจนะแต่ไม่รู้เนื้องานที่ออกภายใต้กลุ่มของตัวเอง โปรโมทไปแล้วด้วยมันเป็นไปได้เหรอวะ และถึงรู้ว่างานที่มีจุดที่นางด่าคนอื่นที่แต่งแรงมากๆไม่ให้เข้าถึงง่ายๆ แต่นางก็ลงเพจเพื่อนนางให้ไปตามงานเฉยจนกูไม่เข้าใจจุดยืนนางเลยว่ะ กับคนใกล้ตัวมันยกเว้นไปซะทุกอย่างจนกูสงสัยว่านางต้องการขับเคลื่อนสังคมแบบไหนกันแน่ โปรโมทให้ด้วย
อยากพูดเรื่องผู้กล้า รึต้องไปมู้หิ้ง? กุรู้สึกว่าตลค.มีเยอะมาก แต่จำได้แค่3ตัว ละประเด็นคือตัวอื่นมันก็สำคัญนะแต่การเขียนเขาทำให้จำไม่ได้เลย555555 แบบอ่านทุกบทกุต้องขมวดคิ้วว่าใครนะ แล้วอันนี้ใครวะ จุดอ่อนของนข.นิยายแฟนตาซีมือใหม่นะกุพูดเลย ทำให้คนรักตลค.ไม่ได้
ปล.แต่เรื่องเมริทกุสงสารสนพ.นะ จำได้ว่าสนพ.นี้ดีมากตอนคนเขียนเรื่องthe best wingmanป่วย
พกบ.เพื่อนออกมาพูดแทนแล้วนะว่ากำลังทำฟอร์มคืนเงิน ส่วนเรื่องธีสิสที่ว่าไม่ส่งงานจะไม่จบพร้อมเพื่อนที่มีคนไปถามทางม.อ่ะ เขาบอกนว.ขอให้ลบ นว.ไม่สบายใจ ส่งแล้วแต่อ.ให้กลับมาแก้งาน กูไม่ค่อยโอเคตรงจุดนี้ในเมื่อรับเงินมา = ค้าขาย จะส่งช้าหรือจะเทก็ควรแจ้งลูกค้า พอโดนตามโดนแหกเข้าหน่อยบอกไม่สบายใจ คนจ่ายเงินเขาคงสบายใจมากมั้ง
มึง กูสงสัยเรื่องปกเมริทฮาร์ดโหมดอะ ถ้ามีใครในนี้เล่นเกมแกงบูด (Granblue Fantasy) มึงว่าไอ้เพชรสีรุ้งๆ ที่มันอยู่ในปกนั่นมันใช่เพชรกาชาในเกมแกงบูดมะ กูว่าโคตรเหมือนอย่างกะตัดแปะออกมาเลยอะ ข้องใจมากว่ามันไม่ผิดลิขสิทธิ์อ่อวะ
(จริงๆ มีห้องแกงบูดอยู่ข้างล่างนั่น แต่กูกลัวคนในห้องเขาจะไม่อ่านนิยายวายไทยกัน เลยเอามาถามในนี้ดีกว่า 555)
พกบ. ที่กูตามเพราะมบ. ชบ. และสุดท้ายกูเลิกตามเพราะปจ. กูชอบทั้งสามคู่นะ แต่กูรู้สึกว่าเขาวาดเพราะกระแสอะ แรกๆ ก็เฉย แต่ปจ. ปรมจ.นี่ชัดมาก แฟนอาร์ตหลายภาพคือดูรู้ว่าไม่เคยดูซร แต่วาดจากภาพที่เห็นผ่านในทวิต แล้วส่วนมากเป็นภาพจาก wetv และที่กูโมโหสุดคือภาพปจ.ที่เรท มันไม่เหมาะตั้งแต่ชุดนร.ล่ะ พอดราม่าลูกหาบก็อวย ก็ทวิตดราม่าเลิกวาด สุดท้ายก็อันฟอล รู้สึกว่าขายโปสการ์ดแพงนิดนึง อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวกู ขอโทษแฟนคลับเขาในนี้ด้วย
เชี่ย พกบคือกูตามเค้านานมากกกตตเค้ายังไม่สอบเข้ามั้ง สมัยนุ้นกูตามจากมบ เขาวาดน่ารักดี เอาจริงกุก็พึ่งรู้ว่ามีคนเรียกเขาพิแบมตอนดราม่านั่นแหละ ตอนนั้นกุตามมาหลายปีละเลยรุอยุ่ตลอดว่าเขาชื่อม ก็ไม่ได้มองเค้ามั่นหน้าอะไรนะ แต่กูเลิกตามเพราะเขาวาดภาพเรทๆชุดนรอะไรงี้เหมือนกัน ลายเส้นเขามาวาดไรวี้ละแบบกูรสว่าไม่ใช่ที่กูอยากตาม ไม่เห็นเขาในทลมานานมาก ถ้ามไ่อ่านพวกมึงคือไม่คิดไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นโรคเลื่อน
พกบนี่กูมารู้จักตอนปจเลย แรกๆก็ตามเพราะวาดน่ารักดี หลังๆเริ่มหาคนช่วยหารค่าทำนู่นนี่ก็เริ่มแหม่งๆแล้วนะ จนมาเปิดขายจริงจังนี่แหละเลยเลิกตามเลย รู้สึกได้ว่าเขาวาดตามกระแสจนมองภาพที่เขาวาดไม่เหมือนเดิมละ
>680 รูปที่ดูแล้วรู้ว่าไม่ได้ตามซีรี่ย์แบบไหนอะ กุไม่ได้ตามงานเค้าแต่อยากใส่ใจ
ในฐานะคนเล่นแกงบูดเห็ยแวบแคกนึกถึงเลย แต่บิดรูปทรงเอา
เพชรแกงบูดมันจะอวบกว่านี้
กูเคยเห็นรูปเพชรแกงบูด แต่ไม่คิดว่ามันคล้ายอะไรขนาดนั้นนะ เพชรสีรุ้งทรงเดอะซิมส์นี่กูว่าพบเห็นได้ทั่วไป มันธรรมดาเกินกว่าจะบอกว่าใครไปเหมือนใครอ่ะมึง ทำเป็นสร้อยเป็นพวงกุญแจขายกูก็เคยเห็นเกลื่อนเวกัสตั้งแต่สิบปีก่อนละ แต่ถ้ามึงสงสัยจริงจัง กูสนับสนุนให้ลองถามนักวาดไปเลย จะได้ไม่ต้องคาใจ
>>685 ภาพที่เขาวาดส่วนมากมาจากภาพในทวิตทั้งนั้นอะมึง ลองดูงานที่เป็นปรมจ.เขาสิ แล้วกูไม่รู้นะว่านว.นี่ปกติเขาถามหาภาพโมเมนท์จากคนอื่นกันป่ะวะ อันนี้กูสงสัย กูเห็นตอนตามเขาจะทวิตถามตลอดว่าช่วงนี้มีโมเมนท์อะไรบ้าง แล้วฟค.ก็เอาภาพไปทวิตให้ต่อ เขาก็เลือกๆ มาวาด มันรู้สึกเหมือนเขาวาดเพราะกระแส มบ. ชบ. ก็เหมือนกัน เขาบอกเป็นเมนน้องแต่เคยไปงานหรือสนับสนุนน้องบ้างไหมไม่รู้ เพราะแฟนอาร์ทเขามาจากภาพที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ง่ายตลอด น้อยจนแทบไม่มีเลยที่มาจากโมเมนท์จริงๆ ที่เขาไปสัมผัสมา กูก็แค่สงสัยแล้วคิดวิเคราะ์ดู 555 สุดท้ายก็อันฟอลแค่นั้นแหละ
>>678 เรื่องไม่ส่งงานจบอ่ะอาจจะเกินไป แต่ลองคิดสิว่าถ้าไม่ออกมาพูดหรือทวิตแบบนี้คิดว่าเขาจะออกมามั้ยอ่ะ ในเมื่อติดต่อไม่ได้ซักทาง ปิดการสื่อสารไปหมดทั้งเดมทั้งล็อคแอค ติดต่อผ่านเพื่อนๆของเขาก็ไม่ได้อีก แล้วไม่ออกมาเองด้วยนะส่งเพื่อนมาเป็นหนังหน้าไฟก่อน ไม่โดนด่าค่อยออกมาเองแบบนี้หรอ เขาอาจจะมีปัญหาจริงก็แจ้งสิ จะเลื่อนจะช้าจะคืนเงินใดๆ คนที่เขาซื้ออ่ะเขาจะได้รู้ ไม่ใช่แค่บอกว่าส่งแล้วเดี๋ยวมาอัพแทร็คแล้วหายไปเลยเกือบเดือนอ่ะ คนรอก็รอไปเถอะ เคสโกงเงินยิ่งเยอะๆ อยู่ด้วย คนก็ระแวงกันมั่งอ่ะ
สำหรับกูนะ ไอ้รูปนั่นนะ มันคือ octahedron crytal ผสมกับรูปทรงเจียระไนแบบ briolette cut นิยมใช้กันในงานอาร์ตตั่งต่างมาตั้งนานแล้ว มันก็ไม่แปลกหรอกที่ดูแล้วจะไปคุ้นกับภาพโน้นบ้างภาพนี้บ้าง แต่ภาพนี้มันมีหลายเอเลเม้นท์ที่ใช้ร่วมกันไง ทั้งทรง ทั้งสี มึงก็เลยคิดว่าเหมือน ไม่แปลกหรอก คราวหน้าถ้ามึงสงสัย มึงก็ใช้คำให้ซอฟท์ลงนิดนึงละกัน นี่มึงเปิดประเด็นมาแรงไปหน่อย 555555555
>>703 กูว่าแปะรูปคู่ก็อาจจะเป็นวิธีที่ดี แต่มันก็ต้องดูความ ordinary ของภาพ การใช้แสง การลงลายเส้น ลงสี บลาๆๆ อีกเยอะแยะมากมายด้วยแหละ ซึ่งบางทีกูว่ามันไม่ชัดพอ แล้วก็พ้นวิสัยที่มือสมัครเล่นจะตัดสินได้อ่ะนะ กูขอยกตัวอย่างหน่อย เมื่อหลายปีก่อนที่มีคนไปหาว่าเดอะทอยก๊อปเพลง the 1975 คนด่ากันฉิบหาย แต่นักดนตรีอาชีพทั้งหลายงุนงงว่าก๊อปยังไงวะ จนทางเดอะทอยส่งจดหมายไปถาม the 1975 แล้วได้รับคำตอบมาว่าอันนี้ไม่เรียกว่าก๊อปนั่นแหละ ส่วนใหญ่ถึงได้เลิกด่า แต่บางคนก็ยังอุบอิบๆอยู่อ่ะนะ 5555555 สรุปคือถ้าเป็นกู กูจะเซฟตัวเองไว้ก่อนด้วยการไม่ฟันธงว่ะ แต่จะบอกว่าเห็นแล้วนึกถึงนู่นนี่นั่น อะไรแบบนี้แทน ถ้าโชคดีเดี๋ยวก็มีคนมาวิเคราะห์ให้ฟัง
>>705 ก็ไม่เห็นจะต้องพยายามให้คนสนใจเยอะๆปะ ถ้ามึงจุดประเด็นจนเรื่องใหญ่แล้วผลออกมาว่าเขาไม่ผิด แต่เสียชื่อไปแล้ว มึงจะชดใช้ให้เขายังไงอ่ะ มึงต้องเข้าใจนะว่าไอ้คำพูดแนวฟันธงเนี่ย มันน่าเชื่อถือแล้วก็ทำให้เกิดอุปาทานหมู่ได้ง่ายมาก ต่อให้คนที่โดนกล่าวหาเคลียร์ตัวเองแล้ว แต่ถ้ากระแสมันเคยแรง ก็จะมีคนที่คิดว่า “ถึงจะอธิบายแล้ว แต่ก็อาจจะแค่โกหกเอาตัวรอดก็ได้นะ ไม่งั้นคนกล่าวหาคงไม่มั่นใจขนาดนั้น” อยู่ดี แล้วคนพวกนี้ก็ไม่ตามต่อหรอกว่าเรื่องจริงเป็นยังไง กูเลยคิดว่าถ้าสงสัย ก็ตั้งข้อสงสัยอย่างสุจริตมีมารยาทนี่แหละมึง ดีสุด แต่อาจจะดีสุดในความคิดกูคนเดียวก็ได้นะ คนอื่นที่ต้องการปั่นแรงๆให้เรื่องใหญ่ไว้ก่อนก็อาจจะมีเหตุผลของเขา แล้วก็อาจจะรับผิดชอบผลที่ตามมาได้ อันนั้นก็แล้วแต่คนแหละ
เออ กูลืมไปประเด็นนึง คือจะแปะภาพคู่แล้วบอกข้อสงสัยของตัวเองให้คนอื่นมาช่วยกันคิด กูไม่เห็นว่าจะมีอะไรเสียหายนะ กูแค่คิดว่าบางทีต่อให้แปะภาพคู่แล้ว บางเคสที่ก้ำกึ่งมากๆก็อาจจะยังตัดสินไม่ได้อยู่ดี อะไรแบบนั้นน่ะ
>>711 เออ อันนี้สงสัย ถ้านักวาดเขาบอกว่าไม่ได้ลอกมาจากที่ไหน แต่ไม่มีคำอธิบายอย่างอื่น มึงจะเชื่อเขาปะ คืออยู่ดีๆกูก็นึกขึ้นมาได้ ถ้ากูไม่ได้มีเรฟอ้างอิงอะไร กูแค่ชอบรูปนี้เฉยๆ อาจจะเคยเห็นอะไรคล้ายๆแบบนี้มาจากซักที่ แล้วกูเอามาวาด กูอาจจะอธิบายอะไรไม่ได้นอกจากไม่ได้ลอก อะไรเงี้ย
>>711 กูว่ามึงดูติดใจนักเขียนมากเลยนะ กูรู้ว่าในโม่งไม่ค่อยชอบแก๊งนี้เพราะประเด็นฉอดของป. แต่มึงดูเทใจว่าเป็นความผิดนักเขียนที่บรีฟให้นักวาด ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าความจริงผิดที่ใครกันแน่ หรืออาจะจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือมึงอาจจะคิดมากไปเองอะไรก็ตามแต่ เป็นกูกูไม่ถามนักเขียนหรอกนะ กูจะถามนักวาด
>>708 ไม่ๆ จริงๆคือกูเห็นกับฝั่งว่าอย่าฟันธงไง แต่ถ้าลองคิดในอีกแง่ การเกริ่นลอยๆอย่างเดียวมันไม่น่าพอจะดึงคน ถ้าใส่ภาพมาด้วยอย่างน้อยคนที่ไม่ตามทั้งคู่ก็ดูได้ว่าเหมือนไม่เหมือนงี้เก็ตมะ
>>711 จริงๆถ้าdmไปหานักวาดตรงๆกูว่าอาจเคลียร์จบง่ายกว่านะถถถถ ไม่มีดราม่าไม่มีประเด็น ดี
>>712 เหมือนเคยเห็นเคสแบบที่มึงบอกนะ โดยเฉพาะพวกวาดออริละดันไปตรงกัน ถ้าตีกันใหญ่โตก็เห็นแต่ฝั่งไหนfcเยอะฝั่งนั้นชนะว่ะ ไม่ก็คนวาดก่อนชนะ เลยมีบอกให้พวกทำงานพวกนี้เก็บๆข้อมูลไว้บ้างไง ถ้ามีประเด็นอย่างน้อยจะได้เอามาสู้ได้
>>712 ถ้าในกรณีนี้ กูเอาไปถามนว.คนแรก (คุณV.Krisedge) แล้วเขาตอบมางี้ กูจะเชื่อ 50/50 เพราะกูเข้าใจว่าบางทีอาจจำติดตา ไม่ก็ชอบทรวดทรงแบบนั้นเป็นทุนเดิมแล้วคิดว่ามันเหมาะดี แต่ถ้าเป็นนว.คนที่ 2 (คุณ Emuro) กูคิดว่าเขาน่าจะเอาดีไซน์ตามปกแรกมาวาดใหม่ ไม่น่าให้คำตอบอย่างที่มึงว่า 555 ใจจริงถ้ากูจะถามตรงๆ กูอยากไปถามนข.มากกว่าว่าเอาเพชรแกงบูดเป็น ref ตอนบรีฟนักวาดรึเปล่า (ดีไม่ดีสนพ.จะเป็นคนเขียนบรีฟด้วยซ้ำเหอะ ปกแรกนั่นน่ะ 555)
>>714 ที่กูอยากถามนข.เพราะกูรู้ว่านักวาดต้องวาดตามบรีฟอะ น้อยครั้งมากเลยนะที่ลูกค้าเขาจะให้อิสระคนวาดอยากวาดอะไรก็วาด 555 ยิ่งดีไซน์เป็นงี้มาตั้งแต่ปกแรกสมัยอยู่กับควบ.ยิ่งแปลว่าตอนแรกมีสนพ.ช่วยคุมงานอาร์ตอยู่เบื้องหลัง กูเลยรู้สึกว่าเราโทษนักวาดไม่ได้ ต้องไปเคลียร์กับคนให้บรีฟ (นข.หรือสนพ.เก่า) ดีกว่า
ไอ้เหี้ย กูขำ ไม่กี่ร้อยเม้นต์ข้างบนนี่โม่งหลายตัวยังไปรุมยำโม่งตัวนึงที่บอกว่าอย่ากล่าวหาชาวบ้านถ้าไม่มีหลักฐานอยู่เลย ตอนนั้นมีหลายโม่งนะที่ประกาศปาวๆ ว่าไม่ต้องมีหลักฐาน มีแค่ฟีลลิ่งว่าเหมือนก็ด่าว่าก๊อปได้ แต่พอมาดราม่ารูปปก ทฤษฎีนี้ดันไม่แพร็คทิคัลเหรอมึง 5555555555
เพราะอันนึงคนจำนวนมากอ่านแล้วรู้สึกเหมือนกัน อีกอันคนเห็นแล้วไม่รู้สึกว่าเหมือนมั้ง
แหม พอมึงพูดงี้นี่เหมือนผิดถูกขึ้นกับพวกมากลากไปเลยว่ะ
มันไม่ได้ผิดหรือถูกเพราะใครรู้สึกยังไงปะวะ ความรู้สึกคนนี่แม่งโคตรไม่ได้มาตรฐาน แล้วไอ้ดราม่าก็อปนิยายนี่กูไม่รู้หรอกนะ ไม่ได้อ่าน คนที่มาเถียงกันก็ไม่เห็นมีใครยกตัวอย่างอะไร นอกจากบอกว่าชื่อเรื่องไปเหมือนชื่อนิยายเรื่องอื่นซัมติง แต่เรื่องอะไรก็ไม่เห็นมีบอก พาโรดี้มั้ยก็ไม่รู้อีก แต่เรื่องรูปปกนี่มีบอกที่มาของสองฝั่งไง คนตั้งข้อสังเกตเขาก็มีเหตุที่เขาสงสัย แล้วก็เถียงกันอย่างมีเหตุผล เลยยอมรับความเห็นกันได้ งงอะไรอะ
ก็ไม่ได้บอกว่าผิดถูกรึเปล่าวะ แค่คนเห็นแล้วเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแค่นั้น อยากจะคิดไงต่อก็ไปพิจารณาด้วยตัวเอง
กูว่าฝั่งที่บอกให้เชื่อหลักฐานดูมีเหตุผลกว่าตั้งแต่แรกแล้วว่ะ แต่คนดันไปนึกถึงเคสบารามอส โรเซเนียอะไรพวกนั้นไง จริงๆ ไอ้เคสพวกนั้นก็มีหลักฐาน แค่พิสูจน์ยากหน่อย แต่พูดก็พูด เดี๋ยวนี้แค่บางเรื่องมีผีในห้องเหมือนกัน มีศาลตายายเหมือนกัน ซื้อของเซ่นผีเหมือนกัน ก็มีคนหาว่าก๊อปแล้ว ทั้งที่พล็อตแบบนี้มีให้เกลื่อนทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง คนเราก็กล่าวหากันง่ายเกิ๊น
กูแปะแล้วกันจะได้ไม่ต้องหา
เมริท https://m.facebook.com/CloverBookPublishing/photos/a.643991892683776/644540859295546/?type=3&source=54
แกงบูด https://www.google.com/search?q=grand+blue+fantasy+gacha&client=ms-android-samsung&prmd=ivn&sxsrf=ALeKk007ox29s7rDofYRAr1aCsoH2AYXqw:1593225741636&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwjq_4Gz_KDqAhVXxTgGHTPYDpAQ_AUoAXoECA0QAQ&biw=412&bih=652&dpr=2.63#imgrc=7q5dAmMib4i-BM
กูแนะนำให้ลองเสิร์ชรูปจากคำว่า Rainbow crystal เทียบกันไปด้วยก่อนตัดสินใจอะไรนะ ลองเทียบกันเยอะๆ ดูก่อน
คือกูว่าถ้าเจาะดูแค่สองอัน มันอาจไบแอสได้
แปะ rainbow crystal ด้วยก็ได้ ตัดสินกันเอาว่าเหมือนไม่เหมือน กูอยู่วงนอกไม่ได้เล่นเกมไม่ได้อ่านนิยาย ไม่ไบแอสแค่อยากมุงถ้าปัญหามีแค่แปะรูปกูแปะด้ายยยย
https://www.google.com/search?q=rainbow+crystal&client=ms-android-samsung&prmd=isvn&sxsrf=ALeKk03Rpwpq_TfP-przFqTHxos-NPBLmQ:1593228065450&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwitmYyHhaHqAhU673MBHfRQCMkQ_AUoAXoECAoQAQ&biw=412&bih=652&dpr=2.63
นี่นั่งอยู่นอกวงตั้งแต่เมื่อวาน มีรูปมาแล้วเข้าไปส่องดู
ตามค.รู้สึก (ของคนที่ไม่รู้ด้านภาพ ไม่ได้เล่น GB หรืออ่านนิยายเรื่องที่ว่านี้) แว่บแรกว่าคล้าย
แต่พอซูมเข้าไป รูปทรงไม่เหมือนซะทีเดียว จะเหมือนก็ตรงความเป็นเรนโบว์ในตัวคริสตัล
สรุป (ในฐานะบุคคลที่สามนะ ขอย้ำอีกคร้ัง) มองแล้วชวนให้คิดว่าได้ไอเดีย Rainbow Crystal มาจาก GB แต่นักวาดน่าจะวาดเอง
กูคิดว่าถ้าได้ไอเดียมาก็ไม่แปลกใจ แต่จะบอกว่าบังเอิญก็คิดว่าเป็นไปได้เหมือนกัน และเห็นด้วยว่านักวาดวาดเอง
นักวาดวาดเองแหละ คนนี้ทำงานปกมานาน จากที่เห็นในทวิตเครดิตเขาดีนะ แต่ไม่รู้เขาได้ตัวบรีฟมายังไง ถ้าได้ ref มาเป็นกาชาแกงบูด ก็คงเอามาปรับบิดใหม่ให้มันต่างออกไปแหละ ส่วนตัวเล่นแกงบูดนะ เห็นแวบแรกชวนให้นึกถึงจริงด้วยเฉดรุ้งมัน ปกติรุ้งในความคุ้นเคยกูจะออกมาเป็นสีรุ้งสีเหลืองแสดแดงเด่น ซึ่งรุ้งของแกงบูดมันจะเฉดชมพูเขียวฟ้า คล้ายกับบนปกเลยทำให้นึกถึงน่ะ แต่อาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ที่เฉดมันไปตรง พูดแบบคนไม่มีความรู้อ่ะนะ
นักวาดไม่เคยเล่นแกรนบลูหรือ FFBE นะจากที่กูตามทวีตเขา
พวกมึงตลกว่ะ กูไม่เห็นว่าเพชรมันจะไรเลยว่ะ เพชรแม่งก็มีทรงอยู่ไม่กี่แบบ เพชรสีรุ้งมันก็มีในเนื้อเรื่องนิ เพชรรุ้งไม่ได้มีแค่แกงบูดนะ มึงคิดส่าแกงบูดเป็นเจ้าเพชรรุ้งทุกเรื่องเหรอ จะฉอดไรทีกูขอมีสาระน่าฉอดหน่อย ไม่ใช่จับแพะชนแกะไปเรื่อย
การไล่เฉดสีมันเหมือนมั้ง ถ้าบอกว่าไล่เฉดตามสีรุ้งมันควรเป็น ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง
แต่ทั้งสองรูปมันคือไล่แบบ แบบสีโทนเย็นโทนร้อน ม่วง แดง แสด เหลือง / เหลือง เขียว คราม น้ำเงิน
ดูแว้บแรกเลยคล้ายๆหัน ตรงนี้ถ้าเอา pantone มาเรฟมันก็มีสีให้จุ่ม จุ่มๆ สีแม่งก็จะเป็นแบบนั้นเอง มีแค่นวที่รู้แหละว่ายังไง
ลองเอาไปถามห้องนักวาดในเน็ตวอทช์ไม่ดีกว่าเหรอ เอารูปไปแปะให้เห็นๆเลย แถวนั้นนักวาดเยอะ อาจจะได้ความเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น
กูว่ามันน่าจะหมดประเด็นไปได้ตั้งแต่นักวาดวาดเอง ไม่ได้ดราฟไม่ได้ตัดแปะ แล้วรูปที่วาดก็ไม่ได้มีลักษณะพิเศษชนิดคนอื่นไม่มีทางคิดเหมือนกันแล้วปะ คือแค่นี้มันก็น่าจะหลุดข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ได้แล้ว ที่เหลือจะได้แรงบันดาลใจหรือบังเอิญอะไรยังไง มันก็เป็นเรื่องปกติแล้วไม่ใช่เหรอวะ
ถามหน่อยดิ ปกติเห็นรณรงค์เรื่องรีโพสต์กันใช่ปะว่าอย่าทำ แล้วนี่เห็นคนรณรงค์เรื่องอย่ารีโพส มาแปะรูปสปอยล์การ์ตูนในนิตยสารจากแสกนเถื่อนที่จิ๊กมาจากที่อื่น
ทำไมถึงคิดว่ามันโอเคหว่า มัน งงๆ
งงตรงที่อย่างอย่ารีโพสแฟนอาร์ตดูรู้ว่าไม่ควรเพราะไม่ใช่ผลงานตัวเอง แล้วทำไมพอเป็นการ์ตูนซึ่งเป็นของขายถึงแปะหราระดับที่ดูก็รู้ว่าสปอยล์แสกนเถื่อน อย่างคิเมสึยังมีให้อ่านในแอปนะ แต่นี่แบบรูปที่ถ่ายจากหน้านิตยสารมาเลย เลยยิ่งไม่เนียน ลองหาหน่อยก็เจอแล้วว่าจิ๊กรูปจากไหนมารีโพส
>>747 ไม่ใช่แค่มังงะด้วยนะ อนิเมะก็เห็นแคปแฟนซับมาหวีดกันประจำ
นึกถึงคราวก่อนมีคนเอามังงะคิเมตสึแปลเถื่อนมาเทียบกับของ LC แล้วบอกว่าซับเปลี่ยนอารมณ์เปลี่ยน ของเถื่อนแปลประมาณว่า ถ้าไม่เคยเห็นนรกกูจะแสดงให้มึงเห็นเองไอ้เหี้ย ส่วนของ LC แปลแบบสุภาพเรียบร้อย ภาษาโบราณข้าๆเจ้าๆ สรุปคนอวยกันว่าของเถื่อนแปลได้อารมณ์กว่า กูล่ะหมดคำพูด
พวกมึงกูไปเปิกทวิตเจอ คุณหมอผู้ชายเป็นนักเขียน เข้าบ่นให้นักเขีนยนคนไหนหว่ะ กูอยากรู้ หรือมีคนมาบ่นในนี้แล้วบอกกูที
เห็นนักเขียนนิยายวายแปะสแกนเถื่อนแนะนำวายเกาหลีอีกแล้วจ้า ต้องรอให้นิยายตัวเองโดนรีวิวด้วยสแกนpdfเถื่อนก่อนใช่มั้ยถึงจะรู้สึก
เรื่องรดส.ของจิตตินี่กูเคยบ่นไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เวลาใครมาอวยกูก็จะบอกว่าเรื่องนี้แม่ง toxic สุดล่ะ...คือสำหรับกูที่เรียนสายแพทย์นิยายเกี่ยวกับหมอเรื่องไหนจะเขียนให้หมอดูว่างดูเวอร์ยังไงก็รับไหวอยู่ แต่ไม่ใช่การเขียนการรักษาโรคผิดๆ เขียนการใช้ยาผิดๆ แบบนี้ อาการป่วยของนายเอกกับวิธีการรักษากูอ่านแล้วแทบจะปาทิ้ง โมโหอะแม่ง คนเขียนได้หาข้อมูลไหมก่อนเขียน สักแต่จะยัดดราม่า เคยทักเขาไปด้วยแต่เขาเบลอ แล้วก็จะออกมาบอกว่าเขียนสมัยยังอายุน้อยรู้เท่าไม่ถึงการ สลัดดดด หาข้อมูลค่ะ! ถ้าอยากเขียนแนวแบบนี้ปาข้อมูลมาให้แน่น ไปอ่านงานวิจัยมาก็ได้ อย่านั่งเทียน พูดเรื่องนี้แล้วเกรี้ยวกราดทุกที 555
Ky ทำไมเดี๋ยวนี้ขายมือสอง shopee ชอบบังคับให้ร้านเข้าร่วมแคมเปญอะไรไม่รู้วะ ปกติเสียค่าธรรมเนียมธนาคารกูเข้าใจได้นะ แต่นี่บังคับกูเข้าแคมเปญ 10% ต้องเสียค่าธรรมเนียมบริการเพิ่มอีก คือกูไม่อยากเข้าไง แต่บังคับกูเข้าอัตโนมัติเฉย เเล้วยังยกเลิกไม่ได้ด้วยนะต้องรอรอบยกเลิกทุกวันที่ 25 ของทุกเดือนอีก Shopee เป็นแอพที่สำหรับคนซื้อคือดีมากๆๆ แต่คนขายนี่เจ็บๆ เข้าเนื้อหลายรอบละ
>>759 กุก็โดนมึงกรอกข้อมูลออกตอนวันที่ 2 กรอกดีๆอย่าวรรคตอนผิดด้วยนะ ไม่ต้องรอจนวันที่ 25 แอปมันตอนนี้คงได้เวลาหากำไรเต็มตัวแล้ว ขยันตอด ลดการแจก เดี๋ยวนี้คอยน์เศษๆก็หายาก เกมก็แทบไม่แจกคอยน์แล้ว เล่นแล้วหงุดหงิดจนเลิกเล่น เหลือเกมรดน้ำยังอุตส่าใส่ระบบขโมยมาไล่กรูอีก
เพิ่งเห็นที่หัวมู้ ไม่ได้เอามู้69มาด้วยอ่อวะ ใครยังมีลากไว้อยู่บ้าง มู้เก่าหายไปจสกall postละว่พ
ขอยืมพื้นที่บ่นหน่อยนะ เซ็งๆ สนพ.ระบบพลีชีพจัง คือกูไม่คิดว่าวันส่งกับนัดรับจะต่างกันขนาดนี้ว่ะ เซ็งแบบเซ็งมาก มาแจ้งเรื่องวันจัดส่งหลังที่เปิดพรีไปนานแล้ว กูเข้าใจเรื่องโควิด เรื่องการรีบแพ็คส่ง ทยอยๆ ไรงี้ กูเลยถามเขาไหนๆ หนังสือก็พร้อม ทำไมไม่ให้นัดรับใกล้ๆ ไรงี้ เขาบอกเปลี่ยนวันนัดรับไม่ได้ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นส่ง สนพ.บอกว่าเปลี่ยนเป็นจัดส่ง คิวกูจะไปต่อท้ายสุดทันที ของกูสั่งไป 2 ชุดไง มีของเพื่อนอีก คิดว่าจะได้รับเร็วหน่อยเอาไปให้เพื่อน เห้อ รอไปยาวๆ อีก 2 อาทิตย์เลยตัวกู
>>764 ขอโทษทีมึงอ่านดูดีๆ นะ กูไม่มีความคิดแซงคิว ตรงไหนที่บอกว่ากูจะแซงคิวเอ่ย กูบอกว่าเซ็งเพราะสนพ.ประกาศเลื่อนส่งหลังจากที่เปิดพรีมานานแล้ว กูพรีตั้งแต่เมษา เปิดแรกๆ เลยเถอะ แล้วสนพ.มาบอกจะเริ่มส่งก่อนวันปิดพรีไม่กี่วันว่าจะส่งต้นเดือนนี้ ตอนแรกทั้งนัดรับ/ส่ง มันช่วงกลางเดือนไง ถ้ามี option นี้แต่แรกกูจะได้เลือกแบบส่ง และกูยอมรับเงื่อนไขที่ว่าถ้ากูเลือกส่งไปร ของกูจะถูกย้ายไปคิวหลังสุด ซึ่งนับแล้วมันเท่ากับนัดรับ ยังไงคือกูต้องรออยู่แล้ว แค่บ่นว่าเซ็งจ้า
Ky ล่าสุดกูเห็นคนหันมาพูดถึงความบ้งของร้ายเดียวสาอีกรอบแล้ว กุเห็นแต่ละคนแซะนิยายจต.แล้วกูสัมผัสได้ว่าเหมือนมีคนไม่ชอบนางเยอะอ่ะ
>>763 (กูถึงขั้นต้องไปดูเพจสนพ.เพื่อตอบมึงเลยนะ 55555) ถ้าเลื่อนวันนัดรับเดี๋ยวก็มีคนบ่นอีกว่าไม่สะดวก เลื่อนทำไม และสถานที่นัดรับก็ไม่ใช่ที่สนพ.เอง แต่รับที่แดทวาย ไม่ใช่ว่าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ
ไทม์ไลน์
20 เม.ย. โพสต์เปิดพรี
- พรี 20 เม.ย.-9 มิ.ย.
- ส่งไปร 10 ก.ค.
- นัดรับ 13-19 ก.ค.
31 พ.ค. โพสต์เปลี่ยนวันจัดส่ง
- ส่งไปร 1 ก.ค.
- นัดรับตามเดิม
- ถ้าคนนัดรับอยากเปลี่ยนเป็นส่งไปรแจ้งเปลี่ยนได้ภายใน 15 มิ.ย.
ดูจากทล.แล้วกูว่ามึงบ่นช้าไปมั้ย 55555
>>767 ขอตอบอีกทีละกัน ตอนแจ้งเลื่อนวันส่ง กูคุยกับสนพ.ไปแล้ว ช่วงปลายพ.ค. เขาบอกนั่นแหละทำไรไม่ได้ ได้แต่ขอโทษ ซึ่งกูไม่ผิดไหมอะที่จะเซ็ง 5555 กูถามร้านแดทวายไป แอดมินร้านบอกว่าไม่มีการแจ้งใดๆ จากสนพ.ยืนยันวันรับเดิม กูบ่นกับไอริสไปแล้วแต่แค่ตอนนี้มาบ่นในพื้นที่สาธารณะไง กูผิดเองแหละมึงที่คิดว่ามันจะได้เท่าๆ กันเลยเลือกแบบนัดรับ แล้วดูตอนนี้ดิ สองอาทิตย์เลยนะ กูทีมพรีวันสองวันแรก นอนน้ำตาตกเลย เซ็งชิบ
+อีกนิด สนพ.แจ้งแต่แรกแล้วว่าหากมีการแก้ไข ออเดอร์จะถูกย้ายไปหลังสุด แต่เขามาแจ้งเรื่องวันส่งทีหลัง หลังกูพรีไง คือกลายเป็นความผิดกูเองที่พรีเร็วงี้อ่อ กูว่าตรงนี้กูมีสิทธิ์คอมเพลนว่ะ เสียงคนรับน้อยนิดด้วยมั้งถ้าเทียบยอดพรีส่งแบบถล่มทลาย ครั้งนี้กูเลยอดรู้สึกนอยด์ไม่ได้ กูไม่ได้อยากให้โลกหมุนรอบตัวกูนะ แค่ออกมาบ่นว่าเซ็งเฉยๆ เพราะมันทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
กูไม่เคยอ่าน รดส มีใครพอคร่าวๆ ให้ได้ไหมว่าทำไมถึงบิดเบือนขนาดนั้น
เห็น นข หลายคนที่มีปสก เป็นโรคทางจิตเวชแบบใดแบบหนึ่งดูจะเดือดมาก
>>771 กูเคยอ่านคร่าวๆเพราะตอนนั้นอยากอ่านดราม่าและคนแนะนำมา กูรู้สึกว่าเขายัดเยียดดราม่าแบบฉิบหายวายวอดมาก และเขียนให้โรค DID ดูแฟนตาซีแบบฉิบหาย ทั้งๆที่อาการจริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น จริงๆกูว่านขคนนี้สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือลูกหาบ ตั้งแต่ดังเพราะคั่นกูคนก็แบบอยากจะให้ไปเอาเรื่องอื่นเขามาทำซีรีส์ ล่ะเสือกมีคนไปจิ้มรดสมา ล่ะประเด็นคือบางคนที่เป็นลูกหาบเขาก็รู้นะว่าอาการต่างๆของนายเอกในเรื่องมันไม่ถูก แต่ก็ยังอยากดูซีรีส์เพราะอยากดูคู่ชิปตัวเองเล่นดราม่า กูล่ะอยากจะฟาดฉิบหาย
ระบบพลีชีพกูพรีกับดว.ไป ไม่รู้จะส่งวันไหนเลย ตอนพรีไปไม่รีบนะ แต่พออ่านเล่มสี่ตอนปีศาจปากกาแล้วแม่มมม อยากได้เล่มจบเร็วๆ กูเลือกส่งลงทบ.ด้วย ปลายเดือนกค.เลยเปล่าวะ
สำหรับกูนิยายเขาไม่สนุกเลย แต่ดังมาก จนกูเริ่มสับสนว่ากูมีปัญหาตรงไหน 55555555
กูคนถามเอง >>771 เลื่อนขึ้นไปเห็นที่ >>757 อธิบายเพิ่มด้วย กูเหวอเลย อิเห้ แบบนี้ก็ได้เหรอ5555555
กูเคยได้ยินที่คนเขาว่าเล่นดราม่าหนัก กูอ่านงานเขาไม่รอดสักเรื่อง เคยเปิดไปเจอเรื่องนึง (ไม่รู้อะไร แยกไม่ออก ตัวเอกทุกเรื่องแม่มเป็น นศ) มีแต่บทพร่ำเพ้อในใจ กูปิดเลย ดีนะที่ไม่หลง
ไม่เข้าใจ ทำไมคนอวยแต่งานประเภทนี้
พูดถึงซีรีส์ กูถามถึงพันดาวได้ไหมวะ อันนี้นับว่าพังไหม กูไปเปิดเจอรีวิวเพจเสียดายฯ เขาด่ายับมากในหลายประเด็น อันนี้จริงหรือเพจเกลียดวะ กูรอจะซื้องานหนังสือนี่เป๋เลย (กับเรื่อง moment awkward ในตำนาน)
เห็นคนบอกจิตติเคยลอก nc คนอื่นด้วย จริงเหรอ??
กุชอบแค่เรื่องกวีของปีแสง เรื่องอื่นเขาไม่รอด55555
กูรู้สึกว่าจต.นางอีโก้แรงนะ เคยเจอในงานหนังสือคือหน้าสูงมาก เชิ่ดๆ
รอวันที่รดสโดนแหกสักที อยากเห็นเอเนอจี้นักฉอด ฉอดจนสนพเรียกเก็บหนังสือเหมือนเรื่องทัพบ้าง
รดสมีคนแหกตั้งแต่ก่อนออก+ออกใหม่ๆแล้วนะ แต่ก็ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น
>>788 กูนั่งรอมาตั้งแต่แหกรอบแรกละ ไม่โดนอะไรสักที ทำเบลอกันไปหมด สงสัยเพราะมันไม่ได้โปรโมทขึ้นป้ายชัดเจนให้คนเห็นภาพมั้ง อย่างเรื่องทัพนั่นโปรโมทว่า “ยังไม่บรรลุนิติภาวะ” แต่โชว์หราอยู่บนชั้นหนังสือ นักฉอดจากไหนไม่รู้ทั้งแอคเล็กแอคใหญ่ลุกฮือมาด่ากันหมด ทีงี้ล่ะเงียบกริบเลยนะคุณขา
น้อยใจแทนนักเขียนที่แฟนคลับไม่เยอะว่ะ โดนรุมฉอดจนไม่กล้าเขียน แต่พอเป็นนักเขียนดังนักฉอดเงียบ ฮือ
รดสนี่แหกแล้วแหกอีก นักฉอดก็พูดกันปากจะฉีกว่ามันบ้งๆ แต่ก็ยังมีคนที่พอคนถามหานิยายดราม่าก็ยัฃแนะนำเรื่องนี้ และลูกหาบทั้งหลายก็ดีเฟนด์กันเหลือเกิน กูถึงบอกนางอ่ะอยู่ได้ด้วยลูกหาบ ล่ะกูเบื่อลูกหาบนางมาก ดีเฟนด์แบบหลับหูหลับตาสัสๆ
>>778 นิทานพันดาวส่วนตัวเราว่าสนุกดี แต่ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆนะ(ไหว้รอบทิศ) อวยIXเยอะ เยอะแบบเยอะมากๆ โครงการเอย ความมีเมตตาเอย อ่านแล้วรู้สึกกระอักกระอ่วน เราไม่ชอบเรื่องของคนนี้เลยอะ รู้สึกถ้าตัดออกไปนิยายคงสนุกกว่านี้5555 แต่ถ้าเพื่อนโม่งไม่ซีเรื่องพวกนี้ก็อ่านได้แหละ จุดที่สนุกมันก็มีอยู่หลายจุด
>>787 แหกขนาดนั้น ก็ต้องยอมรับดิ พิมพ์ขอโทษยาวเหยียดในเล้าเป็ด ขอโทษคนเขียนต้นฉบับ ตกลงว่าจะแก้ฉาก nc ใหม่
... แต่ทุกวันนี้ได้ดิบได้ดี สงสารเจ้าของ nc ต้นฉบับมากๆ
อ่านในทวิตแล้วกูอึ้ง โห มีหลายคนที่เชื่อข้อมูลทางการแพทย์ของนิยายเรื่องนี้เยอะมาก สนพหรือนักเขียนควรเทคแอคชั่นอะไรบ้างนะ
นอกจากเรื่องโรคกูว่าเรื่องชีวิตในมหาลัยก็บ้ง บ้ง บ้ง ไม่รู้จะมีเด็กที่ยังไม่เข้ามหาลัยแล้วเข้าใจว่าสังคมมหาลัยเป็นแบบนั้นบ้างไหม
รดสนี่คนเขาฉอดจนเลิกฉอดกันไปนานละ เพราะพูดไปก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ลูกหาบก็อวย มันเป็นนิยายค่ะ แฟนตาซี ไม่เห็นต้องสมจริงอะไรขนาดนั้น คนเราแยกแยะได้ (เป็นไงล่ะ สาววายแยกโลก //มองนิยายกับละครที่เผยแพร่ความรู้ผิดๆว่าโดนงูกัดแล้วต้องเอาเชือกรัด) จตก็ทำเบลอ ไม่เห็นออกมาพูดอะไรเลย
อยากด่านักฉอดก็ช่วยดูก่อนว่าเขาฉอดกันไปยัง โปรดอย่าใช้ตรรกะว่านิยายเรื่องนั้นเรื่องนี้โดนฉอดทั้งๆที่เรื่องอื่นหรือในนิยายชญก็ทำกันเยอะแยะไม่ไปฉอดบ้างล่ะ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าตรรกะเริ่มบ้ง
ที่ด่านักฉอดกูว่าเพราะนักฉอดรดสรอบนู้นกับนักฉอดทุกอย่างห้ามเขียนมันคนละกลุ่มกันมั้ง บางคนก็อาจจะคนเดิม บางคนกูก็รอดูอยู่ว่าจะฉอดรดสหนักๆ เหมือนเรื่องเร็วๆ นี้บ้างมั้ย
แต่มันก็น่าปวดใจจริงๆ นะที่นักเขียนต้องมารับผิดชอบชีวิตคนอ่านที่ไม่รู้จักแยกแยะเอาเอง พอจะไม่สนใจก็กลายเป็นคนไม่ดีอีก เฮ้อ นี่ไม่ได้พูดเรื่อง รดส อย่างเดียวนะ แนวอื่นๆ ที่ขยันฉอดกันด้วยน่ะ
นิยาย=สาร
คนเขียน=ผู้ส่งสาร
คนอ่าน=คนรับสาร
คนเขียนไม่รู้หรอกว่าคนอ่านจะรับสารได้ตรงตามที่ตัวเองต้องการสื่อมั้ย แต่ถ้าสารที่ส่งไปมันมีบางอย่างผิด มันก็ช่วยไม่ได้ที่คนรับสารบางคนจะเข้าใจตามนั้น เพราะคนอ่านไม่ได้มีพื้นฐานความรู้/ทัศนคติ/ประสบการณ์เหมือนคนเขียน แล้วทีนี้คนเขียนก็ควรจะรับได้ถ้ามีคนว่าเพราะส่วนที่ผิดนั้น เพราะมันอาจสร้างความเข้าใจผิดๆต่อไปได้ จะบอกว่านิยายเป็นบันเทิงคดี อ่านเอาความสนุกสนานบันเทิงใจ ไม่เห็นต้องจริงจังอะไรกับมันมาก แต่ขอให้ลองคิดถึงความเชื่อผิดๆอย่างพองูกัดให้เอาเชือกรัดบ้าง การผายปอดที่กลายเป็นจูบบ้างดู คนเชื่อกันไปตั้งเท่าไหร่ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น
>>801 งูกัดเอาเชือกรัดนี่มันเคยอยู่ในสุขศึกษาเลยนะกูจำได้ นิยายมันก็เอามาจากที่สอนกันนี่แหละ มึงพูดถูกกูไม่เถียงหรอก แต่ยุคนี้สมัยนี้แล้วนะ ความรู้ค้นหาไม่ได้ยากเลย คือถ้าจะเอา fact กูก็ไม่คิดว่าคนจะมาหาเอาจากนิยายน่ะ ถ้ามารูปนี้คือนิยายก็ควรถูกต้องตรงเป๊ะตามศีลธรรมอันงามห้ามบิดเบือนอะไรใดๆ อ่านกันแบบขาวผ่องไปนั่นแหละ แต่กูไม่ถกละนะ รู้สึกวนกลับมาที่เดิมอีกละ กูบ่นไปงั้นแหละ
กูว่าอะไรที่เป็นเรื่องพื้นฐานนี่ควรจะเขียนให้ถูกนะ หาข้อมูลหน่อย บางอย่างชีวิตจริงกับนิยายก็แยกยาก อยากเรื่องวิชาชีพ วิธีปฐมพยาบาล cprเนี่ย ควรมีสอนจริงๆและสื่อรวมถึงนิยายก็ควรเขียนให้ถูกไปเลย เพราะถ้าจำเอาไปใช้มันมีผลกับชีวิตคนจริงๆ แต่บางอย่างที่แฟนตาซีมากๆ kinkแปลกๆงี้ ก็จัดเรทเอาเถอะ
https://www.img.in.th/image/Y5iUTl
เขาว่ายังงี้ว่ะ
>>804 ขนาดนิยายสมัยก่อนที่เน้นๆเรื่องการอ้างอิงก็ยังมีบ้งๆนิดหน่อยนะ พอมาสมัยนี้ส่วนมากคนเขียนเป็นเด็กๆที่เขียนเพราะอยากระบายจินตนาการซะมากแล้วการอ้างอิงส่วนมากก็หาจากอินเตอร์เนทบางทีมันก็บ้งต่อๆกันมาอีกที กูเห็นด้วยว่าเรื่องพื้นฐานที่ใส่ได้ควรเขียนให้ถูกหน่อย แต่มาจนวันนี้กูว่ารณรงค์ไม่ใช้นิยายเป็นแหล่งอ้างอิงน่าจะตรงจุดที่สุดแล้ว สงสัยอะไรไปหาtext book ยืนยันอีกทีเถอะ เพราะห้ามไม่ได้ 100% ทั้งคนเขียนและคนอ่านนั่นแหละ
รดส.นี่กูขอพูดในเชิงการแพทย์นะ ความบ้งส่วนอื่นกูขอไม่พูดถึง
1. ยาก่อนเลย naltrexone เป็นที่จิตแพทย์จะจ่ายให้ผู้ป่วยที่มึภาวะอดเหล้า ผู้ติดเหล้า ยำบัดเหล้า แต่ก็เป็นส่วนน้อย และมีมีเคสที่จิตแพทย์ ประมาณ 0.1% จ่ายยานี้ให้กับผู้ป่วยที่มีภาวะทำร้ายตัวเองอย่างรุนแรง แต่กรณีหลังนั้นยังไม่ยืนยันผล
2. หมอจ่ายยารักษาโรคหลายตัว กระโดดตบได้ไหมคะ DID นะไม่ใช่หวัดใหญ่ที่จ่ายยาไเ้หลายตัวขนาดนั้น จิตแพทย์นี่เป็นหมอที่ยาจ่ายออกน้อยสุดๆ อะ ยาแต่ละตัวต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนจ่ายให้ผู้ป่วย เว้นยาคลายเครียดไว้ตัวนึง อันนี้สั่งจ่ายบ่อยแต่มันเป็นยาควบคุม ไม่มีทางที่จิตแพทย์จะสั่งจ่ายยา 'หลายตัว' ให้ผู้ป่วย เพราะจุดมุ่งหมายของการรักษาโรคนี้คือการค่อยๆ ปรับบุคลิกหลักและรองให้อยู่ร่วมกันได้ หรือค่อยๆ หลอมรวมกันในใจมคือยอมรับกันในใจน่ะ แต่หมอเรื่องนี้มี 'ยากดบุคลิก' omg วงการแพทย์สั่นสะเทือน
3. โรค DID เป็นโรคที่มีบุคลิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยคนที่เป็นส่วนมากจะประสบการถูกทำร้ายจิตใจหรือร่างกายอย่างหนัก สร้างขึ้นมาจากการที่บุคลิกหลักไม่สามารถกระทำสิ่งที่อยากทำได้จากสถิติงานวิจัยส่วนมากจะเริ่มได้ยินเสียงตอนอายุ 18 บุคลิกรองจะพยายามมาแทนที่บุคลิกหลัก ความทรงจำบุคบิกหลักจะขาดหาย หลงลืมจำไม่ค่อยได้ สลับมาแบบปุบปับไม่ได้ นี่อะไรนั่งคุยกับหมออยู่ดีๆ อีกคนออกมาเฉย งงในงง
4. เวลาผู้ป่วยจิตเวชนอนโรงพยาบาล จนท.ทุกคนรู้ ว่าใดๆ ก็ตามที่เสี่ยงต่อการทำให้ผู้ป่วยทำร้ายตัวเองจะไม่มีเด็ดขาด! ไม้จิ้มฟันก็ไม่ได้! นี่มีทั้งแก้วกระเบื้อง มีดินสอ โรงพยาบาลนี้ห้ามไปรักษานะ น่ากลัวว
5. จิตแพทย์ไม่บำบัดผู้ป่วย 'นานหลายชั่วโมง' หรอกนะ ชั่วโมงเดียวนี่ก็มากแล้ว นั่นคือเซฟโซนองทั้งหมอและผู้ป่วย เพราะเป็นโรคที่ละเอียดอ่อน จิตแพทย์เรื่องนี้ผิดหลักนะเนี่ย
6. ถูกมัดจนทำให้เกิดบาดแผล ฟ้องโรงพยาบาลได้เลยนะ ไม่มีบุคล่กรทางการแพทย์ที่ไหนทำกันนะ มันผิดจรรยาบรรณ ต่อให้ผู้ป่วยคลั่งก็เถอะ
7. โดนซ้อมทั้งตัวแต่ไปหาหมอ กลับบอกว่า ไม่เป็นอะไรมาก เอิ่ม...ไล่ออกแม่ม ถ้าบอกว่าโดนซ้อมมานี่ส่วนมากถูกส่งไปสแกนนะคะ สแกนดูทั้งตัว ดูกระดูก ดูสมอง นี่ปล่อยกลับเฉย
8. คุณพอ.คิดถึงนอ.มั่กๆ จนเครียด นอนไม่หลับ พูดคนเดียว แต่ไม่ไปหาหมอ แล้วจิตแพทย์คนนั้นก็เห็นแต่ไม่เตือน ไม่พูด เอิ่ม...ในฐานะหมอคุณติดลบนะคะ
9. คุณจิตแพทย์เปิดเผยความลับของคนไข้ อิหยัง! คุณเป็นหมอ! หมอนะเจ้าใจไหม! คุณจำจรรยาบรรณแพทย์ไม่ได้เหรอ! ต่อให้นั่นเป็นครอบครัวก็ห้าม!
10. แพทย์และโรงพยาบาลนี้ควรฟ้องนะเอาจริงๆ ถ้าใส่ใจสักนิด งานวิจัย DID เปเปอร์ทั้งไทยทั้งต่างประเทศมีให้ค้นคว้าและศึกษานะ แต่นี่อาการของโรคมันไม่ใช่ การรักษายิ่งไม่ใช่ มันน่าโมโหไหมอะ!
กูรู้สึกมันก็หนึ่งในการรีเสิร์จที่บ้งเฉยๆ อ่ะ คนอ่านไม่ควรเชื่อข้อมูลพวกนี้จากนิยายอยู่แล้ว ย้ำว่า"นิยาย" แต่คนเขียนก็ควรรับผิดชอบว่างานตัวเองเขียนพลาดยังไง ไม่อิงความจริงยังไง จะติดแท็กหรือคำเตือนไว้เลยก็ได้ว่าที่เขียนไปเนี่ยไม่จริงนะ คนอ่านจะได้รู้ตัวมากขึ้นอีกหน่อย แต่ถ้าคนเขียนเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเขียนผิด ก็ช่วยกันชี้แจงว่ามันผิดตรงไหนก็พอ ไม่ว่าจะเพราะตอนนั้นเค้ายังไม่ตระหนัก หรือเค้าพยายามเขียนแล้วแต่ก็ยังมั่วอยู่ดีก็ตาม มันคงคาดหวังมาตรฐานนักเขียนให้ดีเท่ากันทุกคนไม่ได้อ่ะ
>>810 ขอเพิ่มอีกรอบ ตอนแรกจะพิมพ์แล้วลืม ขอโทษที่ใช้เม้นต์เปลือง แง้ กูเห็นคนฉอดว่าเค้า romanticise ความตายแล้วกูเห็นด้วยว่าเรื่องนี้ควรติด warning นะ แต่การเขียนเนื้อหา romanticise ความตายมันไม่ได้ผิดในสายตากูเท่าไรอ่ะ ยิ่งถ้าตัวเอกมีอาการป่วย เป็นไปได้สูงมากที่มันจะคิดไปในทางนั้น หรือถ้าคนเขียนมีทัศนคติต่อการตายในทางบวก แบบสมมติเค้าคิดว่าตายไปก็ไม่เป็นไร ไม่เสียดาย เป็นทางเลือกของแต่ละคน ถ้าเค้าเขียนแนวคิดนั้นลงไปจะเหมือนส่งเสริมให้คนไปตายมั้ย อาจจะคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าต้องติด TW แต่ถ้าเขียนประเด็นพวกนี้กูว่าก็ควรติดอ่ะนะ 555
เท่าที่กูจับใจความได้จากเทรดบ่นรดส.คือตัวเอกน่าจะอยากตายหนีปัญหาที่บุคลิกอื่นของตัวเองก่อ ซึ่งในความเป็นจริงมันก็เป็นไปได้และค่อนข้างเป็นเรื่องธรรมดาอ่ะ กูไม่ได้บอกว่ามันถูกหรือสมควรคิดอยากตายเวลาเจอปัญหานะ *ขีดเส้นใต้* แต่มันเป็นไปได้เฉยๆ ถ้าจะด่าว่าตัวเอกทำตัวนอนเซ้นส์ ทำตัวเองอะไรแบบนี้กูก็โอเค เพราะอย่างตอนกูอ่านสูญสิ้นความเป็นคนกูก็ด่าพระเอกหนักมาก 5555 แต่กูก็ไม่ได้รู้สึกว่าคอนเทนต์พวกนี้มันผิดหรือไม่ควรเขียนอ่ะ แค่มึงเตือน/TWให้จริงจังหน่อยก็ดี
มึง นิยายDIDที่ข้อมูลถูกมากๆอย่างในป่าสนไม่เห็นแมส กุบอกแล้วบางทีก็ขึ้นอยู่กะคนอ่านด้วยง่ะ กุสงสัยบ่อยมากว่างานสุดคุณภาพมากมายทำไมไม่แมส ทำไมนิยายบ้งๆถึงแมส
>>817 กูไม่ได้อ่านทั้งรดส ทั้งเรื่องที่มึงบอก แต่โดยส่วนตัวกูว่านิยายมันมีปัจจัยความสนุกหลายอย่างอะ บางเรื่องมันอาจจะมีอะไรบ้งๆเยอะแยะ แต่มันก็มีส่วนประกอบที่ทำให้อ่านสนุก ขณะที่หลายๆเรื่องอาจจะเป็นนิยายน้ำดี มีคุณภาพ ตรรกะถูกต้องดีงามทุกอย่าง ตัวละครเหมือนอยู่ในยุคพระศรีอาริย์ แต่ในแง่ความสนุกมันอาจจะยังสู้ไอ้เรื่องบ้งๆไม่ได้ เหมือนแดกเนื้อย่างเกรียมๆเสี่ยงมะเร็งมันอร่อยกว่าแดกสลัดอะ
นิยายวายนี่จากเนื้อหาที่เสพๆกันอยู่นี่ถ้าจะจัดหมวดจริงๆมันถือเป็นนิยายโรมานซ์ มั้ยวะ แล้วนิยายโรมานซ์มันจะมีการโรมานติไซด์อะไรไม่ได้เหรอ เพราะเรื่องที่สวยงามอยู่แล้วมันก็ไม่จำเป็นต้องเอามาโรมานติไซด์อีกรอบใช่มั้ยวะ
>>817 ในป่าสนก็แมสประมาณนึงนะมึง แต่เรื่องนั้นกูอ่านแล้วกดดันอ่ะ คือรดส.ก็ดิ่งแหละ แต่ตอนอ่านป่าสนมันแบบสับสนไปหมด แล้วเส้นเรื่อง/บรรยากาศเรื่องมันอึมครึมๆ กดดันๆ บวกกับวิธีการเขียนที่...ไม่ใช่แนวการเขียนนิยายวายไทยด้วย คนเลยไม่นิยมอ่านเท่ารดส.ที่วิธีการเขียนมันย่อยง่ายกว่าล่ะมั้ง
กุงงนะ ทำไมพอเจองานบ้งๆ ยัดความรู้ผิดๆกลับมาแต่คนปกป้องวะ ติ่งบางคนออกมาด่าคนฉอดว่าพูดกันดีๆไม่ได้หรอ เอ่อ.. กูเห็นเค้าพูดกันดีๆมาหลายรอบแล้วนะ พูดกันมาตั้งแต่ปี 18 ไม่เห็นนางจะเทคแอคชั่นอะไรเลยนิ นางบอกนางสอดส่องไม่ทั่วหรอก กูแบบอิหยังวะ หล่อนคิดจะหงายการ์ดนี้จริงดิ .. แต่ถ้าเป็นนักเขียนหน้าใหม่ดูสิมึงเอ้ย ด่ากันจนนักเขียนกลัวอ่ะ
คือขอพูดในฐานะบุคลากรทางการแพทย์ละกัน คือมึงจะบ้งเรื่องเหี้ยไรก็ได้ แต่บ้งเรื่องการแพทย์ไม่ได้ คือมึงคิดว่ามีคนปฐมพยาบาลงูกัดแบบใช้ปากดูดแบบในละครกี่คนในปีๆนึงอะ คือถ้าคนเข้าใจผิดมันเปนเรื่องใหญ่นะเว่ย มันไม่ใช่แยกแยะได้ไม่ได้ แต่ข้อมูลแบบนี้มันไม่ควรไม่จริงแต่แรกอะ ละเค้าทำแบบนี้มันจะยิ่งทำให้คนไข้ที่สงสัยว่าตัวเองเปนโรคนี้ไม่กล้าไปหาหมอ(ซึ่งแต่เดิมก็ไม่อยากจะหากันอยู่แล้วอะ) หรืออาจจะซื้อยาใช้ตาม หรืออีกอย่างคือกุไม่อยากพูดเลยจุดนี้ คือคนเขียนอะ ทำให้กูรู้สึกเหมือนเค้ากำลังบอกกูว่า การตายคือทางออกที่ดี ซึ่งอีเหี้ยมันไม่ได้โว้ยยยยยยยย
กู 824 เผลอกดส่ง
ไม่งั้นมึงตั้งโรคของมึงขึ้นมาเอง เหมือนโรคดอกไม้ไรนั่น มึงจะแยกบุคลิกแยกเงาพันร่างหมื่นร่างก็เรื่องของมุงจ้า
ไม่มีใครปสด. เท่ากูแน่นอล
กูเรียนวิศวะ โคตรรำคาญทั้งแนววายและชญ. ที่ยัดห่าอะไรมาแบบไม่รู้กับคณะนี้ทั้งประเพณีดาวเดือนบ้าบอ น้องรหัสต้องสังเวยให้พี่รหัส อ่านแล้วขยะแขยง
ล่าสุดเจอแนวชญ. ประมาณว่าถ้าอยากได้เกียร์ต้องเป็นเมียวิศวะ ไม่เข้าใจว่าเขียนสนองให้ตัวเองน้ำแตกหรือไง
ปสด.สุดก็ตรงที่แม่งยังมีเขียนพอ.คณะนี้ออกมาอยู่ได้ พอได้แล้วโว้ย
เคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นที่นางเอกทำงานในกองพิสูจน์อักษร ในเรื่องนางเอกต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงในงานเขียนด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ สมเหตุสมผลไหม กูอยากรู้ว่าชีวิตจริงมันมีหน้าที่แบบนี้จริงๆไหมวะ
รดสไม่ได้แต่งมานานแล้วด้วยนะ ยังไม่ถึงสามปีเลย จะแถว่าตอนนั้นข้อมูลน้อยหรือหาข้อมูลยากก็ไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่
31/08/2017 เปิดเรื่องในเล้า
09/09/2018 ขายวันแรกในงานเจนวาย
06/11/2018 จต.แชร์รีวิวลงเพจ
05/12/2018 เธรดทวิตที่โม่งข้างบนแปะ
เอาจริงกูว่าอีกเรื่องที่นางแต่งก็แอบบ้ง(ธทร) เหมือนพอแต่งดราม่าละคิดไรไม่ออกนอกจากให้ใครสักคนเป็นโรค
>>827 อันนี้จริงมากมึง คณะนี้ตอนรับสมัครดาวเดือนนี่คนแทบไม่ยกมือกันเลยเหอะรุ่นพี่ต้องไปลากออกมา ประกวดก็แบบเล่นๆอ่ะไม่ได้เอาจริงเอาจัง จบงานประกวดก็เฉยๆไม่ได้มีอะไร เดินไปไหนคนก็ไม่ได้กรี้ดอะไร เรื่องชายชายนี่กูบอกเลยแทบไม่มี มันไปชอบสาวอักษร สาวบัญชี สาวสื่อสารมวลชนเกือบทั้งหมด
แต่ในความเป็นจริง fact บางเรื่องมันก็ลึกซึ้งถึงขนาดต้องเรียนกันเฉพาะทางถึงจะเข้าใจเลยนะ อย่างกรณีหมวดไซไฟต้องมีเด็กที่เรียนทฤษฎีฟิสิกส์ออกมาโวยเหมือนกัน ว่ามันเป็นไปไม่ได้ในทางทฤษฎีนะ แต่ก่อนกูเคยเห็นนักเขียนถึงกับจ้างที่ปรึกษาเลยเวลาจะเขียนอะไรที่เน้นทางนั้นลึกๆ ดังนั้นอย่างที่บอก กุยังคิดว่าถ้าเรื่องพื้นฐานชีวิตทั่วไปที่ใส่ได้ควรหาข้อมูลสักหน่อย แต่เรื่องเชิงลึกก็พอจะปล่อยผ่านได้ว่ะ บนสมมุติฐานเดิมคือ ไม่ควรเอานิยายไปทำหนังสืออ้างอิงนั่นแหละ
คือข้อมูลถูกต้องมันก็ดีนะ แต่กูคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนเรียนเฉพาะด้านมาแต่งนิยายด้านใดด้านหนึ่งน่ะ อย่างนิยายหมอทะลุมิติ กูอาจต้องรอคนเรียนหมอมาเขียน ซึ่งก็อาจเขียนไม่ออกหรือไม่เว่อร์วังแฟนตาซีเท่าเพราะความจริงมันทำไม่ได้
กูว่าเขาไม่ได้อยากจะปกป้อง จต อะไร แค่อยากจะให้คิดหน่อยว่านิยายมันมีส่วนที่บ้งอยู่แล้ว คนเราไม่ควรเชื่ออะไรจากนิยายขนาดนั้นโดยเฉพาะเรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย กูเห็นด้วยนะกับเรื่องหาข้อมูลมาทำ เวลาอ่านกูก็ชอบอ่านแบบนี้ แต่บางทีข้อมูลเชิงลึกมันลำบาก อย่าง รดส กูว่ามันเขียนไม่ถึง แต่มันคงได้ในแง่ดึงอารมณ์ คนอ่านนิยายเพราะมันเร้าอารมณ์ มันประโลมโลก คนเขียนหรือ สนพ น่าจะเตือนๆ ไว้หน่อยว่ามันใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้เลย นข เองก็น่าจะหาข้อมูลเพิ่มกว่านี้บ้าง เอาเท่าที่ได้น่ะ ไม่ใช่ทุกคนจะมีเพื่อนเป็นหมอ วิศวะ นักโบราณคดีให้ถามไปเสียหมด ถ้าต้องเสียเงินหาคนรีเสิร์ชข้อมูลเชิงลึกขนาดนั้นคงไม่มาเขียนวายหรอกมั้ง คือคนเขียนก็ควรถูกต้องประมาณนึง คนอ่านก็ควรมีภูมิคุ้มกันตัวเองประมาณนึง
ในความเห็นกู รดส ไม่ควรเอามาสร้างเป็นซีรีส์อย่างยิ่ง เพราะต่อให้อ้างว่าซีรีส์ประบบทจากหนังสือแล้ว แต่ก็ตะมีคนหาซื้อหนังสือมาอ่านอยู่ดีถ้าซีรีส์ฉาย เป็นการส่งต่อขยายความเข้าใจผิดของโรคนี้ให้กวัางขึ้นอีก เอานิยายเรื่องอื่นไปสร้างเถอะ นิยายดีๆมีอีกเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง
กูว่าเป็นหนังสือได้ แต่ไม่ควรเป็นซีรีส์ หนังสือมันจัดเรตอยู่แล้ว อีกอย่างพวกหนังสือนิยายเฉพาะทางอาชีพ กูเองยังไม่กล้าอ่านของอาชีพตัวเองเลย รู้ว่ามันบ้งแน่ๆ รู้สึกว่าคนจะด่าเรื่องความไม่เรียลเยอะไปปะ ตั้งแต่เรื่องดาวเดือนหรืออะไร มันนิยายอะมึง ทั้งนิยายทุกสัญชาติมันก็มีตัวละครวิ่งกรี๊ดตัวเอก มีเจ้าชายสุดหล่อประจำโรงเรียน แม่งไม่มีอะไรจริงสักนิดเดียว พอเอาไปทำซีรีส์อะถึงบ้งมากๆ
กุขำแรงตอนนางบอกรีเสิร์ชมาแล้วก่อนเขียนละมีคนบอกว่าไอ้ที่นางหามาไม่เห็นมีอยู่ในเรื่องเลย
>>837 นิยายมีส่วนบ้งก็โดนฉอดโดนแหกไป สมควรแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่านิยายจะต้องนำเสนอข้อมูลของโรคแบบเป๊ะๆ เหมือนตำราวิชาการนะ
ยังไงในความเป็นนิยายมันก็ต้องมีศิลปะในการเขียนให้อ่านเพลินๆ อ่านแล้วอินบ้าง แต่ถ้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องเซนซิทีฟอย่างโรคทางจิตที่เกี่ยวกับความเป็นความตายก็น่าจะระวังบ้าง
เค้าเป็นคนเขียน เค้าสามารถกำหนดเซ็ตติ้ง ตัวละคร และทุกอย่างในเรื่องได้เอง ถ้าเค้ารู้ว่าไม่แม่นเรื่องการแพทย์ก็ควรจะสร้างโรคขึ้นมาใหม่ไปเลย อย่าเอาเรื่องจริงมาใช้ผิดๆ
เพราะเรื่องนี้มันลึกไปสินะ บางคนไม่ได้มีความรู้ความสนใจมากพอเลยมองว่าไม่เป็นไร คนเรามันบ้งกันได้ ไม่ต้องจริงจังมาก อยากได้ความถูกต้องให้ไปหาเอาที่อื่น
แต่ลองใช้คอมมอนเซนส์ดูบ้างเถอะว่าถ้าเป็นเรื่องง่ายๆ เช่นโดนยุงกัด แล้วตัวเอกเอายาแดงทาแผล หรือเป็นซีรีส์ที่บอกว่าอิงประวัติศาสตร์ไทย แต่เรียกคิงว่าฮ่องเต้ แบบนี้รับได้กันจริงๆเหรอ??
อันนี้นอกเรื่องนิด แต่เห็นบอกเตือนกันดีๆ ตั้งแต่ปี 2018 ไอ้ทวิตที่แปะมากูไม่คิดว่านั่นคือเตือนดีๆ นะ แซะเต็มเหนี่ยว 555555 คือข้อมูลถูกแต่ตอนต้น บ่นพฤติกรรมบางเรื่องไม่เกี่ยวกับโรคเลยอ้ะ ที่รู้สึกเตือนดีๆ คือเจ้าของทวิตคนเดียวกะปี 2018 อธิบายเมื่อคืนมากกว่า
ขำนักฉอดบางคน พ่นวาจาหยาบคายเสียๆหายๆด่าไปถึงนักเขียนบนเว็บจนนักเขียนต้องลบนิยายทิ้ง แต่เรื่องดังขึ้นชั้นหนังสือเงียบกริบจ้า มาตรฐานดีเยี่ยมฉอดกับคนเล็กๆไร้ทางสู้แต่นักเขียนดังแฟนคลับเยอะไม่ทำหรอก แทนที่จะได้ยอดรีเสียงชื่นชมจะโดนด่าได้ไม่คุ้มเสีย
>>843 ที่บ่นพฤติกรรมบางเรื่องไม่เกี่ยวกับโรคก็คือมันบ้งไง การที่คนออกมาวิจารณ์นิยายมันไม่จำเป็นต้องวิจารณ์เรื่องโรคอย่างเดียวนะ
ถ้าเห็นว่ามีจุดอื่นที่ไม่โอเค ไม่สมเหตุสมผล ตรรกะผิดเพี้ยน มันก็เอามาวิจารณ์ได้หมดแหละ พูดง่ายๆคือเรื่องนี้ไม่ได้บ้งแค่เรื่องให้ข้อมูลโรคผิดๆจ้า
ดูจากผลงานอื่นของนางก็รู้ ต่อให้เป็นเรื่องรักวัยรุ่นใสๆ ไม่ต้องอ้างอิงความรู้ใดๆ นางยังเขียนบ้งจนต้องออกมาขอโทษขอโพยหลังโดนแหกตั้งกี่ครั้ง
ฉอดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็บู้มเอง เหมือน รดส ผ่านมาตั้ง2ปี
กูเห็นจิตติบอกไม่เล่นโซเชียลเลยไม่รู้ข่าวสาร ตรงนี้กูขอฉอดว่าตอแหลแบบ 100% เพื่อนกุบอกว่ามีคนเตือนนางตั้งแต่นิยายยังออนแอร์แล้ว กูไม่เชื่อหรอกว่านางจะไม่รู้ไม่เห็น นักเขียน 99.99% ยังไงต้องมีส่องแท็กอ่านคอมเม้นต์ของต่วเอง นางรู้นางเห็น แต่นางแค่ไม่สนใจมากกว่า
ตอแหลลลลลล นักเขียนทุกคนรู้ฟีดแบ็กจากคนอ่าน แต่จะปรับปรุงแก้ไขรึเปล่าอยู่ที่ตัวเอง บางคนบ้งแล้วบ้งอีกก็ยังไม่คิดพัฒนา กูหาเงินได้จากแบบนี้กูก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทำเป็นไม่รับรู้มึนๆไป
ถ้าจะรู้ว่าบ้ง สร้างโรคขึ้นมาเองเลยเถอะ ทีนี้จะแฟนตาซีอยากยึดร่างก็ทำได้แล้ว
เรื่องการแพทย์ ยา บ้งมาหลายเรื่องละ คือข้อมูลมันเชิงลึก รายละเอียดก็เยอะ
มีใครจะฉอดโรคอื่นที่นางเขียนด้วยมั้ย กูปูเสื่อรอฟัง
https://ทวต.คอม/JittiRain12/status/943108810977067009?s=19
จตรู้ แจ่มรู้ แต่เลือกจะเงียบ เพราะได้เงินไง คนออกมาท้วงสองปี จะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น มันเป็นไปได้ยากมากๆๆๆๆ ใช้คำตรงๆคือตอแหล ที่แก้ตัว ฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่แฮะ
ส่วนตัวไม่เคยอุดหนุนงานนางเลย นอกจากพล็อตบ้ง คาร์ซ้ำๆๆ ตรรกะไม่สมเหตุสมผล ข้อมูลยังผิดหลายอย่าง ที่สำคัญคือลูกหาบน่ารำคาญมาก อวยจนไม่ลืมหูลืมตามองข้อเท็จจริงบ้าง
มึงว้กับจตนี่เค้าไม่ถูกกันแล้วหรอวะ เห็นมะก่อนดูสนิทกันมาก แต่พอมีเรื่องรดส ว้ก็ดูอยู่ฝั่งด่า แถมก่อนหน้านี้เห็นตัดพ้อเรื่องสนพดันนขดังมากกว่าไรงี้ด้วย
ล่าสุดวก็เรียกจตว่านักเขียนนะไม่เรียกชื่อเหมือนเดิมแล้ว สนพทำลายมิตรภาพหรือผิดใจกันเองวะเนี่ย
ไม่อยากมีเพื่อนอย่างว.ที่สุดแว้ว กุพูดเลย ไม่ว่าผิดใจกันเองหรือสนพ.ทำลายมิตรภาพกุก็กลัวคนอย่างว.
"คือบางทีเราคิดว่าข้อมูลที่หามามันใช่ไง เราอยากเติบโตโดยที่พอผิด ช่วยบอกมาเป็นข้อๆ เลย เราจะได้เล็งเห็นจุดผิดพลาด เราพร้อมแก้ไข เราลบเรื่องให้ได้ เราไม่ได้เจ็บปวดเลยกับการถูกสอน แค่สร้างความเข้าใจให้เราใหม่เท่านั้น #ร้ายเดียงสา"
กูอ่านโพสนี้ของนางแล้วกูขำมากกกกกก กล้าที่จะพูด ทำไมรับบทโดนบูลลี่ล่ะเว้ย ตรงนี้จับคนตอแหลได้ 1คนนะค้าาาาา คนเค้าพยามเตือนพยามบอกเธอมาตั้งแต่นิยายออนแอร์แล้ว แถมบอกเป็นข้อๆด้วยกูเคยเห็นรีวิว แล้วรีวิวตั้งแต่ปี 18 ทำไมเธอเพิ่งมาเล็งเห็นหรือเธอเห็นนานแล้วแต่เธอไม่สนใจ? เออ เธอเห็นแหละ แต่นิยายมันขายได้ขายดีเลยเลือกที่จะปล่อยเบลอ ความรงความรู้ห่าไรไม่สนทั้งนั้นขอแค่ยังได้เงินจากนิยายเรื่องนี้
เพิ่งตามอ่านเรื่องเลื่อนวันส่งกับนัดรับรับบพลีชีพ >>769 >>868 เขาเลื่อนวันรับจ๊ะ เลื่อนมาประมาณอาทิตย์หนึ่ง ตอนแรกเหมือนจะยี่สิบกว่านะ ต้องไปลองค้น จำแน่ชัดไม่ได้ เลื่อนมาเป็นสิบกว่าๆนี่แหละ กูเห็นด้วยที่นัดรับช้ากว่าส่งมาก แต่เขาทำงานหลายทางมั้ง การจัดการเขาไม่รู้ กูเองที่นัดรับก็เซ็งหน่อยๆ อยากอ่านเร็วกับเขาบ้างถึงเลือกนัดรับ ถ้ามีเรื่องเลื่อนวันแต่แรก กูก็เลือกแบบส่งเช่นกันจ้า กูนี่พรีไปวันแรกเลยค่ะ ได้อ่านหลังคนอื่นเกือบสองวีค กูเองก็เซ็งนะ และใช่เลยจ้า อย่างมึงว่ามันคงมีหลายอย่างที่เขาทำให้ไม่ได้ ติดเรื่องร้าน that's y ที่ตกลงวันไว้แล้ว แต่นั่นแหละ กูเองก็ลูกค้าเขานะ ช่วยให้กูอ่านเร็วอีกนิดไม่ได้เรอะ!! บ่นไปงั้น!!!!
เออ ลืมพิมพ์ต่อประเด็นที่ 868 ว่าๆคนเลือกจะโกรธไม่โกรธ เขาก็เลื่อนนะ ยังไงคนที่แพลนเดิมก็ต้องเปบี่ยนแพลนจ๊ะ จะง่ายมากถ้าเขายืดเวลาเป็นนัดรับไวขึ้นขยายจนเท่าเวลาเดิม แต่ติดที่ร้านนัดรับด้วยแหละ คนนัดรับหลายคนที่กูรู้จักก็บ่นเซ็งกันเป็นแถบ แต่มันน้อยนิดแหละถ้าเทียบกับลูกค้าแบบส่ง anyway '___'
กุว่าประเด็นเป็นเพื่อนไม่เป็นเพื่อนไม่เกี่ยวว่ะ จะให้สองมาตรฐานด่าคนอื่นแหลก กับเพื่อนตักเตือนด้วยความละมุนละม่อมคนเราพลาดกันได้งี้เหรอ
มึ้งงง กูสุดจะทึ่งกับความคิดลูกหาบ จต.เลยว่ะ ในนกฟ้ามีคนให้ กลจ ประมาณว่า อภัยเถอะนะคะ ตอนนี้น้องจต.กำลังดัง เพราะละครที่เค้าเอานิยายน้องมาทำมันดังมาก น่าจะมีคนอิจฉาเยอะถือซะว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด
อวก.ออกมาประกาศแล้วนะ คืนหนังสือได้จะให้คืนเป็นวอยเชอร์ตามราคาปก
เพิ่มๆ ยุติการขาย เรียกคืนจากหน้าร้าน ส่วนคนที่ซื้อไปแล้วก็แล้วแต่ว่าจะคืนมั้ย ถ้าคืนก็ตามด้านบน
กูเบื่อพวกที่ชอบอ้างว่า "มันเป็นนิยาย ไม่ใช่งานวิจัย ไม่จำเป็นต้องเป๊ะ100% คนอ่านรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องแต่ง อ่านเอาสนุก ไม่ใช่เรื่องจริง ใครจะมาหาfactจากนิยาย ถ้าอยากรู้factก็ไปกูเกิ้ลอ่านเองได้"
ค่าเสียหายจิ๊บ ๆ เมื่อเทียบกับค่าลิขสิทธิ์ ฯลฯ งานของจต. ที่เคยทำรายได้ให้สนพ.
สนพ. คงไม่โง่ไปตามทวงหรอก ยังโปรโมทงานอื่นทำเงินได้อีกเยอะ
>>880 กูลองคิดมุมบ้งๆแบบกูจะอ่านไม่สนความถูกต้องนะ มันก็ตรรกะเดียวกับฉากสวนล้างหรือน้ำหล่อลื่นของผชอ่ะ คือรู้ว่ามันไม่จริง แต่แบบนี้มันฟินกว่า กูจะเอาแบบนี้
ไม่มีฉากล้าง>คนเข้าใจเกย์เซ็กผิด>แต่แบบนี้ฟินกว่า
คนตกน้ำผายปอด>ทำผิดท่า>แต่แบบนี้ฟินกว่า
คนโดนงูกัด>ดูดพิษ>ฟิน
คนป่วยโรคบ้งๆ>เข้าใจเกี่ยวกับโรคผิด>แต่ฟินกว่า
ถามว่าจะให้คนเลิกเขียนได้มั้ย คงไม่เพราะกลุ่มที่ฟินมันก็มี กลุ่มที่ไม่สนว่ามันบ้งก็มี
สุดท้ายกลุ่มที่เดือดร้อนอยากได้ความถูกต้องก็จะโดนไล่ให้ไปกูเกิ้นเอาสิวะ อยากรู้เรื่องคนป่วย เสือกมาอ่านนิยายทำไม
ปล. ไม่เคยอ่านนิยายจต ไม่ชอบภาษา แต่กูโตมากับละครที่ฉากตกน้ำ งูกัดเป็นฉากโรแมนติก
>>883 จิ๊บจริงเหรอ ค่าลิขสิทธิ์อาจจะได้คืน แต่ค่าพิมพ์ค่ากระดาษนี่คือทำลายทิ้งเลยนะ ที่สำคัญคือค่ากระจายสินค้าหน้าร้าน ที่ขายแล้ว 40% สายส่งจะคืนให้เหรอ กูเคยเห็นอินโฟกราฟบอกว่าต้นทุนวัสดุพิมพ์ 10% หักหมดแล้วสนพ.จะเหลือกำไรประมาณ 10กว่า% ต่อเล่ม หรือต่อให้ขายเองก็ต้องมีค่าจัดส่งอีก คือ กูคิดยังไงก็ไม่น่าจะจิ๊บได้เลย อันนี้คือกูสงสัยตั้งแต่ตอนเรื่องทัพแล้วแหละ
แต่จะมาให้กุอ่านสวนล้างทุกเล่มกูก็ไม่เอานะมึ๊งงงง กูอยากอ่านฟินๆ นี่ผิดปานนั้นเลย กูก็โตมากับอิฉากโรแมนติกตกน้ำงูกัดเหมือนมึงแหละ ทำไมมึงกับกูดันรู้ได้ล่ะว่ามันจริงไม่จริง ใครบ้างนะที่เดือดร้อนอยากได้ความถูกต้องจากนิยาย ให้กูไปผายปอดคนกูก็ไม่กล้ามั้ยเพราะกูทำไม่ถูก ไอ้ที่เค้าอยากให้มีเรียนการช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นในโรงเรียนนั่นน่ะถูก ไปช่วยเย้วๆ ทางนั้นกันด้วย คนอ่านฟินๆ นี่ fact ไม่ fact บางทีไม่ได้สนใจด้วยมั้ง เหตุการณ์ตรงนี้มันแค่เติมเต็มความฟินเท่านั้นแหละ ละก็เถียงกันไปเหอะ เถียงกันไปอีกร้อยมู้ ไม่จบหรอก
>>885 หมายถึงค่าลิขสิทธิ์งานเขียนเรื่องก่อนหน้าที่ขายทำซีรีส์
เรื่องรดส. นี่ไม่คิดว่าสนพ. จะกล้าไปทวงค่าต้นฉบับคืนจากจต.ว่ะ ยังต้องหากินกันอีกนาน
สมมติพิมพ์ขายไปแล้วหมื่นเล่ม ไม่คิดว่าจะมีคนส่งคืนถึงครึ่งว่ะ เผลอ ๆ คนจะเก็บไว้ขายแฟนเดนตายในอนาคต เพราะเป็นของหายากแล้วมึง
เชื่อเหอะ คนคืนส่วนน้อยมากกว่า ไอ้ที่ฉอดเสียงดังๆ หรือรีกันไปส่วนมากก็ไม่ใช่คนซื้อนิยายเรื่องนี้หรอกแค่อ่านคนฉอดแล้วมาร่วมผสมโรงมากกว่า หรือถ้าคนอ่านรู้สึกอยากคืน จะมีสักกี่คนขยันส่งกลับเพื่อเอาแค่โวเชอร์ ที่บางทีลืมจะใช้อีก ส่วนที่ขายได้คงมากโขพอให้ สนพ ตัดสินใจแบบนี้ได้แหละว้า
จากนี้อาจเป็นนิยายแรร์หายาก คนอยากได้กันแทนก็ได้ใครจะรู้... แต่ต้นทุนทำลายหนังสือและส่งกลับมานี่โนคอมเม้นว่ะ แต่เทียบกับตอน ซบ ต้องเรียก ตัวร้ายเล่ม 1 กลับมา อันนี้น่าจะเจ็บน้อยกว่ามั้ยวะ?
แค่คิดว่าในอนาคตจะกลายเป็นหนังสือแรร์ขายแพงๆเพราะโดนแหก เนื้อเรื่ิงบ้งนี่ก็ 🤢
>>891 เส้นทางก็คล้ายๆอยู่นะ เคยก็อปมาเหมือนกัน โดนแหกแล้วแหกอีกแต่ยังอยู่ได้เพราะลูกหาบอวย แนวดราม่าก็เน้นยัดดราม่าแบบไม่สนหิสนแตดว่ามันมีเหตุผลไหม
ถ้าอนาคตกลายเป็นของแรร์ก็ขอเถอะนะถ้าจะมีใครชวนคุยว่าทำไมแรร์หรือมาตามหาแล้วมีคนถ่ายมาอวดแบบภูมิใจแล้วอวยว่า 'นิยายดีมากค่ะ คนแต่งเขียนดีมาก เรียลมาก เป็นนิยายในดวงใจ' อย่าอวยอะไรทำนองนี้
ทำไม สนพ ยังเอรเรื่องของ จต ที่เนื้อหาผิดมาพิมพ์วะ
ขอ ky ฝากไว้ให้คนสร้างมู้หน้า ยังไม่ใส่ยกที่ 70 นะ
สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์ ยกที่71
ยกที่ 01 >>>/801/2253/
ยกที่ 02 >>>/801/2374/
ยกที่ 03 >>>/801/2498/
ยกที่ 04 >>>/801/2736/
ยกที่ 05 >>>/801/2860/
ยกที่ 06 >>>/801/2956/
ยกที่ 07 >>>/801/3025/
ยกที่ 08 >>>/801/3119/
ยกที่ 09 >>>/801/3197/
ยกที่ 10 >>>/801/3241/
ยกที่ 11 >>>/801/3287/
ยกที่ 12 >>>/801/3381/
ยกที่ 13 >>>/801/3495/
ยกที่ 14 >>>/801/3626/
ยกที่ 15 >>>/801/3705/
ยกที่ 16 >>>/801/3926/
ยกที่ 17 >>>/801/4012/
ยกที่ 18 >>>/801/4097/
ยกที่ 19 >>>/801/4199/
ยกที่ 20 >>>/801/4290/
ยกที่ 21 >>>/801/4406/ **(วาระ ภกด แห่งมู้)**
ยกที่ 22 >>>/801/4451/
ยกที่ 23 >>>/801/4488/
ยกที่ 24 >>>/801/4539/
ยกที่ 25 >>>/801/4606/
ยกที่ 26 >>>/801/4640/
ยกที่ 27 >>>/801/4731/
ยกที่ 28 >>>/801/4832/
ยกที่ 29 >>>/801/4920/
ยกที่ 30 >>>/801/5011/
ยกที่ 31 >>>/801/5115/
ยกที่ 32 >>>/801/5323/ (แต่ชื่อเป็น31)
ยกที่ 33 >>>/801/5436/
ยกที่ 34 >>>/801/5612/
ยกที่ 35 >>>/801/5704/
ยกที่ 36 >>>/801/5731/
ยกที่ 37 >>>/801/5749/
ยกที่ 38 >>>/801/5764/
ยกที่ 39 >>>/801/5788/
ยกที่ 40 >>>/801/5825/
ยกที่ 41 >>>/801/5887/
ยกที่ 42 >>>/801/5950/
ยกที่ 43 >>>/801/6027/
ยกที่ 44 >>>/801/6071/
ยกที่ 45 >>>/801/6147/ **(วาระตัวร้ายฯแห่งชาติ)**
ยกที่ 46 >>>/801/6179/
ยกที่ 47 >>>/801/6271/
ยกที่ 48 >>>/801/6324/
ยกที่ 49 >>>/801/6410/
ยกที่ 50 >>>/801/6464/
ยกที่ 51 >>>/801/6500/
ยกที่ 52 >>>/801/6538/
ยกที่ 53 >>>/801/6635/
ยกที่ 54 >>>/801/6726/
ยกที่ 55 >>>/801/6822/
ยกที่ 56 >>>/801/6880/
ยกที่ 57 >>>/801/6963/
ยกที่ 58 >>>/801/7058/
ยกที่ 59 >>>/801/7127/
ยกที่ 60 >>>/801/7254/
ยกที่ 61 >>>/801/7760/
ยกที่ 62 >>>/801/8148/
ยกที่ 63 >>>/801/8348/
ยกที่ 64 >>>/801/8452/
ยกที่ 65 >>>/801/9043/
ยกที่ 66 >>>/801/9298/
ยกที่ 67 >>>/801/9901/
ยกที่ 68 >>>/801/10239/
ยกที่ 69 >>>/801/10413/
ยกที่ 70
Hall of shame
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1IXpef-npDJdoj427b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik
พูดถึง Zitraphat กูแม่งชอบงานเขามาก ช่วงนั้นคือเด่นมาเลยท่ามกลางแนวมหาลัยวายๆ คือเป็นวายเด็กๆ วายทำงานก็จริงอ่ะ แต่เด่นมาก อ่านแล้วรู้สึกใหม่ ไม่ซ้ำใคร
หลังๆไปทำสวนแล้ว กูแม่งงงเลย คือเขาก็ดูอยากทำเล่มอยู่นะ แต่น่าจะไม่เคย แล้วก็ไม่อยากลงทุนเยอะด้วย ถ้าช่วงนั้นมีสนพมาเก็บไปดันๆหน่อยน่าจะไปได้ไกล
>>882 แต่นักเขียนส่วนใหญ่ก็ได้กันแค่ประมาณ 8-12% ของค่าหนังสือคูณพิมพ์อะนะ สายส่งอีก 40-45% อีกราวๆ ครึ่งนึงคือเข้าสนพ. เทียบสัดส่วนแล้วกูว่าสนพ.ควรจะรับผิดชอบมากสุดอยู่แล้วนะ คือมันก็เป็นงานของบก.มั้ยที่ต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนตีพิมพ์อะ บก.ก็ได้ตังค์จากการทำสิ่งนี้นะเฮ้ย กูไม่ได้เข้าข้างนักเขียนนะ แต่นัดเขียนแม่งรับผิดชอบด้านชื่อเสียงตัวเองไปแล้วไง รับหน้าเสื่อเต็มๆอยู่ตอนนี้อะ
>>903 แต่สายอื่นก็มีเรื่องบ้งแบบนี้เต็มตลาดไม่ใช่เหรอ บก.จะรู้ได้ไงว่าสายวายมีมาตรฐานแบบนี้อ่ะ อีกอย่างกูไม่คิดว่าสนพ.ทุกวันนี้จะส่งนิยายให้ผู้เชี่ยวชาญอ่านก่อนซื้อหรือพิมพ์หรอก ดังนั้นความรู้บก.ก็พอๆกันกับคนเขียน กูไม่ได้เถียงพวกมึงเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องของข้อมูลนะ แต่กูมองทางแก้แบบเบ็ดเสร็จของปัญหานี้ไม่ออกเท่านั้นว่าในทางปฎิบัติมันจะเป็นไปได้ยังไง
ส่วนตัวว่าความรู้ บก เรื่อง รดส ก็ต่ำเกินกับฉาก หมอ เอาเทปบันทึกเสียงให้คนไข้ฟังนะ ในกระบวนตรวจสอบของ สนพ ทั้งหมด ไม่มีใครเอ๊ะเลยเรอะว่าฉากนี้มันประหลาด 555 แต่มาคิดถึงหัวพวกปกลูกกวาด มีเนื้อหาบ๊งๆ บ้าๆ บอๆ มาหลายปี จะไม่คิดอะไรเลยตอนอ่านก็เข้าใจได้ว่ะ
เอาเทปบันทึกเสียงให้พระเอกฟังสิ เขียนผิดโทษที
Ky เกิดไรขึ้นในวงการนักเขียนป้ะวะ เช้านี้เห็นหลายคนล็อกแอค กุตกขาวอะไรไป
เนี่ย ไม่ต้องรออนาคตให้หนังสือกลายเป็นของแรร์ ตอนนี้ก็เริ่มมีคนตามหารดสแล้ว 555555
กูเห็นทวิตคนนึง (กูจำรายละเอียดได้ไม่เป๊ะนะ) บอกว่ามีคนที่รู้จักเคยทำบก. ทางคนที่อยู่สูงกว่าเค้าสั่งห้ามไม่ให้ไปสั่งแก้นิยายเยอะ (หรือยุ่งกับนักเขียนเยอะ อะไรซักอย่าง)
ไม่แน่ใจว่าทวิตเค้าหมายถึงเรื่องนี้มั้ย หรือพูดถึงนิยายเรื่องอื่น แต่กูว่าพวกนักเขียนดังๆหรือนิยายดังๆอาจจะมีคนบนๆเค้าห้ามบก.แก้นิยายก็ได้ แบบอาจจะกลัวมีปัญหากับนักอ่านกรือนักเขียนก็ได้ (กูไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกันมั้ย แต่แจ่มเคยมีเคสที่นิยายแปลจีนเคยโดนนักอ่านถล่มเพราะแก้คำเรียกที่นักแปลใช้แบบทับศัพท์มาก่อน มาแก้เป็นไทยหมด (ซึ่งมันก็เป็นตามมาตรฐานแจ่มอะ ตอนนั้นแจ่มก็ใช้คำแปลไทยกับนิยายจีนเรื่องอื่นหมดอะ) แต่มามีเล่มนี้เนี่ยที่โดนนักอ่านด่าเรื่องนี้ คือกูไม่แน่ใจว่าหลังจากนั้นแจ่มจะมีนโยบายแบบ เรื่องไหนดังก็ปล่อยๆไปเถอะ แก้มากเดี๋ยวก็โดนคนอ่านด่าอีก อะไรแบบนี้รึเปล่า)
>>913 https://twitter.com/ffoxxic/status/1278211875839176705?s=19 หมานถึงอันนี้มั้ย
ไม่ต้องเป็นนักเขียนเส้นใหญ่อะไรหรอก นักเขียนส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากโดนสั่งให้แก้งาน(ยกเว้นตรงที่ผิด) เพราะอยากให้เป็นไปตามที่ตัวเองคิดพล็อตเอาไว้ บอกอก็เลยไม่ค่อยอยากไปขอให้แก้
เออพูดถึงบก.มั่ง กูไม่รู้ว่ารายละเอียดของสนพ.นี้นะว่าทำงานกันกี่คน คนไหนดูส่วนอะไรมั่ง
แต่กูเคยเป็นบก.ของสนพ.เล็กๆอันนึงที่ไม่ใช่วาย กูต้องทำทั้งพิสูจน์อักษรทั้งตรวจงานแปลทั้งติดต่อโรงพิมพ์ ซึ่งบอกตามตรงว่าคนคนเดียวทำมันมีความผิดพลาดจาก human error แน่ๆ อย่างแค่คำผิดเนี่ยบางทีกูตรวจรอบแกยังไม่เห็นเลย ตรวจไปอีก 2-3 รอบก็ยังไม่เห็น ไม่ต้องนับเรื่องความผิดพลาดใหญ่กว่านั้นเลย
กูลองมาเทียบกับงานการ์ตูนญี่ปุ่นที่กูตาม ซึ่งมันเป็นการ์ตูนทำอาหารที่สปินออฟมาจากแฟรนชายนึง อันนั้นบก.เค้าแยกส่วนกันชัด บก.ที่ดูเนื้อเรื่องก็คนนึง บก.ที่ดู+ช่วยคิดเมนูอาหารก็คนนึง บก.ที่ช่วยดูref.จากแฟรนชายหลักก็คนนึง การ์ตูนมันเลยไม่บ้ง เมนูอาหารทำได้จริง เนื้อเรื่องก็ไม่ไปขัดกับแฟรนชายหลัก+มีการเสริม cameo จากแฟรนชายหลักได้
เนี่ย คือกูว่าถ้าอยากจะได้นิยายไม่บ้ง สนพ.มันต้องใช้คนที่เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆมาดูแยกเป็นด้านๆไป ซึ่งกูว่าสนพ.ไทยไม่ได้ทำแบบนั้นหรอก ขืนจ้างบก. 3-4 คนต่อหนังสือเล่มนึงมันก็เปลืองจะตาย (แต่จริงๆก็ติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่ทำงานจริงๆในประเด็นที่มีเขียนในนิยายเพื่อขอคำปรึกษาได้นะ ก็ไม่รู้ทำกันรึเปล่า)
>>913 ถ้าเป็นนักเขียนใหญ่จริงก็มีแหละที่บก.จะเกรงๆ ไม่ค่อยกล้าไปแก้เส้นเรื่อง แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่กล้าแก้จะจัดอยู่ในกลุ่มเนื้อเรื่องนะ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง อย่างทำไมตัวละครทำแบบนั้นวะ หรือบุคลิกตรงนี้หลุดรึเปล่า อะไรเงี้ย ซึ่งถ้าเป็นข้อเท็จจริง กูว่าต่อให้มีใบสั่งห้ามยุ่ง แต่ก็ควรจะรีเช็คข้อมูลแล้วถามนักเขียนว่าจะแก้มั้ย เพิ่มเป็นเชิงอรรถดีมั้ย ไม่ใช่ปล่อยไป เพราะนี่มันงานบก. หลุดมาบก.ก็ต้องรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่โบ้ยให้นักเขียนอย่างเดียวว่ะ
เห็นเคสบกร รอบนี้น่าด่าจริงแฮะ กูไม่ด่าเรื่องแปลช้าออกช้า คำผิด คำไม่คุ้นนะ แต่การจัดการแย่อะ รอบนี้เร่งผลิตป่าววะ ร้านย่อยที่เปิดพรีเยอะๆบ่นเรื่องเคลมเป็นลังๆ ขนาดแดทวายเองก็บอกว่าคัดหนังสือได้ไม่เยอะ ตอนแรกบอกได้แค่ 50 เล่ม แก้ไขใหม่เป็น 70 เล่มเอง เลยงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น พิมพ์มาไม่พอก็ว่าแย่ละ นี่ออเดอร์ตัวเองส่งครบ ร้านหนังสือใหญ่รอไปจ้า
สรุปรวมกูว่าขึ้นกับนโยบายของ สนพ และ สนพ ใหญ่พิมพ์เข้าสายส่งมันมีกำหนดสายพานผลิต/รอบผลิตแต่ละเดือนที่ต้องทำ ไม่รวมโปรโมชั่น การตลาด ตามหาต้นฉบับ ตรวจต้นฉบับที่เข้ากระบวนการแล้ว เอดิตที่ยังไม่เข้า ทั้งหมดนี้แม้แต่ สนพ ใหญ่ก็ใช้ บก. ทำทั้งหมดนะ จาก ปสก ตรงกูอยู่ สนพ ใหญ่ ในกองมีไม่เกิน 5 (เฉพาะหัว) ถึงจะมีคนตรวจปรู๊ฟ จัดหน้า การตลาด/ปชสพ แยก สุดท้ายทุกอย่างกลับมาเซ็นเตอร์ที่ บก. เท่ากับว่าต้องตรวจงานทั้งหมดนั้นที่รับผิดชอบในมือ
ละนโยบายของ สนพ ใหญ่ลงมาจากข้างบน พวก ผจก/รอง (แล้วแต่ที่ว่ามีหัวหน้ากองแยกย่อยขนาดไหน) แล้วคนพวกนี้จะไม่ยุ่งกับ นข ขายดี นอกจากเพราะ นข พวกนั้นไม่ชอบให้ยุ่งจริงๆ+อีโก้ วัตถุประสงค์ สนพ คือเอาไว้ขาย ทำการค้า ไม่ได้มานั่งตรวจสอบมากมาย ("ยังไงก็ขายได้" มันมีคำนี้จริงๆนะมึง) งานที่มีในมือ ปสด จะตายห่าแล้ว ใครจะมานั่งดีลกับ นข เหวี่ยง ยึดจรรยาบรรณนั่งแก้ให้ตรงใจทุกฝ่าย
กูไม่ได้สนับสนุนระบบนี้ แต่เพราะเม็ดเงินโดยรวมมันต่ำ เขาก็ลดคนแล้วให้คนนึงทำงานหลายด้านประหยัดเงิน มันได้เท่านี้จริงๆว่ะ เจอ บก./หัวหน้าดีก็ดีไป รับฟัง แต่ถ้าไม่ มึงยัดเข้าสายพานผลิต จบ
>>920 เรื่องรอนานกูเฉยๆ เหมือนกัน แต่หนังสือรอบนี้ของบกร.กูว่าน่าจะเร่งผลิตเพราะไม่ค่อยเนี้ยบ ถ้าเป็นสายคลั่งกริบกูว่ามีเครียดแดก สภาพภายนอกมีบุบนิดๆหน่อยๆมุมไม่กริบเป็นปกติ ส่วนกระดาษในเล่มของกูจะมีเหมือนรอยยับที่โดนรีดให้เรียบอ่ะ เป็นหลายหน้าเลยขนาดกูไม่ใช่คนช่างสังเกตยังเห็น เพราะงั้นถึงทางร้านรับพรีฯจะเลือกสภาพภายนอกให้ดีแค่ไหนก็ยังต้องมาลุ้นสภาพในเล่มอยู่ดี
KY ตอนนี้นายอินทร์หนังสือในเว็บลด 15% ซื้อถึง 600 บาทขึ้นไปส่งฟรี มาบอกเผื่อบางคนยังไม่รู้ และมีเรื่องที่อยากตำพอดี
https://www.naiin.com/promotions/2559
ky ถามหน่อยเพื่อนโม่ง องค์ชายสามนี่ incest แบบร่วมสายเลือดไหมอ่ะ
เห็นทัวร์ลงบกรรอบนี้ ไม่มีความเห็นใจสนพ.เลยว่ะ ปกติม่าสนพ.ที่ประโคมด่ากันกูสายหนังสือ ค่อนข้างเข้าใจการทำงาน เรื่องงานแปลก็จริตคน ที่ไม่โอคือคำผิด แต่รอบนี้การจัดการพินาศจริง กูเองสั่งแฝดไปกับพาร์ทเนอร์ย่อยและร้านนอ. สั่งนอ.ก่อนด้วย วันสองวันแรกเลย แต่ร้านย่อยส่งให้กูละวันนี้ นอ.ไร้วี่แวว กูไม่ได้บอกว่าต้องได้รับหนังสือพร้อมๆ คนอื่นที่สั่งกะสนพ.นะ แต่การให้รอไม่รู้เหนือใต้นี่ไม่โอเค ประเด็นการกั๊กไว้ส่งของตัวเองครบนี่ก็แบบ 🙄😒 ยิ่งทัวร์ที่ลงบอกว่าคัดหนังสือยากมากอีก แสดงว่ารอบนี้งานเผามากเลยสินะ 😅
จริงๆถ้าทำมาค้าขาย ของไม่พอยังไงคนที่ได้ของครบต้องเป็นคู่ค้าก่อน ทำแบบนี้ทุเรศ
จริงๆก็เป็นความผิดโรงพิมพ์ด้วยส่วนนึงปะ ส่วนเรื่องไม่ส่งของให้คู่ค้ากูไม่พูดละกัน คนสั่งกับคู่ค้าไม่พอใจที่สนพส่งให้ลคด้วยเองก่อน ลองสลับกันสนพส่งให้คู่ค้าก่อนไม่ส่งให้ลคที่สั่งโดยตรง คนสั่งตรงก็ด่าสนพอยู่ดี เท่ากับว่าจะทำแบบไหนก็โดนด่าทั้งนั้น
>>928 หมายถึงร้านนายอินทร์? ถ้าใช่นี่กูเข้าใจสนพ.เลย ระหว่างคนที่ซื้อราคาลด 40% กับลูกค้าเปย์สนพ.ตรง สนพ.ได้เน็ทๆ มึงจะส่งให้ใครก่อนล่ะ อีกอย่างพวกร้านอย่างนายอินทร์มีเงื่อนไขการส่งจะมาแบ่งกองๆแปะๆ แบบร้านย่อยคงไม่ได้ล่ะมั้ง(กูเดากูไม่ใช่คนในวงการ) ดังนั้นในกรณีการกระจายหนังสือที่มีจำกัดกูไม่คิดว่าเค้าตัดสินใจแย่มากนะ แม้จะเบื่อแต่เข้าใจได้อ่ะ ส่วนที่คุมคุณภาพงานไม่ได้นี่...กูว่าช่วงโควิดเจอกันทุกสนพ.เลยมึง อันไหนดีก็จะแย่ลงอันไหนแย่อยู่แล้วก็แย่มากขึ้นไปอีก มีเอเวอร์วายลอยตัวเพราะพี่แกไม่ออกหนังสือเลย 55
>>927 กูแยกไม่ออกตรงไหนหรอ กูพูดถึงการจัดการอ่า ตัวสนพ.รู้อยู่แล้วแต่แรกนี่ว่าโรงพิมพ์ส่งของไม่ครบ บกร.ต่างหากที่ต้องไล่บี้กับโรงพิมพ์ กูพูดถึงวิธีการจัดการ เขาประกาศกระชั้นชิดมากนะว่าของไม่พอ แต่ออเดอร์ของสนพ.จัดส่งครบแล้ว คำแถลงที่ว่าร้านใหญ่ 3 ร้าน นอ. บทอ. ซอ. ได้ของบางส่วน จะจัดส่งให้อีกล็อตในยอดใกล้เคียงกัน ถามจริงแบบนี้เรียกมืออาชีพอ่อ
กูยืนข้างบกรมาตลอด เคยไปไฟ้ตตอนนางโดนหนักๆ เรื่องแปลเอย ปกไม่สวย ไม่ปกคู่เอย แจ่รอบนี้ปัญหาเกิดจากการตัดการล้วนๆ เลย
กุงง บอกสนพ.กั๊กของไว้ให้ตัวเองก่อนได้ไง ละทำไมจะทำไม่ได้วะ เขาก็ต้องมีล็อตจองกับสนพ. ล็อตจองกับร้านใหญ่ ล็อตจองกับร้านย่อยไรงี้มั้ย อิจองร้านย่อยหนังสืออาจผ่านสนพ.ก่อน แต่ร้านใหญ่นี่กุว่ายังไงๆก็ส่งตรงจากโรงพิมพ์ มันเรียกกั๊กยังไง หรือหมายถึงแทนที่จะแบ่งล็อตสนพ.ไปให้ร้านนอกก่อนงี้เหรอ แบบนั้นคนจองกับสนพ.ยิ่งด่าหนัก อุตส่าห์จองตรง ยังไงก็โดนด่าอยู่ดี ส่วนตัวคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงก็เป็นความผิดของบกร.ด้วยที่ทำไมทำงานกระชั้นชิดขนาดนี้ ไม่เหลือเวลาเผื่อเกิดความผิดพลาดเลย
Ky https://twitter.com/manudlaw/status/1278329875678416897?s=19 จต.ใช่มั้ย จต.ก้อป nc ใช่หรือเปล่า
ไม่ได้ฟคใครหรอก แค่อยากด่าจต อีโม่งอยากมีตัวตน
กูว่า บกร.เค้าก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีนะ พยายามจัดสรรให้ได้ทุกส่วน ได้มากได้น้อยเท่านั้นเอง ร้านรายย่อยก็สั่งตรงกับสนพ. เพียงแต่พวกร้านรายใหญ่มันสั่งเยอะ เค้าก็คงต้องกระจายให้ทั้งสามร้านเท่ากันไม่มีร้านไหนได้หมด คิดดูนะ ถ้าให้ นอ. แต่ไม่ให้อีกสองร้าน นั่นเสียลูกค้ามากกว่าอีก แต่ถ้าแบ่งสามร้านเท่ากัน แล้วออกแถลงมาก็มีลูกค้าส่วนนึงเข้าใจ แล้วก็มีลูกค้าบางส่วนด่า บกร.คงเลือกทางที่เจ็บน้อยสุดว่ะ แต่กูก็ไม่พอใจบกร.นะ 555
เรื่องบุญวาสนามันว่ากันไม่ได้มึง
เคสลอกแล้วยังขึ้นแท่นลูกรักสนพ. ไม่ได้มีแค่จต. เป็นรายแรก
โม่งรู้ โลกรู้
เห็นแล้วทุเรศ อยากมีตัวตนจนต้องเปิดโม่งเรียกคนไปดู ขนาดเป็นโม่งแล้วก็ยังได้ผีช่วยรีแค่4คน
กูว่าน่าจะเพราะอ้างว่าฟคใครตอนด่าป่ะ อยากด่าก็ด่า ทำไมต้องเปิดการ์ดชั้นเป็นฟค
ทำไมพอคนเรียกร้องให้มีความตระหนักรู้เพิ่มขึ้น ไม่ควรเผยแพร่แนวคิดผิดๆ สาววายต้องออกมาเย้วๆว่าลิดรอนสิทธิ์ นี่มันนิยาย อ่านเอาบันเทิง แยกออกจากโลกจริงได้ แบบนี้ก็ไม่มีอะไรให้อ่านแล้ว ทั้งๆที่นักเขียนสามารถเขียนอะไรบ้งๆแบบนั้นต่อไปได้ แค่ต้องรับให้ได้ถ้าจะมีคนติ/ด่าไอ้ตรงที่มันบ้งเท่านั้นเอง แถมมันก็ไม่ได้หมายความว่านิยายที่ไม่เผยแพร่แนวคิดผิดๆนั่นต้องเป็นนิยายสีขาวอะไรขนาดนั้นมะ เหมือนมองอะไรได้แค่ขาวกับดำเลยว่ะ กูงง นข.แม่งจะแต่งให้อีพระเอกเรปนายเอกเหมือนเดิมก็ได้ แต่จะให้นายเอกยอมละสุดท้ายก็รักกันจนเป็นแพทเทิร์นอย่างที่เป็นอยู่แบบนี้ต่อไปเหรอ เห็นโบ้ยจังว่านิยายชญมีไม่เห็นโดนด่า โอ๊ย ไปมุดอยู่รูไหนมา ละคงละครก็มีคนด่าจ้า แถมเห็นว่าแบบนั้นบ้งแล้วยังจะอยากอ่านในแบบชชต่อเนี่ยนะ
>>945 ความแข็งแกร่งด้านจิตใจของคนเขียนมันต่างกัน ก็คงไม่อยากโดนด่าแหละเลยไม่แต่ง หลัง ๆ พวกฉอดมันฉอดแม่งทุกอย่างบ้งแม่งทุกอย่าง ส่วนกูรำคาญการกระทำพวกขี้ฉอดเฉย ๆ กุก็ยังอ่านแบบเดิมคือ pwp beast rape(อันนี้ไม่ค่อยอ่าน บางทีอ่านแล้วหดหู่กว่าฟินอีก) Incest mpreg omg-verse ถ้าถามว่าเอาเนื้อหาที่ฉอด ๆ จริง ๆ วายหลายเรื่องก็ควรพัฒนา
นิยายสายเนื้อเรื่องที่มัน romanticize อะไรผิด ๆ มันจะมีคนแย้งก็ไม่แปลกอ่ะ คนที่จะแต่งแนวนี้ก็ต้องรับแรงปะทะให้ได้ด้วยนั่นแหละ มันเข้าถึงง่ายด้วยแหละระบบเรทบ้านเราไร้ความหมายจะตาย ส่วน pwp เอามาด่านี่กุไม่รู้อ่ะ เหมือนด่าหนังโป๊
เมื่อก่อนแม่กุเล่าว่ามีหนังโป๊ฉายในโรงหนังไปเลยยย กุว่าใครใคร่ยังไงก็ทำให้ตัวเองมีความสุขไปเถอะ เรา educate กันได้แค่นี้ เต็มที่ก็แค่นี้คือการเขียนนิยายให้ดี จริง ๆ กุว่าการอ่านนิยายที่เผยแพร่ความชุดดี ๆ มันก็ดีเหมือนกันนะสำหรับเราตอนเด็ก ๆ แต่เด็กก็ต้องให้ผปค คัดสรรให้ด้วยไง ถ้าจะบอกว่าห่วงเด็กอ่านเราก็ต้องเก็บให้พ้นมือเด็ก แต่ถ้าโตแล้วแยกแยะไม่ได้ เขียนอธิบายไปแล้วว่าชีวิตจริงมันผิดนะ มันก็ยังโง่เหมือนเดิมนี่ก็สุดแล้วแต่จะทำได้แล้วมั้ง อีกอย่างอะไรที่คนอ่านเยอะเงินดี คนต้องกินต้องใช้ก็ต้องเขียนแบบนั้นอยู่แล้ว ใช่ว่านักเขียนไม่ต้องกินนี่นา ตลาดบ้านเราเป็นแบบนี้ลุกออกมาวิจารณ์ก็ไม่ผิดหรอก(แต่มึงปสด อห สักแต่ด่าไม่ช่วยแก้) แต่แทนที่มันจะช่วยเพิ่มความหลากหลายโดยการมีนิยายน้ำดีอ่านมากขึ้น ดันไปลดนู่นนี่หาย คนไม่พอใจก็ต่อต้านชิบหายกว่าเดิม
ปล. ใจจริงอยากให้ปฏิวัติทั้งทีก็ทั้งวงการนิยายไปเลยนะ ทั้งสนพ การแบ่งรายได้ หน้าร้าน การเอานิยายมาแปล การแปลนิยายบ้านเราออกไปขายบ้าง บางทีกุก็สงสัยนะบ้านเรามีนิยายแปลออกบ้างไหม กุก็อยากให้วงการหนังสือบ้านเรามีคุณภาพเหมือนกันอ่ะ แต่ประเทศเราให้ความสำคัญถึงขนาดนั้นเลยเร้อ
>>947 +1 กุชอบประโยคแทนที่จะมีนิยายน้ำดีมากขึ้น กลายเป็นลดนู่นนี่แทน จริงๆก็ว่ามันควรมาควบคู่กันแหละ (แก้ที่บ้ง ส่งเสริมที่ดี) แต่นี่มาแนวนู่นห้ามเขียน นี่เป็นพิษ นั่นuneducated พวกมึงส่งเสริมอาชญากรรมเหรอๆ ก็อ่า ทั้งที่จริงพวกนี้มันมีวิธีเขียนหลายทางเลยนะ (อย่างPOVบุคคลที่1หลอกคนอ่าน hurt/comfort แนวแก้ไขเรียนรู้กันไปก็ได้) แต่ก็นั่นแหละ ไม่รู้เขียนแล้วไอ้ที่ไม่บ้งของเราจะบ้งของคนอื่นไหม ก็เลี่ยงดีกว่า
จู่ๆกูก็รู้สึกดีที่เลิกอ่านวายคนไทยแต่ง รู้สึกดีที่แต่ก่อนเรียนญี่ปุ่นกับจีนอย่างบ้าคลั่งและผ่านพ้นมันมาได้ก็วันนี้แหละ กูอยากอ่านอะไรก็อ่านอยากเปย์อะไรก็เปย์ไม่ต้องมานั่งวิตกกังวลว่าวันนี้นิยายที่กูอ่านจะโดนฉอดมั้ย นักเขียนที่ตามจะปสด.แดกลบนิยายเพราะกลัวโดนฉอดมั้ย แนวที่กูชอบวันดีคืนดีจะกลายเป็นแนวต้องห้ามของสังคมมั้ย แล้วกูก็ศรัทธาในคำว่า ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอยิ่งปิดก็ยิ่งขวนขวายด้วย ไม่รู้ว่าอีกสักสิบปีสาววายไทยในอนาคตจะเขียนอะไรกันออกมากันละนะ
>>945 ตรงไหนบ้งด่าก็ด่าน่ะมันถูก แต่เดี๋ยวนี้ที่ทวิตเตี้ยนด่าไม่ใช่แค่เนื้อหาแต่ลามถึงคนแต่ง ด่านิสัย เขาติดเตือนก็ยังลากมาด่า ถ้าต่างคนต่างอยู่ในที่ตัวเองมันไม่มีปัญหาหรอก แต่พวกsjwก็ยังพยายามไล่ต้อนไม่ให้มีงานเขียนประเภทนี้อยู่บนโลกไม่ใช่ทุกคนจะแยกแยะได้ จริงๆมันเกิดจากพวกขี้ฉอดตรรกะวิบัติว่ะ ไม่ว่าจะประเทศไหนการบรรยายการมีเพศสัมพันธ์อย่างละเอียดกล่าวถึงอวัยวะเพศเป็นของ 18+ มันถึงไม่มีใครด่าเรื่องแยกแยะไม่ได้ไง แต่พวกนี้มันคิดเข้าข้างตัวเอง R18+ อ่านได้จ้าถ้าไม่มีฉากผิดศีลธรรม เห็น18ในR18เป็นอะไรวะ หลังจากนั้นก็ตามมาล่าแม่มดสิ่งที่ตัวเองรับไม่ได้ อ้างว่าคนแยกแยะไม่ได้ติดเตือนไม่ช่วย
กูเจอromanticiseความตายควรไปอยู่ใต้ดินกูปวดหัวมาก อ่านแนวเสียดสีทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฯลฯสำนวนสวิงสวาย นักเขียนแม่งปั่นหนักมาก กวาดรางวัลเป็นสิบ เชื่อเหอะ ความคิดตัวละครอัปลักษณ์ไม่มีใครในเรื่องปกติจนมาวิจารณ์ว่าเรื่องที่ทำอยู่มันผิด เป็นการบอกเล่าเนื้อหาในแบบนึง ความดีงามของนิยายไม่ใช่แค่ต้องน้ำดีถ่ายทอดศีลธรรม แต่วายกลับพยายามตีกรอบงานเขียนด้วยศีลธรรมผลักงานผิดทำนองคลองธรรมไปใต้ดิน
>>951 กูไม่รู้สึกว่าพลาดนะ เลิกอ่านวายคนไทยแต่งกูหมายถึงกูเลิกขวยขวายที่จะหาอ่านหรือลองตามเรื่องใหม่ๆที่เขียนในเน็ต กูรู้สึกอิ่มตัวแล้วเพราะกูอ่านมาจะสิบหกสิบเจ็ดปีแล้ว นักเขียนเก่าๆที่ตามก็เลิกเขียนกันไปเยอะแล้ว เรื่องไหนที่มีคนบอกว่าดีบอกว่างามไม่ใช่ว่ากูไม่เคยไปลองอ่าน แต่กูค้นพบว่ากูอ่านไม่รอดสักเรื่อง ตอนนี้กูเลยสบายใจกับวายแปล วายจีน วายญี่ปุ่น วายอิงค์มากกว่า กูอ่านแล้วไม่ต้องมานั่งคิดมากมาเจอเหตุการณ์แบบปัจจุบันที่จู่ๆนักเขียนลบนิยายหรือโดนเอาไปฉอดจนเขียนต่อไม่ได้ นิยายที่กูชอบดันเป็นแนวจีนโบราณ ย้อนยุค หรือเกี่ยวกับตำนานเทพความเชื่อไม่ก็เช็ตติ้งแฟนตาซีไปเลยด้วยน่ะ กูว่าแนวนี้หาอ่านดีๆที่คนไทยแต่งยาก พวกคฉน ลรอสรกูก็โอเคนะอ่านเอาเซตติ้งหิมพานต์แต่ก็ไม่รู้สึกชอบอะไรขนาดนั้น ยิ่งไปอ่านเซตติ้งจีนที่คนไทยเขียนยิ่งอึดอัด กระแสนักฉอดตอนนี้ก็ยิ่งทำกูไม่อยากแตะวายไทยเพราะกูรำคาญกูรู้สึกไม่มีความสุขกับการตามนิยายวายไทยเลยแม้แต่น้อย กูเลยรู้สึกดีที่กูได้จีนได้ญี่ปุ่นเพราะกูยังหาอะไรอ่านได้ง่ายๆและไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง
ความฝันกูเลยมั้งได้ญป.กับจีนตัวเต็มจนอ่านนิยายได้เนี่ย ตัดกลับมาที่ความจริงกูยังงมกับญี่ปุ่นไม่ถึง n4 ของกูอยู่ 5555
Ky กูเห็นข้าวปั้นนางบอกจะระงับทุกงานเขียนที่บ้ง กูก็แบบเออ นางรู้ตัวดีไม่ต้องรอใครมาฉอด 555555 กูว่าชอบนางที่สุดแล้วมั้งในบรรดานักเขียนที่กุตามๆมา ดูนางมีสติและเป็นผู้ใหญ่ที่สุดละ
วายจีนวายญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้ก็น่าเบื่อเหอะ แพทเทิร์นเดิมๆมาเป็นสิบยี่สิบปี พอแนวไหนฮิตก็แห่เขียนตามกันไปหมด กูว่าถ้าฟิกซ์ว่าจะอ่านแต่วายชาติใดชาตินึง พออ่านไปได้สักพักก็จะจับทางได้แล้วเริ่มเอียนอยู่ดี
ดินหมูนี่คู่ควรกับการอ่านมั้ย เห็นโม่งคุยถึงหลายรอบละ ไหนๆ ก็จะเอาออกจากเชลฟ์กุจะได้ไปกดไว้ถ้ามันคุ้ม
อ้าวผิดห้อง กูขอโทษ 😭
ว่าแต่ทำไมไม่ฉอดให้มีการจัดเรทกันอย่างจริงจังเป็นเรื่องเป็นราวบังคับใช้ได้จริงมั่งวะ จะได้แยกๆ กันไป จัดหมวดจัดที่จัดทาง ใครอยากอ่านบ้ง ผิดศีลกาเมกี่ระดับก็อ่านกันไป ใครอยากอ่านใสกิ๊งวิ๊งๆ ก็อ่านกันไป จะได้ไม่ต้องชะโงกหน้าไปส่องนิยายของคนข้างๆ มาฉอด
>>961 การจัดเรตมันไม่ใช่ทางแก้เพราะเรื่องที่โดนฉอดบางทีมันไม่ใช่ว่าเอ็นซีแรง ส่วนนิยายดีต้องใสๆ นอนจับมือเฉยๆ อะไรแบบนี้นะเว้ย
มันเป็นเรื่องของทัศนคติที่ส่งผ่านนิยายต่างหาก เช่น มึงจะรักและใช้ชีวิตคู่กับคนที่เคยข่มขืนมึงได้มั้ย มึงจะแฮปปี้กับการเห็นผู้ชายเลี้ยงเด็กตัวกระเปี๊ยกเพื่อหวังทำเมียมั้ย
>>964 เท่าที่ดูสังคมไทยในทุกวันนี้ (เอาแค่สังคมนักอ่านตามกรุ๊ปเฟส) บางคนโตจะตายอยู่แล้ว เรียนจบทำงาน หรือลูกโตแล้วก็มี ความคิดยังบ้งอยู่เลย
ปัญหามันอยู่ที่การไม่มี awareness ของคนอ่ะ ไม่เกี่ยวกับอายุ เพราะฉะนั้นตราบใดที่สังคมยังฟื้นฟูเรื่องพวกนี้ไม่ได้ การฉอดก็จะไม่หมดไป จำกัดเรตก็ไม่ช่วยจ้ะ
เรทนี่ไม่ใช่แค่ฉากอย่างว่า แต่หมายถึงความรุนแรงอย่างอื่นด้วยป่าว กูว่าจัดเรทก็ช่วยคัดคนอ่านในระดับนึง(ถ้าคนอ่านเคารพคำเตือนกันอะนะ) แต่ก็เห็นด้วยว่าถ้าคนเขียนตรรกะบ้งเอง จัดเรทก็ไม่ช่วยแหละ
จริงๆสายฉอดบางคนก็แค่ฉอดนะ เจออะไรไม่ดีก็ด่า แต่ปัญหาคือสายฉอดบางคนฉอดแบบกะทำลายของพวกนี้ให้หมดไปจากสังคม ให้เหลือแต่นิยายขาวสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งเอาจริงๆแม้แต่ประเทศเจริญๆอย่างอเมริกายังทำไม่ได้เลยจ้า ฝรั่งมังค่าก็มีนิยายบ้งๆเต็มไปหมดออกมาเรื่อยๆ อะไรบ้งก็ด่ากันไปทีละเรื่องให้คนอ่านรู้ว่าเออเรื่องนี้มังบ้งนะ แค่นั้น แต่สายฉอดไทยอยากกำจัดให้เหี้ยน แถมนักเขียนไทยก็ใจบาง รับคำวิจารณ์กันไม่ค่อยได้อีกเพราะบ้านเราไม่ค่อยมีคนวิจารณ์งานเขียนกันตรงๆ (แถมชอบโอ๋นักเขียนกันด้วยซ้ำ) ความจริงกูว่าใครอยากเขียนอะไร toxic ก็เขียนได้แหละ แต่เวลามีคนหยิบมาด่าก็ต้องทนรับให้ได้ด้วย
>>945 ปัญหาคือคณะฉอดมันเฮโลเอาเรื่องนี้ไปบุลลี่คนเขียนในระดับที่หามาตรฐานไม่เจอแล้ว ยิ่งฉอดแรงยิ่งฟิน ไม่ใช่เพื่อการสร้างสรรสังคมอะไร ถ้าฉอดเพื่อสร้าง awareness มันจะออกบทความเสนอความเข้าใจที่ถูก เรียกร้องให้เพิ่มคำเตือน เชิงอรรถ หรืออะไรก็ว่ากัน เผยแพร่กันไป อันไหนเรทแรงเกินเบอร์อยากเอาลงใต้ดินหรือลดดีกรีลงก็ว่ากันไป อันนี้คือมันล่าแม่มดโดยการด่ากราดคนเขียนและคนที่เสพแนวที่คณะฉอดตัดสินว่าไม่ดีงามว่าไร้ศีลธรรม ชั่วช้า เลวทราม งานเขียนพรรค์นั้นไม่ควรมีบนโลก และไม่ควรมีคนสนุกกับการเสพงานพวกนั้น ซึ่งไอ้มาตรฐานของงานพวกนั้นนี่ก็อยู่ตรงไหนไม่รู้ ยิ่งฉอดยิ่งไปกันใหญ่ อย่างเด็กต่ำกว่า 18 ถือเป็นเปโดนั่นหล่ะ
>>963 มันก็จะวนกลับมาเรื่องเดิมไงมึง กูไม่อยู่กับคนแบบนั้นอยู่แล้ว แต่กูอ่านแบบนั้นได้ กูก็อ่านแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไร แต่ในชีวิตกูก็ไม่เคยอยากแล้วก็ไม่เห็นด้วย พอบอกพวกมึงว่ามันเหมือนโลกแยกที่ตัวละครไม่ได้เจ็บจริง ไม่ได้เกิดขึ้นจริง มันตอบสนองความคิดบ้าๆ บอๆ ของกู มึงก็จะวนกลับมาที่ทัศนคติ กูสำรวจตัวเองกูก็ว่ากูไม่ได้มีทัศนคติที่เลวร้ายนะ แล้วกูก็ว่ามีคนคิดแบบกูไม่น้อย กูสงสัยมานานมากว่าคนที่ก่ออาชญากรรมพวกนั้น ต้นเหตุ แนวคิด ปัจจัยสัก 0.5% ที่ก่อให้ทำนั่นมาจากหนังสือหรือสภาพแวดล้อม ที่ถามนี่คือกูเห็นบอกๆ กันว่าส่งเสริม ส่งต่อทัศนคติที่แย่ กูโตมากับทมยันตี จามรี พรรณชมพู กูก็ไม่โอเคกับอาชญากรรมใดๆ กูชอบชีวิตสงบสุขอะ กูแค่อยากอ่านอะไรโลดโผนในจินตนาการ มันก็ไม่น่าผิดอะไรไม่ใช่เหรอ
เออมันอาจจะมีคนอินโนเซนส์คิดไม่ได้แหละแต่แค่ไหนล่ะ ละคนที่คิดแบบกูก็ต้องมีกูว่ามีมากด้วย หรืออย่างพวกฉอดที่เค้าว่าเค้าตระหนักได้น่ะล่ะ ท่ามกลางนิยายบ้งๆ เยอะแยะ ทำไมเกิดสติหยั่งรู้ขึ้นมาได้ล่ะ คือพวกที่แยกไม่ออกเกิดจากอะไร ระบบการทำความเข้าใจของตัวเขา สภาพแวดล้อมที่โตมา หรือหนังสือที่อ่าน (ว่าอันที่จริงมีใครอยากโดนข่มขืน กักขัง ทำเรื่องไม่ดีใส่บ้างรึ)
ที่กูอยากให้แยกเรท คืออย่างน้อยมันกรองว่าคุณอายุมากพอจะเข้าใจและแยกแยะความถูกผิดได้ไม่ได้หมายถึง nc อย่างเดียวน่ะ แต่หมายถึงมีวุฒิภาวะมากพอจะตัดสินได้ว่าอะไรควรไม่ควร
กูมองว่าเซ็กส์แฟนตาซี/รสนิยมทางเพศของคนมันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำในชีวิตจริงไม่ได้ แต่ในนิยายมันตอบสนองได้ คือกูอาจจะชอบนิยายแนวแกงแบง อ่านแนวนี้แล้วตื่นเต้น อารมณ์พุ่งพรวดๆๆ แต่ในชีวิตจริงไม่ชอบการแกงแบงเลยสักนิด มึงนึกออกมะ ทีนี้สิ่งที่จะตอบสนองแฟนตาซีทางเพศได้ก็คือนิยายอะ ซึ่งการที่กูชอบอะไรบางอย่างในนิยายมันไม่ได้แปลว่ากูจะทำสิ่งนั้นๆในชีวิตจริง แต่พอกูพูดแบบนี้สายฉอดก็จะตราหน้าว่ากูเป็นอีพ่กสาววายแยกโลกอีก ก็ใช่ดิวะ ก็กูแยกแยะได้อ่ะ เอ๊
>>970 มันก็จะวนกลับมาที่ว่า วุฒิภาวะไม่ได้ช่วยกรองอะไรได้เลยยยยยยยย การแยกเรตแบ่งอายุมันไม่ช่วย
ประเด็นที่ฉอดๆ กันมันไม่ใช่แค่ว่ากลัวคนอ่านแล้วจะเอาไปทำตาม คงไม่มีใครอ่านนิยายวายแล้วไปฉุดคนมาข่มขืนหรือกักขังหรอก
แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควร มึงสามารถระบุได้มั้ยว่าคนที่แยกแยะได้มีกี่คน คนที่อ่านเรื่องพวกนี้แล้วเฉยๆ ไม่ได้คิดว่ามันผิด ไม่ได้ขยะแขยงมีกี่คน
พวกนี้มันเป็นการปลูกฝังทางความคิดว่ะ ไม่ใช่แค่เด็กอายุน้อยๆ เพิ่งเคยอ่านวาย แต่พวกแก่ๆ ที่อ่านแนวบ้งแล้วฟินจนหัวแข็ง กลายเป็น ignorant ก็มี
อีกอย่างคือประเด็นการทำร้ายร่างกาย/จิตใจในรูปแบบอื่น เช่น ล้อเรื่องสีผิว เชื้อชาติ หุ่น, ใช้คำพูดลามก, ลวนลามทางกายแต่นิยายเขียนให้ดูฟิน
พวกนี้มันมีผลต่อชีวิตจริงนะมึง เราเจออะไรแบบนี้ในสังคมไทยจนชิน เล่นมุกหยาบโลนใส่กัน ล้อปมในใจคนอื่นเพราะคิดว่าเป็นเรื่องขำๆ
ตรงนี้แหละคือความบ้งที่มีอยู่ในนิยายหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่การข่มขืนหรือก่ออาชญากรรม มาฉอดกันตอนนี้ยังดีกว่าปล่อยให้คนมีความคิดบ้งแบบนี้ไปเรื่อยๆนะ
กูบ่น บกร ด้วยได้ไหม ตลาดวายไปหรือยัง คือกูสั่งกับร้านย่อย/คู่ค้าเขานั่นแหละกับอีกเล่มสั่งไว้กับซีเอ็ด ซึ่งกูต้องรอทั้งสองที่เลย ร้านย่อยที่กูสั่งบอกว่าเข้าไปเลือกหนังสือแล้ว สภาพไม่โอเคเลย ต้องรอล็อตพิมพ์ใหม่ กลางเดือนค่ะกลางเดือน! เห็นร้าน that's Y ก็อีดิทข้อความในเพจว่ารอบหลังตกลงกับสนพ.ไว้เป็นวันที่ 13 เดือนนี้ จริงๆ สนพ.ควรต้องได้หนังสือแล้วเช็คของไหมนะ การวางแผนเขา เข้าใจว่าโรงพิมพ์ก็พลาดด้วย แต่การจัดการเขาไม่โอเคเลย ไม่ค่อยชอบใจคำว่า รู้งี้สั่งตรงกับสนพ.สิคะ ทางเลือกแต่ละคนไม่เหมือนกันป่าววะ แล้วกูไม่ใช่ลูกค้าเขาหรอ สั่งวันแรกจ่ายเงินวันแรก คำว่าเริ่มจัดส่ง 1 ก.ค. ไม่ใช่ว่าร้านต่างๆ ต้องได้รับหนังสือจากสนพ./โรงพิมพ์แล้วอ่อวะ แล้วเห็นทวิตที่บอกว่าสั่งหลังๆ กับสนพ.ก็ได้รับแล้ว เหมือนลูกค้าอย่างกู(ที่ทำให้เขาได้กำไรไม่เยอะ)ไม่มีค่าจริงๆ ว่ะ
>>973 กูอ่านความคิดมึงแล้วเห็นว่าจริงในด้านการทำให้มุขล้อเลียนสีผิว เชื้อชาติ เพศ เป็นเรื่อง normalized
อย่างเช่นที่เขาพูดกันว่า boomer joke ชอบเล่นประเด็นพวกคนผิวสี = ทาส, ผู้หญิง = เป็นแค่เครื่องมือทางเพศ สมควรอยู่ในครัว, เชื้อชาติ = คนผิวขาวคือนิพพาน ที่เหลือคือลิงผิวเหลือง นิโกร
การที่ทุกคนทำเรื่องนี้เป็นโจ๊ก มันทำให้คนในสังคมและกลุ่มผู้สูงอายุไม่เก็ทว่าทำไมต้องมี feminist หรือพวกนักสิทธิมนุษยชน เพราะพวกนี้โตกับสังคมที่คิดว่าการล้อเลียนเรื่องต่าง ๆ เป็นเรื่องล้อเล่น ก็เหมือนที่นิยายข่มขืน ล่อเด็ก เป็นเรื่องในนิยายอ่านเล่น
มันมีพวกผู้ชายที่ชอบเล่นมุขหมี มุขข่มขืนทอมจริง ๆ นะ พวกผู้ชายพวกนี้โตขึ้นมาจากการที่ทุกคนพูดเรื่องนี้กันเล่น ๆ ในเวลาปกติมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้ามันมีโอกาสล่ะ สมมติว่าไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ ๆ แล้วมีทอมหน้าตาสวย ๆ เมา คนที่คิดว่าการซ่อมทอมเป็นเรื่องขำ ๆ น่าจะมีโอกาสล่วงละเมิดทางเพศทอมคนนั้นมากกว่าคนที่ได้รับการสั่งสอนว่าการข่มขืนไม่ว่าจะแง่ไหนผิดอยู่แล้ว
สำหรับกู กูไม่คิดจะไปล่าแม่มดคนที่เขียนนิยายข่มขืนหรือนิยายเยเด็กหรอกนะ เพียงแต่ไม่ได้คิดว่านิยายแบบนี้มันเหมาะกับทุกคน ทุกคนจะแยกแยะได้ มันควรเก็บไว้ใต้ดินมาก ๆ ถ้าเป็นนิยายก็ต้องเป็นเว็บเฉพาะหรือแจ้งเตือนอย่างชัดเจน ที่สำคัญคือการเอานิยายพวกนี้ไปทำซีรีย์คือเหี้ยมาก
>>975 ขอบคุณนะที่เข้าใจ กูก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ฉอดกันแรงถึงขั้นบุลลี่นักเขียน หรือเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเขียนมาโจมตี
แต่ประเด็นไหนที่มันพัง มันไม่ถูกต้อง ก็ต้องปรับแก้กันไปว่ะ อาจจะมีคนอ่านที่ยังไม่เก็ต ไม่ให้ความสำคัญ (หรือคนเขียนบางคนก็ด้วย)
แต่ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น สอนกันตั้งแต่วันนี้ ไม่งั้นปล่อยไปเรื่อยๆ มันก็จะวอแวอยู่แบบเนี้ย เขียนมาก็ฉอดไป อีกสิบปีก็ไม่พัฒนา
และถูกต้องอย่างที่มึงบอก ไม่ใช่ทุกคนจะแยกแยะได้ แม้จะมีแค่คนสองคนก็ไม่ควรละเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะเอาไปแพร่ต่อได้อีกกี่คน
กูคิดว่าการไม่เขียนถึงเลยเป็นการปฏิเสธว่ามีอะไรแบบนี้อยู่บนโลกเหมือนกันนะ จะบอกว่าเขียนถึงได้แต่อย่าบอกว่ามันเป็นเรื่องถูกก็ดูจำกัดแนวทางนักเขียนไปหน่อย เพราะอย่างที่บอกว่ามันมีแนว unreliable narrartor อยู่ แบบพระเอกมึงอาจจะเป็นคนเหี้ยมากๆก็ได้อะ อาจจะเป็นมีทัศนคติบูมเมอร์ยุคนั้นที่ขี้เหยียด ส่วนตัวกุว่า ตรรกะตัวละครในเรื่องไม่เท่ากับตรรกะคนเขียน เวลาเขียนก็ระวังหน่อย ไม่ใช่เขียนถึงไม่ได้
สุดท้ายก็วกกลับไปที่สภาพแวดล้อม การศึกษา การเลี้ยงดูด้วยอ่ะ นิยายเด็กอ่านเยอะ คนเข้าถึงเยอะ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งเดียวที่หล่อหลอมคนคนนั้นหรือสังคมขึ้นมาอะมึง
(เพิ่งเห็นคำว่า เขียนให้ดูฟิน ของมึง ไม่รู้เข้าใจประเด็นมึงถูกรึเปล่า เพราะคิดว่ามีตัวอย่างในใจกันคนละอย่างอยู่ คือพูดถึงที่มันบ้งจริงๆอยู่ใช่มั้ย ไม่ได้หมายถึงแนวเสียดสี สะท้อนสังคม หรือการสร้างคาร์แรกเตอร์ที่คนเขียนจงใจให้ตัวละครบ้งใช่รึเปล่า จะได้เจาะให้ถูกประเด็น ไม่งั้นมันก็วนเขียนได้เขียนไม่ได้อยู่แบบนี้)
>>973 ประเด็นมึงคือเรื่องบ้งๆ ต้องหายไปจากโลก ถูกไหม เพราะอะไรก็กรองไม่ได้ละนี่? กูก็ไม่ได้เห็นด้วยกะเรื่องล้อเลียน เชื้อชาติ เหยียดสีผิวบลาๆ ไรพวกนั้นเลยนะ ละเรื่องพวกนี้การเลี้ยงดูก็น่าจะมีส่วนไหม ละไอ้ที่หล่อหลอมสังคมมาทุกวันนี้มันคือนิยายเหรอ กูไม่ได้บอกเลยว่าแตะต้องวิจารณ์นิยายไม่ได้ แต่ด้วยความที่มันเป็นนิยายมันอาจจะมีเรื่องบ้งๆ บ้าง เราคัดกรองได้ อย่างพวกที่มึงว่าถ้ารู้จักจัดเรท มี บก ช่วยบ้าง มันก็ลดทอนได้บ้างป้ะ เราเตือนได้แยกที่แยกทางได้ คือมันอยู่ตรงกลางได้ไง มันจะต้องสุดโต่งไปอีกทางด้วยเหรอ
>>978 ใช่ มันควรจะไม่มีอยู่แล้ว แต่อย่างที่กูบอกว่ามันไม่สามารถหายได้ทันทีเหมือนธานอสดีดนิ้ว มันต้องช่วยๆกัน
นิยายไม่ใช่สิ่งที่หล่อหลอมสังคม 100% (ก็บอกอยู่ว่าคงไม่มีใครอ่านนิยายแล้ววิ่งไปข่มขืนคนอื่น) แต่มันมีส่วนกับความคิดของบางคนจริงๆ
เพราะฉะนั้นถ้ามันมีอะไรที่ทำได้เราก็ควรจะทำไม่ใช่เหรอ สมมุติมีคราบสกปรกอยู่ 10 จุด เราเช็ดออกได้ 1 จุด ก็ยังดีกว่าไม่ทำเลยแล้วมาบ่นว่าเช็ดแค่นี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร หรือบอกว่า แค่คราบจุดเดียวไม่ได้ทำให้ดูเลอะเทอะขนาดนั้น
>>977 ความหมายเหมือนในวงเล็บที่มึงพิมพ์แหละ คือการทำให้เรื่องผิดๆ ดูไม่ผิด ล้อคนอื่นขำๆได้ ข่มขืนแล้วรักกันได้ ฯลฯ
แต่เรื่องแนวอาชญากรรมทั่วไปมันก็ไม่มีปัญหาอะไรไง เพราะมันทำให้เห็นว่าการฆ่าคน/ข่มขืนไม่ใชเรื่องดี เอาง่ายๆคืออยู่ที่เจตนา
ประเด็นคือในนิยายหลายเรื่อง ทั้งวายไม่วาย มันมีจุดสำคัญอยู่ที่ความรัก แล้วนข.บางคนก็เอาความบิดเบี้ยวในสังคมมาเป็นปมความรัก ความฟิน นั่นแหละที่นักฉอดเห็นว่ามันบ้ง
ปัญหาอีกอย่างคือนิยายในอุดมคติของแต่ละคนไม่เหมือนกันปะ หลายๆคนพอเจอนักฉอดมากๆเข้าก็คิดว่านิยายที่ดีจะต้องเป็นนิยายสอนใจสอนศีลธรรม แต่สำหรับกูเอาแค่ไม่มีทัศนคติแย่ๆอย่างเหยียดเพศเหยียดผิว ไม่ rape to love ไม่สนับสนุนอาชญากรรม ก็โอเคแล้วนะ ไม่ต้องยัดคำคมหรูหราสั่งสอนให้เป็นคนดีอะไรขนาดนั้นก็ได้ นิยายเด้อไม่ใช่ตำราศาสนา
>>979 สำหรับกูมองว่ามันเหมือนสมัยยุคหลุมดำที่วายโดนตำรวจับข้อหาสื่อลามกอนาจาร ซื้อทีต้องใช้รหัสลับเว็บซื้อขายต้องตอบคำถามยาวเหยียด ขณะหนังสือชายหญิงเริงสวาทขายได้ทั่วไป การเลือกกำจัดคราบเล็กๆหนึ่งจุด ทั้งที่มีคราบที่ใหญ่เบ้อเร่อกว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรในสายตากู เพราะของที่หนักกว่ารุนแรงกว่าก็ยังตระหง่านอยู่อย่างนั้นทำไมถึงไม่มีใครสนใจล่ะ จนเกิดความคิดที่ว่าเหตุผลที่อ้างไม่เห็นเกี่ยวเลยนี่นา ไม่งั้นทำไมมาตรฐานต่งกัน และสุดท้ายจุดเบ้อเร่อจุดนั้นก็จะกลับไปทำให้จุดเล็กๆจุดนั้นสกปรกอยู่ดีเหมือนกับที่วายเรทตอนนี้ขายโจ่งแจ้งกลายเป็นเรื่องปกติยิ่งกว่านิยายชายหญิงเริงสวาท ช่วงเวลาที่โดนเช็ดก็เป็นได้แค่ช่วงเวลาเล็กๆที่ไม่สำคัญสักนิดในเวลาต่อมา
พูดตรงๆเหตุผลกลัวคนทำตามนิยายกูไม่คล้อยตามด้วย เพราะสิ่งที่ทำให้เกิดการnormalizedจริงๆ มันคือสื่อที่เข้าถึงง่ายอย่างสื่อทีวี การเรียนการสอน สภาพสังคมว่ะ ไม่ว่าจะเรื่องข่มขืน มุกตลกเหยียดเพศ นิยายไม่ได้มีความสามารถในการเข้าถึงคนขนาดนั้น เกมด้วย กูเคืองมากกับเรื่องห้ามเกมfps(เกมที่ใช้ความรุนแรง) เพราะกลัวคนซึมซับความรุนแรงจากเกม คือคิดว่าคนดู/เล่นเกมมากๆจะทำให้สามัญสำนักต่ำลง มองการยิงปืนเป็นเรื่องปกติไปยิงชาวบ้านเหรอ คิดว่าอ่านนิยายเปโดมากๆจะทำให้หื่นกับเด็กหรือมองว่าเด็กโดนเยก็ไม่ผิดเหรอ ถ้าไม่โดนกล่อมด้วยสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องคนก็ไม่เสียสามัญสำนึกง่ายขนาดนั้นหรอก
สำหรับกูนะ twกับการติดpasswordไม่ใช่ยันต์กันโดนด่าความบ้งในเรื่อง แต่เป็นยันต์กันโดนด่าเรื่องการเข้าถึง แบบถ้ามึงแต่งincestลงเน็ตแบบติดพาสเวิร์ดและมึงไม่แปะพาสไว้โจ่งแจ้ง คนด่ามึงที่มึงแต่งเรื่องผิดศีลธรรมได้ แต่จะด่ามึงว่าเผยแพร่ให้คนอ่านง่ายๆไม่ได้
ทุกวันนี้เหนื่อยชิบหายกับอะไรแบบนี้ คนมันมีความคิดเห็นต่างกันอ่ะ ไม่ยอมหาจุดกึ่งกลางอยู่ไม่ได้กันเลย บางเรื่องนี่มันถูกจริง ๆ เหรอ
คือถ้านับว่ามันเป็นสื่อ ๆ สื่อหนึ่งก็ควรสื่อสารออกมาให้ดีกุเห็นด้วย แต่ตอนนี้ทำเหมือนแม่งเป็นสิ่งชั้นสูงต้องมีแต่สิ่งดี ๆ กุเข้าใจนะนิยายสำหรับบางคนแม่งเป็นโลกทั้งใบ แต่สำหรับกุถ้ามันบ้งมันเหี้ยกุก็ไม่ได้ให้ค่าอะไรกับมันขนาดนั้นอ่ะ แค่ตรงความสำคัญของนิยายคนก็มองไม่เท่ากันแล้วเรื่องนี้เถียงกันยังไงก็ไม่จบหรอก ก็คงต้องรอให้อนาคตมาตัดสินนั้นแหละ กุคิดว่าถึงวันนั้นกระแสสังคมมันจะเป็นคนบอกเองว่าแบบไหนถูก/ผิด
>>993 ประเด็นเลยไม่ได้อยู่ที่ตัวนิยายที่เป็นนิยายแต่เป็นการเอามาทำเป็นสื่อละครหนังที่เข้าถึงง่ายไง ถ้าเป็นหนังสืออยู่ก็เข้าถึงยากว่ะ หนังสือก็ยังมีอิทธิพลน้อยว่ะเทียบกับประชากรทั้งหมด และยอดคนเข้างานหนังสือมันไม่ได้มีแค่สายนิยาย พวกคนที่ไปหาซื้อนิยายอ้างอิงในสายอาชีพ แนวจิตวิทยาการลงทุนสู้แล้วรวยสายมู ไหนจะแยกย่อยนิยายแต่ละประเภทอีก
ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆความแตกต่างระหว่างคนปกติกับพวกที่อ่านนิยายก็ดูยอดคนดูละครสักเรื่องกับยอดขายนิยายก็ได้ต่างกันแบบยอดซื้อนิยายไม่นับเป็นอะไรเลย ถ้าวงการหนังสือแมสจริงไม่จำกัดจำเขี่ยแบบนี้หรอก คงมีกู้ดส์จากนิยายขายแยกแบบจีนแบบไต้หวันแล้ว
การติดพาสการอยู่ถูกที่ไม่ใช่ยันต์ แต่มันคือการบอกว่าคนที่อยากอ่านอะไรบ้งมาอ่าน คนไม่ชอบอะไรบ้ง เรื่องนี้บ้งนะ บ้งแบบที่ไม่ชอบนี่แหละ แต่คนที่ไม่ชอบเรื่องบ้งก็คือจะรีบเข้าไปอ่านละเอาไปด่าว่ามันบ้ง
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.