Last posted
Total of 1000 posts
>>765 กูอ่านวายไม่เลือกสัญชาติอยู่แล้ว ใครมาป้ายยาอะไรกูอ่านหมด 555555 แต่กูเป็นพวกอ่านเงียบๆไม่ได้มาเมาท์หรือป้ายยาต่อ คนอ่านวายชาติอื่นก็อาจจะมีเยอะมั้ง แค่ไม่มีใครมาเปิดประเด็น พอมีคนมาป้ายยาหรือเปิดประเด็นทีก็เลยเมาท์กันได้เรื่อยๆ กูเห็นแถวนี้ก็เมาท์เรื่อง MM หรือวายญี่ปุ่นกันบ่อยๆนะ
ky กุคือโม่งที่บ่นอยากอ่านคู่ป่วนปราบปีศาจ กูขุดๆ ชั้นหนังสือแล้วเพิ่งรู้ว่าจริงๆ กูมีเรื่องนี้ด้วย แต่กูซื้อมาเล่มเดียว... จะหาต่อได้จากไหนวะเนี่ย 55555
>>759
.
.
.
.
.
.
.
ส่วนตัวกูคิดว่ามันสำนึกผิดกันมากพอนะ แบบพอ.รู้ตัวว่าผิดแน่ๆ ถึงตัวมันจะไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน (มันเป็นสัดควบคุมตัวเองไม่ได้) แต่นอกจากเรื่องนั้นถ้ากุจำไม่ผิดพอ.มันไม่ได้ทำตัวท็อกซิกใส่นายเอกอะนะ นอ.เองก็ใจแข็งใช้ได้ ไม่ใช่ว่าพอ.ทำตัวดีหน่อยก็ยกโทษให้เลย แต่คือทั้งคู่มันก็ดูรักกันอยู่แล้วอะ พอเริ่มผ่านอีเว้นท์ตั่งต่างด้วยกันมากขึ้นมันก็เปิดใจคุยกันมากขึ้น ประมาณนั้น ในเรื่องมันก็ย้ำอยู่เรื่อยๆ ว่านายเอกมันทรอม่า มีปมต่อไปถึงเรื่องลูกมันเลย ไม่ได้โรแมนติไซส์เรปว่ะ สำหรับกูนะ
>>760 ไม่ใช่ว่ามันเรปร่างธรรมดาแต่กัดแม่นอ.ร่างเสือหรอวะ หรือกูจำผิด แง กูรู้สึกนอ.มันแค้นเรื่องแม่มากกว่าเรื่องตัวมันเองอีก
.
.
.
.
.
.
.
.
>>773 เรื่องแม่นายเอก
.
.
.
.
.
อ่านมาซักพักจำไม่ได้เป๊ะแล้ว แต่กูคุ้นว่าพระเอกทำร้ายแม่นายเอกจริงแต่ไม่ถึงตายมั้ยอะ แม่ตายเพราะโดนคนในตระกูลพระเอกจัดการ ซึ่งตอนหลังพระเอกก็กวาดล้างพวกนั้นหมดเลย
ส่วนเรื่องเรปคือสะกดสัญชาตญาณอสูรไม่อยู่ ซึ่งก่อนหน้าก็มีอาการบ้างแต่พระเอกคุมได้ แต่มาหลุดเอารอบนี้ คือก็ทำร้ายนายเอกนั่นแหละแต่มันไม่ใช่แบบพิศาลตบจูบ โกรธแล้วมาหาเรื่องหรือลงโทษนายเอกอะไรงี้ ซึ่งตอนหลังก็สำนึกผิดมาก
.
.
.
.
.
ตกลงเรื่องฮัสกี้คือกุหลาบใช่มั้ย จะได้หายคาใจซะที ยังไงเข็นให้ทันช่วงซีรีส์ฉายหน่อยนะพรี่ เห็นหน้าพระเอกแล้วความอยากอ่านจากเต็มร้อย
ทะลุไปพันเปอร์เซ็นต์ 😘
อะ สรุปกูไปอ่านนิยายคุณ Kia มาแล้ว เรื่องที่อ่านมีเรื่องเดียว ชื่อเรื่อง ใครสักคนในเราทั้งคู่ กูไม่อ่านอีกเรื่องเพราะไม่นิยม Bad end แหะๆ เรื่องนี้พอ.แนวเมะลูกหมาคลั่งรัก นอ.ก็เคะแก่ ขี้แหย่ แต่แอบแซ่บ เรียกว่าเคะราชินีได้มั้ยนะ555
ปล. ถ้าโม่งจะเอาลงหิ้ง ใช้ชื่อคนเขียนว่า Moonscape ดีกว่านะ เพราะนามปากกาเขาคืออันนี้ แต่กูถนัดเรียกชื่อแอค555
เนื้อเรื่องคร่าวๆ ดาวเหนือ(พอ.) เป็นเด็กซิ่วกลับมาที่บ้านต่างจังหวัด พอ.เคยฝันว่าเจอผช.ในฝันคนนึง ยืนเล่นเปียโน ไม่เห็นหน้าเพราะหันหลังอยู่ หัวก็ขยุกขยุยเป็นก้อนดำๆ แต่ตกหลุมรักคนในฝันคนนั้น พอกลับบ้านมา มีข่าวลือว่าบ้านท้ายซอยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านผีสิงเพราะเจ้าของบ้านคนก่อนๆตายในนั้นกันหมดมีคนย้ายมาอยู่แล้ว พอ.นึกคึกไรไม่รู้ ขี่จักรยานไปแอบดู เจอคนบนชั้นสอง เห็นแล้วมีความรู้สึกว่าคนๆนี้คือคนในฝันแน่ๆ พอแอบมาถ้ำมองบ่อยๆจนเขาจับได้ ก็เลยได้คุยกัน คนในบ้านชื่อให้แสง(นอ.)อายุ 30 กว่า และนอ.ไม่ใช่คน พอ.คิดว่าเป็นผีสักตัวในบ้านหลังนี้ หลังจากนั้นพอ.ก็แอบที่บ้านมานั่งเล่นกับให้แสงในสนามเด็กเล่นร้างแถวๆนั้นเป็นประจำ พอสนิทกันมากขึ้น นอ.ให้พอ.ช่วยทำอะไรให้หน่อย นั่นก็คือไปขุดหลุมที่ป่าหลังบ้าน โดยไม่ยอมบอกว่าขุดไปทำไม พอ.ก็เชื่องทำตามเสียทุกอย่างเลย เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก แค่คุยกันไปเพลินๆ ทำนู่นนี่ไปวันๆ
หลังจุดนี้เป็นสปอย
.
.
.
.
.
.
อิคุณให้แสงมันไม่ใช่ผีธรรมดา มันคือปีศาจที่เกิดมาจากพวกความแค้น เกลียดชัง ของเจ้าของบ้านคนก่อนๆ ก่อเป็นรูปร่างขึ้นมา ส่วนหลุมที่ให้พอ.ขุดตลอด มันจะให้พอ.ฝังร่างเจ้าของบ้านคนปัจจุบันที่กำลังฆ่าตัวตาย ซึ่งหน้าเหมือนนอ.เปี๊ยบ(ใช่ แม้แต่ชื่อให้แสง มันก็ไปขโมยชื่อมาจากเจ้าของบ้านคนนี้ ทีหลังพอ.เลยเรียกเจ้าของชื่อว่าคุณ H แทน) แต่พอ.ถึงจะเชื่องแค่ไหนก็ยอมฆ่าคนไม่ได้ ยอมตัดใจไม่ช่วยนอ.แต่หันไปช่วยชีวิตคุณ H แทน ถึงหน้าเหมือนกัน แต่นิสัยไม่เหมือนกับนอ.เลย คุณ H เป็นคาร์หม่นๆ มีปมจากอดีตทำให้ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เงียบๆคนเดียว ตอนหลังๆก็มีแค่เรื่องคุณ H ย้ายจากบ้านหลังไปเช่าห้องอยู่แทน บ้านกลายเป็นสถานที่ล่าท้าผี จนสุดท้ายคุณ H ขายที่ทิ้ง มีคนมาทุบบ้านจะสร้างเป็นบริษัทแทน นอ.เลยจะหายไป บอกพอ.แค่ว่าเดี๋ยวก็เจอกันอีก ระหว่างนั้นปล่อยให้พอ.รอเป็นหมาหงอยหลายปี เจอกันอีกทีก็ตอนพระเอกใกล้ถอดใจ แล้วฉากเจอกันก็สมกับเป็นคุณให้แสงจริงๆ ไฟดับแบบหนังผีงี้ โคตรขี้แกล้ง5555555
.
.
.
.
.
.
ถามว่าสำนวนเป็นไง เบียวมั้ย กูตอบได้ว่า สำนวนดีเลย และมีความเบียวอยู่จริงๆแหละ ให้อารมณ์เหมือนวรรณกรรมแปลญี่ปุ่น ยกตัวอย่างประโยคเช่น ‘เทรนด์ใดๆก็ตามในทวิตเตอร์ก็เป็นอย่างนี้ สลายหายเป็นไอน้ำเหมือนฝันกลางฤดูร้อนในชั่วข้ามคืน’ แต่กูว่าเขาเขียนบรรยากาศความเป็นต่างจังหวัดในเรื่องดีนะ แต่ก็อย่างว่า นิยายเขามันคุมโทนอึดอัด ลึกลับ เสียดสี ซึมเศร้า ยังไงก็ไม่รู้ แบบว่าอึมครึมทั้งเรื่องเลย ใครที่กลัวจุดพวกนี้ เลี่ยงๆไปดีกว่า ส่วนใครที่เบื่อๆกับนิยายวายไทยพูดกู-มึง เน้น nc ถ้าอยากลองอ่านเปลี่ยนแนวก็ได้นะ อ่านไปเรื่อยๆมันก็เพลินๆดี ย่อยง่ายเพราะแต่ละตอนสั้นมาก
เรื่องทริกเกอร์ คำเตือน ไม่มีติดว่า BE หรือ HE มีแต่บอกว่า ดราม่า/เสียดสีสังคม และ ’บอกในตอน’ ตรงจุดนี้กูไม่ชอบ สมมุตินะ ถ้ามึงอ่านนิยายเรื่องนึงแล้วชอบ พออ่านตอนต่อไป ดันจนเจอคำเตือนในตอนนั้น ซึ่งคำเตือนนั้นมีจุดที่ทริกเกอร์มึงอยู่ มึงจะรู้สึกยังไง เป็นกูกูเสียใจนะ เสียดายเวลาด้วย ถ้าเป็นไปได้ เขียนคำเตือนตั้งแต่หน้าหลักนิยายเลยน่าจะดีกว่าไหมอะ
กุเพิ่งไปควานหาตู้เจ๋อเล่ม 1 มาได้ เลยเพิ่งได้ฤกษ์แกะ นึกว่าจะต้องรออีก 3 เดือนซะแล้วถึงจะได้อ่าน พอดีกุเคยไปแหยมๆแตะๆฉบับแปลอิงค์แล้วไม่ค่อยคลิก เลยไม่สนใจกดตอนออกแรกๆ พอมาอ่านตอนนี้แล้ว คือสนุกว่ะ ฮาดี นอ.จิกกัด+หวีดนิยายได้เก่งมาก พอ.ยันเดเระของแท้ เปลี่ยนบรรยากาศจากจีนพีเรียดไปแฟนตาซีได้ดีเลย แต่แอบเห็นด้วยกับโม่งที่บอกว่าแก๊กท้ายบทเล่นมุก 8 ร่างเกินไปจนชักน่าเบื่อ ขนาดกุเพิ่งอ่านจบเล่ม 2 ยังรู้สึกซ้ำซากแล้วเลย
ส่วนการแปลที่เค้าบ่นๆกัน เหมือนทำอะไรกุไม่ได้เลยว่ะ คืออ่านได้ปกติสำหรับกุแฮะ
เรื่องสำนวนนี่กูเลิกอ่านที่ชาวบ้านเขารีวิวละ บางเรื่องแปลดีมากนะมึง สำนวนพีเรียตจีนแท้ๆแบบยุคยี่สิบปีก่อน ดันโดนรีวิวว่าเหมือนกูเกิ้ลทรานสเลท ส่วนบางเรื่องสำนวนลิเกฉิบหาย เรียงประโยคเหมือนภาษาปัจจุบันเด๊ะ แค่มีคำว่า ข้า เจ้า ขอรับ เจ้าค่ะ เป็นอันใด เยี่ยงนี้ ฯลฯ กลับมีคนชาบูๆบอกว่าดีมาก สำนวนโบราณเข้ากับเรื่องงั้นงี้ กูว่าถ้าเขามีตัวอย่างให้ลองอ่าน ก็อ่านเองเหอะ เชื่อตัวเองแหละดีสุด บางคนที่มารีวิวนี่กูว่าก็ไม่ได้อ่านหนังสือมากหลากหลายเท่าไหร่หรอก
>>782 กูเข้าใจ 781 นะ คือถ้ารีวิวว่าชอบ ไม่ชอบสำนวนอันนี้เรื่องนึง แต่ที่ 781 พูดนี่น่าจะพวกที่รีวิวแบบไก่กา ไปหาว่าเค้าแปลเลวมากแย่มาก ทั้งๆที่ตัวเองก็อ่านต้นฉบับไม่ออกไม่สามารถเทียบเคียงความถูกต้องได้แท้ๆ ซึ่งพวกหลังเหมือนจะมีมากขึ้นน่ะ
>>783 โดนบ่นว่าแปลอ่านไม่รู้เรื่องน่ะ กับมีปัญหาเชิงอรรถหายเลยโดนด่าเปิงมั้ง นี่ก็ลามมาถึงเหรียญทองแดงด้วยเพราะติดชื่อว่าแปลกากมา พอมีคนมารุมบอกแปลเหรียญทองแดงแย่ก็เลยระแวงกันไปหมด
>>782 ก็ถึงได้บอกไงว่าเชื่อตัวเองดีสุด แล้วกูก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการที่บางคนจะไม่ชอบสำนวนเก่า หรือสำนวนแบบไหนก็ตาม แต่จะวิจารณ์อะไรก็ควรมีความรู้ไง อย่างน้อยก็รู้ว่า เออ แบบนี้สำนวนเก่านะ แบบนี้สำนวนพีเรียตนะ แบบนี้แฟนตาซี ซึ่งจะตบท้ายว่าไม่ชอบแนวนี้ อ่านยาก อะไรก็ว่าไป
ที่กูมีปัญหาด้วยคือคนที่ไม่เคยอ่านสำนวนเก่าเลย หรือไม่เคยอ่านนิยายนอกแนวของตัวเองเลย พอเจอเรื่องที่แปลผิดไปจากความคุ้นเคยก็ไม่พอใจ ไปอวดฉลาดหาว่านักแปลแปลห่วยแปลพัง แปลเหมือนกูเกิ้ลทรายสเลทเท่านั้นแหละ มันทำให้รีวิวมีอคติ ถ้าจะเสียเวลาอ่านรีวิวของคนแบบนี้นะ กูว่าอ่านตัวอย่างเองเหอะ
>>785 เอาจริง เหรียญทองแดงนี่ขนาดออกมาแรกๆคนยังเหมือนอุปปาทานหมู่กันอยู่เลยมึง จะบอกว่าแปลดีแปลรู้เรื่องก็ไม่ค่อยมีใครพูดเต็มปากเต็มคำอะ ทุกคนมาแนว...ก็ดีนะ แต่มีขัดๆนิดหน่อย หลายคนบอกว่าตลกและซาบซึ้ง แต่ไม่ค่อยอินนะเพราะอ่านยาก กูก็แบบ อิหยัง ตลกและซึ้งแต่ไม่อิน คืออะไรวะ จนหลังๆเนี่ยถึงได้มีคนบอกว่าสำนวนดีไม่มีแต่ตามหลัง อันนี้กูอยากโทษว่าเป็นความผิดของคนที่ไปวิจารณ์เค้าแบบเด๋อๆแต่ยาวเป็นวาในเด็กดีอ่ะ เหมือนเป็นต้นตอการสะกดจิตหมู่
>>779 ประโยค "สลายหายเป็นไอน้ำเหมือนฝันกลางฤดูร้อนในชั่วข้ามคืน" ที่มึงยกมาดูเบียววรรณกรรมญี่ปุ่นจริงว่ะ 5555555 ไม่ได้จะว่าไม่ดีนะ ประโยคแบบนี้ถ้าอยู่ในวรรณกรรมญี่ปุ่นกูคงเฉยๆ แต่พอเป็นไทยแล้วมันทะแม่งๆ (กูนึกถึงพวกนักเขียนสไตล์ murakami wannabe ทั้งหลาย) คือไทยแม่งไม่ได้อินฤดูกาลกันเท่าญี่ปุ่นด้วยไง แต่คนชอบสำนวนแบบนี้ก็คงปลื้มมั้ง คนไทยเขียนสำนวนแบบนี้ใช่ว่าจะมีเยอะ
เรื่องภาษาสวยกูมองว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล ส่วนภาษาไม่สวย/ภาษาแย่/แปลไม่ดี ถ้าใครวิจารณ์แบบนี้ลอย ๆ แต่ไม่ยกตัวอย่างหรืออธิบายให้เป็นรูปธรรมว่าไม่ดีตรงไหน (เช่น ใช้คำไม่เข้ากับโทนเรื่อง ใช้คำผิดความหมาย ไม่เข้ากับบริบท การเรียบเรียงแต่ละประโยคไม่ต่อเนื่อง ละประธานจนไม่รู้เรื่อง) กูก็ไม่ให้ค่าเหมือนกันเพราะแค่พูดลอย ๆ ว่าแปลห่วย ใครก็พูดได้
>>788 55555555 แต่โดยรวมกูชอบเรื่องนี้นะ ชอบคาร์แร็กเตอร์ตัวละครคุณให้แสงที่เขาเขียน ดูมีความลึกลับ หยิ่ง สำบัดสำนวนดี และเซ็กซี่ ( .///. ) กูไม่ค่อยได้เจอนิยายวายไทยภาษาแบบนี้ พอได้อ่านแล้วมีความสุขดีอะ เหมือนเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ติดตรงอยากให้เขียน warning หน้าหลักนิยายเท่านั้นแหละ
>>787 กูไม่เข้าใจความอุปาทานหมู่ของวงการนี้เลยว่ะ 55555555 อย่างลิ่วเหยาตอนออกมาแรกๆมีแต่คนอวยว่าภาษาสวยเริ่ดมากกกก แต่พอออกเล่มสามมากระแสพลิก มีแต่คนบ่นว่าแปลไม่ดี อ่านไม่รู้เรื่องจนคนแปลต้องออกมาขอโทษ ไม่รู้เป็นเพราะคล้อยตามกันจริงๆ หรือแค่ตอนแรกกระแสมันไปทางนึง คนที่คิดอีกทางเลยไม่ค่อยกล้าพูดกันแน่
เหรียญทองแดงแปลดีมากเลยนะสำหรับกู มุกจิกกัดต่างๆ อ่านแล้วตลกดีไม่น่าเบื่อ แต่ตู้เจ๋อเล่ม 1 กูไม่ไหวจริงๆ พาลให้ไม่อยากตามต่อเล่มอื่นเลยต่อให้เล่มต่อมาจะเปลี่ยนคนแปลก็เถอะ เสียดายมาก..
>>788 สำหรับกูกูว่ามันเหมือนนิยายแปลเกินอะ งานของคนนี้ 5555 รู้สึกเหมือนนางพยายามเขียนให้อยู่ในกรอบของวรรณกรรมญปยังไงไม่รู้ ไม่ได้สละสวย แต่เน้นบรรยายให้เห็นรายละเอียดเยอะๆ บางประโยคคือกูแปลงเป็นญปในหัวได้ทันทีเลย รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเป็นธรรมชาติอะ ไม่รู้มีใครรู้สึกเหมือนกูมั้ย แต่ส่วนกูไม่ถูกจริต 5555555
เหรียญทองแดงนี่มีคนออกมาสวนกระแสเหมือนกันนะ แต่โดนกระแสคนด่ากลบซะมิดอ่ะ 555555
กูว่าปัญหามันอยู่ที่คำว่า “นักศึกษา” อ่ะมึง คือกูเข้าใจว่าคำนี้เขาใช้กันในนิยายกำลังภายในจีนตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว กูไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่มีคนไม่ชินไง เลยยกมาด่า ทีนี้มวลมหานักอ่านที่ไม่ชินเหมือนกันเลยเฮด่าตามๆกันไปหมด กูเห็นบ่อยนะที่คนบอกว่า “แค่เห็นใช้คำว่านักศึกษาก็ไม่อ่านละ” ต้องแปลห่วยแน่ เพราะนักแปลไม่รู้จักคำว่าบัณฑิต อะไรงี้ แล้วคนที่อ่านคอมเมนต์ก็เชื่อไง เพราะคนเม้นต์พูดจาน่าเชื่อถือ มียกตัวอย่างคำผิดมาอ้าง
ซึ่งถ้าอ่านตัวอย่างต่อไปเรื่อยๆ มึงจะเห็นระดับการใช้ภาษาของเค้า นักแปลคนนี้ไม่มีทางไม่รู้จักคำว่าบัณฑิตแน่ๆ ถ้าเขาไม่ใช้ เขาก็น่าจะมีเหตุผลแหละ แต่คนที่เชื่อพวกรีวิวด่าก็ไม่สนใจแล้วไง แล้วทุกวันนี้เหรียญทองแดงแม่งกลายเป็นแรร์ไอเท็ม เหมือนตบหน้าพวกไม่มีความรู้สักแต่จะด่าอ่ะ
แล้วที่ตลกคือ กูไล่อ่านนะ คอมเมนต์ด่าในเด็กดีอ่ะ กูอยากรู้ว่าเขาด่าอะไร และพบว่าสองคนที่ฉอดแรงสุด ฉอดเยอะสุด แม่งพรีออร์เดอร์ไปตั้งแต่สนพ.ยังไม่ลงฉบับเกลาให้เลยมั้ง ใครเชื่อสองคนนี้แล้วมาเปลี่ยนใจทีหลังก็ซวยไป 55555555555555
>>795 เออ แม่งคุมโทนเทาๆ ทึมๆ จนกูแบบ... อะไรมันจะเทาปานนั้นวะ กูอ่านงานมุราคามิกับงานญปมาหลายคน มันยังมีความรู้สึกในตัวอักษรมากกว่านี้อีก ส่วนเรื่องข่มคนอ่าน อันนี้จริง นางไม่ได้พยายามเขียนให้คนอ่านเข้าใจได้ง่าย แต่นางเขียนแบบให้มันดูซับซ้อนเข้าถึงยากไว้ก่อนเพื่อสนองอีโก้ของตัวเอง (กูเปล่าด่านะ พูดตามที่รู้สึกเป๊ะๆ) พูดตรงๆ กูโคตรไม่ชอบนข.กับงานเขียนแบบนี้ คือมีอคติเลยแหละ มันเหมือนไม่ใส่ใจคนเขียน (ผู้บริโภค) ที่จะมาซื้องานมึงอ่านอะ
เอาล่ะ กูลองตามไปอ่านเรื่องที่ >>779 บอกมานิดนึง แค่บทแรกกูก็เห็นด้วยกับ >>793 แล้วว่าสำนวนติดกลิ่นวาซาบิมากกกกก ใครรู้ภาษาญี่ปุ่นจะสามารถแปลกลับเป็นญี่ปุ่นได้ทันทีเลย อย่างประโยค "เปียโนทำจากไม้ย้อมสีน้ำตาลสด... ผมหมายถึง เคยย้อมสีน้ำตาลสด" นี่ญี่ปุ่นจ๋ามากกกก เพราะไวยากรณ์ญี่ปุ่นมันมีรูปอดีต นิยายญี่ปุ่นเลยชอบใช้มุกเปลี่ยน だ เป็น だった ซึ่งสำนวนแบบนี้มันไม่ใช่ลักษณะของภาษาไทยน่ะ ถ้าคิดในแง่นี่เป็นนิยายฝีมือคนไทย มันก็อาจจะชวนให้ตงิดๆว่าจะพยายามญี่ปุ่นเกินไปหน่อยมั้ยนะ แต่กูว่าถ้าคนเขียนชอบสำนวนแบบนี้และแฮปปี้ที่จะเขียนแบบนี้ก็เรื่องของเขาแหละ ใครอ่านแล้วรับความพยายามจะญี่ปุ่นตรงนี้ไม่ได้ก็แค่ไม่ต้องอ่าน (ส่วนกูไม่คิดจะอ่านอยู่แล้ว ขนาดนิยายญี่ปุ่นแปลไทยกูยังไม่อ่านเลย กูอ่านภาษาญี่ปุ่นไปเลยดีกว่า 55555555)
คุณ k เขาติ่งบุงโกนี่นา คงอ่านพวกวรรณกรรมญี่ปุ่นสมัยใหม่ (พวกดะไซโอซามุ) เยอะเลยรับอิทธิพลมามั้ง ทั้งสำนวนและอีโก้ต่างๆ ของแบบนี้จะว่า wannabe ก็อาจใช่ แต่กูว่าเขาก็เก่งนะที่เขียนเลียนแบบสำนวนวรรณกรรมญี่ปุ่นให้ติดกลิ่นได้ขนาดนี้
>>796 กูแปะมือกับมึง กูเกลียด นข ประเภทนี้ และกูเห็นด้วยโคตรๆ เขียนสนองอีโก้ของตัวเอง แต่ถ้าพูดให้ใจกว้างหน่อย นข ก็ต้องสนองอะไรบางอย่างกับตัวเอง แต่คนนี้ทั้งในทวิตภพและงาน มันเหมือนมีกลิ่นความฉันเหนือกว่าพวกเธอนะลอยออกมา กูงงมากว่าทำไมการถ่ายทอดงานสักชิ้นต้องกดหัวคนอ่าน (ซอรี่คนที่ชอบนะ กูไม่อินและไม่รู้ไวยากรณ์ญป หรอก กูแค่พิมพ์เอาจากความรู้สึกตอนอ่านเลย)
สิ่งที่ยากและหาได้น้อยมากในงานเขียนคืองานที่ใส่ใจการรับรู้ของคนอ่าน ภาษาไม่ต้องสวยเป๊ะก็ได้ แต่ต้องไม่สร้างความอึดอัดว่ะ หรือถึงจงใจสร้างต้องมีทางลงให้ อย่างงานมูราคามิบางเล่มที่ย้ำคิดอยู่นั่น มันก็ยังมีความซอฟต์บางๆ ให้เราหายใจ นี่มันไม่มีไง
>>799 กูขอแปะมือมึงคืนด้วย ส่วนตัวกูก็ชอบแบบนั้นเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องสละสลวยไรมากมายเลย ขอให้ลื่นไหลแล้วก็พยายามให้คนอ่านเก็ตกับมึงสักนิดอะ ไม่ใช่เขียนให้เขารู้สึกเหมือนต้องมาตะเกียกตะกายขึ้นไปลูบตัวมึงชาบูๆ
แต่ก็ยอมรับเหมือน >>798 ว่าเขาเก่งที่เขียนออกมาแบบนี้ได้ คงอ่านมาเยอะจริง ไม่ก็พยายามศึกษาจนรู้หมดว่ามันต้องเขียนแบบไหน ว่าง่ายๆ คือวางกรอบให้งานของตัวเองอยู่ในความเป็นวรรณกรรมญปนั่นแหละ มันจะรู้สึกแข็งๆ นิดนึงอะจากฟีลลิ่งกู
>>796 โอ๊ยย กูชอบคำว่า เหมือนไม่ใส่ใจคนอ่าน ของมึงมากๆ อยากให้มีปุ่มกดไลค์5555 กูอ่านเรื่องนี้แล้วชอบ แต่พอลองนึกย้อนดู มันยังมีบางส่วนในเรื่องที่กูอ่านแล้วงงอยู่จริงๆ บางประโยคที่นอ.พูดก็ดูซับซ้อน งงจนต้องอ่านอีกรอบ เหมือนคนเขียนอยากพล่ามอะไรก็ใส่ๆไปผ่านคำพูดตลค. แต่ไม่ได้คำนึงถึงคนอ่านเลยว่าเขาจะเข้าใจด้วยไหม
กูว่าสำนวนก็เหมือนแนวนิยายแหละ แล้วแต่คนชอบ ไม่ใช่สำนวน(แนว)ที่คนอ่านชอบก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสำนวน(แนว)เพื่อให้แมสคนชอบเยอะๆ แต่ถ้าพัฒนาได้ก็พัฒนาต่อไป กูว่าเขาได้อิทธิพลจากญี่ปุ่นเยอะมากๆแหละแต่ความรู้สึกกูเหมือนเวลาเห็นนักวาดลงสีน้ำสไตล์จีนคือต่อให้คนไทยเขียนสำนวนญี่ปุ่นก็ไม่ได้มีนัยแอบแฝงอาจแค่เพราะเขาชอบเขาถึงผลิตแบบนั้นก็ได้
เห็นด้วยกับ >>803 กูเข้าใจว่าโม่งบนๆ อาจจะอ่านแล้วรู้สึกเค้ากดคนอ่านจริงๆ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ แต่บางทีพวกมึงก็อคติเกิ๊น เค้าอาจจะไม่ได้ตั้งใจกดคนอ่านให้อ่านไม่รู้เรื่องแต่ตัวเค้าเขียนไม่รู้เรื่องเองเฉยๆ ก็ได้ อย่างตัวกูที่ชอบงานสไตล์นี้อยู่แล้วอ่านแล้วก็เฉยๆ พวกมึงอ่านแล้วไม่ชอบไม่เก็ตก็แค่ไม่ใช่ทาร์เก็ตเค้าป่าววะ
>>804 กูคนนึงไม่ได้อยากให้เขาเปลี่ยนหรอก แค่หวังว่าอนาคตเขาจะพัฒนาหรือใส่ใจคนอ่านมากขึ้น เพราะกูเองถ้าพูดในฐานะนข. กูเคยเป็นจริงๆ ตอนยังเบียวๆ ไอ้การจงใจเขียนแบบซับซ้อนๆ ให้คนอ่านอ่านไม่รู้เรื่องแล้วมานั่งพราวด์อะ กูรู้ฟีลลิ่งว่ามันเป็นยังไง แล้วเอาตรงๆ นะ นางไม่มีทางไม่รู้ตัวหรอกว่างานตัวเองซับซ้อนจนบางจุดอ่านไม่รู้เรื่อง นางจงใจเขียนแบบนั้นอยู่แล้ว ดูจากอีโก้นางก็รู้
ถ้านางพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ก็แล้วแต่ รับได้กับการมีคนบอกว่าเบียวหรือมานั่งบ่นแบบพวกกู ก็ทำต่อไป ไม่มีใครไปบังคับนางได้ คิดซะว่ากูเป็นแค่คนนึงที่เสพงานแล้วอยากวิจารณ์เต็มที่ อาจมีอคติปนหน่อยๆ แค่นั้นพอ
กูก็ไม่ชอบสำนวนนักแปลคนนั้น ในกรณีที่ว่าพยายามยัดเยียดสำนวนตัวเองเข้าไปในงานแปลจนเป็นเอกลักษณ์แทนที่จะเป็นการพยายามแปลงานของนักเขียนให้เหลือเค้าเดิมที่สุด แต่สำนวนนี้ก็มีทั้งคนเกลียดเข้าไส้และชอบจริงจังถึงได้มีคนไทยพยายามเขียนสำนวนแบบนั้นเยอะอยู่
ส่วนงานเขียนออริมันเป็นไปได้ทั้ง 1.คนเขียนชอบแบบนี้อยากเขียนแบบนี้ 2.คนเขียนไม่รู้ตัวและยังต้องพัฒนา
กูก็ไม่รู้หรอกว่าจุดที่ไม่ชอบมันคือเรื่องของรสนิยมหรือขาดการพัฒนา คือกูชอบแชร์เฮาส์แต่ไม่ชอบใครสักคนฯ ซึ่งการติในจุดที่อ่านไม่รู้เรื่องแสดงความเห็นในฐานะคนอ่านว่าไม่เข้าใจกูว่ามันก็ดีนะคนเขียนจะได้รู้ตัวและเลือกว่าจะปรับหรือไม่ปรับ แต่การกล่าวถึงคนเขียนว่าแบบนี้อีโก้สูงแน่ๆ ไม่ใส่ใจคนอ่านแน่ๆ อยากให้คนชาบูแน่ๆเป็นคุ้งเป็นแควมันคือการนินทาไม่ใช่การวิจารณ์แล้วอะ สำนวนมันไม่มีถูกผิดหรอกมีแต่ชอบไม่ชอบ บางทีคนอ่านที่ตามเขาก็อาจชอบแบบที่มึงบอกว่าไม่ใส่ใจนี่แหละ กูเคยตามงานนักเขียนคนนึงชนิดที่ออกกี่เล่มซื้อทุกเล่ม จนมีช่วงนึงภาษาเริ่มเปลี่ยนเหมือนพยายามทำให้สำนวนเข้ากับตลาดมากขึ้น ไม่ได้นามธรรมฟุ้งๆแบบเดิม จากนั้นกูก็เลิกตามงานเขาโดยสิ้นเชิง555 เซ็งมากๆ
>>807 ทำใจ จริงๆ มันเพราะนางเคยมีประเด็นอะ กูเลยกล้าฟันธงว่าอีโก้สูง ถ้ามึงย้อนขึ้นไปอ่านดราม่าว่าเมื่อก่อนนาง toxic เบอร์ไหนแล้วมึงจะทราบ กูขอพูดเลยว่าต่อให้มึงจะพยายามแยกตัวคนเขียนออกจากงานขนาดไหน ทัศนคติของคนเขียนมันก็ยังสื่อออกมาในชิ้นงานอยู่ดี เก็ตบ่ คนประเภทที่กล้าเอาลูกค้าร้านตัวเองมาแซะลงทวิต คิดเหรอว่าจะไม่ใช่คนประเภทเดียวกับที่อยากโชว์ภูมิในงานเขียน หรืออยากโชว์ว่าตัวเองเหนือกว่าคนอ่าน น้อยครั้งมากนะที่นข.จะสามารถแยกทัศนคติของตัวเองออกจากงานได้ ส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวกันด้วยซ้ำ
>>529 กุตอบช้าไปมากไหม? ถ้ากุจำชื่อตลค.ไม่ผิดนะ
ลู่เนี่ยนชีหลังจากผ่านการแก้ชะตาอายุสั้นจากเสี่ยวจิ่วแล้วสายตาก็แย่ลงแต่ไม่แย่เท่าเสี่ยวจิ่ว คือยังพอเห็น กุเข้าใจว่าเป็นการบวกกันหารสองของสองคนโดยประมาณ ประกอบกับมองปราณได้ ชีวิตเลยโอเค
ตอนที่เห็นไฝเด็กนี่คือน่าจะเป็นเสี่ยวจิ่วที่กลับมาเกิด แต่มึงไม่ได้ถามจุดนี้ใช่ไหม แค่สงสัยว่าทำไมถึงมองเห็น
>>809 "คนประเภทที่กล้าเอาลูกค้าร้านตัวเองมาแซะลงทวิต คิดหรอว่าจะไม่ใช่คนประเภทเดียวกับที่อยากโชว์ภูมิในงานเขียน" อันนี้กูคิดนะ เพราะสองกรณีนี้มันเป็นคนละเรื่องกันเลยอ่ะ มันไม่มีจุดเชื่อมโยงใดๆนอกจากมึงคิดว่าเขาเป็นคนนิสัยไม่ดี และคนนิสัยไม่ดีก็ต้องทำเรื่องแย่ๆได้หมดทุกเรื่อง ซึ่งกูว่ามันไม่จริงนะ วิจารณ์เป็นเคสๆไปดีกว่ามั้ง จับแพะชนแกะแบบนี้ไม่มีเหตุผลว่ะ
>>811 เอางั้นกะได้ กูก็ขี้เกียจพูดไรต่อแล้วเหมือนกัน กูวิจารณ์ในส่วนของตัวงานเขียนหมดไปนานละ ขอทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าตัวมึงเองคิดแบบนั้น มันก็ดีต่อใจคนเขียน แต่ถ้าคนอื่นจะไม่ได้คิดเหมือนมึง ก็ทำใจซะ อย่าเพิ่งบอกว่าใครจับแพะชนแกะ เวลาคนเราเขียนอะไร มันมักมีลักษณะนิสัยกับทัศนคติของคนๆ นั้นหรือความรู้สึกที่เขาอยากสื่อแฝงอยู่ (อาทิ อยากประชด) บางคนอาจหนักถึงขั้น self-insert (ซึ่งถ้าไม่ใช่มือใหม่/เบียว/หลงตัวเอง ส่วนใหญ่ไม่ทำกันหรอก) อาจจะดูเหมือนด่วนตัดสินคนเขียน แต่ถ้าอนาคตเข็นงานใหม่ออกมา กลิ่นอายกดคนอ่านหายไป กูลองอ่านเสร็จแล้วอาจมองเขาเปลี่ยนไปก็ได้ อย่าซีเรียส
>>811 +1 เห็นดราม่านักวาดfate ถ้ากูเป็นคนในด้อมก็ไม่เผาผีว่ะ แต่มันคนละเรื่อง
เรื่องเม้าลูกค้า กูเคยตามนักเขียนคนนึงเม้าลูกค้าบ่อยๆจนมีคนด่าที่นางเม้า สรุปนางก็ชี้แจงนิ่มๆว่าขอคนในเรื่องมาลงแล้ว ดังนั้นกูว่าคนที่ลงเรื่องงานของตัวเองลงโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าจะโชว์ภูมิเสมอไปว่ะ
>>812 คือถ้ามึงไม่ใช่นักจิตวิทยา และเจ้าตัวเขาไม่ได้ขอ มึงไม่ควรวิจารณ์ "ตัวตน" ของคนอื่นไง เพราะมึงไม่มีทางรู้กับเขาหรอก มึงก็วิจารณ์ตัวงานไปสิ ตอนมึงวิจารณ์ผลงาน กูก็ไม่เห็นจะมีใครไปขัดมึง แต่ลามไปบอกว่านักเขียนจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้แน่ๆ กูรู้กูเคยเห็นกูดูออก อันนี้นินทาละ นิสัยไม่ดีนะมึง
>>816 กูขอแย้งแทน >>812 นิดนึงนะ เพราะกูก็เป็นคนนึงที่รู้สึกว่าในงานเขียน (รวมถึงงานศิลปะทุกประเภทที่ใช้คนสร้าง) มันจำเป็นจะต้องมีตัวตนของคนเขียนอยู่ในนั้น ไม่อย่างนั้นงานจะไม่มีเอเนอร์จี้ ถึงอาจจะหลับหูหลับตาพิมพ์ไปแบบไม่ต้องมีอารมณ์ร่วมได้ ก็อาจทำได้แค่ 1-2 งาน แต่ถ้าเป็นกับทุกงาน เป็นถึง 3 4 5 งาน แบบนี้มันต้องมีส่วนหนึ่งในตัวคนเขียนอยู่ มันเป็นธรรมชาติของการสร้างงานว่ะ แบบนี้กูว่าไม่ต้องเป็นนักจิตวิทยาก็มองออกได้ โดยเฉพาะถ้าอ่านงานมาหลายประเภท หลายแนว โม่งนั้นอาจเป็นคนที่อ่านงานกว้างมากก็ได้ และเขาวิจารณ์ตัวงานไปแล้ว (ร่วมกับโม่งอื่นๆด้านบนโน้น) กูไม่เห็นว่าโม่งนี้ใจแคบนิสัยเสียอะไร ในเมื่อเขาก็บอกอยู่ว่าถ้าอนาคตกลิ่นอายแบบที่เขาไม่ชอบเปลี่ยนไป ก็อาจมองเปลี่ยนไปได้ คนกับงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และกูก็คิดแบบนั้นเช่นกัน / ส่วนเรื่องพฤติกรรมของเขา มันเป็น fact ทีเ่กิดขึ้นนะมึง เราพูดถึงตัวตนของเขาที่เป็นคนที่มีพฤติกรรมแบบนั้นใช่ไหมวะ ไม่ใช่ตัวตนแบบอินเนอร์ / รึกูเข้าใจผิดเอง55
>>816 +1 อย่างที่บอกภาษาเขาเบียวนี่กูก็ยังไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร (จากที่ยกตัวอย่างมานะ กูไม่ได้อ่านงานเขา) คือจะไม่ชอบก็ไม่ผิดนะโม่ง มันเป็นรสนิยมส่วนตัว แต่ส่วนตัวกูก็ชอบภาษาลิเกๆเหมือนกันเลยมองว่ามันเป็นรสนึงของภาษา แต่จะไปบอกว่าเขาเขียนภาษาแบบนี้ดูกดหัวคนอ่าน ไม่ทำให้เข้าใจง่าย เพราะนิสัยส่วนตัวด้วย กูก็ว่ามันเกินไปหน่อยอะ
>>817 >>818 ก็พูดถึงงานเขา การตอบโต้คนของเขาแยกเป็นเรื่องๆไปสิมึง จะเอามาปนกันแล้วสรุปว่า "ฟันธงว่าอีโก้สูง" ได้ไง คือถึงมึงจะรู้สึกแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นแบบนั้นใช่ปะล่ะ ในงานเขียนมันมีส่วนหนึ่งของตัวคนเขียนอยู่ด้วยน่ะใช่ แต่มึงจะไปหลับหูหลับตาวิจารณ์โดยไม่มีความรู้ใดๆไม่ได้นะ ไอ้ที่บอกว่ามองออกๆ แน่ใจแค่ไหนว่ามองออก หรือมองออกแบบที่บางคนชอบพูดว่า "ผู้หญิงใสๆแบบนี้แรดเงียบทั้งนั้นแหละ กูมองออก" รึเปล่า มึงจะรู้ได้ไงว่าไม่ได้คิดไปเอง จะนิสัยไม่ดีขี้นินทาอะไรก็เอาแต่พองามเหอะมึง ไม่ใช่อยู่ในโม่ง สักจะพูดอะไรก็พูด ให้เกียรติตัวเองบ้าง
>>820 เอ่อ... กู 812 กูอยากบอกว่ากูขี้เกียจโต้แล้วจริงๆ แต่มึงจะมาพยายามกดคห.ของกูให้มันไม่มีค่า ส่วนตัวกูก็ไม่โอเคนะ กูยังไม่ได้บอกสักคำเลยว่าที่มึงบอกมามันไม่ถูก กูก็แค่ลองแลกเปลี่ยนมุมมองความเห็น มึงด่ากูว่าอย่าด่วนตัดสินคนเขียน กูก็อยากบอกว่ามึงเองก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินคนวิจารณ์ คนเรามันมองไม่เหมือนกัน ประสบการณ์ต่างกัน เวลาวิจารณ์ก็อาจเจาะลึกคนละมุม แค่นี้
อ้อ ละคนเขียนอีโก้สูงหลงตัวเองอะ ในวงการวรรณกรรมเขามีมาเยอะแล้ว และก็มีคนวิจารณ์ถึงตัวคนเขียนมาเยอะด้วย ถึงขั้นมีบันทึกไว้เป็น record ว่าคนเขียนบางคนเคยโดนวิจารณ์เรื่องทัศนคติว่ายังไงบ้าง มุมมองที่นักอ่านกับคนในวงการมีต่อเขามักออกมาในรูปแบบไหน มึงไปหาอ่านดูก็ได้
และขอบคุณ >>817 จริงๆ ที่ช่วยดีเฟนด์กู ถ้านับแค่กูคนเดียวก็พูดถึงตัวตนในเชิงพฤติกรรมกับทัศนคติที่มีต่อคนอ่านน่ะ
ยังไงก็ขอโทษทีถ้าพูดจาเหมือนกำลังโจมตีคนเขียนละกันนะ เพื่อนโม่ง
>>824 เชี่ย มีคนพูดถึงเดอะลอร์ดในห้องนี้ กูดีจัย อยากบอกว่าแม่งโดนวิจารณ์มาตั้งแต่ต้นฉบับภาษาแม่ว่าเขียนโคตรยืด กูอ่านแต่ฉบับ eng มากูก็ว่างั้น แต่มันดันเป็นการเขียนแบบยืดๆ ที่กูชอบเว้ย 55555 พอไปอ่านบทสัมภาษณ์แล้วโทลคีนบอกว่าก็จงใจเขียนแบบนั้นแหละ กำลังทดลองเขียนงานออกมาให้ละเอียดเน้นดีเทลที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่ กูนี่ตบเข่าฉาดเลย 555555
กูเข้าใจนะว่างานเขียนกับตัวคนเขียนควรมองแยกกัน แต่ปัญหาคือพอคนเขียนมีพื้นที่สื่อแล้วแสดงความเป็นตัวตนออกมาบ่อยๆ (เช่นทวีตแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา) คนอ่านจะรับเอาตัวตนนั้นมาเก็บไว้ในใจจนมองเห็นสิ่งเหล่านั้นผ่านงานเขียนของเขาก็เป็นเรื่องปกติปะวะ ถึงยังไงงานเขียนมันก็เป็นสิ่งที่ออกมาจากสมองก้อนเดียวกันกับที่ทวีตอะไรบ้งๆเหล่านั้นอะ มันเป็นสิ่งที่สะท้อนแนวคิด/มุมมองของคนเขียนอยู่แล้ว ถ้าเป็นนักเขียนที่ไม่แสดงตัวผ่านสื่อใดๆเลย เขียนงานออกมาอย่างเดียวเน้นๆ แล้วคนอ่านไปตัดสินว่าคนเขียนต้องอีโก้สูงแน่ๆเลย อันนี้กูว่าทะแม่งๆ แต่อย่างคุณ K งี้เค้าฉอดโน่นนี่นั่นบ่อยด้วยซ้ำ จะมีคนอ่านงานเค้าแล้วรู้สึกอึดอัดเพราะนึกถึงสิ่งที่เค้านำเสนอนอกงานเขียน กูว่าก็ไม่แปลกนะ
ส่วนเรื่องนินทาลูกค้าที่ร้าน ตรงนี้กูว่าต้องวิจารณ์ในฐานะคนทำร้านอาหารว่ะ มันคนละเรื่องกับงานเขียน
โม่งที่มาเปิดประเด็นนิยายคุณ k นั่งกุมขมับแล้วปะ ถามถึงนิยายหน่อยเดียว คนเขียนโดนรุมลากยาวสามวัน 555555555 แต่กูว่าในทวิตเตอร์ซีนบ้งเขาเยอะจริง คนแอบเหม็นลึกๆน่าจะเยอะ เคยเห็นทีมฉอดแซะๆเหมือนเหม็นมานานด้วย (สมัยนางทำแท็กอ่านงานไม่แบ่งเพศนั่นแหละ)
>>822 กูก็คือ >>817 แสดงว่าเราเข้าใจเหมือนกัน กูหมายถึงพฤติกรรมที่แสดงทัศนคตินั่นแหละ แต่กูก็ขอโทษโม่งอื่นเช่นกันถ้า raise ประเด็นจนดูโจมตี นข คือการเขียนของเขาไม่มีปัญหาในเชิงภาษาสำหรับกู ในแบบเทคนิคความเนี้ยบนะ แต่ความรู้สึกก็ห้ามยากว่ะ ไม่มีตรงไหนเลยที่กูบอกเขาเขียนไม่ดี มันเป็นแค่เรื่องความรู้สึก ซึ่งคนอื่นก็อาจไม่รู้สึกแบบกู และกูจะพยายามไม่เอานิสัยอื่นๆ ของเขามาปนกับงานละกัน (กูขอข้ามประเด็นที่ >>820 ว่ามองออกว่าผู้หญิงใสๆ แรดเงียบนั่นนะ กูว่ามันนอกประเด็นไปนิด) และใช่ เรื่องร้านของเขาด้วย แต่ทำยังไงกูก็แยกคนเขียนกับเรื่องไม่ได้ว่ะ5555 ซอรี่อีกที
>>822 กูขอยืนยันว่ากูไม่ได้พยายามกดให้ความเห็นมึงดูไม่มีค่าเลย ถ้าความเห็นมึงมีเหตุผลรองรับ อีกกี่ร้อยกี่พันคอมเมนต์ของกูก็ทำให้มัน invalid ไม่ได้นะคะ และการวิจารณ์ตัวตนของนักเขียนเนี่ย ถ้ามันออกมาเป็นบทความ เป็นสกู๊ป กูเห็นเขาใช้แต่คำว่า อาจจะ สันนิษฐานว่า ทั้งนั้นแหละ กูเข้าใจว่ามึงแค่วิจารณ์ และทุกคนก็มีสิทธิ์วิจารณ์ แต่มึงควรยกตัวอย่างงานเขาถ้าจะวิจารณ์งานไงคะ ไม่ใช่ยกตัวอย่างนิสัยเขาเพื่อมาวิจารณ์งานเขียนเขา มันคนละเรื่องกัน
>>830 กูยกตัวอย่างจ้า ไม่ว่าจะ "เพราะนิสัยเขาเป็นแบบนี้ งานเขียนเขาเลยต้องมีเจตนาแบบนี้แน่ๆ ดูออก" หรือ "ผู้หญิงใสๆ ต้องแรดเงียบแน่ๆ ดูออก" ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่สิ่งที่คนนอกจะดูออกทั้งนั้นแหละ มันเลยเอามาอ้างไม่ได้
กูเข้าใจถ้าคนอ่านจะไม่ชอบนักเขียนจนส่งผลกับการเสพงานเขานะ แต่เวลาวิจารณ์งานใครมันต้องมีลิมิตปะ หยุดแค่ที่งาน มันไม่ควรเลยเถิดไปจนเหมือนกำลังว่าร้ายนักเขียนอะ ถ้าจะว่าวิจารณ์นักเขียนก็เปิดประเด็นมาอีกเรื่องเลย มันจะได้เห็นชัดๆ
>>831 ไม่ๆ อันนี้กูว่าไม่ใช่ กรณีแอมเบอร์นี่คนเขาแบนเพราะพฤติกรรม อันนี้ชัดนะว่าประเด็นคือเรื่องส่วนตัว ไม่อยากสนับสนุนคนไม่ดี แต่กรณีนี้มันเหมือนจะบอกว่าเพราะแอมเบอร์เล่น เมร่าเลยต้องแรดแน่ๆ ซึ่งมันไม่ใช่ไง ถ้าไม่ชอบนักเขียนคนไหนเพราะพฤติกรรมเขา จะไม่สนับสนุนก็ไม่แปลก แต่ไปบอกว่าเพราะนิสัยเขาไม่ดี งานเขาเลยไม่ดีไปด้วย อันนี้แปลก
>>834 +1 แล้วคนก็ไม่ได้ด่าเรื่องฝีมือการแสดงของนางเองด้วยปะวะ หรือมึงจะไปด่าว่าหนังเรื่องที่แอมเบอร์แสดงแม่งต้องแย่เหมือนแอมเบอร์แน่ๆเหรอ สิ่งที่มึงต้องแยกคือพฤติกรรมและฝีมือว่ะ
จริงๆไม่ต้องดูที่ไหนไกล เจเคกับป้าทมยันตี สาปส่งคนเขียนแต่ชอบผลงานงี้อะ ซึ่งมึงก็สามารถเลือกที่จะไม่จ่ายตัง/ไม่อ่าน เพราะไม่อยากสนับสนุน แต่ไปด่าว่างานแย่เลยมันก็ไม่ใช่ปะวะ
>>837 เอิบ กูเก็ทพอยท์มึงมากๆๆๆนะที่อยากให้มองตัวงานแยกกับคนเขียน แต่การพยายามตะแบงว่าการแสดงกับงานเขียนเหมือนกันนี่ไปพักค่ะ การแสดงต่อให้นักแสดงเอาตัวตนเข้าไปปะปน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดขึ้นมาเองหมด ถ้านักแสดงเขียนบทเองล้วนๆมันก็อีกเรื่อง แต่งานเขียนมันเป็นสิ่งที่ตัวผู้เขียนกลั่นจากมันสมองล้วนๆไง มันแสดงตัวตนกับทัศนคติได้มากกว่างานแสดงอยู่แล้ว ถ้ามึงจะเทียบกับวงการหนัง ยกตัวอย่างคนเขียนบทหรือผู้กำกับยังดีซะกว่า
>>835 อ่ะ กูขยายความจาก >>837 นะ
ทั้งสามบทนั้นเป็นที่ยอมรับในหมู่นักวิจารณ์ว่าโดดเด่นมากเรื่องการดีไซน์ตัวละคร โดยการดีไซน์นั้นมาจากตัวนักแสดงเอง และตามทฤษฎีการแสดงแล้ว การแสดงย่อมมาจากประสบการณ์ของนักแสดง ไม่ว่าจะเคยประสบมากับตัว เคยเห็นมา เคยอ่านมา ฯลฯ แล้วเอมาตีความ ฉะนั้น --> ตัวละครที่ออกมา ย่อมมีส่วนหนึ่งของนักแสดงติดมาด้วย ไม่ต่างจากงานเขียน
แต่ส่วนที่ติดมาด้วยนั่น จะมากหรือน้อย จะเป็นนิสัยของนักแสดงจริงๆรึเปล่า ชาวเราที่ไม่ได้เป็นนักจิตวิทยาและไม่ได้เป็นคนใกล้ชิด ไม่มีทางรู้ได้เลยจ้า กูถึงบอกไงว่า "อย่าโยง" มันคนละเรื่องกัน
ตัวละครที่ออกมา ย่อมมีส่วนหนึ่งของนักแสดงติดมาด้วย ไม่ต่างจากงานเขียน >>> ตรงนี้แหละที่กูบอกว่ามึงพักก่อนจ้า เอาง่ายๆตัวละครมันปรากฏเป็นรูปร่าง เป็น visual ต่อให้มีบทพูดที่นักแสดง improvise เอง มันก็มีทีมงาน มีผู้กำกับคอยกลั่นกรองอีกชั้น แต่งานเขียนมันเป็นตัวอักษรที่แสดง "ความคิด" และ "ทัศนคติ" ออกมาโดยตรงไง มัน ไม่ เหมือน กัน
>>841 กูหมายความว่า
1. งานแสดงมีตัวตนของนักแสดงติดมาด้วย
2. งานเขียนมีตัวตนของนักเขียนติดมาด้วย
3. ผลงานของสองอาชีพนี้มีตัวตนของเจ้าของผลงานติดมาด้วยเหมือนกัน --> ซึ่งกูสรุปตรงนี้ เพราะกูต้องการแย้งคำว่า "การแสดงมึงต้องถอดตัวตนของตัวเองทิ้ง" ซึ่งมัน ไม่ จริง เสมอ ไป
ถ้ามึงจะแย้ง มึงต้องแย้งที่ข้ออ้างของกูว่า "งานแสดงไม่มีตัวตนของนักแสดงติดมาเลย" ต่างหาก
>>842 กูขำบารามอสแปปนึง คนนี้หรือค่ายสถพ คือตัวละเมิดตาใสเลย55
เอ้อ....จริงๆกูซึ่งออกตัวไปข้างบนตรง >>830 ว่ากูแยกตัวคนเขียนจากงานไม่ได้ก็ยังรู้สึกแบบนั้น แต่หลายๆความเห็นก็พูดถูก กูเลยเบรคแค่พอ ถ้าจะเทียบคนนี้กับบารามอส พูดให้ยุติธรรมหน่อยก็ไม่ได้ เพราะ k เขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่ได้ละเมิด และไม่ได้โกงเงินใครเหมือน บนฟ และกูว่าโม่งที่กูดีเฟนด์ไปเมื่อเช้าเขาก็เก็ตพ้อยทุกคนนะ แต่ยอมรับว่ากูก็วิจารณ์อย่างมีอคติ เพราะงานเขาสร้างความรู้สึก disturb/uncomfortable สำหรับกู ในส่วนนี้กูเลย...ถอยดีกว่า555 ลางเนื้อชอบลางยา ตัวเขาอาจจะนิสัยดีมากก็ได้ เอาเป็นว่ากูไม่วิจารณ์ตัวเขาต่อนะ ขอไม่บังอาจแสดงทัศนะวิเคราะห์ใครละกัน คิดว่าความเห็นกูเป็นแค่นักอ่านคนนึงที่ไม่ชอบสไตล์นั้นก็ได้
>>845 ซบมึงร้องไห้ ฮือออออ จริงๆป้าทมก็เป็นคนที่โดนหยิบยกมาฉอดบ่อยๆอยู่นะ ทั้งเรื่องโรแมนติไซส์ทหารญี่ปุ่น ข่มขืนตั่งต่าง เวลากูเห็นคนฉอดก็ได้แต่ยิ้มแห้ง เพราะแนวคิดหลายๆอย่างในงานป้าก็ไม่ไหวจริงๆ แต่กูว่าในนิยายป้ามันยังมีความงดงามทางภาษาหลายอย่างแบบที่หาจากนักเขียนคนอื่นไม่ได้อะ
>>844 >>845 เนี่ยย กูเพิ่งบอกว่าจะไม่โยงกับตัว นข แต่ป้าทมก็ดันเป็นกรณีที่ชัดมาก วลีเอออวยชื่นชมยกย่องที่หลงๆเข้าไปในงานมันก็มีให้เห็น แต่ถ้าจะดีเฟนด์ ก็อาจเพราะแกเขียนเรื่องจักรๆวงศ์ๆเยอะ จะไม่มีก็ไม่ได้555 แต่เพราะแบบนี้กูถึงได้ไม่เคยแยก นข ออกจากตัวงานได้เลย / อีกเคสคือ miniki... ที่ว่อน ทล นิยายจีนโบราณกูมาก ซึ่งกูก็อ่านไม่ลงเช่นกัน
>>850 กูเข้าใจความรู้สึกมึงนะ พอเหม็นนักเขียนไปแล้วมันก็ยากที่จะทำใจเสพงานของเขาได้โดยมองแยกกันให้เด็ดขาดแหละ ทุกวันนี้กูก็อ่านงานลุงวินทร์ไม่ได้ละ 5555555 ป้าทมเป็นข้อยกเว้นของกูจริงๆเพราะกูรักการใช้ภาษาของป้ามาก แต่ใครจะฉอดจะเหม็นขี้หน้าป้าเพราะพฤติกรรมป้า กูไม่เคยปกป้องป้าเลย
>>849 55555555 เชื่อกูเถอะ กูห่างจากคำว่าร้อนวิชามากเลย ถ้าวิชาเป็นกับข้าว แม่งก็คงชืดแข็งเป็นฟอสซิลแล้ว กูไม่ได้เอกปรัชญา แถมไอ้รีซันนิ่งนี่กูก็ไม่ได้เอ กูแค่เถียงเพราะกูไม่เห็นด้วยเฉยๆ อย่างที่ข้างบนบอกอ่ะ นี่มันโม่งไม่ใช่เหรอ กูควรได้แย้งสิ่งที่กูคิดว่ามันไม่ถูกต้องโดยที่ไม่ต้องสนหัวโขนอะไร
กูไม่ชอบตรงมีการชี้ว่าสำนวนที่บรรยายซับซ้อนเพื่อตอบสนองอีโก้ ไม่ใส่ใจคนอ่าน ซึ่งมันไม่ใช่อะ เหมือนตีตราคนที่เขียนสำนวนแนวนี้ ทั้งที่เขาอาจเขียนเพราะชอบก็ได้
เออ แล้ว >>853 ไกด์ไลน์โม่ง
สนใจในเนื้อหามากกว่าผู้โพส
เว็บไซต์ฯ ไม่ให้ลงชื่อเพื่อให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่โพสมากกว่าผู้โพส ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องตามหาตัวตนว่าผู้โพสข้อความหนึ่งๆ นั้นเป็นใคร ไม่จำกัดว่าเป็นตัวตนในเว็บไซต์ฯ หรือนอกเว็บไซต์ฯ เลือกที่จะโต้ตอบกับสิ่งที่โพสมากกว่าว่าใครเป็นผู้โพส
👎 “นี่ใช่นาย ช หรือเปล่า ยังอคติเหมือนเดิมเลยนะ”
👍 “ความเห็นนี้ดูอคติจัง
คุยกันมาตั้งนานอย่ามาชี้ใครเป็นใครเลย ไม่ชอบความเห็นก็ชี้ความบ้งในความเห็นนั้นไปเหอะ
กู 812 คนเดิม สารภาพว่าเป็นเด็กเอกปรัชญา ตอนนี้กำลังนั่งเหม่อ... เก็ตพ้อยต์ของพวกมึงทุกคนนะ ดีใจมากที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันเยอะขนาดนี้ ได้เห็นมุมมองที่แตกต่างจนเริ่มนั่งคิดว่า เอ๊ะ หรือกูเองวะที่เป็นฝ่ายบ้ง แต่ก็นั่นแหละ กูไม่อยากแย้งแล้ว กลัวจะเลยเถิดกลายเป็นการโจมตีมุมมองของพวกมึงอย่างไร้เหตุผล 55555
ขอบคุณที่ออกมายืนยันใน >>833 ว่าไม่ได้พยายาม invalidate ความเห็นกู ถือว่าจบปิ๊ง 555
วันหลังพวกมึงไปนัดดีเบทกันที่โถงตึกมหาจักรก็ได้นะ เด็กอักษรไปครึ่งมู้ 555555555555
พวกมึงหมายถึงคนที่ชื่อเคไอเอ (ขอเรียกแบบนี้นะ 555) ที่มีร้านอาหารในทวิตใช่ไหม กูมาช้าไปมั้ยนะ กูไม่เคยอ่านงานอะไรเขาเลยนะ เคยตามทวิตอยู่แค่ช่วงนึงเท่านั้นด้วย อันนี้ความรู้สึกกูคือรู้สึกเหมือนว่าไงดี กูก็รู้สึกว่ากลิ่นอายความฉันเหนือกว่ามันออกมาง่ะ ไท่ได้ด่าหรืออะไร แค่บอกความรู้สึกว่ารู้สึกแบบนี้เหมือนกันเฉยๆ เพราะงี้กูเลยกดเลิกติดตามเขาไป
สรุปพวกมึงเด็กอักษรกันเหรอออ กูทีมาสายอื่นอ่านมึงดีเบทกันแล้วก่งก๊งเลย 555 (แต่อ่านสนุกดีนะ เออรู้สึกชอบบรรยากาศโม่งแบบนี้มากกว่าการด่ากัน ไรงี้)
บ่นๆ ช่วงนั้กูไม่ไหวกับทวิตมาก เข้าไปแล้วบรรยากาศเสียมากๆ ตอนนี้กลายเป็นว่าโม่งเป็นที่พักใจของกูซะงั้นอะคนในนี้ยังมีเหตุผลมากกว่าคนบนบก 555
>>867 กูสายอื่นเช่นกัน ไม่ใช่เด็กอักษร ถถถ กอดคอเป็นเพื่อนมึงนะ
กูก็ชอบบรรยากาศวันนี้ ถึงบางอย่างกูพูดไม่ถูกหู ฟังของใครไม่เห็นด้วย แต่ก็ถกเถียงกันได้ แต่นี่มู้หนังสือ เรามาหาประเด็นมู้หนังสือใหม่กันเถอะว่ะ มีงานไหนที่ตามกันอยู่หรืองานอะไรที่น่าสนใจและกำลังจะออก / พรีอยู่ไหม
>>869 เห้ยยย กูลืมเรื่องนี้จริงๆ ตอนเห็นข่าวสตัํนไปนานมากว่า....อะไรนะ เรื่องไหนนะ55555 ซอรี่ด้วย มนว คือมันนานเกินไป
ของกูรอแปลจีนล็อตงานหนังสือ กูว่าอีกสักเดือนสองเดือนคงทยอยลงหนังสือใหม่กันแล้ว กับจันทรามายาของ มด ที่กูหน้ามืดกดไป555555
กูไม่ค่อยอ่านแฟนตาซีเลยน่ะสิ ตอนนี้วนเวียนกับวายจีนเป็นหลัก (มันหาง่ายด้วยแหละ) แต่ถ้าแฟนตาซีอยากอ่านทางฝรั่งไปเลย ไม่อยากได้จีนหรือเทพเซียนเพิ่มแล้ว กูเกาะรอคำตอบกับมึงนะ
สนใจสายฮาเร็มมั้ยวะ 555 แฟนตาซีกูเน้นอ่านแต่ฮาเร็มง่ะ
The 3 Crowns สนุกปะ
Ky อ่านประเด็นวายที่เขาฉอดในทวิตแล้วก็อยากรู้ว่ามีเรื่องไหนscatบ้างมั้ยวะ แบบจิ้มๆอยู่แล้วอึติดออกมางี้ หรือบรรยายพวกสวนล้าง อยากอ่านขึ้นมา 555555
>>890 สวนล้างกูเคยเห็นนะ อย่างน้อยๆก็ the wrong wayเรื่องนึงละ แต่scatนี่....tagนี้คนไม่ค่อยเยอะอะมึง พวกwaterplayกูว่ายังเห็นเยอะกว่าเยอะ เออใช่ กูนึกออกอันนึง ลักพาที่เคยมีคนแปลมีscatว่ะ แต่เรื่องคนแปลเค้าลบไปแล้ว ลองไปหา abduction ในkindleเอาละกัน เค้าแปลอันนั้นมา
กูชอบ kink สวนล้างมากแต่กินก็ไม่ไหวเหมือนกันว่ะ
มีเรื่องคลั่งอ่ะ พอ.เป็นหมอ หลงรัก นอ.นักกล้าม มาสิบปี รักตั้งแต่สมัยเรียน นอ. อดีตเยดุ เยโหด เป็นโค้ชฟิตเนส
พอ.ไปลักตัวนอ.มาขังไว้ที่บ้าน สวนก้นให้นอ. นอ.ขี้แตกคาเตียง พอ.ต้องตามเก็บ
กูชอบเรื่องนี้มาก ถ้าใครไหว กูแนะนำ พอ.จับนอ.มาทรมาน ใส่ของเล่น ค่อยๆขยายก้นให้ เพราะเค พอ.ที่เป็นหมอเนี่ยใหญ่มากกกก ต้องค่อยขยายช่องทาง สายตบตี ต่อย โหดชิบหาย แบบกูไม่เคยอ่านเรื่องไหนโหดเท่านี้มาก่อน ครึ่งเรื่องแรก นอ.แม่งสุดจริง ปากหมาชิบหาย กล้ามแน่นๆ
แต่ครึ่งหลังนี่ก็หวานแบบ...ยังไงดีอ่ะ หวานน่ารักๆ หวานแบบแมนๆ เฉลยปมว่ากันไป เล่มเดียวจบ
>>900 เรื่องนี้กูอ่านน แต่แม่งกูไม่ไหวว่ะ ไอ้เรื่องขี้แตกยังพอทำเนา กูไม่ไหวฉากที่ใส่รัดดุ้นนายเอกไว้แล้วกระตุ้นข้ามวันจนดุ้นขยายไม่ได้ปล่อย ที่รัดบาดเนื้อตรงนั้นจนเลือดคั่งเลือดไหลอะ โอ้ยยยย อิพระเอกโรคจิตเหี้ยๆ ถ้าจำไม่ผิดคือทรมานจนนายเอกเป็นริดสีดวงด้วยปะวะ กูเข้าไม่ถึงจริงๆ
แต่อีกเรื่องที่คนนี้เขียน ชื่อเรื่อง หลง มั้ง คือดีมากๆเขียนประเด็นปมนิสัยแปลกๆของพระเอกออกมาโอเคมาก กูอ่านแล้วขำตามบ้างเขินตามบ้าง มันน่ารักเลยแหละ คนละโทนเรื่องจนต้องพลิกดูชื่อคนเขียนหลายรอบ ฉากเอนซีก็ทั่วไป ขยี้ตาแรง อิเรื่องคลั่งนี่จัดมาสุดฤทธิ์สุดเดชมาก
พวกมึงคุยอะไรก๊านนนน ดีนะไม่หลงเข้ามาอ่านตอนกินข้าว
>>902 แรง แถมวางขายหน้าร้านด้วยนะ รอดตาสายฉอดมาหลายปีเลย แรงยิ่งกว่านิยายที่โดนดราม่ากันอีก
Kink ประหลาดๆ นี่ไปคุ้ย ao3 จะเปิดโลกมาก พอๆกะนกกระจอกเทศ อูฐ ป๊อกกี้ มีเรื่องนึงพอ.ให้นอ.เอาไข่ต้มไปยัดไว้ตรงนั้นเป็นอาหารเสริม พอพอ.หิว ก็ให้เบ่งออกมา บอกว่าร้อนกะลังดีและอร่อย กุนี่ เอิ่ม...
เรื่องร่างลวงตน คนลวงตา สนุกปะเห็นคนถามในกลุ่มพอไปอ่านรีวิวมีน้อยมาก
ใครเคยอ่านเหตุใดภรรยาข้าฯ ใน รอร บ้าง เห็นจะรวมเล่มกับ ดฟ (ค่ายนี้เหมือนจะกวาดแต่พวกล้านวิว) เรื่องมันคุ้มเปย์ไหม กูงงกับพวกเรื่องชื่อมีสามี ภรรยา ไม่แน่ใจใช่เรื่องเดียวกับที่เคยอ่านมั้ย ถถถถ
รีวิวเรื่องเมื่อไรจะเลิกเป็นส-ลิ่ม แปะตรงนี้ใช่มะะ
กุว่าเมื่อไรจะเลิกเป็นส-ลิ่มมันตลค.แบนมากกกก แบบพระเอกไม่ได้เป็นส-ลิ่มด้วยซ้ำ และที่นายเอกพูดก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดพอ.เลย พอ.แค่โดนจูงจมูก รับสารจากไหนก็เฮไปทางนั้น ส่วนนอ.คือแบนในแบน ฉอดอย่างเดียว การดำเนินเนื้อเรื่องไม่ค่อยสมูทเท่าไร กุจัดให้อยู่ในประเภทถ้าไม่มีไรอ่านก็อ่านได้ละกัน
>>916 ชีวิตจริงคงจะยากที่จะมีสายหมอมาชอบคนแบบนายเอกนะ ลงเวรแล้วอยากจะพักผ่อน แม่งมาฉอดๆเรื่องการเมืองใส่ ปล.จริงๆคณะแพทย์เนี่ยเกย์คิงหรือเกย์รุกหายากมากกกก ทำไมชอบแต่งขายฝันกัน ทั้งหมออินเทิร์น เรสิเดนท์ สตาฟ ถ้าเป็นเกย์98%มักจะเป็นรับหรือออกสาว เวลาอ่านแนวหมอ หล่อ ผัว กุเลยแบบ 555555 ไม่ค่อยอิน คณะอื่นคนหล่อๆเท่ๆก็มีไม่ค่อยนิยมแต่ง
กูเห็นกุหลาบประกาศ lc เรื่อง S.C.I. เรื่องนี้ไม่ใช่เคยมีสนพ.อื่นประกาศ lc แล้วเหรอวะหรือกูจำผิด?
แล้วเรื่องนี่มันออกแนว fic au เปล่าวะ กูสังหรณ์ว่าจะชิปสลับโพกับเขาแล้วอ่านไม่รอด (กูเรือแมวหนูแต่เหมือนเคยมีคนบอกมันเรือหนูแมว)
ขอkyหน่อย เรื่องคุณลุงเพื่อนคนไหนซื้อบ้างบ็อกหรือปกติ คือตอนแรกอยากได้บ็อกสายเก็บบ็อกแต่เห็นราคากับจำนวนหน้าก็กลับมาคิดอีกที 710บาท(รวมส่ง) 500หน้าเองถ้าบ็อก
เครือเดียวกันแต่แรกนู้นนนตั้งแต่มารี้ดละอะมึง แต่แยกหัว ส่วนจะแยกกองด้วยมั้ยนี่ไม่รู้นะ
สหาย มีใครเคยอ่านมังงะวายเรื่องที่พระเอกเป็นช่างสักแล้วนายเอกเป็นพนักงานบริษัทไหม กูจำไม่ได้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่นายเอกถอดเสื้อแล้วพระเอกก็คิดในใจว่าเป็นแผนหลังที่ขาวสวยมาก ใครเคยอ่านบอกทีว่าชื่อเรื่องอะไร อยากกลับไปอ่านแต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ TvT
Ky ขอแนววงการบันเทิงหน่อย ถ้าเป็นพวกนักแสดงจะดีมาก แต่อย่างอื่นก็โอเค เรื่องที่เคยอ่านไปแล้วมีคู่จิ้นพลิกล็อคกับtrue star
KY กกลังอ่านวดน.เล่มสอง ขอถามหน่อย คู่รองอีกคู่ที่ไม่ใช่คู่ลูกพระนายนี่คู่ไหนอะ ขอชื่อทีจะได้โฟกัสถูกคน ชื่อเกาจำยากง่ะ
>>940 ยังออกไม่จบ เหลืออีก 3 เล่ม สนพว่าจะเปิดพรีพร้อมกัน 3 เล่มทีเดียวช่วงเดือน 7-8 มั้ง
ส่วนเนื้อเรื่องเป็นยังไงอันนี้ตอบยากมาก กูซื้อมาดองยังไม่ได้แกะซีลเลย 55555555 คิดว่าน่าจะแนวเดียวกับซูเปอร์โมเดลนะ แต่เท่าที่อ่านตัวอย่างกูชอบพระเอก ตลกดี แบบชอบยกแม่เอามาเป็นข้ออ้างเวลามาหานายเอก หรือเวลาทำอะไรให้ 55555555555555555
Ky มึงไปเจอมาเรื่องสวรรค์ประทานพรอะ https://www.picz.in.th/image/screenshot-20200623-161132.5YF4H1
เวีนด เกาประกศจะพิมพ์แล้ว คงน่าจะไม่รอฉบัยรีไรต์อะ
แล้วงี้ถ้าพิมพ์แล้ว ละแม่ออกฉบับรีไรท์ตามหลังมาจะทำไงอะ ยากละ
ตอนปรมจ.ถึงบ่นบ่อยๆว่าไม่ต้องรีบ หนังสือพิมพ์ครั้งนึงยากแปลใหม่อีกรอบ ช้าๆขอมีคุณภาพมากสุดก็มีพวกเร่งให้ออกเร็วๆกันจังสุดท้ายเป็นไงล่ะ สนพ.สุดยอดออกเร็วตามใจ กูก่ด
Ky เพิ่งเห็น รัชศกเฉิงฮว่าฯในเว็บแจ่มลดราคาหนักมาก ใครไม่เคยอ่านลองไปตำดูสักเล่มสองเล่มได้เด้อ แล้วมาเป็นทาสรักวังกงกงด้วยกัน T///T
พูดถึงรีไรต์แล้วกูขอย้อนรอยไปหาเต้ามู่(กูอ่านเป็นโชเน็นไอดังนั้นกูพูดมู้นี้แหละ) หนานไพ่ได้โปรดรีไรต์ให้เสร็จสักทีเหอะ;__;
เทียนกวานนี่กูตั้งมาตรฐานต่ำมาก ขอแค่ไม่พลาดเหมือนสนพ.เวียดนามก็พอ
แนะนำนิยายจีนในเว็บให้หน่อยยย จะเสินเจิ้นหรือแปลก็ได้
>>961 ขอเห็นต่าง (อันนี้จะไม่คุยประเด็นแม่โม่หรือแม่คนเดียวนะ) คืออันนี้ถ้ามันพลาดก็พลาดเพราะนักเขียนจะรีไรท์อะแล้วรีไม่ยอมจบแต่ก็ขายลิขสิทธิ์ อันนี้หลายคนก็แอบเป็น
เหมือนมันไม่เกี่ยวกับเร่งไม่เร่งให้ออกอย่างปรมจ.เลยว่ะ ซบก็ไม่ได้แปลพลาด
นึกถึงเต้ามู่ประมุขบอกรีไรท์แปปเผลอแปปเดียวกูเรียนจบทำงานไปไหนต่อไหนละยังไม่ได้อ่านเลย
ทำไมช่วงนี้ มด. ดูออกโปรของแถมมาแปลกๆวะ กะปริบกะปรอยชอบกล ล่าสุดเพิ่มของแถมบ๊อกซ์2 เรื่องที่พรีเดือนนี้อีก (ไม่รู้เพิ่มมาลดกระแสด่าว่าบ๊อกซ์แพง หรือยอดบ๊อกซ์ไม่ปังหว่า) อีกหน่อยคงกะจะเบนสายมาขายพรีเมี่ยมกะเค้าเต็มตัว
กูไม่เคยอ่านพวกนิยายจีนรีไรท์เลยอะ เวลารีไรท์นี่เค้าแก้ไขกันเยอะปะวะ คือปรับแก้สำนวนหรือมีแก้จุดสำคัญๆของเนื้อเรื่องด้วย?
มึงky มดประกาศเรื่องใหม่เคะลุงว่ะพระเอกยันอีเหี้ย ดูลุงของจริงกูขอปัดอีเรื่องคุณลุงที่เป็นลุงปลอมทิ้งแปป
Ky จส กับ อวว มีโปรลด20% 60% เพื่อนโม่งมีเรื่องไหนแนะนำบ้างป่าวจะไปสอย
ผู้กล้าดมดาวกับน้องเมริทเปิดพรีแล้ววววว
แพงไปว่ะ ช่วงนี้เงินไม่คล่องขอเซฟตังสำหรับงานหนังสือก่อน หลายเรื่องที่สนพ.อดเปิดตัวช่วงงานมีนาน่าจะเปิดตัวงานที่จะถึงเยอะ
ขอปิดๆ ระยะห่างจากมู้ถึงหิ้ง = 8 มู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.