Fanboi Channel

พันธ์สาวฟุนักเม้าท์ ยกที่ 68

Last posted

Total of 1000 posts

879 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>877 (มึงๆ คนที่มึงกำลังโจมตีอยู่เขาสนับสนุนmpregอ่ะ........ สรุปมึงจะตีคนสนับสนุนหรือมึงจะยังไง กุงง)​

880 Nameless Fanboi Posted ID:ofdc.k3xQ8

>>878 งั้นกูถามย้อนกลับบ้างว่าทุกคนควรจะมีอิสระในการมีลูกหรือไม่มีแล้วคนอื่นไปเสือกอะไรกับคนเขียนที่เขาอยากเขียนให้ผู้ชายท้องได้มีลูกได้เองวะ ที่ควรฉอดมันคือพล็อตจำพวกจำเลยรัก มีลูกเลยต้องรับผิดชอบ มีลูกเลยรักกันไรงี้ปะ มาเสือกอะไรกับหัวข้อใหญ่ๆอย่าง mpreg ซึ่งคำจำกัดความแม่งก็แค่สั้นๆว่าผู้ขายท้องได้วะ ซึ่งอินิยายพล็อตส่งเสริมแนวคิดครอบครัวสมบูรณ์มันก็มีทั้งวายทั้งนอร์มอลปะ เกี่ยวเหี้ยอะไรกับเรื่องผู้ชายมันจะท้องได้หรือท้องไม่ได้วะ

881 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>878 มึง กุงงอย่างนึง เราจะแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการฉอดmpregเหรอวะ แบบนิยายคือสิ่งสะท้อนคุณค่าของสังคม ทำไมแทนที่เราจะฉอดว่าสังคมนี้มันยกheteroและการมีครอบครัวเป็นใหญ่ ฉอดให้ส่งเสริมการอดอปลูก ส่งเสริมกฎหมายคู่สมรสlgbt แต่แทนที่เราจะสนับสนุนเรื่องนั้นดันหันมาตีmpregแทน สรุปสังคมจะเปลี่ยนไปมั้ยวะ

882 Nameless Fanboi Posted ID:AkWFV4MAav

>>879 กูไม่ได้ดูว่ามันจะสนับสนุนอะไร แต่ในเม้นนั้นพูดถึงความคิดกู กูก็ตอบกลับไปตามที่คิด

883 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>882 ผิดๆกุหมายถึง >>873 มึงบอกเขาเซ้นซิทีฟแต่เขาเปนคนแรกๆที่มาดีเฟ้นท์ให้mpreg กุเลยงง

884 Nameless Fanboi Posted ID:pUl2x2xZKd

>>880 >>881 เนี่ย พวกมึงยังไม่เข้าใจกันเลยอ่ะว่านิยายมันส่งผลต่อความคิดของคนในสังคมได้

885 Nameless Fanboi Posted ID:AkWFV4MAav

>>883 กูไม่ได้ย้อนอ่านข้างบน แต่เห็นที่พิมพ์มามันเหมือนพวกโลกข้างนอกที่ชอบฉอด mpreg ประมาณว่าปลูกฝังค่านิยมพ่อแม่ลูก ทำให้คนเป็น lgbt อ่านแล้วรู้สึกไม่ดี
อยากมีครอบครัวแบบนั้นบ้าง อยากมีลูกจริงๆบ้าง กูเลยรู้สึกว่าทำไมอ่านแล้วเซนซิทีฟเองแล้วมาโทษนิยาย แค่นั้นแหละ

886 Nameless Fanboi Posted ID:.3oerpS3l0

>>884 กูว่ามันส่งผลเหมือนละคร ถ้าเกิดว่ามีการสอดแนวคิดบ้งๆ เข้าไปในเรียล แต่ไอ้เรื่องที่จั่วหัวแฟนตาซีอย่าง Mpreg อยู่แล้วมันรสนิยมเฉพาะกลุ่มมาก มีทั้งคนคิดว่าควรและไม่ควร มันไม่ได้เป็นสื่อแมสที่ฉายแบบสาธารณะด้วยซ้ำ กูคิดว่ามันไม่ได้ส่งผลต่อสังคมขนาดนั้นถ้าไม่มีใครลากมันออกไปทำซีรีส์วงกว้างอะนะ

887 Nameless Fanboi Posted ID:.Yt8sIS.wl

>>885 ตลกละป้ะ หาอ่านเอง รู้สึกแย่เองแล้วบอกว่านิยายไม่ดี
>>884 ไม่ได้ไม่เข้าใจนะ ไม่เห็นด้วย นิยายโคตรจะเฉพาะกลุ่ม

888 Nameless Fanboi Posted ID:ofdc.k3xQ8

>>884 กูไม่เข้าใจมากกว่าว่ามึงเอาอะไรมาวัดว่าอะไรทำให้คนคิดยังไง แล้วการที่พวกที่ฉอดเรื่องนี้ชอบบอกว่าไม่ได้อยากเบลมคนที่อ่านแนวนี้แต่อยากให้รู้เท่าทัน อยากให้ตระหนักถึงปัญหา อย่าหลงติดกับ ต้องคิดได้ แยกแยะได้ สรุปพวกมึงก็แค่ทำตัวเองเป็นไม้บรรทัดวัดความคิดคนอื่นอยู่ดีน่ะแหละ เพราะมึงบอกกันว่าอยากให้การมีลูกในแต่ละแบบเท่าเทียมกันไม่ใช่ให้ค่ากับแค่การยึดติดใน dna ทุกคนควรมีอิสระในการเลือกว่าจะมีหรือไม่มีลูก แต่พวกมึงเองก็กำลังตีกรอบว่า คนที่ยึดติดเรื่องสายเลือดเรื่อง dna น่ะผิด ทั้งที่มึงอยากให้มันฟรีแต่พยายามพูดให้คนอื่นคิดเหมือนมึงว่าการยึดติดกับสายเลือดมันผิดเนี่ยนะ ไหนล่ะฟรี ไหนล่ะอิสระ การที่เขาจะอยากมีลูกเพราะอะไร มีลูกเพราะวิธีไหน มีแล้วได้อะไรรู้สึกยังไง มันควรเป็นเรื่องของเขาปะ แต่การมีลูกแล้วต้องรับผิดชอบมีลูกแล้วต้องได้รักกันมีลูกแล้วครอบครัวจะมีความสุขตะหากที่พวกมึงควรยกมาเบลมว่าแนวคิดนี้ไม่โอเค ไม่ใช่มานั่งจับเจ่าว่าการที่ผู้ชายมีลูกได้ = ส่งเสริมครอบครัวสมบูรณ์ = เป็นแนวคิดที่ผิด(ในความคิดพวกมึง) ทั้งที่จริงๆมึงควรให้อิสระในตัวบุคคลเลือกปะว่าเขาจะมีลูกเพราะอะไร มึงบอกว่ามันเป็นความคิดที่จำกัดกรอบแต่มึงดันยกประเด็นนี้มาฉอดด้วยการจำกัดกรอบความคิดคนอื่นอีกต่อนึงเนี่ยนะ

889 Nameless Fanboi Posted ID:EC6AVcbzdL

สายฉอดพอเถิด สาววายตั้ง strawman เก่งอะ พูดเรื่องนึงเถียงกลับด้วยอีกเรื่อง เถียงกันแบบนี้ไม่มีวันจบหรอก แยกย้ายๆ

890 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>884 เอิ่บ media effected ไง กุเก็ทนะ แต่มันเปนวงกลมนะถ้ามึงลองไปหาอ่านจริงๆ นิยายสะท้อนค่าสังคม แล้วก็ผลิตซ้ำวนลูป แต่คือต่อให้นิยายทั้งหมดแก้แล้ว มายด์เซ็ทพวกนี้ใช่ว่าจะหมดไป ถ้ามึงได้มองภาพรวมจริงๆจะพบว่าคนอ่านนิยายคือส่วนน้อยของสังคม มีเดียที่เชปสังคมอย่างจริงจังคือละคร/โฆษณา ต่างหาก

891 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>889 กุก็ว่าสายฉอดยึดความคิดตัวเองเปนหลัก ทั้งที่เรื่องมันdebatable เถียงไปก็ไม่จบ self-centeredเก่ง แหะๆ

892 Nameless Fanboi Posted ID:FQ1kDRcyiO

ในขณะที่ฉอดmpregกันเมามันส์ คั่นกูก้ทำซีรีส์สเปต่อ ไหนใครสน เงินสะอย่าง ถถถถ

893 Nameless Fanboi Posted ID:ofdc.k3xQ8

คนฉอดคนนั้นก็ตลกดีนะ ถามคนอื่นว่าตัวเองแค่เสนอความเห็นส่วนตัว คนอื่นไม่ควรมองเป็นเรื่องใหญ่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินจนคนต้องมาสนใจมากมาย แล้วไม่คิดบ้างล่ะว่าตัวเองมองว่าปัญหา Mpreg เป็นเรื่องใหญ่จนขับเคลื่อนความคิดคนในสังคมได้ ไอ้คำพูดจำพวก จะแหวะกับmpreg มันดูกดข่มรสนิยมความชอบของคนอื่นมากไป แถมแนวคิดที่ฉอดออกมามันก็เป็นเรื่องใหญ่พอสำหรับคนอื่นได้เหมือนกัน เป็นพวกโลกหมุนรอบตัวเองหรือยังไงถึงได้มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากตัวเองกับความคิดของตัวเอง

894 Nameless Fanboi Posted ID:Fa6RxyYw4t

>>884 กูงง ถ้ากูไม่สนไม่เข้าใจผิดเหรอ อย่าทำตัววัดคนอื่นดิวะ รสนิยมมึงไม่ใช่ไม้บรรทัดโลกนะ มารู้เท่าทันห่าหอยอะไรวะ ขนาดละครตบกันโคมๆ แย่งผัวเมียยังไม่เลิกสร้างเลย คนจะคิดจะอ่านอะไรมันอยู่ที่คนวะ ไม่จำเป็นต้องแบบฉันคือคนรสนิยมดีรับผิดชอบสังคม พูดเหยียดหรือวัดคนอื่นป่ะ โลกไม่ได้หมุนรอบความคิดพวกมึงนะ

895 Nameless Fanboi Posted ID:IBWv47JZe2

>>892 เกี่ยวไรวะ งง

896 Nameless Fanboi Posted ID:0Dtjfh+GBi

มันก็ self-centered กันทั้งสองฝ่ายมั้ยอะ 55555555555555

897 Nameless Fanboi Posted ID:5oi.37Zp/k

กูขำยัยฉอดสมาทานข้างบนตรงถ้าไปดูในทวิตอันอื่นนาง สั่งสอนให้คนอื่นรู้เท่าทัน แต่บอกรสนิยมตัวเองชอบยันเดเระ แต่ฉันรู้เท่าทันค่ะว่ามันคือความรุนแรง กูปวดกบาลเลย

898 Nameless Fanboi Posted ID:nucIwQFSAm

>>894 ประเด็นที่884อยากสื่อน่าจะพูดถึงsoft powerของนิยายพวกนี้ที่shapeความคิดคนมากกว่าว่าการมีลูกคือครอบครัวที่สมบูรณ์ ทำฝก้คนทั่วไปคิดงี้ ทั้งๆที่ครอบครัวไม่จำเป็นต้องมีลูกก็มีความสุขได้ เป็นสิทธิ์ของคู่ผัวเมียที่จะเลือก ไม่ใช่มีไรมาshapeความคิดงี้

แต่ความเห็นกูเห็นเหมือนหลายคนในนี้นะ แต่งmpregไม่ได้ผิดกฎหมายเหมือนพวกแต่งpedo คนอ่านก็ต้องแยกแยะให้ได้ ไม่โดนshapeความคิด ละเอาจริงอีพวกนักฉอดนิยายฉอดทุกปัญหาสาระเลย เอาจริงบางเรื่องมึงปล่อยๆผ่านกันบ้างเหอะ ถ้ามันไม่ได้เลวร้ายผิดกฎหมาย ก็ปล่อยๆให้มีบ้าง mpregนี่ก็1ในรสนิยมนักอ่าน กูก็ชอบมาก ในชีวิตจริงกูยังไม่เห็นอยากมีลูกเลย แค่อ่านแล้วมันฟลัฟฟี่ใจดี พวกแยกโลกนิยายกับโลกแห่งความจริงไม่ออกมากๆก็ควรหาหมอ ไม่ใช่หน้าที่คนแต่งที่โดนจำกัดไม่ให้แต่งนู่นนี่นั่นอยู่ได้ นักเขียนนักอ่านไม่ได้มีหน้าที่หลักในการรับผิดชอบสังคม ไม่ได้เขียนหรืออ่านเพื่อวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมายโดยตรงในการทำให้สังคมพัฒนาขึ้นจ้า(แต่ทางอ้อมก็ใช่แหละ ฉะนั้นเวลาแต่งหรืออ่านไรก็มีวิจารณญาณกันด้วย)​

899 Nameless Fanboi Posted ID:srm7llaK/T

>>884 ถ้ามึงคิดแบบนี้มึงสมควรไปอยู่ในสังคมสังคมนิยม ปิดกั้นทุกสิ่งที่ไม่สมควรในสายตาผู้นำ(ซึ่งวัดจากมาตรฐานและความเชื่อส่วนตัวท่านผู้นำ) ให้หมด
เรื่องนี้เถียงให้ตายก็ไม่จบ เพราะประเด็นนี้มันเป็นแนวคิด ความเชื่อ ไอ้ที่วัดก็ความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งส่วนมากพอมันฝังหัวแล้วมันก็จะเริ่มเอียงไปทางผูกพันบังคับอีกฝ่ายที่เห็นต่าง ว่ากูถูกมึงต้องตามกู ถ้าไม่ตามคือมึงชั่ว สุดท้ายก็ไม่มีใครดีกว่ากัน ถ้ายังไม่เข้าใจตรงนี้ก็เถียงให้ตายไม่จบว่ะ มึงควรเคารพความต่างในรสนิยมของบุคคล เคารพในวิจารณญาณของบุคคลบ้าง และหากสื่อนั่นอยู่ถูกที่มึงไม่ควรไปยุ่ง
ด้วยความดราม่าทั้งหลายนี่บางทีกูก็คิดว่าจับวายลงใต้ดินแบบแต่ก่อนเลยก็ดี ฉอดเพื่อสังคมกันนัก สมัยนี้ออนไลน์รุ่งเรืองแล้วต่อให้ลงใต้ดินกูก็คงไม่มีปัญหาอะไร

900 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>896 เห้ย กุ891นะ เอาจิงก็เริ่มเห็นด้วย งั้นกุขอเคลมตัวเองว่าไม่self-centered ละกัน เอาเปนว่ากุก็ขอชอบmpregต่อแต่จะระวังเรื่องgender roleให้เยอะๆล่ะกัน แบบเรื่องยัดเยียดบทพ่อบทแม่งี้ แต่เรื่องท้องกุขอ ฮือ กุอยากเห็นลูกเขาออกมาวิ่งดุ๊กดิ๊กๆ

901 Nameless Fanboi Posted ID:R9w9CmD5j1

>>899 เนี่ย ตั้งหุ่นฟางเก่ง ยังไม่มีใครบอกเลยว่า mpreg ไม่ควรมี ก็ในเมื่อมันมีอยู่ คนก็เลยบอกว่ามันมีข้อเสียยังไง มันส่งผลกระทบยังไงบ้าง แค่นั้นเอง ใครชอบอ่านก็อ่านไป แต่มึงอ่านโดยเข้าใจความ toxic มันสักนิด มี awareness สักหน่อยก็ได้ ไม่ใช่สักแต่จะปกป้องว่ามันเป็นเรื่องแต่งๆๆๆ แยกโลกๆๆๆๆ

902 Nameless Fanboi Posted ID:eu+lZN7YfT

เออกูไม่เข้าใจว่าการวิจารณ์ว่าแนวไหนมันมีข้อเสียยังไงบ้างนี่คือไม่ได้เลยเหรอ เราไม่สามารถพูดถึงข้อเสียของมันได้เลยเหรอ แตะต้องไม่ได้เลยเหรอ กูว่าการพูดถึงข้อดีข้อเสียกันบ่อยๆมันก็ดีนะ มันทำให้คนเราเสพสื่อแบบมี critical thinking มากขึ้นอ่า ไม่ใช่สักแต่จะอ่านเอาฟินอย่างเดียว

903 Nameless Fanboi Posted ID:+ZYmj9hwRl

ตอนรับเดือนมิถุนาด้วยการดราม่า Mpreg หรอวะ 555555555

904 Nameless Fanboi Posted ID:h6fvQzO1v/

มันก้ได้ แต่พวกมึงจะไม่ยอมโดนด่ากลับเลยหรือไงวะถึงต้องมาโพสต์แนวๆว่าการที่ฉันโดนด่าเป็นเพราะคนอื่นไม่ยอมให้แตะต้องของฟิน มันก้แค่มึงวิจารณ์แล้วคนอื่นก็วิจารณ์มึงกลับ

905 Nameless Fanboi Posted ID:ofdc.k3xQ8

>>902 วิจารณ์กับฉอดมันมีเส้นกั้นบางๆนะ ถ้าวิจารณ์ด้วยหลักเหตุผล ชี้ปัญหาแต่ไม่ไปตัดสินว่ารสนิยมนั้นถูกหรือผิด กับวิจารณ์ด้วยการบอกว่า น่ารังเกียจ ท็อกซิก เห็นแล้วแหวะ อ่านไปได้ยังไง ถ่มถุยว่าอีกฝ่ายต้องเป็นพวกหัวอ่อนแยกแยะไม่ได้ คิดไม่ได้ ยกเหตุผลบ้งๆว่า อ้อ กูเรียนสายนี้กูเลยอ่านไม่ได้ไม่วิทย์ซะเลย

ถ้าต้นเรื่องมันวิจารณ์แบบแรกมันจะมีดราม่ามั้ยละ ถถถถถ

906 Nameless Fanboi Posted ID:eu+lZN7YfT

>>904 กูเฉยๆกับการโดนสวนกลับนะ (กูไม่ใช้คำว่าด่าละกัน เพราะกูไม่ได้รู้สึกว่ากูโดนด่า กูมองเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น) ที่พวกมึงสวนกลับกูในนี้ก็ทำให้กูได้เห็นมุมมองหลายๆอย่างดี กูมองว่ามันก็เป็นการ discuss อย่างนึงอ่ะ
>>905 กูว่าปัญหาคือเวลาสายฉอดกับสาววายเถียงกัน จะไม่ค่อยเถียงกันเป็นปัจเจกอะ คือสายฉอดมองว่าสาววายคิดแบบนี้ แล้วก็ฟาดๆๆเหมารวมสาววายทั้งหมด ส่วนสาววายก็มองว่าอีสายฉอดมันด่าแบบนี้ แล้วก็สวนกลับทั้งหมดนั่น ซึ่งจริงๆ ทั้งสองฝ่ายมันก็มีคนคิดหลากหลายแบบไง พอเถียงกลับแบบรวมๆ มันเลยกลายเป็นการทะเลาะกัน แทนที่จะคุยกันอย่างมีอารยะ

907 Nameless Fanboi Posted ID:nucIwQFSAm

>>905 ตอบ ไม่มี พวกที่ออกมาพูดออกมาฉอดส่วนใหญ่คือมีความรู้แน่น ภาษาอังกฤษเป๊ะ แต่ไม่มีศิลป์ในการพูดหรือในการเขียน ถ้าอยากให้ความรู้คนต้องไม่ใช่ขึ้นต้นมาด้วยคำแบบในเชิงลบ อันนี้พูดถึงทุกกรณี

908 Nameless Fanboi Posted ID:sEts.buNze

จะฝ่ายไหนก็มีคนสุดโต่งทั้งคู่ มันเลยเป็นสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นอะ 55555555
ในฐานะสาววายที่อ่าน mpreg ได้แต่ก็ตระหนักถึงความ toxic ของมันแล้วกูโพสิชั่นนิ่งตัวเองไม่ถูกเลย กูควรอยู่ตรงไหนในสงครามนี้

909 Nameless Fanboi Posted ID:ofdc.k3xQ8

>>906 คนเริ่มไม่มีอารยะจะถามหาอารยะจากไหนกันเล่า คนเราก็เหมือนกระจกน่ะแหละถ้าอยากรู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไงก็ดูว่าคนส่วนมากตอบกลับตัวเองยังไง

สายฉอดมักจะพูดจาใหญ่โตเปิดหัวข้อลงโซเชียลมันก็ต้องมีคนไม่เห็นด้วยตอบกลับปะ หรือหวังผลตอบรับแบบไหนล่ะ ทุกคนน้อมรับคำด่า ยกย่องเชิดชูว่าความคิดมึงช่างดีเลิศเหลือเกิน +1000 ก้มกราบ 99 สาธุ งี้เหรอ คนไม่เห็นด้วยประเด็นไหนเขาก็ตอบกลับประเด็นนั้นนั่นแหละ ถ้าคิดว่าความคิดตัวเองคือความคิดที่ถูกต้องคือเสียงส่วนใหญ่ที่ห่วงใยสังคมแต่พอมันไม่ใช่ตัวเองก็รับไม่ได้แล้วก็ต้องหาแพะรับบาปเช่น แค่นี้วิจารณ์ไม่ได้เหรอ ด่าเรื่องฟินๆของสาววายไม่ได้เลยนะ จะคิดมากทำไมแค่ความเห็นส่วนตัว ถ้าไม่อยากให้ใครตอบกลับก็แชทส่วนตัวในกลุ่มคนที่คิดเหมือนกันสิ มาโพสสาธารณะเพื่อ อยากอวดศักดาแต่กลัวคนข่ม คิดว่าโลกใบนี้ทุกคนโอบอ้อมอารียิ้มแย้มแจ่มใสหัวใจสุขสวัสดิ์กันรึไงวะ

910 Nameless Fanboi Posted ID:jZa1zfK5.D

Ky กูเห็นนักเขียนคนนึงที่นิยายกำลังจะออกซร. คือมีคนตินางว่าใช้ ละ ล่ะ ไม่ถูก นักเขียนฉอดกลับแบบนิ่มๆว่าอ่านฟรีแต่ในเว็บ ไม่ได้ซื้อเล่มหรืออีบุ๊ค ก็ต้องเจอคำผิดบ้าง นางเข้าใจ(ตรงนี้กูอ่านแล้วเหมือนนข.พูดประชด) ไปๆมาๆ คนติตอกหน้ากลับว่ากูซื้อเล่มค้าาาาาา กูไม่ได้อ่านฟรีแค่ในเว็บ อีดอก กุป้องปากขำ

911 Nameless Fanboi Posted ID:eu+lZN7YfT

>>909 กูคือคนที่ถามว่าวิจารณ์ไม่ได้เหรอ กูไม่ได้จะหาแพะรับบาปอะไรเลยนะ แค่สงสัยจริงๆว่าสรุปแล้วขอบเขตในการวิจารณ์มันอยู่ตรงไหน คนเราสามารถพูดถึงข้อเสียของนิยายวายได้มากน้อยแค่ไหนถึงจะไม่เป็นการฉอด แค่นี้เลย

912 Nameless Fanboi Posted ID:qn1uftxjH/

>>910 อยากใส่ใจเลย พอจะใบ้หน่อยได้มั้ยเพื่อนโม่ง

913 Nameless Fanboi Posted ID:gUzR+Lyhxj

กูเป็นสาววายที่สนุกกับการดูสาววายตีกับสายฉอดมาก 55555555 แล้วปีนี้ดราม่าสาววายเยอะสัส กูว่าพอคนหยิบยกหลายๆประเด็นมาตีกันเรื่อยๆมันก็ชวนให้เกิดมุมมองและความคิดใหม่ๆเหมือนกันนะ ทำให้เสพสื่อได้อย่างมีสติมากขึ้น

914 Nameless Fanboi Posted ID:jZa1zfK5.D

>>912 นักเขียนวายแนวระทึกขวัญอ่ะ

915 Nameless Fanboi Posted ID:.HtxM+B+v7

>>909 เอาจริงๆนะ การบอกว่าสายฉอดชอบใช้ภาษาอังกฤษแบบที่>>907 บอกยังเบี่ยงประเด็นมากกว่าเรื่องวิจารณ์ไม่ได้อีก มันก็เบี่ยงประเด็นกันทั้งคู่อ่ะ คืออะไรที่สายฉอดด่าสาววายมันก็เข้าตัว อะไรที่สาววายด่าสายฉอดก็เข้าตัวอีก ศีลเสมอกันแหละ

916 Nameless Fanboi Posted ID:keKkwhiTxB

>>910 กูเห็นๆ นางนักเขียนออกตัวแรงไปนะ อีโก้จัดๆ ไม่ถงไม่ถามอะไรเลย เปิดปุ๊บก็ใส่เลยว่าเค้าอ่านฟรี พอคนนั้นเค้าบอกเค้าซื้อเล่มก็เงิบ แถไปเนียนๆหงายการ์ดเข้าใจผิด แล้วบอกจะคุยกับสนพ.แทน แต่ไม่ขอโทษที่ไปหาว่าเค้าอ่านฟรีนะ 5555555555555

917 Nameless Fanboi Posted ID:jZa1zfK5.D

>>916 กูไม่ได้อะไรกับคำผิดคำถูกนะ แต่นางคือไม่ถามคนติเลยว่าอ่านจากไหนอะไรยังไง มาถึงฉอดเค้าว่าอ่านฟรีซะงั้น

918 Nameless Fanboi Posted ID:.Yt8sIS.wl

กูอยากให้นิยายวายเป็นแฟนตาซีให้หมด เลิกฉอด กูอ่านแฟนตาซี

919 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>914 ไม่คุ้นเรย

920 Nameless Fanboi Posted ID:jZa1zfK5.D

>>919 เล่นให้ได้เลือด

921 Nameless Fanboi Posted ID:NN4TE7Tz.f

>>915 กูไม่ได้พูดว่าชอบใช้อิ้ง... กูบอกว่าอังกฤษเป๊ะ=มีความรู้ หาข้อมูลได้หลายภาษาแบบมีความรู้หลากหลายอะ ใช้ภาษาอังกฤษบ่อยๆกูก็เป็นจ้า มันบางครั้งแสดงครสได้ง่ายกว่า

922 Nameless Fanboi Posted ID:L.T+T/mlHr

>>920 กุลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง55555555

923 Nameless Fanboi Posted ID:51JzPSuszu

>>920 อ้าว เรื่องนี้เหรอ กูซื้อเรื่องนี้มาอ่าน แรกๆก็สนุกนะ แต่พออ่านๆไปแล้วมันไม่ใช่ว่ะ อาจเป็นที่กูเองด้วยแหละ แบบสิ่งที่มันเล่นในเรื่องนี้ไม่ดีเลย กูว่ามันไม่ควรเอามาเล่นอะ จนกูต้องบอกว่าแบบนี้ก็ได้เหรอ จะเอาอย่างนี้จริงๆเหรอ ถ้าชีวิตจริงนี่แม่งฟ้องกันได้เลยนะเว้ย แต่กูคงมีปัญหาคนเดียวแหละ เพราะเขาก็เอาไปทำซีรีส์แล้วนี่นะ อีกอย่างก็เป็นแค่นิยายอย่าไปเอาความจริงอะไรมาก

924 Nameless Fanboi Posted ID:mxPbXeE4th

>>916 เห็นด้วยว่าด่วนสรุปว่าคนอ่านอ่านมาจากเว็บ แต่ ละ ล่ะ ที่คนอ่านเค้าถ่ายรูปมาคือใช้ถูกแล้วนะ

925 Nameless Fanboi Posted ID:Oq3ecgGw5S

>>924 กูเอ้ะกับที่นางไปว่สเค้าอ่านฟรีว่ะ สงสัยพอโดนติก็หัวร้อนเลย อีโก้ด้วนเลยไปว่าเค้าแบบนั้น

926 Nameless Fanboi Posted ID:IpiYJDWZt8

ดูจากความเปลี่ยนชื่อทวิตประชดประชันแบบเบาๆก็เหมือนจะอีโก้อยู่นะ 555555555

927 Nameless Fanboi Posted ID:cED.eaIL7.

>>921 แต่ถ้าคนอ่านไม่เก็ทอิ๊งกับมึง เขาจะบึนปากก็ไม่แปลกนะ

928 Nameless Fanboi Posted ID:msm1mVv3uZ

>>910 อ่านที่นางรีบไปทึกทักว่าเค้าอ่านฟรีก็แบบหืมมมม

929 Nameless Fanboi Posted ID:ovETquci2p

สายฉอดหลายคนใช้ภาษาอังกฤษเพื่อให้ดูมีสมองทั้งที่ข้างในกลวงโบ๋ ดูตัวอย่างจาก soft power ที่สนั่นดราม่าหลายสนามก็ได้ อิสัส ความหมายจริงคนละเรื่อง

930 Nameless Fanboi Posted ID:tn6clHQtVq

ตอนแรกกะจะตามอ่านในโม่งเฉย พอ >>926 ว่างี้กูถึงกับต้องไปค้นหาต้นตอ555 ไปสุดจริงๆ เสียนักอ่านไปหลายคนแน่ๆอ่ะทรงนี้

931 Nameless Fanboi Posted ID:cdFffX8Ixf

ถามในนี้ได้ปะวะ ปกติพวกมึงดองหนังสือกันมากสุดกี่เล่ม กูนับหนังสือในกองดองได้ร้อยกว่าเล่มแล้วอยากสำรวมกายใจงดซื้อนิยายสักปีนึง แต่มีเรื่องใหม่ๆออกมาทีไรอดใจไม่ได้ทุกที

932 Nameless Fanboi Posted ID:dndhUAoD81

>>931 ตอนนี้มีดองอยู่ 8 เล่ม ส่วนมากเป็นพวกอ่านไปบ้างแล้วไม่มีอารมณ์อยากอ่านต่อ

933 Nameless Fanboi Posted ID:9L4KQ0.9Mj

>>931 ถามในหิ้งน่าจะเหมาะกว่า
กูอ่านนสหลายแนว ดิดว่าดองเยอะเหมือนกัน ขกจำ 5555 บางอันยังไม่แกะซีลเลย

934 Nameless Fanboi Posted ID:18LiXifho6

>>931 ของกูดองไว้ประมาณ 50 เล่มนิดๆนี่กูว่ากูก็ดองเยอะละนะ 55555555

935 Nameless Fanboi Posted ID:dtT9V+oy5L

>>931 ไม่ได้นับว่ะ บางเรื่องดองจนขายทิ้งแบบไม่แกะซีลก็มี หลายเรื่องรอพรีออเดอร์กว่าจะได้มามันหมดอารมณ์อ่านแล้ว

936 Nameless Fanboi Posted ID:DCpa/nKt5D

>>931 กูไม่เคยนับจำนวนเล่ม แต่รวมๆแล้วหลายตู้อยู่

937 Nameless Fanboi Posted ID:r8Zpw.d+1f

>>910 น้องคนนั้นเค้าจบแล้ว แต่นักเขียนไม่จบว่ะเมืาอคืน เห็นแคปเค้ามาฉอดอีก

938 Nameless Fanboi Posted ID:UjqOtZqVbW

>>931 เกือบ 1 ชั้นหนังสือ กูไม่ได้นับว่ากี่เล่ม

939 Nameless Fanboi Posted ID:UjUIsK5bO1

>>931 นั่งนับมาสามปีแล้วยังนับไม่หมดเลย

940 Nameless Fanboi Posted ID:tx+98b2cxk

ขอบคุณ​โม่ง >>931 และเพื่อนโม่งที่ช่วยให้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย คิดว่าดองข้ามทศวรรษ​อยู่คนเดียว 555

941 Nameless Fanboi Posted ID:HgNQNliMbL

>>937 เหมือนน้องเค้าจบอะไรหมดแล้ว ไม่ฉอดต่อแบ้ว ขอโทษแล้ว เท่าที่กุตามเสือก แต่ฝัางนักเขียนคือไม่จบตามไปแคปเค้ามาฉอด แถมปักหมุดเด่นเลย สงสัยสติแตกไปแล้วแค้นแรงมาก นอกจากความอีโก้แล้ว วุฒิภาวะคือน้อยเหมือนกัน

942 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>941 เออ ไปส่องมาละ อย่างกับหมาบ้า อธิบายดีๆไม่ได้เหรอ แล้วลูกหาบของนางคือไรวะ ตลกจริงๆ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้รึไง สงสัยแค้นจัด

943 Nameless Fanboi Posted ID:8GCFtdy5UQ

>>941 ใช่คนที่มาแนะนำนิยายตัวเองในกลุ่มแล้วมีคนบอกว่าไม่ซื้อป่ะ ที่บอกว่าดูแต่ซีรีย์ไม่อ่านหนังสือแล้วนางแคปไปน้อยใจว่าน่าจะเอาเฟสนข.ไปขายแทนอ่ะ

944 Nameless Fanboi Posted ID:9zwAIDa4Qg

>>943 ใช่

945 Nameless Fanboi Posted ID:iKBy9EdoeW

>>931 นอนนี้กูเพิ่งนับไป เกินสองพันเล่มว่ะ คือกูอยู่หอ ห้องนอนมีสองห้อง ห้องนึงก็เก็บหนังสือกับของอื่นๆ กูซื้ออย่างเดียวเลย ไม่ได้อ่านเลย

946 Nameless Fanboi Posted ID:HgNQNliMbL

นางเป็นมาตั้งแต่ไปโควทน้องคนนั้นมาฉอดเรื่อง ละล่ะ แล้ว ไม่ใช่พูดดีๆนะ แต่คือไปกบ่าวหาว่าเค้าอ่านฟรีเลย ไม่ได้ซื้อเล่มหรืออีบุ๊คแล้วอ่ะ คือพูดกันดีๆไม่ได้หรอ ไม่ถามหน่อยหรอว่าอ่านมาจากไหน พอมีคนไปถามว่าน้องเค้าขอโทษแล้ว แล้วนักเขียนได้ขอโทษน้องเค้ามั้ยที่ไปกล่าวหาว่สเค้าอ่านฟรี สรุปคือนางเงียบไม่ตอบ อีโก้สูงเสียดฟ้า

947 Nameless Fanboi Posted ID:HgNQNliMbL

>>946 แล้วกูพิมอะไรของกูว่ะ นิ้วเยียดสัด เอาใหม่นะ

คือกุเห็นแต่เมื่อคืนละที่นางโควทที่น้องเค้าติมาฉอด แถมไปว่าเค้าไม่ได้ซื้อเล่มหรืออีบุ๊ค อ่านฟนีแต่ในเว็บจะเจอคำผิดก็เข้าใจ อิน้องคนนั้นตอกกลับว่าซื้อเล่ม จุดนี้กูอ่านแล้วขำก๊าก เงิบไปดิไปว่าเค้าอ่านฟรี เหมือนนางอีฌก้สูมากด้วยนะ แถมวุฒิภาวะต่ำมากด้วย พอน้องเค้าขอโทษนางไม่ฉอดนางต่อแล้ว แต่นางไม่จบนะ พอมีคนไปถามนางว่าน้องเค้าขอโทษแล้ว นักเขียนได้ขอโทษน้องเค้ามั้ยที่ไปตอกว่าเค้าเค้าอ่านฟรีทั้งๆที่ไม่ได้ถามอะไรกันเลย สรุปนางไม่ตอบ นางเงียบ นางไม่รู้ไม่ชี้ .. แล้วนักเขียนคนนี้กูสังเกตหลายทีแล้วชอบโควทคนที่พูดถึงนิยายนางมาตอบกึ่งแขวะๆหน่อย

948 Nameless Fanboi Posted ID:5pN7JYBc4N

แฮ่ม โปรดใบ้แอคนข.ให้กูหน่อย กูอยากรู้เรื่องด้วย 555 เพราะกูฟอลนข น้อยมาก มาทีตลาดวายแล้วตลอด

949 Nameless Fanboi Posted ID:Xqq+W0oWkn

>>947 ไม่ใช่แค่แคปเค้ามาฉอดอย่างเดียวนะ ต่ะกี้ไปส่องก็คือนางฟอลน้องเค้าไว้ด้วยว่ะ ถ้าไม่กลัวน้องมันล็อคแอคก็ไว้เสือกว่าตัวเองโดนแขวะอะไรบ้าง 55555555555

950 Nameless Fanboi Posted ID:Xqq+W0oWkn

>>948 เล่นให้ได้เลือดอ่ะ

951 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>949 หนักอ่ะ คนเจ้าข้างนางคือคิดอะไรอยู่ ไร้สาระฉิบหาย555555

952 Nameless Fanboi Posted ID:5pN7JYBc4N

โอเคกูไปอ่านมาล่ะ งงกับนข.นิดนึงและค่อนข้างมาก ไม่ยอมจบเนอะเหมือนเป็นเงาแค้น ลูกหาบก็พอกันเลย ไร้สาระเหมือนที่ >>951 ว่าจริง ทำเป็นซรแล้วขอให้ปังนะคะนข อีโก้สูงยิ่งกว่าเขาเอเวอร์เรสต์

953 Nameless Fanboi Posted ID:Xqq+W0oWkn

>>952 อีโก้แรงจริง ตัวนางก็ไม่ใช่ถูกนะ ตัวเองไปว่าน้องคนนั้นก่อนว่าอ่านฟรีทั้งที่เค้าก็อุดหนุนงานนาง แต่ไม่ขอโทษเค้านะ เงียบกริบ

954 Nameless Fanboi Posted ID:FAAMXOxgLt

กูงง อ่านฟรีในเว็บแล้วมันทำไม อ่านฟรีแล้วแปลว่าติไม่ได้เหรอ ตัวคนเขียนก็เป็นคนเอาลงเว็บเองด้วย ไม่ใช่ว่าคนอื่นก๊อปไปลง

955 Nameless Fanboi Posted ID:Xqq+W0oWkn

>>954 นางคงหมายถึงอ่านในเว็บไม่แปลกที่จะเจอคำผิดไร้งี้อ่ะ

956 Nameless Fanboi Posted ID:egeM6K.YR1

>>954 งานเว็บไม่มีบก.ไง ไม่มีพรูฟ ไม่ได้รีไรท์ด้วย คงหมายถึงแบบนั้น

957 Nameless Fanboi Posted ID:Xqq+W0oWkn

เมื่อเช้ากูไปเม้นนางบอกว่าน้องเค้าขอโทษแล้ว นักเขียนล่ะขอโทษน้องเค้ายังที่ไปด่วนสรุปว่สเค้าอ่านฟรี สรุปไม่ตอบกุเว้ย เห็นนางรีแต่โควทที่ลูกหาบนางแขวะน้องคนนั้น สมกันแล้ว ปสด

958 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>957 แล้วไม่รู้ตัวด้วยนะ เบลอเก่ง ทำเป็นฉอด ตลกฉิบเป๋ง ไม่คิดว่าจะเป็นคนนิสัยแบบนี้

959 Nameless Fanboi Posted ID:1AuVnHKW8n

กูเข้าไปเสือกมา น้องคนนั้นคือจบไปแล้ว ไม่ฉอดอะไรต่อแล้วนะ แต่ดูท่านางไม่จบนะ เป็นหมาบ้าเลย
https://imgur.com/a/gdo9AAC อันนี้คือล่าสุดของล่าสุด ถึงกับเอาเดมที่คุยกับน้องคนนั้นมาขึ้นปก กุว่าอีนี้ปสด 5555555

960 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>959 น่ากลัวอ่ะ เป็นไรมากปะ เรื่องแค่รี้คือคุยกันได้อ่ะ อีกอย่างนางไปกล่าวหาคนอื่นก่อนด้วยนะ อีโก้เยอะ และปากเสียฉิบหาย
ที่คนอ่านท้วงมาคือมันอธิบายได้อ่ะถ้าเค้าเข้าใจผิด เค้าซื้อเล่มมา งงกับนักเขียนคนนี้แ่ะเอาจริงๆ

พอเค้าดีเอ็มไปคุยก็ให้ออกมาคุยด้านนอก ลูกหาบรุมน่ะสิ ดูแต่ละคน ทำเฟียสกันมาก

แล้วนักเขียนที่เข้าไปให้กำลังใจคือแบบบ

961 Nameless Fanboi Posted ID:bnLCw9uhWv

ปัญหานี้จะไม่เกิด ถ้าน้องคนอ่านรู้แต่แรกว่าในเล่มใช้ ละ ล่ะ ถูกแล้ว อันนี้กูเข้าใจถูกไหมเนี่ย
ถ้ากูเข้าใจถูก กูว่านข.ตอบแบบอีโก้แรงไปหน่อย มั่นว่าในเล่มถูกต้องเลยคิดว่าอ่านฟรีมาแน่ ๆ
ส่วนน้องคนอ่านก็จะติติง แต่ดันอ่อนด้อยภาษาไทยไปหน่อย ไม่หาข้อมูลก่อนเริ่มเปิดฉากว่าคนอื่น
ถึงกูจะไม่ชอบการที่นข.ตอกกลับตอนแรกว่าอ่านฟรี แต่กูก็ไม่เข้าข้างน้องคนอ่าน คนที่เป็นฝ่ายเริ่มกล่าวหา เป็นฝ่ายเปิดเรื่อง เอาให้มั่นใจก่อนดีกว่าไหมว่าผิดค่อยพูด เพราะคนที่ผ่านมาอ่านเจอคำบ่นแบบผิด ๆ ของน้องคนอ่าน มันส่งผลเสียต่อคนเขียนจริง ๆ

962 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>961 ในเมื่อคนอ่านไม่รู้สามารถอธิบายได้นี่ มันสามารถคุยกันได้ ถ้าน้องเข้าใจผิดก็อธิบายสิ คนอ่านไม่รู้/ด้อยภาษามันผิดด้วยเหรอวะ ถ้าเข้าใจผิดก็อธิบายดิ ไม่ใช่เรื่องยาก
ยิ่งเป็นคนเขียนอ่ะ ยิ่งต้องไปแก้ความเข้าใจผิดนั้น ได้ เพราะน้องเขาแท็กชืีอนิยาย ก็ต้องการส่งฟีดแบ็กให้คนเขียนอยู่แล้ว พอคนอ่านมันรู้ว่าเข้าใจผิดก็ขอโทษนะ จะมีก็แต่นักเขียนที่ไม่ยอมลง ทั้งๆก็ไปกล่าวหาคนอื่นเหมือนกัน

963 Nameless Fanboi Posted ID:egeM6K.YR1

>>961 แยกแยะหน่อน คนปกติเขาจะตอบว่า ใช้ถูกแล้วค่ะ แล้วอธิบายไปว่ายังไง

964 Nameless Fanboi Posted ID:dvR1dLy0Xt

เคสนี้น้องคนอ่านเปิดมาแรงมาก ถ้าคนเขียนใจเย็นกว่านี้หน่อยจะได้บทนางเอกสวยๆเลยนะ รับรองใครๆก็เข้าข้าง แต่ดันไม่ทำ

965 Nameless Fanboi Posted ID:1AuVnHKW8n

>>961 ไม่รู้ ก่อนภาษาแต่มันก็ไม่น่าไปกล่าวหาเค้าแบบนั่นนะ อธิบายดีๆ ถามเค้าก่อนก็ได้นะว่าอ่านมาจากไหน ไม่ใช่ไปทึกทักว่าอีนี่อ่านฟรีมาแน่ๆถึงเจอคำผิด แต่อีนักเขียนคือได้ถามเขามั่ย ก็ไม่นะ เปิดมาฉอดเลยว่าเค้าอ่านฟรี พอเงิบคราวนี้ก็ค่อยมาหาพวก กุว่าไม่ใข่ทุกคนหรอกที่แตกฉานเรื่องภาษา ทุกวันนี้กุยังงงเลย

966 Nameless Fanboi Posted ID:7UQsZv1PwW

แต่กูก็ไม่เข้าใจนะ ละ ล่ะ กูเจอหลายสนพก็ใช้หลากหลาย สรุปใช้ยังไงวะ ละสิ ละก็ ละมั้ง แล้วละ

967 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

อันนี้กูว่านักอ่านปากเสียก่อน แทนที่จะบอกว่าเรื่องนี้ๆๆเจอคำผิดนะ สนพ.ช่วยเช็คด้วย นักเขียนไม่น่าเดือดขนาดนี้อ่ะ แต่นางเล่นใช้คำว่า "ทำเป็นหนังสือได้ไง อ่านแล้วโคตรหมดอารมณ์" แถมพอนักเขียนซัดกลับ นางยังมั่นใจอีกนะ "ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยอ่านนิยายเรื่องไหนมีคำผิดเป็นคำง่ายๆแบบนี้" อันนี้ถ้าเป็นคนที่เขาตั้งใจมาบอกด้วยความปรารถนาดี ตอนเจอนักเขียนโต้เขาน่าจะไปเช็คข้อมูลแล้วนะ ไม่ใช่ฉอดกลับด้วยความมั่นใจ ฉะนั้นในสายตากู กรณีนี้กูว่านักอ่านแม่งง้างมาเพื่อด่าว่ะ ถือว่าลูกค้าคือพระเจ้า กูจ่ายเงิน กูจะด่าอะไรก็ได้ไง

แล้วในฐานะคนเขียนอ่ะมึง ถ้าเขามั่นใจว่าก่อนงานออกเขาเช็คดีแล้ว มาเจอแบบนี้เขาจะขึ้นก็ไม่แปลกเลย มันเหมือนมาดิสเครดิตงานเขา ถ้ามีคนมาอ่านเจอทวิตเขาแล้วเชื่อจริงตามนั้นโดยไม่เช็ค แล้วก็ไม่ซื้อหนังสือเขา อันนี้เขาเสียหายนะ ชื่อเสียงสำนักพิมพ์ก็เสียหาย นักอ่านคนนั้นเสียอะไรบ้างล่ะ ไม่มี พิมพ์ด่าคนโดยไม่รับผิดชอบนี่มันง่ายจริงๆ

968 Nameless Fanboi Posted ID:5CIEJscCpP

>>966 บางที่ใช้ตามราชบัณฑิต ตามหลักราชบัณฑิตแล้วคำที่กร่อนเสียงจาก แหละ ต้องใช้ ละ ทั้งหมด แต่มันจะไม่ตรงกับการออกเสียงจริง บางที่ก็เลยใช้ตามการออกเสียง ส่วนตัวแล้วกูโอเคทั้งคู่ อย่าใช้ หละ หล่ะ มาแล้วกัน เวลาอ่านนิยายหรือฟิคบนเน็ตแล้วเจอ หละ หล่ะ กูปิดทิ้งทันทีจ้า

969 Nameless Fanboi Posted ID:sqzqjLzCKz

>>967 ในฐานะคนเขียนเจอแบบนี้ก็จะถามไปดีๆก่อนว่าตรงไหนผิด ถ้าเราไม่ผิดก็อธิบายไปว่าเราใช้แบบนี้เพราะอะไร ตัวหนังสือมันไม่มีเสียงและเคสแบบนี้ขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะทางอารมณ์ล้วนๆ เรื่องคำผิดอ่ะนางไม่ผิดจริงแต่ตอบโต้ได้แย่มาก

970 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>969 ถ้าตามเหตุผลก็ควรจะเป็นแบบนั้นแหละ แต่มนุษย์ไงมึง ไม่ได้มีเหตุผลทุกสถานการณ์ มึงต้องเข้าใจด้วยว่าการเขียนมาแรงขนาดเจาะจงตัวนักเขียนว่า "คนแต่งนิยาย .... เขียน ละ ล่ะ ไม่ถูก นี่งงมากกกก ทำเป็นหนังสือได้ไง อ่านแล้วโคตรหมดอารมณ์" ตรงคำว่า 'งงมากกกก' อ่ะมึง มันเท่ากับด่าเป็นนัยๆแหละว่านักเขียนโง่มาก กูถึงบอกว่ากรณีนี้นักอ่านปากเสียก่อนนะ การหวังให้นักเขียนมีเหตุผลและไปตอบดีๆคือความเป็นไปได้ที่ "ดีที่สุด" ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถ้านักเขียนปรี๊ดนี่ปกติคนเลยนะ ต้องถามก่อนว่าขว้างก้อนอิฐไปเนี่ย หวังจะได้รับอะไรเหรอ ถ้าเขาคุมอารมณ์ได้ เอาน้ำเย็นมาให้ นั่นโชคดีของมึงแล้ว จบเรื่องกันแบบไม่เสียหน้ามาก แต่ถ้าเขาขว้างหินตอบ มันควรสงสัยเหรอวะว่าทำไมเขาตอบโต้รุนแรง

971 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>969 อ้อ กูเห็นด้วยนะว่าตอบโต้ไปแบบนี้ไม่เป็นผลดีอะไรกับนักเขียนเลย แต่นั่นแหละ กูยังยืนยันว่านักอ่านปากเสียก่อน

972 Nameless Fanboi Posted ID:9zwAIDa4Qg

นข.แก๊งนี้ชอบยึดหลักที่ว่า เค้าปาก้อนหินมา แล้วจะยื่นดอกไม้ให้เค้ารึไง ด่ามาด่ากลับไม่โกง

973 Nameless Fanboi Posted ID:1AuVnHKW8n

>>971 นอกจากนักอ่านปากเสียก่อนแล้ว นักเขียนก็วุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำมากด้วย อีโก้สูงกว่ายอดเมรุ ไปทึกทักด่วนสรุปว่าเค้าอ่านฟรีอีก คือใครมาติเรื่องภาษานี่คืออ่านฟรีหมดเลยหรอ ฝั่งโน้นจบกันหมดแล้วก็มีแต่นักเขียนที่ยังจิกกัดดิ้นพล่านไม่หยุด นักเขียนก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนที่นางกำลังฉอดอยู่หรอก

974 Nameless Fanboi Posted ID:1VUbIneD+W

ในหลักการแล้วคนขายคือผู้ให้บริการ คนซื้อคือลูกค้า ของบกพร่องลูกค้าย่อมมีสิทธิ์คอมเพลน เวลามีของบกพร่องไม่แปลกที่คนซื้อจะอารมณ์เสีย

แต่ที่น่าแปลกคือคนขายโกรธ กูไม่รู้ว่าเพราะวงการนักเขียนติสท์แตกหรือคนเขียนคนนี้มีปัญหาเรื่อง anger management กันแน่ แต่สำหรับกูแล้วไม่ว่าคนอ่านจะอ่านฟรีหรือเสียเงินซื้อ (ยกเว้นในกรณีอ่านสแกนเถื่อน) การที่คนเขียนปรี๊ดแตกและต่อไม่เลิก กูคิดว่ามีแต่เสียกับเสีย

กรณีด่ามาด่ากลับไม่โกงนั้นกูบอกได้เลยว่าคนที่มีแนวคิดแบบนี้มีปัญหาเรื่องวุฒิภาวะทางอารมณ์มาก มันไม่ทำให้เขาดูเฟียซเลย กูคิดว่าน่าสมเพชมากกว่า

975 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>973 ดีกว่าไม่ดีกว่ากูไม่รู้นะ ที่กูรู้คือการด่าตัวผลงานผิดๆโดยที่ตัวเองไม่ได้มีความรู้เนี่ย มันสร้างความเสียหายให้เจ้าของงานได้ ฉะนั้นควรรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย ถ้านักอ่านรู้ตัวแล้ว่าผิด ก็ควรขอโทษเป็นเรื่องเป็นราวในทวิตนั้นปะวะ ไม่ใช่ขอโทษแบบขอไปทีในข้อความส่วนตัว ถ้านักอ่านคนนั้นเขาขอโทษดีๆเป็นกิจจะลักษณะแล้ว แต่นักเขียนยังไม่เลิกจิกสิ เออ อันนั้นควรด่านักเขียน แต่ตอนนี้ที่กูเห็นคือคนด่าแต่นักเขียนไง เหมือนลืมไปเลยว่าคนเปิดก่อนน่ะนักอ่าน ต่อให้นักเขียนเขาจะอีโก้สูงเท่าเอเวอเรสต์หรือทะลุไปถึงดาวอังคาร เขาก็ไม่ใช่คนหาเรื่องอ่ะ

976 Nameless Fanboi Posted ID:7zYw0GtcVi

>>975 เสียหายขนาดไหนไม่รู้ จะที่เสียหายน้อยๆ ฉอดกันให้จบแค่นั้น ตอนนี้ก็คงจะกลายเยอะไปแล้วล่ะ ดูจากพฤติกรรมของนักเขียนที่จิกไม่หยุด ขอโทษหน้าขอโทษหลังยังไงก็ขอโทษแล้ว เค้าคงมั้งคิดว่ารับไม่รับก็เรื่องของนักเขียนแล้ว และเค้าไม่คิดจะฉอดต่อ ตอนแรกเห็นตรงนี้ก็เข้าใจว่าฝั่งโน้นขอโทษแล้วไม่จบไง เลยเข้าไปเสือกดูก็เห็นไม่ได้มาฉอดอะไรต่อ ก็เลยอ๋อ ฝั่งที่ไม่จบคือนักเขียน

ปล. พูดถึงคำว่า ละ ล่ะ ทุกวันนี้กุก็ใช้ไม่ถูกว่ะ รู้สึกมันไม่ตรงกับออกเสียงยังไงไม่รู้

977 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>975 นักอ่านไม่น่าจะหาเรื่องนะ อาจด้วยอารมณ์หงุดหงิดคิดว่าเจอคำผิด กรณีนี้ใช้คำพูดไม่ดีแต่ถือว่าซื้อหนังสือมามีสิทธิ์คอมแพลนไหม ถ้าคนอ่านเจ้าในผิดก็อธิบาย
เรื่องเสียเครดิตอะไรนั่น มันจะจบตั้งแต่คนเขียนมาอธิบายว่าไม่ได้ใช้คำผิด

978 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>974 ไม่ๆๆ อันนี้กูว่าไม่ถูก คือครึ่งล่างน่ะถูกแล้ว คนขาย "ควร" ควบคุมความโกรธและมี crisis management ที่ดี กูไม่เถียงข้อนี้เลย แต่ถ้าบอกว่าคนซื้อมีสิทธิ์คอมเพลน เขาก็มีสิทธิ์แค่คอมเพลนตามความเป็นจริงนะ ไม่ใช่ด่าผิดๆด้วยความเข้าใจผิดของตัวเอง ทำลายชื่อเสียงคนอื่น ถึงแม้คนอื่นที่ว่าจะเป็นคนที่มึงหมั่นไส้ก็ตาม แต่ก็ถือว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

979 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>976 ในภาษาเขียนใช้ละ ภาษาปากใช้หล่ะ ปะ หรือยังไง เหมือน อะ อ่ะ ไหม

980 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>976 มีขอโทษเป็นทางการเหรอ กูไม่เห็น กูเห็นแค่ในแคปแชทที่นักเขียนลง ถ้าเขาขอโทษหน้าทวิตเรียบร้อย แก้ความเข้าใจผิดที่เขาเป็นคนสร้างแล้ว อย่างนั้นกูต้องขอโทษด้วยจริงๆ กูนึกว่าเขาตีเบลอ ขอโทษนะ

981 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>978 อ่ะ จบๆไป คนอ่านผิดที่ไปกล่าวหาคนเขียน ไปหาหมิ่นประมาณอะไรก็ว่าไป คนเขียนผิดกล่าวหาคนอื่นว่าอ่านฟรี ๆ คนละดอกไป
ต่อมาเรื่องไม่จบ นักเขียนปากเสีย ปสด ไม่หยุด

กูเห็นที่นางแคปที่ไปโปรโมทนิยายในกลุ่มแล้วคนไม่ซื้อ ก็คือไม่อยากอะไรกับตรรกะของนาง
นางนอยและฟาดไปทั่ว ให้คนมาปลอบใจ ตลกมาก

982 Nameless Fanboi Posted ID:9zwAIDa4Qg

>>980 เด็กนั้นขอโทษในแชท นข.ก็เงาแค้นสัส ไม่รับคำขอโทษ กูก็อยากให้มันขอโทษผ่านทล.เหมือนกัน กูจะดูว่านข.อีโก้สูงๆแบบมันจะขอโทษที่มันไปดูถูกคนอ่านไหม แต่กูดูแล้วว่าไม่มีทาง จากที่มันแคปแชทเด็กนั้นมาฉอดกับลูกหาบมัน

983 Nameless Fanboi Posted ID:7zYw0GtcVi

ลูกหาบบางคนก็นะ เห็นพฤติกรรมหัวร้อนของนักเขียน เห็นเค้าแสดงด้านที่แย่ออกมาก็ไม่ตักไม่เตือนกันเลย แต่ยิ่งไปผสมโรงอวยกันไปมา ทำดีแล้วนั่นนี่ ชอบเอเนอจี้นี้จังบลาๆ ไม่มีใครใช้เหตุและผลเค้าพูดเลย นักเขียนก็รีแต่อันที่ตัวเองอ่านแล้วสะใจมากกว่าอะไรที่เป็นข้ออธิบายดีๆ(หรือกุุไม่เห็นเอง?) ทำไมคนนอกแบบกุเห็นแบบนี้แล้ว กุยิ่งมองนักเขียนดูแย่ลงอ่ะ

984 Nameless Fanboi Posted ID:1A2AHsySyd

>>981 กลุ่นไหนอ่ะ กุเห็นที่นางแคปคนนั้นมาอยู่ แต่อ่านแค่ผ่านๆ ไม่นึกว่าจะปสดขนาดนี้

985 Nameless Fanboi Posted ID:7zYw0GtcVi

>>982 นางคงอยากได้แค่ให้เด็กมันมาขอโทษหน้าทล.นั่นแหละ ส่วนความผิดตัวเองที่ไปดูถูกก็คือปล่อยเบลอเหมือนกันเชื่อเถอะ ดูจากที่คนไปท้วงถึงที่นางดูถูกน้องคนนั้นว่าอ่านฟรีแล้วนางไม่ตอบนะ ปล่อยเบลอ ตอบแต่คนที่ด่าเด็กคนนั้น อีโก้มันค้างอยู่ปลายยอดเมรุอะมึง เอาลงมาไม่ได้หรอก เสียฟอร์มตายห่า

986 Nameless Fanboi Posted ID:Qn+w2fjDgA

แต่ ละ-ล่ะ แม่งเป็นไวยากรณ์ที่น่าสับสนจริงนะ กร่อนเสียงมาอย่างนึง เขียนอย่างนึง ออกเสียงอย่างนึง มันไม่ได้เข้าใจง่ายเหมือน คะ-ค่ะ, นะ-น่ะ

987 Nameless Fanboi Posted ID:X5ym/okTfB

>>967 +1 ปาก้อนหินมาจะให้เขายื่นดอกไม้กลับเรอะ

988 Nameless Fanboi Posted ID:P87vDF4Q.s

>>987 งั้นก็ปากลับต่อไป เดี๋ยวมันก็กระเด็นกระดอนเข้าหน้าตัวเองนั่นแหละ

989 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>988 ปาก้อนหินตอบหัวแตกทั้งคู่ แต่ถ้ายื่นดอกไม้กลับ ตัวเองหัวแตกคนเดียวนะ อีกฝ่ายแค่เสียหน้านิดหน่อย กูว่านักเขียนคงคิดแบบนี้
>>982 เอ้า ถ้างั้นกูไม่ขอโทษละ กูก็นึกว่านางขอโทษดีๆ ขอโทษขอไปทีแบบนั้นใครมันจะให้อภัย ถ้านักอ่านขอโทษดีๆแล้วนักเขียนยังฟาดงวงฟาดงา กูก็จะร่วมนินทานักเขียนอยู่หรอก

990 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>985 ขอแสดงความเห็นจากใจจริงเลยนะ ถ้ากูทำงานแล้วกูมั่นใจว่ากูเช็คคำมาดีแล้ว โดยเฉพาะคำนี้ แล้วมีคนมาด่าแรงๆแบบนั้น กูก็มั่นใจเหมือนกันว่าเขาอ่านฟรีมาว่ะ อันนี้คือสติปัญญาของนักอ่านอ่อนด้อยจนทำให้นข.เขาคิดว่าอ่านฟรีเองไม่ใช่เรอะ จะแย้งทั้งทีไม่หาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เสือกไปเชื่อเพื่อนอ่ะ นึกว่าเพื่อนเก่งไง นี่ไม่ได้เห็นด้วยที่นักเขียนไปดูถูกเขานะ คิดเหมือนกันว่าควรถามก่อน แต่พฤติกรรมนักอ่านเองนั่นแหละ ทำกูสงสารไม่ลง แล้วอย่าอ้างเลยว่าเด็ก ต่อให้เด็กก็ต้องมีความรับผิดชอบ เด็กสามขวบยังอ่านหนังสือไม่คล่องยังรู้จักขอโทษดีๆเลย นี่กี่ขวบแล้วล่ะ ด่าก่อน เปิดก่อน ไหนคำขอโทษอย่างจริงใจล่ะฮึ

991 Nameless Fanboi Posted ID:lGNZgEhlZf

>>989 ปาดอกไม้กลับอย่างน้อยๆ ในโม่งก็ไม่ด่านาง แถมอาจจะได้ดอกไม้เพิ่มอีกหลายดอก ตอนนี้นอกจากหินของนักอ่านคนนั้นยังได้หินในโม่งหรือหินในใจของคนอื่นนอกจากลูกหาบนางด้วย วุฒิภาวะทางอารมณ์มันสำคัญนะมึง

992 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>991 กูเห็นด้วยกับมึง แต่อย่างที่บอกไปอ่ะ มนุษย์ไงมึง มนุษย์ไม่ได้มีเหตุผลตลอดเวลา เขาโกรธ เขาคุมไม่อยู่ เขาก็ด่าตอบ คือกูยังไม่เห็นความผิดอะไรของเขานอกจากสติแตกแดกดันคนที่มาด่าเขา แต่ที่กูเห็นเต็มๆตาน่ะ ความผิดนักอ่านที่ฉอดโดยไม่หาข้อมูลก่อน อ่านหนังสือเป็น หาข้อมูลก่อนด่าคนอื่นแค่นี้น่าจะทำได้นะ และถ้ารู้ตัวว่ากล่าวหาคนอื่นผิดๆ ก็ควรจะขอโทษที่ใต้ทวิตนั้นเลย ไม่ใช่ให้คู่กรณีเอาคำขอโทษหลังไมค์มาลงประจาน

993 Nameless Fanboi Posted ID:C0vV6aCul9

นักเขียนแค่อยากให้คนนั้นออกมาขอโทษหน้าทล. แต่ถ้าคนนั้นมาขอโทษหน้าทล.แล้ว ถามว่านักเขียนจะขอโทษกลับมั้ยกับสิ่งที่ตัวเองเข้าใจผิดแล้วไปฉอดใส่เค้าว่าอ่านฟรีน่ะ กูว่าไม่ อีโก้ขนสดนั้นก็คงหน้าสูงต่อไป ผิดของคนอื่นเท่าภูเขา แต่ผิดของตัวเองเท่าขนหมอย เออก็สมกันแล้ว นักเขียนปสดกับนักอ่านปากเสีย 5555555555

994 Nameless Fanboi Posted ID:7zYw0GtcVi

>>990 กู 985 ก็ถึงได้บอกไงว่าสมกันแล้ว ไม่ได้ต่างกันเลย แต่มึง..เรื่องภาษาอ่ะกูคนนึงนะที่ไม่ค่อยแตกฉาน ตรงจุดนี้กูว่าไม่ใช่แค่คนนั้นคนเดียวหรอกที่ไม่รู้เรื่องนี้ กูคนนึงอ่ะที่เพิ่งรู้ว่ามันใช้ยังไง เพราะปกติก็มองข้ามตลอด

995 Nameless Fanboi Posted ID:lGNZgEhlZf

>>992 เท่าที่กูจำได้มนุษย์มันต้องมีเหตุผลควบคุมสติได้ถึงจะเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรอ ถ้าขาดสติก็เป็นได้แค่เดรัจฉานมั้ยอ่ะ(ไม่ได้ด่านข.นะ แต่หมายถึงเท่าที่เรียนๆมาอ่ะ)
ส่วนเรื่องขอโทษถ้ายกตัวอย่างนะ นอ.ขอโทษหลังไมค์แล้วนข.ทวิตแค่ว่านอ.ขอโทษแล้วเรื่องคราวนี้ถือว่าเข้าใจกันเป็นอันดี แค่นี้ก็จบละ ลงสวยๆ ได้ดอกไม้เพิ่มต่อไป

996 Nameless Fanboi Posted ID:tySqcmegEJ

>>994 สารภาพ กูก็ข้าม ด๋อยภาษาเหมือนกันแหละมึง ก่อนหน้านี้กูใช้ "ล่ะ" ตามเสียงอ่านตลอด จนไม่นานมานี้ถึงเพิ่งรู้ตัวว่าใช้ผิด ก่อนดราม่านี่แค่ไม่กี่สัปดาห์หรอก แต่ถ้ากูจะด่าใครแรงขนาดนี้ กูจะเช็คค่ะ กลัวโดนสวนเหมือนกัน

997 Nameless Fanboi Posted ID:Tbkda5ZQ1c

>>986 ถามเป็นความรู้นะ คำว่า ล่ะ เนี่ยจริงๆออกเสียงยังไง จะออกเสียง "หละ" หรือออกเสียงที่สูงกว่านั้น เหมือนคำว่า ค่ะ ที่ไม่ได้ออกเสียงว่า "ขะ" แต่ออกเสียงคล้ายๆ คำว่า "ค่า" ที่เป็นเสียงสั้น

998 Nameless Fanboi Posted ID:C0vV6aCul9

>>995 แต่ฝั่งนักเขียนไม่จบนี่สิ เงาแค้นมากไม่จบไม่สิ้น แต่ฝั่งคนทิ้งบอมคือสบายแล้ว 55555555555555

999 Nameless Fanboi Posted ID:z/OVz3Q9/A

แต่นิยายที่เอามาทำภาพยนตร์นี่นานจนลืมไปเลย เห็นบวงสรวงตั้งแต่มกราคม ตอนนี้นางบอกกำลังปรับบทอยู่เลย กูเข้าใจมาตลอดว่าบวงสรวงก็คือพร้อมถ่ายทำอ่ะ(ว่าแต่กุเรียกบวงสรวงถูกมั้ย?)

1000 Nameless Fanboi Posted ID:z/OVz3Q9/A

อ้าว หมดพอดี

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.